Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เครื่องดนตรีวงปี่พาทย์

เครื่องดนตรีวงปี่พาทย์

Published by Duangrat Nok Mayree Eamprasert, 2020-04-10 11:44:55

Description: เครื่องดนตรีวงปี่พาทย์

Keywords: เครื่องดนตรี,วงดนตรี,วงปี่พาทย์,วงดนตรีไทย

Search

Read the Text Version

ดนตรีไทยมีเอกลกั ษณ์ต่างๆกนั ลกั ษณะ วสั ดุใน การ สร้างเสียง และองคป์ ระกอบต่างๆของเครื่องดนตรี เป็นเครื่องแสดงประเภทของเครื่องดนตรีไดเ้ ป็ นอยา่ งดี นอกจากประเภท ของเคร่ืองดนตรีแลว้ การรวมวงในการ บรรเลง น้นั เป็นสิ่งสาคญั เช่นกนั การเลือกนาเคร่ืองดนตรี ในประเภทตา่ งๆมารวมวงจงึ ข้นึ อยกู่ บั ลกั ษณะวงและ โอกาสในการใช้ หนงั สืออ่านเพม่ิ เติมเรื่องเคร่ืองดนตรีในวงป่ี พาทยน์ ้ี จึงสร้างข้นึ มาเพ่อื ให้ผเู้ รียนในระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๔ -ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี ๖และผสู้ นใจในการศึกษาเร่ือง ดนตรีไทย ไดศ้ ึกษาและวเิ คราะห์ลกั ษณะเครื่องดนตรี รูปแบบการประสมวง เพอื่ สามารถเรียนรู้เรื่องราวของ ดนตรีดว้ ยการอ่านและศกึ ษา ขอ้ มูลต่างๆทางดนตรีเพ่ือ ส่งเสริมการรักการอ่านผา่ นดนตรีในอีกแง่มุมหน่ึง ขอ้ มูล จากหนงั สือ เล่มน้ีคงเป็ นประโยชนต์ ่อผอู้ ่านและสามารถนา ขอ้ มูลไปใชใ้ นการแสดงเอกลกั ษณ์ไทยดา้ นดนตรีไดเ้ ป็น อยา่ งดี ดวงรัตน์ เอ่ียมประเสริฐ

เรื่อง หนา้ คานา ๒ สารบญั ๓ คาช้ีแจงสาหรับครู ๔ คาช้ีแจงสาหรับนกั เรียน ๕ แบบทดสอบก่อนเรียน ระนาดเอก ๖ ระนาดทุม้ ๗ ฆอ้ งวงใหญ่ ๘ ฆอ้ งวงเลก็ ป่ี ใน ๙ ระนาดเอกเหลก็ ๑๐ ระนาดทุม้ เหลก็ ๑๑ ตะโพน กลองทดั ๑๒ ฉิ่ง ๑๓ กรับ ๑๔ ฉาบเลก็ ๑๕ ป่ี พาทยเ์ คร่ืองหา้ ๑๖ ป่ี พาทยเ์ ครื่องคู่ ๑๗ ป่ี พาทยเ์ คร่ืองใหญ่ ๑๘ คาที่ควรรู้ ๑๙ แบบทดสอบหลงั เรียน เฉลย บรรณานุกรม

หนงั สือเร่ืองเครื่องดนตรีในวงปี่ พาทย์ เป็นหนงั สืออา่ นเพิม่ เติมในกลุ่มสาระการเรียนรู้ กลุ่มศิลปะ(สาระท่ี ๒ ดนตรี)จดั ทาข้ึนเพอิ่ ให้ นกั เรียนใชศ้ ึกษาคน้ ควา้ ในชว่ั โมงท่ีเรียนและ สามารถใชส้ าหรับศึกษาเพิ่มเติมเพิ่อให้นกั เรียน ไดใ้ ชเ้ ป็นหนงั สือในโครงการรักการอ่าน ซ่ึงเป็น การอา่ นผา่ นขอ้ มูลเก่ียวกบั ดนตรี หรือสามารถ ใชป้ ระกอบการเรียนเพือ่ เป็นส่ือในการเรียนรู้ เก่ียวกบั เคร่ืองดนตรีและวงดนตรีไดต้ าม ความเหมาะสม

๑. ครูแนะนาใหน้ กั เรียนศึกษาหนงั สืออ่านเพิ่มเติมเรื่อง เครื่องดนตรีในวงปี่ พาทย์ ๒. อธิบายข้นั ตอนและวิธีใชห้ นงั สืออ่านเพิ่มเติมเร่ือง เครื่องดนตรีในวงปี่ พาทย์ ๓. แนะนานกั เรียนให้ทาแบบทดสอบก่อนเรียน (เพ่ือประเมินพ้ืนฐานการเรียนรู้ของนกั เรียน) ๔. แนะนาให้นกั เรียนอา่ นคากลอนแลว้ แปลความหมาย จากคากลอน ๕. อธิบายขอ้ มูลเพิ่มเติมเกี่ยวกบั เคร่ืองดนตรีและวงดนตรี ๖. ให้นกั เรียนศึกษาวิเคราะห์และจาแนกลกั ษณะของ เคร่ืองดนตรี ๗. ใหน้ กั เรียนศึกษาวิเคราะห์และจาแนกลกั ษณะการประสม วงดนตรี ๘. ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียน ๙. แนะนานกั เรียนใหท้ าแบบทดสอบหลงั เรียน (เพื่อประเมินผลการเรียนรู้ของนกั เรียน)

๑. ศึกษาข้นั ตอนและวิธีใชห้ นงั สืออ่านเพ่ิมเติมเร่ือง เคร่ืองดนตรีในวงปี่ พาทย์ ๒. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ๓. อา่ นคากลอนแลว้ แปลความหมายจากคากลอน ๔. ศึกษาขอ้ มลู เพ่ิมเติมเกี่ยวกบั เครื่องดนตรีและวงดนตรี ๕. ศึกษาวิเคราะห์และจาแนกลกั ษณะตา่ งๆของเคร่ืองดนตรี ๖. ศึกษาวิเคราะห์และจาแนกลกั ษณะการประสมวงดนตรี ๗. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน *หมายเหตุ นกั เรียนสามารถฟังเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชนิด ไดจ้ าก แผน่ ซีดีในเล่ม

๑. เครื่องดนตรีชนิดใดจดั อยใู่ นเคร่ืองดนตรีประเภทเครื่องตี ก. ขลุย่ ข. ซอดว้ ง ค. จะเข้ ง. ระนาด ๒. เคร่ืองดนตรีประเภทใดเกดิ เสียงไดด้ ว้ ยการเป่ า ก. ป่ี ข. ซอดว้ ง ค. จะเข้ ง. ระนาด ๓. เคร่ืองดนตรีประเภทใดเกดิ เสียงไดด้ ว้ ยการตี ก. จะเข้ ข. ซอดว้ ง ค. พิณ ง. ฆอ้ งวง ๔. เคร่ืองดนตรีชนิดใดถือเป็นครูในวงปี่ พาทย์ ก. ระนาด ข. ฆอ้ งวง ค. กรับ ง. ตะโพน ๕. เคร่ืองดนตรีชนิดใดที่เพ่ิมเขา้ มาในวงปี่ พาทยจ์ นกลายเป็น วงปี่ พาทยเ์ คร่ืองใหญ่ ก. ระนาดเอก ระนาดทุม้ ข. ระนาดเอกเหลก็ ระนาดทุม้ เหลก็ ค. กรับ โหม่ง ฉ่ิง ง. ฆอ้ งวงใหญ่ ฆอ้ งวงเลก็

วงป่ี พาทย์เป็ นวงดนตรีทปี่ ระกอบด้วย เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตที ใ่ี ช้ในการดาเนิน ทานอง ได้แก่ ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเลก็ เคร่ืองตที ี่ใช้กากบั จังหวะได้แก่ ฉ่ิง ฉาบ กรับ โหม่ง เคร่ืองดนตรีประเภทเคร่ืองเป่ า ได้แก่ ปี่ วงปี่ พาทย์มีหน้าทใี่ ช้บรรเลงประกอบ ในพธิ กี รรมต่าง ๆ หรือแม้แต่บรรเลงประกอบ การแสดงโขน ละคร ฟ้อนรา วงปี่ พาทย์มลี กั ษณะ การประสมวงตามโอกาสที่ใช้ เคร่ืองดนตรีท่ีใช้ มีคุณสมบตั ขิ องเสียงและมรี ูปลกั ษณ์ต่างกนั ดงั นี้

ระนาดเอกมยี ส่ี ิบเอด็ ลูก ระนาดเอกสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยธุ ยา เอาเชือกผกู เรียงร้อยเป็ นผืนแขวน ระนาดที่มีเสียงนุ่มนวล นิยมทาด้วยไม้ไผ่บง ถ้าต้องการ เรียงลูกใหญ่ไปหาเลก็ ผูกให้แน่น ให้ได้เสียงแหลม นิยมทาด้วยไม้แก่น ลูกระนาดมี ๒๑ ลูก บ้างไม้แก่นชิงชันบ้างไผ่บง ลูกที่ ๒๑ หรือลูกยอด จะมีขนาดส้ันทส่ี ุด ลูกระนาด ร้อยด้วย ขึงบนรางรูปเรือลวดลายสวย เชือกตดิ กันเป็ นผืนแขวนไว้บนราง ทาจาก ไม้เนื้อแข็งรูปร่าง ดูร่ารวยด้วยทองรักสลกั หลง คล้ายเรือ ด้ามหวั และท้ายโค้งขนึ้ เพอื่ ให้อุ้มเสียง มแี ผ่นไม้ โหมโรงรัวเสมอลาต้องพาลง ปิ ดหวั และท้ายรางเรียกว่า \"โขน\" ฐานรูปส่ีเหล่ยี ม รางมี ลกั ษณะคล้ายพานแว่นฟ้ามลี ายแกละสลกั สวยงาม อปุ กรณ์ หรือบรรจงเพลงกรอไพเราะดี ทีใ่ ช้ตมี ี ๒ ลกั ษณะเรียกว่าไม้ตี ชนิดหน่ึงเรียกไม้ระนาด ทาจากผ้าใช้ด้ายรัดหลายๆรอบและชุบด้วยรักจนมคี วามแข็ง เวลาใช้ตี จะทาให้เสียงของระนาดกร้าว แหลม และดงั มาก ใช้ในวง \"ป่ี พาทย์ไม้แข็ง\" ไม้ตีอกี ชนิดหน่ึงทาด้วยวสั ดุ ทนี่ ุ่มกว่า ใช้ผ้าพนั แล้วถักด้ายสลบั เวลาตจี ะให้เสียงนุ่มนวล เมื่อผสมเข้าวงเรียกว่า \"ปี พาทย์ไม้นวม\" ทาหน้าท่ดี าเนิน ทานองเป็ นผ้นู าวง

ระนาดท้มุ นุ่มเสียงสิบเจด็ ลูก ระนาดทุ้มสร้างขึน้ ในสมัยรัชกาลท่ี ๓ เขาพนั ผกู เป็ นผืนให้ถูกท่ี เป็ นเครื่องดนตรีทมี่ เี สียงทุ้มตา่ เพื่อคู่กับ ตดิ ตะกวั่ หัวท้ายลูกถูกเสียงดี ระนาดเอก ลูกระนาดทุ้ม มีจานวน ๑๗-๑๘ ลูก รางทุ้มมลี ายงามตามแบบไทย ลกู ระนาดทุ้มมขี นาดกว้างและยาวกว่าลกู ระนาด บรรเลงลกุ ลกั ล้วงหน่วงจงั หวะ เอก ตัวรางเป็ นรูปคล้ายหีบไม้แต่เว้ากลาง มีโขน ไม่ลดละหยอกล้อกรอเสียงใส ปิ ดหัวท้าย มเี ท้าอย่สู ่ีมุมราง ไม้ตีตอนปลายใช้ ฟังระนาดทุ้มบรรเลงเพลงคราใด ผ้าพนั พอกให้โต และนุ่ม เวลาตจี ะได้เสียงทุ้ม นุ่มนวล ระนาดทุ้มใช้บรรเลงในวงปี พาทย์ ช่างถูกใจไพเราะเพราะเพลนิ ดี สามารถบรรเลงได้ในวงมโหรี วงป่ี พาทย์ ทาหน้าท่หี ยอกล้อไปกบั ระนาดเอก

ฆ้องวงใหญ่ลกู โลหะสิบหกลูก ฆ้องวงใหญ่ สันนษิ ฐานว่าฆ้องวงใหญ่มมี าต้งั แต่ เอาหนังผูกเรียงเป็ นวงให้ตรงที่ สมยั สุโขทยั มวี วิ ฒั นาการมาจากฆ้องเดย่ี ว ฆ้องคู่ ร้านหวายงามงดขดพอดี ฆ้องราว และฆ้องราง จนกระทง่ั เป็ นฆ้องวง โดยมี เข้านั่งตพี อสบายไม่ราคาญ ลูกฆ้อง ร้อยเรียงบนรางรอบร้านฆ้อง จานวน 16 ลูก ใช้ไม้ตีหัวไม้พนั ด้วยผ้า เรียงจากลกู ใหญ่ด้านซ้ายมือมเี สียงตา่ สุดเรียกว่า อกี แบบหนาเป็ นหนังยังขับขาน ลกู ทวน มาหาลูกเลก็ ด้านขวามือมเี สียงสูงสุดเรียกว่า จับให้ดตี ีดงั เสียงกงั วาน ลกู ยอด ไม้ทใ่ี ช้ตมี สี องอนั ผ้บู รรเลงถอึ ไม้ตขี ้างละอนั บรรเลงในวงป่ี พาทย์และวงมโหรีเชื่อกนั ว่านกั ดนตรี เปรียบแม่บ้านเป็ นหลกั ให้พกั พงิ ในวงป่ี พาทย์ทกุ คน ต้องเริ่มหัดเรียนฆ้องวงใหญ่ก่อน จงึ สามารถเปลยี่ นเป็ นไปเรียนเคร่ืองดนตรีชนดิ อื่น จะทาให้สามารถเล่นเคร่ืองดนตรีในวงปี่ พาทย์ได้ ชานาญเน่ืองจากได้ฝึ กการดาเนนิ ทานองหลกั อนั เป็ น แม่บทของเพลง มาแล้วจงึ สามารถแปรทานองฆ้อง เป็ นเคร่ืองดนตรีชนดิ อ่ืนได้ดี

ฆ้องวงเลก็ ไม่ลืมเลือนเหมือนฆ้องใหญ่ ฆอ้ งวงเล็ก ประดิษฐข์ ้ึนในสมยั รัชกาลที่ 3 ลูกฆ้องไม่ใหญ่เท่าแต่มากยิ่ง เพ่อื ให้เขา้ กบั ฆอ้ งวงใหญ่ มีขนาดเล็กกวา่ มี สิบแปดลูกผูกให้แน่นจึงดจี ริง จานวนลูกฆอ้ ง ๑๘ ลูก มีอุปกรณืในการบรรเลง เสียงใสปิ้ งแหลมเลก็ ฆ้องเลก็ จัง ทาจากไมก้ ลึง หวั ไมม้ ี ๒ ลกั ษณะ ลลี าเด็ดเผ็ดร้อนกลอนระนาด ๑ . ทาจากหนงั ววั หนาประมาณ ๑ ซ.ม.ตดั เป็น ตไี ม่พลาดทลี ะมือฝึ กปรือขลงั วงกลมเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ ๗ - ๘ ซ.ม. ท้งั คู่ส่ีตีสลบั สะบัดดงั ๒. ทาจากผา้ พนั ดว้ ยดา้ ยหลายๆรอบคลา้ ยกบั ไมน้ วม หนาประมาณ ๑-๒ ซ.ม.เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง ต้งั ใจฟังฆ้องเลก็ นีม้ ลี ลี า ประมาณ ๗ - ๘ ซ.ม. ฆอ้ งวงเลก็ ทาหนา้ ที่ ประสมไดใ้ นวงมโหรี วงป่ี พาทย์ ดาเนินทานองเกบ็ คลา้ ยๆกบั ระนาด ทาหนา้ ท่ีสอดแทรกทานองในทางเสียงสูง

เสียงป่ี ในทใ่ี นวงปี่ พาทย์ ปี่ เป็ นเครื่องดนตรีประเภทเป่ า เลาป่ี ทาด้วย ชาญฉลาดหวนไห้ไม่หวือหวา ไม้แก่น กลงึ หวั และท้านบาน ช่วงกลางป่ อง เสียงตะริดตดิ ตอดเลด็ ลอดมาช่าง เลก็ น้อย ข้างในกลวง หัวเจาะรูเลก็ สาหรับใส่ลนิ้ ปี่ จ๊ะจ๋าพาทไี ม่มเี พยี้ น ด้านท้ายเจาะรูใหญ่ ใช้งา ชัน เสริมช่วงหัวเรียกว่า ท้งั ปิ ดเปิ ดพรมนิว้ ให้พริ้วเหมาะลม \"ทวนบน\" และท้ายเรียกว่า \"ทวนล่าง\" เจาะรูนิว้ ลดั เลาะผ่านลนิ้ ปี่ ไม่มเี ปลยี่ น สาหรับเปลย่ี นเสียงที่ป่ องกลางป่ี เรียงลงมาตาม ท้งั โหยหวนครวญรับทานองเนยี น ข้างเลาป่ี จานวน ๖ รู ลนิ้ ปี่ ทาด้วยใบตาลซ้อน ๔ ช้ัน ตัดกลมผกู ตดิ กบั ท่อทองเหลืองกลมเลก็ ๆ เสียงวนเวยี นคร่าครวญรัญจวนใจ เรียกว่า \"กาพวด\" ทาด้วยโลหะ มลี กั ษณะเรียว การผูกเชือกให้ลนิ้ ใบตาลตดิ กบั กาพวดนิยมใช้ เง่ือนตะกรุดเบด็ ในการผกู

ระนาดเอกเหลก็ ดงั กงั วานเหมาะ ระนาดเอกเหลก็ เรียกอกี ช่ือหน่ึงว่า ระนาดทอง ช่างไพเราะกลอนระนาดไม่พลาดได้ เนื่องจากเดมิ ทามาจากทองเหลืองบางคร้ังเรียก เลยี นสาเนียงระนาดเอกได้ดงั ใจ ระนาดแก้ว เป็ นเครื่องดนตรีท่ปี ระดษิ ฐ์ขนึ้ ใน กงั วานใสด้วยโลหะปะทะดงั สมยั รัชกาลที่ ๔ เม่ือบรรเลงจะมเี สียงก้องกังวาน ไม้ระกาวางรองลูกเหลก็ ไว้ กว่าระนาดไม้ รางระนาดคล้ายกบั รางระนาดทุ้ม ในรางไม้ลายสลกั ทองรักฝัง มหี มอนทาด้วยไม้ระกาสาหรับวางลูกระนาด ใช้ไม้ตพี นั ผ้าว่านุ่มดงั เหลก็ มลี ูกสาหรับบรรเลง ๒๑ ลูก ทาหน้าท่ี บรรเลงในวงป่ี พาทย์ วงมโหรี โดยแปรลกู ฆ้อง ถ้าเป็ นหนงั ไพเราะเสียงเหมาะกนั ออกเป็ นทานอง คล้ายระนาดเอก แต่ตีลกู ห่าง กว่ากนั นดิ หน่อยแต่ไม่ทาหน้าทีผ่ ้นู าวง

ลูกระนาดทุ้มเหลก็ เหมือนเอกเหลก็ ระนาดทุม้ เหล็ก ประดิษฐ์ข้ึนในสมยั รัชกาลท่ี 4 ลูกไม่เลก็ เสียงใหญ่ได้สีสัน โดยพระบาทสมเด็จพระปิ่ นเกลา้ เจา้ อยหู่ วั สิบแปดลูกวางลงบรรจงครัน ทรงพระราชดาริให้สร้างข้ึน โดยทรงไดแ้ นวคิด ตวั รางน้นั ใหญ่ดมี คี วามทน มาจากหีบเพลงฝรั่ง ระนาดทุม้ เหล็กมี 16 ลูก ทา บรรเลงคล้ายระนาดท้มุ นุ่มกงั วาน หนา้ ที่โดยแปรลูกฆอ้ งออกเป็นทานอง เตม็ มีเสียง สอดประสานทานองรับไม่สับสน กงั วาน และห่ึงจึงคลา้ ย (Bass) ของวง ดนตรี ปี่ พาทย์นีม้ สี ีสันในบดั ดล ตะวนั ตก ลกั ษณะเหมือนระนาดเอกเหล็ก แต่ทารางใหใ้ หญก่ วา่ มีลูกระนาดใหญก่ วา่ จานวน ไม่ตกหล่นสอดคล้องทานองเพลง ลูกนอ้ ยกวา่ ใชป้ ระกบคกู่ นั กบั ระนาดเอกเหลก็ ทกุ คร้ังไป บางคร้ังเรียกวา่ หวั -ทา้ ย

ตะโพนไทยใครใครถือคือครูใหญ่ ตะโพนเป็ นเครื่องดนตรีในการกากบั จังหวะ ตัวตะโพน อยู่หนใดเคารพอย่างครัดเคร่ง เรียกว่า \"หุ่น\" ทาด้วยไม้เนื้อแขง็ ด้านในขดุ เป็ นโพรง จดั จงั หวะทานองดมี ใิ ห้เกรง หน้ากลองท้งั สองด้านขงึ ด้วยหนัง ตรงกลางป่ อง หน้าใหญ่ ทานองเพลงไพเราะเพราะหน้าทบั เรียกว่า \"หน้าเท่งิ \" หรือ \"หน้าเท่ง\" อยู่ด้านขวามือ เอาหนงั ววั ขึงกลองท้งั สองหน้า หน้าเลก็ เรียกว่า\"หน้ามดั \" ใช้หนังทาเป็ นเส้นกว้าง เส้นหนังหนาร้อยรัดกระหวดั รับ ประมาณ 1 เซนเรียกว่า\"หนังเรียด\" ร้อยระหว่างหน้ากลอง มเี ท้าต้งั วางลงบรรจงจบั ท้งั สองด้าน ขอบหนังถกั ด้วยหนังบิดเกลยี วเป็ นเส้นเลก็ ๆ เครื่องกากบั หน้าทบั ดไี ม่ตรี วน เรียกว่า \"ไส้ละมาน\" สาหรับใช้ร้อยหนังเรียด หุ้มไม้หุ่นไว้ ตรงกลางหุ่นใช้หนังเรียดถกั ลายรอบกลองเรียกว่า \"รัดอก\" วางนอนบนเท้าทาด้วยไม้เป็ นขาตะโพนวธิ ีบรรเลง ใช้ฝ่ ามือ ซ้าย-ขวา ตี ท้งั สองหน้า ประสมอยู่ในวงป่ี พาทย์ ทาหน้าท่ี กากับจังหวะหน้าทับต่าง ๆ ผู้ที่นับถือพระประคนธรรพ ว่า เป็ นครูใหญ่ทางดนตรี ได้ถือเอาตะโพนเป็ นเคร่ืองดนตรี แทน พระประคนธรรพในพธิ ีไหว้ครู และถือว่าตะโพน เป็ นเคร่ืองควบคุมจังหวะท่สี าคัญที่สุด

กลองทดั จดั วางให้เป็ นคู่ กลองทดั มีรูปทรงกระบอก กลางป่ องออก สูงตา่ อยู่ด้วยกนั ไม่หนั หวน เล็กนอ้ ย ข้ึนหนงั สองหนา้ ตรึงดว้ ยหมุดท่ี ตสี ลบั กบั ตะโพนพลางเย้ายวน เรียกวา่ \"แส้\" ซ่ึงทาดว้ ยไม้ งาชา้ ง กระดูกสตั ว์ ตามกระบวนหน้าทบั ช่างรับกนั หรือโลหะ หนา้ กลองดา้ นหน่ึงติดขา้ วตะโพน ทต่ี วั กลองมขี าหยงั่ ช่วยร้ังไว้ แลว้ ตีอีกดา้ นหน่ึง ใชไ้ มต้ ีสองอนั สารับหน่ึงมี หมอนรองใต้ตวั กลองประคองมน่ั สองลูก ลูกเสียงสูงเรียกวา่ \"ตวั ผ\"ู้ ลูกเสียงต่า ใช้ไม้ตมี สี องลองประชัน เรียกวา่ \"ตวั เมีย\" ตวั ผอู้ ยทู่ างขวา และตวั เมียอยู่ ไม่หุนหันสลบั ทพ่ี อดเี พลง ทางซ้ายของผตู้ ี ใชบ้ รรเลงรวมอยใู่ นวงปี พาทย์

ฉ่ิงเสียงใสกงั วานขบั ขานอยู่ ฉ่ิง เป็ นเครื่องตกี ากบั จงั หวะทามาจาก บอกให้รู้จงั หวะกะตรงเผง โลหะ หล่อเหมือนรูปถ้วยตะไลหรือคล้าย เครื่องจงั หวะบงั คบั กากบั เพลง ฝาขนมครก เจาะรูตรงกลางสาหรับร้อยเชือก เร่ิมบรรเลงเสียงรับฉิ่งฉับดงั ท้งั สองข้าง เพื่อสะดวกในการถือหรือจับ เพลงสามช้ันจงั หวะช้าฉิ่งแล้วฉับ ในเวลาบรรเลง มือด้านหน่ึงจับฉ่ิงหงายขึน้ สองช้ันรับปานกลางกาลงั ขลงั อกี ข้างหนึ่งจบั ควา่ ลงให้ฉิ่งประกบกันเวลา ช้ันเดยี วต้องตเี ร็วควรระวงั ทาเสียงฉ่ิงให้ใช้ขอบฉ่ิงกระทบกนั เลก็ น้อย เวลาทาเสียงฉับให้ใช้ฉ่ิงตีประกบกนั เพลงน่าฟังไพเราะเพราะฉ่ิงน้อย ท้งั สองข้าง

เสียงกรับดงั เหมือนลือว่ากรับ กรับ ทามาจากไม้เนือ้ แข็ง มรี ูปร่างเป็ นแท่ง แค่ขยบั รับเสียงฉับสลบั ถ้อย ส่ีเหลย่ี มมีสันมน หน่งึ ด้าน อกี สามด้าน ถึงเสียงฉิ่งน่งิ ไว้ให้รอคอย เป็ นสันตรง วธิ กี ารบรรเลงใช้มือจบั กรับไม้ข้างละ ท่อนไม้น้อยสองอนั ประชันเพลง หนึ่งอนั ตปี ระกบกนั ใช้ประสมอย่ใู นวงดนตรีไทย ไม้ชิงชันตดั แต่งเป็ นแท่งสวย ได้หลายวง สองอนั ช่วยประกบดงั จงั หวะเคร่ง ขยบั ดงั ระวงั มือไม่ถือเกร็ง ทานองเพลงพร้อมเพรียงเพราะกรับคู่

เสียงฉาบเลก็ เจือ้ ยแจ้วรับจงั หวะ ฉาบ เป็ นเคร่ืองดนตรีใช้ตีกากับจงั หวะ เสียงชะชะแช่วบั รับไม่อู้ ทามาจากโลหะผสม รูปร่างคล้ายจานแบนก้นลกึ ตขี ัดกรับรับฉ่ิงจงั หวะรู้ มสี องขนาด ขนาดใหญ่กว่าเรียกว่า ฉาบใหญ่ ฉาบเจ้าชู้มลี ลี าน่าช่ืนใจ ขนาดเลก็ กว่า เรียกว่า ฉาบเลก็ วธิ จี บั ฉาบคล้ายกนั เสียงไพเราะทโ่ี ลหะเขากะดี กบั ฉ่ิงแต่ใช้นวิ้ มือคอยช่วยกดและปล่อย มวี ธิ กี าร ท้งั หล่อตใี ห้แบนกลมดูชมได้ บรรเลงเรียกว่าการตี มสี องลกั ษณะคือตีแบบ ตปี ระกบตเี ปิ ดเพลดิ เพลนิ ใจ ประกบ และตแี บบเปิ ดให้เสียงต่างกนั มีหน้าที่ บรรเลงคลุกไปกบั ฉิ่งด้วยลลี าท่สี นุกสนาน ถนัดได้เพราะผกู เชือกสีสวยงาม

วงปี่ พาทย์เครื่องห้าว่าวงเล็ก วงป่ี พาทย์ หมายถึงวงดนตรีทปี่ ระสมด้วยเครื่อง ระนาดเอกป่ี ในไม่ต้องถาม ดนตรีประเภทเครื่องตี และเคร่ืองเป่ าใช้สาหรับ ฆ้องวงใหญ่ตะโพนกลองทดั งาม บรรเลงประกอบพธิ ีกรรมต่าง ๆ รวมท้งั การแสดง อย่าคร่ันคร้ามเพมิ่ ฉ่ิงไม่ทงิ้ กนั โขน – ละคร ฟ้อนรา การประสมวงป่ี พาทย์เครื่อง ประสมวงบรรเลงเพลงไพเราะ ห้า ประกอบด้วย ป่ี ใน ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ จงั หวะเหมาะเพราะฉ่ิงยงิ่ สุขสันต์ ตะโพน กลองทดั ฉิ่ง ใช้สถานท่ีในการวาง พื้นทน่ี ้อยพอดไี ม่มหี วน่ั เคร่ืองดนตรีไม่มากนัก เหมาะกบั งานที่จัดใน สถานท่เี ลก็ ๆ เครื่องครบครันบรรเลงดพี ธิ ีการ

วงปี่ พาทย์เคร่ืองคู่เหมือนคู่อยู่ วงปี่ พาทย์ เครื่องคู่ เกดิ ขึน้ ในสมยั รัตนโกสินทร์ เท่าทร่ี ู้เอกทุ้มนุ่มประสาน ตอนต้น นิยมใช้ประกอบการแสดง โขน ละคร ฆ้องวงใหญ่คู่วงเลก็ ก้องกงั วาน และงานมงคลต่างๆ การประสมวงป่ี พาทย์ ตะโพนท่านกบั กลองทดั เคร่งครัดดี เครื่องคู่มเี คร่ืองดนตรีเพมิ่ ขนึ้ จากวงปี่ พาทย์ ทุกวนั นีป้ ่ี ในไม่มคี ู่ เคร่ืองห้า ได้แก่ระนาดทุ้ม ฆ้องวงเลก็ กรับ ไพเราะหูฉิ่งกรับรับถูกที่ และฉาบ ใช้สถานทใ่ี นการวางเครื่องดนตรีอกี เสียงฉาบเลก็ ขัดหูแต่ดูดี หนง่ึ เท่าของวงป่ี พาทย์เคร่ืองห้าเหมาะกบั งาน ป่ี พาทย์นรี้ ับร้องก้องตระการ ทีจ่ ดั ในสถานทก่ี ว้างพอประมาณ

วงปี พาทย์เครื่องใหญ่ใช้พื้นที่ วงป่ี พาทย์ ไม้แขง็ เคร่ืองใหญ่ เกดิ ขนึ้ ใหญ่พอดที เี่ หมาะถูกสถาน ในสมยั รัชกาลท่ี ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ใช้ประกอบการแสดงพธิ กี าร เครื่องดนตรีเพมิ่ จาก วงป่ี พาทย์เคร่ืองคู่ ได้แก่ ก้องกงั วานงานเพลงบรรเลงดี ระนาดเอกเหลก็ และระนาดทุ้มเหลก็ นิยมใช้ จากเครื่องคู่เพม่ิ เอกเหลก็ ดงั หมายมาด ประกอบการแสดง โขน ละครและงานมงคลต่างๆ อกี ระนาดทุ้มเหลก็ ให้สมศรี ใช้สถานที่ในการวางเคร่ืองดนตรีอกี หน่งึ เท่าของ ให้ครันครบเรื่องวงปี่ พาทย์มี วงปี่ พาทย์เคร่ืองคู่าเหมาะกบั งาน ท่จี ดั ในสถานที่ กว้างมาก เป็ นของดชี วนเดก็ ไทยให้ธารงค์

๑. เคร่ืองดนตรีประเภทใดเกดิ เสียงไดด้ ว้ ยการตี ก. จะเข้ ข. ซอดว้ ง ค. พณิ ง. ระนาด ๒. เครื่องดนตรีชนิดใดถอื เป็นครูในวงป่ี พาทย์ ก. ระนาด ข. ฆอ้ งวง ค. กรับ ง. ตะโพน ๓. เคร่ืองดนตรีประเภทใดเกิดเสียงไดด้ ว้ ยการเป่ า ก. ปี่ ข. ซอดว้ ง ค. จะเข้ ง. ระนาด ๔. เครื่องดนตรีชนิดใดจดั อยใู่ นเคร่ืองดนตรีประเภทเครื่องตี ก. ขลยุ่ ข. ซอดว้ ง ค. จะเข้ ง. ระนาด ๕. เคร่ืองดนตรีชนิดใดที่เพิ่มเขา้ มาในวงป่ี พาทยจ์ นกลายเป็น วงปี่ พาทยเ์ คร่ืองใหญ่ ก. ระนาดเอก ระนาดทุม้ ข. ระนาดเอกเหลก็ ระนาดทุม้ เหลก็ ค. กรับ โหม่ง ฉิ่ง ง. ฆอ้ งวงใหญ่ ฆอ้ งวงเลก็

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เร่ืองเครื่องดนตรีไทยในวงป่ี พาทย์ กาชยั ทองหล่อ . หลกั ภาษาไทย . กรุงเทพฯ : บริษทั รวมศาสน์จากดั 1. ข 2. ก 3. ง 4. ง 5. ข ,2537 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน เร่ืองเครื่องดนตรีไทยในวงป่ี พาทย์ เฉลิมศกั ด์ิ พกิ ลุ ศรี . สงั คีตนิยมว่าดว้ ยดนตรีไทย . กรุงเทพฯ : โอเดียน 1. ง 2. ง 3. ก 4. ง 5. ข สโตร์,2530 ธนิต อยโู่ พธ์ิ. ประวตั ิเคร่ืองดนตรีไทย,อนุสรณ์ในงานพระราชทาน เพลงิ ศพ หลวงไพเราะเสียงซอ (อ่นุ ดุริยชีวิน ).กรุงเทพฯ : ม.ป.ท.,2520 บรรจง ชาครัตพงศ.์ เคลด็ ลบั การแต่งคาประพนั ธ.์ กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พด์ อกหญา้ , 2551 ประดิษฐ์ อนิ ทนิล. ดนตรีไทยและนาฏศลิ ป์ . กรุงเทพ : สุริยสาสน์, ม.ป.ป. มนตรี ตราโมท.ดนตรีไทยของมนตรี ตราโมท, อนุสรณใ์ นงาน พระราชทานเพลิงศพนายมนตรี ตราโมท. กรุงเทพฯ:ธนาคาร กรุงเทพ,2538 วญิ ญู ทรัพยประภา ,ดวงรัตน์ ทรัพยป์ ระดษิ ฐ์ .ดนตรี—นาฏศลิ ป์ ป.6 . กรุงเทพฯ: สานกั พิมพป์ ระสานมติ ร,2547 อษั ฏาวุธ สาคริก ลอานนั ทน์ าคคง . เครื่องดนตรีไทย. กรุงเทพฯ: สานกั พิมพอ์ ุทยานการเรียนรู้,2550


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook