วัสดุ ในชีวิต ประจำวัน

ÇÑ Ê ´Ø ã ¹ ªÕ ÇÔ µ » Ã Ð ¨Òí ÇÑ ¹ EVERYDAY MATERIALS - ELEANOR ROOSEVELT

คาํ นํา 1 หนังสอื อิเล็กทรอนิกสเ์ ลม่ นีเปนสว่ นหนงึ ของรายวชา การออกแบบและเทคโนโลยีว22103 โดยเนือหาภายในเลม่ นีวา่ ด้วยเรองวสั ดุทมี อี ยู่ ในชวี ตประจําวนั อาทเิ ชน่ ไม้ โลหะ พลาสตกิ และ อนื ๆ ผจู้ ัดทําหวงั เปนอยา่ งยงิ วา่ รายงานฉบับนจี ะ เปนประโยชน์ตอ่ ผู้ทตี ้องการศึกษาได้ไม่มากกน็ อ้ ย หากมขี ้อผิดพลาดประการใดผจู้ ดั ทาํ ตอ้ ง ขออภัยมา ณ ทนี ดี ้วย ด.ญ.ทพิ วลั ย์ สรุ ยะวงศ์

สารบัญ 2 เกรนนํา 3 ไม้ 4 โลหะ 6 พลาสติก 9 ยาง 12 อา้ งองิ 15 จัดทาํ โดยและเสนอ 16

3 วสั ดใุ นชวี ตประจําวนั สิงของเครองใช้ตา่ งๆ สร้างขึนจากวสั ดุ หลายประเภท วสั ดแุ ต่ละประเภทมสี มบัติและ เหมาะสมจึงมีความสาํ คญั ตอ่ การออกแบบและ สร้างสงิ ของเครองใช้ วสั ดทุ ีนาํ มาทําสิงของเครองใช้ทเี ราพบเจอ ในชวี ตประจาํ วนั เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก ยาง มีสมบัตแิ ละการใช้งานทีแตกตา่ งกนั ดงั นี

4 Wood ไม้ คือ วสั ดุธรรมชาติทไี ดม้ าจากลําต้นของ ตน้ ไม้ ซงึ สว่ นใหญ่เปนยนื ตน้ ไมม้ คี วามแขง็ แรง ทนทาน ตา้ นทานไฟฟา ไมเ่ ปนสนมิ มีรูปร่างคงตัว ผวิ เรยบ มีกลนิ และมลี วดลาย ถ้าได้รับความชืน เปนเวลานานอาจบวมผดิ รูปและผุได้ ไมแ้ บ่งออกเปน 2 ประเภท คือ 1.Natural wood or solid wood 2.Processed wood

5 Natural wood or solid wood ไมจ้ รงหรอไมธ้ รรมชาติ คอื ไมท้ ีไดม้ าจากลาํ ต้นของตน้ ไม้โดยตรง แบง่ ไดเ้ ปน 2 ประเภท คอื 1.ไมเ้ นือแข็ง hardwood 2.ไมะเนอื อ่อน softwood Processed wood ไมป้ ระกอบ คอื ไม้ทไี ด้มาจากการนําชนิ สว่ น ของไม้มาต่อรวมกนั ด้วยกระบวนการต่างๆ ไม้ ประกอบมหี ลายประเภท เชน่ ไมอ้ ัด ไมป้ าร์ต-ิ เคลิ บอร์ด

6 metals โลหะ คือ วสั ดุทีประกอบด้วยธาตโุ ลหะทีมี อเิ ล็กตรอนอิสระอยู่มากมาย นนั คอื อเิ ลก็ ตรอน เหล่านไี มไ่ ด้เปนของอะตอมใดอะตอมหนงึ โดย เฉพาะ ทาํ ให้มีคณุ สมบตั ิพิเศษหลายประการ

โลหะกลมุ่ เหล็ก 7 โลหะกลุ่มเหลก็ คือ โลหะทมี เี หลก็ เปนสว่ นประกอบ หลกั แบง่ ออกเปนเหล็กกล้า และเหลก็ หลอ่ ซึงมี ธาตุคาร์บอนผสมอยู่ในปรมาณทีต่างกัน ตังแต่ 0.1% ไปจนถงึ 4.0% คาร์บอนทีผสมลงในเหลก็ มีผลต่อ ความแขง็ และเปราะของเหลก็ โดยทวั ไปโลหะกลุ่ม เหลก็ จะเกดิ สนิมและมสี มบตั ดิ ูดติดกบั แมเ่ หลก็ ได้

8 โลหะกล่มุ นอกเหลก็ โลหะนอกกลมุ่ เหลก็ คือ โลหะทไี มม่ ีเหล็กเปนสว่ น ประกอบ ดังนนั โลหะประเภทนีจะไม่เกดิ สนิมและ ไม่ดูดติดกับแม่เหลก็ เชน่ อะลูมิเนยี ม ทองแดง สงั กะสี ทองเหลอื ง

9 พลาสติก พลาสติก คือ วสั ดุสงั เคราะหท์ ีมนยุ ษ์สร้างขึน สว่ นใหญเ่ ปนผลผลติ ทไี ด้จากการกลันนํามันดบิ ปจจบุ ันพลาสตกิ นาํ มาใช้สร้างสงิ ของเครองใช้ มากมายและมีบทบทาอยา่ งยงิ ตอ่ การดําเนนิ ชวี ตประจาํ วนั พลาสติกแบ่งออกได้เปน 2 ประเภท 1.เทอร์โมพลาสติก(thermop lastics) 2.เทอร์โมเซตติงพลาสตกิ (thermosetting pllastic)

10 เทอร์โมพลาสตกิ เทอร์โมพลาสติก จะอ่อนตวั และหลอมเหลว เมือได้รับความร้อนและจะแข็งตัวเมอื ทําใหเ้ ยน็ ลง พลาสตกิ ทแี ขง็ ตัวแลว้ สามารถนาํ มาหลอม ซําได้ด้วยความร้อน

เทอร์โมเซตติง 11 พลาสติก เทอร์โมเซตติงพลาสติก เปนพลาสติกทมี ี สมบตั พิ เิ ศษ คอื ทนทานตอ่ การเปลยี นแปลง อุณหภูมิและทนปฏกิ ิรยาเคมไี ด้ดี

12 ยาง ยาง คอื วสั ดุทมี ีความยดื หยนุ่ สงู ถูกนาํ ไป แปรรูปเพือใชป้ ระโยชน์ในการสร้างสิงของ เครองใชห้ ลายชนดิ สามารถแบ่งออกเปน 2 ประเภท คอื 1.ยางธรรมชาต(ิ natural rubber)2.ยางสังเคราะห์(synthetic rubber)

13 ยางธรรมชาต ิ ยางธรรมชาติ คอื ผลผลติ ทีได้จากตน้ ยางเมอื ยางอยู่ในสภาวะอุณหภมู ติ ําจน แขง็ กระด้าง เมือยางอยใู่ นส๓าวะ

14 ยางสงั เคราะห์ ยางสังเคราะห์ คือ ยางทีไดจ้ ากการสัง เคราะห์ทางเคมีเพือเลยี นแบบยางธรรมชาติ ขอ้ ดคี อื สามารถปรับปรุงสมบตั ิตา่ งๆ ได้

15 อ้างอิง https://www.krui3.com/content/materials -in-daily-life/

16 จดั ทําโดย ด.ญ.ทิพวลั ย์ สรุ ยิ ะวงศ์ ชนั มธั ยมศึกษาปที 2/2 เลขที 23 โรงเรยี นโพธไิ ทรพทิ ยาคาร เสนอ คณุ ครู ภัทราวรรณ อุทธสงิ ห์ ครผู สู้ อนประจาํ รายวชิ าออกแบบและ เทคโนโลยี

วสั ดุในชีวต ประจาํ วนั เพอื การศึกษา