Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore "จิตอาสา นำพาชีวิต สำนึกคิดปลูกจิต เพื่อสังคม"

"จิตอาสา นำพาชีวิต สำนึกคิดปลูกจิต เพื่อสังคม"

Published by duangdao2558, 2021-09-01 03:40:46

Description: "จิตอาสา นำพาชีวิต สำนึกคิดปลูกจิต เพื่อสังคม"

Search

Read the Text Version

ความหมายของ “จิตอาสา” จิตอาสา หรือ จติ สาธารณะ (public consciousness หรือ Public mind) หมายถงึ จิตสานกึ เพื่อส่วนรวม เพราะคาว่า “สาธารณะ” คอื สิ่งท่ีมิได้เปน็ ของผู้หนึ่งผู้ใด จติ สาธารณะจึงเปน็ ความรู้สึกถึงการเป็นเจ้าของใน สิง่ ท่ีเป็นสาธารณะ ในสิทธิและหน้าทีท่ ี่จะดแู ล และ บารุงรักษาร่วมกัน จติ อาสา หรอื มจี ติ สาธารณะ” ยังหมายรวมถึง จติ ของคนท่รี ู้จักความเสียสละ ความร่วมมือ รว่ มใจ ในการทาประโยชน์เพื่อส่วนรวม จะช่วยลดปญั หาท่ีเกดิ ขนึ้ ในสังคม ช่วยกนั พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ เพอ่ื เป็นหลกั การในการดาเนนิ ชีวติ ช่วยแกป้ ัญหาและสร้างสรรคใ์ ห้เกดิ ประโยชน์สขุ แกส่ งั คม เชน่ การชว่ ยกันดูแล รกั ษาส่งิ แวดล้อม โดยการไม่ทง้ิ ขยะลงในแหล่งนา้ การดแู ลรกั ษาสาธารณสมบัติ เชน่ โทรศพั ท์สาธารณะ หลอดไฟฟ้าที่ใหค้ วามสว่างตามถนนหนทาง แมแ้ ต่การประหยัดน้า ประปา หรอื ไฟฟ้า ท่ีเปน็ ของสว่ นรวม โดย ใช้ให้เกิดประโยชนอ์ ย่างคมุ้ คา่ ตลอดจนชว่ ยกนั ดแู ลรกั ษา ให้ความชว่ ยเหลือผ้ตู กทุกขไ์ ด้ยาก หรอื ผู้ทรี่ ้องขอ ความช่วยเหลอื เท่าทจ่ี ะทาได้ ตลอดจนรว่ มมือกระทาเพอื่ ไม่ใหเ้ กดิ ปญั หา หรอื ชว่ ยกนั แก้ปัญหา แต่ต้องไม่ขัด ต่อกฎหมาย เพ่ือรักษาประโยชน์ส่วนรวม ราชบณั ฑิตยสถาน ไดใ้ หค้ วามหมายของ จติ สานกึ ทางสงั คม หรอื จิตสานกึ สาธารณะว่า คือ การ ตระหนักรแู้ ละคานึงถงึ สว่ นรวมรว่ มกัน หรอื การคานึงถงึ ผอู้ ่ืนทร่ี ่วมสมั พนั ธ์เปน็ กล่มุ เดียวกัน สานักงานคณะกรรมการวจิ ัยแหง่ ชาติ ไดใ้ ห้ความหมายว่า การร้จู ักเอาใจใส่เปน็ ธรุ ะและเข้ารว่ ม ในเร่อื งของส่วนรวมท่เี ป็นประโยชน์ตอ่ ประเทศชาติ มี ความสานกึ และยึดมั่นในระบบคุณธรรม และจรยิ ธรรม ท่ีดีงาม ละอายต่อสิ่งผิด เน้นความเรยี บร้อย ประหยัดและมีความสมดลุ ระหวา่ งมนุษย์กับธรรมชาติ สรุป จติ อาสา หรือจิตสาธารณะ หรือจติ สานกึ สาธารณะ คือ จติ สานกึ (Conscious) เป็นการ ตระหนกั ร้ตู วั หรือเป็นจติ สว่ นที่รูต้ ัว รู้ว่าทาอะไร อยู่ทีไ่ หน เปน็ อย่างไรขณะท่ีต่นื อย่นู น่ั เอง ส่วน คาวา่ สาธารณะ (Public) เป็น การแสดงออกเพอ่ื สงั คมส่วนรวม เป็นการบรกิ ารชุมชน ทา ประโยชนเ์ พื่อสงั คม ถา้ เปน็ สงิ่ ของก็ต้องใชป้ ระโยชนร์ ว่ มกัน เม่อื นาสองคามารวม หมายถึง การตระหนักรตู้ น ท่จี ะทาสิ่งใดเพ่ือเหน็ แกป่ ระโยชน์ส่วนรวม ท่ีมา : http://www.nitade.lpru.ac.th/2012/html/news9.html นายภานุรจุ ทนั สุทธ�ิ นักวชิ าการศึกษา

ความหมายของจติ สาธารณะ ความหมายของจิตสาธารณะ คำว่ำ จิตสำธำรณะ (Public Mind) หรอื จติ สำนกึ สำธำรณะ (Public Consciousness)เปน็ คำใหมท่ ่ี มีใช้เมอื่ ไม่นำนมำน้ี และเปน็ เรื่องใหมส่ ำหรบั คนไทย ซ่ึงมผี ู้ให้ควำมหมำยของจิตสำนึกสำธำรณะหรือจติ สำธำรณะ ไวห้ ลำกหลำยและมีกำรเรียกจติ สำนึกสำธำรณะไวแ้ ตกต่ำงกนั ได้แก่ กำรเหน็ แกป่ ระโยชน์สว่ นรวม จติ สำนกึ ต่อสังคม จติ สำนึกต่อส่วนรวม จติ สำนกึ ต่อสำธำรณะสมบัติ เป็นต้นซ่ึงคำเหล่ำน้ี มผี ้ใู หค้ วำมหมำยไว้ ใกลเ้ คียงกันเม่ือแยกศกึ ษำควำมหมำยของจิตสำนึกและจติ สำธำรณะมีผู้ใหค้ ำจำกดั ควำมไว้หลำกหลำย ดงั น้ี รำชบณั ฑติ สถำน (2538: 231) ใหค้ วำมหมำยของจิตสำนกึ ว่ำ หมำยถงึ ภำวะที่จติ ต่ืนและรสู้ กึ ตัว สำมำรถตอบสนองต่อสง่ิ เร้ำจำกประสำทสัมผสั ทั้ง 5 คือ รปู รส กลน่ิ เสียง และสงิ่ สัมผัสได้ พรศักด์ิ ผ่องแผว้ (2541: 60) ไดใ้ ห้ควำมหมำยว่ำ จติ สำนกึ เป็นผลทไ่ี ด้มำจำกกำรประเมินคำ่ กำรเห็น ควำมสำคญั ซึ่งมีฐำนอย่ทู ่ีทศั นคติ ควำมเชอื่ ค่ำนิยม ควำมเหน็ และควำมสนใจของบุคคล จรรจำ สวุ รรณทตั (2535: 11) ได้ให้ควำมหมำยว่ำ ควำมสำนกึ หมำยถึง กำรรบั รู้หรือกำรท่ีบคุ คลมี ควำมรูใ้ นสงิ่ ต่ำงๆ กำรรบั รู้ หรือควำมสำนกึ ของบคุ คลน้ี จัดเปน็ ขน้ั ต้นของกระบวนกำรทำงจติ หลำยประเภท เปน็ ต้นวำ่ กระบวนกำรของกำรรับนวัตกรรม และกระบวนกำรเกดิ ทศั นคติ รำจ Raj (1996: 605) กลำ่ ว่ำ จติ สำนกึ เป็นคำที่ไมส่ ำมำรถใหค้ ำจำกัดควำมได้ชดั เจนแต่สำมำรถ อธบิ ำยที่ใกลเ้ คียงได้ 2 แนวทำง ซง่ึ แนวทำงแรกเป็นควำมคิดท่ีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลำไม่หยดุ นิง่ และแนวทำง ทีส่ อง หมำยถึง จิตสำนกึ ของบคุ คล เปน็ ควำมร้สู ึกของบคุ คลท่มี อี ยตู่ ลอดเวลำแม้ช่วงวำ่ งของเวลำ เช่น กำร นอนหลบั จำกควำมหมำยของจิตสำนกึ ทก่ี ลำ่ วมำ จึงสรุปไดว้ ่ำ จติ สำนึกเปน็ พฤติกรรมภำยใน อยำ่ งหนึ่งของ มนษุ ย์ ที่แสดงออกถึงภำวะทำงจติ ใจทเ่ี กย่ี วกับควำมรู้สึก ควำมคิด ควำมปรำรถนำตำ่ งๆ เป็นภำวะทำงจิต ต่นื ตวั และรู้ตวั สำมำรถตอบสนองต่อสง่ิ เร้ำจำกประสำทสมั ผสั ทง้ั หำ้ เปน็ สิ่งทีเ่ กดิ จำกประสบกำรณ์ตำ่ งๆ ของ มนุษย์ท่รี วมตวั กันข้ึน และมีควำมสัมพนั ธร์ ะหวำ่ งประสบกำรณ์ตำ่ งๆ เหล่ำนัน้ และประเมนิ คำ่ สิง่ เหล่ำนน้ั ออกมำเป็นจิตสำนึก คำว่ำสำธำรณะ (Public) เปน็ คำทีม่ ีควำมหมำยกว้ำง สำมำรถใชไ้ ดก้ ับส่งิ ของ บคุ คล สถำนที่และกำร กระทำ ซึ่งมีกำรใหค้ วำมหมำยไว้หลำกหลำย ดังนี้ รำชบัณฑติ ยสถำน (2538: 826) ให้ควำมหมำยคำวำ่ สำธำรณะ หมำยถงึ ท่ัวไปเกี่ยวกบั ประชำชน และสำธำรณะสมบตั ิวำ่ ทรัพย์สนิ ส่วนรวมของประชำชน สอ เสถบุตร (2530: 592) ได้แปลควำมหมำยคำว่ำ Public เปน็ ภำษำไทยวำ่ สำธำรณะซ่ึงหมำยถงึ ที่ สำธำรณะ ชมุ ชน เปดิ เผย กำรเผยแพร่ ส่ิงทีเ่ ป็นของท่ัวไป เชน่ ถนนหลวง สง่ิ ทเ่ี ป็นของรัฐบำล และสงิ่ ทเ่ี ป็น ของประชำชน ซลิ ลส์ (Sills. 1972: 567) กล่ำววำ่ สำธำรณะเป็นควำมรสู้ ึกเกี่ยวกบั ควำมสมั พันธ์ระหวำ่ งบคุ คล สรุปควำมหมำยของคำว่ำ สำธำรณะ ได้วำ่ ส่ิงของ บคุ คล สถำนที่ และกำรกระทำ ทเี่ ป็นของส่วนรวม ทุกคนมีสทิ ธ์ิที่จะใชป้ ระโยชนเ์ ป็นเจำ้ ของ หวงแหนในสิ่งเหล่ำนนั้ รว่ มกัน เม่ือรวมคำวำ่ จิตสำนึกและสำธำรณะ จึงได้คำวำ่ จิตสำนึกสำธำรณะ (Public Consciousness) หรือ จิตสำธำรณะ (Public Mind) ซงึ่ มผี ใู้ หค้ วำมหมำยไว้หลำกหลำยและมีกำรเรียกท่ีแตกต่ำงกนั ได้แก่กำรเหน็ แก่ ประโยชนส์ ่วนรวม จิตสำนึกตอ่ สงั คม จิตสำนึกต่อส่วนรวม จิตสำนกึ ตอ่ สำธำรณะสมบัตเิ ปน็ ตน้ ซึ่งคำเหลำ่ นม้ี ี ผใู้ หค้ วำมหมำยไว้ใกล้เคยี งกัน ดงั นี้

เกรยี งศักด์ิ เจริญวงศศ์ ักด์ิ (2543: 17) ไดใ้ หค้ วำมหมำยของคำวำ่ จิตสำธำรณะวำ่ หมำยถึง ควำมคดิ ที่ ไม่เหน็ แกต่ ัว มีควำมปรำรถนำท่ีจะช่วยเหลอื ชว่ ยแก้ปญั หำใหแ้ กผ่ ูอ้ นื่ หรือสังคมพยำยำมฉวยโอกำสท่ีจะ ช่วยเหลืออยำ่ งจรงิ จงั และมองโลกในแง่ดบี นพน้ื ฐำนของควำมเป็นจริง จติ สำธำรณะเส้นทำงส่ปู ระชำคม (2542: 9) กล่ำว่ำ คำว่ำ จติ สำนึกสำธำรณะ เปน็ คำเดียวกับคำว่ำจิต สำธำรณะ ซงึ่ หมำยถึง ควำมเป็นพลเมอื งผตู้ ่ืนรู้ ตระหนกั ในสิทธแิ ละควำมรบั ผดิ ชอบทจี่ ะสร้ำงสรรค์สังคม สว่ นรวมของคนสำมัญ พลเมืองท่รี ุก เรียกร้องกำรมีสว่ นร่วมและต้องกำรท่จี ะจดั กำรดูแลกำหนดชะตำกรรม ของตนและชมุ ชน กนิษฐำ นทิ ศั น์พฒั นำ และคณะ (2541: 8) ได้ใหค้ วำมหมำยของคำวำ่ จติ สำนกึ สำธำรณะ วำ่ เปน็ คำ เดียวกับคำว่ำจติ สำนึกทำงสงั คม หมำยถึง กำรตระหนกั รแู้ ละคำนงึ ถงึ สว่ นรวมร่วมกนั หรอื คำนงึ ถงึ ผูอ้ ่นื ทีร่ ่วม ควำมสัมพันธเ์ ป็นกลมุ่ เดียวกับตน ศกั ดชิ์ ัย นิรญั ทวี (2541: 57) กล่ำวว่ำ กำรมจี ิตสำนึกสำธำรณะคือ มีจิตใจท่คี ำนึงถึงประโยชนข์ อง สว่ นรวม คำนงึ ถงึ ควำมสำคัญของส่ิงอันเป็นของที่ต้องใช้ หรอื มีผลกระทบรว่ มกันในชุมชนเชน่ ปำ่ ไม้ ควำม สงบของชมุ ชน พรศกั ดิ์ ผอ่ งแผว้ (2541) ใชค้ ำวำ่ “จติ สำนกึ ” จิตสำนกึ (Consciousness) เป็นสภำวะจิตใจท่ี เกย่ี วกับควำมรู้สึก ควำมคดิ ควำมปรำรถนำตำ่ งๆ สภำวะจติ ใจดงั กลำ่ ว เกิดกำรรับรูซ้ ึ่งมคี วำมหมำยเหมือนกบั กำรรูต้ วั (Awareness) อนั เป็นผลจำกกำรประเมินคำ่ กำรเห็นควำมสำคัญซึ่งเปน็ สิง่ ท่ไี ด้มำจำกทัศนคติ (Attitude) ควำมเชอ่ื (Beliefs) คำ่ นิยม (Values) ควำมเห็น (Opinion)ควำมสนใจ (Interest) ของบุคคล คำ วำ่ “จิตสำนึก” มีควำมหมำยใกล้เคยี งทส่ี ุดกับคำวำ่ “ควำมเชอ่ื (Beliefs) ซึ่งเป็นสง่ิ ที่เกิดจำกกำรรวบรวมและ สมั พนั ธก์ นั ของประสบกำรณ์ของคน ทำหน้ำที่ประเมนิ คำ่ ของจติ ใจวำ่ ส่งิ ใดเปน็ ส่ิงสำคัญ หำกปรำศจำกควำมเชื่อประสบกำรณ์ตำ่ งๆ ท่ีคนมีอยนู่ ้ัน ก็จะอยู่เพยี งในควำม ทรงจำ ไม่มีส่วนใดมคี วำมสำคัญเดน่ ชัดขึ้นมำ แตห่ ำกวำ่ ประเมนิ คำ่ แล้วตระหนักถงึ ควำมสำคัญท่ีมีตอ่ สิง่ นน้ั แสดงวำ่ จติ สำนึกถงึ สงิ่ นั้นๆ ของบุคคลได้เกิดข้นึ แล้ว จติ สำนึกของบคุ คลเป็นสภำวะท่จี ิตใจกอ่ นกำรแสดงออก เชงิ พฤติกรรมทำงกำยภำพของบุคคล กำรมีจติ สำนกึ ท่ีดตี อ่ สิง่ หนึ่งไมท่ ำให้คนต้องแสดงออกตำมจติ สำนึกเสมอ ไป พฤติกรรมแสดงออกใดๆ ของมนษุ ย์น้ันเปน็ ผลมำจำก 1) ทัศนคติ 2) บรรทัดฐำนของสังคม 3) นสิ ยั และ 4) ผลทค่ี ำดว่ำจะไดร้ ับหลงั จำกกำรทำพฤตกิ รรมนัน้ ๆ แล้ว มัลลิกำ มัตโิ ก (2541: 5) ให้ควำมหมำยของจิตสำนกึ ทำงสงั คมวำ่ เปน็ กำรตระหนักรู้และคำนงึ ถึง สว่ นรวมรว่ มกัน หรอื คำนงึ ถงึ ผอู้ น่ื ท่ีรว่ มควำมสัมพนั ธเ์ ป็นกล่มุ เดยี วกับตน สยำมรฐั เรืองนำม (2542: 25) ใช้คำวำ่ ควำมสำนึกเชิงสงั คม หมำยถงึ กำรต่ืนตัวควำมรู้สกึ นึกคิด และควำมปรำรถนำต่ำงๆ ของบุคคลในสังคมท่ตี ้องกำรเขำ้ ไปแกว้ กิ ฤตกำรณห์ รือปัญหำสังคมและกอ่ ใหเ้ กดิ พฤติกรรมกำรรวมตวั เปน็ กลมุ่ หรอื องค์กร ทง้ั ภำครัฐ ภำคธรุ กจิ หรือภำคสังคม ในลกั ษณะที่เปน็ หนุ้ ส่วนกนั กอ่ ใหเ้ กดิ จติ สำนกึ ร่วมกัน สำนกั งำนคณะกรรมกำรวิจัยแหง่ ชำติ (2542: 14) ได้ใหค้ วำมหมำยจติ สำธำรณะวำ่ เปน็ กำรรู้จกั เอำใจ ใสเ่ ปน็ ธรุ ะและเข้ำร่วมในเร่ืองของส่วนรวมทีเ่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ชำติ บญุ สม หรรษำศิริพจน์ (2542: 71 – 73) ใชค้ ำวำ่ จิตสำนกึ ท่ีดใี นสังคม สงั คมในท่ีน้ีหมำยถงึ สงั คมใน ชมุ ชนของตน กำรปฏิบตั ิตนให้มีจติ สำนึกทีด่ ตี ่อชมุ ชนของตน คอื กำรปฏบิ ตั ิตน และกำรมสี ว่ นรว่ มทดี่ ีใน กจิ กรรมของชุมชน กำรช่วยกันดูแลชมุ ชนของตน กำรให้ควำมร่วมมือ กำรเสยี สละกำลงั กำย กำลังทรัพย์ เพื่อ กำรรกั ษำควำมปลอดภยั ในชุมชน เพ่ือสำธำรณปู โภคในชมุ ชน กำรใหค้ วำมเป็นมติ รและมนี ้ำใจต่อกนั

ชัยวัฒน์ ถริ ะพนั ธ์ (2542: 21 – 27) กลำ่ วถึง จิตสำธำรณะในควำมหมำยของฝรั่งคำว่ำ สำธำรณะ คือ สิ่งท่ีร่วมกันสร้ำงร่วมกนั ย้ือแย่ง มำจำกเจำ้ จำกรัฐ มันเป็นกระบวนกำรต่อสู้ จนร้สู กึ เป็นเจ้ำเขำ้ เจำ้ ของรว่ มกัน สชุ ำดำ จกั รพสิ ุทธิ์ (2544: 22) กล่ำววำ่ จิตสำนกึ สำธำรณะเปน็ คณุ ธรรม หรือขอ้ เรยี กรอ้ งสำหรบั สว่ นรวมในสภำพกำรณท์ เี่ กิดควำมไม่ปกตสิ ุข ควำมรว่ มมือของพลเมืองในกำรกระทำเพ่ือบ้ำนเมือง หฤทยั อำจเปรุ (2544: 37) ให้ควำมหมำย จติ สำนกึ สำธำรณะ คือ ควำมตระหนักของบุคคลถงึ ปัญหำ ทเ่ี กิดขนึ้ ในสงั คม ทำใหเ้ กิดควำมรู้สึกปรำรถนำทจี่ ะช่วยเหลอื สงั คม ต้องกำรเขำ้ ไปแกว้ ิกฤตกำรณ์ โดยรบั ร้ถู ึง สิทธคิ วบคไู่ ปกับหน้ำที่และควำมรบั ผิดชอบ สำนกึ ถึงพลงั ของตนว่ำสำมำรถร่วมแก้ไขปญั หำได้ และลงมอื กระทำ เพ่ือใหเ้ กดิ กำรแก้ปัญหำดว้ ยวิธีกำรต่ำงๆ โดยกำรเรียนรู้ และแก้ไขปัญหำร่วมกันกับคนในสังคม ชำย โพธิสิตำ และคณะ (2540: 14 – 15) ใช้คำว่ำ จิตสำนึกต่อสำธำรณะสมบตั ิและให้ควำมหมำยใน เชงิ พฤติกรรมไวว้ ่ำ คือ กำรใช้สำธำรณสมบตั อิ ย่ำงรับผิดชอบ หรอื กำรรบั ผดิ ชอบต่อสำธำรณสมบตั ิ ซึ่งมนี ัย สองประกำร ได้แก่ 1) กำรรบั ผดิ ชอบตอ่ สำธำรณสมบตั ิ ด้วยกำรหลกี เล่ียงกำรใช้และกำรกระทำท่จี ะก่อให้เกดิ ควำมชำรุดเสยี หำยตอ่ สำธำรณสมบตั นิ ั้นๆ รวมไปถึง กำรถือเป็นหนำ้ ทที่ จ่ี ะมสี ่วนรว่ มในกำรดแู ลสำธำรณะ สมบัตใิ นวสิ ัยทตี่ นสำมำรถทำได้ 2) กำรเคำรพสทิ ธกิ ำรใช้สำธำรณสมบตั ิของผู้อน่ื โดยกำรคำนงึ ว่ำ คนอ่ืนก็มี สทิ ธใิ์ นกำรใชเ้ ชน่ เดยี วกันจะตอ้ งไมย่ ึดสำธำรณะ สมบตั นิ ้นั ไวเ้ ป็นของส่วนตัว และไมป่ ดิ ก้นั โอกำสกำรใชป้ ระโยชน์สำธำรณะสมบัติของผอู้ ื่นวริ ัตน์ คำศรจี นั ทร์ (2544: 6) ให้ควำมหมำยว่ำ จิตสำนกึ สำธำรณะ หมำยถึงกระบวนกำรคิดและลกั ษณะของบุคคล ทมี่ ีกำรปฏิบตั ิ โดยมีกระบวนกำรในระดับบุคคลไปสู่สำธำรณะมคี วำมรักและรสู้ กึ เปน็ เจ้ำของสำธำรณะ ต้องกำรทจี่ ะทำ ประโยชน์มำกกวำ่ ทจี่ ะรบั จำกสำธำรณะ ลดั ดำวลั ย์ เกษมเนตร และคณะ (2547: 2 – 3) ให้ควำมหมำยของจิตสำธำรณะหมำยถึง กำรรู้จักเอำ ใจใส่เป็นธรุ ะและเข้ำร่วมในเรื่องของสว่ นรวมท่ีใชป้ ระโยชน์ร่วมกนั ของกล่มุ โดยพจิ ำรณำจำกควำมรู้ควำม เข้ำใจหรอื พฤติกรรมท่ีแสดงออกถึงลักษณะ ดังนี้ 1. กำรหลีกเลี่ยงกำรใชห้ รอื กำรกระทำท่ีจะทำใหเ้ กิดกำรชำรุดเสยี หำยตอ่ ของส่วนรวมท่ีใช้ประโยชน์ รว่ มกนั ของกลุ่ม และกำรถอื เป็นหนำ้ ที่ทจ่ี ะมสี ว่ นรว่ มในกำรดูแลรกั ษำของส่วนรวมในวิสยั ทีต่ นสำมำรถทำได้ 2. กำรเคำรพสทิ ธิ ในกำรใชข้ องส่วนรวมทใี่ ชป้ ระโยชนร์ ว่ มกนั ของกลุ่ม โดยไม่ยึดครองของส่วนรวม น้นั เป็นของตนเอง ตลอดจนไม่ปดิ กัน้ โอกำสของบคุ คลอ่นื ที่จะใชข้ องสว่ นรวมนนั้ ซงึ่ แบง่ นยิ ำมออกเป็น 3 องค์ประกอบ และ 6 ตวั ชีว้ ดั ดังตำรำงต่อไปนี้ ตำรำง 1 แสดงควำมสัมพนั ธ์ขององคป์ ระกอบและตัวชว้ี ัดในแต่ละองคป์ ระกอบของจิตสำธำรณะ องค์ประกอบ ตวั ช้วี ัด 1. กำรหลกี เล่ียงกำรใชห้ รอื กำรกระทำทจ่ี ะทำให้ 1.1 กำรดูแลรกั ษำ เกดิ ควำมชำรุดเสยี หำยต่อส่วนรวม 1.2 ลกั ษณะของกำรใช้ 2. กำรถือเปน็ หน้ำทท่ี ี่จะมีส่วนรว่ มในกำรดูแล 2.1 กำรทำตำมหนำ้ ทที่ ี่ถกู กำหนด 3. กำรเคำรพสิทธใิ นกำรใช้ของสว่ นรวม 2.2 กำรรบั อำสำท่ีจะทำบำงสิ่งบำงอยำ่ งเพ่ือสว่ นรวม 3.1 ไม่นำของส่วนรวมมำเปน็ ของตนเอง 3.2 แบง่ ปนั หรอื เปิดโอกำสให้ผู้อ่ืนไดใ้ ชข้ องสว่ นรวม

ชัยวัฒน์ สุทธริ ตั น์ (2552: 17) กลำ่ วไวว้ ำ่ จติ สำธำรณะเป็นกำรกระทำด้วยจติ วญิ ญำณที่มคี วำมรัก ควำมหว่ งใย ควำมเอ้อื อำทรต่อคนอ่ืนและสังคมโดยรวม กำรมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม และกำรไมก่ ระทำที่เสื่อม เสียหรอื เป็นปัญหำต่อสงั คม ประเทศชำติ กำรมีจิตท่ีคดิ สร้ำงสรรค์ เป็นกุศล และมุง่ ทำกรรมดที ี่เป็นประโยชน์ ตอ่ สว่ นรวม คิดในทำงที่ดี ไม่ทำลำยเบียดเบยี นบคุ คล สังคม วัฒนธรรมประเทศชำตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม กำร กระทำและคำพูดท่ีมำจำกควำมคิดที่ดี กำรลดควำมขดั แย้งและกำรให้ขวญั และกำลงั ใจต่อกันเพือ่ ใหส้ ังคมโดย สว่ นรวมมคี วำมสขุ ทม่ี า : http://ktbwsk.blogspot.com/2013/08/blog-post_2586.html นายภานุรจุ ทันสุทธิ� นักวชิ าการศึกษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook