Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประเพณี บุญบั้งไฟ

ประเพณี บุญบั้งไฟ

Published by duangdao2558, 2021-07-30 09:28:53

Description: ประเพณี บุญบั้งไฟ

Search

Read the Text Version

นายสิรภพ วงศนาถกลุ 5816613060 ประเพณีบุญบั้งไฟ บทนาํ ประเพณบี ญุ บั้งไฟเปน ประเพณหี นงึ่ ของภาคอสี านของไทยรวมไปถึงลาวซ่งึ มีตํานานมาจากนิทานพื้นบานของภาค อสี านเร่อื งพระยาคันคาก ตอนผาแดงนางไอ ซึง่ ในนิทานพืน้ บานดังกลา วไดก ลาวถึง การทชี่ าวบานไดจัดงานบุญบ้ังไฟขึน้ เพื่อ เปนการบูชาพระยาแถน หรือเทพวสั สกาลเทพบตุ ร ซ่ึงชาวบานมคี วามเช่ือวา พระยาแถนมหี นาที่คอยดูแลใหฝนตกตอ งตาม ฤดกู าลและมคี วามช่ืนชอบไฟเปนอยางมาก หากหมูบานใดไมจ ดั ทําการจดั งานบูชาบญุ บ้ังไฟ ฝนก็จะไมตกตองตามฤดูกาล อาจกอ ใหเกดิ ภัยพบิ ตั ิกับหมูบ า นได ชว งเวลาของประเพณบี ุญบั้งไฟคอื เดอื นหกหรือพฤษภาคมของทุกป ความเชือ่ ประเพณบี ุญบ้ังไฟ ชาวบานมีความเชอ่ื วามโี ลกมนุษยแ ละโลกเทวดามนุษยอ ยใู ตอ ิทธพิ ลของเทวดา การรําผฟี าเปนตัวอยางที่ แสดงออกทางดานการนับถือเทวดาและเรียกเทวดาวา “แถน” เมอ่ื ถือวามีแถนก็ถือวา ฝน ฟา ลม เปนอทิ ธิพลของแถนหาก ทาํ ใหแถนโปรดปรานมนษุ ยกจ็ ะมีความสุข ดงั น้ันจึงมพี ิธบี ูชาแถน การจดุ บั้งไฟก็อาจเปน อีกวธิ หี นึ่งทแ่ี สดงความเคารพหรือสง สัญญาณความภกั ดไี ปยังแถน ชาวอสี านจาํ นวนมากเช่ือวาการจดุ บง้ั ไฟเปน การขอฝนจากพญาแถน และมีนิทานปรมั ปราเชน นี้ อยทู ัว่ ไป แตค วามเชอื่ นี้ยังไมพบหลกั ฐานท่แี นนอน วลิ เลยี ม เจ. คลอสเนอร ไดก ลา ววา “ในทํานองเดยี วกนั พระสงฆไดก ลายเปน สวนหน่ึงของพธิ ีดว ย ความเกีย่ วขอ งของพระสงฆนน้ั มาจากองคป ระกอบหลาย ประการ พระสงฆเ ปนสวนหน่งึ ของโลกทางพราหมณแ ละโลกทม่ี ีการเซน ไหวถือผขี องชมุ ชนเชน เดียวกบั ชาวบา น พระสงฆอ าจไมไ ดมีกจิ เกย่ี วของในการประกอบพิธพี ราหมณหรือพิธเี ซนไหวผโี ดยตรง แตจะหลกี เลีย่ งแวดวงเหลานใ้ี นเชิงการเก่ียวของทางอารมณแ ละ บางครงั้ กท็ างสตปิ ญญาดว ย ยิ่งไปกวา น้นั ในฐานะผปู กปก รกั ษาความเปนอยทู ่ดี ขี องชาวบานพระสงฆไ มส ามารถเพกิ เฉยตอส่งิ ที่แพร ขยายเขา เกาะกุมความมัน่ คงทางจติ ใจของชาวบาน เชน การเขา ไปมีสว นรวมในการประกอบพิธที างพราหมณ หรือ การเซนไหวถ อื ผไี ด เลย อาจจะเปน ปจจัยสําคัญสองขอ ซ่ึงโดยทว่ั ไปมีบทบาทมากกวาสงิ่ อืน่ ใดทท่ี าํ ใหพระสงฆเขามามสี ว นรวมในกิจกรรมชมุ ชนนอกจาก วดั อยางกวางขวางน่นั คอื พระสงฆม ีเวลาท่จี ะตระเตรยี มข้ันตอนตา งๆ และมคี วามรูทางเทคนคิ เฉพาะในการทาํ และจดุ บัง้ ไฟ บั้งไฟทพี่ งุ ขึน้ สําเรจ็ ก็จะนาํ ชอื่ เสยี งมาสพู ระรูปท่ีทาํ บงั้ ไฟ หากบัง้ ไฟเกิดดานไมพุง ขึน้ พระรปู นัน้ กจ็ ะสญู เสยี ความนาเลื่อมใสไปพอสมควร ดว ย เหตนุ ้ีพระสงฆจึงมคี วามเกี่ยวพันใกลชิดมากกับเทศกาลน้ี ในบางปกจ็ ดั พิธีบรรพชาอปุ สมบทสามเณร ซ่ึงมีอายคุ รบท่ีจะบวชเปน พระภกิ ษสุ งฆ ในเวลาเดยี วกันกับการจัดเทศกาลบญุ บั้งไฟ แมวาพธิ ีการทัง้ สองจะไมเกย่ี วขอ งกันแตอ ยา งใด ทง้ั สามเณรและบ้ังไฟจะถกู แหไปรอบพระอุโบสถสามรอบ แลว จงึ จะประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบท หลังจากน้ันจงึ จะหนั ไปแหบ ง้ั ไฟตอ ”(น.55-56,2545) ความหมายของบ้ังไฟ คําวา\"บง้ั ไฟ\" ในภาษาถิ่นอีสานมกั จะสบั สนกบั คําวา \"บองไฟ\" แตที่ถกู นั้นควรเรยี กวา\"บงั้ ไฟ\" โดยท้ัง 2 คํามีความ แตกตางกันดังนค้ี ําวา บอง หมายถึง สิ่งของใดๆก็ไดทีม่ ี 2 ชิ้น มาสวมหรอื ประกอบเขากันได สว นนอกเรยี กวา บอ ง สวนใน

นายสริ ภพ วงศน าถกุล 5816613060 หรอื สง่ิ ทเี่ อาไปสอดใสจ ะเปนส่ิงใดก็ได เชน บอ งมีด บองขวาน บอ งเสยี ม บองวัว บอ งควาย ดังนั้น คาํ วา บั้งไฟ ในภาษาถ่ิน อีสานจงึ เรียกวา บั้งไฟ ซึ่งหมายถึงดอกไมไฟชนดิ หนงึ่ มหี างยาวเอาดินประสวิ มาค่ัวกบั ถานไมต ําใหเขากนั จนละเอียดเรยี กวา หมอ่ื (ดนิ ปน) และเอาหม่ือนั้นใสก ระบอกไมไผตําใหแนนเจาะรตู อนทายของบง้ั ไฟ เอาไผทอ นอ่ืนมัดติดกบั กระบอกใหใสห ม่ือ โดยรอบ เอาไมไ ผยาวลําหนง่ึ มามัดประกบตอออกไปเปนหางยาวสําหรับใชถ ว งหัวใหสมดุลกัน เรียกวา \"บ้งั ไฟ\" สว นคําวา บ้ัง ไฟ คือการนําเอากระบอกไมไผ เลาเหล็ก ทอเอสลอน หรอื เลาไมอยางใดอยา งหนึ่งมาบรรจหุ มื่อ (ดินปน ) ตามอตั ราสวนทช่ี าง กาํ หนดไวแ ลวประกอบทอนหัวและทอนหางเปนรูปตา งๆ ตามท่ตี องการ เพอ่ื นําไปจุดพงุ ขึ้นสูอากาศ จะมีควนั และเสียงดัง บง้ั ไฟมีหลายประเภทตามจุดมุงหมายของประโยชนในการใชสอย สว นประกอบของบั้งไฟ ในสมยั กอ นการทําบัง้ ไฟจะใชไ มไผลาํ ขนาดใหญท่ีสดุ ทะลวงปลองใหถงึ กนั ภายนอกจะใชต อกไมไผถกั เปนเชอื กมัดรอบลําไผ ใหแ นน เพื่อไมใ หลําไผแ ตก สวนหัวปลองสดุ ทา ยจะถูกอุดดวยแผนไมหนาพอควร แลว ทําการอัดบรรจุหมอื่ (ดนิ ปน) ใหแ นน ดวยการตาํ หรือใชคานดีดคานงัด ยคุ สมยั เปลยี่ นไปจากลําไผกลายมาเปนทอเหล็กหรอื ทอประปา (ซงึ่ อนั ตรายมากเม่ือมีการ ระเบิดใสผ คู นอยา งที่เปนขา ว) สวนประกอบสําคญั ของบงั้ ไฟมี 3 สวนไดแก 1.เลาบั้งไฟ เลาบงั้ ไฟคอื สวนประกอบท่ีทําหนาทบี่ รรจุดินปนมลี กั ษณะเปนรูปทรงกระบอกกลมยาว มคี วามยาวประมาณ 1.5 - 7 เมตร ทําดวยลําไมไผแลว ใชรว้ั ไมไผ (ตอก) บิดเปนเกลียวเชือกพันรอบเลาบ้ังไฟอีกคร้ังหนึ่งใหแนน และใชด นิ ปนท่ี ชาวบานเรียกวา\"หมือ\"อัดใหแนนลงไปในเลาบ้งั ไฟ ดวยวธิ ีใชสากตําแลว เจาะรูสายชนวน เสรจ็ แลวนําเลาบั้งไฟไปมดั เขา กบั สวนหางบงั้ ไฟ ในสมัยตอมานิยมนําวัสดุอืน่ มาใชเปน เลาบั้งไฟแทนไมไผ 2.หางบงั้ ไฟ หางบั้งไฟถอื เปน สวนสาํ คัญทาํ หนาทค่ี ลายหางเสือของเรือคอื สรางความสมดุลยใหกับบ้ังไฟคอยบงั คับทิศทางบั้ง ไฟใหยิงขนึ้ ไปในทศิ ทางตรงและสงู 3.ลกู บ้งั ไฟ เปน ลําไมไผท่ีนาํ มาประกอบเลาบ้ังไฟโดยมดั รอบลําบงั้ ไฟ บ้งั ไฟลําหนึง่ จะประกอบดวยลูกบั้งไฟประมาณ 8-15 ลกู ข้ึนอยูกบั ขนาดของบงั้ ไฟ ลูกบัง้ ไฟชว ยใหรปู ทรงของบั้งไฟกลมเรียวสวยงาม นอกจากน้ลี ูกบง้ั ไฟยงั เปนพื้นผิวรองรบั การ เอาหรือการตกแตงลวดลายปะตดิ กระดาษ ประเภทของบ้ังไฟ ประเภทของบัง้ ไฟจําแนกประเภทไดจ ากวิธีการผลติ มที ั้งหมด 7 ชนิด ไดแก 1.บั้งไฟโหวดบงั้ ไฟโบดหรือโหวดเปน บงั้ ไฟขนาดเล็กตวั กระบอกจะยาวข้ึน ประมาณ 4-10 นิว้ บรรจหุ ม่ือหนักประมาณ 1 สวน 8 ถงึ 1 สวน 2 กิโลกรัม ใชหางยาวประมาณ 1-4 เมตร มกี ระบอกไมไผเล็กๆ มัดวางรอบตวั บั้งไฟ นิยมทําประกอบกันใน บ้งั ไฟใหญ (บั้งไฟหม่ืน, บ้ังไฟแสน) ปจ จุบันไมค อยนยิ มทํา เพราะไมมชี าง 2.บัง้ ไฟมา บัง้ ไฟชนดิ น้ีเปนบัง้ ไฟขนาดเล็กจดุ ไปตามทิศทางท่ีกาํ หนดใชเ สน ลวดเปน วิถีตรงึ ไปยงั เปาหมายทีต่ องการ ลักษณะ ท่วั ไปเปน บ้ังไฟทที่ าํ จากกระบอกไมไ ผ 1 ปลอ ง ขนาดแลวแตตองการ โดยท่วั ไปเสน ผาศนู ยกลางประมาณ 2 นว้ิ ยาวประมาณ

นายสริ ภพ วงศนาถกลุ 5816613060 1 ฟุตทางภาคกลางและภาคอีสานเรียกวา “ลกู หน”ู คลายมาที่กาํ ลังว่ิง ถา ตดิ รูปอะไรก็เรยี กชื่อไปตามน้ัน เปน คนขม่ี า รูปววั แลว แตจะทํารปู อะไร บางครงั้ ภาคเหนือเรียกวา บอกไฟยงิ 3.บั้งไฟชา งบัง้ ไฟชนดิ นีไ้ มม หี างมชี ่ืออีกอยางหนงึ่ วากระโพกหรอื ตะโพก เวลาจุดไมตอ งการใหพงุ ข้ึนไปแตตองการมีเสียงรอง คลา ยกบั ชางรอง วิธีทาํ บัง้ ไฟใหใ ชกระบอกไมไ ผที่มีขนาดใหญท สี่ ดุ ยาวเพยี งปองเดยี วใหม ีขอปด ทง้ั 2 ดา นทบุ ไมไ ผใ หแ ตก เลก็ นอย เจาะรู เพอื่ บรรจุหม่ือแลวตอ ชนวนเขา รแู ทง หมือ่ ทําจากหมื่อถาน 3-4 อัดลงในไมไผขนาดเล็กใหแ นน แลวผาเอาแทง หมอ่ื ออกมาคลายขาวหลามใหไดแ ทงประมาณ 3 นว้ิ การจดุ นั้นนยิ มตอพว งชนวนบงั้ ไฟใหญเวลาจดุ ชนวนผาจะเกดิ เสยี งดัง เหมอื นเสยี งชางรองนิยมวางตอกันเปน ชวงๆกระบอก ถาตองการจะใหม ีเสียงดังอยางไรกจ็ ะมเี ทคนิคในการทําใหเ กดิ เสยี งน้ันๆ 4.บงั้ ไฟแสนบ้งั ไฟชนิดนเ้ี ปนบ้ังไฟขนาดใหญทส่ี ุดบรรจุดนิ ปนหนัก 120 กโิ ลกรมั ขึ้นไป บ้ังไฟขนาดน้ที ํายากทีส่ ุดจะตอ งอาศัย ความชํานาญเปนพเิ ศษ เพราะบ้งั ไฟขนาดน้หี ากแตกแลวจะเปน อนั ตรายมาก เพราะฉะน้ันกอนทําบ้ังไฟจะตองมีพิธกี รรม บวงสรวงใหถ ูกตองตามหลักการทาํ บงั้ ไฟแสนเสยี กอนจึงจะลงมือทํา เมอ่ื ตกบั้งไฟเสรจ็ เรียบรอยแลว จะมกี ารตกแตงประดับ ประดาบง้ั ไฟ 5.บั้งไฟตะไลบ้งั ไฟชนดิ นี้ก็คอื บ้ังไฟขนาดใหญน ั่นเอง มคี วามยาวประมาณ 9-12 น้ิว รปู รางกลมมไี มบางๆ แบนๆ เปนวงกลม ครอบหวั ทายบั้งไฟเมือ่ พงุ ข้ึนสฟู าไปโดยทางขวาง 6.บั้งไฟตื้อบ้ังไฟตื้อหรอื บ้งั ไฟกระแตน่งั ตอ เปน บง้ั ไฟขนาดเลก็ มหี างสนั้ วิธีทํา ตดั กระบอกไมไผขนาด 1 นิ้วครึ่งยาวประมาณ 3 น้ิว อดั หมื่อใหแนนประมาณ 2 นวิ้ ใชห ม่ือถา นสามหรือถานสี่อดั ดว ยเถียดไมใหแ นน ตอหางซ่ึงทาํ จากไมไ ผ เหลาเปนแทง เล็กๆ ใชเลื่อยตดั มมุ ขอ ออกจนเหน็ หมื่อ เจาะใหเปน รเู ลก็ ๆ แลว ติดชนวน เวลาจะจุดเอาหางเสยี บลงในแทน ทีต่ ั้งพอใหต ั้งได จุดชนวนจากดา นบน บ้ังไฟจะพงุ และหมุนขนึ้ สูอากาศ เกิดเสียงดงั ตือๆ เวลาหมนุ จะไมค อ ยมที ิศทาง ใชจดุ ในงานศพ เวลาจดุ มีอันตรายมากไมค อยนยิ มทํากัน 7.บัง้ ไฟพลุบั้งไฟพลุ เปน บงั้ ไฟทนี่ ิยมจดุ ในเทศกาลตางๆ เชน งานกฐิน งานบุญมหาชาติ หรอื งานเปด กีฬา ฯลฯ เปนบงั้ ไฟท่ี จดุ แลว ทําใหเ กิดเสียงดงั ในอดตี นิยมจุดในงานกฐิน เพื่อเปน การบอกขาวไปยงั พี่นอ งประชาชนทั่วไปใหท ราบ การตกแตงบ้ังไฟ การเอบัง้ ไฟ เอ ในภาษาลาวหรอื ภาษถ่นิ อีสาน น้ัน แปลวา ตกแตง ประดับ ใหสวยงาม โดย นอกจากใชกับการ ตกแตง รถบง้ั ไฟสวยงาม หรือ ตวั บงั้ ไฟใหส วยงามแลว ยังใชร วมถงึ กับ นางรําในขบวนฟอ น เชน \"นางเอ\" หมายถึง นางรํา หรอื ชา งฟอ น ทหี่ นาตาสวย โดดเดน หรือ รําสวยงาม เอาไว ประดับ ขบวน หรือราํ ในแถวหนาของขบวนฟอน เปนตน โดย ปกติ การเอบัง้ ไฟ ในสมัยกอน ในแตละชมุ ชน จะมีการตกแตง บัง้ ไฟ และการตกแตงเคร่ืองประกอบ ในรถท่ใี ชแหบ ง้ั ไฟ (เกวยี น) หรือ รถยนตใ นปจจุบัน เรยี กวา \"เครือ่ งลาง\" โดยเครอ่ื งลา ง หมายถงึ สวนองคประกอบอื่นๆ ที่นอกเหนือ จาก ตวั บ้ัง ไฟ โดย ในชมุ ชน คมุ วดั ใน เขต เทศบาลเมอื งยโสธร มกี ารจดั ทาํ และตกแตง บง้ั ไฟเอ ของชุมชน (ในราว ๓๐ ปกอน) และ อาํ เภอสุวรรณภูมิ จังหวัดรอยเอด็ ท่นี ยิ มตกแตงบงั้ ไฟ และเครอ่ื งลาง ดวยลายกรรไกรตัด (มากกวา ๒๐๐ ป)ลายบ้ังไฟ : ใช

นายสิรภพ วงศนาถกลุ 5816613060 ลายศิลปะไทย คือ ลายกนก อันเปน ลายพื้นฐานในการลับลายบง้ั ไฟ โดยชางจะนิยมใชกระดาษดังโกทองดานเปนพ้ืนและสีเมด็ มะขามเปนตัวสบั ลาย (ยกเวน ลายศรภี ูมิ ในเขตอาํ เภอสุวรรณภมู ิ จงั หวดั รอ ยเอด็ ทเ่ี ปน ลายกรรไกรตัด และนยิ มใชส แี ดง เลอื กนก ตดั สเี หลอื งทอง) เพ่ือใหล ายเดนชัดในการตกแตง เพ่ือใหความสวยงาม 1.ตัวบัง้ ไฟมีลูกโอจะใชลายประจาํ ยาม ลายหนาเทพพนม ลายหนากาล ลูกเอใ ชล ายประจํายาม กามปเู ปลว และลายหนา กระดาน ฯลฯ 2.กรวยเชิง เปนลวดลายไทยทเี่ ขียนอยูเชิงยาบทปี่ ระดบั พริ้วลงมาจากชวงตวั บง้ั ไฟ 3.ยาบเปน ผา ประดบั ใตเลาบง้ั ไฟ จะสับลายใดขึ้นอยูกบั ชางบั้งไฟนน้ั เชน ลายกา นขดู ลายกาน ดอกใบเทศ 4.ตวั พระนางเปนรูปลักษณส่ือถึงผาแดงนางไอ หรือตัวละครในเร่ืองรามเกยี รต์ิ พระลักษณ พระราม เปนตน 5.กระรอกเผอื กทาวพังคี แปลงรา งมาเพ่ือใหนางไอหลงใหล 6.ปลองคาดลายรักรอย ลายลกู พัดใบเทศ ลายลูกพดั ขอสรอ ย เปน ตน 7.เกรินเปนสวนท่ียืน่ ออกสองขางของบุษบก เปน รูปรอนเบด็ ลายกนก สําหรับตง้ั ฉตั รทายเกริน ราชรถประดบั สวนทายของหาง บ้ังไฟ 8.บุษบก เปนองคป ระกอบไวบ นราชรถ เพ่ือสมมุติใหเ ปนปราสาทผาแดงนางไอ 9.ตางบ้ังไฟมีลายกระจังปฏญิ าณ ลายกานขด ลายพุมขาวบณิ ฑ 10.ลายประกอบตกแตงอ่ืนๆ มลี ายกระจงั ตง้ั กระจงั รวน กระจงั ตาออย ลายนอ งสงิ ห บัวรว น กลีบขนุน กิจกรรมในวนั งาน กอ นจะถงึ วนั งานหรือวันเอาบญุ ชาวบานกจ็ ะชวยกันเตรียมงานกนั อยางสามัคคี ชาวบา นท่ไี ดรบั มอบหมายจะสรา ง ปะรํา หรือ \"ผาม\" หรอื \"ตบู บญุ ”ฝา ยแมค รัวก็เตรียมขาวปลาอาหารไวเ ล้ยี งแขกเล้ียงคนฝายชา งฟอนก็เตรยี มขบวนรําไว สําหรับแหบงั้ ไฟฝา ยผูชายทเ่ี ปน ชางฝม ือก็ชวยกนั ทําบงั้ ไฟและตกแตงใหส วยงามงานบญุ บั้งไฟสว นใหญจ ะไมคอ ยมีพิธีกรรม ทางศาสนาเทาใดนักแตบางแหงก็มีพธิ ที ําบุญเล้ยี งพระบางวันโฮม เปนชาวบา นก็จะมาตงั้ ขบวนเพือ่ แหบ้งั ไฟไปรอบๆ หมบู าน เปนงานบุญที่เนนความสนุกสนานร่ืนเรงิ ในขบวนจะมีการรําเซ้งิ ตามบั้งไฟ และบรรดานักด่มื ทง้ั หลายก็จะรองเพลงเซงิ้ ไปขอ เหลาตามบานตา งๆ กาพยเซง้ิ อาจจะหยาบคายแตกไ็ มมีใครถอื สากัน แตก าพยเซิ้งทีใ่ ชแหใ นขบวนมักจะเปน ประวัติและความ

นายสิรภพ วงศนาถกุล 5816613060 เปน มาของพิธีบุญบ้งั ไฟวนั จุดบ้งั ไฟก็อาจจะเปนอกี วนั หนึง่ คอื เปนวันทีช่ าวบานจะเอาบั้งไฟของแตละคุม แตล ะหมบู านมาจุด แขง กนั ถา ของใครทํามาดจี ดุ ขึ้นไดสงู สดุ กจ็ ะชนะแตถ าของใครแตกก็ถือวา แพ ตอ งโดนลงโทษโดยการจบั โยนลงโคลนหรอื ตม ซงึ่ เปน ทส่ี นุกสนานอยางยงิ่ การจุดบง้ั ไฟเปน การเสี่ยงทาย ถา บงั้ ไฟข้ึนสงู ก็ทํานายวา ฝนจะตกดี ขาวปลาอาหารอุดมสมบูรณ วิลเลยี ม เจ. คลอสเนอรไดก ลาววา “ในวันกอ นจะจดุ บ้ังไฟจริงๆนั้น ในหมูบานจะมีความสนกุ สนานกันมาก มีการรองราํ ทําเพลง ดมื่ กินและการละเลน ซงึ่ สอ หนักไปในเรอื่ งทางเพศ เชน การรองเพลงสองแงสองงาม การทาํ ทา ทางสอ ไปในเรื่องทางเพศอยา งหยาบๆ เดก็ หนมุ แตง ตวั เปนหญงิ และ ใชปลัดขกิ โบก หรือตรงึ ไวห วางขาแลวยงิ จากหนงั สต๊กิ ใสพวกผหู ญงิ หรอื ดดี ตวั ออกมาจากกลองถา ยรปู ทท่ี าํ ดว ยไมในบรเิ วณวดั ซง่ึ ปกติ แลวจะสงบสุขและถกู จํากดั ดวยระเบียบวนิ ัย ตอนบายจะมขี บวนรองราํ ทาํ เพลง รวมท้งั ขบวนของคนเมาแหแหนบง้ั ไฟที่เสร็จสมบรู ณ แลว ไปรอบพระอโุ บสถ เพือ่ ใหท ุกคนไดช ื่นชมขบวนท่ีเคลอ่ื นไปเร่ือยๆ การรองราํ ทาํ เพลงของพวกผูชายเกือบท้ังหมดนจี้ ะเดนิ สายตวั ไป รอบๆ ศาลา เปน ภาพท่มี ีสสี ัน ชดุ ทส่ี วมใสจะแตกตางกนั ออกไป นับตั้งแตผาโสรง ไปจนถงึ ชดุ หรือกระโปรงทไี่ ปหยบิ ยืมมา ผาโพกผม ลายดอกสีสนั แสบตา รวมทง้ั การเอาผลสม โอยัดใสเ ขา ไปในบรเิ วณทเี่ หมาะสม รองเทา ผา ใบหรือรองเทา ทหารเกาๆซักคกู อ็ าจทาํ ใหช ุดดู ทันสมัยแมจะไมเขา กนั สักนดิ กต็ าม ใบหนาของพวกผชู ายเหลา น้ีจะทาแปงลายพรอ ย บางคนกใ็ สเล็บปลอมทําดว ยทองแดงหรือ กระดาษยาว 6-8 นว้ิ ตดิ ไวท ่มี อื ซ่งึ เคลือ่ นไหวไปมางดงาม ทกุ อยางจะซาลงเล็กนอ ยเม่ือย่าํ ค่าํ ”(น.57-58,2545) สรปุ ประเพณบี ุญบง้ั ไฟเปนประเพณีทส่ี าํ คัญของภาคอีสานของประเทศไทย ประเพณีบุญบั้งไฟเปน ประเพณีท่ีเกิดขน้ึ จาก ความเชื่อของชาวบานทางภาคอีสาน โดยเปน ความเชือ่ ที่อิงมาจากการดําเนนิ ชีวิตของชาวบา น นอกจากน้ีประเพณีบุญบงั้ ไฟมี การสบื ทอดมาอยางยาวนาน ถือไดว าเปน อีกหนึ่งประเพณที ่แี สดงออกถงึ เอกลักษณข องวัฒนธรรมไทย ซ่ึงดึงดดู นักทอ งเทยี่ ว และกระตนุ เศรษฐกจิ ของประเทศไทยไดเปน อยางดี เราจงึ ควรชว ยกันอนุรกั ษป ระเพณบี ุญบั้งไฟสืบไป เพอ่ื คงไวใหลูกหลานได สืบทอด และรักษาไวเ พื่อแสดงออกถึงเอกลักษณของวัฒนธรรมไทยสบื ไป บรรณานุกรม ประเพณีบญุ บงั้ ไฟ.(๑พฤษภาคม ๒๕๕๙ ) . สบื คน จาก :

นายสิรภพ วงศน าถกลุ 5816613060 https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8 %9E%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%9A%E0%B8%B1% E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%9F ประเพณบี ญุ บงั้ ไฟ.(๑พฤษภาคม ๒๕๕๙ ) . สบื คนจาก : http://www.dmc.tv/pages/scoop/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E 0%B8%9E%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%9A%E0%B8 %B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%9F- %E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0% B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%9 9%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0 %B8%8D%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%9F.html รวมประเพณีบุญบ้ังไฟ.(๑พฤษภาคม ๒๕๕๙ ) . สบื คน จาก : http://travel.kapook.com/view117797.html วิลเลียม เจ. คลอสเนอร.วัฒนธรรมไทย ในชว งการเปลี่ยนแปลง. พิมพค รัง้ ท่ี ๑. (กรงุ เทพมหานครฯ : มูลนิธิ เจมสเ อช.ดับเบลิ ยู.ทอมปส ัน,๒๕๔๕). หนา ๕๕-๕๘


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook