มาตราตวั สะกด แม่ เกย มาตราเกย หรือที่เรียกว่า แมเ่ กย คอื คาหรอื พยางค์ ทมี่ ี ย เป็นตวั สะกด เชน่ สาย เนย กลว้ ย ฯลฯ ยกเว้น คา หรอื พยางค์ทเ่ี ขยี นดว้ ย สระ เ -ี ย ไมใ่ ชค่ าหรอื พยางค์ทีม่ ีตวั สะกดในแม่ เกย เช่น เสีย เปียก เรียก ตัวอย่างคาทีส่ ะกดด้วยแม่ เกย สวย ชาย เลย หอย ภยั เลอ่ื ย ด้าย โดย หน่วย ทุย ฯลฯ ตัวอยา่ งประโยคทม่ี ตี วั สะกดแม่ เกย - ยายขายใบเตย - ควายกินหญา้ - เดก็ ชายหลายคนวา่ ยน้า
เรอื่ ง มาตราตัวสะกด แม่ กม ตัวสะกดในมาตรา แม่ กม คือคาในภาษาไทยท่ีสะกดด้วยตวั ม เพียงตวั เดยี วเปน็ ตัวสะกด ท่ตี รงตามมาตราเพราะไม่สามารถเอาพยัญชนะตัวอ่ืนมาเป็นตัวสะกดแทนได้ คาท่มี ี ม เป็น ตัวสะกดหรอื คาในมาตรา แม่ กม เช่น ตวั อยา่ ง ประโยคทีม่ ีคาในแม่ กม * ดอกลนั่ ทมมกี ลิ่นหอม และมสี สี วยงาม * คุณแมท่ าขนมใหค้ ณุ พ่อลองชมิ * ลมพัดแรงจนตน้ ไม้หกั โคน่ * เขาปลกู กระทอ่ มทร่ี มิ แมน่ า้ * คณุ ตาชอบดื่มนา้ ชาหลังจากรบั ประทานอาหาร คาท่ีมี ม สะกดเปน็ ตัวสะกดในมาตราแม่ กม ออกเสียงเหมือน ม จม อ่านว่า จอ –โอะ –มะ – จม ขม อา่ นว่า ขอ –โอะ –มอ – ขม ตาม อ่านวา่ ตอ –อา –มอ –ตาม จาม อา่ นว่า จอ –อา –มอ –จาม มมุ อ่านวา่ มอ –อุ –มอ –มมุ โสม อา่ นวา่ สอ –โอ –มอ –โสม แบบฝกึ อ่านมาตราแม่ กม มีดคม จมนา้ ตรอมตรม สามสี มะยม ขนมหวาน สนาม แมงมุม ร่มสวย ซอ่ มแซม เสยี งคม กลมกลอ่ ม
ใบงาน ชดุ ที่ ๑๐ คาช้แี จง บตั รคาถูกแบง่ เป็น ๒ ช้นิ ใหน้ กั เรยี นจบั ค่เู ชื่อมบตั รคาเข้าดว้ ยกันด้วยการโยงเสน้ ชื่อ.................................................................เลขที่ ..................... ชั้น...............
ใบงาน ชดุ ท่ี ๑๑ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนหาคาตอบของข้อความต่อไปน้ี และต้องเป็นคาในมีตวั สะกดใน แม่ เกอว ท่ี ความหมาย คา ๑ สีทีต่ รงขา้ มกบั สดี า ๒ การยนื รอโดยเรียงลาดับมาก่อนมาหลงั ๓ นกชนดิ หนงึ่ สามารถพดู ภาษาคนได้ ๔ ผลไมช้ นดิ หนง่ึ ผวิ เกล้ยี ง ลกู กลม รสเปร้ยี ว ๕ อวัยวะส่วนที่ต่อจากมือ ใช้หยบิ จบั ๖ ภาชนะทใ่ี ชใ้ สเ่ ครอ่ื งดมื่ ทาจากทรายแตกหกั ง่าย ๗ สตั ว์ชนดิ หนึง่ คล้ายนก เวลานอนหอ้ ยศรี ษะลงดนิ ๘ สตั วส์ เี่ ทา้ ชอบกินปลา มสี ข่ี า คนเลยี้ งไว้ดเู ลน่ ๙ ผลไม้ชนดิ หน่งึ คนนยิ มนามาทาเป็นกะทิ ๑๐ ข้าวที่คนในภาคตะวันออกเฉียงเหนอื สว่ นใหญ่รบั ประทาน ชื่อ.................................................................เลขที่ ..................... ช้ัน...............
ใบงาน ชดุ ที่ ๑๒ คาชี้แจง ให้นักเรียนหาคาที่มีตวั สะกดแม่ เกย ในต้นไม้แลว้ ระบายสแี ตง่ เตมิ ให้สวยงาม ช่อื .................................................................เลขที่ ..................... ชนั้ ...............
เฉลยใบงาน ชุดท่ี ๑๑ ๑. สขี าว ๒. เขา้ ควิ ๓. นกแกว้ ๔. มะนาว ๕. น้วิ ๖. แก้ว ๗. คา้ งคาว ๘. แมว ๙. มะพรา้ ว ๑๐. ข้าวเหนียว เฉลยใบงาน ชดุ ที่ ๑๒
แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรื่อง ปา่ น้ีมคี ณุ เวลา ๙ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๗ เรื่อง มาตรตัวสะกด แม่กก และแมก่ ด เวลา ๑ ชัว่ โมง วนั ท่ี ........................................................................................................................................ ********************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ อง ชาติ ตวั ช้ีวดั ท ๔.๑ ป.๓ / ๑ เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกพยัญชนะทใี่ ชเ้ ปน็ ตวั สะกดในมาตรา แม่กก และ แมก่ ด ได้ ๒. บอกคาท่ีมีตัวสะกดในมาตรา แม่กก และ แม่กด ได้ ๓. บอกสว่ นประกอบคาในมาตรา แมก่ ก และ แม่กด ได้ สาระสาคญั มาตราตวั สะกดมาตราแม่ กก ได้แก่คาที่มีตวั ก สะกด ซึ่งเรียกว่าเปน็ ตวั สะกดตรงตามมาตรา และมี พยัญชนะอื่นท่ีออกเสียงเหมือน ก สะกด ซ่งึ เรยี นวา่ ตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา แม่ กด คอื พยางค์ท่ีออกเสยี งเหมือนมตี ัว “ ด” สะกด มีตัวสะกดท่ีไมต่ รงมาตราทงั้ หมด ๑๖ ตวั คือ จ ช ซ ฌ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ต ถ ท ธ ศ ษ ส สาระการเรยี นรู้ มาตราตวั สะกดทตี่ รงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา ตวั สะกดมาตรา แมก่ ก และ แมก่ ด สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. รกั ความเป็นไทย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มีจติ สาธารณะ
๔. มีวนิ ยั ๕. อย่อู ยา่ งพอเพียง ชนิ้ งาน / หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้ ๑. การทาใบงาน ๒. แบบบนั ทึกผลการประเมิน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ทบทวนเน้อื หาทเี่ รยี นในชั่วโมงทแ่ี ลว้ ด้วยการให้นกั เรยี นนาใบงานชุดท่ี ๖ – ๗ มาร่วมกนั ตรวจสอบและเฉลยอกี คร้ัง ๒. นกั เรยี นรบั ใบความรู้ เรือ่ ง“มาตราตวั สะกด แม่กก และ แมก่ ด”(ท้ายแผน)จากครูจากนน้ั ให้แต่ละ กลุ่มหาคาท่ีมีตวั สะกดในมาตรา แมก่ ก และ แม่กด จากบทที่ ๓ “ ป่านม้ี ีคุณ” ใหไ้ ดม้ ากท่ีสุดเขียนลงใน แผ่นกระดาษ สง่ ตัวแทนกล่มุ อ่านคาในมาตรา แม่กก และ แมก่ ด ที่ชว่ ยกันหามาท่หี นา้ ชั้นเรยี น ๓. นกั เรียนฟังครูอ่านคาในมาตรา แม่กก และ แม่กด อยา่ งละ ๑๐ คา และให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มส่ง ตัวแทนคร้งั ละ ๑ คน ออกไปแขง่ ขนั การเขยี นตามคาบอก ที่กระดานดา ๔. นกั เรยี นทกุ คนคัดลอกคาที่กลมุ่ ตนเองชว่ ยกันหาลงในสมุด (เนน้ คัดสวยงาม) ครูสรปุ เนอ้ื หาสาระ การเรียนรทู้ งั้ หมดอีกคร้ังหนึ่ง ๕. นกั เรียนทาใบงานท่ี ๑๓ (ทา้ ยแผน) ชุด ประสมคาจากพยญั ชนะ สระ ตวั สะกด และวรรณยกุ ต์ ให้มีความหมาย จากนั้นนาส่งครู ครเู ฉลยและนักเรียนแลกเปลีย่ นกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๖. นกั เรียนทาใบงานที่ ๑๔ (ท้ายแผน)ชุด หาคาที่มตี ัวสะกดในมาตรา แม่กดจากตารางทกี่ าหนดให้ เสร็จแลว้ ครูเฉลยและตรวจสอบความถูกต้อง สื่อ / แหล่งเรยี นรู้ / บคุ คล ลาดบั ท่ี รายการส่ือ กจิ กรรมทใ่ี ช้ แหลง่ ทไี่ ด้มา ๑ ใบความรูเ้ ร่อื ง มาตราตวั สะกดแม่กก และ แม่กด ครูใช้ประกอบคาอธิบาย ครจู ดั เตรียม ๒ ใบงาน ชดุ ท่ี ๑๓ – ๑๔ นักเรียนทาใบงาน ครูจัดทา ๓ บตั รคา นักเรยี นฝกึ ทักษะการอ่าน ครจู ดั ทา ๔ หนังสอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย ชุดภาษา นกั เรียนอ่านเรื่อง ครจู ัดทา เพ่อื ชีวิต ภาษาพาที ชนั้ ป.๓ ๕ เกณฑ์การประเมนิ ( Rubric ) สรา้ งกฎของการประเมนิ ครูจัดทา ๖ แบบประเมนิ ผลงานรายกลุ่ม ประเมนิ ผลงานรายกลุ่ม ครูจดั ทา ๗ แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม และ บันทึกการสงั เกต ครูจดั ทา แบบประเมินผลงานรายบคุ คล พฤติกรรม และบันทึก ผลงานรายบุคคล
วัดผลประเมินผล เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ใน วธิ ีการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ การประเมนิ สังเกตรายบคุ คล กจิ กรรมทีป่ ระเมิน ๘ - ๑๐ = ดมี าก ๑. สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบประเมนิ การสงั เกต ๖ – ๗ = ดี พฤติกรรมและแบบประเมนิ ๕ = พอใช้ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ผลงาน ตา่ กว่า ๕ = ปรับปรงุ ๒. การเขียนตามคาบอก แบบประเมนิ การสงั เกต ตรวจงานรายกลมุ่ ๘ - ๑๐ = ดีมาก พฤติกรรมและแบบประเมิน ตรวจงานรายบคุ คล ๖ – ๗ = ดี ๓. นักเรยี นทาใบงาน ผลงาน ตรวจงานรายบคุ คล ๕ = พอใช้ ชุดที่ ๑๓ ตา่ กว่า ๕ = ปรับปรงุ แบบประเมินการสังเกต ๘ - ๑๐ = ดมี าก ๔. นักเรยี นทาใบงาน พฤติกรรมและแบบประเมิน ๖ – ๗ = ดี ชดุ ที่ ๑๔ ผลงาน ๕ = พอใช้ ต่ากวา่ ๕ = ปรับปรงุ แบบประเมินการสงั เกต ๘ - ๑๐ = ดีมาก พฤติกรรมและแบบประเมิน ๖ – ๗ = ดี ผลงาน ๕ = พอใช้ ตา่ กว่า ๕ = ปรบั ปรุง
การประเมนิ ด้านทกั ษะ / กระบวนการ ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดบั คะแนน ทักษะการ สรุปเนอ้ื หา ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐) การรายงานหนา้ ช้ัน สรปุ เนอื้ หาได้กระชับ สรปุ เนอื้ หาได้กระชบั สรปุ เนือ้ หาได้ไม่กระชับ การปฏบิ ัติงานตาม ใจความครบถ้วน ใจความเกือบครบถว้ น ใจความและไม่ครบถว้ น ข้ันตอน ความคิดสร้างสรรค์ สามารถสอ่ื ใหผ้ ู้อนื่ เข้าใจ สามารถส่อื ให้ผู้อ่ืนเข้าใจ สามารถสอ่ื ให้ผู้อนื่ เข้าใจ ความเป็นระเบยี บ เรยี บร้อยของการทา ได้ง่าย ได้ ไดน้ ้อย ใบงาน สามารถพดู รายงานได้ดี สามารถพดู รายงานได้ดี สามารถพูดรายงานไดด้ ี พดู เสยี งดังฟังชดั ไดส้ าระ พดู นา้ เสยี งชัดเจน พดู นา้ เสยี งไมช่ ดั เจน ไม่ ชดั เจน วางบคุ ลิกในการ สอดคลอ้ งกบั เนื้อหาท่ี คอ่ ยสอดคล้องกบั เนื้อหา พดู ได้ดีมาก พดู วางบุคลิกในการพูด ทพี่ ดู วางบุคลกิ ในการ ไดด้ ี พดู ไมค่ ่อยดี มที กั ษะการปฏบิ ตั ิงาน มีการปฏิบตั ิงานตาม ยงั ไมส่ ามารถปฏบิ ตั งิ าน ตามขั้นตอน ได้อยา่ ง ขัน้ ตอนได้ตามลาดบั ตามขัน้ ตอนได้ ถูกต้องและเหมาะสม มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ดี พอมคี วามคิดที่ ยงั ขาดความคิดท่ี สร้างสรรค์อยบู่ ้าง สร้างสรรค์ มีทกั ษะสามารถสร้างงาน สามารถสร้างงานทีส่ วน ไมม่ ีความสวยงาม และไม่ ทส่ี วยงาม และมีความ งามพอใช้ได้ และมี ประณตี ประณีตดี ความประณีตในบางสว่ น
การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การให้ระดับคะแนน ซื่อสตั ยส์ จุ รติ มีวินยั ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรบั ปรุง (๐) ใฝ่เรียนรู้ ทางานอย่างตรงไป ทางานอย่างตรงไป ทางานอย่างตรงไป อยู่อยา่ งพอเพยี ง มีจิตสาธารณะ ตรงมา ยอมรับใน ตรงมา ไม่ยอมรับใน ตรงมา ไม่ยอมรับใน ขอ้ ผดิ พลาดและ ข้อผิดพลาดและ ข้อผดิ พลาดและ บกพร่องของตนเอง บกพร่องของตนเอง บกพร่องของตนเองไม่ พอใจในสิง่ ที่ตนมี พอใจในส่ิงท่ีตนมี คอ่ ยพอใจในสิ่งที่ตนมี รู้จักควบคุมอารมณ์ รู้จกั ควบคมุ อารมณ์บ้าง ไมร่ ้จู ักควบคมุ อารมณ์ ปฏบิ ตั ิตนอย่ใู นระเบยี บ ปฏิบัตติ นอยู่ในระเบียบ ปฏิบตั ิตนอยูใ่ นระเบยี บ วินัย แตง่ กายถกู ตอ้ ง วินยั การแต่งกายไม่ วินัยนอ้ ย ไม่ค่อยแตง่ ตามระเบยี บของ ค่อยถูกต้องตามระเบียบ กายถูกตอ้ งตามระเบยี บ โรงเรยี นตลอดเวลา ของโรงเรยี น ของโรงเรยี น มคี วามมานะมุ่งมน่ั ใน มคี วามมานะมงุ่ มัน่ ใน ไมม่ ีความมานะมงุ่ มัน่ ใน การทางานทีไ่ ดร้ บั การทางานที่ไดร้ ับ การทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ศึกษาคน้ คว้า มอบหมาย ศกึ ษาค้นคว้า มอบหมาย ไม่ค่อยศึกษา ดว้ ยตนเองทางานเสรจ็ ด้วยตนเองเปน็ บางคร้ัง คน้ คว้าดว้ ยตนเอง ทันเวลาและถูกต้อง ทางานเสรจ็ ทนั เวลาเป็น ทางานเสรจ็ ไม่ทนั เวลา บางครั้ง ใช้วสั ดุอุปกรณก์ ารเรยี น ใช้วสั ดอุ ปุ กรณก์ ารเรยี น ใช้วสั ดุอุปกรณก์ ารเรยี น ที่ราคาถูกและใช้อยา่ ง ทรี่ าคาค่อนข้างแพงและ ท่รี าคาค่อนข้างแพงและ คุ้มค่าใช้จนหมดแล้ว ใช้อย่างคุ้มคา่ ใช้จนหมด ใช้อย่างคุ้มคา่ ใช้ไม่ คอ่ ยซ้ือใหม่ หมดแลว้ ซ้ือใหม่ มคี วามเสียสละเพอื่ มีความเสยี สละเพอ่ื ไม่ค่อยเสียสละเพอื่ ส่วนรวม ไมเ่ อาเปรียบ ส่วนรวมเป็นบางครัง้ ส่วนรวม ชอบเอาเปรียบ ไม่เหน็ แก่ตัวช่วยเหลือ ไม่เอาเปรยี บไม่เหน็ แก่ คนอ่ืน ค่อนข้างเหน็ แก่ หมคู่ ณะไดเ้ ปน็ อย่างดี ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื หมู่ ตวั ไม่คอ่ ยช่วยเหลือหมู่ คณะ คณะ ๑๐. กิจกรรมเสนอแนะ -
ใบความรู้ มาตราตวั สะกด แม่ กก มาตราตวั สะกดมาตราแม่ กก ไดแ้ ก่คาท่มี ีตวั ก สะกด ซ่ึงเรียกว่าเป็นตัวสะกดตรงตามมาตรา และมี พยัญชนะอ่นื ที่ออกเสยี งเหมือน ก สะกดซ่ึงเรยี นว่าตวั สะกดไม่ตรงตามมาตรา ตวั สะกด ในมาตราแม่ กก มี อยู่ ๔ ตัวคือ ก เป็นตัวสะกด เชน่ นก เลอื ก รัก ลอก ข เปน็ ตัวสะกด เชน่ สุข เลข สนุ ขั ค เป็นตวั สะกด เชน่ โรค ภาค วรรค ยคุ ฆ เปน็ ตัวสะกด เชน่ เมฆ มฆั วาน นอกจากนี้ยงั มีพยญั ชนะ ๒ ตัวเรยี งกันเป็นตวั สะกด แต่ออกเสยี งเหมือน ก สะกด คอื กร , คร เชน่ ในคาว่า จักร สมคั ร เป็นต้น ตัวอยา่ ง การอา่ นแจกลูกสะกดคาในมาตราแม่ กก ผัก อา่ นวา่ ผอ – อะ – กอ – ผกั ปาก อ่านว่า ปอ – อา – กอ – ปาก หมวก อ่านวา่ หอ – มอ – อวั – กอ – หมวก ครก อ่านว่า คอ – รอ – โอะ – กอ – ครก ทม่ี า : วโิ รจน์ มังคละมณี , หลักภาษาไทย . ฉะเชงิ เทรา : ประสานมติ ร , ๒๕๔๕
มาตราตวั สะกด แม่ กด แม่ กด คอื พยางค์ทอี่ อกเสยี งเหมอื นมีตัว “ ด” สะกด มีตัวสะกดทไี่ มต่ รง มาตราทง้ั หมด ๑๖ ตวั คอื จ ช ซ ฌ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ต ถ ท ธ ศ ษ ส มคี าทส่ี ะกดดว้ ย มาตราแม่ กด ดังน้ี ต เป็นตัวสะกด เชน่ มด จัด เผด็ จ เปน็ ตวั สะกด เชน่ สาเรจ็ ปิศาจ ตารวจ ช เป็นตวั สะกด เชน่ บวช ราชการ คชสาร นุช ซ เปน็ ตัวสะกด เช่น ก๊าซ ฎ เปน็ ตวั สะกด เชน่ กฎหมาย ฏ เปน็ ตวั สะกด เช่น ปรากฏ นาฏศลิ ป์ ฐ เปน็ ตัวสะกด เชน่ อฐิ รัฐบาล ประเสริฐ อฐู ฑ เป็นตวั สะกด เชน่ ครุฑ ฒ เปน็ ตวั สะกด เชน่ วัฒนธรรม พฒั นา อฒั จนั ทร์ ต เป็นตัวสะกด เช่น สุภาษิต อนาคต เพชฌฆาต ถ เปน็ ตวั สะกด เชน่ สามารถ ปรารถนา อริ ิยาบถ ท เป็นตวั สะกด เชน่ บทบาท ฤทธิ์ โจทย์ ธ เปน็ ตวั สะกด เชน่ โกรธ พธุ อาวธุ อาพาธ ศ เปน็ ตัวสะกด เชน่ ทิศ เลศิ อากาศ ษ เปน็ ตัวสะกด เช่น เศษผง กระดาษ พษิ ส เป็นตวั สะกด เชน่ โอกาส รส พัสดุ ทาส
ใบงาน ชดุ ท่ี ๑๓ คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นประสมคาจากพยัญชนะ สระ ตวั สะกด และวรรณยกุ ต์ ให้มคี วามหมาย แล้วเขยี นลง ในกรอบสี่เหลีย่ ม โดยเลอื กคาตอบจากกรอบสเี่ หลีย่ ม ตัวอย่าง ก คึ ก คั = คกึ คกั ปอกเปลอื ก ลาบาก กระรอก ยกั ยอก ผลดิ อก บริจาค ทุกขย์ าก ฉลาก ลกู มาก ปักหลกั ๑. ก ยั อ ก ย = ๒. ก า ล ำ บ = ๓. ม ก ลู า ก = ๔. ล ก ฉ า = ๕. ก ทุ ย า ข์ ก = ๖. ล ป ป เ อ ลื ก อ ก = ๗. ด ผ อ ลิ ก = ๘. ร ร ก อ ก ะ = ๙. ปั ลั ก ก ห = ๑๐. จ บ า ค ริ = ชื่อ.................................................................เลขท่ี ..................... ชัน้ ...............
ใบงาน ชุดท่ี ๑๔ คาช้แี จง ให้นักเรียนคาทส่ี ะกดด้วยแม่ กด ทั้งตามแนวนอนและแนวขวาง เมอื่ พบแล้วให้ ระบายด้วยสที ี่ชอบ ปลอดพดอรสรนยบลสทมฝา ฟ ห ก ด พิ ษ ด า ด อ ท ม ส ว า ป ผ อ ม เ ห ฟ ห สู ห ก ษ ด โ ม า ด ร ด อ ท ม ฝ ลื งุ พ ห จ ธ า ฎ ป อ ท ม ฝ ง ล ณ ฎ ฏ ฤ อ ด า พู น์ ป แ ร บ ท บ า ท ธ ฑ ณ ญ ฐ ล ดหกดพดฟษศสซวอง อ า จศก ฟ งิ ห ก ด มั ด ส ผุ ด ผ า ด ส ว ง บ ล อ ผดฦา เ ง อปผพฑรนยบล ดกอ ผ ป ฉ อ ฮ คุ พ ท ป ร ะ เ ท ศ ช า ติ ก พ ผ ป อ ห พ ด ท ม ใ ป ร ะ ดิ ษ ฐ์ ท อ พ ร ฟ ผ พิ เ ศ ษ ป ป ป ร า ส า ท อ พ ร น ย ปผกดฌสามา รถพรนยบล งม ชอื่ .................................................................เลขที่ ..................... ชั้น...............
เฉลยใบงาน ชุดที่ ๑๔ ปลอดพดอรสรนยบลสทมฝา ฟ ห ก ด พิ ษ ด า ด อ ท ม ส ว า ป ผ อ ม เ ห ฟ ห สู ห ก ษ ด โ ม า ด ร ด อ ท ม ฝ ลื งุ พ ห จ ธ า ฎ ป อ ท ม ฝ ง ล ณ ฎ ฏ ฤ อ ด า พู น์ ป แ ร บ ท บ า ท ธ ฑ ณ ญ ฐ ล ดหกดพดฟษศสซวอ ง อ า จศก ฟ งิ ห ก ด มั ด ส ผุ ด ผ า ด ส ว ง บ ล อ ผดฦา เ ง อปผพฑรนยบล ดกอ ผ ป ฉ อ ฮ คุ พ ท ป ร ะ เ ท ศ ช า ติ ก พ ผ ป อ ห พ ด ท ม ใ ป ร ะ ดิ ษ ฐ์ ท อ พ ร ฟ ผ พิ เ ศ ษ ป ป ป ร า ส า ท อ พ ร น ย ปผกดฌสามา รถพรนยบล งม
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๓ เรื่อง ปา่ น้มี ีคณุ เวลา ๙ ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๘ เรือ่ ง คาทไ่ี ม่มตี ัวสะกด ( แม่ ก กา ) และแมก่ บ เวลา ๑ ชวั่ โมง วันท่ี ........................................................................................................................................ ********************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ ตวั ชีว้ ดั ท ๔.๑ ป.๓ / ๑ เขยี นสะกดคาและบอกความหมายขอ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกพยัญชนะที่ใช้เป็นตัวสะกดในมาตรา แม่กบ และคาในแม่ ก กา ได้ ๒. บอกคาที่มีตัวสะกดในมาตรา แม่กบ และคาในแม่ ก กา ได้ ๓. บอกสว่ นประกอบคาในมาตรา แม่กบ และคาในแม่ ก กา ได้ สาระสาคญั คาท่ีไมม่ ีตัวสะกด มีเฉพาะพยัญชนะ สระ และเสยี งวรรณยุกต์ เรียกวา่ คาใน แม่ ก กา ส่วน แม่ กบ คือ พยางค์ท่ีออกเสียงเหมือนมตี ัว “ บ” สะกด มีตัวสะกดทไี่ มต่ รงมาตราทั้งหมด ๔ ตัว คือ ป พ ฟ ภ สาระการเรียนรู้ ๑. มาตราตัวสะกดที่ตรงตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา ๒. ตวั สะกดมาตรา แมก่ บ และคาในแม่ ก กา สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รกั ความเปน็ ไทย ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. มจี ิตสาธารณะ ๔. มีวินยั ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
สาระการเรยี นรู้ ๑. มาตราตวั สะกดท่ตี รงตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา ๒. ตวั สะกดมาตรา แม่กบ และคาในแม่ ก กา ชน้ิ งาน / หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้ ๑. การทาใบงาน ๒. แบบบันทกึ ผลการประเมิน กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ทบทวนเน้ือหาท่เี รียนในชั่วโมงทแี่ ล้วด้วยการให้นักเรยี นนาใบงานชุดท่ี ๑๓ – ๑๔ มารว่ มกนั ตรวจสอบและเฉลยอกี ครั้ง ๒. นักเรียนรับใบความรู้ เรื่อง“มาตราตัวสะกด แม่กบ และคาในแม่ ก กา” (ท้ายแผน ) จากครู จากนั้นให้แต่ละกลุ่มหาคาท่ีมีตัวสะกดในมาตรา แม่กบ และคาในแม่ ก กา จากบทท่ี ๓ “ป่านี้มีคุณ” ให้ ไดม้ ากทส่ี ุดเขยี นลงในแผน่ กระดาษ สง่ ตัวแทนกลุ่มอ่านคาในมาตรา แม่กก และ แม่กด ที่ช่วยกันหามาที่หน้า ชนั้ เรยี น ๓. นกั เรียนฟังครูอ่านคาในมาตรา แม่กบ และคาในแม่ ก กา อย่างละ ๑๐ คา และใหน้ กั เรียนแตล่ ะ กลุ่มสง่ ตัวแทนครั้งละ ๑ คน ออกไปแข่งขนั การเขียนตามคาบอก ท่กี ระดานดา ๔. นกั เรยี นทกุ คนคดั ลอกคาที่กลมุ่ ตนเองช่วยกันหาลงในสมุด (เน้นคดั สวยงาม) ครสู รุปเน้ือหาสาระ การเรียนร้ทู งั้ หมดอีกครงั้ หนึง่ ๕. นักเรยี นทาใบงานที่ ๑๕ (ท้ายแผน) ชุด เติมพยัญชนะ สระ ตัวสะกด และวรรณยุกต์ ให้เป็นคามี ความหมาย จากน้นั นาสง่ ครู ครเู ฉลยและนักเรยี นแลกเปล่ียนกันตรวจสอบความถกู ต้อง ๖. นกั เรยี นทาใบงานท่ี ๑๖ ( ทา้ ยแผน )ชดุ หาคาท่ีมีตวั สะกดในมาตรา แมก่ บทีต่ รงตามมาตรา และ ไมต่ รงตามมาตรา เสรจ็ แลว้ นาสง่ ครูตรวจสอบความถกู ต้อง ๗. นักเรยี นทาใบงานที่ ๑๗ ( ทา้ ยแผน )ชุด เขียนคาทีม่ ตี วั สะกดในมาตรา แม่กบ ให้ตรงกับ ความหมายท่ีกาหนดให้ เสรจ็ แล้วครเู ฉลย นักเรยี นแลกเปลี่ยนกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
สอ่ื / แหล่งเรยี นรู้ / บุคคล ลาดบั ที่ รายการสอ่ื กจิ กรรมทใ่ี ช้ แหล่งที่ได้มา ๑ ใบความรเู้ ร่อื ง มาตราตวั สะกดแม่ ก กา ครใู ช้ประกอบคาอธิบาย ครูจัดเตรียม ๒ และ แม่กบ ๓ ใบงาน ชุดที่ ๑๕ – ๑๗ นักเรียนทาใบงาน ครูจดั ทา ๔ นกั เรยี นฝกึ ทักษะการอา่ น ครจู ัดทา บัตรคา นกั เรียนอ่านเรื่อง ครูจัดทา ๕ ๖ หนังสือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทย สร้างกฎของการประเมนิ ครจู ัดทา ๗ ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ิต ภาษาพาที ชั้น ป.๓ ประเมนิ ผลงานรายกลุ่ม ครจู ดั ทา เกณฑ์การประเมนิ ( Rubric ) บันทกึ การสังเกตพฤติกรรม ครจู ดั ทา แบบประเมนิ ผลงานรายกล่มุ และบันทึกผลงานรายบคุ คล แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรม และ แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล
วดั ผลประเมนิ ผล เครือ่ งมอื ท่ใี ชใ้ น วธิ กี ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน กจิ กรรมท่ปี ระเมนิ การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมดา้ น สงั เกตรายบคุ คล ๘ - ๑๐ = ดีมาก แบบประเมนิ การสงั เกต ๖ – ๗ = ดี คุณลกั ษณะอันพงึ พฤติกรรม และ ๕ = พอใช้ ประสงค์ แบบประเมนิ ผลงาน ต่ากวา่ ๕ = ปรบั ปรงุ ๒. การเขียนตามคาบอก แบบประเมนิ การสังเกต ตรวจงานรายกล่มุ ๘ - ๑๐ = ดมี าก พฤติกรรม และ ๖ – ๗ = ดี ๓. นักเรยี นทาใบงาน แบบประเมินผลงาน ชุดท่ี ๑๕ ๕ = พอใช้ แบบประเมินการสังเกต ๔. นกั เรยี นทาใบงาน พฤติกรรม และ ต่ากวา่ ๕ = ปรบั ปรงุ ชุดท่ี ๑๖ แบบประเมนิ ผลงาน ตรวจงานรายบคุ คล ๘ - ๑๐ = ดมี าก ๕. นกั เรยี นทาใบงาน แบบประเมนิ การสังเกต ๖ – ๗ = ดี ชุดที่ ๑๗ พฤติกรรม และ แบบประเมนิ ผลงาน ๕ = พอใช้ แบบประเมนิ การสงั เกต ต่ากว่า ๕ = ปรับปรงุ พฤติกรรม และ แบบประเมินผลงาน ตรวจงานรายบคุ คล ๘ - ๑๐ = ดีมาก ๖ – ๗ = ดี ๕ = พอใช้ ต่ากวา่ ๕ = ปรบั ปรุง ตรวจงานรายบคุ คล ๘ - ๑๐ = ดมี าก ๖ – ๗ = ดี ๕ = พอใช้ ตา่ กว่า ๕ = ปรับปรุง
การประเมิน ดา้ นทกั ษะ / กระบวนการ ประเดน็ การประเมนิ เกณฑก์ ารให้ระดบั คะแนน ทกั ษะการสรุป ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐) เนือ้ หา สรุปเนื้อหาได้กระชบั สรปุ เนอื้ หาได้กระชบั สรุปเนอ้ื หาได้ไม่กระชบั การรายงานหนา้ ช้ัน ใจความครบถว้ น ใจความเกือบครบถ้วน ใจความและไม่ครบถ้วน การปฏบิ ตั งิ านตาม ข้ันตอน สามารถส่อื ใหผ้ ู้อืน่ เข้าใจ สามารถสอ่ื ให้ผู้อน่ื เข้าใจ สามารถสอ่ื ใหผ้ ู้อ่นื เขา้ ใจ ความคิดสรา้ งสรรค์ ความเป็นระเบยี บ ไดง้ า่ ย ได้ ได้นอ้ ย เรียบรอ้ ยของการทา ใบงาน สามารถพูดรายงานไดด้ ี สามารถพูดรายงานได้ดี สามารถพดู รายงานไดด้ ี พูดเสยี งดงั ฟงั ชัด ได้สาระ พดู น้าเสียงชดั เจน พูดน้าเสยี งไม่ชัดเจน ไม่ ชัดเจน วางบคุ ลิกในการ สอดคลอ้ งกบั เนื้อหาท่ี คอ่ ยสอดคล้องกับเน้ือหา พูดได้ดีมาก พูด วางบคุ ลิกในการพดู ท่ีพดู วางบคุ ลกิ ในการ ไดด้ ี พูดไม่ค่อยดี มีทักษะการปฏิบัตงิ าน มีการปฏบิ ตั ิงานตาม ยงั ไมส่ ามารถปฏิบัติงาน ตามขน้ั ตอน ได้อย่าง ขัน้ ตอนได้ตามลาดับ ตามข้นั ตอนได้ ถูกต้องและเหมาะสม มคี วามคิดสร้างสรรค์ดี พอมีความคิดท่ี ยงั ขาดความคิดท่ี สรา้ งสรรค์อยู่บ้าง สรา้ งสรรค์ มที ักษะสามารถสรา้ งงาน สามารถสร้างงานที่สวน ไม่มีความสวยงาม และ ทส่ี วยงาม และมีความ งามพอใชไ้ ด้ และมี ไม่ประณีต ประณตี ดี ความประณตี ในบางส่วน
การประเมิน ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ประเด็นการประเมิน เกณฑก์ ารให้ระดบั คะแนน ซือ่ สัตย์สจุ ริต มีวนิ ัย ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐) ใฝ่เรียนรู้ ทางานอย่างตรงไป ทางานอย่างตรงไป ทางานอย่างตรงไป อยู่อยา่ งพอเพียง มจี ิตสาธารณะ ตรงมา ยอมรบั ใน ตรงมา ไม่ยอมรบั ใน ตรงมา ไมย่ อมรับใน ขอ้ ผิดพลาดและ ขอ้ ผดิ พลาดและ ขอ้ ผดิ พลาดและ บกพร่องของตนเอง บกพร่องของตนเอง บกพร่องของตนเองไม่ พอใจในสง่ิ ทตี่ นมี พอใจในสิง่ ท่ตี นมี ค่อยพอใจในส่ิงท่ีตนมี รู้จกั ควบคุมอารมณ์ รู้จกั ควบคุมอารมณ์บา้ ง ไมร่ ู้จักควบคุมอารมณ์ ปฏบิ ตั ิตนอย่ใู นระเบียบ ปฏบิ ัติตนอยู่ในระเบียบ ปฏิบตั ิตนอย่ใู นระเบยี บ วนิ ัย แต่งกายถกู ต้อง วนิ ยั การแตง่ กายไม่คอ่ ย วินัยน้อยไม่คอ่ ยแต่งกาย ตามระเบยี บของ ถูกต้องตามระเบยี บของ ถูกต้องตามระเบียบของ โรงเรยี นตลอดเวลา โรงเรยี น โรงเรยี น มีความมานะม่งุ มน่ั ใน มีความมานะมุ่งมัน่ ใน ไมม่ ีความมานะมงุ่ มัน่ ใน การทางานทไ่ี ดร้ บั การทางานทไ่ี ด้รบั การทางานที่ได้รบั มอบหมาย ศกึ ษาคน้ ควา้ มอบหมาย ศกึ ษาค้นคว้า มอบหมาย ไมค่ ่อยศกึ ษา ดว้ ยตนเองทางานเสร็จ ดว้ ยตนเองเป็นบางครั้ง ค้นควา้ ดว้ ยตนเอง ทนั เวลาและถูกต้อง ทางานเสรจ็ ทันเวลาเป็น ทางานเสรจ็ ไม่ทนั เวลา บางครง้ั ใช้วัสดุอปุ กรณ์การเรียน ใช้วสั ดุอุปกรณ์การเรยี น ใช้วสั ดุอุปกรณ์การเรยี น ทรี่ าคาถูกและใช้อยา่ ง ที่ราคาค่อนข้างแพงและ ที่ราคาค่อนข้างแพงและ คุม้ ค่าใชจ้ นหมดแลว้ ใช้อย่างคุ้มค่าใช้จนหมด ใช้อยา่ งคุ้มคา่ ใช้ไม่ ค่อยซ้ือใหม่ หมดแลว้ ซื้อใหม่ มคี วามเสยี สละเพ่อื มีความเสยี สละเพื่อ ไมค่ ่อยเสียสละเพ่อื สว่ นรวม ไมเ่ อาเปรยี บ ส่วนรวมเปน็ บางครัง้ ส่วนรวม ชอบเอาเปรียบ ไม่เหน็ แก่ตัวชว่ ยเหลือ ไม่เอาเปรยี บไม่เห็นแก่ คนอ่ืน ค่อนข้างเห็นแก่ หมคู่ ณะได้เป็นอยา่ งดี ตัว ไมค่ อ่ ยชว่ ยเหลอื หมู่ ตัว ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื หมู่ คณะ คณะ ๑๐. กิจกรรมเสนอแนะ -
ใบความรู้ มาตราตวั สะกด แม่ กบ แม่ กบ คือ พยางค์ทีอ่ อกเสียงเหมอื นมีตัว “ บ” สะกด มีตวั สะกดท่ีไมต่ รงมาตราท้ังหมด ๔ ตัว คอื ป พ ฟ ภ เช่น กราบไหว้ รูปรา่ ง เคารพ ยีราฟ โชคลาภ เปน็ ต้น คาทม่ี ี บ เป็นตวั สะกด เชน่ กรอบ จับ คับแคบ เจบ็ แสบ คาทีม่ ี ป เป็นตวั สะกด เชน่ ธูป บาป สาป อีสป คาท่มี ี พ เป็นตวั สะกด เช่น ภาพ ทพั ภพ ศพ คาที่มี ฟ เป็นตัวสะกด เชน่ กราฟ ยีราฟ คาที่มี ภ เปน็ ตวั สะกด เชน่ โลภ ลาภ ปรารภ ( คัดจากหนงั สอื หลักและการใชภ้ าษาของประสทิ ธ์ิ กาพย์กลอนและคณะ สานกั พมิ พว์ ัฒนาพานิช พ.ศ. ๒๕๒๓ )
ใบงาน ชุดท่ี ๑๕ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นเตมิ พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ใน ตารางของแต่ละขอ้ ให้เปน็ คาใน มาตราแม่ ก กา ๑ จป ๒ าท ๔ แน ๓ พร จา ๖ใหา ๕ภ า ๗ เ วา ๘ ๙ เห าย บ นาพ ๑๐ เาา ชื่อ.................................................................เลขท่ี ..................... ชั้น...............
ใบงาน ชุดที่ ๑๖ คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนเขียนคาทีม่ ตี ัวสะกดตามหัวขอ้ ทีก่ าหนดให้ คาในมาตรา แม่ กบ คาทม่ี ีตวั สะกดตรงตามมาตรา คาที่มตี วั สะกดไม่ตรงตามมาตรา ช่อื .................................................................เลขที่ ..................... ชัน้ ...............
ใบงาน ชดุ ที่ ๑๗ คาช้แี จง นกั เรียนเขยี นคาทีม่ ีตวั สะกดในมาตรา แม่กบ เขียนลงในตาราง ตรงกับข้อความในแต่ละข้อ ท่ี ข้อความ คา ๑ สัตว์คร่งึ บกครึ่งนา้ ชนดิ หนงึ่ มีสี่ขายาวกระโดดเรว็ ๒ สง่ิ ท่ีใชจ้ ดุ บูชาพระคูก่ ับเทียนและดอกไม้ ๓ แมลงชนดิ หน่งึ มกี ลิ่นเหมน็ เป็นท่ีรังเกียจของคน ๔ แหลง่ นา้ จืดขนาดใหญ่ ๕ รา่ งกายของคนทต่ี ายแล้ว ๖ พฤติกรรมของคนที่ไม่รู้จักพอมีอยูแ่ ลว้ ยงั อยากได้อีก ๗ การแสดงอาการท่ีตสี ่งิ ใดส่ิงหนง่ึ ให้ละเอยี ด ๘ คนที่ไม่มใี ครดแู ลอุปการะเลีย้ งดู ๙ อาการของความทุกข์ทรมาน ๑๐ อปุ กรณ์ท่ใี ช้ขุดดนิ มีด้ามทท่ี าด้วยไม้ยาว ชื่อ.................................................................เลขที่ ..................... ชั้น...............
เฉลยใบงาน ชดุ ที่ ๑๕ ๑. เจา้ ป่า ๒. พาที ๓. พระเจ้า ๔. แม่น้า ๕. ภูเขา ๖. ใบหนา ๗. เทวดา ๘. บ่อน้าพุ ๙. เหล้ายา ๑๐. เจ้าฟา้ เฉลยใบงาน ชดุ ที่ ๑๖ ๑. กบ ๒. ธูป ๓. แมลงสาป ๔. ทะเลสาบ ๕. ศพ ๖. โลภ ๗. ทุบ ๘. อาภพั ๙. เจบ็ ปวด ๑๐. จอบ
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๓ เรื่อง ปา่ นี้มีคณุ เวลา ๙ ชัว่ โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๙ เรอื่ ง คาท่มี ีความหมายเหมือนกนั และตรงข้ามกนั เวลา ๑ ชวั่ โมง วนั ท่ี ........................................................................................................................................ ********************************************************************************** มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วดั มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ อง ชาติ ตวั ชี้วัด ท ๔.๑ ป.๓ / ๑ เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. บอกความหมายของคาได้ ๒. บอกคาท่ีใช้ในความหมายเดยี วกันได้ ๓. ใช้คาได้เหมาะสมกบั บรบิ ท สาระสาคญั คาหลายคาในภาษาไทยอาจมีการนามาใช้ในความหมายเดียวกัน ทงั้ นี้เพราะภาษาไทยเรามีการนาเอา ภาษาอ่ืนเข้ามาใช้ปะปนด้วยเพื่อใหเ้ กิดความหลากหลาย และมคี วามเหมาะสมในแตล่ ะบริบท สาระการเรยี นรู้ ๑. มาตราตวั สะกดทตี่ รงตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา ๒. คาท่มี คี วามหมายเดยี วกัน สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีว จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกความหมายของคาได้ ๒. บอกคาที่ใชใ้ นความหมายเดยี วกันได้ ๓. ใช้คาไดเ้ หมาะสมกับบริบท คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. รกั ความเปน็ ไทย ๒. ใฝเ่ รยี นรู้
๓. มีจติ สาธารณะ ๔. มีวนิ ัย ๕. อยู่อย่างพอเพียง ช้ินงาน / หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้ ๑. การทาใบงาน ๒. แบบทดสอบหลงั เรียน ๓. แบบบันทึกผลการประเมิน ๗. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๗.๑ ทบทวนเนอ้ื หาที่เรยี นในชว่ั โมงที่แลว้ ด้วยการใหน้ กั เรียนนาใบงานชดุ ที่ ๑๕ – ๑๗ มาร่วมกนั ตรวจสอบและเฉลยอกี ครั้ง ๗.๒ ครูอธบิ ายใหน้ ักเรียนฟังว่า คาในภาษาไทยมีหลายคาทมี่ ีความหมายเดยี วกันทั้งน้เี พ่อื ให้มคี าใช้ อยา่ งหลากหลาย โดยได้นาเอาคาทม่ี าจากภาษาอนื่ เขา้ มาใช้ปะปนเช่น คาว่า “ตะวัน” มคี าใดบ้างท่หี มายถึง ตะวัน (คาตอบก็คอื ดวงอาทิตย์ , สุริยา , สรู ย,์ สุริยัน เปน็ ตน้ )นอกจากน้ยี ังมคี าทมี่ คี วามหมายตรงข้ามกนั ครูกาหนดคาให้นกั เรียนแขง่ ขันกนั หาคาตรงขา้ ม ๗.๓ นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ ๔ – ๕ คน จากน้ันให้แตล่ ะกลุ่มหาคาที่มีความหมายเดยี วดันมา กลมุ่ ละ ๑๐ คู่ เขียนใสแ่ ผ่นกระดาษนาส่งครูตรวจสอบ ๗.๔ นกั เรยี นทกุ คนคัดลอกคาทีก่ ลมุ่ ตนเองช่วยกันหาลงในสมดุ (เน้นคัดสวยงาม) ครสู รุปเนอ้ื หา สาระการเรียนรู้ท้ังหมดอกี คร้ังหนึ่ง ๗.๕ นกั เรียนทาใบงานท่ี ๑๗ ( ทา้ ยแผน ) ชดุ จบั คคู่ าท่มี ีความหมายเหมือนกัน จากนน้ั นาสง่ ครู ครเู ฉลยและนักเรยี นแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบความถูกต้อง ๗.๖ นักเรยี นทาใบงานท่ี ๑๘ ( ท้ายแผน )ชุด จบั คคู่ าที่มีความหมายตรงข้ามกันจากนั้นนาสง่ ครู ครเู ฉลยและนักเรยี นแลกเปลี่ยนกนั ตรวจสอบความถูกต้อง ๗.๗ นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี นบทท่ี ๓ ป่านี้มีคุณ (ท้ายแผน ) จานวน ๑๕ ขอ้ เสร็จแล้ว ครูเฉลย นกั เรยี นแลกเปลยี่ นกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
สอื่ / แหล่งเรียนรู้ / บคุ คล ลาดบั ท่ี รายการสอื่ กิจกรรมทใี่ ช้ แหล่งท่ไี ดม้ า ๑ รปู ภาพ ครูใชป้ ระกอบคาอธิบาย ครูจดั เตรยี ม นกั เรยี นทาใบงาน ครจู ดั ทา ๒ ใบงาน ชดุ ท่ี ๑๗ – ๑๘ นักเรียนฝกึ ทักษะการอา่ น ครูจดั ทา นักเรียนอ่านเร่ือง ครูจดั ทา ๓ บัตรคา นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน ครูจดั ทา ๔ หนงั สือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย สรา้ งกฎของการประเมิน ครจู ดั ทา ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชัน้ ป.๓ ประเมินผลงานรายกลุ่ม ครจู ัดทา บนั ทกึ การสังเกตพฤติกรรม และ ครูจัดทา ๕ แบบทดสอบหลงั เรียน บนั ทึกผลงานรายบุคคล ๖ เกณฑ์การประเมนิ ( Rubric ) ๗ แบบประเมนิ ผลงานรายกลมุ่ ๘ แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม และ แบบประเมินผลงานรายบุคคล
วัดผลประเมนิ ผล เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ น วิธกี ารประเมนิ เกณฑ์การประเมิน การประเมนิ สังเกตรายบคุ คล กิจกรรมทีป่ ระเมิน ๘ - ๑๐ = ดีมาก ๑. สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบประเมนิ การสงั เกต ๖ – ๗ = ดี พฤติกรรมและแบบประเมนิ ๕ = พอใช้ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ผลงาน ตา่ กวา่ ๕ = ปรับปรุง ๒. การเขียนตามคาบอก แบบประเมนิ การสังเกต ตรวจงานรายกล่มุ ๘ - ๑๐ = ดีมาก พฤติกรรมและแบบประเมนิ ตรวจงานรายบคุ คล ๖ – ๗ = ดี ๓. นกั เรยี นทาใบงาน ผลงาน ตรวจงานรายบคุ คล ๕ = พอใช้ ชุดที่ ๑๗ ตรวจงานรายบุคคล ตา่ กว่า ๕ = ปรับปรุง แบบประเมินการสังเกต ๘ - ๑๐ = ดีมาก ๔. นกั เรียนทาใบงาน พฤติกรรมและแบบประเมิน ๖ – ๗ = ดี ชุดที่ ๑๘ ผลงาน ๕ = พอใช้ ต่ากว่า ๕ = ปรบั ปรุง ๕. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลัง แบบประเมินการสงั เกต ๘ - ๑๐ = ดีมาก เรียน พฤติกรรมและแบบประเมนิ ๖ – ๗ = ดี ผลงาน ๕ = พอใช้ ต่ากว่า ๕ = ปรับปรงุ แบบประเมนิ การสังเกต ๑๓ - ๑๕ = ดมี าก พฤติกรรม และแบบ ๑๑ – ๑๒ = ดี ประเมนิ ผลงาน ๙ – ๑๐ = พอใช้ ต่ากวา่ ๙ = ปรับปรุง
การประเมิน ดา้ นทกั ษะ / กระบวนการ ประเดน็ การประเมนิ เกณฑก์ ารให้ระดบั คะแนน ทกั ษะการ สรุป ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรงุ (๐) เนือ้ หา สรุปเนื้อหาได้กระชบั สรปุ เนอื้ หาได้กระชบั สรุปเนอ้ื หาได้ไม่กระชบั การรายงานหนา้ ช้ัน ใจความครบถว้ น ใจความเกือบครบถ้วน ใจความและไม่ครบถ้วน การปฏบิ ัติงานตาม ข้ันตอน สามารถส่อื ใหผ้ ู้อืน่ เข้าใจ สามารถสอ่ื ให้ผู้อน่ื เข้าใจ สามารถสอ่ื ใหผ้ ู้อ่นื เขา้ ใจ ความคิดสรา้ งสรรค์ ความเป็นระเบียบ ไดง้ า่ ย ได้ ได้นอ้ ย เรียบรอ้ ยของการทา ใบงาน สามารถพูดรายงานไดด้ ี สามารถพูดรายงานได้ดี สามารถพดู รายงานไดด้ ี พูดเสยี งดงั ฟงั ชัด ได้สาระ พดู น้าเสียงชดั เจน พูดน้าเสยี งไม่ชัดเจน ไม่ ชัดเจน วางบคุ ลิกในการ สอดคลอ้ งกบั เนื้อหาท่ี คอ่ ยสอดคล้องกับเน้ือหา พูดได้ดีมาก พูด วางบคุ ลิกในการพดู ท่ีพดู วางบคุ ลกิ ในการ ไดด้ ี พูดไม่ค่อยดี มีทกั ษะการปฏิบัตงิ าน มีการปฏบิ ตั ิงานตาม ยงั ไมส่ ามารถปฏิบัติงาน ตามขัน้ ตอน ได้อย่าง ขัน้ ตอนได้ตามลาดับ ตามข้นั ตอนได้ ถูกต้องและเหมาะสม มีความคิดสร้างสรรค์ดี พอมีความคิดท่ี ยงั ขาดความคิดท่ี สรา้ งสรรค์อยู่บ้าง สรา้ งสรรค์ มีทักษะสามารถสรา้ งงาน สามารถสร้างงานที่สวน ไม่มีความสวยงาม และ ทส่ี วยงาม และมีความ งามพอใชไ้ ด้ และมี ไม่ประณีต ประณตี ดี ความประณตี ในบางส่วน
การประเมิน ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การใหร้ ะดบั คะแนน ซือ่ สัตย์สจุ ริต มีวนิ ัย ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) ใฝ่เรียนรู้ ทางานอย่างตรงไป ทางานอย่างตรงไป ทางานอย่างตรงไป อยู่อยา่ งพอเพียง มจี ิตสาธารณะ ตรงมา ยอมรบั ใน ตรงมา ไมย่ อมรบั ใน ตรงมา ไม่ยอมรบั ใน ขอ้ ผิดพลาดและ ขอ้ ผดิ พลาดและ ขอ้ ผดิ พลาดและ บกพร่องของตนเอง บกพร่องของตนเอง บกพร่องของตนเองไม่ พอใจในสง่ิ ทตี่ นมี พอใจในส่ิงทีต่ นมี คอ่ ยพอใจในส่งิ ที่ตนมี รู้จกั ควบคุมอารมณ์ รู้จกั ควบคมุ อารมณ์ บ้าง ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ ปฏบิ ตั ิตนอย่ใู นระเบียบ ปฏบิ ตั ิตนอยู่ในระเบียบ ปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบ วนิ ัย แต่งกายถกู ต้อง วินยั การแต่งกายไม่คอ่ ย วินยั น้อยไม่คอ่ ยแต่งกาย ตามระเบยี บของ ถูกต้องตามระเบียบของ ถกู ต้องตามระเบยี บของ โรงเรยี นตลอดเวลา โรงเรยี น โรงเรียน มีความมานะม่งุ มน่ั ใน มีความมานะมุ่งม่นั ใน ไม่มีความมานะมุ่งมัน่ ใน การทางานทไ่ี ดร้ บั การทางานทีไ่ ดร้ บั การทางานที่ได้รับ มอบหมาย ศกึ ษาคน้ ควา้ มอบหมาย ศึกษาคน้ คว้า มอบหมาย ไมค่ ่อยศึกษา ดว้ ยตนเองทางานเสร็จ ด้วยตนเองเปน็ บางครัง้ คน้ คว้าด้วยตนเอง ทนั เวลาและถูกต้อง ทางานเสร็จทันเวลาเป็น ทางานเสร็จไม่ทันเวลา บางครัง้ ใช้วัสดุอปุ กรณ์การเรียน ใช้วสั ดุอปุ กรณก์ ารเรียน ใชว้ สั ดอุ ุปกรณก์ ารเรยี น ทรี่ าคาถูกและใช้อยา่ ง ที่ราคาค่อนข้างแพงและ ทร่ี าคาค่อนข้างแพงและ คุม้ ค่าใชจ้ นหมดแลว้ ใช้อย่างคุ้มคา่ ใชจ้ นหมด ใชอ้ ยา่ งคุ้มคา่ ใช้ไม่ ค่อยซ้ือใหม่ หมดแลว้ ซอ้ื ใหม่ มคี วามเสยี สละเพ่อื มคี วามเสยี สละเพือ่ ไม่ค่อยเสยี สละเพ่ือ สว่ นรวม ไมเ่ อาเปรยี บ สว่ นรวมเปน็ บางครั้ง สว่ นรวม ชอบเอาเปรียบ ไม่เหน็ แก่ตัวชว่ ยเหลือ ไม่เอาเปรียบไมเ่ หน็ แก่ คนอื่น ค่อนขา้ งเหน็ แก่ หมคู่ ณะได้เป็นอยา่ งดี ตวั ไมค่ อ่ ยช่วยเหลอื หมู่ ตัว ไมค่ อ่ ยชว่ ยเหลอื หมู่ คณะ คณะ ๑๐. กิจกรรมเสนอแนะ -
ใบงาน ชุดท่ี ๑๗ คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนจับค่คู าที่มีความหมายเดยี วกนั ด้วยการโยงเสน้ ๑. ปา่ ก. ธารา ๒. ผู้หญงิ ข. รบั ประทาน ๓. ดวงจันทร์ ค. อกั ษร ๔. น้า ง. ศกึ ษา ๕. แผ่นดิน จ. ไพร ๖. ตัวหนังสือ ฉ. โสม ๗. ใหญ่ ช. นารี ๘. เลา่ เรยี น ซ. ปรีดา ๙. ยนิ ดี ฌ. มหึมา ๑๐. กนิ ญ. ธรณี ช่ือ.................................................................เลขที่ ..................... ช้ัน...............
ใบงาน ชุดท่ี ๑๘ คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นจบั คู่คาทม่ี คี วามหมายตรงข้ามกัน ด้วยการโยงเสน้ ๑. กว้าง ก. คบั แคบ ๒. อนรุ กั ษ์ ข. แข็งแรง ๓. ประโยชน์ ค. แคบ ๔. กวา้ งใหญ่ ง. ซ่อื สตั ย์ ๕. ของเสีย จ. อิจฉา ๖. อ่อนแอ ฉ. หิว ๗. คดโกง ช. ทาลาย ๘. อมิ่ ซ. นา้ เคม็ ๙. ยินดี ฌ. โทษ ๑๐. นา้ จืด ญ. ของดี ชอื่ .................................................................เลขท่ี ..................... ชัน้ ...............
ความคิดเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………………….. ลงชือ่ ……………………………………………………. (นางสวภาว์ คุม้ สุพรรณ.) (นางเย็นฤดี คุ้มสุพรรณ) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย หวั หน้าวชิ าการระดับชนั้ ป.1-3 ……………./………………/…………….. ……………./………………/…………….. ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการโรงเรียน ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………………….. (นางลาจวน ป้อมบุญมี ) รองผู้อานวยกาพิณพลราษฎร์ ตั้งตรงจิตร 12 วันท…่ี …….…เดอื น…………………..พ.ศ……….
บันทึกผลหลงั การสอน วันที่ ................ เดอื น........................พ.ศ. ........................... ผลการเรยี นรทู้ ่ีเกิดขน้ึ กบั ผู้เรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หา / อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………….. (นางเยน็ ฤดี คุ้มสพุ รรณ ) ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะชานาญการพิเศษ วนั ท่ี………เดือน…….…………..พ.ศ……….
Search