Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การนิเทศแบบร่วมพัฒนา (Cooperative Development Supervision)

การนิเทศแบบร่วมพัฒนา (Cooperative Development Supervision)

Description: โรงเรียนบ้านแก่งชัชวลิตวิทยา

Search

Read the Text Version

การนิเทศแบบรว่ มพฒั นา (Cooperative Development Supervision) โรงเรยี นบ้านแก่งชัชวลติ วิทยา สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษานครสวรรค์ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

2 ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ทั่วไปของสถานศกึ ษา โรงเรยี นบ้านแกง่ ชัชวลติ วิทยา ตั้งอยู่ เลขที่ 238 หมู่ 8 ถนนรังสโิ ยทัย ตาบลบ้านแกง่ อาเภอเมืองฯ จังหวดั นครสวรรค์ 60000 สงั กดั สานกั งานเขตพ้ืนท่มี ัธยมศึกษานครสวรรค์ โทร 056- 347090 e-mail [email protected] เปิดสอนระดบั ชั้น ม.1 ถึงระดับชน้ั ม.6 เนอื้ ที่ 41 ไร่ 20 ตารางวา แผนทโ่ี รงเรียนบ้านแกง่ ชัชวลติ วิทยา คาขวัญโรงเรยี น มุ่งการเรยี น เพยี รธรรม นาวิชาการ ประสานสามคั คี ปรัชญาโรงเรยี น มงุ่ พัฒนาคุณภาพ ศกั ยภาพของนักเรียนใหม้ ีความรู้ และเป็นพลเมืองดี อยู่ในสงั คม ได้ อยา่ งมีความสุข ตราสัญลกั ษณโ์ รงเรยี น วสิ ัยทศั น์ (VISION) ดีเลศิ เครอ่ื งปั้น มงุ่ ม่นั คณุ ธรรม น้อมนาศาสตรพ์ ระราชา ก้าวหน้าวชิ าการ สรา้ งสรรคง์ านอาชีพ

3 พันธกจิ (MISSION) 1. พฒั นาหลักสตู ร กระบวนการเรียนรูท้ ี่เนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สาคัญให้มคี ุณภาพตามมาตรฐาน 2. พัฒนาหลกั สตู รทอ้ งถน่ิ เคร่ืองปนั้ ดินเผา หลกั สูตรการจัดการเรียนร้เู พื่อการมงี านทา นอ้ มนา แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพียงบรู ณาการในการจัดการเรยี นการสอนทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 3. ส่งเสริมพฒั นาศักยภาพนักเรยี นในการใชเ้ ทคโนโลยแี ละการสรา้ งนวัตกรรม 4. สง่ เสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม พัฒนานกั เรยี นให้ มสี ุขภาพกาย สขุ ภาพจิตทีด่ ี มี ค่านยิ มและ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 5. ส่งเสริมพัฒนาการบรหิ ารจัดการศึกษาใหม้ ีคณุ ภาพมีมาตรฐานเน้นคุณภาพของผู้เรียนรอบด้าน ดว้ ยการมีสว่ นรว่ มจากทกุ ภาคส่วน 6. พฒั นาครูและบคุ ลากรให้มสี มรรถนะ ทักษะ ความรปู้ ระสบการณ์ใหม้ ีความเชย่ี วชาญทาง วิชาชีพ 7. สง่ เสริมพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ แหล่งเรียนร้แู ละสภาพแวดลอ้ มทเ่ี ออ้ื ต่อการจัดการ เรียนรูอ้ ย่างมีคณุ ภาพ เปา้ ประสงค์ (Goals) 1. ผ้เู รียนมผี ลสมั ฤทธิท์ างการเรียนทมี่ คี ุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา 2. ผู้เรยี นมศี กั ยภาพทางด้านงานอาชพี การทาเคร่ืองปนั้ ดินเผา ตามหลักสูตรท้องถ่ินบนพ้นื ฐาน แหง่ แนวคดิ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3. ส่งเสริมพฒั นาศักยภาพนักเรยี นในการใชเ้ ทคโนโลยแี ละการสรา้ งนวัตกรรม 4. ผ้เู รยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มสี ขุ ภาพกาย สขุ ภาพจิตทด่ี ี มี คา่ นยิ มและคุณลกั ษณะอันพึง ประสงค์ 5. พฒั นาระบบบรหิ ารจัดการศกึ ษาให้มคี ณุ ภาพได้มาตรฐาน เน้นการมสี ่วนรว่ มของทุกภาคสว่ น 6. ครูและบุคลากรให้มสี มรรถนะ ทักษะ ความรู้ประสบการณ์สู่ความเปน็ มืออาชพี 7 พฒั นาระบบพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ แหลง่ เรียนรแู้ ละสภาพแวดล้อมที่เออื้ ต่อการ จัดการเรยี นรอู้ ย่างมคี ุณภาพ กลยุทธ์โรงเรียนบา้ นแกง่ ชชั วลติ วิทยา กุลยุทธ์ที่ 1 พฒั นาศักยภาพของผู้เรียนใหม้ ีคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา กลยุทธ์ที่ 2 พฒั นาหลักสูตรทอ้ งถ่ินการทาเครื่องปน้ั ดนิ เผา การจัดการเรยี นร้เู พือ่ การมงี านทา ตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง กลยุทธ์ท่ี 3 สง่ เสริมพฒั นานกั เรียนใหเ้ ป็นผู้คุณธรรม จริยธรรม มีคา่ นยิ มและคุณลักษณะอนั พึง ประสงค์ กลยุทธท์ ่ี 4 พัฒนาระบบบรหิ ารจัดการศึกษาให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน เน้นการมสี ว่ นร่วมของทุก ภาคสว่ น

4 กลยุทธท์ ่ี 5 พฒั นาครแู ละบุคลากรให้มสี มรรถนะ ทักษะ ความรปู้ ระสบการณส์ ู่ความเปน็ มืออาชพี กลยุทธท์ ี่ 6 พฒั นาระบบพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ แหล่งเรียนร้แู ละสภาพแวดลอ้ มที่ เออ้ื ต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคณุ ภาพ 2. ขอ้ มลู บุคลากรของสถานศกึ ษา 2.1) จานวนบุคลากร บคุ ลากร ผู้บริหาร ข้าราชการครู พนักงาน ครูอัตราจา้ ง เจ้าหน้าที่ รวมท้ังหมด ราชการ อื่นๆ จานวน 1 16 1 3 1 22 2.2) วุฒิการศกึ ษาสูงสดุ ของบุคลากร บคุ ลากร ต่ากว่าปรญิ ญาตรี ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก รวมท้ังหมด 7- 22 จานวน - 15 2.3) สาขาวิชาท่ีจบการศึกษาและภาระงานสอน สาขาวิชา จานวน ภาระงานสอนเฉล่ยี ของครู 1 คน (คน) ในแต่ละสาขาวิชา (ชม./สัปดาห์) 1. บริหารการศกึ ษา 2. ภาษาไทย 1 - 3. คณิตศาสตร์ 3 18 4. วทิ ยาศาสตร์ 3 20 5. สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 3 28 6. สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 2 30 7. ศิลปะ 2 18 8. การงานอาชีพและเทคโนโลยี 1 30 9. ภาษาตา่ งประเทศ 2 18 10.ครูพ่เี ลี้ยง 3 18 11.ธรุ การ 1 8 1 - รวม/เฉลีย่ 22 21

5 แผนภูมิแสดงวฒุ ิการศึกษาของบุคลากร โรงเรยี นบ้านแกง่ ชชั วลิตวิทยา ต่ำกวำ่ ปริญญำตรี ปริญญำตรี ปริญญำโท ปริญญำเอก 3. ขอ้ มลู นกั เรียน (ณ วันท่ี 9 ธนั วาคม 2563 ของปีการศกึ ษา 2563) 1) จานวนนักเรยี นในเขตพื้นทบ่ี ริการทงั้ สน้ิ 170 คน 2) จานวนนกั เรียนในโรงเรียนทง้ั สน้ิ 299 คน จาแนกตามระดบั ชนั้ ท่เี ปิดสอน จาแนกตามระดับชนั้ ที่เปดิ สอน ระดบั ชั้นเรียน จานวนห้อง เพศ รวม เฉลย่ี ตอ่ ห้อง ชาย หญิง ม.1 3 47 26 73 ม.2 2 37 25 62 26 ม.3 2 24 22 46 รวม 7 108 73 181 ม.4 2 19 24 43 ม.5 2 23 22 45 20 ม.6 2 8 22 30 รวม 6 50 68 118 รวมทั้งหมด 13 158 141 299 ระดบั การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน อตั ราสว่ นครู : นักเรียน = 1 : 16

6 4. ขอ้ มูลผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนระดับสถานศึกษา รอ้ ยละของนกั เรียนที่มีผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นระดับ 3 ขึ้นไป ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1-6 ปีการศึกษา 2563 ผลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรียน ระดบั 3 ขนึ ้ ไป 84.49 78.71 80.16 73.8 75.87 83.83 ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติขั้นพน้ื ฐาน (O-NET) ปีการศกึ ษา 2563 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 14 คน จาก จานวนนักเรยี นท้งั หมด 40 คน คิดเป็นร้อยละ 35 ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ัน้ พืน้ ฐาน (O-NET) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปี ท่ี 3 60 50 40 30 20 10 0 คณิตศำสตร์ วิทยำศำสตร์ ภำษำองั กฤษ ภำษำไทย ค่ำเฉลยี่ ระดบั โรงเรียน คำ่ เฉลย่ี ระดบั จงั หวดั ค่ำเฉลย่ี ระดบั สงั กดั สพฐ ค่ำเฉลย่ี ระดบั ประเทศ ระดบั /รายวชิ า ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ คา่ เฉลย่ี ระดับโรงเรียน 44.11 20.57 23.69 27.14 ค่าเฉลี่ยระดับจังหวดั 52.63 24.32 29.74 33.47 คา่ เฉลี่ยระดบั สงั กัด สพฐ 55.18 25.82 30.17 34.14 คา่ เฉลยี่ ระดับประเทศ 54.29 25.46 29.89 34.38

7 ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติข้ันพ้นื ฐาน (O-NET) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ปกี ารศกึ ษา 2563 27 คน จาก จานวนนกั เรยี นทง้ั หมด 29 คน คดิ เป็นร้อยละ 93.10 ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาตขิ ัน้ พืน้ ฐาน (O-NET) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 6 50 45 40 35 30 25 20 15 10 5 0 ภำษำไทย คณิตศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์ สงั คมฯ ภำษำองั กฤษ ค่ำเฉลยี่ ระดบั โรงเรียน ค่ำเฉลย่ี ระดบั จงั หวดั คำ่ เฉลยี่ ระดบั สงั กดั สพฐ คำ่ เฉลยี่ ระดบั ประเทศ ระดบั /รายวชิ า ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมฯ ภาษาองั กฤษ ค่าเฉลย่ี ระดับโรงเรยี น 39.31 19.56 26.16 33.74 22.69 ค่าเฉลย่ี ระดบั จังหวดั 43.29 25.92 32.43 35.56 28.79 ค่าเฉล่ยี ระดบั สงั กดั สพฐ 45.22 26.33 33.04 36.32 29.73 ค่าเฉลี่ยระดับประเทศ 44.36 26.04 32.68 35.93 29.94

8 เปรียบเทยี บผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติขั้นพืน้ ฐาน (O-NET) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ปกี ารศึกษา 2562-2563 ค่าเฉล่ียระดบั โรงเรียน 50 46.05 44.11 19.79 20.57 26.28 27.3 27.14 45 23.69 ภำษำองั กฤษ 40 35 คณิตศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์ 30 25 20 15 10 5 0 ภำษำไทย 2562 2563 เปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติขัน้ พื้นฐาน (O-NET) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ปีการศกึ ษา 2562-2563 คา่ เฉลยี่ ระดบั โรงเรียน 45 26.4826.16 33.74 39.31 28.75 40 18.8519.56 23.5922.69 ภำษำองั กฤษ 35 30.83 คณิตศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์ สงั คมฯ 30 2562 2563 25 20 15 10 5 0 ภำษำไทย

9 5. ขอ้ มลู อาคารสถานท่ี อาคารเรียนจานวน 2 หลัง อาคารประกอบจานวน 2 หลงั ส้วม 4 หลงั สนามฟุตบอล 1 สนาม สนามบาสเกตบอล 1 สนาม สนามเปตอง 2 สนาม สนามวอลเล่ย์บอล 1 สนาม สนามเซปกั ตะกรอ้ 1 สนาม 6. ข้อมูลการใช้แหล่งเรยี นรู้ภายในและภายนอกโรงเรียน ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ 1) หอ้ งสมดุ มขี นาด 350 ตารางเมตร จานวนหนังสอื ในห้องสมุด 1,500 เลม่ จานวนนกั เรยี นทีใ่ ช้ หอ้ งสมดุ ในปีการศึกษาที่รายงาน เฉล่ีย 35 คน ต่อ วันคดิ เป็นร้อยละ 11.70 ของนักเรยี นท้ังหมด ทง้ั น้ี เน่อื งจากนักเรยี นใชห้ อ้ งคอมพิวเตอร์และสืบค้นอินเตอร์เน็ตจากโทรศัพท์ เป็นส่วนใหญ่ 2) หอ้ งปฏิบัติการ หอ้ งปฏิบัติการวทิ ยาศาสตร์ จานวน 2 หอ้ ง หอ้ งปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ จานวน 2 ห้อง หอ้ งปฏิบตั กิ ารเครื่องปั้นดินเผา จานวน 1 หอ้ ง ห้องดนตรสี ากล จานวน 1 ห้อง ห้องนาฎศิลป์ จานวน 1 หอ้ ง 3) คอมพิวเตอร์ จานวน 30 เครอื่ ง ใช้เพ่อื การเรยี นการสอน 20 เคร่ือง ใช้เพอ่ื สืบคน้ ขอ้ มลู ทางอินเทอรเ์ นต็ 10 เคร่อื ง จานวนนักเรียนที่สืบค้นข้อมูลทางอนิ เทอร์เนต็ ในปกี ารศกึ ษาท่ีรายงาน เฉลีย่ 20 คน ต่อวัน คดิ เป็นรอ้ ยละ 6.68 ของนักเรยี นท้งั หมด ใช้เพ่ือการบริหารจัดการ 10 เครื่อง 4) แหลง่ เรยี นรภู้ ายในโรงเรยี น แหลง่ เรียนรู้ภายใน สถติ กิ ารใช้ จานวนคร้งั /ปี 1. หอ้ งสมุด 50 2. ห้องคอมพวิ เตอร์ 180 3. หอ้ งวทิ ยาศาสตร์ 170 4. ห้องนาฏศิลป์ 50 5. ห้องเครอื่ งปนั้ ดนิ เผา 100

10 สถิตกิ ำรใช้ จำนวนครัง้ /ปี 100 50 1. ห้องสมดุ 50 180 2. ห้องคอมพิวเตอร์ 3. ห้องวิทยำศำสตร์ 170 4. ห้องนำฎศิลป์ 5. ห้องเคร่ืองปัน้ ดนิ เผำ 5) แหลง่ เรยี นรภู้ ายนอกโรงเรียน สถติ ิการใช้ จานวนครง้ั /ปี แหลง่ เรยี นรู้ภายนอก 4 1. วัดบา้ นแก่ง 30 2. สถานประกอบการเครอื่ งปั้นดนิ เผาบา้ นมอญ 2 3. โรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพประจาตาบลบา้ นแก่ง 2 4. วัดในเขตตาบลบ้านแก่ง ตาบลเขาดนิ ตาบลวดั ไทร 5 5. องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลบ้านแกง่ สถิติกำรใช้ จำนวนครัง้ /ปี 5 4 1. วดั บ้ำนแกง่ 2 2. สถำนประกอบกำร 2 เคร่ืองปัน้ ดินเผำบ้ำนมอญ 3. โรงพยำบำลสง่ เสริมสขุ ภำพ 30 ประจำตำบลบ้ำนแกง่ 4. วดั ในเขตตำบลบ้ำนแก่ง ตำบลเขำดิน ตำบลวดั ไทร

11 6) ปราชญ์ชาวบา้ น/ภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ ผู้ทรงคุณวฒุ ิ ทีส่ ถานศึกษาเชญิ มาให้ความรู้ แกค่ รู นกั เรยี น ในปกี ารศึกษาทรี่ ายงาน 6.1) ชอ่ื – สกลุ นางเป้า เล้ยี งสขุ ใหค้ วามรู้เรื่องการปั้น การนวดดินเพื่อทากระถางดินเผา สถิตกิ ารให้ความรใู้ นโรงเรยี นแห่งน้ี จานวน 2 ครั้ง/ปี 6.2) ชื่อ – สกลุ นายรงุ่ โรจน์ เลยี้ งสุข ให้ความรู้เรอื่ งการปัน้ การแกะลายการเผา กระถาง ดนิ เผาสถิติการให้ความร้ใู นโรงเรียนแห่งนี้ จานวน 32 ครงั้ /ปี 6.3) ชอื่ – สกุล นายสุชาติ ทาทพิ ย์ ให้ความรู้เรอื่ งการปัน้ การแกะลายไทยกระถางดนิ เผา สถติ ิการให้ความร้ใู นโรงเรยี นแห่งนี้ จานวน 35 คร้งั /ปี 7. ข้อมลู สภาพชุมชนโดยรวม ลกั ษณะทางอาชีพ ประชาชนในตาบลส่วนใหญม่ ีอาชีพทางการเกษตร มีบางส่วนทาอาชีพ เคร่ืองปนั้ ดนิ เผา นอกนั้นเปน็ อาชีพรับจา้ ง โดยสว่ นหนง่ึ เป็นอาชพี รบั จา้ งท่วั ไป อีกสว่ นหนึง่ เปน็ อาชพี รับจา้ งใน โรงงานอตุ สาหกรรมน้าตาล ซง่ึ อยูใ่ นตาบลบา้ นมะเกลือท่ีอยตู่ ดิ กันโดยมีแม่น้าปิงไหลผ่าน ประชาชนท่ี ประกอบอาชีพอืน่ ๆหรอื ประชาชนทีม่ คี วามรจู้ ะไปประกอบอาชพี ในเมอื งหรือต่างจังหวัด ดังนนั้ ฐานะทาง เศรษฐกิจของประชาชนในตาบลบา้ นแกง่ ส่วนใหญจ่ ึงยังยากจน ลักษณะทางสังคม หลายครอบครัวมีปญั หาการหย่ารา้ ง เพราะแต่งงานเม่ืออายยุ ังนอ้ ย ทาใหเ้ ด็กที่ เตบิ โตขนึ้ มาจากครอบครัวเหล่านี้ ตอ้ งอาศัยอยู่กับญาติ และมปี ญั หามากเมอ่ื เขา้ สู่วยั รุ่น ปัญหามที งั้ ดา้ นการ เรยี น ค่าใช้จา่ ย ความอบอุน่ ในครอบครัว เป็นสาเหตุใหเ้ รียนไม่สาเร็จและลาออกกลางคัน ลกั ษณะทางวัฒนธรรม ส่วนใหญป่ ระชาชนประพฤติปฏิบตั ิตนเป็นไปตามวัฒนธรรม ประเพณี ของ ท้องถิ่น ทง้ั น้ีเนอ่ื งจากชมุ ชนอย่ใู นสภาพกง่ึ เมืองก่ึงชนบท วิถีชวี ิตความเปน็ อยขู่ องประชาชนจึงมลี กั ษณะ เรียบง่าย แต่เพราะมวี ัฒนธรรมตะวนั ตกและอทิ ธพิ ลของเทคโนโลยี มาเกยี่ วขอ้ งในชีวติ ประจาวันมากข้ึน ทาใหเ้ ยาวชนคล้อยตามกระแสเหลา่ นน้ั มากข้นึ และละเลย ต่อการประพฤตปิ ฏิบัตติ นตามวฒั นธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มอันดงี ามของทอ้ งถ่นิ ประเพณีไทยทส่ี าคญั ในท้องถิ่น ได้แก่ ประเพณีการตักบาตรทาบุญแบบขันโตก ประเพณี ไทยทรงดา ประเพณสี งกรานตช์ าวมอญ สถานท่ที ่องเท่ียวและแหล่งเรียนร้ใู นชมุ ชนได้แก่ การทาเครอื่ งป้ันดินเผาบ้านมอญ ตามรอยเสด็จ ประพาสต้นพระพุทธเจา้ หลวง นมัสการรอยพระพุทธบาท วัดพระหน่อธรนินทร์ใกลว้ ารินคงคาราม และ โบราณสถานวัดบ้านแกง่ ประเพณีตักบาตรขนั โตก และประเพณีสงกรานต์หลากชาติพันธุ์ เป็นตน้ คาขวัญของตาบลบา้ นแกง่ คือ คนเกง่ บ้านแกง่ แหล่งเครื่องปน้ั ยดึ มน่ั พระมณฑป ขนบประเพณี ต้ังโตก

12 8. โครงสร้างหลักสตู ร โรงเรียนบ้านแก่งชชั วลติ วิทยา ไดด้ าเนนิ งานพฒั นาวิชาการทเี่ นน้ คณุ ภาพผู้เรียนอยา่ งรอบดา้ น ครอบคลุมทุกกลุ่มเปา้ หมาย ตามหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นแกง่ ชัชวลติ วทิ ยา ตามหลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรงั ปรุง พ.ศ.2560) จดั การเรียนการสอนในระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปี่ท่1ี -6 จานวน 3 แผนการเรยี น ได้แก่ หอ้ งที่ 1 แผนวิทย์-คณติ ห้องท่ี 2 ศิลปท์ วั่ ไป (อาชพี ) ห้องท่ี 3 พละศึกษา ระดับชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลายมแี ผนการเรียน ไดแ้ ก่ ห้องที่ 1 แผนวิทย์-คณติ ห้องท่ี 2 ศลิ ป์ทั่วไป (อาชพี )

13 ตอนที่ 2 ผลการดาเนินงานดา้ นการนเิ ทศภายในของสถานศกึ ษา 2.1 ชื่อรปู แบบ “การนิเทศแบบรว่ มพัฒนา (Cooperative Development Supervision)” 2.2 สภาพปัญหา สภาพปัญหาของโรงเรียนบ้านแก่งชัชวลิตวิทยาคือ การท่ีมีจานวนครูน้อย และประกอบการกับท่ี คุณครูแต่ละท่านมีจานวนชั่วโมงมาก อีกทั้งได้รับหน้าท่ีงานพิเศษค่อนข้างหลากหลาย และอีกปัจจัยคือความ แตกต่างทางวัย ด้วยสาเหตุท่ีกล่าวมาข้างต้น จึงทาให้ระบบการนิเทศต้องมีการปรับเปล่ียนให้เหมาะสมกับ สภาพแวดลอ้ ม อีกทง้ั ปัจจัยภายใน จงึ เป็นท่ีมาของการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนา 2.3 รปู แบบ หรอื กระบวนการนิเทศภายในสถานศึกษา ปฏิสมั พนั ธ์ทางการนิเทศจากใจถึงใจ บนพืน้ ฐานของความรัก ความเข้าใจและความจรงิ ใจตอ่ กันใน การพฒั นาทกั ษะวิชาชพี ซ่ึงมกี ระบวนการดังน้ี ขั้นท่ี 1 การวางแผนการดาเนินงาน (Planning-P) เป็นขั้นตอนที่ผู้มีส่วนร่วมในการดาเนินงานทุก ฝ่ายจะประชุมหารือกนั ถงึ ปญั หาในการจัดการเรยี นการสอนทเ่ี ปน็ ปัญหาสาคัญเร่งดว่ นควรแก้ไขก่อน และหรือ นโยบายในการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนโดยจะระดมสมองหาความต้องการจาเป็น (Need Assessment) ในเร่ืองท่ีจะต้องมีการนิเทศ รวมท้ังร่วมกันวางแผนและกาหนดข้ันตอนการปฏิบัติงาน นิเทศ ซึง่ อาจจะดาเนินการในลกั ษณะของงานหรือโครงการนิเทศเพื่อแก้ปัญหา หรอื พัฒนาการเรยี นการสอน ขน้ั ที่ 2 การเสริมสร้างความรู้ในการปฏบิ ัติงาน (Informing-I) เป็นขั้นตอนของการทาความเข้าใจ กระบวนการนเิ ทศทั้งระบบ และวธิ ีการดาเนนิ งานในแต่ละข้นั ของการนิเทศ เพื่อใหผ้ ู้ดาเนนิ งานมีความรู้ ความ เข้าใจ ในทักษะ และมีเทคนิคในการดาเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพขั้นตอนนี้นอกจากจะเป็นการช่ว ยให้ผู้ ดาเนินงานสามารถทางานได้อย่างมีคุณภาพแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจในการทางานให้แก่ผู้ ดาเนินงานอกี ดว้ ย ข้ันท่ี 3การปฏิบัติงานตามแผน (Doing - D) เมื่อผู้ดาเนินงานได้ผ่านขั้นตอนการวางแผนและ ข้ันตอนการเสริมสร้างความรู้ในการปฏิบัติงานไปแล้ว การปฏิบัติงานตามแผนท่ีวางไว้ในแต่ละขั้นตอนอย่าง เป็นระบบท้ังในส่วนของผู้ให้การนิเทศ ผู้รับการนิเทศ และผู้สนับสนุนการนิเทศก็จะดาเนินไปตามปฏิทิน ปฏิบัติงานท่ีได้ตกลงรว่ มกันและกาหนเดไว้ในแผน โดยจะไดร้ บั ความช่วยเหลอื และร่วมมือจากผู้นิเทศภายนอก เช่น ศึกษานิเทศก์ ครูผู้ร่วมนิเทศ รวมทั้งผู้นิเทศภายในโรงเรียนเช่น หัวหน้ากลุ่มสาระ รองผู้อานวยการ สถานศึกษาฝา่ ยวิชาการและผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา ข้ันที่ 4 การประเมินผลการปฏิบัติงาน (Evaluation - E) การประเมินผลการปฏิบัติงานหรือ โครงการนิเทศ ควรดาเนินการประเมินท้ังระบบ เพ่ือให้ทราบประสิทธิภาพของโครงการจึงควรจะประเมินสิ่ง ต่างๆ ตามลาดับของความสาคัญ

14 ขั้นที่ 5 การเผยแพร่ขยายผล (Diffusing - D) ในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อเป็นการเสริมสร้างขวัญ และกาลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน ส่วนการขยายเครือข่ายการดาเนินงานนิเทศ โดยใช้เทคนิคการขายความคิด ให้ เกดิ ความเชอื่ ถือ ศรทั ธา แลว้ จงึ ใช้เทคนคิ การเชิญชวนให้เข้ามามีสว่ นร่วมที่ละน้อย ในฐานะเพ่ือรว่ มอาชีพหรือ อุดมการณ์ จนเกิดความพร้อมท่ีจะเข้าร่วมดาเนินการด้วยอย่างเต็มตัว ในฐานะ \"ครูปฏิบัติการ\" และเม่ือ ดาเนินการงานได้ผลดี มีเครอื ขา่ ยแนวรว่ มเพิ่มมากขึ้น ครูปฏิบตั ิการก็จะได้ปรับเปล่ียนบทบาทขึ้นเป็นผูน้ ิเทศ เครอื ขา่ ยผูป้ ฏบิ ัตกิ ารรนุ่ ต่อไป 2.4 วิธกี ารดาเนินการ กระบวนการนเทศการสอนแบบร่วมพัฒนา เป็นกระบวนการนิเทศการสอนในชั้นเรียนอย่างมีระบบ ครบวงจร โดยเน้นการสังเกตการสอนอย่างมีวัตถุประสงค์ เพ่ือนาข้อมูลมาแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการ สอน โดยมขี ั้นตอนการดาเนินงาน ดังต่อไปนี้ ขนั้ ตอนที่ 1 ครูบัดดี้ตกลงร่วมกัน เป็นขั้นตอนที่ครู 2 คนท่ีสนิทสนมไว้วางใจซ่งึ กนั และกัน ได้ตกลงร่วมกันในการที่จะพัฒนาทักษะวิชาชีพ โดยมีวัตถุประสงค์จะร่วมกันแก้ปัญหาการจัดการเรียนการ สอน หรือปรับปรุงพฤติกรรมการสอน โดยฝ่ายหน่ึงเป็นผู้สอน และอีกฝ่ายหน่ึงทาหน้าที่เป็นครูบัดดี้ คอยให้ ความช่วยเหลือ แนะนา ให้คาปรึกษาและให้กาลังใจ ซึ่งสัมพันธภาพของครูบัดดี้ จะดาเนินไปในลักษณะของ เพื่อนรว่ มอาชพี ท่ีมีเจตนารมณ์และอุดมการณ์เดียวกัน ความสัมพันธ์ของครบู ัดด้ีทั้งสองจะอยู่บนพ้ืนฐานของ ความเป็นประชาธิปไตย ความเสมอภาค การยอมรับซึ่งกนั และกัน มีความจริงใจ ให้เกียรติกัน มีความพร้อมที่ จะร่วมมือช่วยเหลือกันในการแก้ปัญหา และพัฒนาการเรียนการสอนให้เกิดผลสัมฤทธ์ิผลจนเป็นที่พอใจ รว่ มกัน ขัน้ ตอนท่ี 2 วิเคราะห์ปัญหาการเรียนการสอนร่วมกัน เป็นข้ันท่ีครูผสู้ อนจะนาปัญหาท่ีพบ ในการจัดการเรียนการสอนมาปรึกษาหารือกับครูบัดดี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ปัญหา และ ร่วมกันวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา ซ่ึงอาจใช้แผนภูมิก้างปลาในการศึกษาสาเหตุของปัญหา และช่วยกัน รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ทจี่ ะเป็นแนวทางในการวางแผนแก้ปัญหา โดยอาจนาปัญหาและสาเหตุที่วิเคราะห์ได้ไป ปรึกษาหัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ ซงึ่ มบี ทบาทเป็นผู้นเิ ทศโดยตรงอยู่แล้ว หรอื ปรึกษาหารือเพ่ือนร่วมงานใน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ซงึ่ อาจเป็นผเู้ ชย่ี วชาญหรอื มปี ระสบการณ์เกย่ี วกับปัญหาในลักษณะเดยี วกันมาแลว้ ขั้นตอนที่ 3 กาหนดวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนา เป็นขั้นตอนท่ีผู้สอนจะตกลง ใจเลอื กปัญหาท่ีสาคัญ และต้องการแก้ไขก่อนมาระบวุ ัตถุประสงคใ์ นการแกป้ ัญหาหรอื พัฒนา ส่วนครูบัดดี้จะมี หน้าทค่ี อยเปน็ คคู่ ดิ ใหค้ าปรกึ ษาและให้กาลงั ใจ ข้ันตอนที่ 4 วางแผนการสอนและผลิตส่ือ เป็นขั้นตอนที่ผู้สอนจะนาจุดประสงค์การเรียนรู้ และเนื้อหาท่ีต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนท้ังจากในบทเรียน และสื่ออื่น ๆ มาวิเคราะห์ร่วมกับครูบัดด้ี เพ่ือวาง แผนการสอนและเตรียมการผลิตสื่อประกอบการสอน โดยครูบัดดี้จะทางานร่วมกันกับผู้สอนพร้อมท้ังช่วย ปรับปรุง แก้ไขแผนการสอน และส่ือให้มีประสิทธิภาพย่ิงข้ึน โดยท้ังคู่จะรับผิดชอบร่วมกันในผลของการสอน

15 ในกรณีท่ีผู้สอนต้องการให้ครูบัดดี้เข้าไปสังเกตการสอน ครูบัดดี้จะได้เข้าใจบทเรียนเพ่ิมขึ้น จากการเข้าไปมี ส่วนร่วมในการวางแผนการสอน เม่ือผู้สอนเตรียมการสอนเรียบร้อยแล้ว ครูบัดดี้ก็จะให้กาลังใจ เพื่อช่วยให้ ผ้สู อนเกิดความมั่นใจ และเกิดพลงั ทจ่ี ะดาเนินการสอนใหเ้ กดิ ผลสมั ฤทธ์ิตามจดุ ประสงค์ท่ีต้ังไว้ ข้ันตอนท่ี 5 วางแผนการนิเทศการสอน เป็นขั้นท่ีท้ังผู้สอนและครูบัดดี้จะวางแผนร่วมกัน โดยกาหนดวิธีการและแนวปฏิบัติในการสังเกตการสอนในช้ันเรียน รวมทั้งช่วยกันสร้างเครื่องมือสังเกตการ สอน ท่ีเฉพาะเจาะจงตามวัตถุประสงค์ในการนิเทศแต่ละคร้ังหรือเลือกเครื่องมือสังเกตการสอนที่มีอยู่แล้ว และทาความเข้าใจเก่ียวกับเครื่องมือสังเกตการสอนท่ีจะใช้รวมท้ังอุปกรณ์ ท่ีจาเป็นต้องใช้ในขณะสังเกตการ สอน ตลอดจนสร้างข้อตกลงร่วมกันว่าในขณะสอนและสังเกตการสอน ผู้สอนจะอนุญาตให้ครูบัดดี้เข้าไป สังเกตการสอนอยู่หลังช้ันเรียน หรือจะให้ครูบัดด้ีมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนหรือร่วมกิจกรรมด้วย ตลอดจนตกลงรว่ มกันว่าจะแจ้งใหผ้ ูเ้ รียนทราบหรือไม่ว่าคาบเรียนรจ้ี ะมีผู้มาสงั เกตการสอน จะสังเกตตลอดทั้ง คาบเรียนหรือช่วงเวลาหนึ่ง ท้ังน้ี ข้อตกลงทั้งหมดต้องอยู่ในความยินยอมพร้อมใจ หรือความต้องการของ ผสู้ อนท้ังสิ้น เพื่อผสู้ อนจะไดส้ บายใจไม่วิตกกังวลต่อพฤติกรรมการสังเกตการสอนของครูบดั ด้ี ในกรณที ี่ผ้สู อน ต้องการจะสังเกตการสอนด้วยตนเอง ครูบัดดี้ก็จะมีหน้าที่เพียงให้ความร่วมมือช่วยเหลือและให้ข้อเสนอแนะ ในการสรา้ งหรือเลือกใช้เคร่อื งมือสงั เกตการสอนท่ีเหมาะสมเท่านัน้ ขน้ั ตอนที่ 6 สอนและสังเกตการสอน เปน็ การรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกับพฤติกรรมการเรียนการ สอนของนักเรียนและครู ตลอดจนสภาพการณ์ทุกอย่างทีเ่ กิดข้นึ ในห้องเรียน การสังเกตการสอนเปรียบเสมือน การนากระจกบานใหญ่ไปตั้งไว้หลังช้ันเรียน เพ่ือสะท้อนให้เห็นว่าในห้องเรียนน้ันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และผู้ สังเกตก็จะบันทึกข้อมูลท่ีรวบรวมได้ไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ หรือพิจารณา วินิจฉัย เพื่อหาแนวทางในการ ปรับปรงุ แกไ้ ขพฤตกิ รรมการเรียนการสอนต่อไป ขั้นตอนที่7วิเคราะห์ผลการสอนและผลการสังเกตการสอน เป็นข้ันท่ีครูบัดดี้จะร่วมกัน วิเคราะห์ข้อมูลท่ีรวบรวมได้จากการสังเกตการสอน ซ่ึงจะค้นพบพฤติกรรมท้ังที่ประสบความสาเร็จอย่าง เดน่ ชัดของผูส้ อน และพฤตกิ รรมท่ีควรปรับปรงุ แก้ไข ในดา้ นต่าง ๆ ซึง่ ผู้สงั เกตได้รวบรวมไว้ท้งั หมด ตลอดจน ข้อมูลหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในขณะการเรียนการสอนกาลังดาเนินอยู่ ผู้สังเกตการสอนและผู้สอนจะ ร่วมกันวิเคราะห์ แปลความ ตีความพฤติกรรมท่ีสังเกตได้ และนาผลการวิเคราะห์ มาอภิปรายแลกเปล่ียน เรียนรู้ซึ่งกันและกันบนพื้นฐานของความเสมอภาคจริงใจ และมีความมุ่งหวังอย่างเดียวกัน คือ การพัฒนา คณุ ภาพการเรยี นการสอน ข้นั ตอนที่ 8 ให้ข้อมูลป้อนกลับซงึ่ กันและกัน เป็นขั้นตอนเสรีมสร้างขวัญ ที่ผทู้ าหน้าท่ีนเิ ทศ จะต้องใช้เทคนิคหรือกลวิธีหรือทักษะท่ีละเอียดอ่อน ท่ีมีประสิทธิภาพ (เทคนิควิธีการนิเทศทางอ้อม ของ นิพนธ์ ไทยพานิช ดังน้ี คือ ผู้นิเทศจะต้องพูดน้อย ฟังมาก ยอมรับและใช้ความคิดของครูให้เป็นประโยชน์ต่อ การนิเทศ ใช้คาถามช่วยคลีค่ ลายทาให้กระจ่างชัดเจนข้นึ ให้คายกย่อง ชมเชยในผลงานของครู หลีกเล่ียงการ ให้คาแนะนาโดยตรง หากจาเป็นควรเสนอทางเลือกให้หลาย ๆ วิธีเพื่อให้ครูเลือกวิธีการที่เหมาะสมเอง การ สนบั สนนุ ครูคาพูด และการยอมรบั และใชค้ วามรู้สึกของครใู ห้เปน็ ประโยชน์)

16 ขั้นตอนท่ี 9 วางแผนการสอนและการนิเทศการสอนต่อเนื่อง เป็นการเริ่มต้นวัฏจักรของ กระบวนการนเิ ทศอกี รอบหนง่ึ เพอื่ ใหค้ รู และผูน้ ิเทศมีโอกาสทบทวนกระบวนการเรียนการสอนร่วมกนั อีกครั้ง หนึ่ง และมโี อกาสเลอื กพฤติกรรมการเรยี นการสอนท่ีประสบความสาเร็จไปในการสอนครั้งต่อไป รวมทั้งเลือก พฤติกรรมการเรียนการสอนที่ควรปรับปรุงในวัฏจักรเก่าไปร่วมกันศึกษาหาแน วทางและวางแผนในการ ปรับปรุง โดยการนาไปทดลองสอนและสังเกตการสอนอีกคร้ังหนึ่งในวัฏจักรใหม่ เทคนิคในการนิเทศของผู้ นเิ ทศและความมุง่ มั่นของผ้รู ับการนิเทศจะนาไปสู่ความเป็นครูมืออาชพี (Professional Teacher) 2.5 การกากบั ตดิ ตาม ประเมนิ ผลรายงาน การายงานผลให้ครูรายงานผลการนเิ ทศอย่างน้อยภาคการศกึ ษาละ 1 คร้ัง หรือมากกวา่ 2.6 ผลสาเรจ็ การนิเทศแบบร่วมพัฒนาเป็นการนิเทศท่ีมุ่งแก้ปัญหา และพัฒนาการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนของนักเรียน โดยการปรับปรุงการปฏิบัติงานของครูให้เกิดประสิทธิภาพบน พนื้ ฐานของกระบวนการที่เกดิ จากความต้องการของครใู นการพัฒนาทกั ษะวชิ าชพี

17 ตอนท่ี 3 ข้อมูลอ่นื ๆ เพมิ่ เติม 3.1 โมเดล “การนเิ ทศแบบร่วมพฒั นา (Cooperative Development Supervision)”