เอกสารประกอบการสอน เรอื่ ง กาพยเ์ หช่ มเครอ่ื งคาวหวาน โดย คณุ ครสู ภุ าพร ศรดี ี โรงเรยี นศขี รภมู พิ สิ ยั สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต ๓๓ กระทรวงศกึ ษาธ
แบบทดสอบก่อนเรียน เรอื่ ง กำพยเ์ หช่ มเครอื่ งคำวหวำน รำยวชิ ำภำษำไทย ( ท ๒๑๑๐๒ ) ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ ๑ คำสงั่ : ให้นักเรียนเลอื กคาตอบท่ถี กู ที่สดุ เพียงขอ้ เดยี ว โดยทาเคร่อื งหมาย ทบั ลงให้ตรงกบั ข้อ ก ข ค หรอื ง ของขอ้ ท่ถี ูกต้อง ๑. กาพยเ์ ห่ชมเครื่องคาวหวานแต่งดว้ ยคา ๖. กาพยเ์ ห่ชมเคร่ืองคาวหวาน ใช้โวหาร ประพันธป์ ระเภทใด ประเภทใดในการดาเนินเร่ือง ก. โคลงผสมกาพย์ ข. โคลงผสมรา่ ย ก. สาธกโวหาร ข. พรรณนาโวหาร ค. กลอนแปดผสมโคลง ค. บรรยายโวหาร ง. อุปมาโวหาร ง. กาพย์ผสมกลอน ๗. ขอ้ ใดเป็นชอ่ื ปลา ๒. เนอ้ื หาใน กาพย์เหช่ มเครื่องคาวหวานสว่ น ใหญ่มุ่งเน้นส่งิ ใดเปน็ สาคัญ ก. ย่หี รา่ ข. โฉม ก. อาหารคาว ค. เทโพ ง. รงั นก ข. ของหวาน ๘. “ กอ้ ย” เป็นชือ่ อาหารของคนภาคใด ค. วธิ กี ารปรุงอาหาร ก. ภาคกลาง ง. อาหารคาวหวาน ๓. ผแู้ ต่งกาพยเ์ หช่ มเครือ่ งคาวหวาน คือทา่ นใด ข. ภาคใต้ ก. รชั กาลที่ ๑ ค. ภาคเหนอื ข. รัชกาลท่ี ๒ ง. ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ค. สุนทรภู่ ๙. แกงประเภทใดทาจากปลา ง. กรมพระยาดารงราชานภุ าพ ๔. อาหารในคาประพันธ์ขอ้ ใดมรี สเผด็ จัด ก. แกงเทโพ ก. ขนมจีบเจา้ จีบหอ่ ข. แกงไตปลา ข. มัสม่นั แกงแกว้ ตา ค. แกงมัสม่นั ค. ตบั เหลก็ ลวกหลอ่ นตม้ ง. แกงเปรอะ ง. ก้อยก้งุ ปรุงประทนิ่ ๕. ขอ้ ใดเปน็ ชื่อผัก ๑๐. รังนก เปน็ อาหารประเภทใด ก. หวาน ข. ทองหยิบ ก. ของหวาน ค. มัสมนั่ ง. เทโพ ข. ของคาว ค. ของวา่ ง ง. บารุงกาลัง คะแนน..............................
ใบควำมรู้ เรอ่ื ง กำพย์เห่ชมเครือ่ งคำวหวำน ควำมเป็นมำ กาพยเ์ หช่ มเครอ่ื งคาวหวานเปน็ บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหล้านภาลัยสัน นิฐานว่าทรงพระราชนิพนธ์ขณะดารงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรในรัชกาลท่ี ๑ โดยมพี ระราชประสงค์เพื่อชมฝีพระหัตถ์การทาเครื่องเสวยของเจ้าฟา้ หญิงบญุ รอด ซึง่ ภายหลงั คือ สมเด็จ พระศรีสรุ เิ ยนทราบรมราชินีในรัชกาลท่ี ๒ อน่ึง มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า บทพระราชนิพนธ์กาพย์เห่ชมเคร่ืองคาวหวาน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์ไว้สาหรับเห่เรือเป็นการส่วนพระองค์หรือ เรียกว่า “ เห่เรือเล่น ” แต่ภายหลังในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ พนกั งานอนั เชิญบทพระราชนพิ นธก์ าพย์เห่ชมเครอื่ งคาวหวานมาใช้เหใ่ นพระราชพธิ ีเสด็จพระราชดาเนิน โดยขบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค ผูแ้ ต่ง พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั ( รัชกาลท่ี ๒ ) ประวัติผแู้ ตง่ พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลัยเปน็ พระราชโอรสองคท์ ี่ ๔ ในพระบาทสมเด็จพระพทุ ธ ยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชกับสมเดจ็ พระอมรินทราบรมราชนิ ี มพี ระนามเดมิ วา่ “ ฉิม ” ประสูตเิ มอื่ วันที่ ๒๔ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๓๕๒ ขณะพระชนมายุได้ ๔๒ พรรษา และเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. ๒๓๖๗ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หล้านภาลยั ทรงมพี ระปรีชา สามารถในหลายดา้ นท้ังศิลปะและดนตรี อกี ทงั้ ยงั ทรงเป็นกวีท่ีทรง พระราชนพิ นธว์ รรณคดวี รรณกรรม และบทละครอนั ทรงคุณค่าไว้ มากมาย ทาใหอ้ งค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวฒั นธรรมแห่ง สหประชาชาติหรือยเู นสโก ( UNESCO ) ประกาศยกย่องใหท้ รงเปน็ บคุ คลดีเดน่ ของโลกด้านวรรณกรรม เมอื่ ปี พ.ศ.๒๕๑๐ จุดประสงค์ในกำรแตง่ ๑. มีพระราชประสงค์เพ่ือชมฝีพระหัตถก์ ารทาเคร่อื งเสวยของเจ้าฟา้ หญงิ บญุ รอด ซงึ่ ภายหลงั คอื สมเดจ็ พระศรสี ุรเิ ยนทราบรมราชินีในรัชกาลท่ี ๒ ๒. เพ่อื ใชเ้ ปน็ บทเห่เรอื พระท่นี ง่ั เวลาเสด็จประพาสส่วนพระองค์ ลกั ษณะคำประพนั ธ์ โคลงสี่สภุ าพ กาพยย์ านี ๑๑
เนอื้ เร่ืองย่อ กล่าวถึงอาหารคาวท้ัง ๑๕ ชนิด คือ แกง มัสมั่นไก่, ยาใหญ่, ตับเหล็กลวก, หมูแนม, ก้อยกุ้ง, แกงเทโพ, น้ายา, แกงอ่อม, ข้าวหุงเครื่องเทศ, แกงค่ัว ส้ม, พล่าเนื้อ, ล่าเตียง, หรุ่ม, ไตปลา, แสร้งว่า และ อาหารหวานอีก ๑ ชนิดคือ รังนก เมื่อกล่าวถึงอาหาร ชนิดใด กวจี ะพรรณนาเช่อื มโยงไปถึงหญิงคนรัก กำพยเ์ ห่ชมเครือ่ งคำวหวำน “ แกงไก่มัสมน่ั เนอื้ นพคณุ พ่ีเอย หอมยหี่ ร่ารสฉุน เฉียบรอ้ น ชายใดบริโภคภญุ ช์ พศิ วาส หวงั นา แรงอยากยกหัตถข์ ้อน อกใหห้ วนแสวง ฯ ” ถอดควำมได้วำ่ ...แกงมสั มั่นไก่ของน้องท่ีรกั ของพี่ มีกลิน่ หอมฉนุ ของยีห่ ร่า คงมีรสรอ้ นแรงมาก ชายคนใดเมื่อได้รับประทานเข้าไปแลว้ จะทาใหเ้ กิดความรกั ใคร่ และความหวงั ในตวั นอ้ งจนถึงกบั เอามือ ทบุ อกตัวเองและอยากกลับไปรับประทานอีก “ มัสมน่ั แกงแกว้ ตา หอมยห่ี รา่ รสร้อนแรง ชายใดไดก้ ลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา ” ถอดควำมไดว้ ำ่ ...แกงมัสมน่ั ของนอ้ งผู้เป็นทีร่ ักยิง่ ของพี่ มกี ล่นิ หอมของย่ีหรา่ คงมรี สร้อนแรง มาก ชายใดเมื่อไดร้ ับประทานเข้าไปแลว้ จะทาใหค้ ิดถงึ แต่คนทา “ ยาใหญใ่ ส่สารพดั วางจานจัดหลายเหลือตรา รสดีดว้ ยน้าปลา ญป่ี นุ่ ล้ายา้ ยวนใจ ” ถอดควำมไดว้ ำ่ ...ยาใหญ่ทีม่ เี ครื่องครบครัน จัดวางอยูใ่ นจานอยา่ งสุดจะพรรณนาปรงุ รสด้วย นา้ ปลาญป่ี ่นุ ทาใหน้ า่ ลิ้มลองอย่างย่ิง “ ตบั เหล็กลวกหล่อนตม้ เจือน้าส้มโรยพริกไทย โอชาจะหาไหน ไม่มเี ทียบเปรยี บมือนาง ” ถอดควำมไดว้ ่ำ...นอ้ งนาตบั เหลก็ มาลวกแล้วใส่น้าสม้ พร้อมกบั โรยพริกไทยลงไปทาใหม้ รี สอร่อย มาก ไม่มที ไ่ี หนทามาเปรียบกับฝีมือของนอ้ งได้ “ หมแู นมแหลมเลิศรส พรอ้ มพริกสดใบทองหลาง พิศห่อเหน็ รางชาง ห่างหอ่ หวนป่วนใจโหย ” ถอดควำมได้วำ่ ...หมูแนมมีรสดีเยยี่ ม พรอ้ มมพี รกิ สดกับใบทองหลางเคียง พี่มองดูห่อหมูแนม แลว้ เหน็ สวยงาม แต่ครนั้ พอพหี่ า่ งห่อหมูแนมทาให้หัวใจของพี่ปั่นป่วนคดิ ถงึ แตน่ อ้ งอย่ตู ลอดเวลา “กอ้ ยกุ้งปรงุ ประทิน่ วางถงึ ลิ้นด้ินแดโดย รสทิพยห์ ยิบมาโปรย ฤๅจะเปรยี บเทียบทนั ขวญั ” ถอดควำมได้ว่ำ...กอ้ ยกุ้งปรุงเสรจ็ แลว้ กล่นิ หอมมากราวกบั อาหารทพิ ยเ์ มือ่ สัมผสั ล้ินอร่อยมาก จนแทบขาดใจ ฝีมือปรุงอาหารของนอ้ งจึงไมม่ ีใครเทียบได้
“ เทโพพ้นื เนอ้ื ท้อง เป็นมนั ย่องล่องลอยมัน น่าซดรสครามครนั ของสวรรคเ์ สวยรมย์ ” ถอดควำมไดว้ ำ่ ...แกงปลาเทโพโดยใชเ้ นือ้ ทอ้ งท่ีมีมันมาแกง ดูนา่ ซดเสยี เหลอื เกิน คงมรี สที่อรอ่ ย มาก เปรียบเหมือนอาหารทพิ ย์ท่ีพงึ ใจ “ ความรกั ยักเปล่ียนท่า ทานา้ ยาอยา่ งแกงขม กลออ่ มกล่อมเกล้ียงกลม ชมไม่วายคลบั คลา้ ยเห็น ” ถอดควำมได้วำ่ ...ด้วยความรักของน้องท่ีมีต่อพ่ี นอ้ งจึงเปลย่ี นมาทาน้ายาอยา่ งแกมขมเหมอื น แกงอ่อมมะระ ซ่งึ มรี สกลมกล่อม ทาให้พ่ีตอ้ งชมฝีมอื ของนอ้ งไมข่ าดปาก และคลับคล้ายเห็นหนา้ นอ้ งอยู่ ตลอดเวลา “ ขา้ วหุงปรงุ อย่างเทศ รสพเิ ศษใส่ลูกเอ็น ใครหุงปรงุ ไม่เป็น เช่นเชงิ มติ รประดษิ ฐท์ า ” ถอดควำมได้ว่ำ...ขา้ วปรุงดว้ ยเคร่อื งเทศ มีรสพเิ ศษเพราะใส่ลกู กระวานลงไป ใครกห็ งุ ไมไ่ ดอ้ ย่าง ทีน่ อ้ งต้งั ใจทา “ เหลอื รหู้ มูปา่ ตม้ แกงคว่ั สม้ ใส่ระกา รอยแจ้งแห่งความขา ชา้ ทรวงเศรา้ เจ้าตรากตรอม ” ถอดควำมได้วำ่ ...นอ้ งรเู้ ร่ืองในการทาอาหารมากจรงิ ๆ นาเอาหมปู ่ามาต้มทาแกงคัว่ สม้ ใสร่ ากะ ทาใหเ้ หน็ เค้าเงอื่ นแห่งความลับระหว่างพ่กี ับน้อง ซึง่ มแี ต่ความทุกขร์ ะทมใจ “ ช้าชา้ พล่าเนอ้ื สด ฟ้งุ ปรากฏรสหน่ื หอม คิดความยามถนอม สนิทเนื้อเจอื เสาวคนธ์ ” ถอดควำมได้วำ่ ...นอ้ งทาพลา่ เน้อื สดกลนิ่ หอมฟุ้งมากจนเร้าอารมณ์พที่ าใหค้ ิดถงึ ครง้ั เม่อื เราเคย ทะนถุ นอมรักใครใ่ กล้ชดิ กันด้วยความสดช่นื หอมหวน “ ล่าเตยี งคิดเตียงนอ้ ง นอนเตยี งทองทาเมอื งบน ลดหลนั่ ชั้นชอบกล ยลอยากนิทรคดิ แนบนอน ” ถอดควำมไดว้ ่ำ...พอเห็นอาหารชือ่ ว่าล่าเตียง ทาให้พค่ี ดิ ถึงเตียงนอนของนอ้ งทเี่ ปน็ เตยี งทองทา เหมือนอยบู่ นสวรรค์ ซ่งึ มีลวดลายเป็นชนั้ ๆ อย่างสวยงาม เห็นแลว้ ทาใหค้ ิดอยากนอนกบั น้อง) “เห็นหร่มุ รมุ ทรวงเศรา้ ร่มุ รุ่มเรา้ คอื ไฟฟอน เจ็บไกลใจอาวรณ์ รอ้ นรุมรุ่มกล้มุ กลางทรวง” ถอดควำมไดว้ ่ำ...พอเห็นอาหารที่ช่ือว่าหรุม่ ความเศรา้ ก็ประดงั กันเข้ามาในอกทาใหร้ ้อนระออุ ยู่ ในอก เป็นความเจ็บปวดทยี่ าวนานดว้ ยใจคิดถงึ น้อง ทาให้พี่ร้อนร่มุ กลมุ้ ใจ)ฃ “ รงั นกน่ึงน่าซด โอชารสกวา่ ท้งั ปวง นกพรากจากรงั รวง เหมือนเรยี มร้างหา่ งห้องหวน ” ถอดควำมไดว้ ่ำ...เหน็ รงั นกนึ่งช่างน่าชมและคงมีรสอรอ่ ยกวา่ อาหารอ่นื ๆ ทาให้พ่ีนึกถึง การที่ นกต้องพรากจากรังไป ซ่งึ ก็เหมือนกับการทีต่ วั พ่ีตอ้ งพลัดพรากจากน้องไป
“ ไตปลาเสแสร้งว่า ดจุ วาจากระบดิ กระบวน ใบโศกบอกโศกครวญ ใหพ้ เ่ี คร่าเจา้ ดวงใจ ” ถอดควำมว่ำ...พอเหน็ อาหารไตปลาและแสร้งว่า ทาให้หวนคิดถึงคาพูดท่กี ระบดิ กระบวนของ นอ้ ง ครั้นพอแลไปเห็นใบของต้นโศกกบ็ อกใหพ้ ี่รู้ว่าน้องกาลังครา่ ครวญถึงพ่ี ทาใหพ้ เี่ ฝ้ารอคอยน้องรกั ของ พีอ่ ยู่ตลอดเวลา “ ผักโฉมชอ่ื เพราะพรอ้ ง เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน ผักหวานซา่ นทรวงใน ใคร่ครวญรักผกั หวานนาง ” ถอดควำมได้ว่ำ...ผกั โฉมเปน็ ช่อื ทีพ่ ดู ถงึ ท่ีมคี วามไพเราะ ไม่ว่าจะเปน็ ตัวนอ้ งหรอื คนอนื่ แตพ่ อ เอย่ ชื่อผกั หวานแล้วรสู้ ึกวา่ ความหวานจะเเล่นกระจายเขา้ ไปในอก ทาให้พ่ีคิดถึงความรกั ทอี่ อ่ นหวานของ น้อง กำรพิจำรณำคุณค่ำ ๑. ให้ความรเู้ กยี่ วกบั วัฒนธรรมด้านอาหารการกินของคนไทยสมยั โบราณ สะท้อนใหเ้ ห็น ความละเอียดออ่ นพิถีพิถนั ในทุกข้ันตอนของการทาอาหาร ๒. สะท้องสภาพบ้านเมืองในสมัยอดีต มีการติดต่อค่าขายกับชาวต่างชาติ เช่น จีน อินเดีย จึงมี การแลกเปล่ียนวัฒนธรรมด้านอาหารการกินร่วมไปด้วย เช่น ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใสลูกเอ็นซึ่ง เป็นวิธีการหุงข้าวแบบแขกเปอร์เซียใส่เครื่องเทศชนิดหนึ่งเรียกว่า “ลูกเฮลท์” เพี้ยนเสียงมาเป็น “ลูก เอ็น” คณุ ค่ำทำงวรรณศิลป์ กาพย์เห่ชมเครอื่ งคาวหวานมีความไพเราะจาก - การสรรคาและการเล่นเสียง มีสมั ผัสในแพรวพราว พรรณนาความไดล้ ะเอียด วางคาไดจ้ ังหวะ - การเล่นเสียงวรรณยุกต์ในคาว่า “หรุ่ม” “รุม” “รุ่ม” และเสียงพยัญชนะในคาว่า “ร้อน” “รุม” “ร่มุ ” ซึง่ นอกจากจะฟงั ไพเราะแลว้ ยงั สื่อความร้สู ึกได้อยา่ งชัดเจน - การใช้ความเปรียบได้คมคาย ใช้โวหารภาพพจน์หลายอย่าง เช่น อุปมา อุปลักษณ์ อติพจน์ ทาให้ผ้อู ่านเกดิ จนิ ตภาพ คุณค่ำทำงสังคม กาพย์เห่ชมเคร่ืองคาวหวานเป็นวรรณคดีที่สะท้อนวัฒนธรรมเกี่ยวกับอาหาร การกิน ท่ีนิยมในสมัยรัชการท่ี ๒ บางชนิดเป็นอาหารท่ีเรารู้จักในปัจจุบัน เช่น มัสม่ัน หมูแนม ก้อยกุ้ง แกงควั่ เปน็ ต้น แตอ่ าหารบางชนดิ หารบั ประทานไดย้ ากในปัจจุบัน เพราะมกี รรมวิธีการปรุงหลายขั้นตอน มเี คลด็ ลับในการทา และทาใหอ้ รอ่ ยไดย้ าก เชน่ ล่าเตียง และหร่มุ อาหารบางอยา่ งเป็นอาหารตา่ งชาติ ใช้ เคร่อื งปรงุ เฉพาะท่ีทาให้มรี สชาติต่างไป เช่น ข้าวหุงปรงุ เคร่ืองเทศ ขอ้ คิดทไี่ ด้จำกเรอ่ื ง ๑.ได้รับรู้ถึงความเป็นกุลสตรขี องแม่บ้านไทยสมัยก่อนในเรอ่ื งฝีมือการปรงุ อาหาร ๒.สะท้อนให้เหน็ ถึงศิลปะการกนิ อยู่ของคนไทยในราชสานัก วา่ มคี วามประณีตบรรจงพิถีพิถันแค่ ไหน ๓.ไดร้ ้ถู งึ ความสมั พันธ์กบั ต่างประเทศในสมยั รชั กาลที่ ๒ ที่มกี ารกลา่ วถงึ ญี่ปุ่นและอินเดีย ๔.สะทอ้ นให้เหน็ สภาพชีวิตความเปน็ อยู่ของคนไทยในสมยั ก่อน
ใบควำมรู้ เร่อื ง ลกั ษณะคำประพันธ์ กาพย์เห่ หรือกาพย์เห่เรือ หมายถึง การใช้คาประพนั ธ์ ๒ ชนิด ได้แก่ โคลงส่ีสุภาพจานวน ๑ บท เกร่นิ นาพรรณนาเบ้ืองตน้ และกาพย์ยานี ๑๑ บทแรก จะเลยี นความใหส้ อดคล้องกบั โคลงส่สี ุภาพ แลว้ ใช้ กาพย์ยานี ๑๑ ขยายความต่อโดยไม่จากัดจานวนบท หากเนื้อหาใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั เรอื จะเรียกว่ากาพยเ์ ห่ เรือ เนื้อหาเก่ียวกับนก หรือต้นไม้ จะเรียกว่ากาพย์เห่ชมนก ชมไม้ เนื้อหาเกี่ยวกับอาหารคาว อาหาร หวาน จึงเรยี กว่า กาพย์เห่ชมเครอื่ งคาวหวาน แผนผงั กำพย์ยำนี ๑๑ คาสุดทา้ ยของวรรคแรกส่งสมั ผัสกับคาท่ี ๓ ของวรรคที่ ๒ คาสุดท้ายของวรรคท่ี ๒ สง่ สมั ผัสไปยังคาสุดท้ายของวรรคที่ ๓ คาสุดท้ายของวรรคท่ี ๔ ส่งสัมผัสไปยังคาสุดทา้ ยของวรรคในบทถัดไป ( สัมผัสระหวา่ งบท )
แผนผงั โคลงสี่สภุ ำพ ตัวอยำ่ งโคลงสีส่ ุภำพ เสียงลือเสียงเลา่ อา้ ง อนั ใด พเี่ อย เสยี งยอ่ มยอยศใคร ท่ัวหล้า สองเขอื พห่ี ลับใหล ลืมต่ืน ฤๅพี่ สองพคี่ ิดเองอา้ อยา่ ไดถ้ ามเผอื ลลิ ิตพระลอ บทท่องจำ เอกเจด็ โทสน่ี ้ัน พงึ จา คิดกอ่ นลงมือทา ฝึกไว้ ตาราแมแ่ บบนา มาอ่าน ทบทวน สามารถศึกษาได้ เช่นน้นั ตามจรงิ บันทกึ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… คำเอกโทษ หมายถงึ คาที่จาเป็นตอ้ งเปล่ียนมาใชเ้ ปน็ วรรณยกุ ต์เอก เพื่อใหไ้ ด้ตรงตามลกั ษณะ บงั คับ เชน่ “ ฉ้อโกง ” เขยี น เป็น “ชอ่ โกง” เพราะฉะนน้ั “ ชอ่ ” เป็นเอกโทษ คำโทโทษ หมายถงึ คาท่ีจาเปน็ ต้องเปลีย่ นมาใช้ วรรณยุกตโ์ ท เพอื่ ให้ได้ตรงตามลกั ษณะบงั คับ เชน่ “ คร่ำ ” เขยี นเปน็ “ ขรำ่ ” เพราะฉะน้ัน “ ขร่ำ ” เปน็ โทโทษ
แบบฝกึ หดั ที่ ๑ คำช้แี จง : ให้นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ ( ๑๐ คะแนน ) ๑. ใครคือผ้แู ตง่ กาพยเ์ ห่ชมเครอื่ งคาวหวาน ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ๒. กาพย์เหช่ มเครื่องคาวหวาน เปน็ คาประพนั ธ์ประเภทใดบา้ ง ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ๓.อาหารทีก่ ลา่ วถึงในกาพย์เห่ชมเครือ่ งคาวหวานทน่ี ิยมในปจั จุบันคอื อะไร ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ๔. เน้ือหาในกาพย์เห่ชมเครอื่ งคาวหวานเปน็ เรอื่ งเก่ียวกับเรอื่ งใด ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ๕.จดุ ประสงค์ของการแตง่ กาพย์เห่ชมเคร่อื งคาวหวาน คอื อะไร ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ๖. ลักษณะเดน่ ของกาพยเ์ ห่ชมเคร่อื งคาวหวาน คืออะไร ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ๗. “กาพย์เห่” แตกตา่ งกับ“ กาพย์เห่เรือ” อย่างไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ๘. กาพยเ์ ห่ชมเคร่ืองคาวหวานได้นาเสนอส่งิ ใดแก่ผู้อ่านบา้ ง ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ๙. ข้อคิดที่ได้จากกาพย์เห่ชมเคร่อื งคาวหวานคอื อะไร ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ๑๐. ใหน้ ักเรียนบอกชื่ออาหารประเภทของคาวและของหวานจากกาพย์เห่ชมเคร่ืองคาวหวาน มาอย่างละ ๕ ช่อื ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….…………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
แบบกิจกรรมที่ ๑ กจิ กรรมที่ ๑.๑ : ใหน้ กั เรยี นระบรุ ูปวรรณยุกต์ เสียงวรรณยุกต์และอธบิ ายความหมายของคาทขี่ ีดเส้นใต้ ทใี่ ช้เล่นเสยี งวรรณยกุ ตใ์ ดกาพย์เห่ข้างต้นน้ี ( ๓ คะแนน ) เห็นหร่มุ รุมทรวงเศรำ้ รมุ่ รมุ่ เรำ้ คอื ไฟฟอน เจบ็ ไกลใจอำวรณ์ ร้อนรมุ รุ่มกลุม้ กลำงทรวง หรุ่ม รปู วรรณยกุ ต.์ ......................................................................................................................... เสียงวรรณยกุ ต.์ ..................................................................................................................... มคี วามหมายว่า...................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. รมุ ( ในรุมทรวง ) รปู วรรณยุกต์.......................................................................................................................... เสียงวรรณยุกต.์ ...................................................................................................................... มคี วามหมายวา่ ....................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ร่มุ รูปวรรณยุกต.์ ......................................................................................................................... เสียงวรรณยกุ ต.์ ..................................................................................................................... มีความหมายวา่ ...................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. รมุ ( ในรอ้ นรมุ่ ) รูปวรรณยุกต.์ ......................................................................................................................... เสยี งวรรณยุกต.์ ...................................................................................................................... มคี วามหมายว่า....................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... กจิ กรรมท่ี ๑.๒ : ใหน้ ักเรียนบอกระดบั ของหน่วยเสยี งวรรณยกุ ต์ เสียงวรรณยกุ ต์ และความหมายของคา ท่ีขดี เส้นใต้ตอ่ ไปน้ี ( ๒ คะแนน ) ยำใหญ่ใสส่ ำรพัด วำงจำนจดั หลำยเหลอื ตรำ รสดีดว้ ยน้ำปลำ ญี่ป่นุ ลำ้ ยำ้ ยวนใจ ยำ เปน็ วรรณยุกต์........................................................................................................................ เสียงวรรณยกุ ต์เป็นเสียง......................................................................................................... มคี วามหมายว่า.............................................................................................................................................................. ยำ้ เป็นวรรณยกุ ต์........................................................................................................................ เสยี งวรรณยุกต์เปน็ เสยี ง......................................................................................................... มีความหมายว่า................................................................................................................................................................
แบบฝกึ หดั ที่ ๒ คำช้ีแจง : จงนาอักษรทางดานขวามอื มาเตมิ ในชองวางทางดานซายมอื ใหถกู ตอง ( ๑๐ คะแนน ) ๑. ............ปรงุ ประทิ่น วางถงึ ลนิ้ ดนิ้ แดโดย ก. ยำใหญ่ ๒. ..........แหลมเลศิ รส พรอมพรกิ สดใบทองหลาง ข. ไตปลำ ๓ ...........เสแสรงวา ดจุ วาจากระบดิ กระบวน ค. พลำเนอ้ื สด ๔. ชาชา................. ฟุงปรากฏรสห่ืนหอม ง. หรุม ๕ ..............แกงแกวตา หอมย่ีหรารสรอนแรง จ. หมแู นม ๖. เหลือรูหมปู าตม ..............ใสระกา ฉ. มสั ม่นั ๗. .............ลวกหลอนตม เจอื นํ้าสมโรยพริกไทย ช. กอยกุง ๘. เห็น.......รุมทรวงเศรา รุมรุมเราคือไฟฟอน ซ. ตับเหลก็ ๙. .............พน้ื เนอ้ื ทอง เปนมันยองลองลอยมัน ฌ. เทโพ ๑๐. ..........ใสสารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา ญ. แกงคั่วสม
แบบฝกึ หัดที่ ๓ คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นดภู าพอาหารตอ่ ไปน้แี ลว้ ระบชุ ื่อใหถ้ กู ตอ้ ง ( ๑๐ คะแนน ) ‘
แบบกิจกรรมที่ ๒ คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนเลือกจัดทารายการอาหารจากเร่อื ง กาพยเ์ ห่ชมเครอ่ื งคาวหวาน พร้อมบอกวัสดุ – อุปกรณ์ เคร่ืองปรงุ ข้นั ตอนการทา และสารอาหารทีจ่ ะได้รบั ( ๕ คะแนน ) ชอื่ อำหำร............................................... วัสดอุ ปุ กรณ์ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ขนั้ ตอนกำรทำ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. สำรอำหำรท่ไี ดร้ ับ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................
เอกสารประกอบการสอน เรอื่ ง กาพยเ์ หช่ มเครอ่ื งคาวหวาน โดย คณุ ครสู ภุ าพร ศรดี ี โรงเรยี นศขี รภมู พิ สิ ยั สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต ๓๓ กระทรวงศกึ
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: