Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 61 รายงานนิเทศ สพป.ยะลา เขต 3 ปีการศึกษา 2561 24 เม

61 รายงานนิเทศ สพป.ยะลา เขต 3 ปีการศึกษา 2561 24 เม

Published by nitesyala3, 2020-06-04 03:47:38

Description: 61 รายงานนิเทศ สพป.ยะลา เขต 3 ปีการศึกษา 2561 24 เม

Search

Read the Text Version

รายงานผลการปฏิบัตงิ านการนเิ ทศการศึกษา ปีการศึกษา 2561 กลุ่มนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สงั กัดสานกั งานเตตืน้นท่กก ารศึกษาประมมศกึ ษายะลา เตต ******** 1. ต้อมูลืน้น ฐาน 1.1 จำนวนศึกษำนิเทศก์ 4 คน เกษียณอำยุรำชกำรในปี 2562 จำนวน 1 คน 1.2 ผู้อำนวยกำรกลุ่มนเิ ทศ ตดิ ตำมและประเมินผลกำรจัดกำรศึกษำ ช้กอ-สกลุ นำยวชั ระ จนั ทรตั น์ วิทยฐานะ ชำนำญกำรพเิ ศษ เบอรโ์ ทรศืั ท์ 089-7389976 e-mail [email protected] 2. การปฏิบตั ิงานการนเิ ทศระดบั ปฐมวัย 2.1.จำนวนโรงเรียนทั้งหมดที่จดั กำรศกึ ษำระดับปฐมวยั จำนวน 32 โรงเรียน 2.2 จำนวนโรงเรยี นท่ีได้รบั กำรนิเทศ จำนวน 32 โรงเรียน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 ของโรงเรียนทง้ั หมด 2.3ประเด็น/เน้ือหำ/หวั ขอ้ ทีใ่ ชใ้ นกำรนิเทศ 2. .1 การใช้หลกั สูตรสมานศึกษา ตามหลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั ืทุ ธศักราช 2560 2.3.1.1 วธิ ีกำรที่ใชใ้ นกำรปฏบิ ัติกำรนิเทศ สพป.ยะลำ เขต 3 ได้ดำเนนิ กำรจดั ทำโครงกำรพัฒนำศักยภำพครผู ูส้ อน ปฐมวัยในกำรเตรยี มควำมพร้อมดำ้ นภำษำสำหรบั เด็กปฐมวยั โดยมกี จิ กรรมท่ีสำคัญ 2 กจิ กรรม คือ 1) กำรอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ำรเทคนิคกำรจัดประสบกำรณ์ด้ำนภำษำสหู่ ้องเรยี น และกำรนำหลักสูตรสถำนศึกษำปฐมวยั พทุ ธศักรำช 2560 : สู่กำรจดั ประสบกำรณ์ในห้องเรียน 2) นิเทศ ติดตำม กำรจดั ประสบกำรณ์เพ่ือส่งเสรมิ พฒั นำกำรดำ้ นภำษำ และ กำรนำหลักสูตรสถำนศึกษำปฐมวัย พุทธศักรำช 2560 : สกู่ ำรจดั ประสบกำรณใ์ นห้องเรียน 2.3.1.2 เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในกำรปฏิบัตกิ ำรนิเทศ 1) แบบสังเกตกำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้ระดับปฐมวัย 2.3.1.3 ผลกำรนิเทศ 1) สรปุ ผลกำรนเิ ทศทงั้ เชิงปริมำณและคุณภำพ 1.1) รอ้ ยละ 100 ของโรงเรยี นในสังกดั มีหลกั สูตรสถำนศึกษำปฐมวยั สอดคลอ้ งกับหลกั สตู รกำรศึกษำปฐมวยั พทุ ธศักรำช 2560 1.3) ครูผูส้ อนปฐมวัย จำนวน 81 คน มีควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจและสำมำรถ เตรียมควำมพรอ้ มดำ้ นภำษำสำหรับเดก็ ปฐมวัยได้อย่ำงถูกตอ้ งเหมำะสม 2) ควำมสำเร็จที่เป็นแบบอย่ำงได้ สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำ ยะลำ เขต 3 มสี ถำนศึกษำปฐมวยั ท่มี ีวธิ ีกำร ปฏบิ ัตทิ ่ดี สี ู่ควำมเปน็ เลิศ (Best Practice) ท่เี ป็นตัวอย่ำงในกำรต่อยอดควำมคิดในกำรจัดกำรศึกษำระดับปฐมวยั อย่ำงมีคุณภำพใหแ้ ก่โรงเรียนทกุ โรงในสงั กัด รำยละเอยี ดดังน้ี 2.1) แนวทำงกำรดำเนนิ งำนสง่ เสรมิ กำรดูแล และพฒั นำกำรจดั กำรศึกษำปฐมวัย

2 “กำรบริหำรจัดกำรปฐมวยั ดเี ดน่ ” ระดับภาค รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โรงเรยี นอนุบำลเบตง (สุภำพอนสุ รณ์) 2.2) ผลงำนทีเ่ ป็นเลิศ (Best Practice) ด้ำนกำรบริหำรจดั กำรปฐมวยั ดีเดน่ ระดับจงั หวัด รางวลั ชนะเลศิ โรงเรยี นอนุบำลเบตง (สภุ ำพอนสุ รณ์) รางวัลรองชนะเลศิ อันดับ 1 ไดแ้ ก่ โรงเรยี นบ้ำนวังใหม่ (ประชำอุทิศ 2519) 2.3) ผลงำนทีเ่ ป็นเลศิ (Best Practice) ด้ำนรูปแบบนวัตกรรมปฐมวัยดเี ด่น ระดบั จังหวดั รางวลั ชนะเลศิ นำงสำวอัจฉรำ จนั ทร์ธุรส ครโู รงเรียนบ้ำนวงั ใหม่ (ประชำอทุ ิศ 2519) รางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั 1 นำงพชิ ญำ เหลำ่ ววิ ฒั น์เกษม ครโู รงเรยี นอนบุ ำลเบตง ฯ 3) ปัญหำทพี่ บ กำรดำเนนิ กำรประเมนิ กำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำปฐมวยั ของสถำนศึกษำยังไมเ่ ป็น กระบวนกำรเชงิ ระบบ ซง่ึ จะต้องประเมินก่อนนำหลักสตู รไปใช้ ประเมนิ ระหวำ่ งกำรใช้หลักสตู ร และประเมินหลัง กำรใช้หลกั สูตร เพ่ือให้ได้มำซ่ึงขอ้ มูลและสำรสนเทศทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ กำรตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั กำรศึกษำคุณภำพของ หลักสูตร กำรปรับปรงุ และพัฒนำหลักสตู รใหเ้ หมำะสมต่อไป 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปกี ำรศึกษำ 2562 ส่งเสริม สนับสนนุ นิเทศติดตำม และสร้ำงควำมร้คู วำมเขำ้ ใจใหแ้ กค่ รผู ู้สอนปฐมวยั ในเรอ่ื งของกำรประเมินหลักสูตรสถำนศกึ ษำปฐมวัย เพ่ือให้สถำนศึกษำสำมำรถดำเนนิ กำรประเมนิ กำรใชห้ ลักสูตร สถำนศึกษำปฐมวยั ได้อยำ่ งเป็นระบบ 2. .2 การจดั ประสบการณ์การเร่ยนรู้ 2.3.2.1 วธิ กี ำรที่ใช้ในกำรปฏิบัตกิ ำรนเิ ทศ สพป.ยะลำ เขต 3 ไดด้ ำเนินกำรจัดทำโครงกำรพัฒนำศักยภำพครผู ้สู อน ปฐมวยั ในกำรเตรยี มควำมพร้อมดำ้ นภำษำสำหรบั เดก็ ปฐมวัย โดยมกี ิจกรรมทีส่ ำคัญ 3 กิจกรรม คือ 1) กำรอบรมเชิงปฏบิ ตั ิกำรเทคนคิ กำรจัดประสบกำรณ์ดำ้ นภำษำสู่หอ้ งเรียน และกำรนำหลักสูตรสถำนศึกษำปฐมวยั พุทธศักรำช 2560 : สกู่ ำรจัดประสบกำรณ์ในหอ้ งเรยี น 2) นเิ ทศ ติดตำม กำรจัดประสบกำรณ์เพ่ือส่งเสรมิ พฒั นำกำรด้ำนภำษำ และ กำรนำหลกั สตู รสถำนศกึ ษำปฐมวยั พุทธศักรำช 2560 : สกู่ ำรจดั ประสบกำรณใ์ นห้องเรียน 3) สงั เกตกำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้ ของครผู สู้ อนปฐมวัย 2.3.2.2 เคร่อื งมอื ที่ใช้ในกำรปฏิบตั ิกำรนิเทศ 1) แบบสงั เกตกำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ระดับปฐมวยั 2) แบบประเมนิ ห้องเรียนคุณภำพสู่คณุ ภำพกำรศึกษำ ระดับกำรศึกษำปฐมวยั 2.3.2.3 ผลกำรนิเทศ

3 1) สรุปผลกำรนิเทศทั้งเชงิ ปริมำณและคุณภำพ 1.1) ครูผูส้ อนปฐมวยั จำนวน 81 คน มคี วำมรู้ควำมเขำ้ ใจและสำมำรถจัด ประสบกำรณ์กำรเรียนร้ไู ดส้ อดคล้องกับหลักสตู รสถำนศกึ ษำปฐมวยั พุทธศักรำช 2560 1.2) ครผู ู้สอนปฐมวยั จำนวน 81 คน มคี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจและสำมำรถ เตรยี ม ควำมพร้อมด้ำนภำษำสำหรับเด็กปฐมวัยได้อย่ำงถกู ต้อง เหมำะสม 2) ควำมสำเรจ็ ที่เปน็ แบบอย่ำงได้ สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำ ยะลำ เขต 3 ครูผู้สอนปฐมวัยทีเ่ ป็น แบบอยำ่ งและผำ่ นกำรประเมินตำมเกณฑ์ห้องเรยี นคุณภำพ ระดับกำรศึกษำปฐมวัย ท่ีสำมำรถเปน็ แบบอยำ่ งต่อ ยอดควำมคิดในกำรจัดกำรศึกษำระดบั ปฐมวยั อย่ำงมีคุณภำพใหแ้ ก่โรงเรียนทกุ โรงในสงั กัด รำยละเอยี ดดังนี้ ท่ก โรงเรย่ น ชอ้ก -สกลุ ห้องเร่ยนคณุ ภาื ระดับ คุณภาื 1 อนุบำลเบตง (สภุ ำพอนสุ รณ์) นำงศวิ พร ศรีสวัสด์ิ อนุบำลศกึ ษำปที ่ี 2/3 ยอดเยย่ี ม 2 บ้ำนนคิ มสร้ำงตนเองธำรโต นำงสกลุ รตั น์ นนู วงศ์ อนบุ ำลศึกษำปีที่ 2/1 ยอดเยย่ี ม 3 บ้ำนอัยเยอรเ์ วง นำงวลิ ำวัณย์ ทองขวัญสุข อนุบำลศกึ ษำปที ่ี 3/3 ยอดเยยี่ ม 4 บ้ำนวังใหม่(ประชำอุทิศ2519) นำงสำวอัจฉรำ จนั ทร์ธรุ ส อนบุ ำลศกึ ษำปที ี่ 3 ยอดเยี่ยม 5 บำ้ นแหร นำงสำวสุวณิ ำ ชอู ่อน อนุบำลศึกษำปที ี่ 3 ดเี ลศิ 6 บำ้ นบวั ทอง นำงสกุ ญั ญำ หะยยี โู ซ๊ะ อนบุ ำลศกึ ษำปที ี่ 3 ดีเลศิ 7 บำ้ นยะรม นำงพรทิพย์ สำยะเวส อนุบำลศึกษำปที ่ี 3 ดเี ลศิ 8 สังวำลยว์ ิท 5 นำงสุพตั รำ บญุ ประกอบ อนุบำลศึกษำปีท่ี 3 ดเี ลศิ 9 บำ้ นนำข่อย นำงฟำติมำ ยำรง อนุบำลศึกษำปที ี่ 3 ดีเลศิ 10 บำ้ นธำรมะลิ นำงสำวรุสนำ มะเร๊ะ อนบุ ำลศกึ ษำปีท่ี 2 ดีเลศิ 11 บำ้ นจำเรำะซูซู วำ่ ที่รอ้ ยตรหี ญิงกันตำ หมดี หรน อนุบำลศกึ ษำปที ่ี 1-3 ดีเลศิ 12 บ้ำนด่ำนสันติรำษฎร์ นำงสำวหยำดพิรณุ บำลแพทย์ อนบุ ำลศึกษำปีท่ี 2 ดเี ลศิ 13 บ้ำนเยำะ นำงสำวฮำปือเสำะ หะยมี ะนุส อนุบำลศกึ ษำปีท่ี 3 ดเี ลศิ 14 บำ้ นไทยพฒั นำ นำงสำวนลนิ ี หนอ่ แดง อนุบำลศกึ ษำปีท่ี 2-3 ดีเลศิ 15 บ้ำนธำรนำ้ ทิพย์ นำงสพุ ัตรำ ทองพูล อนบุ ำลศึกษำปีท่ี 3 ดีเลศิ 16 บ้ำนบำแตตูแง นำงสำวเฮ็นดรู กำรี อนบุ ำลศกึ ษำปีท่ี 2-3 ดเี ลศิ 17 บ้ำนตำเนำะแมเรำะ นำงเบญจมำศ ศรีภักดี อนุบำลศกึ ษำปที ี่ 3 18 บ้ำนมำลำ นำงสำวคนมั พร หะยีตำเยะ๊ อนุบำลศึกษำปีที่ 3 ดี 19 บ้ำนบอ่ หนิ นำงสำวร่งุ ทิพย์ คงชน อนบุ ำลศกึ ษำปีท่ี 3 ดี 20 นคิ มสรำ้ งตนเองธำรโต 6 นำงสำวอำรีนี สำและ อนบุ ำลศึกษำปที ่ี 3 ดี 21 บำ้ นวังศิลำ นำงสำวนำปีเซำะ แนปแิ น อนุบำลศกึ ษำปที ่ี 3 ดี ดี

4 ท่ก โรงเรย่ น ชอ้ก -สกลุ ห้องเรย่ นคุณภาื ระดับ คุณภาื 22 บำ้ นรำโมง นำงคำยรียำนี ดำหะตำ อนุบำลศึกษำปีท่ี 3/1 อนบุ ำลศึกษำปที ่ี 1-3 ดี 23 บำ้ นศรีทำ่ น้ำ นำงสำวจริ ำวรรณ มโนวรณ์ อนบุ ำลศกึ ษำปที ี่ 1-3 ดี อนบุ ำลศึกษำปที ี่ 3 ดี 25 บ้ำนธำรน้ำใส นำงสำวฟำรียะ สะอุ อนุบำลศึกษำปีท่ี 3/1 ดี อนุบำลศึกษำปที ่ี 2-3 ดี 26 บ้ำนปะเด็ง นำงสรญั ญำ หละทงิ้ อนบุ ำลศึกษำปที ่ี 2-3 ดี อนุบำลศกึ ษำปที ่ี 2 ปำนกลำง 27 บ้ำนโต นำงมำสอื น๊ะ ตำเดอนิ อนบุ ำลศึกษำปีท่ี 2 ปำนกลำง อนบุ ำลศึกษำปีที่ 2-3 ปำนกลำง 28 บำ้ นจโุ ป นำงสำวซมั ลียะ๊ อแิ ต ปำนกลำง 29 นคิ มสร้ำงตนเองธำรโต 5 นำงสำวซำนฮี ะห์ อำแว 30 บำ้ นศรีนคร นำงสำวซูมยั ยะห์ ซงตำยำ 31 ไทยรัฐวทิ ยำ 94 (บำ้ นบอ่ น้ำรอ้ น) นำงสำวถนอม โนนะบุตร 32 บ้ำนจำเรำะปะไต นำงสำวสำยพิณ เจียมสวสั ด์ิ 3) ปัญหำท่พี บ หลงั เสร็จสนิ้ จำกกำรจัดประสบกำรณ์ ในกำรประเมนิ พัฒนำกำรและกำรเรยี นร้ขู อง เดก็ ปฐมวัยตำมจุดประสงค์กำรเรยี นรทู้ ี่กำหนดไวใ้ นแผนกำรจดั ประสบกำรณ์และกำรประเมินกำรจดั ประสบกำรณ์ ของครจู ำกแผนกำรจัดประสบกำรณ์ ครผู ู้สอนปฐมวัยบำงส่วนไมไ่ ด้บันทึกพฤติกรรมของเด็กตำมจุดประสงค์กำร เรยี นรทู้ ง้ั ในเชงิ ปรมิ ำณและเชิงคุณภำพอยำ่ งละเอยี ด และไม่ไดบ้ นั ทึกเก่ยี วกับกำรจดั ประสบกำรณ์ท้ังในเรื่องของ ควำมยำกง่ำยของกิจกรรม ควำมเหมำะสมของส่อื ระยะเวลำ และข้อมูลอน่ื ๆ ท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ กำรพัฒนำเด็ก อกี ท้ังกำรใช้ผลกำรประเมนิ หลงั กำรจัดประสบกำรณ์ ไปใช้ในกำรปรบั ปรงุ พัฒนำหรือต่อยอดในกำรทำวจิ ัยในชนั้ เรยี นค่อนข้ำงนอ้ ย 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปีกำรศกึ ษำ 2562 ส่งเสริม สนับสนุน นเิ ทศตดิ ตำม และสรำ้ งควำมรคู้ วำมเข้ำใจให้แกค่ รูผ้สู อนปฐมวัย ในเรอื่ งของกำรประเมนิ พัฒนำกำรและกำรเรียนรู้ของเด็กปฐมวยั ตำมจุดประสงค์กำรเรียนรูท้ ่กี ำหนดไวใ้ นแผนกำร จดั ประสบกำรณแ์ ละกำรประเมินกำรจดั ประสบกำรณ์ของครจู ำกแผนกำรจดั ประสบกำรณ์ และกำรนำผลกำร ประเมินหลงั กำรจัดประสบกำรณ์ ไปใชใ้ นกำรปรับปรุง พัฒนำหรือต่อยอดในกำรทำวจิ ยั ในชน้ั เรยี น 2. . การประเมินืฒั นาการ 2.3.3.1 วิธกี ำรท่ใี ช้ในกำรปฏิบัตกิ ำรนเิ ทศ สพป.ยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรจัดทำโครงกำรพฒั นำคุณภำพกำรจัด กำรศึกษำระดบั ปฐมวยั โดยมีกจิ กรรมทสี่ ำคญั คือ กำรจัดทำเคร่ืองมอื ในกำรประเมนิ พัฒนำกำรเด็กปฐมวยั ตำม หลกั สตู รกำรศึกษำปฐมวัย พุทธศกั รำช 2560 2.3.3.2 เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ในกำรปฏิบัตกิ ำรนิเทศ 1) หลกั สตู รกำรศึกษำปฐมวัย พทุ ธศกั รำช 2560 2) คู่มือหลักสูตรกำรศึกษำปฐมวยั พุทธศักรำช 2560 (สำหรับเด็กอำยุ 3-6 ปี)

5 2.3.3.3 ผลกำรนิเทศ 1) สรปุ ผลกำรนเิ ทศทั้งเชงิ ปริมำณและคณุ ภำพ รอ้ ยละ 100 ของโรงเรียนในสังกดั มีเครอ่ื งมือในกำรประเมินพฒั นำกำร เด็กปฐมวยั ทีส่ อดคลอ้ งกับมำตรฐำนคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ทั้ง 12 ขอ้ ตำมหลกั สตู รกำรศึกษำปฐมวัย พทุ ธศักรำช 2560 2) ควำมสำเร็จทเ่ี ปน็ แบบอยำ่ งได้ สพป.ยะลำ เขต 3 ได้จดั ทำบัญชีเรยี กช่ือและสมุดบันทกึ พฒั นำกำรนักเรยี น ระดับปฐมวัย ชนั้ อนุบำลปที ่ี 1-3 และสมดุ รำยงำนประจำตัวนักเรียนระดับปฐมวยั ช้ันอนุบำลปีท่ี 1-3 ที่ สอดคล้องกับหลกั สตู รกำรศึกษำปฐมวยั พุทธศักรำช 2560 ขึ้น โดยกำรมสี ว่ นรว่ มของคณะศกึ ษำนิเทศกแ์ ละครู ปฐมวยั แกนนำ และได้ใชใ้ นกำรประเมนิ พฒั นำกำรในแนวทำงเดยี วกนั ทั้งเขตพนื้ ที่กำรศึกษำ 3) ปัญหำท่พี บ กำรดำเนินกำรประเมนิ พัฒนำกำรของครูผูส้ อนปฐมวยั ยงั ไม่ได้ดำเนินกำร อยำ่ งเป็นระบบ และยงั แยกส่วนกับกำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรียนรแู้ ละกำรปฏบิ ตั ิกจิ วัตรประจำวันท่ตี อ้ ง ดำเนนิ กำรประเมนิ อย่ำงสมำ่ เสมอต่อเนื่องตลอดทั้งปี ครผู ้สู อนต้องสงั เกตพฤตกรรมหรือกำรปฏบิ ตั ติ นของเด็กเป็น ระยะๆตลอดปีกำรศึกษำ มจี ำนวนครัง้ ในกำรสงั เกตพฤติกรรอยำ่ งเหมำะสมและเพยี งพอกอ่ นทจี่ ะสรปุ หรอื ให้ ระดับคุณภำพของพฤติกรรมตำมสภำพที่พงึ ประสงคใ์ นแต่ละวยั ซึ่งในกำรประเมินพัฒนำกำรในสภำพจรงิ ที่ ครูผู้สอนบำงส่วนดำเนนิ กำรคือ ประเมนิ รวบยอดเพยี งครั้งเดยี วเมื่อสิน้ ภำคเรยี นหรือส้นิ ปกี ำรศึกษำ 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปีกำรศกึ ษำ 2562 ส่งเสริม สนบั สนนุ นเิ ทศตดิ ตำม และสรำ้ งควำมรู้ควำมเขำ้ ใจใหแ้ ก่ครผู ู้สอน ปฐมวยั ในเรอ่ื งจดุ มุ่งหมำยของกำรประเมินพัฒนำกำรเด็ก และกำรใช้ผลกำรประเมนิ พฒั นำกำรเด็กในกำรพัฒนำ ควำมก้ำวหนำ้ เด็กเปน็ รำยบคุ คลให้เตม็ ตำมศกั ยภำพ 2. .4 การประกนั คณุ ภาืการศกึ ษา 2.3.4.1 วธิ กี ำรทใ่ี ชใ้ นกำรปฏบิ ัตกิ ำรนิเทศ 1) สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำร โครงกำรพัฒนำระบบส่งเสริมกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ เพ่ือนำผลกำรประเมินมำใช้เป็นข้อมูล สำรสนเทศในกำรวำงแผนปรับปรุงและพัฒนำคุณภำพนักเรียนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ ติดตำม ตรวจสอบคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ เพื่อสังเครำะห์ผลกำรตรวจสอบ และผลกำร ประเมนิ คุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ 2) สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำร นิเทศติดตำม ตรวจสอบคุณภำพ และมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ โดยกำรจัดทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบดว้ ยผู้บริหำรกำรศึกษำ ผู้บรหิ ำรสถำนศึกษำ ศกึ ษำนิเทศก์ ใหค้ วำมช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะแกโ่ รงเรียนใน กำรเตรียมควำมพร้อมในกำรประเมินภำยนอกรอบสี่ มีกำรแนะนำให้ทำรำยงำนประจำตนเองของสถำนศึกษำ (SAR)

6 2.3.4.2 เครือ่ งมอื ที่ใช้ในกำรปฏบิ ตั กิ ำรนเิ ทศ 1) แบบตดิ ตำม ตรวจสอบคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ 2) คู่มือกำรดำเนินงำนระบบส่งเสริมกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ 2.3.4.3 ผลกำรนเิ ทศ 1) สรปุ ผลกำรนเิ ทศทั้งเชงิ ปริมำณและคณุ ภำพ 1. รอ้ ยละ 80 ของครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ มคี วำมรู้ควำมเข้ำใจ เก่ียวกับระบบประกนั ภำยในของสถำนศึกษำ 2. ร้อยละ 100 ของโรงเรียนได้รับกำรตดิ ตำม ตรวจสอบคุณภำพและ มำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ 3. โรงเรียนได้รับกำรสังเครำะหผ์ ลกำรตรวจสอบ และผลกำรประเมนิ คุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ 2) ควำมสำเร็จทเ่ี ปน็ แบบอยำ่ งได้ - 3) ปัญหำท่พี บ - 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปีกำรศึกษำ 2562 พัฒนำระบบกำรติดตำม ตรวจสอบคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำของ สถำนศึกษำ อยำ่ งเป็นระบบ และมีประสิทธภิ ำพ โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศ และกำรสื่อสำร . การปฏบิ ตั ิงานการนิเทศระดับประมมศกึ ษา 3.1.จำนวนโรงเรียนทั้งหมดท่ีจัดกำรศึกษำระดับประถมศกึ ษำ จำนวน 32 โรงเรยี น 3.2 จำนวนโรงเรียนทีไ่ ดร้ ับกำรนิเทศ จำนวน 32 โรงเรียน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100.00 ของโรงเรียนท้ังหมด 3.3 ประเด็น/เนอื้ หำ/หวั ขอ้ ท่ีใช้ในกำรนิเทศ . .1 การใช้หลักสตู รสมานศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาตันนื้นน ฐาน ืุทธศกั ราช 2551 และมาตรฐานการเรย่ นรแู้ ละตัวชว่น ัดกลุ่มสาระการเรย่ นรู้คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ใน กลุ่มสาระการเรย่ นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบบั ปรบั ปรงุ ื.ศ. 2560) 3.3.1.1 วธิ กี ำรทีใ่ ชใ้ นกำรปฏบิ ตั ิกำรนิเทศ 1) สำนกั งำนเขตพนื้ ท่กี ำรศึกษำประถมศกึ ษำยะลำ เขต 3 ได้จัดโครงกำรกำร พัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำตำมเป้ำหมำยหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ข้ึน เพื่อร่วมกันศึกษำควำมรู้ ควำมเข้ำใจเก่ียวกับหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน พุทธศักรำช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) รวมถึงแนวทำงกำรออกแบบกำรเรียนรู้ กำรจัดกิจกรรมกำร เรียนรู้ และกำรวัดประเมินผลผู้เรยี นให้บรรลตุ ำมเป้ำประสงคข์ องหลกั สูตร

7 2) สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรนิเทศ ติดตำมกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำตำมเป้ำหมำยหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน พ.ศ. 2551 (ฉบับ ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) โดยกำรจัดทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบด้วยผู้บริหำรกำรศึกษำ ผบู้ รหิ ำรสถำนศึกษำ ศึกษำนิเทศก์ ให้ควำมช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนในกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำตำมเป้ำหมำยหลักสูตร แกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พื้นฐำน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) 3.3.1.2 เคร่อื งมอื ท่ีใช้ในกำรปฏบิ ัติกำรนเิ ทศ แบบตดิ ตำมกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำตำมเป้ำหมำยหลกั สูตรแกนกลำง กำรศึกษำข้ันพน้ื ฐำน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) 3.3.1.3 ผลกำรนเิ ทศ 1) สรุปผลกำรนเิ ทศท้ังเชิงปริมำณและคุณภำพ 1.1) ครผู สู้ อนมีควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจ เกี่ยวกับกรอบและทิศทำงกำร ปรบั ปรุงหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขัน้ พน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) 1.2) ครูผู้สอนสำมำรถพัฒนำหลักสูตร กำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้ และกำรบริหำรจดั กำรช้ันเรียน กำรใช้และพัฒนำส่ือตลอดจนแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนำคุณภำพผ้เู รียนตำมเป้ำหมำย ของหลักสูตร 1.3) ครูผู้สอนสำมำรถนำหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สู่กำรปฏิบัติในสถำนศึกษำและห้องเรียนคุณภำพให้เกิดผล สัมฤทธ์ิทำงกำรเรยี นตำมคุณภำพมำตรฐำนกำรศึกษำท่สี ถำนศึกษำกำหนดไว้ 2) ควำมสำเรจ็ ทเี่ ป็นแบบอยำ่ งได้ - 3) ปญั หำทีพ่ บ -โรงเรียนสว่ นใหญข่ ำดแคลนคอมพิวเตอร์ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน วิทยำกำรคำนวณ และรำยวชิ ำคอมพิวเตอร์ 4) แนวทำงในกำรพฒั นำในปีกำรศึกษำ 2562 -พัฒนำระบบกำรติดตำม ตรวจสอบคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำของ สถำนศึกษำ อยำ่ งเปน็ ระบบ และมีประสิทธภิ ำพ โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสื่อสำร . .2 การจดั การเรย่ นรู้เชงิ รุก (Active Learning) 3.3.2.1 วิธกี ำรที่ใช้ในกำรปฏบิ ัตกิ ำรนเิ ทศ 1) สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้จัดทำโครงกำร กำรจัดกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพ่ือยกระดับคุณภำพกำรศึกษำ สู่คุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยึดหลัก “ศำสตร์พระรำชำ” มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ครูมีควำมรคู้ วำมเข้ำใจเกย่ี วกบั กำรจัดกำรเรียนรู้แบบ Active Learning และเพ่ือส่งเสริมกำรใช้กระบวนกำร “ชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ” สู่นวัตกรรมกำรอ่ำนออก เขียนได้ โดย กำหนดจัดกิจกรรมที่ 2 กำรอบรมเชิงปฏิบัติกำรกำรจัดกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อยกระดับคุณภำพ กำรศกึ ษำ สู่คุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยดึ หลัก “ศำสตรพ์ ระรำชำ”

8 2) สำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรนิเทศ จัดกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อยกระดับคุณภำพกำรศึกษำ สู่คุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยึดหลัก “ศำสตร์พระรำชำ” โดยกำรจัดทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบด้วยผู้บริหำรกำรศึกษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ศึกษำนิเทศก์ ให้ควำมช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนในกำรจัดกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อ ยกระดบั คุณภำพกำรศกึ ษำ สูค่ ุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยึดหลัก “ศำสตรพ์ ระรำชำ” 3.3.2.2 เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ในกำรปฏิบัติกำรนิเทศ -แบบนเิ ทศตดิ ตำมจัดกำรเรียนรูแ้ บบ Active Learning เพอื่ ยกระดับคุณภำพ กำรศึกษำ สูค่ ุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยึดหลกั “ศำสตร์พระรำชำ” 3.3.2.3 ผลกำรนิเทศ 1) สรปุ ผลกำรนเิ ทศทั้งเชงิ ปริมำณและคณุ ภำพ 1.1) รอ้ ยละ 90 ของผบู้ รหิ ำรและครทู ่เี ขำ้ อบรมมีควำมรคู้ วำมเข้ำใจ เกยี่ วกับกำรจดั กำรเรียนร้แู บบ Active Learning เพ่ือยกระดบั คุณภำพกำรศกึ ษำ สคู่ ุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดย ยดึ หลกั “ศำสตร์พระรำชำ” 1.2) ร้อยละ 100 ของครมู ีกำรพัฒนำกระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอน 2) ควำมสำเรจ็ ที่เป็นแบบอย่ำงได้ - 3) ปญั หำที่พบ - 4) แนวทำงในกำรพฒั นำในปีกำรศึกษำ 2562 -พัฒนำกำรนิเทศติดตำมจดั กำรเรียนรแู้ บบ Active Learning เพ่ือยกระดับ คุณภำพกำรศึกษำ สคู่ ุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยดึ หลัก “ศำสตรพ์ ระรำชำ” โดยใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ และ กำรสือ่ สำร . . การวัดและประเมนิ ผล 3.3.3.1 วธิ กี ำรที่ใช้ในกำรปฏบิ ตั ิกำรนิเทศ สำนกั งำนเขตพืน้ ทก่ี ำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้สง่ เสรมิ สนับสนนุ ให้ โรงเรียนในสังกดั ดำเนินกำรงำนวัดและประเมินผล ดงั น้ี ๑) วเิ ครำะหผ์ ลกำรสอบ O-NET และ NT ปีกำรศกึ ษำ 2560 ระดบั เขตพืน้ ท่ี กำรศึกษำ และจัดกลมุ่ คณุ ภำพโรงเรยี นตำมผลกำรทดสอบ เพอ่ื กำหนดเป้ำหมำยในกำรพัฒนำและวำงแผนกำร พัฒนำคุณภำพผ้เู รยี น ๒) ส่งเสริม สนับสนนุ ใหส้ ถำนศึกษำ วิเครำะหผ์ ลกำรสอบ O-NET และ NT ปีกำรศกึ ษำ 2560 เพอื่ ให้สถำนศกึ ษำนำผลกำรประเมินไปใช้ในกำรกำหนดเป้ำหมำยในกำรพัฒนำ และจดั ทำ แผนกำรยกระดับผลกำรทดสอบระดับชำติ O-NET และ NT ของสถำนศึกษำ ในปีกำรศึกษำ 2561 ๓) สือ่ สำรประชำสมั พนั ธ์ สร้ำงตระหนกั และควำมเขำ้ ใจ ให้แก่ผู้บริหำรและ ครผู สู้ อน เก่ียวกบั กำรสอบ O-NET และ NT ในเร่ืองของผังกำรออกข้อสอบ (Test Blueprint) รูปแบบข้อสอบ

9 (Item Form) ตัวอยำ่ งขอ้ สอบแต่ละรปู แบบ ตวั อย่ำงกระดำษคำตอบและเกณฑ์กำรให้คะแนน เพ่ือให้ครูผู้สอน ได้ เตรยี มควำมพร้อมให้แกน่ ักเรียนลว่ งหน้ำก่อนสอบ ๔) เสรมิ สรำ้ งควำมเข้มแขง็ ของสถำนศึกษำในกำรวัดและประเมินผลตำม หลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พ้นื ฐำน พ.ศ. 2551 ซ่ึงมีรำยละเอยี ดดังนี้ 4.1) กำรประเมนิ ผลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำรเรียน เพอื่ พัฒนำคุณภำพผ้เู รยี น ตำมมำตรฐำนกำรศึกษำ (Pre O-NET) ช้นั ประถมศึกษำปีที่ 6 และชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 3 ปีกำรศึกษำ 2561 โดย มีวัตถปุ ระสงคด์ งั นี้ (๑) เพ่ือเตรียมนักเรยี นชนั้ ประถมศึกษำปีที่ 6 และ มธั ยมศึกษำปีที่ 3 ใหเ้ กิดควำมตระหนักและเหน็ ควำมสำคัญของกำรสอบมำกขนึ้ และใหค้ นุ้ เคยกับรูปแบบข้อสอบ ทห่ี ลำกหลำยของกำรสอบ O-NET ปกี ำรศกึ ษำ 2561 (๒) เพ่อื ประเมนิ ควำมพร้อมของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี 6 และมัธยมศึกษำปีท่ี 3 ในกำรสอบ O-NET ปกี ำรศกึ ษำ 2561 (๓) เพื่อให้สำนักงำนเขตพ้นื ทกี่ ำรศึกษำ สถำนศึกษำ ครูผสู้ อนและนักเรยี น มขี ้อมูลสำรสนเทศจำกกำรสอบ Pre O-NET สำหรับนำไปปรบั ปรุงแก้ไขจุดอ่อนด้อยที่พบ ระดับโรงเรยี น หอ้ งเรียน และรำยบคุ คล ก่อนกำรสอบ O-NET ปีกำรศึกษำ 2561 4.2) กำรประเมนิ คณุ ภำพผูเ้ รียนชั้น ป.2 ,4 ,5 และช้นั มัธยมศึกษำปีที่ 1-2 ปกี ำรศึกษำ 2561 ดว้ ยขอ้ สอบมำตรฐำนในกำรสอบปลำยปี โดยมวี ัตถุประสงคด์ ังนี้ (1) เพอ่ื ให้ครูและโรงเรียนไดเ้ ห็นตัวอย่ำงของขอ้ สอบทม่ี ี คุณภำพและมำตรฐำน (2) เพือ่ ใหโ้ รงเรยี นใชข้ อ้ สอบตำมหลกั สตู รในกำรประเมิน นักเรยี นที่มีคุณภำพและมำตรฐำน และนำผลกำรประเมินมำใชใ้ นกำรพัฒนำและปรบั ปรุงกระบวนกำรจัดกำรเรยี น กำรสอนใหบ้ รรลุมำตรฐำน ตัวชีว้ ดั สำคญั ในหลักสูตร และเนน้ ใหผ้ ู้เรียนใชท้ กั ษะกำรคิดขั้นสูง (3) เพอ่ื ใหเ้ ขตพื้นท่ีกำรศึกษำใชเ้ คร่อื งมอื ตำมหลกั สตู รใน กำรประเมนิ นักเรยี นท่ีมีคุณภำพและมำตรฐำน และนำผลกำรประเมินมำใช้ในกำรนิเทศ ติดตำม และสนบั สนนุ กระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนของโรงเรยี นให้บรรลุมำตรฐำน ตวั ช้วี ดั สำคัญในหลักสูตร และเนน้ ให้ผู้เรียนใช้ ทกั ษะกำรคดิ ขนั้ สูง 4.3) นเิ ทศ ติดตำม กำรดำเนินกำรของสถำนศึกษำในกำรวัดและ ประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำนพุทธศักรำช 2551 และกำรนำผลกำรประเมิน ไปใชใ้ นกำรยกระดับผลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำรเรยี น 5.) ยกย่องเชิดชูเกียรติ โรงเรียนท่ีมผี ลกำรสอบ O-NET, I-NET NT สูงกว่ำ ระดบั ประเทศและครูผู้สอนท่ีมผี ลกำรสอบ O-NET, I-NET NT สงู กวำ่ ระดับประเทศ 3.3.3.2 เคร่ืองมือทีใ่ ช้ในกำรปฏบิ ัติกำรนเิ ทศ แบบนิเทศตดิ ตำมกำรวัดและประเมินผลของสถำนศึกษำ 3.3.3.3 ผลกำรนเิ ทศ 1) สรปุ ผลกำรนเิ ทศทั้งเชงิ ปริมำณและคณุ ภำพ

10 1.1) รอ้ ยละ 100 ของโรงเรยี นในสงั กัด มรี ะบบงำนวดั และ ประเมนิ ผลอยำ่ งเปน็ ระบบและสำมำรถใชโ้ ปรแกรมบรหิ ำรสถำนศกึ ษำสำหรบั ประถมศึกษำ (SchoolMIS) ใน จดั ทำเอกสำรหลักฐำนกำรศึกษำได้ 1.2) สถำนศกึ ษำและครผู ูส้ อนนำผลกำรประเมินไปพัฒนำผเู้ รียนให้มี คณุ ภำพตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ 1.3) รอ้ ยละ 100 ของโรงเรียนท่มี ผี ลกำรสอบ O-NET, I-NET NT สงู กว่ำระดับประเทศ ไดร้ ับกำรยกยอ่ งเชดิ ชูเกยี รติ 1.4) รอ้ ยละ 100 ครผู ู้สอนท่มี ผี ลกำรสอบ O-NET, I-NET NT สงู กว่ำระดบั ประเทศ ไดร้ บั กำรยกยอ่ งเชดิ ชเู กียรติ 2) ควำมสำเร็จทเ่ี ปน็ แบบอย่ำงได้ สถำนศกึ ษำทุกโรงในสงั กัด นำผลกำรประเมินผลกำรประเมนิ ไปพัฒนำ ผู้เรียนให้มคี ุณภำพตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ 3) ปัญหำทพ่ี บ -วธิ กี ำรทค่ี รูผูส้ อนใช้วัดประเมนิ ผลยงั ไม่หลำกหลำย และไม่ครอบคลุม ตวั ชีว้ ดั ตำมหลกั สูตร 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปีกำรศึกษำ 2562 สง่ เสริม สนับสนุน นเิ ทศตดิ ตำม และสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจใหแ้ ก่ครผู ้สู อน ในเรื่องจุดมุ่งหมำยของกำรวดั ประเมนิ ผลและกำรใช้ผลกำรประเมนิ ในกำรพัฒนำควำมก้ำวหนำ้ นักเรยี นเป็น รำยบคุ คลให้เตม็ ตำมศกั ยภำพ และสง่ เสริมกำรวัดประเมนิ ผลตำมสภำพจรงิ ด้วยวิธีกำรท่ีหลำกหลำย . .4 การประกันคุณภาืการศกึ ษา 3.3.4.1 วธิ กี ำรทีใ่ ช้ในกำรปฏิบตั กิ ำรนเิ ทศ 1) สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำร โครงกำรพัฒนำระบบส่งเสริมกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ เพื่อนำผลกำรประเมินมำใช้เป็นข้อมูล สำรสนเทศในกำรวำงแผนปรับปรุงและพัฒนำคุณภำพนักเรียนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ติดตำม ตรวจสอบคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ เพ่ือสังเครำะห์ผลกำรตรวจสอบ และผลกำร ประเมินคุณภำพภำยในของสถำนศกึ ษำ 2) สำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำร นิเทศติดตำม ตรวจสอบคุณภำพ และมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ โดยกำรจัดทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบด้วยผบู้ ริหำรกำรศกึ ษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ศึกษำนเิ ทศก์ ให้ควำมช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนใน กำรเตรียมควำมพร้อมในกำรประเมินภำยนอกรอบส่ี มีกำรแนะนำให้ทำรำยงำนประจำตนเองของสถำนศึกษำ (SAR) 3.3.4.2 เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นกำรปฏบิ ัติกำรนเิ ทศ 1) แบบติดตำม ตรวจสอบคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ 2) คู่มือกำรดำเนนิ งำนระบบส่งเสรมิ กำรประกนั คุณภำพภำยในสถำนศึกษำ

11 3.3.4.3 ผลกำรนิเทศ 1) สรุปผลกำรนิเทศทั้งเชงิ ปรมิ ำณและคณุ ภำพ 1.1) รอ้ ยละ 80 ของครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ มคี วำมร้คู วำม เขำ้ ใจเก่ียวกับระบบประกนั ภำยในของสถำนศึกษำ 1.2) รอ้ ยละ 100 ของโรงเรียนไดร้ บั กำรตดิ ตำม ตรวจสอบคุณภำพ และมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ 1.3) โรงเรียนไดร้ บั กำรสังเครำะหผ์ ลกำรตรวจสอบ และผลกำร ประเมินคุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ 2) ควำมสำเร็จที่เปน็ แบบอย่ำงได้ - 3) ปัญหำที่พบ - 4) แนวทำงในกำรพฒั นำในปีกำรศึกษำ 2562 พัฒนำระบบกำรติดตำม ตรวจสอบคุณภำพ และมำตรฐำนกำรศึกษำของ สถำนศึกษำ อยำ่ งเปน็ ระบบ และมีประสิทธิภำพ โดยใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ และกำรสอ่ื สำร . .5 การยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ 3.3.5.1 วธิ กี ำรทีใ่ ช้ในกำรปฏบิ ัติกำรนเิ ทศ สำนักงำนเขตพน้ื ที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินโครงกำร/ กจิ กรรมเพ่อื ยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิ ดงั น้ี 1) กิจกรรมเดนิ หนำ้ พฒั นำกำรอ่ำนออกเขียนไดข้ องนักเรยี นช้นั ประถมศึกษำ ปีที่ 4 ปีกำรศึกษำ 2561 โดยสำนักงำนเขตพื้นที่ได้ดำเนินกำรจัดประชุมเชิงปฏิบัติกำรครูผู้สอนภำษำไทยช้ัน ประถมศึกษำปีท่ี 4 และแลกเปล่ียนเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่ดีของครูผู้สอนที่มีนักเรียนอ่ำนออกเขียนได้ทุกคนใน สถำนศึกษำสังกัด สพป.ยล.3 และร่วมกันทำ PLC เพื่อหำแนวทำงกำรพัฒนำกำรอ่ำนกำรเขียนให้นักเรียนช้ัน ประถมศึกษำปีที่ 4 อ่ำนออกเขียนได้ทุกคน และนำไปปรับใช้ในชนั้ เรยี นของแต่ละโรงต่อไป และเขตพ้ืนที่ได้มีกำร นเิ ทศติดตำมกำรจัดกำรเรียนสอนภำษำไทยและแลกเปล่ียนเทคนิคกำรสอนผ่ำนระบบ application Line สื่อสำร กับครูเพ่ือกระตุ้นให้สถำนศึกษำรำยงำนผลกำรพัฒนำกำรอ่ำนออกเขียนได้ผ่ำนระบบ e-MES ได้ทันกำหนด ทุก วันท่ี 28 ของเดือน ต้ังแต่เดือนสิงหำคม 2561 ถงึ กุมภำพนั ธ์ 2562 2) กิจกรรมประเมินผลกำรอ่ำนกำรเขียนของนักเรยี นชั้นประถมศึกษำปีท่ี 1 – 6 และกำรรู้เร่ืองกำรอ่ำน (Literacy Reading) ตำมแนวกำรประเมนิ PISA ปีกำรศึกษำ 2561 โดยสำนักงำนเขต พ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรกระตุ้นส่งเสริมกำรพัฒนำกำรอ่ำนกำรเขียนของ สถำนศึกษำในสังกัด ด้วยวิธีกำรที่หลำกหลำย ได้แก่ กำรรำยงำนผลกำรอ่ำนกำรเขียนในท่ีประชุมผู้บริหำร เพ่ือ สร้ำงควำมตระหนักรับรู้ และกำรแลกเปล่ียนเรียนรู้แนวทำงกำรจัดกิจกรรมพัฒนำกำรอ่ำนกำรเขียนผ่ำนระบบ application Line “นิเทศภำษำไทย สพป.ยล.3” นิเทศติดตำมกำรจัดกำรเรียนกำรสอนกำรขับเคลื่อนกำร พฒั นำกำรอ่ำนออกเขียนไดข้ องสถำนศกึ ษำ กำรเยย่ี มช้ันเรียนเพ่อื กระตนุ้ ใหก้ ำลังใจครแู ละนักเรยี นเพือ่ พัฒนำกำร

12 อ่ำนกำรเขียนของนักเรียนช้ันประถมศึกษำปีท่ี 1 - 6 และส่งเสริมกำรอ่ำนรู้เรื่องกำรอ่ำนของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษำปที ี่ 1 - 3 3) กิจกรรมนิเทศติดตำมกำรจัดกำรเรียนกำรสอนภำษำอังกฤษของครูที่ผ่ำน กำรอบรม Boot Camp โดยสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรสนับสนุนและ ส่งเสริมกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนภำษำอังกฤษในชั้นเรียนของครูที่ผ่ำนกำรอบรม Boot Camp ให้มี ประสทิ ธิภำพ โดยกำรสนับสนุนสื่อวัสดเุ พื่อนำไปใชป้ ระกอบกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรใู้ นชนั้ เรียนตำมแนวทำงกำร อบรม Boot Camp และมกี ำรนเิ ทศตดิ ตำมกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนของครใู นชน้ั เรียนเพื่อเติมเตม็ และแลกเปลี่ยน เรยี นรรู้ ่วมกนั ผ่ำนกลมุ่ ไลน์ “Boot Camp สพป.ยล.3” และกลุ่มไลน์ “นิเทศEngYala3” อยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง สม่ำเสมอ ตลอดจนกำรนิเทศโดยทีมนิเทศอำสำ สพป.ยล.๓ ๔) โครงกำรแข่งขนั ทักษะภำษำไทย ปีกำรศึกษำ 2561 ระดับสถำนศกึ ษำและ ระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำ โดยสำนักงำนเขตพ้นื ท่ีกำรศึกษำไดด้ ำเนนิ กำรให้สถำนศกึ ษำจัดกจิ กรรมแข่งขันทักษะ ภำษำไทยระดบั สถำนศกึ ษำให้นกั เรียนทุกคนไดเ้ ข้ำร่วมกิจกรรมเพ่ือพฒั นำทกั ษะ และคัดเลอื กตวั แทนเขำ้ ร่วม กิจกรรมแขง่ ขันทกั ษะในระดับเขตพนื้ ทก่ี ำรศึกษำอีกครง้ั หนึ่ง และมีกำรให้เกียรตบิ ัตรเพ่ือเป็นขวญั และกำลงั ใจ ใหก้ ับคณะกรรมกำรตัดสนิ และนักเรียนท่เี ข้ำรว่ มกิจกรรมที่ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมนิ ทุกคน ๕) โครงกำรนเิ ทศอำสำร่วมพฒั นำคณุ ภำพกำรจัดกำรศึกษำ สพป.ยล.3 จำก สภำพปัจจบุ ันปัญหำของกลุ่มนเิ ทศตดิ ตำมและประเมินผลกำรจดั กำรศึกษำ สพป.ยล.3 มศี ึกษำนิเทศก์จำนวนน้อย และมีภำรกิจท่ีได้รับมอบหมำยจำก สพฐ. และหน่วยงำนอ่ืนๆ มำก ทำให้กำรดำเนินกำรนิเทศติดตำมกำร ขับเคลื่อนนโยบำยและกำรนิเทศเพ่ือพัฒนำคุณภำพกำรจัดกำรเรียนกำรสอนทำได้ไม่ท่ัวถึงและไม่ต่อเนื่อง เพ่ือให้ กำรขับเคล่ือนกำรดำเนินงำนของกลุ่มนิเทศติดตำมและประเมินผลกำรจัดกำรศึกษำเป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ เกดิ ประสทิ ธิผลกบั สถำนศึกษำในสงั กดั จงึ ได้ดำเนนิ โครงกำรนเิ ทศอำสำร่วมพัฒนำคุณภำพกำรจัดกำรศกึ ษำ สพป. ยล.3 โดยควำมร่วมมือจำกผู้บริหำรกำรศึกษำ ผูบ้ ริหำรสถำนศึกษำ และศึกษำนิเทศก์ เป็นทีมนิเทศอำสำ จำนวน 2 ทีม เพื่อร่วมนิเทศติดตำมนโยบำยและนิเทศกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครูเพื่อกระตุ้น ส่งเสริมกำรจัดกำร เรียนกำรสอนท่ีเน้น Active Learning โดยกำรตรวจเยี่ยมทุกช้ันเรียน และประเมินห้องเรียนคุณภำพ (ด้ำน ห้องเรียน ด้ำนครู และด้ำนเด็ก) เพ่ือกระตุ้นและยกระดับผลสัมฤทธ์ิให้สูงข้ึน พร้อมยกย่องเชิดชูเกียรติครูที่ผ่ำน กำรประเมินห้องเรียนคุณภำพระดับดีขึ้นไป เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในกำรพัฒนำสถำนศึกษำและผู้เรียนให้มี คณุ ภำพตอ่ ไป 3.3.5.2 เครือ่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นกำรปฏบิ ตั กิ ำรนิเทศ 1) แบบนเิ ทศติดตำมกำรขับเคล่อื นคุณภำพกำรจดั กำรศึกษำตำมนโยบำย และจดุ เน้น สพฐ. โดยทมี นเิ ทศอำสำ สพป.ยล.3 2) แบบสงั เกตกำรสอนของครู 3) แบบตรวจเยย่ี มช้ันเรยี น 3) แบบประเมินห้องเรียนคณุ ภำพ 4) คมู่ ือกำรดำเนนิ งำนกำรนเิ ทศ สพป.ยล.3 5) แบบบนั ทึกผลกำรแขง่ ขันทักษะภำษำไทย 6) แบบบนั ทึกกำรนเิ ทศครทู ี่ผำ่ นกำรอบรม Boot Camp

13 7) แบบประเมินควำมพงึ พอใจของผู้รับกำรนิเทศ 8) แบบรำยงำนผลกำรอ่ำนเขียนผ่ำนระบบ e-MES , ระบบ e-read_e-write 9) แบบบันทึกกำรนิเทศ 3.3.5.3 ผลกำรนเิ ทศ 1) สรปุ ผลกำรนิเทศทั้งเชงิ ปรมิ ำณและคณุ ภำพ 1.1) ผลจำกกำรดำเนินงำนเดินหนำ้ พัฒนำกำรอำ่ นออกเขียนไดข้ อง นักเรียนช้ันประถมศึกษำปีท่ี 4 ปีกำรศึกษำ 2561 จำกกำรวิเครำะห์ผลกำรพัฒนำกำรอ่ำนออกเขียนได้ของ นักเรียนช้ันประถมศึกษำปีที่ 4 ในสังกัด พบว่ำ นักเรียนมีกำรพัฒนำด้ำนกำรอ่ำนกำรเขียนท่ีดีข้ึน จำกข้อมูล ณ เดือนสิงหำคม 2561 นักเรียนชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 อ่ำนออกเขียนได้ ร้อยละ 87.72 และ เดือนกุมภำพันธ์ 2562 นักเรียนช้ันประถมศึกษำปีท่ี 4 อ่ำนออกเขียนได้ ร้อยละ 95.72 เพ่ิมข้ึน ร้อยละ 7.98 ทั้งน้ีอำจเป็น เพรำะเขตพื้นที่กำรศึกษำให้ควำมสำคัญและจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นครูให้ตระหนักและเร่งรัดหำวิธีกำรพัฒนำ รว่ มกัน และกำรรำยงำนผลผ่ำนระบบทุกเดือน โดยครูผู้สอนให้ควำมร่วมมือในกำรร่วมพัฒนำกำรอ่ำนกำรเขยี นใน ช้ันเรียนอยำ่ งตอ่ เน่อื ง จงึ ทำใหผ้ ลกำรอ่ำนกำรเขียนของนักเรียนช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี 4 ดขี ึน้ 1.2) ผลจำกกำรดำเนินกำรประเมินกำรอ่ำนกำรเขียน ภำคเรียนท่ี 2 ปีกำรศึกษำ 2562 (ข้อมลู ณ เดอื นมกรำคม 2562) พบว่ำ -นักเรียนชัน้ ประถมศึกษำปีท่ี 1 อ่ำนออกเขียนได้ ร้อยละ 80.80 -นกั เรยี นช้ันประถมศึกษำปที ี่ 2 อำ่ นออกเขยี นได้ รอ้ ยละ 88.15 -นักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 อำ่ นออกเขียนได้ ร้อยละ 86.60 -นกั เรียนชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 อำ่ นคล่องเขยี นคล่อง สอื่ สำรเปน็ รอ้ ยละ 89.29 -นักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ 5 อ่ำนคล่องเขยี นคล่อง ส่อื สำรเป็น ร้อยละ 90.28 -นกั เรยี นชั้นประถมศึกษำปที ่ี 6 อำ่ นคล่องเขียนคล่อง สอ่ื สำรเปน็ ร้อยละ 90.95 -นกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 รูเ้ รอื่ งกำรอ่ำนตำมแนว PISA ร้อยละ 85.83 -นักเร่ียนช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี 2 รเู้ ร่ืองกำรอ่ำนตำมแนว PISA ร้อยละ 93.57 -นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 3 รเู้ รอ่ื งกำรอำ่ นตำมแนว PISA รอ้ ยละ91.50 โดยเขตพื้นท่ีไดร้ ับควำมรว่ มมอื จำกสถำนศกึ ษำในกำรขับเคลื่อนนโยบำยเพ่ือพฒั นำกำรอ่ำนกำร เขียนของนกั เรียนอยำ่ งเป็นรูปธรรม และกำรประเมินผลกำรอ่ำนกำรเขยี นมคี วำมบรสิ ุทธิ์ โปรง่ ใส และยตุ ิธรรม ทำ ใหส้ ถำนศกึ ษำทรำบข้อมูลนักเรียนที่อำ่ นไม่ออกเขยี นได้และนำไปพัฒนำผู้เรยี นดว้ ยวิธีกำรท่ีหลำกหลำยตำมบรบิ ท ของพื้นที่ 1.3) ครูผู้สอนภำษำอังกฤษท่ีผ่ำนกำรอบรมโครงกำร Boot Camp มี กำรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมกำรสอนที่เน้น Active Learning อย่ำงเห็นได้ชัด สำมำรถเป็นแบบอยำ่ งให้เพ่ือนครูได้ และสถำนศึกษำใหก้ ำรยอมรับให้เป็นตัวแทนครูเข้ำรับกำรประเมินห้องเรียนคุณภำพ ทั้งน้ีอำจเน่ืองจำกกำรที่ครูมี กำรจัดกิจกรรมที่เป็น Active Learning มำกขึ้น ครูมีควำมสำมำรถในกำรบริหำรจัดเรียนท่ีมีประสิทธิภำพ นกั เรียนเรียนรอู้ ย่ำงมคี วำมสขุ ห้องเรยี นเอ้อื ตอ่ กำรเรียนรูม้ ำกขึน้ 1.4) ผลจำกกำรดำเนินโครงกำรนิเทศอำสำร่วมพฒั นำคุณภำพกำรจัด กำรศึกษำ สพป.ยล.3 พบวำ่

14 1.4.1) ทมี นิเทศอำสำ มีควำมพึงพอใจต่อกำรดำเนิน โครงกำรในลกั ษณะน้ีทีค่ ณะผู้บริหำรไดม้ โี อกำสได้เข้ำรว่ มนเิ ทศสถำนศึกษำในสังกดั ทำให้ได้แลกเปลีย่ นเรียนร้กู ำร ขับเคลื่อนนโยบำยและกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครูในแต่ละโรง มีประโยขน์ต่อทีมนิเทศในกำรนำไปพัฒนำ สถำนศึกษำให้มีคุณภำพดียิ่งข้ึน ท้ังในด้ำนกำรพัฒนำส่ิงแวดล้อม ด้ำนกำรกระตุ้นส่งเสริมครูให้มีกำรพัฒนำ ห้องเรียนและพฒั นำเทคนคิ กำรสอนให้เปน็ Active Learning มำกขน้ึ และสง่ ผลต่อคุณภำพผู้เรียน 1.4.2) สถำนศกึ ษำมีควำมตระหนกั และให้ควำมรว่ มมือใน กำรพัฒนำห้องเรียนให้มีคุณภำพ มีกำรตื่นตัวท้ังโรงเรียน ร้อยละ 81.25 ของสถำนศกึ ษำในสังกัด มีห้องเรยี นท่ีมี คุณภำพระดบั ดขี ึ้นไป กำรขับเคลื่อนนโยบำยสำมำรถดำเนินกำรไดเ้ หมำะสมกับบรบิ ทของพื้นที่ 1.4.3) สถำนศึกษำร้อยละ 100 มีควำมพงึ พอใจตอ่ วธิ ีกำร นเิ ทศโดยทมี นิเทศอำสำร่วมพฒั นำคณุ ภำพกำรจัดกำรศึกษำ สพป.ยล.3 1.5) สถำนศกึ ษำในสงั กดั ร้อยละ 100 ไดร้ ับกำรนเิ ทศตดิ ตำมกำร จดั กำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้น Active Learning โดยมุ่งเนน้ ยกระดับผลสัมฤทธใ์ิ ห้สงู ข้นึ 1.6) ผลกำรทดสอบ O-NET ปกี ำรศกึ ษำ 2561 ระดับเขตพ้ืนที่ กำรศึกษำ พบวำ่ วชิ ำภำษำไทย,ภำษำอังกฤษ และวิทยำศำสตร์ สูงกวำ่ ปี 2560 2) ควำมสำเร็จท่ีเป็นแบบอย่ำงได้ โรงเรียนบ้ำนปะเด็ง โรงเรยี นบ้ำนจำเรำะซูซู และโรงเรยี นไทยรฐั วทิ ยำ 94 (บำ้ นบ่อน้ำร้อน) มีคะแนนเฉลีย่ สูงกว่ำคำ่ เฉลย่ี ระดับประเทศ 3) ปัญหำท่พี บ - 4) แนวทำงในกำรพฒั นำในปีกำรศึกษำ 2562 -พฒั นำรปู แบบกำรนเิ ทศที่เน้นกำรทำงำนเป็นทีม และทกุ ฝ่ำยมสี ่วม ร่วมนำเทคโนโลยมี ำใชใ้ นกำรนเิ ทศใหม้ ำกข้ึน . .6 การจัดการศึกษาืเิ ศษ 3.3.6.1 วธิ กี ำรทใ่ี ชใ้ นกำรปฏบิ ตั กิ ำรนิเทศ 1) สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้จดั กำรอบรม เชงิ ปฏิบัติกำรหลักสตู รผู้ดำเนินกำรคดั กรองควำมพิกำรตำมประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร ภำยใตโ้ ครงกำรกำร พฒั นำคุณภำพกำรจดั กำรศึกษำสำหรับนักเรียนเรยี นรวม โดยมีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือพัฒนำครผู ้สู อนใหม้ คี วำมรู้ ควำม เขำ้ ใจเก่ียวกับกำรจดั กำรศึกษำสำหรับนักเรยี นรวม และเพื่อพัฒนำครูผ้สู อนใหม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเก่ียวกับกำร ดำเนินกำรคดั กรองควำมพกิ ำรตำมประกำศกระทรวงศกึ ษำ 2) สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำร นิเทศติดตำม กำรจัดกำรศึกษำสำหรับนักเรียนเรียนรวม โดยกำรจัดทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบด้วย ผู้บริหำรกำรศึกษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ศึกษำนิเทศก์ ให้ควำมช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนในกำรกำรจัด กำรศึกษำสำหรับนักเรียนเรยี นรวม

15 3.3.6.2 เครอื่ งมือทีใ่ ชใ้ นกำรปฏิบตั ิกำรนิเทศ 1) แบบตดิ ตำมกำรจดั กำรศึกษำสำหรบั นกั เรียนเรียนรวม 2) คู่มือกำรนิเทศทำงไกลกำรจัดกำรศกึ ษำสำหรับนักเรียนเรียนรวม 3.3.6.3 ผลกำรนิเทศ 1) สรปุ ผลกำรนเิ ทศทั้งเชงิ ปรมิ ำณและคณุ ภำพ 1) ร้อยละ 80 ของครผู ูส้ อนมคี วำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกี่ยวกับกำรจดั กำรศกึ ษำสำหรับนักเรียนรวม 2) ร้อยละ 80 ของครผู ้สู อนมคี วำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกย่ี วกับกำร ดำเนินกำรคดั กรองควำมพิกำรตำมประกำศกระทรวงศึกษำศึกษำ 2) ควำมสำเรจ็ ทเ่ี ป็นแบบอย่ำงได้ - 3) ปัญหำที่พบ - 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปีกำรศึกษำ 2562 พฒั นำระบบกำรนเิ ทศตดิ ตำม กำรจดั กำรศึกษำสำหรับนักเรยี นเรยี น รวมโดยใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศ และกำรสอื่ สำร . .7 จดั การเร่ยนการสอนดว้ ยเทคโนโลย่การศึกษาทางไกลผ่านดาวเท่ยม DLTV (Distance Learning Television) ในโรงเร่ยนตนาดเล็ก 3.3.7.1 วธิ ีกำรท่ีใช้ในกำรปฏบิ ตั กิ ำรนเิ ทศ สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรนิเทศ ติดตำม นิเทศติดตำม กำรจัดกำรเรียนกำรสอนด้วยเทคโนโลยีกำรศึกษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม DLTV (Distance Learning Television) ในโรงเรยี นขนำดเล็ก โดยกำรจดั ทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบด้วยผู้บริหำรกำรศกึ ษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ศึกษำนิเทศก์ ให้ควำมช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนด้วย เทคโนโลยกี ำรศกึ ษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม DLTV (Distance Learning Television) ในโรงเรยี นขนำดเลก็ 3.3.7.2 เคร่อื งมือที่ใชใ้ นกำรปฏิบตั ิกำรนิเทศ 1) แบบสอบถำม 2) แบบนิเทศติดตำมกำรขบั เคล่อื นนโยบำยฯ โดยทมี นเิ ทศอำสำ สพป.ยล.3 3) แบบนิเทศตดิ ตำม กำรจดั กำรเรยี นกำรสอนดว้ ยเทคโนโลยีกำรศกึ ษำ ทำงไกล ผ่ำนดำวเทียม DLTV (Distance Learning Television) ในโรงเรียนขนำดเล็ก 3.3.7.3 ผลกำรนเิ ทศ 1) สรปุ ผลกำรนิเทศทง้ั เชงิ ปริมำณและคณุ ภำพ

16 1.1) โรงเรียนดำเนนิ กำรกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนดว้ ยเทคโนโลยี กำรศึกษำทำงไกลผำ่ นดำวเทียม DLTV (Distance Learning Television) ในโรงเรียนขนำดเลก็ ได้อย่ำงมี ประสทิ ธภิ ำพ 1.2) ร้อยละ 100 ของโรงเรียนได้รับกำรนิเทศติดตำมกำรจดั กำร เรียนกำรสอนด้วยเทคโนโลยกี ำรศกึ ษำทำงไกลผำ่ นดำวเทียม DLTV (Distance Learning Television)โรงเรียน ขนำดเล็ก 2) ควำมสำเรจ็ ทเ่ี ป็นแบบอย่ำงได้ โรงเรียนบ้ำนจำเรำะซซู ู และโรงเรียนบำ้ นปะเดง็ มผี ลกำรทดสอบ O- NET ปีกำรศกึ ษำ 2561 สูงกว่ำระดบั ประเทศ 3) ปัญหำที่พบ 3.1) โรงเรียนบำงโรง บำงครงั้ กระแสไฟดบั 3.2) โรงเรียนขนำดเลก็ ทเ่ี ปดิ สอนหลักสตู รอสิ ลำมศกึ ษำแบบเขม้ ไม่ สำมำรถจัดกำรเรียนกำรสอนได้ตำมตำรำงในบำงวิชำ จึงใช้วธิ กี ำรเลอื กสอนในวชิ ำที่ไม่ถนดั เป็นลำดับแรก 4) แนวทำงในกำรพฒั นำในปีกำรศกึ ษำ 2562 4.1) ใหม้ ีกำรแลกเปลยี่ นเรยี นรู้วธิ ีปฏบิ ัติท่ดี ขี องโรงเรยี นขนำดเล็กท่ี สำมำรถยกระดบั ผลสมั ฤทธใิ์ หส้ งู ได้ 4.2) พัฒนำระบบกำรนิเทศติดตำม กำรจดั กำรเรยี นกำรสอนด้วย เทคโนโลยกี ำรศึกษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม DLTV (Distance Learning Television) ในโรงเรยี นขนำดเล็ก โดยใช้ เทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสอื่ สำร 4. การปฏบิ ัติงานการนิเทศระดบั มธั ยมศึกษา 4.1 จำนวนโรงเรียนทงั้ หมดที่จดั กำรศึกษำระดบั มธั ยมศกึ ษำ จำนวน 7 โรงเรียน 4.2 จำนวนโรงเรียนที่ไดร้ ับกำรนเิ ทศ จำนวน 7 โรงเรียน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100.00 ของโรงเรยี นทง้ั หมด 4.3 ประเดน็ /เนือ้ หำ/หวั ขอ้ ท่ีใช้ในกำรนเิ ทศ 4. .1 การใช้หลกั สูตรสมานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาตนันื้นน ฐาน ืทุ ธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรย่ นร้แู ละตวั ช่วน ัดกลุ่มสาระการเร่ยนรคู้ ณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตรใ์ น กลุ่มสาระการเร่ยนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบบั ปรบั ปรงุ ื.ศ. 2560) 4.3.1.1 วธิ กี ำรท่ีใชใ้ นกำรปฏบิ ตั ิกำรนิเทศ 1) สำนักงำนเขตพ้ืนทก่ี ำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้จดั โครงกำรกำร พัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำตำมเป้ำหมำยหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ข้ึน เพ่ือร่วมกันศึกษำควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐ ำน พุทธศักรำช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) รวมถึงแนวทำงกำรออกแบบกำรเรียนรู้ กำรจัดกิจกรรมกำร เรียนรู้ และกำรวดั ประเมนิ ผลผเู้ รียนใหบ้ รรลุตำมเป้ำประสงค์ของหลักสูตร

17 2) สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรนิเทศ ติดตำมกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำตำมเป้ำหมำยหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พ.ศ. 2551 (ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ. 2560) โดยกำรจัดทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบด้วยผู้บริหำรกำรศึกษำ ผบู้ รหิ ำรสถำนศึกษำ ศึกษำนิเทศก์ ให้ควำมช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนในกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำตำมเป้ำหมำยหลักสู ตร แกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พ้นื ฐำน พ.ศ. 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) 4.3.1.2 เครื่องมือท่ีใชใ้ นกำรปฏิบัติกำรนิเทศ 1) แบบนิเทศ ติดตำมกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำตำมเป้ำหมำยหลักสูตรแกนกลำง กำรศึกษำขัน้ พื้นฐำน พ.ศ. 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) 2) คูม่ ือกำรนเิ ทศ ติดตำมกำรใชห้ ลกั สูตรสถำนศกึ ษำตำมเป้ำหมำยหลกั สูตรแกนกลำง กำรศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) 4.3.1.3 ผลกำรนเิ ทศ 1) สรปุ ผลกำรนเิ ทศทัง้ เชิงปริมำณและคุณภำพ 1) ครผู สู้ อนมคี วำมรู้ควำมเข้ำใจ เก่ยี วกบั กรอบและทิศทำงกำรปรับปรงุ หลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน พุทธศกั รำช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) 2) ครูผู้สอนสำมำรถพัฒนำหลักสูตร กำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้ และกำรบริหำรจัดกำรช้ันเรียน กำรใช้และพัฒนำสื่อตลอดจนแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนำคุณภำพผเู้ รยี นตำมเป้ำหมำย ของหลกั สูตร 3) ครูผู้สอนสำมำรถนำหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน พุทธศักรำช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สู่กำรปฏิบัติในสถำนศึกษำและห้องเรียนคุณภำพให้เกิดผล สัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรียนตำมคณุ ภำพมำตรฐำนกำรศึกษำท่สี ถำนศกึ ษำกำหนดไว้ 2) ควำมสำเรจ็ ท่เี ปน็ แบบอย่ำงได้ - 3) ปัญหำท่ีพบ โรงเรียนสว่ นใหญ่ขำดแคลนคอมพวิ เตอร์ในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน วทิ ยำกำรคำนวณ และรำยวชิ ำคอมพิวเตอร์ 4) แนวทำงในกำรพฒั นำในปีกำรศึกษำ 2562 พัฒนำระบบกำรนิเทศกำรใช้หลักสูตรสถำนศึกษำตำมเป้ำหมำยหลักสูตร แกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) โดยใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศและกำร ส่ือสำร 4. .2 การจัดการเรย่ นรเู้ ชิงรกุ (Active Learning) 4.3.2.1 วธิ กี ำรทีใ่ ช้ในกำรปฏบิ ตั ิกำรนิเทศ 1) สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้จัดทำโครงกำร กำรจัดกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อยกระดับคุณภำพกำรศึกษำ สู่คุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยึดหลัก “ศำสตรพ์ ระรำชำ” มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ครูมีควำมรคู้ วำมเข้ำใจเกี่ยวกบั กำรจดั กำรเรียนรู้แบบ Active Learning และเพ่ือส่งเสริมกำรใช้กระบวนกำร “ชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ” สู่นวัตกรรมกำรอ่ำนออก เขียนได้ โดย

18 กำหนดจัดกิจกรรมท่ี 2 กำรอบรมเชิงปฏิบัติกำรกำรจัดกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพ่ือยกระดับคุณภำพ กำรศึกษำ สคู่ ุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยดึ หลกั “ศำสตร์พระรำชำ” 2) สำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรนิเทศ จัดกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพ่ือยกระดับคุณภำพกำรศึกษำ สู่คุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยึดหลัก “ศำสตร์พระรำชำ” โดยกำรจัดทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบด้วยผู้บริหำรกำรศึกษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ศึกษำนิเทศก์ ให้ควำมช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนในกำรจัดกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพ่ือ ยกระดบั คณุ ภำพกำรศึกษำ สู่คุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยึดหลกั “ศำสตร์พระรำชำ” 4.3.2.2 เคร่อื งมือทใี่ ชใ้ นกำรปฏิบัตกิ ำรนเิ ทศ แบบนเิ ทศติดตำมจดั กำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพ่ือยกระดับคุณภำพ กำรศึกษำ สูค่ ุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยดึ หลกั “ศำสตรพ์ ระรำชำ” 4.3.2.3 ผลกำรนิเทศ 1) สรปุ ผลกำรนเิ ทศท้ังเชงิ ปริมำณและคณุ ภำพ 1.1) รอ้ ยละ 90 ของผู้บริหำรและครทู ่เี ขำ้ อบรมมีควำมรู้ควำมเข้ำใจ เกี่ยวกบั กำรจดั กำรเรียนรู้แบบ Active Learning เพ่ือยกระดบั คุณภำพกำรศกึ ษำ สคู่ ุณภำพไทยแลนด์ 4.0 โดย ยึดหลัก “ศำสตร์พระรำชำ” 1.2). รอ้ ยละ 100 ของครูมกี ำรพฒั นำกระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน 2) ควำมสำเร็จท่เี ปน็ แบบอย่ำงได้ - 3) ปญั หำท่พี บ 3.1) ครูผสู้ อนควรใชส้ อ่ื ประกอบกำรเรยี นกำรสอน 3.2) โรงเรียนบำงแห่งยงั ขำดแคลนงบประมำณในกำรสนับสนนุ กำรสอนของครู 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปีกำรศึกษำ 2562 มกี ำรพัฒนำกำรนเิ ทศติดตำมจดั กำรเรียนร้แู บบ Active Learning เพือ่ ยกระดบั คณุ ภำพกำรศึกษำ สู่คณุ ภำพไทยแลนด์ 4.0 โดยยึดหลกั “ศำสตรพ์ ระรำชำ” โดยใช้เทคโนโลยี สำรสนเทศ และกำรสอ่ื สำร ๔. . การวดั และประเมินผล ๔.3.3.1 วธิ กี ำรทีใ่ ชใ้ นกำรปฏิบตั ิกำรนิเทศ สำนกั งำนเขตพ้ืนทีก่ ำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้สง่ เสริมสนบั สนนุ ให้ โรงเรยี นในสังกัดดำเนินกำรงำนวดั และประเมินผล ดงั นี้ ๑) วเิ ครำะหผ์ ลกำรสอบ O-NET และ NT ปีกำรศึกษำ 2560 ระดับเขตพ้ืนท่ี กำรศกึ ษำ และจัดกลุ่มคุณภำพโรงเรยี นตำมผลกำรทดสอบ เพื่อกำหนดเป้ำหมำยในกำรพัฒนำและวำงแผนกำร พัฒนำคณุ ภำพผู้เรียน ๒) ส่งเสรมิ สนับสนุนให้สถำนศึกษำ วเิ ครำะหผ์ ลกำรสอบ O-NET และ NT ปีกำรศกึ ษำ 2560 เพ่อื ใหส้ ถำนศกึ ษำนำผลกำรประเมนิ ไปใช้ในกำรกำหนดเปำ้ หมำยในกำรพัฒนำ และจดั ทำ แผนกำรยกระดบั ผลกำรทดสอบระดับชำติ O-NET และ NT ของสถำนศึกษำ ในปีกำรศึกษำ 2561

19 ๓) สือ่ สำรประชำสมั พันธ์ สร้ำงตระหนกั และควำมเขำ้ ใจ ให้แก่ผ้บู ริหำรและ ครผู ูส้ อน เกี่ยวกับกำรสอบ O-NET และ NT ในเรอื่ งของผังกำรออกขอ้ สอบ (Test Blueprint) รูปแบบขอ้ สอบ (Item Form) ตวั อยำ่ งข้อสอบแตล่ ะรปู แบบ ตัวอยำ่ งกระดำษคำตอบและเกณฑ์กำรให้คะแนน เพื่อให้ครผู ู้สอน ได้ เตรยี มควำมพรอ้ มให้แก่นักเรียนล่วงหน้ำก่อนสอบ ๔) เสริมสรำ้ งควำมเข้มแขง็ ของสถำนศึกษำในกำรวัดและประเมินผลตำม หลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพนื้ ฐำน พ.ศ. 2551 ซงึ่ มีรำยละเอียดดังน้ี 4.1) กำรประเมินผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรยี น เพอ่ื พัฒนำคุณภำพผู้เรยี น ตำมมำตรฐำนกำรศกึ ษำ (Pre O-NET) ชัน้ ประถมศึกษำปีท่ี 6 และชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 3 ปีกำรศึกษำ 2561 โดย มีวตั ถปุ ระสงค์ดงั น้ี (๑) เพื่อเตรียมนักเรียนช้นั ประถมศึกษำปที ี่ 6 และ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 3 ใหเ้ กิดควำมตระหนักและเหน็ ควำมสำคัญของกำรสอบมำกขนึ้ และใหค้ นุ้ เคยกบั รูปแบบข้อสอบ ทห่ี ลำกหลำยของกำรสอบ O-NET ปีกำรศกึ ษำ 2561 (๒) เพ่ือประเมินควำมพร้อมของนักเรยี นช้ันประถมศึกษำปีท่ี 6 และมัธยมศึกษำปีท่ี 3 ในกำรสอบ O-NET ปีกำรศกึ ษำ 2561 (๓) เพอื่ ใหส้ ำนักงำนเขตพน้ื ทีก่ ำรศึกษำ สถำนศึกษำ ครูผู้สอนและนักเรยี น มขี ้อมูลสำรสนเทศจำกกำรสอบ Pre O-NET สำหรบั นำไปปรับปรงุ แก้ไขจุดอ่อนด้อยที่พบ ระดับโรงเรียน หอ้ งเรียน และรำยบุคคล ก่อนกำรสอบ O-NET ปีกำรศึกษำ 2561 4.2) กำรประเมนิ คุณภำพผู้เรียนชัน้ ป.2 ,4 ,5 และช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี 1-2 ปกี ำรศึกษำ 2561 ด้วยข้อสอบมำตรฐำนในกำรสอบปลำยปี โดยมวี ัตถุประสงค์ดังน้ี (1) เพือ่ ให้ครแู ละโรงเรยี นไดเ้ หน็ ตวั อยำ่ งของขอ้ สอบทม่ี ี คณุ ภำพและมำตรฐำน (2) เพ่อื ให้โรงเรยี นใชข้ ้อสอบตำมหลักสูตรในกำรประเมิน นกั เรยี นท่มี ีคุณภำพและมำตรฐำน และนำผลกำรประเมินมำใช้ในกำรพฒั นำและปรับปรุงกระบวนกำรจดั กำรเรยี น กำรสอนให้บรรลุมำตรฐำน ตวั ชวี้ ดั สำคญั ในหลกั สูตร และเนน้ ให้ผู้เรยี นใชท้ ักษะกำรคิดข้ันสงู (3) เพ่อื ให้เขตพนื้ ท่ีกำรศึกษำใช้เครอ่ื งมอื ตำมหลักสูตรใน กำรประเมินนกั เรียนท่ีมีคุณภำพและมำตรฐำน และนำผลกำรประเมนิ มำใช้ในกำรนิเทศ ติดตำม และสนับสนนุ กระบวนกำรจดั กำรเรียนกำรสอนของโรงเรยี นใหบ้ รรลุมำตรฐำน ตัวช้ีวัดสำคัญในหลกั สูตร และเน้นใหผ้ เู้ รยี นใช้ ทักษะกำรคดิ ข้นั สูง 4.3) นเิ ทศ ตดิ ตำม กำรดำเนินกำรของสถำนศึกษำในกำรวัดและ ประเมินผลกำรเรยี นรู้ ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พ้นื ฐำนพทุ ธศักรำช 2551 และกำรนำผลกำรประเมนิ ไปใช้ในกำรยกระดับผลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรยี น 5.) ยกย่องเชิดชูเกยี รติ โรงเรียนทม่ี ผี ลกำรสอบ O-NET, I-NET NT สงู กว่ำ ระดบั ประเทศและครูผูส้ อนที่มผี ลกำรสอบ O-NET, I-NET NT สูงกว่ำระดบั ประเทศ ๔.3.3.2 เครอื่ งมือทใ่ี ช้ในกำรปฏบิ ัติกำรนเิ ทศ แบบนเิ ทศติดตำมกำรวดั และประเมินผลของสถำนศกึ ษำ

20 ๔.3.3.3 ผลกำรนเิ ทศ 1) สรุปผลกำรนเิ ทศทั้งเชิงปรมิ ำณและคุณภำพ 1.1) ร้อยละ 100 ของโรงเรียนในสงั กดั มีระบบงำนวัดและ ประเมนิ ผลอย่ำงเปน็ ระบบและสำมำรถใช้โปรแกรมบรหิ ำรสถำนศึกษำสำหรบั ประถมศึกษำ (School MIS) ใน จดั ทำเอกสำรหลกั ฐำนกำรศกึ ษำได้ 1.2) สถำนศกึ ษำและครูผู้สอนนำผลกำรประเมนิ ไปพฒั นำผเู้ รียนให้มี คณุ ภำพตำมมำตรฐำนกำรเรยี นรู้ 1.3) รอ้ ยละ 100 ของโรงเรียนทม่ี ผี ลกำรสอบ O-NET, I-NET NTสงู กวำ่ ระดบั ประเทศ ไดร้ ับกำรยกยอ่ งเชดิ ชเู กียรติ 1.4) รอ้ ยละ 100 ครผู ูส้ อนท่ีมีผลกำรสอบ O-NET, I-NET NT สูง กว่ำระดบั ประเทศ ไดร้ ับกำรยกยอ่ งเชิดชเู กยี รติ 2) ควำมสำเร็จทเี่ ป็นแบบอย่ำงได้ สถำนศกึ ษำทกุ โรงในสังกดั นำผลกำรประเมินผลกำรประเมนิ ไปพฒั นำ ผู้เรยี นใหม้ คี ณุ ภำพตำมมำตรฐำนกำรเรยี นรู้ 3) ปญั หำท่ีพบ -วธิ กี ำรที่ครูผสู้ อนใชว้ ัดประเมินผลยังไม่หลำกหลำย และไม่ครอบคลมุ ตัวช้ีวดั ตำมหลักสูตร 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปกี ำรศึกษำ 2562 ส่งเสริม สนับสนนุ นเิ ทศติดตำม และสรำ้ งควำมรู้ควำมเข้ำใจใหแ้ ก่ครผู สู้ อน ในเรือ่ งจุดมุ่งหมำยของกำรวัดประเมนิ ผลและกำรใชผ้ ลกำรประเมินในกำรพฒั นำควำมก้ำวหนำ้ นกั เรียนเป็น รำยบคุ คลให้เตม็ ตำมศักยภำพ และส่งเสริมกำรวัดประเมนิ ผลตำมสภำพจรงิ ด้วยวิธกี ำรที่หลำกหลำย 4. .4 การประกันคณุ ภาืการศึกษา 4.3.4.1 วิธีกำรทใี่ ช้ในกำรปฏิบตั กิ ำรนิเทศ 1) สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรโครงกำร พัฒนำระบบส่งเสริมกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ เพ่ือนำผลกำรประเมินมำใช้เป็นข้อมูลสำรสนเทศใน กำรวำงแผนปรบั ปรงุ และพัฒนำคุณภำพนกั เรียนได้อย่ำงมีประสิทธภิ ำพ โดยมวี ัตถปุ ระสงค์เพือ่ ติดตำม ตรวจสอบ คุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ เพื่อสังเครำะห์ผลกำรตรวจสอบ และผลกำรประเมินคุณภำพ ภำยในของสถำนศกึ ษำ 2) สำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรนิเทศ ติดตำม ตรวจสอบคุณภำพ และมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ โดยกำรจัดทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบด้วยผ้บู ริหำรกำรศึกษำ ผู้บรหิ ำรสถำนศึกษำ ศกึ ษำนิเทศก์ ใหค้ วำมชว่ ยเหลือ ข้อเสนอแนะแกโ่ รงเรียนใน กำรเตรียมควำมพร้อมในกำรประเมินภำยนอกรอบส่ี มีกำรแนะนำให้ทำรำยงำนประจำตนเองของสถำนศึกษำ (SAR) 4.3.4.2 เครอื่ งมอื ท่ใี ชใ้ นกำรปฏบิ ัตกิ ำรนิเทศ แบบติดตำม ตรวจสอบคุณภำพและมำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ

21 4.3.4.3 ผลกำรนเิ ทศ 1) สรปุ ผลกำรนิเทศท้ังเชิงปรมิ ำณและคุณภำพ 1. รอ้ ยละ 80 ของครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ มีควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ เกย่ี วกับระบบประกนั ภำยในของสถำนศึกษำ 2. รอ้ ยละ 100 ของโรงเรียนได้รบั กำรติดตำม ตรวจสอบคุณภำพและ มำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ 3. โรงเรียนไดร้ ับกำรสงั เครำะหผ์ ลกำรตรวจสอบ และผลกำรประเมนิ คณุ ภำพภำยในของสถำนศึกษำ 2) ควำมสำเรจ็ ทเ่ี ปน็ แบบอยำ่ งได้ - 3) ปญั หำทพี่ บ - 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปีกำรศึกษำ 2562 พัฒนำระบบกำรติดตำม ตรวจสอบคุณภำพ และมำตรฐำนกำรศึกษำของ สถำนศกึ ษำ อยำ่ งเปน็ ระบบ และมปี ระสิทธิภำพ โดยใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศ และกำรสอ่ื สำร ๔. .5 การยกระดับผลสัมฤทธ์ิ ๔.3.5.1 วธิ กี ำรทใี่ ชใ้ นกำรปฏบิ ัติกำรนเิ ทศ สำนกั งำนเขตพืน้ ที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินโครงกำร/ กิจกรรมเพือ่ ยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ ดงั น้ี 1) กจิ กรรมเดนิ หนำ้ พฒั นำกำรอำ่ นออกเขยี นไดข้ องนักเรยี นช้นั ประถมศึกษำ ปีท่ี 4 ปีกำรศึกษำ 2561 โดยสำนักงำนเขตพ้ืนที่ได้ดำเนินกำรจัดประชุมเชิงปฏิบัติกำรครูผู้สอนภำษำไทยช้ัน ประถมศึกษำปีที่ 4 และแลกเปล่ียนเรียนรู้วิธีปฏิบัติท่ีดีของครูผู้สอนที่มีนักเรียนอ่ำนออกเขียนได้ทุกคนใน สถำนศึกษำสังกัด สพป.ยล.3 และร่วมกันทำ PLC เพ่ือหำแนวทำงกำรพัฒนำกำรอ่ำนกำรเขียนให้นักเรียนชั้น ประถมศึกษำปีท่ี 4 อ่ำนออกเขียนได้ทุกคน และนำไปปรับใช้ในชั้นเรยี นของแต่ละโรงต่อไป และเขตพื้นท่ีได้มีกำร นิเทศติดตำมกำรจัดกำรเรยี นสอนภำษำไทยและแลกเปลยี่ นเทคนิคกำรสอนผ่ำนระบบ application Line ส่ือสำร กับครูเพ่ือกระตุ้นให้สถำนศึกษำรำยงำนผลกำรพัฒนำกำรอ่ำนออกเขียนได้ผ่ำนระบบ e-MES ได้ทันกำหนด ทุก วันที่ 28 ของเดือน ต้ังแตเ่ ดอื นสิงหำคม 2561 ถงึ กุมภำพันธ์ 2562 2) กิจกรรมประเมินผลกำรอ่ำนกำรเขียนของนักเรยี นช้ันประถมศึกษำปีที่ 1 – 6 และกำรรู้เร่ืองกำรอ่ำน (Literacy Reading) ตำมแนวกำรประเมนิ PISA ปีกำรศึกษำ 2561 โดยสำนักงำนเขต พื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรกระตุ้นส่งเสริมกำรพัฒนำกำรอ่ำนกำรเขียนของ สถำนศึกษำในสังกัด ด้วยวิธีกำรที่หลำกหลำย ได้แก่ กำรรำยงำนผลกำรอ่ำนกำรเขียนในท่ีประชุมผู้บริหำร เพื่อ สร้ำงควำมตระหนักรับรู้ และกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทำงกำรจัดกิจกรรมพัฒนำกำรอ่ำนกำรเขียนผ่ำนระบบ application Line “นิเทศภำษำไทย สพป.ยล.3” นิเทศติดตำมกำรจัดกำรเรียนกำรสอนกำรขับเคลื่อนกำร พฒั นำกำรอ่ำนออกเขียนได้ของสถำนศึกษำ กำรเย่ียมชั้นเรียนเพ่ือกระต้นุ ให้กำลังใจครแู ละนักเรียนเพ่อื พัฒนำกำร

22 อ่ำนกำรเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษำปีท่ี 1 - 6 และส่งเสริมกำรอ่ำนรู้เร่ืองกำรอ่ำนของนักเรียนช้ัน มัธยมศกึ ษำปที ี่ 1 - 3 3) กิจกรรมนิเทศติดตำมกำรจัดกำรเรียนกำรสอนภำษำอังกฤษของครูท่ีผ่ำน กำรอบรม Boot Camp โดยสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรสนับสนุนและ ส่งเสริมกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนภำษำอังกฤษในชั้นเรียนของครูท่ีผ่ำนกำรอบรม Boot Camp ให้มี ประสทิ ธิภำพ โดยกำรสนับสนุนสื่อวัสดเุ พ่ือนำไปใชป้ ระกอบกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรูใ้ นชั้นเรยี นตำมแนวทำงกำร อบรม Boot Camp และมกี ำรนเิ ทศติดตำมกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนของครูในชน้ั เรียนเพ่ือเตมิ เต็มและแลกเปลีย่ น เรยี นรู้ร่วมกันผ่ำนกลุม่ ไลน์ “Boot Camp สพป.ยล.3” และกลุ่มไลน์ “นิเทศEngYala3” อยำ่ งต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ตลอดจนกำรนเิ ทศโดยทีมนเิ ทศอำสำ สพป.ยล.๓ ๔) โครงกำรแข่งขันทักษะภำษำไทย ปีกำรศึกษำ 2561 ระดบั สถำนศึกษำและ ระดับเขตพ้ืนที่กำรศึกษำ โดยสำนักงำนเขตพ้นื ท่ีกำรศึกษำได้ดำเนนิ กำรใหส้ ถำนศึกษำจดั กจิ กรรมแข่งขนั ทักษะ ภำษำไทยระดบั สถำนศกึ ษำใหน้ กั เรียนทุกคนไดเ้ ขำ้ รว่ มกิจกรรมเพ่ือพฒั นำทกั ษะ และคัดเลอื กตวั แทนเขำ้ รว่ ม กจิ กรรมแขง่ ขันทกั ษะในระดับเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำอีกครง้ั หนึ่ง และมีกำรให้เกียรตบิ ัตรเพ่ือเปน็ ขวญั และกำลังใจ ให้กบั คณะกรรมกำรตัดสนิ และนกั เรยี นทเี่ ข้ำรว่ มกิจกรรมท่ีผำ่ นเกณฑ์กำรประเมินทุกคน ๕) โครงกำรนิเทศอำสำร่วมพัฒนำคณุ ภำพกำรจดั กำรศึกษำ สพป.ยล.3 จำกสภำพปัจจุบนั ปญั หำของกลุ่มนิเทศติดตำมและประเมินผลกำรจัดกำรศึกษำ สพป.ยล.3 มศี ึกษำนเิ ทศก์จำนวน น้อย และมีภำรกิจที่ได้รับมอบหมำยจำก สพฐ. และหน่วยงำนอื่นๆ มำก ทำให้กำรดำเนินกำรนิเทศติดตำมกำร ขับเคลื่อนนโยบำยและกำรนิเทศเพ่ือพัฒนำคุณภำพกำรจัดกำรเรียนกำรสอนทำได้ไม่ท่ัวถึงและไม่ต่อเนื่อง เพ่ือให้ กำรขับเคล่ือนกำรดำเนินงำนของกลุ่มนิเทศติดตำมและประเมินผลกำรจัดกำรศึกษำเป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ เกดิ ประสทิ ธิผลกับสถำนศึกษำในสังกดั จงึ ได้ดำเนนิ โครงกำรนิเทศอำสำร่วมพฒั นำคุณภำพกำรจัดกำรศกึ ษำ สพป. ยล.3 โดยควำมร่วมมือจำกผู้บริหำรกำรศึกษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ และศึกษำนิเทศก์ เป็นทีมนิเทศอำสำ จำนวน 2 ทีม เพื่อร่วมนิเทศติดตำมนโยบำยและนิเทศกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครูเพ่ือกระตุ้น ส่งเสริมกำรจัดกำร เรียนกำรสอนท่ีเน้น Active Learning โดยกำรตรวจเยี่ยมทุกชั้นเรียน และประเมินห้องเรียนคุณภำพ (ด้ำน ห้องเรียน ด้ำนครู และด้ำนเด็ก) เพื่อกระตุ้นและยกระดับผลสัมฤทธ์ิให้สูงขึ้น พร้อมยกย่องเชิดชูเกียรติครูที่ผ่ำน กำรประเมินห้องเรียนคุณภำพระดับดีขึ้นไป เพ่ือเป็นขวัญและกำลังใจในกำรพัฒนำสถำนศึกษำและผู้เรียนให้มี คณุ ภำพตอ่ ไป ๔.3.5.2 เคร่ืองมือทใี่ ช้ในกำรปฏิบตั กิ ำรนเิ ทศ 1) แบบนิเทศตดิ ตำมกำรขบั เคลื่อนคุณภำพกำรจดั กำรศึกษำตำมนโยบำย และจุดเนน้ สพฐ. โดยทีมนเิ ทศอำสำ สพป.ยล.3 2) แบบสงั เกตกำรสอนของครู 3) แบบตรวจเยีย่ มช้ันเรียน 3) แบบประเมินห้องเรยี นคุณภำพ 4) คูม่ อื กำรดำเนินงำนกำรนเิ ทศ สพป.ยล.3 5) แบบบนั ทกึ ผลกำรแข่งขนั ทักษะภำษำไทย 6) แบบบันทึกกำรนเิ ทศครูท่ีผ่ำนกำรอบรม Boot Camp

23 7) แบบประเมินควำมพงึ พอใจของผรู้ บั กำรนิเทศ 8) แบบรำยงำนผลกำรอำ่ นเขยี นผำ่ นระบบ e-MES , ระบบ e-read_e-write 9) แบบบันทึกกำรนเิ ทศ ๔.3.5.3 ผลกำรนิเทศ 1) สรปุ ผลกำรนิเทศทั้งเชิงปรมิ ำณและคณุ ภำพ 1.1) ผลจำกกำรดำเนนิ งำนเดินหน้ำพฒั นำกำรอ่ำนออกเขยี นไดข้ อง นักเรียนชั้นประถมศึกษำปีท่ี 4 ปีกำรศึกษำ 2561 จำกกำรวิเครำะห์ผลกำรพัฒนำกำรอ่ำนออกเขียนได้ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 ในสังกัด พบว่ำ นักเรียนมีกำรพัฒนำด้ำนกำรอ่ำนกำรเขียนท่ีดีข้ึน จำกข้อมูล ณ เดือนสิงหำคม 2561 นักเรียนชั้นประถมศึกษำปีท่ี 4 อ่ำนออกเขียนได้ ร้อยละ 87.72 และ เดือนกุมภำพันธ์ 2562 นักเรียนช้ันประถมศึกษำปีที่ 4 อ่ำนออกเขียนได้ ร้อยละ 95.72 เพ่ิมขึ้น ร้อยละ 7.98 ท้ังนี้อำจเป็น เพรำะเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำให้ควำมสำคัญและจัดกิจกรรมเพ่ือกระตุ้นครูให้ตระหนักและเร่งรัดหำวิธีกำรพัฒนำ รว่ มกัน และกำรรำยงำนผลผ่ำนระบบทุกเดือน โดยครูผสู้ อนให้ควำมรว่ มมือในกำรรว่ มพัฒนำกำรอ่ำนกำรเขยี นใน ช้ันเรยี นอยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง จงึ ทำใหผ้ ลกำรอ่ำนกำรเขียนของนักเรยี นช้ันประถมศึกษำปที ่ี 4 ดขี นึ้ 1.2) ผลจำกกำรดำเนินกำรประเมินกำรอ่ำนกำรเขียน ภำคเรียนท่ี 2 ปีกำรศึกษำ 2562 (ข้อมูล ณ เดือนมกรำคม 2562) พบว่ำ -นกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 1 อำ่ นออกเขยี นได้ ร้อยละ 80.80 -นกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษำปีที่ 2 อำ่ นออกเขียนได้ รอ้ ยละ 88.15 -นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษำปที ่ี 3 อำ่ นออกเขียนได้ รอ้ ยละ 86.60 -นักเรียนชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 4 อ่ำนคลอ่ งเขียนคลอ่ ง สอื่ สำรเปน็ รอ้ ยละ 89.29 -นกั เรียนช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี 5 อ่ำนคล่องเขยี นคลอ่ ง ส่อื สำรเปน็ ร้อยละ 90.28 -นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 6 อำ่ นคล่องเขยี นคล่อง ส่อื สำรเป็น ร้อยละ 90.95 -นกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษำปที ่ี 1 รู้เร่อื งกำรอำ่ นตำมแนว PISA ร้อยละ 85.83 -นกั เรย่ี นชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ่ี 2 รเู้ รอื่ งกำรอ่ำนตำมแนว PISA รอ้ ยละ 93.57 -นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี 3 รู้เรอ่ื งกำรอ่ำนตำมแนว PISA รอ้ ยละ91.50 โดยเขตพื้นท่ไี ดร้ ับควำมรว่ มมือจำกสถำนศกึ ษำในกำรขบั เคล่ือนนโยบำยเพ่ือพฒั นำกำรอำ่ นกำร เขียนของนกั เรียนอย่ำงเป็นรูปธรรม และกำรประเมินผลกำรอ่ำนกำรเขียนมีควำมบริสุทธ์ิ โปรง่ ใส และยุติธรรม ทำ ใหส้ ถำนศึกษำทรำบขอ้ มลู นักเรียนที่อ่ำนไม่ออกเขียนได้และนำไปพัฒนำผู้เรยี นด้วยวิธีกำรท่ีหลำกหลำยตำมบรบิ ท ของพืน้ ท่ี 1.3) ครูผู้สอนภำษำอังกฤษท่ีผ่ำนกำรอบรมโครงกำร Boot Camp มี กำรเปล่ียนแปลงพฤติกรรมกำรสอนท่ีเน้น Active Learning อย่ำงเห็นได้ชัด สำมำรถเป็นแบบอย่ำงให้เพื่อนครูได้ และสถำนศึกษำใหก้ ำรยอมรับให้เป็นตัวแทนครูเข้ำรับกำรประเมินห้องเรียนคุณภำพ ทั้งนี้อำจเน่ืองจำกกำรที่ครูมี กำรจัดกิจกรรมท่ีเป็น Active Learning มำกขึ้น ครูมีควำมสำมำรถในกำรบริหำรจัดเรียนท่ีมีประสิทธิภำพ นกั เรียนเรียนรอู้ ยำ่ งมีควำมสขุ ห้องเรยี นเอ้ือตอ่ กำรเรยี นรู้มำกขน้ึ 1.4) ผลจำกกำรดำเนินโครงกำรนิเทศอำสำร่วมพฒั นำคณุ ภำพกำรจัด กำรศกึ ษำ สพป.ยล.3 พบว่ำ

24 1.4.4) ทีมนเิ ทศอำสำ มคี วำมพงึ พอใจต่อกำรดำเนิน โครงกำรในลักษณะนี้ที่คณะผ้บู รหิ ำรไดม้ โี อกำสได้เข้ำร่วมนเิ ทศสถำนศึกษำในสังกดั ทำให้ได้แลกเปล่ียนเรียนรูก้ ำร ขับเคลื่อนนโยบำยและกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครูในแต่ละโรง มีประโยขน์ต่อทีมนิเทศในกำรนำไปพัฒนำ สถำนศึกษำให้มีคุณภำพดียิ่งข้ึน ท้ังในด้ำนกำรพัฒนำส่ิงแวดล้อม ด้ำนกำรกระตุ้นส่งเสริมครูให้มีกำรพัฒนำ หอ้ งเรียนและพฒั นำเทคนิคกำรสอนให้เป็น Active Learning มำกขึน้ และสง่ ผลต่อคุณภำพผู้เรียน 1.4.5) สถำนศึกษำมีควำมตระหนกั และใหค้ วำมร่วมมือใน กำรพัฒนำห้องเรยี นให้มีคณุ ภำพ มีกำรต่ืนตัวท้ังโรงเรียน รอ้ ยละ 81.25 ของสถำนศกึ ษำในสงั กัด มหี ้องเรยี นที่มี คุณภำพระดับดีขน้ึ ไป กำรขบั เคลอ่ื นนโยบำยสำมำรถดำเนนิ กำรไดเ้ หมำะสมกบั บรบิ ทของพื้นที่ 1.4.6) สถำนศึกษำรอ้ ยละ 100 มคี วำมพงึ พอใจต่อวธิ กี ำร นิเทศโดยทมี นิเทศอำสำรว่ มพฒั นำคณุ ภำพกำรจดั กำรศกึ ษำ สพป.ยล.3 1.5) สถำนศกึ ษำในสงั กัดร้อยละ 100 ไดร้ ับกำรนเิ ทศติดตำมกำร จัดกำรเรียนกำรสอนท่ีเน้น Active Learning โดยมงุ่ เน้นยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิใหส้ ูงขึ้น 1.6) ผลกำรทดสอบ O-NET ปกี ำรศกึ ษำ 2561 ระดับเขตพ้ืนท่ี กำรศึกษำ พบว่ำ วชิ ำภำษำไทย,ภำษำองั กฤษ และวทิ ยำศำสตร์ สูงกวำ่ ปี 2560 2) ควำมสำเรจ็ ที่เป็นแบบอยำ่ งได้ โรงเรยี นบำ้ นปะเด็ง โรงเรยี นบำ้ นจำเรำะซูซู และโรงเรยี นไทยรฐั วิทยำ 94 (บ้ำนบอ่ น้ำร้อน) มีคะแนนเฉลย่ี สูงกวำ่ ค่ำเฉล่ียระดับประเทศ 3) ปัญหำที่พบ - 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปีกำรศึกษำ 2562 -พัฒนำรปู แบบกำรนิเทศท่ีเน้นกำรทำงำนเป็นทีม และทกุ ฝ่ำยมีสว่ น ร่วมนำเทคโนโลยมี ำใชใ้ นกำรนเิ ทศให้มำกขนึ้ 4. .6 การจัดการศึกษาืเิ ศษ 4.3.6.1 วธิ กี ำรท่ีใช้ในกำรปฏบิ ัติกำรนิเทศ 1) สำนกั งำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ไดจ้ ดั กำรอบรมเชงิ ปฏิบตั ิกำรหลักสตู รผู้ดำเนินกำรคดั กรองควำมพกิ ำรตำมประกำศกระทรวงศึกษำธกิ ำร ภำยใตโ้ ครงกำรกำรพัฒนำ คณุ ภำพกำรจดั กำรศกึ ษำสำหรับนักเรยี นเรยี นรวม โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์เพ่ือพฒั นำครูผู้สอนใหม้ ีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ เกยี่ วกับกำรจดั กำรศึกษำสำหรบั นกั เรียนรวม และเพอ่ื พัฒนำครผู สู้ อนใหม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเก่ียวกับกำร ดำเนินกำรคัดกรองควำมพิกำรตำมประกำศกระทรวงศึกษำ 2) สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรนิเทศ ติดตำม กำรจัดกำรศึกษำสำหรับนักเรียนเรียนรวม โดยกำรจัดทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบด้วยผู้บริหำร กำรศึกษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ศึกษำนิเทศก์ ให้ควำมช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนในกำรกำรจัดกำรศึกษำ สำหรบั นักเรยี นเรียนรวม 4.3.6.2 เครอื่ งมือท่ใี ชใ้ นกำรปฏบิ ตั ิกำรนิเทศ แบบติดตำมกำรจัดกำรศกึ ษำสำหรับนักเรียนเรียนรวม

25 4.3.6.3 ผลกำรนิเทศ 1) สรปุ ผลกำรนเิ ทศทงั้ เชิงปริมำณและคุณภำพ 1) ร้อยละ 80 ของครผู ู้สอนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกยี่ วกบั กำรจัดกำรศึกษำสำหรบั นกั เรียนรวม 2) ร้อยละ 80 ของครูผู้สอนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเก่ียวกบั กำรดำเนนิ กำรคดั กรองควำม พิกำรตำมประกำศกระทรวงศึกษำศึกษำ 2) ควำมสำเรจ็ ที่เปน็ แบบอย่ำงได้ - 3) ปัญหำที่พบ - 4) แนวทำงในกำรพฒั นำในปกี ำรศึกษำ 2562 พัฒนำระบบกำรนเิ ทศติดตำม กำรจัดกำรศึกษำสำหรบั นักเรียนเรียนรวม โดยใช้ เทคโนโลยีสำรสนเทศ และกำรส่ือสำร 4. .7 การจดั การเรย่ นรู้ผ่านเทคโนโลย่สารสนเทศ DLIT (Distance Learning information technology) 4.3.7.1 วิธีกำรทีใ่ ช้ในกำรปฏิบัตกิ ำรนเิ ทศ สำนกั งำนเขตพ้นื ท่กี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำยะลำ เขต 3 ไดด้ ำเนนิ กำรนิเทศตดิ ตำม นิเท ศติดตำม กำรจัดกำรเรียน รู้ผ่ำน เท คโนโลยีสำรสนเทศ DLIT (Distance Learning information technology) โดยกำรจัดทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบด้วยผู้บริหำรกำรศึกษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ศึกษำนิเทศก์ ให้ควำมช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนในกำรจัดกำรเรียนรู้ผ่ำนเทคโนโลยีสำรสนเทศ DLIT (Distance Learning information technology) 4.3.7.2 เคร่อื งมือท่ใี ชใ้ นกำรปฏบิ ตั กิ ำรนิเทศ 1) แบบสอบถำม 2) แบบนิเทศตดิ ตำมกำรขบั เคล่ือนนโยบำยฯ โดยทมี นเิ ทศอำสำ สพป.ยล.3 3) แบบนิเทศติดตำม กำรจัดกำรเรยี นรูผ้ ำ่ นเทคโนโลยีสำรสนเทศ DLIT (Distance Learning information technology) 4.3.7.3 ผลกำรนเิ ทศ 1) สรุปผลกำรนเิ ทศทงั้ เชิงปริมำณและคณุ ภำพ 1.1) โรงเรียนดำเนนิ กำรกำรจดั กำรเรียนร้ผู ่ำนเทคโนโลยสี ำรสนเทศ DLIT (Distance Learning information technology)ไดอ้ ย่ำงมปี ระสิทธิภำพ 1.2) รอ้ ยละ 100 ของโรงเรียนได้รบั กำรนเิ ทศตดิ ตำมกำรจดั กำรเรียนกำร สอนดว้ ยกำรจดั กำรเรียนรผู้ ่ำนเทคโนโลยสี ำรสนเทศ DLIT (Distance Learning information technology) 2) ควำมสำเร็จทเ่ี ปน็ แบบอย่ำงได้ -

26 3) ปัญหำท่ีพบ โรงเรยี นบำงโรง บำงคร้ังกระแสไฟดบั 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปีกำรศึกษำ 2562 พัฒนำระบบกำรนิเทศติดตำม กำรจัดกำรเรียนร้ผู ำ่ นเทคโนโลยสี ำรสนเทศ DLIT (Distance Learning information technology) โดยใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสื่อสำร 4.3.7.1 วธิ กี ำรท่ใี ช้ในกำรปฏบิ ตั ิกำรนิเทศ สำนักงำนเขตพื้นท่กี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำยะลำ เขต 3 ได้ดำเนินกำรนิเทศติดตำม นิเทศติดตำม กำรจัดกำรเรียน กำรสอนด้วยเทคโนโลยีกำรศึกษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม DLTV (Distance Learning Television) ในโรงเรียน ขนำดเล็ก โดยกำรจัดทีมนิเทศออกเป็น 2 ทีม ประกอบด้วยผู้บริหำรกำรศึกษำ ผู้บริหำรสถำนศกึ ษำ ศกึ ษำนิเทศก์ ให้ควำมช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนด้วยเทคโนโลยีกำรศึกษำทำงไกลผ่ำน ดำวเทยี ม DLTV (Distance Learning Television) ในโรงเรียนขนำดเล็ก ๔.3.7.2 เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ในกำรปฏบิ ัตกิ ำรนิเทศ 1) แบบสอบถำม 2) แบบนเิ ทศติดตำมกำรขับเคล่ือนนโยบำยฯ โดยทมี นเิ ทศอำสำ สพป.ยล.3 3) แบบนเิ ทศตดิ ตำม กำรจดั กำรเรยี นรู้ผ่ำนเทคโนโลยีสำรสนเทศ DLIT (Distance Learning information technology) ๔.3.7.3 ผลกำรนิเทศ 1) สรุปผลกำรนิเทศทั้งเชงิ ปริมำณและคณุ ภำพ 1.1) โรงเรยี นดำเนินกำรกำรจัดกำรเรียนรผู้ ่ำนเทคโนโลยสี ำรสนเทศ DLIT (Distance Learning information technology)ไดอ้ ย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ 1.2) ร้อยละ 100 ของโรงเรียนไดร้ ับกำรนิเทศติดตำมกำรจดั กำร เรียนรู้ผ่ำนเทคโนโลยีสำรสนเทศ DLIT (Distance Learning information technology) ๒) ควำมสำเรจ็ ทเ่ี ปน็ แบบอย่ำงได้ - 3) ปัญหำท่ีพบ -ระบบอนิ เตอร์เนต็ ไม่เสถยี รในบำงโรง 4) แนวทำงในกำรพัฒนำในปีกำรศึกษำ 2562 พัฒนำระบบกำรนิเทศติดตำม กำรจัดกำรเรียนรู้ผ่ำนเทคโนโลยี สำรสนเทศ DLIT (Distance Learning information technology) โดยใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสื่อสำร

27 4. ปัญหา อุปสรรค และต้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานการนเิ ทศการศกึ ษาตองกลุ่มนิเทศ ติดตามและ ประเมินผล การจัดการศกึ ษา ๔.๑ ปัญหำ อุปสรรค -สพป.ยล.๓ มศี กึ ษำนเิ ทศก์จำนวนน้อย (๔ คน) ๔.๒ ข้อเสนอแนะ ๑) ควรส่งเสริมให้บคุ ลำกรในสถำนศกึ ษำเข้ำรบั กำรอบรมเพอื่ ให้มคี วำมรู้ควำมเข้ำใจเก่ยี วกบั แนว ทำงกำรดำเนนิ กำรนิเทศภำยในสถำนศกึ ษำข้ันพืน้ ฐำนอย่ำงต่อเนอ่ื ง ด้ำนกำรวิเครำะหจ์ ดุ เด่นจุดดอ้ ยเพ่อื กำหนด จดุ พัฒนำ ๒) ควรจัดประชมุ บคุ ลำกรเพ่ือร่วมกนั วเิ ครำะหจ์ ดุ เดน่ จุดด้อยเพื่อกำหนดจดุ พัฒนำในกำร ดำเนนิ งำนนเิ ทศภำยในอย่ำงเป็นระบบ ด้ำนกำรหำแนวทำงเลอื กเพือ่ พฒั นำควรมอบหมำยภำระงำนดำ้ นกำรนเิ ทศ ภำยในแก่บุคลำกรตำมควำมสำมำรถและควำมถนัดของแตล่ ะบคุ คล ๓) ควรส่งเสรมิ กำรทำงำนเป็นทีม ๔) ควรตดิ ตำมประเมนิ ผลกำรดำเนนิ งำนนเิ ทศภำยในเพ่ือดำเนนิ กำรหำแนวทำงแก้ไขร่วมกนั ๕) ส่งเสรมิ ใหผ้ ้บู รหิ ำรสถำนศึกษำและครูท่ีมีควำมรู้ควำมสำมำรถรว่ มเป็นทีมนเิ ทศอำสำ ๖) ควรมกี ำรจัดทำ MOU เพื่อพัฒนำกำรนิเทศระหว่ำงศึกษำนเิ ทศก์กบั สถำนศึกษำ ลงชื่อ ผ้รู ำยงำน ( นำยวชั ระ จนั ทรตั น์ ) ผูอ้ ำนวยกำรกลุ่มนิเทศ ติดตำม และประเมนิ ผลกำรจัดกำรศกึ ษำ ลงชื่อ ผ้รู บั รองกำรรำยงำน ( นำยโกมทุ รุยอ่อน ) ผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพ้นื ท่กี ำรศึกษำประถมศึกษำยะลำ เขต 3

28 ภาืประกอบโครงการการืัฒนาหลักสตู รสมานศกึ ษาตามเปา้ หมายหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาตนนั ื้นนฐาน ื.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง ื.ศ. 2560) ในวนั ทก่ 16-17 ม่นาคม 2561 ณ ห้องประชุมบาลา-ฮาลา อ.เบตง จ.ยะลา ***********************

29 การืัฒนาเทคโนโลยส่ ารสนเทศเือก้ การจดั การเรย่ นการสอนตองครู ในศตวรรษทก่ 21 ระหว่างวันทก่ 10-12 ืฤษภาคม 2561 ณ ห้องปฏิบัติการคอมืวิ เตอร์ โรงเรย่ นอนุบาลเบตง (สุภาือนสุ รณ์) ***********************

30 โครงการการืัฒนาการจัดการเรย่ นรูแ้ บบลงม้อทา (Active Learning) เือ้ก ยกระดับคณุ ภาืการศึกษา โรงเร่ยนในืน้นทกจ่ งั หวดั ชายแดนภาคใต้ ในวนั ท่ก 25-26 ม่นาคม 2561 ณ ห้องประชุมบาลา-ฮาลา อ.เบตง จ.ยะลา ***********************

31 โครงการการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการการจัดทาหลักสูตรสมานศึกษา กลมุ่ สาระการเร่ยนรคู้ ณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์และสาระภูมศิ าสตรฯ์ (ฉบบั ปรับปรุง ื.ศ. 2560) ในวนั ท่ก 4-5 ืฤษภาคม 2561 ณ ห้องประชุมบาลา-ฮาลา อ.เบตง จ.ยะลา ***********************

32 การอบรมเชิงปฏบิ ัติการืัฒนามาตรฐานผปู้ ระเมนิ คุณภาืการศกึ ษาตามรปู แบบแนวทางการประเมนิ แนวใหม่และกฎกระทรวงการประกันคณุ ภาืการศึกษา ื.ศ. 2561 ในวันท่ก 7-8 กันยายน 2561 ณ ห้องประชุมบาลา-ฮาลา สืป.ยล. ***********************

33 โครงการการืัฒนาคุณภาืการจดั การศึกษาสาหรับนักเร่ยนเร่ยนรวม ในวันท่ก 7-9 ืฤษภาคม 2561 ณ ห้องประชุมบาลา-ฮาลา อ.เบตง จ.ยะลา ***********************

34 ภาืกิจกรรม นเิ ทศอำสำรว่ มพฒั นำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ สพป.ยล.3 ภำคเรียนที่ 2 ปกี ำรศึกษำ 2561 ณ โรงเรยี นในสงั กดั ๓๒ โรง ระหว่ำงวันที่ 19 ธ.ค. 2561 – 1 มีนำคม 2562 1. นิเทศติดตามการตับเคลกอ้ นนโยบายและจดุ เนน้ สืฐ.

35

2. เยยก่ มชนัน เร่ยน 36 งง

37 .ประเมนิ หอ้ งเรย่ นคณุ ภาืระดบั ปฐมวัย

38

39 4. ประเมนิ หอ้ งเรย่ นคณุ ภาืระดบั การศกึ ษาตนัน ื้นน ฐาน

40

41

42 ทม่ นิเทศท่ก 1 และผู้รบั การนิเทศ

43 ทม่ นิเทศท่ก 2 และผู้รบั การนิเทศ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook