รายงานการวิจัย การเพ่มิ ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นรายวชิ า อุตสาหกรรมทอ่ งเท่ียว โดยใช้แบบทดสอบ ของนักเรยี น ระดับชัน้ ปวช. รร. 1/3 แผนกวชิ าการโรงแรมและการบริการ วิทยาลัยอาชวี ศึกษาสุรินทร์ ประจาปกี ารศกึ ษา 2/2562 โดย นางสาวธนั ยาภรณ์ ไชยสอน วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาสุรนิ ทร์ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
2 บทคดั ย่อ ชอื่ เร่อื ง : การเพม่ิ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นรายวิชาอตุ สาหกรรมทอ่ งเทีย่ ว ของนักเรียนระดับชั้น ระดบั ชน้ั ปวช. รร. 1/3 แผนกวิชาการโรงแรมและการบรกิ าร วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาสุรินทร์ ชือ่ ผูว้ จิ ัย : นางสาวธันยาภรณ์ ไชยสอน ปี พ.ศ. : 2562 การวจิ ัยครงั้ นม้ี ีวตั ถปุ ระสงค์เพอื่ 1) เพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวชิ าอุตสาหกรรมท่องเทย่ี ว ของนกั เรยี นระดบั ชนั้ ปวช. รร. 1/3 แผนก วิชาการโรงแรมและการบริการ วทิ ยาลัยอาชีวศึกษาสรุ ินทร์ 2) เพ่อื เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธ์ิของคะแนนทดสอบกอ่ นเรียนกับหลงั เรียน รายวิชาอุตสาหกรรมทอ่ งเท่ยี ว ของนกั เรยี นระดบั ช้นั ปวช. รร. 1/3 แผนกวิชาการโรงแรมและการบรกิ ารวิทยาลัยอาชวี ศึกษาสรุ นิ ทร์ กลุ่มตวั อยา่ งทใี่ ช้ในงานวิจัยไดแ้ ก่ นกั เรียน ระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) ของนักเรียน.ระดบั ชัน้ ปวช. รร. 1/3 แผนกวิชาการโรงแรมและการบริการ จานวน 25 คน ที่ได้จากการสุ่มอย่างงา่ ย เครื่องมือท่ีใชใ้ นการวิจัยไดแ้ กก่ ลุ่มตวั อย่างวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ ทางการเรียน สถิติที่ใช้ในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ไดแ้ กค่ ่ารอ้ ยละ ค่าเฉลีย่ สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานและวิเคราะหเ์ ปรียบเทียบ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนด้วยการทดสอบค่า t ผลการวจิ ัย 1. ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนวิชาอตุ สาหกรรมทอ่ งเที่ยว พบว่าผลสัมฤทธ์ขิ องคะแนนทดสอบก่อนเรยี นมี คา่ เฉลี่ย 6.12....(S.D. = ..1.36…) และผลสัมฤทธิข์ องคะแนนทดสอบหลงั เรียนมคี า่ เฉลย่ี ....8.28.........(S.D. = …0.97…) 2. การเปรยี บเทียบผลสัมฤทธ์ิของคะแนนทดสอบกอ่ นเรียนกับหลังเรยี นวิชาอตุ สาหกรรมท่องเท่ยี ว ของ นักเรียน ระดบั ชนั้ ปวช. รร. 1/3 แผนกวิชาการโรงแรมและการบริการ ท่ีสอนโดยใช้แบบทดสอบ พบว่าผลสัมฤทธิ์ ของคะแนนทดสอบหลงั เรยี นสงู กวา่ คะแนนทดสอบก่อนเรยี นอยา่ งมนี ัยสาคญั ทางสถิตทิ ี่ระดับ .05
3 คานา การวิจยั ในช้ันเรยี น ( Classroom Action Research : CAR ) เป็นกระบวนการท่ีดาเนินการอยา่ งเปน็ ระบบ ในการแสวงหาความรทู้ ่ีเป็นจรงิ ความจริงที่เช่ือถอื ได้ เพื่อนาไปแก้ไขปัญหาทเ่ี กิดข้นึ ในห้องเรยี น และนา ผลมาใชใ้ นการปรับปรงุ การเรยี นการสอนของตนใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสุดแก่ผู้เรยี นโดยสามารถนาผลที่ได้มาเป็นขอ้ มลู ยอ้ นกลบั ในการพิจารณา เพื่อพฒั นาการเรยี นการสอนตอ่ ไป ผ้วู ิจัยได้ทาการศึกษาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ในรายวิชาอตุ สาหกรรมท่องเท่ยี ว ของนักเรยี นระดบั ช้นั ปวช. รร. 1/3 แผนกวชิ าการโรงแรมและการบรกิ าร วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาสรุ ินทร์ เพอ่ื นาผลการวจิ ยั ไปพฒั นาและ นาไปเป็นแนวทางในการจดั การเรียนการสอนในรายวชิ าอุตสาหกรรมทอ่ งเท่ยี วและรายวิชาอนื่ ที่มีลักษณะเดยี วกนั โอกาสต่อไป ผู้วิจัยหวังเปน็ อยา่ งยิ่งว่าผลการวิจัยในครงั้ น้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผอู้ ่นื และหากมีขอ้ ผิดพลาดประการ ใด ผู้วิจยั ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ นางสาวธนั ยาภรณ์ ไชยสอน ผวู้ ิจยั
สารบัญ 4 บทคดั ยอ่ หนา้ คานา สารบญั 6 สารบัญตาราง 6 6 บทท่ี 1 บทนา 6 ความสาคัญของปญั หา 7 7 วัตถุประสงคก์ ารวจิ ัย 7 สมมตฐิ านการวิจัย 8 ขอบเขตของการวจิ ยั 8 ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะได้รับ 15 นยิ ามศัพท์เฉพาะ 15 บทที่ 2 เอกสารวรรณกรรมและงานวิจยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 16 หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี 2556 17 การจดั การเรยี นการสอน 17 การจดั การเรียนการสอนอาชวี ศกึ ษา 17 งานวจิ ัยทเี่ กีย่ วขอ้ ง 17 บทที่ 3 วธิ ดี าเนินการ 18 ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง 18 เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ในการศกึ ษา 18 วธิ กี ารสร้างเครือ่ งมอื 20 การออกแบบการทดลอง 21 วิธดี าเนินการทดลอง 21 การวเิ คราะหข์ ้อมูล 21 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 22 บทท่ี 5 สรุปอภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ 24 สรุป อภปิ รายผล ข้อเสนอแนะ ภาคผนวก ภาคผนวก ก แสดงผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ภาคผนวก ข ประวตั ผิ ู้วจิ ัย
สารบัญตาราง 5 ตารางท่ี หนา้ 25 1. แสดงจานวนรอ้ ยละค่าเฉล่ยี และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน 27 ของคะแนนทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพ่ืองานส่วนหนา้ โรงแรม 29 2. แสดงคะแนนสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานของคะแนนทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียนวิชาภาษาองั กฤษเพอ่ื งานสว่ นหน้าโรงแรม 3. การเปรียบเทยี บผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของคะแนนทดสอบกอ่ นเรยี น และหลังเรียนวชิ าภาษาอังกฤษงานสว่ นหน้าโรงแรม
บทท่ี 1 6 บทนา ความสาคญั ของปญั หา จากกระแสการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง มีผลผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แนวคิดในการจัดการเมืองทเ่ี รยี กว่า ปฏิรปู การเมืองการปกครอง ซึ่งมีผลมาถงึ แนวคดิ ในการปฏริ ปู การศึกษาดว้ ย ท้ังน้ีเพราะการศึกษาเป็นกลไกสาคัญท่ีสามารถพัฒนาคุณภาพของบุคคลเพ่ือให้บุคคลเหล่าน้ันกลับมาพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศให้อยู่รอดและทุกคนมีความสุข สาระสาคัญของการปฏิรูปการศึกษา แสดง ออกเป็นตัวกาหนดการปฏิบัติในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งระบุไว้ชัดเจนให้มีการจัดการ เรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเปน็ สาคัญ เพราะถอื วา่ เป็นวิธีการจัดการเรียนการสอนที่จะทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ท่ี แท้จรงิ และยง่ั ยนื (สมภพ สุวรรณรัฐ, ม.ป.ป. : 1) สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ ไดก้ าหนดหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พทุ ธศักราช 2553 เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกับแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ี 10 พ.ศ. 2550 – 2554 ซ่ึงได้จัดวิชางานส่วหน้าโรงแรม เปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ การเมืองและการปกครอง พรอ้ มทง้ั กระบวนในการแกป้ ัญหาโดยใชห้ ลกั จรยิ ธรรมและคณุ ธรรม เพ่ือให้นักศึกษา ได้ศึกษาความเจริญก้าวหน้า ในดา้ นวิทยาการและสง่ิ ตา่ งๆ ที่มนุษย์นามาใช้ แต่การสอนวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เน้ือหาในบทนี้จะเน้นถึง การท่องเที่ยว ซ่ึงผู้สอนจะประสบปัญหากับการจัดการเรียนการสอนท่ีนักเรียนขาดความสนใจใฝ่ที่จะศึกษา ครผู ู้สอนจะถ่ายทอดความรใู้ ช้วธิ กี ารบรรยายหรืออธิบายสอนให้นักเรียน และนักเรียนจะไม่ให้ความร่วมมือในการ เรยี นการสอนจึงสง่ ผลให้เกดิ ความเบือ่ หน่ายและไมน่ ่าสนใจทง้ั ผูส้ อนและผเู้ รียน ซึ่งสภาพปัญหาดังกลา่ วน้ชี ี้ให้เหน็ วา่ ปัญหาในการจดั การเรียนการสอนควรได้รับการปรับปรุงแก้ไข เพ่ือให้ การเรียนวิชา งานสว่ นหนา้ โรงแรม สมั ฤทธิผ์ ลตามจุดประสงค์ของการจดั การเรยี นการสอน แนวทางแกป้ ญั หาได้แก่ การจัดทาแผนจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตร ซึ่งได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบท่ีต้องจัดการเรียนการสอนให้บังเกิด ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนให้ครอบคลุมจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมท้ังทางด้านพุทธพิสัย ทักษะพิสัย คุณธรรมและ จริยธรรม ตามคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมภพ สวุ รรณรัฐ (ม.ป.ป. :1) กลา่ วว่าการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งจัด กิจกรรมท่ีสอดคล้องกับการดารงชีวิต เหมาะสมกับความสามารถและความสนใจของผู้เรียน โดยให้ผู้เรียนมีส่วน ร่วมและลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ ทุกขั้นตอนจะบงั เกิดการเรยี นรูด้ ้วยตนเอง ในฐานะครูผสู้ อนวิชางานส่วนหนา้ โรงแรม จึงได้ นา แบบทดสอบ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความสามารถและความแตกต่างของผู้เรียนโดย วธิ ีการใช้ แบบทดสอบ เน้นกระบวนการคิด การลงมอื ปฏิบัตแิ ละการสรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเองมุ่งเน้นผู้เรียนเป็น สาคัญและบรู ณาการคุณธรรมจรยิ ธรรมคา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์สอดคลอ้ งกับพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาตพิ .ศ. 2542 ทเี่ น้นให้ผเู้ รียนเปน็ คนดี คนเกง่ และมีความสขุ นาไปสู่การเปน็ ทรพั ยากรบุคคลอันมีคุณภาพที่ดี ในอนาคตตอ่ ไป วตั ถุประสงคก์ ารวจิ ัย 1.เพมิ่ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น รายวชิ าอตุ สาหกรรมทอ่ งเท่ียว ของนักเรียนระดับช้ัน ปวช. รร. 1/3 แผนก วชิ าการโรงแรมและการบรกิ าร วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาสรุ นิ ทร์ 2.เพื่อเปรียบเทียบผลสมั ฤทธิข์ องคะแนนทดสอบก่อนเรียนกับหลงั เรียนรายวิชาอตุ สาหกรรมท่องเท่ียว ของ นกั เรยี นระดบั ชนั้ ปวช. รร. 1/3 แผนกวชิ าการโรงแรมและการบรกิ าร วิทยาลัยอาชวี ศึกษาสุรนิ ทสมมติฐานการวิจัย ผลสัมฤทธข์ิ องคะแนนทดสอบหลงั เรียนสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ี ระดบั .05
ขอบเขตของการวจิ ัย 7 1. ประชากรที่ใชใ้ นการศกึ ษาครงั้ น้ี ได้แก่นกั เรียน ระดบั ชัน้ ปวช. รร. 1/3 แผนกวิชาการโรงแรม และการบรกิ าร ที่ลงทะเบียนเรยี นรายวชิ า อตุ สาหกรรมท่องเท่ียว ในภาคเรียนท่ี 2/2562 จานวนนกั เรียน 25 คน 2. ตัวแปรที่ศึกษา 2.1 ตวั แปรอิสระ ได้แก่ วธิ ีการสอนแบบทดสอบ 2.2 ตวั แปรตาม ได้แก่ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นวชิ าอตุ สาหกรรมท่องเท่ียว ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ บั 1. เปน็ แนวทางสาหรบั ครอู าจารย์ทสี่ นใจการใช้แบบทดสอบ 2. ช่วยพฒั นากิจกรรมการเรียนการสอนใหม้ ีประสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ข้นึ 3. เป็นแนวทางการวจิ ยั โดยใช้แบบทดสอบ ในรายวิชาอื่นๆ ตอ่ ไป นิยามศพั ท์เฉพาะ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน หมายถงึ ความสามารถในการเรยี นของนักเรยี น-นักศกึ ษา นักเรียน/นักศกึ ษาหมายถึง ผทู้ ีไ่ ดข้ นึ้ ทะเบียนเป็นนักเรยี นตามหลกั ฐาน ประกาศนียบตั รวชิ าชีพและ ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สงู
บทที่ 2 8 เอกสาร และงานวิจัยท่ีเก่ยี วข้อง การเพ่ิมผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นรายวชิ าอุตสาหกรรมทอ่ งเท่ยี ว ของนักเรียนระดบั ชน้ั ปวช. รร. 1/3 แผนก วิชาการโรงแรมและการบรกิ าร วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาสรุ นิ ทร์ ผวู้ ิจัยได้ศกึ ษาเอกสาร และงานวิจัยทีเ่ กี่ยวข้องดงั นี้ หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวิชาชีพพทุ ธศกั ราช 2556 1. หลักการ 2. จดุ มุง่ หมาย 3. หลกั การใช้ 4. วิชาพฤติกรรมนกั ทอ่ งเท่ียว 4.1 คาอธิบายรายวิชา 4.2 จุดประสงคร์ ายวิชา การจดั การเรยี นการสอน 1 ความหมายของการจัดการเรยี นการสอน 2 ความสาคัญของกิจกรรมการเรยี นการสอน 3 จุดม่งุ หมายของการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน 4 หลักการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน 5 แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนให้สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตร การจดั การเรียนการสอนอาชวี ศึกษา งานวจิ ยั ทีเ่ ก่ยี วข้อง หลกั สตู รประกาศนยี บตั รพุทธศักราช 2556 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (2556 : 1 – 6)ได้กล่าวถงึ หลกั สตู รประกาศนียบัตรวชิ าชพี พุทธศกั ราช 2556 ดังน้ี 1. หลักการ 1.1 เปน็ หลักสตู รระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพหลงั มธั ยมศึกษาตอนต้น เพ่อื พัฒนากาลังคนระดับฝีมือให้มี ความชานาญเฉพาะด้าน มีคุณธรรม บุคลิกภาพและเจตคติท่ีเหมาะสมสามารถ ประกอบอาชีพได้ตรงตามความ ต้องการของตลาดแรงงานและการประกอบอาชพี อิสระสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและสังคมในระดับท้องถ่ินและ ระดบั ชาติ 1.2 เปน็ หลักสูตรที่เปิดโอกาสให้เลือกเรียนได้อย่างกว้างขวาง เพื่อเน้นความชานาญ เฉพาะด้านด้วยการ ปฏิบัติจริง สามารถเลอื กวธิ กี ารเรียนตามศักยภาพและโอกาสของผู้เรียน ถ่ายโอนผลการเรียนสะสมผลการเรียน เทียบความรแู้ ละประสบการณ์จากแหล่งวิทยาการ สถานประกอบการและสถานประกอบอาชพี อสิ ระได้ 1.3 เป็นหลักสูตรที่สนับสนุนการประสานความร่วมมือในการจัดการศึกษาร่วมกันระหวา่ งหนว่ ยงานและ องค์กรท่ีเก่ียวขอ้ ง ท้งั ภาครัฐและเอกชน 1.4 เปน็ หลกั สตู รที่เปิดโอกาสให้ สถานศึกษา ชุมชนและท้องถ่ินมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรให้ตรง ตามความตอ้ งการและสอดคลอ้ งกบั สภาพชมุ ชนและท้องถิ่น
2 จุดมุ่งหมาย 9 2.1 เพื่อให้มีความรู้ ทักษะและประสบการณ์ในงานอาชีพตรงตามมาตรฐานวิชาชีพ นาไปปฏิบัติงาน อาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเลือกวิถีการดารงชีวิตและการประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสมกับตน สรา้ งสรรค์ความเจรญิ ต่อชมุ ชน ทอ้ งถน่ิ และประเทศชาติ 2.2 เพ่ือให้เป็นผู้มีปัญญา มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ใฝ่เรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการ ประกอบอาชพี สามารถสร้างอาชีพ มที ักษะในการจดั การและพัฒนาอาชีพให้กา้ วหน้า อยู่เสมอ 2.3 เพื่อให้มีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพ มีความม่ันใจและภูมิใจในวิชาชีพท่ีเรียน รักงาน รักหน่วยงาน สามารถทางานเป็นหมู่คณะได้ดี โดยมคี วามเคารพในสทิ ธิและหนา้ ที่ของตนเองและผ้อู นื่ 2.4 เพือ่ ใหเ้ ป็นผมู้ พี ฤติกรรมทางสงั คมทด่ี งี าม ท้ังในการทางาน การอยรู่ ่วมกนั มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ ครอบครวั หนว่ ยงาน ทอ้ งถน่ิ และประเทศชาติ อุทิศตนเพื่อสังคม เข้าใจและเห็นคุณค่าของ ศิลปวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถิ่น รจู้ ักใชแ้ ละอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสรา้ งสรรค์ สง่ิ แวดล้อมทด่ี ี 2.5 เพอ่ื ใหม้ บี คุ ลิกภาพทดี่ ี มมี นุษยสัมพนั ธ์ มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและวนิ ัยในตนเองมีสุขภาพ อนามัยทส่ี มบรู ณ์ท้ังร่างกายและจติ ใจ เหมาะสมกบั งานอาชีพน้นั ๆ 2.6 เพ่ือให้ตระหนักและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมืองของประเทศและโลก ปัจจุบัน มีความรักชาติ สานึกในความเป็นไทย เสียสละเพื่อส่วนรวม ดารงรักษาไว้ซ่ึงความม่ันคงของชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษตั รยิ เ์ ปน็ ประมขุ 3 หลกั เกณฑก์ ารใชห้ ลกั สตู ร 3.1 การเรียนการสอน 1) การเรียนการสอนตามหลักสูตรน้ี ผู้เรยี นสามารถลงทะเบยี นเรียนได้ทุกวธิ ีเรยี นท่ีกาหนด และนาผลการ เรยี นแต่ละวธิ มี าประเมินผลรว่ มกันได้ สามารถโอนผลการเรยี นและขอเทียบความรู้และประสบการณ์ได้ 2) การจัดการเรียนการสอนเนน้ การปฏบิ ตั จิ รงิ โดยสามารถนารายวชิ าไป จัดฝึกในสถานประกอบการไม่ น้อยกวา่ 1 เดือน 3.2 เวลาเรยี น 1) ในปกี ารศึกษาหน่งึ ๆ ใหแ้ บ่งภาคเรยี นออกเปน็ 2 ภาคเรียนปกติ ภาคเรียนละ 18 สัปดาห์ โดยมีเวลา เรียนและจานวนหน่วยกิตตามที่กาหนด และสถานศึกษาอาจเปิดสอนภาคเรียนฤดูร้อนได้อีกตามท่ีเห็นสมควร ประมาณ 5 สัปดาห์ 2) การเรยี นในระบบชัน้ เรยี น ใหส้ ถานศึกษาเปิดทาการสอนไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 5 วัน คาบละ 60 นาที (1 ชัว่ โมง) 3.3 หนว่ ยกติ ให้มจี านวนหนว่ ยกิตตลอดหลกั สูตรไมน่ ้อยกว่า 103 หน่วยกิต การคิดหน่วยกติ ถือเกณฑด์ ังน้ี 1) รายวิชาภาคทฤษฎี 1 ชว่ั โมงต่อสัปดาห์ ตลอดภาคเรียนไมน่ ้อยกวา่ 18 ชั่วโมงมคี า่ 1 หนว่ ยกติ 2) รายวิชาท่ีประกอบด้วยภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้บูรณาการการเรียนการสอน กาหนด 2–3 ช่ัวโมงต่อ สปั ดาห์ ตลอดภาคเรียนไมน่ ้อยกวา่ 40–60 ชั่วโมง มคี ่า 1 หนว่ ยกติ 3) รายวิชาทนี่ าไปฝึกงานในสถานประกอบการ กาหนดเวลาในการฝึกปฏบิ ัตงิ านไมน่ อ้ ยกวา่ 40 ชว่ั โมง มีค่า 1 หน่วยกิต 4) การฝึกอาชีพในระบบทวภิ าคี ใช้เวลาฝึกไมน่ ้อยกวา่ 40 ช่วั โมง มคี า่ 1 หน่วยกิต 5) การทาโครงการให้เป็นไปตามทก่ี าหนดไว้ในหลักสูตร
3.4 โครงสรา้ ง 10 โครงสร้างของหลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พุทธศกั ราช 2556 แบง่ เปน็ 3 หมวดวชิ า ฝึกงาน และ กิจกรรมเสริมหลกั สูตร ดังนี้ 1) หมวดวชิ าสามัญ 1.1)วิชาสามญั ทว่ั ไป เป็นวิชาทเี่ ป็นพ้นื ฐานในการดารงชวี ติ วชิ าสามญั พ้นื ฐานวิชาชีพ เปน็ วิชาท่ีเป็นพืน้ ฐานสมั พันธ์กบั วิชาชพี 2) หมวดวิชาชีพ 2.1)วิชาพ้นื ฐาน เปน็ กลมุ่ วิชาชีพสัมพันธท์ ี่เป็นพ้ืนฐานท่ีจาเป็นในประเภทวิชาน้ันๆ 2.2)วิชาชพี สาขาวิชา เป็นกลุ่มวิชาชพี หลกั ในสาขาวิชานั้นๆ 2.3)วิชาชพี สาขางาน เป็นกลุม่ วชิ าชีพทมี่ ุ่งใหผ้ เู้ รียนมคี วามรแู้ ละทกั ษะเฉพาะด้านในงานอาชพี ตาม ความถนัดและความสนใจ 2.4)โครงการ 3) หมวดวชิ าเลือกเสรี 4) ฝึกงาน 5) กจิ กรรมเสรมิ หลักสตู ร จานวนหน่วยกิตของแต่ละหมวดวิชาตลอดหลักสูตร ให้เป็นไปตามกาหนดไว้ในโครงสร้างของแต่ละ ประเภทวิชาและสาขาวิชา ส่วนรายวิชาแต่ละหมวดวิชา สถานศึกษาสามารถจัดตามที่กาหนดไว้ในหลักสูตร หรือจัดตามความเหมาะสมของสภาพท้องถิ่น ทั้งนี้สถานศึกษาต้องกาหนดรหัสวิชา จานวนคาบเรียน และ จานวนหน่วยกิตตามระเบียบที่กาหนดไว้ในหลักสูตร 3.5 โครงการ 1) สถานศึกษาตอ้ งจดั ให้ผเู้ รยี นจัดทาโครงการในภาคเรียนท่ี 6 ไม่น้อยกว่า 160 ชั่วโมง กาหนดให้มี ค่า 4 หนว่ ยกิต 2) การตัดสินผลการเรียนและให้ระดับผลการเรียน ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับรายวิชาอ่ืนๆ 3.6 ฝกึ งาน 1) ให้สถานศึกษานารายวชิ าในหมวดวชิ าชีพไปจดั ฝึกในสถานประกอบการ อยา่ งนอ้ ย 1 ภาคเรียน 2) การตัดสินผลการเรียนและให้ระดับผลการเรียนให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับ รายวิชาอื่น 3.7 การเขา้ เรียน พ้ืนความรู้และคุณสมบัติของผู้เรียน ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษา ตามหลักสตู รประกาศนยี บัตรวิชาชพี พุทธศกั ราช 2545 พ.ศ. 2546 3.8 การประเมินผลการเรียน ให้เป็นไปตามระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ว่าดว้ ยการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตร วชิ าชีพ พุทธศกั ราช 2545 พ.ศ. 2546 3.9 กิจกรรมเสรมิ หลักสตู ร สถานศกึ ษาต้องจัดให้มีกิจกรรมเพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ระเบียบวินัยของตนเอง และ สง่ เสริมการทางาน ใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทาประโยชน์ต่อชุมชน ทะนุบารุงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม โดยการวางแผน ลงมือปฏบิ ัติ ประเมนิ ผล และปรับปรงุ การทางาน
3.10 การสาเร็จการศึกษาตามหลกั สตู ร 11 1) ประเมนิ ผ่านรายวชิ าในหมวดวชิ าสามญั หมวดวชิ าชีพ และหมวดวิชาเลอื กเสรีตามท่ีกาหนด ไวใ้ นหลกั สูตรแตล่ ะประเภทวชิ าและสาขาวชิ า 2) ไดจ้ านวนหนว่ ยกิตสะสมครบตามโครงสร้างของหลักสูตรแตล่ ะประเภทวิชาและสาขาวชิ า 3)ไดค้ ่าระดบั คะแนนเฉล่ยี สะสมไมต่ ่ากว่า 2.00 4)เขา้ ร่วมกิจกรรมและผา่ นการประเมินทกุ ภาคเรียน 5)ประเมนิ ผา่ นมาตรฐานวชิ าชีพสาขาวิชา 3.11 การแกไ้ ขและเปลย่ี นแปลงหลกั สตู ร 1) ให้อธิบดีกรมอาชีวศึกษาเป็นผู้มีอานาจในการเพิ่มเติม ปรับปรุง หรือ ยกเลิกประเภทวิชา สาขาวิชา สาขางาน รายวิชา และโครงสร้างหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 ในหลักสูตร ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พุทธศักราช 2556 2) ให้ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้มีอานาจเพิ่มเติม แก้ไข เปล่ียนแปลง รายวิชาต่างๆ ในหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศกั ราช 2556 โดยต้องรายงานใหต้ ้นสังกดั ทราบ 4 วชิ า งานส่วนหนา้ โรงแรม 4.1 คาอธิบายรายวิชา ศึกษาเก่ียวกบั ประเภทของนักท่องเทีย่ ว ประเภทของลกู คา้ ท่ีใชบ้ รกิ ารโรงแรม งานสว่ นหนา้ โรงแรม โดย ศกึ ษาประเภทและชนิดของโรงแรม หอ้ งพัก โครงสร้างองคก์ ร แผนกบริการส่วนหน้า แผนกสารองหอ้ งพกั กระบวนการเขา้ พกั การบริการระหว่างการพัก ของนักท่องเที่ยวแต่ ละชาติ แต่ละกลมุ่ ความแตกต่างของพฤตกิ รรมในรปู แบบตา่ ง ๆ การแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ ในการ ใหบ้ ริการทเี่ หมาะสมกับเหตุการณ์ จดุ ประสงค์รายวิชา 1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั ประเภทของลูกค้าทีเ่ ขา้ มาใช้บรกิ ารโรงแรม และ พฤตกิ รรมการใช้บรกิ ารของลกู ค้าแต่ละประเภท 2. เข้าถึงลกั ษณะธรรมชาติ และพฤติกรรมของนกั ทอ่ งเที่ยว ลกู ค้าแต่ละเชอ้ื ชาติ 3. สามารถวเิ คราะหถ์ งึ พฤตกิ รรมในงานสว่ นหน้าโรงแรม 4. เกิดลกั ษณะนิสยั ท่ีดีในการตอ้ นรบั ลกู ค้า และประยกุ ตใ์ ชก้ บั ลูกค้าแต่ละกลมุ่ ไดด้ ี มาตรฐานรายวชิ า 1. อธิบายกระบวนการทางานงานสว่ นหนา้ โรงแรม 2. ใหบ้ ริการทเ่ี หมาะสมกบั พฤตกิ รรมของนกั ท่องเทย่ี ว 3. แกไ้ ขปญั หาเฉพาะหน้าใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ การจัดการเรียนการสอน 1. ความหมายของการจดั การเรียนการสอน หลักการแต่มี การให้ความหมายของการจัดการเรียนการสอน มีผู้ให้ความหมายท่ีคล้ายคลึงกันใน รายละเอียดทแี่ ตกต่างกัน ดังนี้
12 วรัทยา ธรรมกิตติภพ (2548 : 24) ได้สรุปการเรียนการสอน หมายถึง ข้ันตอน ข้อเสนอแนะในการ ดาเนินการจัดการเรียนการสอนให้สัมพันธ์กับเน้ือหา เพ่ือให้เกิดกระบวนการเรียนรู้หรือเกิดประสิทธิผลแก่ผู้เรียน หรือบรรลุวตั ถุประสงค์ในการเรียนการสอนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อาภรณ์ ใจเท่ยี ง (2546 : 72) ให้ความหมายการเรียนการสอน หมายถึง การปฏิบัติต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวกับการ เรียนการสอนและการกระทาทุกส่ิงทุกอย่างท่ีจัดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างผู้สอนและผู้เรียน เพ่ือให้การสอน ดาเนินไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพและการเรียนรขู้ องผเู้ รียนบรรลุสู่จดุ ประสงคก์ ารสอนทก่ี าหนดไว้ ชาตชิ าย พทิ กั ษธ์ นาคม (2544 : 236 - – 237) การเรียนการสอน หมายถึง การปฏิบัติต่าง ๆ ท่ีเก่ียวกับ การเรยี นการสอนเพือ่ ใหก้ ารสอนดาเนนิ ไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพและการเรียนรขู้ องผู้เรียนบรรลสุ ู่จุดประสงคก์ ารสอน ที่กาหนดไว้ ไสว ฟักขาว (2544 : 18)ให้ความหมายการเรียนการสอน หมายถึง กระบวนการท่ีมีการวางแผนเพื่อจัด สภาพการณ์ให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนในการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ ตาม เป้าหมายที่วางไว้ ซ่ึงในระหวา่ งการปฏสิ ัมพนั ธน์ น้ั ผู้สอนกจ็ ะได้ เรยี นรู้จากผู้เรยี นด้วย อรทัย มูลคาและสวุ ทิ ย์ มูลคา (2544 : 11) อรทัยและสุวิทย์ (2544)ได้ให้ความหมาย การเรียนการสอน หมายถึง การจัดกจิ กรรมประสบการณ์หรอื สถานการณใ์ ด ๆ ท่ีมคี วามหมายกับผเู้ รียนได้ลงมือปฏิบัติและปฏิสัมพันธ์ กับส่งิ เหล่าน้ีด้วยตนเอง โดยการสังเกต วิเคราะห์ ปฏิบัติ สรุป เพ่ือสร้างนิยามความหมายและผลิตองค์ความรู้ด้วย ตนเอง ทาใหเ้ กดิ การเรยี นรทู้ กุ ด้านอยา่ ง สมดลุ กรมวิชาการ (2544) ใหค้ วามหมายการเรียนการสอน หมายถึง ข้ันตอนที่ครูนากิจกรรมต่าง ๆ ที่กาหนด ไวใ้ นแผนการเรียนรู้มาสู่การปฏิบัติจริง โดยเน้นนักเรียนเป็นสาคัญเพ่ือให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และมีคุณลักษณะ ตามเป้าหมายทีต่ อ้ งการ จากทกี่ ลา่ วมาขา้ งตน้ พอสรปุ ได้ว่า การจดั การเรียนการสอนนั้นหมายถึง สภาพการเรียนรู้ท่ีกาหนดข้ึนเพ่ือ นาผู้เรียนไปสู่เป้าหมาย เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์การเรียนการสอนที่กาหนดไว้ในแผนการเรียนรู้ให้เหมาะสม สอดคลอ้ งกบั เนือ้ หาและสภาพแวดลอ้ ม การเรียนรใู้ นด้านต่าง ๆ โดยเน้นผ้เู รยี นเป็นสาคญั 2. ความสาคัญของกิจกรรมการเรยี นการสอน กจิ กรรมการเรยี นการสอนเป็นองคป์ ระกอบทส่ี าคัญของการเรยี นการสอนเพราะกจิ กรรม การเรียนการ สอนของผู้เรยี นและผู้สอนทเี่ หมาะสมจะทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง (อาภรณ์ ใจเที่ยง, 2546 : 72 )ได้ กลา่ วถงึ ความสาคญั ของกจิ กรรมการเรียนการสอนไวด้ งั น้ี 2.1 กจิ กรรมช่วยเร้าความสนใจของเดก็ 2.2 กจิ กรรมจะเปิดโอกาสให้นักเรียนประสบความสาเร็จ 2.3 กิจกรรมจะช่วยปลกู ฝังความเป็นประชาธิปไตย 2.4 กจิ กรรมจะช่วยปลูกฝังความรับผิดชอบ 2.5 กจิ กรรมจะชว่ ยปลูกฝังและสง่ เสริมความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ 2.6 กิจกรรมจะช่วยให้นักเรียนได้มกี ารเคล่อื นไหว 2.7 กิจกรรมจะช่วยให้นกั เรยี นไดร้ สู้ กึ สนุกสนาน 2.8 กจิ กรรมช่วยให้เหน็ ความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล 2.9 กิจกรรมชว่ ยขยายความรู้และประสบการณข์ องเดก็ ใหก้ วา้ งขวาง 2.10 กิจกรรมจะช่วยสง่ เสริมความงอกงามและพัฒนาการของเดก็ 2.11 กจิ กรรมจะชว่ ยสง่ เสรมิ ทกั ษะ 2.12. กิจกรรมจะช่วยปลูกฝงั เจตคติที่ดี
2.13 กจิ กรรมจะชว่ ยส่งเสริมใหเ้ ดก็ รู้จกั ทางานเป็นหมู่ 13 2.14 กิจกรรมจะชว่ ยให้เด็กเกิดความเข้าใจในบทเรยี น 2.15.กิจกรรมจะชว่ ยสง่ เสริมให้เด็กเกดิ ความซาบซ้งึ ความงามในเรอ่ื งต่าง ๆ ดงั นั้น ผ้สู อนจงึ ไมค่ วรละเลยทจี่ ะจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนใหน้ า่ สนใจ ให้สอดคลอ้ งกับวยั สติปัญญา ความสามารถของผเู้ รยี น และเนอื้ หาของบทเรยี นนั้น โดยตอ้ งจัดอยา่ งมีจดุ มุง่ หมาย 3. จดุ ม่งุ หมายของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ชาตชิ าย พิทกั ษธ์ นาคม (2544 : 238) กล่าวถงึ จดุ มงุ่ หมายของการ จัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ดงั น้ี 1. เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ พัฒนาการทางรา่ งกาย อารมณ์ สังคม และสติปญั ญาไปพร้อมกนั 2. เพอ่ื สนองความสามารถ ความถนดั ความสนใจของผูเ้ รยี นทกุ คน ซึ่งแตล่ ะคนจะมี แตกต่างกนั 3. เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนการสอน ให้ผเู้ รียนเรียนดว้ ยความเพลดิ เพลิน ไม่เกิด ความรู้สึกเบื่อ หนา่ ยในการเรียน 4. เพือ่ สนองเจตนารมณข์ องหลกั สูตร ให้ผู้เรียนได้คิดเป็น ทาเปน็ แกป้ ัญหาเป็นและ เกิดทักษะ กระบวนการ 5. เพื่อสง่ เสริมให้ผเู้ รียนกลา้ แสดงออก และมีสว่ นร่วมในการเรยี น ผสู้ อนจึงควรจัด กิจกรรมการ เรียนการสอนทกุ คร้งั เพอื่ ประโยชนแ์ กผ่ ู้เรยี นเป็นสาคญั สอดคลอ้ งกับ ไสว ฟักขาว (2544 : 25-26) ท่ีได้กล่าวถงึ จดุ ม่งุ หมายของการจดั กจิ กรรมการ เรียนการสอนทด่ี ีนั้น จะทาให้เกิดส่ิงตอ่ ไปนี้ 1. ผเู้ รียนเรียนรอู้ ยา่ งมคี วามหมายและมเี ปา้ หมาย 2. ผเู้ รียนไดใ้ ช้วิธกี ารเรียนรแู้ บบ “ฉลาดรู้” 3. ผเู้ รยี นมกี ารพัฒนาการเรียนรทู้ ีจ่ ะทาให้รู้จรงิ รู้แจ้ง รลู้ ึกซงึ้ และเรยี นรอู้ ย่าง ต่อเนือ่ งตลอด ชวี ติ 4. ผู้เรยี นสามารถนาความรูไ้ ปใชอ้ ยา่ งเหมาะสมบนพ้นื ฐานของการรจู้ กั ตนเอง การ ผสมผสานในศาสตร์ต่าง ๆ และใชอ้ ยา่ งมคี ณุ ธรรม เพอ่ื พฒั นาชีวิตและสังคม 5. ผเู้ รยี นมกี ารพัฒนาอย่างสมดุล ในคุณลกั ษณะทางกาย ปญั ญา คุณธรรมและทกั ษะการใช้ชวี ิต จากจุดมุ่งหมายของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนดังกล่าวสรุปได้ว่า ครูผู้สอนจึงควรจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนทุกคร้ัง เพือ่ ประโยชน์แกผ่ ้เู รียน ทาใหผ้ ูเ้ รียนเกิดการเรียนรู้และเรยี นร้อู ยา่ งมีความสขุ 4. หลักการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนท่ดี นี น้ั ควรเป็นไปเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนท่ีจะทาให้ผู้เรียนเกิด ความสมดุลทั้งทางกาย ปัญญา คุณธรรมและทักษะการใช้ชีวิต สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพและใช้ ความรู้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม อาภรณ์ ใจเท่ียง (2546 : 73-76) ได้กล่าวถึงหลักการจัดกิจกรรม การเรยี นการสอน ดงั น้ี 4.1 จดั กิจกรรมใหส้ อดคลอ้ งกบั กจิ กรรมของหลกั สูตร 4.2 จัดกจิ กรรมใหส้ อดคล้องกับจดุ ประสงค์การสอน 4.3จัดกิจกรรมใหส้ อดคล้องและเหมาะสมกบั วัย 4.4 จดั กจิ กรรมให้สอดคลอ้ งกับลกั ษณะของเนือ้ หาวชิ า 4.5 จัดกจิ กรรมให้มลี าดบั ขนั้ ตอน 4.6 จัดกจิ กรรมให้นา่ สนใจ
4.7 จดั กิจกรรมโดยให้ผู้เรยี นเปน็ ผูก้ ระทากิจกรรม 14 4.8 จดั กจิ กรรมโดยใช้วิธกี ารที่ทา้ ทายความคดิ ความสามารถของผูเ้ รียน 4.9 จดั กิจกรรมโดยใช้เทคนคิ วธิ ีการสอนที่หลากหลาย 4.10 จัดกจิ กรรมโดยใหม้ บี รรยากาศทรี่ น่ื รมย์ 4.11 จัดกจิ กรรมแลว้ ตอ้ งมกี ารวดั ผลการใช้กจิ กรรมน้ันทุกครั้ง จากหลักการดังกล่าวสรุปได้ว่า การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควรดาเนินการ เพื่อระโยชน์แก่ผู้เรียน อย่างแท้จริง โดยมุ่งพัฒนาความเจริญทุกด้านให้แก่ผู้เรียน เร้าให้ผู้เรียนแสดงออกและได้มีส่วนร่วมฝึกฝนวิธีการ แสวงหาความรู้ วิธีการแกป้ ญั หาด้วยตนเองและจดั โดยมบี รรยากาศทร่ี ื่นรมย์ สนุกสนาน ตลอดจนจัดให้เหมาะสมกับ วยั ของผเู้ รยี น 5. แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนให้สอดคลอ้ งกับหลกั สตู ร เนอ่ื งจากหลักสูตรเป็นแผนแมบ่ ทในการกาหนดขอบข่ายความรู้ ความสามารถและมวลประสบการณ์ ดังน้ัน ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ผสู้ อนจาเปน็ ต้องทราบถึง ความคาดหวังของหลักสูตรในภาพรวมท่ีต้องการให้ ผู้เรียนเกิดคุณลักษณะในด้านต่าง ๆ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2546 ประเภทวิชา อุตสาหกรรม (สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, 2546) เป็นหลักสูตรท่ีมุ่งผลิตและพัฒนาแรงงานระดับ ผ้ชู านาญการเฉพาะสาขาอาชพี โดยมหี ลกั การดังน้ี 1. เป็นหลักสูตรที่มุ่งผลิตและพัฒนาแรงงานระดับผู้ชานาญการเฉพาะสาขาอาชีพ สอดคล้องกับ ตลาดแรงงาน สภาพเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม สามารถเป็นหัวหน้างานหรือเป็น ผ้ปู ระกอบการได้ 2. เป็นหลักสูตรท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีสมรรถนะในการประกอบอาชีพ มีความรู้เต็มภูมิปฏิบัติ ได้จริงและ เขา้ ใจชีวติ 3. เป็นหลักสูตรท่ีเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการวิชาชีพมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนวิชาชีพ สามารถถ่าย โอนประสบการณ์การเรียนรจู้ ากสถานประกอบการ และสามารถสะสมการเรยี นร้แู ละประสบการณ์ได้ เพ่ือให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ดังกล่าว หลักสูตรจึงเน้นให้จัดกิจกรรมการเรียน การสอน (สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา, 2546) โดยยึดจุดม่งุ หมาย 9 ประการ ดังน้ี 1. เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้และทักษะพน้ื ฐานในการดารงชีวิตสามารถศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมหรือศึกษาต่อในระดับท่ี สงู ขึน้ 2. เพื่อให้มีทกั ษะและสมรรถนะในงานอาชพี ตามมาตรฐานวิชาชีพ 3. เพ่ือให้สามารถบูรณาการความรู้ ทักษะจากศาสตร์ต่างๆ ประยุกต์ใช้ในงานอาชีพ สอดคล้องกับ การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยี 4. เพื่อใหม้ ีเจตคตทิ ี่ดีตอ่ อาชพี มีความม่ันใจและภาคภูมิใจในงานอาชพี 5. เพอ่ื ให้มีปัญญา ใฝ่รู้ ใฝเ่ รยี น มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มคี วามสามารถในการจัดการ การตัดสินใจและการ แก้ปัญหา รู้จักแสวงหาแนวทางใหม่ ๆ มาพัฒนาตนเอง ประยุกต์ใช้ความรู้ ในการสร้างงานให้สอดคล้องกับ วิชาชีพและการพัฒนางานอาชีพอยา่ งต่อเนอื่ ง 6. เพ่ือให้มีบุคลิกภาพท่ีดี มีคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์ มีวินัย มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและ จิตใจ เหมาะสมกบั การปฏิบัตใิ นอาชพี น้นั ๆ 7. เพ่ือใหเ้ ปน็ ผมู้ พี ฤตกิ รรมทางสงั คมท่ดี ีงาม ทัง้ ในการทางาน การอยู่ร่วมกนั มคี วามรับผิดชอบตอ่ ครอบครวั องคก์ ร ทอ้ งถิ่นและประเทศชาติ อุทิศตนเพ่อื สังคม เข้าใจและเห็นคณุ ค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย ภมู ิ ปญั ญาทอ้ งถิ่น ตระหนักในปัญหาและความสาคัญของสิง่ แวดลอ้ ม 8. เพื่อใหต้ ระหนกั และมสี ่วนร่วมในการพัฒนาและแกไ้ ขปญั หาเศรษฐกจิ ของประเทศ โดยเปน็ กาลังสาคญั ในด้านการผลติ และให้บริการ
15 9. เพอื่ ใหเ้ หน็ คณุ และดารงไว้ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนในฐานะพลเมืองดี ตามระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข จากแนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนดังกลา่ วสรุปได้วา่ การจดั กิจกรรมการเรียน การสอนเป็น หัวใจของการนาผู้เรยี นไปสูจ่ ุดหมายหลักของหลกั สตู รผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้ได้ดีเพียงใดข้ึนอยู่กับการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนของครูผู้สอนเป็นสาคัญ ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต้องจัดให้สอดคล้องกับหลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2546 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม ท่ีมุ่งพัฒนาผู้เรียน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเน้นการปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการติดตัว สามารถนาไปใช้ ประโยชน์ในชวี ิตได้ การจัดการเรียนการสอนอาชีวศกึ ษา 1. ลักษณะการจดั การเรยี นการสอนอาชีวศึกษา เพ่ือความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษา สามารถจาแนกตามลักษณะของการ จดั การเรยี นการสอน ดงั น้ี 2. ลักษณะของจุดประสงค์ในการจัดการเรียนการสอน นวลจิตต์ เชาวกีรติพงศ์ (2544: 191) ได้กล่าวถึง จดุ ประสงค์การสอนอาชีวศึกษาไว้ 3 ประการ 2.1 จดุ ประสงค์การเรียนด้านพุทธิพสิ ยั (Cognitive Domain) ได้แก่ การมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เกิดความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองการทางาน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทางานหรือแก้ปัญหาใน สถานการณต์ ่าง ๆ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนดา้ นเจตพิสยั (Affective Domain) ไดแ้ ก่ การมงุ่ เน้นให้ผู้เรียนเกิดความรักใน งานที่ทา ฝึกอุปนสิ ยั และความคดิ ในการทางานใหส้ อดคล้องกบั งานอาชพี มีความใฝร่ แู้ ละพฒั นาตนเองอยู่เสมอ 2.3 จุดประสงค์การเรียนด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) ได้แก่ การมุ่งเน้นให้มีการฝึก ปฏิบัติงานโดยใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ และเครื่องจักรต่าง ๆ เหมือนในโรงงานหรือสถานประกอบการจนเกิดความ ชานาญ 3. ลักษณะของเนอื้ หาในการจดั การเรียนการสอนอาชวี ศึกษาเน้อื หาสาระของเร่อื งทจี่ ะสอนทางอาชีวศึกษา จะมีความเกีย่ วขอ้ งกบั เร่ือง 1) ความรูท้ ใ่ี ชใ้ นการปฏบิ ัตงิ าน ซึ่งมีลักษณะท่ีผู้เรียนสามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้ 2) ความรู้ที่เก่ียวกับขั้นตอนของการปฏิบัติเทคนิคเฉพาะที่จะทาให้ทางานได้สาเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ และ 3) ความรู้เกีย่ วกบั คณุ ลกั ษณะนิสัยทดี่ ีท่ีเกดิ จาการฝึกงาน และสามารถพัฒนาเป็นลกั ษณะนิสัยถาวรของผเู้ รียนได้ (นวล จติ ต์ เชาวกรี ตพิ งศ์, 2544 : 191) 4. ลักษณะของการจัดกิจกรรมการเรยี นกรสอนอาชีวศึกษา กิจกรรมการเรียนการสอนอาชีวศึกษาต้องทา ใหผ้ เู้ รียนเกดิ การเรยี นรตู้ รงตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการสอน โดยผูส้ อนต้องออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยคานงึ ถงึ ยทุ ธศาสตรก์ ารสอนท่จี ะนามาใช้แล้วเกดิ ผลในการจัดการ เรยี นการสอนอาชีวศึกษาอย่างได้ผล ลักษณะของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต้องเอ้ืออานวยให้ผู้เรียนเกิดการ เรยี นรู้ ความคิด รวบยอดและหลักการ ผู้สอนจึงต้องใช้สื่อการสอนและตัวอย่างต่าง ๆ ช่วยผู้เรียนสร้างการเรียนรู้ และเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นไดน้ าผลของการเรยี นรูไ้ ปใชท้ าความเข้าใจในการทางานภาคปฏิบัติ ซึ่งจะต้องจัดให้มีความ สอดคลอ้ งกับการทางานในสถานประกอบการมากทสี่ ุด (นวลจิตต์ เชาวกรี ตพิ งศ์, 2544 : 191-192) 5. ลกั ษณะของส่ือการเรยี นการสอนอาชีวศึกษา ผู้สอนควรมีความรู้ในการเลือกใช้สื่อการเรียนการสอนให้ เหมาะกบั โอกาส ต้องเลอื กใช้สือ่ ทจี่ ะชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความรคู้ วามเข้าใจในงานท่ีทา
16 6. ลกั ษณะของการวดั และประเมินผลการเรียนการสอนอาชวี ศึกษาการวดั และการประเมินผล การเรียน การสอน คอื การตรวจสอบผลการเรยี นร้กู ับจุดประสงคก์ ารสอนท่ีตั้งไว้ วัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนใน ดา้ นพทุ ธิพิสยั สามารถใช้แบบทดสอบได้ แต่การเรียนรู้เจตพิสัยและทักษะพิสัยต้องใช้วิธีการสังเกตพฤติกรรมของ ผ้เู รยี น หรือสามารถใช้แบบทดสอบหรือแบบสังเกตพฤติกรรมการทางานของผู้เรียน โดยจะต้องมีการตั้งประเด็นการ สงั เกตและทดสอบไวล้ ่วงหนา้ ดว้ ย (นวลจติ ต์ เชาวกีรติพงศ์, 2544 : 192) 7. ลักษณะบทบาทของผ้สู อนอาชีวศึกษาในการจัดการเรียนการสอน บทบาทสาคัญของผู้สอนอาชีวศึกษา คอื การเตรียมความพร้อมดา้ นเน้ือหาท่ีเป็นความรู้ ทักษะปฏิบัติที่ต้องฝึกฝน มีการออกแบบกิจกรรมการเรียนการ สอน การเตรียมคาถามที่จะใช้กระตุ้นและช่วยในการเช่ือมโยงความคิดของผู้เรียน การเตรียมส่ือการสอน และ เครื่องมือทจ่ี ะใช้ในการวัดและการประเมินผลการเรียนรูข้ องผ้เู รยี นนอกจากนีผ้ ู้สอนอาชีวศึกษาต้องมีบทบาทในการ แสดงตนเป็นแบบแผนและเป็นตัวอย่างทีด่ ี 8. ลักษณะบทบาทของผู้เรียนในการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษา ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้ในการ ปฏิบัติงานได้ จาเป็นต้องลงมือฝึกปฏิบัติและศึกษาด้วยตนเอง โดยผู้สอนจะเป็นผู้จัดประสบการณ์ต่าง ๆ ให้ การ เรยี นโดยการปฏบิ ตั จิ ริงเปน็ ลกั ษณะสาคัญของบทบาทที่ผูเ้ รียนอาชีวศึกษาจะต้องมีนอกเหนือจากการเรียนรู้เน้ือหา สาระและการได้ฝึกประสบการณเ์ พ่อื การปลกู ฝังเจตคติที่ดีต่อการทางานดว้ ย (วรัทยา ธรรมกติ ติภพ, 2548 : 31) งานวิจยั ทเี่ ก่ียวข้อง ผลงานวจิ ัยเก่ียวกบั การพฒั นาการสอนวชิ า การโรงแรมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีหลากหลาย ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้ คัดเลอื กผลงานวจิ ัย ทีเ่ กี่ยวขอ้ งดงั ตอ่ ไปน้ี อนงค์ อ๊งึ ตระกูล (2541 : บทคัดย่อ) ได้ศึกษาการประเมินโดยใช้แฟ้มสะสมงานในรายวิชาบัญชีบริการ ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรยี นแม่ริมวทิ ยา จังหวัดเชยี งใหม่ พบวา่ จากการประเมิน แฟ้มสะสมงานตามเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบรบู ริคส์ สามารถแสดงให้เห็นว่านักเรียนทุกคนมีความก้าวหน้าทางการ เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งหมด คือในด้านทักษะปฏิบัติ ด้านพฤติกรรม การเรียน ด้านพฤติกรรมจิตพิสัย อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนในด้านความคิดเห็นของนักเรียนเก่ียวกับการประเมินอยู่ในระดับมาก ในด้านความ คดิ เหน็ ของผปู้ กครองทม่ี ตี อ่ การประเมินโดยใช้แฟ้มสะสมงาน ส่วนใหญพ่ อใจที่นักเรียนมีความรับผิดชอบต่องานที่ ได้รับมอบหมายให้ไปทาที่บ้าน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้เห็นผลงานบุตรหลานของตน และพบว่าบุตร หลานของตนมคี วามคิดสรา้ งสรรคม์ ากข้ึน นันทกา พหลยทุ ธ (2544 : บทคัดยอ่ ) ได้ศึกษาการพฒั นาการเรยี นการสอนเน้นนักเรียนเป็นสาคัญแบบ CIPPA MODEL ท 605 ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากกลุ่มเป้าหมาย คือนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ท่เี รยี นอยูใ่ นภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2541-2544 จานวน 260 คน พบวา่ ความก้าวหน้าในการเรียนของกลุ่ม ตัวอย่างมีความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉล่ียก่อนเรียนและหลังเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และจากการสอบถามความคิดเห็นเก่ยี วกับการจดั การเรียน การสอนเน้นนักเรียนเป็นสาคัญ CIPPA MODEL พบวา่ นกั เรียนมคี วามพงึ พอใจในระดบั มากท่สี ดุ จากเอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องท่ีกล่าวมาท้ังหมด จะเห็นได้ว่าการสอนวิชา ธุรกิจและการเป็น ผู้ประกอบการ มีความจาเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องจัดการเรียนการสอนแบบจาลองการเขียนแผนธุรกิจ เพื่อให้นักเรียน/ นักศึกษาได้รับการฝึกฝน อบรมให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงาน ตลอดจนมีทัศนคติที่ดีและมีทักษะใน วชิ าชีพ ถงึ เกณฑ์ซงึ่ เปน็ ทีย่ อมรบั กอ่ นทจ่ี ะเขา้ สู่ตลาดแรงงาน
17 บทที่ 3 วธิ ดี าเนินการ การเพม่ิ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวชิ าอุตสาหกรรมท่องเทย่ี ว ของนกั เรียนระดบั ชั้น ปวช. รร. 1/3 แผนก วิชาการโรงแรมและการบริการ วิทยาลัยอาชวี ศึกษาสรุ ินทร์ ผู้วิจยั ไดด้ าเนินการตามข้ันตอนดงั นี้ 1. ประชากรและกล่มุ ตัวอย่าง 2. เครอื่ งมอื ท่ีใชใ้ นการศึกษา 3. วธิ กี ารสรา้ งเครอ่ื งมือ 4. การออกแบบการทดลอง 5. วธิ ีดาเนนิ การทดลอง 6. การวเิ คราะหข์ ้อมลู ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง ประชากรทีใ่ ช้ในการศึกษาคร้ังน้ี ได้แก่ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ช้ันปีที่ 1 แผนก วิชาการการโรงแรมและบริการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาค เรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2562 ทัง้ หมด จานวน 25 คน กลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีใช้ในการศึกษาคร้ังนี้ ได้แก่ นักเรียน ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) ชั้นปที ่ี 1/3 แผนกวชิ าการจัดการธุรกจิ ทอ่ งเทยี่ ว จานวน 25 คน ทไี่ ดจ้ ากการสมุ่ กลุ่มตวั อยา่ ง เครื่องมอื ที่ใช้ในการศึกษา 1. แบบทดสอบ วิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ของนักเรียน ปวช. รร. 1/3 แผนกวิชาการโรงแรมและการ บรกิ าร 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ของนักเรียน ปวช. รร. 1/3 แผนก วิชาการโรงแรมและการบรกิ าร วธิ ีการสร้างเครอื่ งมอื สาหรับวิธกี ารสรา้ งเครือ่ งมือทีใ่ ชใ้ นการศึกษาครั้งน้ี ผวู้ ิจัยได้ดาเนนิ การดังนี้ 1. การจดั ทาแบบทดสอบ ผวู้ จิ ัยได้ดาเนินการดงั นี้ 1.1. ศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)พุทธศกั ราช 2556 ค่มู ือและเอกสารทเ่ี ก่ียวข้องกับ แผนการจดั การเรียนรู้ 1.2. ศกึ ษาวิธีการสร้างแบบทดสอบจากหนังสือ เอกสารและงานวจิ ัยท่ีเกย่ี วข้อง 1.3. วเิ คราะห์เน้ือหาและกาหนดขอบเขตของเนอื้ หา 1.4. กาหนดจุดประสงคท์ วั่ ไป จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมและคณุ ลกั ษณะทีต่ ้องการเน้น 1.5 กาหนดโครงสร้างและเนอื้ หาให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ 1.6 ดาเนนิ การสร้างแบบทดสอบตามลาดับของจุดประสงคก์ ารเรียน ลาดบั เนอื้ หาและโครงสร้างทกี่ าหนดไว้
18 1.7 นาแบบทดสอบให้ผเู้ ช่ยี วชาญด้านเนอื้ หาพจิ ารณา จานวน 3 คน ดังนี้ 1) นางรุง่ ทิวา สลากัน 2) นางการุณี วบิ ลู ชัย 3) นายโกศล ธนูธรรมทศั น์ 1.8 ปรบั ปรุงแบบทดสอบ ตามคาแนะนาของผู้เช่ียวชาญ 1.9 จดั ทาแบบทดสอบ สมบรู ณพ์ ร้อมทีจ่ ะนาไปใช้ในการจดั กิจกรรม การเรยี นการสอนต่อไป 2. การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาอุตสาหกรรมท่องเท่ียว โดยใช้แบบทดสอบ ผู้วิจัยได้ ดาเนินการดังน้ี 2.1 ศึกษาเอกสารและตาราทีเ่ ก่ยี วข้องกับวชิ า วิชา อตุ สาหกรรมท่องเทย่ี ว โดยใช้แบบทดสอบ 2.2 ศึกษาวธิ ีการสร้างแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากหนังสือ ตารา และเอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง 2.3 วเิ คราะห์เนือ้ หาตามจดุ ประสงคจ์ ากแผนการสอน 2.4 สร้างแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นให้ครอบคลุมเนื้อหาตามจุดประสงค์ 2.5 นาแบบทดสอบที่สร้างข้นึ ไปให้ผเู้ ชี่ยวชาญจานวน 3 ทา่ น พิจารณาเพือ่ นามาวเิ คราะห์หาคา่ ดัชนี ความสอดคล้องของแบบทดสอบกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (IOC) ดงั น้ี 1) นางร่งุ ทิวา สลากนั 2) นางการณุ ี วิบูลชยั 3) นายโกศล ธนูธรรมทศั น์ 2.6 ปรับปรงุ แบบทดสอบตามคาแนะนาของผ้เู ชี่ยวชาญ 2.7 นาแบบทดสอบไปทดลองใช้เพ่ือวิเคราะหห์ าค่าความยากง่าย (P) และคา่ อานาจจาแนก (r) โดย พจิ ารณาวา่ ข้อใดทีน่ ักเรยี นตอบถูกมากตัดออก ข้อใดทีน่ กั เรยี นตอบถูกนอ้ ยตดั ออก 2.8 นาแบบทดสอบท่ีวเิ คราะหไ์ ด้ไปปรับปรงุ ใหม่ จดั พิมพเ์ ป็นฉบับสมบรู ณ์ นาไปใช้ในการจัดกจิ กรรม การเรียนการสอนตอ่ ไป การออกแบบการทดลอง ผู้วิจยั ได้วางแผนการทดลองโดยใชก้ ลมุ่ เดยี วมลี ักษณะของการทดสอบนกั เรียน กอ่ นเรยี น (Pre-test) ดาเนนิ กจิ กรรมการเรยี นการสอน (Treatment) ทดสอบนกั เรียนหลงั เรยี น (Post-test) การเก็บรวบรวม 1.Q1 = การทดสอบกอ่ นเรียน 2. X = การเรยี นการสอนโดยใช้แบบจาลอง 3. Q2 = การทดสอบหลงั เรยี น การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในการวเิ คราะห์ขอ้ มูลผู้วิจัยได้ดาเนินการดงั น้ี 1. การหาค่าสถิติพน้ื ฐาน คอื รอ้ ยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของคะแนนทไี่ ด้ จากการ ทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น โดยใชส้ ูตรดงั น้ี (บญุ ชม ศรสี ะอาด, 2543 : 102 – 103) 1.1 ค่ารอ้ ยละ P = f x 100 N เมอ่ื P แทน คา่ รอ้ ยละ f แทน ความถที่ ี่ตอ้ งการแปลงใหเ้ ปน็ รอ้ ยละ N แทน จานวนความถ่ีท้ังหมด
19 1.2 ค่าเฉลย่ี X= X เมือ่ X N แทนค่าเฉล่ีย ∑X แทนผลรวมของคะแนนทัง้ หมดในกล่มุ N แทนจานวนคะแนนในกลุ่ม 1.3 สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน S = N X 2 ( X )2 N (N 1) เมอื่ S แทนสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน ∑X แทนผลรวมของคะแนนแต่ละตัว N แทนจานวนคะแนนในกลุ่ม 2. การเปรียบเทยี บผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของคะแนนก่อนเรียนและหลงั เรยี น วชิ า งานสว่ นหนา้ โรงแรม ดว้ ยการทดสอบคา่ (t-test) (บญุ ชม ศรสี ะอาด, 2543 : 109) t= D n D2 (D)2 (n 1) t แทนคา่ สถิตทิ ่ีจะใชเ้ ปรียบเทียบกบั ค่าวิกฤต D แทนผลตา่ งระหว่างคคู่ ะแนน n แทนจานวนกลมุ่ ตัวอยา่ งหรือจานวนคคู่ ะแนน
20 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ผลการวิเคราะหข์ ้อมูลการเพิ่มผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชาอุตสาหกรรมท่องเทย่ี ว ของนักเรียนระดบั ช้นั ปวช. รร. 1/3 แผนกวชิ าการโรงแรมและการบริการ วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาสุรินทร์ผลการวิเคราะหข์ ้อมูลปรากฏดังนี้ ตารางท่ี 1 แสดงจานวนร้อยละ ค่าเฉล่ีย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนทดสอบ ก่อนเรียน และหลังเรยี นวิชารายวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ของนักเรียนระดับชั้น ปวช. รร. 1/3 แผนกวิชาการโรงแรมและ การบริการ วทิ ยาลัยอาชวี ศกึ ษาสรุ ินทร์ คะแนน ร้อยละ X S ————————————————————————————————————— คะแนนทดสอบกอ่ นเรียน 44 4.4 1.3 คะแนนทดสอบหลังเรียน 93 9.3 0.67 ————————————————————————————————————— จากตารางท่ี 1 พบว่าผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบก่อนเรียนมีคา่ เฉล่ีย 44(S = 1.3) คิดเป็นรอ้ ยละ 44 ส่วนผลสัมฤทธ์ขิ องคะแนนทดสอบหลงั เรยี นมีคา่ เฉล่ยี 9.3 ( S = 0.67) คดิ เปน็ รอ้ ยละ 93 (ตารางภาคผนวกท่ี 1, 2) ตารางที่ 2 การเปรยี บเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี นรายวิชา อุตสาหกรรมทอ่ งเท่ียว ของนักเรียนระดับชน้ั ปวช. รร. 1/3 แผนกวิชาการโรงแรมและการบริการ วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาสุรินทร์ ————————————————————————————————————— คะแนน รอ้ ยละ X S t ————————————————————————————————————— คะแนนทดสอบกอ่ นเรียน 44 4.4 1.3 18.2 คะแนนทดสอบหลังเรยี น 93 9.3 0.67 ————————————————————————————————————— t (.05 , df. 5) = 1.73 จากตารางที่ 2 พบว่าค่า t ที่คานวณไดม้ ีค่าเทา่ กับ 18.2 ส่วนค่า t จากตารางทรี่ ะดบั .05, df.5 มีค่า เท่ากับ 1.73 ซึง่ คา่ t ที่ไดจ้ ากการคานวณมีค่ามากกวา่ คา่ t ในตารางนั่นคือคะแนนทไี่ ด้จากการทดสอบหลัง เรยี นสงู กวา่ คะแนนที่ไดจ้ ากการทดสอบกอ่ นเรียนอยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถิติทร่ี ะดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานท่ีตงั้ ไว้ (ตารางภาคผนวกท่ี 3)
21 บทท่ี 5 สรุปผล อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ การศกึ ษาผลการใชเ้ อกสารประกอบการเรยี นการสอนรายวิชาอุตสาหกรรมท่องเทยี่ ว ของนักเรยี นระดับชั้น ปวช. รร. 1/3 แผนกวิชาการโรงแรมและการบรกิ าร วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาสุรนิ ทร์ ผลการวจิ ยั สรุปได้ดงั น้ี วัตถปุ ระสงค์ของการวจิ ัย 1. ศกึ ษาผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นรายวิชาอตุ สาหกรรมท่องเที่ยว ของนักเรียนระดับช้นั ปวช. รร. 1/3 แผนก วิชาการโรงแรมและการบริการ วทิ ยาลัยอาชวี ศกึ ษาสรุ ินทร์ 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบก่อนเรียนกับหลังเรียนรายวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ของนักเรยี นระดบั ชัน้ ปวช. รร. 1/3 แผนกวิชาการโรงแรมและการบรกิ าร วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาสรุ นิ ทร์ วิธีดาเนนิ การวิจัย ผ้วู จิ ัยได้วางแผนการทดลองโดยใชก้ ลุม่ เดยี วมีลกั ษณะของการทดสอบนักเรยี น ก่อนเรียน (Pre-test) ดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอน (Treatment) ทดสอบนักเรียนหลังเรียน (Post-test) สรปุ ผล 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาอุตสาหกรรมท่องเท่ียว ของนักเรียนระดับชั้น ปวช. รร. 1/3 แผนก วิชาการโรงแรมและการบริการ วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาสุรินทร์ พบวา่ ผลสัมฤทธข์ิ องคะแนนทดสอบก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย 4.4 ( S =1.3) สว่ นผลสมั ฤทธ์ิของคะแนนทดสอบหลังเรียนมีคา่ เฉลี่ย 9.3( S = 0.67) 2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบก่อนเรียนหลังหลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพ่ืองานส่วน หน้าโรงแรม ของนักเรียน ปวช.กร.4/3 แผนกวิชาการโรงแรมและการบริการ ที่สอนโดยใช้แบบทดสอบ พบว่า ผลสัมฤทธิข์ องคะแนนทดสอบหลงั เรียนสงู กว่าก่อนเรียน อยา่ งมนี ัยสาคญั ทางสถติ ิที่ระดับ .05 อภิปรายผล จากผลการวิจัยการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาอุตสาหกรรมท่องเท่ียว ของนักเรียนระดับช้ัน ปวช. รร. 1/3 แผนกวชิ าการโรงแรมและการบริการ วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาสุรินทร์ สามารถอภิปรายผลไดด้ งั น้ี ผลการเปรยี บเทียบผลสมั ฤทธขิ์ องคะแนนทดสอบกอ่ นเรยี นหลังหลงั เรยี นรายวิชาอุตสาหกรรมทอ่ งเทยี่ ว ของนักเรียนระดบั ช้นั ปวช. รร. 1/3 แผนกวชิ าการโรงแรมและการบริการ วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาสุรนิ ทร์ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบหลงั เรียนสูงกว่ากอ่ นเรยี น อย่างมีนยั สาคัญทางสถิติทรี่ ะดับ .05 ทง้ั นี้เนอ่ื งมาจากที่ ผู้ศกึ ษาคน้ คว้า และส่วนการตรวจสอบคุณภาพเชี่ยวชาญ พจิ ารณาความสอดคลอ้ ง ในการแบบทดสอบ ส่อื ที่เข้าถงึ ผู้เรยี นได้งา่ ยมเี น้อื หาทนั สมยั เหมาะสมกบั นักศกึ ษาสามารถเอกสารกอ่ นการเรียนการเขา้ เรียนและมอบหมายของ ครูผสู้ อนที่เกยี่ วข้อง เนื้อหาวิชาและแบบฝึกหัดให้นักศึกษาได้ฝึกปฏบิ ตั ติ ามความเหมาะสม ทาใหน้ กั ศึกษามคี วาม สนใจและกระตอื รือร้นที่อยากจะเรยี นส่งผลให้นักศกึ ษามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นสูงขึ้นซงึ่ สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของ นยั นา นิลคล้าย (2551 : บทคัดย่อ)ได้รายงานผลการใชเ้ อกสารประกอบการสอนวิชาวิถีธรรมวิถีไทย เร่ืองการ แก้ปญั หานกั เรียนขาดทกั ษะในการอา่ นภาษาบาลี พบวา่ นักศึกษาทใ่ี ช้แบบทดสอบ ตวั แปรเดียวมีคะแนนจากการ ทดสอบวัดผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนภายหลงั เรยี นสูงกวา่ กอ่ นเรียนมนี ัยสาคญั ท่สี ถิติทมี่ รี ะดบั 0.63
ขอ้ เสนอแนะ 22 1.ขอ้ เสนอแนะในการนาการศกึ ษาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนวชิ าอุตสาหกรรมทอ่ งเท่ียวไปใช้ 1.1จากการวิจยั ควรนาวธิ ีการแสดงบทบาทสมมตไิ ปใชก้ ับการเรียนในหน่วยอ่นื ๆ ในวิชาเรยี น 1.2ควรนาวธิ กี ารแสดงบทบาทสมมติไปใชก้ ับการเรยี นการสอนในระดบั อ่นื ๆ 2. ข้อเสนอแนะในการศกึ ษาค้นคว้าตอ่ ไป 2.1 ควรมีการศกึ ษาวจิ ยั เพอ่ื เปรียบเทียบ โดยการสอบถามความคิดเห็นของผู้เรียน ท่ีมีต่อวธิ ีการแสดงบทบาท สมมติ เพอื่ นามาปรับปรุงพัฒนาใหเ้ ป็นวิธกี ารมีประสทิ ธภิ าพตอ่ การเพม่ิ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นยิ่งข้นึ
บรรณานกุ รม 23 ชาติชาย พิทักษธ์ นาคม. 2544. จิตวทิ ยาการเรียนการสอน. กรงุ เทพมหานคร : จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย. นันทกา พหลยทุ ธ. 2544. รายงานการพัฒนาการเรยี นการสอนเนน้ นกั เรียนเปน็ สาคัญ CIPPA MODELท 605 ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6.http:/www.thairesearch.org/result/info2.php? นวลจติ ต์ เชาวกีรตพิ งศ์. 2535. การพัฒนารูปแบบการจดั การเรียนการสอนทเ่ี น้นทักษะปฏบิ ตั ิสาหรับครูวชิ า อาชีพ. วทิ ยานพิ นธ์ปรญิ ญาเอก , จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย. บุญชม ศรีสะอาด. 2543. การวิจยั เบอื้ งต้น. พมิ พค์ รัง้ ท่ี 6. กรงุ เทพมหานคร : สุวีรยิ าสาสน์ , วรทั ยา ธรรมกติ ติภพ. 2548. แนวทางการจดั การเรียนการสอนตามแนวทางสมรรถภาพวิชาชีพ สาขางานการ บญั ชี หลักสตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พุทธศกั ราช 2545 (ปรับปรงุ พุทธศกั ราช 2546). วทิ ยานิพนธ์ ปริญญาเอก, มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. ศึกษาธกิ าร,กระทรวง.2546.หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพพทุ ธศักราช2545ประเภทวิชาอุตสาหกรรม. (ปรับปรงุ พ.ศ. 2546). (อัดสาเนา) _____. 2544 การจัดการเรียนรู้โดยใชก้ ระบวนการวิจยั . กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ครุ ุสภา ลาดพร้าว . สมภพ สวุ รรณรฐั . หลักและแนวทางการจดั การเรียนการสอนอาชวี ศกึ ษา โดยยดึ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ ตามรปู แบบ CIPPA . เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัติการ “เขียนแผนการสอนท่เี นน้ สมรรถนะอาชพี ” , ม.ป.ป. (อัดสาเนา) ไสว ฟักขาว. 2544. หลกั การสอนสาหรบั เปน็ ครมู ืออาชพี . กรุงเทพมหานคร : เอมพันธ์. อนงค์ อ๊ึงตระกลู . 2541. การประเมนิ โดยใชแ้ ฟ้มสะสมงานรายวชิ าบญั ชีบริการระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3. วิทยานพิ นธ์ศึกษาศาสตรม์ หาบัณฑติ ภาควิชาอาชีวศกึ ษา บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวิทยาลัย เชียงใหม่. อรทยั มูลคา และสวุ ทิ ย์ มูลคา. 2544. CHILD CENTRED:STORTLINE METHOD: การบูรณาการหลักสูตรและการเรียนการสอนโดยเนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ. กรุงเทพมหานคร : ภาพพมิ พ.์ อาภรณ์ ใจเทย่ี ง. 2546. หลกั การสอน. พิมพ์คร้ังที่ 3. กรงุ เทพมหานคร : โอ.เอส.พรนิ ตงิ้ .เฮา้ ส์.
24 ภาคผนวก
ภาคผนวก ก 25 แสดงคะแนนผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ตารางภาคผนวกท่ี 1 แสดงผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนรายวชิ า อุตสาหกรรมท่องเท่ยี ว ————————————————————————————————————— นกั เรยี น คะแนนทดสอบก่อนเรียน คะแนนทดสอบหลังเรยี น (คน) (..10.. คะแนน) (..10.. คะแนน) ---------------————————————————————————————————— 1. 7 9 2. 6 9 3. 5 8 4. 5 8 5. 6 9 6. 7 7 7. 5 7 8. 6 8 9. 5 9 10. 6 10 11. 4 7 12. 8 8 13. 6 9 14. 5 8 15. 5 7 16. 5 9 17. 7 9 18. 6 9 19. 9 9 20. 9 10 21. 8 8 22. 7 8 23. 6 6 24. 4 8 25. 6 8 ————————————————————————————————————— รวม .....153......... ......207........ เฉลี่ย .....6.12........ ....8.28...... ร้อยละ .....61.2........ ......82.8...... สตู รท่ีใช้ในการคานวณหาคา่ รอ้ ยละ (บุญชม ศรีสะอาด, 2543 : 102)
26 P = f Χ 100 N เมอื่ P แทน ค่าร้อยละ f แทน ความถ่ีทีต่ อ้ งการแปลงให้เปน็ ร้อยละ N แทน จานวนความถ่ีทง้ั หมด คา่ รอ้ ยละของคะแนนทดสอบกอ่ นเรยี น P = f Χ 100 N = ……153….. Χ 100 250 = ……61.2…….. คา่ รอ้ ยละของคะแนนทดสอบหลังเรยี น P= f Χ 100 N = ……207….. Χ 100 250 = ……82.8….. สตู รท่ีใช้ในการคานวณหาคา่ เฉลีย่ (บุญชม ศรีสะอาด, 2543 : 103) X= X N เม่อื X แทนค่าเฉลยี่ ∑X แทนผลรวมของคะแนนทั้งหมดในกลมุ่ N แทนจานวนคะแนนในกลุม่ ค่าเฉล่ยี ของคะแนนทดสอบกอ่ นเรียน X= X N =………153……………. 25
27 =………6.12…………… คา่ เฉลีย่ ของคะแนนทดสอบหลงั เรียน X= X N =………207……………. 25 =………8.28………………… ตารางภาคผนวกท่ี 2 แสดงคะแนนสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานของคะแนนทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี นรายวิชา อตุ สาหกรรมท่องเท่ียว ของนกั เรยี น ปวช. รร. 1/3 แผนกวชิ าการโรงแรมและการบริการ ที่สอนโดยใชแ้ บบทดสอบ นักเรียน คะแนนทดสอบกอ่ นเรยี น คะแนนทดสอบหลงั เรียน (คน) X X1X 2 2 X 2 1 2 1. 7 49 9 81 2. 6 36 9 81 3. 5 25 8 64 4. 5 25 8 64 5. 6 36 9 81 6. 7 49 7 49 7. 5 25 7 49 8. 6 36 8 64 9. 5 25 9 81 10. 6 36 10 100 11. 4 16 7 49 12. 8 64 8 64 13. 6 36 9 81 14. 5 25 8 64 15. 5 25 7 49 16. 5 25 9 81 17. 7 49 9 81 18. 6 36 9 81 19. 9 81 9 81 20. 9 81 10 100 21. 8 64 8 64 22. 7 49 8 64 23. 6 36 6 36 24. 4 16 8 64
25. 6 36 8 64 28 รวม ∑X 1 =153 ∑ X 2 =981 ∑X2 =207 ∑ X 2 =1737 1 2 สตู รทใี่ ช้ในการคานวณค่าส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน (บญุ ชม ศรสี ะอาด, 2543 : 103 – 104) S = N X 2 ( X )2 N (N 1) เม่อื S แทนส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน X แทนคะแนนแตล่ ะตัว N แทนจานวนคะแนนในกลุ่ม ∑ แทนผลรวม ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานของคะแนนทดสอบกอ่ นเรียน S = N X 2 ( X )2 N (N 1) = 25(981) (153) 25(25 1) = 24525 23409 600 = 1.86 = 1.36 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนทดสอบหลงั เรียน S = N X 2 ( X )2 N (N 1) = 25(1737) (207) 25(25 1) = 43425 42849 600 = 0.96 = 0.97
29 ตารางภาคผนวกท่ี 3 แสดงการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของคะแนนกอ่ นเรยี นและหลงั เรียนรายวชิ า อุตสาหกรรมทอ่ งเที่ยว ปวช. รร. 1/3 แผนกวิชาการโรงแรมและการบรกิ าร ผลต่าง (ผลต่าง)2 นกั เรยี น คะแนนทดสอบ D2 (คน) หลังเรียน (Y) กอ่ นเรยี น (X) (D) 1. 9 7 2 4 2. 9 6 3 9 3. 8 5 3 9 4. 8 5 3 9 5. 9 6 3 9 6. 7 7 0 0 7. 7 5 2 4 8. 8 6 2 4 9. 9 5 4 16 10. 10 6 4 16 11. 7 4 3 9 12. 8 8 0 0 13. 9 6 3 9 14. 8 5 3 9 15. 7 5 2 4 16. 9 5 4 16 17. 9 7 2 4 18. 9 6 3 9 19. 9 9 0 0 20. 10 9 1 1 21. 8 8 0 0 22. 8 7 1 1 23. 6 6 0 0 24. 8 4 4 16 25. 8 6 2 4 ∑ D 2 = 162 รวม ∑D = 54
สูตรทใี่ ชใ้ นการคานวณค่า t (บญุ ชม ศรีสะอาด, 2543 : 109 – 110) 30 t= D n D2 (D)2 (n 1) t แทนคา่ สถิติท่ีจะใชเ้ ปรียบเทียบกับคา่ วิกฤต D แทนผลตา่ งระหวา่ งคูค่ ะแนน n แทนจานวนกลุ่มตัวอยา่ งหรอื จานวนคคู่ ะแนน t= ....54.......... ..25....162.. (..54..)2 (.25.... ..1....) = ......54........ ...4050... ..2916.... ...24........ = ........54...... ...1134...... ....24....... = 54 47.25 = 54 6.87 = 7.86
31 ภาคผนวก ข ประวัตผิ ูว้ ิจัย
32 ช่ือ – นามสกุล ประวัตผิ วู้ ิจัย วฒุ กิ ารศึกษา สถานท่ีทางาน นางสาวธนั ยาภรณ์ ไชยสอน ศลิ ปศาสตรบ์ ญั ฑิต (ศศ.บ.)การทอ่ งเท่ียวและการโรงแรม ประสบการณ์ วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาสรุ ินทร์ ผลงานทางวชิ าการ พ.ศ. 2558 – ปจั จบุ นั ครูแผนกวิชาการการโรงแรมและการบริการ ทีว่ ทิ ยาลัยอาชีวศึกษาสรุ ินทร์ ..............................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: