ศาสตร์ของพระราชา เสนอ นางสาว ฐิรญา ทะนนั ชยั โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ปี การศึกษา2562/2
คานา หนงั สือเล่มน้ีมีเน้ือหาเกี่ยวกบั ศาสตร์พระราชาการทางาน ของรัชกาลที่๙ และหลกั คาสอน ซ่ึงจะเป็นประโยชนต์ ่อการนาไปใชใ้ น ชีวติ และมีทกั ษะการดาเนินชีวติ ท่ีดี หวงั วา่ จะเป็นประโยชนอ์ ยา่ งยง่ิ แก่ผู้ ที่ตอ้ งการจะศึกษาเกี่ยวกบั ศาตร์พระราชา หากมีขอ้ ผดิ พลาดประการใด ขออภยั ณ โอกาสน้ี คณะผจู้ ดั ทา
สารบญั • คำนำ • สำรบัญ • ศำสตร์พระรำชำ • มคี ำกล่ำวถึงศำตสร์พระรำชำ • หลกั ปรัชญำ • ศำสตร์แห่งพระรำชำ • โครงกำรฝนหลวง • โครงกำรหลวงฝำยชะล่อควำมชุมชื้น • โครงกำรหลวงหญ้ำแฝก • โครงกำรหลวงทฤษฏีใหม่ • โครงกำรแก้มลงิ • โครงกำรหลวงกำรใช้นำ้ ดไี ล่นำ้ เสีย • วชิ ำ๙หน้ำ
• ศำสตร์พระรำชำ คือ แนวทางการพฒั นาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่ีมี ความลุ่มลึก รอบดา้ น มองการณ์ไกล และเนน้ ความยงั่ ยนื ยาวนาน ก่อนที่ ประชาคมโลกจะตื่นตวั ในเร่ืองน้ี • เป็นแนวทางการพฒั นาที่มุ่งยกระดบั คุณภาพชีวิตของคนไทยทุกหมู่เหล่า องคป์ ระกอบของศาสตร์พระราชา คือ การศึกษาและสุขภาพ การเพ่ิมผลิตภาพ การผลิต การคน้ ควา้ วิจยั การบริหารความเสี่ยง การอนุรักษธ์ รรมชาติ และปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง แต่ละองคป์ ระกอบลว้ นมีส่วนช่วยยกระดบั คุณภาพชีวิตของ ทุกผทู้ ุกคน โดยเฉพาะ คนจนผยู้ ากไร้
ศำสตร์พระรำชำ “คนไทยมปี ัญหำพระรำชำกท็ รงคดิ หำทำงแก้ไขโดยศำสตร์พระรำชำ” • มีคากล่าวถึง “ศาสตร์พระราชา” มานานหลายปี ที่ผา่ นมา เช่น ศาสตร์ พระราชาสู่การพฒั นาอยา่ งยงั่ ยนื , ศาสตร์พระราชาสู่การพฒั นาที่ยง่ั ยนื , ศาสตร์ พระราชาจากภูผาสู่มหานที ซ่ึงในตา่ งประเทศต่างทราบวา่ เป็นแนวคิดตามแนว พระราชดาริขององคพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลท่ี 9 ในความคิดแวบหน่ึงคนไทยนี่ช่างโชคดี ท่ีเจอปัญหาอะไร พระราชาของเรากห็ า ทางแกไ้ ขไวใ้ ห้ มีคาถามวา่ “คนไทยรู้จกั ศาสตร์ของพระราชาดีแคไ่ หน และเคยนาไป ปฏิบตั ิกนั หรือยงั ” มาเร่ิมตน้ ท่ีตวั เรา และต่อไปกค็ นรอบขา้ ง แลว้ ขยายออกวงกลางไปสู่ สงั คมและประเทศชาติในที่สุด • ตวั อยา่ งปัญหาเช่น ทุกคร้ังท่ีคนไทยมีปัญหา น้าเสีย น้าท่วมดินถล่ม ไฟป่ า พระองคท์ ่านกจ็ ะคิดศาสตร์มาแกไ้ ข เม่ือประเทศไทยฝนแลง้ พระองคท์ ่านกม็ ีศาสตร์ ในการทาฝนเทียม หรือ ฝนหลวง ท่ีเรียกวา่ “ฟากฟ้าลงภูผา ผา่ นทุ่งนาสู่มหานที” เม่ือ ประชาชนชาวกทม.น้าท่วม พระองคท์ ่านกค็ ิดศาสตร์ที่ช่ือวา่ โครงการแกม้ ลิง ที่ คลองมกั กะสนั
กำรนำหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกต์ใช้ในกำรบรรลุ เป้ำหมำยกำรพฒั นำทย่ี ่งั ยืน • เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ท่ีคนไทยรู้จกั “หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง” ท่ี “พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดช” พระราชทานเป็นแนวทาง ในการนาพาประเทศไทยใหข้ า้ มพน้ วกิ ฤตเศรษฐกิจคร้ังใหญ่ท่ีเกิดข้ึนเม่ือปี 2540 หรือ “วิกฤตตม้ ยากงุ้ ” หรือ ช่วงวกิ ฤตเศรษฐกิจ “ฟองสบู่แตก” จนหลาย ภาคส่วนนอ้ มนาหลกั ปรัชญาน้ีไปเป็นแนวทางปฏิบตั ิ โดยอาจารยย์ กั ษ์ หรือ ดร.ววิ ฒั น์ ศลั ยกาธร ผเู้ ดด็ เดี่ยวตามรอยในหลวงใหเ้ ศรษฐกิจพอเพียงเล้ียง ชีวิต ไดศ้ ึกษาและเขียนเร่ืองเศรษฐกิจพอเพียง มาตลอดต้งั แต่ปี 2540 จวบจน ทุกวนั น้ี ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไดร้ ับการนาไปประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ งแพร่หลาย ท้งั ในภาคเกษตรกรรม ธุรกิจ การจดั การทางเศรษฐกิจและส่ิงแวดลอ้ ม และ สถานศึกษา จนประสบความสาเร็จอยา่ งเป็นรูปธรรม โดย “มูลนิธิมนั่ พฒั นา” ท่ีจดั ต้งั ข้ึนเมื่อ 25 กรกฎาคม 2557
“ศาสตร์แห่งพระราชา”
โครงกำรฝนหลวง จำกฟำกฟ้ำลงภูผำ ผ่ำนทุ่งนำสู่มหำนที วธิ ีทาฝนหลวงมีอยู่ 3 ข้นั ตอน คือ ข้นั ตอนท่ี 1 ก่อกวน คือการดดั แปร สภาพอากาศหรือกอ้ นเมฆในขณะน้นั เพื่อกระตุน้ ใหม้ วลอากาศ ช้ืนไหลพาข้ึนสู่เบ้ือง บนอนั เป็นการชกั นาไอน้าหรืออากาศช้ืนเขา้ สู่กระบวน การเกิดเมฆ ข้นั ตอนท่ี 2 เล้ียงใหอ้ ว้ น คือการดดั แปรสภาพอากาศเพื่อทาใหเ้ มฆเจริญข้ึนจนมีขนาดใหญ่ หนาแน่นและพร้อมที่จะตกลงมาเป็นฝน ข้นั ตอนท่ี 3 โจมตีคือการดดั แปรสภาพ อากาศที่จะกระตุน้ ใหเ้ มด็ ละอองเมฆปะทะชนกนั แลว้ รวมตวั เขา้ ดว้ ยกนั จนมีขนาด ใหญ่ข้ึน ขณะเดียวกนั กเ็ ป็นการลดแรงไหลพาข้ึนเบ้ืองบน เพ่ือใหเ้ มด็ น้า มีขนาด ใหญ่ตกลงสู่เบ้ืองล่างแลว้ เกิดเป็นฝนตกลงมาสู่เป้าหมาย
ฝายชะลอความชุ่มช้ืน( Check Dam) หรือฝายแมว้ ใชว้ สั ดุธรรมชาติที่หาง่ายในทอ้ งถ่ินเช่นกอ้ นหินและไมเ้ พื่อก่อเป็น ฝายขวางร่องน้าหรือหว้ ยเลก็ ๆทาหนา้ ที่กกั กระแสน้าไวใ้ หไ้ หลชา้ ลงและใหน้ ้า สามารถซึม ลงใตผ้ วิ ดินสร้างความชุ่มช้ืนในบริเวณน้นั อีกท้งั ยงั ช่วยดกั ตะกอน ดินและทราย ไม่ใหไ้ หลลงสู่แหล่งน้าเบ้ืองล่าง
แฝก การปลูกหญา้ แฝกตามแนวระดบั เพ่ือช่วยชะลอความชุ่มช้ืนไว้ ในดิน โดยรากของหญา้ แฝกจะขยายออกดา้ นขา้ งเป็นวงเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางไม่ เกิน 50 เซนติเมตรและจะแทงลงไป เป็นแนวลึกใตด้ ิน 1-3 เมตรแลว้ สานกนั เป็นแนวกาแพงดูดซบั ความชุ่มช้ืนใหแ้ ก่ผวิ ดิน
ทฤษฏีใหม่ เป็นการสร้างแหล่งน้าขนาดเลก็ บนผวิ ดินในพ้ืนที่การเกษตร ของเกษตรกรโดยแบง่ ท่ีดินสาหรับใชข้ ดุ เป็นสระเกบ็ น้าใหส้ ามารถใชท้ า การเกษตรไดต้ ลอดปี และสามารถ เล้ียงปลาไปพร้อมๆกนั นอกจากน้ีบริเวณ ขอบสระยงั สามารถใชป้ ลูกพืชผกั สวนครัว ไดอ้ ีกดว้ ย
โครงการแกม้ ลิง หลกั การของโครงการ คือเม่ือเกิดน้าท่วมกข็ ดุ คลองชกั น้าใหไ้ หลมา รวมกนั เกบ็ ไว้ ในแหล่งพกั น้าแลว้ จึงคอ่ ยทาการระบายลงสู่ทะเลผา่ นทางประตู ระบายน้าในช่วงท่ี ปริมาณน้าทะเลลดลง ขณะเดียวกนั กส็ ามารถสูบน้าออกจาก คลองที่เป็นแกม้ ลิงลงสู่ ทะเลตลอดเวลาเพื่อที่น้าจากตอนบนจะไดไ้ หลลงมาได้ เร่ือยๆและเม่ือใดกต็ ามท่ี ระดบั น้าทะเลข้ึนสูงกวา่ ระดบั น้าในคลองที่เป็นแกม้ ลิงก็ ใหป้ ิ ดประตูระบายน้าก้นั ไม่ใหน้ ้าทะเลไหลยอ้ นกลบั เขา้ มา
การใชน้ ้าดีไล่น้าเสีย เป็นการนาน้าคุณภาพดีจากแม่น้าเจา้ พระยาส่งเขา้ ไปไล่น้าเสียตาม คลองใน เขตกรุงเทพฯและปริมณฑลไดแ้ ก่คลองบางเขน คลองบางซ่ือ คลองแสน แสบ คลองเทเวศร์และ คลองบางลาภูเพื่อช่วยลดปัญหา ความเน่าเสียของน้าในคลอง ต่างๆคลา้ ยกบั การ “ชกั โครก”คือปิ ดและเปิ ดน้าใหไ้ ดจ้ งั หวะตามเวลาน้าข้ึน-น้าลง หากน้าข้ึน สูงกเ็ ปิ ดประตูน้าใหน้ ้าดีเขา้ ไปไล่น้าเสียคร้ันน้าทะเลลงกเ็ ปิ ดประตูถ่ายน้า เสียออกจากคลองไปดว้ ย
1. วชิ ำปรุงไทยในใจคน : พพิ ธิ ภณั ฑสถำนแห่งชำติ กรุงเทพมหำนคร โดย คุณกอบกาญจน์ วฒั นวรางกรู รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา 2. วชิ ำชลปรำกำร : เข่ือนขนุ ด่ำนปรำกำรชล จ.นครนำยก เข่ือนของพอ่ “ปราการ” ที่ใชป้ กป้องบรรเทาปัญหาอุทกภยั ไม่ให้ เขา้ ท่วมจงั หวดั นครนายกซ่ึงเป็นปราการด่านสุดทา้ ยก่อนที่จะเขา้ สู่ กรุงเทพมหานคร และยงั เป็นปราการที่ใชเ้ กบ็ กกั น้าสาหรับหล่อเล้ียงชีวิตชาว ไทย
3. วชิ ำหมอดนิ : ศูนย์ศึกษำวธิ กี ำรฟื้ นฟูทด่ี นิ เสื่อมโทรมเขำชะงุ้ม อนั เนื่องมำจำก พระรำชดำริ จ.รำชบุรี โดยคุณบอย โกสิยพงษ์ นักแต่งเพลงช่ือดงั ปัญหาดินเสื่อมโทรมตอ้ งรักษาดว้ ยการเพิ่ม “วิตามินของดิน” เพ่ือฟ้ื นฟู ปรับปรุงบารุงใหส้ ามารถกลบั มาใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพอีกคร้ัง แกป้ ัญหาที่ทากินของตนเองใหก้ ลบั มาใชป้ ระโยชน์ไดใ้ นท่ีสุด อาทิ การปลูกป่ าโดย ไม่ตอ้ งปลูก ปล่อยใหป้ ่ าเติบโตตามในวิถีธรรมชาติ 4. วชิ ำหลอกฟ้ำ : ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน จ.ประจวบครี ีขนั ธ์ โดยคุณกรรณ สวสั ด์วิ ฒั น์ ณ อยุธยำ นักแสดงหล่อมำดเซอร์ อาจกล่าวไดว้ า่ ปัญหาภยั แลง้ เป็นทุกขข์ องราษฎร พระองคจ์ ึงไดท้ รงคน้ งานวจิ ยั จากต่างประเทศจานวนมาก เพื่อศึกษาหาความเป็นไปไดใ้ นการทาฝนเทียม โดยได้ ใชส้ นามบินบ่อฝ้าย จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ ในการทดลอง ฝนท่ีในหลวงทรงสร้าง จาก ศาสตร์ของการหลอกฟ้า ที่ท้งั คน้ คิด และทดลอง ซ้าแลว้ ซ้าเล่ามานานถึง 14 ปี
5. วชิ ำธรรมชำตสิ ำมัคคี : โครงกำรพฒั นำป่ ำไม้ตำมแนวพระรำชดำริภูหินร่อง กล้ำ จ.พษิ ณุโลก ชาวมง้ ที่ภูหินร่องกลา้ ส่วนใหญ่ดารงชีพดว้ ยการปลูกฝ่ินกบั กะหล่าปลี จึงมกั จะเขา้ ไปบุกรุกเผา้ ถางพ้ืนที่ป่ าสร้างความเสียหายแก่ ทรัพยากรธรรมชาติเป็นอยา่ งมาก กรมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ ่ า และพนั ธุ์พืช จึง หยบิ ยกแนวทางพระราชดาริมาเป็นฐานเพ่อื แกไ้ ขปัญหา โดยสนบั สนุนให้ ชาวบา้ นเปลี่ยนมาปลูกพืชที่เป็นมิตรกบั ธรรมชาติ 6. วชิ ำตำนำนพนั ธ์ุ : ศูนย์ศึกษำกำรพฒั นำภูพำน อนั เน่ืองมำจำกพระรำชดำริ จ. สกลนคร ดว้ ยตอ้ งการบรรเทาความทุกขข์ องประชาชน ในหลวง รัชกาลท่ี 9 จึงโปรดฯ ใหส้ ร้างพระตาหนกั ภูพานราชนิเวศน์ เพื่อเป็นศูนยก์ ลางในการ ทางานของพระองคใ์ นภาคอีสาน พร้อมโปรดฯ ใหจ้ ดั ต้งั ศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาภู พาน อนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ เพ่ือเป็นสถานที่ทดลองแนวพระราชดาริต่างๆ
7. วชิ ำรักแรงโน้มถ่วง : โครงกำรแก้มลงิ ในพระรำชดำริทุ่งทะเลหลวง จ.สุโขทยั เพราะความรักที่มีต่อสตั วเ์ ล้ียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 พระองคจ์ ึง คอยเฝ้าสงั เกตพฤติกรรมของสตั วท์ ่ีทรงเล้ียงอยา่ งใกลช้ ิด และจากความสน พระทยั น้ีจะถูกต่อยอดมาเป็นแนวทางการบริหารจดั การน้าทส่ี าคญั ของประเทศ “แกม้ ลิงรูปหวั ใจ” 8. วชิ ำปลูกรักษ์ : สถำนีเกษตรหลวงอนิ ทนนท์ จ.เชียงใหม่ ใครจะเช่ือวา่ ปัญหาการปลูกฝ่ินที่อยคู่ ู่สงั คมไทยมานานกวา่ 600 ปี จะหายไป ดว้ ยพระอจั ฉริยภาพที่เกิดจากการมองปัญหาอยา่ งรอบดา้ นลึกซ้ึง ของในหลวง รัชกาลท่ี 9 ทาใหส้ ามารถเอาชนะปัญหาที่เกาะกินสงั คมไทยมา ยาวนานได้
9. วชิ ำนิเวศปฐมวยั : ศูนย์ศึกษำกำรพฒั นำอ่ำวคุ้งกระเบน อนั เนอื่ งมำจำก พระรำชดำริ จ.จนั ทบุรี โดยคุณชุดำรี เทพำคำ เชฟตำม Top Chef Thailand คนแรกของประเทศไทย สตั วน์ ้าตวั เลก็ ๆ กเ็ หมือนกบั เดก็ หากไม่มีการดูแลท่ีดี โอกาสที่ จะเจริญเติบโตเป็นแหล่งโปรตีนท่ีดี กค็ งลาบาก ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรง เขา้ ใจเรื่องน้ีเป็นอยา่ งดี จึงเป็นสาเหตุวา่ ทาไมถึงโปรดฯ ใหจ้ ดั ต้งั ศูนยศ์ ึกษา การพฒั นาอ่าวคุง้ กระเบน อนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ จงั หวดั จนั ทบุรี
“ศาสตร์แห่งพระราชา”
จดั ทาโดย นางสาว อรพณิ ถนอมจิตดี เลขที่1 นางสาว กญั ญว์ รา สีทา เลขที่20 นางสาว อภิรดี ถนอมจิตดี เลขที่22
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: