รูก้ ่อน เตรยี มได้ ค่มู ือการใหบ้ ริการประชาชน ศนู ย์ชีวารกั ษ์ Palliative careโรงพยาบาลเลิดสนิ
ขอ้ สงั เกตอาการผปู้ ่ วยในชว่ งทา้ ยของชวี ติ ในช่วง 1-3 เดือน มักมีอาการทรงๆทรุดๆ สลับกันไป และเมื่ออวัยวะในร่างกาย คอ่ ยๆเส่ือม ผปู้ ่วยมกั มอี าการทรดุ ลงเรื่อยๆ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ สภาพร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง เช่น การสูบฉีดโลหิตน้อยลง ทาให้มอื เท้าเย็น ผิวหนังเปลี่ยนสี คือ มีสีคล้าขึ้น เป็นจ้า หายใจเริ่มผิดปกติ ไม่เร็วขึ้นก็ช้าลง หรือหายใจขาดเป็นช่วงๆ มีเสมหะออกมาก กล้ามเนื้อหย่อนยานควบคุมไม่ได้ การรับรู้แย่ลง บางรายอาจเพ้อเรอ่ื งทีอ่ ยู่ใตส้ านกึ รับประทานอาหารน้อยลง หรอื รบั ประทานอาหารไม่ได้ แม้ ใหอ้ าหารทางสายยาง อาหารจะไมย่ ่อยหรือเหลอื คา้ งในกระเพาะมาก ในชว่ งวันทา้ ยๆของชีวติ (2-3 วันสุดท้าย) จะมีอาการต่างๆ เช่น ผู้ป่วยมักใช้เวลา สว่ นใหญ่ไปกับการนอน อาจปลุกต่ืนยาก ง่วงซมึ การต่ืนแตล่ ะครง้ั อาจทาให้เพลยี และอาจหลับต่ออีกหลายช่ัวโมงหรอื เป็นวัน, ผปู้ ่วยรบั ประทานและดื่มนอ้ ยลง ซึ่งเปน็ ปกติที่ ผู้ป่วยระยะท้ายจะไม่อยากอาหาร ไม่หิวน้า อาจกลืนลาบากเนื่องจากร่างกายอ่อนแรงลง หรือ อาจลมื กลนื
คาแนะนา ในชว่ งวนั ทา้ ยๆของชวี ติ (2-3 วนั สุดท้าย) 01 ผู้ป่วยมักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน อาจ ปลุกต่ืนยาก ง่วงซมึ 02 การต่นื แต่ละครั้งอาจทาใหเ้ พลยี และอาจหลับต่ออีกหลายชวั่ โมงหรือเป็นวนั - เข้าเยย่ี มในช่วงทผ่ี ู้ป่วยต่นื ดี - แนะนาผู้มาเยย่ี มให้อยใู่ นอาการสงบ - การจับมอื /แตะตัวอาจเปน็ วิธสี ่อื สารท่ีดีและสงบทสี่ ดุ - ไม่ควรพยายามปลุกหรอื รบกวน แตห่ ากต้องพดู ส่อื สาร ควรพูดด้วยน้าเสียงนมุ่ นวล - ถา้ จาเป็นอาจตอ้ งจากดั ผู้เขา้ เยย่ี ม ผู้ป่วยรับประทานและด่มื น้อยลง ซึ่งเป็นปกตทิ ีผ่ ปู้ ่วยระยะท้ายจะไมอ่ ยากอาหาร ไม่หิวน้า อาจกลนื ลาบากเนื่องจาก รา่ งกายอ่อนแรงลง หรอื อาจลมื กลนื - ถามผูป้ ่วยวา่ อยากรับประทานอะไรและป้อนให้ในปริมาณครัง้ ละนอ้ ยๆ ป้อนคาเล็กๆ - พยายามเข้าใจ ถ้าผู้ป่วยไม่สามารถกินรับประทานได้มากอย่างที่เราต้องการ ไม่บังคับ ไม่คะยั้นคะยอให้ รบั ประทาน หรือให้นา้ เกลอื และสอดสายให้อาหาร เพราะอาจทาใหผ้ ู้ป่วยคล่นื ไสอ้ าเจยี น แนน่ ทอ้ ง ทรมานมากขึ้น - การที่ผู้ป่วยเห็นผู้ดูแลยงั คงมคี วามสขุ กับการกนิ ได้ กอ็ าจเป็นความสขุ สาหรับผู้ป่วยเชน่ กนั - หากผู้ป่วยไม่รับประทานอะไรเลย ให้ทาความสะอาดช่องปากด้วยสาลีชุบน้า ทาวาสลีนให้ปากชุ่มชื้นแทน และ ปรึกษาทีมชีวารักษ์ Palliative care เก่ียวกับวิธีใหย้ าแทนยาท่กี นิ อยู่
คาแนะนา ในชว่ งวนั ท้ายๆของชวี ติ (2-3 วนั สุดท้าย) 03 ร้องครางหรือมีเสียงครดื คราดในลาคอ เมื่อร่างกายออ่ นแรงลง การขบั เสมหะทาได้ ยากข้นึ จงึ มเี สมหะคา้ งในลาคอ ทาให้เกิดเสียงครืดคราดเมือ่ หายใจได้ สว่ นการร้องคราง เม่อื หายใจหรือเปลี่ยนท่าน้นั อาจไมไ่ ดห้ มายถึงความเจบ็ ปวด/ไมส่ ขุ สบายเสมอไป - อาจคุยกบั แพทย/์ พยาบาลที่ดแู ลผปู้ ว่ ยเม่ือพบอาการเหลา่ นี้ เพอ่ื ให้แนใ่ จในสาเหตุ - ควรเลือกวธิ ีการดแู ลที่รบกวนผู้ป่วยน้อยที่สุด เช่น การใช้ยาลดเสมหะดีกว่าใช้วิธีการดูดเสมหะ เพราะจะทาให้ผปู้ ว่ ยทรมาน หรือเปลย่ี นท่า หรือยกศรี ษะให้สงู ขึน้ 04 การหายใจมักมีลักษณะผิดไปจากเดิม อาจหายใจเร็วตน้ื หรอื ชา้ ลง ฮุบอากาศหรอื หายใจไม่ สม่าเสมอ มเี วน้ ช่วงนาน ซ่งึ การหายใจที่เปลี่ยนไปเชน่ นี้ถือเป็นภาวะปกติท่พี บได้ และมกั จะไม่ ก่อใหเ้ กิดอาการทรมานใดๆตอ่ ผู้ป่วย - ตงั้ สติและไมต่ ระหนกกบั อาการตรงหน้าจนเกินไป เพราะจะทาให้ผปู้ ว่ ยกังวลไปด้วย - การพาไปโรงพยาบาล (รวมทั้งใส่ท่อช่วยหายใจ) ไม่ได้ช่วยให้ภาวะดังกล่าวดีขึ้น ซ้ายังอาจทาให้ เกิดความไม่สงบทัง้ ทางกายและใจแก่ผู้ป่วยในช่วงท้ายได้ - หากไม่สบายใจกรุณาปรึกษาแพทย์/พยาบาลเพิ่มเติม
คาแนะนา ในชว่ งวนั ทา้ ยๆของชวี ติ (2-3 วันสุดท้าย) 05 ความปวด ผปู้ ่วยสว่ นใหญม่ กั มคี วามปวดตามบริเวณตา่ งๆของรา่ งกาย ซ่งึ รายละเอยี ดมกั แปร ตามตวั โรคทเ่ี ปน็ หากมีอาการปวดมากแพทย์มักให้ยากลมุ่ มอรฟ์ ีนเพ่อื บรรเทาอาการ - ควรให้ยาแกผ่ ปู้ ่วยตามวธิ ใี ชท้ ่รี ะบไุ ว้บนฉลาก - ไม่ต้องกลัวว่ายาจะทาให้นอนหลับมาก หรือกดการหายใจจนเสียชีวิต รวมทั้งไม่ต้องกลัว การตดิ ยา หากใช้ตามขนาดท่แี พทย์ระบุ 06 การตอบสนอง ของผู้ป่วยตอ่ สิง่ รอบข้างอาจลดลง จนอาจไม่สามารถตอบสนองต่อเสียงเรียกหรือ การสัมผสั ของเราได้อีก บางครงั้ อาจดเู หมอื นหลบั ทั้งท่ียงั ลืมตา - พูดคุยต่อไปแม้ผู้ป่วยจะไม่ตอบ เนื่องจากเสียงของคนที่รักมักสร้างความอบอุ่นให้เขาได้และ ผู้ป่วยจะยังรับรู้เสียงนั้นแม้จะไม่แสดงออกก็ตาม จึงควรบอกผู้ป่วยล่วงหน้าก่อน จะทาอะไรต่อร่างกายเขา และหากผปู้ ว่ ยหลับท้ังทล่ี มื ตา อาจตอ้ งปรกึ ษาแพทย์/พยาบาลเกี่ยวกับ การใช้นา้ ตาเทยี ม
คาแนะนา ในชว่ งวนั ทา้ ยๆของชวี ติ (2-3 วนั สุดทา้ ย) 07 อารมณ์หรือพฤตกิ รรมเปล่ยี นแปลง เชน่ เพ้อ สับสน พูดถงึ เรื่องเก่า หรือผ้ทู เี่ สยี ชีวิตไปแล้ว อาจเห็นอะไรทีค่ นอ่นื ไม่เห็น ทาทา่ เหมอื นไขวค่ วา้ อะไรบางอย่างในอากาศ บางครัง้ อารมณ์รุนแรงที่ถูกเก็บไว้อาจมา แสดงออกในชว่ งทา้ ยของชวี ติ เช่น ความโกรธหรอื กลัว - พูดคุยกับผู้ป่วยช้าๆชัดๆ ด้วยน้าเสียงเป็นปกติ ย้าวันเวลาให้ผู้ป่วยทราบเป็นระยะ ให้ความ มั่นใจกับผู้ป่วย ว่าคุณจะอยู่ตรงนี้กับเขาไม่ทิ้งไปไหน อาจเปิดเพลงที่ผู้ป่วยชอบ นวดหรือสัมผัส เบาๆ และทาความเข้าใจว่าผู้ป่วยอาจกาลังอยู่ในช่วงของการทบทวนชีวิตที่ผ่านมาของตน และ ปล่อยวางสง่ิ ท่ตี ดิ ขา้ งในใจ อาการทเ่ี กิดขน้ึ จึงเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ความผิดของญาติหรือการดูแลท่ี ไม่ดี หากมีอาการสับสนหรือกระสับกระส่ายมากควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลสาหรับการให้ยา ลดอาการ
คาแนะนา ในชว่ งวนั ท้ายๆของชวี ติ (2-3 วันสุดทา้ ย) 08 การขับถ่าย ผู้ปว่ ยที่อยู่ในระยะทา้ ยมกั จะสญู เสียการควบคุมอจุ จาระปัสสาวะ เนื่องจาก โรค ภาวะ จติ ใจ ยาท่ไี ด้รับ การนอนตดิ เตียงนานๆ ไมค่ ่อยได้เคล่อื นไหว - ปรกึ ษาแพทยเ์ พอ่ื ขอรับประทานยาระบายได้ - ดแู ลบริเวณอวยั วะเพศและก้นให้แห้ง สะอาด ทาโลชัน่ /วาสลนี ให้ช่มุ ชน้ื - ผู้ปว่ ยท่ีใส่สายสวนปัสสาวะ ควรชาระลา้ งด้วยน้าสบูอ่ ่อนๆ วนั ละ 2 คร้งั ในช่วงเช้าและเย็น หรือ ทกุ ครัง้ หลังถ่ายอุจจาระ - ผ้ปู ่วยทม่ี ีชอ่ งขับถ่ายอุจจาระทางหน้าท้อง ต้องดูแลให้ปิดสนิทแนบกับหน้าท้อง ป้องกันการรั่วซึม และดแู ลความสะอาดบรเิ วณดังกล่าวใหส้ ะอาดอยู่เสมอ
ตวั อาจรอ้ นหรอื เย็นกว่าปกติ เน่อื งจากการทางานของสมองใน สว่ นควบคุมอุณหภูมเิ ริ่มเสียสมดุล ผวิ หนงั อาจเปลย่ี นสหี รอื เป็นจ้า ซ่งึ เปน็ กระบวนการธรรมชาติกอ่ นจะเขา้ สกู่ ารเสยี ชวี ติ แตผ่ ้ปู ่วยมักไมท่ รมานจากอาการเหลา่ น้ี ถ้าตวั เยน็ ให้ห่มผา้ หรอื ถา้ ตวั ร้อนใหว้ างผ้าเยน็ ได้ รักษาความชุม่ ชืน้ ใหช้ ่องปาก เสมอ อณุ หภมู ริ า่ งกายเปลีย่ นแปลง
ชว่ งทา้ ยผปู้ ่วยจะนอนหลบั มากเปน็ สว่ นใหญ่ ไม่คอ่ ยขยบั รา่ งกาย การดแู ลให้ร่างกายแห้ง และสะอาดจงึ มัก เพยี งพอแลว้ รบกวนผปู้ ว่ ยให้นอ้ ยทส่ี ุด การพลกิ ตัวอาจ เวน้ ห่างกว่าปกติ ทาแผลเมอื่ แผลเปยี กหรอื สง่ กล่นิ เทา่ น้นั การทาความสะอาดรา่ งกาย
อาการที่บ่งบอกวา่ ผปู้ ่ วย เสยี ชีวิต ขณะเสยี ชวี ิต คุณสามารถสงั เกตลักษณะตา่ งๆ ได้ดังน้ี - หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น คลาชีพจรไม่ได้ - ลูกตาไม่กลอกไปมา - ปากคา้ ง - ผิวซดี และเป็นมนั เลอ่ื ม
เม่อื ผปู้ ่ วยเสียชวี ติ ทบี่ า้ น - ไม่ควรเรียกหน่วยกู้ชีพ/รถพยาบาลของที่ใด เพราะหน่วยงานเหล่านั้นอาจพยายามทาการกู้ ชวี ติ อาจสรา้ งความหนักใจแกท่ า่ นไดอ้ ย่างมาก - ควรโทรแจ้งตารวจ เกี่ยวกับขั้นตอนการ ดาเนินการต่อ โดยเตรียมใบรับรองแพทย์ท่ี ได้มาจากโรงพยาบาลไว้เพื่อยืนยันการเสียชีวิต ธรรมชาตติ อ่ เจา้ หนา้ ที่ - โทรเรยี กญาตใิ หม้ าอย่เู ปน็ เพอ่ื น - ใช้เวลาอยู่กับร่างผู้เสียชีวิตให้นานเท่าที่ ต้องการเพื่อบอกลา
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: