Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 003-จิรพัชร-รายงาน

003-จิรพัชร-รายงาน

Published by Jsix Jsix, 2023-06-19 06:45:15

Description: 003-จิรพัชร-รายงาน

Search

Read the Text Version

รายงาน วชิ าคอมพิวเตอร์และสานสนเทศเพื่องานอาชพี รหสั วชิ า (20001-2001) เรอื่ งความรูเ้ บือ้ งต้นเก่ียวกบั อนิ เทอรเ์ น็ต จดั ทาโดย นายจิรพชั ร ดวงจิตร์ รหัสประจาตวั นักเรียน เลขที่ 3ระดับ ปวช2/1 สาขาวิชาช่างไฟฟ้ากาลัง เสนอ คณุ ครู นิจยา อินทร์ประสิทธ์ิ รายฉบับน้ีเป็นสว่ นหนง่ึ ของการเรยี นวชิ า คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ (รหัสวชิ า 20001-2001) หลักสูตรประกาศนยี บัตรวิชาชีพ(ปวช.) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 วิทยาลยั เทคนิคท่าหลวง จงั หวัดลพบุรี

รายงาน วิชาคอมพิวเตอร์และสานสนเทศเพอื่ งานอาชพี รหสั วชิ า (20001-2001) เร่อื งความรู้เบอื้ งต้นเกีย่ วกบั อนิ เทอร์เน็ต จดั ทาโดย นายจิรพชั ร ดวงจิตร์ รหสั ประจาตวั นักเรียน เลขท่ี 3ระดับ ปวช2/1 สาขาวิชาช่างไฟฟา้ กาลัง เสนอ คุณครู นิจยา อนิ ทร์ประสิทธิ์ รายฉบบั นเ้ี ป็นส่วนหนงึ่ ของการเรยี นวชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ (รหัสวชิ า 20001-2001) หลกั สตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพ(ปวช.) ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2566 วทิ ยาลยั เทคนคิ ท่าหลวง จังหวัดลพบุรี

ก คำนำ รายงานเล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชา(รหัสวชิ า 20001-2001)คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ือ งานอาชีพโดยมีจุดมุ่งหมายหลักของวิชาคือ เข้าใจหลักการและกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์และ เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพการใช้ระบบปฏิบัติ โปรแกรมสาเร็จรูปและอินเทอร์เน็ตเพ่ืองาน อาชีพามารถะบบใช้ปฏบิ ัติการคอมพิวเตอรโ์ ปรแกรมสาเรจ็ รูปและเทคโนโลยีสารสนเทศตามลักษณะ งานอาชีพมีณธรรมจริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสานสนเทสในงาน อาชพี ผู้จดั ทาขอขอบคุณ คุณครูนจิ ยา อนิ ทรป์ ระสทิ ธิ์ อาจารยป์ ระจาวชิ าคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ือ งานอาชีพ ผใู้ ห้ความรแู้ ละแนวทางการศึกษา ผู้จัดทาหวังเปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ รายงามเล่มน้ีจะเปน็ ประโยชน์แกผ่ ู้ท่ศี ึกษาและเป็นการตอ่ ยอดใหผ้ ู้ท่ีสนใจสามารถนาไปศกึ ษาตอ่ ได้ในอนาคต ผู้จัดทา นาย จริ พัชร ดวงจติ ร์

สำรบัญ ข เรอ่ื ง หน้ำ ความรู้เบ้ืองตน้ เกยี่ วกับอนิ เทอรเ์ น็ต 1 อปุ กรณ์ทีใ่ ชเ้ ชือ่ มตอ่ อนิ เทอรเ์ นต็ 2 ประโยชนอ์ นิ เทอรเ์ น็ต 3 หน่วยงานที่มีบทบาทสาคญั ในอนิ เทอร์เน็ตของประเทศไทย 4 บรรณนานกุ รม 13

1 ความรูเ้ บ้ืองต้นเกี่ยวกับอนิ เทอรเ์ นต็ ความหมายและความเปน็ มา ความหมาย อินเทอรเ์ น็ต (อังกฤษ: Internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ขนาดใหญ่ ท่มี กี ารเช่อื มต่อ ระหว่างเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายท่ัวโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้ส่อื สารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ท่ีเรียกวา่ โพรโทคอล (Protocol) ผู้ใช้เครือข่ายน้ีสามารถส่ือสารถึงกันได้ในหลายๆ ทาง เช่น อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบคน้ ขอ้ มูลและข่าวสารตา่ ง ๆ รวมทัง้ คัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้ ทมี่ า อินเทอร์เน็ตเกิดข้ึนในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) จากการเกิดเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency NETwork) ซึ่งเป็นเครือข่ายสานักงานโครงการวิจัยช้ันสูง ของกระทรวงกลาโหม ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์หลักของการสร้างเครือข่ายคือ เพ่ือให้คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต่อ และมีปฏิสัมพันธ์กันได้ เครือข่าย ARPANET ถือเป็นเครือข่าย เริ่มแรก ซ่งึ ต่อมาไดถ้ ูกพัฒนาให้เป็นเครือข่าย อินเทอรเ์ น็ตในปัจจบุ ัน จานวนผใู้ ชง้ านอินเทอร์เนต็ ทัว่ โลก ปัจจุบัน จานวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตท่ัวโลกโดยประมาณ 2.095 พันล้านคน หรือ 30.2 % ของ ประชากรทั่วโลก (ข้อมูล ณ เดือน มีนาคม 2554) โดยเม่ือเปรยี บเทียบในทวีปต่าง ๆ พบว่าทวีปที่มี ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดคือ เอเชีย โดยคิดเป็น 44.0 % ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด และประเทศที่ มีประชากรผใู้ ช้อนิ เทอร์เน็ตมากท่สี ุดคอื ประเทศจีน คดิ เป็นจานวน 384 ล้านคน หากเปรียบเทียบจานวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกับจานวนประชากรรวม พบว่าทวีปอเมริกาเหนือมีสัดส่วน ผู้ใช้ต่อประชากรสูงท่ีสุดคือ 78.3 % รองลงมาได้แก่ ทวีปออสเตรเลีย 60.1 % และ ทวีปยุโรป คิด เป็น 58.3 % ตามลาดับ จานวนผู้ใช้งานอินเทอร์เนต็ ในประเทศไทย จานวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยจานวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมีการ เปลี่ยนแปลงดงั น้ี ปี 2534 (30คน) ปี 2535 (200 คน) ปี 2536 (8,000 คน) ปี 2537 (23,000 คน) ... ขอ้ มลู ลา่ สุดของสานกั งานสถติ ิแหง่ ชาติ ปี 2551 จากจานวนประชากรอายุ 6 ปขี น้ึ ไปประมาณ 59.97 ลา้ นคน พบวา่ มีผใู้ ชค้ อมพวิ เตอร์ 16.99 ลา้ นคน คดิ เป็น ร้อยละ 28.2 และมีผใู้ ช้อนิ เทอร์เน็ต 10.96 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 18.2 อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

2 อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเร่ิมข้ึนเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยการเชื่อมต่อมินิคอมพิวเตอร์ของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลยี แตใ่ นคร้งั นน้ั ยงั เป็นการ เชื่อมตอ่ โดยผ่านสายโทรศัพท์ ซึง่ สามารถส่งข้อมลู ได้ช้า และไม่เป็นการถาวร จนกระท่ังในปี พ.ศ. 2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ แห่งชาติ (NECTEC) ได้ทาการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับมหาวิทยาลัย 6 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ศูนย์เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ( NECTEC), มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าดว้ ยกนั เรียกว่า \"เครือขา่ ยไทยสาร\" การให้บริการอนิ เทอร์เน็ตในประเทศไทยได้เร่ิมต้นข้ึนเปน็ ครั้งแรกเมื่อ เดือน มีนาคม พ.ศ. 2538 โดย ความร่วมมือของรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง คือ การส่ือสารแห่งประเทศไทย องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศ ไทย และสานักงานส่งเสริมวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยให้บริการในนาม บริษัท อินเทอร์เน็ต ประเทศไทย (Internet Thailand) เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชงิ พาณิชย์รายแรกของ ประเทศไทย อุปกรณท์ ใี่ ชเ้ ชอื่ มต่ออินเทอรเ์ น็ต อุปกรณท์ ี่จาเป็นในการเชอื่ มตอ่ เครือข่ายอินเทอร์เนต็ นั้น ประกอบไปดว้ ย 1. คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ท่ีรับข้อมูลต่างๆ ไปจากอินเตอร์เน็ตสาหรับคอมพิวเตอร์ท่ีเหมาะสม กับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ถ้าเป็นเครื่อง PC ควรจะใช้เคร่ืองในระดับ Pentium ที่มี ระบบปฏิบัติการ ตั้งแต่ Windows 95 ข้ึนไป แต่ถ้าเป็นเคร่ืองแมคอินทอชนั้นควรใช้ System 7 ขึน้ ไป และควรมหี น่วยความจาตงั้ แต่ 16 MB ขึ้นไป 2. โมเด็ม (Modem) เปน็ อปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นการแปลงสญั ญาณดิจติ อล จากคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณอนาล็อก ผ่านคู่สายโทรศัพท์ และจะแปลงสัญญาณกลับอีกคร้ัง ให้กับคอมพิวเตอร์ โมเด็มท่ีเหมาะสาหรับการใชง้ านอินเตอร์เน็ต ควรมีความเร็วต้ังแต่ 33.6 Kbps ขึ้นไป 3. โทรศัพท์ ในการเชื่อมตอ่ ช่องอินเตอร์เนต็ นน้ั จะต้องมคี ่สู ายโทรศพั ทอ์ ยา่ งนอ้ ย 1 เลขหมาย เพือ่ เชื่อมต่อจากเคร่อื งคอมพิวเตอร์ของเราไปยังผูใ้ ห้บรกิ ารอินเตอรเ์ น็ต 4. ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (Internet Service Provider) หรือ ISP คือผู้ท่ีเชื่อมต่อสัญญาณ อินเตอร์เนต็ จากประเทศไทยไปยังเครือขา่ ยอนิ เตอร์เนต็ ต่างประเทศ หลกั การเลอื กผู้ใหบ้ ริการ ISP 1. จานวนคู่สายโทรศัพท์ท่ีมีใหบ้ ริการแก่สมาชิก 2. ความเร็วของสายสญั ญาณ และขนาดความกว้างของชอ่ งสัญญาณทต่ี อ่ ไปยัง ต่างประเทศ

3 ประโยชน์ของอินเทอร์เนต็ ปัจจุบันอินเทอร์เน็ต มีความสาคัญต่อชีวิตประจาวันของคนเรา หลายๆ ด้าน ท้ัง การศกึ ษา พาณชิ ย์ ธุรกรรม วรรณกรรม และอน่ื ๆ ดังนี้ ดา้ นการศกึ ษา - สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูล ดา้ นการบันเทงิ ดา้ นการแพทย์ และอืน่ ๆ ท่ีน่าสนใจ - ระบบเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ จะทาหนา้ ทีเ่ สมอื นเป็นหอ้ งสมุดขนาดใหญ่ - นักศึกษาในมหาวิทยาลยั สามารถใช้อินเทอรเ์ น็ต ติดตอ่ กับมหาวิทยาลยั อื่น ๆ เพ่อื ค้นหาข้อมูลทีก่ าลังศกึ ษาอยไู่ ด้ ทง้ั ทข่ี อ้ มลู ท่ีเปน็ ขอ้ ความ เสยี ง ภาพเคล่ือนไหวตา่ งๆ เป็นตน้ ด้านธรุ กจิ และการพาณชิ ย์ - ค้นหาข้อมูลตา่ ง ๆ เพอ่ื ช่วยในการตดั สนิ ใจทางธุรกิจ - สามารถซ้ือขายสนิ ค้า ผ่านระบบเครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต - ผู้ใช้ท่ีเป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุน ลูกค้าของตน ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คาแนะนา สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ ลูกค้า แจกจ่ายตวั โปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) หรอื โปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เปน็ ต้น ดา้ นการบนั เทิง - การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ท่ีเรียกว่า Magazine online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอ่ืนๆ โดยมี ภาพประกอบ ท่ีจอคอมพวิ เตอร์เหมือนกับวารสาร ตามรา้ นหนังสอื ทวั่ ๆ ไป - สามารถฟงั วทิ ยุผา่ นระบบเครอื ขา่ ยอินเทอร์เน็ตได้ - สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และเก่า มาดไู ด้ จากเหตผุ ลดังกล่าว พอจะสรปุ ไดว้ ่า อินเทอร์เนต็ มคี วามสาคัญ ในรปู แบบ ดงั นี้ 1. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail=E-mail) เป็นการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน เครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ โดยผสู้ ่งจะต้องสง่ ขอ้ ความไปยังท่อี ยู่ของผรู้ ับ และแนบไฟล์ไปได้ 2. เทลเน็ต (Telnet) การใช้งานคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหน่งึ ที่อยู่ไกล ๆ ไดด้ ้วยตนเอง เชน่ สามารถ เรียกข้อมลู จากโรงเรยี นมาทาที่บา้ นได้ 3. การโอนถ่ายข้อมูล (File Transfer Protocol ) คน้ หาและเรียกข้อมลู จากแหล่งต่างๆมาเกบ็ ไว้ใน เคร่อื งของเราได้ ทั้งข้อมลู ประเภทตัวหนงั สอื รูปภาพและเสียง

4 4. การสืบค้นข้อมูล (Gopher,Archie,World wide Web) การใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการ ค้นหาขา่ วสารท่มี ีอยมู่ ากมาย ใช้สืบคน้ ข้อมูลจากแหล่งขอ้ มูลตา่ ง ๆ ทวั่ โลกได้ 5. การแลกเปลี่ยนขา่ วสารและความคิดเห็น (Usenet) เป็นการบริการแลกเปลี่ยนข่าวสารและแสดง ความคิดเห็นท่ีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก แสดงความคิดเห็นของตน โดยกลุ่มข่าวหรือนิวกรุ๊ป (Newgroup)แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ กัน 6. การสื่อสารด้วยข้อความ (Chat,IRC-Internet Relay chat) เป็นการพูดคุย โดยพิมพ์ข้อความ ตอบกัน ซ่ึงเป็นวิธีการส่ือสารท่ีได้รับความนิยมมากอีกวิธีหนึ่ง การสนทนากันผ่านอินเทอร์เน็ต เปรยี บเสมือนเรานัง่ อยใู่ นห้องสนทนาเดยี วกัน แม้จะอยู่คนละประเทศหรอื คนละซกี โลกก็ตาม 7. การซ้ือขายสินค้าและบริการ (E-Commerce = Electronic Commerce) เป็นการซื้อ - สินค้า และบรกิ าร ผา่ นอนิ เทอร์เนต็ 8. การให้ความบันเทิง (Entertain) บนอินเทอร์เน็ตมีบริการด้านความบันเทิงหลายรูปแบบต่างๆ เช่น รายการโทรทัศน์ เกม เพลง รายการวิทยุ เป็นต้น เราสามารถเลือกใช้บริการเพ่ือความบันเทิงได้ ตลอด 24 ช่ัวโมง โดยสรุปอนิ เทอร์เน็ต ได้นามาใชเ้ ป็นเคร่ืองมือที่จาเป็นสาหรับงานไอที ทาให้เกดิ ชอ่ งทางในการเข้าถึง ข้อมูลทรี่ วดเรว็ ชว่ ยในการตัดสินใจ และบริหารงานท้ังระดบั บคุ คลและองค์กร ลกั ษณะการให้บริการอินเทอรเ์ น็ต การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันทาได้หลากหลาย อาทิเช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล์ (e-Mail) , สนทนา (Chat), อ่านหรือแสดงความคิดเห็นในเว็บบอร์ด, การติดตามข่าวสาร, การสืบค้นข้อมูล / การค้นหาข้อมูล, การชม หรือซื้อสินค้าออนไลน์ , การดาวโหลด เกม เพลง ไฟล์ข้อมูล ฯลฯ, การติดตามข้อมูล ภาพยนตร์ รายการบันเทิงต่าง ๆ ออนไลน์, การเล่นเกม คอมพิวเตอร์ออนไลน์, การเรียนรู้ออนไลน์ (e-Learning), การประชุมทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต (Video Conference), โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP), การอับโหลดข้อมูล หรอื อน่ื ๆ แนวโน้มล่าสุดของการใช้อินเทอร์เน็ตคือการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์เพื่อ สร้างสงั คมออนไลน์ (Social Network) ซึ่งพบว่าปัจจบุ ันเว็บไซต์ทเ่ี ก่ียวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวกาลัง ได้รบั ความนยิ มอย่างแพรห่ ลาย ไมว่ า่ จะเปน็ facebook, twitter, hi5 และการใช้เรม่ิ มีการแพร่ขยาย เข้าไปสู่การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Internet) มากข้ึน เน่ืองจากเทคโนโลยี ปัจจบุ นั สนบั สนนุ ให้การเข้าถึงเครอื ข่ายผ่านโทรศัพทม์ ือถอื ทาไดง้ ่ายขึ้นมาก ความหมายของอินเทอรเ์ น็ต อินเทอร์เน็ต ( Internet ) คือ เครือข่ายของคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ท่ีเชื่อมโยงเครือข่าย คอมพิวเตอร์ท่ัวโลกเข้าด้วยกัน โดยอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคมเป็นตัวเช่ือมเครือข่าย ภายใต้ มาตรฐานการเช่ือมโยงด้วยโปรโตคอลเดียวกันคือ TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol) เพอื่ ใหค้ อมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองในอินเทอร์เนต็ สามารถส่ือสารระหว่างกนั ได้ นบั ว่า

5 เป็นเครือข่ายที่กว้างขวางท่ีสดุ ในปัจจุบัน เน่ืองจากมีผู้นิยมใช้ โปรโตคอลอินเทอรเ์ น็ตจากท่ัวโลกมาก ทส่ี ดุ อินเทอร์เน็ตจึงมีรูปแบบคล้ายกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบ WAN แต่มีโครงสร้างการ ทางานท่ีแตกต่างกันมากพอสมควร เน่ืองจากระบบ WAN เป็นเครือข่ายที่ถูกสร้างโดยองค์กรๆ เดียว หรือกลุ่มองค์กร เพ่ือวัตถุประสงค์ด้านใดด้านหนึ่ง และมีผู้ดูแลระบบท่ีรับผิดชอบแน่นอน แต่ อินเทอร์เน็ตจะเป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างคอมพิวเตอร์นับล้านๆ เครื่องแบบไม่ถาวรข้ึนอยู่กับเวลา น้ันๆ ว่าใครต้องการเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตบ้าง ใครจะติดต่อส่ือสารกับใครก็ได้ จึงทาให้ระบบ อนิ เทอร์เน็ตไม่มผี ู้ใดรบั ผิดชอบหรือดแู ลทั้งระบบ ความเป็นมาของอินเทอร์เนต็ อินเตอร์เน็ต มีพัฒนาการมาจาก อาร์พาเน็ต (Arp Anet เรียกส้ัน ๆ ว่า อาร์พา) ที่ต้ังขึ้นในปี 2512 เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ที่ใช้ในงานวิจัยด้านทหาร (ARP : Advanced Research Project Agency)มาถึงปี 2515 หลังจากที่เครือข่ายทดลองอาร์พาประสบ ความสาเร็จอย่างสงู และได้มีการปรบั ปรงุ หน่วยงานจากอาร์พามาเป็นดาร์พา (Defense Advanced Research Project Agency: DARPA) และในท่ีสุดปี 2518 อาร์พาเน็ตก็ข้ึนตรงกับหน่วยการสื่อสาร ของกองทัพ (Defense Communication Agency)ในปี 2526 อาร์พาเน็ตก็ได้แบ่งเป็น 2 เครือข่าย ด้านงานวิจัย ใช้ชื่ออาร์พาเน็ตเหมือนเดิม ส่วนเครือข่ายของกองทัพใช้ช่ือว่า มิลเน็ต (MILNET : Millitary Network) ซ่ึงมีการเช่ือมต่อโดยใช้ โพรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet) เป็นคร้ังแรกในปี 2528 มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติของอเมริกา (NSF) ได้ ให้ เงินทุนในการสร้างศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 6 แห่ง และใช้ช่ือว่า NSFNETและพอมาถึงปี 2533 อาร์ พารองรับภาระท่ีเป็นกระดูกสนั หลัง (Backbone) ของระบบไม่ได้ จึงได้ยุติอาร์พาเน็ต และเปลี่ยนไป ใช้ NSFNET และเครือข่ายขนาดมหึมา จนถึงทุกวันน้ี และเรียกเครือข่ายน้ีว่า อินเตอร์เน็ต โดย เครือข่ายส่วนใหญ่จะอยู่ในอเมริกา และปัจจุบันนี้มีเครือข่ายย่อยมากถึง 50,000 เครือข่ายทีเดียว และคาดว่า ภายในปี 2543 จะมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตท้ังโลกประมาณ 100 ล้านคน หรือใกล้เคียงกับ ประชากรในโลกท้ังหมดสาหรับประเทศไทยนั้น อินเตอร์เน็ตเร่ิมมีบทบาทอย่างมากในช่วงปี 2530- 2535 โดยเร่ิมจากการเป็นเครือข่ายในระบบคอมพิวเตอร์ระดับมหาวิทยาลัย (Campus Network) แล้วจึงเชื่อมต่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์เมื่อเดือนสิงหาคม 2535และ ในปี 2538 ก็มี การเปิด ให้ บริการอินเตอร์เน็ตในเชิงพาณิชย์ (รายแรก คือ อินเตอร์เน็ตเคเอสซี) ซึ่งขณะน้ัน เวิร์ลด์ไวด์เว็บ กาลงั ไดร้ ับความนิยมอย่างมากในอเมริกาอยา่ งไรก็ตาม อนิ เตอรเ์ น็ต บางคร้ังกม็ ีการเรียกย่อเป็น เน็ต (Net) หรือ The Net ดว้ ยเชน่ เดยี วกนั อกี คาหนงึ่ ที่หมายถงึ อินเตอร์เนต็ ก็คือ เวบ็ (Web) และ เวริ ์ลด์

6 ไวด์เว็บ (World – Wide Web) (จริง ๆ แล้ว เว็บเป็นเพียงบริการหนึ่งของอินเตอร์เน็ตเท่านั้น แต่ บรกิ ารนี้ ถือวา่ เป็นบริการทมี่ ผี นู้ ิยมใช้มากทีส่ ดุ อนิ เทอรเ์ น็ตในประเทศไทย ประเทศไทยได้เริ่มติดต่อกับอินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2530 ในลักษณะการใช้บริการ จดหมาย เล็กทรอนิกส์แบบแลกเปลี่ยนถุงเมล์เป็นครั้งแรก โดยเร่ิมท่ีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต หาดใหญ่ (Prince of Songkla University) และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียหรือสถาบันเอไอที (AIT) ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย (โครงการ IDP) ซ่ึงเป็นการ ติดต่อเช่ือมโยงโดยสายโทรศัพท์ จนกระท่ังปี พ.ศ. 2531 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต หาดใหญ่ ได้ยื่นขอที่อยู่อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย โดยได้รับที่อยู่อินเทอร์เน็ต Sritrang.psu.th ซ่ึง นับเปน็ ทอ่ี ยูอ่ นิ เทอรเ์ นต็ แหง่ แรกของประเทศไทย ตอ่ มาปี พ.ศ. 2534 บริษทั DEC (Thailand) จากัด ได้ขอที่อยู่อินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ประโยชน์ภายในของบริษัท โดยได้รับท่ีอยู่อินเทอร์เน็ตเป็น dect.co.th โดยท่ีคา “th” เปน็ ส่วนที่เรียกว่า โดเมน (Domain) ซงึ่ เป็นส่วนทแี่ สดงโซนของเครอื ข่ายอินเทอร์เน็ต ในประเทศไทย โดยยอ่ มาจากคาวา่ Thailand กล่าวได้ว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตชนิดเตม็ รูปแบบตลอด 24 ช่ัวโมง ในประเทศไทยเกิดข้ึนเปน็ ครั้งแรกเมื่อเดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2535 โดยสถาบันวิทยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เช่า วงจรส่ือสารความเร็ว 9600 บิตต่อวินาที จากการส่ือสารแห่งประเทศไทยเพ่ือเช่ือมเข้าสู่อินเทอร์เนต็ ท่ีบริษัท ยูยูเน็ตเทคโนโลยี (UUNET Technologies) ประเทศสหรัฐอเมริกาในปีเดียวกัน ได้มี หน่วยงานที่เช่ือมต่อแบบออนไลน์กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลายแห่ง ด้วยกัน ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันเทคโนโลยีพระจอม เกล้า วิทยาเขตเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บริหารธุรกิจ โดยเรียกเครือข่ายน้ีว่าเครือข่าย “ไทยเน็ต” (THAInet) ซ่ึงนับเป็นเครือข่ายที่มี “ เกต เวย์ “ (Gateway) หรือประตูสู่เครอื ข่ายอินเทอรเ์ นต็ เป็นแห่งแรกของประเทศไทย (ปัจจุบันเครือขา่ ย ไทยเน็ตประกอบด้วยสถาบนั การศึกษา 4 แหง่ เท่านน้ั สว่ นใหญย่ า้ ยการเช่ือมโยงอินเทอรเ์ น็ตโดยผ่าน เนคเทค (NECTEC) หรือศนู ย์เทคโนโลยอี ิเล็กทรอนิกสแ์ ละคอมพิวเตอร์แห่งชาติ) ปี พ.ศ. 2535 เช่นกัน เป็นปีเร่ิมต้นของการจัดตั้งกลุ่มจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการศึกษาและวิจัย โดยมีชื่อว่า \"เอ็นดับเบิลยูจี\" (NWG : NECTEC E-mail Working Group) โดยการดูแลของเนคเทค และได้จัดต้ังเครือข่ายชื่อว่า \"ไทยสาร\" (ThaiSarn : Thai Social/Scientific Academic and Research Network) เพ่ือการติดต่อส่ือสารและแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน โดยเร่ิมแรก ประกอบด้วยสถาบันการศึกษา 8 แห่ง ปัจจุบันเครือข่ายไทยสารเชื่อมโยงกับสถาบันต่างๆ กว่า 30 แหง่ ท้งั สถาบนั การศึกษาและหน่วยงานของรัฐ ปัจจุบันได้มีผู้รู้จักและใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น มีอัตราการเติบโตมากกว่า 100 % สมาชิกของ อินเทอร์เน็ตขยายจากอาจารย์และนสิ ิตนักศกึ ษาในระดบั อดุ มศึกษาไปสูป่ ระชาชนทัว่ ไป การประยุกตใ์ ชอ้ ินเทอรเ์ น็ต

7 การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันทาได้หลากหลาย อาทิเช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล์ (e-Mail) , สนทนา (Chat), อ่านหรือแสดงความคิดเห็นในเวบ็ บอร์ด, การติดตามข่าวสาร, การสืบค้นข้อมูล / การค้นหาข้อมูล, การชม หรือซ้ือสินค้าออนไลน์ , การดาวโหลด เกม เพลง ไฟล์ข้อมูล ฯลฯ, การติดตามข้อมูล ภาพยนตร์ รายการบันเทิงต่าง ๆ ออนไลน์, การเล่นเกม คอมพิวเตอร์ออนไลน์, การเรียนรู้ออนไลน์ (e-Learning), การประชุมทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต (Video Conference), โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP), การอับโหลดข้อมูล หรือ อื่นๆแนวโน้ม ล่าสุดของการใช้อินเทอร์เน็ตคือการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์เพื่อสร้าง ซ่ึงพบว่า ปัจจุบันเว็บไซต์ท่ีเกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวกาลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเช่น และการใช้ เริ่มมีการแพร่ขยายเข้าไปสู่การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Internet) มากข้ึน เนอื่ งจากเทคโนโลยปี ัจจุบันสนบั สนุนใหก้ ารเข้าถงึ เครอื ข่ายผา่ นโทรศพั ท์มอื ถือทาได้งา่ ยขน้ึ มาก ประโยชน์ของอินเตอรเ์ นต็ อินเตอร์เน็ตเปรียบเสมือนชุมชนเมืองแห่งใหม่ของโลก เป็นชุมชนของคนทั่วมุมโลก จึงมี บริการต่างๆเกิดข้ึนใหม่ตลอดเวลา 1.ไปรษณีย์อิเลก็ ทรอนกิ ส์(Electronic mail=E-mail) ไปรษณียอ์ ิเล็กทรอนิกส์ หรอื E-mail เป็นการส่งจดหมายผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตโดยผู้ส่งสสามารถส่งข้อความไปยังที่อยู่ของผู้รับ ใน รูปแบบของอีเมล์ เมื่อผู้ส่งเขียนจดหมาย แล้วส่งไปยังผู้รับ ผู้รับจะได้รับจดหมายภายในเวลาไม่ก่ี วินาที แม้จะอยู่ห่างกันคนละซีกโลกก็ตาม นอกจากน้ียังสามารถส่งแฟ้มข้อมูลหรือไฟล์แนบไปกับ อเี มล์ไดด้ ว้ ย 2.กรขอเข้าระบบจากระยะไกลหรือเทลเน็ต(Telnet)เป็นบริการอินเน็ตรูปแบบหน่ึงโดยที่เราสามารถ เขา้ ไปใชง้ านคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งท่ีอยู่ไกลๆไดด้ ว้ ยตนเอง เช่น ถา้ เราอย่ทู โี่ รงเรยี นทางานโดยใช้ อินเตอรเ์ น็ตของโรงเรยี นแลว้ กลับไปท่บี ้าน เรามีคอมพิวเตอร์ทีบ่ ้านและต่ออินเตอร์เน็ตไว้เราสามารถ เรยี กข้อมลู จากท่ีโรงเรยี นมาทาท่ีบ้านได้ เสมือนกบั เราทางานที่โรงเรียนนั่นเอง 3.การโอนถ่ายข้อมูล(File Transfer Protocol หรือ FTP) เป็นบริการอีกรูปแบบหนึ่งของระบบ อินเตอร์เน็ต เราสามารถค้นหาและเรียกข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาเก็บไว้ในเครื่องของเราได้ ทั้งข้อมูล ประเภทตัวหนังสือ รปู ภาพและเสยี ง 4.การสบื ค้นขอ้ มลู (Gopher,Archie,World wide Web) หมายถงึ การใช้เครือ่ ขา่ ยอนิ เตอร์เน็ตในการ ค้นหาข่าวสารที่มีอยู่มากมายแล้วช่วยจัดเรียงข้อมูลข่าวสารหัวข้ออย่างมีระบบ เป็นเมนู ทาให้เรา หาข็อมูลได้งา่ ยหรือสะดวกมากขึ้น 5.การแลกเปล่ียนข่าวสารและความคิดเหน็ (Usenet) เปน็ การให้บริการแลกเปลี่ยนข่าวสารและแสดง ความคิดเห็นท่ีผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตท่ัวโลกสามารถพบปะกัน แสดงความคิดเห็นของตน โดยมีการ จัดการผู้ใช้เป็นกลุ่มข่าวหรือนิวกรุ๊ป(Newgroup)แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็นหัวข้อต่างๆ เช่น

8 เร่ืองหนงั สอื เร่อื งการเลยี้ งสตั ว์ ต้นไม้ คอมพิวเตอรแ์ ละการเมือง เปน็ ต้น ปัจจุบันมี Usenet มากกว่า 15,000 กลมุ่ นับเปน็ เวทขี นาดใหญใ่ ห้ทุกคนจากท่ัวมุมโลกแสดงความคดิ เห็นอย่างกว้างขวาง 6.การสื่อสารด้วยข้อความ(Chat,IRC-Internet Relay chat) เป็นการพูดคุยกันระหว่างผู้ใช้ อินเตอร์เน็ต โดยพิมพ์ข้อความตอบกัน ซ่ึงเป็นวิธีการส่ือสารท่ีไดัรับความนิยมมากอีกวิธีหนึ่ง การ สนทนากันผ่านอินเตอร์เน็ตเปรียบเสมือนเราน่ังอยู่ในห้องสนทนาเดียวกัน แต่ละคนก็พิมพ์ข้อความ โต้ตอบกนั ไปมาได้ในเวลาเดียวกัน แม้จะอยคู่ นละประเทศหรอื คนละซีกโลกกต็ าม 7.การซ้ือขายสินค้าและบริการ(E-Commerce = Eletronic Commerce) เป็นการจับจ่ายซ้ือ - สนิ ค้าและบรกิ าร เช่น ขายหนงั สือ คอมพวิ เตอร์ การท่องเทยี่ ว เปน็ ตน้ ปัจจุบันมบี ริษัทใช้อนิ เตอร์เน็ต ในการทาธุรกจิ และให้บริการลูกค้าตลอด24ชั่วโมง ในปี2540 การค้าขายบนอนิ เตอร์เนต็ มีมูลคา่ สูงถึง 1แสนล้านบาท และจะเพ่ิมเป็น1ล้านล้านบาทในอีก5ปีข้างหน้า ซ่ึงเป็นโอกาสทางธุรกิจแบบใหม่ท่ี น่าสนใจและเปดิ ทางให้ทกุ คนเข้ามาทาธรุ กิจได้โดยใชท้ รุ ไม่มากนัก 8.การให้ความบันเทิง(Entertain) ในอนิ เตอรเ์ นต็ มบี ริการด้านความบนั เทิงในทุกรปู แบบต่าง ๆ เช่น เกมส์ เพลง รายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ เป็นต้น เราสามารถเลือกใช้บริการเพื่อความบันเทิงได้ ตลอด24ชวั่ โมงและจากแหล่งต่างๆท่ัวทุกมุมโลก ท้งั ประเทศไทย อเมริกา ยุโรปและออสเตรเลีย เปน็ ตน้ โทษของอนิ เตอร์เนต็ 1.โรคติดอนิ เทอเนต็ (Webaholic) อนิ เตอรเ์ น็ตก็เป็นส่งิ เสพติดหรือ? การเล่นอินเตอร์เน็ต ทาให้คุณเสียงาน ผู้ใดเป็นผู้ที่ติดการพนัน การติดการพนันประเภทท่ีถอนตัวไม่ ข้ึน มีลักษณะคล้ายคลึงกับ การติดอินเตอร์เน็ต เพราะท้ังสองอย่าง เก่ียวข้องกับการล้มเหลว ในการ ควบคมุ ความต้องการของตนเอง โดยไมม่ สี ว่ นเก่ยี วข้องกับสารเคมีใดๆ (อยา่ งสุรา หรอื ยาเสพตดิ ) ผูท้ ่ี มีอาการอย่างนอ้ ย 4 อย่าง เป็นเวลานานอยา่ งน้อย 1 ปีถอื ได้ว่า มอี าการติดอินเตอร์เน็ต • รู้สกึ หมกม่นุ กบั อินเตอรเ์ นต็ แม้ในเวลาทีไ่ ม่ไดต้ ่อกบั อินเตอรเ์ น็ต • มคี วามตอ้ งการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเวลานานขึน้ • ไม่สามารถควบคมุ การใชอ้ นิ เตอรเ์ นต็ ได้ • รสู้ ึกหงดุ หงิดเม่ือต้องใช้อนิ เตอรเ์ นต็ น้อยลงหรือหยุดใช้ • ใชอ้ นิ เตอร์เนต็ เปน็ วิธีในการหลีกเล่ยี งปญั หาหรอื คิดว่าการใชอ้ ินเตอรเ์ นต็ ทาใหต้ นเองรู้สึกดีขึน้ • หลอกคนในครอบครัวหรือเพ่อื น เรอื่ งการใชอ้ ินเตอร์เนต็ ของตัวเอง • การใช้อินเตอร์เน็ตทาให้เกิดการเสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์ ยังใช้ อนิ เตอรเ์ นต็ ถงึ แม้วา่ ต้องเสียค่าใชจ้ ่ายมาก • มอี าการผิดปกติ อย่างเช่น หดหู่ กระวนกระวายเม่ือเลิกใชอ้ นิ เตอร์เนต็ • ใช้เวลาในการใช้อินเตอร์เน็ตนานกว่าท่ีตัวเองได้ต้ังใจไว้มีผล กระทบต่อการเรียน อาชีพ สภาพทาง สังคมและเศรษฐกิจของคนคนน้ัน ถึงแม้ว่าการวิจัยที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า การติดเทคโนโลยี

9 อย่างเช่น การติดเล่นเกมส์ ส่วนใหญ่จะเกิดข้ึนกับเพศชายแต่ผลลัพธ์ข้างต้น แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ติด อนิ เตอร์เนต็ ส่วนใหญเ่ ปน็ เพศหญงิ วยั กลางคนและไมม่ งี านทา 2.เร่ืองอณาจารผิดศีลธรรม(Pornography/Indecent Content) เรื่องของข้อมูลต่าง ๆ ที่มี เน้ือหาไปในทางขดั ต่อศีลธรรม ลามกอนาจาร หรือรวมถึงภาพโป๊เปลือยต่างๆน้ันเปน็ เรือ่ งทม่ี มี านาน พอสมควรแล้วบนโลกอินเทอเน็ต แต่ไม่โจ่งแจ้งเนื่องจากสมัยก่อนเป็นยุคที่WWW ยังไม่พัฒนา มาก นักทาให้ไม่มีภาพออกมา แต่ในปัจจุบันภายเหล่าน้ีเป็นที่โจ่งแจ้งบนอินเทอเน็ตและส่ิงเหลา่ นี้สามารถ เข้าสู่เด็ก และเยาวชนได้ง่ายโดยผู้ปกครองไม่สามารถท่ีจะให้ความดูแลได้เต็มที่ เพราะว่าอินเทอเน็ต นั้นเป็นโลกที่ไร้พรมแดนและเปิดกว้างทาให้สื่อเหล่านี้สามรถเผยแพร่ไปได้รวดเร็วจนเรา ไม่สามารถ จับกมุ หรือเอาผิดผูท้ ่ีทาสงิ่ ขนึ้ มาได้ 3.ไวรัส ม้าโทรจัน หนอนอินเตอร์เน็ต และระเบิดเวลา ไวรัส : เป็นโปรแกรมอิสระ ซ่ึงจะสืบพันธ์ุ โดยการจาลองตัวเองให้มากข้ึนเรื่อย ๆ เพื่อท่ีจะทาลายข้อมูล หรืออาจทาให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ทางานชา้ ลงโดยการแอบใชส้ อยหนว่ ยความจาหรอื พื้นที่วา่ งบนดสิ กโ์ ดยพลการ มา้ โทรจัน : มา้ โทรจนั เปน็ ตานานนกั รบที่ซ่อนตวั อยู่ในม้าไม้ แลว้ แอบเขา้ ไปในเมืองจนกระทั่งยดึ เมือง ได้สาเร็จ โปรแกรมน้ีก็ทางานคลา้ ยๆกัน คือโปรแกรมน้ีจะทาหน้าที่ไม่พงึ ประสงค์ มันจะซ่อนตัวอยู่ใน โปรแกรมท่ีไม่ได้รับอนุญาต มันมักจะทาในส่ิงที่เราไม่ต้องการ และส่ิงที่มันทานั้น ไม่มีความจาเป็นตอ่ เราด้วยหนอนอินเตอร์เน็ต : ถูกสร้างข้ึนโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก มันคือ โปรแกรมท่ีจะสืบพันธ์ุโดยการจาลองตัวเองมากข้ึนเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากรและ ทาใหร้ ะบบชา้ ลง ระเบิดเวลา : คือรหัสซ่งึ จะทาหน้าท่ีเป็นตัวกระตนุ้ รูปแบบเฉพาะของการโจมตนี ้ันๆ ทางานเม่ือสภาพ การโจมตีนั้นๆมาถึง ยกตัวอย่างเชน่ ระเบดิ เวลาจะทาลายไฟล์ท้งั หมดในวนั ที่ 31 กรกฎาคม 2542 บญั ญตั ิ 10 ประการของการใช้อินเทอรเ์ นต็ ยนื ภวู่ รวรรณ ได้กลา่ วถงึ บัญญัติ 10 ประการ ซง่ึ เป็นจรรยาบรรณท่ีผใู้ ชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ยดึ ถอื ไว้ เสมือนเปน็ แมบ่ ทของการปฏบิ ตั ิ ผใู้ ชพ้ งึ ระลึกและเตือนความจาเสมอ 1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทาร้าย หรือละเมดิ ผ้อู ืน่ 2. ต้องไม่รบกวนการทางานของผู้อ่นื 3. ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปดิ ดแู ฟ้มขอ้ มลู ของผูอ้ น่ื 4. ตอ้ งไม่ใช้คอมพวิ เตอรเ์ พ่ือการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร 5. ตอ้ งไมใ่ ชค้ อมพิวเตอรส์ รา้ งหลักฐานท่ีเปน็ เท็จ 6. ต้องไมค่ ดั ลอกโปรแกรมของผอู้ ่ืนท่ีมลี ขิ สิทธิ์ 7. ต้องไมล่ ะเมิดการใช้ทรพั ยากรคอมพวิ เตอร์โดยท่ีตนเองไม่มสี ิทธ์ิ 8. ตอ้ งไม่นาเอาผลงานของผอู้ ่นื มาเป็นของตน

10 9. ต้องคานงึ ถึงสิง่ ท่ีจะเกิดขนึ้ กับสังคมอันตดิ ตามมาจากการกระทาของทา่ น 10. ตอ้ งใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฏระเบยี บ กตกิ า และมมี ารยาท จรรยาบรรณเปน็ สิ่งท่ที าใหส้ งั คมอนิ เทอรเ์ น็ตเป็นระเบยี บ ความรับผดิ ชอบต่อสังคมเปน็ เรอ่ื งทจ่ี ะตอ้ ง ปลูกฝังกฏเกณฑ์ของแต่ละเครือข่าย จะต้องมีการวางระเบียบ เพื่อให้การดาเนินงาน เป็นไปอย่างมี ระบบ และเออ้ื ประโยชนซ์ ึ่งกันและกัน บางเครือข่ายมีบทลงโทษที่ชดั เจน เชน่ การปฏบิ ัติผดิ กฏเกณฑ์ ของเครือข่าย จะต้องตัดสิทธิ์การเป็นผู้ใช้ของเครือข่าย ในอนาคตจะมี การใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นจานวนมาก จรรยาบรรณจึงเป็นสิ่งท่ีช่วยให้สังคมอินเทอร์เน็ต สงบสุข หากมีการละเมิดอย่าง รุนแรง กฎหมายจะเข้ามามีบทบาทต่อไป ( โครงการการเครือขา่ ยคอมพิวเตอรเ์ พอ่ื โรงเรยี นไทย.) 7.หน่วยงานที่มีบทบาทในอินเทอรเ์ น็ตของประเทศไทย ISP คงเปน็ หนว่ ยงานแรกทห่ี ลายๆ คนคงคิดถึงเมือ่ นึกถงึ หวั ข้อน้ี รองลงไปกค็ งเปน็ เนคเทค ซ่ึงกถ็ ือว่า เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสาคัญต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย แต่ก็ยังมีหน่วยงานอื่นอีก หลายหน่วย ดงั นี้ การส่ือสารแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ผูกขาดบริการวงจรสื่อสารระหว่างประเทศ ผู้ให้ ใบอนุญาต และถอดถอนสิทธิการให้บริการของ ISP รวมทั้งเป็นหุ้นส่วนของ ISP ทุกราย (32%) รวมท้ังเป็นผู้ใหบ้ รกิ ารจุดแลกเปลี่ยนสญั ญาณภายในประเทศ ISP - Internet Service Providers หรือผู้ให้บรกิ ารอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ท้ัง 17 ราย (พ.ย. 2545) ในฐานะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่บุคคลและองค์กรต่างๆผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบไม่หวังกาไร เช่น SchoolNet ท่ีให้บริการโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ, ThaiSarn ผู้ให้บริการเชิงวิจัยสาหรับ สถานศึกษา, UniNet เครือข่ายของทบวงมหาวิทยาลัย, EdNet เครือข่ายของกระทวงศึกษาธิการ และ GINet เครือขา่ ยรฐั บาล THNIC ในฐานะผู้ให้บริการจดทะเบียนชื่อโดเมนสัญชาติไทย (.th) และผู้ดูและบบบริการสอบถามช่อื โดเมนสัญชาติไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การดูแลของ AITNECTEC หรือศูนย์เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ในฐานหน่วยงานวิจัย ค้นคว้า และพัฒนาเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการส่ือสารข้อมูล และในฐานะผู้ให้บริการจุดแลกเปลี่ยนสัญญาณ ภายในประเทศ ผู้ดูแลเครือข่าย Thaisarn, SchoolNet, GINet และในฐานะคณะอนุกรรมการด้าน นโยบายอินเทอร์เน็ตสาหรับประเทศไทยผู้ให้บริการวงจรส่ือสารภายในประเทศ ซึ่งมีหลายรายเช่น การสื่อสารแห่งประเทศไทย, บริษัท ทศท คอร์ปอเรชนั่ จากดั (มหาชน) และบรษิ ทั เอกชนอนื่ ๆ 8.แนวโน้นการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต เป็นท่ีแน่นอนแล้วว่าในอนาคต อินเทอร์เน็ตจะเข้ามามีส่วนร่วมกับชีวิตประจาวันของคนเรามากข้ึน และจะชว่ ยอานวยความสะดวกในการทางานไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ โดยมรี ูปแบบใหม่ ดังน้ี · การคุยโทรศัพท์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (Voice over IP) ซึ่งปัจจุบันองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศ ไทย ก็นามาใช้ผ่านหมายเลข 1234 ทั่วประเทศ (ต้นปี 2545)

11 · การคยุ ระยะไกลแบบมภี าพและเสียงของคู่สนทนา (Voice conference) · การนาอนิ เทอรเ์ น็ตมาประยุกต์กบั เครอื ข่ายเคเบล้ิ ทวี ี (Web TV & Cable MODEM) · การประยกุ ต์ใชอ้ นิ เทอร์เน็ตกับเคร่อื งใช้ตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวัน (Internet Device) หนว่ ยงานทม่ี ีบทบาทสาคัญในอนิ เทอร์เน็ตของประเทศไทย ISP คงเป็นหน่วยงาน แรกท่ีหลาย ๆ คนคงคิดถึงเม่ือนึกถึงหัวข้อนี้ รองลงไปก็คงเป็นเนคเทค ซ่ึงก็ถือว่าเป็นหน่วยงานทีม่ ี บทบาทสาคัญต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย แต่ก็ยังมีหน่วยงานอ่ืนอีกหลายหน่วย ดังนี้ การส่ือสารแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ผูกขาดบริการวงจรสื่อสารระหว่างประเทศ ผู้ให้ใบอนุญาต และถอดถอนสิทธิการให้บริการของ ISP รวมท้ังเป็นหุ้นส่วนของ ISP ทุกราย (32%) รวมท้ังเป็นผู้ ให้บริการจุดแลกเปลี่ยนสญั ญาณภายในประเทศISP - Internet Service Providers หรือผู้ให้บริการ อนิ เทอรเ์ น็ตเชิงพาณิชยท์ ้ัง 17 ราย (พ.ย. 2545) ในฐานะผใู้ ห้บรกิ ารอนิ เทอร์เน็ตแก่บุคคลและองค์กร ต่างๆผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบไม่หวังกาไร เช่น SchoolNet ท่ีให้บริการโรงเรียนต่าง ๆ ทั่ว ประเทศ, ThaiSarn ผใู้ ห้บริการเชิงวิจัยสาหรับสถานศกึ ษา, UniNet เครอื ขา่ ยของทบวงมหาวทิ ยาลัย , EdNet เครือข่ายของกระทวงศึกษาธิการ และ GINet เครือข่ายรัฐบาลTHNIC ในฐานะผู้ให้บริการ จดทะเบียนชื่อโดเมนสัญชาติไทย (.th) และผู้ดูและบบบริการสอบถามชื่อโดเมนสัญชาติไทย ซ่ึงเป็น หน่วยงานภายใต้การดูแลของ AITNECTEC หรือศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ แห่งชาติ ในฐานหน่วยงานวิจัย ค้นคว้า และพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการส่ือสาร ข้อมูล และในฐานะผู้ให้บริการจุดแลกเปลี่ยนสัญญาณภายในประเทศ ผู้ดูแลเครือข่าย Thaisarn, SchoolNet, GINet และในฐานะคณะอนุกรรมการด้านนโยบายอินเทอร์เน็ตสาหรับประเทศไทยผู้ ให้บริการวงจรส่ือสารภายในประเทศ ซึ่งมีหลายรายเช่น การส่ือสารแห่งประเทศไทย , บริษัท ทศท คอร์ปอเรชนั่ จากดั (มหาชน)และบรษิ ทั เอกชนอนื่ ๆ แนวโนม้ การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ กรงุ เทพฯ 19 ก.ย.- บริษัท ศนู ย์วจิ ัยกสกิ รไทย จากดั วิเคราะหก์ ารใช้บรกิ ารอินเทอรเ์ น็ตของ คนไทย ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเน่ือง จากประมาณ 7.6 ล้านราย ในปี 2548 จะเพ่ิมขึ้นเป็น 10.1 ล้านราย ในปี 2551 หรือขยายตัวร้อยละ 10 ต่อปี ขณะเดียวกันการใช้อินเทอร์เน็ตจะขยายตัว ไปยังภูมิภาคมากขึ้น เพราะการขยายพ้ืนท่ีบริการและค่าบริการที่ต่าลงศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า จานวนผใู้ ช้บริการอนิ เทอรเ์ นต็ ในประเทศไทยเพ่มิ ข้ึนอยา่ งค่อยเปน็ ค่อยไปในระยะหลัง โดยการเข้าถึง เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 12 ของจานวนประชากรทั้งประเทศหรือประมาณ 7.6 ลา้ นราย ในปี 2548 แม้ว่าการเตบิ โตของจานวนผู้ใชอ้ นิ เทอร์เน็ตจะชะลอตัวลง แต่ปรมิ าณการใช้ อินเทอร์เน็ตมีอัตราขยายตัวเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเน่ือง ความกว้างของช่องสัญญาณรับส่งข้อมูลขยายตัว เพ่ือรองรับกับความต้องการ ในขณะที่เทคโนโลยีการเช่ือมต่อได้รับการพัฒนาให้มีความเร็วมากข้ึน โดยการขยายบริการจากอินเทอร์เน็ตความเร็วปกติไปสู่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งเร่ิมมีผู้ใช้บริการ มากข้ึน นอกจากนี้ ราคาค่าบริการอินเทอร์เน็ตก็มีแนวโน้มต่าลงกว่าเดิม ประกอบกับการพัฒนาคอน

12 เทนท์หรือเน้ือหาที่มีความหลากหลายด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สาหรับธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ต เปลยี่ นแปลงรูปแบบของการประกอบธุรกิจภายหลังจากท่ีคณะกรรมการกจิ การโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้เร่ิมให้ใบอนุญาตใหม่แก่ผ้ปู ระกอบการยิ่งเปน็ การกระตนุ้ ให้ภาพรวมของบริการอนิ เทอร์เน็ต มีความชัดเจนมากขึ้นศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มของบริการอินเทอร์เน็ตในระยะปาน กลางนับจากน้ี (ปี 2549-2551) ในเร่ืองจานวนผู้ใช้บริการใน 3 ปีข้างหน้า จะขยายตัวอย่างต่อเน่ือง โดยผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยจะสูงถึงประมาณ 10.1 ล้านคน ในปี 2551 มีอัตราการ เตบิ โตประมาณรอ้ ยละ 10 ตอ่ ปี และมแี นวโนม้ เคล่ือนตัวไปในภมู ภิ าคมากขน้ึ เพราะการขยายตวั ของ พ้ืนที่ให้บริการและราคาค่าบริการท่ีมีแนวโน้มต่าลง กลุ่มที่ใช้อินเทอร์เน็ตมากยังคงเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษาและกลุ่มคนทางาน คิดเป็นร้อยละ 60-70 ของผู้ใช้ท้ังหมด โดยเป้าหมายของการใชจ้ ะมุ่งไป ที่อินเทอร์เน็ตสาหรับการเรยี น ค้นคว้า และการส่ือสาร จานวนผู้ให้บริการมีแนวโน้มเพ่ิมข้ึน จากการ ให้ใบอนุญาตประกอบการใหม่ของ กทช. ทดแทนสัญญาการให้บริการซ่ึงไอเอสพี จานวน 18 ราย ท่ี ทาไว้กับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จากัด (มหาชน) ซ่ึงหมดอายุลงในปี 2548-2553นอกจากนี้ การ เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีโดยเฉพาะในส่วนของความเร็วในการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะ กลายเป็นการเช่อื มต่อท่ีได้รับความนยิ มเพมิ่ ข้นึ การประยุกต์ใช้บรกิ ารอนิ เทอรเ์ น็ตทงั้ ด้านการค้า ดา้ น การสื่อสาร ด้านการศึกษา และด้านความบันเทิง การเติบโตของเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อการ ขยายตัวของการใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศได้และราคาค่าบริการท่ีต่าลง รวมทั้งความครอบคลุมของ เครือข่ายท่ีมากข้ึน อีกท้ังมีมาตรการในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีของภาครัฐให้เกิดการแข่งขัน อย่างเสรีและเป็นธรรม ส่งเสริมให้เกิดการบริหารและจัดการแก่ธุรกิจบริการมีต้นทุนการให้บริการที่ ต่า นอกจากนี้ ยังจาเป็นต้องส่งเสริมการนาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้เพื่อให้เครือข่ายให้บริการ ครอบคลุมและทั่วถึง และมีราคาท่ีเป็นธรรมทั่วประเทศ ย่อมทาให้บริการอินเทอร์เน็ตเติบโตและ ก่อให้เกิดประโยชนต์ อ่ ประเทศไดอ้ ย่างเต็มท่ี อนิ เทอร์เน็ต ประวัตอิ ินเทอร์เนต็ ประโยชนแ์ ละการใชง้ านอนิ เทอร์เน็ต อนิ เทอรเ์ น็ต คอื ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ ของโลก โดยจะเป็นการเชือ่ มต่อ เคร่อื งคอมพวิ เตอร์หลาย ๆ เครอ่ื งจากทั่วโลกมาเช่ือมต่อเขา้ ดว้ ยกัน ซึ่งชว่ ยให้สามารถตดิ ตอ่ ส่ือสาร และแลกเปล่ียนข้อมูลระหว่างกันได้ท่ัวโลก ในการติดต่อกันระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ จาเป็นต้องมี การระบุว่า ส่งมาจากไหน ส่งไปให้ใครซึ่งต้องมีการระบุ ช่ือเคร่ือง (คล้ายกับเลขท่ีบ้าน) ใน อินเทอร์เน็ตใช้ข้อตกลงในการติดต่อท่ีเรียกว่า TCP/IP (ข้อตกลงท่ีทาให้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันได้) ซ่ึง จะใชส้ ่งิ ทเี่ รียกค่า “ไอพ-ี แอดเดรส” (IP-Address) ในการระบชุ ่ือเครื่องจะไมม่ เี บอร์ท่ีซ้ากนั ได้ อินเทอร์เนต็ ระบบการเช่ือมตอ่ ของอนิ เทอรเ์ น็ต

13 บรรณนุกรม คน้ หาจากเวบ็ https://docs.google.com/document/d/1cIID0dwl4qSTK3r89NZgrkHjLtr6Uot_nKRCEieU Qv8/preview?hgd=1 สืบคน้ เมอ่ื วันที่ 14 มถิ ุนายน 2566


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook