Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานคุณธรรม-กลุ่ม-5-ลงสี

งานคุณธรรม-กลุ่ม-5-ลงสี

Published by Nascha Nascha Khamphimoon, 2021-02-07 14:37:16

Description: งานคุณธรรม-กลุ่ม-5-ลงสี

Search

Read the Text Version

บุคลกิ ภาพและพฤตกิ รรมของครู

ความหมายของบุคลกิ ภาพ คำวำ่ บคุ ลิกภำพ ตรงกบั ภำษำองั กฤษวำ่ Personality มำจำกภำษำกรีกวำ่ Persona แปลวำ่ หนำ้ กำกท่ีตวั ละครไดส้ วมเวลำแสดงละคร เพอ่ื ที่ใหเ้ ห็นควำมแตกตำ่ งของตวั ละครทำให้ผชู้ มจำตวั ละครได้ ตำมพจนำนุกรม ศพั ทส์ งั คมวิทยำองั กฤษ-ไทย ฉบบั รำชบณั ฑิตยสถำน อธิบำยควำมหมำยบคุ ลิกภำพไวว้ ำ่ เป็นผลรวมทำงควำมคิด ทำ่ ที และนิสยั ซ่ึงสร้ำงสมจำกมูลฐำนองคป์ ระกอบทำงจิต และทำงกำยภำพของบคุ คลอนั ถ่ำยทอดมำทำงชีววิทยำ ส่วนหน่ึงและจำกแบบอยำ่ งวฒั นธรรมที่ถ่ำยทอดมำทำงสงั คมอีกส่วนหน่ึง ( วชั รี ตระกลู งำม, 2542, น. 195 )

ควำมสำคญั ของบุคลิกภำพ บคุ ลิกภำพมีควำมสำคญั ต่อครูดงั น้ี (ธีรศกั ด์ิ อคั รบวร, 2544, น. 100 – 139) 1) ช่วยให้ปรับตวั เขำ้ กบั สภำพแวดลอ้ มและบุคคลอ่ืน ๆ ไดด้ ี บคุ ลิกภำพเป็นลกั ษณะเฉพำะตวั ท่ี บคุ คลแสดงออกให้ ปรำกฏแก่ผพู้ บเห็น ครูผมู้ ีบุคลิกภำพดียอ่ มไดเ้ ปรียบในกำรสมำคมกบั บคุ คลทวั่ ไปโดยเฉพำะศิษยแ์ ละผปู้ กครอง 2) เพือ่ เป็ นแบบอยำ่ งให้แก่ศิษยแ์ ละบคุ คลทว่ั ไปได้ บุคลิกภำพท่ีดีของบุคคลบำงคน เช่น ควำมซื่อสตั ย์ ควำมเท่ียงธรรม ลกั ษณะกำรเดิน และลีลำกำรพดู เป็นตน้ ส่ิงตำ่ ง ๆ เหล่ำน้ีสำมำรถนำไปเป็นแบบอยำ่ ง ใหศ้ ิษยน์ ำไปเป็นแบบเพ่ือ ฝึ กฝนได้

3) ช่วยใหม้ ีควำมมนั่ ใจในตนเอง บคุ คลที่มีบุคลิกภำพดี และบุคลิกภำพเหมำะสมกบั หนำ้ ท่ีรับผดิ ชอบแลว้ จะทำให้เกิด ควำมมน่ั ใจในกำรทำงำนมำกยงิ่ ข้ึน ครูผมู้ ีบคุ ลิกภำพดี ยอ่ มมนั่ ใจในกำรไปปรำกฏตวั ในท่ีตำ่ ง ๆ ท้งั ในหอ้ งเรียนและใน สงั คมทว่ั ไป 4) ช่วยให้เป็ นบคุ คลที่มีสุขภำพจิตดี ครูผมู้ ีบคุ ลิกภำพดีท้งั ทำงดำ้ นร่ำงกำยอำรมณ์ สงั คม และสิตปัญญำยอ่ มเป็นผทู้ ่ีมี สุขภำพจิตดี เพรำะสำมำรถติดต่อและทำกิจกรรมต่ำง ๆ ร่วมกบั ผอู้ ่ืนไดด้ ี 5) ช่วยทำให้ครูประสบควำมสำเร็จในอำชีพกำรงำน ครูที่มีบคุ ลิกภำพดียอ่ มเป็นท่ีไวว้ ำงใจ และมนั่ ใจกำร ประกอบกิจกำร ตำ่ ง ๆ

ปัจจยั ท่ีมอี ทิ ธิพลต่อบุคลกิ ภาพ แกริสนั (Karl Garrison. 1979: 145-167)ไดศ้ ึกษำถึงปัจจยั ต่ำง ๆ ท่ีทำใหบ้ ุคลิกภำพของบุคคลแตกตำ่ งกนั ไปวำ่ เกิดจำกอิทธิพลดงั ตอ่ ไปน้ี 1) อิทธิพลของร่ำงกำย เช่น เด็กคนหน่ึงมีรูปร่ำงเต้ีย ผดิ ไปจำกธรรมดำใคร ๆ ตำ่ งก็ทกั วำ่ เต้ีย ยอ่ มทำใหเ้ ดก็ เช่ือ วำ่ ตนไม่สูงสงำ่ อยำ่ งผอู้ ่ืน จึงตอ้ งกระทำใด ๆ เพื่อเป็นกำรชดเชยส่ิงท่ีตนขำดหำยไป

2) อิทธิพลของตอ่ ม โดยปกติ ตอ่ มในร่ำงกำยคนเรำที่อิทธิพลตอ่ บุคลิกภำพ ไดแ้ ก่ ต่อมไร้ทอ่ เช่น ต่อมไทรอยด์ ต่อมแอดรีนลั เป็นตน้ ตวั อยำ่ งเช่นต่อม ไทรอยดเ์ ป็นต่อมท่ีมีอิทธิพลตอ่ กำรเคล่ือนไหวของร่ำงกำย ถำ้ ตอ่ มน้ีฉีดฮอร์โมนมำกไป ทำให้ กำรเผำผลำญในร่ำงกำยมำก ก็จะกลำยเป็ นคนลุกล้ีลุกสนเคลื่อนไหวอยเู่ สมอหำกต่อมน้ีฉีดฮอร์โมนนอ้ ยก็จะ กลำยเป็นคน เฉ่ือยชำ ไม่กระฉบั กระเฉง 3) อิทธิพลของสงั คม เด็กที่มีชีวิต ควำมเป็ นอยใู่ นสงั คมที่ตำ่ งกนั ยอ่ มมีบุคลิกภำพตำ่ งกนั ไป ไม่วำ่ จะเป็นฐำนะทำงครอบครัว, กลุ่มเพอ่ื น, สภำพแวดลอ้ มตำ่ ง ๆ ยอ่ มมีอิทธิพลตอ่ เด็กมำก 4) อิทธิพลของกำรศึกษำ กำรศึกษำ และกำรเรียมรู้ของมนุษยเ์ รำไม่มนั จบสิ้น ควำมรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ยอ่ มเปล่ียนแปลงอยู่ เสมอ ไมว่ ำ่ จะเป็นกำรศึกษำในระบบโรงเรียน หรือกำรศึกษำนอกระบบยอ่ มก่อให้เกิดกำรเปล่ียนแปลงบคุ ลิกภำพของบุคคล ไดเ้ สมอ

ปัจจยั ต่ำง ๆ ท่ีมีอิทธิพลต่อบุคลิกภำพ ตำมควำมเห็นของนกั วิชำกำรหลำย ๆ ท่ำนมีควำมคลำ้ ยคลึงกนั จะแตกตำ่ งกนั ท่ีรำยละเอียดปลีกยอ่ ยเท่ำน้นั แตข่ อ้ สรุป จะเหมือนกนั คือ ปัจจยั ที่อิทธิพลทำใหบ้ ุคลิกภำพของคนเรำต่ำงกนั ท่ีสำคญั มีอยู่ 2 ประกำร คือ 1. พนั ธุกรรม (Heredity) หมำยถึง ลกั ษณะต่ำง ๆ ท่ีบุคคลไดร้ ับถ่ำยทอดมำจำกบรรพบรุ ุษ เช่นรูปร่ำง หนำ้ ตำ นยั น์ตำ ผวิ พรรณ สีของผม ชนิดของโลหิต เชำวป์ ัญญำ รวมท้งั โรคบำงอยำ่ งอีกดว้ ย เป็นตน้ 2. สิ่งแวดลอ้ ม (Environment) หมำยถึงสิ่งต่ำง ๆ ท่ีอยรู่ อบตวั บคุ คล ต้งั แต่สภำพครอบครัว กำรอบรมเล้ียงดู สภำพสงั คมอ่ืน ๆ ขนบธรรมเนียนประเพณีซ่ึงมีอิทธิพลพฒั นำกำรทำงดำ้ นสติปัญญำ อุดมคติ เจตคติ คำ่ นิยม อำรมณ์ กิริยำ มำรยำท เป็นตน้

ปัจจยั ท่ีสาคญั ท้งั 2 ประการ ก่อให้บุคลกิ ภาพ 7 ชนิด 1.บคุ ลิกภำพทำงกำย เช่น รูปร่ำงเล็ก ใหญ่ อว้ น ผอม สูง เต้ีย ซ่ึงเป็นบุคลิกภำพภำยนอก เป็นสิ่งแรกที่เรำมองเห็นซ่ึงมีผลทำงจิตใจ ดว้ ย ถำ้ ร่ำงกำยสมบรู ณ์แขง็ แรงดีจิตใจกส็ ดช่ืน แจม่ ใส 2.บคุ ลิกภำพทำงควำมสมอง เช่น ควำมเฉลียวฉลำด ควำมจำ กำรลืม จินตนำกำร เชำวป์ ัญญำ ควำมต้งั ใจ ควำมพอใจ กำรตดั สินใจ 3.บุคลิกภำพทำงควำมสำมำรถ ควำมถนดั เช่น ควำมสำมำรถในกำรเรียน กำรทำงำน อนั เป็นลกั ษณะตำมธรรมชำติของแตล่ ะ บุคคล เช่น ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญญำเฉพำะหนำ้ ควำมถนดั ทำง ดำ้ นภำษำ กีฬำ ศิลปะ 4.บคุ ลิกภำพทำงอปุ นิสยั หมำยถึง ควำมประพฤติ ศีลธรรมจรรยำท่ีมีอยใู่ นตวั บคุ คล เช่น ควำมสุขภำพ ซ่ือสตั ย์ ควำมอ่อนโยน

5.บคุ ลิกภำพทำงกำรสมำคม เป็นพฤติกรรมที่แสดงตอ่ ผอู้ ่ืน ไมว่ ำ่ จะเป็นกิริยำท่ำทำง ควำมประพฤติ เช่น ชอบคบหำสมำคม ชอบ เก็บตวั สงบเสงี่ยม ชอบทำตวั เด่น ชอบพดู เสียงดงั ยอมรับฟังเหตผุ ล ฯลฯ 6.บุคลิกภำพทำงอำรมณ์ เป็ นกำรแสดงออกแสดงออกทำงควำมรู้ที่ทำใหเ้ กิดกำรกระทำต่ำง ๆ เช่น ตื่นเตน้ ตกใจง่ำย อดทน กลำ้ หำญ ข้ีขลำด ใจเยน็ ใจร้อน ร่ำเริง แจ่มใส่ เฉ่ือยชำ ฯลฯ 7.บุคลิกภำพทำงกำลงั ใจ คือควำมสำมำรถในกำรควบคุม จิตใจ หรือบงั คบั พฤติกรรมต่ำง ๆ ไดเ้ ช่น ใจแขง็ ใจมน่ั คง ควำม ขยนั หมน่ั เพียร บำกบน่ั อดทน ตรงขำ้ มกบั คนท่ีใจออ่ น ทอ้ ถอย ไม่กลำ้ ต่อสู้ปัญญำอปุ สรรคต่ำง ๆ ถำ้ รู้เสียใจ ผดิ หวงั ก็ร้องไห้ ก็ แสดงออกทำงสีหนำ้ หรือคำพดู เป็นตน้

ลกั ษณะของบุคลกิ ภาพ บุคลกิ ภาพทางกาย บคุ ลิกภำพทำงกำยเป็นบคุ ลิกภำพท่ีสงั เกตไดแ้ ละเป็นส่ิงท่ีปรำกฏตอ่ บคุ คลทวั่ ไป เป็นควำมประทบั ใจคร้ังแรกท่ี เกิดกบั ผพู้ บเห็น บคุ ลิกภำพทำงกำยทว่ั ไป มีดงั น้ี 1) รูปร่ำง หนำ้ ตำ และผิวพรรณบุคลิกภำพส่วนน้ีเป็นมำโดยกำเนิด อำจแกไ้ ขไดย้ ำก แต่ก็สำมำรถปรับปรุงและ พฒั นำไดต้ ำมสมควร ผเู้ ป็นครูไมว่ ำ่ รูปร่ำงจะเป็นอยำ่ งไรท่ีสำคญั ตอ้ งมีควำมแขง็ แรง สมบูรณ์ปรำศจำกโรค ไม่ เป็นทำสส่ิงเสพติด ซ่ึงจะทำใหร้ ่ำงกำยทรุดโทรม

2) กำรแต่งกำยบคุ ลิกภำพในส่วนดำ้ นกำรแต่งกำยของครูน้นั เป็นสิ่งแรกท่ีนกั เรียน ผปู้ กครอง และประชำชนมองเห็น จึงมีผลต่อกำรสร้ำงเจตคติที่ดีตอ่ ตวั ครูกำรแตง่ กำยที่เหมำะสมกบั บุคลิกภำพของครู 2.1 แต่งกำยให้เหมำะสมกบั สถำนท่ีและควำมนิยมของสงั คมในโอกำสต่ำงๆ เช่น ศำสน-สถำน สถำนที่ รำชกำรและงำนกิจกรรมต่ำง ๆ เป็นตน้ 2.2 แตง่ กำยใหเ้ หมำะสมกบั ฐำนะทำงสงั คมและเศรษฐกิจ คือ ตอ้ งแตง่ กำยให้เหมำะสมกบั สถำนภำพ และ ตอ้ งไมเ่ กินควำมจำเป็ น

บุคลกิ ภาพทางสังคม บุคลิกภำพทำงสงั คมเป็นบุคลิกภำพที่แสดงออกใหผ้ อู้ ื่นไดพ้ บเห็น เช่นเดียวกบั บคุ ลิกภำพทำงร่ำงกำย เพียงแต่ บุคลิกภำพทำงสงั คมน้นั อำจมีผลจำกบคุ ลิกภำพภำยในของบคุ คลน้นั ๆ ซ่ึงเป็นแรงขบั ท่ีสำคญั โดยเฉพำะคุณธรรม จริยธรรมและค่ำนิยม. ไดแ้ ก่ ควำมจริงใจ ควำมซื่อสตั ย์ เป็นตน้

บุคลกิ ภาพทางอารมณ์ บคุ ลิกภำพทำงอำรมณ์ เป็นบคุ ลิกภำพภำยในที่อำจแสดงออกมำให้เห็นหรือไมก่ ไ็ ด้ บคุ ลิกภำพทำงอำรมณ์ของครู ไดแ้ ก่ 1) อำรมณ์ขนั จำกผลกำรวจิ ยั ท้งั ของนกั ศึกษำไทยแบะตำ่ งประเทศตรงกนั วำ่ อำรมณ์ขนั เป็นบุคลิกภำพดำ้ นหน่ึงของครูท่ี นกั เรียนเห็นวำ่ สำคญั มำก กำรมีอำรมณ์ขนั ช่วยใหก้ ำรสอนสนุกสนำมเป็ นศิลปะของกำรสอนประกำรหน่ึง 2) อำรมณ์ดี เป็ นบคุ ลิกภำพอีกส่วนหน่ึงท่ีทำใหค้ รูเป็นคนน่ำรัก นกั เรียนมีควำมกลำ้ และพอใจที่จะเขำ้ มำพบปะเพอ่ื ปรึกษำปัญหำตำ่ ง ๆ ของตน 3) อำรมณ์เยน็ เป็นบคุ ลิกท่ีช่วยให้ครูเป็นผนู้ ่ำคบคำ้ สมำคมดว้ ย ช่วยใหค้ รูมีควำมอดทนในกำรสง่ั สอนศิษย์ ไมว่ วู่ ำมในกำร 4) ควำมมงั่ คงทำงอำรมณ์ ครูท่ีสำมำรถควบคุมอำรมณ์ไดด้ ีจะไดเ้ ปรียบในกำรดำเนินชีวิตและปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีกำรงำน ควำม มง่ั คงทำงอำรมณ์เป็ นบคุ ลิกภำพที่สำคญั ที่สุดของทุกอำชีพโดยเฉพำะอยำ่ งยง่ิ ผทู้ ่ีเป็นครู

บุคลกิ ภาพทางสตปิ ัญญา บคุ ลิกภำพทำงดำ้ นสติปัญญำ เป็ นเร่ืองของเชำวน์ปัญญำแต่ละคนเกิดจำกพนั ธุกรรมที่ไดร้ ับกำรถ่ำยทอดจำกบรรพบรุ ุษ สติปัญญำจะดีเพียงใด เฉลียวฉลำดมำกนอ้ ยแค่ไหนยอ่ มข้ึนอยกู่ บั มนั สมองเป็นสำคญั อยำ่ งไรก็ตำมกำรศึกษำแบะสิ่งแวดลอ้ มก็ สำมำรถช่วยพฒั นำเพมิ่ ประสิทธิภำพของสติปัญญำไดไ้ ม่นอ้ ย เม่ือพจิ ำรณำกนั อยำ่ งกวำ้ งๆ แลว้ บุคลิกภำพของคนเรำสำมำรถจำแนกออกไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะใหญ่ๆ ดงั น้ี 1) บุคลกิ ภาพภายนอก ซ่ึงเป็นสิ่งที่สำมำรถสงั เกตเห็นหรือสมั ผสั ไดป้ ระสำทท้งั 5 คือ ตำ หู จมูก ลิ้น และกำย บุคลิกภำพ ภำยนอกน้ีสำมำรถแกไ้ ข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงไดง้ ่ำย โดยใชเ้ วลำฝึกและแกไ้ ขปรับปรุงไมน่ ำนนกั และสำมำรถวดั ผลได้ ทนั ที 2) บุคลกิ ภาพภายใน เป็นส่ิงที่มองไมเ่ ห็น สมั ผสั ไดย้ ำก ตอ้ งทำงำนร่วมกนั นำนๆจึงจะสงั เกตเห็น กำรแกไ้ ขเปลี่ยนแปลงตอ้ งใช้ ระยะเวลำนำนพอสมควร และบุคลิกภำพภำยในบำงอยำ่ งไม่สำมำรถแกไ้ ขได้ บคุ ลิกภำพภำยในส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ เก่ียวขอ้ งกบั สติปัญญำ อำรมณ์ และจิตใจ

การพฒั นาบุคลกิ ภาพ 1. การวเิ คราะห์ตนเอง (Self Analysis) กำรวเิ ครำะห์ตนเองหมำยถึง กำรสำรวจตรวจสอบวำ่ ตวั ของเรำเองมีสิ่ง ใดดีหรือส่ิงใดบกพร่องอะไรบำ้ งที่เหมำะสมกบั งำน่ีทำ ในขณะเดียวกนั กส็ ำรวจสอบดูวำ่ มีขอ้ บกพร่องอะไรบำ้ ง วธิ ีกำรตรวจสอบหรือวิเครำะห์ตวั เองท่ีให้ผลมำกกวำ่ วธิ ีอ่ืน 2. การปรับปรุงและฝึ กฝนตนเอง (Self Improvement and Training ) กำรแกไ้ ขปรับปรุงตนเองจะ เกิดข้ึนไดต้ อ้ งอำศยั กำรวิเครำะห์ตนเองเป็นเบ้ืองตน้ นนั่ คือ จะตอ้ งฝึกตนให้เป็นคนรู้เหตุ รู้ผล เมื่อรู้วำ่ อะไรไม่ เหมำะสมแลว้ มีผลเสียอยำ่ งไร กพ็ ยำยำมเลิกพฤติกรรรมส่ิงน้นั

3. การแสดงออก (Behavior) กำรแสดงออกภำยหลงั ที่ผำ่ นกำรปรับปรุง และกำรฝึกฝนมำแลว้ เป็นกำรสร้ำง ควำมเช่ือมน่ั ที่ดีให้เกิดข้ึน พยำยำมแสดงออกและปฏิบตั ิบอ่ ย ๆ จนทำให้เกิดควำมรู้สึกเคยชิน 4. การประเมินผล (Evaluation) กำรประเมินผล เป็นกำรสำรวจตรวจสอบคร้ังสุดทำ้ ย หลงั จำกไดก้ ระทำ ตำมข้นั ตอนที่ไดว้ ำงแผนหรือต้งั ใจไวแ้ ลว้ กำรประเมินผลทำงบุคลิกภำพควรให้คนอ่ืนท่ีเรำมีปฏิกิริยำสมั พนั ธ์ อยดู่ ว้ ยเป็นผปู้ ระเมิน

พฤติกรรมของครูประเภทแก่นครู พฤติกรรมของครู พฤติกรรมของครูประเภทเปลือกครู -มำโรงเรียนแตเ่ ชำ้ พฤติกรรมของครูประเภทเนือ้ ครู -มำโรงเรี ยนสำยเป็ นประจำ -กลบั ถึงเหยำ้ เม่ือเยน็ -งำนไม่ทำเอำแต่คุย -สอนศิษยใ์ หค้ ิดเป็น -สอนหนงั สือตำมหลกั สูตร -ทำงำนชุ่ยตลอดเวลำ -ทำตวั เช่นที่สอนศิษย์ -มกั ไมพ่ ดู เร่ืองจรรยำ -ชอบดุด่ำเด็กไร้เหตุผล -ไม่ซุกซนมวั โลกีย์ -ถึงเวลำก็มำไดเ้ วลำกลบั -งำนของตนทำไมเ่ ป็น -ไม่เป็ นผีกำรพนนั -ไม่สำทบั คุณนิสยั -เชำ้ จรดเยน็ กินแตเ่ หลำ้ -ขยนั อบรมศิษย์ -เรื่องวินยั ไมก่ ลำ้ เนน้ -ไมส่ ร่ำงเมำเขำ้ หอ้ งสอน -เป็นมิตรกบั ทุกคน -ทำไม่เป็ นแต่สอนได้ -พดู เพอ้ เจอ้ กบั ศิษย์ - ขยนั อบรมศิษย์ -ชอบแตง่ กำยนำสมยั -ดดั จริตเจรจำ -เอ้ืออำรีตอ่ มิตรสหำย -ของไทยๆไม่นิยม -เจำ้ นำยมำทำเป็นขยนั -ชอบช่ืนชมกบั ของนอก -ไมเ่ อ้ืออำทรศิษย์

การพฒั นาตนของครูสู่มืออาชีพ สิ่งท่ีทำใหค้ รูมืออำชีพ แตกตำ่ งจำกผปู้ ระกอบอำชีพครูโดยทว่ั ไปน้นั คือกำรสำมำรถปฏิบตั ิตนใหด้ ำรงไวซ้ ่ึง ปัจจยั ที่ส่งเสริมควำมเป็นครูท่ีดี 4 ประกำร ซ่ึงปรำกฏในหนงั สือคูม่ ือเสน้ ทำงครูมืออำชีพสำหรับครูผชู้ ่วย ของสำนกั พฒั นำระบบบริหำรงำนบคุ คลและนิติกร สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน อนั ไดแ้ ก่ 1. อดุ มการณ์ของครู สำหรับครูมืออำชีพ จะเนน้ ในเร่ืองในของกำรดำรงไวซ้ ่ึงอดุ มกำรณ์ควำมเป็นครูมำกกวำ่ จะคำนึงถึงอำมิสสินจำ้ ง โดยพร้อมแสดงควำมเมตตำกรุณำตอ่ ศิษย์ เสียสละและมุงมน่ั ในกำรทำงำนเพอ่ื เป้ำหมำยในกำรพฒั นำผเู้ รียนอยำ่ งเตม็ ศกั ยภำพตำมควำมสำมำรถท่ีตวั เองพงึ กระทำได้

2. คุณลกั ษณะของการเป็ นครูทด่ี ี ครูมืออำชีพส่วนใหญ่จะมีลกั ษณะของกำรเป็นครูที่ดี ซ่ึงกำรเป็นครูท่ีดีน้นั ถำ้ มองตำมเกณฑม์ ำตรฐำนวชิ ำชีพแลว้ จะ สำมำรถสรุปไดค้ ร่ำวดงั น้ี คือ - ตอ้ งเป็นผรู้ อบรู้ในเร่ืองของนโยบำยกำรศึกษำ เขำ้ ใจในหลกั สูตรและเน้ือหำวิชำที่สอน มีทกั ษะในกำรสอน วดั และประเมินผล ผเู้ รียนไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ ง - ติดตำมสถำนกำรณ์บำ้ นเมืองอยำ่ งสม่ำเสมอ สำมำรถจบั ประเด็นและวเิ ครำะห์ปัญหำต่ำงๆ ได้ - มีคุณธรรมจริยธรรมตำมหลกั ของจรรยำบรรณวิชำชีพ - รู้จกั พฒั นำตนเองและส่งเสริมชุมชนอยเู่ สมอ

3. ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปัจจบุ นั น้ี อำชีพครูกลำยเป็ นอำชีพหน่ึงที่ถูกหยบิ ยกข้ึนมำกล่ำวถึงในเรื่องของหน้ีสิน ซ่ึงเป็ นเร่ืองที่ไม่เหมำะสมเป็ นอยำ่ งยงิ่ ถึงแมว้ ำ่ ครูจะไมใ่ ช่อำชีพที่ทำรำยไดใ้ นระดบั ท่ีสูงมำกนกั แตร่ ำยไดข้ องครูก็เพยี งพอต่อกำรใชส้ อย ถำ้ มีควำมพอเพียงและ สำมำรถบริหำรจดั กำรไดด้ ี แตส่ ่วนใหญท่ ี่พบมกั เป็นลกั ษณะของกำรมีหน้ีสินติดพนั รุงรังจนกระทบตอ่ กำรทำงำน ทำใหค้ รูไม่ อำจทำงำนไดเ้ ตม็ ท่ี จะเป็ นผทู้ ่ีหยบิ ยกแนวทำงเศรษฐกิจพอเพยี งตำมพระรำชดำรัสของพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอ ดุลยเดชมำใชใ้ นกำรดำเนินชีวิต คือ พอประมำณ มีเหตผุ ล และมีภมู ิคุม้ กนั ที่ดีในตวั เอง ทำใหส้ ำมำรถใชช้ ีวิตในวชิ ำชีพครูไดเ้ ป็นแบบอยำ่ งท่ีดีและมีควำมสุข

4. คุณธรรมทใ่ี ช้ในการปฏบิ ัตงิ าน คุณธรรมในกำรประกอบวิชำชีพครูน้นั ตำมเกณฑม์ ำตรฐำนวิชำชีพ จะประกอบดว้ ย (1) ควำมมีเมตตำกรุณำต่อศิษย์ (6) อดทน (2) มีควำมยตุ ิธรรม (7) ประหยดั (3) มีควำมรับผิดชอบ (8) รักและศรัทธำในวชิ ำชีพครู (4) มีวนิ ยั (9) มีควำมเป็ นประชำธิปไตยในกำร (5) ขยนั ขนั แขง็ ปฏิบตั ิงำนและกำรดำรงชีวติ สำหรับกำรแนวทำงในกำรฝึกฝน เพ่ือกำ้ วสู่กำรเป็นครูมืออำชีพน้นั จำกบทควำมเร่ือง คมคิด 12 ประกำร สู่ควำมเป็นครู สควค. มืออำชีพ ของนำยเดชำ กำรรัมย์ ผอู้ ำนวยกำร โรงเรียนบำ้ นม่วงหนองตำด

Thank you for your attention