สถาบันทางสังคม หมายถึง กระบวนการที่มนุษย์ในสังคม ได้จัดตั้งให้มีขึ้นอย่างเป็นระเบียบแบบแผน ซึ่งบุคคลส่วนใหญ่ใน สังคมจะปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และเพื่อทำหน้าที่สนอง ความต้องการที่จำเป็นของสังคม ซึ่งทำให้ให้สังคมดํารงอยู่และเกิด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยรวมถึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัด ระเบียบทางสงั คม บทบาทของสถาบันทางสงั คม ได้แก่ 1. กำหนดแบบอย่างการกระทำของคนในสังคม 2. ตอบสนองความตอ้ งการของคนและสังคม 3. ควบคุมใหส้ มาชกิ ปฏิบัตติ ามบรรทดั ฐาน 4. รักษาและถ่ายทอดวฒั นธรรม 5. จดั การสงั คมให้มีระเบียบและเหมาะกบั การเติบโตของสงั คม
ความสัมพนั ธ์ของสถาบันทางสงั คม มี 2 ลักษณะ ดงั นี้ 1.ความสัมพนั ธ์ทางตรง มลี ักษณะทเ่ี กยี่ วขอ้ งกันโดยตรง มีการ พบปะพูดคยุ กัน เช่น สถาบนั ครอบครัวมีความสัมพนั ธ์กับ สถาบันการศึกษา เมอ่ื ผู้ปกครองสง่ บตุ รหลานไปโรงเรียนให้อยู่ ภายใตก้ ารอบรมสง่ั สอนของครู ก็จะมีการแลกเปลย่ี นข้อมลู ปฏสิ มั พนั ธ์กันระหวา่ งผปู้ กครองและครูเพื่อพัฒนาศักยภาพของ นักเรียน 2. ความสัมพันธ์ทางออ้ ม เป็นความสัมพันธท์ ี่ไม่ไดเ้ กีย่ วข้องกนั โดยตรง โดยปกติคนเราต้องเกี่ยวพนั กับคนอน่ื ที่ตง้ั อย่หู ่างออกไป ในขณะที่คนเมอื งใหญท่ ี่คนท้ังสังคมเกย่ี วข้องอยา่ งจํากัด แต่ ความสมั พนั ธ์ทางอ้อมกเ็ กดิ ข้ึนได้เชน่ กัน ตวั อยา่ งเช่น การเป็นคน ไทยเชน่ เดียวกนั การนบั ถือศาสนาเดียวกนั กับคนอื่นในสังคม
ความขดั แยง้ ในสังคมไทย รูปแบบของความขดั แยง้ แบ่งออกเป็น 5 ชนดิ ได้แก่ 1. การขัดแยง้ ดา้ นข้อมลู เกิดจากการมีข้อมูลมากหรอื น้อยเกนิ ไป ทำให้เกิดการประมวณผลผดิ พลาด การคิดแตกต่างกนั ในเร่อื ง เดยี วกัน ซ่งึ ทำใหเ้ กิดความขดั แยง้ ได้ 2. ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ที่ต่างฝา่ ยตา่ งแย่งผลประโยชน์ ของกนั และกนั ทำให้เกดิ ความขดั แยง้ กนั 3. ความขดั แย้งด้านโครงสรา้ ง หรือการแยง่ ชงิ อำนาจ รวมไปถงึ กฎระเบียบและข้อบังคบั ต่างๆ 4. ความขดั แยง้ ด้านความสมั พันธ์ เปน็ ปัญหาที่เกิดจากอารมณ์และ พฤติกรรมต่างๆท่ีเกิดจากความเข้าใจผิดหรือการสื่อสารท่ี คลาดเคลือ่ นไป 5. ความขัดแย้งด้านค่านิยม ที่เกิดจากความเช่ือ ขนบธรรมเนียม ประเพณี ทถ่ี ูกหล่อหลอมมาตั้งแต่เด็ก
ความขดั แยง้ ในสังคมไทย ประเภทของความขดั แยง้ แบ่งเป็น 5 ประเภท ดังน้ี 1. ความขัดแย้งภายในตัวบคุ คล เกิดข้ึนเนอื่ งจากการทไ่ี มเ่ ปน็ ไปตาม เป้าหมาย หรอื ความสับสนว้าวุน่ ในสถานการณ์นั้นๆ จนทำใหไ้ ม่สามารถ ตดั สนิ ใจได้ 2. ความขดั แยง้ ระหวา่ บคุ คล เกดิ จากท่ีทั้งสองฝา่ ยมคี วามคิดเห็นท่ีแตกต่าง กนั ทำใหไ้ ม่สามารถตกลงกันได้ 3. ความขัดแยง้ ภายในกลมุ่ ความขดั แยง้ ของสมาชกิ ภายในกลมุ่ ที่เกดิ จาก ความไมเ่ ห็นดว้ ยเนอ่ื งจากแนวคิดต่างกัน 4. ความขัดแยง้ ระหว่างกลุ่ม ความขัดแยง้ ที่เกดิ ขน้ึ ระหวา่ งกลมุ่ เช่น ความ ขัดแย้งของแผนกบัญชีและแผนกวิจัย 5. ความขดั แยง้ ภายในองค์การ เชน่ ความขดั แยง้ ท่ีเกิดขนึ้ ระหวา่ งหวั หนา้ กบั ลูกนอ้ ง
ปัญหาความขัดแย้งสังคมไทยปัจจบุ ันและสงั คมโลก ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยและสังคมโ ลกในตอนนี้คื อป ั ญ ห า เกี่ยวกับวิกฤตทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ทั้งเมืองไทย และทั่วโลกได้มีการออกมาประท้วงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้เมืองไทย นั้นก็มีการแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ออกมาเรียกร้อง ประชาธิปไตยและอีกกลุ่มท่ีต่อตา้ นการออกมาประท้วง ซึ่งสาเหตทุ ่ี มีการออกมาประท้วงเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตยเกิดจากความ ล้มเหลวทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยซึ่งหมายถึงความ ล้มเหลวในการทำหน้าที่ของนักการเมือง ความล้มเหลวในตัว นักการเมืองและภาวะผู้นำ ความผิดหวังในนโยบายต่างๆที่ออกมา เอาใจประชาชนเพื่อคะแนนเสียงมากกว่าที่จะแก้ไขปัญหาของ ประเทศ
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: