เรื่องด่วน

รายงานผลการรบั ฟังความคิดเห็นและรายงานผลการวิเคราะห์ ผลกระทบที่อาจเกดิ จากรา่ งพระราชบญั ญตั ิ ส่วนท่ี ๑ ขอ้ มูลพืน้ ฐานของร่างพระราชบญั ญัติ ๑. รา่ งพระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ....  กฎหมายใหม่  แก้ไขเพิ่มเติม  ยกเลิก ๒. หลกั การและเหตุผล โดยท่ีพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. 2558 ได้มีการตราข้ึนใช้บังคับอย่างเร่งด่วน เพื่อ บรรเทาปัญหาอันเน่ืองมาจากผลกระทบที่ร้ายแรงของการทาประมงที่ผิดกฎหมายซึ่งอาจนาไปสู่การถูกข้ึน บัญชีหรือใบเหลืองของสหภาพยุโรป (อียู) หรืออาจจะถูกปรับขึ้นเป็นใบแดง จึงจาเป็นต้องดาเนินการอย่าง รวดเร็วและตอบสนองให้เห็นถึงความต้ังใจของประเทศไทยท่ีพยายามแก้ไขปัญหา จึงได้ตราเป็นพระราช กาหนดเพอ่ื ให้สามารถบังคับใช้ได้ทันที อยา่ งไรก็ดี พระราชกาหนดดังกล่าวมีบทบญั ญัตบิ างมาตราท่อี าจจะขัด ต่อหลักการของอนุสัญญาประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ท่ีประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก หรือ หลักสิทธิมนุษยชนและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ในประเด็นเกี่ยวกับการละเมิดสทิ ธิในทรัพย์สินและ สิทธิในการประกอบอาชีพของประชาชน การเลือกปฏิบัติ ขาดความเสมอภาค และบังคับใช้กฎหมายโดยไม่ เท่าเทียมกัน รวมท้ังมีบทกาหนดโทษที่ไม่เป็นธรรม ซ้าซ้อน และไม่ได้สัดส่วนกับการลงโทษในความผิดทั่วไป เพ่ือป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเน่ืองมาจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว รวมท้ังบรรเทาความเดือดร้อนของ ประชาชนและชาวประมงผู้ประกอบอาชีพโดยสจุ รติ ให้ได้รับความเป็นธรรม ตลอดจนสง่ เสริมการทาประมงให้ มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งการจัดให้มี คณะกรรมการเปรยี บเทยี บและพิจารณาลงโทษ และคณะกรรมการมาตรการทางปกครองในการพิจารณาออก คาส่ังตามระดับความรุนแรงของการกระทาความผิด สภาพการกระทาผิด และการกระทาความผิดซ้า ตลอดจนกาหนดโทษทางปกครองและโทษทางอาญาท่ีเหมาะสม เพ่ือให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ และป้องกนั การกระทาความผิด ๓. ผู้เสนอรา่ งพระราชบัญญัติ สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร ประชาชนเขา้ ชอื่ เสนอกฎหมาย นายชลนา่ น ศรแี ก้ว สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร กบั คณะเปน็ ผู้เสนอ สว่ นที่ ๒ การรบั ฟงั ความคิดเหน็ และสรุปผลการรับฟงั ความคิดเห็น ๑. ข้อมูลประกอบการรบั ฟังความคิดเหน็ โดยที่พระราชกาหนดการประมง พ.ศ. 2558 ได้มีการตราขึ้นใช้บังคับอย่างเร่งด่วน เพ่ือ บรรเทาปัญหาอันเนื่องมาจากผลกระทบที่ร้ายแรงของการทาประมงท่ีผิดกฎหมายซึ่งอาจนาไปสู่การถูกข้ึน บัญชีหรือใบเหลืองของสหภาพยุโรป (อียู) หรืออาจจะถูกปรับข้ึนเป็นใบแดง จึงจาเป็นต้องดาเนินการอย่าง รวดเร็วและตอบสนองให้เห็นถึงความตั้งใจของประเทศไทยที่พยายามแก้ไขปัญหา จึงได้ตราเป็นพระราช

-2- กาหนดเพ่อื ใหส้ ามารถบังคับใช้ได้ทันที อยา่ งไรกด็ ี พระราชกาหนดดังกลา่ วมีบทบญั ญตั ิบางมาตราท่ีอาจจะขัด ต่อหลักการของอนุสัญญาประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ท่ีประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก หรือ หลักสิทธิมนุษยชนและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในประเด็นเก่ียวกับการละเมิดสทิ ธิในทรัพย์สินและ สิทธิในการประกอบอาชีพของประชาชน การเลือกปฏิบัติ ขาดความเสมอภาค และบังคับใช้กฎหมายโดยไม่ เท่าเทียมกัน รวมท้ังมีบทกาหนดโทษท่ีไม่เป็นธรรม ซ้าซ้อน และไม่ได้สัดส่วนกับการลงโทษในความผิดทั่วไป เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว รวมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนของ ประชาชนและชาวประมงผู้ประกอบอาชีพโดยสุจรติ ให้ไดร้ ับความเป็นธรรม ตลอดจนสง่ เสริมการทาประมงให้ มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งการจัดให้มี คณะกรรมการเปรียบเทยี บและพิจารณาลงโทษ และคณะกรรมการมาตรการทางปกครองในการพจิ ารณาออก คาส่ังตามระดับความรุนแรงของการกระทาความผิด สภาพการกระทาผิด และการกระทาความผิดซ้า ตลอดจนกาหนดโทษทางปกครองและโทษทางอาญาที่เหมาะสม เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ และป้องกนั การกระทาความผดิ สาระสาคญั (๑) แก้ไขเพ่ิมเติมเจตนารมณ์ของกฎหมายให้เกิดความชัดเจนและครอบคลุมกิจการประมงและ จัดระเบียบการประมงในประเทศไทยและรองรับการจัดระเบียบการประมงทะเลในน่านน้าอื่นภายใต้กติการะหว่าง ประเทศ เพ่ือป้องกันมิให้มีการทาการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยเจตนา รวมถึงการเพ่ิมบทนิยามคาว่า “ทะเลหลวง” “ประมงพ้ืนบ้าน” “ประมงพาณิชย์” “ประมงพาณิชย์ขนาดเล็ก” และยกเลิกนิยามคาว่า “โรงงาน” (รา่ งมาตรา 3 ถึง ร่างมาตรา 8) (๒) เพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการประมงแห่งชาติ และคณะกรรมการประมงจังหวัด (รา่ งมาตรา 13 ถงึ ร่างมาตรา 17) (๓) แก้ไขเพ่ิมเติมคุณสมบัติของผู้ที่จะทาการประมงพ้ืนบ้านตลอดจนหลักเกณฑ์และวิธีการใน การทาการประมงตามที่อธิบดปี ระกาศกาหนด (รา่ งมาตรา 18 ถึง รา่ งมาตรา 19) (๔) ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตทาการประมงพื้นบ้าน ทาการประมงในเขตทะเลนอกชายฝั่ง รวมท้ังการแก้ไขหลกั เกณฑ์และวิธกี ารออกใบอนุญาต (ร่างมาตรา 20) (๕) แก้ไขเพ่ิมเติมคุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาตทาการประมงนอกน่านน้าไทย โดยแยกผู้ขอรับ ใบอนุญาตในแต่ละพน้ื ทีท่ ง้ั ในเขตของรัฐชายฝง่ั อืน่ และทะเลหลวง (ร่างมาตรา 25) (6) ห้ามจับสัตว์น้าหรือครอบครองสัตว์น้าที่มีขนาดเล็กกว่าท่ีรัฐมนตรีประกาศกาหนด และการ ห้ามมิให้ล่าสัตว์น้าชนิดท่ีเลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้าหายากหรือใกล้สูญพันธุ์ ตามท่ีรัฐมนตรีกาหนด (ร่างมาตรา 28 และรา่ งมาตรา 30) (7) ห้ามใช้เคร่ืองมืออวนล้อมจับท่ีมีช่องตาอวนเล็กกว่าสองจุดห้าเซนติเมตรทาการประมงในเขต สิบสองไมลท์ ะเลนับจากแนวทะเลชายฝง่ั ในเวลากลางคืน (ร่างมาตรา 32) (8) ห้ามมิให้มีการจ่ายเงินรางวัลนาจับตามพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. 2558 (ร่างมาตรา 51) (9) เพ่ิมเติมหมวด 10 มาตรการทางปกครอง เพ่ือให้การปฏิบัติตามพระราชกาหนดเป็นไปอย่าง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการใช้โทษทางอาญาที่ได้กาหนดไว้ในหมวด 11 บทกาหนดโทษ และเพ่ือ กาหนดการทาการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายท่ีถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรงให้สอดคล้องกับ มาตรฐานสากลและบริบทการทาการประมงของไทย (รา่ งมาตรา 53) (10) เพ่ิมเติมหมวด 11 บทกาหนดโทษ เพ่ือกาหนดโทษทางอาญาให้เหมาะสมเกิดความเป็นธรรม และได้สัดส่วนกับการกระทาความผิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ และป้องปรามการฝ่าฝืน

-3- บทบัญญัตขิ องกฎหมาย รวมท้งั การป้องกนั ไมใ่ ห้ผ้กู ระทาความผิดได้รบั ประโยชนจ์ ากการกระทาความผิด (ร่างมาตรา 54) (11) กาหนดบทเฉพาะกาลให้บรรดาท่ีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล คณะกรรมการมาตรการทาง ปกครอง หรือคณะกรรมการเปรียบเทียบ ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติ น้ีใช้บังคับ ให้ศาล คณะกรรมการมาตรการทางปกครอง หรือคณะกรรมการเปรียบเทียบ มีอานาจพิจารณาดาเนินการต่อไปจนเสร็จส้ิน (ร่างมาตรา 55 และ 56) ๒. ผู้เก่ยี วขอ้ งทไ่ี ด้รบั หรืออาจได้รับผลกระทบจากรา่ งพระราชบญั ญตั ิ ๑. กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๒. กระทรวงมหาดไทย ๓. ศนู ย์อานวยการรักษาผลประโยชนข์ องชาติทางทะเล ๔. กองทัพเรือ ๕. คณะกรรมการประมงประจาจังหวัด ๖. สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ๗. สมาคมสมาพันธช์ าวประมงพ้ืนบ้านแหง่ ประเทศไทย ๘. สมาคมเรอื ประมงพาณชิ ย์ ๙. ชาวประมง เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสตั วน์ ้า ผู้ประกอบการ นักวิชาการ สหกรณ์หรือสมาคม หรอื องคก์ รอิสระท่ีเกยี่ วข้องกบั การประมง ๓. ประเดน็ การรับฟังความคิดเหน็ ๑. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมเจตนารมณ์ของกฎหมายให้เกิดความชัดเจนและ ครอบคลุมกิจการประมงและจดั ระเบียบการประมงในประเทศไทยและรองรับการจัดระเบยี บการประมงทะเล ในน่านน้าอื่นภายใต้กติการะหว่างประเทศ เพื่อป้องกันมิให้มีการทาการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายโดย เจตนา รวมถึงการเพ่ิมบทนิยามคาว่า “ทะเลหลวง” “ประมงพื้นบ้าน” “ประมงพาณิชย์” “ประมงพาณิชย์ ขนาดเล็ก” และยกเลิกนิยามคาวา่ “โรงงาน” (รา่ งมาตรา 3 ถงึ รา่ งมาตรา 8) ๒. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการประมงแห่งชาติ และคณะกรรมการประมงจงั หวดั (ร่างมาตรา 13 ถงึ ร่างมาตรา 17) ๓. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติของผู้ท่ีจะทาการประมงพื้นบ้าน ตลอดจนหลักเกณฑ์และวิธีการในการทาการประมงตามที่อธิบดีประกาศกาหนด (ร่างมาตรา 18 ถึง ร่าง มาตรา 19) ๔. ท่านเห็นด้วยหรอื ไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมห้ามมิให้ผไู้ ด้รับใบอนุญาตทาการประมงพน้ื บา้ น ทาการประมงในเขตทะเลนอกชายฝง่ั รวมทงั้ การแก้ไขหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารออกใบอนญุ าต (ร่างมาตรา 20) ๕. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติม การดัดแปลงเคร่ืองมือทาการประมงให้ผิดไป จากลักษณะของเครื่องมือท่ีระบุไว้ในใบอนุญาต ให้สามารถกระทาได้หากได้จดแจง้ กับกรมประมง (ร่างมาตรา 23) ๖. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาตทาการประมงนอก น่านน้าไทย โดยแยกผู้ขอรับใบอนุญาตในแต่ละพื้นท่ีท้ังในเขตของรัฐชายฝั่งอ่ืนและทะเลหลวง (ร่างมาตรา 25)

-4- ๗. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการห้ามจับสัตว์น้าหรือครอบครองสัตว์น้าที่มีขนาดเล็กกว่าที่ รัฐมนตรีประกาศกาหนด และการห้ามมิให้ล่าสัตว์น้าชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้าหายากหรือใกล้สูญพันธุ์ ตามทร่ี ฐั มนตรกี าหนด (รา่ งมาตรา 28 และรา่ งมาตรา 30) ๘. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมการห้ามใช้เคร่ืองมืออวนล้อมจับท่ีมีช่องตาอวน เล็กกว่าสองจุดห้าเซนติเมตรทาการประมงในเขตสิบสองไมล์ทะเลนับจากแนวทะเลชายฝ่ังในเวลากลางคืน (ร่างมาตรา 32) ๙. ท่านเหน็ ด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพม่ิ เติมหน้าที่ของเจา้ ของเรือประมงไทย เมือ่ ต้องการนา เรือออกจากทา่ เพอ่ื ไปทาการประมง (ร่างมาตรา 33) ๑๐. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมเก่ียวกับการขนถ่ายสัตว์น้าในทะเลไปยัง เรอื ประมง (รา่ งมาตรา 36 ถงึ รา่ งมาตรา 38) ๑๑. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมวิธีดาเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เกิด ความชัดเจน และต้องคานึงถึงหน้าท่ีและอานาจของรฐั ไทยในฐานะของรัฐชายฝ่ัง รฐั เจา้ ของ รฐั ทา่ เรอื และรัฐ เจา้ ของตลาด รวมถงึ ต้องปฏบิ ัติตามคมู่ ือการปฏิบัตริ าชการทกี่ าหนดไว้ (รา่ งมาตรา 48 ถงึ รา่ งมาตรา 50) ๑๒. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการห้ามมิให้มีการจ่ายเงินรางวัลนาจับตามพระราชกาหนดการ ประมง พ.ศ. 2558 (ร่างมาตรา 51) ๑๓. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพ่ิมเติมหมวด 10 มาตรการทางปกครอง เพ่ือให้การ ปฏิบัติตามพระราชกาหนดเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการใช้โทษทางอาญาที่ได้กาหนด ไว้ในหมวด 11 บทกาหนดโทษ และเพือ่ กาหนดการทาการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ถือเป็นการฝ่าฝืน กฎหมายอย่างร้ายแรงให้สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานสากลและบริบทการทาการประมงของไทย (รา่ งมาตรา 53) ๑๔. ทา่ นเห็นดว้ ยหรอื ไมก่ บั การแก้ไขเพิม่ เติมหมวด 11 บทกาหนดโทษ เพื่อกาหนดโทษทาง อาญาให้เหมาะสมเกิดความเป็นธรรม และได้สัดส่วนกับการกระทาความผิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมี ประสทิ ธิภาพ และปอ้ งปรามการฝ่าฝนื บทบัญญัติของกฎหมาย รวมท้ังการปอ้ งกนั ไม่ใหผ้ ู้กระทาความผิดได้รับ ประโยชน์จากการกระทาความผิด (ร่างมาตรา 54) ๑๕. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกาหนดบทเฉพาะกาลให้บรรดาท่ีอยู่ระหว่างพิจารณาของ ศาล คณะกรรมการมาตรการทางปกครอง หรือคณะกรรมการเปรียบเทียบ ซ่ึงค้างพิจารณาอยู่ก่อนวันท่ี พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ศาล คณะกรรมการมาตรการทางปกครอง หรือคณะกรรมการเปรียบเทียบ มี อานาจพิจารณาดาเนนิ การตอ่ ไปจนเสร็จสน้ิ (ร่างมาตรา 55 และ 56) ๔. ระยะเวลาและวธิ ีการการรบั ฟงั ความคดิ เห็น ๔.๑ ระยะเวลาในการรับฟังความคดิ เห็น ต้งั แตว่ ันท่ี ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๕ ถึงวนั ที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕ รวมระยะเวลา จานวน ๗๕ วัน ๔.๒ วธิ ีการรบั ฟังความคดิ เห็น (๑) ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรฐั สภา www.parliament.go.th

-5- (๒) ส่งประเดน็ ไปรบั ฟงั ผทู้ เี่ กยี่ วข้องโดยตรง ประกอบด้วย ๑. กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๒. กระทรวงมหาดไทย ๓. ศนู ยอ์ านวยการรักษาผลประโยชน์ของชาตทิ างทะเล ๔. กองทัพเรือ ๕. คณะกรรมการประมงประจาจงั หวดั ๖. สมาคมการประมงแหง่ ประเทศไทย ๗. สมาคมสมาพนั ธ์ชาวประมงพ้นื บา้ นแห่งประเทศไทย ๘. สมาคมเรอื ประมงพาณิชย์ ๙. ชาวประมง เกษตรกรผเู้ พาะเลี้ยงสัตวน์ ้า ผ้ปู ระกอบการ นักวชิ าการ สหกรณ์หรือสมาคม หรอื องคก์ รอิสระทเี่ ก่ยี วข้องกับการประมง ๕. สรุปผลการรับฟงั ความคิดเห็น ๕.๑ ข้อมลู ทั่วไปผู้รว่ มแสดงความคดิ เหน็ จากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรฐั สภา www.parliament.go.th จานวน ๑๖ ราย จากการส่งประเดน็ ไปรับฟงั ผู้ทเี่ กีย่ วข้องโดยตรง สว่ นราชการ หน่วยงานของรฐั องค์กรเอกชน ที่ไดแ้ สดงความคดิ เห็นมจี านวน ๒ ราย ประกอบดว้ ย ๑. กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๒. ศูนยอ์ านวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

-6- ๕.๒ ผลการรบั ฟงั ผลการรับฟังผา่ นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภา www.parliament.go.th และจาก การส่งประเดน็ ไปรับฟังผู้ทเ่ี กย่ี วข้องโดยตรง สรปุ ไดเ้ ปน็ รายประเด็นดังนี้ ๑. สมควรกาหนดให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมเจตนารมณ์ของกฎหมายให้เกิดความชัดเจนและ ครอบคลุมกิจการประมงและจัดระเบียบการประมงในประเทศไทยและรองรับการจัดระเบียบการประมง ทะเลในน่านน้าอื่นภายใต้กติการะหว่างประเทศ เพ่ือป้องกันมิให้มีการทาการประมงโดยไม่ชอบด้วย กฎหมายโดยเจตนา รวมถึงการเพ่ิมบทนิยามคาว่า “ทะเลหลวง” “ประมงพื้นบ้าน” “ประมงพาณิชย์” “ประมงพาณชิ ย์ขนาดเล็ก” และยกเลิกนยิ ามคาว่า “โรงงาน” หรอื ไม่ เห็นด้วย ไม่เหน็ ดว้ ย เห็นด้วยและสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย เจตนารมณ์ของกฎหมายและคานิยามคา ใหเ้ ปน็ ธรรมกับชาวประมง วา่ “ทะเลหลวง” “ประมงพน้ื บ้าน” “ประมง เหน็ ด้วยกับหลกั การของรา่ งพระราชบัญญัติ พาณิชย์” ประมงพาณิชยข์ นาดเลก็ ” และนิยามคา แก้ไขเพ่ิมเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ว่า “โรงงาน” ท่ีกาหนดไว้ในพระราชกาหนดการ ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรักษาผลประโยชน์ ประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ และทีแ่ ก้ไขเพม่ิ เติม ทีใ่ ชบ้ งั คับ ของชาติทางทะเล) อยใู่ นปัจจุบันมีความเหมาะสมดีแลว้ (กรมประมง) ๒. สมควรให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการประมงแห่งชาติ และ คณะกรรมการประมงจงั หวัด หรอื ไม่ เห็นด้วย ไม่เหน็ ดว้ ย เห็นด้วยให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบ องค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบาย ข อ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ป ร ะ ม ง แ ห่ ง ช า ติ แ ล ะ การประมงแห่งชาติและคณะกรรมการประมง คณะกรรมการประมงจังหวัดให้มีความเหมาะสม ประจาจังหวัดท่ีกาหนดไว้ในพระราชกาหนดการ ปฏบิ ัตงิ านเพ่ือประโยชนข์ องชาวประมง ประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ ท่ีใช้บังคับอยู่ในปจั จุบันมีความ เห็นด้วยกบั หลกั การของรา่ งพระราชบัญญัติ เหมาะสมดแี ลว้ (กรมประมง) แก้ไขเพ่ิมเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรักษาผลประโยชน์ ของชาติทางทะเล) ไ ม่ ขั ด ข้ อ ง ท่ี จ ะ เ พิ่ ม เ ติ ม ว า ร ะ ก า ร ด า ร ง ตาแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคราวละสามปี (กรมประมง) ๓. สมควรให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติของผู้ท่ีจะทาการประมงพ้ืนบ้านตลอดจน หลกั เกณฑ์และวิธกี ารในการทาการประมงตามท่อี ธิบดปี ระกาศกาหนด หรือไม่

-7- เห็นด้วย ไมเ่ ห็นดว้ ย เห็นด้วยเพราะประมงพ้ืนบ้านบางรายใช้ บทบัญญัติที่เก่ียวกับคุณสมบัติผู้ท่ีจะทาการ เคร่ืองมือไม่เหมาะสม เกินความจาเป็นท่ีจะต้องใช้ ประมงพ้ืนบ้านตลอดจนหลักเกณฑ์และวิธีการทา กบั ประมงพ้ืนบา้ น การประมงทก่ี าหนดไว้ในพระราชกาหนดการประมง เห็นด้วยกับหลักการของรา่ งพระราชบัญญัติ พ.ศ. ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ท่ีใช้บังคับอยู่ใน แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ปัจจบุ ันมีความเหมาะสมดีแลว้ (กรมประมง) ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรกั ษาผลประโยชน์ ของชาตทิ างทะเล) ๔. สมควรกาหนดห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตทาการประมงพ้ืนบ้าน ทาการประมงในเขต ทะเลนอกชายฝง่ั รวมทง้ั การแก้ไขหลกั เกณฑ์และวธิ ีการออกใบอนญุ าต หรอื ไม่ เหน็ ด้วย ไม่เหน็ ด้วย เหน็ ดว้ ยกับหลกั การของรา่ งพระราชบัญญัติ บทบัญญัติมาตรา ๓๔ ที่กาหนดไว้ในพระ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ และท่ีแก้ไข ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรกั ษาผลประโยชน์ เพิ่มเติม ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันมีความเหมาะสมดี ของชาติทางทะเล) แล้ว (กรมประมง) ๕. สมควรกาหนดการดัดแปลงเครือ่ งมือทาการประมงให้ผิดไปจากลักษณะของเครื่องมือ ท่รี ะบุไว้ในใบอนญุ าต ให้สามารถกระทาไดห้ ากไดจ้ ดแจ้งกับกรมประมง หรอื ไม่ เห็นด้วย ไมเ่ ห็นดว้ ย ควรกาหนดให้มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิต บทบัญญัติมาตรา ๔๒ ที่กาหนดไว้ในพระ ของชาวประมง ราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ และท่ีแก้ไข เหน็ ดว้ ยกบั หลกั การของร่างพระราชบัญญัติ เพ่ิมเติม ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันมีความเหมาะสมดี แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. แล้ว (กรมประมง) ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรักษาผลประโยชน์ ของชาติทางทะเล) ๖. สมควรแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาตทาการประมงนอกน่านน้าไทย โดย แยกผูข้ อรบั ใบอนุญาตในแต่ละพนื้ ที่ท้งั ในเขตของรฐั ชายฝ่ังอื่นและทะเลหลวง หรอื ไม่

-8- เหน็ ดว้ ย ไมเ่ ห็นดว้ ย ค ว ร ก า ห น ด ใ ห้ มี ค ว า ม เ ป็ น ธ ร ร ม กั บ บทบัญญัติมาตรา ๔๘ ท่ีกาหนดไว้ในพระ ชาวประมง ราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ ท่ใี ชบ้ งั คบั อยใู่ น เห็นด้วยกบั หลกั การของรา่ งพระราชบัญญัติ ปัจจบุ ันมคี วามเหมาะสมดแี ล้ว (กรมประมง) แก้ไขเพ่ิมเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรกั ษาผลประโยชน์ ของชาตทิ างทะเล) ๗. สมควรกาหนดห้ามจับสัตว์น้าหรือครอบครองสัตว์น้าที่มีขนาดเล็กกว่าท่ีรัฐมนตรี ประกาศกาหนด และการห้ามมิให้ล่าสัตว์น้าชนิดที่เล้ียงลูกด้วยนม สัตว์น้าหายากหรือใกล้สูญพันธ์ุ ตามที่ รัฐมนตรีกาหนด หรือไม่ เหน็ ดว้ ย ไมเ่ ห็นดว้ ย เห็นด้วยกบั หลกั การของรา่ งพระราชบัญญัติ บางคร้ังก็มาสามารถเลือกขนาดสัตว์น้าได้ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. แต่ชาวประมงส่วนใหญ่เมื่อจับสัตว์น้าขนาดเล็กได้ก็ ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรกั ษาผลประโยชน์ จะปลอ่ ยอยู่แล้ว ของชาติทางทะเล) บทบัญญัติมาตรา ๕๗ และมาตรา ๖๖ ท่ี กาหนดไว้ในพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ ท่ีใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันมีความเหมาะสมดี แล้ว (กรมประมง) ๘. สมควรกาหนดห้ามใช้เคร่ืองมืออวนล้อมจับท่ีมีช่องตาอวนเล็กกว่าสองจุดห้า เซนติเมตรทาการประมงในเขตสิบสองไมลท์ ะเลนับจากแนวทะเลชายฝ่ังในเวลากลางคนื หรือไม่ เหน็ ด้วย ไมเ่ หน็ ด้วย จะได้มีขอบเขตที่ชัดเจนในการทาประมง การกาหนดดังกล่าวสร้างความไม่เป็นธรรม จะได้ไมก่ ระทาความผดิ ตามกฎหมาย สาหรับชาวประมง เพื่อให้สัตว์น้าขนาดเล็กสามารถอยู่รอด บทบัญญัติมาตรา ๖๙ ท่ีกาหนดไว้ในพระ ขยายพนั ธุ์ต่อไปได้ ราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่ใช้บังคบั อย่ใู น เหน็ ด้วยกับหลักการของร่างพระราชบัญญัติ ปจั จบุ นั มีความเหมาะสมดแี ล้ว (กรมประมง) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรกั ษาผลประโยชน์ ของชาติทางทะเล)

-9- ๙. สมควรกาหนดแก้ไขเพิ่มเติมหน้าท่ีของเจ้าของเรือประมงไทย เมื่อต้องการนาเรือออก จากท่าเพื่อไปทาการประมง หรือไม่ เหน็ ด้วย ไมเ่ หน็ ด้วย ควรแก้ไขเพ่ือให้เกิดความเป็นธรรมกับ บทบัญญัติมาตรา ๘๑ ท่ีกาหนดไว้ในพระ ชาวประมง ราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ และที่แก้ไข เห็นด้วยกับหลกั การของร่างพระราชบัญญัติ เพิ่มเติม ท่ีใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันมีความเหมาะสมดี แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. แลว้ (กรมประมง) ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรกั ษาผลประโยชน์ ของชาติทางทะเล) ๑๐. สมควรกาหนดแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขนถ่ายสัตว์น้าในทะเลไปยังเรือประมง หรอื ไม่ เหน็ ด้วย ไม่เหน็ ดว้ ย สตั วน์ า้ ทจ่ี บั ได้จะมีคณุ ภาพมีความสด ทาให้ บทบัญญัติที่เกี่ยวกับการขนถ่ายสัตว์น้าใน ขายได้ราคา ทะเล ที่กาหนดไว้ในพระราชกาหนดการประมง เห็นด้วยกบั หลักการของร่างพระราชบัญญัติ พ.ศ. ๒๕๕๘ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม ที่ใช้บังคับอยู่ใน แก้ไขเพ่ิมเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ปัจจุบันมีความเหมาะสมดแี ลว้ (กรมประมง) ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรกั ษาผลประโยชน์ ของชาตทิ างทะเล) ๑๑. สมควรกาหนดวิธีดาเนินการของพนักงานเจ้าหน้าท่ีให้เกิดความชัดเจน และต้อง คานึงถึงหน้าที่และอานาจของรัฐไทยในฐานะของรัฐชายฝ่ัง รัฐเจ้าของ รัฐท่าเรือ และรัฐเจ้าของตลาด รวมถึงตอ้ งปฏบิ ตั ิตามคู่มอื การปฏิบัติราชการทีก่ าหนดไว้ เหน็ ด้วย ไม่เหน็ ด้วย เห็นด้วยกับหลักการของร่างพระราชบัญญัติ บทบัญญัติที่เก่ียวกับวิธีการดาเนินการของ แก้ไขเพ่ิมเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. พนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ กาหนดไว้ใน พระร าช ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรักษาผลประโยชน์ กาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ และท่แี ก้ไขเพิ่มเติม ของชาตทิ างทะเล) ทใ่ี ชบ้ งั คบั อยู่ในปัจจบุ ันมีความเหมาะสมดีแล้ว (กรม ประมง)

- 10 - ๑๒. สมควรกาหนดห้ามมิให้มีการจ่ายเงินรางวัลนาจับตามพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ หรือไม่ เหน็ ด้วย ไม่เหน็ ดว้ ย - เหน็ ดว้ ยกบั หลักการของรา่ งพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรกั ษาผลประโยชน์ ของชาติทางทะเล) ในปัจจุบันกรมประมงไม่ได้มีการจ่ายเงิน รางวัลนาจับ เน่ืองจากบทบัญญัติตามพระราช กาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม ไม่ได้กาหนดไว้ การกาหนดห้ามมิให้จ่ายเงินรางวัล นาจับ จึงไม่มีผลต่อการดาเนินการในปัจจุบัน (กรม ประมง) ๑๓. สมควรแก้ไขเพ่ิมเติมหมวด ๑๐ มาตรการทางปกครอง เพ่ือให้การปฏิบัติตามพระ ราชกาหนดเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการใช้โทษทางอาญาที่ได้กาหนดไว้ในหมวด ๑๑ บทกาหนดโทษ และเพื่อกาหนดการทาการประมงโดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมายท่ถี ือเปน็ การฝา่ ฝืนกฎหมาย อยา่ งรา้ ยแรงให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและบริบทการทาการประมงของไทย เห็นด้วย ไม่เห็นดว้ ย เหน็ ด้วยกบั หลกั การของร่างพระราชบัญญัติ บทบัญญัติหมวด ๑๐ มาตรการทาง แก้ไขเพ่ิมเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ปกครอง ท่ีกาหนดไว้ในพระราชกาหนดการประมง ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรักษาผลประโยชน์ พ.ศ. ๒๕๕๘ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม ท่ีใช้บังคับอยู่ใน ของชาติทางทะเล) ปจั จุบันมีความเหมาะสมดีแลว้ (กรมประมง) ๑๔. แก้ไขเพิ่มเติมหมวด ๑๑ บทกาหนดโทษ เพื่อกาหนดโทษทางอาญาให้เหมาะสมเกิด ความเป็นธรรม และได้สัดส่วนกับการกระทาความผิด เพ่ือให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ และ ปอ้ งปรามการฝ่าฝืนบทบญั ญตั ิของกฎหมาย รวมทง้ั การป้องกนั ไม่ใหผ้ ู้กระทาความผดิ ไดร้ ับประโยชน์จาก การกระทาความผิด เหน็ ด้วย ไม่เหน็ ด้วย เห็นดว้ ยกบั หลกั การของร่างพระราชบัญญัติ บทบัญญัติหมวด ๑๑ บทกาหนดโทษ ท่ี แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. กาหนดไว้ในพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรกั ษาผลประโยชน์ ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ของชาติทางทะเล) มคี วามเหมาะสมดีแล้ว (กรมประมง)

- 11 - ๑๕. สมควรกาหนดบทเฉพาะกาลใหบ้ รรดาท่ีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล คณะกรรมการ มาตรการทางปกครอง หรือคณะกรรมการเปรียบเทียบ ซ่ึงค้างพิจารณาอยู่ก่อนวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้ บังคับ ให้ศาล คณะกรรมการมาตรการทางปกครอง หรือคณะกรรมการเปรียบเทียบ มีอานาจพิจารณา ดาเนินการต่อไปจนเสร็จส้ิน เห็นดว้ ย ไมเ่ ห็นด้วย - เห็นดว้ ยกบั หลักการของร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... (ศูนย์อานวยการรักษาผลประโยชน์ ของชาตทิ างทะเล) ไม่ขัดข้องที่จะกาหนดบทเฉพาะกาลให้ บ ร ร ด า ค ดี ท่ี อ ยู่ ร ะ ห ว่ า ง ก า ร พิ จ า ร ณ า ข อ ง ศ า ล คณะกรรมการมาตรการทางปกครอง หรือ คณะกรรมการเปรียบเทียบ ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ก่อน วั น ที่ พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ น้ี ใ ช้ บั ง คั บ ใ ห้ ศ า ล คณะกรรมการมาตรการทางปกครอง หรือ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร เ ป รี ย บ เ ที ย บ มี อ า น า จ พิ จ า ร ณ า ดาเนินการตอ่ ไปจนเสรจ็ สิน้ (กรมประมง) ส่วนท่ี ๓ รายงานผลการวิเคราะหผ์ ลกระทบอนั เกดิ จากร่างพระราชบัญญตั ิ ๑. ความเปน็ มา สภาพปัญหา ความจาเป็นที่จะต้องตราพระราชบญั ญัติ โดยท่ีพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. 2558 ได้มีการตราขึ้นใช้บังคับอย่างเร่งด่วน เพื่อ บรรเทาปัญหาอันเน่ืองมาจากผลกระทบที่ร้ายแรงของการทาประมงท่ีผิดกฎหมายซึ่งอาจนาไปสู่การถูกขึ้น บัญชีหรือใบเหลืองของสหภาพยุโรป (อียู) หรืออาจจะถูกปรับขึ้นเป็นใบแดง จึงจาเป็นต้องดาเนินการอย่าง รวดเร็วและตอบสนองให้เห็นถึงความต้ังใจของประเทศไทยท่ีพยายามแก้ไขปัญหา จึงได้ตราเป็นพระราช กาหนดเพอ่ื ให้สามารถบังคับใช้ได้ทนั ที อยา่ งไรก็ดี พระราชกาหนดดงั กล่าวมีบทบญั ญัติบางมาตราทอ่ี าจจะขัด ต่อหลักการของอนุสัญญาประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก หรือ หลักสิทธิมนุษยชนและรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย ในประเด็นเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินและ สิทธิในการประกอบอาชีพของประชาชน การเลือกปฏิบัติ ขาดความเสมอภาค และบังคับใช้กฎหมายโดยไม่ เท่าเทียมกัน รวมท้ังมีบทกาหนดโทษที่ไม่เป็นธรรม ซ้าซ้อน และไม่ได้สัดส่วนกับการลงโทษในความผิดท่ัวไป เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเน่ืองมาจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว รวมท้ังบรรเทาความเดือดร้อนของ ประชาชนและชาวประมงผู้ประกอบอาชีพโดยสุจรติ ให้ไดร้ ับความเป็นธรรม ตลอดจนส่งเสริมการทาประมงให้ มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งการจัดให้มี คณะกรรมการเปรยี บเทียบและพิจารณาลงโทษ และคณะกรรมการมาตรการทางปกครองในการพจิ ารณาออก คาส่ังตามระดับความรุนแรงของการกระทาความผิด สภาพการกระทาผิด และการกระทาความผิดซ้า ตลอดจนกาหนดโทษทางปกครองและโทษทางอาญาท่ีเหมาะสม เพ่ือให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ และป้องกนั การกระทาความผดิ จงึ จาเป็นตอ้ งตราพระราชบัญญตั ิน้ี

- 12 - ๒. ความสอดคลอ้ งของร่างพระราชบญั ญตั ิ  รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา ๔๐ บุคคลยอ่ มมีเสรภี าพในการประกอบอาชพี การจากัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทามิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัติแห่ง กฎหมายทต่ี ราขน้ึ เพื่อรกั ษาความมั่นคงหรือเศรษฐกิจของประเทศ การแขง่ ขนั อย่างเปน็ ธรรม การปอ้ งกันหรือ ขจดั การกดี กนั หรือการผูกขาด การคมุ้ ครองผู้บริโภค การจัดระเบียบการประกอบอาชพี เพียงเทา่ ท่จี าเป็น หรอื เพอื่ ประโยชนส์ าธารณะอยา่ งอ่นื การตรากฎหมายเพื่อจัดระเบียบการประกอบอาชีพตามวรรคสอง ต้องไม่มีลักษณะเป็นการ เลอื กปฏบิ ัติหรอื กา้ วกา่ ยการจดั การศกึ ษาของสถาบันการศึกษา มาตรา ๔๓ บคุ คลและชุมชนยอ่ มมีสทิ ธิ (๑) อนุรักษ์ ฟ้ืนฟู หรือส่งเสริมภูมิปัญญา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และจารีต ประเพณอี ันดีงามท้ังของท้องถน่ิ และของชาติ (๒) จัดการ บารุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความ หลากหลายทางชวี ภาพอยา่ งสมดลุ และย่ังยืนตามวธิ กี ารที่กฎหมายบัญญัติ (๓) เข้าช่ือกันเพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐให้ดาเนินการใดอันจะเป็นประโยชน์ต่อ ประชาชนหรือชุมชน หรืองดเว้นการดาเนินการใดอันจะกระทบต่อความเป็นอยู่อย่างสงบสุขของประชาชน หรือชุมชนและได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐต้องพิจารณาข้อเสนอแนะนั้นโดย ให้ประชาชนท่เี กีย่ วข้องมีส่วนรว่ มในการพจิ ารณาด้วยตามวิธกี ารทก่ี ฎหมายบญั ญัติ (๔) จัดใหม้ ีระบบสวสั ดิการของชมุ ชน สทิ ธิของบุคคลและชมุ ชนตามวรรคหนง่ึ หมายความรวมถึงสิทธิทีจ่ ะร่วมกับองคก์ รปกครอง สว่ นทอ้ งถ่ินหรอื รัฐในการดาเนนิ การดังกล่าวดว้ ย มาตรา ๕๗ รฐั ตอ้ ง (๑) อนุรกั ษ์ ฟ้ืนฟู และสง่ เสรมิ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่น ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมและจารีต ประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นและของชาติ และจัดให้มีพ้ืนที่สาธารณะสาหรับกิจกรรมท่ีเก่ียวข้องรวมทั้ง ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชน ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ได้ใช้สิทธิและมีส่วนร่วมในการ ดาเนนิ การด้วย (๒) อนุรักษ์ คุ้มครอง บารุงรักษา ฟ้ืนฟู บริหารจัดการ และใช้หรือจัดให้มีการใช้ประโยชน์ จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชวี ภาพ ให้เกิดประโยชน์อย่างสมดุลและย่งั ยนื โดยต้องให้ปร ะชาช นแล ะชุ มชน ใน ท้องถ่ินที่เ ก่ียว ข้อง มีส่ว นร่ว ม ด าเ นิน กา รแล ะได้รับ ปร ะโ ยชน์จ า กก า ร ดาเนนิ การดงั กลา่ วดว้ ยตามท่ีกฎหมายบัญญตั ิ มาตรา ๗๗ วรรคหน่ึง รัฐพึงจัดให้มีกฎหมายเพียงเท่าที่จาเป็น และยกเลิกหรือปรับปรุง กฎหมายท่ีหมดความจาเป็นหรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ หรือที่เป็นอุปสรรคต่อการดารงชีวิตหรือการ ประกอบอาชีพโดยไมช่ ักชา้ เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชน และดาเนินการให้ประชาชนเข้าถึงตวั บทกฎหมาย ต่าง ๆ ได้โดยสะดวกและสามารถเข้าใจกฎหมายได้งา่ ยเพื่อปฏิบตั ติ ามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง  ยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละแผนการปฏริ ูปประเทศ แผนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย มีเป้าประสงค์เพื่อให้เกิดผลอันพึงประสงค์ในการมี กฎหมายที่ดีและมีเพียงเท่าท่ีจาเป็นตามหลักการของมาตรา ๒๕๘ ค. ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยกาหนดกิจกรรมปฏิรูปประเทศท่ีจะส่งผลให้เกิดการเปล่ียนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสาคัญ จานวน ๕ กิจกรรม ได้แก่ ๑) มีกลไกยกเลิกหรือแก้ไขปรับปรุงกฎหมายท่ีสร้างภาระหรือเป็นอุปสรรคต่อการดารงชีวิต

- 13 - หรอื การประกอบอาชีพของประชาชน เพือ่ ขบั เคลื่อนใหเ้ กิดผลอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรปู ธรรม ๒) จดั ให้ มีกลไกทางกฎหมายเพื่อให้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนโทษทางอาญาท่ีไม่ใช่ความผิดร้ายแรงให้เป็นโทษปรับ เป็นพินัยเพื่อลดผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ๓) จัดให้มีกลไกกาหนดให้ส่วนราชการหรือ หน่วยงานของรัฐซ่ึงมีหน้าท่ีควบคุม กากับดูแล และบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย น าเทคโนโลยีมาใช้ใน การดาเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธภิ าพในการบังคบั ใช้กฎหมาย ๔) จดั ใหม้ กี ลไกช่วยเหลอื ประชาชนในการจัดทา และเสนอรา่ งกฎหมาย และ ๕) จัดทาประมวลกฎหมายเพ่ือรวบรวมกฎหมายเรื่องเดยี วกันไว้ดว้ ยกนั เพื่อความ สะดวกในการใช้งาน ทั้งนี้ ในการดาเนินการดังกล่าวจะส่งผลประโยชน์ในการลดภาระของการดารงชีวิตหรือ การประกอบอาชีพให้กับประชาชนและภาคธุรกิจโดยรวม รวมทั้ง สนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการ จัดทาและเสนอร่างกฎหมาย ตลอดจนประชาชนสามารถเข้าถึงกฎหมายได้โดยสะดวกและเข้าใจเนื้อหาสาระ ของกฎหมายได้โดยงา่ ย แผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม มีเป้าประสงค์เพ่ือให้ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ได้รับการดูแล รักษา และฟ้ืนฟูอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และมี ความสมบูรณ์ย่ังยืนเป็นฐานการพัฒนาประเทศท้ังทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเกิดความสมดุล ระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ ลดความขัดแย้งของการพัฒนาท่ีใช้ฐานทรัพยากรธรรมชาติ บรรเทา ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและลดภัยพิบัติทางธรรมชาติ และมีระบบบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อมท่ีมีประสิทธิภาพบนพ้ืนฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนตามแนวทางประชารัฐ โดยกาหนด กิจกรรมปฏิรูปประเทศที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสาคัญ จานวน ๔ กิจกรรม ประกอบด้วย ๑) เพ่ิมและพัฒนาพ้ืนท่ีป่าไม้ให้ได้ตามเป้าหมาย ๒) การบริหารจัดการเขตทางทะเลและชายฝง่ั รายจงั หวดั ๓) การบรหิ ารจัดการน้าเพือ่ สร้างเศรษฐกิจชมุ ชนในพื้นท่ีนอกเขตชลประทาน ๔) ปฏิรูประบบการ บริหารจดั การเขตควบคุมมลพิษ กรณี เขตควบคุมมลพษิ มาบตาพดุ ท้งั นี้ ในการดาเนินการดงั กลา่ วจะสง่ ผลให้ ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยนื มพี นื้ ทส่ี เี ขยี วเพมิ่ มากขึ้นท้ังในเขตเมอื งและ ชุมชน มลพิษทางอากาศดีขึ้น และเกิดความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ท้ังทรัพยากร ทางบก ทรพั ยากรนา ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง่ั ความหลากหลายทางชีวภาพ ส่ิงแวดลอ้ ม และระบบการ บรหิ ารจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ๓. ประโยชนท์ ่ีประชาชนและสังคมจะได้รบั เม่ือมีประกาศใช้บังคับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... จะเป็นการบรหิ ารจัดการดา้ นการประมงและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการส่งเสริมการทาประมงพ้ืนบ้านท่ีสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมใน ปจั จบุ นั ๔. ความสมั พันธห์ รือความใกลเ้ คยี งกับกฎหมายอ่นื ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... มีความ สอดคล้องกบั พระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ เน่ืองจากเปน็ กฎหมายทใ่ี ชบ้ งั คบั ๕. ผลกระทบโดยรวมท่อี าจเกิดขึ้นจากกฎหมาย อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างประมงพ้ืนบา้ นกับประมงพาณิชย์ได้

- 14 - ๖. การกาหนดใหม้ รี ะบบอนุญาต อนุมตั ิหรอื การใช้ดลุ พินจิ ของเจ้าหนา้ ที่  มี  ไม่มี ๗. การกาหนดให้มรี ะบบคณะกรรมการ  ไมม่ ี  มี เหตผุ ลและความจาเปน็ - ๘. บทกาหนดโทษ  ไมม่ ี  โทษทางอาญา  โทษทางปกครอง  โทษปรับทางพนิ ยั  โทษอปุ กรณ์ เหตุผลและความจาเป็น ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................. ................................................................ ส่วนที่ ๔ การเปิดเผยรายงานผลการรับฟงั ความคดิ เหน็ และรายงานผลการวเิ คราะห์ผลกระทบอันเกดิ จาก ร่างพระราชบญั ญตั ิ คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบท่ีอาจเกิดข้ึนจากร่าง กฎหมาย ที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ได้เปิดเผยรายงานผลการรับฟังความคิดเห็นและ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ผ ล ก ร ะ ท บ อั น เ กิ ด จ า ก ร่ า ง พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ท า ง เ ว็ บ ไ ซ ต์ รั ฐ ส ภ า www.parliament.go.th แลว้ ตง้ั แต่วนั ท่ี ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕ คณะกรรมการรับฟังความคดิ เห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึน้ จากร่างกฎหมายที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้มีสิทธิเลือกต้ัง สานักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร