ห นั ง สื อ อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ ( E - b o o k ) เ รื่ อ ง โ ร ค ภู มิ แ พ้ เ ป็ น ส่ ว น ห นึ่ ง ข อ ง วิ ช า วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ชี ว ภ า พ ( ว 3 0 1 0 3 ) ชั้น มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ปี ที่ 5 / 1 0 ส อ น โ ด ย ค รู รัต น า ห มู่ โ ย ธ า โ ร ง เ รีย น ส ต รีร า ชิ นู ทิ ศ สำ นั ก ง า น เ ข ต พื้ น ที่ ก า ร ศึ ก ษ า มั ธ ย ม ศึ ก ษ า อุ ด ร ธ า นี
ALLERGIC โรคภูมิแพ้
ส า เ ห ตุ ข อ ง โ ร ค ภู มิ แ พ้ โรคภูมิแพ้เกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันในร่ายกายตอบสนอง ต่อสารบางอย่าง ซึ่งเรียกว่า สารก่อภูมิแพ้อย่างรุนแรง โดยสารก่อภูมิแพ้มักพบได้โดยทั่วไป เช่น ละอองเกสร รังแคของสัตว์ และพิษของผึ้ง ซึ่งในผู้ที่เป็น โรคภูมิแพ้ ร่างกายจะทำการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ว่าเป็นสารที่ อันตรายต่อร่างกาย จึงทำให้ร่ายกายพยายามที่จะกำจัดสารเหล่านั้นออกและทำให้ เกิดอาการแพ้
อาการ ข อ ง โ ร ค ภู มิ แ พ้ อาการของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จะเกิดตามอวัยวะที่มีการ อักเสบจากการกระตุ้นของสารก่อภูมิแพ้ เช่น ผื่นคัน ลมพิษ มีน้ำมูก จาม แสบตา น้ำตาไหลบ่อย ไอ แน่นหน้าอก เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจเกิดอาการท้องเสีย อาเจียน น้ำ หนักลด รวมทั้งมีภาวะซีดเกิดขึ้นด้วยได้เช่นกัน จึง จำเป็นต้องหมั่นสังเกตตนเองและพบแพทย์เพื่อ ทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
วิธี รั ก ษ า โ ร ค ภู มิ แ พ้ การรักษาโรคภูมิแพ้วิธีที่ดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงสาร ก่อภูมิแพ้ , ออกกำลังกายซึ่งเป็นวิธีธรรมชาติ , หมั่น ทำความสะอาดผิวหนัง แต่ถ้าทั้ง 3 วิธีนี้ไม่ได้ผลหรือทำ ไม่ได้ อาจใช้วิธีล้างช่องจมูกด้วยน้ำเกลือ ทำความ สะอาดผิวหนังด้วยยา betadine และน้ำเกลือ ร่วมกับ รับประทานยาแก้แพ้ (antihistamine)
วิธี รั ก ษ า โ ร ค ภู มิ แ พ้ •การรักษาด้วยยา ในปัจจุบันนี้ยารักษาภูมิแพ้มีประสิทธิภาพสูงและ สามารถใช้ได้ทั้งชนิดรับประทานและชนิดพ่นทางจมูก •การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ คือการฉีดสารที่แพ้ทีละน้อยๆ ค่อยๆเพิ่มจำนวน ส่วนมากคนที่ฉีดวัคซีนจะสามารถหยุดยาได้หมดหรือ ลดจำนวนยาลง เมื่อหยุดฉีดแล้วคนส่วนหนึ่งจะไม่ กลับมามีอาการอีกและส่วนหนึ่งอาจมีอาการ แต่ระยะ เวลาจากหยุดฉีดถึงกลับมีอาการจะแตกต่างกันไปขึ้น อยู่กับบุคคลและสารที่แพ้
วิธี ป้ อ ง กั น ไ ม่ ใ ห้ เ กิ ด โ ร ค ภู มิ แ พ้ 1. ทำความสะอาดร่างกายอย่างสม่ำเสมอ 2. ทำความสะอาดที่อยู่อาศัยอยู่เป็นประจำ 3. ใส่เสื้อผ้าที่สะอาด 4. รักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อบอุ่นเสมอ 5. หมั่นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ 6. พักผ่อนให้เพียงพอ 7. รับประทานอาหารหรืออาหารเสริมที่มีคุณค่าทาง โภชนาการสูง 8. หลีกเลี่ยงความเครียด 9. งดพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย 10. หลีกเลี่ยงสารเคมีที่เป็นตัวก่อภูมิแพ้
อ้ า ง อิ ง https://www.pakazybeauty.com/content/7547/10- %E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E 0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0% B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A0%E0%B8% B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89- https://www.bangkokhospital.com/content/allergy-care-to-keep-up https://www.bumrungrad.com/th/conditions/allergy http://www.isit.or.th/modules.php?mod=Webboard&file=view&ID=11972
ก ลุ่ ม ที่ 1 น.ส.จุฬาลักษณ์ บุญเกิด เลขที่ 20 น.ส.ณัฐณิชา กุลมา เลขที่ 22 น.ส.ดาวรรณ์ ศรีจูมพล เลขที่ 24 น.ส.ธนพร สุมาลย์ เลขที่ 25 ( หารูปภาพประกอบ) ( หาข้อมูลอาการของโรคภูมิแพ้ ) ( หาข้อมูลสาเหตุของการเกิดโรคภูมิแพ้ ) ( ทำE-BOOK ) น.ส.ประกายวัลย์ แก้วสุวรรณ์ เลขที่ 32 น.ส.วชิราภรณ์ อุทรักษ์ เลขที่ 32 น.ส.อภิญญา พรหมหลง เลขที่ 33 ( หาข้อมูลการรักษาโรคภูมิแพ้ ) ( ทำ powerpoint) ( หาข้อมูลวิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคภูมิแพ้ )
Thank You
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: