ทวปี ยโุ รปกบั พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ พนั ธกานต์ เขียวประชมุ 3/3 20
พฒั นาการดา้ นการเมืองการปกครอง • โดยทว่ั ไปกลา่ วได้วา่ ในอดตี ดินแดนสว่ นใหญ่ของทวีปยโุ รปมีกษัตริย์เป็นประมขุ สงู สดุ แม้แตใ่ นสมยั กรีกเรืองอานาจ เมื่อกวา่ ๕๐๐ ปีกอ่ นคริสต์ศกั ราช ระบอบการปกครองแบบกษัตริย์ก็เป็นท่ีรู้จกั กนั แพร่หลายแล้ว ในสมยั จกั รวรรดิ โรมนั (๒๗ ปีกอ่ นคริสต์ศกั ราช-ค.ศ.๔๗๖) พระประมขุ สงู สดุ เรียกวา่ ซีซาร์หรือจกั รพรรดิซงึ่ ทรงปกครองอาณาบริเวณ กว้างขวางครอบคลมุ พนื ้ ท่ีในยโุ รปและบางสว่ นของเอเชียและแอฟริกา
พฒั นาการดา้ นเศรษฐกิจ • สมัยโบราณ เศรษฐกิจของยโุ รปขนึ ้ อยกู่ บั การเกษตรตามบริเวณลมุ่ แมน่ า้ และการค้าขายผลผลติ เกษตรและงาน หตั ถกรรม มีการสร้างเมืองท่าการค้าเพอ่ื ใช้ขนสง่ สนิ ค้า สมยั กลาง เศรษฐกิจในชว่ งคริสต์ศตวรรษท่ี 5–11 เป็นระบบเศรษฐกิจแบบแมนเนอร์ (Nanorial System) ซง่ึ เป็นเศรษฐกิจเกษตรกรรมแบบพงึ่ ตวั เอง สมัยใหม่ ระบบเศรษฐกิจเป็นแบบทนุ นิยม
พฒั นาการดา้ นสงั คมศิลปวฒั นธรรม • ในสมยั กลางตอนต้น สงั คมของตะวนั ตกประกอบด้วย ชนชนั้ ๓ ฐานนั ดร ได้แก่ กษัตริย์-ขนุ นาง นกั บวช และชาวไร่-ชาวนา (ทาส ติดท่ีดิน) แตเ่ มอ่ื มีการฟืน้ ตวั ของเศรษฐกิจและเมอื งขนึ ้ ในคริสต์ศตวรรษท่ี ๑๑ สงั คมยโุ รปก็เกิดชนชนั้ ใหม่ คอื ชนชนั้ กลางหรือชน ชนั้ กระฎมุ พี ท่ีประกอบอาชีพตา่ งๆ เช่น ชา่ งฝีมือ ลกู จ้าง พอ่ ค้า อาจารย์ นกั ศกึ ษา โดยอาศยั อยใู่ นเขตเมือง ถือวา่ เป็น ชนชนั้ ใหม่ ของสงั คมตะวนั ตก ชนชนั้ กลางเหลา่ นีไ้ ด้ร่วมกนั วางรากฐานความเจริญให้แก่สงั คมยโุ รปและปลกู ฝังอดุ มการณ์และวิธีการ ปฏบิ ตั ใิ นการอยรู่ ่วมกนั เช่น สทิ ธิและหน้าทข่ี องชาวเมอื ง การจดั เก็บภาษีและคา่ ปรับ เป็นต้น เพ่ือนารายได้มาบริหาร การทานุ บารุงแลการปอ้ งกนั เมือง สง่ เสริมและขยายการศกึ ษาการจดั ตงั้ มหาวิทยาลยั และเกิดการฟืน้ ฟศู ลิ ปวทิ ยาการและความเจริญ อื่นๆ ตลอดจนสง่ เสริมคณุ ธรรมและให้ความสาคญั แก่สทิ ธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคปัจเจกบคุ คล ซงึ่ เป็นพืน้ ฐานสาคญั ทีท่ า ให้สงั คมยโุ รปสามารถพฒั นาระบอบการปกครองแบบระบอบประชาธิปไตย
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: