Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้ วรรณคดีลำนำ บทที่ ๑ กระต่ายไม่ตื่นตูม

แผนจัดการเรียนรู้ วรรณคดีลำนำ บทที่ ๑ กระต่ายไม่ตื่นตูม

Description: แผนจัดการเรียนรู้ วรรณคดีลำนำ บทที่ ๑ กระต่ายไม่ตื่นตูม

Search

Read the Text Version

๔. มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง สาระการเรยี นรู้ ๑. บทเรยี นหน่วยท่ี ๑ เร่อื ง กระตา่ ยต่ืนตูม ๒. การเขียนเรื่องตามแผนภาพโครงเร่อื ง ๓. การเลา่ เรอ่ื งตามแผนภาพโครงเรื่อง กระบวนการจัดการเรียนรู้ นาส่กู ระบวนการเรียนรู้ ๑.นักเรยี นเลน่ เกมกระซบิ ปริศนา (ภาคผนวก) ๒. ทบทวนบทเรยี นโดยใหน้ ักเรียนร้องเพลง “กระตา่ ยสอนลูก” พร้อมกบั ปรบมือประกอบจังหวะ กระบวนการเรยี นรู้ ๑.ครสู นทนาบทเรียนโดยใหน้ กั เรียนตอบคาถามเก่ยี วกับเน้ือเรื่อง ดงั น้ี ๑) ทาไมกระต่ายจึงตดั สนิ ใจว่ิงหนตี ายเช่นน้นั ๒) ทาไมเสือ ช้าง กวาง ทราย แรด และสตั วอ์ ่ืน ๆ จึงตัดสินใจว่งิ หนีตายตาม กระตา่ ย ๓) ทาไมพระยาราชสีหจ์ งึ ส่งั ให้พวกสตั ว์ท้งั หลายหยุดวง่ิ หนีตาย ๔) ทาไมสตั วท์ งั้ หลายจึงเชือ่ ฟังพระยาราชสหี ์ ๒. ครนู าเสนอแผนภมู ิแผนภาพโครงเรอ่ื งบนกระดานดา ดังน้ี ใคร : ตัวละคร ท่ีไหน : สถานท่ี เมือ่ ไร : เวลาทีเ่ กดิ เหตุการณ์ เหตกุ ารณ์ : เหตุการณท์ ี่ ๑ เหตกุ ารณท์ ี่ ๒ เหตกุ ารณท์ ่ี ๓ เหตุการณท์ ี่ ๔ เหตกุ ารณ์ที่ ๕

บทสรุป : ผลของเหตกุ ารณ์ ข้อคดิ : สรุปข้อคิด ๓. นกั เรยี นอ่านบทเรียนในใจ อีกครงั้ เพ่ือจบั ใจความสาคัญของเร่ือง ๔. นกั เรยี นและครูชว่ ยกันอภิปรายและเติมขอ้ ความของคาถามในแผนภาพโครงเรือ่ ง ใคร : ………………………………………… ………………………………………… ที่ไหน : ………………………………………… เม่อื ไร : ………………………………………… เหตกุ ารณ์ : ………………………………………… ………………………………………… บทสรปุ : ………………………………………….. ……………………………………………. ขอ้ คดิ : …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… ๕. นักเรียนอาสาสมัครออกมาเลา่ เรื่องตามแผนภาพโครงเร่ืองบนกระดานดาให้เพื่อน ๆ ฟัง ส่วนนักเรยี นคนอน่ื ๆ และครูคอยแกไ้ ข ปรับปรงุ เพ่มิ เตมิ ถ้าผเู้ ล่าเลา่ เรอ่ื งผิด สรปุ กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นและครูช่วยกนั สรุปบทเรยี นอีกครงั้ หนงึ่ ๒. ให้นกั เรียนแต่ละคนเขยี นเร่ืองตามแผนภาพโครงเรอ่ื งดว้ ยคาพูดของ นักเรียนเองลงในแบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ (ภาคผนวก) ๓. มอบหมายใหน้ กั เรยี นทาแบบฝึกหัดทักษะภาษา หน่วยที่ ๑ (การบ้าน) สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนงั สือเรยี นภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เลม่ ๒ วรรณคดลี านา ๒. แบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ ชดุ ภาษาเพือ่ ชีวติ ๓. แผนภูมิแผนภาพโครงเรื่อง ๔. แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ กระบวนการวดั และประเมนิ ผล ๑.๑ วิธกี าร สงั เกต การฟัง การเล่าเร่ือง

การซกั ถาม การตอบคาถาม ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางาน ตรวจแบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ตรวจสมดุ งาน ตรวจแบบฝกึ หัด ๑.๒ เครอ่ื งมอื การวัดและประเมินผล แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียน แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ๑.๓ เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล ใชก้ ารผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๗๐ ข้ึนไป กิจกรรมเสนอแนะ -

ภาคผนวก เกมกระซิบปริศนา จุดประสงค์ ๑. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถจับใจความจากประโยคหรือขอ้ ความสน้ั ๆ ได้ ๒ . เพ่ือให้นักเรียนสามารถอ่านและแยกสระเสียงสน้ั ได้ ๓ . เพ่อื ให้นักเรยี นมสี มาธใิ นการฟัง อปุ กรณ์ แถบประโยคปริศนา (ตัวอยา่ ง สามารถปรับให้เข้ากบั เน้อื หาของบทเรียนได้) ทุกคนไปกนั เถอะนะ ทะเลาะตบเตะกนั มนั พลิ กึ วธิ ีเลน่ ๑ . แบ่งนกั เรยี นออกเปน็ ๕ กลุ่ม แลว้ ให้นักเรียนต้งั ชื้อกลุ่มของตนเอง ๒ . ใหแ้ ต่ละกลุ่มเขา้ แถบและเลือกตัวแทนกลุ่ม ๓. ตวั แทนกลุ่มอ่านข้อความและกลับไปกระซบิ บอกขอ้ ความแกค่ นต่อไป กระซิบต่อไปเรื่อย ๆ จนถงึ คนสดุ ท้าย ๔. คนสดุ ทา้ ยเขียนขอ้ ที่ตนไดย้ นิ บนกระดาน กลมุ่ ใดมีข้อความตรงกับขอ้ ความในแถบประโยค จะเป็นฝ่ายชนะ

แบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ ชอ่ื .....................................................................................ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓................เลขที่................. วันท่ี…….…….เดอื น…………………………………………..………พ.ศ………….... ******************************************************************************* คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นเขียนเน้ือเร่ือง กระต่ายตน่ื ตมู โดยใชภ้ าษาของตนเอง อยา่ งส้ัน ๆ โดยการเขยี นสรุปเรอื่ งที่สาคัญ และเรยี งลาดับเหตกุ ารณ์ให้ ต่อเน่ือง และมีเน้อื หาสาระ .............................................................................................. ......................................................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................................... ............................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ..........................................

แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ชอ่ื ..................................................................................ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓....................เลขที่.............. วนั ท่ี…………..….เดือน………………………………………….…………พ.ศ………………... ******************************************************************** คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นเขียนแผนที่ความคิด (Mind Mapping) การไตรต่ รองรอบคอบมีประโยชน์อยา่ งไรบา้ ง ....................................................................................... ...................................................................................... ............................................................................................................................ ................................................. ......................................................................................................................................... .................................... ..................................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ................................................ .......................................................................................................................................... ................................... ........................................................................................................... .................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ........................................................................................................................................... .................................. ................................................................................................. ............................................................................ ............................................................................................................................. .................................................

แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรื่องกระต่ายไม่ตนื่ ตมู เวลา ๑๒ ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๘ เร่ือง การแตง่ ประโยค เวลา ๑ ช่ัวโมง วนั ที่ ................................................................ ************************************************************************************************** มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ พลงั ของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของ ชาติ ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ป.๓ / ๕ แต่งประโยคง่ายๆ สาระสาคัญ การแตง่ ประโยคจะเปน็ การเพิ่มทกั ษะการอ่านและเขยี นข้อความต่าง ๆ ได้อยา่ ง ถูกต้อง สาระการเรียนรู้ การใชภ้ าษา การแตง่ ประโยค จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. มีมารยาทในการฟงั และการพูด ๒. สามารถแตง่ ประโยคได้ ๓. วาดภาพและบรรยายภาพได้ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผู้นาและผูต้ ามท่ดี ี ๓. มคี วามภาคภูมิใจในภาษาไทย ๔. มคี วามซอื่ สัตย์กตญั ญู ๕. ประหยัดและอยู่อยา่ งพอเพียง กระบวนการจัดการเรยี นรู้ นาสกู่ ระบวนการเรยี นรู้ ๑.นกั เรียนเล่นเกมปริศนาคาทาย (ภาคผนวก) ๒.ทบทวนบทเรยี นโดยนกั เรียนอ่านบัตรคาใหม่ นกั เรยี นฝกึ อา่ นออกเสียงคา

กระบวนการเรยี นรู้ ๑. แบง่ นักเรยี นออกเปน็ ๓ กลุ่ม ครูนาคาใหม่ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ฝกึ แตง่ ประโยคปากเปล่า กลุม่ ละ ๕ ประโยค แล้วทาแบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ (ใบงานกลุ่ม) ๒. ให้แตล่ ะกล่มุ เขยี นบรรยายภาพ เพอ่ื โยงไปสู่การทาหนงั สอื เล่มเลก็ ๓. ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ สง่ ตัวแทนออกมาพูดบรรยายภาพหน้าช้นั ๔. มอบหมายให้นกั เรยี นไปทาแบบฝกึ หดั ทักษะภาษา บทที่ ๑ สรุปกระบวนการเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นทาแบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ (ภาคผนวก) ๒. ครูและนักเรียนช่วยกนั สรปุ บทเรยี น สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ ๑. บัตรคา ๒. หนังสือเรยี นภาษาไทย ป.๓ เลม่ ๒ วรรณคดีลานา ๓. แบบฝึกหัดทักษะภาษา ชุดภาษาเพ่อื ชีวิต ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ ๔. แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ๕. เกมปริศนาคาทาย กระบวนการวัดผลและประเมนิ ผล ๑. วิธกี าร ๑.๑ สงั เกต การเขียน การมีส่วนรว่ มในการเรยี น ความสนใจในการเรยี น กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจผลงาน สมุดงาน/แบบฝกึ หดั แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ ๒. เครอื่ งมอื การวดั และประเมนิ ผล แบบประเมนิ การอา่ นคา แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ ๓. เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล ใช้การผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๗๐ ขน้ึ ไป กิจกรรมเสนอแนะ -

เกมปรศิ นาคาทาย จุดประสงค์ ๑. เพื่อให้นกั เรียนมีสมาธใิ นการฟัง ๒. เพือ่ นักเรยี นสามารถคิดคาทส่ี ะกดด้วยแม่ เกย ไดถ้ กู ต้องและรวดเรว็ วธิ ีเล่น ๑. ครอู ่านปริศนาคาทายต่อไปนีค้ รั้งละ ๑ ข้อ ปรศิ นาคาทาย ๑. อะไรเอย่ เป็นสายยาว ๆ สาว ๆ ชอบใสไ่ ว้ทคี่ อ ( สรอ้ ย ) ๒. อะไรเอย่ เปน็ สตั ว์น้า มเี ปลือกแข็ง ไม่มีแขน ไม่มีขา (หอย ) ๓. อะไรเอย่ เปน็ ผลไม้ ลาปล้องยาว รสหวานฉ่า ชา้ งกนิ ( อ้อย ) ๔. อะไรเอย่ ขา้ งนอกขรุขระ ข้างในต๊ะตง๊ิ โหนง่ (นอ้ ยหนา่ ) ๕. อะไรเอย่ เป็นขนมชนิดหน่งึ เม่ือนึ่งแล้วฟู มที ัง้ สชี มพู สเี ขียว และสีขาว (ขนมถ้วยฟ)ู ฯลฯ ๒. ใหน้ ักเรียนทายปริศนาพรอ้ มกัน (สามารถยืดหยุ่นและประยุกต์เนื้อหาใหเ้ ขา้ กับบทเรียนได้)

แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ เร่ือง เขียนประโยคจากภาพ ชื่อ........................................................................ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓………….. เลขที่.............. วันที่…..…….เดอื น………………………………………….…………พ.ศ………….. ********************************************************************************** คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นเขยี นคาจากภาพต่อไปนี้แลว้ นาไปแต่งประโยคใหม้ ีความหมายพรอ้ ม กับระบายสใี หส้ วยงาม ๑. ๒. ๓.

แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ (งานกลมุ่ ) เรือ่ ง เขยี นประโยคจากคา **** กลุ่มท่ี….. ๑.ช่อื …………………………………………..…..….เลขที่……….. ๒.ชื่อ…………………………………………..…..….เลขที่……….. ๓.ชื่อ…………………………………………..…..….เลขท่ี……….. ๔.ชอ่ื …………………………………………..…..….เลขท่ี……….. ๕.ช่ือ…………………………………………..…..….เลขที่……….. คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนนาคาต่อไปนแ้ี ลว้ นาไปแตง่ ประโยคให้มคี วามหมาย กระต่าย ……………………………………………………………… โพรงดิน ……………………………………………………………… ราชสหี ์ ……………………………………………………………… ตน้ ตาล ……………………………………………………………… ลกู ตาล ……………………………………………………………… เมฆฝน ……………………………………………………………… พายุ ……………………………………………………………… สญั ญา ……………………………………………………………… พิสจู น์ ……………………………………………………………… ตริตรอง ……………………………………………………………… อรอ่ ย ……………………………………………………………… เหว ………………………………………………………………

แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เร่ืองกระตา่ ยไมต่ น่ื ตูม เวลา ๑๒ ชัว่ โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่อื ง การเขียนเชิงสร้างสรรค์ เวลา ๑ ชวั่ โมง วันที่ ................................................................ *************************************************************************** มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรื่องราว ในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้า อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ช้ีวดั ท ๒.๑ ป.๖ / ๒ เขียนบรรยายเก่ียวกบั สง่ิ ใดสิง่ หนง่ึ ไดอ้ ยา่ งชัดเจน สาระสาคญั ๑. การเขียนเชงิ สรา้ งสรรค์ เป็นความสามารถในการเขยี นคาประโยคหรือเรือ่ งราวได้อย่างถกู ต้อง แปลกใหม่ไมซ่ ้าแบบใคร มีคุณค่า โดยจะต้องเขียนได้อย่างหลากหลาย และคล่องแคลว่ เสร็จทันเวลาท่ี กาหนด ๒. การฝึกให้ผู้เรียนแสดงความคิดต่อส่ิงหนึ่งสิง่ ใด ซ่ึงอาจจะเปน็ ภาพ ข้อความ บุคคล หรือเหตุการณ์ โดยไมจ่ ากัดความคิดเหน็ เป็นการฝกึ ที่จะชว่ ยใหผ้ ้เู รียนเกิดความคดิ สรา้ งสรรค์ท่ีดีไดว้ ิธหี นึง่ ๓. การฝกึ ใหผ้ เู้ รยี นเขียนเร่ืองจากการวเิ คราะห์โครงเรื่อง จะทาใหผ้ ู้เรยี นเปน็ คนท่ีมีเหตุผล รูจ้ กั วเิ คราะห์วิจารณ์เรอื่ ง ซงึ่ จะช่วยให้สามารถเขยี นเรื่องอย่างสรา้ งสรรค์ได้ ๔. การแต่งประโยคจะนาไปสู่การเขียนบรรยายภาพ เป็นการเพ่ิมพูนทักษะการอ่านและเขียน เป็น การช่วยทากิจกรรมหนังสืออา่ นในช้นั เรียนไดเ้ ปน็ อย่างดี สาระการเรียนรู้ ๑. การแต่งประโยค ๒. การเขียนเรื่องจากโครงเรอ่ื ง ๓. การเขียนเรื่องจากภาพ (นทิ าน) ๔. กจิ กรรมทาหนังสอื อา่ นในชั้นเรียน จดุ ประสงค์กาเรียนรู้ ๑. นักเรยี นสามารถแต่งประโยคจากคาท่ีกาหนดให้ได้ ๒. นักเรียนสามารถบอกแนวคดิ ของบทเรยี นไดถ้ ูกต้อง ๓. นักเรยี นสามารถบอกลักษณะโครงเร่ืองในบทเรียนได้ ๔. นกั เรียนสามารถเขียนเร่ืองใหมต่ ามแนวคิดในบทเรียนได้

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มีจติ สานึกในความเปน็ ไทย ๒. มีความสามคั คใี นหม่คู ณะ ๓. ใชภ้ าษาสื่อสารไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ ๔. นาขอ้ คดิ มาใชใ้ นชีวิตประจาวนั ๕. ประหยดั และอยู่อยา่ งพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้ นาสกู่ ระบวนการเรียนรู้ นกั เรียนอา่ นบตั รคาที่ครูแสดงใหด้ ูแล้วแตง่ เปน็ ประโยค คา หรอื วลี ด้วยปากเปล่าใหม้ ากที่สดุ กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นแบ่งกลุม่ ออกเปน็ ๓ กล่มุ ๆ ละ ๓ - ๕ คน(หรือตามความเหมาะสม) ให้แตล่ ะกลุม่ แขง่ ขนั เขียนประโยคจากคาที่กาหนดให้มาให้มากทีส่ ดุ โดยครูกาหนดคาน้นั มาให้มากทีส่ ุดตามเวลาท่ีกาหนดลง บนกระดาษที่แจกให้ แล้วสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรยี น ๒. นักเรยี นฝึกเขียนเรอ่ื งจากโครงเร่ือง ดว้ ยภาษาของตนเองดังนี้ ๑) นาแผนภูมิโครงสรา้ งของเร่ืองติดบนกระดานดาให้นกั เรียนดูดงั น้ี อะไร : ................................................................................. รูปรา่ ง : ................................................................................. ชนดิ : ................................................................................. อาหาร : ................................................................................. ทอ่ี ยู่ : ................................................................................. ประโยชน์ : ............................................................................... โทษ : ................................................................................. ๒) นักเรียนศกึ ษาเร่ืองสัตว์ชนดิ ใดชนดิ หนงึ่ ในห้องสมุด แลว้ ชว่ ยกันทาโครงเรื่อง โดยการ เติมรายละเอียดลงในโครงสร้างของเรอื่ ง ๓) นักเรียนเขียนเร่ืองตามโครงสรา้ งของเร่อื ง แล้ววาดภาพประกอบลงในแบบฝึกพฒั นาการ เรียนรู้ เสร็จแลว้ สง่ ครตู รวจ ๓. นักเรียนฝึกเขียนเร่ืองจากภาพ โดยมขี ้ันตอนการเขยี น ดังน้ี ๑) นกั เรียนดูภาพในแบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ท่ี ๑ ทค่ี รูแจกให้ ๒) นักเรยี นและครูรว่ มกันสนทนาเก่ียวกับภาพและการกระทาของตัวละครในภาพ

๓) นกั เรยี นบอกเหตกุ ารณใ์ นภาพเป็นตอน ๆ ไป แลว้ เลา่ เรอ่ื งจากภาพตามความเข้าใจของ นักเรยี น ๔) นักเรยี นเขียนบรรยายจากภาพในแบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ประมาณ ๔ - ๕ บรรทัด โดยข้อความตอนท้ายใหเ้ ขยี นบอกแนวคิดจากเร่ืองในภาพด้วย สรุปกระบวนการเรยี นรู้ ๑) ใหน้ ักเรียนนาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน ๒ - ๓ คน และช่วยกันสรปุ การเขียนเรอื่ งจาก ภาพ ๒) ใหน้ ักเรียนทาแบบฝึกหดั ทักษะภาษา หนว่ ยท่ี ๑ เป็นการบ้าน ๓) ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ (ภาคผนวก) สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑ บตั รคาในบทเรยี น ๒. แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ ๓. แผนภูมิวเิ คราะหโ์ ครงเร่ือง ๔. หนงั สือแบบเรยี นภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เลม่ ๒ ๕. แบบฝึกหัดทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ ๖. สีเทียน สีดนิ สอ ๗. หนังสอื สง่ เสริมการอา่ น ๘. ภาพจากบทเรยี น ๙. แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ กระบวนการวัดผลและประเมินผล ๑.วิธกี าร ๑.๑ สังเกต การอ่านคา การเขียน การแตง่ ประโยค ความสนใจในการเรียน กระบวนการทางานของแต่ละคน การซกั ถาม การตอบคาถาม ๑.๒. ตรวจผลงาน หนังสืออ่านในชั้นเรยี น แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ แบบฝกึ หัด ๒. เครอ่ื งมือการวดั และประเมินผล ๒.๑ แบบประเมินพฤติกรรมการทางาน ๒.๒ แบบฝกึ พฒั นาการเรียนรู้ ๓. เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล ใช้การผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป กจิ กรรมเสนอแนะ -

แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ (งานกลมุ่ ) เรื่อง เขยี นประโยคจากคา **** กลุ่มท่ี….. ๑.ช่ือ…………………………………………..…..….เลขที่……….. ๒.ชอ่ื …………………………………………..…..….เลขที่……….. ๓.ชื่อ…………………………………………..…..….เลขที่……….. ๔.ช่อื …………………………………………..…..….เลขท่ี……….. ๕.ช่ือ…………………………………………..…..….เลขที่……….. คาชแ้ี จง นักเรยี นดูภาพแลว้ เขียนบรรยายภาพพร้อมตงั้ ช่ือเรื่อง …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………….……………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………….……………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………….……………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………

แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ เร่อื ง เขียนประโยคจากภาพ ชื่อ................................................................................ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓…………….เลขท่ี.............. วันที่……….….เดอื น………………………………………………พ.ศ……………….. ********************************************************************************* คาช้แี จง นกั เรียนดภู าพแล้วเขียนบรรยายภาพพร้อมตงั้ ชื่อเรื่อง …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………….……………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………….……………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………….……………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………….……………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………

แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑ เร่ืองกระต่ายไมต่ น่ื ตูม เวลา ๑๒ ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑๐ เร่อื ง การพดู แสดงความคิดเหน็ เวลา ๑ ช่วั โมง วันที่ ................................................................................ ************************************************************************************************** มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวช้ีวดั ท ๓.๑ ป.๓ / ๔ พูดแสดงความคิดเหน็ และความรู้สึกจากเรอื่ งท่ฟี ังและดู สาระสาคญั ๑. การคดิ วิเคราะหบ์ ทเรยี นอยา่ งมีเหตุผล เป็นเครื่องบ่งชถี้ งึ การมีทักษะในการฟงั ๒. การฝึกคิดและออกมาพูดอภิปราย ข้อคิดเห็นของเราให้คนอื่นฟัง ถือว่าเป็นคนท่ีมีความสามารถ และแสดงออกอยา่ งถกู ตอ้ ง ๓. การมที ักษะในการเขียน ทาใหค้ ัดลายมือได้ถกู ต้อง รวดเร็ว และสวยงาม สาระการเรียนรู้ ๑. กจิ กรรมพัฒนาทักษะทางภาษา การแสดงความคิดเห็นจากกับบทเรยี น ข้อคดิ จากบทเรยี น หนว่ ยท่ี ๑ เร่อื ง กระต่ายไม่ตน่ื ตมู ๒. การคดั ลายมือจากบทเรียน สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต จุดประสงค์กาเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นสามารถบอกเหตุผลของการกระทาของตวั ละครในบทเรียนได้ ๒. นักเรยี นสามารถประเมินการกระทาของตวั ละครในบทเรยี นได้ ๓. นักเรยี นสามารถกาหนดแนวปฏิบัตติ นที่เหมาะสมท่ีไดจ้ ากบทเรียนได้ ๔. นักเรียนสามารถคดั ตวั บรรจงเตม็ บรรทัด และครึง่ บรรทัดได้ถูกต้อง สวยงาม ๕. นักเรยี นสามารถแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับบทเรียนและสรุปเปน็ ข้อคดิ เห็นได้ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มีจติ สานกึ ในความเปน็ ไทย ๒. มคี วามสามัคคใี นหมคู่ ณะ ๓. ใชภ้ าษาส่ือสารไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ๔. นาขอ้ คดิ มาใช้ในชวี ิตประจาวนั ๕. ประหยดั และอยู่อย่างพอเพยี ง

กระบวนการจัดการเรียนรู้ นาสู่กระบวนการเรียนรู้ สนทนากบั นักเรียนเก่ียวกับการมสี ติรอบคอบการไตร่ตรองในชวี ิตประจาวนั ของเราได้อะไรจากการ ปฏิบัติบ้าง และได้รบั โทษจากการขาดสติอะไรบา้ ง (ถา้ มีใหแ้ สดงความคิดเห็น) กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นประเมินการกระทาของตวั ละครในเร่ืองจากแถบประโยคคาถามที่ครูแสดงให้นักเรยี นอา่ น ดังนี้ ๑) ทาไมลูกกระตา่ ยจึงตกใจกลวั พากันว่งิ หนี ๒) ทาไมแมก่ ระตา่ ยจึงเล่านิทานให้ลกู ๆฟัง ๓) จากนิทานเรือ่ งกระต่ายต่ืนตมู ทาไมกระตา่ ยจงึ ว่งิ หนีตาย ๔) ทาไมสตั ว์อ่ืน ๆ เช่น ช้าง กวาง เสือ ทราย และแรด จงึ วิ่งหนตี ายตามกระต่าย ๕) ทาไมสัตวต์ ่าง ๆ จงึ กลวั พระยาราชสีห์ ๖) ถ้านักเรียนเป็นกระตา่ ยนักเรยี นจะทาอย่างไร ๗) จากการกระทาของกระต่ายและสัตวอ์ นื่ ๆ นักเรียนมีความรู้สึกอยา่ งไร ๒. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ นาเสนอผลงานจากการวเิ คราะห์ ๓. นักเรยี นแตล่ ะคนสมมตติ นเองวา่ เปน็ ตัวละครในเร่อื ง แลว้ จะปฏบิ ตั ิตนอย่างไร โดยเขียนตอบลงใน สมุดนามาเสนอผลงานหน้าช้ัน เชน่ อาจเขียนขึ้นตน้ ไดด้ ังนี้ ถา้ หากฉนั เป็น.................................................ฉนั จะ............................................... ๔. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกันกาหนดแนวปฏิบัติตนที่ไดจ้ ากเน้ือเร่ืองในบทเรยี น เพื่อนามาใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ๕. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ขอ้ วเิ คราะหท์ ่ีได้จากนักเรียนทง้ั หมด ๖. นกั เรียนเลอื กข้อความจากบทเรียนตนใดตอนหนงึ่ ทีน่ ักเรียนชอบแล้วคัดลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั และคร่งึ บรรทดั ส่งครูตรวจ ๗. ครูแนะนาการคัดลายมอื แก่นกั เรียนเกยี่ วกบั การคดั ตัวอักษรให้ถูกต้องและการปฏบิ ตั ิตนในการ เขยี น สรุปกระบวนการเรยี นรู้ ๑. แสดงผลงานนกั เรยี นไวบ้ นป้ายนิเทศผลงานนักเรียน ๒. นกั เรียนทาแบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ (ภาคผนวก) ๓. ทบทวนบทเรยี นโดยรอ้ งเพลงกระตา่ ยสอนลูก จากแผนภูมิเพลง ๔. มอบหมายให้นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั ทักษะภาษา หนว่ ยท่ี ๑ (การบ้าน) สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้ ๑. บัตรคา ๒. ฉลาก ๓. แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้

๔. แถบประโยคคาถาม ๕. กระเปา๋ ผนัง ๖. แผนภมู เิ พลงกระตา่ ยสอนลกู ๗. หนงั สอื แบบเรยี นภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เล่ม ๒ (วรรณคดลี านา) ๘. แบบฝึกหัดทักษะภาษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ กระบวนการวัดและประเมินผล ๑. วธิ ีการ ๑.๑ สงั เกต การพูดและการซกั ถาม การอภปิ รายแสดงความคิดเห็น กระบวนการทางานของแตล่ ะคน การปฏบิ ตั ติ นในการฟงั และเขียน ๑.๒ ตรวจผลงาน แบบฝกึ หัด แบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ ๒. เครอื่ งมือการวัดและประเมนิ ผล ๒.๑ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียน ๒.๒ แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ ๓. เกณฑ์การวัดและประเมินผล ใชก้ ารผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ขน้ึ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ -

แถบประโยค ๑. ทาไมลกู กระตา่ ยจึงตกใจกลวั พากนั วง่ิ หนี ๒. ทาไมแมก่ ระตา่ ยจึงเลา่ นิทานให้ลูกๆฟงั ๓. จากนทิ านเรื่องกระตา่ ยต่ืนตูม ทาไมกระตา่ ยจึงวิ่งหนีตาย ๔. ทาไมสตั ว์อ่นื ๆ เชน่ ช้าง กวาง เสือ ทราย และแรด จึงว่ิงหนตี ายตามกระตา่ ย ๕. ทาไมสตั ว์ตา่ ง ๆ จงึ กลัวพระยาราชสีห์ ๖. ถ้านกั เรยี นเปน็ กระตา่ ยนักเรยี นจะทาอยา่ งไร ๗. จากการกระทาของกระต่ายและสตั ว์อ่นื ๆ นกั เรยี นมคี วามรู้สกึ อยา่ งไร

แผนภมู เิ พลงกระต่ายสอนลกู กระต่ายขาวลูกน้อย คอยเฝา้ ประตไู ว้ หมาป่ามันมาใกล้ อยา่ ได้เปิดประตู กระตา่ ยนอ้ ยลูกรกั เจา้ พักอยู่ทไี่ หน หมาปา่ มันไปไกล จงไดเ้ ปิดประตู

แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ชือ่ ............................................................................ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓…………….. เลขที่.............. วันที่………….….เดอื น…………………………………..……………พ.ศ……………………. ********************************************************************************** คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปนใี้ ห้ถูกต้องและแสดงความคิดเหน็ ๑. นกั เรยี นคดิ วา่ ลูกกระตา่ ยขาวและลูกกระตา่ ยดาในเรื่องนม้ี ีลกั ษณะนิสยั เหมือนกับกระต่ายในนทิ าน เร่อื ง กระตา่ ยตนื่ ตมู หรอื ไม่ อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๒. หากใหน้ กั เรยี นเป็นตวั ละครในบทเรียนน้ี จะเลือกเปน็ ตัวละครใด เพราะเหตใุ ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ๓. เหตใุ ดแม่กระต่ายจึงเลา่ นิทานเร่อื ง กระต่ายตื่นตูม ให้ลกู กระต่ายฟงั ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………… ๔. นักเรียนคิดและพจิ ารณาว่า ธรรมชาตขิ องกระตา่ ย กับกระตา่ ยในนทิ านเร่ืองนี้ มอี ะไรที่เหมือนกนั และ ตา่ งกันบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… ๕. นักเรียนเคยฟงั ข่าว อา่ นข่าว ไดย้ ินเรื่องราว หรือพบเห็นเหตกุ ารณท์ ี่มลี กั ษณะเช่นเดียวกบั นทิ านเร่ือง กระต่ายต่นื ตมู บา้ งหรอื ไม่ ลองยกตวั อย่าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …

แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ช่ือ...................................................................................ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓...............เลขที่.............. วนั ท่ี……..…….เดือน…………………………………………………พ.ศ…………….... ********************************************************************************** คาชแ้ี จง นักเรียนคัดนิทานเร่ืองกระตา่ ยตน่ื ตูม ตอนท่นี ักเรียนชอบ ด้วยตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑๑ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เร่ืองกระต่ายไมต่ นื่ ตูม เวลา ๑๒ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑๑ เรือ่ ง การอา่ นเสริมบทเรียน เวลา ๑ ช่ัวโมง วันที่ ................................................................ ************************************************************************************************** มาตรฐาน ท ๑.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คณุ คา่ และนามาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ ตวั ชว้ี ดั ท ๑.๑ ป.๓ / ๖ อา่ นหนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและนาเสนอเร่ืองท่ีอ่าน สาระสาคัญ ๑. ความรคู้ วามเข้าใจเก่ยี วกับแผนบงั คบั ของบทร้อยกรองจะช่วยใหน้ กั เรียนสามารถอา่ นและแตง่ บท ร้อยกรองได้ถกู ต้อง ๒. การรูค้ วามหมายของคาศัพทใ์ นบทร้อยกรอง จะชว่ ยใหน้ ักเรยี นสามารถแปลความหมายของบท ร้อยกรองน้นั ได้ ๓. การอา่ นหนังสอื เพมิ่ เติมหรอื อา่ นเสรมิ จะชว่ ยใหน้ ักเรียนรักการอา่ นและเกิดนิสัยรักการอ่านตามมา ได้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะทางภาษา การอ่านเสริมบทเรยี น เร่อื ง กระต่ายแหยเ่ สือ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. สามารถอา่ นเร่ืองทกี่ าหนดใหไ้ ดอ้ ย่างถกู ต้อง ๒. สามารถวาดภาพและเขยี นบรรยายภาพสั้น ๆ ได้ ๓. สามารถตงั้ และตอบคาถามจากเร่ืองท่ีอ่านได้ ๔. สามารถทางานได้อย่างเพลิดเพลินและมคี วามสุข (เกง่ ดี มีสุข) สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. รกั และช่ืนชมในเอกลักษณ์ไทย ๒. มีความซือ่ สัตยส์ ุจริต ๓. มีวนิ ยั ในตนเอง ๔. มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้

๕. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง กระบวนการจดั การเรียนรู้ นาสกู่ ระบวนการเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นเลน่ เกมทนายการอ่าน (ภาคผนวก) ๒. นกั เรยี นอา่ นในใจบทเรยี นเพอื่ สารวจคาทอี่ ่านไม่ได้ ๓. นกั เรยี นอ่านคายากในบทเรยี นจากบตั รคาท่ีครแู สดงให้ดดู งั น้ี เสอื แหย่ โกรธ จมูก คาราม อบุ าย แมลงวนั พมึ พา พระอนิ ทร์ สาปแช่ง อิดเออื้ น ขม้า กระบวนการเรยี นรู้ ๔. นักเรียนดูรูปภาพจากบทเรียน แลว้ สนทนากับนักเรยี นเรอื่ ง “กระต่ายแหย่เสือ” ๕. นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายแสดงความคิดเห็นเร่ือง “กระต่ายแหยเ่ สอื ” ดงั ตอ่ ไปนี้ ๕.๑. ทาไมกระตา่ ยถึงต้องการแหย่เสอื ๕.๒ ทาไมเสือจงึ ต้องพลาดท่าเสยี ทใี หก้ ระตา่ ย ๖. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ (ตามความเหมาะสม) ร่วมกนั อภปิ รายเพ่ือแบ่งเน้ือหาของ บทเรยี นออกเปน็ ตอนๆ โดยสง่ ตวั แทนจบั ฉลากเพ่ือเลือกเนอื้ หาของบทเรียนกลุ่มละ ๑ ตอน แลว้ ให้ นักเรยี นแต่ละกลุ่มอา่ นในใจตอนท่รี ับผิดชอบ รว่ มกันอภปิ รายเพื่อลาดบั เหตกุ ารณ์สาคัญของเรื่อง สรปุ ใจความสาคัญของเรอื่ ง และผลัดกันตั้งคาถาม ตอบคาถามจากเรอ่ื งที่อา่ น ๗. ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลงาน โดยครูและเพ่ือนชว่ ยกันเพ่ิมเตมิ ส่วนท่ขี าดหายไป ๘. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปบทเรยี น เรือ่ ง แนวปฏิบตั ใิ นการอ่านในใจที่ถูกต้องแล้ว รว่ มกนั สรุปลาดบั เหตุการณส์ าคญั และสรุปใจความสาคัญของเรอ่ื ง จากนน้ั นักเรียนบันทึกลงสมุด ๙. มอบหมายให้นกั เรียนทาแบบฝกึ หัดทักษะภาษา หน่วยท่ี ๑ (เปน็ การบา้ น) ๑๐. นกั เรยี นทาแบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ (ภาคผนวก) สรปุ กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นักเรียนกระตา่ ยกบั เสือ แลว้ เขยี นบรรยายเรื่องดว้ ยคาพูดของนกั เรยี นเอง โดยมี เนอ้ื ความตามที่อา่ นจากบทอ่านเสรมิ บทเรยี นลงในสมดุ ๒. นกั เรียนส่งผลงานใหค้ รูตรวจ

สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. บัตรคายากในบทร้อยกรอง ๒. กระเป๋าผนงั ๓. หนงั สือแบบเรียนภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ เล่ม ๒ วรรณคดีลานา ๔. แบบฝกึ หัดทักษะภาษา ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ ๕. แบบฝึกพัฒนาการเรียนรู้ กระบวนการวดั และประเมินผล ๑. วธิ กี าร ๑.๑ สังเกต การตอบคาถามและการซักถาม การอ่านบทร้อยกรอง กระบวนการทางานของแตล่ ะคน ๑.๒ ตรวจผลงาน แบบฝกึ หดั แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ ๒. เครือ่ งมือการวัดและประเมนิ ผล แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี น แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ ๓. เกณฑ์การวัดและประเมินผล ใช้การผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป กิจกรรมเสนอแนะ -

แบบฝึกพฒั นาการเรยี นรู้ ช่ือ...................................................................ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓.............เลขที่.............. วนั ท่ี……….….เดือน…………………………………………………พ.ศ………………….... ********************************************************************************** ๑) ทาไมกระต่ายจึงเอาหญ้ามาแหยจ่ มูกเสือ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒) กระตา่ ยพบกองข้ีควาย แล้วออกอบุ ายยว่ั เสอื และโกหกเสืออยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… ๓) กระตา่ ยพบกองข้ีควาย แลว้ ออกอุบายยวั่ เสือและหลอกเสืออย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… ๔). กระตา่ ยพบรงั ผ้ึง แลว้ ออกอบุ ายย่วั เสอื และโกหกเสืออย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… ๕) กระต่ายพบจระเขแ้ ละโกหกจระเข้อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… ๖) ถา้ นกั เรยี นเปน็ จระเข้ นกั เรียนจะทาอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… ๗) เรอื่ งน้ใี ห้ข้อคิดอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………

แบบฝกึ พัฒนาการเรียนรู้ ชอ่ื .................................................................ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓.......................เลขท่ี............................. วนั ที่…….…….เดือน………………………………………………………พ.ศ…………………….. ******************************************************************** คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นดูภาพแลว้ เขยี นบรรยายเร่อื งให้สอดคล้องกับภาพตามท่ีกาหนดให้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………..……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………..………………………………

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๑๒ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เร่ืองกระต่ายไม่ต่ืนตูม เวลา ๑๒ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๒ เร่ือง การส่งเสรมิ การอ่าน เวลา ๑ ชว่ั โมง วนั ที่ ................................................................ ************************************************************************************************** มาตรฐาน ท ๑.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คณุ ค่าและนามาประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓ / ๖ อา่ นหนงั สือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและนาเสนอเร่ืองที่อ่าน สาระสาคัญ การอา่ นหนงั สือเพิ่มเตมิ หรอื อา่ นเสริมบทเรียน จะช่วยให้นักเรียนรักการอ่านและเกิดนิสัยรักการอ่าน ตามมาได้ สาระการเรยี นรู้ บทอ่านเสริมบทเรียน เรือ่ ง “กระตา่ ยน้อยนา่ รกั ” จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สามารถอ่านเร่ืองทีก่ าหนดใหไ้ ดอ้ ย่างถูกต้อง ๒. สามารถวาดภาพและเขียนบรรยายภาพสั้น ๆ ได้ ๓. สามารถต้ังและตอบคาถามจากเร่ืองทีอ่ า่ นได้ ๔. สามารถทางานรว่ มกบั คนอน่ื ไดอ้ ย่างมีความสุข (เกง่ ดี มีสุข) สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. รักและชน่ื ชมในเอกลักษณ์ไทย ๒. คดิ วิเคราะหเ์ รอ่ื งราวตา่ งๆได้ ๓. มีวินัยในตนเอง ๔. มีความสนใจใฝเ่ รียนรู้ ๕. อย่อู ยา่ งพอเพียง กระบวนการจดั การเรยี นรู้ นาสกู่ ระบวนการเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนเลน่ เกมสืบสวน (ภาคผนวก) หรือเกมอ่นื ๆ ตามความเหมาะสม ๒. นกั เรยี นอ่านคายากในบทอา่ นเสรมิ บทเรียน เร่ืองกระต่ายนอ้ ยนา่ รกั จากบัตรคาที่ครูแสดงใหด้ ู ดงั นี้

รปู รา่ ง หนา้ ตา แพร่พันธ์ุ รวดเร็ว โปน เบ้าตา ลักษณะ บริเวณ ริมฝปี าก หนวด กระโดด กระโจน กระดก ประเทศไทย อดีต ปจั จุบนั กระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรียนรว่ มกันตัง้ จดุ มงุ่ หมายในการอ่านวา่ อ่านแลว้ ตอบคาถาม สรุปใจความจากเรอื่ งท่ี อ่านได้ ๒. นกั เรียนดภู าพกระต่าย เพื่อประกอบการอ่านเสรมิ บทเรียน เรื่อง “กระตา่ ยน้อยนา่ รกั ” และชว่ ยกนั สนทนาเก่ียวกับภาพ ๓. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๔ – ๕ คน โดยวิธีจบั ฉลากผลไม้ คดั เลือกแล้วอา่ นบทอา่ น เสรมิ บทเรยี น เรื่อง “กระต่ายนอ้ ยนา่ รัก” ๔. นกั เรียนเรยี นรู้หรอื อ่านในลักษณะเพื่อนช่วยกนั คือตรวจความถกู ต้อง กันเอง หากใครมปี ัญหาให้คนท่ีเก่งช่วยพาอา่ น และถามตอบกนั เองภายในกลุ่ม (เน้นการอ่านออกเสยี ง) ๕. นักเรยี นอา่ นออกเสียงตามเป็นจังหวะจนคลอ่ ง ๖. นกั เรยี นร่วมกนั อภิปราย ซักถามเนือ้ หาสาระการเรยี นรู้ โดยนกั เรียนตง้ั คาถามให้เพื่อน ๆ ตอบ ดงั นี้ ๑) กระต่ายมรี ปู ร่างลกั ษณะอยา่ งไร ๒) กระตา่ ยเป็นสตั วเ์ ล้ยี งลกู ด้วยนม ใช่หรอื ไม่ ๓) กระต่ายมกี ีส่ ี ๔). กระต่ายมีฟันก่ีซี่ ๕). กระต่ายเม่ือเวลาตกใจทาอย่างไร ๖) กระต่ายมีลักษณะประจาตัวอย่างไร ๗) กระต่ายมีประโยชน์อยา่ งไร ๗. นกั เรียนทุกคนเขยี นคาถามและคาตอบลงในสมดุ (เนน้ คัดสวยงาม) ๘. นกั เรียนช่วยกนั สรปุ เนื้อหาสาระการเรยี นรทู้ ้ังหมดอีกครง้ั หน่ึง ๙. มอบหมายใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหัดทักษะภาษา หน่วยที่ ๑ (เป็นการบ้าน) สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรียนวาดภาพกระตา่ ย แลว้ เขยี นบรรยายเรื่องด้วยคาพดู ของนักเรียนเอง โดยมี เนือ้ ความตามท่ีอ่านจากบทอ่านเสรมิ บทเรยี นลงในสมุด ๒. นกั เรียนทาแบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ (ภาคผนวก)

สือ่ และแหลง่ การเรียนรู้ ๑ เกมสืบสวน ๒. บัตรคา ๓. บทอา่ นเสริมบทเรียน ๕. หนังสอื แบบเรียนภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เล่ม ๒ วรรณคดีลานา ๖. แบบฝกึ หดั ทักษะภาษา ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ๗. แบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ กระบวนการวัดผลและประเมนิ ผล ๑.วิธกี าร ๑.๑ สงั เกต การอา่ นออกเสียง การตอบคาถาม การซกั ถาม ความสนใจในการเรียน กระบวนการทางาน ๑.๒ ตรวจผลงาน สมดุ งาน/แบบฝึกหัด แบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ ๒. เคร่อื งมอื การวัดและประเมินผล แบบประเมนิ การอ่าน แบบฝกึ พัฒนาการเรยี นรู้ ๓. เกณฑ์การวดั และประเมินผล ใช้การผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๗๐ ข้นึ ไป กิจกรรมเสนอแนะ -

ภาคผนวก เกม “สบื สวน” อปุ กรณก์ ารเล่น บัตรคา “ที่ไหน” “ใคร” “ทาอะไร” “ทาไม” “เมือ่ ไร” “กับใคร” สลาก วิธีดาเนินการเลน่ เกม ๑. ให้นักเรียนแบง่ ออกเป็นสองกลมุ่ กลุ่มละเท่ากนั ๒. ให้แตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมาจบั สลากว่ากลุ่มใดจะไดเ้ ริ่มเลน่ กอ่ น ๓. ให้แตล่ ะกลุ่มน่ังรวมกันเป็นแถวหน้ากระดานซ้อนกัน ๒ แถว ๔. เรม่ิ เล่นโดยครชู ูบัตรคาทเี่ ปน็ คาถามข้ึนทีละใบ แลว้ ให้ผู้เลน่ ทั้งสองฝ่ายผลัดกันโตต้ อบให้ตรงคาถามที่ใหด้ ู ๕. การโตต้ อบการบัตรคาถามน้นี ักเรยี นตอ้ งทาอย่างรวดเร็ว โดยครจู ะให้เวลาประมาณ ๒๐-๓๐ นาที ถ้าครู เอาบตั รลงเม่ือไรกห็ มดสิทธิต์ อบ ๖. การตัดสนิ จะดวู ่าฝ่ายใดตอบช้าตอ้ งออกจากการแข่งขันมาชว่ ยครเู ป็นกรรมการการแข่งขันดาเนินไปเร่ือย ๆ ฝา่ ยใดเหลือจานวนคนมากท่สี ดุ กเ็ ป็นฝ่ายชนะ ตัวอย่าง ๑) ใคร ทาอะไร ทีไ่ หน เม่ือไร ฝ่าย ก ฝา่ ย ข ฝา่ ย ค ฝา่ ย ง ลงิ กินกล้วย บนต้นไม้ กลางวนั หรอื ไก่ กนิ ข้าว ลานบ้าน ตอนเช้า ๒) อะไร ของใคร เป็นอะไร เพราะอะไร ฝา่ ย ก ฝ่าย ข ฝา่ ย ค ฝา่ ย ง ปากกา สมพร หัก โต๊ะล้มทบั หรอื กางเกง วิชาญ ขาด เกีย่ วตะปู ข้อเสนอแนะ กอ่ นทจ่ี ะเลน่ ครูควรสาธิตและซกั ซอ้ มความเขา้ ใจกับนกั เรยี นใหด้ กี อ่ นและ บางครั้งถึงแม้คาท่ีโตต้ อบจะเปน็ เร่อื งสมมุติขนึ้ กย็ อมรบั เพ่ือความสนุกสนาน และการโต้ตอบให้ตรงคาถามก็ เพียงพอแล้วถา้ ครไู มไ่ ด้เตรยี มบตั รคาไว้ ครอู าจทาหนา้ ทเี่ ป็นคนกลางคอยตั้งคาถามใหต้ รงจุดโดยครดู จู าก ลักษณะคาตอบของผู้เลน่ แลว้ พยายามต้ังคาถามใหต้ ่อเน่ืองกันเพ่ือชว่ ยให้นกั เรยี นสามารถคดิ ไดต้ ่อเนื่องดว้ ย ก็จะทาให้บรรยากาศสนกุ สนานยง่ิ ขึน้ เมือ่ เสรจ็ กจิ กรรมนาเข้าสบู่ ทเรียนครูกพ็ ูดโยงเข้าสู่บทเรียนต่อไป

แบบฝกึ พฒั นาการเรยี นรู้ ชือ่ ........................................................................ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓..................เลขท่ี.............. วันที่…….…….เดอื น……………………………………..…………พ.ศ…………….. ********************************************************************************** คาช้แี จง ให้นกั เรยี นระบายสีภาพแลว้ เขียนเรอ่ื งให้สอดคลอ้ งกบั ภาพตามที่กาหนดให้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ ชอ่ื .......................................................................ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓...................เลขที่................... วนั ท่ี…….…….เดอื น……………………………………….………พ.ศ……….. ******************************************************************************** คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนดภู าพแลว้ เขยี นเรอื่ งใหส้ อดคลอ้ งกบั ภาพตามท่ีกาหนดให้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบทดสอบหลังการเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๑ กระตา่ ยไม่ตนื่ ตมู ******************************************************************* คาช้ีแจง นกั เรยี นทาเครอ่ื งหมาย X ทบั ตัวอกั ษร ก, ข, ค, ง หนา้ คาตอบทถ่ี ูกท่ีสุด ๑. บา้ นของกระตา่ ยป่า อยู่ทใี่ ด ก. โพรงไม้ ข. โพรงดนิ ค. ตน้ ไม้ ง. กรง ๒. บ้านของกระตา่ ยปา่ อาศัยอยบู่ รเิ วณใด ก. กลางปา่ ข. ทา้ ยสวน ค. กลางสวนมะพร้าว ง. ไมม่ ขี ้อถูก ๓. แมก่ ระตา่ ยมลี ูกกี่ตวั ก. ๑ ตวั ข. ๒ ตวั ค. ๓ ตวั ง. ไมม่ ีข้อถูก ๔. ขอ้ ใดบรรยายลักษณะของลกู กระต่ายได้ถกู ต้อง ก. สีดาเหมอื นท้องฟ้ายามคา่ คนื ข. สขี าวเหมือนปยุ ฝา้ ย ค. สนี า้ เงินเหมอื นทอ้ งทะเล ง. ข้อ ก และ ข ถกู ๕. ขณะท่ีแมก่ ระตา่ ยและลูกกระตา่ ยกาลงั ปลูกผักอยหู่ น้าบ้าน เกดิ เหตุการณ์อะไร ก. ลมพัดแรง ข. ฝนจะตก ค. เกิดพายุ ง. ถกู ทุกข้อ ๖. เกดิ เหตุการณ์ใดทาให้ลูกกระต่ายตกใจกลวั และพากันว่ิงหนี ก. ลูกตาลหล่น ข. ลกู มะพรา้ วหลน่ ค. กงิ่ มะพร้าวหล่น ง. ไม่มีข้อถูก ๗. จากเหตุการณ์ในข้อ ๖ ทาให้ลกู กระตา่ ยตกใจกลวั พากันว่ิงหนนี ั้น ลูกกระต่ายคิดวา่ เกิดอะไรข้นึ ก. แผ่นดินไหว ข. แผน่ ดินถลม่ ค. โลกแตก ง. ฟ้าถล่ม ๘. แมก่ ระตา่ ยเล่านิทานใหล้ กู ๆ ฟงั เรือ่ งอะไร ก. ราชสีห์กบั หนู ข. หมาปา่ กับลูกแกะ ค. เด็กเลีย้ งแกะ ง. กระตา่ ยต่นื ตมู ๙. ขอ้ ใดถูกตอ้ งเกี่ยวกับการปลกู ผักของครอบครัวกระต่าย ก. ลูกกระตา่ ยดาปลูกผักกาดขาว ข. ลกู กระตา่ ยขาวปลกู ผักกาดเขียว ค. แมก่ ระตา่ ยดาปลูกผกั กาดขาวปลี ง. ข้อ ก และ ข ถูก

๑๐. เรอื่ งกระต่ายต่นื ตูม กระตา่ ยนอนหลบั อยทู่ ี่ใด ก. ใตต้ น้ มะพรา้ ว ข. ใต้ตน้ ตาล ค. ใตต้ น้ มะม่วง ง. ข้อ ข และ ค ถูกต้อง ๑๑. นกั เรียนคิดว่า เรื่องกระต่ายตื่นตูม เกิดอะไรข้ึนในฤดูใด ก. ฤดูหนาว ข. ฤดูฝน ค. ฤดูร้อน ง. ถูกทกุ ข้อ ๑๒. ขณะกระตา่ ยนอนหลบั เกิดอะไรขึ้นกับกระต่าย ก. ลกู ตาลหลน่ ข. ลกู มะพร้าวหล่น ค. กงิ่ มะพร้าวหล่น ง. ไม่มีข้อถูก ๑๓. จากเหตกุ ารณ์ในข้อ ๑๒ ทาใหก้ ระตา่ ยตกใจ ต่นื ขน้ึ กลัวแลว้ วงิ่ หนีตายกระต่ายคิดวา่ เกิดอะไรขึน้ ก. แผ่นดินไหว ข. แผ่นดินถลม่ ค. โลกแตก ง. ฟา้ ถลม่ ๑๔. เสือ ช้าง กวาง ทราย แรด เห็นกระต่ายวง่ิ หนีมาเพราะคดิ วา่ ฟ้าถล่มแล้วสตั วเ์ หล่านนั้ ทาอยา่ งไร ก. เฉย ๆ ข. วิ่งหนตี ายตามกระต่าย ค. ไมส่ นใจ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ๑๕. สตั ว์ชนดิ ใดเปน็ สตั ว์ทมี่ ปี ัญญา ก. เสอื ข. ช้าง ค. กระตา่ ย ง. พระยาราชสหี ์ ๑๖. ทาไมสัตว์ต่าง ๆ เช่น เสือ ช้าง กวาง ทราย แรด ทก่ี าลงั วงิ่ หนจี ึงหยุดวง่ิ เมื่อพระยาราชสหี ์ บอกให้ หยดุ ว่งิ ก. กลัวอานาจของราชสหี ์ ข. พระยาราชสีห์เปน็ เจ้าปา่ ค. เหนื่อย ค. ได้รับบาดเจ็บ ๑๗. นิทานเรือ่ งกระต่ายตืน่ ตูม สอนและให้ขอ้ คดิ เกย่ี วกับเร่อื งอะไร ก. ความมสี ติ ข. ความรอบคอบ ค. คิดไตร่ตรองก่อนทา ง. ถกู ทกุ ข้อ ๑๘. จากนทิ านเร่ือง กระตา่ ยแหย่เสือ ทาไมกระตา่ ยจึงต้องแหยเ่ สอื ก. นกึ สนุก ข. โกรธ ค. เกลยี ด ง. ถกู ทกุ ขอ้ ๑๙.จากนิทานเรื่อง กระต่ายแหย่เสือ กระตา่ ยพบเหน็ กองขค้ี วาย แล้วโกหกเสอื ว่าเป็นอะไร ก. น้าออ้ ยพระอินทร์ ข. ขา้ วเหนียวเปยี กพระอนิ ทร์ ค. ฆอ้ งพระอนิ ทร์ ง. ไมม่ ขี ้อถูก ๒๐. จากนิทานเร่ือง กระตา่ ยแหยเ่ สอื กระต่ายพบเห็นรงั ผ้ึง แล้วโกหกเสอื ว่าเปน็ อะไร ก. น้าอ้อยพระอินทร์ ข. ขา้ วเหนียวเปยี กพระอินทร์ ค. ฆ้องพระอินทร์ ง. ไม่มีข้อถกู

๑. ข ๒. ค เฉลย ๕. ง ๖. ข ๗. ง ๓. ข ๔. ง ๑๐. ข ๑๑. ข ๑๒. ก ๘. ง ๙. ง ๑๕. ง ๑๖. ง ๑๗. ง ๑๓. ง ๑๔. ข ๒๐. ค ๑๘. ข ๑๙. ข

ความคดิ เหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ………………………………………………….. ลงชื่อ……………………………………………………. (นางสวภาว์ ค้มุ สุพรรณ.) (นางเย็นฤดี คมุ้ สุพรรณ) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หัวหนา้ วชิ าการระดับชนั้ ป.1-3 ……………./………………/…………….. ……………./………………/…………….. ความคิดเห็นของรองผอู้ านวยการโรงเรยี น ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………………….. (นางลาจวน ป้อมบุญมี ) รองผ้อู านวยการโรงเรยี นพิณพลราษฎร์ ตง้ั ตรงจิตร 12 วันท…ี่ …….…เดอื น…………………..พ.ศ……….

บนั ทกึ ผลหลังการสอน วนั ที่ ................ เดอื น........................พ.ศ. ........................... ผลการเรยี นรูท้ ่เี กดิ ขึ้นกับผู้เรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา / อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………….. (นางเยน็ ฤดี คุม้ สพุ รรณ ) ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะชานาญการพิเศษ วันท่ี………เดอื น…….…………..พ.ศ……….