Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เวลาเหลือน้อย

เวลาเหลือน้อย

Published by pakamas3008, 2020-05-09 02:16:16

Description: เวลาเหลือน้อย

Search

Read the Text Version

ถา้ เราตระหนกั วา่ เวลาเราเหลอื นอ้ ย ความตายใกลเ้ ขา้ มาทุกที  จะมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นในใจ นั่นคือ สังเวช สังเวชใน ภาษาไทยแปลวา่ ความสลดหดห่ ู แตภ่ าษาบาล ี หมายถงึ ความ รสู้ ึกกระตุน้ ใจใหไ้ ดค้ ิด เร้าเตือนใจให้ไม่ประมาท เปน็ ตวั เร่ง ให้ท�ำสิ่งท่ีควรท�ำ  เช่น  เราไปสังเวชนียสถาน  แล้วเกิดสังเวช  ขน้ึ มา ในความหมายทเี่ กดิ แรงกระตนุ้ เรา้ ใจใหเ้ รง่ ปฏบิ ตั ธิ รรม  ใหท้ ำ� ความด ี ถา้ มคี วามรสู้ กึ แบบนี้ ถอื วา่ สำ� เรจ็ ประโยชนจ์ าก  การไปสังเวชนียสถาน  แต่ถ้าไปแล้วแค่รู้สึกปลาบปลื้มว่าได้ ท�ำบุญ  แต่ว่าสังเวชไม่เกิดข้ึน  ก็ถือว่ายังได้ประโยชน์ไม่คุ้ม 50 กับท่ีได้ไปสังเวชนียสถานไม่  หรือไม่เกิดประโยชน์ดังท่ีพระ พทุ ธเจ้าทรงมุ่งหวงั เ ว ล า เ ห ลื อ น้ อ ย ถา้ ตระหนกั วา่ เวลาเราเหลอื นอ้ ย เราจะเกดิ สงั เวช เกดิ แรงกระตุ้นเร้าเตือนใจให้รีบท�ำสิ่งท่ีสมควรท�ำ  ตัวอย่างเช่น สมยั พทุ ธกาล มลี กู มหาเศรษฐชี อ่ื  นนั ทยิ ะ วนั หนงึ่ ไดฟ้ งั ธรรม จากพระพทุ ธเจ้าท่วี ดั เชตวนั  กเ็ กดิ ความเล่ือมใส ขอบวชจาก พระพุทธองค์  พระองค์ให้ไปขออนุญาตพ่อแม่ก่อน  แต่เมื่อ นนั ทยิ ะไปขอแลว้ พอ่ แมไ่ มย่ อม แมถ่ งึ กบั รอ้ งไหฟ้ มู ฟายใหล้ กู เปลี่ยนใจ นันทยิ ะจึงคดิ หนัก 

คืนนั้นระหว่างท่ีเดินครุ่นคิดอยู่ถึงเร่ืองนั้น  นันทิยะได้ พ ร ะ ไ พ ศ า ล  วิ ส า โ ล ผ่านบ้านช่างทอง  เห็นศพตั้งอยู่  เป็นศพของลูกสาว  ซ่ึงอยู่ ในวยั เดยี วกบั เขา เธอตายกะทนั หนั  นนั ทยิ ะจงึ เหน็ ความไมเ่ ทยี่ ง ของชวี ติ  ไมร่ วู้ า่ ตวั เองจะตายเมอื่ ใด เกดิ ความสงั เวช จงึ กลบั มาท่ีบ้านและยืนยันกับพ่อแม่ว่าจะบวชให้ได้  คร้ันพ่อแม่ ไม่อนุญาต  นันทิยะจึงประท้วงด้วยการอดอาหารจนร่างกาย ผา่ ยผอม พอ่ แม่กลัวว่าลกู จะตายจึงอนุญาตให้บวช พระนันทิยะมีเกร็ดประวัติน่าจดจ�ำหลายอย่าง  หลัง 51 จากทที่ า่ นบวชได ้ ๑๒ พรรษา วนั หนง่ึ ไดท้ ราบวา่ พอ่ แมต่ กอบั ได้กลายเป็นยาจก  ต้องขอทานเล้ียงชีพ  ท่านจึงคิดจะสึก มาเลย้ี งพอ่ แม ่ แตเ่ มอื่ ไดฟ้ งั ธรรมจากพระพทุ ธเจา้  กเ็ ปลย่ี นใจ ไม่สึก  แต่หาเลี้ยงพ่อแม่ด้วยการบิณฑบาต  จนร่างกายของ ทา่ นผา่ ยผอม ตอ่ มามพี ระโจทกฟ์ อ้ งวา่ ทา่ นท�ำไมถ่ กู ตอ้ ง เมอ่ื พระพทุ ธองคท์ ราบกป็ ระทานสาธกุ าร “ดแี ลว้  ชอบแลว้  นนั ทยิ ะ เธอตั้งอยู่ในกตัญญูกตเวทิตาคุณอันควรสรรเสริญ” ในเวลา ตอ่ มาท่านกไ็ ดป้ ฏบิ ัตธิ รรมจนบรรลุอรหตั ตผล 

อกี ทา่ นหนงึ่ ทเี่ ปน็ ตวั อยา่ งของสงั เวชทด่ี คี อื ทา่ นพาหยิ ะ ท่านเคยคิดว่าตนเองเป็นอรหันต์  จนกระทั่งวันหน่ึงเพื่อนซ่ึง เปน็ เทวดามาบอกวา่ ทา่ นไมใ่ ชเ่ ปน็ พระอรหนั ตด์ อก พระอรหนั ต์ ท่ีแท้จริงอยู่ท่ีเมืองสาวัตถ ี คือพระพุทธเจ้า พอท่านพาหิยะรู้ เช่นนั้นก็มุ่งหน้าไปที่เมืองสาวัตถีทันที  เดินแบบไม่หยุดเป็น ระยะทาง ๑๒๐ โยชนซ์ ง่ึ ไกลมาก ทา่ นเดนิ ทงั้ วนั ทง้ั คนื  ไปถงึ สาวัตถีตอนเช้าตรู่  ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่พระพุทธเจ้าก�ำลัง เสดจ็ บิณฑบาต  52 ท่านพาหิยะเห็นเช่นน้ันก็ตรงไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากลาง ถนน กราบทลู ขอใหพ้ ระองคแ์ สดงธรรมถงึ  ๓ ครงั้  พระพทุ ธ- เ ว ล า เ ห ลื อ น้ อ ย เจา้ ปฏเิ สธถงึ  ๓ ครง้ั  โดยใหเ้ หตผุ ลวา่ ไมใ่ ชเ่ วลาและสถานท่ี อนั สมควร แตท่ า่ นพาหยิ ะกย็ งั ยนื ยนั ขอใหพ้ ระองคแ์ สดงธรรม ด้วยเห็นว่าชีวิตของตนและของพระองค์นั้นไม่เท่ียง  กลัวว่า ตนอาจจะตายกอ่ นทจ่ี ะไดฟ้ งั ธรรมพระพทุ ธเจา้  สดุ ทา้ ยพระ- พุทธเจ้าก็ยอมแสดงธรรม  ส่วนหนึ่งก็เพราะเห็นว่าจิตใจของ ทา่ นพาหยิ ะเรมิ่ สงบแลว้  ตา่ งกบั ตอนทม่ี าใหมๆ่  จติ ใจรมุ่ รอ้ น อยากฟังธรรมมาก  ความรุ่มร้อนดังกล่าวเป็นอุปสรรคท�ำให้ เกดิ ดวงตาเหน็ ธรรมไดย้ าก

เมอื่ ทา่ นพาหยิ ะใจเยน็ ลงแลว้  พระพทุ ธเจา้ กแ็ สดงธรรม สน้ั ๆ ว่า  เม่อื เหน็ ก็สักแตว่ า่ เห็น  พ ร ะ ไ พ ศ า ล  วิ ส า โ ล เมื่อไดย้ ินก็สกั แต่ว่าได้ยิน  เม่อื ทราบกส็ ักแต่ว่าทราบ  53 เม่ือรแู้ จง้ กส็ ักแตว่ า่ ร้แู จง้   ในกาลนัน้ ท่านย่อมไม่มี ในกาลใดทา่ นไมม่ ี  ในกาลนนั้ ทา่ นยอ่ มไมม่ ใี นโลกน้แี ละโลกหน้า ไมม่ ใี นระหว่างโลกทง้ั สอง น้ีแล เป็นทส่ี ุดแหง่ ทุกข์ เมื่อได้ฟังเช่นน้ัน ท่านพาหิยะก็บรรลุธรรมเป็นพระ อรหันต์ทันที  ได้ช่ือว่าเป็นเอตทัคคะท่ีบรรลุธรรมได้ไว  แล้ว ทา่ นกต็ ดั สนิ ใจออกบวช ขณะทอ่ี อกไปหาบาตร หาจวี ร ปรากฏ ว่าถูกวัวขวิดตาย  เหตุดังกล่าวเกิดข้ึนหลังจากท่ีท่านได้ฟัง ธรรมจากพระพุทธองค์เพียงประเดี๋ยวเดียว  แสดงให้เห็นถึง ความไม่จีรังของชีวิตอย่างชัดเจน  ตรงกับที่ท่านได้ปรารภกับ

พระพุทธองค์  น่าคิดว่าหากท่านไม่ได้ฟังธรรมจากพระพุทธ- องค ์ ณ ท่ีตรงน้ัน อาจพลาดโอกาสท่ีจะได้ฟังธรรมไปตลอด ชีวิตเลยกไ็ ดเ้ พราะตายเสยี กอ่ น การท่ีท่านพาหิยะยืนยันว่าจะขอฟังธรรมให้ได้ตอนนั้น เปน็ เพราะทา่ นบงั เกดิ สงั เวช ตระหนกั วา่ เวลาของตนเองเหลอื น้อย  แต่ไม่รู้ว่าน้อยเท่าไหร่  ท่านไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วเวลา ของท่านเหลือน้อยมาก  เหลือแค่ไม่กี่นาที  แต่การท่ีท่านมี ความตนื่ ตวั ในเรอ่ื งน ้ี ทำ� ใหท้ า่ นบรรลธุ รรมกอ่ นสน้ิ ลม นบั วา่ 54 ไดใ้ ช้ประโยชน์จากความเปน็ มนษุ ย์อยา่ งคุม้ ค่า เ ว ล า เ ห ลื อ น้ อ ย

เราไปสังเวชนียสถาน  แล้วเกดิ สงั เวชข้ึนมา ในความหมายทเ่ี กดิ แรงกระตนุ้ เร้าใจ ให้เรง่ ปฏิบตั ิธรรม ให้ทำ� ความดี ถ้ามคี วามร้สู ึกแบบน ี้ ถือวา่ ส�ำเร็จประโยชน์ จากการไปสงั เวชนยี สถาน



มสี ติอยู่กบั ปจั จุบนั เมอ่ื ไรกต็ ามทเ่ี ราตระหนกั วา่ เวลาเราเหลอื นอ้ ย อะไรทส่ี ำ� คญั เราจะรบี ท�ำ เราจะไมผ่ ดั ผอ่ น เราจะไมร่ รี อ แตก่ ไ็ มไ่ ดห้ มาย ความว่า  ต้องเร่งรีบ  หลายคนคิดว่าเวลาของตนเหลือน้อยลง แล้ว  ดังนั้นจึงรีบๆ ท�ำ  หรือท�ำหลายๆ อย่างพร้อมกัน  อันน้ี เปน็ ความเขา้ ใจทไี่ มถ่ กู ตอ้ ง แมเ้ วลาของเราจะเหลอื นอ้ ย แต่  เมอ่ื เราทำ� อะไรกต็ าม กไ็ มค่ วรเรง่ รบี  หรอื รอ้ นรน ใจควรอย่ ู กบั ปจั จบุ นั  จดจอ่ อยกู่ บั สงิ่ นนั้  ไมต่ อ้ งคดิ ถงึ หรอื กงั วลกบั งาน  อนื่ ทอ่ี ยขู่ า้ งหน้า 

เ ว ล า เ ห ลื อ น้ อ ยเราคงเคยได้ยินค�ำกล่าวที่ว่า  “เดินทีละก้าว  กินข้าว ทลี ะคำ�  ทำ� ทลี ะอยา่ ง” แมเ้ วลาจะเหลอื นอ้ ย แตเ่ มอื่ เดนิ กต็ อ้ ง เดินทีละก้าว  กินข้าวทีละค�ำ  ท�ำทีละอย่าง  เม่ือท�ำส่ิงใด  ใจ อย่ารน  อย่ารีบร้อน  แม้เป็นงานเล็กน้อย  หรือเป็นงานท่ีไม่ สำ� คญั  กค็ วรใสใ่ จกบั งานนนั้ อยา่ งเตม็ รอ้ ย บางคนคดิ วา่ เวลา ฉนั เหลอื นอ้ ยแลว้  ดงั นน้ั ฉนั จะตอ้ งทมุ่ เทใหก้ บั การปฏบิ ตั ธิ รรม อยา่ งเตม็ ท ่ี อะไรทไี่ มใ่ ชก่ ารปฏบิ ตั ธิ รรมกไ็ มอ่ ยากทำ�  หรอื ถา้ ตอ้ งทำ� กท็ ำ� แบบเรง่ รบี  เพอ่ื จะไดไ้ ปปฏบิ ตั ธิ รรม อนั นเี้ ปน็ การ วางใจที่ผดิ 58 สมยั ทห่ี ลวงพอ่ ชา สภุ ทั โท ยงั เปน็ พระหนมุ่  มชี ว่ งหนง่ึ ท่านได้ไปปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่กินรี  จันทิโย  ตอนนั้นท่านมี ไฟแรงมาก อายแุ ค่ ๓๐ ตน้ ๆ ทา่ นมงุ่ มนั่ ในการปฏบิ ตั ธิ รรม ทำ� ความเพยี รอยา่ งไมล่ ดละ เดนิ จงกรมและนงั่ สมาธทิ ง้ั วนั ทง้ั คนื ไม่สนใจท�ำอย่างอื่น  วันหน่ึงท่านเห็นจีวรขาดวิ่น  จึงต้องพัก การเดนิ จงกรม มาปะชนุ จวี ร แตใ่ จของทา่ นนกึ ถงึ การภาวนา ตลอดเวลา จงึ รบี ปะชุน อยากใหเ้ สรจ็ ไวๆ

หลวงปกู่ นิ รสี งั เกตเหน็  จงึ ทกั วา่  “ทา่ นชา ทา่ นจะรบี รอ้ น พ ร ะ ไ พ ศ า ล  วิ ส า โ ล ไปท�ำไมเล่า”  หลวงพ่อชาตอบว่า  “ผมอยากจะให้เสร็จเร็วๆ ครบั ” หลวงปกู่ นิ รถี ามวา่  “เสรจ็ แลว้ ทา่ นจะทำ� อะไรละ่ ” กไ็ ด้ คำ� ตอบวา่ จะไดไ้ ปภาวนา หลวงปกู่ นิ รจี งึ เตอื นทา่ นวา่  “ทา่ นชา ทา่ นรไู้ หม นง่ั เยบ็ ผา้ ผนื นก้ี ภ็ าวนาได้ ทา่ นดจู ติ ตวั เองซวิ า่ เปน็ อยา่ งไร แลว้ กแ็ กไ้ ขมนั  ทา่ นจะรบี รอ้ นไปทำ� ไมเลา่  ทำ� อยา่ งน้ี เสียหายหมด  ความอยากมันเกิดข้ึนท่วมหัว  ท่านยังไม่รู้เรื่อง  ของตนอกี ” เม่ือตระหนักว่าเวลาเหลือน้อย  ก็ไม่ได้หมายความว่า  จะตอ้ งเอาแตน่ งั่ ภาวนา อยา่ งอน่ื ไมท่ ำ� เลย มงี านการกไ็ มส่ นใจ ผ้าก็ไม่ซัก บ้านก็ไม่กวาด เพราะเห็นว่าไม่สำ� คัญ อันนี้ไม่ถูก 59 นะ  เม่ือมีงานก็ต้องมีความรับผิดชอบก็ควรใส่ใจ  แต่อย่าท�ำ แบบรีบๆ ลนๆ  แม้เวลาของเราจะเหลือน้อยแต่เม่ือท�ำอะไร  กต็ าม ควรทำ� อยา่ งมสี ต ิ ใจอยกู่ บั ปจั จบุ นั  เพราะนน่ั คอื ภาวนา  แบบหนึง่  อยา่ รีบร้อนเหมอื นคนทีค่ ิดอยู่เสมอวา่ ไม่มีเวลา “ไมม่ เี วลา” กบั  “เวลาเหลอื นอ้ ย” มคี วามหมายตา่ งกนั   ให้ความรู้สึกต่างกัน  ถ้ารู้สึกว่าไม่มีเวลา  เราจะรีบ  เราจะรน

แต่ถ้าเราตระหนักว่าเวลาเราเหลือน้อยลง  เราจะรีบท�ำสิ่งที่ สำ� คญั กอ่ น เราจะไมผ่ ดั ผอ่ น แตข่ ณะเดยี วกนั กจ็ ะไมท่ ำ� หลายๆ อย่างพร้อมกัน  แม้ต้องท�ำสิ่งท่ีเหมือนจะไม่ส�ำคัญ  สิ่งท่ีเป็น กจิ วตั รประจำ� วนั  แตเ่ รากค็ วรใหค้ วามสำ� คญั กบั มนั ไมน่ อ้ ยไป กวา่ การภาวนา ถา้ เราวางใจแบบนไ้ี ด ้ เราจะใชเ้ วลาอยา่ งมคี า่ จิตของเราก็จะเจรญิ งอกงาม  จะว่าไปแล้ว หากนอ้ มใจอยกู่ ับปัจจุบนั อยกู่ ับส่ิงท่ที ำ� 60 ไมเ่ รง่ รีบ ไม่ร้อนรน เรากลับจะมเี วลามากขนึ้ เ ว ล า เ ห ลื อ น้ อ ย กวา่ แตก่ อ่ นดว้ ยซ้�ำ นักธุรกิจคนหนึ่ง  เป็นผู้หญิงเก่งที่เช่ือมั่นตนเองมาก ท�ำงานหลายอย่างและคุมงานเหล่านั้นด้วยตนเอง  ไม่ยอม กระจายงานให้ลูกชายหรือลูกน้อง  แต่แล้ววันหน่ึงเกิดวิกฤต ในชีวิต เพราะโครงการหนึ่งที่เธอทุ่มเทอย่างมาก ประสบ ความลม้ เหลว เกดิ ความเสยี หายมาก ทำ� ใหเ้ ธอสญู เสยี ความ

เช่ือม่ันในตนเอง  ถึงกับเคยคิดฆ่าตัวตาย  เหตุการณ์น้ีท�ำให้ พ ร ะ ไ พ ศ า ล  วิ ส า โ ล เธอเร่ิมหันกลับมาทบทวนตนเอง  ต่อมาเธอได้เข้าเรียนใน โปรแกรมหนงึ่  ซง่ึ ชว่ ยใหเ้ ธอเหน็ ขอ้ บกพรอ่ งของตนเองหลาย อยา่ ง อยา่ งหนงึ่ กค็ อื การชอบทำ� อะไรเรว็ ๆ ดงั นน้ั เมอ่ื เธอตอ้ ง ทำ� โครงงานเสนออาจารย ์ เธอจงึ เลอื กโครงงาน “เคย้ี วขา้ วให้  ช้าลง” ปกติเธอเป็นคนกินข้าวเร็วมาก  ไม่ถึง  ๕  นาทีก็เสร็จ 61 แล้วเพราะต้องรีบไปท�ำงาน  เมื่อเธอหันมาเค้ียวข้าวให้ช้าลง อยู่บนโต๊ะอาหารนานขึ้น  ก็มีเวลาสนทนาพูดคุยกับลูก  ท�ำให้ ความสัมพันธ์กับลูกดขี ึน้ นอกจากนั้นการเคี้ยวข้าวให้ช้าลง  ท�ำให้ใจเธอน่ิงข้ึน แตก่ อ่ นเธอเคีย้ วขา้ วไปก็กงั วลถึงงาน ใจจงึ รอ้ นรน อยากกนิ ให้เสร็จไวๆ ครั้นเธอตดั สนิ ใจกนิ อาหารให้ชา้ ลง มสี ตกิ ับการ กิน  ก็ส่งผลให้เธอลดความร้อนรนในการท�ำงาน  มีสติอยู่กับ งานมากขึ้น  ผลท่ีตามมาก็คือสุขภาพของเธอดีขึ้น  โรคปวด ท้องและโรค  “หายใจไม่ทัน”  ท่ีเป็นมาสิบกว่าปีก็หายไปเป็น ปลิดทงิ้

เมื่อเธอใจเย็นข้ึน  ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและ ลกู นอ้ งกด็ ขี น้ึ ดว้ ย มคี วามไวว้ างใจกนั มากขนึ้  ตอ่ มาเธอกโ็ อน งานบางอย่างให้ลูกชายท�ำ  ท�ำให้เธอมีเวลาว่างมากข้ึน  แต่ ก่อนเธอไม่มีเวลาไปเยี่ยมพ่อเลย  เพราะอ้างว่าไม่มีเวลา  แต่ ตอนนี้มีเวลาแล้วจึงไปเยี่ยมพ่อและพาพ่อไปเที่ยวได้  ท�ำให้ ความสมั พนั ธ์ของเธอกับพ่อดขี ึน้   เธอพบว่าเพียงเค้ียวข้าวให้ช้าลง  ท�ำให้คุณภาพชีวิต ของเธอดีขึ้นมาก  แถมมีเวลาว่างมากข้ึนด้วย  ตรงกันข้ามกับ 62 กอ่ นหนา้ น ้ี เธอรบี กนิ ขา้ ว รบี ทำ� งาน แตก่ ลบั รสู้ กึ วา่ ไมม่ เี วลา เลย คณุ ภาพชวี ติ กแ็ ย ่ นา่ แปลกไหม ยงิ่ เรง่ รบี  กลบั ไมม่ เี วลา  เ ว ล า เ ห ลื อ น้ อ ย เหลือ แต่เม่ือท�ำอะไรใหช้ า้ ลง กลบั มเี วลาเหลือมากขึ้น

“ไมม่ เี วลา” กบั  “เวลาเหลอื นอ้ ย” มคี วามหมายตา่ งกนั ให้ความรู้สึกต่างกัน ถ้ารูส้ ึกวา่ ไมม่ เี วลา เราจะรบี   เราจะลน แต่ถ้าเราตระหนกั ว่าเวลาเราเหลือนอ้ ยลง เราจะรบี ทำ� สง่ิ ทส่ี ำ� คญั กอ่ น เราจะไมผ่ ดั ผอ่ น แตข่ ณะเดยี วกนั กจ็ ะไมท่ ำ� หลายๆ อย่างพร้อมกนั



พรอ้ มรับความตาย ดงั ทอ่ี าตมาไดบ้ อกแตต่ น้ แลว้ วา่  ผคู้ นสว่ นใหญไ่ มค่ อ่ ยตระหนกั   วา่ ตวั เองมเี วลาเหลอื นอ้ ยลง จงึ ใชช้ วี ติ แบบผดิ ทศิ ผดิ ทาง เอาแต่ ทำ� มาหากนิ  แขง่ กบั เวลา แขง่ กบั ผอู้ นื่  เพอื่ สะสมทรพั ยส์ มบตั ิ หรอื ชอ่ื เสยี งเกยี รตยิ ศ เพลดิ เพลนิ กบั การเสพสขุ  ไมส่ นใจท�ำ ความดี  สร้างบุญกุศล  ไม่ค�ำนึงถึงคนอ่ืน  เอาแต่เบียดเบียน ผู้อื่น แม้ประสบความมั่งค่ังพร่ังพร้อมวัตถ ุ แต่ในท่ีสุดก็ต้อง อย่รู อ้ นนอนทุกข ์ ชีวติ กไ็ มม่ คี วามสขุ  เพราะสร้างความเดอื ด ร้อนแก่ผอู้ ่นื ไว้มาก 

เ ว ล า เ ห ลื อ น้ อ ยใช่แต่เท่าน้ัน  คนท่ีใช้ชีวิตแบบน้ี  เม่ือถึงเวลาตายก็จะ มคี วามกลวั  มคี วามตนื่ ตระหนก เพราะไมเ่ คยเตรยี มตวั เตรยี ม ใจ ไมเ่ คยเตรยี มเสบยี งบญุ เพอ่ื ภพหนา้ เลย บางคนกท็ รุ นทรุ าย กระสบั กระสา่ ย เพราะขดั ขนื ตอ่ สกู้ บั ความตาย บา้ งกร็ สู้ กึ ผดิ เสียใจกับชีวิตที่ผ่านมา  หรือห่วงหาอาลัยทรัพย์สมบัติ  วิตก กังวลกับส่ิงท่ีจะมาถึง  ถึงตอนนั้นแม้อยากตระเตรียมใจเพ่ือ เผชญิ ความตายดว้ ยใจสงบ ไมท่ รุ นทรุ าย กท็ ำ� ไดย้ าก เพราะ ฉะนั้นจ�ำเป็นมากท่ีเราต้องตระหนักอยู่เสมอว่าเวลาเราเหลือ  น้อยลง  และให้เวลากับการเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อพร้อมรับ  66 ความตายอยู่เสมอ อยา่ งไรกต็ าม รทู้ งั้ รวู้ า่ เวลาเหลอื นอ้ ย แตบ่ อ่ ยครง้ั คนเรา มักหลงลืม  เพราะมีส่ิงอื่นมากระตุ้นให้เราสนใจอย่างอื่น มากมาย ดงั นั้นจงึ จำ� เปน็ ตอ้ งมีเครือ่ งช่วยเตอื นใจ อะไรคอื เครอื่ งชว่ ยทท่ี �ำใหเ้ ราตระหนกั วา่ เวลาเราเหลอื นอ้ ยลง ขอ้ ทห่ี นงึ่  คอื  การเจรญิ มรณสต ิ ซง่ึ กค็ อื การระลกึ วา่ เราตอ้ งตายอยา่ งแนน่ อน และจะตายเมอื่ ไหรไ่ มร่  ู้ อาจจะหมาย ถงึ คนื น ี้ พรงุ่ นกี้ ไ็ ด ้ การเจรญิ มรณสตทิ ำ� ใหเ้ ราเหน็ ความสำ� คญั

ของการเร่งท�ำความดี  ท�ำหน้าที่ท่ีสมควรท�ำ  รวมทั้งฝึกใจให้ ปลอ่ ยวาง การเจรญิ มรณสตหิ ากทำ� บอ่ ยๆ จะชว่ ยใหเ้ ราคนุ้ ชนิ กบั ความตาย และกลัวความตายนอ้ ยลง  ประการต่อมาคือ  การนับถอยหลัง  ว่าความตายใกล้ พ ร ะ ไ พ ศ า ล  วิ ส า โ ล เข้ามาแล้ว  ตอนน้ีเครือข่ายพุทธิกาได้ท�ำแอพพลิเคชั่นอย่าง หนึ่งที่ช่วยเร่ืองนี้ได้  แอพพลิเคชั่นน้ีช่ือว่า  “count  down 67 ชวี ติ ” วธิ ใี ชก้ ค็ อื  สมมตเิ รากำ� หนดวา่ เราจะมชี วี ติ อยถู่ งึ  ๗๐ ปี แอพพลิเคชั่นตัวนี้จะบอกเราว่าจากนี้ไปเราจะเหลือเวลาอยู่ ในโลกนนี้ านเทา่ ใด มนั จะนบั ถอยหลงั ทกุ วนั  เราจะเหน็ เลยวา่ วนั เวลาขอเราเหลอื นอ้ ยลงทกุ ที หายไปทลี ะนาที ทลี ะชว่ั โมง ทีละวัน  น้ีเป็นอุบายอย่างหน่ึงท่ีเตือนใจให้เราไม่ประมาทกับ ชีวิต อนั ทจี่ รงิ  แมเ้ ราตง้ั ใจวา่ จะอยถู่ งึ  ๗๐ ป ี แตเ่ ราอาจจะ อยไู่ มถ่ งึ กไ็ ด ้ ความตายอาจจะมาเรว็ กวา่ ทเ่ี ราคดิ  เพราะฉะนนั้ เราต้องตระหนักอยู่เสมอว่า  เราสามารถตายได้ทุกเวลานาที พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า  ภิกษุท่ีคิดว่าตนเองจะอยู่อีกหนึ่งวัน หนงึ่ คนื แลว้ ตาย ยงั นบั วา่ ประมาท ภกิ ษทุ คี่ ดิ วา่ ตนเองจะอยไู่ ด้

เ ว ล า เ ห ลื อ น้ อ ยอกี หนง่ึ วนั แลว้ ตาย กย็ งั ประมาทอย ู่ ผทู้ คี่ ดิ วา่ ตนเองจะอยอู่ กี ครง่ึ วนั แลว้ ตาย กย็ งั ประมาทอย ู่ ผทู้ คี่ ดิ วา่ ตนเองกนิ ขา้ วหมด แลว้ ตาย กย็ งั ประมาทอยู่ คนทไ่ี มป่ ระมาท คอื ผทู้ ต่ี ระหนกั วา่ อาจอยไู่ ดแ้ คช่ ว่ั ขณะ เคีย้ วข้าว ๑ ค�ำ หรอื ชั่วขณะหายใจออกหายใจเขา้ แล้วก็สิน้ ลม 68 เราควรเจริญมรณสตถิ ึงข้ันนัน้ เลย มพี ระธเิ บตทา่ นหนง่ึ กลา่ ววา่  “ไมม่ ใี ครรหู้ รอกวา่  ‘ลม หายใจถดั ไป‘ กบั  “ชาตหิ นา้ ‘ อะไรจะมาถงึ กอ่ น” อยา่ ไปคดิ วา่ ลมหายใจถัดมาจะมาถึงก่อนชาติหน้านะ  เคยมีภาษิตธิเบต กล่าวว่า  “ไม่มีใครรู้หรอกว่า  ‘พรุ่งน้ี‘  กับ  ‘ชาติหน้า‘  อะไร จะมากอ่ น” แตภ่ าษติ นย้ี งั ไมก่ ระตนุ้ ใจใหเ้ กดิ สงั เวชไดม้ ากพอ เท่ากับการเตือนตัวเองว่า  ชาติหน้าอาจมาถึงก่อนลมหายใจ  ถดั ไปกไ็ ด้

คำ� เตอื นดงั กลา่ วทำ� ใหเ้ ราเกดิ ความไมป่ ระมาทอยเู่ สมอพ ร ะ ไ พ ศ า ล  วิ ส า โ ล พระพุทธเจ้าตรัสว่า  ความไม่ประมาทหรืออัปมาทธรรม  เป็น  ยอดแห่งกุศลกรรมท้ังปวง  ถ้าเราเตือนใจเราอยู่เสมอให้เกิด ความไม่ประมาท  เราจะท�ำสิ่งที่ดีงาม  และใช้ชีวิตของเราให้ เกิดประโยชน์คุ้มค่า  รวมท้ังอาจจะได้รับประโยชน์สูงสุดของ การเกิดเป็นมนษุ ยไ์ ด้ดว้ ย ในเมอื่ เวลาเราเหลอื นอ้ ยลงทกุ ท ี เราเคยถามตวั เองบา้ ง ไหมว่า กำ� ลังท�ำอะไรอยู่ 69

ป ร ะ วั ติ พระไพศาล วสิ าโล พระไพศาล วสิ าโล นามเดมิ  ไพศาล วงศว์ รวสิ ทิ ธ ิ์ เปน็ ชาว กรุงเทพฯ  เกิดเมื่อพุทธศักราช  ๒๕๐๐  ส�ำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม ศึกษาปีท่ี  ๕  จากโรงเรียนอัสสัมชัญ  และส�ำเร็จการศึกษาชั้นอุดม ศกึ ษา จากคณะศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ 70 สมยั เปน็ นกั เรยี น เรม่ิ สนใจปญั หาสงั คม จงึ เขา้ รว่ มกจิ กรรม คา่ ยอาสาพฒั นาชนบทและกจิ กรรมอาสาสมคั รตา่ งๆ เมอ่ื อาย ุ ๑๕ ปี ท่านได้อ่านงานเขียนของท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ  จึงได้ปลูกฝัง ความเป็นพุทธแต่น้ันมา  ท้ังยังสนใจงานหนังสือ  โดยเร่ิมจากการ เขียนบทความต้ังแต่สมัยเรียนชั้นมัธยม  ท้ังในระหว่างท่ีศึกษาอยู่ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ เคยเปน็ สาราณยี กรวารสารปาจารยสาร  อยู่ถงึ  ๑ ปีเต็ม มีความสนใจด้านการเมือง  ได้เข้าร่วมประท้วงในเหตุการณ์ ๑๔ ตลุ าฯ ๒๕๑๖ ตอ่ มาชว่ ง ๖ ตลุ าฯ ๒๕๑๙ เคยไปรว่ มอดอาหาร ประท้วงในแนวทางอหิงสา  จนกระท่ังถูกล้อมปราบภายในมหา- วทิ ยาลยั ธรรมศาสตร ์ และถกู คมุ ขงั เปน็ เวลา ๓ วนั  เมอ่ื ออกจากคกุ แล้วได้มาท�ำงานเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มประสานงานศาสนาเพื่อสังคม

ต้ังแต่ปีพุทธศักราช  ๒๕๑๙  ถึงพุทธศักราช  ๒๕๒๖  เน้นงานด้าน 71 สิทธิมนุษยชน  ช่วยเหลือผู้ถูกคุมขังด้วยสาเหตุทางการเมือง  ซึ่ง สามารถดำ� เนนิ การประสบผลสำ� เรจ็  เมอื่ รฐั บาลออกกฎหมายนริ โทษ กรรมผตู้ อ้ งหา กรณ ี ๖ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ประมาณ ๓,๐๐๐ กวา่ คน พระไพศาล วิสาโล อุปสมบทเม่ือพุทธศักราช ๒๕๒๖  ณ วดั ทองนพคณุ  กรงุ เทพมหานคร เรยี นกรรมฐานจากหลวงพอ่ เทยี น จติ ตฺ สโุ ภ วดั สนามใน กอ่ นไปจำ� พรรษาแรก ณ วดั ปา่ สคุ ะโต อำ� เภอ แกง้ ครอ้  จงั หวดั ชยั ภมู  ิ โดยศกึ ษาธรรมกบั หลวงพอ่ คำ� เขยี น สวุ ณโฺ ณ แตแ่ รกทา่ นตงั้ ใจจะบวชเพยี ง ๓ เดอื น แตเ่ มอื่ การปฏบิ ตั ธิ รรมเกดิ ความกา้ วหนา้  จงึ บวชตอ่ เรอื่ ยมา จนครบรอบ ๓๒ พรรษาในปพี ทุ ธ ศักราช  ๒๕๕๗  น้ี ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต  แต่ส่วนใหญ่จะจ�ำ พรรษาอยทู่ วี่ ดั ปา่ มหาวนั  (ภหู ลง) เพอื่ รกั ษาธรรมชาตแิ ละอนรุ กั ษป์ า่ นอกจากการจดั อบรมปฏบิ ตั ธิ รรม พฒั นาจรยิ ธรรมและอบรมโครงการ เผชญิ ความตายอยา่ งสงบตอ่ เนอ่ื งตลอดมาแลว้  ทา่ นยงั เปน็ ประธาน เครือข่ายพุทธิกา  กรรมการมูลนิธิโกมลคีมทอง  กรรมการสถาบัน สันติศึกษา  กรรมการมูลนิธิสันติวิถี  และกรรมการท่ีปรึกษาสภา สถาบันอาศรมศลิ ป ์ เปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ในเครอื ขา่ ยสนั ตวิ ธิ  ี พระไพศาล วสิ าโล ไดช้ อ่ื วา่ เปน็ พระสงฆน์ กั กจิ กรรม นกั คดิ นกั เขยี น และนกั รณรงคห์ วั กา้ วหนา้ ทนี่ ำ� ธรรมะมาสรา้ งสนั ต ิ เชอื่ มโยง ความรทู้ างดา้ นพทุ ธธรรมมาอธบิ ายปรากฏการณข์ องชวี ติ และสงั คม

ในบรบิ ทของสงั คมสมยั ใหมอ่ ยา่ งเขา้ ใจงา่ ย ชดั เจนเปน็ รปู ธรรม มี ทักษะในการอธิบายหลักธรรมท่ียากและลึกซ้ึงให้เห็นเป็นเรื่องง่าย นอกจากเผยแผธ่ รรมผา่ นการเทศนาแลว้  ทา่ นยงั มงี านเขยี นตอ่ เนอ่ื ง สมำ่� เสมอ ทง้ั หนงั สอื  งานแปลและบทความ ปจั จบุ นั มผี ลงานหนงั สอื ของท่านมากกว่าร้อยเล่ม  นอกจากน้ียังเป็นบรรณาธิการหนังสือ หลายฉบบั ปีพุทธศักราช  ๒๕๔๘  ท่านได้รับรางวัลชูเกียรติ  อุทกะพันธ์ ในสาขาศาสนาและปรัชญา  จากผลงานหนังสือ  พุทธศาสนาไทย  ในอนาคต : แนวโนม้ และทางออกจากวกิ ฤต อกี เกยี รตปิ ระวตั สิ ำ� คญั 72 คอื  ทา่ นเปน็ พระสงฆอ์ งคแ์ รกทไี่ ดร้ บั รางวลั ศรบี รู พา ประจำ� ปพี ทุ ธ- ศักราช  ๒๕๕๓  โดยมติเอกฉันท์  และล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔  ท่านได้รับรางวัลนักเขียนอมตะประจ�ำปี  ๒๕๕๓  โดยมติ เอกฉันท์จากมูลนิธิอมตะ ซ่ึงท่านได้มอบเงินรางวัลท้ังหมดจำ� นวน ๑ ลา้ นบาท ให้แกม่ ลู นธิ โิ กมลคีมทอง แมจ้ ะมผี ลงานชว่ ยเหลือสงั คม อนรุ กั ษ์ธรรมชาติสง่ิ แวดลอ้ ม และสง่ เสรมิ การปฏบิ ตั ภิ าวนาหลากหลายรปู แบบจนแทบไมม่ เี วลาพกั แตท่ ง้ั หมดทง้ั ปวงทก่ี ลา่ วมาแลว้  พระไพศาล วสิ าโล ยงั คงยนื ยนั วา่ “ชวี ติ อาตมา เปน็ แคพ่ ระอยา่ งเดยี ว กเ็ ปน็ เกยี รต ิ และประเสรฐิ สดุ ในชวี ติ แลว้  ไมม่ อี ะไรสงู สดุ กวา่ การเปน็ พระ ทเี่ หลอื เปน็ สว่ นเกนิ ”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook