Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาไทยวรรณคดีและวรรณกรรม ม.2 หน่วย4_บทละครเรื่อง รามเกียรติ์

ภาษาไทยวรรณคดีและวรรณกรรม ม.2 หน่วย4_บทละครเรื่อง รามเกียรติ์

Published by Nan Onpreeya Sungwantong, 2022-09-15 01:39:01

Description: ภาษาไทยวรรณคดีและวรรณกรรม ม.2 หน่วย4_บทละครเรื่อง รามเกียรติ์

Search

Read the Text Version

ภาษาไทย (วรรณคดีและวรรณกรรม) ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒ กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ๔หน่วยการเรียนรทู้ ่ี

๔หน่วยการเรียนรทู้ ่ี บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ตวั ช้ีวดั • สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น • วิเคราะหว์ รรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น พรอ้ มยกเหตุผลประกอบ • อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น • สรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากการอา่ นเพ่ือประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง • ทอ่ งจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทรอ้ ยกรองท่ีมีคุณคา่ ตามความสนใจ

ฉนั ชอบพระรามท่ีสดุ แต่ฉนั ชอบทศกณั ฐม์ ากกว่า ในเรื่องรามเกียรต์ิเลย มีตง้ั ๑๐ เศียร ๒๐ กร เชียวนะ ว่าแต่...ทาไมทศกณั ฐ์ ถึงมีตงั้ ๑๐ เศียร ๒๐ กรนะ

ความสาคญั ของวรรณคดี ความเป็ นมาของบทละครเร่ือง รามเกียรต์ิ ๑ ๒ ๓ มหากาพยร์ ามายณะของอินเดีย วรรณคดีของชาติถูกเผาทาลาย พระเจา้ ตากสินมหาราชทรงกอบกู้ เผยแพร่เขา้ มาในสยาม ในเหตุการณเ์ สียกรุงศรีอยุธยา เอกราชและทรงพระราชนิพนธ์ ครง้ั ท่ี ๒ รามเกียรต์ิ ๔ ตอน

ความสาคญั ของวรรณคดี ความเป็ นมาของบทละครเรื่อง รามเกียรต์ิ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระบรม ๔ วงศานุวงศแ์ ละขา้ ราชบริพารชว่ ยกนั แตง่ บทละครเร่ื องรามเกียรต์ิ สว่ นพระองค์ ทรงมีพระบรมราชานุเคราะห์ในการตรวจแกไ้ ขและทรงพระราชนิ พนธ์ดว้ ย พระองคเ์ องบางตอน บทละคร เร่ือง รามเกียรติ์ แบ่งออกเป็ น ๓ ตอน คือ ตอนท่ี ๑ กาเนิดตวั ละครตา่ ง ๆ ตอนที่ ๒ กาเนิดสงคราม ตอนท่ี ๓ พระรามกลบั ครองเมือง

พระราชประวตั ิผทู้ รงพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช (รชั กาลที่ ❖๑) ทรงเป็นกษตั ริยอ์ งคแ์ รกในราชวงศจ์ กั รี ❖ ทรงเป็นประธานในการชาระวรรณคดีเกา่ ทาใหค้ นรุ่นหลงั ไดม้ ีโอกาสตดั ตอนวรรณคดีตามแบบฉบบั ไปประพนั ธข์ ้ึนใหม่ ใหค้ วามไพเราะและมี เน้ือเร่ืองสมบูรณข์ ้ึน ❖ งานพระราชนิพนธ์ ไดแ้ ก่ เพลงยาวรบพมา่ ท่ีทา่ ดินแดง (นิราศรบพมา่ ท่ีทา่ ดิน แดง) กฎหมายตราสามดวง บทละครเร่ืองรามเกียรต์ิ บทละครเร่ืองอุณรุท บทละครเร่ืองดาหลงั บทละครเร่ืองอิเหนา นิทานอิหร่านราชธรรม และการ ชาระพระราชพงศาวดาร

ลกั ษณะคาประพนั ธบ์ ทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ร่ายดนั้ เปิ ดเรียก ช่ือร่ายชนิดหน่ึง บทหน่ึงมี ๕ วรรคข้ึนไป คาสุดทา้ ยของแตล่ ะ วรรค ตอ้ งสมั ผสั กบั คาท่ี ๑, ๒ หรื อ ๓ ของวรรคถดั ไป และตอ้ งจบ ดว้ ยบทท่ี ๓ และ ๔ ของโคลงดน้ั วิวิธมาลี กลอนบทละคร ดาเนินเรื่อง คากลอนท่ีแตง่ ข้ึนเพ่ือแสดงละครรา มีลกั ษณะเหมือนกลอน สุภาพ แตล่ ะวรรคมี ๖-๙ คา ๒ วรรค เป็น ๑ คากลอน โคลง จบเรื่อง เป็นคาประพนั ธท์ ่ีบงั คบั วรรณยุกต์ คือ เอก โท และสมั ผสั บงั คบั

ลกั ษณะคาประพนั ธบ์ ทละครเร่ือง รามเกียรติ์ ร่ายดน้ั ใชร้ ่ายดนั้ ในการเปิดเร่ือง พรรณนาถึงความเจริญรุ่งเรืองของบา้ นเมืองและพระราชกรณียกิจตา่ ง ๆ และสาเหตุท่ีทรงพระราชนิพนธเ์ ร่ืองรามเกียรต์ิวา่ ตวั อยา่ งร่ายดนั้ ...กระวีวิธหลายหลาก รูม้ ลากหลายฉันท์ นิพนั ธโ์ คลงคากลอน ภูธร ดาริดารัส จัดจองทานองนุก ไตรดายุคนิทาน ตานานเรื่องรามเกี ยรต์ิ เบียนบรปักษย์ กั ษพนิ าศ ดว้ ยพระราชโวหาร...

ลกั ษณะคาประพนั ธบ์ ทละครเรื่อง รามเกียรต์ิ กลอนบทละคร การดาเนินเน้ือเร่ืองเป็นกลอนบทละคร มีลกั ษณะบงั คบั เหมือนกลอนสุภาพ วรรคแรก มกั ข้ึนตน้ ดว้ ย - เมื่อนน้ั (ใชก้ บั ตวั ละครเอกหรือพระมหากษตั ริย)์ - บดั นนั้ (ใชก้ บั ตวั ละครสามญั หรือตวั ละครบทบาทรองลงไป) - มาจะกล่าวบทไป (นิยมใชเ้ ม่ือข้ึนความใหมห่ รือตอนใหม)่ ตวั อยา่ งกลอนบทละคร พระรวีหมดเมฆแสงฉาน เยาวมาลยก์ ็ประสูตโิ อรส ◎ ครัง้ ไดศ้ ุภฤกษย์ ามดี เผือกผ่องไพโรจนท์ ัง้ กายหมด ปี ขาลเดือนสามอังคาร อลงกตด่งั ดวงศศธิ ร เป็ นวานรผูเ้ ผน่ ออกทางโอษฐ์ ใหญ่เท่าชันษาไดโ้ สฬส

ลกั ษณะคาประพนั ธบ์ ทละครเร่ือง รามเกียรติ์ โคลง เม่ือจบเร่ืองแลว้ จะทรงพระราชนิพนธเ์ ป็นโคลงกระทู้ ๑ บท เพ่ือบอกวตั ถุประสงคใ์ นการแตง่ และ ตอ่ ดว้ ยโคลงส่ีสุภาพ ๑ บท เพ่ือบอกระยะเวลาเม่ือเร่ิมพระราชนิพนธ์ ตวั อย่างโคลงกระทู้ ตวั อย่างโคลงสี่สุภาพ ◎ จบ เรื่องราเมศมลา้ ง อสุรพงศ์ ◎ เดือนอา้ ยสองคา่ ข้ึน จนั ทรวาร บ พติ รธรรมกิ ทรง แต่งไว้ บพติ รผูท้ รงฌาน ย่งิ หลา้ ริ ร่าพร่าประสงค์ สมโภช พระนา แรกรินิพนธส์ าร รามราพณ์ น้ีแฮ บูรณ์ บาเรอรมยใ์ ห้ อ่านรอ้ งราเกษม ศกั ราชพนั รอ้ ยหา้ สิบเกา้ ปี มะเส็ง

ในระดบั ชน้ั ม.๒ เรียนบทละครเรื่อง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก

บทละคร เรื่อง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ตวั ละคร นนทก ❖ ยกั ษท์ วารบาลผูม้ ีหนา้ ท่ีลา้ งเทา้ ใหบ้ รรดาเทวดาท่ีจะ เขา้ เฝ้าพระอิศวร ❖ ถูกเทวดาท่ีลา้ งเทา้ ใหก้ ลน่ั แกลง้ จนหวั โลน้ ทาให้ เกิดความแคน้ เคือง จึงขอพรกบั พระอิศวรใหม้ ีน้ิว เพชร เม่ือช้ีไปยงั ผูใ้ ด ผูน้ ั้นจะเสียชีวิตทนั ที ❖ เม่ือพระนารายณส์ งั หารจึงไปเกิดเป็นทศกณั ฑ์ นนทกมีความชอบธรรมในการแกแ้ คน้ หรือไม่ และในปัจจุบนั มีคนแบบนนทกหรือไม่ อย่างไร

บทละคร เรื่อง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ตวั ละคร พระนารายณ์ ❖ เรียกอีกช่ือวา่ พระวิษณุ ❖ เป็นเทวดาผูม้ ีกายสีดอกตะแบก (สีมว่ งออ่ น) มี ๔ กร แตล่ ะกรถือ คฑา ตรี จกั ร สงั ข์ ❖ เม่ือสงั หารนนทกแลว้ ก็อวตารเป็นมนุษย์ นามวา่ พระราม พระวิษณุและพระรามเก่ียวขอ้ งกนั อย่างไร

บทละคร เร่ือง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ตวั ละคร พระอิศวร ❖ เทวดาผูเ้ ป็นใหญใ่ นสวรรค์ มีกายสีขาว แตพ่ ระศอ เป็นสีดาเพราะเคยด่ืมยาพิษ มีพระเนตรถึง ๓ ดวง ดวงท่ี ๓ อยูก่ ลางพระนลาฎ ❖ เป็นเทพเจา้ สูงสุดในบรรดาเทพทง้ั สาม ไดแ้ ก่ พระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม ❖ เป็นผูป้ ระทานน้ิวเพชรท่ีสามารถช้ีใครใหถ้ ึงแก่ ความตายกบั นนทก

บททลละะคครรเรเื่รอ่ืองงรารมาเมกเียกรียตริ์ ตอ์ิ ตนอนนารนาายรณายป์ ณราปบ์ นรานบทนก เร่ืองย่อ นทก นนทกทาหนา้ ท่ีลา้ งเทา้ ใหแ้ กเ่ ทวดา นนทกไปขอพรกบั พระอิศวรใหต้ น พระอิศวรทรงทราบจึงบญั ชา ท่ีจะเขา้ เฝ้าพระอิศวร มีน้ิวเพชรสามารถช้ีสงั หารผูอ้ ่ืนได้ ใหพ้ ระนารายณไ์ ปปราบนนทก เม่ือไดร้ บั พร นนทกจึงไลฆ่ า่ เทวดา พระนารายณจ์ ึงแปลงกายเป็น และถูกบรรดาเทวดาเหลา่ น้ัน กลน่ั แกลง้ จนศีรษะลา้ น บนสวรรคด์ ว้ ยความเคียดแคน้ นางอปั สรมายว่ั ยวนนนทก พระนารายณจ์ ึงใหน้ นทกไปอุบตั ิ พระนารายณเ์ ห็นนนทกเสียทา่ จึงเหยียบ พระนารายณช์ วนนนทกใหร้ ่ายรา ชาติใหมม่ ี ๑๐ หนา้ ๒๐ มือ สว่ นตน อกนนทกเพ่ือสงั หาร นนทก จนถึงทา่ ช้ีขาตนเอง นนทกจึง จะเป็นเพียงมนุษยท์ ่ีมีเพียง ๒ มือ และ ขาหกั พบั ลงดว้ ยน้ิวเพชรของตน จะตามไปปราบนนทกในชาติหนา้ กอ่ น ตดั พอ้ วา่ เพราะพระนารายณม์ ี ๔ กร ตนมีเพียง ๒ มือ จึงสูไ้ มไ่ ด้ สงั หารนนทก ถา้ นกั เรียนเป็ นนนทก จะขอพรกบั พระอิศวร

ตวั อย่างบทละคร เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ◎ มาจะกลา่ วบทไป ถึงนนทกนา้ ใจกลา้ หาญ ตงั้ แตพ่ ระสยมภูวญาณ ประทานใหล้ า้ งเทา้ เทวา อยูบ่ นั ไดไกรลาสเป็ นนิจ สุราฤทธ์ติ บหวั แลว้ ลูบหนา้ บา้ งใหต้ กั น้าลา้ งบาทา บา้ งถอนเสน้ เกศาวุ่นไป จนผมโกร๋นโลน้ เกล้ียงถึงเพียงหู ดูเงาในนา้ แลว้ รอ้ งไห้ ฮึดฮดั ขดั แคน้ แน่นใจ ตาแดงดง่ั แสงไฟฟ้า เป็ นชายดูดูม๋ าหม่นิ ชาย มติ ายก็จะไดเ้ ห็นหนา้ คดิ แลว้ ก็รีบเดนิ มา เฝ้าพระอศิ ราธบิ ดี (บทละครเร่ือง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก: พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช)

ตวั อย่างบทละคร เร่ือง รามเกียรติ์ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ◎ เทพนมปฐมพรหมสี่หนา้ สอดสรอ้ ยมาลาเฉิดฉิน ทงั้ กวางเดนิ ดงหงสบ์ นิ กนิ รนิ เลียบถา้ อาไพ อีกชา้ นางนอนภมรเคลา้ ทงั้ แขกเตา้ ผาลาเพียงไหล่ เมขลาโยนแกว้ แววไว มยุเรศฟ้อนในอมั พร ลมพดั ยอดตองพรหมนิมติ ทงั้ พสิ มยั เรียงหมอน ยา้ ยท่ามจั ฉาชมสาคร พระสี่กรขวา้ งจกั รฤทธริ งค์ ฝ่ ายวา่ นนทกก็ราตาม ดว้ ยความพสิ มยั ใหลหลง ถึงท่านาคามว้ นหางวง ช้ีตรงถูกเพลาทนั ใด (บทละครเร่ือง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก: พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช)

คาศพั ท์ คาศพั ท์ โกฎิ ความหมาย คนธรรพ์ ช่ือมาตรานบั เทา่ กบั ๑๐ ลา้ น จุไร เพลา ชาวสวรรคพ์ วกหน่ึง มีความชานาญในวิชาดนตรีและขบั รอ้ ง ภกั ษ์ สยมภวู ญาณ ผมท่ีเกลา้ เป็นจุกอยา่ งสวยงาม หสั นยั น์ อสนุ ี ตกั ในท่ีน้ีหมายถึง ขา อปั สร ผลสาเร็จ พระอิศวร มาจาก สหสั นัยน์ หมายถึง พนั ตา คือ พระอินทร์ สายฟ้า นางฟา้

คุณค่าดา้ น บทละคร เรื่อง รามเกียเรนต้ือิ์ ตหอาน นารายณป์ ราบนนทก ...สะทอ้ นภาพความเป็ นจริงของสังคมมนุษย์ที่เต็มไปดว้ ยรัก โลภ โกรธ หลง และใหข้ อ้ คิดเกี่ยวกับการมอบอานาจใหต้ กอยู่ในมือของคนที่ ลืมตัวหรือมีความแคน้ เต็มเปี่ ยม ย่อมทาใหเ้ กิดผลรา้ ยตามมา ผูม้ อบ อานาจจึงตอ้ งพิจารณาเสียก่อนว่า จะจากัดขอบเขตของอานาจนั้ น อย่างไร แก่นเร่ือง คือ การผูกใจเจ็บแคน้ ไมย่ อมใหอ้ ภยั ยอ่ มนามาซ่ึงความเดือดรอ้ น เหมือนท่ีนนทกท่ี ผูกใจเจ็บเทวดาตา่ ง ๆ หรือพระนารายณย์ อ่ มทาใหพ้ บกบั ความหายนะ นกั เรียนเห็นดว้ ยกบั บทวิเคราะหข์ า้ งตน้ หรือไม่ อย่างไร

คณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ บทละคร เร่ือง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ◎ จนผมโกร๋นโลน้ เกล้ียงถึงเพียงหู ดูเงาในน้าแลว้ รอ้ งไห้ ฮึดฮัดขดั แคน้ แน่นใจ ตาแดงดง่ั แสงไฟฟ้า เป็ นชายดูดูม๋ าหม่นิ ชาย มติ ายก็จะไดเ้ ห็นหนา้ คดิ แลว้ ก็รีบเดนิ มา เฝ้ าพระอิศราธิบดี มีการใชค้ าแสดงอารมณ์ โดยคาวา่ “ฮึดฮดั ” และคาวา่ “ขดั แคน้ ” เป็นคาท่ีประสมดว้ ยสระ เสียงสน้ั แสดงถึงความรูส้ ึกอึดอดั คบั แคน้ ท่ีฝงั อยูใ่ นอกของนนทก และใชค้ าวา่ “ดดู ”ู๋ ทาใหร้ ูส้ ึกถึงการเสีย ศกั ด์ิศรี ตอกยา้ ความรูส้ ึกเก็บกดตลอดเวลาท่ีถูกขม่ เหงรงั แก

คุณค่าดา้ นวรรณศิลป์ บทละคร เร่ือง รามเกียรติ์ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ◎ เหลือเห็นสตรีวิไลลกั ษณ์ พศิ พกั ตรผ์ ่องเพียงแขไข งามโอษฐง์ ามแกม้ งามจุไร งามนัยน์เนตรงามกร งามถนั งามกรรณงามขนง งามองคย์ ่งิ เทพปักสร งามจริตกิริยางามงอน งามเอวงามอ่อนทัง้ กายา มีการใชค้ าในลกั ษณะกลบทและคาซา้ เพ่ือใหเ้ กิดความไพเราะและเป็นการเนน้ ความ โดยใชค้ า วา่ “งาม” เป็นการเนน้ ยา้ ใหผ้ ูอ้ า่ นเกิดความรูส้ ึกและเกิดจินตภาพถึงความงามของนางอปั สรวา่ เป็นผูง้ าม เพียบพรอ้ ม

คุณค่าดา้ นวรรณศิลป์ บทละคร เรื่อง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ◎ ตอ้ งสุบรรณเทวานาคี ด่งั พษิ อสุนีไมท่ นได้ ลม้ ฟาดกลาดเกลือ่ นลงทันใด บรรลยั ไม่ทันพริบตา มีการใชอ้ ปุ มาเปรียบเทียบ โดยใชค้ าวา่ “ดงั่ ” เปรียบเทียบส่ิงใดส่ิงหน่ึงเหมือนกบั อีกส่ิงหน่ึง เพ่ือใหผ้ ูอ้ า่ นเกิดจินตนาการเห็นภาพไดช้ ดั เจนมากย่ิงข้ึน เชน่ การเทียบฤทธานุภาพของน้ิวเพชรเปรียบได้ กบั พิษของสายฟา้ ยกตวั อย่างคาที่ใชใ้ นการเปรียบเทียบสิ่งหน่ึงที่เหมือนกบั อีกส่ิง หนึ่ง

คุณค่าดา้ นสงั คม บทละคร เร่ือง รามเกียรติ์ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ◎ เทพนมปฐมพรหมสี่หนา้ สอดสรอ้ ยมาลาเฉิดฉิน แสดงใหเ้ ห็นถึงวฒั นธรรมดา้ น ทัง้ กวางเดนิ ดงหงสบ์ นิ กินรินเลียบถา้ อาไพ นาฏศิลป์ ไทย คือ ทา่ ราของนางอปั สร อีกชา้ นางนอนภมรเคลา้ ทัง้ แขกเตา้ ผาลาเพียงไหล่ ท่ีเป็ นท่าราสาคญั ซ่ึงผูเ้ รี ยนนาฏศิลป์ เมขลาโยนแกว้ แววไว มยเุ รศฟ้อนในอมั พร ตอ้ งเรียนรูเ้ ป็นทา่ พ้ืนฐาน เรียกวา่ ทา่ รา ลมพดั ยอดตองพรหมนิมติ ทัง้ พสิ มยั เรียงหมอน แมบ่ ท เพ่ือนาไปประยุกตป์ ระดิษฐท์ า่ รา ยา้ ยท่ามจั ฉาชมสาคร พระสี่กรขวา้ งจกั รฤทธิรงค์ อ่ืน ๆ ได้ ฝ่ ายว่านนทกก็ราตาม ดว้ ยความพสิ มยั ใหลหลง ถึงท่านาคามว้ นหางวง ช้ีตรงถูกเพลาทันใด

สรปุ บทเรียน ใจความ ส่ิงที่ได้ ขอ้ คิด บทละคร เร่ือง ราสมาเกคียญั รติ์ ความรู้ • ความอาฆาต พยาบาท จองเวร นามาซ่ึงความเดือดรอ้ น ตอน นารายณป์ ราบนนทก • รูจ้ กั ลกั ษณะของบทละคร • การใชอ้ านาจในทางท่ีผิด นนทกท่ีมีหนา้ ท่ีลา้ งเทา้ ใหแ้ กเ่ ทวดาและถูกกลน่ั แกลง้ • รูจ้ กั ตวั ละครจากเร่ือง ยอ่ มนามาซ่ึงความเดือดรอ้ น จนหวั ลา้ น จึงขอน้ิวเพชรแลว้ ใชส้ งั หารเทวดามากมายจน รามเกยี รต์ิ พระนารายณ์ตอ้ งมาปราบโดยแปลงกายเป็ นนางอปั สร • การไมร่ งั แกผูท้ ่ีดอ้ ยกวา่ ตน หลอกใหน้ นทกร่ายราจนถึงทา่ นาคามว้ นหาง เม่ือนนทกช้ี ท่ีขาของตนจึงลม้ ลง พระนารายณ์จึงเขา้ สงั หาร นนทก • ความลุม่ หลงมวั เมาจะทาใหภ้ ยั ตดั พอ้ วา่ พระนารายณ์มี ๔ กร ตนจึงแพ้ พระนารายณ์ มาถึงตวั จึงใหน้ นทกเกิดใหมม่ ี ๑๐ หนา้ ๒๐ มือ (ทศกณั ฐ)์ เพ่ือ ปราบอีกครง้ั