Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รูปแบบการนิเทศภายในของสถานศึกษา

รูปแบบการนิเทศภายในของสถานศึกษา

Description: โรงเรียนเก้าเลี้ยววิทยา

Search

Read the Text Version

0

1 รปู แบบการนิเทศภายในของสถานศึกษาที่ประสบความสาเรจ็ เป็นแบบอยา่ งได้ โรงเรียนเก้าเลี้ยววิทยา สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศึกษานครสวรรค์ ********************************** ตอนที่ ๑ ข้อมูลทวั่ ไปของสถานศึกษา โรงเรยี นเกา้ เล้ยี ววทิ ยา ทต่ี งั้ 320 หมู่ 1 ตาบลเกา้ เลย้ี ว อาเภอเกา้ เลย้ี ว จงั หวดั นครสวรรค์ รหสั ไปรษณีย์ 60230 สงั กดั สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษานครสวรรค์ โทรศพั ท์ 0-5638-3528 081-4610191 โทรสาร. 0-5638-3528 www.kaoliao.ac.th https://www.facebook.com/kaolieowittaya สอน ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ถงึ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 เน้อื ท่ี 130 ไร่ เขตบรกิ าร บา้ นหนองหวั เรอื -หนองเต่า- หว้ ยรวั้ -บา้ นกลั ยารตั น์-บา้ นป่ายายมยุ้ (อ.ชุมแสง)-บางเคยี น (อ.ชุมแสง)-เนินสะเดา-บา้ นมะเกลอื -บา้ นเกา้ เลย้ี ว- หาดเสลาแหลมยาง-บา้ นมหาโพธ-ิ บงึ น้าใส-สระงาม-หวั ดง-เนนิ ยายผาด-เขาดนิ -ยางใหญ่-ดงบา้ นโพธ-ิ์ เนนิ พะยอมหนองกรด(อาเภอบรรพตพสิ ยั ) จานวนบุคลากร บคุ ลากร ผบู้ ริหา ขา้ ราช พนักงา ครู ครู ครู Teach ครู ครู ร การครู พี่เลีย้ ง น อตั รา ธรุ การ for ต่างชา จานวน 2 35 1 รวม ราชการ จา้ ง Thailand ติ ทงั้ หมด ขอ้ มูลนักเรียน 2 21 2 1 46 ระดบั ชนั้ เรียน จานวนห้อง เพศ รวม เฉล่ีย ชาย หญิง ต่อห้อง ม.1 4 131 ม.2 4 66 65 133 32.00 ม.3 4 64 69 116 รวม 12 61 55 24.00 ม.4 3 380 ม.5 3 191 189 94 52 42 73 34 39

2 ระดบั ชนั้ เรียน จานวนห้อง เพศ รวม เฉลี่ย ชาย หญิง ต่อห้อง ม.6 3 45 รวม 9 18 27 212 104 108 ปรชั ญาของโรงเรยี น : มารยาทงาม ความรดู้ ี กฬี าเด่น เน้นวนิ ยั ตราสญั ลกั ษณ์โรงเรยี น : อุนาโลม วิสยั ทศั น์ (VISION) : มุ่งพฒั นาผเู้ รยี น ใหม้ คี ณุ ธรรมนาความรู้ สมู่ าตรฐานสากล บนความเท่าทนั เทคโนโลยี ตามวถิ เี ศรษฐกจิ พอเพยี ง เคยี งค่ชู มุ ชน พนั ธกิจ (MISSION) 1.สภาพแวดลอ้ มภายในภายนอกโรงเรยี นดี มสี งั คมบรรยากาศสง่ิ แวดลอ้ มเออ้ื อานวยตอ่ การจดั การศกึ ษาทม่ี คี ณุ ภาพ 2. พฒั นาครู ผบู้ รหิ าร และบุคลากรทางการศกึ ษาใหเ้ ป็นมอื อาชพี 3. พฒั นาลกั ษณะทางกายภาพของโรงเรยี นใหไ้ ดม้ าตรฐาน 4. พฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษาใหเ้ หมาะสมกบั ผเู้ รยี นและทอ้ งถนิ่ 5. จดั หาสอ่ื อุปกรณ์ เทคโนโลยที นั สมยั 6. สรา้ งและพฒั นาแหล่งเรยี นรใู้ นโรงเรยี นใหห้ ลากหลาย 7. งบประมาณมุ่งเน้นผลงาน 8. จดั กระบวนการเรยี นรเู้ น้นผเู้ รยี นสาคญั ทส่ี ุด 9. จดั บรรยากาศการเรยี นรเู้ ออ้ื ตอ่ การพฒั นาผเู้ รยี น 10. บรหิ ารจดั การทใ่ี ชโ้ รงเรยี นเป็นฐาน เน้นการมสี ว่ นร่วม 11. การประกนั คุณภาพการศกึ ษามปี ระสทิ ธภิ าพเป็นสว่ นหน่งึ ของระบบบรหิ ารโรงเรยี น 12. พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ุณภาพมาตรฐาน มพี ฒั นาทุกดา้ น เป็นคนดี คนเก่ง มคี วามสขุ ศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี ได้ 13. โรงเรยี นเป็นทช่ี ่นื ชมของชุมชน 14. โรงเรยี นเป็นแบบอยา่ ง และใหค้ วามช่วยเหลอื แก่ชมุ ชนและโรงเรยี นอ่นื เป้าประสงค์ (Goals) 1. ผเู้ รยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยมทพ่ี งึ ประสงคต์ ามมาตรฐานการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน 2. ผเู้ รยี นมคี วามรแู้ ละทกั ษะทจ่ี าเป็นตามหลกั สตู รตามมาตรฐานการศกึ ษาและมาตรฐานสากล 3. โรงเรยี นพฒั นาสอ่ื เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมทางการศกึ ษาเพอ่ื สง่ เสรมิ และสนับสนุนใหค้ รแู ละ นกั เรยี นใชใ้ นการจดั การศกึ ษาทม่ี คี ุณภาพ

3 ปรชั ญา 4. ครสู ามารถจดั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาคุณภาพชวี ติ ทเ่ี ป็นมติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม โดยยดึ หลกั ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 5. โรงเรยี นมกี ารบรหิ ารจดั การศกึ ษาอย่างมรี ะบบตามหลกั ธรรมาภบิ าล 6. ผปู้ กครอง ชุมชน และภาคเี ครอื ขา่ ยมสี ว่ นรว่ มในการสง่ เสรมิ สนับสนุนการจดั การศกึ ษาทม่ี ี คุณภาพ ตอนท่ี ๒ ผลการดาเนนิ งานดา้ นการนิเทศภายในสถานศกึ ษา ๒.๑ ชื่อรปู แบบ กจิ กรรมบรู ณาการผสมผสานกลั ยาณมติ ร ๒.๒ สภาพปัจจุบนั /ปัญหา การขบั เคล่อื นการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา “การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน วถิ ใี หม่ วถิ คี ณุ ภาพ” ตามหลกั การ เป้าหมายแผนแม่บทภายใต้ ยทุ ธศาสตรช์ าต(ิ พ.ศ.๒๕๖๑ –๒๕๘๐) นโยบายรฐั บาล กระทรวงศกึ ษาธกิ าร สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน และสานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษานครสวรรค์ ได้ กาหนดใหม้ กี ารปฏริ ูปการศกึ ษาโดยมจี ดุ เน้นใหผ้ เู้ รยี นไดพ้ ฒั นาความสามารถทกั ษะและคุณลกั ษณะ ซง่ึ ทกั ษะ ชวี ติ เป็นจดุ เน้นดา้ นความสามารถและทกั ษะทเ่ี ดก็ และเยาวชนจาเป็นตอ้ งไดร้ บั การพฒั นาและเสรมิ สรา้ งทกั ษะ ชวี ติ อย่างรอบดา้ น เป็นภูมคิ ุม้ กนั พน้ื ฐานทจ่ี ะช่วยใหผ้ เู้ รยี นสามารถเผชญิ กบั ปัญหาและความทา้ ทายในการ ดารงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพประกอบกบั กระแสประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น (AEC) เขา้ มามบี ทบาททงั้ ดา้ น เศรษฐกจิ การเมอื ง สงั คม ไม่เวน้ แตว่ งการการศกึ ษาเอง ทจ่ี ะตอ้ งปรบั รปู แบบการเรยี นการสอนใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ททจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ทกั ษะการดารงชวี ติ ในสงั คมและทกั ษะอาชพี จงึ เป็นการเรยี นรทู้ โ่ี รงเรยี นตอ้ งจดั ใหน้ กั เรยี น และครตู อ้ งสอนพรอ้ มการขบั เคล่อื นกลไกทางการศกึ ษาของประเทศใหพ้ รอ้ มต่อการแขง่ ขนั เป็นกระบวนการหลกั ในการพฒั นา ทรพั ยากรมนุษยข์ องประเทศ อนั จะสง่ ผลตอ่ การพฒั นาประเทศชาตไิ ดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้าหมายตามจุดเน้น /ตวั ชว้ี ดั หลกั การ ๔ นโยบาย คอื นกั เรยี นดี (Smart Student) ครเู ดน่ (Smart Teacher) โรงเรยี นดงั (Smart School) สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษานครสวรรค์ ๑) เพอ่ื พฒั นารปู แบบการบรหิ าร การจดั การเรยี นรขู้ องโรงเรยี น โดยการพฒั นา ทกั ษะชวี ติ และทกั ษะ อาชพี ใหแ้ ก่นกั เรยี นตามแนวทางการจดั การเรยี นรศู้ ตวรรษท่ี ๒๑ ๒) เพอ่ื ยกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นในทกุ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ๓) เพอ่ื ปลูกฝังและพฒั นาทกั ษะชวี ติ ทกั ษะอาชพี ใหแ้ ก่นกั เรยี น เพอ่ื สามารถนาไปปรบั ประยกุ ตส์ ชู่ วี ติ จรงิ ๔) เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหค้ รจู ดั กจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ ตามแนวทางการจดั การเรยี นรู้ ศตวรรษท่ี ๒๑ อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ๕) เพอ่ื สง่ เสรมิ การมสี ว่ นร่วมในการพฒั นาการศกึ ษาของผทู้ ม่ี สี ว่ นไดเ้ สยี

4 ๒.๓ รปู แบบ หรอื กระบวนการนิเทศภายในของสถานศึกษา รปู แบบ กจิ กรรมบูรณาการผสมผสานกลั ยาณมติ รนิเทศ ๒.๔ วิธีดาเนินการ โรงเรยี นมนี โยบายในการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นทกุ ดา้ น โดยเฉพาะดา้ นการเรยี นรู้ ตามแนวทางการ จดั การเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ โดยใชก้ ระบวนการ P-D-C-A ดงั น้ี P –Plan วางแผน วเิ คราะห์ ประชุมชแ้ี จง แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ รบั ทราบนโยบาย/วธิ กี ารสกู่ ารปฏบิ ตั ิ อบรมบุคลากรครใู นโรงเรยี นใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจ D –Do ดาเนินการจดั กจิ กรรมบูรณาการแก่นกั เรยี นและจดั กจิ กรรม กลั ยณมติ รนิเทศ แก่ครู C –Check ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ครแู ละนกั เรยี นประมวลผลการร่วมกจิ กรรม A –Action ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษานาขอ้ มลู ทไ่ี ดผ้ า่ นการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และประมวลเป็นขอ้ มลู สารสนเทศ มาใชป้ ระโยชน์ เพอ่ื พฒั นาปรบั ปรุงระบบบรหิ ารสถานศกึ ษาใหด้ ยี งิ่ ขน้ึ ต่อไป และเป็นแนวทาง ดงั กล่าวมาใชเ้ พอ่ื เป็นเคร่อื งมอื พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น โดยสง่ เสรมิ ใหค้ รมู บี ทบาทสาคญั ในการพฒั นาการจดั การ เรยี นรู้ มกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ ละพฒั นานวตั กรรมการเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย ออกแบบการเรยี นรทู้ เ่ี น้นผเู้ รยี น ดา้ นการคดิ วเิ คราะห์ ทกั ษะการทางาน รจู้ กั สรา้ งองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเองและสามารถนาความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชวี ติ ประจาวนั ได้ ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั ความคาดหวงั ของผปู้ กครองและชุมชนทต่ี อ้ งการใหโ้ รงเรยี นพฒั นานกั เรยี นให้ เป็นคนดี มปี ัญญาและมคี วามสขุ เป็นนวตั กรรมทพ่ี ฒั นานกั เรยี น สง่ เสรมิ ความเป็น ประชาธปิ ไตย ฝึกทกั ษะ กระบวนการทางาน การทางานรว่ มกบั ผอู้ น่ื และสง่ เสรมิ การคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และคดิ สรา้ งสรรค์ ของ นกั เรยี น โรงเรยี นไดพ้ ฒั นาศกั ยภาพครแู ละพฒั นาการจดั การเรยี นรู้ มกี ารจดั ทาแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรแู้ ละการพฒั นา การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ / วจิ ยั พฒั นา ซง่ึ การพฒั นาดงั กล่าวทาใหเ้ กดิ นวตั กรรมทถ่ี อื เป็นการปฏบิ ตั ิ ทเ่ี ป็นเลิศการพฒั นาทกั ษะชวี ติ สง่ เสรมิ ทกั ษะอาชพี ของนกั เรยี น สกู่ ารเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ไดแ้ ก่ ๑. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ พฒั นาศกั ยภาพ แผนการจดั การเรยี นรพู้ ฒั นาสมรรถนะและแบบบรู ณาการเป็นนวตั กรรมทอ่ี ย่ใู นขนั้ ตอนการจดั ทา แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และ การพฒั นา การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ / วจิ ยั พฒั นา ซง่ึ โรงเรยี นเกา้ เลย้ี ววทิ ยาไดจ้ ดั กจิ กรรมการเรยี นรบู้ ูรณาการมาตงั้ แตป่ ี การศกึ ษา ๒๕๖๒ ในรปู แบบกจิ กรรมบูรณาการแบบสอดแทรก แบบทวภิ าคี ในปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ โรงเรยี นจงึ ไดป้ ระยุกตแ์ นวคดิ และวธิ กี าร จดั กจิ กรรมการเรยี นรพู้ ฒั นาศกั ยภาพ MOU กบั หน่วยงานชมุ ชน หลกั สตู รแบบ ทวศิ กึ ษา กบั วทิ ยาลยั อาชพี บรรพตพสิ ยั รว่ มโครงการพฒั นาศูนยย์ กระดบั คุณภาพชุมชน และการศกึ ษา กบั มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั นครสวรรค์ ในรปู แบบค่ายวชิ าการ Kaoliao Academic Camp(KAC) เป็นตน้

5 ๒. โครงการ/กจิ กรรมตลาดนดั อาชพี กจิ กรรมตลาดนดั อาชพี เป็นการเพมิ่ ทกั ษะชวี ติ นามาใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ในการประกอบอาชพี อสิ ระ จดั ประสบการณ์ตรงจากการออกแบบ วางแผนตน้ ทุน ผลผลติ ในการขายจาหน่ายสนิ คา้ เดอื นละ๑ครงั้ โดย บรู ณาการเขา้ กบั กจิ กรรมบูรณาการสรา้ งสรรค์ สรา้ งอาชพี สรา้ งรายไดเ้ พอ่ื พฒั นาคุณภาพชวี ติ ภาคเรยี นท่ี ๑ ใน คาบเรยี น ท่ี ๖-๗ ของทกุ วนั พฤหสั บดี ภาคเรยี นท่ี ๒ คาบเรยี นท่ี ๕-๖ ของทุกวนั พธุ ๓. การนิเทศการสอนแบบกลั ยาณมติ ร การนิเทศการสอนแบบกลั ยาณมติ ร การนิเทศภายในของโรงเรยี นเกา้ เลย้ี ววทิ ยา จะมรี ะบบการนเิ ทศ เป็นขนั้ ตอน และนิเทศในหลายลกั ษณะ ไดแ้ ก่ ๓.๑ นเิ ทศโดยการประชุม - แตล่ ะเดอื นจะมกี ารประชุมครปู ระจาเดอื น เดอื นละ ๑ ครงั้ เพอ่ื ใหก้ ารนเิ ทศ จากฝ่ายบรหิ าร - จะมกี ารประชุมหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ เพอ่ื รบั การนิเทศจากฝ่ายวชิ าการ เป็นการนิเทศ แบบกลั ยาณมติ ร มกี ารร่วมคดิ ร่วมแกป้ ัญหา โดยการอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ อย่างหลากหลาย - ฝ่าย บรหิ ารโดยผอู้ านวยการ และหวั หน้ากลุ่มบรหิ ารวชิ าการ เขา้ รว่ มประชุมกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้ แตล่ ะกลุ่มสาระ ทงั้ ๘ กลุม่ สาระ เพอ่ื ใหแ้ นวคดิ และรบั ฟังความคดิ เหน็ ของครู รว่ มแกป้ ัญหากบั ครใู นกลมุ่ สาระ - ในแตล่ ะกล่มุ สาระ จะมกี ารประชุมภายในกลุม่ สาระ เพอ่ื ใหก้ ารนเิ ทศครใู นกล่มุ ฯและในแต่ละกลุ่มจะมผี ทู้ าหน้าทเ่ี ป็นครผู ู้ นเิ ทศของกลุม่ สาระ ๓.๒ ผนู้ เิ ทศจะใชร้ ปู แบบกลั ยาณมติ ร เพอ่ื แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ และใหค้ าปรกึ ษาซง่ึ กนั และกนั ในรปู แบบ การนเิ ทศทงั้ หลาย การนเิ ทศการสอนแบบกลั ยาณมติ ร เป็นวธิ กี ารปฏบิ ตั ิ ทเ่ี ป็นเลศิ ในขนั้ ตอนการดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ เพอ่ื ใหค้ รไู ดม้ สี ว่ นร่วมในการพฒั นาการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ เพอ่ื ช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั โดยครจู ะทาแบบประเมนิ ตนเอง และมกี ารสงั เกตการสอน ใหข้ อ้ เสนอแนะ ในการ ปรบั ปรุงการเรยี นการสอน อยา่ งน้อยภาคเรยี นละ ๒ ครงั้ ผลการดาเนินงาน ทาใหเ้ กดิ บรรยากาศ ในการทางาน ทอ่ี บอนุ่ จากการช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั ทาใหเ้ กดิ ความรกั ความจรงิ ใจ และความร่วมมอื ในองคก์ ร สง่ ผลให้ โรงเรยี นไดพ้ ฒั นากระบวนการจดั การเรยี นรใู้ หผ้ เู้ รยี นมคี ุณภาพ ตามมาตรฐานการศกึ ษาและบรรลุผลตาม นโยบาย เป้าหมาย และทศิ ทางการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น ๒.๕ การกากบั ติดตาม ประเมินและรายงานผล โดยใชก้ ระบวนการ P-D-C-A และกากบั ตดิ ตามประเมนิ และรายงานผล ดงั ภาพ ภาพการจดั การเรยี นรู้ เพอื่ พฒั นาทกั ษะชีวิตส่งเสริมทกั ษะอาชีพของนักเรยี นส่กู ารเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ (ทม่ี า/ วธิ ปี ฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นเลศิ : นายอทิ ธพิ ล พลเหย้ี มหาญ โรงเรยี นหนองบอ่ วทิ ยานุกูล อาเภอนาแก จงั หวดั นครพนม)

6

7 แบบการเยย่ี มชนั้ เรยี น (CLASSROOM VISTATION) โรงเรยี นเกา้ เลย้ี ววทิ ยา สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษานครสวรรค์ ----------------------------------------------------------- คาชี้แจง แบบการเยย่ี มชนั้ เรยี นน้ี เป็นแบบเยย่ี มการจดั การเรยี นการสอนของครใู นแตล่ ะรายวชิ าทส่ี อน โดย ผบู้ รหิ ารหรอื ผเู้ ยย่ี มชนั้ เรยี นแบบกลั ยาณมติ รนเิ ทศ และบนั ทกึ ขอ้ มลู จากการเยย่ี มชนั้ เรยี นโดยทาเคร่อื งหมายถูก ( ✓ ) ใน แบบประเมนิ ทกุ ขอ้ ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทวั ่ ไป 1. ผรู้ บั ผดิ ชอบชนั้ เรยี น (ชอ่ื -นามสกุล) …………………………………………………………………………………………… 2. กล่มุ สาระการเรยี นร/ู้ วชิ า ....................................................................................................................... เร่อื งทส่ี อน..................................................................................... ระดบั ชนั้ /หอ้ งทส่ี อน .........../............ วนั ท.่ี ...........เดอื น...............................พ.ศ. ................... คาบท.่ี ...............เวลา......................................... 3. ผเู้ ยย่ี มชนั้ เรยี น / ผนู้ ิเทศ (ช่อื - นามสกุล)................................................................................................ ตอนท่ี 2 การเยย่ี มชนั้ เรยี น 5 = ปฏบิ ตั ไิ ดร้ ะดบั ดมี าก 4 = ปฏบิ ตั ไิ ดร้ ะดบั ดี 3 = ปฏบิ ตั ไิ ดร้ ะดบั ปานกลาง 2 = ปฏบิ ตั ไิ ดร้ ะดบั พอใช้ 1 = ควรปรบั ปรุงแกไ้ ข สภาพหอ้ งเรยี น ท่ี รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 4 3 2 1 หมายเหตุ 1 หอ้ งเรยี นสะอาด เรยี บรอ้ ย 2 การจดั บรรยากาศในหอ้ งเรยี นเป็นบรรยากาศทางวชิ าการ 3 มปี ้ายแสดงขอ้ มลู สถติ ขิ องหอ้ งเรยี นทเ่ี ป็นปัจจุบนั 4 มสี ญั ลกั ษณ์ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ 5 มกี ารจดั มุมวชิ าการ หรอื มมุ ประสบการณ์ทางการเรยี นรู้ รวม ค่าเฉลย่ี ข. พฤตกิ รรมของครู ท่ี รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 4 3 2 1 หมายเหตุ 1 มกี ารเตรยี มการสอน และบนั ทกึ การสอน 2 มสี อ่ื อปุ กรณ์การสอน และมรี อ่ งรอยการใช้ 3 ควบคมุ ดแู ลการจดั หอ้ งเรยี นใหม้ บี รรยากาศแหง่ การเรยี นรู้ 4 พดู ดว้ ยน้าเสยี งน่าฟังและเรา้ ความสนใจของนกั เรยี น 5 แต่งกายเหมาะสมกบั สภาพความเป็นครู รวม คา่ เฉลย่ี

8 พฤตกิ รรมของนักเรยี น ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 4 3 2 1 หมายเหตุ ท่ี รายการ 1 กลา้ พดู กลา้ คุยกบั คนแปลกหน้าและกลา้ ซกั ถามครผู สู้ อน 2 กระตอื รอื รน้ ทจ่ี ะเรยี นรู้ 3 มคี วามสนุกสนาน รา่ เรงิ แจ่มใส 4 สนใจปฏบิ ตั กิ จิ กรรมทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 5 แตง่ กายสะอาด เรยี บรอ้ ย 6 มรี ะเบยี บวนิ ยั ดี และมมี ารยาทเรยี บรอ้ ย รวม คา่ เฉลย่ี รวมเฉลย่ี ทกุ ดา้ น ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะ .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .....................................................................ผเู้ ยย่ี ม/นเิ ทศ (..........................................................................) ตาแหน่ง ............................................................................................... เกณฑ์การแปลความหมาย หมายถงึ ปฏบิ ตั ไิ ดร้ ะดบั ดมี าก หมายถงึ ปฏบิ ตั ไิ ดร้ ะดบั ดี ระดบั คะแนน 4.51 – 5.00 หมายถงึ ปฏบิ ตั ไิ ดร้ ะดบั ปานกลาง ระดบั คะแนน 3.51 – 4.50 หมายถงึ ปฏบิ ตั ไิ ดร้ ะดบั พอใช้ ระดบั คะแนน 2.51 – 2.50 หมายถงึ ควรปรบั ปรุงแกไ้ ข ระดบั คะแนน 1.51– 2.50 ระดบั คะแนน 1.00– 1.50

9 บนั ทกึ การประเมนิ ตนเอง ของครผู รู้ บั การนเิ ทศ การเรยี นการสอน ชอ่ื ผรู้ บั การนิเทศ………………………..…………….............…………ชอ่ื ผนู้ ิเทศ………….……………………................….…… วชิ า................................รหสั วชิ า.................. ชนั้ ….…....…กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ................................................. ท่ี รายการนิ เทศ การปฏิบตั ิ ผลการปฏิบตั ิ ปรบั ปรงุ หมายเหตุ มี ไม่มี ดีมาก ดี พอใช้ 1 แผนการจดั การเรยี นรู้ 1.1 มแี ผนการจดั การเรยี นรูท้ ใ่ี ชป้ ระกอบการเรยี นการสอน 1.2 การกาหนดจุดประสงคก์ ารเรยี นรตู้ ามตวั ชว้ี ดั ตาม หลกั สตู ร / ผลการเรยี นรู้ 1.3 กาหนดความรทู้ ค่ี งทน/ผลของการจดั การเรยี นการสอน 1.4 การดาเนนิ กจิ กรรมการเรยี นการสอนท่สี อดคลอ้ งกบั หลกั สตู ร และธรรมชาตขิ องวชิ า 1.5 การกาหนดส่อื ประกอบการสอนและแหลง่ เรยี นรู้ 1.6 กาหนดวธิ กี ารวดั ประเมนิ ผล 2 ลาดบั ขนั้ ตอนการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ( นาเขา้ ส่บู ทเรยี น ขนั้ สอน ขนั้ สรปุ ผล ) 3 การจดั การเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั /นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรยี นการสอน 4 กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นมกี ารแบ่งกลุม่ /ส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตย 5 ความสามารถในการจดั การชนั้ เรยี น และแก้ปัญหาในชนั้ เรยี น 6 มกี ารเสรมิ แรงตามความเหมาะสม 7 ผเู้ รยี นมคี วามกระตอื รอื รน้ และสนุกสนานในการเรยี น 8 การใชส้ อ่ื ประกอบการเรยี นการสอน 9 การใชส้ อ่ื ICT มาถา่ ยทอดเน้อื หา สาระ และออกแบบการเรยี นรู้ 10 มกี ารวดั ผลก่อนเรยี น และหลงั เรยี นในแต่ละบทเรยี น 11 การวดั และประเมนิ ผลด้วยวธิ กี ารทห่ี ลากหลายและสอดคลอ้ งกบั หลกั สตู ร และประเมนิ ความรคู้ วามสามารถของผเู้ รยี น 12 มกี ารกากบั ตดิ ตาม นกั เรยี นทม่ี ปี ัญหาหรอื ไม่เขา้ ใจในบทเรยี น ของรายวชิ าทส่ี อน ดาเนินการชว่ ยเหลอื / แก้ไข 13 จดั บรรยากาศการเรยี นทด่ี งึ ดดู ความสนใจก่อใหเ้ กดิ ความสขุ แกผ่ เู้ รยี น 14 การบนั ทกึ หลงั สอน และการนาผลการบนั ทกึ หลงั สอนมาแก้ไข / พฒั นา ขอ้ คดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................

10 บนั ทกึ ผลหลงั กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ผรู้ บั ผดิ ชอบชนั้ เรยี น (ชอ่ื -นามสกุล) …………………………………………………………………………………………… กลมุ่ สาระการเรยี นร/ู้ วชิ า ....................................................................................................................... เร่อื งทส่ี อน..................................................................................... ระดบั ชนั้ /หอ้ งทส่ี อน .........../............ วนั ท.่ี ...........เดอื น...............................พ.ศ. ................... คาบท.่ี ...............เวลา......................................... 1) ผลการเรยี นรู้ 1.1) ผเู้ รยี นทผ่ี ่านตวั ชว้ี ดั มจี านวน ............ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............... 1.2) ผเู้ รยี นทไ่ี ม่ผา่ นตวั ชว้ี ดั มจี านวน ............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............... 1 .............................................. สาเหตุ ............................................................................ 2 .............................................. สาเหตุ ............................................................................ แนวทางแกป้ ัญหา ................................................................................................................ 1.3) นักเรยี นทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษไดแ้ ก่ ................................................................................... แนวทางการพฒั นา / สง่ เสรมิ .............................................................................................. ............................................................................................................................................... 1.4) ผเู้ รยี นไดร้ บั ความรู้ (K) ........................................................................................................ ............................................................................................................................................. 1.5) ผเู้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ (P) ...................................................................................... ............................................................................................................................................. 1.6) ผเู้ รยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม (A) ........................................................................... ............................................................................................................................................. 2) ปัญหา อปุ สรรค (ถา้ ม)ี ...................................................................................................................... 3) ขอ้ เสนอแนะ (ถา้ ม)ี ........................................................................................................................... ลงช่อื .................................................... ผสู้ อน (....................................................) ตาแหน่ง.................................................

11 บนั ทึกการนิเทศครผู ้สู อนรายบคุ คล ชอ่ื ผรู้ บั การนเิ ทศ………………………..……………....................……ช่อื ผู้ นิเทศ………….……………………....................………………………… วชิ า..........................................................รหสั วชิ า................. ชนั้ ….…....…กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ................................................. ท่ี รายการนิ เทศ การปฏิบตั ิ ผลการปฏิบตั ิ หมาย มี ไมม่ ี ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ เหตุ 1 แผนการจดั การเรียนรู้ 1.1 มแี ผนการจดั การเรยี นรทู้ ใ่ี ชป้ ระกอบการเรยี นการสอน 1.2 การกาหนดจุดประสงคก์ ารเรยี นรตู้ ามตวั ชว้ี ดั ตาม หลกั สตู ร / ผลการ เรยี นรู้ 1.3 กาหนดความรทู้ ค่ี งทน/ผลของการจดั การเรยี นการสอน 1.4 การดาเนินกจิ กรรมการเรยี นการสอนทส่ี อดคลอ้ งกบั หลกั สตู ร และ ธรรมชาตขิ องวชิ า 1.5 การกาหนดส่อื ประกอบการสอนและแหลง่ เรยี นรู้ 1.6 กาหนดวธิ กี ารวดั ประเมนิ ผล 2 ลาดบั ขนั้ ตอนการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ( นาเขา้ สบู่ ทเรยี น ขนั้ สอน ขนั้ สรุปผล ) 3 การจดั การเรยี นการสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั /นักเรยี นมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นการสอน 4 กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นมกี ารแบ่งกลุม่ /สง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตย 5 ความสามารถในการจดั การชนั้ เรยี น และแกป้ ัญหาในชนั้ เรยี น 6 มกี ารเสรมิ แรงตามความเหมาะสม 7 ผเู้ รยี นมคี วามกระตอื รอื รน้ และสนุกสนานในการเรยี น 8 การใชส้ อ่ื ประกอบการเรยี นการสอน 9 การใชส้ อ่ื ICT มาถ่ายทอดเน้อื หา สาระ และออกแบบการเรยี นรู้ 10 มกี ารวดั ผลก่อนเรยี น และหลงั เรยี นในแตล่ ะบทเรยี น 11 การวดั และประเมนิ ผลดว้ ยวธิ กี ารทห่ี ลากหลายและสอดคลอ้ งกบั หลกั สตู ร และประเมนิ ความรคู้ วามสามารถของผเู้ รยี น 12 มกี ารกากบั ตดิ ตาม นกั เรยี นทม่ี ปี ัญหาหรอื ไมเ่ ขา้ ใจในบทเรยี น ของรายวชิ าท่ี สอน ดาเนินการชว่ ยเหลอื / แกไ้ ข 13 จดั บรรยากาศการเรยี นทด่ี งึ ดูดความสนใจกอ่ ใหเ้ กดิ ความสขุ แกผ่ เู้ รยี น 14 การบนั ทกึ หลงั สอน และการนาผลการบนั ทกึ หลงั สอนมาแกไ้ ข / พฒั นา ขอ้ เสนอแนะของผนู้ ิเทศ 1. พฤตกิ รรมครู ................................................................................................................................................................................ 2. การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ................................................................................................................................................................................ 3. พฤตกิ รรมนักเรยี น ................................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื ..................................... ผนู้ ิเทศ ลงช่อื .........................................ผรู้ บั การนเิ ทศ ............/............../............. ............/............../...........

12 ๒.๖ ผลสาเรจ็ ที่ได้ และการนาผลไปใช้ ๒.๖.๑ จากการทค่ี รผู สู้ อนไดพ้ ฒั นาการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ทาใหน้ กั เรยี น มคี ณุ ลกั ษณะ ใฝ่รู้ ใฝ่เรยี น สามารถแกป้ ัญหา และแสวงหาความรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง มที กั ษะกระบวนการคดิ มกี ระบวนการในการ ทางาน มคี วามสามารถในการเป็นผนู้ าและผตู้ าม ในการทางาน มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามทโ่ี รงเรยี น กาหนด ความสาเรจ็ ในการใชน้ วตั กรรม เกดิ จากความร่วมมอื ของทกุ ฝ่าย คอื ผู้บรหิ าร ครู นกั เรยี น ผปู้ กครอง และชุมชนทาใหโ้ รงเรยี นผา่ นการประเมนิ และไดร้ บั การรบั รองจาก สมศ.รอบสาม ๒.๖.๒ ผลการดาเนนิ งานโครงการตลาดนดั อาชพี ไดจ้ ดั สอนจากความถนดั ของตนเอง และความสนใจ ของผเู้ รยี น โดยนกั เรยี นทเ่ี รยี นรายวชิ าน้ีทกุ คนจะตอ้ งปฏบิ ตั กิ จิ กรรม โดยใชก้ ระบวนการกลุม่ ฝึกประสบการณ์ วชิ าชพี เกดิ ผลดตี ่อหลายฝ่าย ไดแ้ ก่ - ผปู้ ระกอบการ/สถานศกึ ษา MOU ซง่ึ เป็นวทิ ยากรทอ้ งถน่ิ เป็นผถู้ า่ ยทอดความรใู้ หแ้ ก่นกั เรยี น โดยตรง - ผปู้ กครองเหน็ ชอบ สนบั สนุน และคอยตดิ ตาม มสี ว่ นเกย่ี วขอ้ งในการเรยี นรขู้ องเดก็ - ครคู อยตดิ ตามนกั เรยี น โดยวธิ กี ารโทรศพั ทต์ ดิ ต่อสอบถามผปู้ ระกอบการโดยตรง หรอื ไปเยย่ี มบา้ น - นกั เรยี นไดแ้ สวงหาความรใู้ นงานอาชพี อสิ ระทต่ี นเองสนใจ โดยศกึ ษาจากประสบการณ์ตรง - นกั เรยี นไดฝ้ ึกกระบวนการทางาน ฝึกความรบั ผดิ ชอบ มวี นิ ยั และฝึกการทางานร่วมกบั ผอู้ น่ื สอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน ในเร่อื งนกั เรยี นมที กั ษะในการทางานฯ มเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ อาชพี สจุ รติ นกั เรยี นทกุ คน มี ศกั ยภาพทส่ี ามารถพฒั นาได้ ถา้ สถานศกึ ษาออกแบบการจดั กจิ กรรมทเ่ี ออ้ื ใหน้ กั เรยี นแสดงศกั ยภาพของตนเอง ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่าง ๆ อยา่ งเตม็ ท่ี ยอ่ มทาใหน้ กั เรยี นไดม้ โี อกาสพฒั นาตนเองเต็มตามศกั ยภาพทม่ี ี อยู่ ดงั นนั้ โรงเรยี นควรเปิดโอกาสและสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นไดแ้ สดงออกซง่ึ ความสามารถดา้ นต่าง ๆ ๒.๖.๓ การทน่ี กั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ นอกเหนอื จากกจิ กรรมการเรยี นการสอน เป็นการสรา้ งทกั ษะใน การดาเนินชวี ติ ของนกั เรยี นในดา้ นการเป็นผนู้ าผตู้ ามทด่ี ี และมคี วามเป็นประชาธปิ ไตย การมปี ฏสิ มั พนั ธแ์ ละ การรว่ มทากจิ กรรมระหว่างเพอ่ื น พ-่ี น้อง ทาใหเ้ กดิ การยอมรบั ในความสามารถ มกี ารเออ้ื เฟ้ือต่อกนั มคี วาม รบั ผดิ ชอบ ความสามคั คี ซง่ึ สามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ ช่อื ผลงาน การพฒั นาศกั ยภาพกจิ กรรมสภานกั เรยี น ช่อื เจา้ ของผลงาน กลมุ่ บรหิ ารงานกจิ การนกั เรยี น โรงเรยี นเก้าเลย้ี ววทิ ยา ความสาคญั และความเป็นมา ในการจดั การศกึ ษา ผปู้ กครอง ครู และชุมชน ย่อมมงุ่ หวงั ใหน้ กั เรยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มกี ระบวนการ ในการทางาน มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ มวี จิ ารณญาณ คดิ ไตรต่ รอง และคดิ สรา้ งสรรค์ มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มจี ติ สานกึ ทด่ี ตี อ่ ชมุ ชนและสงั คม อนุรกั ษ์ พฒั นาสง่ิ แวดลอ้ ม เหน็ คุณค่าในศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ รวมทงั้ มคี วามรคู้ วามสามารถทจ่ี ะศกึ ษาตอ่ ในระดบั อดุ มศกึ ษาได้ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น เป็นกจิ กรรมทจ่ี ะชว่ ยพฒั นาคุณลกั ษณะดา้ นต่าง ๆ ของนกั เรยี นไดเ้ ป็นอยา่ งดี ตามหลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ไดแ้ บง่ กจิ กรรมออกเป็น 2 ลกั ษณะ คอื

13 กจิ กรรมแนะแนว และกจิ กรรมนกั เรยี น ซง่ึ เป็นกจิ กรรมทจ่ี ดั อย่างเป็นทางการดว้ ยรูปแบบวธิ กี ารทห่ี ลากหลาย ทาใหน้ กั เรยี นตระหนกั ในสทิ ธแิ ละหน้าทร่ี บั ผดิ ชอบของตนเอง(Pupil rights and responsibilities) องคป์ ระกอบโรงเรยี นทด่ี :ี นางทพิ ากร ธงศรี 22 มถิ ุนายน 2012 ในการพฒั นาผเู้ รยี นทงั้ ดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ สตปิ ัญญา อารมณ์ และสงั คม มุ่งเสรมิ สรา้ งเจตคติ คณุ ค่าชวี ติ ปลูกฝังคุณธรรมจรยิ ธรรมและค่านิยมทพ่ี งึ ประสงค์ สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั และเขา้ ใจตวั เอง สรา้ ง จติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มปรบั ตวั และปฏบิ ตั ิตนใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อสงั คม ประเทศชาติ และดารงชวี ติ ไดอ้ ย่างมคี วามสุข วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื พฒั นาระบบงานกจิ กรรมสภานกั เรยี นและตระหนกั ในสทิ ธแิ ละหน้าทร่ี บั ผดิ ชอบของตนเอง 2. เพอ่ื พฒั นานกั เรยี นใหม้ คี วามกลา้ แสดงออกและมภี าวะความเป็นผนู้ า ภาพโมเดล responsibilities : เครดติ ภาพ:การบรหิ ารโดยใชโ้ รงเรยี นเป็นฐาน เศรษฐพงษ์ ศรสี วุ รรณ คาสาคญั Responsibilities - ความรบั ผดิ ชอบ หลกั การและแนวคดิ กระบวนการผลติ งานหรอื ขนั้ ตอนการดาเนินงาน (วธิ ปี ฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นเลศิ ) เป็นนวตั กรรมทพ่ี ฒั นาความเป็นผนู้ าของนกั เรยี น สง่ เสรมิ ความเป็น ประชาธปิ ไตย ฝึกทกั ษะ กระบวนการทางาน การทางานร่วมกบั ผอู้ น่ื และสง่ เสรมิ การคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และคิดสรา้ งสรรค์ ของ

14 นกั เรยี น โดยใชก้ ระบวนการ P-D-C-A ในการจดั อบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร เพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพความเป็นผนู้ าของ คณะกรรมการนกั เรยี นซง่ึ มขี นั้ ตอนของการดาเนนิ งาน ดงั ต่อไปน้ี 1) การวางแผนและเตรยี มการ(Plan) ครกู ลมุ่ งานกจิ กรรมนกั เรยี นประชมุ วางแผนจดั อบรมใหแ้ กค่ ณะกรรมการนกั เรยี นและอนุกรรมการ นกั เรยี นรวม 24 คน ซง่ึ ไดแ้ ก่ หวั หน้าหอ้ งทกุ หอ้ ง ม.ตน้ จานวน 12 คน หวั หน้าหอ้ งและรอง หวั หน้า ม.ปลาย จานวน 12 คน เน้อื หาสาระของการอบรม ไดแ้ ก่ ความเป็นผนู้ าเทคนิคการทางานเป็นกลมุ่ หลกั ธรรมาภบิ าล และ การเขยี นโครงการ ทงั้ น้มี วี ทิ ยากรทเ่ี ป็นบคุ คลจากหน่วยงานภายนอก บุคลากรภายในโรงเรยี น คณะกรรมการ นกั เรยี นชดุ เดมิ รวมทงั้ อดตี คณะกรรมการนกั เรยี นทก่ี าลงั ศกึ ษาต่อ ตงั้ แต่ ปีท่ี 1- 4 จะถ่ายทอด ความรู้ ประสบการณ์ ความเขม้ แขง็ อดทน เสยี สละ แกค่ ณะกรรมการนกั เรยี น กจิ กรรม “ รุ่นพพ่ี บน้อง ”หลงั จากผ่านการอบรม โรงเรยี นจะแต่งตงั้ คณะกรรมการนกั เรยี น มพี ธิ มี อบเขม็ คณะกรรมการนกั เรยี นแก่คณะกรรมการนกั เรยี นชุดใหม่ และมอบเกยี รตบิ ตั รแก่คณะกรรมการชดุ เดมิ เมอ่ื ถงึ ปีการศกึ ษาใหม่ คณะกรรมการชดุ เดมิ หมด วาระ คณะกรรมการชุดใหมจ่ ะเรมิ่ ปฏบิ ตั หิ น้าทค่ี ณะกรรมการนกั เรยี น และอนุกรรมการนกั เรยี น ดาเนินงานตาม ภาระหน้าท่ี 2) ภาระงานทค่ี ณะกรรมการนักเรยี นและอนุกรรมการนกั เรยี นปฏบิ ตั ิ (Do) ออกเป็น 3 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ 2.1 ภาระงานประจาวนั คณะกรรมการนกั เรยี นและอนุกรรมการนกั เรยี นปฏบิ ตั หิ น้าท่ี ดงั น้ี - ดแู ลการมาโรงเรยี น การแตง่ กาย และการปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บวนิ ัยของนกั เรยี นชนั้ ม.1-ม.6 ทกุ เชา้ โดยกรรมการนกั เรยี นทม่ี หี น้าทป่ี ฏบิ ตั หิ น้าทใ่ี นเวลา 6.45 – 8.20 น. และทุกเยน็ เวลา 16.00-17.00 น. ณ บรเิ วณประตูโรงเรยี น ช่วยจุดคดั กรอง ป้องกนั โรคโควดิ -19 บนั ทกึ ขอ้ มลู นกั เรยี นทป่ี ระพฤตผิ ดิ ระเบยี บ เช่น แตง่ กายผดิ ระเบยี บ ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามกฎจราจร ไม่ร่วมกจิ กรรมโรงเรยี นสวยดว้ ยมอื เรา มาสาย - ดาเนนิ การ กจิ กรรมราลกึ บรรพชน การเขา้ แถวเคารพธงชาติ กรรมการนกั เรยี นทร่ี บั ผดิ ชอบ จดั ระเบยี บแถว ชกั ธงชาติ และนาสวดมนต์ ฯ - ตรวจความสะอาด เรยี บรอ้ ยของหอ้ งเรยี น อาคารเรยี น กรรมการทร่ี บั ผดิ ชอบ แต่ละอาคารตรวจ ความสะอาดหอ้ งเรยี น การปิดไฟฟ้า พดั ลม และนกั เรยี นทไ่ี มล่ งมาเขา้ แถว บนั ทกึ ขอ้ มลู สง่ กลมุ่ กจิ การนกั เรยี น 2.2 ภาระงานในการดาเนนิ กจิ กรรมต่าง ๆ โรงเรยี นใหโ้ อกาสและสง่ เสรมิ คณะกรรมการนกั เรยี น ในการเป็นผวู้ างแผนและดาเนนิ กจิ กรรมเอง Check (C) ไดแ้ ก่ 2.2.1 กจิ กรรม การปฐมนิเทศ นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 และ 4 รวมทงั้ นกั เรยี นทเ่ี ขา้ ใหมร่ ะหว่างชนั้ เขา้ ค่ายปฐมนิเทศ กจิ กรรมสรา้ งความคุน้ เคย กจิ กรรมเพอ่ื สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั โรงเรยี นและการเรยี น รวมทงั้ กจิ กรรมสนั ทนาการ 2.2.2 กจิ กรรมวนั ไหวค้ รู คณะกรรมการนกั เรยี นทาหนงั สอื เชญิ ผอู้ านวยการโรงเรยี น และ คณะครรู ว่ มประกอบพธิ ไี หวค้ รู จดั สถานทแ่ี ละประสานงานอนุกรรมการแต่ละหอ้ งในการทาพานไหวค้ รู ใน

15 วนั ไหวค้ รู ไดด้ าเนินงานดา้ นพธิ กี าร เป็นพธิ กี ร ดแู ลความเรยี บรอ้ ยของพธิ กี าร และรว่ มเป็นกรรมการตดั สนิ พาน ไหวค้ รกู บั คณะครทู เ่ี ป็นกรรมการ 2.2.3 กจิ กรรมวนั สาคญั ของสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ คณะกรรมการนกั เรยี น และนกั เรยี นคณะสตี า่ ง ๆ จะร่วมพธิ วี นั สาคญั ของชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ คณะกรรมการนกั เรยี นจะเป็นผู้ ประสานงานกบั นกั เรยี นทเ่ี ป็นประธานคณะสที กุ สี ผรู้ บั ผดิ ชอบแตล่ ะคณะสี จะดาเนนิ การ โดยนกั เรยี นเป็นผู้ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมทกุ ขนั้ ตอน ดงั น้ี - ตดิ ตอ่ ประสานงานศกึ ษาขนั้ ตอน พธิ กี ารวนั สาคญั ของชาติ ศาสนาพระมหากษัตรยิ ์ - ออกแบบ ตกแต่ง จดั เตรยี ม วสั ดุอุปกรณ์ - ดแู ล ควบคุม การจดั ขบวน และการดาเนินกจิ กรรมใหเ้ ป็นไปตามแผนทว่ี างไว้ 2.2.4 กจิ กรรมการแขง่ ขนั กฬี าสี คณะกรรมการนกั เรยี น ปฏบิ ตั หิ น้าทก่ี รรมการจดั การ แขง่ ขนั ในสว่ นของนกั เรยี น ทาหน้าทป่ี ระสานงานคณะสตี ่าง ๆ เช่นเดยี วกบั กจิ กรรมวสั าคญั ดงั น้ี - เป็นผชู้ ว่ ยครปู ฏบิ ตั หิ น้าทต่ี ่าง ๆ เช่น ดาเนินการพธิ เี ปิด พธิ ปี ิดการ แขง่ ขนั ประชาสมั พนั ธร์ ะหว่างการแขง่ ขนั ควบคมุ การแขง่ ขนั และเป็นผชู้ ่วยในการตดั สนิ กฬี า กรฑี า ประเภท ตา่ ง ๆ - คณะกรรมการนกั เรยี นและอนุกรรมการ ประสานงานกบั ประธานคณะสี ใน การ ดาเนินงานทกุ อย่างภายในคณะสขี องตนเอง ตงั้ แต่การวางแผนการแขง่ ขนั การแสดง ขบวนพาเหรด การ ฝึกซอ้ ม ดาเนินการ และประเมนิ ผลการดาเนินการ 2.2.5 การอบรมเพอ่ื พฒั นานกั เรยี น เพอ่ื ปรบั ปรงุ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ กจิ กรรมทไ่ี ดก้ าร ประสานร่วมกบั ชมุ ชน จติ อาสา คณะกรรมการนกั เรยี นเป็นผชู้ ว่ ยครู ดแู ลความเรยี บรอ้ ยของพธิ กี าร และ ควบคมุ นกั เรยี นทร่ี ่วมกจิ กรรม 3) ประเมนิ ผลการทางาน Action (A) 3.1 ภาระงานประจาวนั ประเมนิ ผลโดยการสงั เกต ครหู วั หน้ากจิ กรรมนกั เรยี นและครเู วร สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั งิ านของคณะกรรมการนกั เรยี น และประชุมสรปุ ผลการประเมนิ ทกุ วนั องั คาร 3.2 ภาระงานในการดาเนินกจิ กรรมต่าง ๆ ไดแ้ ก่ การปฐมนิเทศ พธิ ไี หวค้ รู กจิ กรรมวนั สาคญั สถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ การแขง่ ขนั กฬี าสี การอบรมเพอ่ื พฒั นานกั เรยี น ประเมนิ ผล โดยใชแ้ บบสอบถามความคดิ เหน็ ของผเู้ กย่ี วขอ้ ง เชน่ นกั เรยี น ผปู้ กครอง หรอื ครู ทป่ี ฏบิ ตั กิ จิ กรรม นนั้ ๆ สว่ นกจิ กรรมสรา้ งสรรคส์ งั คมประเมนิ ผลจากสภาพจรงิ ทเี กดิ ขน้ึ 3.3 หวั หน้ากจิ กรรมนกั เรยี น คณะกรรมการระบบกจิ กรรม และคณะกรรมการนกั เรยี น คณะกรรมการสี ประชุมสรุปผลการดาเนินงาน เมอ่ื สน้ิ ภาคเรยี น/สน้ิ ปีการศกึ ษา เพอ่ื นาผลการประเมนิ ไป ปรบั ปรงุ แกไ้ ข การดาเนนิ กจิ กรรมในภาคเรยี น / ปีการศกึ ษาต่อไป ผลการดาเนินงาน ผลสมั ฤทธแิ์ ละประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั 1. นกั เรยี นไดร้ บั การพฒั นาดา้ นกจิ กรรมตามศกั ยภาพของตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. พฒั นานกั เรยี นใหร้ จู้ กั การเคารพตนเอง(Self-esteem) 3. สรา้ งนกั เรยี นใหเ้ ป็นผรู้ หู้ น้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบ

16 4. นกั เรยี นสามารถควบคมุ ตนเองและการทางานอสิ ระดว้ ยตนเอง 5. นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ นอกเหนือจากกจิ กรรมการเรยี นการสอน เป็นการสรา้ งทกั ษะใน การดาเนินชวี ติ ของนกั เรยี นในดา้ นการเป็นผนู้ าผตู้ ามทด่ี ี และมคี วามเป็นประชาธปิ ไตย ปัจจยั ความสาเรจ็ การบรหิ ารโมเดล responsibilities มคี วามสาเรจ็ เพราะครู บคุ ลากร นกั เรยี น โดยมปี ัจจยั ความสาเรจ็ ดงั น้ี 1. การเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นไดแ้ สดงความสามารถ ในการดาเนินงานกจิ กรรมนกั เรยี นทุกกจิ กรรม โรงเรยี นเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นไดแ้ สดงความสามารถตามศกั ยภาพ แสดงความเป็นผนู้ าในทกุ โอกาสตาม ความ ถนดั ความสนใจของนกั เรยี น โดยใหน้ กั เรยี นเป็นผวู้ างแผนการดาเนินงาน เป็นผดู้ าเนนิ การจดั กจิ กรรม โดยเน้น การทางานเป็นทมี ยดึ หลกั ประชาธปิ ไตยในการทางาน ฝึกใหน้ กั เรยี นรจู้ กั ทางานอย่างเป็นระบบ และเกดิ ประสทิ ธภิ าพตามเป้าหมาย ทาใหน้ กั เรยี นมกี ารพฒั นาดา้ นความรู้ ความสามารถ และมปี ระสบการณ์ ในการ ทางาน สง่ ผลใหน้ กั เรยี นมคี วามเช่อื มนั่ มคี วามภาคภูมใิ จในตนเอง มคี วามเสยี สละเหน็ แกป่ ระโยชน์สว่ นรวม มี จติ อาสา สามารถทางานเป็นทมี และมคี วามเป็นประชาธปิ ไตย 2. การสนบั สนุนจากครแู ละผบู้ รหิ าร ครใู หค้ าปรกึ ษา ดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นอยา่ งเขา้ ใจ ผบู้ รหิ าร สนบั สนุนและมสี ว่ นรว่ มในทุกกจิ กรรมทน่ี กั เรยี นดาเนินการ 3. การสนบั สนุนและการมสี ว่ นรว่ มของผปู้ กครอง ผปู้ กครองมสี ว่ นร่วม และสง่ เสรมิ นกั เรยี นในการทา กจิ กรรมตา่ ง ๆ เป็นอย่างดี เป็นผสู้ นบั สนุนทงั้ ดา้ นคา่ ใชจ้ ่าย วสั ดอุ ปุ กรณ์ในการทากจิ กรรม และเป็นวทิ ยากรให้ ความรู้ ตอนท่ี ๓ ขอ้ มลู อ่ืน ๆ เพ่ิมเติม ผลงานการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ พฒั นาศกั ยภาพ แผนการจดั การเรยี นรพู้ ฒั นาสมรรถนะและแบบบูรณาการเป็นนวตั กรรมทโ่ี รงเรยี นเกา้ เลย้ี ววทิ ยาไดจ้ ดั กจิ กรรมการเรยี นรบู้ ูรณาการมาตงั้ แต่ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ ในรปู แบบกจิ กรรมบรู ณาการแบบสอดแทรก แบบทวิ ภาคี ในปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ โรงเรยี นจงึ ไดป้ ระยกุ ตแ์ นวคดิ และวธิ กี าร จดั กจิ กรรมการเรยี นรพู้ ฒั นาศกั ยภาพ MOU กบั หน่วยงานชุมชน หลกั สตู รแบบทวศิ กึ ษา กบั วทิ ยาลยั อาชพี บรรพตพสิ ยั ร่วมโครงการพฒั นาศนู ย์ ยกระดบั คุณภาพชุมชน และการศกึ ษา กบั มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั นครสวรรค์ ในรปู แบบคา่ ยวชิ าการ Kaoliao Academic Camp(KAC) เป็นตน้

17 หลกั สตู รแบบทวิศึกษา กบั วิทยาลยั อาชีพบรรพตพิสยั งานช่างยนต์

18 รว่ มโครงการพฒั นาศนู ยย์ กระดบั คณุ ภาพชุมชน และการศกึ ษา กบั มหาวิทยาลยั ราชภฎั นครสวรรค์ ในรปู แบบค่ายวิชาการ Kaoliao Academic Camp(KAC) โรงเรียนเก้าเลี้ยววิทยาได้ดาเนินการสรา้ งความร่วมมอื ระหว่างมหาวิทยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์ กบั โรงเรยี นมธั ยมศึกษาในเขตพ้ืนท่ีบริการ

19 โรงเรียนเก้าเลี้ยววิทยาได้ดาเนินการสรา้ งความร่วมมือระหวา่ งมหาวิทยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์ กบั โรงเรยี นมธั ยมศึกษาในเขตพื้นที่บริการเพ่ือเพม่ิ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นและผลการ ทดสอบ การศึกษาระดบั พ้นื ฐาน (O-NET) ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 และ 6

20 ผลงาน โครงการ/กจิ กรรมตลาดนดั อาชพี กจิ กรรมตลาดนดั อาชพี เป็นการเพม่ิ ทกั ษะชวี ติ นามาใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ในการประกอบอาชพี อสิ ระ จดั ประสบการณ์ตรงจากการออกแบบ วางแผนตน้ ทุน ผลผลติ ในการขายจาหน่ายสนิ คา้ เดอื นละ ๑ ครงั้ โดย บรู ณาการเขา้ กบั กจิ กรรมบูรณาการสรา้ งสรรค์ สรา้ งอาชพี สรา้ งรายไดเ้ พอ่ื พฒั นาคุณภาพชวี ติ

21

22 กจิ กรรมตลาดนดั อาชพี เป็นการเพม่ิ ทกั ษะชวี ติ นามาใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ในการประกอบอาชพี อสิ ระ ผลงานการนิเทศการสอนแบบกลั ยาณมติ ร การนเิ ทศภายในของโรงเรยี นเกา้ เลย้ี ววทิ ยา จะมรี ะบบการนิเทศเป็น ขนั้ ตอน และนเิ ทศในหลายลกั ษณะ ไดแ้ ก่ ๓.๑ นเิ ทศโดยการประชมุ - แตล่ ะเดอื นจะมกี ารประชุมครปู ระจาเดอื น เดอื นละ ๑ ครงั้ เพอ่ื ใหก้ ารนิเทศ จากฝ่ายบรหิ าร - จะมกี ารประชุมหวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ เพอ่ื รบั การนิเทศจากฝ่ายวชิ าการ เป็นการนเิ ทศ แบบกลั ยาณมติ ร มกี ารรว่ มคดิ ร่วมแกป้ ัญหา โดยการอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งหลากหลาย - ฝ่าย บรหิ ารโดยผอู้ านวยการ และหวั หน้ากลุ่มบรหิ ารวชิ าการ เขา้ รว่ มประชุมกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้ แตล่ ะกลุ่มสาระ ทงั้ ๘ กลมุ่ สาระ

23 การประชมุ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ และการประชมุ ครปู ระจาเดอื น