ประวตั คิ วามเปน็ มาและความรทู้ ่ัวไป แนวคิดกีฬาบาสเกตบอล กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาท่มี ีความเปน็ ท่นี ิยมมากในสมัยนี้ จงึ มีความจำเป็นอย่างย่งิ ท่อี ย่างนอ้ ย สดุ ผ้เู รยี นควรรทู้ กั ษะข้นั พน้ื ฐาน ความรทู้ วั่ ไป กติกา กลวิธีการเล่น กฎกตกิ าการแขง่ ขัน ตลอดจนความ ปลอดภัยในการเลน่ เพ่ือสามารถนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ไม่วา่ จะดา้ นการเป็นผู้เลน่ หรือการเปน็ ผ้ชู ม เพื่อดู้ และเลน่ ได้อยา่ งถูกต้องและสนกุ สนานต่อไป สาระการเรียนรู้ 1. ความรทู้ ่วั ไปเกยี่ วกับกีฬาบาสเกตบอล 2. ทักษะกฬี าบาสเกตบอล 3. วธิ กี ารเล่นกฬี าบาสเกตบอล 4. กลวธิ ีกรเล่นกีฬาบาสเกตบอล 5. กฎ กตกิ าการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอล 6. ความปลอดภัยในการเลน่ กีฬาบาสเกตบอล ผลการเรยี นทคี่ าดหวงั 1. มีความรู้ทว่ั ไปเกีย่ วกับกีฬาบาสเกตบอล 2. มีทักษะการเล่นกีฬาบาสเกตบอล 3. มคี วามรคู้ วามเข้าใจวธิ ีการเลน่ กฬี าบาสเกตบอล 4. รแู้ ละเขา้ ใจกลวิธกี ารเลน่ กีฬาบาสเกตบอล 5. รู้ เขา้ ใจ จำแนก และปฏิบัตติ าม กฎกติกาในการเล่นและการแข่งขนั กีฬาบาสเกตบอล 6. รู้เขา้ ใจเพ่ือนำไปปฏบิ ตั ิ เก่ียวกบั ความปลอดภัยในการเล่นกฬี าบาสเกตบอล ประวัติในตา่ งประเทศ กฬี าบาสเกตบอลเป็นกีฬาประเภททมี มีผ้เู ล่นฝ่ายละ ๕ คน โดยมจี ุดม่งุ หมายเพอื่ นำ ลูกบาสเกตบอลไปโยนลงห่วงประตูของฝา่ ยตรงกนั ขา้ มให้ได้มากท่สี ุด กำเนิดข้นึ เปน็ ครั้งแรกทีป่ ระเทศ สหรฐั อเมรกิ า โดยเรมิ่ จาก (JamesA.Naismith) ไดค้ ดิ ขนึ้ เพ่ือเล่นในโรงพลศกึ ษา ของสมาคมวายเอ็มซีเอ นานาชาติ (International Young Men’s Christian Association Training School) ท่ีเมอื ง สปริงฟลี ด์ มล รฐั แมสซาซูเซตส์ ในช่วงท่มี หี ิมะตก เมอื่ ค.ศ. ๑๘๙๑ (พ.ศ. ๒๔๓๔) โดยใชต้ ะกรา้ ลกู พีช ๒ ใบแขวนเป็นประตู จึงทำให้กีฬานไ้ี ดช้ อ่ื วา่ บาสเกตบอล (Basketball) การเลน่ ครัง้ น้นั ใช้ ลูกฟตุ บอลเปน็ ลูกบอล มีผเู้ ล่นท้งั หมด
๑๘ คน แบ่งออกเป็น ๒ ฝา่ ยฝา่ ยละ ๙ คน มีกฎการเล่น ๔ ข้อ คือ ตอ่ มามีการปรบั ปรุงการเลน่ เป็น ๑๓ ขอ้ โดยลดผเู้ ล่นเหลอื ฝ่ายละ ๕ คน เนื่องจากในการเล่นเกิดการ ปะทะกันเพราะสนามแคบ ดังนั้นจงึ ทำให้เกมการ เล่นสมบูรณ์ย่ิงข้ึนท้ังยังลดการปะทะกนั อกี ดว้ ย ในปัจจบุ นั กตกิ าการเล่นดังกล่าวยงั คงปรากฏอยู่ ณ โรงพลศกึ ษากตกิ านใ้ี ช้มาจนถึง ค.ศ. ๑๙๓๗ (พ.ศ. ๒๔๘๐) จึงได้ปรับปรงุ แกไ้ ขคร้ังใหญ่เพ่ือใชใ้ นการแขง่ ขนั กีฬาโอลมิ ปิกครั้งที่ ๑๑ ทีก่ รงุ เบอรล์ ิน ประเทศสเยอรมนี และใน ค.ศ. ๑๙๓๙ (พ.ศ. ๒๔๘๒) ดร.เจมส์ เอ. เนสมิท กเ็ สียชวี ิตลง กอ่ น จะได้เหน็ ความสำเรจ็ และความย่ิงใหญ่ในกีฬาบาสเกตบอลทีเ่ ขาคิดค้นขนึ้ ต่อมาจากนั้นกีฬาบาสเกตบอลกแ็ พร่หลาย พฒั นาการเล่นเปน็ ท่ีนิยมอยา่ งรวดเรว็ เป็นทีร่ ู้ จ้ กั กันท่ัวโลก องคก์ รทเี่ กีย่ วข้องกับกีฬาบาสเกตบอลในระดบั นานาชาติ ได้แก่ สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ (ชือ่ ภาษาอังกฤษ International Amateur Basketball Federation ชอื่ ภาษาฝรัง่ เศส Fe’de’ration International de Basketball Amateur ใช้ชื่อยอ่ ว่า FIBA) นอกจากนีย้ ังมีองค์กรในระดับทวีป เชน่ สมาพนั ธบ์ าสเกตบอลเอเชยี (Asian Basketball Confederation หรือ ABC) เป็นตน้ ประวัติกีฬาบาสเกตบอลในประเทศ ประเทศไทยเริ่มเลน่ กีฬาบาสเกตบอลกันตั้งแตเ่ มือ่ ใด สมัยใด ยังไม่มหี ลักฐานยนื ยันอย่างแน่ ชดั แต่เทา่ ท่คี ้นคว้าและมีหลกั ฐานยืนยันวา่ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ นายนพคุณ พงษส์ ุวรรณ อาจารย์สอนภาษาจนี ได้แปลกติกา การเลน่ บาสเกตบอลจากภาษาอังกฤษ เป็นภาษาไทยขึน้ เปน็ ครั้งแรก พ.ศ ๒๔๗๗ กรมพลศึกษาได้จัดการแขง่ ขันกีฬา บาสเกตบอลระดบั นักเรียนขนึ้ เปน็ ครั้งแรก สมัยที่ น.อ หลวงศุภชลาศัย ร.น ดำรงตำแหนง่ อธิบดีกรมพลศึกษา พ.ศ ๒๔๙๕ ไดม้ ีการจดั การแข่งขันกฬี าบาสเกตบอลระหวา่ งนักเรยี นหญิง และ การแข่งขนั ระหว่างประชาชนทวั่ ๆไป พ.ศ. ๒๔๙๖ ได้มกี ารจัดตัง้ สมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย และไดเ้ ป็นสมาชิก สมาคม บาสเกตบอลระหว่างประเทศต้ังแต่ วันท่ี ๑๐ กรกฎาคม ๒๔๙๖ ปจั จุบนั กฬี าบาสเกตบอลถกู บรรจใุ นหลักสตู รการเรียนการสอนแทบ ทุกระดับการศึกษา คือตง้ั แตร่ ะดบั ประถม มธั ยม และอดุ มศึกษา นอกจากน้ยี งั มี การแข่งขนั อยู่ตลอดเวลา องค์กรสำคญั ที่ส่งเสรมิ และจัดการแขง่ ขันกีฬาบาสเกตบอล ในประเทศไทย ไดแ้ ก่ สมาคมบาเกตบอลแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถัมภ์ กรมพลศึกษา กรงุ เทพมหานคร การกีฬาแหง่ ประเทศไทย ทบวงมหาวทิ ยาลัย (กฬี ามหาวทิ ทยาลยั ) กองทัพ (กีฬาเหล่าทัพ) กองทัพอากาศ (กีฬานักเรยี น) สถาบันการศึกษาทัว่ ไป
กติกาบาสเกตบอล (อยา่ งสังเขป) สนามแข่งขันปรับปรุงใหม่ ปี 2553/2010 – สนาม 28 x 15 เมตร ( เล็กสุด 26x 14 เมตร ) เพดานไม่ตำ่ กวา่ 7 เมตร เสน้ สนาม 5 ซม. ทุก เส้น
– ลูกบาสเกตบอล ขนาดเบอร์ 7 เส้นรอบวง 74.9-78 ซม. หนัก 567 – 650 กรัม การกระดอน ปลอ่ ยจากจดุ 180 ซม. ต้องกระดอนระหว่าง 120 – 140 ซม. – ทีม ผู้เล่น 10- 12 คน ( แลว้ แต่กำหนด ) ลงเล่น 5 คน – เวลาการแขง่ ขัน 4 ชว่ ง ๆ ละ 10 นาที ( พักชว่ ง 2 นาที พกั คร่งึ 15 นาที ) เสมอต่อเวลา พเิ ศษ ก่ชี ว่ งกไ็ ด้จนชนะช่วงละ 5 นาที – วิธีการเล่น เลน่ ไดท้ ั้งมือเดียวและ 2 ขา้ ง การทำผิดระเบียบคอื ว่ิงพรอ้ มลกู เตะ ทุบ ชก อยา่ งจง ใจ – การครอบครองบอล การถือหรือเลีย้ งบอลถือเปน็ บอลดี ทมี ท่คี รอบครองส่งไป มา ถือเปน็ บอล ดี ลกู ที่ปล่อยออกจากการยิงประตู การโยนโทษถือเปน็ บอลตาย – การไดป้ ระตู ยงิ 2 ,3 ตามพน้ื ท่ีกำหนด , 1 แต้ม คอื ลกู โทษ – การเลีย้ งคอื การให้บอลอยู่ในอากาศและใหก้ ระทบพ้นื กอ่ นถูกมืออีกครัง้ โยนปัด กลิ้ง ถือเป็นบอล ดี – กติกาเวลา 3 วนิ าที (ผเู้ ลน่ ฝา่ ยรุกเข้าไปอยู่พ้ืนทใ่ี ตแ้ ป้นฝ่ายรบั ) 8 วินาที (ผเู้ ลน่ ฝ่ายรกุ ต้องเอา บอลข้ึนสพู่ นื้ ทใี่ นเกมรกุ ) 24 วนิ าที(ฝา่ ยรกุ ต้องทำการยงิ ประตภู ายในเวลาทก่ี ำหนดนับต้ังแตส่ ่งบอลเข้าเล่น จากเสน้ หลัง) – การฟาล์วบคุ คล ทำผิดคือ ดึง สกดั กน้ั ผลกั เข้าชน ขดั ขา ขดั ขวางการเคลื่อนท่ีโดยแขน ศอก ไหล่ สะโพก ขา เข่า เท้า เล่นหยาบคาย เล่นรนุ แรง บทลงโทษ บันทึกและเปล่ยี นการครอบครองบอล ไก้ล จดุ เกดิ เหตุ ฟาลว์ คู่ ทำฟาล์วบุคคลพร้อมกัน บทลงโทษ บนั ทึก และให้ฝ่ายท่ีไดเ้ ปรียบส่งบอลเขา้ เล่นหรอื จั๊ม บอลถ้าหาผู้ได้เปรยี บไมไ่ ด้ ประโยชนก์ ารเล่นกีฬาบาสเกตบอล 1.พัฒนากลไกการเคล่อื นไหวของร่างกายให้ดีขึน้ โดยมกี ารทำงานประสานกนั ระหวา่ งระบบ กลา้ มเนอ้ื และระบบประสาท เช่น การประสานงานของมอื กบั ตา เท้ากบั ตา มือกบั เทา้ เปน็ ตน้ 2.ฝกึ ให้มนี ้ำใจนกั กีฬา ทำให้เป็นคนใจกวา้ ง รู้แพ้ รู้ชนะ รูอ้ ภยั ยอมรบั ความคิดเหน็ และ ความสามารถของผอู้ ่นื ตลอดจนเคารพต่อกฎกติกา ระเบยี บของการแข่งขันบาสเกตบอล 3.นำไปใช้ในการจดั การจัดการเรียนการสอนวชิ าพลศึกษา ในการเรียนวิชาพลศึกษาทุกช่วงชัน้ แทบ ทกุ โรงเรียนมักมีการจดั กฬี าบาสเกตบอลเป็นกิจกรรมให้นกั เรยี นได้เรยี นรเู้ พ่ือการออกกำลังกาย 4.ทำใหร้ ่างกายแขง็ แรง การเลน่ กีฬาบาสเกตบอลจะใหไ้ ด้ออกกำลังกาย จงส่งผลใหร้ ่างกายแขง็ แรง 5.พัฒนาและเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย การเล่นบาสเกตบอลต้องใชค้ วามสามารถทางรา่ งกาย หลายด้านเช่น ความเร็ว ความคล่องตวั ความแข็งแรง ความอดทน เป็นตน้ จงึ สง่ ผลให้มีสมรรถภาพทางกายดี ข้ึน
6.ทำให้เกดิ ความรักใคร่ สามัคคีในหมู่คณะ บาสเกตบอลเป็นกีฬาประเภททีม ผเู้ ลน่ ต้องฝึกซอ้ ม ร่วมกนั ประสานสมั พนั ธ์กนั ในการเลน่ มีการช่วยเหลอื กนั เกิดความเหน็ อกเหน็ ใจกัน 7.ทำให้มไี หวพรบิ ดี ฉลาด และแกป้ ัญหาไดด้ ี การเลน่ บาสเกตบอลต้องมีการเผชญิ หน้ากับคแู่ ข่งขนั มีการหลบหลกี หลอกล่อเข้าแย่งลูกบอล ทำใหต้ ้องคดิ และมกี ารตดั สินใจตลอดเวลา 8.ทำให้สนุกสนาน เพลิดเพลิน กฬี าบาสเกตบอลเป็นกฬี าท่เี ลน่ สนุก คลายความตึงเครียดในการ ประกอบภารกิจประจำวนั ได้ 9.ทำให้มจี ิตใจหนักแนน่ ควบคุมอารมณ์ได้ดี การเล่นบาสเกตบอลย่อมมีการกระทบกระทง่ั กนั อยู่ บ่อยครัง้ จึงเปน็ การช่วยฝึกจติ ใจให้หนักแนน่ และควบคุมอารมณโ์ กรธ เพราะเป็นการกระทบกระท่ังกนั ในเกม การเล่น มารยาทของการเป็นผ้เู ลน่ และผ้ดู กู ฬี าบาสเกตบอล กีฬาบาสเกตบอลเป็นกฬี าทม่ี ีผ้เู ลน่ 2 ฝ่ายแข่งขันกัน ไม่มตี าข่ายมากน้ั สนามไมใ่ หญน่ กั และตอ้ ง มกี ารเคล่ือนไหวอย่ตู ลอดเวลา แมก้ ติกาจะห้ามถูกตัว ปะทะ ชน กระแทกกนั แต่ในการเลน่ จรงิ ๆ แลว้ ยอ่ ม หลีกเลีย่ งไดย้ าก ถา้ ผเู้ ลน่ ท้ังสองฝา่ ยไม่ให้อภัยกัน ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ ไมเ่ คารพกติกา ปัญหาการ ทะเลาะววิ าทอาจเกิดขน้ึ ได้บ่อยคร้งั ในฝา่ ยของผดู้ ูกต็ อ้ งรักษามารยาทด้วยเช่นกัน ทง้ั ผู้เลน่ และผดู้ จู ึงต้องมี มารยาทในการเลน่ และดูดังนี้ 1. มารยาทของผ้เู ล่นทดี่ ี มีดังน้ี 1.1 แตง่ กายในชุดทเ่ี หมาะสมกบั การเลน่ กีฬาบาสเกตบอล 1.2 ปฏบิ ตั ติ ามกฎกติกา และระเบียบการแขง่ ขนั อย่างเครง่ ครัด 1.3 ต้องมีนำ้ ใจนกั กีฬา 1.4 ต้องเล่นดว้ ยความสภุ าพ และมมี ารยาทของนักกีฬา 1.5 ไมแ่ สดงอาการดีใจ หรือเสียใจในผล แพ้ / ชนะจนเกนิ ไป 1.6 ยอมรับการตัดสินของผู้ตัดสนิ ไม่โต้เถยี ง หรอื แสดงกริ ิยาที่ไมด่ ีต่อผู้ตัดสิน 1.7 รูจ้ กั ระงบั อารมณเ์ มื่อเกิดการยวั่ ยแุ ละกระทบกระทง่ั จากฝา่ ยตรงข้าม 1.8 ตอ้ งเลน่ อย่างสุดความสามารถไม่วา่ จะแพ้ หรอื ชนะ 1.9 เม่อื เกิดการเลน่ ผดิ พลาดขึ้นในทีมจะต้องไม่ว่ากนั 1.10 ก่อนการแข่งขนั และหลงั แขง่ ขนั ให้จบั มือกบั ผู้แขง่ ขัน และไหวข้ อบคุณผตู้ ดั สิน และผชู้ ว่ ยผู้ ตัดสินเมือ่ เสรจ็ สิ้นการแข่งขัน
2. มารยาทของผูด้ ทู ่ีดี มีดังน้ี 2.1 ควรน่ังหรอื ยืนดใู หเ้ ป็นระเบยี บเรยี บร้อย ไม่บงั ผ้อู ่นื ไม่กดี ขวางการเล่นของนกั กีฬา และทำหนา้ ทของผตู้ ัดสนิ 2.2 ต้องมนี ้ำใจนักกฬี า 2.3 ปรบมอื แสดงความยนิ ดีกับผเู้ ลน่ ท่เี ลน่ ได้ดี 2.4 ไมแ่ สดงกริ ยิ าทา่ ทางหรือสง่ เสยี งยว่ั ยุใหผ้ เู้ ล่นไมม่ สี มาธิในการเล่น หรือนำไปสู่การเกิดเรื่อง ทะเลาะววิ าท 2.5 ยอมรบั การตดั สนิ ของผู้ตัดสนิ ไม่ควรแสดงกิรยิ าหรอื วาจาทไ่ี ม่สุภาพต่อผตู้ ัดสิน 2.6 ไม่ประท้วง โห่ หรือ ขวา้ งปา วัตถุใดๆ ลงไปในสนามแขง่ ขนั 2.7 ไมท่ ำใหส้ นาม หรอื สถานที่แข่งขันสกปรก 2.8 แสดงความยนิ ดีกับผชู้ นะ และเปน็ กำลงั ให้กบั ผแู้ พ้ การดแู ลรกั ษาอปุ กรณ์ การดแู ลรกั ษาอุปกรณเ์ ปน็ สิง่ ทีผ่ ูใ้ ช้อปุ กรณท์ ุกคนต้องรว่ มกันรับผิดชอบ เพอ่ื ให้อปุ กรณ์มคี วาม ทนทานใช้งานได้นานทส่ี ุด คุ้มคา่ กบั งบประมาณทีซ่ ื้ออปุ กรณม์ า ซึ่งควรปฏบิ ตั ิดงั น้ี 1. ควรทำความสะอาดลูกบาสเกตบอลท่ีเปรอะเปื้อนดว้ ยการใช้ผ้าแหง้ เช็ด 2. ถา้ ลูกบอลตกน้ำใหร้ ีบเกบ็ ขึ้นมา และเช็ดใหแ้ หง้ 3. ไม่ควรสบู ลกู บอลจนแขง็ เกนิ ไป ถา้ จะเอาลมออก ก็ควรใช้เขม็ ทใ่ี ชก้ ับลูกบาสเกตบอล ไม่ควรใช้ ของแหลมแทงทีจ่ ุบ๊ เพ่ือปลอ่ ยลม 4. ไมค่ วรนง่ั ทับลูกบาสเกตบอล 5. ไมค่ วรให้ลกู บาสเกตบอลตากแดด ตากฝนเป็นเวลานาน 6. ควรเกบ็ ลูกบาสเกตบอลในท่ีท่ีเหมาะสม เช่น เกบ็ ในรถเข็นใส่อุปกรณ์ เป็นตน้ 7. ตรวจนบั ลูกบาสเกตบอลกอ่ นและหลังเลน่ ทุกครั้งวา่ อยู่ครบหรือไม่ 8. รักษาพ้ืนสนามใหเ้ รียบ สะอาด ถา้ เป็นพื้นไม้ปาเกตค์ วรเชด็ ถดู ว้ ย 9. สำรวจเสา กระดานหลงั ห่วงประตูว่ามัน่ คงอยูห่ รือไม่ถา้ หลวม โยก คลอน ต้องรบี ซ่อมทันที 10. ไมค่ วรโหน หรือโยกเสา ห่วงประตู หรอื ตาขา่ ย 11. ตาข่ายควรใช้ลวด เทป หรอื เชอื กยึดใหต้ ดิ แน่นกับห่วงประตอู ยเู่ สมอ ถา้ หลดุ ใหร้ บี พันให้ เรยี บรอ้ ย 12. ไมค่ วรนำลูกบาสเกตบอลไปเตะเล่น
สนามแข่งขนั ปรบั ปรงุ ใหม่ ปี 2553/2010 – สนาม 28 x 15 เมตร ( เล็กสดุ 26x 14 เมตร ) เพดานไม่ตำ่ กว่า 7 เมตร เส้นสนาม 5 ซม. ทุก เสน้ – ลูกบาสเกตบอล ขนาดเบอร์ 7 เสน้ รอบวง 74.9-78 ซม. หนัก 567 – 650 กรมั การกระดอน ปล่อยจากจดุ 180 ซม. ต้องกระดอนระหว่าง 120 – 140 ซม. – ทีม ผเู้ ล่น 10- 12 คน ( แลว้ แตก่ ำหนด ) ลงเลน่ 5 คน – เวลาการแข่งขนั 4 ชว่ ง ๆ ละ 10 นาที ( พักชว่ ง 2 นาที พักคร่ึง15 นาที ) เสมอต่อเวลาพิเศษ กช่ี ว่ งก็ไดจ้ นชนะช่วงละ 5 นาที – วธิ กี ารเล่น เลน่ ไดท้ ั้งมือเดียวและ 2 ขา้ ง การทำผดิ ระเบยี บคือวงิ่ พร้อมลกู เตะ ทบุ ชก อย่างจง ใจ – การครอบครองบอล การถือหรอื เลีย้ งบอลถือเป็นบอลดี ทีมท่คี รอบครองส่งไป มา ถือเป็นบอล ดี ลกู ทีป่ ลอ่ ยออกจากการยิงประตู การโยนโทษถือเป็นบอลตาย – การได้ประตู ยิง 2 ,3 ตามพนื้ ที่กำหนด , 1 แตม้ คือลกู โทษ – การเลี้ยงคอื การใหบ้ อลอยู่ในอากาศและให้กระทบพ้นื ก่อนถกู มืออีกครง้ั โยนปัด กลงิ้ ถือเปน็ บอลดี – กติกาเวลา 3 วนิ าที (ผเู้ ลน่ ฝา่ ยรกุ เขา้ ไปอยู่พน้ื ทีใ่ ตแ้ ป้นฝ่ายรับ) 8 วินาที (ผูเ้ ล่นฝา่ ยรกุ ตอ้ งเอาบอล ขึ้นสูพ่ ื้นทีใ่ นเกมรุก) 24 วนิ าที(ฝ่ายรุกต้องทำการยงิ ประตูภายในเวลาทก่ี ำหนดนับตัง้ แต่ส่งบอลเข้าเลน่ จากเสน้ หลงั ) – การฟาลว์ บุคคล ทำผดิ คอื ดึง สกัดกัน้ ผลกั เขา้ ชน ขดั ขา ขัดขวางการเคลอ่ื นท่ีโดยแขน ศอก ไหล่ สะโพก ขา เขา่ เท้า เลน่ หยาบคาย เลน่ รุนแรง บทลงโทษ บนั ทึกและเปลย่ี นการครอบครองบอล ไก้ลจดุ เกดิ เหตุ ฟาลว์ คู่ ทำฟาล์วบคุ คลพร้อมกนั บทลงโทษ บนั ทกึ และให้ฝา่ ยท่ีได้เปรียบสง่ บอลเข้าเล่นหรอื จ๊ัม บอลถา้ หาผู้ไดเ้ ปรยี บไม่ได้ ประโยชน์การเลน่ กีฬาบาสเกตบอล 1. พฒั นากลไกการเคลอื่ นไหวของร่างกายใหด้ ีขน้ึ โดยมกี ารทำงานประสานกนั ระหว่างระบบ กลา้ มเนอ้ื และระบบประสาท เช่น การประสานงานของมือกบั ตา เท้ากับตา มือกบั เทา้ เปน็ ตน้ 2. ฝึกให้มีน้ำใจนกั กีฬา ทำให้เปน็ คนใจกวา้ ง รู้แพ้ รูช้ นะ รู้อภยั ยอมรับความคิดเหน็ และ ความสามารถของผู้อืน่ ตลอดจนเคารพต่อกฎกตกิ า ระเบยี บของการแข่งขนั บาสเกตบอล 3. นำไปใช้ในการจดั การจัดการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา ในการเรยี นวิชาพลศกึ ษาทุกช่วงช้นั แทบ ทุกโรงเรียนมกั มีการจดั กฬี าบาสเกตบอลเป็นกจิ กรรมให้นักเรยี นไดเ้ รยี นรูเ้ พื่อการออกกำลงั กาย 4. ทำใหร้ ่างกายแขง็ แรง การเลน่ กีฬาบาสเกตบอลจะให้ได้ออกกำลังกาย จงส่งผลใหร้ ่างกายแข็งแรง
5. พฒั นาและเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย การเลน่ บาสเกตบอลตอ้ งใชค้ วามสามารถทางร่างกาย หลายด้านเช่น ความเร็ว ความคลอ่ งตัว ความแขง็ แรง ความอดทน เป็นต้น จึงสง่ ผลให้มีสมรรถภาพทางกายดี ขึ้น 6. ทำใหเ้ กิดความรักใคร่ สามัคคีในหมู่คณะ บาสเกตบอลเปน็ กีฬาประเภททีม ผูเ้ ลน่ ตอ้ งฝกึ ซ้อม รว่ มกนั ประสานสัมพนั ธ์กนั ในการเลน่ มกี ารชว่ ยเหลือกนั เกดิ ความเหน็ อกเหน็ ใจกัน 7. ทำให้มไี หวพริบดี ฉลาด และแก้ปัญหาไดด้ ี การเล่นบาสเกตบอลต้องมีการเผชญิ หน้ากับคแู่ ข่งขัน มกี ารหลบหลกี หลอกล่อเข้าแยง่ ลูกบอล ทำให้ตอ้ งคดิ และมกี ารตดั สินใจตลอดเวลา 8. ทำให้สนกุ สนาน เพลิดเพลนิ กฬี าบาสเกตบอลเป็นกีฬาทีเ่ ลน่ สนกุ คลายความตึงเครียดในการ ประกอบภารกิจประจำวนั ได้ 9. ทำใหม้ ีจติ ใจหนักแน่นควบคุมอารมณ์ได้ดี การเลน่ บาสเกตบอลย่อมมีการกระทบกระทั่งกนั อยู่ บ่อยคร้งั จึงเป็นการชว่ ยฝึกจิตใจให้หนักแน่น และควบคุมอารมณ์โกรธ เพราะเปน็ การกระทบกระทง่ั กันในเกม การเล่น มารยาทของการเปน็ ผู้เล่น และผ้ดู กู ีฬาบาสเกตบอล กฬี าบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่มีผู้เล่น 2 ฝ่ายแข่งขนั กัน ไมม่ ีตาข่ายมาก้ัน สนามไม่ใหญน่ ักและต้องมีการ เคล่อื นไหวอยูต่ ลอดเวลา แม้กติกาจะหา้ มถูกตวั ปะทะ ชน กระแทกกัน แตใ่ นการเลน่ จริงๆ แลว้ ย่อม หลีกเลย่ี งได้ยาก ถา้ ผูเ้ ลน่ ทั้งสองฝ่ายไม่ใหอ้ ภยั กัน ควบคุมอารมณต์ นเองไมไ่ ด้ ไมเ่ คารพกติกา ปัญหาการ ทะเลาะวิวาทอาจเกดิ ขึ้นได้บ่อยคร้ัง ในฝ่ายของผดู้ ูกต็ อ้ งรกั ษามารยาทดว้ ยเช่นกัน ทัง้ ผู้เลน่ และผดู้ ูจึงตอ้ งมี มารยาทในการเล่นและดูดงั นี้ 1. มารยาทของผเู้ ล่นที่ดี มีดงั นี้ 1.1 แต่งกายในชดุ ทเี่ หมาะสมกบั การเลน่ กีฬาบาสเกตบอล 1.2 ปฏิบัตติ ามกฎกติกา และระเบยี บการแข่งขันอยา่ งเคร่งครัด 1.3 ต้องมีน้ำใจนกั กฬี า 1.4 ตอ้ งเล่นด้วยความสุภาพ และมมี ารยาทของนักกีฬา 1.5 ไมแ่ สดงอาการดใี จ หรือเสียใจในผล แพ้ / ชนะจนเกนิ ไป 1.6 ยอมรับการตัดสินของผตู้ ัดสิน ไมโ่ ตเ้ ถียง หรอื แสดงกริ ิยาทไ่ี มด่ ีต่อผตู้ ดั สิน 1.7 ร้จู กั ระงบั อารมณ์เมื่อเกิดการยั่วยแุ ละกระทบกระทัง่ จากฝา่ ยตรงขา้ ม 1.8 ตอ้ งเล่นอย่างสุดความสามารถไม่ว่าจะแพ้ หรือชนะ 1.9 เมอ่ื เกิดการเล่นผิดพลาดขึน้ ในทมี จะต้องไมว่ า่ กนั 1.10 กอ่ นการแข่งขนั และหลงั แขง่ ขันให้จับมือกบั ผู้แข่งขัน และไหว้ขอบคุณผตู้ ัดสนิ และผชู้ ว่ ยผู้ ตัดสินเมอ่ื เสร็จส้นิ การแขง่ ขัน
2. มารยาทของผู้ดูท่ีดี มีดังนี้ 2.1 ควรน่ังหรอื ยนื ดูให้เป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย ไมบ่ งั ผูอ้ นื่ ไม่กดี ขวางการเล่นของนักกฬี า และทำ หน้าท่ีของผู้ตดั สนิ 2.2 ตอ้ งมนี ้ำใจนกั กฬี า 2.3 ปรบมอื แสดงความยินดีกับผู้เล่นท่เี ลน่ ไดด้ ี 2.4 ไม่แสดงกิริยาทา่ ทางหรือสง่ เสยี งยัว่ ยใุ หผ้ ู้เล่นไม่มีสมาธิในการเลน่ หรอื นำไปสกู่ ารเกิดเรอ่ื ง ทะเลาะวิวาท 2.5 ยอมรบั การตดั สินของผ้ตู ัดสิน ไมค่ วรแสดงกริ ยิ าหรอื วาจาท่ไี มส่ ุภาพตอ่ ผตู้ ัดสิน 2.6 ไมป่ ระทว้ ง โห่ หรอื ขว้างปา วัตถใุ ดๆ ลงไปในสนามแข่งขนั 2.7 ไมท่ ำใหส้ นาม หรอื สถานท่ีแข่งขันสกปรก 2.8 แสดงความยินดีกบั ผ้ชู นะ และเป็นกำลังให้กบั ผ้แู พ้ การดแู ลรกั ษาอปุ กรณ์ การดแู ลรักษาอปุ กรณ์เป็นสงิ่ ทผี่ ้ใู ช้อปุ กรณท์ กุ คนต้องร่วมกันรับผดิ ชอบ เพอื่ ให้อุปกรณ์มคี วาม ทนทานใช้งานได้นานที่สุด คุ้มค่ากับงบประมาณทซ่ี ื้ออปุ กรณม์ า ซงึ่ ควรปฏิบตั ดิ ังน้ี 1. ควรทำความสะอาดลูกบาสเกตบอลที่เปรอะเปื้อนดว้ ยการใชผ้ ้าแหง้ เชด็ 2. ถ้าลูกบอลตกนำ้ ให้รีบเกบ็ ขึน้ มา และเชด็ ใหแ้ หง้ 3. ไมค่ วรสูบลกู บอลจนแขง็ เกนิ ไป ถ้าจะเอาลมออก กค็ วรใช้เข็มทใี่ ช้กับลูกบาสเกตบอล ไม่ควร ใชข้ องแหลมแทงทีจ่ ๊บุ เพ่ือปล่อยลม 4. ไม่ควรนงั่ ทับลูกบาสเกตบอล 5. ไมค่ วรใหล้ ูกบาสเกตบอลตากแดด ตากฝนเปน็ เวลานาน 6. ควรเกบ็ ลูกบาสเกตบอลในท่ที ี่เหมาะสม เชน่ เกบ็ ในรถเข็นใสอ่ ุปกรณ์ เปน็ ตน้ 7. ตรวจนับลกู บาสเกตบอลก่อนและหลังเลน่ ทุกครง้ั ว่าอยู่ครบหรอื ไม่ 8. รักษาพืน้ สนามใหเ้ รยี บ สะอาด ถ้าเป็นพืน้ ไมป้ าเกต์ควรเชด็ ถดู ้วย 9. สำรวจเสา กระดานหลงั หว่ งประตวู ่าม่นั คงอย่หู รือไม่ถา้ หลวม โยก คลอน ต้องรบี ซ่อมทันที 10. ไม่ควรโหน หรอื โยกเสา ห่วงประตู หรอื ตาข่าย 11. ตาข่ายควรใชล้ วด เทป หรือเชือกยดึ ให้ติดแน่นกบั หว่ งประตูอยู่เสมอ ถ้าหลุดใหร้ บี พันให้ เรยี บรอ้ ย 12. ไม่ควรนำลูกบาสเกตบอลไปเตะเล่น
ทักษะการเคล่อื นท่ี พืน้ ฐานการยนื ท่าเตรยี มพร้อม เป็นทา่ เตรยี มพร้อมสำหรับการตั้งรับแบบโซน ปฏบิ ัติโดยยืนแยกเท้าหา่ งกัน 1 ช่วงไหล่ ยอ่ เข่าลงตาม ถนัด ให้นำ้ หนักตวั สว่ นใหญ่อยทู่ ่ีปลายเทา้ ทง้ั สอง ลำตัวตัง้ ตรง กางแขนทั้งสองขา้ งออกพรอ้ มใชง้ าน สายตา มองตรง การกา้ วเทา้ เคลอ่ื นที่ตามกนั หรือการสไลด์ 1. การสไสลด์ไปดา้ นข้างไปได้ท้ังสองข้าง ซ้ายและขวา ถ้าต้องการไปทางขวา ให้ก้าวเท้าขวาไปก่อน และตามด้วยเท้าซ้าย ชดิ ไปเรื่อย ๆ ด้านซ้ายก็เช่นเดยี วกนั เพยี งแตเ่ ปล่ยี นเทา้ ขน้ึ นำ 2. การสไลด์ไปดา้ นหน้าและถอยหลัง เปน็ การก้าวเท้าตามกันไปหรอื ถอยหลงั ตามกนั ไป ถ้าจะไป ขา้ งหนา้ ให้กา้ วเท้าขวาเปน็ เทา้ อีกข้างตามกนั เรื่อย ๆ การวงิ่ แลว้ หยุด 1. การหยดุ ด้วยเท้าข้างเดียว เป็นการหยดุ ทมี่ ีเท้านำเทา้ ตาม คอื เมื่อว่งิ มาและต้องการหยดุ เม่อื เท้า หนต้ กถึงพืน้ ให้ลงดว้ ยปลายเท้าและหย่อนเข่าลง ลดสะโพกตำ่ ลง แขนกางออกข้อศอกงอ 2. การหยุดเทา้ คู่ เท้าทง้ั 2 ข้างพรอ้ มกัน เปน็ การหยุดแบบเท้าคู่ คือว่ิงมาเมือต้องการหยดุ ให้ กระโดดขน้ึ เล็กน้อยแล้วลงสู่พน้ื ดว้ ยเทา้ ท้งั 2 ขา้ งพร้อมกัน เม่ือเท้าตกถึงพ้นื ให้ให้ลงด้วยปลายเท้าแล้วย่อเข่า ลง ลดสะโพกตำ่ ลง กางแขนออก งอข้อสอบ การกระโดด ในการเล่นบาสเกตบอล ต้องใชก้ ารกระโดดบ่อยมากทำโดยยืนแยกเทา้ หา่ งกนั หนงึ่ ช่วงไหล่ ยอ่ ตัวลง แล้วกระโดดชูแขนขน้ึ ลำตวั และขาเหยียดตรง การจบั และการครอบครองบอล การจับบอลเปน็ ทกั ษะเริ่มตน้ ที่เลน่ กบั ลูกบอล โดยจบั ตรงกลางลูกบอลด้านขา้ งค่อนมาด้านหลงั ด้วย มือทั้ง 2 ขา้ งกางข้อศอกออกเลก็ นอ้ ย กางนิ้วมือออกพอประมาณ ใหน้ ้วิ มือทุกน้วิ และฝ่ามือสัมผัสลูกเต็ม ๆ น้ิวหวั แม่มืออยู่ด้านในใกลล้ ำตัวตำแหน่งของลูกบอลอย่รู ะดบั อก ยืนเท้าแยก 1 ช่วงไหล่ยอ่ เขา่ ลงเล็กน้อยให้ ปลายเทา้ ส่วนใหญ่อย่ทู ปี่ ลายเทา้ ท้ัง 2 ข้าง
การเล้ียงลูกบาสเกตบอล การเลย้ี งบอลให้ใชส้ ว่ นของปลายนวิ้ และโคนนิว้ ไมใ่ ชอ่ ุ้งมือกดลูกลงตามจังหวะลูกกระดอน ไม่ใช่การ ตลี กู ดว้ ยมือ แบ่งตามลักษณะความสูง เล้ียงบอลสงู ใชส้ ำหรับการเคลื่อนท่เี รว็ ความสูงของลูกบอลอยูร่ ะดับอก และไหลข่ องผู้เลี้ยงใชใ้ นกรณีท่ตี อ้ งการ เคลื่อนท่ีไปข้างหน้าอย่างรวดเรว็ เพอ่ื หนีคตู่ ่อสู้ , เพือ่ ทำประตู เป็นตน้ การเลีย้ งบอลกลาง เปน็ การเลย้ี งบอลระดับเอว ใช้ในกรณที ตี่ ้องการครอบครองบอลอยู่กับท่ี และรอจงั หวะการเล่นลูก ลกั ษณะอ่นื ๆ ต่อไป การเลี้ยงบอลตำ่ เป็นการเลยี้ งบอลระดบั หัวเข่า ใช้กรณีท่ตี ้องการหลบหลีกคูต่ อ่ สู้ เปล่ียนทศิ ทางการเคล่ือนท่ี การรบั ลกู บาสเกตบอล ทกั ษะการรับลูกตอ้ งฝกึ ไปพร้อม ๆ กบั การส่งแบง่ ได้ 3 ระดับคือ 1. สูง 2. กลาง 3. ตำ่ หลกั การรบั ลูกท้ัง 3 ระดบั มีหลักการเดยี วกันคอื ยน่ื มอื อกไปรับบอล และผ่อนแรงบอลเพ่ือ ลดแรงกระแทก ข้อเสนอแนะ 1. ตามองท่ลี ูกบาสเกตบอลตลอดเวลา 2. อย่าใช้องุ้ มือรับบอล ให้รับดว้ ยน้วิ และผอ่ นแรงลกู ดว้ ยน้ิวทแี่ รงมา 3. ควรให้สัญญาณกบั ผู้สง่ ลูก ใหร้ วู้ ่าสง่ ใหต้ ำแน่งและทิศทางใด อยา่ สง่ เสียงบอกให้ส่งมาให้เพราะคู่ ตอ่ ส้จู ะจบั ทางบอลได้ 4. พยายามวง่ิ เข้าหาลูก และว่ิงไปรับบอลอยา่ ยืนรอบอลอยู่กบั ที่
การสง่ บอล มหี ลายวธิ ีแตล่ ะวิธีแล้วแต่จดุ มุง่ หมายและและสถานการณ์ แตห่ ลักการคือควรส่งไปท่ีอกของเพ่อื น เพราะเป็นวิธีทเี่ พอ่ื นรับไดง้ า่ ยทีส่ ุด 1. การสง่ ลกู สองมือระดบั อก 2. การสง่ ลูกกระดอน 3. การสง่ สองมือขา้ ง 4.การสง่ สองมือบน เหนือ ศีรษะ 5.การส่งมอื เดียว เหนอื ศีรษะ เหนอื ไหล่ ขอ้ เสนอแนะ 1. อย่าส่งบอลให้กบั คนที่กำลังหันหลงั ให้ หรอื มีคู่ต่อสอู้ ยูป่ ระชิดตัว 2. อย่าส่งบอลขา้ มคนเพราะอาจทำใหค้ ่ตู ่อสู้ตดั บอลไปได้งา่ ย และอยา่ ลืมเป้าหมายของการส่งคือที่ หนา้ อกของเพ่ือนรว่ มทมี เพราะเปน็ ตำแหน่งทีร่ ับได้งา่ ย 3. อยา่ แสดงลักษณะทา่ ทางวา่ จะสง่ บอลแบบใด ที่ไหน และใหใ้ คร 4. ถา้ ต้องการส่งใหเ้ รว็ และ แรงข้นึ ควรสบื เท้าขา้ งใดข้างหน่งึ ไปข้างหนา้ เพ่ือถา่ ยน้ำหนักตวั เพ่มิ แรง บอล 5. อย่าเส่ยี งส่งลูกพลกิ แพลง 6. ยนื ส่งอยกู่ ับที่ควรหลอกล่อให้คตู่ ่อสู้เข้าใจผดิ เชน่ ทำทา่ ส่งไปดา้ นซา้ ยแต่ส่งไปด้านขวา แตก่ าร หลอกต้องไม่ใหเ้ พื่อรว่ มทีมเราเองหลงไปด้วย การยิงประตู เปน็ ข้ันตอนท่สี ำคัญทส่ี ดุ ในการรกุ และเปน็ จดุ มุ่งหมายหลกั ของการเลน่ บาสเกตบอล ซง่ึ ทกั ษะแต่ละ คนมไี มเ่ ทา่ กันตอ้ งอาศยั การฝึกฝน องคป์ ระกอบท่ีช่วยใหเ้ กิดความแม่นยำได้แก่ วิธีการเล็ง วธิ โี ค้งของลกู สง่ิ แวดลอ้ ม สภาพรา่ งกาย และจติ ใจผ้ยู งิ ประตู องคป์ ระกอบดงั กลา่ ว มผี ลตอ่ ความแม่นยำเป็นอยา่ งยิ่งเชน่ ในขณะทเ่ี กมกำลังดำเนนิ การแขง่ ขันซ่งึ มกั ดำเนนิ ดว้ ยความตน่ื เตน้ และดุเดอื ด เพราะผู้เล่นมีความสามารถในการเล่นเกมรับและเกมรุกพอๆกัน โดยเฉพาะเวลาที่มีแต้มใกลเ้ คียงกนั สภาพจติ ใจต้องเยือกเย็น มน่ั คง มีการตดั สินใจทแี่ น่วแนก่ ลา้ ที่จะสแู้ ละ ขณะเล่นต้องมจี ดุ เล็งท่ีดีเชน่ การยิงโดยไม่ให้ลกู กระทบแปน้ มจี ดุ เล็งที่เป็นจดุ กระทบข้ึนอยู่กับมุมยิง ระยะทาง
แรงของบอลโดยเฉพาะมุมแคบใต้แปน้ จุดกระทบมักอยู่สูงและไกลจากหว่ งสว่ นมุมยิงกว้างมมุ กระทบมักจะต่ำ และใกล้ห่วงประตนู อก จากนีค้ วามโค้งของสว่ นเดนิ ทางของลกู สหู่ ่วงประตูต้องมีความโค้งทม่ี ีขีดจำกัด ดังนัน้ ความสูงต่ำของความโค้งขนึ้ อยู่กับความกวา้ งของมมุ ยิงจากมือ และเพ่ือเพิ่มความแม่นยำ ในระยะทางทป่ี าน กลางควรมวี ิถโี ค้งปานกลางโดยท่วั ไปจุดสูงสดุ ของส่วนโค้งจะอยู่ระดบั ขอบบนของแปน้ ( ไม่รวมลกู กระทบ แป้น) สำหรับทศิ ทางและความเรว็ ของการหมุนของลูกนน้ั มาจากออกแรงของข้อมอื น้วิ มือ ขณะทีบ่ อลออก จากมอื และอยกู่ ลางอากาศซ่ึงจะทำให้ลูกหมนุ เข้าหาผยู้ งิ โดยใชข้ วางของลกู เป็นแกนหมุน ดังนั้นการรกั ษา ทิศทางทางและความแรงของลูกไว้จะชว่ ยเพิ่มความแมน่ ยำของลกู ไว้ สิ่งท่ีจะชว่ ยให้ประสบผลสำเรจ็ คือ โอกาสและพละกำลังของผเู้ ล่นทย่ี ิงลกู ด้วย โดยทัว่ ไปมวี ธิ กี ารดังนี้ - มือเดยี วเหนือศีรษะ - สองมอื เหนือศรี ษะ - ยิงใตห้ ว่ ง (เลยอ์ พั ) เป็นการยิงประตูระหว่างการเคลอ่ื นทใี่ นขณะทว่ี ิ่งแลว้ กระโดดขนึ้ ไปยงิ ประตู มักใชใ้ นการบุกเร็วและ เมอื่ เจาะผา่ นไปใตแ้ ปน้ ซง่ึ สามารถเข้าไปใกล้ใต้หว่ งมากทสี่ ดุ ผ้เู ลน่ ทกุ คนต้องฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ รวดเร็ว แมน่ ยำ และสามารถยงิ ได้ 2 มือทั้งมือซ้ายและมอื ขวา การยิงลูกใตห้ ่วงอย่างนี้เปฯ้ การผสมทกั ษะ หลายทักษะเขา้ ด้วยกัน คือการเลยี้ งลกู พร้อมกับว่ิง กระโดด และชลู กู ขึ้นยิงประตู บางครั้งผเู้ ลน่ ตอ้ งหลีกจาก การถกู ปัดขณะลอยตัวอยู่ดว้ ยท้ังนี้ทศิ ทางการวง่ิ เขา้ ยิงประตแู บง่ ได้ 3 ทิศทางคือ 1.ทศิ ทางหนา้ ตรงห่วง ยงิ ด้วยมือที่ถนัด 2.ทศิ ทางด้านขวา ยงิ ด้วยมอื ขวา 3.ทิศทางด้านซ้าย ยิงด้วยด้านซา้ ย การยงิ ใต้ห่วงจะยิงด้วยมอื เดียวหรือ 2 มอื ก็ได้ แต่สว่ นมากมักยิงด้วยมือเดยี วลักษณะของมอื ในการยิง มี 3 แบบคือ 1.แบบคว่ำมือ 2.แบบหงายมอื 3.แบบ 2 มอื
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: