๑๖ จากภาพประกอบ ๗ พบว่า จานวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บในพ้ืนท่ีจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ ๔ อาเภอของจังหวัดสงขลา ระหว่างปี ๒๕๔๗ - ๒๕๖๒ น้ัน มีแนวโน้มลดลง โดยปีที่มีจานวน ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากที่สุดคือ ปี ๒๕๕๐ จานวนผู้เสียชีวิต ๘๙๒ คน และบาดเจ็บ จานวน ๑,๖๗๐ คน รองลงมาคือ ปี ๒๕๔๙ เสียชีวิต จานวน ๖๕๘ คน และบาดเจ็บ จานวน ๑,๑๐๑ คน ปี ๒๕๔๘ เสียชีวิต จานวน ๕๓๓ คน และบาดเจบ็ จานวน ๑,๐๑๗ คน ตามลาดบั เมื่อพิจารณาช่วงปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๒ พบว่า แนวโน้มการเสียชีวิตและบาดเจ็บลดลง โดยในปี ๒๕๖๐ เสียชีวิต จานวน ๒๕๐ คน บาดเจ็บ จานวน ๓๗๔ คน ปี ๒๕๖๑ เสียชีวิต จานวน ๒๑๘ คน บาดเจ็บ จานวน ๒๖๕ คน และปี ๒๕๖๒ เสียชวี ิต จานวน ๑๘๐ คน บาดเจบ็ จานวน ๒๔๓ คน ตามลาดบั ตาราง ๒ จานวนผู้บาดเจบ็ เสยี ชวี ิตแบ่งตามช่วงอายแุ ละเพศในพ้ืนทจ่ี ังหวัดปตั ตานี ยะลา นราธวิ าส และ ๔ อาเภอของจังหวัดสงขลา ระหวา่ งเดือนมกราคม ๒๕๔๗ ถงึ ธันวาคม ๒๕๖๒ ช่วงอายุ จานวน (คน) หญงิ ชาย ไม่ระบเุ พศ ตา่ กว่า ๑๘ ปี ๑,๐๐๙ ๓๓๓ ๖๗๖ ๐ ๑๘ - ๕๙ ปี ๑๔,๕๐๐ ๒,๐๓๒ ๑๒,๔๖๘ ๒ ๖๐ ปี ขน้ึ ไป ๙๑๒ ๑๗๘ ๗๓๔ ๐ ไมร่ ะบุอายุ ๓,๔๙๕ ๕๕๘ ๒,๙๓๗ ๔๐๐ ๑๙,๙๑๑๖ ๓,๑๐๑ ๑๖,๘๑๕ ๔๐๐ รวม จากตาราง ๒ พบว่า จานวนผู้บาดเจ็บเสียชีวิต เมื่อจาแนกตามช่วงอายุ อยู่ในช่วงอายุ ๑๘ - ๕๙ ปี มากทส่ี ดุ มจี านวน ๑๔,๕๐๐ คน รองลงมาคือ ไมร่ ะบุอายุ จานวน ๓,๔๙๕ คน ตา่ กว่า ๑๘ ปี จานวน ๑,๐๐๙ คน และ ๖๐ ปีขึ้นไป จานวน ๙๑๒ คน ตามลาดับ เม่ือจาแนกเพศ พบว่า เพศชายบาดเจ็บเสียชีวิต มากกว่าเพศหญิง โดยเพศชายมีผู้บาดเจ็บเสียชีวิต ๑๖,๘๑๕ คน เพศหญิง มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิต ๓,๑๐๑ คน และเม่ือพิจารณาช่วงอายุและเพศ พบว่าช่วงอายุ ๑๘ - ๕๙ ปี เพศชาย มีจานวนผู้บาดเจ็บเสียชีวิตมากท่ีสุด คอื มีจานวน ๑๒,๔๖๘ คน เมื่อพิจารณาจานวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ากว่า ๑๘ ปี ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ ๔ อาเภอของจังหวัดสงขลา ระหว่างเดือนมกราคม ๒๕๔๗ ถงึ ธนั วาคม ๒๕๖๒ พบผลดังภาพประกอบ ๘
๑๗ ภาพประกอบ ๘ จานวนผู้เสยี ชวี ติ และบาดเจ็บ (เด็กและเยาวชนที่มีอายตุ ่ากวา่ ๑๘ ปี) ในพื้นท่จี ังหวดั ปตั ตานี ยะลา นราธิวาส และ ๔ อาเภอของจังหวดั สงขลา ระหวา่ งเดือนมกราคม ๒๕๔๗ ถึง ธันวาคม ๒๕๖๒ จากภาพประกอบ ๘ พบว่า จานวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บของเด็กและเยาวชนที่มีอายุ ต่ากว่า ๑๘ ปี ในปี ๒๕๕๐ มีจานวนมากที่สุด คือ เสียชีวิต จานวน ๔๗ คน บาดเจ็บ จานวน ๑๒๖ คน รองลงมา คือ ปี ๒๕๕๔ และปี ๒๕๕๗ เสียชีวิต จานวน ๑๗ คน บาดเจ็บ จานวน ๖๒ คน ส่วนในปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๒ ซ่ึงเป็นสามปีล่าสุด มีแนวโน้มการเสียชีวิตและการบาดเจ็บลดลง ปี ๒๕๖๐ เสียชีวิต จานวน ๕ คน บาดเจ็บ จานวน ๓๗ คน ปี ๒๕๖๑ เสียชีวิต จานวน ๑๑ คน บาดเจ็บ จานวน ๑๔ คน และปี ๒๕๖๒ เสียชีวิต จานวน ๔ คน บาดเจ็บ จานวน ๑๗ คน เม่ือพิจารณาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ากว่า ๑๘ ปี ในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ ๔ อาเภอของจังหวัดสงขลา ระหว่างเดือนมกราคม ๒๕๔๗ ถึง ธันวาคม ๒๕๖๒ พบว่า เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ากว่า ๑๘ ปี บาดเจ็บมากกว่าเสียชีวิต โดยบาดเจ็บร้อยละ ๗๙ และเสยี ชีวติ ร้อยละ ๒๑ ผลภาพประกอบ ๙ ภาพประกอบ ๙ ร้อยละผู้เสียชวี ิตและบาดเจ็บในกลุ่มเด็กและเยาวชนท่ีมีอายุตา่ กวา่ ๑๘ ปี
๑๘ เม่ือพิจารณาผู้เสียชีวิต เด็กและเยาวชนท่ีมีอายุต่ากว่า ๑๘ ปี จาแนกตามศาสนาในพื้นท่ี จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ ๔ อาเภอของจังหวัดสงขลา ระหว่างเดือนมกราคม ๒๕๔๗ ถึง ธันวาคม ๒๕๖๒ พบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ ๗๐ และศาสนาพุทธ ร้อยละ ๓๐ ดงั ภาพประกอบ ๑๐ ภาพประกอบ ๑๐ รอ้ ยละผ้เู สียชวี ติ จากเหตกุ ารณ์ความไม่สงบในพ้นื ท่ีจงั หวัดชายแดนภาคใต้ จาแนกตามศาสนา พิจารณาจานวนเด็กและเยาวชนท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบระหว่าง ปี ๒๕๔๗ จนถึง ปัจจบุ นั (กรณีคณะกรรมการ ๓ ฝ่ายในพืน้ ทีร่ บั รองและไมใ่ ห้การรับรอง) พบผลดงั ตาราง ๓ นอกจากผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อให้เกิด การบาดเจ็บและเสียชีวิตแล้ว พบว่ายังส่งผลต่อครอบครัวของผู้ประสบเหตุอีกด้วย เด็กและเยาวชน ท่ีประสบเหตุต้องตกอยู่ในสถานะของการกาพร้าเน่ืองจากพ่อแม่ หรือสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต จากสถานการณ์ดังกล่าว ซ่ึงจากการศึกษาพบว่ามีเด็กและเยาวชนท่ีประสบเหตุการณ์และกาพร้าเป็นจานวนมาก (กรณีคณะกรรมการ ๓ ฝ่ายในพน้ื ทร่ี บั รอง) รายละเอยี ดดงั ปรากฏในตาราง ๓ ตาราง ๓ จานวนเดก็ และเยาวชนทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไมส่ งบ ระหวา่ งปี ๒๕๔๗ จนถงึ ปจั จบุ ัน รายการ จังหวัด นราธิวาส ปตั ตานี ยะลา สงขลา รวม ที่ประสบเหตุ ๓๔๑ ๔๑๔ ๒๘๑ ๑๔๗ ๑,๑๘๓ กาพรา้ ๒,๒๔๕ ๒,๖๐๖ ๑,๕๖๐ ๒๔๒ ๖,๖๕๓ รวม ๒,๕๘๖ ๓,๐๒๐ ๑,๘๔๑ ๓๘๙ ๗,๘๓๖
๑๙ จากตาราง ๓ เด็กและเยาวชนท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบจาแนก ตามรายการและจังหวัด พบว่า จานวนเด็กและเยาวชนที่ประสบเหตุ มีจานวน ๑,๑๘๓ คน อยู่ในพ้ืนที่ จังหวัดปัตตานีมากท่ีสุด จานวน ๔๑๔ คน รองลงมาคือ จังหวัดนราธิวาส จานวน ๓๔๑ คน จังหวัดยะลา จานวน ๒๘๑ คน และจงั หวดั สงขลา จานวน ๑๔๗ คน ตามลาดบั เมื่อพิจารณาเด็กและเยาวชนที่กาพร้า มีจานวน ๖,๖๕๓ คน อยู่ในพ้ืนท่ีจังหวัดปัตตานี มากที่สุด จานวน ๒,๖๐๖ คน รองลงมาคือ จงั หวัดนราธิวาส จานวน ๒,๒๔๕ คน จังหวัดยะลา จานวน ๑,๕๖๐ คน และจังหวัดสงขลา จานวน ๒๔๒ คน นอกจากน้ี ยังมีกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไมส่ งบสว่ นกรณี ทค่ี ณะกรรมการ ๓ ฝา่ ยในพื้นที่ไม่รับรอง มีจานวนประมาณ ๖๘๒ ราย ประกอบด้วย จังหวดั ปตั ตานี ประมาณ ๒๗๒ ราย จังหวัดนราธิวาส ประมาณ ๒๔๓ ราย จังหวัดยะลา ประมาณ ๑๑๖ ราย และจังหวัดสงขลา ประมาณ ๕๑ ราย ๓.๓ การให้ความช่วยเหลือเยยี วยาเดก็ สตรี และครอบครัวทไ่ี ดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไมส่ งบในพ้ืนท่ีในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ การดาเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็ก สตรี และครอบครัวท่ีได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมาได้ดาเนินการหลากหลายรูปแบบ ตามภารกิจและบทบาทของแต่ละหน่วยงาน โดยระดับของการให้ความช่วยเหลือมีความแตกต่างกัน ตัง้ แต่ระดบั นโยบาย การนานโยบายลงสูก่ ารปฏิบัติในระดบั พ้ืนที่ โดยมีรายละเอยี ดดังต่อไปน้ี ๓.๓.๑ นโยบายและยุทธศาสตร์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็ก สตรี และครอบครัว ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมท้ังแนวทาง การเยยี วยาผ้ไู ด้รับผลกระทบจากเหตกุ ารณ์ความไม่สงบในพน้ื ท่จี งั หวัดชายแดนภาคใต้ ๑) นโยบายและยุทธศาสตร์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็ก สตรี และครอบครัว ทไี่ ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้นื ท่จี ังหวดั ชายแดนภาคใต้ มีการดาเนนิ การท่เี กี่ยวข้อง ดงั นี้ (๑) นโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในห้วง ปัจจุบันสานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ อยู่ระหว่างการยกร่างนโยบายฉบับใหม่ (นโยบายการบริหาร และการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๒ ซึ่งได้สิ้นสุดลงแล้ว) สาหรับประเด็นในเร่ือง “การเยียวยา” นั้น นโยบายฉบับใหม่ได้กาหนดให้ประเด็นเรื่องการเยียวยาเป็น ๑ ใน ๖ วัตถุประสงค์สาคัญ และมีแนวนโยบายรองรับที่มีความชัดเจน กล่าวคือ วัตถุประสงค์ข้อท่ี ๓ “เพ่ือพัฒนากระบวนการยุติธรรม และการเยียวยาให้เป็นธรรมท่ีทั่วถงึ และขจัดเง่อื นไขความไม่เปน็ ธรรม รวมท้งั ลดความหวาดระแวงทุกรูปแบบ และฟน้ื คนื ความไวเ้ นอ้ื เชื่อใจตอ่ กนั ” (๒) ในยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี มแี ผนงานรองรบั แผนบูรณาการป้องกันและแก้ไข ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในระยะแรก (ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕) พร้อมท้ังกาหนด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้กาหนดกรอบแนวทางการปฏิบัติ โดยมีการจัดทา “แผนงานอานวยความยุตธิ รรม และเยียวยาผูไ้ ดร้ ับผลกระทบ” ไว้ ๒) แนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จังหวดั ชายแดนภาคใต้ (๑) การแต่งต้ังคณะอนุกรรมการด้านการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ในพนื้ ทจ่ี งั หวดั ชายแดนภาคใต้
๒๐ (๒) สภาพปัญหาในระบบช่วยเหลือเยียวยา พบว่า การเข้าถึงความช่วยเหลือ ทางกฎหมาย ระเบียบแบบแผนและข้ันตอนการปฏิบัติของแต่ละหน่วยงานท่ีซ้าซอ้ นกัน ล่าช้า ไม่เป็นมาตรฐาน เดียวกัน มีการเลือกปฏิบัติ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ทั้งทางร่างกายสุขภาพและจิตใจท่ีขาดการติดตามดูแลในระยะยาว ตลอดจนการปฏิบัติงาน ของเจ้าหน้าท่ีผู้บังคับใช้กฎหมายท่ีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติด้วยเหตุไม่เป็นธรรม มีการละเมิดสิทธิ ของประชาชน ส่งผลให้ประชาชนหวาดระแวง เกลยี ดชงั และรูส้ ึกไม่ไดร้ ับความเป็นธรรมจากรฐั (๓) ระบบการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดน ภาคใต้ สานักงานสภาความม่ันคงแห่งชาติ ได้ดาเนินการตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการช่วยเหลือ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเน่ืองจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งข้อมูลจากศูนย์ อานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พบว่าปัจจุบันการช่วยเหลือและเยียวยาเป็นไปตามมติ คณะรัฐมนตรี หลายฉบับและระเบียบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนว่าด้วย การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย และผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทาของเจ้าหน้าที่ ของรัฐอนั สืบเนือ่ งจากเหตุการณค์ วามไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๕ ๓) มติคณะรัฐมนตรีเก่ียวกับเร่ืองกระบวนการเยียวยาที่สาคัญ : มติคณะรัฐมนตรี วันท่ี ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ (๑) การปรบั ปรุงหลักเกณฑ์การใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้ไดร้ บั ผลกระทบสืบเน่ืองจาก สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ : การแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์เพิ่มบุคคลที่เป็นผู้ได้รับ ผลกระทบ (สารวัตร กานัน/ผู้ช่วยผู้ใหญบ่ ้าน/แพทย์ประจาตาบล/อาสาสมัครท่ีได้รบั การแต่งต้ังจากส่วนราชการ) และแนวทางการรบั รองของคณะกรรมการ ๓ ฝา่ ย (๒) การปรับปรุงหลักเกณฑ์และแนวทางการรับรองว่าผู้ขอรับการช่วยเหลือ เป็นผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ จากคณะกรรมการ ๓ ฝ่าย (ทหาร ตารวจ ฝ่ายปกครอง) ซึ่งพิจารณาประกอบกับผลการสอบสวนคดีของพนักงานสอบสวน ทาให้การพิจารณาให้ความช่วยเหลือผ้ไู ด้รับ ผลกระทบเกิดความลา่ ชา้ และเกดิ ปัญหาในทางปฏิบตั ิ จงึ เห็นควรกาหนดแนวทางการพจิ ารณาดังกล่าวใหม่ ๓.๓.๒ การให้ความชว่ ยเหลือท่ีเกี่ยวข้องกับผลกระทบทางดา้ นร่างกาย จิตใจ และสังคม ของเด็ก เยาวชน และครอบครัวจากภัยพิบัติที่เกิดจากความรุนแรงในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ : หน่วยงานที่เก่ียวข้องกับการให้ความช่วยเหลือและมีบทบาทหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ผูไ้ ดร้ ับผลกระทบ ๑) หน่วยงานกากับนโยบาย หน่วยงานกากับนโยบาย มี ๓ หน่วยงาน ประกอบด้วย สานักงานสภาความมั่นคง แห่งชาติ ศูนยอ์ านวยการบรหิ ารจังหวดั ชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองอานวยการรักษาความมนั่ คงภายใน ภาค ๔ ส่วนหน้า การดาเนินงานของหนว่ ยงานกากับนโยบายในการให้ความช่วยเหลอื เกี่ยวข้องกับผลกระทบ ทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมของเด็ก เยาวชน และครอบครัวจากภัยพิบัติที่เกิดจากความรุนแรงในพื้นท่ี จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ มกี ารดาเนินการดงั น้ี
๒๑ ๑.๑) สานกั งานสภาความมัน่ คงแหง่ ชาติ การให้ความช่วยเหลือท่ีเกี่ยวข้องกับผลกระทบทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมของเด็ก เยาวชน และครอบครัวจากภัยพิบัติที่เกิดจากความรุนแรงในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทีส่ านักงานสภาความม่นั คงแห่งชาตไิ ดด้ าเนินการในปจั จุบัน มีดงั น้ี (๑) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคณะกรรมการดังกล่าวทาหน้าท่ีบูรณาการเยียวยาในพื้นท่ี ซึ่งมีสานักงาน ปลัดกระทรวงยุตธิ รรมเปน็ เจา้ ภาพในการดาเนินการ (๒) ประชุมคณะอนุกรรมการด้านการชว่ ยเหลือเยียวยาผูไ้ ด้รับผลกระทบ ในพืน้ ทจี่ ังหวดั ชายแดนภาคใต้ เพื่อพจิ ารณาแนวทางการดาเนนิ งาน ดงั นี้ (๒.๑) แนวทางการดาเนินงานในกรณีคณะกรรมการ ๓ ฝ่ายในพื้นท่ี ไม่รับรอง จะเป็นการให้ความช่วยเหลือโดยท่ัวไป ซ่ึงเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงยุติธรรม โดยในหลักการแล้ว เห็นว่า ต้องมีการรับฟังผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ และหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือต่อไป ซ่ึงมีข้อพิจารณาว่าหากเป็นผูท้ ่ีได้รับผลกระทบจริง ย่อมจะปรากฏพยานหลักฐานวา่ เป็นกลมุ่ ผู้ได้รบั ผลกระทบ จากสถานการณ์ความไม่สงบ และย่อมนาไปสกู่ ารให้ความช่วยเหลือเยยี วยาตอ่ ไป (๒.๒) แนวทางการดาเนินงานในกลุ่มเด็ก และเยาวชนทม่ี แี นวความคดิ สดุ โต่ง การให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็กที่มีแนวความคิดสุดโต่งนั้น ไม่สามารถยกเว้นการให้ความช่วยเหลือเยียวยาได้ หากเป็นผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว มีสัญชาติไทยและอยู่ในประเทศไทยก็ต้องให้ความช่วยเหลือเยียวยา อยา่ งท่ัวถงึ โดยกลุ่มเด็กทีม่ ีแนวความคดิ สุดโต่งจะต้องมกี ระบวนการสรา้ งความเขา้ ใจเพิ่มเติมต่อไป ๑.๒) ศูนยอ์ านวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) แนวทางการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ของศูนยอ์ านวยการบรหิ ารจังหวัดชายแดน ภาคใต้ (ศอ.บต.) ประกอบด้วย ๑) ระบบการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ๒) วิจัยเพ่ือศึกษาความต้องการ และความจาเป็นของแต่ละครอบครัว ๓) ผลักดันการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ดังรายละเอยี ดต่อไปน้ี (๑) ระบบการช่วยเหลือเยียวยา ศูนย์อานวยการบริหารจังหวัดชายแดน ภาคใต้ (ศอ.บต.) มีระบบการช่วยเหลือเยียวยาเป็นการประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ ซึ่งแต่ละหน่วยงาน มีรูปแบบ ระเบียบในการปฏิบัติงานของตนเอง โดยยังไม่มีระบบในการรวมศูนย์ เพื่อเป็น One Stop Service ดงั ภาพประกอบต่อไปนี้
๒๒ ภาพประกอบ ๑๑ ระบบการช่วยเหลอื เยียวยาเปน็ การประสานงานกบั ส่วนราชการ (๒) วิจัยเพื่อศึกษาความต้องการจาเป็น ศูนย์อานวยการบริหารจังหวัด ชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยังได้มีการจัดทาโครงการวิจัยร่วมกับ สมาคมนักสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย สมาคมนักจิตวิทยาและสมาคมพยาบาล โดยร่วมกันทา Case Management ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบทั้งหมด เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงคุณภาพเก่ียวกับความต้องการ และความจาเป็นของแต่ละครอบครัว แล้วจะนาข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการจัดทาระเบียบเก่ียวกับการพัฒนา คณุ ภาพชีวิตตอ่ ไป อีกทง้ั ยังมีการจัดทา Family Management ควบคู่ไปกับการทา Case Management ด้วย ทั้งน้ี เพื่อให้ครอบครัวมีความเข้มแข็ง สามารถดูแลตนเองได้และดาเนินชีวิตได้อย่างปกติ ตลอดจนสามารถ ทาหน้าที่ในการขัดเกลาทางสงั คมได้ต่อไป (๓) ผลักดันการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ศูนย์อานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยังได้มีการผลักดันให้ชุมชนในพื้นท่ีเข้ามามีส่วนร่วม ในการจัดการให้ความช่วยเหลือเยียวยาโดยดาเนินการผ่านองค์การบริหารส่วนตาบล เน่ืองจากคนในพ้ืนท่ี ยอ่ มเขา้ ใจสภาพปัญหาในพ้ืนที่ของตนและสามารถดูแลคนในพื้นท่ีของตนได้เป็นอย่างดี การดาเนินโครงการ กิจกรรมช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ความไมส่ งบในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ มกี ารดาเนนิ การดังนี้ ๑. กิจกรรมการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเน่ืองจาก เหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ตามมติคณะรัฐมนตรีและค่าใช้จ่ายตามระเบียบคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) จานวน ๑๕๖.๒ ล้านบาท โดยเยียวยาด้านต่าง ๆ ได้แก่ ดา้ นร่างกาย ด้านทรัพยส์ ิน ดา้ นจติ ใจ ดา้ นคณุ ภาพชวี ติ ตอ่ เนอ่ื ง
๒๓ ๒. กิจกรรมค่าใช้จ่ายในการขับเคล่ือนกลไก การบริหารจัดการงาน เยียวยา จานวน ๔๓.๘ ล้านบาท โดยดาเนินการด้านต่าง ๆ ได้แก่ ค่าจ้างลูกจ้างเยียวยา ขับเคลื่อนการดาเนินงาน ของ ศอ.บต./จังหวัด/อาเภอ พัฒนาประสิทธิภาพเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงาน บูรณาการเครือข่าย และติดตาม ประเมนิ ผล นอกจากนั้น ศูนย์อานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กาลัง ดาเนินการจัดทาระบบ Self Help เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบสามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยอาจจัดทา ในรูปแบบสมาคม และมุ่งเน้นการทางานด้านเยียวยา โดยอาศัยบุคลากรซ่ึงเป็นบุคคลผู้ที่เคยได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ความไมส่ งบในพื้นที่ ๑.๓) กองอานวยการรักษาความม่นั คงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า กองอานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า มีหน่วยงานที่ดูแล เกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรง คือ ศูนย์สันติวิธี มีการให้ ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทาของเจ้าหน้าท่ีรัฐ ภารกิจ ของศูนย์สันติวิธี เ ป็ น ก า ร เ ส ริ ม ส ร้ า ง ค ว า ม เ ข้ า ใ จ แ ล ะ ส นั บ ส นุ น ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ของทุกภาคส่วนตลอดจน องค์กรภาคประชาสังคม (CSOs) องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) องค์การระหว่างประเทศ (IGOs) ในพ้ืนท่ีจังหวัด ชายแดนภาคใต้ เพ่ือสร้างการรับรู้ข้อเท็จจริง สร้างความเข้าใจและทาให้เกิดความสัมพันธ์ท่ีดีระหว่างภาครัฐ กับประชาชนในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดสันติสุขในพ้ืนท่ีอย่างย่ังยืน โดยแนวทางการให้ความช่วยเหลือดาเนินการดังนี้ (๑) แนวทางการให้ความช่วยเหลือเด็ก สตรี และครอบครัวผู้ได้รับ ผลกระทบ (๑.๑) พบปะ สานสัมพันธ์ ช่วยเหลือเยียวยาเบ้ืองต้น ร่วมกับ ชุดปฏบิ ัติการในพ้ืนท่ี (๑.๒) เสริมสร้างความเข้าใจ ให้รับรู้ข้อเท็จจรงิ กับเหตุการณ์ที่เกดิ ขึ้น ให้กาลงั ใจ ฟื้นฟูจิตใจ และรับฟังปัญหาความตอ้ งการของผู้ไดร้ ับผลกระทบ (๑.๓) สร้างเครือข่ายกลุ่มสตรี ให้มีความเข้มแข็ง มีความรู้ และสามารถ ช่วยเหลือตวั เองและชุมชนได้ (๑.๔) ติดตาม ประเมินผล ประสานงาน กับองค์กร/หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ในการใหค้ วามชว่ ยเหลือเยยี วยาผ้ไู ดร้ ับผลกระทบอย่างต่อเน่ือง (๒) แนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการบังคับใช้กฎหมาย พเิ ศษด้านความมน่ั คงในพ้นื ท่ีจังหวดั ชายแดนภาคใต้ ดาเนินการตามระเบียบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ว่าดว้ ยการให้ความชว่ ยเหลือเยยี วยาผู้ไดร้ ับความเสยี หายและผูไ้ ด้รับผลกระทบ จากการกระทาของเจ้าหนา้ ท่ีรฐั อันสบื เน่อื งมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.๒๕๕๕ (๒.๑) การช่วยเหลือเยียวยา กรณีถูกควบคุมตัว โดยที่ผู้นั้นไม่มีความผิด ก) เงินเยียวยาด้านจติ ใจ คนละ ๓๐,๐๐๐ บาท ข) เงินค่าชดเชยตามจานวนวนั ที่ถูกควบคุมตวั วนั ละ ๔๐๐ บาท (๒.๒) การช่วยเหลือเยียวยา กรณีท่ีเกิดจากการปฏิบัติภารกิจ ของเจ้าหน้าที่โดยผูน้ ั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตกุ ารณ์ความไม่สงบ ก) เงินเยียวยากรณีเสียชวี ิต/บาดเจ็บสาหัส ข) เงินเยียวยากรณีได้รับบาดเจ็บ ค) เงินช่วยเหลือเยียวยาเพ่ิมเติมเพ่ือการอานวยความเป็นธรรม ตามสภาพปัญหา และความจาเปน็ เรง่ ดว่ น
๒๔ (๓) แนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย จากการบังคับใช้กฎหมาย ด้านความม่ันคงในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากเหตุการณ์ความไม่สงบท่ีเกิดขึ้นในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้ังแต่ปี ๒๕๔๗ ส่งผลให้มีการติดตามจับกุมผู้กระทาความผิดในคดีความมั่นคงในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เป็นจานวนมาก จากการสอบถามส่วนใหญ่ถูกปลุกระดม บ่มเพาะ ให้เข้าร่วมขบวนการ โดยบิดเบือนหลักศาสนา และประวัติศาสตร์ความเป็นชาติพันธุ์ จูงใจให้ก่อเหตุรุนแรง จนถูกติดตามจับกุมดาเนินคดี ซึ่งบุคคลในครอบครัว ไม่เคยทราบวา่ บุคคลในครอบครวั ของตนได้เข้าร่วมขบวนการ และร่วมก่อเหตุรนุ แรงจนถูกตดิ ตามจบั กุมตวั ๒) หนว่ ยปฏบิ ัติการ การดาเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาของหน่วยปฏิบัติการ มีทั้งหมด ๙ หน่วยงาน ประกอบด้วย ๑) สานักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ ๑๒ กระทรวงพัฒนาสังคมและความม่ันคง ของมนษุ ย์ และสานกั งานพฒั นาสังคมและความม่นั คงของมนุษย์ จังหวัดปตั ตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา สตูล ๒) ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจังหวัด ๓) กระทรวงศึกษาธิการ ๔) กระทรวงสาธารณสุข ๕) ศูนย์สุขภาพจิตที่ ๑๒ ๖) ศูนย์อานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ๗) กรมคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพ ๘) โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ และ ๙) ศูนย์อนามัยที่ ๑๒ โดยมีแนวทางการให้ ความช่วยเหลือของแต่ละหน่วยงาน ดังรายละเอียดต่อไปนี้ ๒.๑) สานักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ ๑๒ กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ และสานักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธวิ าส สงขลา สตูล แนวทางการให้ความช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไมส่ งบในพ้นื ทจี่ ังหวดั ชายแดนภาคใต้ ดาเนนิ การดงั น้ี (๑) การให้ความช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไม่สงบในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากจานวนของเด็กท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้ังแต่ปี ๒๕๔๗ - ปัจจุบัน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ได้ยุติการให้ความช่วยเหลือ จานวน ๑,๕๙๐ ราย โดยแบ่งออกเป็น ๓ กรณี ได้แก่ ๑) กรณีเด็กสาเร็จการศึกษา ๒) กรณีท่ีเด็กอายุเกิน ๒๕ ปี และ ๓) เด็กพักการศึกษา ขณะน้ีอยู่ในระหว่างการให้ความช่วยเหลือ จานวน ๕,๗๖๗ ราย ซ่ึงสามารถแบ่งออกเป็นรายจังหวัดโดยเรียงลาดับจากจานวนมากที่สุดไปยังจานวนน้อยที่สุด ได้ดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๒) จังหวัดนราธิวาส จานวน ๒,๒๔๕ ราย จังหวัดปัตตานี จานวน ๒,๐๕๖ ราย จงั หวดั ยะลา จานวน ๑,๒๒๔ ราย และจงั หวดั สงขลา จานวน ๒๔๒ ราย (๒) รูปแบบการให้ความช่วยเหลือเยียวยาและผลการดาเนินงานเยียวยา ผไู้ ด้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไมส่ งบในพน้ื ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไมส่ งบในพน้ื ทีจ่ งั หวัดชายแดนภาคใต้ ต้งั แต่ปี ๒๕๔๗ มีรูปแบบต่าง ๆ ดงั นี้ ๑. การให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์อานาจหน้าที่ ของกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์ ๒. การประสานการให้ความช่วยเหลอื และสง่ ตอ่ หน่วยงานทเี่ ก่ยี วข้อง ๓. จัดหน่วยเคลอ่ื นท่ีออกเย่ยี มบา้ นผไู้ ด้รบั ผลกระทบอย่างตอ่ เนื่อง ๔. การพัฒนาคุณภาพชวี ิต เช่น การสง่ เสรมิ ด้านอาชีพ ความสัมพันธ์ ภายในครอบครัว การพฒั นาศักยภาพดา้ นต่าง ๆ เป็นต้น
๒๕ จากการให้ความช่วยเหลอื เยียวยาเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไม่สงบในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ได้รับการศึกษา มีอาชพี และรายได้ รวมทง้ั สามารถพ่งึ พาตนเองได้ โดยแบ่งได้ตามนี้ ตาราง ๔ ผลการดาเนินการช่วยเหลอื ดา้ นการศึกษาและอาชพี ผไู้ ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไมส่ งบ ดา้ นการดาเนนิ การ ผลลพั ธ์ ร้อยละ ดา้ นการศึกษา ๑. สาเร็จการศกึ ษาช้นั ปริญญาตรี ๖๐ ด้านอาชีพ ๒. สาเร็จการศึกษาชนั้ ปวส./อนปุ ริญญา ๙ ๓. สาเร็จการศกึ ษาชน้ั มธั ยมปลาย/ปวช. ๑๗ ๔. สาเรจ็ การศกึ ษาชน้ั มัธยมต้น ๑๐ ๕. สาเรจ็ การศึกษาช้นั ประถม ๔ ๑. รบั ราชการ ลกู จ้างรัฐ ลกู จ้างเอกชน ๓๘ ๒. รบั จ้างท่วั ไป ๑๑ ๓. ค้าขาย/อตุ สาหกรรมในครวั เรือน ๗ ๔. เกษตรกรรม ๔ ๕. อาชพี อ่นื ๆ ๑๐ ๖. ว่างงาน ๓๐ นอกจากน้ี ยังได้มีการติดตามการให้ความช่วยเหลือเด็กท่ีได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแบ่งเป็นกรณีที่ยุติการช่วยเหลือ ซึ่งอยู่ในพ้ืนที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จานวน ๖๔๑ คน และติดตามผลการให้ความช่วยเหลือได้ จานวน ๕๒๔ คน ๒.๒) ศนู ยป์ ฏิบัตกิ ารชว่ ยเหลอื เยยี วยาจงั หวดั ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจังหวัด มีท้ังหมด ๔ จังหวัด กล่าวคือ จังหวดั ยะลา ปตั ตานี นราธิวาส และสงขลา ซ่ึงในปัจจุบันจังหวัดสตูลยงั ไม่มีการจดั ต้ังศนู ยป์ ฏิบัตกิ ารช่วยเหลือ เยียวยาจังหวัดสตูลขึ้น เนื่องจากไม่พบข้อมูลของผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงในพ้ืนที่ของจังหวัดสตูล โดยศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดมีภารกิจการดาเนินการเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรีท่ีเกี่ยวขอ้ ง และหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ ตามที่กฎหมายกาหนด ซึ่งแบ่งประเภท การให้ความช่วยเหลือออกเป็น ๓ กรณี ดงั นี้ (๑) การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ ความไม่สงบในพน้ื ที่จงั หวัดชายแดนภาคใต้ตามมตคิ ณะรฐั มนตรที ่ีเกยี่ วขอ้ ง (๒) การให้ความช่วยเหลอื เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบท่ีเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบถึงแก่ชีวิต ทุพพลภาพ หรือถูกปลดออกจากราชการ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยบาเหน็จความชอบสาหรบั เจ้าหนา้ ทผี่ ู้ปฏบิ ตั งิ านในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๐
๒๖ (๓) การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับ ผลกระทบจากการกระทาของเจ้าหน้าท่ีรัฐ จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามระเบียบคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทาของเจ้าหน้าที่ของรัฐอันสืบเนื่องมาจาก เหตุการณค์ วามไม่สงบในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๕ การพจิ ารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยาผ้ไู ด้รับผลกระทบสืบเนื่องจาก สถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการรับรองจากคณะกรรมการ ๓ ฝ่ายในพื้นท่ี (ทหาร ตารวจ และฝา่ ยปกครอง) ของผ้ขู อรับความชว่ ยเหลือต้องเป็นผู้ได้รับผลกระทบสบื เนื่องจากสถานการณ์ ความไม่สงบในพ้นื ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เทา่ นั้น ซง่ึ เป็นเหตกุ ารณค์ วามไมส่ งบในพนื้ ทจี่ งั หวัดชายแดนภาคใต้ จากความเห็นของคณะกรรมการ ๓ ฝ่ายในพ้ืนท่ี ประกอบกับผลการสอบสวนคดีของพนักงานสอบสวน หากกรณเี หตุการณป์ รากฏชดั เจนวา่ เกิดจากเหตุความไม่สงบ ใหจ้ ังหวดั จา่ ยเงินชว่ ยเหลือแกผ่ ู้ได้รับผลกระทบ ได้ครบถ้วน ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ และหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกระทรวงการคลัง กาหนดจากเงินทดรองราชการ ท้ังนี้ หากการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ซ่ึงมิได้กาหนดไว้ในหลักเกณฑ์ ก็ใหอ้ ยใู่ นดุลพินิจของคณะกรรมการ (กยต.) พิจารณาตามความเหมาะสมตอ่ ไป นอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาแต่ละจังหวัดยังได้มี การติดตามสถานะของผู้เสียหายท่ีอยู่ระหว่างการพิจารณาจากคณะกรรมการ อาทิ กรณีท่ีผู้เสียหาย ได้การรับรองจาก ๒ ใน ๓ ฝ่าย หากได้รับหนังสือรับรองจากคณะกรรมการ ๓ ฝ่ายในพ้ืนที่ภายหลัง จะมกี ารสารวจข้อมูลอีกครัง้ เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายเพิ่มเติมต่อไป สาหรับงบประมาณของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาแต่ละจังหวัด มีการสนับสนุนงบประมาณจากศูนย์อานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซ่ึงการดาเนินการโครงการ และกิจกรรมต้องมีความสอดคล้องกับ ๔ ยุทธศาสตร์ของ ศอ.บต. ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ท่ี ๑ พัฒนาระบบ การเยียวยาให้มีประสิทธิภาพ ยุทธศาสตร์ที่ ๒ พัฒนาเครือข่ายการช่วยเหลือเยียวยาแบบบูรณาการ ยุทธศาสตร์ที่ ๓ พัฒนาระบบฐานข้อมูลที่รองรับการเข้าถึงทุกภาคส่วนในการสร้างความเข้าใจที่ดีต่อประชาชน และยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๔ พฒั นาศกั ยภาพและเสริมสร้างขวัญและกาลังใจในการปฏบิ ตั งิ าน ๒.๓) กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธิการ มีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับ ผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ การให้ทุนการศึกษา ให้แก่เด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่การศึกษา ระดับช้ัน อนุบาล ๓ ป.๖ ม.๓ ม.๖ ปวช. ปวส. อนุปริญญา และปริญญาตรี ซ่ึงระดับช้ันปริญญาตรี เป็นช้ันสูงสุดท่ีให้ทุนการศึกษา และอายุสูงสุดท่ีให้ทุนการศึกษา คือ อายุ ๒๕ ปี ซ่ึงมีกระบวนการทางาน แผนงาน โครงการ และกิจกรรม สรุปรายละเอียดได้ดังน้ี (๑) ประกาศการให้ทุนการศึกษาต่อเนื่องของผู้ได้รับผลกระทบเนื่องจาก สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีการพัฒนาหลักเกณฑ์อย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ อยใู่ นระหวา่ งการปรับปรงุ แก้ไขประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง หลักเกณฑ์การขอรับทุนการศึกษารายปีต่อเนื่อง ของผู้ได้รับผลกระทบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๖๒ เพ่ือให้ผู้ได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับความสะดวกมากย่ิงขึ้น ซึ่งจะมี การปรับปรุงแก้ไข ๒ ประเด็น คือ ๑) คานิยามของผู้ได้รับบาดเจ็บ ซ่ึงประเด็นนี้ได้มาจากการลงพ้ืนที่แล้ว พบว่า การเข้าถึงสิทธิอาจจะยงั ขาดตกบกพรอ่ งและไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร โดยจะได้มีการปรับปรุงให้สอดคล้อง
๒๗ กับมติคณะรัฐมนตรีด้วย และ ๒) ระยะเวลาในการย่ืนคาขอรับทุนการศึกษา เพื่ออานวยความสะดวก แกป่ ระชาชนท่ไี ด้รบั ผลกระทบมากยิ่งขนึ้ (๒) แต่งตั้งคณะกรรมการ/อนุกรรมการในการดาเนินงาน เช่น คณะกรรมการ บริหารทุนการศึกษารายปีต่อเน่ืองของผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะอนุกรรมการดาเนินงานทุนการศึกษารายปีต่อเน่ืองของผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) เป็นต้น นอกจากน้ี ยังมีการต้ังคณะทางานซ่ึงประกอบด้วย ผแู้ ทนจากทงั้ ระดับกระทรวงและในพ้นื ทด่ี ว้ ย (๓) จัดทาคู่มือปฏิบัติงาน เพ่ือประกอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และเผยแพร่ให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบ เช่น คู่มือปฏิบัติงานทุนการศึกษารายปีต่อเนื่องตามหลักเกณฑ์การให้ ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ชายแดนภาคใต้ คู่มือสทิ ธปิ ระโยชนแ์ ละสวัสดิการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาผู้ไดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไมส่ งบในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ เป็นตน้ (๔) แผนงาน โครงการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินงานทุนการศึกษา ในการดาเนินงานที่เก่ียวกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการดาเนินงานตามโครงการและกิจกรรม เช่น โครงการประชุมติดตามประเมินผลการช่วยเหลือ ทุนการศึกษารายปีต่อเน่ืองให้กับทายาทผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดน ภาคใต้ โครงการประชาสัมพันธ์ทุนการศึกษารายปีต่อเน่ืองให้กับทายาทผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการประชาสัมพันธ์เสรมิ สรา้ งความรู้ ความเข้าใจต่อสิทธิประโยชน์ ครู บุคลากรทางการศึกษาและนักเรียน ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พฒั นารูปแบบเยยี วยาผไู้ ด้รบั ผลกระทบจากเหตุการณช์ ายแดนภาคใต้ ๒.๔) กระทรวงสาธารณสุข การดาเนินงานช่วยเหลือเยียวยาผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไม่สงบในพืน้ ที่จงั หวัดชายแดนภาคใตข้ องกระทรวงสาธารณสขุ มีดังน้ี (๑) บูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (แม่และเดก็ ) งบประมาณรวมท้ังส้นิ ๑๒,๘๓๒,๕๐๐ บาท ดาเนนิ การประเด็น อนามยั แมแ่ ละเด็กพัฒนาการสมวัย และทันตสขุ ภาพ (๒) งบประมาณจากศูนย์สุขภาพจิต (โครงการชายแดนใต้) งบประมาณ รวมทั้งส้ิน ๒,๑๘๑,๖๐๐ บาท ดาเนินกิจกรรม พัฒนาศักยภาพด้วยส่ือความรู้ปฐมพยาบาลทางใจ สร้างชุมชน ต้นแบบการดาเนินงานสุขภาพ เสริมสร้างความสามารถด้านสติปัญญาและพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ในเด็กท่ีได้รับผลกระทบ ซ้อมแผนเผชิญเหตุในโรงเรียน เสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจวัยรุ่นท่ีได้รบั ผลกระทบ นิเทศติดตามประเมินผลเครือข่ายแบบบรู ณาการ (๓) บูรณาการพัฒนาพ้ืนท่ีระดับภาค โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและเสริมสร้าง ความเข้มแข็งให้กับชุมชน ปี ๒๕๖๑ - ๒๕๖๓ งบประมาณรวมทั้งส้ิน ๖๕๓,๔๘๙,๖๐๐ บาท ดาเนินกิจกรรม พฒั นาระบบการแพทย์ฉกุ เฉนิ และการสง่ ต่อในพ้ืนทจ่ี ังหวดั ชายแดนภาคใต้ และพัฒนางานอนามยั แม่และเด็ก
๒๘ ตาราง ๕ แผนงาน/โครงการ และงบประมาณปี ๒๕๖๓ แผนงาน/โครงการ งบประมาณ งบบรู ณาการขับเคลือ่ นการแก้ไขปัญหาจังหวดั ชายแดนภาคใต้ (แมแ่ ละเดก็ ) รวมทัง้ ส้ิน ๑๒,๘๓๒,๕๐๐ บาท ๑) อนามยั แม่และเด็ก ๔,๔๑๗,๐๐๐ บาท ๒) พัฒนาการสมวัย ๔,๙๙๕,๐๐๐ บาท ๓) ทนั ตสขุ ภาพ ๓,๔๒๐,๕๐๐ บาท งบจากศนู ยส์ ุขภาพจิต (โครงการชายแดนใต)้ รวมทั้งสิน้ ๒,๑๘๑,๖๐๐ บาท ๑) พฒั นาศกั ยภาพดว้ ยส่ือความรปู้ ฐมพยาบาลทางใจ ๒๕๐,๐๐๐ บาท ๒) สรา้ งชุมชนต้นแบบการดาเนินงานสขุ ภาพ ๓๕๐,๐๐๐ บาท ๓) เสรมิ สร้างความสามารถด้านสติปญั ญาและพัฒนาความฉลาด ๗๒๖,๖๐๐ บาท ทางอารมณใ์ นเด็กที่ได้รับผลกระทบ ๓๓๕,๐๐๐ บาท ๔) ซอ้ มแผนเผชิญเหตุในโรงเรียน ๔๐๐,๐๐๐ บาท ๕) เสรมิ สรา้ งความเขม้ แข็งทางใจวยั รุ่นทไี่ ด้รบั ผลกระทบ ๑๒๐,๐๐๐ บาท ๖) นิเทศตดิ ตามประเมนิ ผลเครือขา่ ยแบบบูรณาการ งบแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นท่ีระดับภาค โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเข้มแขง็ ใหก้ ับชุมชน ปี ๒๕๖๑ - ๒๕๖๓ รวมท้ังสิ้น ๖๕๓,๔๘๙,๖๐๐ บาท กิจกรรม ๑) พฒั นาระบบการแพทย์ฉกุ เฉนิ และการส่งต่อในพ้นื ที่จังหวดั ชายแดนภาคใต้ ๒) พัฒนางานอนามยั แม่และเด็ก
๒๙ ผลการดาเนนิ งานช่วยเหลือเยียวยา ๑. การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจให้แก่ประชาชนในพ้ืนที่ จังหวดั ชายแดนภาคใต้ ๑.๑ ให้บริการดแู ลเยียวยาจิตใจตามมาตรฐานการบรกิ ารเยยี วยาฟ้ืนฟู สุขภาพจิตแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยโรงพยาบาล ศูนย์ โรงพยาบาลท่ัวไป โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ และโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตาบล (รพ.สต.) มีการจัดการส่งต่ออย่างเป็นระบบ และมีการติดตามเยี่ยมบ้านทุกราย จานวน ๓ คร้ัง มีผลงานทั้งหมดในปี ๒๕๖๒ จานวน ๔๐๔ ราย คิดเปน็ ร้อยละ ๑๐๐ ๑.๒ บริการให้การปรึกษาผ่านสายด่วนสุขภาพจิต ๑๓๒๓/๑๖๖๗ เป็นระบบตอบรับอัตโนมัติเพ่ือให้ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพจิต เป็นส่ือสองภาษาไทยและภาษามาลายู มีผู้รับบริการในปี ๒๕๖๒ จานวน ๘๗,๖๐๕ ราย และเฟสบุ๊คปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต ซ่ึงมีผู้รับบริการ ในปี ๒๕๖๒ จานวน ๒๘,๗๓๗ ราย ๒. การพัฒนาศักยภาพเครือข่ายด้านการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ การสร้างคู่เครือข่ายการดูแลช่ว ยเหลือนั กเรียน ที่ไ ด้รับผ ลกร ะทบจ ากสถ านก ารณ์คว า มไ ม่สงบ ใ น พื้ น ที่ จังหวดั ชายแดนภาคใต้ ระหว่างครแู ละนักจติ วทิ ยาในพืน้ ที่ ซง่ึ มีผลงานท้งั หมดในปี ๒๕๖๒ จานวน ๕๐ ราย นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข ยังให้ความช่วยเหลือในด้านอื่น ๆ ด้วย คือ การเบิกคา่ พาหนะแกผ่ ูไ้ ด้รบั บาดเจบ็ สาหัส ทพุ พลภาพท่เี ข้ารบั การรกั ษาในโรงพยาบาล ตาราง ๖ อตั ราการเบิกจา่ ยกรณีบาดเจบ็ สาหัส ทุพพลภาพ อตั ราการเบกิ จา่ ยกรณีบาดเจบ็ สาหสั ระยะทาง ≤ ๑๐๐ กม. บาดเจ็บสาหสั ๔,๐๐๐ บาท ๘,๐๐๐ บาท ทุพพลภาพ ๕,๐๐๐ บาท ๑๐,๐๐๐ บาท ระยะทาง ≤ ๒๐๐ กม. บาดเจบ็ สาหสั ๖,๐๐๐ บาท ๑๒,๐๐๐ บาท ทุพพลภาพ ระยะทาง ≥ ๒๐๐ กม. บาดเจ็บสาหสั ทุพพลภาพ อนึง่ ในปี ๒๕๖๑ กระทรวงสาธารณสุข ไดป้ ระสานงานร่วมกบั ศูนย์อานวยการ บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพ่ือให้มีการเบิกค่าพาหนะแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุพพลภาพ ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากงบประมาณของ ศอ.บต. เพื่อให้เป็นระบบการรวมศูนย์ (One Stop Service) และคาดว่าจะสามารถดาเนินการสาเร็จผ่านการดาเนินงานของ ศอ.บต. ได้ จึงไม่ได้ตั้งงบประมาณ การเบิกค่าพาหนะแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุพพลภาพท่ีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ในช่วงปีงบประมาณ ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓ ไว้ ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมต้ังงบประมาณในส่วนนี้ เพื่อรองรบั ไวแ้ ลว้
๓๐ ๒.๕) ศนู ย์สุขภาพจิตที่ ๑๒ ศูนย์สุขภาพจิตท่ี ๑๒ มีแผนงาน/โครงการ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กที่ได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์ความไมส่ งบในพื้นทีจ่ ังหวัดชายแดนภาคใต้ ดงั นี้ (๑) ดา้ นการพฒั นาระบบการดแู ลเยียวยาจิตใจ พัฒนาระบบการดูแลเยียวยาจิตใจเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไมส่ งบในบรเิ วณโรงเรียน และนอกโรงเรียน โดยการมสี ว่ นรว่ มของภาคเี ครือขา่ ยในพื้นที่ที่เกยี่ วขอ้ งกับเด็ก ตาราง ๗ ระบบการดแู ลเยียวยาจิตใจเด็กท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไมส่ งบในบริเวณโรงเรียน และนอกโรงเรียน โดยการมสี ่วนรว่ มของภาคเี ครอื ข่ายในพ้ืนท่ที เ่ี ก่ยี วข้องกบั เดก็ โรงเรยี น สาธารณสขุ ชมุ ชน ๑. ซ้อมแผนเผชิญเหตุในโรงเรียน ๑. รับส่งต่อและประเมินปญั หา ๑. คดั กรองเบ้อื งต้นและเฝ้าระวัง ๒. คดั กรองและเฝ้าระวงั ๓. ดแู ลช่วยเหลอื ในโรงเรยี น/ ๒. ใหก้ ารเยยี วยาจิตใจ นกั เรยี น ๒. ดูแลช่วยเหลอื จัดกิจกรรมเสริมสร้าง ครู และผูป้ กครอง ๓. จดั กิจกรรมความเข้มแข็ง ความเข้มแข็ง ๔. สง่ ต่อเพ่ือการดูแลชว่ ยเหลอื ๓. วางแผนดแู ลต่อเนื่องรว่ มกบั ทางใจในชมุ ชน ๕. การตดิ ตามอยา่ งต่อเนื่อง โรงเรียน (Community Resilience) ๔. จัดกิจกรรมเสริมสร้าง ๔. การตดิ ตามอย่างตอ่ เน่อื ง ความเขม้ แข็งทางใจ (Resilience Quotient : RQ) (๒) ด้านการพัฒนารูปแบบการซ้อมเผชิญเหตุในโรงเรียน ดาเนินการ ได้แก่ ๑) กดกร่ิงสัญญาณเตือนฉุกเฉิน ๒) เตรียมเคลื่อนย้ายเด็ก ๓) นาเด็กไปจุดรวมพลที่กาหนด ๔) นับจานวนเด็กและเฝ้าสังเกตเพ่ือคัดแยกเด็กกลุ่มเส่ียงมีปัญหา ๕) ให้การดูแลด้านร่างกาย ปฐมพยาบาล ทางจติ ใจ ให้รู้สึกปลอดภัย ๖) เนน้ กจิ กรรมผ่อนคลายให้มคี วามรู้สกึ สงบ (๓) ด้านการพัฒนารูปแบบการดูแลเยียวยาจิตใจเด็กและการป้องกัน ปัญหาสุขภาพจิตของเด็ก ได้แนวทางการดูแลเยียวยาจิตใจเด็กและการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตของเด็ก ตามคู่มือการปฏิบัติงาน ดังต่อไปนี้ ๑) คู่มือการดูแลเยียวยาจิตใจเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไม่สงบ สาหรับโรงเรียน ๒) คู่มือการดูแลเยียวยาจิตใจเด็กท่ีได้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ความไมส่ งบ สาหรบั ชมุ ชน ๓) คมู่ อื การดแู ลเยียวยาจิตใจเด็กทไ่ี ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไมส่ งบ สาหรบั บุคลากร สาธารณสุข (๔) แผนงานท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มยุ่งยากซับซ้อน กลุ่มยุ่งยากซับซ้อน ท่ีเข้าไปดูแล ส่วนใหญ่ถูกละเลย ทาให้สังคมมีความเข้าใจต่อผลกระทบท่ีคนกลุ่มนี้ได้รับจากสถานการณ์ ความรุนแรงน้อยมาก ท่ีผ่านมายังไม่มีเจ้าภาพหลักในการดูแลเยียวยาจิตใจโดยเฉพาะ เป็นกลุ่มเส่ียงก็มีโอกาส เกิดปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาว มีผู้ได้รับผลกระทบจานวนมากท่ียังขาดการดูแลอย่างเหมาะสม ใช้เวลานาน ในการแกไ้ ขปัญหา ผ้ไู ดร้ ับผลกระทบยงั ขาดความมัน่ ใจในการเขา้ สูร่ ะบบสาธารณสขุ (๕) กิจกรรมการเยียวยาจิตใจ โดยการให้คาปรึกษากลมุ่ แบบการบาบัด ด้วยความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy : CBT) ในครอบครัวผู้ท่ีได้รับผลกระทบ กรณยี ่งุ ยากซบั ซ้อน ปี ๒๕๕๙
๓๑ ตาราง ๘ จานวนผไู้ ดร้ บั การเยยี วยาจติ ใจโดยการให้คาปรึกษากลุ่มแบบ CBT ในครอบครวั ผูท้ ี่ไดร้ ับผลกระทบกรณียุ่งยากซับซอ้ น ปี ๒๕๕๙ อาการทางสขุ ภาพจติ จานวน (ราย) สภาวะปว่ ยทางจิตใจเม่ือเผชิญกบั เหตุการณท์ ่ีกระทบกระเทือนจิตใจ ๑๑ ราย อย่างร้ายแรง (PTSD) อาการนอนไมห่ ลับ (Insomnia) ๒ ราย ภาวะซึมเศร้า (Mild depressive) ๑ ราย โรคซมึ เศรา้ (Depressive Mode MDD) ๑ ราย โรควติ กกงั วล (Anxiety) ๑ ราย (๖) แผนงานทเี่ กี่ยวข้องกับงานเยียวยาผู้พิการ ปี ๒๕๖๓ ศนู ยส์ ขุ ภาพจิตท่ี ๑๒ รว่ มกับสถาบนั พฒั นาการเดก็ ราชนครนิ ทร์ จงั หวดั เชียงใหม่ (The RICD Wheelchair Project) กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มอบรถเข็นและอุปกรณ์การแพทย์เพ่ือช่วยเหลือคนพิการทางด้านร่างกายและการเคล่ือนไหว ภายใต้พระราชนามาภิไทย ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรี สิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เพอื่ คนพกิ ารลดขอ้ จากดั ในการใช้ชีวิต ลดภาระของผดู้ แู ลและลดปัญหาด้านสุขภาพจิต ๒.๖) ศนู ยอ์ านวยการบริหารจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) การดาเนินงาน ปีงบประมาณ ๒๕๖๒ ดาเนินการตามการดาเนินงาน เยยี วยา : ศอ.บต./ศูนยป์ ฏบิ ัติการเยยี วยาจงั หวดั /อาเภอ ดงั น้ี (๑) เยยี วยา ตามมติคณะรัฐมนตรี และระเบยี บคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ดา้ นการพัฒนาจงั หวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) จานวนทัง้ สิ้น ๘๓๗ ราย (๒) เยยี วยา ฟน้ื ฟูคณุ ภาพชวี ิตผไู้ ดร้ ับผลกระทบตอ่ เนอื่ ง จานวน ๓,๒๕๙ ราย (๓) เยยี วยาจิตใจรายบุคคลและครอบครัว จานวน ๖๑๐ ราย (๔) เย่ียม ติดตาม ผู้ได้รับผลกระทบ โดยเจ้าหน้าที่และเครือข่าย ทง้ั ในและนอกพนื้ ท่ี จานวน ๑,๗๖๒ ราย (๕) มเี ครอื ข่ายผไู้ ดร้ ับผลกระทบในทกุ จังหวดั จากการดาเนนิ งานท่ผี า่ นมา พบปญั หาอุปสรรค ดังน้ี (๑) การช่วยเหลือเยียวยาตามมติคณะรัฐมนตรี และระเบียบคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) มีข้อจากัด บางกรณีท่ีไม่สามารถให้การเยียวยาได้ เช่น กรณีค่าใช้จ่ายในการดาเนินการเรื่องศพ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลส่วนเกินสิทธิ เป็นต้น ซ่ึงเป็นค่าใช้จ่าย ทเ่ี กิดขึ้นจรงิ แตไ่ มม่ มี ติคณะรัฐมนตรหี รอื ระเบยี บรองรับ (๒) การชว่ ยเหลือเยียวยาไม่ครอบคลุมกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ในทางออ้ ม เช่น ประชาชนไทยพุทธ ที่อย่ใู นพ้ืนทที่ ีเ่ ป็นไขแ่ ดง เป็นตน้ (๓) ผลกระทบจากการใช้กฎหมายพิเศษ ไดแ้ ก่ พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระราชกาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และพระราชบัญญัติการรักษาความม่ันคงภายใน ราชอาณาจักร
๓๒ (๔) สถานการณท์ างสังคม เชน่ การแต่งงานในวัยเดก็ การหยา่ ร้างในครอบครวั ภาวะโภชนาการในเด็ก การดูแลอนามัยแม่และเด็ก เป็นต้น (๕) หน่วยงานต่าง ๆ ทางานด้านการให้ความช่วยเหลือเยียวยาในระบบ และรูปแบบของตนเอง และขาดการบูรณาการร่วมกัน ทาให้การให้ความช่วยเหลือเยียวยาไม่มีประสิทธิภาพ เท่าท่ีควร ๒.๗) กรมคมุ้ ครองสทิ ธแิ ละเสรภี าพ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพมีภารกิจเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพท่ีประชาชนพึงได้รับ โดยพิจารณาการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยรวมถึงทายาท ผู้เสียชีวิตตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จาเลยในคดีอาญา พ.ศ ๒๕๔๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งโอกาสท่ีได้รับการชดเชยความเสียหายจากทางอ่ืน ซ่ึงการให้ ความช่วยเหลือเยียวยาเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดน ภาคใต้จะอยู่ภายใต้การกากับดูแลของศูนย์อานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ดังนั้น ผู้เสียหายจะได้รับค่าตอบแทนในเหตุที่เก่ียวกับชีวิต ร่างกาย จิตใจ อันเกิดจากการกระทาความผิด ทางอาญาของผู้อ่ืน โดยครอบคลุมถึงกรณีผู้ขอรับการช่วยเหลือไม่ได้รับหนังสือรับรองจากคณะกรรมการ ๓ ฝ่ายในพ้ืนที่ (ทหาร ตารวจ และฝ่ายปกครอง) และเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้นในกรณีผู้ขอรับการช่วยเหลือได้รับเงินช่วยเหลือจากจังหวัด หรือหนว่ ยงานท่เี ก่ยี วขอ้ งแลว้ จะไม่ไดร้ บั การช่วยเหลือเงนิ ค่าตอบแทนอีก การดาเนนิ งานโครงการและกจิ กรรม ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีจานวน ๓ โครงการ ได้แก่ ๑) โครงการฝึกอบรมส่งเสริมมาตรฐาน การคุ้มครองพยาน คดีความมั่นคงในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปี ๒๕๖๒) ๒) โครงการการสร้าง การตระหนั กรู้ การป้ องกั นการทรมานและการปฏิบั ติ ที่ โ ห ด ร้ า ย ไ ร้ ม นุ ษ ย ธ ร ร ม ใ น จั ง ห วั ด ช า ย แ ด น ภ า ค ใ ต้ (ปี ๒๕๖๒) ๓) โครงการฝึกอบรมเยาวชนรนุ่ ใหมใ่ ส่ใจเคารพสทิ ธิ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปี ๒๕๖๒) ๒.๘) โรงพยาบาลจติ เวชสงขลาราชนครนิ ทร์ โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ เป็นหน่วยงานในสังกัด ของกรมสุขภาพจิต ซ่ึงมีการดาเนินงานร่วมกับศูนย์สุขภาพท่ีจิตท่ี ๑๒ ในด้านการพัฒนาประสิทธิภาพ การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีหน่วยให้บริการ ในรูปแบบศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ท่ีได้มาตรฐาน รวมท้ังได้รับงบประมาณจากกรมสุขภาพจิต ในการดาเนินงานและติดตามสุขภาพจิตของผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเน่ือง สาหรับการดาเนินงานการช่วยเหลือผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไมส่ งบในพ้นื ที่จงั หวัดชายแดนภาคใต้ มรี ายละเอียด ดังน้ี (๑) เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ี จะมีการประสานทีมช่วยเหลือ เยียวยาจติ ใจผ้ปู ระสบภาวะวกิ ฤต (MCATT) สานักงานสาธารณสุขจงั หวัด ศนู ยส์ ุขภาพจิตท่ี ๑๒ และโรงพยาบาล ในพ้นื ท่ี (๒) ทีม MCATT ให้ความช่วยเหลือในรูปแบบการปฐมพยาบาลทางจิตใจ (Psychological First Aid) และการทาแบบประเมินผลกระทบทางจิตใจหลังเกิดเหตุการณ์วิกฤต - ๑๘ (The Psychological Impact Scale for Crisis Event - ๑๘ : PISCES - ๑๘) เพ่ือให้ความช่วยเหลือผู้ประสบ เหตุการณ์วิกฤต ในการคัดแยกและดูแล ตลอดจนติดตามเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาวเก่ียวกับ ระบบบริการสาธารณสุขและการป้องกนั บรรเทาสาธารณภยั
๓๓ (๓) โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ สานักงานสาธารณสุขจังหวัด และศนู ย์สขุ ภาพจติ ท่ี ๑๒ ลงพืน้ ท่ดี าเนินการให้ความชว่ ยหลือ (๓.๑) กาหนดแผนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุการณ์วิกฤต ในการคัดแยก และดูแล ตลอดจนติดตามเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาว โดยประชุมร่วมกับ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพท่ี ๑๒ สานักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ศูนย์บริหาร การพัฒนาสุขภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบ.สต.) และผู้บริหารโรงพยาบาลในพื้นท่ี (๓.๒) ดาเนนิ การชว่ ยเหลือเยียวยาจิตใจ เจา้ หน้าทที่ ป่ี ระสบเหตุการณ์ ๒.๙) ศูนย์อนามัยท่ี ๑๒ ศนู ยอ์ นามัยท่ี ๑๒ ยะลา เป็นหน่วยงานวิชาการสว่ นกลางท่ีตงั้ อย่ใู นสว่ นภมู ิภาค สังกัดกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีบทบาทหน้าท่ีในการดาเนินงานให้สอดรับกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนงานหลักด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยส่งิ แวดล้อม การดาเนินการชว่ ยเหลือเยียวยาเดก็ เยาวชน และครอบครัว ท่ีได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติท่ีเกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของศนู ย์อนามัยท่ี ๑๒ ดาเนินการตามสถานการณแ์ ต่ละประเด็น ดงั น้ี สถานการณ์การเกดิ ความไม่สงบที่เดก็ ไดร้ บั ความเสียหาย สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้ังแต่ปี ๒๕๔๗ - ๒๕๕๖ พบว่าในช่วงปี ๒๕๔๗ - ๒๕๕๘ ไม่มีเหตุการณ์ท่ีเด็กปฐมวัยได้รับความเสียหายโดยตรง โดยในปี ๒๕๕๙ - ๒๕๖๒ พบว่ามีเด็กปฐมวยั ไดร้ บั ความเสยี หายโดยตรงทุกปี โดยในปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๑ พบมากทสี่ ดุ จานวนปลี ะ ๗ ราย ส่วนเด็กวัยเรียนวัยรุ่น (อายุ ๕ - ๑๘ ปี) ท่ีได้รับความเสียหาย พบตั้งแต่ ปี ๒๕๔๗ ซ่ึงได้รับความเสียหายต่อเนื่องทุกปี โดยในปี ๒๕๕๕ พบเด็กวัยเรียน วัยรุ่น ได้รับความเสียหาย มากท่ีสุด จานวน ๔๑ ราย สถานะสุขภาพเด็กปฐมวัยและวยั รุ่น เด็กปฐมวัยในพ้ืนท่ี ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปัญหาทุพโภชนาการ คือ เด็กมีภาวะผอม มากกว่าร้อยละ ๗.๕๗ ซึ่งสูงกว่าระดับเขต ร้อยละ ๗.๒๑ และสูงกว่าระดับประเทศ ร้อยละ ๖.๗๒ ส่วนเด็กมีภาวะเต้ีย มากกว่าร้อยละ ๑๙.๒๐ ซึ่งสูงกว่าระดับเขต ร้อยละ ๑๘.๓๗ และสูงกว่าระดับประเทศ ร้อยละ ๑๖.๒๙ โดยเด็กมีภาวะเต้ีย เกิดจากการขาดสารอาหารตั้งแต่อดีต ส่วนปัญหาทุพโภชนาการของเด็ก มีสาเหตุมาจากภาวะโภชนาการของแม่ระหว่างตั้งครรภ์ และช่วงให้นมบุตรที่รับประทานอาหารไม่เพียงพอ และไม่ได้สัดส่วนที่เหมาะสม รวมท้ังการให้อาหารที่ไม่ใช่นมแม่ในช่วงเด็กอายุก่อน ๖ เดือน ที่จะทาให้ลูก มปี ญั หาทพุ โภชนาการ แนวทางการแกไ้ ขปญั หา ๑. การสรา้ งความรอบร้ใู ห้แก่ พ่อ แม่ ผู้เลยี้ งดูเดก็ ๒. ดาเนินการแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการโดยการมีส่วนร่วมของชมุ ชน เชน่ การแจกไข่ และแจกนมหญงิ ตงั้ ครรภ์ และหญงิ ให้นมบตุ ร ๓. สนับสนุนแจกไข่ หรือ นม ให้แก่เด็กท่ีมีภาวะทุพโภชนาการต่อเนื่อง อยา่ งนอ้ ย ๓ เดือน สถานการณ์ทันตสขุ ภาพเด็กปฐมวัย สถานการณ์ทันตสุขภาพเด็กปฐมวัยในพ้ืนที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า เด็กอายุ ๑๘ เดือน มีฟันน้านมผุ ร้อยละ ๖.๓๐ และเด็กอายุ ๓ ปี มีฟันน้านมผุ ร้อยละ ๔๘.๔๐
๓๔ โดยจังหวัดนราธิวาสมีจานวนเด็กท่ีมีฟันน้านมผุมากที่สุด ท้ังน้ี มีสาเหตุมาจากพ่อแม่ ผู้เลี้ยงดู ไม่ให้ความสาคัญ กบั การทาความสะอาดช่องปาก และดูแลการรบั ประทานอาหาร ขนม ของเดก็ แนวทางการแกไ้ ขปัญหา ๑. การจัดกิจกรรมให้ความรู้ หรือ จัดโรงเรียนพ่อแม่ ฝึกปฏิบัติการ แปรงฟันทถี่ ูกวิธใี หก้ ับเดก็ ๒. สร้างความรอบรู้ให้กับ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ในการดูแลเร่ืองอาหาร ที่ส่งผลตอ่ สขุ ภาพช่องปาก และการแปรงฟันให้เดก็ อย่างถูกวิธี ๓. จัดกจิ กรรมการแปรงฟันหลงั อาหารในศนู ยเ์ ด็ก ๔. ในชุมชนควรมีกิจกรรมการประกวดสุขภาพช่องปาก เพื่อให้เกิด การกระตนุ้ ใหด้ ูแลอย่างถูกตอ้ งและสมา่ เสมอ สถานการณก์ ารสรา้ งเสริมภูมคิ ุ้มกนั โรค (EPI) เด็กปฐมวยั จากสถานการณ์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค (EPI) เด็กปฐมวัย พบว่า มีการระบาดของโรคหัดในปี ๒๕๖๑ - ๒๕๖๒ โดยเฉพาะในพื้นที่ ๓ จงั หวัดชายแดนภาคใต้ โดยจงั หวัดปัตตานี มีผู้ป่วยเสียชีวิต จานวน ๑๒ ราย และจังหวัดนราธวิ าสมีผู้ป่วยเสียชีวิต จานวน ๙ ราย รวมเป็น ๒๑ ราย ทั้งน้ี เนื่องจาก พ่อแม่ ผู้ปกครอง ปฏิเสธการรบั วัคซีน ซึ่งมีสาเหตุหน่ึงมาจากบางพื้นที่มีความเชื่อว่าวัคซีนไม่ฮาลาล และไมเ่ หน็ ถงึ ความสาคัญของการสร้างเสรมิ ภูมคิ ุ้มกนั โรค แนวทางการแก้ไขปัญหา ส่ือสารผ่านทางผู้นาศาสนา ผู้นาท้องถิ่น ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง และขยายตอ่ ไปยงั ประชาชนในพ้ืนที่ และกาหนด ระเบยี บ มาตรการ หรือ กตกิ าการรับเงนิ อุดหนนุ เด็กแรกเกิด หากไม่มาฉดี วคั ซนี จะระงบั การจา่ ยเงนิ สถานการณอ์ นามัยการเจริญพนั ธุ์วัยรนุ่ และเยาวชน ในพ้ืนท่ี ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของกลุ่มอายุ ต่ากว่า ๑๕ ปี ในอัตราร้อยละ ๐.๒๗ - ๐.๖๓ ต่อประชากรหญิง อายุ ๑๐ - ๑๔ ปี จานวน ๑,๐๐๐ คน ทาให้แม่ขาดโอกาสในการศึกษาต่อ และมีการต้ังครรภ์ซ้าสูง ซ่ึงมีสาเหตุเกิดจากไม่ได้ตั้งใจที่จะต้ังครรภ์ แตไ่ มร่ วู้ ิธกี ารคุมกาเนิด โดยรอ้ ยละ ๓๐ เป็นมสุ ลมิ ซึ่งสามแี ละญาตไิ มใ่ ห้คุมกาเนดิ เนื่องด้วยบรบิ ททางศาสนา แนวทางการแกไ้ ขปัญหา ๑. ให้ความรู้กับครอบครัว/ผู้ปกครอง เรื่องผลกระทบหรือภาวะแทรกซ้อน ทเี่ กิดจากการตง้ั ครรภใ์ นเดก็ อายตุ ่ากวา่ ๑๕ ปี ซงึ่ อาจจะส่งผลถึงชวี ติ แมแ่ ละทารก ๒. เจ้าหนา้ ที่สาธารณสุขร่วมกับสถานศึกษา สอดแทรกความร้เู ร่ืองทักษะ ชีวติ และการป้องกันและแกไ้ ขปัญหาการตง้ั ครรภ์ในกลุ่มนักเรยี น ๓. สรา้ งความเข้าใจให้กับครอบครัวและหญิงหลังคลอด เรื่องการเว้นช่วง การมีบุตรแบบกึ่งถาวร (ยาฝังคุมกาเนิด/ห่วงอนามัย) เพื่อป้องกันการต้ังครรภ์ซ้า และการดูแลสุขภาพมารดา และทารกหลงั คลอด สถานการณ์ภาวะขาดวติ ามนิ เอในเด็กอายุตา่ กวา่ ๕ ปี ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้พบว่า มีเด็กปฐมวัยขาดวิตามินเอ ร้อยละ ๒๙.๓๖ และเด็กที่มีการเจริญเติบโตดี (สูงดีสมส่วน) ร้อยละ ๕๐.๔๖ (เป้าหมายกาหนดไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐) ซง่ึ ยงั ตา่ กว่าเปา้ หมายท่กี าหนดไว้
๓๕ แนวทางการแก้ไขปัญหา ๑. พัฒนาศักยภาพบุคลากรเร่ืองการจัดการแก้ไขปัญหาการขาดวิตามินเอ และภาวะทุพโภชนาการ ๒. จัดรณรงคก์ ารจ่ายวติ ามินเอ ๓. การแกไ้ ขปญั หาภาวะทพุ โภชนาการแบบมีสว่ นรว่ มของชมุ ชน ๔. เจาะเลือดตรวจระดับวิตามนิ เอ หลังการใหว้ ติ ามนิ เอ ๖ เดือน ๕. ผลิตส่อื รณรงคแ์ ละประชาสมั พันธเ์ ก่ยี วกบั เรอื่ งดังกลา่ ว ๓) หน่วยสนบั สนุน หน่วยงานสนับสนุนมี ๑๐ หน่วยงาน ประกอบด้วย ๑) กระทรวงการต่างประเทศ ๒) องคก์ ารทุนเพ่ือเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ๓) องค์การช่วยเหลือเด็กประจาประเทศไทย (Save The Children) ๔) คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ๕) องค์การหมอไร้พรมแดน (DWBT) ๖) ศูนย์เตรียม ความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (Asian Disaster Preparedness Center : ADPC) ๗) ศูนย์เฝ้าระวัง สถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch) ๘) ไทยรัฐออนไลน์ ๙) สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง ๓๖ ๑๐) กองทนุ พัฒนาสือ่ ปลอดภยั และสร้างสรรค์ ๓.๑) กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการติดตามการดาเนินงานขององค์การ ระหว่างประเทศในรูปแบบคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแนวทางของภาครัฐตอ่ องค์การระหว่างประเทศ (IGOs) และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ท่ีเก่ียวข้องกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีองค์ประกอบจากสานักงาน คณะกรรมการขบั เคล่ือนการแก้ไขปญั หาจงั หวัดชายแดนภาคใต้ สว่ นหนา้ (คปต.) กระทรวงแรงงาน สานักงาน เลขานุการคณะกรรมการขับเคล่ือนการแก้ปัญหาจังหวดั ชายแดนภาคใต้ (สล.คปต.) และกองอานวยการรักษา ความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า นอกจากน้ี ยังมีการดาเนินงานในรูปแบบของคณะทางานในการพิจารณา กลั่นกรองการดาเนินงานขององค์การระหว่างประเทศ เช่น การพิจารณาความสาคัญของภารกิจ และความเหมาะสม ขององค์กรพัฒนาเอกชนจากต่างประเทศที่ขอเข้ามาดาเนินการในประเทศไทย หากเป็นการดาเนินงาน ทเ่ี ก่ียวข้องกับความม่ันคง จะมีสานกั งานสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการกากับ ดูแล และติดตาม ซึ่งองค์การระหว่างประเทศได้จัดทาแผนการดาเนินงานส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบก่อนการเข้าไป ดาเนินการ ๓.๒) องค์การทุนเพ่ือเดก็ แห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ได้มีการเก็บรวบรวม ข้อมูลต่าง ๆ ของเด็กและเยาวชนในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้วิธีการ Multiple Indicator Cluster Survey : MICS ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลเด็กและเยาวชนเป็นรายประเด็น ซึ่งดาเนินการร่วมกับสานักงานสถิติแห่งชาติ และเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลทั่วท้ังประเทศ โดยมุ่งเน้น ๑๔ จังหวัดท่ีมีความยากจน และชุมชนแออัด ในกรุงเทพมหานคร จากการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ทาให้องค์การได้รับทราบข้อมูลในหลายมิติ ซ่ึงเป็นประโยชน์ ในการพัฒนาศักยภาพของเด็ก การดาเนินงานปกป้องคุ้มครองเด็กขององค์การทุนเพ่ือเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ดังน้ี (๑) โครงการส่งเสริมด้านการศึกษา องค์การทุนเพ่ือเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ได้มีโครงการเสริมสร้างการเรียนรู้โดยใช้ทวิภาษา ซึ่งองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ร่วมมือ กับมหาวิทยาลัยมหิดลและกระทรวงศึกษาธิการ โดยส่งเสริมระบบการเรียนรู้ท้ัง ๒ ภาษา ซึ่งเป็นการส่งเสริม การเรียนรู้ทางด้านภาษาเพ่ิมมากขึ้น รวมท้ังพยายามแก้ไขปัญหาของเด็กประถมศึกษา โดยการปรับปรุง และพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก ซ่ึงสอดคล้องกับนโยบายของชาติในด้านการดูแลเด็กประถมวัย นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือ กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในการพัฒนาข้อมูลเก่ียวกับเด็ก ท้ังในประเด็นเด็กกาพร้า และเดก็ ท่ไี ด้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพืน้ ที่จงั หวดั ชายแดนภาคใต้
๓๖ (๒) การคุ้มครองเด็กจากการถูกทาร้ายและการถูกล่วงละเมิดด้านต่าง ๆ องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ร่วมมือกับเครือข่ายและภาคีต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการเสริมสร้างศักยภาพของเด็กให้ได้รับการปกป้องและคุ้มครองด้านต่าง ๆ ซ่ึงในพื้นท่ีจังหวัดชายแดน ภาคใต้มีระบบการจัดการภาครัฐที่แตกต่างออกไปจากพ้ืนท่ีอ่ืน จึงมีรูปแบบในการทางานแตกต่างออกไป โดยมุ่งเน้นการสร้างความรับรู้และความเข้าใจในการปกป้องและคุ้มครองสิทธิของเด็ก ซ่ึงได้ดาเนินการ ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน และหน่วยงาน ในพ้นื ที่ เชน่ ศูนยอ์ านวยการบริหารจังหวดั ชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปน็ ต้น และบางโครงการก็อาจจะมีหน่วยงาน ทางความม่ันคงเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทาโครงการด้วยเช่นกัน ซึ่งองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ เช่อื ม่ันในการใหค้ วามสาคญั ของการพัฒนาเด็กในด้านต่าง ๆ โดยร่วมมือกับทุกภาคสว่ น ทัง้ ภาครฐั ภาคเอกชน รวมทั้งหน่วยงานทางความมั่นคง ในการสนับสนุนด้านวิชาการ ด้านกระบวนการคุ้มครองเด็ก และการสร้างเครือข่าย ของเด็กและเยาวชนในพื้นท่ี นอกจากนี้ องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ยังได้มีการจัดอบรม เร่ืองการคุ้มครองเด็ก โดยทางานร่วมกับกรมกิจการเด็กและเยาวชน ซึ่งมุ่งเน้นเกี่ยวกับการให้ความรู้ และความเข้าใจในการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ อันถือได้ว่าเป็นการทางานเชิงรุกในด้านการเตรียมพร้อม รบั มอื ในทุก ๆ ด้าน (๓) ทิศทางการทางานในอนาคต การเก็บรวบรวมข้อมูลผ่าน MICS น้ัน เพ่ือให้เห็นถึงพัฒนาการด้านต่าง ๆ และผลกระทบเชิงลบต่อเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ อันเป็นการสร้างหลกั ฐานเชิงประจักษ์ใหเ้ ห็นถึงความสาคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชนในด้านต่าง ๆ รวมทั้ง การปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยมีทิศทางการทางานในอนาคต ดังน้ี ๑) พัฒนาผลงานขององค์การทนุ เพ่ือเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ๒) การทางานร่วมกับศูนย์อานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ๓) การส่งเสรมิ ใหม้ ีการลงนามในปฏญิ ญาโรงเรียนปลอดภัย (Safe Schools Declaration) ๓.๓) องค์การช่วยเหลือเด็กประจาประเทศไทย (Save The Children) ดาเนนิ โครงการทเ่ี ก่ยี วข้อง ดังน้ี - โครงการด้านการศึกษา เด็กทุกคนได้รับโอกาสทางการศึกษา และพัฒนา โดยมโี ครงการ EPLR เปน็ โครงการทีด่ าเนนิ การในพ้นื ท่ีจงั หวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะ - โครงการปกป้องคุ้มครอง เด็กทุกคนได้รับการปกป้องคุ้มครอง จากความรุนแรงทุกรูปแบบ จานวน ๗ โครงการ ได้แก่ IMPACT, SPACE, EASE II, PROMPT, PROCEED, LEAP, SEAL ซ่ึงเป็นความรว่ มมอื ระดับชาติ และอาศยั ผลรายงานการศึกษาขององค์การทุนเพ่ือเดก็ แหง่ สหประชาชาติ (UNICEF) เป็นขอ้ มูลพ้ืนฐานในการดาเนนิ งาน อันเป็นผลการศึกษาในพ้ืนที่ภาคเหนือ บริเวณแมส่ อด และพนื้ ที่ ภาคใต้ซ่ึงเป็นพื้นที่ท่ีมีความขัดแย้ง เช่น พ้ืนที่ ๓ จังหวัดภาคใต้ เป็นต้น โครงการรอดชีวิต : ป้องกันเด็กมิให้ เสียชีวิตจากเหตุท่ีป้องกันได้ จานวน ๒ โครงการ : HEALTH/SAFETY PROJECTS : Water Safety, ๕๐ HEALTHY SCHOOLS ซึ่งเป็นโครงการที่ลงไปดาเนินการในพื้นท่ีภาคใต้ เพ่ือสร้างความเข้าใจและเข้าถึงชุมชนเก่ียวกับ ความปลอดภัยของเด็ก โดยเฉพาะอย่างย่ิง ในเร่ืองภัยพิบัติ เพื่อให้มีการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ และให้เดก็ สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณต์ ่าง ๆ ได้ - โครงการในพ้นื ท่ีจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ๑. โครงการบ้านแรกอ่าน : First Read เป็นการจัดทาหนังสือนิทาน ภาษาไทย - มลายู ให้กบั เดก็ อายุ ๓ - ๖ ปี
๓๗ ๒. โครงการ อ่านอิ่มรัก ซ่ึงเป็นโครงการส่งเสริมการอ่านและพัฒนาการ เด็กปฐมวัย โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง โดยเฉพาะ “พ่อ” ในการสร้างเสริมการเรียนรู้ และรว่ มกิจกรรมกับลูก ๆ ๓. โครงการรักลกู ให้บวก เปน็ โครงการสรา้ งความเข้มแข็ง และเสรมิ สร้าง การเรียนร้ขู องเดก็ โดยม่งุ เนน้ ใหเ้ ห็นถึงความสาคัญของการอา่ น ๔. โครงการอาชีพ (Achieve) มีวัตถุประสงค์ในการสร้างสมานฉันท์ ในชุมชนต่าง ๆ ท้ังชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธและอิสลามในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพ่ือสร้างความร่วมมือ และสนับสนุนการสร้างทักษะอาชีพ/ การฝึกอาชีพแก่เยาวชน และสร้างความร่วมมือในชุมชน รวมท้ังพัฒนา ศกั ยภาพ ทักษะอาชพี โอกาสในการมีอาชีพ และสร้างรายได้ องคก์ ารชว่ ยเหลือเด็กประจาประเทศไทย (Save The Children) ไดร้ ่วม ดาเนินการช่วยเหลือเด็กในพ้ืนที่ต่าง ๆ ร่วมกับภาคีเครือข่าย เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กลุ่มลูกเหรียง เปน็ ต้น ๓.๔) คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) คณะกรรมการกาชาด ระหว่างประเทศได้มีการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาเป็นระยะเวลากว่า ๑๐ ปี โดยมีภารกิจ เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และครอบครัวผู้สูญเสียจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ี จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควบคู่กับโครงการส่งเสริมการดารงชีพในระดับชุมชนด้วยความร่วมมือ การจัดฝึกอบรม ด้านสายอาชีพ และมีการประเมินความต้องการทางสุขภาพจิตและจิตวิทยาสังคมของผู้ได้รับผลกระทบ จากการขัดกันทางอาวุธ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเหตุฉุกเฉินอ่ืน ๆ เพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ในการใหค้ วามช่วยเหลือต่อไป ภารกิจการดาเนินงานท่ีผา่ นมาในพื้นทจ่ี ังหวดั ชายแดนภาคใต้ ในปี ๒๕๖๒ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) สานักงาน ภูมิภาคกรุงเทพมหานคร ได้มีโครงการท่ีเก่ียวข้องในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ๑) โครงการเย่ียมผู้ท่ีได้รับ ผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ๒) โครงการให้ความช่วยเหลือผู้ท่ีได้รับ ผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เก่ียวกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับผู้ท่ีได้รับผลกระทบมีวิถีชีวิตที่ดีข้ึนหลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพน้ื ที่ ๓) โครงการเยี่ยมครอบครวั ผ้ทู ่ถี ูกควบคุมตัวหรือถกู คุมขังหรือถูกดาเนินคดีตามกฎหมายจากสถานการณ์ ความรุนแรงในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๔) โครงการคุ้มครองผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่จะมีการลงพ้ืนท่ีไปพูดคุยและรับฟังปัญหา ของผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ เพ่ือช่วยเหลือให้บุคคลเหล่านี้ให้สามารถกลับไปดาเนิน ตามวิถีชีวติ เดิมไดอ้ ย่างปกติ ๕) โครงการส่งเสริมการดารงชพี ในระดับชุมชนและการจดั ฝึกอบรมดา้ นสายอาชีพ ใหก้ บั ครอบครัวและผู้ทไ่ี ดร้ ับผลกระทบจากสถานการณค์ วามไม่สงบในพ้ืนท่ีจงั หวัดชายแดนภาคใต้ อนึ่ง จากโครงการและกิจกรรมข้างต้นนี้ อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ ของผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ต้องการเข้าถึงการให้ความช่วยเหลือ แต่โครงการดังกล่าวจะสามารถนาไปเป็น โครงการตัวอย่างที่ดี เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและแนวทางการดาเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และหน่วยงาน ภาครัฐท่ีเกี่ยวข้องในพ้ืนที่ต่อไปได้ รวมถึงจะสามารถสร้างความไว้วางใจของกลุ่มผู้ท่ีได้รับผลกระทบได้อย่าง ยั่งยืน ๓.๕) องค์การหมอไร้พรมแดน (Doctors Without Borders Thailand : DWBT) มีโครงการในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มตั้งแต่ ปี ๒๕๖๑ และมีเป้าหมายการส่งเสริมการบริการ
๓๘ ด้านสุขภาพจิตของเด็กและสตรี ท้ังนี้การดาเนินงานดังกล่าวเป็นการสนับสนุนภารกิจการดาเนินงาน ของหน่วยงานภาครัฐและโรงพยาบาลในเครือข่าย รวมถึงเป็นการให้บริการสาหรับผู้มีความต้องการ ทางการแพทย์สามารถเข้าถึงการให้ความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม ภารกิจการดาเนินงานที่ผ่านมาในปี ๒๕๖๒ ในพ้นื ทจ่ี ังหวัดชายแดนภาคใต้ ไดแ้ ก่ (๑) ให้คาปรึกษาด้านจิตบาบัดและด้านสุขภาพจิตแบบกลุ่ม และแบบรายบุคคล โดยมีสถานที่ให้บริการชื่อบ้านธารธาราประจาจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส อีกทั้งยังมีสถานให้บริการครอบคลุมในจังหวัดสงขลาอีกด้วย ท้ังน้ีสถานที่บริการ จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลาจะเป็นศูนย์รวมของผู้เข้าใช้บริการเป็นหลัก ซึ่งมีนักจิตวิทยา และนักสังคม สงเคราะห์ประจาอยู่ในสถานทบ่ี รกิ าร (๒) การให้บริการและอบรมความรู้ด้านสุขภาพจิตร่วมกับเครือข่าย พันธมิตร อาทิ โรงพยาบาล องค์การเอกชน และชุมชนในพ้ืนที่ เกี่ยวกับการรับรู้ในเบ้ืองต้นท่ีช่วยลดความรุนแรง ของอาการหรอื ปญั หาทางด้านสุขภาพจิต (๓) ทางานร่วมกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ โรงพยาบาลจังหวัดและอาเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลและอาสาสมัครสาธารณสุข ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดและอาเภอ สานักงานสาธารณสุขจังหวัดและอาเภอ สานักงานพัฒนา สังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัด บ้านพักเด็กและครอบครัว นอกจากน้ียังทางานร่วมกับหน่วยงานเอกชน ไดแ้ ก่ เครือข่ายสตรีตา่ ง ๆ ในพ้นื ที่ องคก์ ารและเครอื ขา่ ยทท่ี างานดา้ นเด็ก และโรงเรียนตาดีกาของชมุ ชน ๓.๖) ศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (Asian Disaster Preparedness Center : ADPC) ศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย มีความสามารถในการ จัดการด้านภัยธรรมชาติ เช่น อุทกภัย ภัยแผ่นดินไหว เป็นต้น โดยภัยพิบัติที่เกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบ ในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชียไม่ค่อยมีโครงการ หรือกิจกรรมเก่ียวกับเรื่องดังกล่าว แต่จะมีงานด้านการให้ความช่วยเหลือด้านจิตสังคม (Psychological First Aid) และให้การสนับสนุนด้านขอ้ มูลต่าง ๆ ๓.๗) ศนู ย์เฝ้าระวงั สถานการณภ์ าคใต้ (Deep South Watch) ศูนยเ์ ฝา้ ระวัง สถานการณ์ภาคใต้ มุ่งเน้นการให้ความรู้และข้อมูลแก่ประชาชนในการติดตามสถานการณ์ และสร้างความเข้าใจ ต่อสถานการณ์และเร่ืองราวในพื้นที่ รวมทั้งเปิดพ้ืนที่สาธารณะและสร้างพื้นท่ีกลาง (Public Spheres and Common Spaces) โดยได้ข้อมูลมาจาก กระทรวงมหาดไทย สื่อ ตารวจ และทหาร ซ่ึงอาศัยการตรวจสอบข้อมูล จากหลายแหล่งที่มา ๓.๘) ไทยรัฐออนไลน์ ไทยรัฐออนไลน์ ในฐานะส่ือ มีส่วนช่วยสะท้อนใหเ้ ห็นถึง สภาพปญั หาในพ้ืนทจ่ี ังหวดั ชายแดนภาคใต้ โดยได้สะท้อนการทางานในฐานะส่อื ดงั นี้ (๑) มุมมองการดาเนินงานและบทบาทของสื่อเกี่ยวกับการให้ความ ช่วยเหลือเด็ก เยาวชน และครอบครัวท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ีจังหวัด ชายแดนภาคใต้ ระยะเวลาที่ผ่านมากว่า ๑๕ ปี กับเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นท่ี จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ว่าจากกลุ่มบุคคลใดท่ีพบเจอความเจ็บปวด และบาดแผลที่ฝังรากลึกในจิตใจ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีความสูญเสีย ที่มองไม่เห็น ที่ถูกซุกซ่อนอยู่จานวนมาก ซึ่งพวกเขาเหล่านั้น คือ “เด็กกาพร้า” ที่หลายคนมองข้าม และเด็กเหล่าน้ีได้ถูกทอดทิ้งให้อยู่กับความเจ็บปวดท่ีไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ จากจานวนเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นับตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ เป็นต้นมา กว่า ๑๐,๐๒๘ ครั้ง จะมีเด็กกาพร้าเกิดขึ้น
๓๙ ๖,๖๓๙ คน หรือในทุกเหตุการณ์ความไม่สงบ จานวน ๑๕๐ ครั้ง จะเกิดเด็กกาพร้า จานวน ๑๐๐ คน โดยเบ้ืองหลังการผลิตรายการ “The Invisible Loss ๑๕ ปี ไฟใต้ ความสูญเสียท่ีมองไม่เห็น” ได้เกิดมุมมอง หลากหลายประการที่สามารถแสดงให้เห็นถึงทัศนคติของกลุ่มคนในแต่ละพื้นที่ อาทิ กลุ่มเด็กที่ได้การรับรอง จาก ๓ ฝ่าย (ทหาร ตารวจ และฝา่ ยปกครอง) กล่มุ เดก็ ที่ไม่ได้การรับรองจาก ๓ ฝา่ ย และมปี ระชาชนบางส่วน ท่ีผู้เป็นเสาหลักของครอบครวั ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหรือถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับการก่อเหตุความไม่สงบ ในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งกลุ่มทหารในพ้ืนท่ีถูกซุ่ มยิงหรือลอบทาร้าย ซ่ึงจากการ ลงพื้นที่ไปศึกษาความเป็นอยู่ของเด็กในสถานที่แห่งหน่ึงท่ีเรียกว่า “บ้านนูซันตารา” มีเด็กกาพร้าที่ไม่ได้ การรับรองจาก ๓ ฝ่าย และไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ได้แสดงออกถึงความไม่ไว้วางใจบุคคลแปลกหน้า ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างความไว้วางใจและการเข้าไปคลุกคลีสร้างความสนิทสนมเพ่ือบอกเล่าเรื่องราว ทีอ่ ยภู่ ายในจิตใจของเดก็ (๒) ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานภาครัฐ องค์การพัฒนา เอกชน (NGOs) และองค์การระหว่างประเทศ (IGOs) เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเด็ก เยาวชน และครอบครวั ทไี่ ดร้ ับผลกระทบจากสถานการณค์ วามไมส่ งบในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไมส่ งบในพื้นท่ีจังหวดั ชายแดนภาคใต้หลงั จากเผชิญภาวะวิกฤต มศี ูนย์อานวยการบริหารจังหวัดชายแดน ภาคใต้เป็นศูนย์กลางร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข และมีศูนย์เด็กกาพร้าในการกากับดูแล จานวน ๑๑ แห่ง เพ่ือรองรับจานวน เดก็ กาพรา้ ท่เี กิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ โดยระยะเวลาท่ีผ่านมา ๑๖ ปี มเี หตุการณ์เกิดขน้ึ ประมาณ ๑๘,๐๐๐ ครั้ง สูญเสียชีวิตประมาณ ๕,๐๐๐ คน และมีเด็กกาพร้าท่ีรัฐต้องดูแลประมาณ ๔,๐๐๐ คน นอกจากน้ีมีเด็กกาพร้าบางส่วนที่กระจายอยู่ในชุมชน ซ่ึงจะมีองค์การไม่แสวงหากาไรหรือองค์การพัฒนา เอกชน (NGOs) ให้ความช่วยเหลอื เดก็ กาพร้าเหลา่ นี้ (๓) ปัญหา และอปุ สรรคทีเ่ กีย่ วขอ้ ง (๓.๑) จากสถิติข้อมูลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม ของเด็ก เยาวชน และครอบครัว ของหนว่ ยงานภาครัฐท่ีเก่ียวข้อง พบวา่ มจี านวนข้อมูลทแี่ ตกต่างกันอยูม่ ากหรือมีระยะเวลาการปรบั ปรงุ ข้อมูล ที่แตกต่างกัน หรือขาดฐานข้อมูลกลางเกี่ยวกับข้อมูลสถิติเหตุการณ์และจานวนผู้ท่ีได้รับผลกระทบในพื้นที่ ที่ชัดเจน ทาให้การนาข้อมูลไปใช้งานอาจเกิดความสับสนหรือไม่สามารถนาไปอ้างอิงความถูกต้องได้ และอาจทาใหก้ ารประสานงานความชว่ ยเหลือระหว่างหน่วยงานท่เี ก่ียวข้องเกดิ ความคลาดเคลอ่ื นได้ (๓.๒) ไม่มีช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพ้ืนที่เข้ารับการรักษา ทโ่ี รงพยาบาลในพ้ืนที่ เพอื่ ประสานความช่วยเหลอื ระหว่างหน่วยงานทเ่ี กีย่ วขอ้ งไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว (๔) ขอ้ เสนอแนะของหน่วยงาน (๔.๑) จากการพูดคุยกับกลุ่มเด็กกาพร้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังอยู่ในลักษณะหวาดผวาและอยู่ในความรู้สึกท่ีไม่ดีต่อเจ้าหน้าที่รัฐ โดยประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษา และพัฒนาทรัพยกรมนุษย์ ได้ถ่ายทอดความรู้สึกเก่ียวกับเด็กกาพร้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้ว่า เด็กกาพร้าเพศชายจะมีพฤติกรรมท่ีก้าวร้าวมากข้ึน และเด็กกาพร้าเพศหญิงจะมีพฤติกรรมไม่ค่อยสื่อสาร กับผู้อ่ืน ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์สุขภาพจิตท่ี ๑๒ จังหวัดปัตตานี ในเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด รถจักรยานยนต์บอมบ์บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านตาบา อาเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยจากเหตุการณ์ มีพ่อแม่ของเด็กนักเรียนเสียชีวิต และมีเด็กที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จากการประเมินเด็ก จานวน ๓๑๗ คน
๔๐ พบว่า เด็กมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคเครียด (PTSD) ภายหลังเกิดเหตุการณ์ จานวน ๑๐๓ คน คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ ๓๒ และมีเด็ก จานวน ๒๑๑ คน ท่ีมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า จานวน ๑๒๗ คน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๖๐.๑๙ ดังนั้น เพื่อป้องกันภาวะเส่ียงทางด้านจิตใจของเด็กหลังเผชิญเหตุการณ์วิกฤต หน่วยงาน ภาครัฐจึงควรมีแนวทางความร่วมมือและการบริหารจัดการให้มีความครอบคลุมอย่างเป็นระบบ พร้อมกับ การคุม้ ครองดา้ นสิทธมิ นุษยชนและความเสมอภาคของประชาชนไปพร้อมเพรยี งกนั (๔.๒) การเข้าไม่ถึงการเยียวยาของกลุ่มเด็กกาพร้าและครอบครัว ผู้ได้รับผลกระทบที่ถูกมองว่าเก่ียวข้องกับสถานการณ์ความรุนแรงในปัจจุบัน ซ่ึงเป็นกลุ่มฝ่ายตรงข้ามรัฐ และไม่ได้รับการรับรองจาก ๓ ฝ่าย ยังไม่มีการบริหารจัดการขององค์กรภาครัฐและเอกชนและการบูรณาการ ทางานร่วมกัน เพ่ือลดความเหล่ือมล้าทางสังคมของเด็กกาพร้าจากสถานการณ์ความรุนแรงไม่ให้กลายเป็น ปญั หาสงั คมในอนาคต ๓.๙) สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง ๓๖ ในฐานะสื่อ มีส่วนช่วยสะท้อน ใหเ้ ห็นถงึ สภาพปญั หาในพนื้ ทจี่ ังหวดั ชายแดนภาคใต้ โดยไดส้ ะทอ้ นการทางานในฐานะสื่อ ดังนี้ (๑) มุมมองการดาเนินงานและบทบาทของส่ือเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ เด็ก เยาวชน และครอบครวั ท่ีไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพืน้ ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากข้อมูลตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ ที่ผ่านมาของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ ภาคใต้ ได้เปิดเผยสถิติความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๔๗ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ พบว่า มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น จานวน ๒๐,๕๑๒ คร้ัง มีผู้เสียชีวิต ๗,๐๘๕ คน บาดเจ็บ ๑๓,๒๓๓ คน และยังมีผลกระทบต่อสังคมโดยเฉพาะมีจานวนเด็กกาพร้าเพิ่มมากขึ้นจากความสูญเสีย ท่ีผ่านมา ซึ่งข้อมูลจากสานักส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ ๑๒ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ ยังได้แสดงให้เห็นว่า ตลอดระยะเวลา ๑๕ ปี จะมีเด็กกาพร้าเพิ่มขึ้นทั้งหมด ๙,๘๐๖ คน โดยมีเด็กท่ีสูญเสียพ่อหรือแม่จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ในวันเกิดเหตุการณ์ เดก็ มีอายุไมเ่ กนิ ๒๕ ป)ี มจี านวนทั้งสิน้ ๗,๒๙๗ คน ท้ังน้ี จากการลงพ้ืนท่ีทาสารคดีเชิงข่าวได้เปิดมุมมองของกลุ่มเด็ก ท่ีไม่ได้รับการรับรองจาก ๓ ฝ่าย (ทหาร ตารวจ และฝ่ายปกครอง) หรือกลุ่มลูกผู้คิดเห็นต่างท่ีพ่อ หรือแม่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถสะท้อนให้เห็นได้ว่า สิทธิข้ันพื้นฐานของกลุ่มเด็กเหล่าน้ียังไม่ได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกันจากหน่วยงานภาครัฐ ท้ังการให้ ความช่วยเหลือด้านเงินเยียวยาและด้านการศึกษา เพราะเม่ือมองในบริบทของความเป็นเด็กที่อยู่ในสถานการณ์ ความรุนแรง พวกเขาก็คือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่รอการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเหมือนเด็กโดยท่ัวไป ซ่ึงการสูญเสียผู้นาครอบครัวจากสถานการณ์ความไม่สงบ ในพ้ืนที่จะกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กแลว้ ยังกระทบต่อสภาพจิตใจทาให้ที่รู้สกึ ว่าเกิดความอยุติธรรม ข้ึนกับคนในครอบครัว ที่อาจนาไปสู่ความเกลียดชังเจ้าหน้าท่ีรัฐ และอาจนาไปสู่เง่ือนไขความขัดแย้งที่เกิดข้ึน และดาเนินมาอย่างยาวนานถึง ๑๖ ปี หากเด็กกลุ่มน้ีไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ อาจยิ่งทาให้เกิด ความรู้สึกแบ่งแยก ถูกเลือกปฏิบัติ รวมถึงเด็กบางคนอาจมีปัญหาสขุ ภาพจิตท่ีเรียกว่า ภาวะโทมาร์ (Trauma) หรือมีความเครียดเฉียบพลันไปจนถึงการเป็นโรคซึมเศร้า ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติทางด้านจิตใจ ของเด็ก จากเจ้าหน้าที่ดูแล ซึ่งภายหลังจากการสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กกลุ่มนี้ ยังได้มองเห็นแนวความคิด ของเด็กผ่านกิจกรรมการวาดภาพในมูลนิธิเด็กนูซันตารา ท่ีบ่งบอกถึงพฤติกรรมท่ีเด็กจานวนหนึ่งอาจมีภาวะเส่ียง ทางอารมณค์ วามรนุ แรงและสภาพจติ ใจหลังเผชิญเหตุวิกฤต เช่น การวาดภาพคนยืนถอื อาวธุ ปนื เปน็ ตน้
๔๑ (๒) ปญั หา และอุปสรรคท่เี กี่ยวขอ้ ง (๒.๑) ภาครฐั ยงั มองว่ามูลนธิ ิเอกชนต่าง ๆ ท่ใี ห้ความช่วยเหลือเด็กกาพร้า ลูกของผู้เห็นต่าง คือ ฝ่ายตรงข้าม หรือเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบ ซึ่งมีอย่างน้อย ๓ ครั้ง ที่ประธานมูลนิธินูซันตารา ถูกเรียกตัวไปปรับทัศนคติและทุกการจัดกิจกรรมให้เด็กในบ้านพักเด็กมูลนิธิซันตารา จะมีหน่วยงานทหารถืออาวธุ เข้ามาสังเกตการณ์อยู่เสมอ และพยายามเข้าควบคุมกิจกรรมของมูลนธิ ิ (๒.๒) มีคนจานวนมากในพ้ืนท่ี มีความไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าท่ีรัฐ แม้สถิติ ข้อมูลจากศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ระบุว่าความรุนแรงในพื้นท่ีจะลดลงต่อเนื่องในช่วง ๒ - ๓ ปี แต่จากการสารวจความคิดเห็นของคนในพ้ืนที่ต่อสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ี กลับพบว่าประชาชน ร้อยละ ๗๐ รสู้ กึ ว่าสถานการณใ์ นพื้นท่เี ก่ยี วกบั การละเมิดสทิ ธิมนุษยชนมีความรนุ แรงขึน้ จงึ ทาให้การเข้าไปช่วยเหลือ ของหน่วยงานภาครัฐส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธ เพราะเม่ือใดที่มูลนิธิฯ รับงบอุดหนุนจากภาครัฐ พวกเขาก็จะมอง เป็นฝ่ายตรงข้ามและเกิดความไม่ไว้วางใจทันที ๓.๑๐) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เป็นองค์กรท่ีมีภารกิจ และบทบาทหน้าท่ีในการสนับสนุนและกระตุ้นให้เกิดส่ือปลอดภัยและสร้างสรรค์ รวมทั้งเป็นแหล่งทุน เพื่อการสร้างสังคม “รู้เท่าทันส่ือ” ให้แก่เด็ก เยาวชนและครอบครัว พร้อมทั้งมีบทบาทหน้าที่ในการเฝ้าระวัง ส่ือท่ีคานึงถึงการตรวจสอบแบบกัลยาณมิตร สร้างฐานข้อมูล สร้างนวัตกรรม ทางานเชิงประเด็น และมีกลมุ่ เป้าหมายหลากหลาย (๑) บทบาทของกองทุนต่อการสนบั สนนุ โครงการใน ๓ จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ กองทุนพัฒนาส่ือปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีโครงการที่ได้ดาเนินการ และร่วมสนับสนุน ท้ังหมดจานวน ๒๙๒ โครงการ และใช้งบประมาณ จานวน ๗๔๓,๗๘๐,๕๓๐ บาท ซ่ึงมีโครงการ ใน ๓ จังหวัด ท้ังหมด จานวน ๒๖ โครงการ และใช้งบประมาณ จานวน ๕๑,๖๓๑,๘๑๐ บาท ซึ่งสามารถ คดิ เป็นรอ้ ยละ ๖.๙๔ โดยมีประเภทโครงการใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังน้ี ๑. โครงการวิจยั และขบั เคลื่อนสงั คม จานวน ๔ โครงการ และใช้งบประมาณ จานวน ๓,๗๖๙,๐๐๐ บาท ซึ่งคิดเปน็ รอ้ ยละ ๗.๒ ๒. โครงการพัฒนาส่ือสาหรับเด็กและเยาวชน จานวน ๖ โครงการ และใช้งบประมาณ จานวน ๙,๗๓๖,๐๖๐ บาท ซ่งึ คดิ เป็นร้อยละ ๑๘.๘ ๓. โครงการรเู้ ทา่ ทันและเฝา้ ระวงั จานวน ๙ โครงการ และใชง้ บประมาณ ๑๖,๖๙๓,๑๕๐ บาท ซ่ึงคิดเป็นร้อยละ ๓๒.๒ ๔. โครงการพัฒนาส่ือสาหรับประชาชน จานวน ๗ โครงการ และใช้ งบประมาณ ๒๑,๔๓๓,๖๐๐ บาท ซ่ึงคิดเป็นรอ้ ยละ ๔๑.๕ (๒) กล่มุ เปา้ หมายของโครงการใน ๓ จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ โครงการใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีกลุ่มหมายต่าง ๆ ซึ่งสามารถ แบ่งออกได้ ดังนี้ ๑. กลุ่มเป้าหมายท่ีเป็นเด็กและเยาวชน จานวน ๑๗ โครงการ โดยใช้งบประมาณ จานวน ๓๑,๘๓๙,๒๑๐ บาท ซ่ึงคดิ เปน็ ร้อยละ ๖๑.๖ ๒. กลุ่มเป้าหมายท่ีเป็นประชาชนทั่วไป จานวน ๙ โครงการ โดยใช้งบประมาณ จานวน ๑๙,๗๙๒,๖๐๐ บาท ซึง่ คดิ เป็นรอ้ ยละ ๓๘.๔
๔๒ (๓) โครงการวิจัยรูปแบบและระบบนิเวศส่ือปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่ช่วยเยียวยาส่งเสริมสุขภาพจิตท่ีดีต่อเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาเพื่อลดผลกระทบจากสถานก ารณ์ ความรนุ แรงในพน้ื ทีจ่ ังหวดั ชายแดนภาคใต้ โครงการวิจัยรูปแบบและระบบนิเวศส่ือปลอดภัยและสร้างสรรค์ ท่ีช่วยเยียวยาส่งเสริมสุขภาพจิตท่ีดีต่อเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาเพ่ือลดผลกระทบจากสถานการณ์ ความรุนแรงในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนประเภททุนสนับสนุน แบบเปิดรับท่ัวไป (Open Grant) ปี ๒๕๖๑ ประเภทวิจัยและขับเคลื่อนสังคม ซ่ึงใช้งบประมาณท้ังหมด จานวน ๑,๐๖๙,๐๐๐ บาท โดยมีผู้รับผิดชอบโครงการ คือ นายสุรชัย ไวยวรรณจิตร (ที่ปรึกษาคณะอนุ กรรมาธิการ) และคณะ ซึ่งมีระยะเวลาในการดาเนินโครงการระหวา่ งเดอื นธันวาคม ๒๕๖๑ - มกราคม ๒๕๖๓ ภาพประกอบ ๑๒ ผลสรปุ เก่ียวกบั โมเดลการปฏบิ ัตงิ านกับเดก็ และเยาวชนในพนื้ ท่ี เพื่อชว่ ยเยยี วยาสง่ เสรมิ สุขภาพจิตท่ดี ี
๔๓ ๓.๔ ผลลัพธ์การดาเนินงานให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็ก สตรี และครอบครัวท่ีได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนทใ่ี นจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ จากผลการศึกษาการดาเนินงานให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็ก สตรี และครอบครัวท่ีได้รับ ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไม่สงบในพื้นที่จงั หวัดชายแดนภาคใต้ พบผลท้งั มติ ขิ องนโยบาย การเสรมิ สร้าง ความเข้มแข็งด้านร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สิน ของผู้ได้รับผลกระทบ และเกิดเครือข่ายความร่วมมือในการทางาน ในพื้นท่ี ดงั รายละเอียดต่อไปน้ี ๓.๔.๑ มีนโยบายและยุทธศาสตร์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็ก สตรี และครอบครวั ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งแนวทาง การเยียวยาผู้ได้รบั ผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ีจังหวดั ชายแดนภาคใต้ จากการศึกษา พบวา่ การดาเนินงานให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็ก สตรี และครอบครัว ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประเด็นสาคัญท่ีมีนโยบาย และยุทธศาสตร์ในการรองรับอย่างชัดเจน ทาให้การดาเนินการเป็นไปอย่างเป็นระบบ มีกลไกระดับต่าง ๆ ในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ซึ่งจัดต้ังโดยรัฐบาลในรูปแบบคณะกรรมการและมีนายกรัฐมนตรี หรือผู้บริหารระดับสูงเป็นประธาน มีแหล่งงบประมาณในการทางานผ่าน “แผนบูรณาการขับเคลื่อนแก้ปัญหา จังหวัดชายแดนภาคใต้” มีกลไกด้านสิทธิเด็ก เช่น ศูนย์ประสานงานด้านเด็กและสตรีของศูนย์อานวยการ บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ท่ีพยายามบูรณาการการทางานร่วมกันของหลายฝ่าย ตามกรอบของอนุสัญญา ว่าด้วยสิทธิเด็กและอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบท่ีรัฐบาลได้ลงนามไว้ และมีจานวนบุคลากรทางานในพื้นที่และมีเครือข่ายทางานท้ังในและนอกพื้นท่ีรวมทั้งมีองค์กรเครือข่าย ระหว่างประเทศใหก้ ารสนบั สนุนในด้านตา่ ง ๆ ๓.๔.๒ เสรมิ สรา้ งความเขม้ แข็งด้านร่างกาย จติ ใจ ทรัพยส์ นิ แก่ผู้ไดร้ บั ผลกระทบ จากการดาเนินการต่าง ๆ ของภาคส่วนท่ีเก่ียวข้องทั้งในระดับประเทศและระดับ พ้ืนที่ รวมถึงหน่วยงานเอกชนท้ังระดับชาติและนานาชาติ ก่อให้เกิดความเข้มแข็งด้านร่างกาย เช่น ได้รับการ ช่วยเหลือเยียวยาสาหรับผู้ท่ีได้รับบาดเจ็บ ทั้งการดูแลรักษาและค่ารักษาพยาบาล ด้านจิตใจ เช่น มีการเสริมสร้าง ความเข้าใจ ให้รับรู้ข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้น ให้กาลังใจ ฟ้ืนฟูจิตใจ และรับฟังปัญหาความต้องการ ของผูไ้ ดร้ บั ผลกระทบดา้ นทรพั ยส์ ิน เชน่ มีการชดเชยด้านทรัพยส์ ินแก่ผูไ้ ด้รบั ผลกระทบ เป็นตน้ ๓.๔.๓ เกดิ เครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ในการทางาน จากการศึกษา พบว่าการดาเนินงานก่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือจากหน่วยงาน ทุกระดับ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ในระดับชาติและนานาชาติ รวมถึงหน่วยงานระดับท้องถ่ินและประชาชน เพื่อให้มีความเข้มแข็ง มีความรู้ และสามารถช่วยเหลือตัวเองและชมุ ชนได้ เช่น เกิดเครือข่ายภาคประชาสังคม ท่ีเข้มแข็งที่ขับเคลื่อนการพัฒนาเด็กเยาวชนและครอบครัว เครือข่ายกลุ่มสตรี ความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เช่น สานักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ สานักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ ๑๒ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจังหวัด สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ ศูนย์อานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ ศูนย์สุขภาพจิตที่ ๑๒ สานักงานสภาความม่ันคงแห่งชาติ กองอานวยการรักษาความม่ันคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ศูนย์อนามัยที่ ๑๒ กรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ องค์การทุนเพ่ือเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) องค์การช่วยเหลือเด็กประจาประเทศไทย (Save The Children) คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) สานักงานภูมิภาคกรุงเทพมหานคร องค์การหมอไร้พรมแดน ประจาประเทศไทย (DWBT) ศูนย์เตรียมความพร้อม
๔๔ ป้องกนั ภัยพิบตั ิแหง่ เอเชยี (Asian Disaster Preparedness Center : ADPC) ศูนย์เฝ้าระวงั สถานการณภ์ าคใต้ (Deep South Watch) ไทยรัฐออนไลน์ สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง ๒๖ กองทุนพัฒนาส่ือปลอดภัย และสร้างสรรค์ ซึ่งเครือข่ายความร่วมมือในการทางานน้ี ช่วยให้เกิดความเข้มแข็ง ในการขับเคล่ือน ท้ังในระดับนโยบาย และระดับพ้ืนที่ต่อไป ๓.๔.๔ ผลการวเิ คราะห์การให้ความชว่ ยเหลอื เยยี วยาผูท้ ่ไี ด้รับผลกระทบ จากผลการวิเคราะห์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ด้วยเทคนิค SWOT พบผลดังน้ี ๑) จดุ แข็ง (Strength) ๑.๑) มีกลไกระดับต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ซึ่งจัดตั้ง โดยรัฐบาลในรูปแบบคณะกรรมการและมีนายกรฐั มนตรีหรือผู้บริหารระดบั สงู เป็นประธาน ๑.๒) มีแหล่งงบประมาณในการทางานผ่าน “แผนบูรณาการขับเคล่ือนแก้ปัญหา จังหวัดชายแดนภาคใต้” ๑.๓) มีหลายหน่วยงานร่วมกันขับเคล่ือนในประเด็นเด็กและเยาวชนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองคก์ ารระหว่างประเทศ ๑.๔) มีกลไกด้านสิทธิเด็ก เช่น ศูนย์ประสานงานด้านเด็กและสตรขี องศูนย์อานวยการ บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ท่ีพยายามบูรณาการการทางานร่วมกันของหลายฝ่าย ตามกรอบของอนุสัญญา วา่ ด้วยสิทธเิ ด็กและอนุสัญญาวา่ ด้วยการขจัดการเลอื กปฏบิ ัติตอ่ สตรีในทุกรูปแบบท่รี ัฐบาลไดล้ งนามไว้ ๑.๕) มีจานวนบุคลากรทางานในพื้นที่และมีเครือข่ายทางานท้ังในและนอกพื้นที่ รวมทั้งมีองคก์ รเครอื ข่ายระหว่างประเทศใหก้ ารสนบั สนุนในด้านต่าง ๆ ๑.๖) เกิดเครือข่ายภาคประชาสังคมท่ีเข้มแข็งที่ขับเคล่ือนการพัฒนาเด็กเยาวชน และครอบครวั ๒) จุดออ่ น (Weakness) ๒.๑) ด้านนโยบายและงบประมาณ (๑) ขาดนโยบายด้านเด็กและเยาวชนท่ีมีความครอบคลุมครบทุกด้าน นโยบายท่ีมีอยู่ในปัจจุบันเน้นแต่เร่ืองเยียวยาด้านการเงินและแจกทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนที่ได้รับ ผลกระทบ แต่ขาดเข็มทิศการพัฒนาในระยะยาว รวมท้ังขาดแนวทางในการป้องกันและฟ้ืนฟูในกลุ่มเด็ก และเยาวชนท่ชี ดั เจน (๒) งบประมาณแต่ละหน่วยงาน ไม่เพียงพอ และงบประมาณบางอย่างน้ัน ไมต่ อบสนองความตอ้ งการใหค้ วามช่วยเหลอื เยียวยาแก่ผทู้ ี่ไดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์ความไมส่ งบ (๓) การให้ความสาคัญเก่ียวกับการเยียวยาเด็กแบบองค์รวมเชิงนโยบาย ค่อนข้างน้อย สะท้อนจากการปรับลดงบประมาณในการดาเนินการและพัฒนาเด็กลงทุกปี และไม่ปรากฏ แผนการพัฒนาเด็กท่ไี ด้รับผลกระทบท่ีเป็นรปู ธรรม ๒.๒) คานยิ าม (๑) นิยามของเด็กท่ีได้รับผลกระทบค่อนข้างแคบ ทาให้รูปแบบ การเยียวยา การติดตามและบันทึกข้อมูลจากัดเฉพาะเด็กและครอบครัวที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตโดยตรง เด็กกลุ่มอ่ืน ๆ เช่น เด็กท่ีเห็นเหตุการณ์ เด็กท่ีไม่ได้รับการรับรองสามฝ่าย เด็กจากครอบครัวผู้เห็นต่าง ทาให้ขาดโอกาสในการเข้าถึงการเยียวยาที่จาเป็น และการมีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมและการได้รับการพัฒนา ท่ีเหมาะสมต่อการเติบโตตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
๔๕ (๒) ในส่วนคานิยามเร่ืองการรับรอง ๓ ฝ่ายซ่ึงเป็นจุดเร่ิมต้นของกระบวนการ ให้ความชว่ ยเหลอื เยยี วยาแกผ่ ู้ท่ไี ด้รับความผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่จี ังหวัดชายแดนใต้น้ัน ยังมีข้อโต้แย้งจากภาคประชาชนที่มีสิทธิจะได้รับการช่วยเหลือดังกล่าว โดยเฉพาะข้อมูลว่าจะรับรอง หรือไม่รับรองน้ันขึ้นอยู่กับดุลพินิจของหน่วยงานภาครั ฐ กล่าวคือ ทหาร ตารวจ และ ฝ่ายปกครอง เพราะตามความเข้าใจของภาคประชาชนหากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเข้าใจว่า จะได้รับสิทธิดังกล่าว แต่บ่อยคร้ังข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐคือทหาร ตารวจ และ ฝ่ายปกครองแย้งว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไมส่ งบทาให้ประชาชนผทู้ ่ีไดร้ บั ผลกระทบไม่ไดร้ ับสิทธดิ ังกล่าว ๒.๓) ดา้ นฐานขอ้ มูล - ขาดระบบเก็บข้อมูลของเด็กและเยาวชนของแต่ละหน่วยงานที่เป็นเอกภาพ (Information center) ที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานเก็บข้อมูลไม่อยู่ในทิศทางเดียวกัน ไม่สามารถนามารวม หรือเปรียบเทียบกันได้ เป็นอุปสรรคเมื่อจะนามาใช้วางแผนการทางาน รวมทั้งไม่สา มารถระบุตัวเลข หรือความกา้ วหน้าในการแก้ไขปญั หาเด็กและเยาวชนในพน้ื ท่ี ๒.๔) ด้านการดาเนินงาน (๑) แนวทางดาเนินงานด้านเด็กและเยาวชน ขาดนโยบาย แผนปฏิบัติงาน ตลอดจนระบบงานที่ชดั เจน จึงไมม่ ีความสอดคล้องกันระหวา่ งขอ้ มูลของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ รวมทัง้ ของ NGO และหนว่ ยงานสนับสนุน งานช่วยเหลอื ด้านการพัฒนาและเยียวยาโดยเฉพาะด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิตไม่ครอบคลุมและมีคุณภาพต่า จะเห็นได้ว่ายังพบเด็กที่มีพัฒนาการช้าและเรียนรู้ได้ต่า ยังมีปัญหา ด้านคุณภาพการศึกษา ประชาชนมีความรู้ไม่มากพอในการดูแลและพัฒนาตนเอง ชี้ให้เห็นว่าที่ผ่านมาปัญหาเด็ก และเยาวชนทง้ั ด้านสขุ ภาพกาย สขุ ภาพจิต ปัญหาอนามัยแม่และเด็กยังคงมปี ัญหาเหมือนเดิมแม้จะผ่านมานาน กว่า ๑๖ ปแี ลว้ กต็ าม (๒) การเขียนโครงการการทางานของแต่ละหน่วยงานมุ่งเน้นการทางาน ตามนโยบายสว่ นกลาง มากกว่าการทางานเชิงรุก และแก้ไขปญั หาพน้ื ท่อี ย่างจรงิ จังอย่างเปน็ ระบบ (๓) การให้ความรู้แก่พ่อแม่ด้านเด็กและเยาวชน และพัฒนาทักษะในกลุ่ม พ่อแม่ ครู และผเู้ ก่ียวข้อง ฝึกเรอ่ื งการดแู ลด้านจติ ใจ เกิดขนึ้ แบบไรท้ ศิ ทาง ไมค่ รอบคลุม ๒.๕) ด้านการปฏบิ ตั ิงานของเจ้าหนา้ ท่ี (๑) เจ้าหน้าที่ท่ีปฏิบัติงานทั้งในส่วนภาครัฐและภาคประชาสังคมที่ใกลช้ ิด กบั ครอบครัว เด็กและเยาวชน ยงั ขาดความรู้และทกั ษะในการทางานด้านเดก็ (๒) แต่ละหน่วยงานปฏิบัติหน้าท่ีตามระเบียบข้อกฎหมาย ที่มีขอบเขต อานาจการดาเนินการของแต่ละหน่วยงานไว้อย่างเคร่งครัด ไม่สามารถปฏิบัติหน้าท่ีเกินขอบเขตอานาจ ของตนได้ ทาให้ผลการทางานไมไ่ ดร้ บั ประสทิ ธภิ าพอย่างเต็มท่ี เช่น หน่วยงานความมน่ั คงมอี านาจและสามารถ เข้าถึงพน้ื ทไ่ี ด้แตไ่ ม่มที ักษะในการทางานดา้ นเด็กโดยตรง เป็นตน้ (๓) แต่ละหนว่ ยงานมีวธิ ปี ฏบิ ัติที่แตกตา่ งกัน และบางอย่างมีวิธปี ฏิบตั ิท่ีไม่ตรง ตามความต้องการในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ี จังหวัดชายแดนใต้ ตลอดจนไม่มีการประสานข้อมูลการทางานระหว่างกัน ทาให้ซ้าซ้อนกันเกิดความล่าช้า และเป็นเหตุให้ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับความผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะไม่มีเจ้าภาพในเร่ืองการดูแลเด็กโดยตรง ขณะท่ีหน่วยงานที่ดูแลเด็กนั้น
๔๖ กลับขาดแคลนบุคลากรจากสหวิชาชีพในแต่ละจังหวัดและขาดทักษะในการดูแลเด็กและเยาวชนที่ได้รับ ผลกระทบจากความรนุ แรง (๔) เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไม่มีอานาจตัดสินใจเรื่องท่ีสาคัญต้องส่งต่อให้ ผบู้ ังคับบญั ชาหรอื หน่วยงานอืน่ ที่มีอานาจรับหน้าที่ตัดสินใจส่ังการ โดยกฎหมายพิเศษท่บี งั คบั ใชใ้ นพนื้ ท่ีสามจังหวัด ชายแดนภาคใต้ทาให้หน่วยงานความม่ันคงมีบทบาทและอานาจในพื้นท่ีจนทาให้หน่วยงานอื่น ๆ ที่มีหน้าที่ ในการดแู ลเดก็ โดยตรงไมส่ ามารถทาหนา้ ทีไ่ ด้อยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ ๒.๖) ดา้ นการสง่ เสริมและให้ความสาคญั กับเดก็ (๑) ขาดพลังผู้นาด้านเด็กและเยาวชนซึ่งมีส่วนสาคัญในการสร้างคนรุ่นใหม่ และจะเป็นกาลังสาคัญในการสร้างสภาวะสันติในระยะยาว (long vision) อีกท้ังยังขาดช่องทางการสื่อสาร โดยตรงระหว่างผู้นาเด็กและองค์กรของรัฐ เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ตรวจราชการ และผู้รับผิดชอบหลักในพื้นท่ี เปน็ ตน้ (๒) ขาดการรับฟงั เสยี งของเด็กและเยาวชน พอ่ แม่ ครู อาสาสมัคร และชมุ ชน เพอ่ื จัดบริการของภาครฐั ใหส้ อดคล้องกบั สภาพปัญหาทีแ่ ทจ้ ริง ๒.๗) ด้านการตดิ ตามประเมนิ ผล - ขาดการติดตามประเมินผลการทางานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้รู้จริง ท่ีมอี านาจ เห็นภาพรวมและสามารถช้แี นะทีมทางานได้ชดั เจน ๓) โอกาส (Opportunity) ๓.๑) การลงทุนด้านเด็กและเยาวชน ให้เป็นคนดี รักสามัคคี นาความรู้มาช่วยเหลือ สังคม เปน็ เรือ่ งสาคญั ทาไดไ้ มย่ ากแต่ต้องทาต่อเนื่องและครอบคลุม และประเทศไทยมีศักยภาพและมีประสบการณ์ ในการพัฒนาเด็กให้เป็นคนดีมีคุณภาพ (กลุ่มท่ีอยู่กับพ่อแม่ กลุ่มเด็กกาพร้า กลุ่มเส่ียง) แต่ต้องวางแผนระยะยาว และทางานเป็นทมี ประสานกันและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ๓.๒) มหี น่วยงานชว่ ยเหลอื หลายกระทรวงไม่โดดเดี่ยวเพียงแตต่ อ้ งทาใหเ้ ป็นเอกภาพ ในแตล่ ะจงั หวดั ๓.๓) คนในพื้นท่ีได้รับความช่วยเหลือมา ๑๖ ปีแล้ว ชุมชนอยากมีความสงบสุข และมีเศรษฐกิจที่ดีข้ึน ควรปรับเปล่ียนบทบาทให้คนในพ้ืนที่ได้ทาหน้าที่เป็นผู้สร้างสังคมใหม่ เน้นการช่วยเหลือ ตนเอง และสงั คม ๓.๔) พื้นทมี่ ีความอดุ มสมบรู ณท์ างดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติ ๓.๕) การสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมเป็นทิศทางของทุกประเทศ จึงเป็นโอกาส อันดีในการส่ งเส ริมการส ร้างสังคมพหุวัฒนธ รร มข้ึนใ นจั งหวัดชายแดนภ าคใต้ ท่ีเคาร พต่อคว ามแตก ต่ าง หลากหลายเพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีและทันต่อเหตกุ ารณ์ของโลก ๓.๖) ประเทศไทยมีทรัพยากรและส่งเสรมิ ให้มีการจัดการศึกษาในหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ควรส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในสามจังหวัดชายแดนใต้เข้าถึงทรัพยากรทางการศึกษา ในระดบั สงู ของประเทศ ๓.๗) การลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กของรัฐบาลทาให้การผลักดัน เรอ่ื งเด็กสามารถทาไดใ้ นหลาย ๆ รูปแบบหากตระหนกั และขบั เคลอื่ นอย่างจรงิ จัง ๓.๘) การพูดคุยสันติสุขท่ีกาลังเกิดข้ึนเป็นโอกาสอันดีท่ีจะทาให้ทุกฝ่ายร่วมกัน ผลกั ดันประเดน็ เดก็ และเยาวชนให้ไดร้ ับความสนใจ
๔๗ ๔) อปุ สรรค (Threat) ๔.๑) เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีเกณฑ์ พัฒนาการล่าช้า เรียนร้ชู า้ ขณะท่คี ณุ ภาพของการจัดการศึกษาไมอ่ ยู่ในเกณฑม์ าตรฐานของประเทศ ๔.๒) การจัดระบบการศึกษาท่ีแยกตามศาสนา โดยท่ีไม่มีระบบการจัดการเรียนรู้ ท่ีสร้างความเข้าใจระหว่างกันยิ่งทาให้เกิดช่องว่างทางด้านความคิดและความสัมพันธ์ระหว่างเด็กไทยพุทธ และเด็กมลายมู สุ ลมิ ในพ้ืนท่ี รวมทงั้ ศาสนาอน่ื ๆ ดว้ ย ๔.๓) เด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ รวมทั้งเด็กและครอบครัวที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้รับความช่วยเหลือด้านจิตใจ อารมณ์ สังคม ในระดับท่ีต่ากว่า มาตรฐานการให้ความชว่ ยเหลือสากล จึงมีโอกาสคิดว่ารัฐทอดทิ้งและไมใ่ หค้ วามร่วมมือกบั รัฐในท้ายทีส่ ุด ๔.๔) ปริมาณเด็ก และพ่อแม่ ท่ีมีสุขภาวะทางร่างกาย และจิตใจที่ดีในชุมชน สามจงั หวดั ชายแดนภาคใตม้ จี านวนน้อย ๔.๕) ฝ่ายความมั่นคงยังคงเป็นแกนนาสาคัญในการแก้ไขปัญหาสามจังหวัด ชายแดนภาคใต้มีความเสี่ยงที่จะถูกกังขาจากทุกฝ่ายท้ังในระดับประเทศและระหว่างประเทศต่อกิจกรรม ทเี่ กย่ี วขอ้ งกับเดก็ และเยาวชน ๓.๔.๕ การประเมินผลการดาเนนิ งานของหน่วยงานท่ีเกีย่ วขอ้ ง ๑) งานภาคนโยบาย ๑.๑) ขาดนโยบายที่ชัดเจนโดยเฉพาะด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัวท่ีได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนขาดเป้าหมาย ในการสร้างกลไกป้องกันเด็กจากความรุนแรงท่ีชัดเจน นอกจากน้ียังพบว่าไม่เคยมีการจัดทานโยบาย ดา้ นการศกึ ษา สังคม วัฒนธรรมหรอื ด้านอนื่ ๆ ทข่ี ับเน้นการพฒั นาคุณภาพด้านตา่ ง ๆ ของเดก็ ในพืน้ ที่ ๑.๒) นโยบายการสนับสนุนสื่อสร้างสรรค์และปลอดภัยสาหรับเด็กและเยาวชน ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบไม่ถูกกาหนดไว้อย่างชัดเจนแบบเฉพาะเจาะจง ดังเช่น กองทุน พัฒนาสอ่ื ปลอดภัยและสร้างสรรค์ สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.) ๑.๓) ไม่มีการให้นิยามคาว่า “เด็ก” ในระดับนโยบายที่ชัดเจนจนเกิดช่องว่าง ของการนิยามคาว่าเด็กและการวางเกณฑ์ช่วงอายุของเด็กท่ีได้รับผลกระทบจาก สถานการณ์ความไม่สงบ ทีแ่ ต่ละหนว่ ยงานมคี วามไมส่ อดคล้องกนั ส่งผลใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจทคี่ ลาดเคล่ือนในการปฏบิ ตั ิงานเพ่ือชว่ ยเหลือ เด็กท่ีได้รบั ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไมส่ งบในพน้ื ท่จี งั หวัดชายแดนภาคใต้ ๑.๔) ไม่มีเจ้าภาพหลักในระดับนโยบายสาหรับการติดตามการปฏิบัติงาน และสังเคราะห์ข้อมูลท่ีสามารถสะท้อนภาพรวมของสถานการณ์เด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไมส่ งบในพื้นท่ีจงั หวัดชายแดนภาคใต้ ๑.๕) งบประมาณในการพัฒนาชมุ ชน พัฒนาครู พัฒนาสังคม ที่แวดล้อมรอบตวั เด็กและเยาวชนในพนื้ ทจ่ี งั หวัดชายแดนภาคใต้ยงั เปน็ งบประมาณงานแบบประจา (Routine) ไมม่ ีการออกแบบ งบประมาณสาหรับการป้องกัน ฟ้ืนฟู องคาพยพท่ีอยู่รอบตัวเด็กอย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกันการออกแบบ กิจกรรมตามกรอบงบประมาณในระดับปฏิบัติน้ันมีความสุ่มเส่ียงอย่างย่ิงท่ีจะละเมิดสิทธิเด็ก เช่น โครงการ สร้างความจรงิ ทถี่ กู ต้องท่ีดาเนินการโดยกองอานวยการรักษาความม่นั คงภายในภาค ๔ ๑.๖) กระบวนการสันตภิ าพและการพูดคุยสันติสุขท่ีเกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่มีการหยิบยกเร่ืองเด็กและเยาวชนเป็นประเด็นในการพิจารณา การให้ข้อมูลขององค์การทุนเพ่ือเด็ก
๔๘ แห่งสหประชาชาติบอกว่าประเด็นเด็กสามารถเป็นประเด็นร่วมท่ีทาให้กระบวนการสันติภาพสามารถรุดหน้า ต่อไปได้ ๒) งานภาคปฏิบตั ฝิ า่ ยรัฐ ๒.๑) ฐานข้อมูลเด็กท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ี จงั หวัดชายแดนภาคใตซ้ ่ึงมีอยู่ในปัจจุบันชี้ให้เห็นวา่ เจ้าหน้าทผ่ี ปู้ ฏิบัติงานไม่สามารถติดตามผลการดาเนินงาน ในประเด็นการช่วยเหลือเยียวยาเด็กท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบได้เนื่องจากไม่มีการ จัดทา ฐานข้อมูลที่บูรณาการข้อมูลของหน่วยงานต่าง ๆ ท้ังภาครัฐและภาคประชาสังคมเพ่ือเช่ือมร้อยกัน อย่างเป็นระบบ ๒.๒) ระบบการทางานของหน่วยงานภาคปฏิบัติขาดการบูรณาการ มีข้ันตอน และวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกันทาให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต่างทาหน้าที่ของตนตามท่ีได้รับมอบหมายเพียงอย่างเดียว ไมม่ ีการประสานบรู ณาการขอ้ มลู ระหวา่ งหนว่ ยงานเพ่ือนามาพัฒนาการทางานให้มีประสทิ ธิภาพ ๒.๓) ระบบการทางานภาครัฐยังขาดความตระหนักและไม่ให้ความสาคัญ ในด้านการดูแลเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ซึ่งเป็นรากฐานสาคัญในการ ปอ้ งกนั ปัญหาการเกิดวงจรความรนุ แรงในระยะยาว ๒.๔) กระบวนการทางานของภาครัฐและภาคประชาสังคมเน้นเป็นการทางาน ในเชิงรบั มากกว่าเชิงรกุ ๒.๕) การเยียวยาของทุกฝ่ายเน้นช่วยเหลือด้านการเงินแต่ขาดการช่วยเหลือ เยียวยาดา้ นจิตใจ สงั คม และคุณภาพชีวติ ซึ่งเปน็ ประเดน็ สาคญั ในระยะยาว ๒.๖) ศักยภาพโดยเฉพาะในด้านทักษะและการจัดการความรู้ในการดูแลเด็ก เยาวชนและครอบครัวที่ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ของเจา้ หน้าทภี่ าครฐั และภาคประชาสังคม ไม่เพียงพอและไม่เป็นระบบ ขณะเดียวกันผู้ปฏิบัติงานที่เข้าใจเร่ืองสิทธิเด็กและเข้าใจกระบวนการเยียวยา ทางด้านจติ ใจทัง้ ในระยะสน้ั และระยะยาวนน้ั มอี ยู่อยา่ งจากดั ๒.๗) การดาเนินกิจกรรมโดยเจ้าหน้าที่ความมั่นคงสุ่มเสี่ยงที่จะทาให้เกิด ความไม่ไว้วางใจระหว่างเด็กเยาวชนและชุมชนกับภาครัฐ รวมทั้งสุ่มเส่ียงท่ีจะละเมิดสิทธิเด็กในกรณีท่ีมี การจัดกิจกรรมโดยเจ้าหน้าที่ซ่ึงถืออาวุธเข้าไปในชุมชน ๒.๘) เริ่มมีการเช่ือมโยงการทางานระหว่างหน่วยงาน สหวิชาชีพและภาคประชาสังคม เช่น การจดั ตั้งศนู ยป์ ระสานงานด้านเด็กและสตรีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยังไม่พบการดาเนนิ งานเชิงบูรณาการ อย่างแท้จริง การพัฒนาระบบปฏิบัติการแบบบูรณาการจะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนทรัพยากร เรียนรู้ร่วมกัน และพัฒนาคณุ ภาพการทางานใหด้ ีข้ึน ๒.๙) ควรมีการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการเยียวยาต่อคุณภาพชวี ิต ของเด็ก และรูปแบบการเยียวยาวิธีใหม่ ๆ ทสี่ อดคล้องกับยคุ สมยั และควรปรับปรุงอย่างเรง่ ดว่ น ๒.๑๐) มีรายงานการศึกษาเชิงคุณภาพท่ีพบว่า เด็กท่ีได้รับการช่วยเหลือเยียวยา ด้านการเงินช่วยให้เด็กเข้าถึงการศึกษาที่ดีกวา่ เด็กท่ีไม่ได้รับการช่วยเหลอื ทางการเงิน แต่ไม่พบข้อมูลทางสถิติ ทีช่ ัดเจนทีแ่ สดงว่า เด็กทไี่ ดร้ ับการช่วยเหลือทางการเงินมีคุณภาพชวี ิตทดี่ ขี ้นึ หรอื ไม่อยา่ งไร ๓) งานภาคสนบั สนุน ๓.๑) การพัฒนาระบบการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ตลอดระยะสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทาให้องค์กรภาคประชาสังคมด้านเด็กและสตรีที่มีความเข้มแข็ง และเป็นกาลัง สาคญั ในการขบั เคลื่อนการพฒั นาพืน้ ที่จงั หวดั ชายแดนภาคใต้
๔๙ ๓.๒) แม้ว่าองค์กรภาคประชาสังคมจะมีความแข้มแข็งขึ้น แต่พบว่าศักยภาพ ขององค์กรภาคประชาสังคมยังมีความแตกต่างกันมาก การพัฒนาศักยภาพองค์กรภาคประชาสังคม ในการช่วยเหลือเยยี วยาอยา่ งเปน็ ระบบจะชว่ ยใหเ้ ดก็ กลุ่มเปราะบางได้รบั การช่วยเหลอื ทีด่ ขี ึน้ ๓.๓) ภาคสนับสนุนท่ีเข้ามาทางานในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมา ทางานเป็นเอกเทศ และเป็นการทางานในรูปแบบของโครงการทาให้ไม่มีการบูรณาการประสานการทางาน เขา้ ด้วยกนั กบั หน่วยงานอืน่ ๆ ทีม่ อี ยู่ในพ้นื ท่ีรวมท้ังทาใหข้ าดความตอ่ เนื่อง ๓.๔) การนาเสนอเร่ืองราวของเด็กและเยาวชนในพ้ืนที่ผ่านช่องทางข่าว หรือสื่อสารมวลชนน้ันมีน้อยและไม่ต่อเน่ือง มีต้นทุนในการผลิตเน้ือหาที่สูงมากรวมทั้งต้องระมัดระวัง การนาเสนอท่ีอาจทาให้เรื่องราวของเด็กที่ได้รับการนาเสนอถูกข่มเหง (Bully) จากความไม่เข้าใจของผู้ชม ทอี่ ยู่ในภมู ิภาคอืน่ ๆ ของประเทศ ๓.๕) การทางานของส่ือมวลชนที่จะช่วยสร้างการตระหนักรับรู้ถึงสิทธิเด็ก และสภาพปัญหาของเด็กและเยาวชนในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนใต้ให้คนท้ังประเทศเข้าใจความละเอียดอ่อน ของสถานการณ์เด็กน้ันไม่ได้รับการสนับสนุนข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ ประสบปัญหากับการเข้าถึงข้อมลู ที่ยงั ไมม่ กี ารบรู ณาการ ๓.๖) ขาดการศึกษาวิจัยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนในพื้นท่ี และขาดแคลน การเผยแพร่กรณีตัวอย่างจากต่างประเทศที่อาจมีสภาพปัญหาท่ีคล้ายคลึงกันซึ่งจะช่วยให้เกิดการออกแบบ การทางานเพ่อื ตอบสนองกบั ประเด็นปัญหาท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั เด็กและเยาวชนได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพมากย่ิงขน้ึ ๓.๗) ความไว้วางใจระหว่างภาคประชาสังคมที่ทางานขับเคลื่อนในระดับชุมชน และหนว่ ยงานภาครฐั อยูใ่ นเกณฑ์ที่ไมด่ ี ขาดความไว้วางใจทาให้ขาดการสนับสนนุ ในระดับชุมชนที่ท่เี ข้าถึงยาก ยกตัวอย่าง เช่น การดาเนินงานของหน่วยงานเอกชนท่ีดูแลเด็กกาพร้าในหลายพ้ืนที่ห่างไกลที่ได้รับ การสนับสนุนจากชุมชนแต่กลับไม่มีการรับรู้จากหน่วยงานของรัฐในพ้ืนที่ ทาให้ไม่ได้รับการสนับสนุนการทางาน ในด้านความรู้และทักษะจากภาครัฐ ในบางกรณีกลับถูกเจ้าหน้าที่ตั้งแง่สงสัยการทางานว่าอาจขัดต่อความมั่นคง เปน็ ต้น ๓.๔.๖ ผลการเดินทางไปศกึ ษาดูงานของคณะกรรมาธกิ ารรว่ มกับคณะอนกุ รรมาธกิ าร จากการเดินทางไปศึกษาดูงาน เรื่อง “การให้ความช่วยเหลือเยียวยา เด็ก เยาวชน และครอบครัวทไ่ี ดร้ ับผลกระทบจากภัยพิบัตทิ ี่เกิดจากสถานการณ์ความไมส่ งบในพนื้ ที่จังหวดั ชายแดนภาคใต้” ในระหว่างวันพุธท่ี ๔ ถึงวันพฤหัสบดีที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๓ ณ จังหวัดปัตตานีและจังหวัดนราธิวาส มีข้อสังเกต ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) การจัดทาและการซ้อมแผนในสถานศึกษาเพื่อรับมือภัยพิบัติท่ีเกิดจากเหตุการณ์ ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นส่วนสาคัญอย่างย่ิงต่อการเตรียมความพร้อมรับมือในการ ปฏิบัติเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์วิกฤตในสถานศึกษา โดยบุคลากรท่ีเกี่ยวข้องจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับ การเยียวยาจิตใจ และทักษะในการเผชิญสถานการณ์วิกฤต รวมถึงสามารถพัฒนารูปแบบการเฝ้าระวังปัญหา ทางด้านร่างกาย และจติ ใจของเด็กภายหลงั การเกดิ เหตุการณ์ความรุนแรงได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ซึง่ หนว่ ยงาน ท่ีเกี่ยวข้องมีความพร้อมที่จะสนับสนุนองค์ความรู้และด้านการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาผู้ท่ีได้รับผลกระทบ อยา่ งตอ่ เนื่อง ใหก้ บั สถานศึกษาเพ่ือเป็นโครงการตวั อย่างและให้ผทู้ ี่สนใจสามารถนาไปพัฒนารปู แบบที่เหมาะสม กับบรบิ ทของแตล่ ะพนื้ ทตี่ ่อไป ๒) การสร้างกลไกการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและการเตรียมความพร้อม เมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนที่สาหรับเด็กในสถาบันการศึกษาและเด็กนอกสถาบันการศึกษา สามารถดาเนินการไดโ้ ดยใช้ข้อมูลจากชุดเดยี วกัน เพ่ือสรา้ งรูปแบบการรบั มือในแต่ละพื้นที่ และกาหนดแนวทาง ในการปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งการดาเนินการดังกล่าวจะสามารถสร้างแรงจูงใจให้เด็กท่ีไม่ได้อยู่ใน
๕๐ สถาบันการศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของตนเองให้มีความพร้อมเผชิญสถานการณ์วิกฤตได้ ในอนาคตต่อไป ๓) ควรมีการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับองค์การเอกชน อย่างต่อเน่ืองเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างย่ิง องค์การหมอไร้พรมแดน ประจาประเทศไทย เป็นองค์กรที่สนับสนุน การดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ที่มีความสาคัญในการให้ความช่วยเหลือทางด้านสุขภาพจิตและการให้ คาปรึกษาด้านจิตบาบัด ซ่ึงมีสถานบริการครอบคลุมในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีนักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ประจาอยู่ในสถานที่บริการแต่ละแห่ง นอกจากน้ียังมีการให้บริการและอบรมความรู้ ด้านสุขภาพจิตร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร อาทิ โรงพยาบาลของรัฐ องค์การเอกชน และชุมชนในพ้ืนท่ี เกี่ยวกับ การรับรู้ในเบื้องต้นท่ีช่วยลดความรุนแรงของอาการหรือปัญหาทางด้านสุขภาพจิตและได้รับความไว้วางใจ จากประชาชน ๔) ควรมีการจัดฝึกอบรมสาหรับเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานด้านการให้ความช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ กลุ่มผู้เห็นต่างที่ไม่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการ ๓ ฝ่ายในพื้นที่ เก่ียวกับแนวทางในการปฏิบัติ และแนวทางการพดู คุย รวมถึงการลงพื้นทีไ่ ปเย่ียมเยยี นและการใหค้ วามชว่ ยเหลืออย่างเหมาะสม ๕) ควรมีการจัดทาฐานข้อมูลกลางเก่ียวกับสถิติและข้อมูลพ้ืนฐานของจานวน ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงข้อมูลการได้รับ ความช่วยเหลือเยียวยาจิตใจและการติดตามดูแลตามมาตรฐานท่ีกาหนดจากหนว่ ยงานภาครฐั โดยสามารถเชื่อมโยง ข้อมูลได้ทกุ พื้นท่ที วั่ ประเทศ ๓.๔.๗ ความเหน็ เก่ยี วกับปัญหา อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข และขอ้ เสนอแนะต่าง ๆ จากการหารือของคณะกรรมาธิการ ได้มีข้อสรุปท่ีสาคัญคือประเด็นเร่งด่วน ที่คณะกรรมาธิการมีความกังวลร่วมกันและอยากให้ทุกฝ่ายเร่งดาเนินการแก้ไขในทันที รวมท้ังข้อเสนอแนะ ต่อการแก้ปัญหาท่ีเกี่ยวข้องการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็ก เยาวชน และครอบครัว ท่ีได้รับผลกระทบ จากภัยพิบัติท่ีเกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประเด็นเร่งด่วนท่ีคณะกรรมาธิการห่วงใย เด็กจากครอบครัวที่ไม่ได้รับการรับรอง ๓ ฝ่าย ทาให้ไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ จากรัฐ จากนโยบายและยุทธศาสตร์ การดาเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็ก สตรี และครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามวัตถุประสงค์ข้อท่ี ๓ “เพ่ือพัฒนากระบวนการ ยุติธรรมและการเยียวยา ให้เป็นธรรมที่ทั่วถึง และขจัดเงื่อนไขความไม่เป็นธรรม รวมท้ังลดความหวาดระแวง ทุกรูปแบบและฟ้ืนคืน ความไว้เนื้อเช่ือใจต่อกัน” พบว่า การเข้าถึงความช่วยเหลือทางกฎหมาย ระเบียบ แบบแผนและข้ันตอนการปฏบิ ตั ิของแต่ละหนว่ ยงานที่ซ้าซ้อนกัน ลา่ ชา้ ไมเ่ ปน็ มาตรฐานเดยี วกัน มกี ารเลือกปฏิบัติ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท้ังทางร่างกาย สุขภาพและจิตใจที่ขาดการติดตามดูแลในระยะยาว ตลอดจนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีผู้บังคับใช้กฎหมาย ที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติด้วยเหตุไม่เป็นธรรม มีการละเมิดสิทธิของประชาชน ส่งผลให้ประชาชน หวาดระแวง เกลยี ดชัง และร้สู กึ ไม่ไดร้ บั ความเป็นธรรมจากรฐั
๕๑ ๔. ขอ้ สังเกตของคณะกรรมาธิการ ๔.๑ ให้มีการบูรณาการและบทบาทหน่วยงานที่รับหน้าที่ช่วยเหลือเยียวยา ระดับนโยบาย ระดับปฏบิ ตั ิในพืน้ ท่ี ของภาครัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนหนว่ ยงานความม่ันคง ๔.๑.๑ นโยบายท่ีเกี่ยวข้องกับเด็กในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควรได้รับการระบุ เป็นการเฉพาะในนโยบายของสภาความมั่นคงแห่งชาติ รวมท้ังของหน่วยงานที่รับผิดชอบในระดับนโยบาย ระดับอานวยการ และระดับปฏบิ ัตใิ นพื้นทีจ่ งั หวดั ชายแดนภาคใต้ ๔.๑.๒ หน่วยงานอานวยการหรือหน่วยปฏิบัติในประเด็นท่ีเก่ียวข้องกับประเด็นเด็ก และเยาวชนควรเป็นหน้าที่ของหน่วยงานพลเรือนและมีความเชี่ยวชาญ รวมท้ังไม่สร้างความสุ่มเสี่ยง ท่ีจะละเมดิ สิทธเิ ดก็ ๔.๑.๓ ศูนย์อานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ควรเป็นเจ้าภาพหลัก ในการประสานงานทั้งระดับนโยบาย ระดับปฏิบัติในพ้ืนที่ในด้านการพัฒนาความสัมพันธ์เจ้าหน้าที่ทั้งด้านความรู้ และทกั ษะในการถ่ายทอดกับชมุ ชนให้เกดิ การไว้วางใจ ยอมรบั การทางาน และการสรา้ งสงั คมสันติสขุ รว่ มกนั ๔.๑.๔ กระทรวงสาธารณสุขควรส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายด้านการช่วยเหลือ เยียวยาทางร่างกายและจิตใจ ในการแกไ้ ขปัญหาพ้ืนท่ีอย่างเปน็ ระบบ และต่อเนอื่ ง ๔.๑.๕ กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่นั คงของมนุษยค์ วรสง่ เสริมการพัฒนาศักยภาพ เครือข่ายด้านการช่วยเหลอื เยียวยาทางสงั คมเด็ก เยาวชนและครอบครัว ๔.๑.๖ กระทรวงศึกษาธิการควรเร่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ของประเทศ โดยการพัฒนาครู ระบบการเรียนการสอนให้เด็ก ยกระดับมาตรฐานการศึกษา และปรับปรุง เกณฑ์การให้ทุนการศกึ ษาใหท้ ั่วถึง ตอ่ เน่อื ง ทกุ กล่มุ ๔.๑.๗ สภาความมั่นคงแห่งชาติในฐานะหน่วยงานกากับในกระบวนการพูดคุยควรกาหนดให้ การพูดคุยสันติสุขท่ีเกิดข้ึนระหว่างฝ่ายไทยและผู้เห็นต่างควรมีการพิจารณาประเด็นเด็กและเยาวชน เพอ่ื สรา้ งความเชื่อมัน่ แก่ทุกฝ่าย ๔.๑.๘ ภาครัฐในทุกภาคส่วนต้องปรับเปลี่ยนวิธีปฏิบัติของเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงาน ในพื้นท่ี เพ่ือใหไ้ ดร้ บั ความไว้วางใจจากประชาชนในพื้นที่ และผู้ไดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบดงั กล่าว ๔.๑.๙ ภาครัฐในทุกภาคส่วน ควรวิเคราะห์ นโยบายและวิธีการแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน ของทุกหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ว่าสามารถแก้ไขปัญหา ได้ถูกจุดหรือไม่ และควรให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยง ข้อมูลแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้การทางานของแต่ละหน่วยงานสามารถทางานสอดคล้องกันและเป็นไปในแนวทาง เดียวกัน เพ่ือบรรลุวัตถุประสงค์ให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับความผลกระทบจากสถานการณ์ ความไมส่ งบทกุ กรณี ๔.๑.๑๐ จัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมสาหรับการออกแบบกิจกรรมหรือโครงการในประเด็น ทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั เด็กโดยเฉพาะในแผนงานบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในสามจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ๔.๑.๑๑ สนับสนุนให้องค์การระหว่างประเทศที่เก่ียวข้องกับการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น องค์การหมอไร้พรมแดน (DWBT) และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ประจาประเทศไทย องค์การช่วยเหลือเด็กประจา ประเทศไทย (Save The Children) เปิดพื้นท่ีแลกเปล่ียนความรู้และทักษะระหว่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม รวมทงั้ องคก์ รระหวา่ งประเทศอื่น ๆ ท่ีเชยี่ วชาญเรอื่ งเด็ก เพอ่ื สร้างความเขา้ ใจและบรู ณาการการทางานรว่ มกัน ๔.๑.๑๒ สนับสนุนใหส้ ื่อมวลชนผลิตสอ่ื หรือรายงานข่าวท่เี กยี่ วข้องกบั สถานการณเ์ ด็กให้ประชาชน ทั่วไปไดร้ ับทราบ
๕๒ ๔.๒ ปรับระบบ หลักเกณฑ์ นิยาม การให้ความช่วยเหลือเยียวยาบุคคลท่ีเป็นผู้ได้รับผลกระทบ และแนวทางการรบั รองของคณะกรรมการ ๓ ฝา่ ยใหช้ ดั เจน ๔.๒.๑ ทุกฝ่ายควรให้นิยามคาว่า “เด็ก” และช่วงเกณฑ์อายุของเด็กให้ชัดเจนสอดคล้องกนั รวมทั้งนิยามของเด็ก เยาวชนและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบ ในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๔.๒.๒ ทาคูม่ ือปฏบิ ตั ิงานทุกระดับท่ีสอดคล้องเป็นแนวทางเดียวกัน ๔.๒.๓ ภาครัฐ ควรกาหนดวธิ ีปฏิบัตเิ รื่อง คานิยามเรื่องการรับรอง ๓ ฝ่าย ซึ่งเป็นจุดเร่มิ ต้น ของกระบวนการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบน้ัน โดยควรกาหนด ให้ชัดเจน ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงใดท่ีเกิดขึ้น หากมีรายละเอียดหรือข้อมูลอย่างไร ให้ถือว่าเข้าเกณฑ์ได้รับ สิทธิการช่วยเหลือหรอื ไม่เข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ โดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของหน่วยงานภาครัฐ กล่าวคือ ทหาร ตารวจ และ ฝา่ ยปกครอง วา่ จะรับรองหรอื ไม่รบั รองนัน้ เพื่อยุติขอ้ โตแ้ ยง้ ของภาคประชาชนท่ีไม่เห็นดว้ ย ๔.๓ การพัฒนาคุณภาพคน โดยการติดอาวธุ ทางปัญญา กลมุ่ ผู้ดแู ลเด็กและเยาวชน และการฝึก ใหเ้ ดก็ มีความรู้ มวี นิ ยั และช่วยเหลือตนเองได้ ๔.๓.๑ จัดทาแผนการพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชนท่ีเป็นผู้ได้รับผลกระทบเฉพาะ เน้นการให้ความสาคัญกับการฟ้ืนฟู พัฒนา เยียวยาเพ่ือป้องกันปัญหาในเด็กและเยาวชน ในอนาคตให้ชัดเจน โดยแบง่ เปน็ กลมุ่ ผูด้ แู ลและกลุ่มเดก็ และเยาวชน ๔.๓.๒ จัดทาโครงการพัฒนาคุณภาพผู้ดูแลและผู้เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนท่ีได้รับ ผลกระทบโดยเฉพาะให้ครอบคลุมทุกพื้นท่ี เช่น อบรมความรู้ด้านสุขภาพจิตร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร อาทิ โรงพยาบาลของรัฐ องค์การเอกชน และชุมชนในพ้ืนท่ี เก่ียวกับการรับรู้ในเบ้ืองต้น ท่ีช่วยลดความรุนแรง ของอาการหรือปัญหาทางด้านสุขภาพจิตและได้รับความไว้วางใจจากประชาชน การจัดฝึกอบรมสาหรับเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานด้านการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ท่ีได้รับผลกระท บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพ้ืนท่ี จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้เห็นต่างท่ีไม่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการ ๓ ฝ่ายในพ้ืนที่ เกี่ยวกับแนวทางในการปฏิบัติและแนวทางการพูดคุย รวมถึงการลงพื้นท่ีไปเย่ียมเยียนและการให้ความช่วยเหลือ อยา่ งเหมาะสม ๔.๓.๓ จัดทาโครงการพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชนได้รับผลกระทบเฉพาะให้ครอบคลุม ทกุ พ้ืนทีโ่ ดยมงุ่ เน้นเด็กและเยาวชนท้ังโปรแกรมเฉพาะกลมุ่ และบุคคล ๔.๓.๔ การผลักดนั ใหช้ ุมชนในพ้นื ที่เข้ามามีสว่ นร่วมในการจัดการให้ความช่วยเหลือเยียวยา เฝา้ ระวงั ทง้ั ภาครัฐและเอกชน โดยดาเนนิ การผ่านองคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ เพ่ือเป็นฐานข้อมลู เดยี ว ๔.๔ ระบบการติดตามและการเก็บข้อมูลของเด็กและเยาวชน การให้ความช่วยเหลือเด็ก เยาวชน ที่ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไม่สงบในพื้นที่จงั หวัดชายแดนภาคใต้ ๔.๔.๑ จัดทาฐานข้อมูลกลางเก่ียวกับสถิติและข้อมูลพ้ืนฐานของจานวนเด็ก เยาวชน ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นทจี่ ังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงขอ้ มูลการได้รับความชว่ ยเหลือ เยียวยาจิตใจและการติดตามดูแลตามมาตรฐานที่กาหนดจากหน่วยงานภาครัฐ โดยสามารถเช่ือมโยงข้อมูล ทท่ี นั สมัยไดท้ กุ พน้ื ท่ที ่วั ประเทศ ๔.๔.๒ กาหนดหน่วยงานท่ีรับผิดชอบติดตามดูแลตามมาตรฐานที่กาหนดจากหน่วยงาน ภาครฐั โดยสามารถเช่อื มโยงขอ้ มูลไดท้ กุ พื้นที่ทั่วประเทศ
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก ประกาศตง้ั และหนังสอื ขอขยายระยะเวลา การพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการ
ภาคผนวก ข ตวั อยา่ งแบบจาลองโมเดล การชว่ ยเหลอื เยยี วยาจติ ใจเดก็ และเยาวชนท่ไี ดร้ ับผลกระทบ
ตวั อยา่ ง แบบจาลองโมเดลการชว่ ยเหลือเยียวยาจติ ใจเดก็ และเยาวชนทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบ โมเดลการปฏบิ ตั ิงานกบั เด็กและเยาวชนในพืน้ ท่เี พ่ือช่วยเยียวยาส่งเสริมสุขภาพจติ ท่ีดี (กองทุนพฒั นาสื่อปลอดภยั และสร้างสรรค์ โดย นายสรุ ชัย ไวยวรรณจติ รและคณะ,๒๕๖๒) การเยยี วยาส่งเสริมสุขภาพจิต ระดับจุลภาค ระดับกลาง ระดบั มหภาค ทดี่ ีแกเ่ ด็กและเยาวชน (Micro) (Meso) (Macro) กอ่ นเหตุการณ์ โรงเรียนในพืน้ ท่ี บิดา มารดา ครู อาจารย์ นิเวศสอื่ แวดลอ้ ม ความรนุ แรง สร้างภมู คิ ุ้มกนั ในการ เพ่อื น เปน็ ส่ือกลาง ทางสังคมทอ่ี ยู่ รับมือจากสถานการณ์ รอบตวั ของเดก็ ระหว่างเหตกุ ารณ์ ในการขบั เคลื่อนชมุ ชน ความรนุ แรง ครมู ี ทกั ษ การคงอย่ขู องสภาพแวดล้อมจริง หลังการเกดิ ที่เกิดข้ึน เหตกุ ารณ์ หน่วยงานธารณสขุ ความรนุ แรง กระจายความรู้ องค์กรท่ีทาหนา้ ท่ี การเยยี วยาต่อเนอื่ ง ในการนาเสนอสื่อ ไมม่ ีความอคติ การสร้างพื้นที่ ปลอดภัยทงั้ ทาง กายและจติ ใจ แกเ่ ด็กและเยาวชน หน่วยงานสถานศกึ ษา หนว่ ยงาน เข้าใจในเร่ืองสุขภาพจิต ดา้ นความมนั่ คง รักษา ความปลอดภยั ในพน้ื ที่
Search