Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมเล่ม สรุปโครงการ โคก หนองนา โม เดล ( ศก ) งปม. 64

รวมเล่ม สรุปโครงการ โคก หนองนา โม เดล ( ศก ) งปม. 64

Published by praneet122, 2021-11-08 07:35:10

Description: รวมเล่ม สรุปโครงการ โคก หนองนา โม เดล ( ศก ) งปม. 64

Search

Read the Text Version

สรปุ ผลกำรดำเนินงำน โครงกำรพฒั นำหมูบ่ ำ้ นต้นแบบ โคก หนองนำ โมเดล กศน.ตำบลท่ำลำดขำว ศนู ยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอโชคชยั สำนกั งำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย จังหวัดนครรำชสีมำ

บนั ทึกขอ้ ความ สว่ นราชการ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอโชคชยั ที่ ศธ ๐๒๑๐.๓๖๑๐/ วนั ท่ี ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เร่ือง สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการพฒั นาหมู่บา้ นตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล เรยี น ผูอ้ านวยการศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอโชคชยั ๑. เรอื่ งเดิม ตามท่ี งานการศึกษาต่อเนอื่ ง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอ โชคชยั ไดจ้ ดั โครงการพฒั นาหม่บู ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ในวนั ท่ี ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ บ้านหนองแปลน หมทู่ ี่ 11 ตำบลทำ่ ลำดขำว อาเภอโชคชัย จังหวดั นครราชสีมา เพือ่ ใหป้ ระชาชนในเขต พ้ืนท่ี ตาบลทา่ ลาดขาว มีความรู้ ทักษะชวี ติ ในการดาเนินงาน โคก หนองนา โมเดล ตามหลักปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง อยางตอเนือ่ ง นน้ั ๒. ข้อพจิ ารณา งานการศกึ ษาตอ่ เนื่อง ได้สรปุ ผลการดาเนินงานโครงการพฒั นาหมู่บ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล เรียบร้อยแล้ว ๓. ข้อกฎหมาย ระเบยี บ คาสัง่ - ๔. ขอ้ เสนอเพอ่ื พิจารณา เพื่อโปรดทราบ (นางปราณตี ขาวงาม) ครู กศน.ตาบล (นายสมชาย มุ่งภ่กู ลาง) ครูอาสาสมคั ร กศน. ทราบ (นางจรี ะภา วัฒนกสกิ าร) ผู้อานวยการศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอโชคชยั

ก คำนำ เอกสารสรุปผลโครงการเล่มน้ี จัดทาขึ้นเพ่ือสรุปผลการดาเนินงานปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ จากการจดั กจิ กรรมโครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั อาเภอโชคชยั เพอ่ื เป็นขอ้ มลู สาหรบั ใช้ในการพัฒนาการดาเนนิ งานในคร้ังตอ่ ไป คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าเอกสารเล่มน้ี จะเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริม และพัฒนา งานการศึกษาต่อเนอื่ ง ดา้ นอนื่ ๆ ต่อไป กศน.ตาบลทา่ ลาดขาว กรกฎาคม 2564

สำรบญั ข คำนำ หนำ้ สำรบญั ก บทที่ 1 บทนำ ข 1  หลักการและเหตุผล 1  วตั ถุประสงค์ 2  เป้าหมาย 1  ผรู้ ับผิดชอบโครงการ 2  ผลลพั ธ์ 2  ดัชนีชว้ี ัดผลสาเรจ็ ของโครงการ 2  การประเมินผล 2 บทที่ 2 เอกสำรกำรศึกษำและงำนวจิ ยั ท่เี ก่ียวขอ้ ง 3  ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพียง 3  หลกั แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง 4  ความหมาย โคก หนองนา โมเดล 6  งานวิจยั ทเี่ กี่ยวข้อง 7 บทท่ี 3 วธิ ีกำรดำเนินงำน 9 บทที่ 4 ผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูล 14 บทท่ี 5 สรปุ ผล อภิปรำยผล และข้อเสนอแนะ 21 บรรณำนกุ รม 25 ภำคผนวก  รายชื่อผเู้ ข้ารว่ มโครงการ ฯ  ภาพกจิ กรรม  ตารางวเิ คราะหข์ อ้ มลู โครงการฯ โดยใชโ้ ปรแกรม SPSS  แบบประเมนิ โครงการฯ  โครงการพัฒนาหมบู่ ้านตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล คณะผู้จดั ทา คณะผู้จัดทำ

บทท่ี 1 บทนา หลกั การและเหตุผล พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว พระราชทานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งใหก้ บั ปวงชนชาวไทยไวเ้ พ่ือ เปน็ แนวทางในการดาเนนิ ชีวิตโดยใหต้ ั้งมัน่ อยูใ่ นความพออยู่ พอกิน ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง สามารถใช้ไดก้ บั คนทุกเพศ ทกุ วัย ทกุ อาชพี ไม่เว้นแมแ้ ตเ่ กษตรกรโดยเฉพาะในยุคทวี่ ิกฤตพิ ษิ ภัยจากสารเคมี ส่งผลกระทบตอ่ เกษตรกรและผบู้ ริโภค รวมท้ังปญั หาดินเส่ือมโทรมจากการใช้สารเคมีเกินความจาเป็นภมู ิปัญญาเกษตรอนิ ทรยี ์ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพยี งจงึ เปน็ ทางเลือกทยี่ ่ังยืนในการฟ้ืนฟูทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม พัฒนาคุณภาพ ชวี ิตเกษตรกร ตลอดจนสร้างความปลอดภัยตอ่ ผบู้ รโิ ภคและผผู้ ลติ โคก-หนอง-นา โมเดล คือ การจัดการพืน้ ท่ซี ึ่ง เหมาะกบั พ้นื ท่ีการเกษตร ซ่ึงเปน็ ผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ เข้ากับภูมปิ ัญญาพื้นบา้ นทีอ่ ยู่อย่างสอดคล้องกบั ธรรมชาตใิ นพน้ื ทน่ี น้ั ๆ โคก-หนอง-นา โมเดล เป็นการที่ใหธ้ รรมชาตจิ ดั การตวั มันเองโดยมี มนษุ ยเ์ ปน็ สว่ นสง่ เสรมิ ให้มันสาเร็จเร็วข้ึน อยา่ งเป็นระบบโคก-หนอง-นา โมเดล ซงึ่ เปน็ แนวทางทาเกษตรอินทรยี แ์ ละการสรา้ งชวี ิตท่ี ย่งั ยนื โคก-หนอง-นา โมเดล คอื การจัดการพื้นท่ซี ง่ึ เหมาะกบั พ้ืนที่การเกษตร ซง่ึ เป็นผสมผสานเกษตรทฤษฎี ใหม่ เข้ากับภูมิปญั ญาพ้ืนบ้านท่ีอยู่อยา่ งสอดคลอ้ งกับธรรมชาตใิ นพื้นท่ีนนั้ ๆ โคก-หนอง-นา โมเดล เปน็ การทใ่ี ห้ ธรรมชาตจิ ัดการตวั มันเองโดยมี มนษุ ย์เปน็ สว่ นสง่ เสริมใหม้ ันสาเร็จเรว็ ขึ้น อย่างเป็นระบบ อนึ่ง กศน.ตาบลท่าลาดขาว ตระหนักถึงความสาคัญดังกล่าว จึงได้จัดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ โคก หนองนา โมเดล ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อเสริมทักษะให้ประชาชน ดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง และปลูกผักสวนครัวไว้รับประทาน ทาให้เกิดสุขภาพที่ดี สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และพฒั นาคุณภาพชีวติ สรา้ งความเข้มแข็งให้กับชุมชน วตั ถุประสงค์ เพ่ือให้ประชาชนในเขตพื้นท่ี ตาบลท่าลาดขาว มีความรู้ ทักษะชีวิต ในการดาเนินงาน โคกหนองนา โมเดล ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เปา้ หมาย เชงิ ปรมิ าณ ประชาชน ตาบลทา่ ลาดขาว อาเภอโชคชยั จังหวัดนครราชสมี า จานวน 20 คน เชงิ คณุ ภาพ ประชาชน ตาบลท่าลาดขาว ท่ีเข้ารว่ มโครงการฯ รอ้ ยละ 100 มีส่วนร่วมในการเรยี นรู้ โคก หนองนา โมเดล ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และเกิดความรัก ความสามคั คขี องคนในชุมชน สรุปผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหม่บู ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 1

ผู้รบั ผิดชอบโครงการ นางปราณตี ขาวงาม ครู กศน.ตาบล นายสมชาย มงุ่ ภกู่ ลาง ครู อาสาสมคั ร กศน. เครือขา่ ย - องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลท่าลาดขาว - ผูน้ าชมุ ชนตาบลทา่ ลาดขาว โครงการท่ีเก่ียวข้อง โครงการพัฒนาฐานการเรียนรู้หม่บู ้านต้นแบบตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หม่ ประจาตาบล ผลลพั ธ(์ Outcome) ประชาชนทเ่ี ข้ารว่ มโครงการฯ มคี วามรู้ ทกั ษะการดาเนินชวี ิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง การเรียนรู้ โคกหนองนา โมเดล ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกิดความรกั ความสามคั คี ของคนในชมุ ชน ดัชนชี ี้วดั ผลสาเร็จของโครงการ ตัวชว้ี ดั ผลผลติ (Outputs) ประชาชนท่ีเขา้ รว่ มโครงการฯ จานวน 90 คน มีความรู้ ทกั ษะการเรยี นรู้ โคกหนองนา โมเดล การดาเนินชีวติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การเรียนรู้ โคกหนองนา โมเดล ตวั ช้ีวดั ผลลพั ธ์ (Outcomes) ประชาชนทเ่ี ข้ารว่ มโครงการฯ รอ้ ยละ 90 นาความรู้ ทกั ษะ โคกหนองนา โมเดล การดาเนินชีวิตตาม หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง การเรียนรู้ โคกหนองนา โมเดล การปลูกผกั ไว้รับประทานเอง ทาใหเ้ กิด คุณภาพชวี ิตทด่ี ี ชุมชนเข้มแข็งอยา่ งย่ังยืนสร้างอาชีพ สรา้ งรายได้ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ สรา้ งความเข้มแข็ง ให้กบั ชุมชน การประเมนิ ผล - การสังเกตพฤตกิ รรม การเข้ารว่ มกิจกรรม และการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวันได้ - แบบประเมนิ โครงการ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพัฒนาหมบู่ า้ นต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 2

บทที่ 2 เอกสารการศกึ ษาและงานวิจัยทเี่ กย่ี วขอ้ ง ในการจดั ทารายงานคร้งั น้ไี ด้ทาการศกึ ษาค้นควา้ เนอื้ หาจากเอกสารการศกึ ษาและงานวจิ ัยท่เี กีย่ วขอ้ ง ดงั ต่อไปนี้ 1. ความหมายของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. ความหมายโคก หนอง นา โมเดล 3. งานวจิ ัยทเี่ ก่ยี วขอ้ ง 1. ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพยี ง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดารงอยู่ และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับต้ังแต่ระดับ ครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนา และบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกจิ เพือ่ ให้ก้าวทันต่อโลกยคุ โลกาภิวตั น์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นท่ีจะต้องมีระบบภูมิคุ้มกัน ในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงท้ังภายนอก และภายใน ทั้งน้ีจะต้อง อาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิง ในการนาวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผน และการดาเนินการทุกขนั้ ตอน และขณะเดียวกนั จะตอ้ งเสริมสรา้ งพ้ืนฐานจติ ใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจ้าหน้าท่ี ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับให้มีสานึกในคุณธรรม ความซ่ือสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ ที่เหมาะสม ดาเนินชีวติ ดว้ ยความอดทน ความเพียร มีสติ ปญั ญา และความรอบคอบ เพ่ือใหส้ มดุล และพร้อมต่อ การรองรับการเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ และกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอก ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี การนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงน้ี เป็นกรอบแนวความคิดและทิศทางการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ มหภาคของไทย ซ่ึงบรรจุอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) เพื่อมุ่งสู่ การพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกัน เพื่อความอยู่ดีมีสุข มุ่งสู่สังคมที่มีความสุขอย่างยั่งยืน หรือท่ีเรียกว่ า สังคมสีเขียว (Green Society) ด้วยหลักการดังกล่าว แผนพัฒนาฯฉบับที่ 10 นี้จะไม่เน้นเรื่องตัวเลขการ เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงให้ความสาคัญต่อระบบเศรษฐกิจแบบทวิลักษณ์ หรือระบบเศรษฐกิจท่ีมีความ แตกตา่ งกนั ระหวา่ งเศรษฐกจิ ชุมชนเมืองและชนบท ดร.สมเกยี รติ อ่อนวมิ ล เรียกส่ิงน้ีวา่ วกิ ฤตเศรษฐกจิ พอเพียง คอื ความไมร่ ูว้ ่าจะนาปรชั ญาน้ไี ป ใชท้ าอะไร กลายเป็นว่าผ้นู าสงั คมทกุ คน ท้งั นกั การเมืองและรฐั บาลใช้คาวา่ เศรษฐกิจพอเพียง เปน็ ขอ้ อ้างในการ ทากจิ กรรมใด ๆ เพือ่ ใหร้ ู้สึกวา่ ไดส้ นองพระราชดารัสและใหเ้ กิดภาพลักษณ์ท่ดี ี หรือพูดงา่ ย ๆ กค็ อื เศรษฐกิจ พอเพยี ง ถูกใชเ้ พื่อเป็นเครือ่ งมือเพือ่ ตวั เอง ซึ่งความไม่เข้าใจนอ้ี าจเกดิ จากการสับสนวา่ เศรษฐกิจพอเพยี งกับ สรุปผลการดาเนนิ งาน โครงการพฒั นาหม่บู า้ นต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 3

ทฤษฎีใหม่น้นั เป็นเร่ืองเดียวกนั ทาให้มีความเขา้ ใจว่า เศรษฐกจิ พอเพียง หมายถงึ การปฏเิ สธอุตสาหกรรมแล้ว กลบั ไปสู่เกษตรกรรม ซึง่ เปน็ ความเขา้ ใจท่ผี ิด ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งนี้ ไดร้ ับการเชิดชสู งู สดุ จาก สหประชาชาติ (UN) โดยนายโคฟี อันนัน ในฐานะ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ทูลเกล้าฯถวายรางวัล The Human Development Lifetime Achievement Award แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ 26 พฤษภาคม 2549 และได้มีปาฐกถาถึงปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็นปรัชญาที่สามารถเร่ิมได้จากการสร้างภูมิคุ้มกันในตนเอง สู่หมู่บ้าน และสู่เศรษฐกิจ ในวงกว้างข้ึนในท่ีสุด เป็นปรัชญาท่ีมีประโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ โดยท่ีองค์การสหประชาชาติได้ สนับสนนุ ใหป้ ระเทศตา่ ง ๆ ท่เี ป็นสมาชิก 166 ประเทศยึดเปน็ แนวทางสกู่ ารพฒั นาประเทศแบบยงั่ ยนื หลกั แนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพียง การพฒั นาตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง คือการพัฒนาทต่ี ้ังอยู่บนพ้ืนฐานของทางสายกลาง และ ความไมป่ ระมาท โดยคานึงถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภูมคิ ุ้มกนั ท่ีดใี นตวั ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทา ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มหี ลักพจิ ารณาอยู่ 5 สว่ น ดังนี้ กรอบแนวคดิ เปน็ ปรัชญาท่ชี แี้ นะแนวทางการดารงอยู่ และปฏบิ ตั ิตนในทางทค่ี วรจะเปน็ โดยมี พน้ื ฐานมาจากวิถชี วี ติ ดัง้ เดิมของสังคมไทย สามารถนามาประยุกตใ์ ชไ้ ดต้ ลอดเวลา และเปน็ การมองโลกเชิงระบบ ทมี่ กี ารเปล่ียนแปลงอย่ตู ลอดเวลา และเปน็ การมองโลกเชงิ ระบบท่มี ีการเปลีย่ นแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเนน้ การ รอดพน้ จากภัย และวิกฤต เพือ่ ความม่นั คง และความยงั่ ยืนของการพฒั นา คณุ ลกั ษณะ เศรษฐกจิ พอเพียงสามารถนามาประยกุ ตใ์ ชก้ บั การปฏิบัติตนไดใ้ นทกุ ระดับ โดยเน้น การปฏิบตั ิบนทางสายกลาง และการพฒั นาอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน คานยิ าม ความพอเพยี งจะตอ้ งประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ พร้อม ๆ กันดังน้ี ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดีท่ไี ม่น้อยเกินไป และไมม่ ากเกินไปโดยไมเ่ บยี ดเบียน ตนเอง และผอู้ ื่น เช่นการผลติ และการบริโภคทอ่ี ยูใ่ นระดบั พอประมาณ ความมีเหตผุ ล หมายถึง การตดั สินใจเกีย่ วกับระดบั ของความพอเพยี งนั้น จะตอ้ งเป็นไปอย่างมี เหตุผล โดยพจิ ารณาจากเหตปุ จั จยั ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งตลอดจนคานงึ ถงึ ผลทคี่ าดวา่ จะเกิดขน้ึ จากการกระทานั้น ๆ อยา่ ง รอบคอบ การมภี มู คิ ุ้มกันท่ีดใี นตวั หมายถงึ การเตรียมตวั ใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบ และการเปลย่ี นแปลงด้าน ต่าง ๆ ทจี่ ะเกิดขนึ้ โดยคานึงถึงความเปน็ ไปได้ของสถานการณ์ ตา่ ง ๆ ที่คาดวา่ จะเกิดขน้ึ ในอนาคตทงั้ ใกล้ และไกล เงอ่ื นไข การตดั สนิ ใจและการดาเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ ให้อย่ใู นระดับพอเพยี งนนั้ ตอ้ งอาศัยทัง้ ความรู้ และคณุ ธรรมเป็นพน้ื ฐาน กลา่ วคือ สรุปผลการดาเนนิ งาน โครงการพัฒนาหมู่บา้ นตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 4

เงอื่ นไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรูเ้ กี่ยวกบั วชิ าการตา่ ง ๆ ที่เกยี่ วขอ้ งอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนาความรเู้ หลา่ นนั้ มาพิจารณาให้เชือ่ มโยงกนั เพ่อื ประกอบการวางแผน และความระมดั ระวงั ในขั้นปฏิบตั ิ เง่อื นไขคุณธรรม ทจ่ี ะตอ้ งเสริมสรา้ งประกอบดว้ ย มีความตระหนักในคณุ ธรรม มีความซือ่ สตั ย์ สจุ ริต และมีความอดทน มคี วามเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนินชวี ติ แนวทางปฏบิ ตั ิ / ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับ จากการนาปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใ์ ช้ คอื การพฒั นาท่ีสมดลุ และย่งั ยืน พร้อมรบั ตอ่ การเปลีย่ นแปลงในทกุ ดา้ น ท้ังด้านเศรษฐกิจ สังคม สิง่ แวดลอ้ ม ความรู้ และเทคโนโลยี เศรษฐกิจพอเพยี งกับทฤษฎใี หม่ตามแนวพระราชดาริ เศรษฐกจิ พอเพียง และแนวทางปฏิบตั ขิ องทฤษฎีใหม่ เป็นแนวทางในการพฒั นาทนี่ าไปสู่ ความสามารถในการพง่ึ ตนเอง ในระดบั ต่าง ๆ อยา่ งเป็นขัน้ ตอน โดยลดความเสียงเก่ียวกับความผันแปรของ ธรรมชาติ หรอื การเปลย่ี นแปลงจากปจั จยั ตา่ ง ๆ โดยอาศยั ความพอประมาณ และความมเี หตุผล การสร้าง ภูมคิ ุม้ กันทด่ี ี มคี วามรู้ ความเพยี ร และความอดทน สติ และปัญญา การชว่ ยเหลอื ซึ่งกันและกนั และความสามัคคี เศรษฐกิจพอเพียงความหมายกวา้ งกวา่ ทฤษฎีใหม่ โดยท่เี ศรษฐกิจพอเพียงเป็นกรอบแนวคิดท่ี ชบ้ี อกหลักการ และแนวทางปฏิบัตขิ องทฤษฎีใหม่ ในขณะที่ แนวพระราชดารเิ ก่ียวกับทฤษฎใี หม่ หรอื เกษตร ทฤษฎีใหม่ ซ่งึ เป็นแนวทางการพัฒนาการเกษตรอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอนนน้ั เป็นตวั อย่างการใช้หลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ในทางปฏบิ ัติ ทเ่ี ป็นรูปธรรม เฉพาะในพ้นื ที่ทเ่ี หมาะสม ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดาริ อาจเปรียบเทียบกับหลัก เศรษฐกจิ พอเพียง ซึง่ มอี ยู่ 2 แบบ คือ แบบพื้นฐาน กับ แบบก้าวหนา้ ขั้นที่ 1 ที่มุ่งแก้ปัญหาของเกษตรกรท่ีอยู่ห่างไกลแหล่งน้า ต้องพ่ึงน้าฝน และประสบความเส่ียง จากการทีน่ า้ ไมพ่ อเพียง แมก้ ระท่งั สาหรบั การปลูกข้าวเพ่ือบริโภค และมีข้อสมมติว่า มีที่ดินพอเพียงในการขุดบ่อ เพ่ือแกป้ ญั หาในเร่ืองดงั กลา่ ว จากการแกป้ ญั หาความเส่ยี งเรือ่ งน้า จะทาใหเ้ กษตรกรสามารถมขี ้าวเพอ่ื การบริโภค ยังชพี ในระดบั หน่ึง และใช้ที่ดินส่วนอืน่ ๆ สนองความต้องการพน้ื ฐานของครอบครวั รวมทั้งขายในสว่ นท่ีเหลอื เพื่อ มีรายไดท้ จ่ี ะใช้เป็นค่าใชจ้ า่ ยอน่ื ๆ ทีไ่ ม่สามารถผลิตเองได้ ทงั้ หมดนเี้ ป็นการสร้างภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ใหเ้ กดิ ขน้ึ ในระดับ ครอบครัว อย่างไรก็ตาม แม้กระท่ัง ในทฤษฎีใหม่ขั้นที่ 1 ก็จาเป็นที่เกษตรกรจะต้องได้รับความช่วยเหลือจาก ชุมชนราชการ มูลนิธิ และภาคเอกชน ตามความเหมาะสมความพอเพียงในระดับชุมชน และระดับองค์กรเป็น เศรษฐกจิ พอเพยี งแบบก้าวหน้า ซ่ึงครอบคลมุ ทฤษฎีใหม่ ขั้นที่ 2 เป็นเร่ืองของการสนับสนุนให้เกษตรกรรวมพลังกันในรูปกลุ่มหรือสหกรณ์ หรือการที่ ธุรกิจต่าง ๆ รวมตวั กันในลักษณะเครอื ข่ายวสิ าหกิจ กลา่ วคือ เมื่อสมาชิกในแต่ละครอบครัว หรือองค์กร ต่าง ๆ มีความพอเพยี งข้ันพ้ืนฐานเปน็ เบือ้ งต้นแล้วก็จะรวมกลุ่มกันเพ่ือร่วมมือกันสร้างประโยชน์ให้แก่กลุ่ม และส่วนรวม บนพ้นื ฐานของการไม่เบียดเบยี นกัน การแบ่งปนั ช่วยเหลอื ซ่งึ กนั และกัน ตามกาลงั และความสามารถของตน ซึ่งจะ สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหม่บู า้ นต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 5

สามารถทาให้ ชุมชนโดยรวม หรือเครือข่ายวิสาหกิจน้ัน ๆ เกิดความพอเพียงในวิถีปฏิบัติอย่างแท้จริงความ พอเพยี งในระดับประเทศ เป็นเศรษฐกิจพอเพยี งแบบก้าวหนา้ ซึง่ ครอบคลุมทฤษฎใี หม่ ข้นั ท่ี 3 ซ่งึ ส่งเสรมิ ใหช้ มุ ชน หรือเครือขา่ ยวสิ าหกจิ สรา้ งความร่วมมอื กับองค์กรอื่น ๆ ใน ประเทศ เชน่ บรษิ ัทขนาดใหญ่ ธนาคาร สถาบนั วจิ ยั เป็นตน้ การสร้างเครอื ข่ายความร่วมมือในลกั ษณะเชน่ นี้ จะเปน็ ประโยชน์ในการสบื ทอดภมู ปิ ญั ญา แลกเปล่ยี น ความรู้ เทคโนโลยี และบทเรียนจากการพัฒนา หรอื รว่ มมือกันพฒั นา ตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งทาให้ ประเทศอันเป็นสงั คมใหญอ่ ันประกอบดว้ ยชุมชน องค์กร และธรุ กจิ ตา่ ง ๆ ที่ดาเนินชวี ติ อยา่ งพอเพยี งกลายเปน็ เครอื ข่ายชมุ ชนพอเพียงที่เช่ือมโยงกันด้วยหลกั ไมเ่ บียดเบียน แบ่งปัน และช่วยเหลอื ซ่งึ กันและกนั ได้ในทส่ี ุด ประการทสี่ าคญั ของเศรษฐกิจพอเพียง พอมีพอกนิ ปลกู พชื สวนครวั ไวก้ นิ เองบ้าง ปลูกไม้ผลไว้หลังบ้าน 2-3 ต้น พอทีจ่ ะมีไว้กนิ เองใน ครวั เรอื น เหลอื จงึ ขายไป พออยู่พอใช้ ทาให้บ้านน่าอยู่ ปราศจากสารเคมี กลิ่นเหม็น ใช้แต่ของท่ีเป็นธรรมชาติ (ใช้จุลินทรีย์ผสมน้าถูพ้ืนบ้าน จะสะอาดกว่าใช้น้ายาเคมี) รายจ่ายลดลง สุขภาพจะดีข้ึน (ประหยัดค่า รักษาพยาบาล) พออกพอใจ เราต้องรู้จกั พอ รจู้ ักประมาณตน ไม่ใครอ่ ยากใครม่ เี ชน่ ผู้อนื่ เพราะเราจะหลงติดกับ วัตถุ ปัญญาจะไม่เกดิ \"การจะเป็นเสือนั้นมันไม่สาคัญ สาคัญอยู่ท่ีเราพออยู่พอกิน และมีเศรษฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกิน หมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง\" พระราชดารัสในพระบาทสมเด็จพระ เจา้ อยหู่ วั ฯ 2. ความหมาย โคก-หนอง-นา โมเดล โคก-หนอง-นา โมเดล คอื การจดั การพน้ื ทซ่ี ง่ึ เหมาะกบั พื้นทก่ี ารเกษตร ซึ่งเป็นผสมผสานเกษตร ทฤษฎใี หม่ เขา้ กับภูมปิ ัญญาพืน้ บา้ นท่ีอยอู่ ยา่ งสอดคล้องกับธรรมชาตใิ นพื้นท่ีนนั้ ๆ โคก-หนอง-นา โมเดล เปน็ การ ท่ีใหธ้ รรมชาตจิ ดั การตัวมนั เองโดยมี มนษุ ยเ์ ปน็ ส่วนส่งเสริมให้มันสาเรจ็ เรว็ ขน้ึ อย่างเป็นระบบ โคก-หนอง-นา โมเดล ซงึ่ เป็นแนวทางทาเกษตรอนิ ทรียแ์ ละการสรา้ งชวี ิตที่ย่งั ยนื โดยมี องคป์ ระกอบดังน้ี 1. โคก: พื้นท่ีสงู – ดินทขี่ ดุ ทาหนองน้านน้ั ใหน้ ามาทาโคก บนโคกปลกู “ป่า 3อยา่ ง ประโยชน์ 4 อย่าง” ตามแนวทาง พระราชดาริ สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพัฒนาหมบู่ ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 6

– ปลูกพืช ผัก สวนครวั เลยี้ งหมู เลีย้ งไก่ เล้ียงปลา ทาให้พออยู่ พอกนิ พอใช้ พอรม่ เยน็ เปน็ เศรษฐกจิ พอเพยี งขน้ั พ้ืนฐาน ก่อนเข้าสขู่ ้นั ก้าวหนา้ คอื ทาบุญ ทาทาน เกบ็ รกั ษา คา้ ขาย และเชื่อมโยงเป็นเครอื ขา่ ย – ปลูกท่อี ยู่อาศยั ใหส้ อดคล้องกบั สภาพภมู ปิ ระเทศ และภมู อิ ากาศ 2. หนอง: หนองนา้ หรอื แหลง่ น้า – ขุดหนองเพ่อื กักเกบ็ น้าไวใ้ ชย้ ามหนา้ แลง้ หรอื จาเป็น และเปน็ ทร่ี บั น้ายามนา้ ทว่ ม (หลุมขนมครก) – ขดุ “คลองไสไ้ ก่” หรือคลองระบายนา้ รอบพ้นื ทต่ี ามภูมปิ ญั ญาชาวบ้าน โดยขดุ ให้คดเคยี้ วไปตามพนื้ ท่ี เพอ่ื ให้นา้ กระจายเตม็ พนื้ ที่เพิม่ ความชุ่มชน้ื ลดพลังงานในการรดนา้ ตน้ ไม้ – ทา ฝายทดน้า เพอ่ื เกบ็ น้าเขา้ ไว้ในพนื้ ทใ่ี หม้ ากทีส่ ดุ โดยเฉพาะเม่อื พ้ืนทโ่ี ดยรอบไมม่ ีการกักเกบ็ น้า นา้ จะหลากลงมายงั หนองน้า และคลองไส้ไก่ ให้ทาฝายทดนา้ เกบ็ ไว้ใช้ยามหนา้ แลง้ – พฒั นาแหลง่ นา้ ในพ้ืนที่ ทั้งการขดุ ลอก หนอง คู คลอง เพือ่ กกั เกบ็ น้าไว้ใช้ยามหนา้ แล้ง และเพม่ิ การ ระบายนา้ ยามน้าหลาก 3. นา – พืน้ ทนี่ านั้นให้ปลูกข้าวอินทรยี พ์ ้นื บา้ น โดยเรม่ิ จากการฟนื้ ฟูดนิ ด้วยการทาเกษตรอินทรีย์ยัง่ ยนื คืน ชีวิตเล็กๆ หรือจลุ ินทรียก์ ลับคืนแผ่นดินใช้การควบคุมปรมิ าณนา้ ในนาเพอื่ คมุ หญา้ ทาให้ปลอดสารเคมีได้ ปลอดภยั ทง้ั คนปลกู คนกนิ – ยกคันนาให้มคี วามสงู และกว้าง เพอื่ ใชเ้ ปน็ ท่ีรบั นา้ ยามนา้ ท่วม ปลูกพืชอาหารตามคันนา โดย กรมการพฒั นาชมุ ชน กระทรวงมหาดไทย ได้มกี ารขบั เคล่อื นโครงการ ตามแนวทาง “โคก หนอง นา โมเดล” ทุกหมู่บา้ น ดังภาพประกอบ 3. งานวิจยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ชูพักตร สุทธิสาและชุติมา เมฆวัน (2551, บทคัดยอ) ไดศึกษาเรื่องรูปแบบกระบวนการพัฒนาหมูบาน ตนแบบนาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงสูการปฏิบัติศึกษากรณีบานหนองแขและบานดอนหนอง ตาบลขามเรียง อาเภอกนั ทรวชิ ัย จังหวดมหาสารคาม เปนการวิจัยเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาวิธีการเผยแพรและสร้าง ความรูความเข้าใจเก่ียวกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงและเพ่ือหารูปแบบการพัฒนาท่ีนาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพี ยง มาปรับใช ในการดาเนินชีวิตของตนเองครอบครัวและชุมชน กลุ มตัวอย างประชากรคือตัวแทนชุมชน บานหนองแข และบานดอนหนอง ตาบลขามเรียง อาเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม จานวน 55 คน ผลการวิจัยพบวาวิธีการเผยแพรและสรางความรูความเขาใจเกี่ยวกับแนวคดเศรษฐกิจพอเพียงใชวิธีการเผยแพร โดยใชกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการอยางมีสวนรวม (Participatory Action Research: PAR) เริ่มจากการเก็บ รวบรวมขอมูล การวิเคราะหขอมูล การปฏิบัติการ และการสรุปผล โดยทุกกระบวนการเนนกระบวนการเรียนรู และการมีสวนรวม สาหรับดานรูปแบบการพัฒนาท่ีนาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใชในการดาเนินชีวิตของ ตนเอง ครอบครัว และชุมชนพบวาท้ังสองชุมชนไดนาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใชในการดาเนินชีวิต ใน 4 ดาน ได้แก่ 1) ดานการเพิม่ รายได้ โดยการผลติ ผลิตภณั ฑเพ่ือจาหน่ายเพิ่มรายได 2) ด้านลดรายจ่ายโดยการ สรุปผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหม่บู า้ นต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 7

ผลติ ของใชในครวั เรอื นขึน้ ใชเ้ อง เชน นา้ ยาลางจาน 3) ดา้ นการสืบทอดความรูและการใช้ภมู ปิ ญญาทองถิ่นในการ ผลิตผลติ ภณั ฑ 4) ดานการพฒั นาโดยการปรบั ปรงุ และประยกุ ตความรูแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง สกู ารปฏิบตั ทิ ีเ่ หมาะสมกบั ตนเอง ครอบครวั และชมุ ชน สเุ มธ ตนั ตเิ วชกุล, 2542 กล่าววา่ การนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ และประพฤติ ปฏิบัติ เพื่อท่ีจะให้บรรลุผลสาเร็จในระยะเวลาอันสั้นนั้น มิใช่เร่ืองท่ีจะเป็นไปได้ง่าย ๆ ต้องให้ ความรู้ และสร้าง ความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับประชาชนทุกระดับ โดยอาศัยความร่วมมือจาก ส่วนราชการ และทุกภาคส่วนของ ประเทศ และการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นั้น มีแนวทางในการดาเนินชีวิตดังน้ี คือ ยึดความ ประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละ ความฟุ่มเฟือย ในการดารงชีพอย่างจริงจัง ดังท่ีมีกระแสพระราช ดารัสว่า “ความเป็นอยู่ ท่ีต้องไม่ฟุ้งเฟ้อ ต้องประหยัดไปในทางท่ีถูกต้อง” ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความ ถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาดแคลนในการดารงชพี ก็ตาม ดังทม่ี ีกระแสพระราชดารัสวา่ “ความเจรญิ ของ คนท้งั หลาย ยอ่ มเกิดมาจากการประพฤติชอบและการหาเล้ยี งชีพชอบ เป็นสาคัญ” อดินันต พรหมพันธใจ (2550) ศึกษาเร่ืองการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใชในชุมชน เพ่ือการ จัดการทนประเทศเพ่ือการพัฒนาท่ีย่ังยืน โดยศึกษากรณีชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงที่สามารถใชหลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียงในการบรหิ ารจัดการทุนชุมชน ชมุ ชนบานหนองกลางดงจังหวัดประจวบคีรีขันธและชุมชนวังลุม จังหวัดระนอง มีวัตถุประสงคเพื่อศึกษาการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชุมชน เพ่ือการจัดการทุน ประเทศเพ่ือการพัฒนาที่ยั่งยืน และศึกษาวิธีคิดของชุมชน ตาง ๆ ในการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไป ประยุกต์ใชก้ ับชุมชนของตนเอง สรุปผลการดาเนินงาน โครงการพัฒนาหมู่บ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 8

บทท่ี 3 วธิ กี ารดาเนินงาน การดาเนนิ งานโครงการพัฒนาหมู่บา้ นต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล คณะทางานไดด้ าเนนิ งาน ดังนี้ 1. สารวจกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนบา้ นหนองแปลน หม่ทู ่ี 11 ตาบลทา่ ลาดขาว อาเภอโชคชัย จังหวดั นครราชสีมา จานวน 20 คน 2. ประชุม/ชแ้ี จงวางแผนการดาเนินงาน เพอ่ื กาหนดรูปแบบและวางแผนการดาเนนิ งาน เดือน เมษายน 2564 ณ บ้านหนองแปลน หม่ทู ี่ 11 ตาบลท่าลาดขาว อาเภอโชคชัย จงั หวดั นครราชสมี า 3. จดั เตรียมเอกสาร/วัสดอุ ปุ กรณ์ และประสานสถานที่ เพือ่ เตรยี มความพร้อมดา้ นเอกสารวัสดอุ ุปกรณ์ และสถานที่ เดือน 10 มิถนุ ายน 2564 ณ บา้ นหนองแปลน หมู่ท่ี 11 ตาบลทา่ ลาดขาว อาเภอโชคชัย จังหวดั นครราชสีมา 4. ดาเนนิ การจดั โครงการพัฒนาหมู่บ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ในวันที่ 23 มถิ นุ ายน 2564 โดยดาเนนิ กิจกรรม ดังน้ี เวลา 08.00 น. ณ บ้านหนองแปลน หมู่ที่ 11 ตาบลท่าลาดขาว อาเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสมี า จานวน 20 คน ลงทะเบียนอยา่ งพรอ้ มเพรียง ดาเนนิ การจดั กจิ กรรม ดงั นี้ กจิ กรรมสง่ เสรมิ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ โดย - นายสวกิ เงนิ โคกกรวด นกั วชิ าการเกษตรสานักงานเกษตรอาเภอโชคชยั เปน็ วิทยากรบรรยายให้ความรู้ เรอ่ื ง โคก หนองนา โมเดล ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง/การ ประยกุ ต์ ใช้ ทดี่ ินตามศาสตรพ์ ระราชา “โคกหนองนา โมเดล” /การตรวจสภาพดินทเี่ หมาะสมกบั การปลกู ผัก การนอ้ มนาแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาใช้เป็นแนวทางการดาเนนิ ชีวติ 1. กระตุ้นใหห้ มู่บา้ น ชมุ ชน ประชาชน นอ้ มนาแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นชวี ิตประจาวนั - ขยายผลการับรแู้ ละเข้าใจปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งลงสูห่ มูบ่ า้ น/ชมุ ชน และประชาชนในพื้นที่ให้ ครอบคลุม 2. การเกษตรแบบพ่งึ พาตนเอง ไดแ้ ก่ - การทาไร่นาสวนผสมและการเกษตรแบบผสมผสาน - การปลูกพชื ผกั สวนครัวเพอ่ื ลดรายจา่ ย - การทาปุ๋ยหมัก ปยุ๋ คอก และใช้วสั ดเุ หลือใชเ้ ป็นปัจจัยการผลิตปุย๋ เพื่อลดคา่ ใชจ้ า่ ยและบารุงดนิ - การเพาะเห็ดฟางจากวสั ดเุ หลือใช้ในไร่นา - การปลกู ไม้ผักสวนครัว ไม้ผลสวนหลังบา้ น เพอื่ ประหยัดคา่ ใช้จา่ ยในครัวเรอื น - การปลูกพชื สมุนไพรชว่ ยส่งเสรมิ สขุ ภาพอนามัย - การเล้ยี งปลาในรอ่ งสวน ในนาข้าวและแหล่งนา้ เพอ่ื เปน็ อาหารโปรตีนและเป็นรายไดเ้ สริม - การเลยี้ งไกพ่ นื้ เมอื งและไก่ไข่ - การทากา๊ ชชีวภาพจากมูลสัตว์ สรุปผลการดาเนินงาน โครงการพัฒนาหม่บู ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 9

การปฏิบตั ติ ามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ยึดหลกั พออยู่ พอกนิ พอใช้ 2. ยดึ ความประหยดั ตดั ทอนคา่ ใชจ้ า่ ย ลดความฟมุ่ เฟือย ในการดารงชีพ \"ความเป็นอยู่ท่ตี อ้ งไม่ฟมุ่ เฟือย ต้องประหยดั ไปในทางที่ถูกตอ้ ง\" 3. ยดึ ถอื การประกอบอาชีพดว้ ยความถกู ต้องและสุจรติ \"ความเจรญิ ของคนทั้งหลายย่อมเกิดมาจากการประพฤตชิ อบและการหาเล้ียงชพี ชอบเปน็ สาคญั \" 4. ละเลกิ การแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขนั ในการคา้ ขายประกอบอาชพี แบบต่อสกู้ ันอยา่ งรนุ แรง \"ความสุขความเจรญิ อนั แท้จริง หมายถึง ความสขุ ความเจริญ ทบ่ี คุ คลแสวงหามาไดด้ ว้ ยความเปน็ ธรรม ทงั้ ในเจตนาและการกระทา ไมใ่ ช่ไดม้ าดว้ ยความบงั เอญิ หรอื ดว้ ยการแก่งแย่งเบียดบังจากผ้อู น่ื \" 5. มุ่งเนน้ หาขา้ วหาปลา กอ่ นมุ่งเนน้ หาเงนิ หาทอง 6. ทามาหากินกอ่ นทามาค้าขาย 7. ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ นและที่ดินทากิน คอื ทนุ ทางสงั คม 8. ตัง้ สติทีม่ ัน่ คง ร่างกายทแี่ ขง็ แรงปญั ญาท่เี ฉยี บแหลม 9. นาความร้คู วามเขา้ ใจอยา่ งลกึ ซงึ้ เพอ่ื ปรับวิถชี วี ติ สู่การพฒั นาทีย่ ่ังยนื เศรษฐกจิ พอเพียง คืออะไร “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดารัสช้ีแนะแนว ทางการดาเนินชีวิต แก่ พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้าแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดารงอยู่ได้อย่างม่ันคงและยั่งยืน ภายใตก้ ระแสโลกาภิวตั น์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง \"เศรษฐกิจพอเพียง\" เป็นปรัชญาช้ีถงึ แนวการดารงอยแู่ ละปฏิบตั ิตนของประชาชนในทกุ ระดบั ต้งั แต่ ระดบั ครอบครวั ระดับชุมชนจนถงึ ระดบั รัฐ ท้งั ในการพัฒนาและบรหิ ารประเทศใหด้ าเนินไปใน ทางสาย กลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกจิ เพ่ือให้กา้ วทนั ตอ่ โลกยุคโลกาภวิ ัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผลรวมถึงความจาเป็นท่ีจะต้องมีระบบ ภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ท้ังน้ี จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการนาวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการ วางแผนและการดาเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพ้ืนฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะ เจ้าหนา้ ที่ ของรฐั นักทฤษฎแี ละนักธุรกิจในทกุ ระดบั ให้มีสานึกในคุณธรรม ความซ่ือสัตย์สุจริตและให้มีความรอบรู้ ที่เหมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อ การรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม ส่ิงแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลก ภายนอกไดเ้ ป็นอย่างดี (ประมวลและกลัน่ กรองจากพระราชดารัสของพระ บาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมบู่ า้ นตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 10

เร่ืองเศรษฐกิจพอเพียง ซ่ึงพระราชทานในวโรกาสต่าง ๆ รวมท้ังพระราชดารัสอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับ พระราชทานพระบรมราชานุญาตใหน้ าไปเผยแพร่ เมอ่ื วนั ท่ี 21 พฤศจกิ ายน 2542 เพ่อื เปน็ แนวทางปฏิบัติของทุก ฝา่ ยและประชาชนโดยท่วั ไป) ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ประกอบไปดว้ ย 5 สว่ น ดังน้ี สว่ นท่ี 1. กรอบแนวคดิ เปน็ ปรัชญาที่ชแ้ี นะแนวทางการดารงอยู่ และปฏบิ ัตติ นในทางทค่ี วรจะเป็น โดยมพี น้ื ฐานมาจาก วถิ ีชวี ติ ด้ังเดมิ ของสงั คมไทย สามารถนามาประยกุ ตใ์ ช้ได้ตลอดเวลา และเปน็ การมองโลกเชงิ ระบบทมี่ ีการ เปลย่ี นแปลงอยู่ตลอดเวลา และเปน็ การมองโลกเชิงระบบที่มกี ารเปลีย่ นแปลงอยูต่ ลอดเวลา มงุ่ เนน้ การรอดพ้น จากภัย และวกิ ฤต เพ่อื ความม่ันคง และความยั่งยนื ของการพฒั นา ส่วนที่ 2. คุณลกั ษณะ เศรษฐกิจพอเพียง สามารถนามาประยกุ ตใ์ ชก้ บั การปฏิบัตติ นไดใ้ นทกุ ระดบั โดยเนน้ การปฏิบตั ิ บนทางสายกลาง และการพัฒนาอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอน ส่วนท่ี 3. คานิยาม ความพอเพียงจะตอ้ งประกอบด้วย 3 คณุ ลักษณะ ดงั นี้ ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีท่ไี ม่น้อยเกินไป และไม่มากเกินไปโดยไม่ เบยี ดเบียนตนเอง และผู้อ่ืน เช่นการผลติ และการบรโิ ภคท่ีอยใู่ นระดบั พอประมาณ ความมีเหตุผล หมายถึง การตดั สินใจเกยี่ วกับระดบั ของความพอเพียงนั้น จะตอ้ งเป็นไป อยา่ งมีเหตผุ ล โดยพิจารณาจากเหตุปจั จยั ทเ่ี กีย่ วข้องตลอดจนคานึงถงึ ผลทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ จากการกระทาน้ัน ๆ อย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกนั ทดี่ ใี นตวั หมายถงึ การเตรยี มตวั ให้พรอ้ มรบั ผลกระทบ และการ เปลีย่ นแปลงดา้ นตา่ ง ๆ ท่จี ะเกิดข้นึ โดยคานงึ ถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ตา่ ง ๆ ที่คาดวา่ จะเกดิ ขน้ึ ใน อนาคตทัง้ ใกล้ และไกล สว่ นที่ 4 เงือ่ นไข การตดั สินใจและการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อย่ใู นระดบั พอเพยี งนนั้ ตอ้ งอาศยั ท้ังความรู้ และคุณธรรมเปน็ พ้ืนฐาน 2 เงือ่ นไข ดงั น้ี เง่ือนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรูเ้ กย่ี วกับวิชาการตา่ ง ๆ ท่เี กีย่ วข้องอยา่ งรอบ ด้าน ความรอบคอบที่จะนาความร้เู หลา่ น้นั มาพจิ ารณาใหเ้ ชือ่ มโยงกัน เพอื่ ประกอบการวางแผน และความ ระมดั ระวังในขั้นปฏบิ ตั ิ เงอ่ื นไขคณุ ธรรม ทจ่ี ะตอ้ งเสริมสร้างประกอบดว้ ย มีความตระหนักในคุณธรรม มคี วามซ่ือสตั ย์สจุ รติ และมีความอดทน มคี วามเพียร ใช้สติปญั ญาในการดาเนินชวี ิต สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมู่บ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 11

สว่ นที่ 5. แนวทางปฏิบัติ / ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ จากการนาปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยกุ ต์ใช้ คอื การพัฒนาทสี่ มดลุ และย่ังยนื พร้อม รบั ตอ่ การเปล่ียนแปลงในทุกด้าน ท้งั ด้านเศรษฐกจิ สงั คม ส่งิ แวดล้อม ความรู้ และเทคโนโลยี โคก-หนอง-นา โมเดล โคก-หนอง-นา โมเดล คอื การจดั การพ้นื ที่ซึ่งเหมาะกบั พ้นื ท่กี ารเกษตร ซ่ึงเป็นผสมผสานเกษตรทฤษฎี ใหม่ เข้ากบั ภมู ปิ ัญญาพืน้ บ้านทอ่ี ยอู่ ยา่ งสอดคลอ้ งกับธรรมชาตใิ นพ้ืนท่นี นั้ ๆ โคก-หนอง-นา โมเดล เปน็ การทใี่ ห้ ธรรมชาตจิ ัดการตวั มันเองโดยมี มนษุ ยเ์ ปน็ ส่วนส่งเสริมใหม้ นั สาเร็จเร็วขน้ึ อยา่ งเปน็ ระบบ โคก-หนอง-นา โมเดล ซง่ึ เปน็ แนวทางทาเกษตรอนิ ทรยี แ์ ละการสรา้ งชวี ิตทยี่ ่ังยืน โดยมอี งค์ประกอบดังน้ี 1. โคก: พ้นื ทส่ี ูง – ดินที่ขดุ ทาหนองนา้ นน้ั ใหน้ ามาทาโคก บนโคกปลูก “ปา่ 3อยา่ ง ประโยชน์ 4 อย่าง” ตามแนวทาง พระราชดาริ – ปลกู พชื ผกั สวนครวั เลย้ี งหมู เล้ยี งไก่ เล้ียงปลา ทาให้พออยู่ พอกนิ พอใช้ พอรม่ เยน็ เป็นเศรษฐกิจ พอเพยี งข้ันพื้นฐาน ก่อนเขา้ สู่ขน้ั กา้ วหนา้ คอื ทาบญุ ทาทาน เกบ็ รกั ษา คา้ ขาย และเชอ่ื มโยงเป็นเครอื ข่าย – ปลูกทีอ่ ยู่อาศยั ใหส้ อดคล้องกบั สภาพภมู ิประเทศ และภมู อิ ากาศ 2. หนอง: หนองน้าหรอื แหลง่ น้า – ขดุ หนองเพื่อกักเกบ็ น้าไว้ใชย้ ามหนา้ แล้งหรือจาเป็น และเป็นทรี่ ับนา้ ยามนา้ ทว่ ม (หลุมขนมครก) – ขดุ “คลองไสไ้ ก่” หรอื คลองระบายนา้ รอบพน้ื ท่ตี ามภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น โดยขุดใหค้ ดเคยี้ วไปตามพน้ื ที่ เพ่ือใหน้ า้ กระจายเต็มพน้ื ทเ่ี พิ่มความชมุ่ ช้ืน ลดพลงั งานในการรดนา้ ต้นไม้ – ทา ฝายทดนา้ เพ่ือเกบ็ นา้ เขา้ ไว้ในพน้ื ทใ่ี ห้มากทส่ี ุด โดยเฉพาะเมอื่ พ้นื ทโ่ี ดยรอบไม่มีการกกั เกบ็ นา้ นา้ จะหลากลงมายังหนองนา้ และคลองไส้ไก่ ใหท้ าฝายทดนา้ เกบ็ ไว้ใชย้ ามหนา้ แล้ง – พฒั นาแหล่งนา้ ในพืน้ ที่ ท้ังการขุดลอก หนอง คู คลอง เพ่อื กักเก็บนา้ ไว้ใชย้ ามหนา้ แล้ง และเพมิ่ การ ระบายนา้ ยามน้าหลาก 3. นา – พื้นทน่ี านนั้ ใหป้ ลกู ขา้ วอนิ ทรยี พ์ นื้ บ้าน โดยเรม่ิ จากการฟน้ื ฟดู นิ ด้วยการทาเกษตรอินทรียย์ ่งั ยืน คนื ชีวติ เลก็ ๆ หรอื จุลนิ ทรีย์กลบั คนื แผน่ ดินใช้การควบคุมปริมาณนา้ ในนาเพื่อคุมหญา้ ทาใหป้ ลอดสารเคมีได้ ปลอดภัยทั้งคนปลูก คนกิน – ยกคันนาใหม้ คี วามสงู และกวา้ ง เพ่ือใช้เป็นท่ีรบั น้ายามน้าทว่ ม ปลกู พืชอาหารตามคันนา โดย กรมการพฒั นาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ไดม้ ีการขบั เคล่ือนโครงการ ตามแนวทาง “โคก หนอง นา โมเดล” ทุกหมบู่ า้ น ดงั ภาพประกอบ สรุปผลการดาเนินงาน โครงการพัฒนาหมบู่ ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 12

5. การนิเทศติดตามผลการดาเนินงานให้เปน็ ไปตามแผน หลังจากเสร็จสิน้ โครงการ ให้ผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรม ตอบแบบประเมินโครงการ ณ บ้านหนองแปลน หมู่ท่ี 11 ตาบลท่าลาดขาว อาเภอโชคชยั จงั หวดั นครราชสมี า 6. สรปุ และรายงานผลการดาเนินงาน ให้หน่วยงาน และผูเ้ กี่ยวขอ้ งทราบ จดั ทาสรุปผลโครงการ เพือ่ เป็น แนวทางในการพฒั นา การจดั กจิ กรรม ครั้งต่อไป สรุปผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมบู่ า้ นตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 13

บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู การวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผล โครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล มีวิธีการดาเนินงาน ดังนี้มกี ลุม่ เปา้ หมาย ประชาชนในพน้ื ทต่ี าบลท่าลาดขาวจานวน 20 คน เคร่ืองมือท่ี ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบประเมินโครงการ ได้นาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในแบบตารางความถี่ ค่าเฉลี่ย และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) ซง่ึ ใชโ้ ปรแกรม SPSS เพอ่ื วเิ คราะห์ค่าสถิติท้งั หมด ดัง มรี ายละเอียดตอ่ ไปนี้ ตอนที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ โดยการแจกแจงความถี่และค่าร้อยละ ของตัวแปร ตอนที่ 2 วิเคราะห์ผลการประเมินโครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล มีวิธีการ ดาเนินงาน ดงั นี้โดยการแจกแจงคา่ เฉลย่ี ค่าเบีย่ งเบนมาตรฐาน ตอนที่ 3 ความคดิ เห็น และข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ตอนท่ี 1 วิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ โดยการแจกแจงความถ่ีและค่าร้อยละ ของตัวแปร ตารางที่ 1 จานวน และค่าร้อยละ ของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จาแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ (N=20) ข้อมลู ส่วนตวั รวม จานวน รอ้ ยละ 1. เพศ ชาย รวม 8 40.00 หญงิ 12 60.00* 20 100 2. อายุ ตา่ กว่า 15 ปี - 15 – 39 ปี - - 40 – 59 ปี 10 - 60 ปขี ้ึนไป 10 50.00 20 50.00 100 สรุปผลการดาเนนิ งาน โครงการพัฒนาหมู่บ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 14

ขอ้ มูลสว่ นตวั จานวน รอ้ ยละ 3. ระดับ ประถมศึกษา 13 65.00* 7 35.00 การศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น - มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 20 - 16 100 รวม 4 80.00* 20 20.00 4. อาชีพ เกษตรกรรม 100 รบั จ้าง รวม หมายเหตุ : * หมายถงึ ข้อมลู ส่วนใหญ่ จากตารางท่ี 1 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จานวน 20 คน ส่วนใหญ่เปน็ เพศหญิง จานวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 60.00 เพศชาย จานวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 40.00 ส่วนใหญ่มีอายุ 40 -59 ปี จานวน 10 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 50.00 และอายุ 60 ปีขึ้นไป จานวน 10 คน คิดเปน็ ร้อยละ 50.00 ระดับการศึกษาส่วนใหญ่จบ การศึกษา ระดับประถมศึกษา จานวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 65.00 รองลงมา คือ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 7 คน คดิ เป็นร้อยละ 35.00 สว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกรรม จานวน 16 คน คดิ เป็นร้อยละ 80.00 รองลงมา คือ และรบั จา้ ง จานวน 4 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20.00 ตามลาดบั ตอนท่ี 2 วเิ คราะหผ์ ลการประเมินกิจกรรมโครงการพัฒนาหม่บู ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล โดยการ แจกแจงค่าเฉลี่ย ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน การจาแนกระดบั ผลการประเมนิ โครงการ แบบมาตรฐานประมาณคา่ (Rating Scale) มี 5 ระดบั ดังน้ี 5 คะแนน คอื ระดับผลการประเมนิ มากท่สี ุด 4 คะแนน คอื ระดับผลการประเมินมาก 3 คะแนน คือ ระดบั ผลการประเมินปานกลาง 2 คะแนน คือ ระดบั ผลการประเมนิ นอ้ ย 1 คะแนน คือ ระดบั ผลการประเมนิ น้อยที่สดุ N คอื จานวนผู้ตอบแบบประเมิน ̅ คือ ระดบั คา่ เฉล่ียผลการประเมิน S.D. (Standard deviation) คือ ค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐาน สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพัฒนาหมบู่ ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 15

คา่ เฉลย่ี ระดบั ผลการประเมินของผ้ตู อบแบบประเมนิ โครงการ คา่ เฉลยี่ 4.50 – 5.00 คะแนน หมายถงึ มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดับมากท่สี ดุ คา่ เฉลย่ี 3.50 – 4.49 คะแนน หมายถึง มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดบั มาก ค่าเฉลีย่ 2.50 – 3.49 คะแนน หมายถงึ มีผลการประเมินอยใู่ นระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย 1.50 – 2.49 คะแนน หมายถึง มผี ลการประเมินอยูใ่ นระดบั น้อย คา่ เฉลย่ี 1.00 – 1.49 คะแนน หมายถึง มผี ลการประเมินอยใู่ นระดบั น้อยทส่ี ดุ ตารางท่ี 2.1 คา่ เฉลยี่ ค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการพฒั นา หม่บู า้ นตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ของผ้ตู อบแบบประเมนิ โครงการ ในภาพรวมและรายด้าน รายการ N = 20 ระดบั ผลการประเมิน ̅ S.D. 1. ความพงึ พอใจด้านเนื้อหา 3.70 0.60 มาก 2. ความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรมการอบรม 3.62 0.60 มาก 3. ความพงึ พอใจต่อวทิ ยากร 4.06 0.79 มาก 4. ความพงึ พอใจด้านการอานวยความสะดวก มาก 3.80 0.79 มาก รวม 3.79 0.70 จากตารางที่ 2.1 พบวา่ ผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการพฒั นาหมบู่ ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล มผี ลการประเมนิ โครงการในภาพรวม อยใู่ นระดับมาก (̅=3.79) เม่ือพิจารณาเป็นรายดา้ นพบวา่ ความพงึ พอใจต่อวิทยากร มีผลการประเมินอยูใ่ นระดบั มาก (̅=4.06) รองลงมาคือความพึงพอใจด้านการอานวย ความสะดวก มีผลการประเมนิ อยูใ่ นระดบั มาก (̅=3.80) ความพึงพอใจด้านเน้ือหา มีผลการประเมินอยู่ในระดับ มาก (̅=3.70) และความพึงพอใจ ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.62) ตามลาดับ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพัฒนาหมบู่ ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 16

ตารางท่ี 2.2 ค่าเฉลย่ี คา่ เบ่ยี งเบนมาตรฐาน และระดับผลการประเมินกิจกรรมโครงการพฒั นา หมู่บ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการ ด้านความพงึ พอใจ ด้านเนอื้ หา โดยจาแนกเปน็ รายข้อ ดงั นี้ รายการ N = 20 ระดับผลการประเมนิ ด้านที่ 1 ความพงึ พอใจดา้ นเนอ้ื หา ̅ S.D. 1. เนอ้ื หาตรงตามความต้องการ 2. เนอ้ื หาเพยี งพอตอ่ ความต้องการ 4.30 0.48 มาก 3. เน้ือหาปจั จบุ นั ทันสมัย 3.30 0.48 มาก 4. เนื้อหามีประโยชน์ตอ่ การนาไปใชใ้ นการพัฒนา 3.40 0.51 มาก คณุ ภาพชวี ิต 3.80 0.91 มาก รวม 3.70 0.60 มาก จากตารางท่ี 2.2 พบวา่ โครงการพฒั นาหมบู่ ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการ ในด้าน ความพึงพอใจด้านเนื้อหา อยู่ในระดับมาก (̅=3.70) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า เนื้อหาตรงตาม ความต้องการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.30) รองลงมา คอื เนื้อหามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการ พัฒนาคุณภาพชีวิต มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.80) เน้ือหาปัจจุบันทันสมัย มีผลการประเมินอยู่ใน ระดับมาก (̅=3.40) และเน้ือหาเพียงพอต่อความต้องการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.30) ตามลาดับ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพัฒนาหมบู่ า้ นต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 17

ตารางที่ 2.3 ค่าเฉล่ยี คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน และระดับผลการประเมินกิจกรรมโครงการพัฒนา หมู่บา้ นต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ของผูต้ อบแบบประเมนิ โครงการ ด้านความพึงพอใจด้านกระบวนการ จดั กิจกรรมการอบรม โดยจาแนกเปน็ รายข้อ ดังน้ี รายการ N = 20 ระดบั ผลการประเมนิ ̅ S.D. มาก มาก ด้านที่ 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม มาก มาก 5. การเตรยี มความพร้อมกอ่ นอบรม 3.50 0.52 มาก มาก 6. การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ 4.30 0.94 7. การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับเวลา 3.30 0.49 8. การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมาย 3.60 0.51 9. วธิ กี ารวดั ผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ 3.40 0.51 รวม 3.62 0.60 จากตารางท่ี 2.3 พบวา่ โครงการพัฒนาหมูบ่ ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการ ในดา้ นความพงึ พอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม อยู่ในระดับมาก (̅=3.62) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ มผี ลการประเมนิ อยใู่ นระดับมากทสี่ ดุ (̅=4.30) รองลงมา คอื การจดั กิจกรรมเหมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมาย มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (̅=3.60) การเตรียมความ พร้อมก่อนอบรม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (̅=3.50)วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับ วัตถปุ ระสงค์ มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดับมาก (̅=3.40) และการจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั เวลา มีผลการประเมิน อยู่ในระดบั มาก (̅=3.30) ตามลาดับ สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 18

ตารางที่ 2.4 ค่าเฉลย่ี คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมินกจิ กรรมโครงการพัฒนา หมู่บา้ นตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการ ด้านความพึงพอใจตอ่ วทิ ยากร โดยจาแนกเปน็ รายขอ้ ดังนี้ รายการ N = 20 ระดับผลการประเมนิ ดา้ นท่ี 3 ความพึงพอใจตอ่ วทิ ยากร ̅ S.D. 10. วิทยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในเร่ืองท่ีถ่ายทอด 11. วิทยากรมีเทคนคิ การถ่ายทอดใช้ส่อื เหมาะสม 4.50 0.84 มากที่สดุ 12. วิทยากรเปิดโอกาสให้มสี ่วนรว่ มและซกั ถาม 3.80 0.79 มาก 3.90 0.76 มาก รวม 4.06 0.79 มาก จากตารางที่ 2.4 พบว่า โครงการพฒั นาหมบู่ ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล มีผลการประเมนิ โครงการ ในความพึงพอใจตอ่ วิทยากร มีผลการประเมินอยใู่ นระดับมาก (̅=4.06) เมอ่ื พิจารณาเป็นรายข้อพบว่า วิทยากร มีความรคู้ วามสามารถในเร่ืองทถ่ี ่ายทอด มีผลการประเมินอยใู่ นระดบั มาก (̅=4.50) รองลงมาคือวิทยากรเปิด โอกาสให้มีสว่ นร่วมและซักถาม มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดับมาก (̅=3.90) และ วิทยากรมีเทคนคิ การถา่ ยทอด ใชส้ ่อื เหมาะสม ตามลาดบั ตารางที่ 2.5 คา่ เฉลยี่ คา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมนิ กิจกรรมโครงการพัฒนา หมบู่ า้ นตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ ความพงึ พอใจดา้ นการอานวย ความสะดวก โดยจาแนกเป็นรายข้อ ดงั นี้ รายการ N = 20 ระดบั ผลการประเมิน ̅ S.D. ด้านท่ี 4 ความพงึ พอใจด้านการอานวยความสะดวก มาก 13. สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวยความสะดวก 3.80 0.79 มาก 14. การส่ือสาร การสรา้ งบรรยากาศเพ่อื ให้เกิดการเรยี นรู้ 3.80 0.79 มาก 15. การบริการ การชว่ ยเหลอื และการแก้ปัญหา 3.80 0.79 มาก 3.80 0.79 รวม สรปุ ผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมบู่ ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 19

จากตารางท่ี 2.5 พบวา่ โครงการพฒั นาหมู่บ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการ ในดา้ นความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวก มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.80) เม่ือพิจารณาเป็น รายข้อพบว่า สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอานวยความสะดวก มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.80) การ ส่ือสาร การสร้างบรรยากาศเพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.80) และการบริการ การช่วยเหลอื และการแกป้ ัญหา มีผลการประเมินอยใู่ นระดับมาก (̅=3.80) ตามลาดบั ตอนท่ี 3 ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะอ่นื ๆ ควรสง่ เสริมสนับสนนุ กจิ กรรม โคก หนองนา โมเดล อย่างต่อเน่อื ง เพื่อให้ประชาชนมอี าชพี ท่หี ลากหลาย สรุปผลการดาเนนิ งาน โครงการพัฒนาหมบู่ า้ นต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 20

บทที่ 5 สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ จากการวิเคราะห์ข้อมลู ผลการดาเนินงานโครงการพัฒนาหมูบ่ ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล สามารถ สรปุ ผล อภิปรายผล และมขี อ้ เสนอแนะดงั นี้ ตอนท่ี 1 วเิ คราะห์ข้อมลู ส่วนตวั ของผ้ตู อบแบบประเมนิ ในภาพรวม จากตารางที่ 1 พบวา่ ผู้ตอบแบบประเมนิ โครงการ จานวน 20 คน สว่ นใหญเ่ ป็นเพศหญงิ จานวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 60.00 เพศชาย จานวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 40.00 ส่วนใหญ่มีอายุ 40 -59 ปี จานวน 10 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 50.00 และอายุ 60 ปีข้ึนไป จานวน 10 คน คดิ เป็นร้อยละ 50.00 ระดับการศึกษาส่วนใหญ่จบ การศึกษา ระดับประถมศึกษา จานวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 65.00 รองลงมา คือ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 7 คน คดิ เป็นร้อยละ 35.00 สว่ นใหญป่ ระกอบอาชีพ เกษตรกรรม จานวน 16 คน คิดเปน็ ร้อยละ 80.00 รองลงมา คือ และรบั จ้าง จานวน 4 คน คดิ เป็นร้อยละ 20.00 ตามลาดบั จากตารางท่ี 2.1 พบวา่ ผตู้ อบแบบประเมินโครงการพฒั นาหมู่บ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการในภาพรวม อยใู่ นระดับมาก (̅=3.79) เมอื่ พิจารณาเปน็ รายด้านพบว่า ความพงึ พอใจต่อวทิ ยากร มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดับมาก (̅=4.06) รองลงมาคอื ความพึงพอใจด้านการอานวย ความสะดวก มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั มาก (̅=3.80) ความพึงพอใจด้านเน้ือหา มีผลการประเมินอยู่ในระดับ มาก (̅=3.70) และความพึงพอใจ ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.62) ตามลาดับ จากตารางท่ี 2.2 พบว่า โครงการพัฒนาหมบู่ ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการ ในด้าน ความพึงพอใจด้านเน้ือหา อยู่ในระดับมาก (̅=3.70) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า เน้ือหาตรงตาม ความตอ้ งการ มผี ลการประเมินอยใู่ นระดับมาก (̅=4.30) รองลงมา คือเนอ้ื หามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการ พัฒนาคุณภาพชีวิต มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.80) เน้ือหาปัจจุบันทันสมัย มีผลการประเมินอยู่ใน ระดับมาก (̅=3.40) และเน้ือหาเพียงพอต่อความต้องการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.30) ตามลาดับ สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพัฒนาหมู่บา้ นตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลทา่ ลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 21

จากตารางที่ 2.3 พบว่า โครงการพฒั นาหมบู่ ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการ ในด้านความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม อยู่ในระดับมาก (̅=3.62) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบวา่ การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดบั มากท่สี ุด (̅=4.30) รองลงมา คือ การจดั กิจกรรมเหมาะสมกบั กลุม่ เป้าหมาย มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (̅=3.60) การเตรียมความ พร้อมก่อนอบรม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (̅=3.50)วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับ วตั ถุประสงค์ มผี ลการประเมินอยูใ่ นระดับมาก (̅=3.40) และการจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั เวลา มีผลการประเมิน อยู่ในระดบั มาก (̅=3.30) ตามลาดบั จากตารางท่ี 2.4 พบวา่ โครงการพฒั นาหม่บู า้ นตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล มีผลการประเมนิ โครงการ ในความพึงพอใจต่อวิทยากร มีผลการประเมนิ อยูใ่ นระดับมาก (̅=4.06) เมอ่ื พจิ ารณาเปน็ รายข้อพบว่า วทิ ยากร มีความรคู้ วามสามารถในเร่อื งทถ่ี ่ายทอด มีผลการประเมินอย่ใู นระดบั มาก (̅=4.50) รองลงมาคือวิทยากรเปดิ โอกาสใหม้ สี ่วนร่วมและซักถาม มผี ลการประเมินอย่ใู นระดับมาก (̅=3.90) และ วทิ ยากรมีเทคนคิ การถา่ ยทอด ใช้ส่ือเหมาะสม ตามลาดบั จากตารางท่ี 2.5 พบวา่ โครงการพฒั นาหมูบ่ ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล มีผลการประเมินโครงการ ในดา้ นความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวก มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.80) เมื่อพิจารณาเป็น รายข้อพบว่า สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวยความสะดวก มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.80) การ สื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=3.80) และการบริการ การชว่ ยเหลือและการแก้ปัญหา มผี ลการประเมินอยู่ในระดบั มาก (̅=3.80) ตามลาดับ ตอนท่ี 3 ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ ควรสง่ เสริมสนับสนุนกิจกรรมโคก หนองนา โมเดล อยา่ งต่อเน่อื ง เพอ่ื ใหป้ ระชาชนมอี าชพี ที่หลากหลาย อภิปรายผล จากการสรุปผลโครงการพฒั นาหมูบ่ ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล มผี ลการประเมินพบว่า อยู่ในระดับ มาก (̅=3.79) ท้ังนี้อาจเป็นเพราะ คณะทางาน ได้ประชุม/ชี้แจงวางแผนการดาเนินงาน แก่บุคลากร กศน. อาเภอโชคชัย กาหนดรูปแบบ และแผนการดาเนินงาน จัดเตรียมความพร้อมในการดาเนินงานโครงการ มีการ นิเทศกจิ กรรมโครงการอยา่ งต่อเน่ือง เพ่ือแกไ้ ขปรบั ปรุงใหเ้ กิดความเหมาะสม สรปุ ผลการดาเนนิ งาน โครงการพัฒนาหมูบ่ า้ นต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 22

จากผลการประเมินดังกลา่ ว มปี ระเดน็ ทีน่ า่ สนใจนามาอภปิ รายผล คือความพึงพอใจต่อวทิ ยากร มผี ลการ ประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.06) ท้ังนี้อาจเป็นเพราะว่า วิทยากรมีความรู้ความสามารถ ในเรื่อง ที่ถ่ายทอด วิทยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดใช้ส่ือเหมาะสม วิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม และซักถาม ทาให้ประชาชน ในเขตพ้ืนที่ตาบลท่าลาดขาว ได้รับความรู้ สามารถนาไปประกอบอาชีพ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ลดรายจา่ ย สรา้ งรายได้ ให้ตนเอง และครอบครัว ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุเมธ ตันติเวชกุล (2552) เร่ือง การดาเนินชีวิตในระบบเศรษฐกิจแบบ พอเพียงตามแนว พระราชดาริ กล่าวไว้ว่า การนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ และประพฤติ ปฏิบัติ เพื่อที่จะให้บรรลุผลสาเร็จในระยะเวลาอันสั้นน้ัน มิใช่เร่ืองท่ีจะเป็นไปได้ง่าย ๆ ต้องให้ ความรู้ และสร้าง ความเข้าใจให้เกิดข้ึนกับประชาชนทุกระดับ โดยอาศัยความร่วมมือจาก ส่วนราชการ และทุกภาคส่ว นของ ประเทศ และการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง น้ัน มีแนวทางในการดาเนินชีวิตดังนี้ คือ ยึดความ ประหยดั ตัดทอนคา่ ใชจ้ ่ายในทุกด้าน ลดละ ความฟุ่มเฟือย ในการดารงชีพอย่างจริงจัง ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัย ของ อดินนั ต พรหมพนั ธใจ (2550) ศกึ ษาเรอ่ื งการนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาใชในชมุ ชน เพ่ือการจดั การ ทนประเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยศึกษากรณีชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงที่สามารถใช หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงในการบริหารจัดการทุนชุมชน ชุมชนบานหนองกลางดงจังหวัดประจวบคีรีขันธและชุมชนวังลุม จังหวัด ระนอง มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชุมชน เพื่อการจัดการทุนประเทศ เพ่ือการพัฒนาท่ีย่ังยืน และศึกษาวิธีคิดของชุมชน ตาง ๆ ในการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ กับชมุ ชนของตนเอง สอดคล้องกบั ยุทธศาสตรน์ โยบาย และจดุ เน้นการดาเนนิ งาน สานักงาน กศน.ประจาปงี บประมาณ 2564 ความสอดคล้องกบั นโยบาย กศน. ภารกิจตอ่ เน่ือง ข้อ 1.3 การศึกษาต่อเนื่อง ข้อ 4) การจดั กจิ กรรมการ เรียนร้ตู ามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกระบวนการเรียนรตู้ ลอดชวี ติ ในรูปแบบต่าง ๆ ใหก้ บั ประชาชน เพ่อื เสรมิ สรา้ งภูมคิ ุม้ กนั สามารถยนื หยัดอยู่ได้อยา่ งมนั่ คง และมีการบรหิ ารจดั การความเส่ียงอยา่ งเหมาะสม ตามทศิ ทางการพัฒนาประเทศสคู่ วามสมดลุ และย่ังยืน สง่ ผลใหโ้ ครงการพัฒนาหมู่บา้ นต้นแบบ โคกหนองนา โมเดล ประสบผลสาเรจ็ ตามวตั ถปุ ระสงคท์ ่กี าหนด สรุปผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมู่บา้ นตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปีงบประมาณ 2564 23

ข้อเสนอแนะเพอื่ การพฒั นาครัง้ ตอ่ ไป ควรมีการตดิ ตามผลการดาเนนิ งานของผทู้ ีเ่ ขา้ รว่ มโครงการตามขนั้ ตอน เพ่อื ใหเ้ กดิ ผลประโยชน์ สูงสุด แก่ประชาชนที่เขา้ รว่ มโครงการ สรุปผลการดาเนินงาน โครงการพฒั นาหมู่บ้านต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล ตาบลท่าลาดขาว ปงี บประมาณ 2564 24

บรรณานุกรม กรมการพัฒนาชมุ ชน. (2551). แนวทางส่งเสริมเศรษฐกจิ พอเพียงในชมุ ชนสาหรบั เจา้ หนา้ ที่พัฒนาชมุ ชน. กรงุ เทพมหานคร: บางกอกบลอ็ ก. เกษรา จทู อง. (2554). การนาแนวคดิ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน: กรณศี กึ ษา ประชาชนในตาบลวังตะกูอาเภอเมือง จงั หวัดนครปฐม. วิทยานพิ นธ์ ปริญญาศลิ ปศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชา การจดั การภาครัฐและภาคเอกชน บณั ฑติ วิทยาลยั มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร. การนอ้ มนาแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง มาใช้เป็นแนวทางการดาเนินชวี ิต. [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก http://school.obec.go.th/sawatee/king_thai/justeconomic.htm (วันที่ค้นข้อมูล วันที่ 25 กรกฎาคม 2564). ชมุ ชนปฐมอโศก. (2556). รายงานการประชุมชมุ ชนปฐมอโศก วนั ที่ 16 กนั ยายน 2556. นครปฐม: ชมุ ชน ปฐมอโศก. เศรษฐกจิ พอเพยี ง [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก http://www.tupr.ac.th/sufficency1.php (วนั ท่ีค้นข้อมลู วนั ท่ี 25 กรกฎาคม 2564). สานักงาน กศน. (2561). ยุทธศาสตร์และจุดเนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน. ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2561. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://ubon.nfe.go.th/Joomla/index.php?option=com_ content&view=article&id=1444:-2559&catid=39:plan&Itemid=56). (วันทคี่ ้นข้อมูล วันท่ี 25 กรกฎาคม 2564). สเุ มธ ตันติเวชกลุ . (2552). การดาเนนิ ชีวิตในระบบเศรษฐกิจแบบพอเพยี งตามแนว พระราชดาร.ิ วารสารนา, 20 (2), 249-250. (วนั ท่คี ้นข้อมูล วนั ที่ 25 กรกฎาคม 2564).

ภาคผนวก

รายชอ่ื ผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาหมู่บา้ นตน้ แบบ โคกหนองนา โมเดล ณ บ้านหนองแปลน หมู่ 11 ตาบลทา่ ลาดขาว อาเภอโชคชยั จงั หวัดนครราชสมี า ในวนั ที่ 23 มิถนุ ายน 2564 ลาดบั ท่ี ชือ่ – นามสกลุ หมายเหตุ 1 นางเพลนิ พิศ ทองครบุรี 2 นางถนดั อนิ ทรศ์ รี 3 นางพนู คนกระโทก 4 นางวชั ราภรณ์ จูงกระโทก 5 นางผนั จูกระโทก 6 นางหยัด แกว้ กุลธร 7 นางสนดั สุขเกษม 8 นางบวั ลอย จัง่ กระโทก 9 นางแจง ทองพลิ า 10 นางทวาย จา่ ยกระโทก 11 นางสมใจ จลุ กระโทก 12 นางสาวอมรรตั น์ จุ้ยกระโทก 13 นายบญั ญัติ จั้นกระโทก 14 นายสมร เพ็งกระโทก 15 นายสนนุ่ เคลา้ กระโทก 16 นายมนตรี แซวกระโทก 17 นายบุญเรียน คนกระโทก 18 นายมนัส ทองศร 19 นายโปย แสดกระโทก 20 นายสมพงษ์ แก้วกลุ ธร โครงการพฒั นาหมบู่ า้ นตน้ แบบ โคก หนอง นา โมเดล

วนั ท่ี 23 มิถนุ ายน พ.ศ. 2564 ครู กศน.ตาบลท่าลาดขาว จดั กิจกรรม โครงการพฒั นาหมู่บ้านต้นแบบ โคก หนอง นา โมเดล โดยมนี ายสวิก เงินโคกกรวด นักวชิ าการสานกั งานเกษตรอาเภอโชคชยั เป็นวิทยากรให้ ความรู้ เร่ือง โคกหนองนา โมลเดล และนายสงา่ ดว่ นรบั รมั ย์ พูดเรอ่ื งการปลกู พชื สวนครวั และพชื สมุนไพร ต้าน ภัยโควดิ 19 และนายสมชาย มงุ่ ภู่กลาง ครูอาสาสมคั ร กศน. ไดม้ านเิ ทศตดิ ตามการจดั กิจกรรม พบปะพดู คุยกบั ผู้ ร่วมโครงการ ณ บ้านหนองแปลน ตาบลท่าลาดขาว อาเภอโชคชยั จังหวดั นครราชสีมา โครงการพฒั นาหมู่บ้านตน้ แบบ โคก หนอง นา โมเดล

Descriptives ตารางวิเคราะหข์ อ้ มลู SPSS โครงการพฒั นาหม่บู า้ นต้นแบบ โคก หนองนา โมเดล

Descriptive Statistics N Minimum Maximum Mean Std. Deviation ข้อ 1 เน้อื หาตรงตามความต้องการ 20 4.00 5.00 4.3000 .48305 ข้อ 2 เนอ้ื หาเพียงพอตอ่ ความต้องการ 20 3.00 4.00 3.3000 .48305 20 3.00 4.00 3.4000 .51640 ข้อ 3 เนือ้ หาปจั จบุ นั ทนั สมัย 20 3.00 5.00 3.8000 .91894 ข้อ 4 เนอ้ื หามีประโยชนต์ อ่ การนาไปใชใ้ นการพัฒนา คณุ ภาพชวี ิต 20 3.00 4.00 3.5000 .52705 ข้อ 5 การเตรียมความพร้อมก่อนอบรม 20 3.00 5.00 4.3000 .94868 20 3.00 4.00 3.3000 .48305 ข้อ 6 การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วัตถปุ ระสงค์ 20 3.00 4.00 3.6000 .51640 20 3.00 4.00 3.4000 .51640 ข้อ 7 การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา 10 3.00 5.00 4.5000 .84984 ข้อ 8 การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย 20 3.00 5.00 3.8000 .78881 ข้อ 9 วิธกี ารวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกับ วตั ถุประสงค์ ข้อ10 วทิ ยากรมีความรคู้ วามสามารถในเรอื่ งที่ ถา่ ยทอด ข้อ 11 วทิ ยากรมีเทคนคิ การถ่ายทอดใชส้ ่ือเหมาะสม ข้อ 12 วทิ ยากรเปิดโอกาสใหม้ ีสว่ นร่วมและซักถาม 20 3.00 5.00 3.9000 .73786 20 3.00 5.00 3.8000 .78881 ข้อ13 สถานท่ี วัสดุ อุปกรณแ์ ละสง่ิ อานวยความ สะดวก 20 3.00 5.00 3.8000 .78881 ข้อ14 การสอื่ สาร การสรา้ งบรรยากาศเพอื่ ใหเ้ กดิ การ 20 3.00 5.00 3.8000 .78881 เรียนรู้ ข้อ15 การบรกิ าร การชว่ ยเหลือและการแกป้ ญั หา Valid N (listwise) 20 Frequency Table โครงการพฒั นาหม่บู า้ นตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล

เพศ Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid หญงิ 12 60.0 60.0 60.0 ชาย Total 8 40.0 4.00 100.0 20 100.0 100.0 อายุ Valid อายุ 40-59 ปี Frequency Percent Valid Percent Cumulative 10 50.0 50.0 Percent อายุ 60 ปี ขัน้ ไป 50.0 Total 10 50.0 50.0 20 100.0 100.0 100.0 ระดับการศกึ ษา Valid ประถมศึกษา Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent 13 65.0 65.0 65.0 ม.ต้น Total 7 35.0 35.0 100.0 20 100.0 100.0 อาชีพ Frequency Percent Valid Percent Cumulative Percent Valid เกษตรกรรม 16 80.0 80.0 80.0 รบั จ้าง Total 4 20.0 20.0 100.0 20 100.0 100.0 ขอ้ 1 เนือ้ หาตรงตามความตอ้ งการ

Valid มาก Frequency Percent Valid Percent Cumulative มากท่ีสดุ 14 70.0 70.0 Percent Total 6 30.0 30.0 70.0 20 100.0 100.0 100.0 ขอ้ 2 เน้ือหาเพียงพอตอ่ ความต้องการ Valid ปานกลาง Frequency Percent Valid Percent Cumulative มาก 7 35.0 35.0 Percent Total 13 65.0 650 35.0 20 100.0 100.0 100.0 ขอ้ 3 เนื้อหาปจั จุบนั ทันสมัย Valid ปานกลาง Frequency Percent Valid Percent Cumulative มาก 6 30.0 30.0 Percent Total 14 70.0 70.0 30.0 20 100.0 100.0 100.0 ขอ้ 4 เนอื้ หามปี ระโยชน์ตอ่ การนาไปใชใ้ นการพัฒนาคณุ ภาพชีวิต Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 5 25.0 25.0 25.0 มาก 2 10.0 10.0 10.0 มากท่ีสดุ 13 65.0 65.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ขอ้ 5 การเตรยี มความพรอ้ มก่อนอบรม

Valid ปานกลาง Frequency Percent Valid Percent Cumulative มาก 10 50.0 50.0 Percent Total 10 50.0 50.0 50.0 20 100.0 100.0 100.0 ขอ้ 6 การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วัตถปุ ระสงค์ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 2 10.0 10.0 10.0 มาก 2 10.0 10.0 10.0 มากท่ีสุด 16 80.0 80.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ขอ้ 7 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา Valid ปานกลาง Frequency Percent Valid Percent Cumulative มาก 7 35.0 35.0 Percent Total 13 65.0 650 35.0 20 100.0 100.0 100.0 ขอ้ 8 การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย Valid ปานกลาง Frequency Percent Valid Percent Cumulative มาก 6 30.0 30.0 Percent Total 14 70.0 70.0 30.0 20 100.0 100.0 100.0 ขอ้ 9 วิธกี ารวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์

Valid ปานกลาง Frequency Percent Valid Percent Cumulative มาก 7 35.0 35.0 Percent Total 13 65.0 650 35.0 20 100.0 100.0 100.0 ขอ้ 10 วทิ ยากรมคี วามรู้ความสามารถในเรอ่ื งทถ่ี ่ายทอด Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 2 10.0 10.0 10.0 มาก 2 10.0 10.0 10.0 มากทสี่ ุด 16 80.0 80.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ขอ้ 11 วิทยากรมีเทคนคิ การถา่ ยทอดใช้สอ่ื เหมาะสม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 6 30.0 30.0 30.0 มากท่ีสดุ 14 70.0 70.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ขอ้ 12 วทิ ยากรเปิดโอกาสให้มีสว่ นรว่ มและซักถาม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 3 15.0 15.0 15.0 มาก 5 25.0 25.0 25.0 มากทสี่ ดุ 12 60.0 60.0 100.0 Total 20 100.0 100.0

ขอ้ 13 สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณแ์ ละสง่ิ อานวยความสะดวก Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 4 20.0 20.0 20.0 มาก 4 20.0 20.0 20.0 มากท่ีสุด 12 60.0 60.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ขอ้ 14 การส่ือสาร การสร้างบรรยากาศเพ่ือใหเ้ กดิ การเรียนรู้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 4 20.0 20.0 20.0 มาก 4 20.0 20.0 20.0 5.00 12 60.0 60.0 100.0 Total 20 100.0 100.0 ขอ้ 15 การบรกิ าร การชว่ ยเหลอื และการแกป้ ัญหา Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 4 20.0 20.0 20.0 มาก 2 1.0 10.0 10.0 มากท่ีสุด 14 70.0 70.0 100.0 Total 20 100.0 100.0

แบบ กศ.ตน.๑๐ แบบประเมินความพงึ พอใจ โครงการพัฒนาหมู่บ้านตน้ แบบ โคก หนองนา โมเดล วนั ที่ 23 กรกฎาคม 2564 ณ บา้ นหนองแปลน หมู่ท่ี 11 ตาบลทา่ ลาดขาว อาเภอโชคชยั จังหวดั นครราชสีมา ขอ้ มูลพ้ืนฐานของผู้ประเมินความพงึ พอใจ เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง ( ) 15 – 39 ปี อายุ ( ) ต่ากว่า 15 ปี ( ) ระดับ ม.ต้น ( ) 40 – 59 ปี ( ) 60 ปขี ้ึนไป ( ) เกษตรกร ( ) ระดบั ม.ปลาย ( ) ปริญญาตรี วฒุ ิการศึกษา ( ) ระดบั ประถม ( ) ค้าขาย อ่ืน........................ อาชพี ( ) รับจ้าง คาช้แี จง 1. แบบประเมินความพงึ พอใจ มี 4 ตอน 2. โปรดแสดงเครอ่ื งหมาย √ ในช่องว่างระดับความพึงพอใจตามความคิดเห็นของท่าน

ระดับความพึงพอใจ หมายเหตุ ข้อ รายการประเมนิ ความพงึ พอใจ มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ตอนท่ี 1 ความพึงพอใจด้านเน้ือหา ท่สี ดุ กลาง ที่สุด 1 เน้ือหาตรงตามความต้องการ 2 เนื้อหาเพียงพอต่อความต้องการ 3 เนอ้ื หาปจั จุบันทันสมยั 4 เนือ้ หามีประโยชนต์ อ่ การนาไปใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพชีวิต ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม 5 การเตรยี มความพรอ้ มกอ่ นอบรม 6 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ 7 การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับเวลา 8 การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย 9 วิธกี ารวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ ตอนที่ 3 ความพึงพอใจตอ่ วิทยากร 10 วทิ ยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในเรื่องทีถ่ า่ ยทอด 11 วทิ ยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใช้สอ่ื เหมาะสม 12 วทิ ยากรเปดิ โอกาสใหม้ สี ่วนร่วมและซักถาม ตอนท่ี 4 ความพงึ พอใจด้านการอานวยความสะดวก 13 สถานท่ี วัสดุ อุปกรณแ์ ละสงิ่ อานวยความสะดวก 14 การสือ่ สาร การสรา้ งบรรยากาศเพ่ือใหเ้ กดิ การเรียนรู้ 15 การบริการ การชว่ ยเหลอื และการแก้ปญั หา

คณะผู้จดั ทำ ทปี่ รกึ ษำ นางจีระภา วฒั นกสกิ าร ผู้อานวยการ กศน.อาเภอโชคชัย นางสวุ ิมล หาญกล้า บรรณารกั ษ์ชานาญการพเิ ศษ นายสมชาย มงุ่ ภ่กู ลาง ครอู าสาสมัครการศกึ ษานอกโรงเรยี น นางจงรกั ษ์ เชอ่ื ปญั ญา ครูอาสาสมคั รการศึกษานอกโรงเรยี น วิเครำะห์ขอ้ มลู เรยี บเรียงและทำตน้ ฉบบั ครู กศน.ตาบล นางปราณีต ขาวงาม ผู้อานวยการ กศน.อาเภอโชคชยั เจ้าหน้าทีธ่ รุ การ บรรณำธิกำร นางจีระภา วฒั นกสิการ นางสาวอรอนงค์ เน่ืองกระโทก

กศน.ตำบลทำ่ ลำดขำว ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอโชคชัย สำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย จงั หวดั นครรำชสีมำ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook