Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เครื่องดนตรีวงมโหรี

เครื่องดนตรีวงมโหรี

Published by Duangrat Nok Mayree Eamprasert, 2020-04-10 11:56:45

Description: เครื่องดนตรีวงมโหรี

Keywords: เครื่องดนตรี,วงดนตรี,วงมโหรี,วงดนตรีไทย

Search

Read the Text Version

พมิ พท์ ่ี ๑๐๑/๑๐๖ ม.๓ ต.ลำผกั กดู อ.ธญั บุรี จ.ปทมุ ธำนี รหสั ไปรษณีย ์ ๑๒๑๑๐ โทร. 081-

ดนตรีไทยมีเอกลกั ษณ์ต่างๆกนั ลกั ษณะวสั ดุในการสร้างเสียง และ องคป์ ระกอบต่างๆของเครื่องดนตรี เป็นเครื่องแสดงประเภทของเครื่องดนตรีได้ เป็นอยา่ งดีนอกจากประเภทของเคร่ืองดนตรีแลว้ การรวมวงในการบรรเลงน้นั เป็น สิ่งสาคญั เช่นกนั การเลอื กนาเครื่องดนตรีในประเภทต่างๆมารวมวงจึงข้ึน อยกู่ บั ลกั ษณะวงและโอกาสในการใช้ หนงั สืออา่ นเพิ่มเติมเรื่องเครื่องดนตรีไทยในวงมโหรี จึงสร้างข้ึนมา เพื่อใหผ้ เู้ รียนในระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๔ -ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๖และ ผสู้ นใจในการศกึ ษาเร่ืองดนตรีไทย ไดศ้ กึ ษาและวิเคราะหล์ กั ษณะเคร่ืองดนตรี รูปแบบการประสมวง เพอ่ื สามารถเรียนรู้เรื่องราวของดนตรีดว้ ยการอ่านและศึกษา ขอ้ มูลต่างๆทางดนตรี เพอื่ ส่งเสริมการรักการอ่านผา่ นดนตรีในอกี แง่มมุ หน่ึง ขอ้ มลู จากหนงั สือ เลม่ น้ีคงเป็นประโยชนต์ ่อผอู้ า่ นและสามารถนาขอ้ มูลไปใช้ ในการแสดงเอกลกั ษณ์ไทย ดา้ นดนตรีไดเ้ ป็นอยา่ งดี ดวงรัตน์ เอ่ียมประเสริฐ

เร่ือง หนา้ คานา ๒ สารบญั ๓ คาช้แี จงสาหรับครู ๔ คาช้แี จงสาหรับนกั เรียน ๕ แบบทดสอบก่อนเรียน ๖ ซอสามสาย ๗ จะเข้ ๘ ซอดว้ ง ๙ ซออู้ ๑๐ ขล่ยุ เพยี งออ ๑๑ ระนาดเอก ๑๒ ระนาดทมุ้ ๑๓ ฆอ้ งวงใหญ่ ๑๔ ฆอ้ งวงเลก็ ๑๕ ระนาดเอกเหลก็ ๑๖ ระนาดทมุ้ เหลก็ ๑๗ โทน—รามะนา ๑๘ ฉ่ิง ๑๙ ฉาบเลก็ ๒๐ กรับพวง ๒๑ โหมง่ ๒๒ วงมโหรีวงเลก็ ๒๓ วงมโหรีเคร่ืองคู่ วงมโหรีเคร่ืองใหญ่ คาที่ควรรู้ แบบทดสอบหลงั เรียน เฉลย บรรณานุกรม

หนงั สือเรื่องเครื่องดนตรีในวงมโหรี เป็นหนงั สืออา่ นเพ่มิ เติมในกลุ่มสาระการเรียนรู้ กลุ่มศิลปะ(สาระท่ี ๒ ดนตรี)จดั ทาข้ึนเพื่อให้ นกั เรียนใชศ้ ึกษาคน้ ควา้ ในชว่ั โมงที่เรียนและ สามารถใชส้ าหรับศึกษาเพมิ่ เติมเพือ่ ให้นกั เรียน ไดใ้ ชเ้ ป็นหนงั สือในโครงการรักการอ่าน ซ่ึงเป็น การอา่ นผ่านขอ้ มลู เกี่ยวกบั ดนตรี หรือสามารถ ใชป้ ระกอบการเรียนเพื่อเป็นสื่อในการเรียนรู้ เกี่ยวกบั เครื่องดนตรีและวงดนตรีไดต้ าม ความเหมาะสม

๑. ครูแนะนาใหน้ กั เรียนศึกษาหนงั สืออ่านเพิ่มเติมเรื่อง เครื่องดนตรีไทยในวงมโหรี ๒. อธิบายข้นั ตอนและวิธีใชห้ นงั สืออ่านเพิ่มเติมเร่ือง เครื่องดนตรีไทยในวงมโหรี ๓. แนะนานกั เรียนใหท้ าแบบทดสอบก่อนเรียน (เพ่ือประเมินพ้ืนฐานการเรียนรู้ของนกั เรียน) ๔. แนะนาให้นกั เรียนอ่านคากลอนแลว้ แปลความหมาย จากคากลอน ๕. อธิบายขอ้ มูลเพ่ิมเติมเก่ียวกบั เคร่ืองดนตรีและวงดนตรี ๖. ให้นกั เรียนศึกษาวิเคราะห์และจาแนกลกั ษณะของ เคร่ืองดนตรี ๗. ใหน้ กั เรียนศึกษาวิเคราะห์และจาแนกลกั ษณะการประสม วงดนตรี ๘. ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียน ๙. แนะนานกั เรียนใหท้ าแบบทดสอบหลงั เรียน (เพื่อประเมินผลการเรียนรู้ของนกั เรียน)

๑. ศึกษาข้นั ตอนและวิธีใชห้ นงั สืออา่ นเพิ่มเติมเรื่อง เคร่ืองดนตรีไทยในวงมโหรี ๒. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ๓. อา่ นคากลอนแลว้ แปลความหมายจากคากลอน ๔. ศึกษาขอ้ มูลเพิ่มเติมเกี่ยวกบั เคร่ืองดนตรีและวงดนตรี ๕. ศึกษาวิเคราะห์และจาแนกลกั ษณะตา่ งๆของเคร่ืองดนตรี ๖. ศึกษาวิเคราะห์และจาแนกลกั ษณะการประสมวงดนตรี ๗. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน *หมายเหตุ นกั เรียนสามารถฟังเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชนิด ไดจ้ าก แผน่ ซีดีในเล่ม

๑. เครื่องเป่ าชนิดใดใชใ้ นวงมโหรี ก. ขลุย่ ข. ปี่ ค. โหวด ง. แคน ๒. เครื่องดนตรีชนิดใดที่ไม่มีในวงเคร่ืองสายและวงปี่ พาทย์ ก. ปี่ ข. ซอสามสาย ค. จะเข้ ง. ระนาด ๓. เคร่ืองประกอบจงั หวะชนิดใดท่ีเพ่มิ ข้ึนมาในวงมโหรี ก. ฉิ่ง ข. ฉาบเลก็ ค. กรับพวง ง. โหม่ง ๔. เครื่องดนตรีชนิดใดเป็นผนู้ าในวงมโหรี ก. ระนาด ข. ฆอ้ งวง ค. กรับ ง. ซอสามสาย ๕. วงมโหรีเป็นวงดนตรีท่ีสมบูรณ์ที่สุดในสมยั ใด ก. พระป่ิ นเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ข. พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ค. พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั ง. พระมงกุฏเกลา้ เจา้ อยหู่ วั

หนงั สืออ่านเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ล่มุ สาระศลิ ปะ (สาระท่ี ๒ ดนตรี ) 8 วงมโหรีเป็ นวงดนตรีที่ใช้สำหรับขบั กล่อมนิยมใช้ บรรเลง ในงำนมงคล โดยเฉพำะงำนมงคลสมรส สมัยโบรำณ ใช้บรรเลงกล่อมพระบรรทมสำหรับพระมหำ กษตั ริย์ เครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลง ในวงนีป้ ระกอบด้วยเคร่ืองดนตรี ในวงป่ี พำทย์และวงเครื่องสำย โดยนำซอสำมสำยเข้ำมำ ร่วมบรรเลงด้วย วงมโหรีมกี ำรพฒั นำในเร่ืองกำรผสมวง ต้ังแต่วงมโหรีเครื่องสี่ วงมโหรีเคร่ืองหก ปัจจุบันวงมโหรี ได้มพี ฒั นำและเพม่ิ เครื่องดนตรีเป็ น วงมำตรฐำนแบ่งได้ ๓ ขนำด ได้แก่วงมโหรีวงเล็ก วงมโหรีเครื่องคู่ วงมโหรีเครื่องใหญ่ วงมโหรี นิยมใช้ในงำนมงคลต่ำงๆท่ี เน้นฟังเพ่ือควำมไพเรำะนุ่มหู ระดับเสียงอยู่กลำงๆ ไม่เสียง ดังเกนิ ไปสำมำรถเลือกวงให้เหมำะสมกบั พนื้ ที่จัดงำนได้แต่ ก่อนท่จี ะเลือกวงมโหรีน้ัน เรำควรทรำบองค์ประกอบต่ำงๆ คุณสมบัติ และคุณสมบัติของเคร่ืองดนตรีก่อนจึงจะสำมำรถ เลือกวงมโหรีทจ่ี ะใช้งำนได้เครื่องดนตรีเหล่ำน้ัน ประกอบไปด้วย

ซอสำมสำยมสี ำยอย่สู ำมเส้น หนงั สืออ่านเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้กล่มุ สาระศิลปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 9 บ้ำงใช้เอน็ เส้นไหมเป็ นสำยเสียง คนั ชักสีสำมสำยได้สำเนียง ซอสำมสำย เป็ นเครื่องดนตรีทม่ี มี ำต้งั แต่ จบั ซอเอยี งให้งำมตำมครรลอง สมยั สุโขทยั เรียก “ซอพงุ ตอ” กะโหลกซอทำด้วย อกี มือค่อยค่อยขยบั รับพรมนวิ้ กะลำมะพร้ำวทม่ี กี ะลำนูนเป็ นกระพ้งุ ออกมำ 3 ป่ มุ ได้เสียงพริ้วพอคลำยไม่ผยอง ขงึ หนงั แพะหรือหนังลกู ววั ปิ ดด้ำนหนง่ึ มหี ย่องเป็ น อ้อออี๋ อคอยคลอให้คนร้อง ไม้สำหรับหนุนสำยตรงหนงั หน้ำซอให้สำยยกขนึ้ มำ ฟังเพรำะพร้องเพยี งเพลงบรรเลงพณิ เลก็ น้อย ถ่วงหน้ำตดิ ตรงด้ำนซ้ำยของหน้ำซอ ตอนบน ทำให้ซอมคี วำมไพเรำะ กงั วำน ถ่วงหน้ำยงั เป็ นทป่ี ระดบั หรืออญั มณที ที่ ำให้ ซอสำมสำยให้ เกดิ ควำมสวยงำม ใช้บรรเลงประสมอย่ใู นวงขบั ไม้ วงมโหรี และวงดนตรีประกอบ ชุดโบรำณคดี ครรลอง พรมน้ิว ผยอง เพรำะ พร้อง บรรเลง

จะเข้มีสำมสำยเป็ นเส้นเสียง หนงั สืออ่านเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้กลมุ่ สาระศิลปะ (สาระท่ี ๒ ดนตรี ) 10 ส่ งสำเนียงเสียงใสให้ ถวิล ท้งั สำยลวดสำยเอกได้ยลยิน จะเข้ เป็ นเครื่องดดี ท่มี เี สียงกงั วำน รวยระรินสำยทุ้มเสียงนุ่มดี ไพเรำะ สันนษิ ฐำนว่ำ ปรับปรุงมำจำกพณิ บรรเลงเพลงไพเรำะได้ดงั ใจจง เพ่ือให้นงั่ ดดี ได้สะดวก ตัวจะเข้ทำด้วยไม้ขนุน นิว้ กดลงตรงนมให้พอที่ ท่อนเดยี วมเี ท้ำรองด้ำนหัวจะเข้ 4 อนั มือขวำดดี ท่ีสำยให้จงดี ด้ำนปลำยหำง อกี 1 อนั มี 3 สำย ไม้ดดี กลม จะเข้มรี ะดบั เสียงเพยี งเพลนิ ใจ ปลำยแหลม ใช้ดดี ไปบนสำยท่ีพำดเหนือบนนม นม มี 11 อนั สำมำรถบรรเลงเดย่ี วและประสม อย่ใู นวงเครื่องสำย และวงมโหรี

หนงั สืออ่านเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระศิลปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 11 เสียงซอด้วงแว่วดงั ด้วยเสียงสำยเอก ซอด้วง มี 2 สำย กะโหลกซอเดมิ ทำด้วยกระบอก ช่ำงวเิ วกเสียงสำยทุ้มนุ่มสดใส ไม้ไผ่ ในปัจจุบนั นิยมใช้ไม้เนื้อแขง็ เจำะกลงึ ขนึ้ หน้ำ กะโหลกขึงหนังงูดูไฉไล กะโหลก ซอด้วยหนังงูเหลือม คนั ทวนตอนบน สอดด้วยไม้เรียกคนั ทวนงำมชวนมอง ปำดปลำย ลกั ษณะคล้ำยโขนเรือ มลี กู บิด 2 อนั ใส่ลูกบิดติดให้ตึงดงึ สำยเสียง สอดคนั ชักระหว่ำง สำยซอ ท้งั 2 เส้น เนื่องจำก นิว้ วำงเรียงนั่งตรงไว้มิให้หมอง รูปร่ำงลกั ษณะของซอคล้ำยด้วงดกั สัตว์จึงเรียกว่ำ ขยับนิ้วพริ้วงำมตำมครรลอง “ซอด้วง” ใช้ประสม ในวงเคร่ืองสำย และมโหรี ให้น่ำมองสมคำผู้นำวง ทำหน้ำทเ่ี ป็ นผู้นำวงในวงเคร่ืองสำย

หนงั สืออ่านเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ลุ่มสาระศลิ ปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 12 เสียงซออู้ช่ำงฉอเลำะถูกโฉลก ซออู้ มี 2 สำย กะโหลกทำจำกกะลำมะพร้ำว ดกู ะโหลกจำกกะลำน่ำใหลหลง ปำดข้ำง และแกะสลกั ลวดลำยด้ำนตรงข้ำมกบั สลักเสลำลวดลำยอย่ำงบรรจง หน้ำซอ เพ่ือเปิ ดให้มชี ่องเสียง หุ้มหนงั หน้ำซอ ขงึ สำยส่งพำดหน้ำซอตึงพอควร ด้วยหนงั แพะ หรือหนังลกู ววั คนั ทวนต้ังตรง บรรเลงล้อสอดรับกบั ซอด้วง ซออู้ ซออ้มู ีคณุ สมบัติของเสียงทุ้มต่ำ ให้มีท่วงทำนองสอดกำสรวล กงั วำน บรรเลงท่วงทำนองอ่อนหวำน บรรเลงรวมมโหรีมีสำนวน เศร้ำโศกได้ดี บำงคร้ังกด็ ูสนุกสนำน มักใช้ ช่ำงเชิญชวนให้ฟังช่ำงเพลดิ เพลนิ บรรเลงประกอบกำรแอ่วเคล้ำซอ บรรเลง ประกอบกำรร้องเพลงสังขำรำ ใช้ประสมอยู่ ในวงเคร่ืองสำย วงมโหรี วงป่ี พำทย์ไม้นวม และวงปี่ พำทย์ดกึ ดำบรรพ์

ขล่ยุ เพยี งออคลอครวญหวนโหย หนงั สืออ่านเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้กล่มุ สาระศิลปะ (สาระท่ี ๒ ดนตรี ) 13 ลมพริ้วโปรยผ่ำนท่อเสียงสำเนยี งใส ปำกนกแก้วช่วยปรับรับเสียงไว ขลุ่ย เป็ นเครื่องเป่ ำชนิดหนง่ึ ทำด้วยไม้ เปลยี่ นเสียงได้ใช้นิว้ กำกบั รู รวกปล้องยำวๆ ไว้ข้อทำงส่วนปลำย ปัจจุบัน นวิ้ ปิ ดลงตรงทจ่ี ึงมเี สียง สำมำรถนำวสั ดุอื่นมำทำขลุ่ยได้ เช่น งำช้ำง ส่งสำเนยี งหวนให้ไพเรำะหู ไม้เนือ้ แข็งเช่นไม้ชิงชัน ท่อพลำสตกิ ขล่ยุ มีรู เป็ นเคร่ืองเป่ ำเข้ำกระบวนควรเชิดชู สำหรับนิว้ ปิ ดเปิ ดเพื่อเปลย่ี นเสียง 7 รู มดี ำกทำ ช่ำงงำมหรูดูดที ไี่ ผ่ลำย ด้วยไม้เหลำเป็ นแท่งกลมปำดด้ำนล่ำงสอดเข้ำไป ในตัวขลุ่ยและสำมำรถให้ลมผ่ำนเข้ำไปได้ปิ ดไว้ที่ ส่วนบนของขลุ่ย ห่ำงขอบปำกขลุ่ยด้ำนบน ประมำณ๒นวิ้ มรี ูปำกนกแก้ว และถัดลงมำเป็ น รูนวิ้ คำ้

ระนำดเอกมียส่ี ิบเอด็ ลกู หนงั สืออ่านเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ลุ่มสาระศิลปะ (สาระท่ี ๒ ดนตรี ) 14 นำมำผูกเรียงร้อยเป็ นผืนได้ มีกล่องเสียงเรียก “รำง” รองรับไว้ ระนำดท่ีมเี สียงนุ่มนวล นิยมทำด้วยไม้ไผ่บง ยึดโขนได้ด้วยตะขอรอบรรเลง แต่ระนำดทม่ี ีเสียงแหลม นยิ มทำด้วยไม้เนือ้ แข็ง ตะกวั่ ติดหัวท้ำยใช้ถ่วงเสียง มีจำนวน๒๑ ลกู ลกู แรกมีขนำดใหญ่อย่ทู ำง สร้ำงสำเนียงสูงตำ่ ดูคร่ำเคร่ง ซ้ำยมือ ลูกสุดท้ำย หรือลูกยอด จะมขี นำดส้ัน ดำเนินทำนองคล่องบทเพลง ทส่ี ุดอย่ทู ำงขวำมือลกู ระนำดร้อยด้วยเชือกตดิ กนั ไม่อวดเก่งรุกลำ้ ลำนำตน เรียกว่ำ “ผืน” แขวนไว้บนรำง ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง รูปร่ำงคล้ำยเรือ ด้ำนหวั และท้ำยโค้งขึน้ เพ่ือให้อุ้ม เสียง มแี ผ่นไม้ปิ ดหวั และท้ำยรำงเรียกว่ำ \"โขน\" มีฐำนรูปส่ีเหลย่ี มไว้รองแทนพำน ไม้ตีทำด้วยผ้ำ พนั แล้วถกั ด้ำยสลบั ชุบด้วยรักหลำยๆช้ันใช้ตบี น ผืนระนำด เรียกว่ำ \"ป่ี พำทย์ไม้แขง็ \" อกี แบบ หนึ่งใช้ผ้ำพนั แล้วถักด้ำยสลบั ให้เสียงนุ่มนวล เรียกว่ำ \"ป่ี พำทย์ไม้นวม\"

ระนำดทุ้มนุ่มเสียงสิบเจ็ดลูก หนงั สืออ่านเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ลุ่มสาระศิลปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 15 ร้อยเรียงผูกเล็กใหญ่ไม่สับสน ติดตะกว่ั ปรับเสียงสำเนียงตน ระนำดทุ้มสร้ำงขนึ้ ในรัชสมยั พระบำทสมเดจ็ แล้วแขวนบนรำงไว้ให้พอดี พระจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว ลกู ระนำดทุ้ม มีจำนวน ครำบรรเลงเพลงใดได้ประจักษ์ ๑๗-๑๘ ลกู ลูกระนำดทุ้มมีขนำดกว้ำงและยำว หยอกล้อพกั ลกั ล้วงหน่วงวิถี กว่ำลกู ระนำดเอก ตวั รำงเป็ นรูปคล้ำยหบี ไม้ แต่ เสียงล้วงรุกพร่ังพรูดูเข้ำที โค้งตรงกลำงเลก็ น้อย มีโขนปิ ดหวั และท้ำย บ้ำงกม็ ีเหล่ือมลำ้ นำบรรเลง มเี ท้ำอย่ทู ีส่ ี่มุมรำง ไม้ตตี อนปลำยใช้ผ้ำพนั พอก ให้โต และนุ่ม เวลำตี จะได้เสียงทุ้มนุ่มนวล ระนำดทุ้มใช้บรรเลงในวงปี พำทย์

ฆ้องวงใหญ่น้ันมีสิบหกลูก หนงั สืออ่านเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ล่มุ สาระศลิ ปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 16 นำมำผูกร้ำนหวำยให้เหมำะเหม็ง ดดั หวำยขดโค้งรอบคนบรรเลง ฆ้องวงมีววิ ฒั นำกำรมำจำกฆ้องเดย่ี ว ฆ้องคู่ สำเนียงเพลงแน่นหนักหลกั ของวง ฆ้องรำว และฆ้องรำง จนกระท่ังเป็ นฆ้องวง ตำมครรลองฆ้องหล่อจำกโลหะ สันนิษฐำนว่ำฆ้องวงใหญ่มีมำต้งั แต่สมยั สุโขทัย กะระยะผูกไว้อย่ำให้หลง โดยนำลกู ฆ้องมำเรียงบนร้ำนฆ้องที่ทำด้วยหวำย ใช้ไม้ตีทป่ี ่ ุมอย่ำงบรรจง ขดเป็ นวง ฆ้องวงใหญ่ มีลกู ฆ้อง ๑๖ ลกู ลกู เสียง เสียงม่ันคงโหน่งหนักเป็ นหลกั ไว้ ตำ่ สุดเรียกว่ำ ลูกทวนเรียงจำกลูกใหญ่ด้ำน ซ้ำยมือ มำหำลูกเลก็ ด้ำนขวำมือ ลกู เสียงสูงสุด เรียกว่ำ ลูกยอด ไม้ท่ใี ช้ตีมสี องอนั ผ้บู รรเลงถึอ ไม้ตขี ้ำงละอนั ดำเนนิ ทำนองหลกั ของเพลง

ฆ้องวงเล็กโลหะสิบแปดลูก หนงั สืออ่านเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ลุ่มสาระศิลปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 17 ยึดพนั ผูกด้วยหนังบนร้ำนหวำย ด้ำนซ้ำยใหญ่ไปขวำเลก็ วำงเรียงรำย ฆ้องวงเลก็ ประดษิ ฐ์ขนึ้ ในสมยั รัชกำลท่ี 3 เสียงดีได้ด้วยตะกวั่ ตดิ งำมตำ เพื่อให้เข้ำกบั ฆ้องวงใหญ่ แต่มขี นำดวงและ จะดงั ได้ด้วยไม้ตีดพี อเหมำะ ลูกฆ้องเลก็ กว่ำ แต่มจี ำนวนลกู ฆ้องมำกกว่ำ ลกู หนังวัวเจำะตดิ หัวไม้ให้แน่นหนำ ฆ้องท้ังหมดมี 18 ลกู ทำหน้ำที่ ดำเนินทำนอง เสียงบรรเลงหลอกล้อเล่นลลี ำ โดยแปรลูกฆ้อง ออกเป็ นทำนองเกบ็ บ้ำง หยอก เขำเล่ำว่ำฆ้องวงเลก็ เหมือนเดก็ จริง ล้อบ้ำง ทำหน้ำทีส่ อดแทรกทำนองเพลง ใช้บรรเลงร่วมในวงปี่ พำทย์ มีหน้ำทเ่ี กบ็ สอด แทรก ฯลฯ

เสียงระนำดเอกเหลก็ อนั องอำจ หนงั สืออ่านเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ล่มุ สาระศลิ ปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 18 ลูกระนำดเป็ นโลหะว่ำหนักย่งิ รำงระนำดสลกั ลำยงดงำมจริง ระนำดเอกเหลก็ เป็ นเครื่องดนตรีที่ประดษิ ฐ์ บรรเลงองิ ระนำดเอกวเิ วกดัง ขึน้ โดยพระบำทสมเดจ็ พระปิ่ นเกล้ำเจ้ำอยู่หัว เสียงก้องดงั กงั วำนสรำญจิต ในสมัยรัชกำลท่ี 4โดยประดษิ ฐ์ระนำดจำกเหลก็ คดิ ประดษิ ฐ์อย่ำงฝรั่งช่ำงฉงน หรือทองเหลือง บำงคนเรียกว่ำระนำดทอง บ้ำงกเ็ รียกระนำดทองเพรำะทองปน เน่ืองจำกแต่เดมิ ทำมำจำกทองเหลือง เวลำ เสียงยินยลไพเรำะเหมำะกนั ดี บรรเลงมเี สียงดงั กว่ำระนำดไม้ ทำหน้ำที่ ในกำรบรรเลงโดยดำเนินทำนองเหมือน ระนำดเอก เพยี งแต่ไม่ทำหน้ำทผ่ี ู้นำวงเท่ำน้ัน

ระนำดทุ้มเหลก็ ลำดโลหะ หนงั สืออ่านเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระศิลปะ (สาระท่ี ๒ ดนตรี ) 19 บรรเลงคู่ระนำดเอกเหลก็ สมศักด์ิศรี ลูกเล็กกว่ำเสียงสูงกำลงั ดี ระนาดทมุ้ เหล็กประดิษฐข์ ้ึนในสมยั รชั กาลที่ 4 เขำว่ำมีสิบเจด็ ในยุคน้ัน โดยพระบาทสมเด็จพระป่ิ นเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรง อยู่ในวงมโหรีดีสมศักด์ิ พระราชดาริใหส้ ร้างข้ึน โดยทรงไดแ้ นวคิด รำงสลกั ลวดลำยไม่หยัดหยัน มาจากหีบเพลงฝรั่ง ระนาดทุม้ เหลก็ มี 16 ลูก พระรำชดำริพระป่ิ นเกล้ำเขำใช้กนั ใชไ้ มต้ ี2 แบบ ไดแ้ ก่ไมท้ ี่มีหวั ทาจากหนงั คิดสร้ำงสรรค์อย่ำงฝรั่งมำต้งั วง ขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางประมาณ 2-3นิ้ว หรือไมท้ ่ี ทามาจากผา้ พนั ดว้ ยดา้ ยเหมือนไมร้ ะนาดทมุ้ เคร่ืองดนตรีชนิดน้ีทาหนา้ ท่ีในการบรรเลงโดย ดาเนินทานองคลา้ ยระนาดทมุ้ แต่ตีลูกห่างๆ มีเสียงกงั วาน และห่ึงคลา้ ยกบั เคร่ืองดนตรีสากล (Bass) ของวงดนตรีตะวนั ตก

โทนในวงมโหรีมีกบั เขำ หนงั สืออ่านเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ลุม่ สาระศิลปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 20 เป็ นกลองเก่ำมีหน้ำเดยี วอย่ำใหลหลง บรรเลงค่รู ำมะนำจงั หวะลง โทนเป็ นกลองทีข่ งึ ด้วยหนงั หน้ำเดยี ว โจงจะโจงทงิ โจงลงหน้ำทับ ลำตวั ทำด้วยทำด้วยดนิ เผำมีลกั ษณะป่ องเหมือน ตวั โทนนจี้ ำไว้ใช้ดนิ เผำ นำ้ เต้ำขึงหน้ำให้ตงึ ด้วยเชือกเส้นเลก็ เรียกว่ำ โทน ขึงหน้ำเอำเชือกน้อยร้อยกำกบั มโหรี ใช้บรรเลงในวงเคร่ืองสำย และวงมโหรี รำมะนำเขำขึงหน้ำหมุดตอกรับ ใช้ตีกำกบั จงั หวะค่กู บั รำมะนำ ซ่ึงเป็ นเคร่ือง ตกี ำกบั ในวงมโหรี ดนตรีทีข่ งึ ด้วยหนงั หน้ำเดยี วเช่นกนั แต่รำมะนำ ใช้วธิ ีกำรขงึ หน้ำกลองโดยกำรใช้หมุดตรึงทขี่ อบ รูปร่ำงแบนด้ำนหลงั เปิ ดกว้ำงเพื่อให้เสียงไม่ก้อง ต่ำงกบั โทนท่มี เี สียงก้องกว่ำ ท้งั สองจึงเป็ น เหมือนเพื่อนสนิทกนั เพรำะเวลำท่ีบรรเลงจะต้อง บรรเลงคู่กนั เสมอ

ยนิ เสียงฉิ่งดงั ฉ่ิงฉับกำกบั อยู่ หนงั สืออ่านเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระศลิ ปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 21 ทุกคนรู้เร็วช้ำอย่ำเร็วร่ี ยดึ จงั หวะเพลงไว้ให้พอดี ฉ่ิง เป็ นเครื่องตีกำกบั จังหวะทำมำจำก จะเคำะตสี ีเป่ ำให้เข้ำกนั โลหะ หล่อเหมือนรูปถ้วยตะไลหรือคล้ำย ตวั ฉ่ิงใช้โลหะหล่อเป็ นถ้วย ฝำขนมครก เจำะรูตรงกลำงสำหรับร้อยเชือก ขดั ให้สวยเป็ นคู่ดูสุขสันต์ ท้งั สองข้ำง เพ่ือสะดวกในกำรถือหรือจบั เอำเชือกร้อยเจำะรูอยู่แม่นมัน่ ในเวลำบรรเลง มือด้ำนหนึ่งจับฉ่ิงหงำยขึน้ ประกบกนั ดงั ฉับรับทำนอง อกี ข้ำงหนึ่งจับคว่ำลงให้ฉ่ิงประกบกัน เวลำ ทำเสียงฉ่ิงให้ใช้ขอบฉ่ิงกระทบกนั เลก็ น้อย เวลำทำเสียงฉับให้ใช้ฉิ่งตปี ระกบกนั ท้งั สองข้ำง

ท่ีเหมือนจำนใบเลก็ เป็ นเหล็กหล่อ หนงั สืออ่านเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้กล่มุ สาระศิลปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 22 แล้วตีต่อให้แน่นมีแผ่นสอง ดงั แช่วับแช่วบั ตำมครรลอง ฉำบเลก็ เป็ นเคร่ืองตปี ระกอบจังหวะ เขำเรียกสองแผ่นนี้ว่ำ”ฉำบเลก็ ” ทำมำจำกโลหะผสม รูปร่ำงคล้ำยจำนแบน เสียงเขำดลี ีลำว่ำชอบขัด มีควำมนูนตรงกลำง เจำะรูร้อยด้วยเชือก จงั หวะชัดสดใสถูกใจเด็ก เหมือนกนั กบั ฉิ่ง เรียกว่ำ ฉำบเลก็ กำรตจี ะตี เสียงคึกคักฝึ กไปใช่เรื่องเลก็ แบบประกบ และตีแบบเปิ ดให้เสียงต่ำงกนั เสียงเหมือนเด็กแช่แว๊บเป็ นแร็บไทย เสียงที่ได้ยินมักเรียกกนั ว่ำ แช่วับ ตำมลกั ษณะ กำรตี

กรับพวงมีไม้ขนำดเขื่อง หนงั สืออ่านเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ล่มุ สาระศิลปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 23 แผ่นทองเหลืองสลบั ลงอย่ำสงสัย เสียงสลบั รับดงั กงั วำนไกล กรับพวง ทำมำจำกไม้และแผ่นทองเหลืองตี สมองใสช่ำงคดิ ประดษิ ฐ์ลวง บำงๆ หลำยแผ่นร้อยสลบั กนั กบั ไม้บำงๆ ใช้มือขวำค่อยจบั ขยบั กรับ หลำยๆชิ้น เรียงซ้อนกนั คล้ำยพดั จีน มไี ม้หนำ มือซ้ำยรับกรับดงั่ เพลงหลวง สองชิน้ ประกบหัวและท้ำย เชือกทรี่ ้อยร้อยเพยี ง มโหรีร้องรับใช้กรับพวง ด้ำนล่ำงเท่ำน้นั เวลำบรรเลงจะใช้มือข้ำงหนึง่ ดงั แดนสรวงประทำนเพลงบรรเลงเพลนิ จบั ด้ำนทม่ี เี ชือกร้อยตีกระทบลงไปบนมือ อกี ข้ำงหนึ่ง เสียงที่เกดิ ขึ่นเกดิ จำกกำรกระทบกนั ของไม้และแผ่นทองเหลืองนนั่ เอง

หนงั สืออ่านเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ลุ่มสาระศิลปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 24 รูปร่ำงเหมือนกบั ฆ้องชัย แต่ขนำดเลก็ และ บำงกว่ำ เส้นศูนย์กลำงประมำณ๒๐ - ๒๕ ซม. ฆ้องเหม่ง รูปร่ำงเหมือนกับฆ้องโหม่งแต่มี ขนำด ใหญ่กว่ำ และหนำกว่ำ ขนำดเส้นผ่ำศูนย์กลำง ประมำณ ๑๗ ซม. เสียงโหม่งน้ันสำคัญยิง่ เพยี งฉ่ิงกรับ เสียงดงั รับกรับพลนั ไม่หันเหิน ก้องกงั วำนดงั ไกลได้เพลดิ เพลนิ ใช้กนั เน่ินนำนเนำเขำเล่ำมำ ลกู โหม่งน้ันเป็ นโลหะท้ังหนำใหญ่ แขวนโครงไม้สองข้ำงบ้ำงสำมขำ ตดี ้วยไม้พนั ผ้ำนุ่มตรงป่ ุมไป กงั วำนกว่ำดนตรีใดให้ช่ืนชม

จดั วงเลก็ ตามแบบมโหรี หนงั สืออ่านเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้กลมุ่ สาระศิลปะ (สาระท่ี ๒ ดนตรี ) 25 สามสายมีระนาดเอกมาประสม เสียงซอดว้ งซออูด้ ูภิรมย์ วงมโหรีเป็ นวงท่ีประสมระหว่ำงวงปี่ เป็ นเคร่ื องสี่ที่ประสมในวงเลก็ พำทย์และวงเคร่ืองสำย โดยตัดเครื่องดนตรีทมี่ ี จะเขด้ ีดฆอ้ งวงใหญเ่ ป็นหลกั จบั เสียงดงั ออกแล้วปรับปรุงวงให้ดูงดงำมด้วย โทนกากบั รามะนาหนา้ ทบั เอก เครื่องดนตรีและเสียงท่นี ุ่มนวล เคร่ืองดนตรีใน ท้งั ฉ่ิงกรับรับจงั หวะไม่โยกเยก วงมโหรีวงเล็กมเี ครื่องดนตรีอย่ำงละหนึง่ ชิน้ ใช้ พ้ืนที่เลก็ บรรเลงดงั ฟังสบาย บรรเลงในพืน้ ท่ีทไี่ ม่กว้ำงนัก เครื่องดนตรีที่ใช้ ประกอบด้วยซอสำมสำย จะเข้ ระนำดเอก ขล่ยุ ซอด้วง ซออู้ ฆ้องวงใหญ่ ฉ่ิงฉำบ กรับ โหม่ง

มโหรีวงนีเ้ ขำมีคู่ หนงั สืออ่านเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ลมุ่ สาระศิลปะ (สาระที่ ๒ ดนตรี ) 26 เพยี งอออยู่คู่หลบิ อกี สำมสำย ท้ังจะเข้ด้วงอ้มู คี ู่กำย วงมโหรีเป็ นวงที่ประสมระหว่ำงวงป่ี พำทย์และ มเิ ลือนหำยอย่ำงละสองให้ต้องกนั วงเคร่ืองสำย มเี สียงทนี่ ุ่มนวล เคร่ืองดนตรี ระนำดเอกระนำดทุ้มอย่ำงละหน่ึง เพมิ่ ขนึ้ จำกวงมโหรีวงเลก็ เพื่อให้เป็ นคู่ได้แก่ ฆ้องใหญ่จงึ คู่ฆ้องเล็กมหิ ยำมหยัน เคร่ืองดนตรีในกล่มุ เคร่ืองสำย เช่นซอสำมสำย เคร่ืองจังหวะครันตรบเคำรพกนั จะเข้ ซอด้วง ซออู้ เครื่องดนตรีประเภท ชื่อเรียกน้ัน “เครื่องคู่” ดูรื่นรมย์ เครื่องตี ประกอบด้วยระนำดเอก ระนำดทุ้ม ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเลก็ ฉิ่ง ฉำบ กรับ โหม่ง เครื่องเป่ ำได้แก่ ขลุ่ยใช้บรรเลงในพืน้ ที่ท่มี ีขนำด กว้ำงกว่ำวงมโหรีวงเล็ก

หนงั สืออ่านเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ล่มุ สาระศิลปะ (สาระท่ี ๒ ดนตรี ) 27 วงมโหรีเครื่องใหญ่เป็ นวงประสมครบ เป็ นวงในสมยั รัตนโกสินทร์ วงมโหรีเคร่ืองใหญ่ ใช้เคร่ืองดนตรีเพม่ิ จำกวงมโหรีเครื่องค่โู ดยเพมิ่ ระนำดเอกเหล็กและระนำดทุ้มเหลก็ เข้ำไป ใช้ สถำนท่ใี นกำรบรรเลงมำก มโหรีเครื่องใหญ่ดูโอฬำร เสียงประสำนดดี ตีมปี ระสม ท้งั เคร่ืองเป่ ำเคล้ำคลอล้ออำรมย์ เขำประสมเคร่ืองดนตรีมีมำกมำย มโหรีเครื่องคู่ดเู ป็ นหลกั ได้ประจักษ์ทุ้มเหลก็ อยู่ดงั ใจหมำย อกี ระนำดเอกเหลก็ บรรเลงรำย เสียงเพลดิ พรำยดงั เพลงบรรเลงพณิ

๑. เครื่องดนตรีชนิดใดเป็นผนู้ าในวงมโหรี ก. ระนาด ข. ฆอ้ งวง ค. กรับ ง. ซอสามสาย ๒. เครื่องเป่ าชนิดใดใชใ้ นวงมโหรี ก. ขลุ่ย ข. ปี่ ค. โหวด ง. แคน ๓. เครื่องดนตรีชนิดใดที่ไมม่ ีในวงเครื่องสายและวงป่ี พาทย์ ก. ปี่ ข. ซอสามสาย ค. จะเข้ ง. ระนาด ๔. เคร่ืองประกอบจงั หวะชนิดใดท่ีเพ่ิมข้ึนมาในวงมโหรี ก. ฉิ่ง ข. ฉาบเลก็ ค. กรับพวง ง. โหม่ง ๕. วงมโหรีเป็นวงดนตรีท่ีสมบูรณ์ท่ีสุดในสมยั ใด ก. พระปิ่ นเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ข. พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ค. พระพุทธเลศิ หลา้ นภาลยั ง. พระมงกุฏเกลา้ เจา้ อยหู่ วั

เฉลมิ ศกั ด์ิ พกิ ลุ ศรี . สงั คีตนิยมว่าดว้ ยดนตรีไทย . กรุงเทพฯ : โอเดียน สโตร์,2530 ธนิต อยโู่ พธ์ิ. ประวตั ิเครื่องดนตรีไทย,อนุสรณ์ในงานพระราชทาน เพลิงศพ หลวงไพเราะเสียงซอ (อุน่ ดุริยชีวนิ ).กรุงเทพฯ : ม.ป.ท.,2520 บรรจง ชาครัตพงศ.์ เคลด็ ลบั การแต่งคาประพนั ธ.์ กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พด์ อกหญา้ , 2551 ประดิษฐ์ อนิ ทนิล. ดนตรีไทยและนาฏศิลป์ . กรุงเทพ : สุริยสาสน์, ม.ป.ป. มนตรี ตราโมท.ดนตรีไทยของมนตรี ตราโมท, อนุสรณ์ในงาน พระราชทานเพลิงศพนายมนตรี ตราโมท. กรุงเทพฯ:ธนาคาร กรุงเทพ,2538 วิญญู ทรัพยประภา ,ดวงรัตน์ ทรัพยป์ ระดิษฐ์ .ดนตรี—นาฏศลิ ป์ ป.6 . กรุงเทพฯ: สานกั พมิ พป์ ระสานมติ ร,2547 อษั ฏาวุธ สาคริก ลอานนั ทน์ าคคง . เครื่องดนตรีไทย. กรุงเทพฯ: สานกั พิมพอ์ ทุ ยานการเรียนรู้,2550


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook