Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผนวก

ผนวก

Published by nitesyala3, 2020-05-07 01:58:40

Description: ผนวก

Search

Read the Text Version

112 ภาคผนวก นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพเิ ศษ

113 ตวั อย่างผลงานวจิ ัย ผลของการพฒั นาทักษะในการสังเกตของนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 ปัญหา : นกั เรียนขาดทกั ษะในการสังเกตโดยประสาทสมั ผสั ท้งั 5 สาเหตุ : นกั เรียนไดร้ ับการฝึ กทกั ษะในการสังเกตไมเ่ พยี งพอ วตั ถุประสงค์ของการวิจยั เพอื่ พฒั นาทกั ษะในการสังเกต ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 วธิ ีการวิจัย 1. กล่มุ เป้าหมาย นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2543 จานวน 16 คน 2. วธิ ีการหรือนวตั กรรมท่ีใช้ 2.1 กิจกรรมฝึกทกั ษะการสังเกตจานวน 6 กิจกรรม ดงั น้ี 1) ทกั ษะการสังเกตโดยใชส้ ายตาดู 2) ทกั ษะการสงั เกตโดยใชม้ ือสัมผสั 3) ทกั ษะการสงั เกตโดยใชห้ ูฟัง 4) ทกั ษะการสังเกตโดยใชจ้ มูกดมกล่ิน 5) ทกั ษะการสังเกตโดยใชล้ ิน้ ชิมรส 6) ทกั ษะการสังเกตโดยใชป้ ระสาทสัมผสั ท้งั 5 2.2 แผนการสอน เป็นแผนการสอนที่จดั กิจกรรมฝึกทกั ษะท้งั 6 กิจกรรม เป็นเวลา 6 สัปดาห์ จดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยใชท้ กั ษะกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด ซ่ึงมีลาดบั ข้นั ตอนดงั น้ี 1) ข้นั สังเกต 2) ข้นั จาแนกความแตกตา่ ง 3) ข้นั หาลกั ษณะร่วม 4) ข้นั ระบุความคิดรวบยอด 5) ข้นั ทดสอบและประยกุ ตใ์ ช้ 2.3 เครื่องมือวดั ผลและรวบรวมขอ้ มูล ใชเ้ ครื่องมือดงั น้ี 1) แบบบนั ทึกผลการสังเกตกระบวนการปฏิบตั ิงาน 2) แบบตรวจสอบผลปฏิบตั ิงาน เคร่ืองมือท้งั สองชนิดน้ีจดั อนั ดบั คณุ ภาพของ 5 ระดบั ดงั น้ี ระดบั ท่ี 1 ควรปรับปรุงแกไ้ ข ระดบั ที่ 2 นอ้ ย นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพเิ ศษ

114 ระดบั ท่ี 3 ปานกลาง ระดบั ที่ 4 มาก ระดบั ที่ 5 มากอยา่ งยง่ิ 3. วิธีการรวบรวมข้อมูล ทาการรวบรวมขอ้ มูลดงั น้ี 3.1 บนั ทึกผลการสงั เกตกระบวนการปฏิบตั ิงานของนกั เรียน 3.2 บนั ทึกผลการตรวจสอบผลการปฏิบตั ิงานของนกั เรียน 4. วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล ทาการวิเคราะหข์ อ้ มูลโดยการพิจารณาขอ้ มูลจากการบนั ทึกผลการ สงั เกตกระบวนการปฏิบตั ิงานของนกั เรียน และการบนั ทึกผลการตรวจสอบผลการปฏิบตั ิงานของ นกั เรียน โดยใชม้ าตราส่วนประมาณคา่ 5 ระดบั คือ ระดบั ท่ี 1 ควรปรับปรุงแกไ้ ข ระดบั ที่ 2 นอ้ ย ระดบั ที่ 3 ปานกลาง ระดบั ที่ 4 มาก และระดบั ที่ 5 มากอยา่ งยง่ิ แลว้ นามาจดั อนั ดบั คณุ ภาพ 5. ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล จากการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ปรากฏผลดงั น้ี 1) นกั เรียนมีทกั ษะมากอยา่ งยงิ่ ในการสงั เกตโดยใชส้ ายตาดู 2) นกั เรียนมีทกั ษะมากอยา่ งยงิ่ ในการสงั เกตโดยใชม้ ือสัมผสั 3) นกั เรียนมีทกั ษะมากในการสังเกตโดยใชห้ ูฟังเสียง 4) นกั เรียนมีทกั ษะมากอยา่ งยงิ่ ในการสงั เกตโดยใชจ้ มูกดมกล่ิน 5) นกั เรียนมีทกั ษะมากในการสังเกตโดยใชล้ ิน้ ชิมรส 6) นกั เรียนมีทกั ษะมากอยา่ งยง่ิ การสังเกตโดยใชป้ ระสาทสัมผสั ท้งั 5 สรุปและสะท้อนผล กิจกรรมฝึกทกั ษะในการสงั เกตโดยใชป้ ระสารทสมั ผสั ท้งั 5 จานวน 6 กิจกรรม คือ 1) ทกั ษะ การสงั เกตโดยใชส้ ายตาดู 2) ทกั ษะการสังเกตโดยใชม้ ือสัมผสั 3) ทกั ษะการสังเกตโดยใชห้ ูฟังเสียง 4) ทกั ษะการสังเกตโดยใชจ้ มูกดมกลิ่น 5) ทกั ษะการสังเกตโดยใชล้ ิน้ ชิมรส และ 6) ทกั ษะการสงั เกตโดย ใชป้ ระสาทสัมผสั ท้งั 5 เป็นนวตั กรรมท่ีส่งเสริมให้นกั เรียนมีทกั ษะในการสังเกตในระดบั สูงมากถึงมาก อยา่ งยง่ิ ท้งั น้ีเนื่องจากการใชก้ ิจกรรมฝึกทกั ษะดงั กล่าว ไดจ้ ดั กิจกรรมให้นกั เรียนไดล้ งมือฝึกปฏิบตั ิ ตามลาดบั ข้นั ตอนท่ีเร่ิมจากการสังเกต การจาแนกความแตกตา่ ง การหาลกั ษณะร่วม การระบคุ วามคิด รวบยอด การทดสอบและประยกุ ตใ์ ช้ จึงช่วยใหน้ ักเรียนไดร้ ับประสบการณ์ตรงและประสบ ความสาเร็จในที่สุด นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพเิ ศษ

115 ผลของการพฒั นาทักษะการออกเสียงตวั Z ของนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 1 ปัญหา : นกั เรียนออกเสียงตวั Z ไมถ่ กู ตอ้ ง สาเหตุ : นกั เรียนขาดการฝึกทกั ษะในการออกเสียงตวั Z วัตถปุ ระสงค์ของการวิจัย เพอื่ พฒั นาทกั ษะในการออกเสียงตวั Z ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 วิธีการวิจัย 1. กลมุ่ เป้าหมาย นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2543 จานวน 20 คน 2. วิธีการหรือนวตั กรรมที่ใช้ 2.1 กิจกรรมฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z จานวน 4 กิจกรรม ดงั น้ี 1) กิจกรรมฝึกทกั ษะการฟังการออกเสียง Z 2) กิจกรรมฝึกทกั ษะการออกเสียง Z 3) กิจกรรมฝึกทกั ษะการออกเสียง Z เปรียบเทียบเสียง S 4) กิจกรรมฝึกทกั ษะการออกเสียง Z ในคาศพั ท์ กิจกรรมฝึกทกั ษะแต่ละกิจกรรม จดั ลาดบั ข้นั ตอนการฝึกโดยใชท้ กั ษะกระบวนการปฏิบตั ิ ซ่ึงมีข้นั ตอน ดงั น้ี 1) ข้นั สงั เกตและรับรู้ขอ้ มูล 2) ข้นั ปฏิบตั ิตามแบบ 3) ข้นั ฝึกทบทวนทาเอง 4) ข้นั วิเคราะหแ์ ละสรุป 5) ข้นั ฝึกปฏิบตั ิใหช้ านาญ 2.2 แผนการสอน เป็นแผนการสอนท่ีนากิจกรรมฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z แตล่ ะ กิจกรรม มาจดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยใชเ้ วลา 2 สปั ดาห์ จดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดย เริ่มตน้ จากการฝึกทกั ษะกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด แลว้ จดั กิจกรรมฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z แตล่ ะกิจกรรม ดงั น้ี 1) ข้นั สังเกต 2) ข้นั จาแนกความแตกต่าง 3) ข้นั หาลกั ษณะร่วม 4) ข้นั ระบุความคดิ รวบยอด 5) ข้นั ฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพเิ ศษ

116 2.3 ทาการวดั ผลและรวบรวมขอ้ มลู โดยใชแ้ บบบนั ทึกผลการตรวจสอบการออกเสียง ตวั Z ซ่ึงจดั อนั ดบั คณุ ภาพของนกั เรียน 5 ระดบั ดงั น้ี ระดบั ที่ 1 ควรปรับปรุงแกไ้ ข ระดบั ที่ 2 นอ้ ย ระดบั ที่ 3 ปานกลาง ระดบั ที่ 4 มาก ระดบั ท่ี 5 มากอยา่ งยงิ่ 3. วธิ กี ารรวบรวมข้อมูล ทาการรวบรวมขอ้ มูลดงั น้ี 3.1 รวบรวมขอ้ มลู จากการตรวจสอบอนั ดบั คุณภาพก่อนและหลงั การใชแ้ บบฝึกทกั ษะ การออกเสียงตวั Z แต่ละชุด 3.2 รวบรวมขอ้ มลู จากการตรวจสอบอนั ดบั คุณภาพก่อนและหลงั การใชแ้ บบฝึกทกั ษะ การออกเสียงตวั Z ทุกชุด 4. การวิเคราะห์ข้อมูล ทาการวิเคราะหข์ อ้ มูลดงั น้ี 4.1 เปรียบเทียบอนั ดบั คุณภาพท่ีไดจ้ ากการตรวจสอบอนั ดบั คุณภาพก่อนและหลงั การ ใชแ้ บบฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z แตล่ ะชุด โดยใชม้ าตราส่วนประมาณค่า 5 ระดบั คอื ระดบั ท่ี 1 ควรปรับปรุงแกไ้ ข ระดบั ท่ี 2 นอ้ ย ระดบั ท่ี 3 ปานกลาง ระดบั ท่ี 4 มาก และระดบั ที่ 5 มากอยา่ งยง่ิ 4.2 เปรียบเทียบอนั ดบั คณุ ภาพที่ไดจ้ ากการตรวจสอบอนั ดบั คุณภาพก่อนและหลงั การ ใชแ้ บบฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z ทกุ ชุด โดยใชม้ าตราส่วนประมาณค่า 5 ระดบั คือ ระดบั ท่ี 1 ควร ปรับปรุงแกไ้ ข ระดบั ที่ 2 นอ้ ย ระดบั ที่ 3 ปานกลาง ระดบั ท่ี 4 มาก และระดบั ท่ี 5 มากอยา่ งยงิ่ 5. ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู จากการวิเคราะหข์ อ้ มูลปรากฏผลตามตารางที่ 1 และ 2 ดงั น้ี ตารางที่ 1 เปรียบเทียบอนั ดบั คณุ ภาพที่ไดจ้ ากการตรวจสอบอนั ดบั คุณภาพ ก่อนและหลงั การใชแ้ บบ ฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z แตล่ ะชุด แบบฝึกทกั ษะ อนั ดบั คุณภาพก่อน อนั ดบั คณุ ภาพ การใชแ้ บบฝึก หลงั การใชแ้ บบ ฝึ ก 1. การฟังเสียงการออกเสียง Z ควรปรับปรุงแกไ้ ข มากอยา่ งยงิ่ 2. การออกเสียง Z ควรปรับปรุงแกไ้ ข มาก 3. การออกเสียง Z เปรียบเทียบกบั เสียง S ควรปรับปรุงแกไ้ ข มาก 4. การออกเสียง Z ในคาศพั ท์ ควรปรับปรุงแกไ้ ข มาก นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพิเศษ

117 ตารางท่ี 2 เปรียบเทียบอนั ดบั คุณภาพท่ีไดจ้ ากการตรวจสอบอนั ดบั คุณภาพก่อนและหลงั การใชแ้ บบ ฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z ทกุ ชุด นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 อนั ดบั คุณภาพก่อน อนั ดบั คณุ ภาพ ทกั ษะในการออกเสียงตวั Z การใชแ้ บบฝึก หลงั การใชแ้ บบ ฝึ ก ควรปรับปรุงแกไ้ ข มาก สรุปและสะท้อนผล จากผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู จะเห็นไดว้ า่ ก่อนการใชแ้ บบฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z แต่ละชุด นกั เรียนมีทกั ษะการออกเสียงตวั Z อยใู่ นระดบั ที่ควรปรับปรุงแกไ้ ข แต่ภายหลงั การใชแ้ บบฝึกทกั ษะ การออกเสียงตวั Z แตล่ ะชุด นกั เรียนมีทกั ษะการออกเสียงตวั Z อยใู่ นระดบั มาก นอกจากน้ี จากผลการ ตรวจอนั ดบั คณุ ภาพก่อนและหลงั การใชแ้ บบฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z ทุกชุด จะเห็นไดว้ า่ ก่อนการ ใชแ้ บบฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z นกั เรียนมีทกั ษะการออกเสียงตวั Z อยใู่ นระดบั ท่ีควรปรับปรุงแกไ้ ข แตภ่ ายหลงั การใชแ้ บบฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z ทกุ ชุด นกั เรียนมีทกั ษะการออกเสียงตวั Z อยใู่ น ระดบั มาก แสดงวา่ แบบฝึกทกั ษะการออกเสียงตวั Z ที่ผวู้ ิจยั ไดจ้ ดั ทาข้นึ น้ี เป็นนวตั กรรมท่ีมี ประสิทธิภาพในการพฒั นาทกั ษะการออกเสียงตวั Z ของนกั เรียนให้ดีข้นึ ในระดบั สูง นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพิเศษ

118 ผลของการใช้กระบวนการสร้างนสิ ัยท่ีมีต่อการแต่งกายของนักเรียน ปัญหา : นกั เรียนแตง่ กายผิดระเบียบของโรงเรียน สาเหตุ : นกั เรียนไมต่ ระหนกั ในการแตง่ กายใหถ้ กู ระเบียบ และเลียนแบบเพ่อื น วัตถุประสงค์ของการวิจยั เพอ่ื แกไ้ ขนกั เรียนใหแ้ ตง่ กายถูกตอ้ งตามระเบียบของโรงเรียน วธิ ีการวจิ ัย 1. กลุ่มเป้าหมาย นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2543 จานวน 5 คน 2. วธิ ีการหรือนวัตกรรมที่ใช้ 2.1 กระบวนการสร้างนิสัย ซ่ึงมี 4 ข้นั ตอน คือ 1 ) ข้นั สร้างความตระหนกั 2) ข้นั ใหต้ วั แบบ 3) ข้นั ปรับพฤติกรรม และ 4) ข้นั ควบคมุ ตนเอง 2.2 การเสริมแรงระหวา่ งปฏิบตั ิและหลงั ปฏิบตั ิ 2.3 เคร่ืองมือวดั ผลและรวบรวมขอ้ มลู เป็นแบบบนั ทึกการสงั เกตพฤติกรนรมการแตง่ กาย ของนกั เรียน กระบวนการสร้างนิสัยแตล่ ะข้นั ตอนดาเนินการดงั น้ี 1) ข้นั สร้างความตระหนกั แบง่ นกั เรียนออกเป็น 5 กลุ่ม แต่ละกล่มุ มีนกั เรียนท่ีแตง่ กายผิดระเบียบร่วมอยดู่ ว้ ย 1 คน ใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกนั อภิปรายและนาเสนอเกี่ยวกบั สาเหตุและ ผลดีผลเสียของการแต่งกายผดิ ระเบียบ และวธิ ีการท่ีจะทาใหน้ กั เรียนทุกคนแต่งกายถูกระเบียบ 2) ข้นั ใหต้ วั แบบครูยกยอ่ งชมเชยนกั เรียนที่แตง่ กายถกู ระเบียบทกุ วนั ทุกเวลา และ ทุกสถานที่ เพอื่ ใหน้ กั เรียนที่แตง่ กายผดิ ระเบียบไดเ้ ห็นและทาตาม 3) ข้นั ปรับพฤติกรรม นกั เรียนท่ีเคยแต่งกายผดิ ระเบียบเร่ิมทาตามอยา่ งและแตง่ กาย ถกู ระเบียบครูยกยอ่ งชมเชย 4) ข้นั ควบคมุ ตนเองนกั เรียนควบคุมตนเองโดยการแตง่ ตวั ถกู ระเบียบ และเป็น ตวั อยา่ งแก่คนอ่ืน ครูยกยอ่ งชมเชยและใหร้ างวลั 3. วธิ ีการรวบรวมข้อมูล รวบรวมขอ้ มูลจากการสังเกตพฤติกรรมการแต่งกายของนกั เรียนทุกคนเป็นประจาทุกวนั แลว้ บนั ทึกไวเ้ ป็นเวลา 4 สปั ดาห์ 4. วธิ ีการวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ขอ้ มูลจากบนั ทึกการสังเกตจานวนนักเรียนที่แต่งกายถูกตอ้ งตามระเบียบของ โรงเรียนเพิ่มมากข้ึน และแต่งกายผิดระเบียบลดลงทุกวนั จนกระทง่ั แต่งกายถูกระเบียบทุกคน โดย การนบั จานวนนกั เรียนท่ีแตง่ กายผดิ ระเบียบของโรงเรียน นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพิเศษ

119 5. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล จากการวิเคราะห์ข้อมูลท่ีได้จากการสังเกตและบนั ทึกไวเ้ ป็ นประจาทุกวนั ปรากฏว่า สปั ดาหแ์ รกนกั เรียนท่ีเป็นกลุ่มเป้าหมายจานวน 5 คน แต่งกายถูกตอ้ งตามระเบียบของโรงเรียนทุกคน สัปดาห์ท่ีสอง นกั เรียนในช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 แต่งกายถูกระเบียบทุกคน สัปดาห์ท่ีสาม นกั เรียนช้นั อื่น ๆ แต่งกายถูกระเบียบมากข้ึน สัปดาห์ท่ีส่ี นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 3 และช้นั อื่น ๆ แต่งกาย ถกู ตอ้ งตามระเบียบของโรงเรียนทกุ คน สรุปและสะท้อนผล กระบวนการสร้างนิสัยเป็ นกระบวนการที่เร่ิมต้นจากการคิดและการปฏิบัติของ นักเรียนเอง นักเรียนไดเ้ ห็นตวั อย่างที่ดี และตระหนักในความสาคัญของการแต่งกายถูกตอ้ งตาม ระเบียบของโรงเรียน มองเห็นคุณคา่ และเลือกปฏิบตั ิเอง โดยมีครูผใู้ หก้ ารสนบั สนุนและเสริมแรงอยู่ ตลอดเวลา การดูแลเอาใจใส่และยกย่องชมเชยของครู ทาให้นกั เรียนเกิดความภาคภูมิใจและยึดถือ ปฏิบตั ิตลอดไป. ผลการพฒั นาทกั ษะกระบวนการทางานของนักเรียน ปัญหา : นกั เรียนขาดทกั ษะและนิสัยท่ีดีในการทางานกลมุ่ สาเหตุ : นกั เรียนไมไ่ ดร้ ับการฝึกทกั ษะและนิสยั ท่ีดีในการทางานกลุ่ม วตั ถปุ ระสงค์ในการวิจยั 1. เพื่อพฒั นาทกั ษะในการทางานกลุม่ ของนกั เรียน 2. เพือ่ พฒั นานิสยั รักงานของนกั เรียน วิธกี ารวิจัย 1. กลุม่ เป้าหมาย นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2544 จานวน 25 คน 2. วธิ ีการหรือนวตั กรรมท่ีใช้ 2.1 ทกั ษะกระบวนการกลุม่ ซ่ึงมีข้นั ตอนดงั น้ี 1) ข้นั ตระหนกั 2) ข้นั วางแผนปฏิบตั ิงาน 3) ข้นั ลงมือปฏิบตั ิงาน 4) ข้นั ตรวจสอบประเมินผลงาน 5) ข้นั ปรับปรุงแกไ้ ขและพฒั นางาน 6) ข้นั ปฏิบตั ิงานดว้ ยความภาคภูมิใจ 2.2 เคร่ืองมือวดั ผลและรวบรวมขอ้ มลู เป็นแบบบนั ทึกการสงั เกตการณ์ทางานกลมุ่ ของ นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพเิ ศษ

120 นกั เรียน การจดั กิจกรรมแต่ละข้นั ตอนดาเนินการดงั น้ี 1) ข้นั ตระหนกั ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกบั ปัญหาท่ีเกิดข้ึน ผลดี ผลเสีย และวิธีแกไ้ ข 2) ข้นั วางแผนปฏิบตั ิงานนกั เรียนร่วมกนั วางแผนวา่ จะปฏิบตั ิงานเป็นข้นั ตอน อยา่ งไร ใครเป็นผรู้ ับผดิ ชอบงานส่วนไหน จะมีการตรวจสอบปรับปรุงแกไ้ ขการปฏิบตั ิงานเป็นระยะ ๆ อยา่ งไร 3) ข้นั ลงมือปฏิบตั ิงาน นกั เรียนปฏิบตั ิงานตามท่ีไดร้ ่วมกนั วางแผนไว้ 4) ข้นั ตรวจสอบประเมินผลงาน นกั เรียนตรวจสอบผลการปฏิบตั ิงานวา่ เป็นไปตาม แผนหรือไม่ หรือปัญหาอุปสรรคอย่างไร มีส่ิงใดจะตอ้ งปรับปรุงแกไ้ ข 5) ข้นั ปรับปรุงแกไ้ ขและพฒั นางาน นกั เรียนทาการปรับปรุงแกไ้ ขและพฒั นางาน ตามท่ีตรวจสอบและประเมินผลไว้ จนไดผ้ ลงานตามที่ตอ้ งการ 6) ข้นั ปฏิบตั ิงานดว้ ยความภาคภมู ิใจ นกั เรียนนาประสบการณ์จากการทางานไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ทางานเป็น ทางานอยา่ งมีความสุข และภาคภูมิใจในผลงาน 3. วิธกี ารรวบรวมข้อมูล รวบรวมขอ้ มูลโดยการบนั ทึกการสงั เกตกระบวนกลมุ่ และกระบวนการทางานของ นกั เรียน ทุกสัปดาห์ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ 4. วธิ ีการวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ขอ้ มลู โดยการสรุปผลจากการบนั ทึกการสงั เกตกระบวนการกลุ่มและ กระบวนการทางานของนกั เรียน โดยใชม้ าตราส่วนประมาณคา่ 5 ระดบั คือ น่าพอใจอยา่ งยงิ่ น่า พอใจมาก น่าพอใจปานกลาง น่าพอใจนอ้ ย และยงั ไม่น่าพอใจ 5. ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลพบวา่ นกั เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ มีทกั ษะ และมีความสามารถ ในดา้ นต่าง ๆ มากข้นึ กล่าวคอื นกั เรียนมีการวางแผนปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานอยา่ งเป็นข้นั ตอน ตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบตั ิ ปรับปรุงและแกไ้ ขและพฒั นางาน และมีการใชแ้ ละการดูแลเก็บ รักษาเคร่ืองมือทางาน ไดอ้ ย่างน่าพอใจดงั น้ี สัปดาห์ที่ 1 มีทกั ษะกระบวนการทางานกลุ่มในระดบั น่าพอใจนอ้ ย สัปดาหท์ ่ี 2 มีทกั ษะกระบวนการทางานกลุม่ ในระดบั น่าพอใจปานกลาง สปั ดาหท์ ่ี 3 มีทกั ษะกระบวนการทางานกลุม่ ในระดบั น่าพอใจมาก สปั ดาหท์ ี่ 4 มีทกั ษะกระบวนการทางานกลุ่มในระดบั น่าพอใจมากยงิ่ ข้นึ นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพิเศษ

121 สรุปและสะท้อนผล การใหน้ กั เรียนทางานโดยใชก้ ระบวนการกลุ่มและกระบวนการทางาน ซ่ึงประกอบดว้ ย ข้นั ตอนต่าง ๆ 6 ข้นั ตอน คือ ข้นั ตระหนกั ข้นั วางแผนปฏิบตั ิงาน ข้นั ลงมือปฏิบตั ิงาน ข้นั ตรวจสอบประเมินผลงาน ข้นั ปรับปรุงแกไ้ ขและพฒั นางาน และข้นั ปฏิบตั ิงานดว้ ยความภาคภมู ิใจ มี ผลทาใหน้ กั เรียนสามารถทางานร่วมกนั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี มีความรับผิดชอบและรักงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย ทางานอยา่ งเป็นข้นั ตอนตลอดจนมีนิสยั ที่ดีและมีความสุขในการทางาน. ผลของการสร้างค่านิยมในการรักษาความสะอาดอาคารสถานที่ ปัญหา : นกั เรียนทิ้งขยะไม่เป็นที่ สาเหตุ : นกั เรียนขาดค่านิยมที่ดีในการทิ้งขยะและรักษาความสะอาดอาคารสถานท่ี วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจยั : เพอื่ พฒั นาค่านิยมในการรักษาความสะอาดอาคารสถานท่ี วิธกี ารวจิ ยั 1. กลุ่มเป้าหมาย นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 – 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2543 จานวน 50 คน 2. วธิ ีการหรือนวตั กรรมทใี่ ช้ 2.1 การเสริมแรงระหวา่ งการปฏิบตั ิ 2.2 กระบวนการสร้างค่านิยม ซ่ึงมีข้นั ตอนดงั น้ี 1) ข้นั สงั เกตและสร้างความตระหนกั 2) ข้นั วิเคราะห์ และประเมินเชิงเหตุผล 3) ข้นั เลือกกาหนดคา่ นิยม 4) ข้นั เห็นคุณคา่ และนาไปปฏิบตั ิ 5) ข้นั สรุปเป็นค่านิยมที่ยดึ ถือปฏิบตั ิตลอดไป 2.3 เคร่ืองมือวดั ผลและรวบรวมขอ้ มูล เป็นแบบบนั ทึกการสังเกตปริมาณขยะในแตล่ ะวนั การสร้างค่านิยมแตล่ ะข้นั ตอนดาเนินการดงั น้ี 1) พานกั เรียนไปดูสถานท่ีซ่ึงมีความแตกตา่ งกนั ในดา้ นความสะอาดและความ สกปรก 2) ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปราย วเิ คราะหเ์ ปรียบเทียบขอ้ ดีและขอ้ เสียความชอบ และไม่ชอบของนกั เรียน พร้อมท้งั อธิบายเหตุผล 3) ใหน้ กั เรียนเขา้ กลมุ่ ร่วมกนั กาหนดวิธีการกาจดั ขยะ 4) นกั เรียนร่วมกนั กาจดั ขยะ และรักษาความสะอาดตามวิธีการท่ีกาหนดไว้ 5) สรุปผลการดาเนินงาน และยดึ ถือปฏิบตั ิตอ่ ไป นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพเิ ศษ

122 3. วิธกี ารรวบรวมข้อมูล บนั ทึกการสงั เกตปริมาณขยะท่ีมีอยทู่ ้งั ในห้องเรียน และรอบ ๆ บริเวณโรงเรียนทุกวนั ตอนบ่าย เป็นเวลา 4 สัปดาห์ 4. วธิ ีการวเิ คราะห์ข้อมูล วเิ คราะห์ขอ้ มูลโดยการประเมินปริมาณขยะท้งั ในหอ้ งเรียนและบริเวณรอบ ๆ บริเวณ โรงเรียน วา่ มีมากหรือนอ้ ยในระดบั ใด โดใชม้ าตราส่วนประมาณคา่ 5 ระดบั คือ มากอยา่ งยงิ่ มาก ปานกลาง นอ้ ย และนอ้ ยอยา่ งยง่ิ 5. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล จากการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ปรากฏผลดงั น้ี 5.1 สปั ดาห์แรก ปริมาณขยะในหอ้ งเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 – 6 มีนอ้ ยหอ้ งเรียนช้นั อ่ืน ๆ และรอบๆ บริเวณโรงเรียนยงั มีปริมาณขยะค่อนขา้ งมาก 5.2 สปั ดาห์ที่สอง ปริมาณขยะในหอ้ งเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5 – 6 มีคอ่ นขา้ งนอ้ ยกวา่ สปั ดาหแ์ รก หอ้ งเรียนช้นั อื่น ๆ และรอบๆ บริเวณโรงเรียนยงั มีปริมาณขยะมากอยู่ แต่นอ้ ยลงกวา่ เดิม 5.3 สัปดาห์ท่ีสาม ปริมาณขยะในหอ้ งเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5 – 6 มีนอ้ ยมาก หอ้ งเรียนช้นั อื่น ๆ และรอบ ๆ บริเวณโรงเรียนมีปริมาณขยะนอ้ ยกวา่ สัปดาหท์ ี่สอง 5.4 สปั ดาหท์ ี่ส่ี ไมม่ ีขยะในหอ้ งเรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 – 6 หอ้ งเรียนช้นั อ่ืน ๆ และ รอบ ๆ บริเวณโรงเรียนมีขยะเลก็ นอ้ ยตอนตน้ สัปดาห์ แต่ปลายสัปดาหไ์ ม่มีขยะ สรุปและสะท้อนผล การสร้างคา่ นิยมเกี่ยวกบั การดูแลรักษาความสะอาดของอาคารสถานที่ เป็นสิ่งที่สามารถสร้าง ใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียนได้ แต่จะตอ้ งอาศยั การมีส่วนร่วมของนกั เรียนในการวางแผนปฏิบตั ิงาน และมี การดาเนินงานอยา่ งเป็นลาดบั ข้นั ตอน การเสริมแรงเป็นส่วนสาคญั ท่ีจะช่วยรักษาค่านิยมใหม้ ีความ ต่อเน่ืองและยง่ั ยนื การท่ีนกั เรียนช้นั อื่น ๆ ร่วมกนั รักษาความสะอาดของหอ้ งเรียนและบริเวณโรงเรียน ดว้ ยน้นั เน่ืองจากไดเ้ ห็นรูปแบบตวั อยา่ งที่ดีของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 – 6 ขณะเดียวกนั นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 – 6 ก็ไดช้ ่วยขยายค่านิยมโดยการดูแลใหค้ าแนะนาแก่นกั เรียนช้นั อื่น ๆ ท่ีกวา่ ดว้ ย การสร้างคา่ นิยมเป็นการสร้างความเช่ือ ถา้ ครูสามารถทาใหน้ กั เรียนเชื่อไดว้ า่ การรักษาความ สะอาดอาคารสถานที่เป็นส่ิงที่ดี มีความสาคญั และเป็นประโยชน์ต่อนกั เรียน นกั เรียนก็จะปฏิบตั ิเพ่อื ให้ เกิดผลตามความเชื่อน้นั . นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพิเศษ

123 ผลของการพฒั นาทักษะในการราวงมาตรฐาน ของนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 โดยใช้กระบวนการปฏิบตั ิ ปัญหา : นกั เรียนราวงมาตรฐานไม่ได้ สาเหตุ : 1. นกั เรียนไมส่ นใจนาฏศิลป์ ไทย 2. นกั เรียนไมไ่ ดร้ ับการปลูกฝังและฝึกฝน วตั ถุประสงค์ของการวิจัย : เพ่อื พฒั นาทกั ษะในการราวงมาตรฐานของนกั เรียน วธิ กี ารวิจยั 1. กลุ่มเป้าหมาย นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2543 จานวน 8 คน เป็นชาย 4 คน และเป็นหญิง 4 คน 2. วธิ ีการหรือนวตั กรรมที่ใช้ 2.1 แบบบนั ทึกการสังเกตการฝึกปฏิบตั ิ 2.2 ใชก้ ระบวนการปฏิบตั ิซ่ึงประกอบดว้ ยข้นั ตอนดงั น้ี 1) ข้นั ตระหนกั 2) ข้นั สงั เกตและรับรู้ขอ้ มลู 3) ข้นั ปฏิบตั ิตามแบบ 4) ข้นั ฝึกทบทวนทาเองโดยไมม่ ีแบบ 5) ข้นั วเิ คราะห์และสรุป 6) ข้นั นาไปใชแ้ ละฝึกใหช้ านาญ กระบวนการปฏิบตั ิแตล่ ะข้นั ตอนดาเนินการดงั น้ี 1) ข้นั ตระหนกั สนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั คณุ คา่ ความสาคญั ความสวยงาม และ ความสนุกสนานของนาฏศิลป์ ไทย ซ่ึงจาเป็นตอ้ งดารงรักษาเอกลกั ษณ์น้ีไว้ 2) ข้นั สงั เกตและรับรู้ขอ้ มูล ใหน้ กั เรียนดูวดี ีทศั น์ รารงมาตรฐาน เพลง “รามาซิมา รา” ทา่ “ราส่าย” 1 – 2 เท่ียว 3) ข้นั ปฏิบตั ิตามแบบ ครูราให้นกั เรียนดูทีละทา่ แลว้ ใหน้ กั เรียนราทีละท่าจนครบทุก ทา่ 4) ข้นั ฝึกทบทวนทาเองโดยไม่มีแบบ ครูใหน้ กั เรียนราทบทวนเองโดยครูไมร่ าใหด้ ู ถา้ นกั เรียนจาไมไ่ ด้ ครูราให้นกั เรียนราตาม แลว้ ใหน้ กั เรียนราทบทวนดว้ ยตนเองอีก 5) ข้นั วเิ คราะหแ์ ละสรุป ครูใหน้ กั เรียนวิเคราะห์รายละเอียดของเพลง “รามาซิมารา” นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพเิ ศษ

124 ทา่ “ราส่าย” วา่ มีกี่ทา่ แตล่ ะท่ามีลีลาต่อเนื่องกนั อยา่ งไร มีลกั ษณะอะไรท่ีตอ้ งระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษ เป็ นตน้ 6) ข้นั นาไปใชแ้ ละฝึกใหช้ านาญ ครูใหน้ กั เรียนฝึกฝนดว้ ยตนเองซ้า ๆ จนชานาญ 3. วิธกี ารรวบรวมข้อมูล รวบรวมขอ้ มูลโดยการบนั ทึกการสงั เกตการปฏิบตั ิของนักเรียนระหวา่ งการเรียนการสอน และฝึกทกั ษะการราวงมาตรฐาน ในตอนบา่ ย เป็นเวลา 10 วนั 4. วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ขอ้ มลู จาการบนั ทึกการสงั เกตการปฏิบตั ิของนกั เรียนระหวา่ งการเรียนการสอน และการฝึกทกั ษะ โดยพจิ ารณาเก่ียวกบั การพฒั นาของทกั ษะในการราวงมาตรฐาน โดยใช้มาตราส่วน ประมาณคา่ 5 ระดบั คือ น่าพอใจมากอยา่ งยง่ิ น่าพอใจมาก น่าพอใจปานกลาง น่าพอใจนอ้ ย และ ไมน่ ่าพอใจ 5. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล วนั ท่ีสามนกั เรียนราตามครูได้ แต่ยงั อยใู่ นระดบั ที่น่าพอใจนอ้ ย วนั ท่ีหา้ นกั เรียนราไดเ้ อง แต่ยงั ไม่คลอ่ ง น่าพอใจระดบั ปานกลาง และยงั ตอ้ งถามครูเป็นบางคร้ัง วนั ที่เจ็ดนกั เรียนราไดเ้ อง และ คลอ่ งแคล่วมากข้นึ น่าพอใจในระดบั ปานกลางถึงระดบั ท่ีน่าพอใจมาก วนั ที่สิบนกั เรียนราไดอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ และสวยงามในระดบั ที่น่าพอใจอยา่ งย่งิ สรุปและสะท้อนผล ราวงมาตรฐานเป็นวชิ าทกั ษะท่ีตอ้ งอาศยั การฝึกฝนอยา่ งจริงจงั จึงจะสามารถปฏิบตั ิ ไดด้ ี การท่ีนกั เรียนจะมีแรงจูงใจในการฝึกปฏิบตั ิจนสามารถปฏิบตั ิไดด้ ีน้นั นกั เรียนจะตอ้ งเห็น ความสาคญั เห็นตวั อยา่ งที่ถูกตอ้ งและใกลช้ ิด และคอ่ ย ๆ ทาตามทีละเลก็ ทีละนอ้ ย จนกระทง่ั ทาได้ เองและฝึกฝนต่อไปจนเกิดความชานาญ ข้นั ตระหนกั ข้นั สังเกตและรับรู้ขอ้ มลู ข้นั ปฏิบตั ิตามแบบ ข้นั ฝึกทบทวนทาเองโดยไมม่ ีแบบ ข้นั วเิ คราะห์และสรุป และข้นั นาไปใชแ้ ละฝึกใหช้ านาญ นายวชั ระ จนั ทรัตน์ ศึกษานิเทศกช์ านาญการพเิ ศษ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook