Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นวัตกรรม

นวัตกรรม

Published by Nascha Nascha Khamphimoon, 2021-02-06 19:17:41

Description: นวัตกรรม

Search

Read the Text Version

ความรู้หลกั การนวตั กรรมและเทคโนโลยี การศึกษาในศตวรรษท่ี 21 ALLPPT.com _ Free PowerPoint Templates, Diagrams and Charts

ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั นวตั กรรมและเทคโนโลยี ความหมายของเทคโนโลยกี ารศึกษา เทคโนโลยกี ารศึกษา หมายถึง การนาเอาหลกั แนวคิด วธิ ีการต่าง ๆ ที่ต้งั อยบู่ น พ้ืนฐานทางวทิ ยาศาสต์ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ หก้ บั กระบวนการการจดั การศึกษา ขอบข่ายของเทคโนโลยกี ารศึกษา 1.การออกแบบ คือ การนาเอาความรู้ทม่ี อี ยู่มาวางแผน 2.การพฒั นา คือ การเปลย่ี นแปลงและแก้ไขการออกแบบเผ่ือให้ดขี นึ้ 3.การใช้ คือ การนาเอากระบวนการผลติ และออกแบบมาใช้จริง 4.การจดั การ คือ การวางแผน ควบคุมให้เป็ นไปตามแบบแผน 5.การประเมนิ คือ การหาผลสรุปจากสิ่งทเ่ี ราสร้างขนึ้ เพื่อนามาปรับปรุงและแก้ไขในการ ทางานคร้ังต่อไป

ความสัมพนั ธ์ระหว่างนวตั กรรมและเทคโนโลยที างการศึกษา นวตั กรรม คือ การนาเอาความคิดใหม่ ความรู้ใหม่ การกระทาส่ิงใหม่ เพอ่ื ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง พฒั นาการจดั การศึกษา นามาใชใ้ นการจดั การ เรียนการสอนใหเ้ กิดประสิทธิภาพสูงข้ึน เทคโนโลยกี ารศึกษา คือผลสืบเนื่องจากจากนาเอาความคิดใหม่ ความรู้ใหม่ วธิ ีการและ เครื่องมือ วสั ดุ อุปกรณ์ ประยกุ ตเ์ ขา้ กบั ความรู้และวธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์นามาใชน้ ามา ปฏิบตั ิในการจดั การศึกษาอยา่ งมีระบบการนานวตั กรรมและเทคโนโลยที างการศึกษามาใช้ จะช่วยใหก้ ารจดั การศึกษามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง มีการพฒั นาอยา่ งเหมาะสมข้ึนมี ประสิทธิภาพดีข้ึน ไดผ้ ลผลิตสูงข้ึน

ขอบข่ายของเทคโนโลยกี ารศึกษา เทคโนโลยกี ารศึกษา มี 5 ขอบข่าย ดงั รายละเอยี ดต่อไปนี้ 1. การออกแบบ (Design) 1. การออกแบบ (Design) คือ กระบวนการในการกาหนดสภาพของการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ 2. การพฒั นา (Development) การออกแบบระบบการสอน (Instructional systems design) มี 5 ข้นั ตอนดงั น้ี 3. การใช้ (Utilization) 4. การจดั การ (Management) 1) การวเิ คราะห์ (analysis) คือ กระบวนการที่กาหนดวา่ ตอ้ งการใหผ้ เู้ รียน 5. การประเมนิ (Evaluation) ไดร้ ับอะไรจากการเรียน ตอ้ งเรียนในเน้ือหาอะไรบา้ ง 2) การออกแบบ (design) คือ กระบวนการท่ีจะตอ้ งระบุวา่ ใหผ้ เู้ รียนเรียน อยา่ งไร ที่สามารถทาใหเ้ กิดการเรียนรู้สูงสุดต่อผเู้ รียน 3) การพฒั นา (development) คือ กระบวนการสร้าง การผลิตส่ือการสอน 4) การนาไปใช้ (implementation) คือ การใชว้ สั ดุและยทุ ธศาสตร์ต่างๆ ในการสอน 5) การประเมิน (evaluation) คือ กระบวนการในการประเมินการสอน

1.2 ออกแบบสาร (message design) คือ การวางแผน เปล่ียนแปลงสารเนน้ ทฤษฎีการเรียนที่ประยกุ ตค์ วามรู้บน พ้ืนฐานของความสนใจ การรับรู้ ความจา การออกแบบสารมีจุดประสงคเ์ พื่อการส่ือความหมายกบั ผเู้ รียน 1.3 กลยุทธ์การสอน (instructionalstrategies) เน้นที่การเลือก ลาดบั เหตุการณ์ และ กิจกรรมในบทเรียน ในทางปฏิบตั ิกลยทุ ธ์การสอนมีความสมั พนั ธ์กบั สถานการณ์การ เรียน ผลของปฏิสมั พนั ธ์น้ีสามารถอธิบายไดโ้ ดยโมเดลการสอน การเลือกยทุ ธศาสตร์ การสอนและโมเดลการสอนตอ้ งข้ึนอยกู่ บั สถานการณ์การเรียน รวมถึงลกั ษณะผเู้ รียน ธรรมชาติของเน้ือหาวชิ า และจุดประสงคข์ องผเู้ รียน 1.4ลกั ษณะผเู้ รียน(learnercharacteristics)คืลกั ษณะและประสบการณ์เดิมของผเู้ รียนที่จะมีผล ต่อกระบวนการเรียนการสอน การเลือก และการใชย้ ทุ ธศาสตร์การสอน

2. การพฒั นา (Development) การพฒั นา (Development) คือ กระบวนการเปลย่ี นการออกแบบ 2.1 เทคโนโลยสี ่ิงพมิ พ์ (print technologies) เป็นการผลิต หรือส่งสาร ส่ือดา้ นวสั ดุ เช่น หนงั สือ โสตทศั นวสั ดุพ้นื ฐานประเภทภาพน่ิง ภาพถ่าย รวมถึงสื่อขอ้ ความ กราฟิ ก วสั ดุภาพสิ่งพมิ พ์ ทศั นวสั ดุสิ่งเหล่าน้ีเป็นพ้ืนฐานของการพฒั นาการใชส้ ่ือวสั ดุการสอน อื่น ๆตวั อยา่ ง หนงั สือพิมพ์ วารสาร แมกกาซีน 2.2 เทคโนโลยโี สตทศั นูปกรณ์ (audiovisual technologies) เป็นวธิ ีการในการจดั หา หรือส่งถ่ายสาร โดยใชเ้ ครื่องมือ อุปกรณ์ หรือเคร่ืองมืออิเลก็ ทรอนิกส์เพอ่ื นาเสนอสารต่างๆ ดว้ ยเสียง และภาพ โสตทศั นูปกรณ์จะช่วยแสดงส่ิงท่ีเป็น ธรรมชาติจริงความคิดท่ีเป็นนามธรรม เพ่ือผสู้ อนนาไปใชใ้ หม้ ีปฏิสมั พนั ธ์กบั ผเู้ รียน ตวั อยา่ งอุปกรณ์โสตฯ โปรเจคเตอร์, เคร่ืองเสียง, ไมโครโฟน, ลาโพง, กลอ้ งวดี ีโอ, กลอ้ งดิจิตอล, เครื่องฉายขา้ มศีรษะ

2.3 เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ (computer – based technologies) เป็นวิธีการในการจดั หา หรือส่งถ่ายสารโดยการใช้ไมโครโพรเซสเซอร์ เพ่ือรับและส่งข้อมูลแบบดิจิตอล ประกอบด้วย คอมพวิ เตอร์ช่วยสอน คอมพวิ เตอร์จัดการสอน โทรคมนาคม การสื่อสาร ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ การเขา้ ถึงและใชแ้ หล่งขอ้ มูลในเครือข่าย 2.4 เทคโนโลยบี ูรณาการ (integrated technologies) เป็นวธิ ีการในการจดั หา หรือส่งถ่ายขอ้ มูลกบั สื่อหลาย ๆ รูปแบบภายใตก้ ารควบคุมของคอมพวิ เตอร์

3. การใช้ (Utilization) คือ ใช้กระบวนการ และแหล่งทรัพยากรเพื่อการเรียนการสอน 3.1 การใชส้ ื่อ (Media Utilization) เป็นระบบของการใชส้ ่ือ แหล่งทรัพยากรเพ่ือ การเรียน โดยใชก้ ระบวนการตามท่ีผา่ นการออกแบบการสอน 3.2 การแพร่กระจายนวตั กรรม (Diffusion of innovation) เป็นกระบวนการส่ือความหมาย รวมถึง การวางยทุ ธศาสตร์ หรือจุดประสงคใ์ หเ้ กิดการยอมรับนวตั กรรม 3.3 วิธีการนาไปใช้ และการจดั การ (Implementation and Institutionalization) เป็นการใชส้ ื่อการสอนหรือ ยทุ ธศาสตร์ในสถานการณ์จริงอยา่ งต่อเนื่องและใชน้ วตั กรรมการศึกษาเป็นประจาในองคก์ าร 3.4 นโยบาย หลกั การและกฎระเบียบขอ้ บงั คบั (policies and regulation) เป็นกฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของสงั คมท่ีส่งผล ต่อการแพร่กระจาย และการใชเ้ ทคโนโลยกี ารศึกษา

4. การจัดการ (Management) การจดั การ (Management) คือ ควบคุมกระบวนการทางเทคโนโลยกี ารศึกษา ตลอดจนการวางแผน จดั การ การประสานงาน และให้คาแนะนา 4.1 การจดั การโครงการ (Project Management) เป็นการวางแผน กากบั ควบคุม การออกแบบ และพฒั นาโครงการ 4.2 การจดั การแหล่งทรัพยากร (Resource Management) เป็นการวางแผน กากบั ควบคุมแหล่งทรัพยากร ที่ ช่วยระบบและการบริการ 4.3 การจดั การระบบส่งถ่าย (Delivery System Management) เป็นการวางแผน กากบั ควบคุมวิธีการ ซ่ึงแพร่กระจายสื่อการสอนในองคก์ าร รวมถึงส่ือ และวธิ ีการใชท้ ี่จะนาเสนอสารไปยงั ผเู้ รียน 4.4 การจดั การสารสนเทศ (Information Management) เป็นการวางแผน กากบั ควบคุม การเกบ็ การส่งถ่าย หรือกระบวนการของขอ้ มูลสารเพื่อสนบั สนุนแหล่งทรัพยากรการเรียน

5. การประเมนิ (Evaluation) การประเมนิ (Evaluation) คือ การหาข้อมูลเพื่อกาหนดความเหมาะสมของการเรียนการสอน 5.1 การวเิ คราะห์ปัญหา (Problem Analysis) เป็นการทาใหป้ ัญหาสิ้นสุด โดยการใชข้ อ้ มูลต่าง ๆ และวิธีการที่จะช่วยตดั สินใจ 5.2 เกณฑก์ ารประเมิน (Criterion – Reference Management) เทคนิคการใชเ้ กณฑเ์ พ่ือการประเมินการสอน หรือประเมินโครงการเทคโนโลยแี ละสื่อสารการศึกษา 5.3 การประเมินความกา้ วหนา้ (Formative Evaluation) มีการใชข้ อ้ มูลอยา่ ง เหมาะสมจากการประเมินความกา้ วหนา้ เพ่ือเป็นฐานในการพฒั นาต่อไป 5.4 การประเมินผลสรุป (Summative Evaluation) มีการใชข้ อ้ มูลอยา่ งเหมาะสมที่จะตดั สินใจกบั การ ดาเนินงานโปรแกรม หรือโครงการต่อไป

การจดั ประเภทและประโยชน์ของเทคโนโลยกี ารศึกษา ประโยชน์สาหรับผู้เรียน 1. ทาใหผ้ เู้ รียนมีโอกาสใชค้ วามสามารถของตนเอง ในการเรียนรู้อยา่ งเตม็ ท่ี 2. ผเู้ รียนมีโอกาสตดั สินใจเลือกเรียนตามช่องทางท่ีเหมาะกบั ความสามารถ 3. ทาใหก้ ระบวนการเรียนรู้ง่ายข้ึน 4. ผเู้ รียนมีอิสระในการเลือก 5. ผเู้ รียนสามารถเรียนรู้ในทุกเวลา ทุกสถานที่ ประโยชน์สาหรับผู้สอน 1. ทาใหป้ ระสิทธิภาพของการสอนสูงข้ึน 2. ผสู้ อนสามารถจดั กิจกรรมไดห้ ลากหลาย 3. ทาใหผ้ สู้ อนมีเวลามากข้ึน จึงใชเ้ วลาที่เหลือในการเตรียมการสอนไดเ้ ตม็ ท่ี 4. ทาใหก้ ระบวนการสอนง่ายข้ึน 5. ลดเวลาในการสอนนอ้ ยลง

ประโยชน์ต่อการจดั การศึกษา 1. สามารถเปิ ดโอกาสของการเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งแทจ้ ริง 2. ทาใหล้ ดช่องวา่ งทางการศึกษาใหน้ อ้ ยลง 3. สามารถสร้างผเู้ รียนท่ีมีประสิทธิภาพมากกวา่ เดิม 4. ทาใหก้ ารจดั การและการบริหารเป็นระบบมากข้ึน 5. ทาใหล้ ดการใชง้ บประมาณและสามารถใชง้ บประมาณท่ีมีอยใู่ หค้ ุม้ ค่า 6. สามารถแกป้ ัญหาทางการศึกษาไดห้ ลายประการ

ความหมายของนวตั กรรมการศึกษา “ นวตั กรรมการศึกษา (Educational Innovation) ” หมายถึง นวตั กรรมท่ีจะช่วยให้การศึกษา และการเรียนการ สอนมีประสิทธิภาพดียง่ิ ข้ึน ผเู้ รียนสามารถเกิดการเรียนรู้อยา่ งรวดเร็วมีประสิทธิผลสูงกว่าเดิม เกิดแรงจูงใจในการ เรียนดว้ ยนวตั กรรมการศึกษา และประหยดั เวลาในการเรียนไดอ้ ีกดว้ ย ในปัจจุบนั มีการใชน้ วตั กรรมการศึกษา มากมายหลายอยา่ ง ซ่ึงมีท้งั นวตั กรรมที่ใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายแลว้ และประเภทที่กาลงั เผยแพร่ เช่น 1.การเรียนการสอนท่ีใชค้ อมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Aids Instruction) 2.การใชแ้ ผน่ วดิ ีทศั นเ์ ชิงโตต้ อบ (Interactive Video) 3.สื่อหลายมิติ ( Hypermedia ) 4.อินเทอร์เนต็ [Internet] เหล่าน้ี เป็นตน้

ประเภทของนวตั กรรมทางการศึกษา ประเภทของนวตั กรรมทางการศึกษา นวตั กรรมท่ีนามาใชท้ ้งั ที่ผา่ นมาแลว้ และที่จะมีในอนาคตมีหลาย ประเภทข้ึนอยกู่ บั การประยกุ ตใ์ ชน้ วตั กรรมในดา้ นต่างๆ ซ่ึงจะขอแนะนานวตั กรรมการศึกษา 5 ประเภทดงั น้ี 1. นวตั กรรมทางด้านหลกั สูตร เป็นการใชว้ ธิ ีการใหม่ๆในการพฒั นาหลกั สูตรใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพแวดลอ้ มในทอ้ งถิ่น และตอบสนองความตอ้ งการสอน บุคคลให้มากข้ึน เน่ืองจากหลกั สูตรจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อให้สอดคลอ้ งกับความกา้ วหน้าทางด้าน เทคโนโลยี เศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลก นวัตกรรมทางด้านหลกั สูตรได้แก่ การพฒั นาหลกั สูตรบูรณาการ หลกั สูตรรายบุคคล หลกั สูตรกจิ กรรมและประสบการณ์ และหลกั สูตรท้องถิ่น 2. นวตั กรรมการเรียนการสอน เป็ นการใช้วธิ ีระบบในการปรับปรุงและคดิ ค้นพฒั นาวธิ ีสอนแบบใหม่ๆ ทส่ี ามารถตอบสนอง การเรียนรายบุคคล การสอนแบบผู้เรียนเป็ นศูนย์กลาง การเรียนแบบมสี ่วนร่วม การเรียนรู้แบบแก้ปัญหา การพฒั นาวธิ ี สอนจาเป็ นต้องอาศัยวธิ กี ารและเทคโนโลยใี หม่ๆ เข้ามาจดั การและสนับสนุนการเรียนการสอน

3. นวัตกรรมสื่อการสอน เนื่องจากมีความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครือข่าย และเทคโนโลยโี ทรคมนาคมทาใหน้ กั การศึกษาพยายามนาศกั ยภาพของเทคโนโลยเี หล่าน้ีมาใชใ้ นการ ผลิตส่ือการเรียนการสอนใหม่ๆ จานวนมากมาย ท้งั การเรียนดว้ ยตนเอง การเรียนเป็นกลุ่ม และการเรียน แบบมวลชน ตลอดจนสื่อท่ีใชเ้ พอ่ื สนบั สนุนการฝึ กอบรมผา่ นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 4. นวตั กรรมทางด้านการประเมนิ ผล เป็นนวตั กรรมท่ีใชเ้ ป็นเคร่ืองมือเพอื่ การวดั ผลและประเมินผลไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ และทาไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว รวมไปถึงการวจิ ยั ทางการศึกษา การวจิ ยั สถาบนั ดว้ ยการประยกุ ตใ์ ช้ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์มาสนบั สนุนการวดั ผล ประเมินผลของสถานศกึ ษา ครู อาจารย์ 5. นวตั กรรมการบริหารจดั การ เป็นการใชน้ วตั กรรมที่เกี่ยวขอ้ งกบั การใชส้ ารสนเทศมาช่วยในการ บริหารจดั การ เพ่ือการตดั สินใจของผบู้ ริหารการศกึ ษา ใหม้ ีความรวดเร็วทนั เหตุการณ์ ทนั ต่อการ เปล่ียนแปลงของโลก นวตั กรรมการศกึ ษาท่ีนามาใชท้ างดา้ นการบริหารจะเกี่ยวขอ้ งกบั ระบบการจดั การ ฐานขอ้ มูลในหน่วยงานสถานศกึ ษา

ความท้าทายด้านการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ในการเตรียมนกั เรียนใหพ้ ร้อมกบั ชีวิตในศตวรรษท่ี 21 เป็นเรื่องสาคญั ของ กระแสการปรับเปลี่ยนทางสงั คมที่เกิดข้ึนในศตวรรษที่ 21 ส่งผลต่อวิถีการดารงชีพของสังคมอย่างทวั่ ถึง ครูจึงตอ้ งมี ความตื่นตวั และเตรียมพร้อมในการจดั การเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมให้นกั เรียนมีทกั ษะสาหรับการออกไปดารงชีวิต ในโลกในศตวรรษท่ี 21 ท่ีเปล่ียนไปจากศตวรรษท่ี 20 และ 19 โดยทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ที่สาคัญที่สุด คือ ทักษะการเรี ยนรู้ (Learning Skill)ส่งผลให้มีการ เปล่ียนแปลงการจดั การเรียนรู้เพ่ือใหเ้ ดก็ ในศตวรรษท่ี 21 น้ี มีความรู้ ความสามารถ และทกั ษะจาเป็น ซ่ึง เป็นผลจากการปฏิรูปเปล่ียนแปลงรูปแบบการจดั การเรียนการสอน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมดา้ น ต่าง ๆ







แนวโน้มของสื่อและเทคโนโลยกี ารศึกษาในอนาคต เทคโนโลยใี นปัจจุบนั มีววิ ฒั นาการเปลี่ยนแปลงไปอยา่ งรวดเร็ว ทาใหม้ ีวสั ดุ อุปกรณ์ และเทคนิค วธิ ีการใหม่ๆ เพอ่ื นามาใชป้ ระโยชน์อยา่ งไม่มีขีดจากดั ในทุกวงการ เช่นเดียวกบั วงการศึกษาที่นา เทคโนโลยเี หล่าน้ีมาใชเ้ พ่อื เพม่ิ ประสิทธิภาพการเรียนการสอนและการบริหารจดั การ – พฒั นาการของเทคโนโลยแี ละการเรียนการสอน – การบรรจบกนั ของเทคโนโลยแี ละส่ือการสอน – ศกั ยภาพของการสื่อสารในสถาบนั การศึกษา – พฒั นาการของอีเลิร์นน่ิง : Learning Object – Grid Computing

พฒั นาการของเทคโนโลยแี ละการเรียนการสอน เทคโนโลยที ่ีพฒั นาและเอ้ือประโยชนต์ ่อการใชง้ านท้งั ในปัจจุบนั และนบั เน่ืองถึงอนาคตอนั ใกลจ้ ะมีมากมายหลายรูปแบบ เพอื่ ใชใ้ นวงการต่าง ๆ สาหรับพฒั นาการของเทคโนโลยที ่ีใชใ้ นวงการศกึ ษาและการเรียนการสอนที่จะกล่าวถึง ไดแ้ ก่ 1.การบรรจบกนั ของเทคโนโลยีและส่ือการสอน การบรรจบกนั ของเทคโนโลยี (technological convergence) เป็นการรวมตวั กนั ของเทคโนโลยี ใหเ้ ป็นเทคโนโลยรี ูปแบบเดียวที่สามารถใชง้ านไดห้ ลายวตั ถุประสงคใ์ นหน่ึงเดียว ตวั อยา่ งเช่น – โทรศพั ทเ์ ซลลูลาร์เพยี งเคร่ืองเดียว สามารถใชท้ ้งั การติดต่อส่ือสารท้งั เสียง ขอ้ ความ และภาพ มีนาฬิกาบอกเวลา จบั เวลา ต้งั ปลุก มีสมุดนดั หมาย 2.ศกั ยภาพของการสื่อสารในสถาบนั การศกึ ษา แนวโนม้ ในอนาคตของสถาบนั การศกึ ษาทง้ั ในระดบั โรงเรยี นและระดบั อดุ มศกึ ษา จาเป็นตอ้ งมีการวางแผนในการใชก้ ารส่ือสารบรอดแบนดม์ ากขนึ้ ทง้ั นีเ้ น่ืองจากการ ถ่ายทอดเนือ้ หาความรูใ้ นการเรยี นการสอนไม่จากดั เฉพาะเพียงขอ้ ความตวั อกั ขระ และภาพน่งิ เหมือนแตเ่ ดิมอีกตอ่ ไป แตจ่ ะมีการถ่ายทอดความรูแ้ ละส่ือสารขอ้ มลู ดว้ ย การเช่ือมตอ่ ทงั้ แบบเครอื ข่ายเฉพะท่ีและเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ตรอบโลก

พฒั นาการของอเี ลริ ์นน่ิง : Learning Object -ทรัพยากรและบทเรียนอีเลิร์นนิ่งปกติแลว้ จะมีอยกู่ ระจดั กระจายบนอินเทอร์เน็ต ทาใหไ้ ม่สามารถเรียกใช้ งานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ดว้ ยเหตุน้ีจึงไดม้ ีการพฒั นาอีเลิร์นน่ิงโดยการสร้างเน้ือหาในรูปแบบท่ีเรียกวา่ “เลิร์นนิ่งออปเจก็ ต”์ (learning object) แบบอิสระท่ีสามารถเกบ็ รวมอยใู่ นที่เดียวกนั เพื่อแบ่งปันกนั ใชใ้ น ระหวา่ งสถาบนั การศึกษาและสามารถใชง้ านไดห้ ลายแนวทาง 4. การรู้จาคาพูด เพ่ิมความสามารถในการทางาน ดว้ ยการติดต่อสื่อสารขา้ มพ้ืนท่ีอตั โนมตั ิทาใหผ้ สู้ อนสามารถเพม่ิ เวลา และการส่ือสาร ทางาน เช่น การรับส่งอีเมลขณะนง่ั ในรถยนตโ์ ดยไม่ตอ้ งห่วงปัญหาเรื่องความเร็วอีกต่อไป เครือขา่ ย เฉพาะท่ีไร้สายจะช่วยใหผ้ สู้ อนสามารถเขา้ สู่ขอ้ มูลของสถาบนั การศึกษาไดจ้ ากทุกแห่งท้งั ในและนอก สถานศึกษา และช่วยใหเประหยดั เงินไดม้ ากกวา่ เทคโนโลยแี บบเดิมป็นอยา่ งมาก ในปัจจุบนั กาลงั ไดร้ ับการเลือกสรรและส่วนมากแลว้ จะมีการสร้างข้ึนเพ่อื ใชง้ านดา้ นวทิ ยาศาสตร์ หากนามาใชใ้ นวงการศึกษาจะช่วยใหน้ กั ศึกษาและครูผสู้ อนสามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลท่ีแต่เดิมสงวนไว้ เฉพาะมหาวทิ ยาลยั ดา้ นการวจิ ยั เท่าน้นั เพ่อื นามาใชป้ ระโยชนใ์ นการเรียนการสอนได้

ความเป็ นจริงเสมือน (virtual reality) หรือท่ีเรียกวา่ “วีอาร์” (VR) เป็นกลุ่มเทคโนโลยเี ชิงโตต้ อบท่ีผลกั ดนั ให้ ผใู้ ชเ้ กิดความรู้สึกของการเขา้ ร่วมอยภู่ ายในส่ิงแวดลอ้ มที่ไม่ไดม้ ีอยจู่ ริงที่สร้างข้ึนโดยคอมพิวเตอร์รูปแบบของ ความเป็นจริงเสมือนมี 3 รูปแบบ ไดแ้ ก่ 1.ความเป็นจริงเสมือนแบบรับสมั ผสั เตม็ รูปแบบ ผใู้ ชจ้ ะรับรู้ขอ้ มูลดว้ ยประสาทสมั ผสั ท้งั 5 อยา่ งเตม็ รูปแบบโดยใชอ้ ุปกรณ์คอมพิวเตอร์เสริมพิเศษและตอ้ งสวมใส่อุปกรณ์ เช่น จอภาพ สวมศีรษะ ถุงมือรับรู้ และใชร้ ่วมกบั ซอฟตแ์ วร์ 2.ความเป็นจริงเสมือนแบบสมั ผสั บางส่วนหรือก่ึงรับสมั ผสั เป็นแบบท่ีนาแนวความคิดการ จาลองการบินมาใชเ้ น่ืองจากมีการประมวลผลกราฟฟิ กสมรรถนะสูง 3.ความเป็นจริงเสมือนแบบผา่ นจอภาพ รูปแบบน้ีเรียกไดเ้ ป็น “ความเป็นจริงประดิษฐ”์ เป็นแบบที่ใหป้ ระสบการณ์เสมือนจริงนอ้ ย ที่สุด ความเป็นจริงเสมือนแบบผา่ นจอภาพท่ีพบเห็นบ่อยและใชง้ านโดยไม่ตอ้ งใชอ้ ุปกรณ์พเิ ศษนอกจากเมาส์ท่ีใชก้ บั คอมพวิ เตอร์ ไดแ้ ก่ Quicktime VR

อ้างองิ https://tuemaster.com/blog http://www.okmd.or.th/okmd-opportunity/new-gen/262/ https://sites.google.com/site/205it82/raywicha/bth-reiyn/4 https://dlit.phayao2.go.th/bthkhwam/ https://www.gotoknow.org/posts/441188

วชิ า การสร้างสื่อและนวตั กรรม เสนอ อาจารย์ สุจติ รา จนั ทร์ลอย จดั ทาโดย นางสาว ณชั ชา คาพมิ ูล (ส้มโอ) 614103037 ปี 3 หมู่ 2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook