วธิ ีปฏิบตั ทิ ่ีเปน็ เลศิ ของสถานศึกษา “Best Practice” ดา้ นการบรหิ ารจดั การ “การบรหิ ารจดั การศึกษาแบบ Active Leaning โดยใชโ้ รงเรียนเปน็ ฐาน มุ่งสู่คณุ ภาพผูเ้ รยี นโรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวัสดร์ิ าษฎร์บำรงุ )” โรงเรยี นวดั พืชนิมติ (คำสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ำรงุ ) อ.คลองหลวง จ.ปทมุ ธานี สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต ๑
คำนำ วิธีปฏิบตั ิที่เปน็ เลิศ (Best Practice) “การศึกษารปู แบบการบริหารการศึกษาแบบ Active Leaning โดย ใช้ โรงเรียนเป็นฐาน มุง่ สู่คุณภาพโรงเรยี นวดั พืชนิมติ (คำสวสั ดิ์ราษฎร์บำรงุ )” น้ีเปน็ รูปแบบที่เกิดจากกระบวนการ มีส่วนร่วมของ บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อใช้ในการบริหารจัดการศึกษาตามบริบทของโรงเรียน วัดพืชนิมิต (คำสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ำรุง) โดยการ สังเคราะห์สภาพของปัญหา ความต้องการพฒั นา จุดแข็ง และจดุ อ่อนของโรงเรียน ตลอดจนนโยบายของ หน่วยงานต้นสังกัด พร้อมทั้งนำหลักการบริหาร ทฤษฎี และประสบการณ์การบริหารของ ผู้บริหารมาใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจนเกิดผลเชิงประจักษ์ต่อสาธารณชนทั่วไปจนโรงเรียนเป็นท่ี ยอมรบั ของชมุ ชน ขอขอบคุณผู้ท่ีมีส่วนเกย่ี วข้องในการใหค้ ำแนะนำทีเ่ ปน็ ประโยชน์ และหวงั เปน็ อย่างย่ิงว่า Best Practice “การบริหารการศึกษาแบบ Active Leaning โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานมุ่งสู่คุณภาพโรงเรียนโรงเรียนวัด พืชนมิ ติ (คำสวัสดิ์ราษฎรบ์ ำรุง” นี้ จะเปน็ แบบอยา่ งในการบรหิ ารจดั การในสถานศกึ ษาอื่นๆต่อไป
วิธีปฏบิ ัติที่เปน็ เลศิ “Best Practice” ดา้ นการบริหารจดั การ ๑.ชอื่ ผลงาน “การศึกษารูปแบบการบริหารการศึกษาแบบ Active Leaning โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานมุ่งสู่คุณภาพ โรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวัสด์ริ าษฎรบ์ ำรงุ )” สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑ ๒.แนวคิด หลกั การ/ความเปน็ มา ๒.๑ แนวคิดการจัดการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน แนวคิด เรื่องการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน นั้น ได้รับอิทธิพลมาจากกระแสการเปลี่ยนแปลงของ โลกธุรกิจอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จจาก หลักการ วิธีการ และกลยุทธ์ในการทำให้องค์การมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ผลการปฏิบัติงานมีคุณภาพ สร้างกำไร และสรา้ งความพึงพอใจแกล่ ูกค้าและผู้เก่ียวข้องยิ่งขึ้นความสำเร็จดังกล่าวน้ีทำให้ ประชาชนและผู้เก่ียวข้องเห็นว่า การพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้นนั้น ต้องปรับกระบวนการและวิธีการทีเ่ คยเน้นแต่เรื่องการเรียนการสอนปรบั ไปสู่การบริหารโดยการกระจายอำนาจไปยังโรงเรียนที่เปน็ หน่วยปฏิบัติและให้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการ บรหิ ารและจดั การศึกษา อย่างแท้จรงิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดกลยุทธ์ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๕ กลยทุ ธ์ ดงั ตอ่ ไปนี้ กลยุทธ์ที่ ๑ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับตามหลักสูตร และส่งเสริม ความสามารถ ดา้ นเทคโนโลยีเพอื่ เปน็ เครือ่ งมอื ในการเรียนรู้ กลยุทธ์ที่ ๒ ปลูกฝังคุณธรรม ความเป็นไทย และวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความ รบั ผิดชอบตอ่ สังคมและสิ่งแวดลอ้ มและห่างไกลยาเสพตดิ กลยุทธ์ที่ ๓ ขยายโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึงครอบคลุมผู้เรียนให้ได้รับโอกาสในการพัฒนา เต็มตาม ศักยภาพ และลดอตั ราการออกกลางคันให้เป็นศนู ย์ โดยระบบดูแบชว่ ยเหลอื นักเรยี นท่เี ขม้ แข็ง กลยุทธ์ที่ ๔ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ ให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ อย่างมีคุณภาพ กลยุทธ์ที่ ๕ พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการตามแนวทางการกระจายอำนาจทางการศึกษา หลัก ธรรมาภิบาล เน้นการมีสว่ นรว่ มจากทกุ ภาคสว่ นและความร่วมมือกับองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อส่งเสรมิ และ สนบั สนุนการจดั การศึกษา
จุดเน้นดา้ นการบรหิ ารจดั การของ สพฐ. ๑. สถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา บริหารจัดการโดยเน้นการมีส่วนร่วม และมีความ รับผิดชอบต่อผลการดำเนนิ งาน (Participation and Accountability) ๑.๑ สถานศึกษาที่ไม่ผ่านการรับรองคุณภาพภายนอก และที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนต่ำ กว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ได้รับการแก้ไข แทรกแซง ช่วยเหลือ นิเทศ ติดตาม เพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการ เรียนการสอน โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทำหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนและเป็นผู้ประสานงานหลัก เพื่อให้ สถานศกึ ษา ทำแผนพฒั นาเปน็ รายโรงเรยี นร่วมกับผปู้ กครองชุมชน และองค์กรอ่นื ๆ ที่เกย่ี วข้อง ๑.๒ สถานศึกษาบริหารจัดการโดยมุ่งการมีส่วนร่วม ความรับผิดชอบต่อผลการดำเนินงานเพ่ือ ประโยชน์สงู สุดของนักเรยี น สรา้ งความเช่ือมั่นแกผ่ ู้ใช้บริการและสงั คม ๑.๓ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบริหารจัดการ นิเทศ ติดตาม ประเมินผล อย่างเข้มแข็งโดยมุ่งเน้น การมีส่วนร่วม และความรับผิดชอบต่อผลการดำเนินงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนสร้างความเชื่อมั่นแก่ ผู้ใชบ้ รกิ ารและสังคม ๑.๔ องค์คณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาดำเนินการ และติดตามประเมินผลการดำเนินการ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มแข็ง เพื่อประโยชน์สูงสุด คือ คุณภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อนักเรียนได้พัฒนา ตนเองอยา่ งเตม็ ศักยภาพ ๒.สถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพตามระดับมาตรฐาน (Management with Quality and Standards) ๒.๑ สถานศึกษาจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพตามระดับมาตรฐานที่สูงขึ้น เทียบเคียงกับประเทศผู้นำ ด้านคุณภาพการศกึ ษาในภูมภิ าคอาเซียน ๒.๒ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพตามระดับ มาตรฐานทสี่ ูงขน้ึ เทยี งเคยี งกับประเทศผู้นำด้านคณุ ภาพการศึกษา ในภูมิภาคอาเซียน โรงเรียนวดั พืชนมิ ติ (คำสวัสดริ์ าษฎร์บำรุง) มจี ุดเน้นการดำเนนิ การท่ีสอดคล้องเชื่อมโยงกับสำนักงานเขต พ้นื ที่ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ดงั น้ี วสิ ยั ทัศน์ “โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรุง) บริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน พัฒนานักเรียนให้มีคุณธรรม มีความรู้ ความสามารถเต็มตามศักยภาพรู้จักใช้และอดออม มีสุขภาพกายและ สุขภาพจิตที่ดี เห็นคุณค่าพัฒนาสิ่งแวดล้อม และสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย ก้าวไกลทันเทคโนโลยี ใช้อย่างมี
คุณภาพศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นพระประมุข บุคลากรมีความรู้ความสามารถ ในการจัดการเรยี นรู้และศรัทธาในวชิ าชีพคร”ู พันธกิจ ๑. ผูเ้ รยี นในเขตบริการได้รบั โอกาสทางการศึกษาท้งั ในระดบั ปฐมวัย และระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ๒.วางรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management : SBM) ๓. สง่ เสริมและพัฒนาโรงเรียนใหเ้ ป็นแหลง่ เรยี นร้ทู ม่ี ีคณุ ภาพของชมุ ชน ๔. พัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดีมีคุณธรรม จริยธรรม นำความรู้ มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี เห็นคุณค่า พัฒนาส่งิ แวดลอ้ มและสบื สานศิลปวัฒนธรรมไทย ๕. สง่ เสรมิ พัฒนาการจัดการเรยี นการสอนท่ีเนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคัญ ๖. ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีทางการศึกษาและระบบเครือข่ายสารสนเทศมาใช้ในการบริหาร และ จัดการเรียนการสอน ๗. พัฒนาบคุ ลากรใหม้ ีความร้คู วามสามารถทนั ต่อการเปลย่ี นแปลงและศรัทธาในวิชาชพี ครู จากแนวคิดสรุปได้ว่า การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานคือกระบวนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ได้ คณุ ภาพมาตรฐาน เปน็ ทยี่ อมรบั ของชมุ ชน สังคม ซงึ่ ทกุ โรงเรียนตอ้ งดำเนินการตามนโยบาย จดุ เน้นของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ๒.๒ หลกั การ หลกั การสำคัญในการบริหารแบบ (School-Based Management) ตามแนวคิดของ อุทยั บญุ ประเสริฐ (๒๕๔๒:๑๕๔ – ๑๕๖) ได้แก่ ๑) หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization) ซึ่งเป็นการกระจายอำนาจการจัดการศึกษาจาก กระทรวงและส่วนกลางไปยังสถานศึกษาให้มากที่สุด โดยมีความเชื่อว่าโรงเรียนเป็นหน่วยสำคัญในการ เปลี่ยนแปลงและพฒั นาการศึกษาเดก็ ๒) หลกั การมสี ่วนรว่ ม (Participation or Collaboration or Involvement) เปดิ โอกาส ให้ ผ้เู กี่ยวขอ้ ง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีส่วนร่วมในการบริหาร ตัดสินใจ และร่วมจัดการศึกษา ทั้งครู ผู้ปกครอง ตัวแทนศิษย์ เก่าและตัวแทนนักเรียนการที่บุคคลมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาจะเกดิ ความรู้สึกเป็นเจ้าของ และจะรับผิดชอบ ในการจัดการศกึ ษามากขึ้น ๓) หลักการคืนอำนาจจัดการศึกษาให้ประชาชน (Return Power to People) ในอดีตการจัด การศึกษาจะทำหลากหลายทั้งวัดและองค์กรในท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ ต่อมามีการร่วมการจัดการศึกษาไปให้
กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้เกิดเอกภาพและมาตรฐานทางการศึกษา แต่เมื่อประชากรเพิ่มขึ้น ความเจริญต่าง ๆ ก้าวไปอย่างรวดเร็ว การจัดการศึกษาโดยส่วนกลางเริ่มมีข้อจำกัดเกิดความล่าช้าและไม่สนองความ ต้องการของ ผ้เู รยี นและชุมชนอยา่ งแทจ้ รงิ จงึ ตอ้ งมกี ารคืนอำนาจใหท้ ้องถ่ินและประชาชนไดจ้ ัดการศกึ ษาเองอีกครง้ั ๔) หลักการบริหารตนเอง (Self-managing) ในระบบการศึกษาทั่วไป มักจะกำหนดให้โรงเรียนเป็น หน่วยปฏิบัติตามนโยบายของส่วนกลาง โรงเรียนไม่มีอำนาจอย่างแท้จริงสำหรับการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็น ฐานนนั้ ไมไ่ ด้ปฏิเสธเรื่องการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย และนโยบายของส่วนรวม แตม่ คี วามเช่ือว่าวิธีการทำงานให้ บรรลุเป้าหมายนั้นทำได้หลายวิธี การที่ส่วนกลางทำหน้าที่เพียงกำหนดนโยบายและเป้าหมายแล้ว ปล่อยให้ โรงเรียนมีระบบการบริหารด้วยตนเอง โดยให้โรงเรียนมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบในการดำเนินงานซ่ึง อาจดำเนินการได้หลากหลายด้วยวิธีการที่แตกต่างกันแล้วแต่ความพร้อมและสถานการณ์ ของโรงเรียนผลที่ได้ น่าจะมปี ระสทิ ธิภาพสงู กว่าเดมิ ที่ทกุ อยา่ งกำหนดมาจากสว่ นกลางไมว่ า่ จะโดยทางตรงหรือ ทางออ้ ม ๕) หลักการตรวจสอบและถ่วงดุล (Check and Balance) ส่วนกลางมีหน้าที่กำหนด นโยบายและ ควบคุมมาตรฐาน มอี งคก์ รอิสระทำหนา้ ทต่ี รวจสอบคุณภาพการบริหารและการจัดการศึกษาเพ่ือให้มีคุณภาพ และ มาตรฐานเป็นไปตามกำหนด และเป็นไปตามนโยบายของชาติ จากหลักการดังกล่าวทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าการ บรหิ ารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานจะเป็นการบริหารงานท่ีทำให้เกิดประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลมากกว่ารูปแบบการ จัดการศกึ ษาท่ผี ่านมา ๒.๓ ทฤษฎที น่ี ำมาใช้ในการพัฒนา Best Practice ได้แก่ ทฤษฎี y (Theory y) ของแมคเกรเกอร์ (Mc Gregor ๑๙๖๐) ท่ีมแี นวคดิ ว่าผูบ้ รหิ ารทมี่ ีประสิทธิภาพ จะต้องพยายามสนับสนุนและพัฒนาการทำงานของผู้ร่วมงาน ให้เข้ามามีส่วนรว่ มตดั สนิ ใจในสว่ นที่มีผลกับตัวเขา เพิ่มโอกาสด้านความพึงพอใจทางสังคม เพิ่มความรับผิดชอบ เพื่อให้เห็นว่าเขาเป็นบุคคลคนสำคัญ และเชื่อม่ันใน ความสามารถ และเพิ่มการมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมขององค์กร ทฤษฎลี ำดบั ข้ันความต้องการ (Need Hirachy Theory) และทฤษฎีสองปจั จยั (Motivation Hygien Theory) ของอับบราฮัม มาสโลว์ (Abraham Maslow) และเฟรเดอริคเฮิรซ์เบอร์ก (Frederick Herzberg) ซ่ึง กลา่ วไวส้ อดคล้องกันวา่ งานขนั้ แรกของผู้บริหาร คือ การทำให้องค์การทำหน้าที่ให้บรรลุเปา้ หมายที่กำหนด ไว้ซ่ึง การที่จะทำเช่นนั้นได้ ผู้บริหารจะต้องใช้ความสามารถทุกวิถีทางที่จะทำให้ผู้ร่วมงานได้ปฏิบัติงานอย่างมี ประสทิ ธิภาพ ก่อให้เกิดผลดีต่อสถานศึกษา วธิ ีหน่งึ ท่ผี ูบ้ ริหารสามารถนำมาใช้ได้อย่างดี คือ การจูงใจบุคลากร ใน โรงเรียนทำงาน นั่นคือ ผู้บริหารต้องรู้และเข้าใจลำดับขั้นความต้องการของผู้ร่วมงาน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ ผู้รว่ มงานให้บรรลผุ ลสำเร็จ
๒.๔ รูปแบบทน่ี ำมาใช้ในการพัฒนา Best Practice ใชร้ ปู แบบการบริหารการศึกษาแบบมีสว่ นร่วม โดยใชเ้ ทคนิค ๕ ขั้นตอน และ ๕ รว่ ม คอื การร่วมคิด การรว่ ม วางแผน การร่วมปฏิบัติ การร่วมประเมนิ ผล ๓. วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษารูปแบบการบริหารการศึกษาแบบ Active Leaning โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานมุ่งสู่คุณภาพ โรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดิ์ราษฎรบ์ ำรงุ ) ๔. เป้าหมาย ๔.๑ คณะครแู ละบุคลากรโรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คำสวัสด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ๔.๒ นกั เรยี นโรงเรยี นวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ดิ์ราษฎร์บำรุง) ๕. กระบวนการ หรอื ข้ันตอนการดำเนนิ งาน กระบวนการพฒั นาวิธีปฏิบตั ิทเี่ ป็นเลศิ การศกึ ษารูปแบบการบรหิ ารการศึกษาแบบ Active Leaning โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานมุ่งสูค่ ุณภาพโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรงุ ) ได้ดำเนินการในรูปคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้นำชุมชน ผู้ปกครอง คณะครูโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำ สวัสดร์ิ าษฎรบ์ ำรุง) และ หนว่ ยงานท่เี ก่ียวข้อง โดยแบง่ การดำเนนิ งานออกเป็น ๕ ขัน้ ตอน และ ๕ รว่ ม ดังน้ี ขัน้ ตอนท่ี ๑ รว่ มคดิ : ศกึ ษาบริบท รับรูส้ ภาพปญั หาของโรงเรยี น ขนั้ ตอนที่ ๒ ร่วมวางแผน: วิเคราะหป์ ัญหาและความต้องการในการพัฒนา ขน้ั ตอนที่ ๓ รว่ มปฏบิ ัติ: พจิ ารณาทางเลือกในการแกป้ ญั หาท่ีเหมาะสมไปส่กู ารปฏบิ ัติ ขน้ั ตอนท่ี ๔ รว่ มประเมินผล: ประเมินผล โดยใชก้ ระบวนการ ตรวจสอบ ทบทวน ขั้นตอนที่ ๕ ร่วมชื่นชม: ขยายผลและเผยแพร่ผลงาน รูปแบบบริหารการศึกษาแบบ Active Leaning โดยใช้โรงเรยี นเปน็ ฐานมุง่ สู่คณุ ภาพโรงเรียน คณุ ภาพ รว่ มคิด รว่ มวางแผน รว่ มปฏบิ ตั ิ รว่ มประเมินผล รว่ มช่ืนชม รร.
โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรุง) จัดทำแนวทางการดำเนินงาน และนำไปใช้ตาม กระบวนการ ๕ ขั้นตอน และ เทคนิค ๕ ร่วม ตามรูปแบบการบริหารการศึกษาแบบ Active Leaning โดยใช้ โรงเรียนเป็นฐานมุ่งสู่คุณภาพโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรุง) ได้ดำเนินการตามวิธีการและ กระบวนการดงั นี้ ๑) การร่วมคิด ได้แก่ ศึกษาบริบท เพื่อรับรู้สภาพปัญหาของโรงเรียน โดยการรับข้อมูล รับฟัง ข้อคิดเห็นจากครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน โดยการสอบถาม ให้โอกาสในการแสดงความเห็นถึงปัญหา และ ความต้องการ ๒) การร่วมวางแผน นำข้อมูลที่ได้รับจากทุกฝ่ายมาวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ ทั้งจากอดีต ปัจจุบัน และทิศทางในอนาคต เพอื่ นำไปสู่การหาแนวทางแกไ้ ขปัญหา ๓) การร่วมปฏิบัตโิ ดยพจิ ารณาทางเลือกในการแก้ปัญหาท่เี หมาะสมไปสู่การตัดสินใจในการปฏิบัติงาน ของโรงเรียน โดยใช้กระบวนการ PDCA นำข้อมูลที่ได้รับเข้าประชุมชี้แจง ระดม ความคิด เน้นให้ทุกฝ่ายมีส่วน ร่วมในการพิจารณารว่ มกันในการหาแนวทางแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นของสถานศึกษา โดยการจัดทำแผนพัฒนาการ จัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้บรรลุตามเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด จัดทำ รายงานโครงการ ประชุมสรุปผลการดำเนินงาน กำหนดแนวทางพัฒนาในปีการศึกษาต่อไป และรายงานผลการ ดำเนินงานให้ผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสยี รับทราบ ๔) การร่วมประเมินผล โดยใช้กระบวนการ ตรวจสอบ ทบทวน และประเมินกระบวนการปฏิบัติงาน อยา่ งสม่ำเสมอ มีการประเมนิ ผลผลติ ผลลพั ธท์ ี่เกิดจากการปฏิบตั งิ าน และประเมินความพึงพอใจของนักเรยี น และ ผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน เพื่อนนำผลไปวิเคราะห์ เพื่อหาแนวทางในการ พัฒนาและส่งเสรมิ ใหต้ รงกบั ความตอ้ งการ และเพอื่ พัฒนางานตา่ ง ๆ ได้อยา่ งตอ่ เนื่องต่อไป ๕) ร่วมชื่นชม ขยายผล และเผยแพร่ผลงาน ความภาคภูมิในในความสำเร็จทุกด้าน ให้ผู้ปกครอง ชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษา และต่อโรงเรียนต่าง ๆ ทีจ่ ดั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐานในเครือข่ายและนอกเครือข่าย รวมทั้งรายงานผลการพัฒนาการจัดการศึกษาเขตพื้นที่ให้รับทราบความสำเร็จ เมื่อสิ้นปีการศึกษา สรุปสภาพ ปัญหา จุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาจากการวิเคราะห์ปัญหา และความต้องการใน การพัฒนาโรงเรยี นวดั พืชนมิ ิต (คำสวัสด์ริ าษฎรบ์ ำรงุ ) ของผู้มีสว่ นเกย่ี วขอ้ ง ๖. ผลการดำเนนิ งาน ๖.๑. ผลสำเรจ็ เชิงปรมิ าณ
(๑) นักเรียนร้อยละ ๑๐๐ ได้รับการดูแลช่วยเหลือ ทุกคนมีความรู้ ความสามารถ มีคุณภาพตาม เกณฑม์ าตรฐานการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน (๒) ครู รอ้ ยละ ๑๐๐ มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการจัดการเรียนรแู้ ละพัฒนาตนเองอย่าง ต่อเน่ือง (๓) โรงเรยี นใหก้ ารบริการทางการศกึ ษาทมี่ ปี ระสิทธิภาพ (๔) โรงเรียนไดร้ บั การยอมรับ และรบั ความร่วมมือจากคณะกรรมการสถานศึกษา ผปู้ กครอง ชมุ ชน และองค์กร ตา่ ง ๆ ในการช่วยเหลือในการพัฒนานกั เรยี นและโรงเรยี น ๖.๒. ผลสำเร็จเชงิ คณุ ภาพ (๑) นักเรียนทุกคนได้รับการเอาใจใส่ และรับการช่วยเหลือในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง ได้รับการบริการ ทางการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ได้รับการส่งเสรมิ ให้เป็นคนดีมีคุณธรรม นำการดำรงชีวิต ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน อยู่ร่วมกัน กับผอู้ ื่นในสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข มีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามท่ีสถานศึกษากำหนด (๒) บุคลากรทุกคนเป็นผู้ที่มีคุณธรรมจริยธรรมมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อชุมชน และมีความสามัคคี ให้ ความร่วมมือกับสถานศึกษาในการพัฒนานักเรียน พัฒนาตนเองและพัฒนางานอยู่เสมอและมีความภาคภูมิใจใน ความสำเร็จของสถานศกึ ษารว่ มกนั (๓) คณะครู ผู้ปกครอง ชุมชน และหนว่ ยงานที่เกี่ยวข้องได้เขา้ มามสี ่วนร่วมในการจัดการศึกษาและ รว่ มดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี นในโรงเรียนอยา่ งท่ัวถึง (๔) ชุมชนมีความเข้าใจในแนวทางการบริหารสถานศึกษา สนับสนุนและพึงพอใจในผลการบริหาร จัดการศึกษาของโรงเรยี นและชน่ื ชมความสำเร็จของสถานศึกษา ๗. ปัจจัยความสำเรจ็ ความสำเร็จของการบริหารการศึกษาแบบ Active Leaning โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานอย่างมีคุณภาพ เกิดจากปัจจยั ดงั นี้ ๗.๑ สถานศกึ ษามีการกำหนดเป้าหมายทชี่ ัดเจน พร้อมทัง้ บคุ ลากรม่งุ ไปส่เู ปา้ หมายเดียวกัน ๗.๒ มีข้อมูลในการพัฒนาที่ได้มาจากการวิเคราะห์บริบทของโรงเรียนด้วยวิธี SWOT โดย การมีส่วน รว่ มของผูเ้ กยี่ วข้อง ๗.๓ นำหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) โดยมีส่วนร่วมจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ในการ กำหนดทศิ ทางสูเ่ ปา้ หมายการบริหารโรงเรียนใหไ้ ด้มาตรฐานและมีคุณภาพ
๗.๔ ผบู้ ริหาร ตอ้ งกลา้ คิดนอกกรอบ เป็นผู้นำการเปลย่ี นแปลง กลา้ ทำกลา้ ตดั สนิ ใจ กล้าเปลี่ยนแปลง มภี าวะผนู้ ำมีความมุ่งม่ันในการทำงาน มเี ครือข่ายในการทำงาน มกี ารทำงานเปน็ ทีม และมคี ณุ ธรรม ประพฤติตน เป็นแบบอย่างท่ดี ี ๗.๕ ครูและบุคลากรในโรงเรียน มีการทำงานแบบมีส่วนร่วม โดยร่วมคิด ร่วมประสาน ร่วมทำจนทำ ให้งานสำเร็จบรรลุวัตถุประสงค์และมคี ณุ ภาพ ๗.๖ ชมุ ชน ประกอบดว้ ยผ้ปู กครอง ผ้นู าชุมชน คณะกรรมการสถานศกึ ษาและหน่วยงานท่เี กีย่ วข้องให้ การยอมรับ มีความศรทั ธาและใหก้ ารสนับสนุนด้านงบประมาณในการพัฒนาโรงเรียน ๗.๗ บรรยากาศภายในโรงเรียนเอื้อต่อความสำเร็จ จากการใช้ Best Practice “รูปแบบการบริหาร การศึกษาแบบ Active Leaning โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานมุ่งสู่คุณภาพโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรุง) ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ขององค์กร ที่ทุกฝ่ายรักและผูกพันต่อโรงเรียนให้ความร่วมมือมุ่งมั่น ทุ่มเทในการ ปฏิบัติงาน มีบรรยากาศที่ดีรักสามัคคีกัน ผู้ปกครองนักเรียน ชุมชนให้ความร่วมมือ ยอมรับ และ ศรัทธาต่อ โรงเรียนนำบุตรหลานเขา้ เรียนส่งผลให้โรงเรียนมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึน้ นอกจากนี้ยังทำให้ผู้บริหารโรงเรยี นเกิด ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการบริหาร แนวคิดทฤษฏี หลักการบริหาร กระบวนการบริหารสถานศึกษา เพม่ิ ขนึ้ ส่งผลต่อการพฒั นาอย่างต่อเนือ่ ง ๘. บทเรยี นที่ได้รับ ๘.๑ โรงเรยี นมคี ณุ ภาพมาตรฐานสากล ๘.๒ โรงเรยี นไดร้ ับการยอมรบั จากผ้ปู กครอง ชุมชน ๙. การเผยแพรแ่ ละการไดร้ ับการยอมรบั ๙.๑ ขยายผล โดยนำรูปแบบการบริหารการศึกษาแบบ Active Leaning โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน อย่างมีคุณภาพ มุ่งสู่คุณภาพโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรุง) ต่อโรงเรียนในสำนักงานเขตพื้นที่ การศกึ ษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑ ๙.๒ เวบ็ ไซต์โรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คำสวสั ดิร์ าษฎร์บำรุง) ๙.๓ บอร์ดประชาสัมพนั ธ์ของโรงเรยี น
บรรณานุกรม ศิริพร จันทศร.ี การศึกษาแรงจงู ใจในการปฏบิ ัตงิ านของครูโรงเรียนเอกชน สังกดั สำนักบริหารงาน คณะกรรมการ ส่งเสรมิ การศึกษาเอกชนที่มรี ะดับการรับรู้ความสามารถของตนแตกต่างกัน. ปริญญานิพนธ์ การศกึ ษามหาบัณฑิต, สาขาการวจิ ัยและสถิติทางการศกึ ษา, บัณฑิตวิทยาลยั , มหาวิทยาลยั ศรีนคริ นทรวิโรฒ.(๒๕๕๐). สมยศ นาวกี าร.ทฤษฎีองค์กร. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สามัคคสี าร (ดอกหญา้ ) จำกัด (มหาชน).๒๕๓๙. อทุ ยั บญุ ประเสรฐิ .การศกึ ษาแนวทางการบริหารและจดั การศกึ ษา ในรูปแบบการบรหิ ารโดยใชโ้ รงเรยี น เปน็ ฐาน. กรงุ เทพมหานคร:โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพรา้ ว,๒๕๔๓. Maslow, Abraham.Motivation and Personnality. New York: Harper and Row. (๑๙๗๐).
ภาคผนวก
รปู แบบการจดั การเรยี นการสอนของครู
การเผยแพร่
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: