Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การนิเทศภายในสถานศึกษา

การนิเทศภายในสถานศึกษา

Description: โรงเรียนจันเสนเอ็งสุวรรณอนุสรณ์

Search

Read the Text Version

ก คำนำ การนิเทศ มีความสาคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาย่างยิ่ง เพราะการนิเทศการศึกษาเป็นการรวมความคิด ทางปัญญาของผู้ใหก้ ารนิเทศ ผู้รับการนิเทศ และผู้สนับสนุนการนิเทศเข้าด้วยกัน เพื่อผลสุดท้ายท่ีแท้จรงิ คือ การพัฒนา คุณภาพผู้เรียน และคุณภาพการศึกษาให้บรรลุจุดหมายของหลักสูตร และผู้เรียนมีคุณภาพตามท่ีมุ่งหวังไว้ทุกประการ การนิเทศการศึกษามุ่งหวังให้การดาเนินงานประสบผลสาเร็จลุล่วงด้วยดีและมปี ระสิทธิภาพให้สนองต่อกับสภาพปัจจุบัน ท่ีโรงเรียนมีความเหล่ือมล้าและแตกต่างหลากหลายท้ังมาตรฐานและคุณภาพ โดยมุ่งหวังให้เกิดการนิเทศด้วยวิธีการที่ หลากหลาย เข้าถึงสถานศึกษาทุกแห่งเข้าถึงครูทุกพ้ืนที่อย่างเท่าเทียมกัน เพ่ือการพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดคุณภาพ การศกึ ษาท่มี คี วามเท่าเทยี มกัน รายงานผลการนิเทศภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2563 ฉบับนี้ จัดทาข้ึนเพ่ือสรุปผลการดาเนินการ นิเทศการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาในสังกัด และนาผลการนิเทศ ปัญหาในการ นิเทศ ความต้องการรับการนิเทศและข้อเสนอแนะของครู ผู้บริหารสถานศึกษารวมทั้งศึกษานิเทศก์ มาใช้เป็นข้อมูลใน การวางแผนการนิเทศการศกึ ษาในปีตอ่ ไป ขอขอบพระคุณทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้องท่ีให้ความร่วมมือ และสนับสนุนการนิเทศภายในของสถานศึกษา โรงเรียน จันเสนเอ็งสุวรรณอนุสรณ์ เป็นอย่างดี ขอขอบคุณคณะทางานท่ีร่วมจัดทารายงานรูปแบบการนิเทศภายในของ สถานศึกษา ปีการศึกษา 2563 จนเสร็จสมบูรณ์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารรายงานผลการนิเทศน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อ การพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา

สำรบัญ ข ก หน้า ข 1 คานา สารบัญ 4 ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทัว่ ไปของสถานศึกษา 15 ข้อมลู ท่วั ไป ยุทธศาสตร์การดาเนินงาน วิสยั ทศั น์ (VISION) พันธกจิ (MISSION) ศักยภาพของโรงเรยี น ขอ้ จากัดของโรงเรียน ตอนท่ี ตอนท่ี 2 ผลการดาเนนิ งานดา้ นการนเิ ทศภายในของสถานศกึ ษา รปู แบบหรือกระบวนการนเิ ทศภายในของสถานศึกษา วิธีการดาเนินการ กจิ กรรมการนิเทศ ระยะเวลาและปฏทิ นิ การนิเทศ การกากบั ติดตาม ประเมินและรายงานผล ผลการนิเทศ ผลสาเร็จที่ได้ และการนาผลไปใช้ การจัดการศกึ ษาเพ่ือการมีงานทา ระบบประกันคุณภาพการศกึ ษา ตอนที่ 3 ขอ้ มูลอ่ืน ๆ เพิม่ เติม โมเดลการพัฒนา รูปภาพการดาเนินงานในการนเิ ทศ(การสงั เกตการณส์ อน) รูปภาพการดาเนนิ งานการนเิ ทศงาน/กลุ่มงาน/ฝ่าย คาส่งั การนิเทศภายในสถานศึกษา

1 รปู แบบการนเิ ทศภายในของสถานศึกษาทป่ี ระสบความสาเร็จ เป็นแบบอยา่ งได้ โรงเรียนจนั เสนเอ็งสุวรรณอนุสรณ์ สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์ ****************** ตอนที่ ๑ ขอ้ มูลท่วั ไปของสถานศกึ ษา ๑.๑ โรงเรียนจนั เสนเอง็ สวุ รรณอนุสรณ์ ช่ือผู้อานวยการโรงเรียนนางประภาพร ม่ันพรม ตาแหนง่ ผอู้ านวยการชานาญการพเิ ศษ E-Mail [email protected] เบอรโ์ ทร0985322556 1.๒ ข้อมลู ทว่ั ไป โรงเรียนจันเสนเอ็งสุวรรณอนุสรณ์ ตั้งอยู่เลขที่ 135 หมู่ที่ 7 บ้านสะแกโง๊ะ ตาบลจันเสน อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ได้รับอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการให้เปิดเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นแบบสหศึกษา เปิดสอน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นสายสามัญเมื่อ วันท่ี 27 เมษายน 2519 มีนายบญุ ลือ นาคอิ่ม เป็นครใู หญ่คนแรก และได้รับ อนุมัติจากกรมสามัญศึกษาให้ชื่อโรงเรยี นว่า \"โรงเรียนจันเสนเอ็งสุวรรณอนุสรณ์\" เม่ือวันที่ 14 พฤษภาคม 2519 เพ่ือ เป็นเกียรติแก่นายเล็ก เอ็งสุวรรณ ซ่ึงได้บริจาคท่ีดิน จานวน 35 ไร่ 1 งาน 39 ตารางวา เป็นที่ก่อสร้างโรงเรียน และ ต่อมานายวิชัย เอ็งสุวรรณ (ตัวแทนตระกูล เอ็งสุวรรณ) ได้บริจาคที่ดินเพ่ิมเติมอีก 6 ไร่ 1 งาน 26 ตารางวาเม่ือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2542 รวมกับที่ดินที่มีอยู่เดิมเป็นเนื้อท่ที ้ังสิ้น 41 ไร่ 2 งาน 65 ตารางวา ปัจจุบันโรงเรียนจันเสนเอ็ง สวุ รรณอนุสรณเ์ ปิดทาการเรียนการสอนทงั้ ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย โรงเรียนจันเสน เอง็ สุวรรณอนสุ รณไ์ ด้แบ่งการบริหารงาน เป็น 4 ฝ่าย ดังน้ี 1) ฝ่ายบรหิ ารงานวชิ าการ 2) ฝา่ ยบริหารงานบุคคล 3) ฝา่ ยบรหิ ารงานงบประมาณและสินทรัพย์ 4) ฝา่ ยบริหารงานทว่ั ไป ยุทธศำสตร์กำรดำเนินงำน จากการสารวจสภาพปัจจุบันของโรงเรียนจันเสนเอ็งสุวรรณอนุสรณ์ ด้านสภาพแวดล้อมทั้งภายในและ ภายนอก ทาให้เกิดแนวทางในการบริหารงานของโรงเรยี น ทย่ี ดึ หลักการบริหาร/เทคนิคการบริหารแบบ การมีสว่ นรว่ ม ในการจัดการศึกษาของทุกฝ่ายท่ีมีส่วนเก่ียวข้อง โดยกาหนดปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธ์กิจ และเป้าหมายการพัฒนาไว้ ดงั นี้ วิสยั ทศั น์ (VISION) พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการศึกษาบนพนื้ ฐานคุณธรรม นอ้ มนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งสกู่ ารปฏบิ ัติ อนรุ ักษ์ความเป็นไทย และมีทักษะอาชีพสอดคล้องกบั การเปลีย่ นแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 พนั ธกิจ (MISSION) 1. พัฒนาผู้เรียนให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร สถานศกึ ษามาตรฐานสากล 2. ส่งเสริมการเรียนรตู้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและอนุรกั ษค์ วามเปน็ ไทย

2 3. ส่งเสรมิ ผู้เรยี นให้มที ักษะอาชีพท่ีสอดคลอ้ งกับการเปลย่ี นแปลงของโลกศตวรรษท่ี 21 4. สง่ เสริมและพฒั นาสคู่ วามเป็นครูมืออาชีพ ในศตวรรษที่21 5. ส่งเสรมิ และพัฒนากระบวนการบรหิ ารจดั การแบบมีส่วนรว่ มอยา่ งมปี ระสิทธิภาพกลยทุ ธ์ กลยุทธ์ท่ี 1 พัฒนาผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางวิชาการ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามเกณฑ์สถานศึกษา กาหนด กลยทุ ธท์ ี่ 2 ส่งเสริมผู้เรยี นปฏิบตั ิตนและมีทักษะการดารงชีวิตตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สืบ ทอดภปู ัญญาท้องถิน่ และวัฒนธรรมไทย กลยุทธ์ที่ 3 ส่งเสริมครูจัดการเรียนรู้ตามสมรรถนะทางวิชาชีพในการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับโลกยุค ดจิ ิทัล มีทักษะในการปฏิบัติงาน สามารถจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลายและพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้แก่ ผูเ้ รยี น กลยุทธ์ท่ี 4 สง่ เสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดกระบวนการเรียนรู้และบริหารจัดการ ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุด กลยุทธ์ที่ 5 พัฒนาผู้บริหารโรงเรียนมีความเป็นเลิศ มีภาวะผู้นาทางวิชาการ และการบริหารแบบมีส่วน ร่วม กลยุทธ์ท่ี 6 ส่งเสริมภาคีเครือข่ายแหล่งการเรียนรู้อันเกิดจากการร่วมมือของชุมชนภูมิปัญญาท้องถ่ินและ องค์กรอื่นๆ กลยทุ ธ์ท่ี 7 พัฒนาโรงเรยี นมรี ะบบการบรหิ ารจัดการตามระบบบริหารงานคุณภาพ เป้าประสงค์ (GOAL) 1. ผู้เรียนมผี ลสมั ฤทธทิ์ างวิชาการ และคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงคต์ ามเกณฑส์ ถานศกึ ษากาหนด 2. ผู้เรียนปฏบิ ตั ติ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สืบทอดภูปัญญาท้องถิ่นและวฒั นธรรมไทย 3. ครูจัดการเรียนรู้ตามสมรรถนะทางวิชาชีพที่เหมาะสมกับโลกยุคดิจิทัล มีทักษะในการปฏิบัติงาน สามารถจดั กระบวนการเรยี นรูท้ ีห่ ลากหลายและพัฒนาคณุ ภาพการจดั การศึกษาให้แก่ผู้เรยี นตามมาตรฐานการศึกษา 4. โรงเรียนใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดกระบวนการเรียนรู้และบริหารจัดการให้เกิด ประโยชน์สูงสดุ 5. ผบู้ รหิ ารโรงเรยี นมีความเปน็ เลศิ มีภาวะผู้นาทางวชิ าการ และการบริหารแบบมสี ่วนรว่ ม 6. โรงเรยี นไดร้ ับความรว่ มมือจากภาคีเครือขา่ ย แหล่งการเรียนรู้ ชมุ ชน ภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ และองคก์ รอ่ืนๆ ในการพัฒนาการศกึ ษา 7. โรงเรียนมรี ะบบการบริหารจัดการตามระบบบริหารงานคณุ ภาพ ศักยภำพของโรงเรียน - ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาสง่ เสริมและสนับสนุนการจัดการเรยี นรู้ Active Learning ในช้นั เรยี นทกุ ระดบั ชั้น ทกุ กลุ่มสาระการเรียนรแู้ ละกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น - ครมู แี รงจูงใจสูง (highly motivate) และมัน่ ใจในตวั เองในการพัฒนาผู้เรยี นตามรูปแบบท่ี เหมาะสมกับบรบิ ทของแต่ละวชิ า โดยเน้นผู้เรียนเปน็ สาคัญ เนน้ ทักษะการสื่อสาร ทกั ษะการใช้ชวี ิตให้ทันตอ่ การ เปลีย่ นแปลงในยคุ ปัจจบุ นั เน้นการใช้กระบวนการเรียนรแู้ บบ Active Learning - ชมุ ชนมีความเข้มแขง็ และให้การสนบั สนุนการจดั การศึกษาอยา่ งสมา่ เสมอ

3 ข้อจำกัดของโรงเรียน ห้องปฏบิ ัติการขาดสื่อ อุปกรณ์ การเรียนการสอนที่ทนั สมยั ตอนท่ี 2 ผลการดาเนินงานด้านการนิเทศภายในของสถานศึกษา 2.1 ชอ่ื รูปแบบ CS SMART MODEL : รูปแบบการบริหารจดั การโรงเรยี นสู่ความเป็นเลิศ 2.2 สภาพปัจจบุ ัน/ปญั หา พระราชบญั ญตั ิการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ มาตรา ๖ ไดก้ าหนด ความมงุ่ หมายและหลกั การในการจดั การศกึ ษาทต่ี ้องเป็นไปเพ่ือพัฒนาคนไทยให้เป็นมนษุ ยท์ สี่ มบรู ณ์ทง้ั ร่างกาย จิตใจ สติปญั ญา ความรู้ และคณุ ธรรม มีจรยิ ธรรมและวฒั นธรรมในการดารงชวี ติ สามารถอยู่ร่วมกับผ้อู นื่ ไดย้ า่ งมีความสขุ และ ในหมวด ๔ มาตรา ๒๒ ไดก้ าหนดการศกึ ษา ต้องยดึ หลักผู้เรยี นทกุ คนมีความสามารถเรยี นรู้และพฒั นาตนเองได้ และถือ วา่ ผู้เรียนมคี วามสาคญั ท่ีสุด กระบวนการจดั การศึกษาต้องส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็ม ศกั ยภาพ (กระทรวงศึกษาธกิ าร, ๒๕๕๖, น. ๑) หวั ใจของการปฏิรูปการศึกษาตามพระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และทแ่ี ก้ไขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ คอื การปฏริ ูปการเรยี นรู้ หัวใจของการปฏริ ปู การเรยี นรู้ คือ การปรบั เปล่ียนวธิ ีการเรียน การสอน ที่เรียกว่าการสอนโดยยึดเป็นผู้เรยี นสาคัญ การเรียนรูท้ ย่ี ึดผู้เรียนเป็นสาคัญ หมายถงึ การเรียนรู้ในสถานการณ์จรงิ สถานการณ์แต่ละระดับไมเ่ หมือนกนั จงึ ตอ้ งยึดผู้เรียนแตล่ ะระดับเป็นตวั ตั้ง ครูจัด ให้ผูเ้ รยี นไดเ้ รียนรูจ้ ากประสบการณ์ กิจกรรม และการทางาน อนั จะนาไปสกู่ ารพฒั นาผูเ้ รยี นให้ครบทกุ ด้าน ทง้ั ทาง รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คมและทางสติ ปัญญา (ประเวศ วะส,ี ๒๕๕๐, น. ๒๖๐) ซึ่งผู้ท่มี ีความสาคญั ต่อการปฏริ ูปการ เรียนรู้คอื ครทู ุกคนต้องปรับเปลีย่ นกระบวนการเรยี นการสอนจากระบบเกา่ ที่ยึดตวั ครเู ป็นหลักมาเปน็ ครูท่ีจะทาหนา้ ท่ีใน การเตรยี มการ แนะนา ให้คาปรกึ ษา และสนบั สนุนใหผ้ ู้เรยี นไดเ้ รียนรู้ ได้ปฏิบัติจริงดว้ ยตนเอง เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนได้ เรียนร้เู ต็มตามศักยภาพ จากเหตุผลดังกลา่ ว จงึ เห็นได้ว่า ครูมีความสาคญั อย่างย่ิงตอ่ การปฏริ ปู การเรยี นรู้ ครจู าเปน็ ต้อง ไดร้ บั การพัฒนาให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะและประสบการณใ์ นการออกแบบการจดั การเรยี นรทู้ ่ีเหมาะสม ซ่งึ การ นเิ ทศภายในเปน็ กระบวนการทม่ี ีความสาคญั ต่อการพัฒนาบคุ ลากรใหม้ ีความร้คู วามสามารถ เป็นกระบวนการหนงึ่ ท่ีจะ ชว่ ยปรับเปล่ยี นพฤติกรรมของครูในการจัดการเรยี นการสอนใหด้ ขี ึ้นได้ เพื่อนาไปสูผ่ ลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นและพฤติกรรม ท่ีพึงประสงค์ของผเู้ รยี นในทส่ี ุด จากการวิเคราะหร์ ายงานผลการประเมนิ คุณภาพภายนอกจาก สานกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศกึ ษา ฅองค์กรมหาชน) (สมศ.)ของโรงเรยี นจันเสนเอง็ สวุ รรณอนุสรณ์ รอบสี่ พบวา่ โรงเรียนมีกระบวนการเรยี นการ สอนของครูท่ีไม่ส่งผลต่อการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นเท่าทค่ี วร สอดคล้องกับการตรวจสอบ วิเคราะหแ์ บบรายงาน ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนพบวา่ ปญั หาผลการเรียนของนักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์ ติด ๐ , ร, มส, เป็นปญั หาท่ีสาคัญต่อการจดั การศกึ ษาทต่ี ้องเรง่ ดาเนินการแกไ้ ขและพัฒนาอยา่ งจรงิ จัง ท่ผี า่ นมา โรงเรียนจันเสนเอง็ สุวรรณอนสุ รณ์ มีปัญหาผเู้ รยี นมี ผลสัมฤทธิ์ตา่ กว่าเกณฑ์ โดยมีปัจจัยของสาเหตุทเี่ กิดจากผู้สอนจดั การเรียนการสอนไมเ่ ป็นไปตามแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี จัดทา กระบวนการตดิ ตาม ตรวจสอบ การใหค้ าแนะนาไม่เปน็ ระบบ ขาดความต่อเน่อื ง การวัดผลและประเมนิ ขาด เครือ่ งมอื ที่มีคุณภาพ การจัดเก็บคะแนนไมเ่ ปน็ ระบบ ซ่งึ การจดั เกบ็ คะแนนเปน็ สว่ นหนึง่ ของการวดั ผลและประเมินผล ตามสภาพจริง เพ่ือให้ทราบถึงพัฒนาการการเรยี นรู้ของผเู้ รียนแต่ละคนทม่ี คี วามสามารถทางการเรียนรู้ท่ีต่างกัน ซึ่งที่ผ่าน มาการจัดเกบ็ คะแนนท้ังในรปู เอกสารและการกรอกผลออนไลนไ์ ม่สอดคล้องกนั เกดิ ความผิดดพลาด

4 และลา่ ช้า ทาใหผ้ ู้เรยี นไม่ได้รับการชว่ ยเหลอื อยา่ งทนั ทว่ งที รวมทง้ั ปญั หาและอุปสรรคในขณะจดั การเรียนการสอนไม่ได้ รบั การแก้ไขจากผูเ้ กย่ี วข้องทั้งครผู ู้สอนและผ้บู รหิ ารสถานศึกษา จากปัญหาท่ีกล่าวมาจึงสง่ ผลตอ่ คณุ ภาพและผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรยี นของผู้เรยี น ดว้ ยเหตุผลดังกล่าว โรงเรียนจันเสนเอง็ สุวรรณอนสุ รณ์ จังหวดั นครสวรรค์ จงึ เห็นความสาคญั ของการพฒั นา รปู แบบนเิ ทศภายในใหไ้ ด้กระบวนการท่เี หมาะสมกบั บริบท สะดวกตอ่ การนาไปใช้ และง่ายต่อการปฏิบัติ โดยเน้น หลักการมสี ว่ นรว่ มของบคุ ลากรในโรงเรียนทกุ คน ทุกขน้ั ตอน เพื่อช่วยเหลอื ส่งเสริม สนับสนนุ ใหค้ วามร่วมมือใน กระบวนการนเิ ทศภายในอย่างเป็นระบบ ซึง่ โรงเรยี นได้พัฒนา CS SMART MODEL : รปู แบบการบรหิ ารจดั การ โรงเรยี นสคู่ วามเปน็ เลศิ สาหรับเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ตอนที่ 2 รูปแบบ ผลกำรดำเนนิ งำนดำ้ นกำรนเิ ทศภำยในของสถำนศึกษำ รปู แบบหรอื กระบวนกำรนเิ ทศภำยในของสถำนศกึ ษำ โรงเรยี นจันเสนเอ็งสวุ รรณอนสุ รณ์ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามธั ยมศึกษานครสวรรค์ ได้ใช้หลักการวจิ ัย เชงิ ปฏิบตั ิการแบบมสี ่วนรว่ ม (Participatory Action Research : PAR) ผา่ นกระบวนการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ เพือ่ ให้การดาเนนิ งาน ของโรงเรียนสอดคลอ้ งกบั นโยบาย กลยทุ ธ์ จุดเน้น ของสานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาและสานกั งานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพนื้ ฐาน และเพ่ือเปน็ การพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรยี น โดยกาหนดการดาเนนิ การนิเทศภายในภาค เรียนละ ๑ ครัง้ (ปีการศกึ ษาละ ๒ ครัง้ ) แตล่ ะครง้ั กาหนดประเด็นการนเิ ทศตามนโยบายของสานักงานเขตพืน้ ท่ี การศกึ ษามธั ยมศกึ ษานครสวรรค์ และหน่วยงานที่เก่ยี วข้อง ตามท่ีกล่าวแล้วข้างตน้ โดยการมีสว่ นร่วมของ ทุกภาคส่วน ประกอบกับการขบั เคลอ่ื นการดาเนนิ งานอย่างเป็นระบบท้ังระดับกลุ่มงานและกล่มุ สาระการเรยี นรู้ ตามองค์ประกอบของ CS SMART MODEL : รูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนสคู่ วามเปน็ เลศิ ในกระบวนการนิเทศภายในของสถานศึกษา โดย กาหนดใหม้ ีการนเิ ทศภายใน ประจาภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖3 ดังน้ี C = Communication การสือ่ สารสร้างความเข้าใจร่วมกัน โดยใช้หลัก เขา้ ใจ เขา้ ถึง ร่วมพัฒนา S = School concept การมีเปา้ หมายเปน็ หนึง่ เดียวกัน คือการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน ครแู ละโรงเรียนสู่ความเป็นเลิศ S =Spirit ครูและนกั เรียนมีจติ วิญญาณแห่งการทาความดีและความซื่อสตั ย์ มนี า้ ใจนักกีฬา M = Moral ครูและนักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมและปฏิบตั ติ นเปน็ แบบอย่างได้ A = Achievement ครูและนกั เรยี นเป็นผู้ความม่งุ ม่ันตอ่ ความสาเร็จตามเปา้ หมายของตนเองและวิสัยทศั นข์ องโรงเรยี น R = Responsibility ครแู ละนักเรียนมีความรบั ผดิ ชอบในหน้าที่และมีจติ อาสาในการทาประโยชนต์ ่อส่วนรวม T = Team ครูและนักเรียนมีความร่วมมือ รว่ มคิด รว่ มทา ร่วมภาคภมู ใิ จในผลงานร่วมกัน

5

6 วธิ ีกำรดำเนนิ กำร โรงเรยี นจนั เสนเอ็งสวุ รรณอนุสรณ์ กาหนดกรอบงานในการนเิ ทศภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2563 ดังน้ี 1) การพฒั นาคุณภาพการศึกษาตามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ๒) การจดั การศกึ ษาเพื่อการมีงานทา 3) ระบบประกนั คุณภาพการศกึ ษา ซ่งึ มวี ิธีการดาเนนิ กิจกรรมการนเิ ทศ ดงั น้ี กิจกรรมกำรนิเทศ กจิ กรรมการนเิ ทศที่ไดด้ าเนินการที่สถานศึกษา อยู่ภายใตก้ รอบแนวคิดในการดาเนนิ งาน ประกอบด้วย C = Communication การส่อื สารสรา้ งความเข้าใจร่วมกัน โดยใช้หลัก เขา้ ใจ เข้าถงึ ร่วมพัฒนา S = School concept การมเี ป้าหมายเปน็ หนง่ึ เดียวกนั คือการพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น ครูและโรงเรยี นสู่ความเป็น เลิศ S =Spirit ครูและนักเรยี นมจี ิตวิญญาณแหง่ การทาความดีและความซื่อสตั ย์ มีน้าใจนักกีฬา M = Moral ครแู ละนักเรียนมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยา่ งได้ A = Achievement ครูและนักเรยี นเปน็ ผ้คู วามม่งุ มนั่ ต่อความสาเร็จตามเปา้ หมายของตนเองและวสิ ยั ทัศน์ของ โรงเรยี น R = Responsibility ครแู ละนกั เรยี นมคี วามรับผิดชอบในหนา้ ทีแ่ ละมีจิตอาสาในการทาประโยชนต์ อ่ สว่ นรวม T = Team ครูและนักเรยี นมีความรว่ มมอื รว่ มคิด รว่ มทา ร่วมภาคภูมิใจในผลงานร่วมกนั โดยกาหนดข้นั ตอนในการนิเทศ ดงั น้ี 1. ทบทวนผลจากการนิเทศคร้ังที่แล้ว 2. ผนู้ ิเทศชแี้ จงวตั ถุประสงค์ เปา้ หมายและกิจกรรมการนิเทศในครั้งน้ี 3. ผ้รู ับผิดชอบ (คร)ู นาเสนอการดาเนนิ งาน 4. ผู้นเิ ทศใหค้ าแนะนาในการนิเทศโดยใชเ้ ทคนิคการนเิ ทศแบบ 3 ให้ เทคนิคกำรนเิ ทศแบบ 3 ให้ 1. ใหร้ ู้ นเิ ทศให้ผู้รบั การนเิ ทศรูใ้ นสิง่ ทต่ี ้องดาเนินการหรือตรวจสอบความเข้าใจในเรอ่ื งท่ีนเิ ทศ และต้อง มัน่ ใจวา่ ผรู้ บั การนิเทศรบั รู้และเข้าใจ 2. ใหท้ ำ ตรวจสอบเอกสารหลักฐานการดาเนินงานที่แสดงว่าผู้รับการนิเทศได้ดาเนนิ การดว้ ยความ เข้าใจที่ถกู ต้อง 3. ให้กำลังใจ ผู้นิเทศใหผ้ ลสะท้อนกลับ และแลกเปลยี่ นรู้เพื่อร่วมกันพัฒนางาน พร้อมทัง้ ใหก้ าลังใจใน การพฒั นางานดียง่ิ ๆ ขน้ึ 5. ผูน้ ิเทศบนั ทกึ ผลการนเิ ทศในแบบบนั ทึกการนเิ ทศ ผนู้ เิ ทศ ผูน้ ิเทศ ตามคาส่งั โรงเรียนจันเสนเอง็ สวุ รรณอนสุ รณ์ ท่ี 16/2564 เรื่อง แต่งต้ังคณะกรรมการนิเทศการสอน ภาคเรียนท่ี 2 ประจาปีการศึกษา 2563

7 ระยะเวลำและปฏทิ ินกำรนิเทศ ดาเนนิ การนเิ ทศระหวา่ ง เดือน กมุ ภาพันธ์ – มนี าคม พ.ศ. 2564 กำรกำกับ ตดิ ตำม ประเมินและรำยงำนผล ในการกากับติดตาม ประเมนิ ผลและรายงาน ได้กาหนดเป็นตารางช่วงเวลา และปรับปรุงความเหมาะสมเป็น ระยะ เพอ่ื ใหส้ ามารถพฒั นางานไดบ้ รรลตุ ามเป้าหมาย/วิสยั ทศั นท์ ี่กาหนดไวร้ ่วมกนั เน้นการทางานเป็นทีม ร่วมคิด รว่ ม ทา รว่ มภาคภูมิใจ ผลกำรนเิ ทศ ผลสำเรจ็ ทีไ่ ด้ และกำรนำผลไปใช้ 1. กำรพฒั นำคณุ ภำพกำรศึกษำตำมกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้(กำรสังเกตกำรณส์ อนในชัน้ เรียน) กล่มุ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำไทย สิ่งทพ่ี บจำกกำรนิเทศ 1. ดำ้ นกำรเตรียมกำรสอน - มกี ารจดั หน่วยการเรียนร้ไู ด้สอดคลอ้ งกบั ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ - กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลุมท้ัง 3 ด้าน (K.P.A) - มเี ตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ สอื่ นวัตกรรม กิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ก่อนเขา้ สอน 2. ดำ้ นกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ - มีวธิ กี ารนาเข้าสบู่ ทเรยี นท่นี ่าสนใจ - มีกจิ กรรมทห่ี ลากหลาย เพื่อชว่ ยใหผ้ เู้ รียนเกดิ การเรียนรู้ ความเขา้ ใจ - จดั กิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ รียนคน้ คว้าเพ่ือหาคาตอบด้วยตนเอง - จัดกจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม - เอาใจใส่ดแู ลผ้เู รยี นอยา่ งท่วั ถึง - ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกับเวลาทีก่ าหนด 3. ด้ำนส่อื นวัตกรรมกำรเรยี นรู้ และอปุ กรณ์กำรสอน - ใช้สือ่ ทเ่ี หมาะสมกบั กจิ กรรมและศักยภาพของผเู้ รียน - ใชส้ ื่อ แหลง่ การเรียนรอู้ ย่างหลากหลาย (บคุ คล สถานท่ี วตั ถุ เอกสาร) 4. ดำ้ นกำรวดั และประเมินผล - ผูเ้ รยี นมสี ่วนรว่ มในการกาหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผล - ประเมินผลอยา่ งหลากหลายและครบทั้ง 3 ดา้ น (K.P.A) กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์ สิ่งทพ่ี บจำกกำรนเิ ทศ 1. ดำ้ นกำรเตรียมกำรสอน - ครูมีแผนการจัดการเรียนรู้ครบทุกคน - มกี ารกาหนดเกณฑ์การประเมิน(K.P.A) - มสี ่ือการเรียนการสอนในบางเนื้อหา

8 2. ด้ำนกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ - ครจู ัดกิจกรรมการเรียนร้คู รบกระบวนการ มีขน้ั นา ขนั้ สอน ขัน้ สรปุ และมีการประเมินผลการจดั การ - เรยี นการสอนในตอนทา้ ยช่วั โมงทุกครง้ั โดยการถามตอบส้ันๆ เกีย่ วกบั บทเรยี น - มีการกระตนุ้ ให้นักเรยี นแสดงความคดิ เห็นอย่างเสรี - มีการสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม - มกี ารบูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียงเข้าสู่บทเรยี น - มอบหมายงานตามศักยภาพของผู้เรียน 3. ดำ้ นส่ือ นวตั กรรมกำรเรียนรู้ และอุปกรณ์กำรสอน -ใชส้ อื่ ที่เหมาะสมกบั บทเรียนและผเู้ รยี น 4. ด้ำนกำรวัดและประเมินผล -ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลายและครบท้ัง 3 ด้าน (K.P.A) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ สง่ิ ที่พบจำกกำรนเิ ทศ 1. ด้ำนกำรเตรียมกำรสอน - มกี ารเตรยี มแผนการจดั การเรียนรู้ก่อนเข้าสอน - มกี ารจดั หนว่ ยการเรยี นรไู้ ด้สอดคลอ้ งกับตัวช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ 2. ด้ำนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ - มีกิจกรรมทหี่ ลากหลาย เพ่ือช่วยให้ผเู้ รียนเกดิ การเรียนรู้ ความเข้าใจ - นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรยี นรู้ - กิจกรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม - มีการแบง่ กลุ่มผเู้ รียนโดยใหท้ ากจิ กรรมท่ีแตกตา่ งกนั ตามศักยภาพ 3. ด้ำนสือ่ นวตั กรรมกำรเรียนรู้ และอปุ กรณ์กำรสอน - ใช้สอ่ื ทีเ่ หมาะสมกบั กจิ กรรมและศักยภาพของผูเ้ รยี น 4. ดำ้ นกำรวดั และประเมนิ ผล - ประเมินผลอยา่ งหลากหลายและครอบคลุมทุกด้าน กลมุ่ สำระกำรเรียนรสู้ งั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม สิง่ ทพี่ บจำกกำรนเิ ทศ 1. ด้ำนกำรเตรยี มกำรสอน - มีการดาเนินการทาสงั คมมติ ิเพือ่ คดั และรจู้ ักนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล - ศึกษาตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ แตล่ ะมาตรฐานและออกแบบหน่วยการเรียนรู้ใหค้ รอบคลุมตวั ชว้ี ัด 2. ดำ้ นกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ - การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นข้นั ตอน ไดแ้ ก่ข้นั นา ขนั้ สอน ขนั้ สรปุ ผล ข้นั นาไปใช้ - มีกจิ กรรมทห่ี ลากหลาย เพื่อชว่ ยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ความเขา้ ใจ - นกั เรียนมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ - กิจกรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม

9 3. ด้ำนส่ือ นวัตกรรมกำรเรยี นรู้ และอปุ กรณ์กำรสอน - ใชส้ ื่อ แหลง่ การเรยี นรู้อยา่ งหลากหลาย เชน่ ใบงาน สอ่ื วิดีทศั น์ เอกสารประกอบกจิ กรรมการเรยี น การสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม - ใช้สอ่ื ที่เหมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผเู้ รยี น 4. ดำ้ นกำรวดั และประเมินผล - ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลาย เชน่ แบบทดสอบ การสัมภาษณ์ การสงั เกต - การประเมนิ ครอบคลมุ ดา้ น K P A กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ สง่ิ ทีพ่ บจำกกำรนิเทศ 1. ด้ำนกำรเตรียมกำรสอน - มกี ารจดั หน่วยการเรียนรูไ้ ด้สอดคล้องกับหลกั สตู รและตัวช้ีวดั ครอบคลมุ ทั้ง 5 สาระ - กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลุมทงั้ ด้านความรู้ ทกั ษะ และกระบวนการ - มีเตรียมวัสดอุ ปุ กรณ์ สอื่ นวัตกรรม เพื่อใชใ้ นการจดั การเรยี นรู้ 2. ดำ้ นกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ - มวี ิธีการนาเข้าสู่บทเรียนทาใหผ้ เู้ รียนมีความกระตือรือร้นและเชอ่ื มโยงกบั ความรเู้ ดิม - มกี ารอธบิ ายและสาธติ ในภาคปฏบิ ตั ิใหน้ กั เรยี นเข้าใจ - นักเรยี นไดล้ งมือปฏบิ ัติจริง ช่วยใหผ้ เู้ รยี นเกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ - มกี ารสรุปบทเรียนพร้อมท้ังขอ้ เสนอในการการปฏิบตั ทิ ี่ถูกต้อง - เอาใจใส่ดแู ลผ้เู รียนอยา่ งทั่วถึง 3. ดำ้ นสือ่ นวัตกรรมกำรเรียนรู้ และอุปกรณก์ ำรสอน - ใช้ส่ือ แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย และอปุ กรณ์กีฬาตา่ งๆ 4. ดำ้ นกำรวัดและประเมินผล - มกี ารประเมนิ ทุกท้ายช่วั โมงเรยี น - ประเมินผลอย่างหลากหลายท้งั การปฏบิ ตั ิ การสงั เกต และครบท้ัง 3 ดา้ น (K.P.A) กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ สงิ่ ที่พบจำกกำรนิเทศ 1. ดำ้ นกำรเตรียมกำรสอน - มกี ารจัดหนว่ ยการเรยี นรูไ้ ด้สอดคลอ้ งกบั ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ - กาหนดเกณฑก์ ารประเมินครอบคลมุ ท้ัง 3 ดา้ น (K.P.A) - มเี ตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ ส่อื นวตั กรรม กจิ กรรมตามแผนการจัดการเรียนร้กู ่อนเขา้ สอน 2. ด้ำนกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ - มวี ธิ กี ารนาเข้าสู่บทเรยี นที่น่าสนใจ - มีกิจกรรมทีห่ ลากหลาย เพื่อชว่ ยใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ การเรยี นรู้ ความเขา้ ใจ - จัดกิจกรรมท่ีส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรียนค้นควา้ เพ่ือหาคาตอบดว้ ยตนเอง - จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ทีเ่ ช่ือมโยงกับชวี ิตจริงโดยการนาภมู ปิ ญั ญาบรู ณาการเขา้ กบั การเรียนรู้

10 - จัดกิจกรรมท่เี นน้ กระบวนการคิด (คิดวเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์) - มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมตามศกั ยภาพของผูเ้ รยี น - เอาใจใส่ดแู ลผู้เรียนอยา่ งทว่ั ถึง - ใช้เวลาสอนเหมาะสมกบั เวลาทีก่ าหนด 3. ด้ำนส่ือ นวัตกรรมกำรเรียนรู้ และอปุ กรณ์กำรสอน - ใช้สือ่ ท่ีเหมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรียน - ใช้สื่อ แหล่งการเรยี นรูอ้ ย่างหลากหลาย 4. ด้ำนกำรวดั และประเมินผล - ผูเ้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการกาหนดเกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล - ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบทั้ง 3 ด้าน (K.P.A) กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี สิ่งท่พี บจำกกำรนเิ ทศ 1. ด้ำนกำรเตรยี มกำรสอน - มกี ารจัดหน่วยการเรยี นรูไ้ ด้สอดคล้องกบั ตัวช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ - กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ครอบคลมุ ทั้ง 3 ด้าน (K.P.A) - มีเตรียมวสั ดอุ ปุ กรณ์ สือ่ นวัตกรรม กจิ กรรมตามแผนการจดั การเรียนรู้ก่อนเข้าสอน 2. ด้ำนกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ - มีวิธีการนาเข้าสบู่ ทเรียนท่นี ่าสนใจ - มีกจิ กรรมท่ีหลากหลาย เพื่อช่วยให้ผเู้ รยี นเกดิ การเรียนรู้ความเขา้ ใจ - นกั เรยี นได้ลงมือปฏิบตั ิจริงในการจดั การเรียนรู้ - จดั กจิ กรรมที่ส่งเสริมให้ผเู้ รียนคน้ คว้าเพ่ือหาคาตอบดว้ ยตนเอง และมอบหมายงานตามศกั ยภาพของ ผู้เรยี น - มีการเสรมิ แรงทั้งทางบวกและทางลบ - เอาใจใสด่ ูแลผู้เรยี นอยา่ งทั่วถงึ 3. ดำ้ นสือ่ นวตั กรรมกำรเรยี นรู้ และอุปกรณ์กำรสอน - ใชส้ อ่ื ท่เี หมาะสมกบั กจิ กรรมการเรียนรู้และศักยภาพของผู้เรียน - ใช้สอ่ื แหล่งการเรยี นรู้อย่างหลากหลาย เนน้ ส่ือ อุปกรณ์ที่นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ 4. ดำ้ นกำรวดั และประเมินผล - ประเมินผลตามศักยภาพของนักเรียน - ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลายและครบทั้ง 3 ด้าน (K.P.A) - ประเมินผลจากการปฏิบตั จิ ริง

11 กล่มุ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ สง่ิ ทพ่ี บจำกกำรนเิ ทศ 1. ดำ้ นกำรเตรียมกำรสอน - มีการจดั หนว่ ยการเรียนรไู้ ด้สอดคลอ้ งกับตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ - กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน (K.P.A) - มเี ตรียมวัสดอุ ุปกรณ์ สอ่ื นวัตกรรม กจิ กรรมตามแผนการจดั การเรยี นรู้ก่อนเขา้ สอน 2. ด้ำนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ - มวี ธิ กี ารนาเขา้ สู่บทเรียนทีน่ ่าสนใจ - มกี จิ กรรมทห่ี ลากหลาย เพื่อชว่ ยให้ผเู้ รียนเกิดการเรยี นรู้ ความเขา้ ใจ - นกั เรียนมสี ่วนมีสว่ นร่วมในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ - จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม - มกี ารเสรมิ แรงเม่ือนักเรียนปฏบิ ตั หิ รอื ตอบถกู ต้อง - มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศกั ยภาพของผเู้ รยี น - เอาใจใสด่ แู ลผู้เรียนอยา่ งทว่ั ถึง - ใชเ้ วลาสอนเหมาะสมกบั เวลาท่กี าหนด 3. ด้ำนสอื่ นวัตกรรมกำรเรยี นรู้ และอุปกรณก์ ำรสอน - ใช้สอ่ื ทเ่ี หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผ้เู รียน - ใชส้ ่ือ แหล่งการเรยี นรู้อย่างหลากหลาย (บคุ คล สถานที่ วตั ถุ เอกสาร) 4. ดำ้ นกำรวัดและประเมินผล - ผูเ้ รียนมีสว่ นรว่ มในการกาหนดเกณฑก์ ารวัดและประเมินผล - ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบทั้ง 3 ด้าน (K.P.A) กำรจดั กำรศึกษำเพ่อื กำรมงี ำนทำ สง่ิ ที่พบจำกกำรนเิ ทศ - มกี ารจดั การศึกษาเพ่ือการมีงานทาหลกั สตู รระยะส้ันโดยความร่วมมือกับมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์ จานวน ๒ หลักสูตร ได้แก่ การจักสานจากไม้ไผ่ การจัดทาผลติ ภัณฑจ์ ากผ้าทอจันเสน - การจดั การศึกษาเพื่อการมีงานทาในลักษณะทใี่ ห้นักเรยี นไดเ้ ลือกเรียนตามความสนใจและได้ลงมือปฏิบัตจิ รงิ - มกี ารมอบวุฒบิ ัตรสาหรบั นักเรยี นทผี่ า่ นหลกั สูตรการเรียน ระบบประกนั คณุ ภำพกำรศึกษำ สงิ่ ทีพ่ บจำกกำรนเิ ทศ โรงเรยี นไดด้ าเนนิ การตามองคป์ ระกอบการประกันคุณภาพภายในทีก่ าหนดในกฎกระทรวงว่าดว้ ยระบบ หลกั เกณฑ์ และวธิ ีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.๒๕๕๓ ซ่งึ แยกตามองคป์ ระกอบได้ดงั น้ี

12 องคป์ ระกอบที่ 1 กำรกำหนดมำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ สงิ่ ทพ่ี บจำกกำรนเิ ทศ - โรงเรยี นมีการวิเคราะห์มาตรฐานการศกึ ษาและตวั บ่งชเ้ี พ่ือการประกันคุณภาพภายใน มีเอกสาร หลกั ฐานการกาหนดผู้รบั ผดิ ชอบ และมีคาส่งั แต่งตั้งคณะกรรมการดาเนินการอยา่ งชัดเจน - โรงเรยี นมีเอกสาร หลกั ฐาน คาสง่ั แต่งตง้ั คณะกรรมการกาหนดมาตรฐานการศกึ ษาโดยประกอบจาก บคุ ลากรหลายฝา่ ย มีการประกาศใชม้ าตรฐานของสถานศึกษาท่สี อดคลอ้ งกับจุดเน้น จุดเด่นและสะทอ้ น อัตลกั ษณข์ องสถานศึกษา - โรงเรียนมีการกาหนดค่าเปา้ หมายของความสาเรจ็ ของทุกมาตรฐานอยา่ งชดั เจน มีการลงนามเอกสาร ของคณะกรรมการสถานศึกษา - โรงเรยี นมกี ารจดั ทามาตรฐานแตล่ ะเป้าหมาย พรอ้ มทั้งมีการประชาสัมพนั ธใ์ หผ้ ู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รบั ทราบโดยมีหลกั ฐานการเผยแพร่ทัง้ ทีเ่ ป็นเอกสารและทางเว็บไซตข์ องโรงเรยี น ข้อเสนอแนะ - ควรประกาศใชม้ าตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษากอ่ นเปดิ ภาคเรยี นท่ี 1 - ควรจดั ให้มกี ารปฐมนเิ ทศครูกอ่ นเปิดภาคเรียนเพื่อใหค้ วามร้แู ละสรา้ งความตระหนักถงึ บทบาทหน้าที่ ของตนในการดาเนินงานประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษา องค์ประกอบที่ 2 กำรจัดทำแผนพฒั นำกำรจัดกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำทีม่ ุ่งคณุ ภำพตำมมำตรฐำน กำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ สิ่งที่พบจำกกำรนเิ ทศ - โรงเรียนมีการวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาขององค์กรโดยทกุ ฝา่ ยมีสว่ นร่วมในการดาเนินการจนไดต้ าแหนง่ SWOT ขององคก์ ร - โรงเรียนได้นาผลการวิเคราะหส์ ภาพปัญหาขององคก์ ร(SWOT) มากาหนดเป็นวิสยั ทัศน์ พนั ธกจิ และเป้าหมายขององค์กร โดยทกุ ฝ่ายมีส่วนร่วมในการดาเนินการ - โรงเรยี นมีการดาเนินการจัดทาโครงการตามแผนปฏบิ ตั ิการประจาปี โดยมีการจดั ทาเพื่อให้สอดคลอ้ ง กับวสิ ัยทัศนข์ องโรงเรียนและมาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐาน - มีการกาหนดรูปแบบการจดั สรรงบประมาณท่ชี ดั เจน - โรงเรียนมีการกาหนดบทบาทหนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบของบุคลาการอย่างชดั เจนตามโครงการ - มกี ารกากับตดิ ตามการดาเนินโครงการอยา่ งสมา่ เสมอและต่อเน่ือง - ชมุ ชนมสี ว่ นร่วมในการกาหนดทิศทางการพฒั นาโรงเรียน เชน่ การประชุมพิจารณาโครงการ การ กาหนดวสิ ยั ทศั น์ การกาหนดหลักสตู ร การระดมทรพั ยากร โดยไดร้ บั การสนับสนุนจากชุมชนอย่างต่อเน่ือง - มีการควบคมุ ติดตามการใชง้ บประมาณตามโครงการอย่างตอ่ เนอ่ื งและมีการประเมินผล รายงานผล โครงการหลังจากท่ไี ดด้ าเนนิ การแลว้ - โรงเรียนไดด้ าเนินการเสนอแผนพฒั นาการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพื้นฐาน เพือ่ ให้ความเห็นชอบพร้อมนาไปใช้ - โรงเรียนได้จดั ทาแผนปฏิบตั ิการประจาปี โดยสอดคลอ้ งกับวสิ ัยทศั นข์ องโรงเรียนและสอดคล้องกบั มาตรฐานการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน

13 ขอ้ เสนอแนะ - ควรมีการกากบั ติดตามการดาเนินงานตามแผนปฏบิ ตั ิการประจาปแี ละรายงานผลการดาเนนิ งานเปน็ ระยะ - ควรจดั ทาเครอื่ งมือประเมินและนเิ ทศการดาเนินโครงการตามแผนปฏิบตั กิ ารอยา่ งหลากหลาย องคป์ ระกอบที่ 3 กำรจดั ระบบบริหำรและสำรสนเทศ ส่งิ ที่พบจำกกำรนเิ ทศ - โรงเรยี นมกี ารจัดโครงสรา้ งการบริหารของสถานศกึ ษาท่ีเออื้ ต่อการพฒั นาระบบงานประกนั คุณภาพ การศึกษาภายในสถานศกึ ษา - โรงเรยี นมีการกาหนดผรู้ บั ผิดชอบและจดั ระบบสารสนเทศเปน็ หมวดหมู่ พร้อมเข้าถึงและใหบ้ รกิ าร เครือข่ายอนิ เตอรเ์ น็ตในโรงเรียน - โรงเรียนมกี ารนาระบบสารสนเทศไปใชเ้ พ่ือบริหารจัดการศกึ ษาและพัฒนาการเรยี นการสอนได้เปน็ อย่างดี ขอ้ เสนอแนะ - ควรมกี ารปรับปรงุ ข้อมูลสาระสนเทศใหเ้ ป็นปจั จุบนั อยู่เสมอและใหค้ รแู ละบคุ ลากรสามารถใชไ้ ด้ทุกท่ี ทกุ เวลา องคป์ ระกอบที่ 4 กำรดำเนินงำนตำมแผนพัฒนำกำรจดั กำรศกึ ษำของสถำนศกึ ษำ ส่งิ ทพ่ี บจำกกำรนิเทศ พบว่าการดาเนินงานตามโครงการในแผนปฏิบัติการประจาปีของแตล่ ะโครงการมีการออกคาส่ัง มอบหมายงานให้ผ้รู ับผดิ ชอบได้ปฏิบัติตามหน้าทท่ี ่ีไดร้ บั มอบหมาย มกี ารประชมุ วางแผนก่อนการดาเนินงานตาม โครงการ มีการสรปุ ผลการดาเนนิ งานตามโครงการ เพ่ือประเมินผลการดาเนินงานว่าเป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์ของ โครงการหรือไม่ มีการใชง้ บประมาณและทรัพยากรอยา่ งคุ้มค่าหรอื ไม่ และมีความพงึ พอใจในการดาเนินการหรือไม่ ซ่ึง จากการสรุปโครงการจะเหน็ ว่ามบี างโครงการท่ีใช้งบประมาณในการดาเนินการมากกว่าที่กาหนดไวใ้ นแผนปฏบิ ตั ิการ ขอ้ เสนอแนะ - ควรมีการกากบั ติดตามการดาเนนิ งานตามแผนปฏบิ ตั ิการประจาปแี ละรายงานผลการดาเนนิ งานเป็น ระยะ เพอ่ื ควบคุมการใชง้ บประมาณให้เป็นไปตามแผนปฏิบัตกิ ารประจาปี องค์ประกอบท่ี 5 กำรจัดให้มีกำรติดตำมตรวจสอบคณุ ภำพกำรศกึ ษำ สง่ิ ท่ีพบจำกกำรนเิ ทศ - พบหลกั ฐาน เอกสาร สอดคลอ้ งกบั ประเดน็ การตดิ ตามตรวจสอบ นอกจากน้โี รงเรยี นได้ออกประกาศ โรงเรียน เรอ่ื งรายชื่อผูท้ รงคุณวุฒิทาหน้าท่ตี ิดตามตรวจสอบและประเมินคณุ ภาพภายใน - พบหลกั ฐานคาสั่งและบนั ทึกการนิเทศทัง้ ในระดบั บุคคลและระดับสถานศึกษา ท้ังนี้ในระดบั บคุ คล โรงเรยี นได้มกี ารแต่งตงั้ คณะกรรมการทาการนเิ ทศครูผสู้ อน และการติดตามตรวจสอบในระดับสถานศึกษา ข้อเสนอแนะ - ควรนาผลการตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพการศึกษาไปใชป้ ระโยชนใ์ นการปรบั ปรุงพัฒนาการดาเนินงาน และรายงานผลการปรบั ปรุงใหผ้ ู้บรหิ ารทราบดว้ ย

14 องค์ประกอบที่ 6 กำรจัดให้มกี ำรประเมนิ คณุ ภำพภำยในตำมมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ สิง่ ทีพ่ บจำกกำรนเิ ทศ - พบหลกั ฐานการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคณุ ภาพภายใน ที่ประกอบด้วยผ้ทู รงคณุ วุฒิ และไดร้ ับ ความร่วมมอื จากผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน ครูและผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ ง - โรงเรียนมกี ารวางแผนและกาหนดกรอบแนวทางการประเมนิ คณุ ภาพภายในชัดเจน ข้อเสนอแนะ - นอกจากคณะกรรมการทแ่ี ต่งตัง้ แล้วควรมกี ารเชญิ คณะกรรมการสถานศกึ ษาฯ ผนู้ าชมุ ชน ผู้ปกครอง และผูท้ เ่ี กีย่ วข้องภายนอกทุกภาคส่วนเขา้ มารว่ มทาการติดตามตรวจตดิ ตามภายในด้วย - ผลการติดตามตรวจสอบ ควรแจง้ ให้ทางชุมชนหรอื คณะกรรมการไดร้ บั ทราบด้วยทุกครั้ง องค์ประกอบที่ 7 จดั ทำรำยงำนประจำปที ่เี ป็นรำยงำนประเมินคุณภำพภำยใน สิ่งทพ่ี บจำกกำรนเิ ทศ - พบหลกั ฐาน คาส่ังแตง่ ต้ังคณะกรรมการจดั ทารายงานประจาปี (SAR) การจัดการสารสนเทศ ซึ่งมีการ จัดทารายงานประจาปีสะท้อนคณุ ภาพผเู้ รียนและผลสาเรจ็ ของการบรหิ ารจัดการตามรูปแบบจากต้นสังกดั กาหนดอย่าง ชัดเจน - โรงเรยี นไดม้ ีการนาเสนอรายงานประจาปี (SAR) ตอ่ คณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานใหค้ วาม เหน็ ชอบและเผยแพร่รายงานต่อบคุ ลากร ชุมชน หนว่ ยงานตน้ สงั กดั และหนว่ ยงานท่เี กยี่ วข้องได้รบั ทราบหลายรูปแบบ ข้อเสนอแนะ - ในการเผยแพรร่ ายงานประจาปี (SAR) ของโรงเรยี นต่อสาธารณชนหนว่ ยงานตน้ สังกัดและหนว่ ยงานที่ เกี่ยวข้องควรมกี ารสารวจความคดิ เหน็ /ความต้องการในการพฒั นาของผทู้ ่ไี ด้รับทราบรายงานประจาปี (SAR) ด้วย องค์ประกอบท่ี 8 กำรจดั ให้มกี ำรพัฒนำคณุ ภำพกำรศกึ ษำอยำ่ งต่อเนือ่ ง สิ่งทพี่ บจำกกำรนเิ ทศ - โรงเรียนมกี ารจัดทาแผนปฏิบตั ิการประจาปี แผนพัฒนาจัดการศึกษาอย่างต่อเน่ือง โดยคณะครแู ละ บุคลากรทางการศึกษามีการรับรูแ้ ละเข้าใจในระบบประกันคณุ ภาพเปน็ อย่างดี ทั้งน้ีพบข้อมลู หลกั ฐาน เอกสาร ร่องรอย จากคาสัง่ แต่งตงั้ บันทึกการประชมุ และรูปภาพ - โรงเรยี นมกี ารนาผลการประเมินคุณภาพภายในของสถานศกึ ษามาวเิ คราะห์ สงั เคราะห์และจดั ทาเป็น สารสนเทศของโรงเรียน และรปู เลม่ รายงานประจาปี (SAR) ของโรงเรียน แลว้ นาข้อมลู เหล่านไ้ี ปใชใ้ นการจัดทา แผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปีถดั ไป - ระบบประกนั คุณภาพภายในของโรงเรยี นมีการเผยแพร่ผา่ นเวบ็ ไซต์ของโรงเรยี นเพื่อให้ครู นักเรียน บคุ ลากร และชมุ ชนได้รับรู้โดยทัว่ กัน ข้อเสนอแนะ -

15 ตอนท่ี 3 ข้อมลู อื่น ๆ เพ่ิมเติม โมเดลกำรพฒั นำ

16 รปู ภำพกำรดำเนนิ งำนในกำรนิเทศ(กำรสงั เกตกำรณ์สอน)

17

18 รปู ภำพกำรดำเนนิ งำนกำรนิเทศงำน/กลุ่มงำน/ฝ่ำย

19

คำส่งั กำรนเิ ทศภำยในสถำนศกึ ษำ 20

21


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook