Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 0-7418548019

0-7418548019

Published by prawit prapruttipong, 2021-09-08 02:31:21

Description: 0-7418548019

Search

Read the Text Version

สตั วป์ าหายาก

คํานํา ณ ปัจจบุ นั มีสตั วปาถกู ทําลายท่อี ยูข องตนเอง ไปมาก ทําใหส ตั วไ มม ที ี่อยจู งึ นํามาซ่งึ การสญู พันธุ บางชนิดก็เกือบจะสูญพันธไุ ป หรอื ทีเ่ รียกวา สัตวส งวน ผูจดั ทาํ หวงั วา หนังสอื เลม นี้จะเป็นแรงบันดาลใจไม มากก็น อยในการอนุรกั ษส ่ิงแวดลอมและ ทรพั ยากรธรรมชาตขิ องผูอา น ทําใหสตั วม ีมากมายให ตกทอดไปถงึ ลูกหลานตอๆไป ผจู้ ัดทาํ ด.ช.ปวชิ ประพฤทธิพงษ์ เลขท2ี 0

สารบญั ประวัติช้างปาในประเทศไทย 4 ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกียวกับช้างปา 5 ภัยคุกคาม 12 เพิมหวั เรือง

ประวัติชา้ งปา คนไทยรู้จกั ชา้ งมานานแลว้ ชา้ งเปนสัตว์ทีมีความสาํ คญั เกียวข้องกับสถาบันหลักของประเทศและมีความผูกพนั กับวถชี ีวตของคนไทยเสมอมาตังแตอ่ ดตี จนถงึ ปจจุบัน เมือวันที 13 มนี าคม 2506 กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ ไดม้ มี ติเลือกให้ ช้างเผือก เปนสัญลักษณ์ ประจาํ ชาติ เนอื งจากชา้ งเผือกเปนสตั วท์ มี ีความ เกยี วข้องกับประวตั ศิ าสตร์ ในสมยั โบราณ เราใชช้ า้ งทําสงคราม แมท่ ัพต้องขชี า้ งรบ กัน เรยกว่า \"ชนช้าง\"การชนช้างครังสาํ คญั และนา่ จดจําทสี ดุ คือ การชนช้างระ หว่างสมเด็จพระนเรศวร มหาราชของไทย กบั พระมหาอปุ ราชของพมา่ ซงึ สมเด็จ พระนเรศวรมหาราชเปนฝายชนะ

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เกียวกับช้างปา ชาง เป็นสตั วเ ลีย้ งลกู ดวยน้ํานมขนาดใหญใ นวงศ Elephantidae ปัจจบุ นั รับรองวา มีอยู 3 สปีชสี  คอื ชา ง แอฟริกา, ชา งปาแอฟรกิ า และชางเอเชยี วงศ Elephantidaeเป็นวงศเ ดยี วท่ยี งั ไมส ูญพันธใุ นอนั ดบั Proboscidea สมาชิกท่สี ูญพันธไุ ปแลว เชน มาสโต ดอน (mastodon) วงศ Elephantidae ยังมีกลุมท่บี ดั นี้ สูญพันธไุ ปแลวหลายกลมุ รวมทงั้ ชา งแมมมอธและชาง งาตรง ชางแอฟรกิ ามหี ูขนาดใหญก วา และหลงั เวา สว น ชางเอเชียมีหขู นาดเล็กกวาและมหี ลงั นูนหรอื ราบ ลกั ษณะเดนของชา งทกุ ชนิดไดแ ก งวงยาว หกู างขนาด ใหญ ขาใหญ และผวิ หนังทห่ี นาแตล ะเอยี ดออ น งวงใช สําหรับการหายใจ หยบิ จบั อาหารและน้ําเขาปา และควา วตั ถุ งาซ่งึ ดัดแปลงมาจากฟันตดั ใชเ ป็นทงั้ อาวธุ และ เคร่ืองมอื สาํ หรบั เคล่ือนยายวัตถุและขดุ ดนิ หกู างขนาด ใหญชวยในการคงอุณหภมู ิกายใหคงที่ เชนเดยี วกับใช ในการส่อื สาร ขาใหญเหมือนเสารองรบั น้ําหนักตวั ชาง เป็นสตั วบกขนาดใหญส ดุ เทาทมี่ ีอยูในปัจจุบนั

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เกียวกับช้างปา ชา งกระจัดกระจายอยทู ัว่ แอฟรกิ าใตส ะฮารา เอเชยี ใต และ เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต และพบได ในที่อยูอ าศยั หลากหลาย ทัง้ สะวันนา ปา ทะเล ทรายและทล่ี ุม ช้นื แฉะ ชางเป็น สตั วก นิ พืช และ อาศัยอยใู กลแหลง น้ําเม่ือสามารถเขา ถงึ ได ชา งถือ เป็น สิ่งมชี วี ติ หลัก เน่ืองจากผลกระทบตอ ส่งิ แวดลอ ม สตั วอ่ืนมักรักษาระยะหางจากชาง โดยมขี อ ยกเวน คือสัตวน ักลา ชาง เชน สงิ โต เสือโครง ไฮยีนา และหมาปาทกุ ชนิด ซ่งึ ปกติมักเลือกชางออนเป็นเป า หมายเทา นัน้ ชา งมสี งั คมฟิชชนั –ฟิวชนั หมายความ วา กลมุ ครอบครัวหลายกลมุ มารวมกนั เขาสงั คม ชา ง เพศเมีย (ชา งพงั ) มักอาศัยอยเู ป็นกลมุ ครอบครวั ซ่งึ อาจประกอบดวยชา งเพศเมียหน่ึงตัวและลกู ชา งหรือ ชา งเพศเมยี หลายตวั ทีม่ คี วามเกีย่ วดองกันกับลกู ๆ โดยไมม ีชางเพศผู (ชา งพลาย) กลมุ นี้มชี างพงั ทป่ี กติ อายุมากท่ีสุดเป็นหวั หน า

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เกียวกับช้างปา ชา งพลายออกจากลุมครอบครวั เม่ือถึงวัยเร่มิ เจรญิ พันธุ และอาจอยสู นั โดษหรอื อยกู บั ชาง พลายตัวอ่นื ชา งพลายโตเต็มวัยมปี ฏสิ มั พนั ธ กบั กลุมครอบครวั เม่ือหาคูและเขา สภู าวะท่ีมี เท สโทสเตอโรน และความกา วรา วสงู ข้นึ เรียก ตกมนั ซ่ึงชว ยใหพ วกมันถือความเป็นใหญ และสืบพนั ธไุ ดส ําเร็จ ลูกชา งเป็นศนู ยกลาง ความสนใจของกลมุ ครอบครัวและตอ งอาศัยแม เป็นเวลานานสดุ สามปี ชางปามีชีวิตอยูไดถึง 70 ปี ชา งส่ือสารกนั โดยการสัมผัส การมองเหน็ การรบั กลิ่นและการฟังเสียง ชา งใช อินฟราซา วน และการส่อื สารไหวสะเทอื นเป็นระยะทาง ไกล สติปัญญาของชา งเทยี บไดกบั สตปิ ัญญา ของ ไพรเมต และ อนั ดบั ฐานวาฬและโลมา ชา งดูมคี วามสํานึกเกยี่ วกบั ตนเองและแสดง ความเห็นใจตอชางทกี่ ําลงั ตายหรือชางที่ตาย แลว

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เกียวกับช้างปา สหภาพระหวางประเทศเพ่อื การอนรุ กั ษธ รรมชาติ จดั ชางแอฟริกาเป็น ชนิดทเ่ี กอื บอยูในขา ยใกลการสูญ พันธุ และชา งเอเชยี เป็น ชนิดใกลส ญู พนั ธุ ภยั คุกคาม ตอ ประชากรชางใหญส ดุ ประการหน่ึงคือการคา งาชาง ซ่ึงทําใหช า งถกู บกุ รกุ เขา ไปลา เพ่ือเอางา ภัยคุกคาม ชางปาประการอ่ืนไดแกการทาํ ลายที่อยูอาศัยและ ความขดั แยงกบั ประชากรทองถน่ิ มีการใชช า งเป็น สัตวใ ชแ รงงานในทวปี เอเชีย และยงั มกี ารจัดแสดงใน สวนสตั วหรือถกู ใชป ระโยชนสาํ หรับความบนั เทิงใน ละครสตั ว ชางเป็นสัตวท่ีมนษุ ยร ูจ กั ดีและปรากฏทงั้ ในศลิ ปะ นิทานพ้ืนบา น ศาสนา วรรณกรรมและ วัฒนธรรมสมัยนิยม

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เกียวกับช้างปา ชวี วทยาและพฤติกรรม พฤตกิ รรมทางสังคม ชางอยูใ นสังคมท่ีมลี าํ ดับโครงสราง การใชชวี ิตในสงั คมของ ชางเพศผแู ละเพศเมยี มคี วามแตกตา งกันมาก โดยเพศเมีย จะใชเวลาทัง้ ชีวิตในกลมุ ครอบครัวหรือโขลง ทม่ี ีความ สมั พันธแนนหนา ซ่งึ ประกอบดวยแม ลูก พ่นี  อง ป าและน า กลุมเหลา นี้จะถกู นําโดยเพศเมียตัวท่มี ีอายุมากที่สุด ซ่งึ เรียกวา แมแปรก (matriarch) ในขณะที่เพศผตู ัวเต็มวยั ใช เวลาสว นใหญอยอู ยางสนั โดษ วงสังคมของชา งเพศเมียมไิ ดส ิน้ สุดลงดวยหนวยครอบครวั ขนาดเล็ก นอกเหนือไปจากการพบปะกบั ชางเพศผทู อ งถนิ่ ซ่ึงอยตู ามรมิ โขลงตงั้ แตห น่ึงโขลงข้ึนไป ชวี ิตของชางเพศ เมียยงั มปี ฏสิ มั พันธก บั ครอบครัว เผา หรอื กลุมประชากร ยอ ย กลุมครอบครัวใกลชดิ สวนใหญจะมีชา งตัวเต็มวัย ระหวา งหา ถงึ สิบหา ตัว เชนเดยี วกับชางเพศผแู ละเพศเมยี ที่ ยังไมโ ตเต็มวัยอกี จํานวนหน่ึง เม่อื กลุม เริม่ มีขนาดใหญเกิน ไป ชางเพศเมยี ทีม่ ีอายมุ ากจํานวนหน่ึงจะแยกตวั ออกไป และตงั้ กลมุ ขนาดเล็กของตนเอง อยา งไรกต็ าม พวกมันยัง คงรวู า โขลงใดทเี่ ป็นหมูญาตแิ ละโขลงใดทีไ่ มใ ช

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เกียวกับช้างปา ชีววทยาและพฤติกรรม ชวี ิตของชา งเพศผตู วั เต็มวัยนัน้ แตกตา งจากชา งเพศเมียอยา ง มาก โดยเม่อื มันมีอายมุ ากข้ึน มันจะใชเวลาที่ขอบของโขลง นานข้ึน โดยจะคอ ย ๆ ปลีกตวั ไปอยูส นั โดษคราวละหลาย ชัว่ โมงหรอื หลายวัน จนกระทัง่ เม่อื ชา งมีอายไุ ดป ระมาณสิบสี่ปี ชา งเพศผูกจ็ ะแยกตวั ออกจากโขลงท่ีตนกาํ เนิดข้นึ อยา งถาวร แตแมวา ชางเพศผูจะใชชีวิตสว นใหญอยูอยางสนั โดษ แตพ วก มนั ยังคงมีสายสัมพนั ธห ลวม ๆ กบั ชา งเพศผตู วั อ่นื ดวยเป็นบาง ครัง้ ชางเพศผจู ะใชเ วลาไปกบั การตอสูแ ยงชงิ ความเป็นใหญ มากกวา เพศเมีย มีเพยี งชา งเพศผูทแี่ ข็งแกรง ท่ีสดุ เทานัน้ ท่ีจะ สามารถผสมพันธกุ บั ตัวเมยี ได สว นชางเพศผทู ี่มีอํานาจน อย กวาจะตองรอคอยจนกวาจะถงึ รอบของมนั ชางเพศผทู ี่สืบพันธุ มักจะมอี ายมุ ากถึงสสี่ บิ หา สิบปีแลว การตอสเู พ่อื แยง ชิงความเป็นใหญก ันระหวา งเพศผนู ัน้ อาจดดู ุรายมาก แตท ี่ จริงแลว ตางฝายตางไดรับบาดเจ็บเพยี งเลก็ น อยเทานัน้ การตอ สูกนั สวน ใหญนัน้ เป็นรูปแบบของการแสดงทาทกี า วรา วและการขมขูกัน โดยปกติแลว ชา งท่ีตัวเล็กกวา มอี ายุน อยกวา และมีความมนั่ ใจน อยกวา จะหลกี เลีย่ งการ ตอสกู ันกอนทจี่ ะเริ่มสูกนั จรงิ ๆ อยา งไรกต็ าม ในชว งฤดผู สมพันธุ การตอสู กนั นี้อาจมีความกา วรา วอยางมาก และในบางครงั้ อาจมีชา งตัวใดตวั หน่ึงได รบั บาดเจบ็ ในชวงฤดูนี้ ซ่ึงรจู ักกันวา ฤดตู กมัน ชา งเพศผตู วั เตม็ วัยจะสูก ับ ชางเพศผตู วั อ่นื เกอื บทกุ ตัวทมี่ นั พบ และมันจะใชเวลาสวนใหญในชวงนี้ เตร็ดเตรอยรู อบโขลงเพศเมีย โดยพยายามหาคทู อ่ี าจเขา กันได

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เกียวกับช้างปา อนุกรมวธานและววัฒนาการ สกลุ ชา งแอฟริกาประกอบดวยชางสอง หรืออาจแยง ไดว า สามชนิดท่ยี ังคงมชี วี ติ อยู ขณะทส่ี ปีชีส ชาง เอเชยี เป็นชนิดเดียวทีย่ ังคงมชี วี ิตอยใู นสกลุ ชา ง เอเชีย แตสามารถแบง ออกไดเ ป็นส่ี สปีชีสยอ ย ชา ง แอฟริกาและชา งเอเชียววิ ฒั นาการมาจากบรรพบรุ ษุ รวมกันเม่ือราว 7.6 ลานปีกอน

ภยั คุกคาม การลา่ ภยั คุกคามตอ ชา งแอฟรกิ าปรากฏในรปู การคา งาอนั เป็น เอกลกั ษณเฉพาะของชนิด สัตวท ่ใี หญกวา มีชวี ิตยนื ยาว กวา และเตบิ โตไดชากวา อยา งชาง จะถกู ลาเกนิ ขนาด มากกวาสตั วอ่ืน พวกมนั ไมส ามารถซอ นตวั และตอ งใช เวลาหลายปีใหช า งเตบิ โตและสบื สายพนั ธุต อไป ชางตองกิน พืชเฉล่ียวนั ละกวา 140 กิโลกรัมเพ่อื มีชีวิตรอด และเม่ือ สัตวนักลาขนาดใหญถ กู ลา ไป ทาํ ใหประชากรสตั วกนิ พชื ขนาดเล็กในทองถิน่ เพ่ิมจาํ นวนข้ึน (อันเป็นคูแ ขง แยง อาหารของชาง) จํานวนทเ่ี พ่ิมข้ึนนี้ทําใหตน ไม พุมไมแ ละ หญาถกู ทําลาย ชางเองมีนักลาตามธรรมชาติน อย มเี พียง มนษุ ยแ ละสงิ โตในบางโอกาสเทา นัน้ อยางไรกต็ าม รัฐบาล แอฟรกิ าหลายประเทศอนญุ าตใหก ารลาชา งโดยจํากัดถกู ตองตามกฎหมาย ซ่งึ ตองเสยี เงนิ เป็นจํานวนมากเป็นคา อนญุ าตซักมักใชเพ่ือสนับสนุนความพยายามอนุรักษ และมี การอนุญาตเพียงน อยครัง้ เทานัน้ (ปกติแลว ใหส าํ หรบั สัตวที่ มอี ายมุ ากกวา) เพ่ือทําใหแ นใจวา ประชากรสัตวจ ะไมห มด ไป

ภัยคุกคาม การล่า เม่ือถึงครสิ ตศตวรรษที่ 20 มกี ารประเมนิ วาชา งมีจํานวนระหวาง 5 ถึง 10 ลา นตัว แตการลา และการทาํ ลายถน่ิ ท่ีอยลู ดจาํ นวนชา งลงเหลอื เพยี ง 400,000 ถึง 500,000 ตวั เม่ือถึงปลายศตวรรษ ในชว งสิบปีกอ น ค.ศ. 1990 ประชากรชา งลดลงมากกวาคร่งึ จาก 1.3 ลา นตวั เหลอื ราว 600,000 ตวั สว นใหญเป็นผลมาจากการคางาชาง ทาํ ใหเกดิ การหามคา งาชาง ระหวางประเทศ ขณะท่ปี ระชากรชางกําลงั เพ่ิมข้ึนในบางสวนของ แอฟริกาใตและแอฟรกิ าตะวันออก ชาตแิ อฟรกิ าอ่นื ๆ กลับมีรายงานวา ประชากรชางในประเทศลดลงมากทีส่ ุดถงึ สองในสาม และประชากรใน พ้ืนทคี่ ุมครอง บางแหง อยใู นอันตรายวาจะถูกลา หมดไป ประเทศชาด มี ประวตั ศิ าสตรการบกุ รุกปาเพ่ือลาชา งนานหลายทศวรรษ ซ่ึงทาํ ให ประชากรชา งในภมู ิภาค ซ่งึ เคยมมี ากกวา 300,000 ตวั ในปี ค.ศ. 1970 ลดลงเหลอื เพยี งอยา งน อย 10,000 ตวั ในปัจจบุ นั ในอุทยานแหง ชาติวริ นุ ดา ทางตะวนั ออกของ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ประชากรชา งท่ี อาศยั อยใู นพ้นื ท่ซี ่งึ เขาชมไดล ดลงจาก 2,889 ตวั ในปี ค.ศ. 1951 เหลือ 348 ตัว ในปี ค.ศ. 2006

ภยั คุกคาม การลา่ มคี วามเป็นไปไดว า การลาเอาเฉพาะชา งทีม่ งี าอาจทําใหง า ในชา งแอฟริกาหายไปอยา งถาวร แมไมนาจะเป็นไปได กต็ าม ผลกระทบของชางท่ไี มม งี าตอสิ่งแวดลอ ม และตอ ตัว ชา งเองนัน้ อาจใหญหลวงได ชางใชง าเพ่อื ขดุ เอาแรธาตทุ ่ี จาํ เป็นในดนิ ฉีกเน้ือพชื ออกจากกัน และใชในการตอ สูเพ่อื แยงคู หากปราศจากงา พฤติกรรมของชางอาจเปลย่ี นไป มาก

ภัยคกุ คาม การสูญเสียถินทีอยู่ อีกภัยคุกคามหน่ึงตอการมชี ีวิตรอดของชา งโดยรวมคือการ ทาํ กสิกรรมในถ่นิ ทีอ่ ยขู องชา งอยา งตอเน่ืองโดยมีความ เสยี่ งเพม่ิ มากข้ึนในการขดั ตอผลประโยชนตอมนษุ ยผ อู ยู อาศยั ในละแวกเดียวกัน ความขัดแยงนี้ทาํ ใหมชี างถูกฆา ไป 150 ตัว และมีคนเสียชีวติ ไปถงึ 100 คนตอ ปีในศรลี งั กา [71] การลดจํานวนของชา งเอเชียสวนใหญเป็นไปดวย เหตุผลทวี่ า สูญเสียถิน่ ทอี่ ยู

ภยั คุกคาม การสูญเสยี ถินทอี ยู่ เม่ือปาผืนใหญห ายไปมากข้นึ ทกุ ที ระบบนิเวศจึงได รบั ผลกระทบอยางลกึ ซ้ึง ตน ไมมสี วนสําคญั ในการยึด หน าดนิ และดดู ซบั น้ําไหลบา อทุ กภัยและการพัง ทลายของหน าดินขนาดใหญเป็นผลกระทบโดยทวั่ ไป ของการตัดไมทาํ ลายปา ชางตอ งการที่ดินผนื ใหญ เน่ืองจากพวกมันคนุ ชนิ กบั การโคนตน ไมแ ละไมพ ุม เพ่อื หาอาหาร เหมือนกบั ชาวไรเ ล่ือนลอย แตช างจะ คอยกลับมาในภายหลัง เม่อื พ้ืนทีด่ ังกลาวมีตน ไม เติบโตข้นึ ดงั เดมิ แลว และเม่ือปาไมลดขนาดลง ชา ง จึงกลายมาเป็นสว นหน่ึงของปัญหา ซ่งึ จะทําลายพืช ผลการเกษตรทงั้ หมดในพ้ืนที่ และทาํ ลายทรพั ยากร ทัง้ หมดที่มอี ยู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook