โครงสร้างพ้ื นฐาน 07ระบบโลจิสตกิ ส์ และดจิ ิทัล 070101 จ.3 แผนแม่บทยอ่ ย โครงสร้างพื้นฐานดา้ นคมนาคมและระบบโลจิสตกิ ส์ เปา้ หมายระดับแผนแม่บทยอ่ ย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศไทยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม ในประเทศลดลง ค่าเป้าหมายทต่ี อ้ งบรรลภุ ายในปี 2565 ตน้ ทนุ โลจิสติกสข์ องประเทศไทยต่อผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศ นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 12 มูลค่าต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศไทยเป็นการประเมินมูลค่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านโลจิสติกส์ ท่ีเกิดจากการใช้บริการของผู้ประกอบการ ประกอบด้วย ต้นทุนการขนส่งสินค้า ต้นทุนการเก็บรักษา สินค้าคงคลัง และต้นทุนการบริหารจัดการโลจิสติกส์ โดยการลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศให้ได้ ตามเป้าหมายมีปัจจัยขับเคลื่อนที่ส�ำคัญ ได้แก่ ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่อุปทาน ความพร้อมของโครงสร้างพ้ืนฐานและสิ่งอ�ำนวยความสะดวก ศักยภาพการให้บริการโลจิสติกส์ และสภาพแวดล้อมท่ีเป็นปัจจัยสนับสนุนในภาพรวม ท้ังนี้ การพัฒนาระบบโลจิสติกส์เพื่อบรรลุเป้าหมาย การพัฒนายังคงมีความท้าทายในประเด็นที่ส�ำคัญ คือ การน�ำเทคโนโลยีและนวัตกรรมประยุกต์ใช้ เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน การใช้ประโยชน์จากโครงสร้าง พ้ืนฐานและส่ิงอ�ำนวยความสะดวกด้านการขนส่งค้าอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับเปล่ียนโครงสร้าง การขนส่งสินค้าโดยใช้ประโยชน์ระบบรางเป็นโครงข่ายหลักเพื่อสนับสนุนการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ และการลดข้อจ�ำกัดของงบประมาณในการจัดท�ำแผนงาน/โครงการโดยการสนับสนุนให้ภาคเอกชน เข้ามาลงทุนโครงการขนาดใหญ่ 298
17 รอยละ 13.4 ตอ GDP ในป 2561 ประกอบดวย ตนทุนการขนสงสินคามีสัดสวนรอยละ 6.5 ตอ GDP ตนทุนการเก็บ 18 19 0720 สแรักลัดษะสใาวนนสปินรอค2ย5าลค6ะ3งค6สล.ดั5ังสมตว ีสอนัดตGสน DวทรPนุนระโอลตบยจนลิสทบะโตุนคิก5โกส.ลา7รม รแีเตจงกนอ็บวสิ สรโGนักDตรมษPเา้าพกิส่มิงินตขสคนึ้นพาท์อคุนยแื้งนูทคกลลรี่าฐอรังมบะยาีลสดรนิะัหดสาจิ1รว4จนิท.1ัดรอกัลตยาอรลGะโDล6จP.5ิสปตตริกอะสกGมอDีบสPัดดวสยวตนนตรนทอทุนยุนกลกาะราบร1ขร.น0ิหสาตงรสอจนิัดGคกDาามPรี 21 โลจิสตกิ ส มีสัดสว นรอยละ 1.1 ตอ GDP โดยมีปจจัยหลักจากสถานการณก ารแพรระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 22 ซ่ึงสงผลกระทบตอกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ 070101 333223222232453647890132สมมรใรมขตสโโลนล้้ัอีีดถออว่สสอจปลจงาััสยยดดิสปรนิแจใใพกนโจคบโี่Gสวลลสสลดนหวตาัดล2าารํุคิกานจะะตD่่ววจยกสกมเรกะิะเ5กลาปตาิิเทสนนาโบดัPกผาใเฉ6ารสค66รรา้ตนนทรคสใูรรรกพสณ1พห์รณมหข..ิกิโหวปทป้้ศออร55งา์มนอัฒีบสนส์กาสุาะรไนรยยปงเาโมรัตทรตดนารภะพแตตะผลยลลโรกิจีาอรนาสเสยลา่ืูอนปยทก่่ะออะะาทงัดบปคทัค่จลีวรดแรพี่GกวอกกศจกรุนะโิิดนสดลํDา65โน้ืGGสอบาลจรากโตหนะตเรP..ฐร(จยับรลDDล่อดปว57นนGนิ้โกาอมสสิสจบุเดPP้ล็วนนนทวดDปสงตยนิกสกตตจ้ัใยวตโอุสไนกิรP์ตมับล้านาาดวิสตตย่่กอออัดกสร)้ิหกีรสแะรยอตต้้รกนนทจาสะสนเเมนลิเกรตยรฉํGGา้ปั้งนรททย่ตว1นุภมาดวสเเภพ้นงละDDนกปอลุุท.นนายมโสลา0าอท็บะี่รคนนรยPPุคาน3รกกงะGาวใุก้รนอาเต้นเจมราาทตกDนมพกปักงาตตอ1ะยกาเแรริPคษ่าทปอ่ิษรมทพบงกกล้้.นนาเเปทวรต้ังเีปา่ี1ผกกบา่ิรมะรรา2ททพขรมอGสลราร้็็องรขมบบขก5งีคัิุุนนพฒนนนะงผDา1ยตรนรึ้เนรร6วสงคขัลฒมทสวกก3รนPลัักก่ใสา2ออิาัทมกามอ่ีย่ห.าางานะมคษษ2่งยดมธวงแสแรรเตพาผภสงกูิั่แนภอืทาาสG1ลบบิอล้นนันบคาขิดินกลสสกัาี่3ระงดคะรรDลทผวคอปับพะาิิคคนน้ใ.ออิิสหหางัใว4ุนงร้ชรบPาภคก้าุตนแยยคคนวผพะาาปโมรวาามสลังลตปส้้ลนาาลรรัิฒกคารรีแหสาโะีสิทะ่อจคคจจิมีตาบะตเหลดันตาดัอดธิรสัั2โดดรงงภรนกะงนาย1กยสภิทGูแสติคค5จหกกเรโัณททชช4มา่ีท่ลดมDว่าิกรว6ลลาาาุพนุนน.นื่มอะกยฑําีนรนสP3ปัั1งงรร ์์ ั จ ตตน ้นททนุ นโลจจิสิสตติกกิ สส์ขของอปงรปะรเทะศเทไทศยไทปยี 2ป55 295-5295-623563 ท่ีมทา:ม่ี ราา: ยรงาายนงาโนลโจลสิ จติสกิ ตสิกขสอ์ขงอปงประระเทเทศศไไททยยปประระจจํา�ำปป ี22556633สสศช. จั ย ห ลั ก จ า ก ส ถ า น ก า ร ณ ์ ก า ร แ พ ร ่ ร ะ บ า ด ของเชื้อโควิด-19 ซ่ึงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะภาคการส่งออก ภาคการท่องเท่ียวและบริการท่ีท�ำให้สัดส่วนต้นทุนโลจิสติกส์ต่อ GDP มีความผันผวน และเม่ือพิจารณาแนวโน้ม การเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนต้นทุนโลจิสติกส์ต่อ GDP ในระยะ 3 ปีท่ีผ่านมา พบว่ายังห่างจากค่าเป้าหมาย ท่ีก�ำหนดไว้ จ�ำเป็นต้องเร่งผลักดันการพัฒนาโดยน�ำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเพ่ิมประสิทธิภาพ การบริหารจัดการของผู้ประกอบการทั้งภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และผู้ให้บริการโลจิสติกส์ เร่งสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนาปัจจัยสนับสนุน อาทิ การพัฒนาองค์ความรู้ และบุคลากร เพ่ือลดต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคงคลังและต้นทุนการบริหารจัดการโลจิสติกส์ รวมทั้งพัฒนา และใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะระบบรางให้เกิดประสิทธิภาพ การด�ำเนินงานที่ผ่านมา ในช่วงปี 2563 – 2564 หน่วยงานภาครัฐได้ขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนา ผ่านโครงการปรับปรุงและก่อสร้างโครงสร้างพ้ืนฐานและสิ่งอ�ำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้า ให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ท้ังระบบราง ถนน น้�ำ และอากาศ อาทิ การก่อสร้างรถไฟทางคู่ การปรับปรุงถนนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าเกษตร การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 การพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่งบริเวณท่าเรือกรุงเทพ และการขุดลอกและบ�ำรุงรักษาร่องน้�ำส�ำคัญ ทางเศรษฐกิจ การพัฒนาเช่ือมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ท่ีเกี่ยวข้องกับการน�ำเข้าส่งออกสินค้า ผ่านระบบ National Single Window การพัฒนาสิ่งอ�ำนวยความสะดวกเพ่ือรองรับการขนส่งสินค้าบริเวณ ด่านชายแดน รวมทั้งมีการน�ำเทคโนโลยีและองค์ความรู้มาใช้ในการเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการ โลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานท้ังในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ตลอดจนการพัฒนาปัจจัยสนับสนุน อาทิ การพัฒนาเช่ือมโยงระบบฐานข้อมูลด้านโลจิสติกส์ ประเด็นท้าทายที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในระยะท่ีผ่านมา ยังคงมีข้อจ�ำกัด ท่ีเป็นประเด็นท้าทายอย่างต่อเนื่องของการขับเคล่ือนการพัฒนา โดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่ปรับเปล่ียนและนิยมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ส่งผลให้ธุรกิจ e-Commerce เติบโตอย่างต่อเน่ือง ผู้ประกอบการมีต้นทุนในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังเพิ่มมากขึ้น การน�ำโครงสร้างพื้นฐานท่ีมี การปรับปรุงและพัฒนามาใช้ประโยชน์จ�ำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการด�ำเนินการ ซ่ึงจะสะท้อนผลการพัฒนา 299
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจิสตกิ ส์ และดจิ ทิ ลั 070101 ในระยะถัดไป และส่งผลต่อการลดต้นทุนโลจิสติกส์ในภาพรวม นอกจากน้ี สถานการณ์การแพร่ระบาด ของเช้ือโควิด-19 ท่ีส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการค้าชายแดน และการค้าผ่านแดนท่ีได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการน�ำเข้าส่งออกสินค้าและการปิดด่านพรมแดน ช่ัวคราว ท�ำให้ปริมาณการขนส่งสินค้าและการน�ำเข้าส่งออกปรับลดลง และการขาดแคลน ตู้สินค้า โดยการด�ำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดสัดส่วนต้นทุนโลจิสติกส์ต่อ GDP จ�ำเป็นต้องผลักดัน ให้มีการน�ำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการโลจิสติกส์ และใช้ประโยชน์ จากโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะระบบรางเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งไปสู่การขนส่งต่อเน่ือง หลายรูปแบบ (Multimodal Transport) การก�ำหนดมาตรการทางการเงิน แนวทางการพัฒนาบุคลากร การแก้ไขกฎหมายและระเบียบท่ีเป็นอุปสรรค รวมทั้งการบริหารความเสี่ยงรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อเสนอแนะเพื่อการบรรลุเป้าหมาย การด�ำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนา โดยเฉพาะภายใต้ สถานการณ์ท่ีเศรษฐกิจเร่ิมกลับมาฟื้นตัวจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือโควิด-19 ภาครัฐควรผลักดันให้ผู้ประกอบการน�ำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพ การบริหารจัดการโลจิสติกส์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การผลิต การจัดเก็บ และการขนส่งสินค้า จนถึงมือผู้บริโภค สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการให้เกิดการเชื่อมโยงท้ังใน และต่างประเทศ ผลักดันการใช้ประโยชน์จาก Application หรือ Platform Online เพ่ือเพ่ิมศักยภาพ การให้บริการโลจิสติกส์รองรับ e-Commerce อาทิ ระบบบริหารจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติ ระบบติดตาม การขนส่งสินค้า ระบบตรวจสอบย้อนกลับ และระบบบริหารจัดการโซ่ความเย็น เร่งพัฒนาและผลักดัน การใช้ประโยชน์โครงสร้างพ้ืนฐานและสิ่งอ�ำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ อาทิ การพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) รวมท้ังบูรณาการเช่ือมโยงโครงข่ายให้มีประสิทธิภาพ เร่งรัดการพัฒนาระบบ National Single Window ให้เกิดการเช่ือมโยงข้อมูลการท�ำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ท่ีเก่ียวข้องกับการน�ำเข้าส่งออก ได้ตลอดกระบวนการ พัฒนาระบบ Port Community System (PCS) และแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัล ระหว่างประเทศ (National Digital Trade Platform : NDTP) พร้อมท้ังปรับปรุงกฎหมายและระเบียบ ท่ีเก่ียวข้องให้สอดคล้องตามความตกลงด้านการอ�ำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation Agreement : TFA) และมาตรฐานทางการค้าขององค์การการค้าโลก (WTO) รวมทั้งพัฒนาระบบข้อมูล เพ่ือใช้ในการวิเคราะห์ ติดตามประเมินผล และการวางแผนการบริหารจัดการทางธุรกิจ 300
โครงสรา้ งพื้ นฐาน 07ระบบโลจิสตกิ ส์ และดจิ ิทลั 070102 จ.3 แผนแม่บทยอ่ ย โครงสร้างพื้ นฐานด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ เปา้ หมายระดบั แผนแมบ่ ทยอ่ ย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศของประเทศไทย มีอันดับหรือคะแนนดีข้ึน ค่าเปา้ หมายทีต่ อ้ งบรรลุภายในปี 2565 อนั ดับหรือคะแนนดขี ึ้น (Logistics Performance Index : LPI) อยู่ใน 25 อันดับแรก หรอื คะแนนไมต่ �ำ่ กว่า 3.50 คะแนน ประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ (Logistics Performance Index : LPI) มีเกณฑ์ชี้วัด 6 ด้าน ประกอบด้วย พิธีการศุลกากร โครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งและเทคโนโลยีสารสนเทศ สมรรถนะ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ทั้งภาครัฐและธุรกิจ การเตรียมการขนส่งระหว่างประเทศ ความตรงต่อเวลา ของการบริการ และระบบติดตามและตรวจสอบสินค้า ซ่ึงมีห่วงโซ่คุณค่าท่ีจะน�ำไปสู่ความส�ำเร็จ ในประเด็นโครงสร้างพื้นฐานและส่ิงอ�ำนวยความสะดวกท่ีมีประสิทธิภาพสนับสนุนการขนส่งต่อเนื่อง หลายรูปแบบ การบริหารจัดการและพัฒนาบริการด้านโลจิสติกส์ท่ีมีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน และการพัฒนา ระบบฐานข้อมูลและความเชื่อมโยง รวมท้ังมาตรการด้านการค้าและการขนส่งระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในระยะท่ีผ่านมายังคงมีความท้าทายในประเด็นที่ส�ำคัญของหน่วยงานในการจัดท�ำแผนงาน/โครงการ เพ่ือการพัฒนา โดยเฉพาะการเช่ือมโยงในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และการก�ำหนด หน่วยงานรับผิดชอบเพื่อบริหารจัดการระบบ NSW และการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการสนับสนุนการพัฒนาประสิทธิภาพและการสร้างการรับรู้เก่ียวกับการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ของประเทศ 301
ประสิทธภิ าพไดมาตรฐาน และการพัฒนาระบบฐานขอมูลและความเชอื่ มโยง รวมท้ังมาตรการดานการคาและการขนสง ระหวางประเทศ อยางไรก็ตาม ในระยะท่ีผานโมคายรังงคงสมีครว้าามงทพาท้ื นายฐในาปนระเด็นที่สําคัญของหนวยงานในการจัดทํา 07แผนงาน/โครงการเพ่ือการพฒั นา โดยเฉพราะกบารบเชโอื่ ลมโจยงสิ ในตรูปิกแบสบ์ อแิเลล็กทะรดอนิจิกทิสมัลีประสิทธิภาพสูงข้ึน และการกําหนด หนวยงานรับผิดชอบเพื่อบริหารจัดการระบบ NSW และการสรางความรวมมือระหวางภาครัฐและภาคเอกชนในการ สนับสนนุ การพัฒนาประ0ส7ิท0ธิภ1า0พแ2ละการสรา งการรบั รูเกยี่ วกบั การพัฒนาดา นโลจสิ ตกิ สของประเทศ สถานการสณถากนากรบารรณรล์กุเาปราบหรรมลาุเยป้าLหPIมาย มLีกPาI รมปีกราะรเปมรินะผเมลินผล คะแนนรวมดัชนปี ระสทิ ธภิ าพระบบโลจิสตกิ สร์ ะหว่างประเทศ ในทุก 2 ปใ นโดทยุกธน2าคปาี รโโดลยกธนซา่ึงคใชาวริธโลีกการจซัด่ึงใเกช็บ้วิธขีกอามรูลจดัดวเยกก็บาขร้อมูล ของประเทศสมาชิกอาเซียนในปี 2561 สอบถามคดว้วามยกพาึงรพสออใบจขถอามงผคูป วารมะกพอึงพบกอาใจรขธุรอกงิจผรู้ปับรจะัดกสองบสกินาคราธุรกิจ ระหวางปรระับเจทัดศส(่งFสrินeiคg้hารtะหFวo่าrwงปaรrdะeเทr)ศ แ(FลrะeกigาhรtขนFoสงrwดวaนrder) (คผรโEดะูะปxยยแpรปะนะrเeนเว2sมจล5sินึงา6ขกคแกแโแซ1ดนึ้ััลวลบลบึ่งCLะายอะะขกปaPมกยคปคึ้นาrIราคูกrววีรอรiะิบัดขาeาพขย2มเอเrมมนั)หูกทฒ5นงมุนส็ขันปบ6ศามน่่งาอแรเก1อไดชาเะงลทงาช่วื่อดปเคะร่ืLทนอยถ้ราควพPศถือะานว(ัฒืไIกอมEผเาโททาxกคมนลลขยpรศิาดพาจคปดอrครเดิึeงสาํหะรงูดคพsาเับต็นปแ�านำsนอิตกแกเนรินใโCนวัลัสบะจลธนaดินะ์ุขปรเตจrจีขคทกธrอิรสาึ้ึนiงุวริจeงะศมตขาจกใrผเไิกกม)น้ึาทินูจ้ปทกพสรปขศใอรยลอตึงนอรไะยําพทปะงบาปเูด่ปเอมมกยรรรทบั ริใัันกบบะะศจะทซรเยตมขไเ่ีท่ึองททผั4ะุอวมขศบศลย5งเดึ้นมวคไีขทอูอล่คึ้นยย้าางู่ อยูอ นั ดบั ทจ่ี า3ก2อจันาดกับ1ท6่ี 405ปอรยะู่อเทันศดทับั่วทโ่ีล3ก2ซจง่ึ าเกณ1ฑ60ก าปรชระี้วเัดทดศาทน่ัวโลก โครงสรางซพึ่ง้ืนเฐกาณนฑเป์กนารเกชณี้วัดฑดช้า้ีวนัดโดคารนงทส่ีมร้าีกงาพร้ืปนรฐับานตเัวปด็นีขเึ้นกนณอฑย์ชี้วัด ทใโจInนคา่สี sโก2ดุtรiผ5tนจuลาอึงtกันมe2าดคี 0หใดไขจfรวับoนม1จอา้ราาแrก9่มัืดอกมงนราMีกอทคผไกรทIมาันะบาanล่ีมหรมทnแดรtกีรกรีการeaนับาาอืยลาาgrนยครคใเุnรeรปนไงจะวรปmaมาก้าแัาดาtรหน่ตานมeยiอับรoม่�อำnนงสับนnตกาัานtไารยมดนัวaวมดDรใตั่lบาอดัลบานeํา่ีันรขเุคปIvก3ปnถ้ึดLนeีวว.า2sใ5Pับlาานห5นto0Iมi6้ม3อกpLtท5ส.าuPอยา5mย้ังาtร0ทIยทนใeeมแท่ีต่นา่ีสอ้ีnขา้ังง้ังปุยเดftไรไนงมoาวรขถ(2ื่้ีองอ้rIจกเัM5นไใพยมึร็ตง6นMขู่ใกDื่ิอจม5านกอ็ตaพา)ีมคทงาาร2nทิจวปมี่รณต5aใาี่ปานแรั้งgรอาใมรไะปขeนณคันวบัทเm่ีปอวงดทาต้า2ยาขับคศวัe2ท5มัูนแวดไn56สารทาีขข6t4กยมานึ้ยอ4มสDดจงา1าจeาปทารมาีม่นvกอถรากาeโ:ัสนใะรสธคนlถดนถเถoราทกาับใคางpนนาาศนสรmรอกกโไรกลพยาาทกาeาัรูฒทรงรยnพณพ่ีอณนดtัฒันื้น์กา้กา(ดขนฐาIานMรับาอารโแนขแงทDคพปอพป่ี)ร4รงรรงป3ท2ะ่รรส5เะ่ีะรป(ทระ6บปบร้ศาเ4ัาาบท2ไงดดตทขศพ5ขขัวอย6ไื้นออทด3งองงฐียขาโเIอาnอ้ึจชรนยนค้ืาเtอูททeจปต1โีrยอี่คเิดีnทบันวอเ2aียชิดัเดน5tคบ้ือ-บัiด61oียไเัคบว49nง4รียa4ัสงl) จากการพฒั อยนู่ทา่ีอเพัน่ิมดเับสทน่ีท4า3งก(ปารี 2ค5ม6น3าคอมยผู่ทา่ีอนันกดาับรล4ง4ท)ุนจกาอกสกราารงพถัฒนนนารเพวิ่มมเทสั้ง้นรทฐั บางากลามรกีคามรนลางคทมนุ ผโ่าคนรกงาสรรลา งงทพุนื้นกฐ่อานสรข้านงาถดนในหญ มาอยางตอ รเวนม่ือทง้ังรัฐบาลมีการลงทุนโครงสร้างพ้ืนฐานขนาดใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง การด�ำเนินงานท่ีผ่านมา ในปี 2564 การพัฒนาประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทยมีการขับเคลื่อน แผนการพัฒนาไปสู่การปฏิบัติผ่านกลไกระดับนโยบายโดยคณะกรรมการบริหารการจัดการขนส่งสินค้า และบริการของประเทศ (กบส.) ไปยังหน่วยงานต่าง ๆ และความร่วมมือในลักษณะบูรณาการระหว่าง หน่วยงานภาครัฐผ่านกลไกงบประมาณ และการสนับสนุนความร่วมมือกับภาคเอกชน โดยมีความ ก้าวหน้าการพัฒนาที่ส�ำคัญ ได้แก่ การปรับปรุงระเบียบที่เกี่ยวข้องเพ่ือสร้างความเชื่อมโยงแนวทางปฏิบัติ ของหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับการน�ำเข้าส่งออกสินค้า การให้บริการระบบการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว (National Single Window) ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีมาตรฐาน สามารถด�ำเนิน การพิธีการศุลกากรน�ำเข้า - ส่งออกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW ในรูปแบบ B2G B2B และ e-Payment โดยมีธุรกรรมเกี่ยวข้องกับการน�ำเข้า ส่งออก และโลจิสติกส์แล้ว จ�ำนวน 410 กระบวนงาน คิดเป็นร้อยละ 82.66 (จากจ�ำนวน 496 กระบวนงาน ) และข้อมูลใบอนุญาต/ใบรับรองที่เชื่อมโยง ข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW ได้แล้วจ�ำนวน 10,761 รายการ รวมท้ังให้สิทธิ บริษัท โทรคมนาคม แห่งชาติ จ�ำกัด (มหาชน) (NT) เป็นผู้ให้บริการระบบ NSW (NSW Operator) เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพ การให้บริการและอ�ำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการได้มากข้ึน ส�ำหรับการพัฒนาระบบ Asean Single Window (ASW) ประเทศไทยมีความพร้อมในการเชื่อมโยงข้อมูลใบขนสินค้าของอาเซียน (ASEAN Customs Declaration Document (ACDD) และมีการพัฒนาด้านระบบข้อมูลดิจิทัลเพ่ือรวบรวม ข้อมูลการขนส่งสินค้าและการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ นอกจากนี้ ภาครัฐได้ให้ความส�ำคัญในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายคมนาคมอย่างต่อเน่ืองท้ังทางบก ทางราง ทางน�้ำ และทางอากาศ 302
โครงสร้างพื้ นฐาน 07ระบบโลจสิ ติกส์ และดจิ ทิ ัล 070102 ประเด็นท้าทายท่ีส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือโควิด-19 ท�ำให้ผู้ประกอบการประสบปัญหาในการบริหารจัดการโซ่อุปทานส่งผลกระทบในการน�ำเข้า-ส่งออกสินค้า โดยจ�ำเป็นต้องพัฒนาการอ�ำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นและการด�ำเนินงานของหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ยังมีข้อจ�ำกัดในการจัดท�ำแผนงาน/โครงการเพ่ือขอรับการจัดสรรงบประมาณในลักษณะการบูรณาการ ของการเช่ือมโยงข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มีประสิทธิภาพสูงข้ึน รวมท้ังปรับปรุงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ เพ่ือสนับสนุนการปรับลดข้ันตอนการด�ำเนินงานการน�ำเข้า – ส่งออก ตลอดจนการสร้างความร่วมมือระหว่าง ภ า ค รั ฐ แ ล ะ ภ า ค เ อ ก ช น ใ น ก า ร ส นั บ ส นุ น ก า ร พั ฒ น า แ ล ะ ก า ร ส ร ้ า ง ก า ร รั บ รู ้ เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร พั ฒ น า ด้านโลจิสติกส์ของประเทศ ข้อเสนอแนะเพ่ือการบรรลุเป้าหมาย การด�ำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ภาครัฐต้องเร่งสนับสนุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอ�ำนวยความสะดวก โดยเร่งรัดการพัฒนาระบบ National Single Window เพ่ืออ�ำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงข้อมูลรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของการน�ำเข้า - ส่งออก และโลจิสติกส์ได้ตลอดกระบวนการ พัฒนาระบบ Port Community System (PCS) และแพลตฟอร์ม การค้าดิจิทัลระหว่างประเทศ (National Digital Trade Platform : NDTP) พร้อมทั้งปรับปรุงกฎหมาย แ ล ะ ร ะ เ บี ย บ ที่ เ กี่ ย ว ข ้ อ ง ใ ห ้ ส อ ด ค ล ้ อ ง ต า ม ค ว า ม ต ก ล ง ด ้ า น ก า ร อ� ำ น ว ย ค ว า ม ส ะ ด ว ก ท า ง ก า ร ค ้ า (Trade Facilitation Agreement : TFA) และมาตรฐานทางการค้าขององค์การการค้าโลก (WTO) รวมท้ังเร่งสร้างความน่าเชื่อถือต่อระบบโลจิสติกส์ประเทศไทย โดยการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลาง แ ล ะ ตั ว ชี้ วั ด ที่ ส า ม า ร ถ ติ ด ต า ม ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ท่ี ส ะ ท ้ อ น ผ ล ก า ร พั ฒ น า ร ะ บ บ โ ล จิ ส ติ ก ส ์ ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ และใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการด�ำเนินงานในระยะต่อไป พร้อมเผยแพร่สร้างการรับรู้ผลการพัฒนา ที่ส�ำคัญอย่างต่อเน่ือง 303
โครงสร้างพ้ื นฐาน 07ระบบโลจสิ ติกส์ และดิจทิ ลั 070103 จ.3 แผนแมบ่ ทยอ่ ย โครงสรา้ งพื้นฐานดา้ นคมนาคมและระบบโลจิสตกิ ส์ เปา้ หมายระดับแผนแมบ่ ทย่อย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 การขนส่งสินค้าทางรางเพิ่ มข้ึน คา่ เป้าหมายท่ตี อ้ งบรรลุภายในปี 2565 สดั ส่วนปริมาณการขนส่งสนิ ค้าทางรางตอ่ ปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งหมด เพิ่มขึน้ เปน็ รอ้ ยละ 4 การเพ่ิมสัดส่วนปริมาณการขนส่งสินค้าทางรางจะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งของประเทศ เพ่ิมประสิทธิภาพ การใช้พลังงานในภาคขนส่งและลดมลพิษทางอากาศ ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศในภาพรวมและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างย่ังยืน อย่างไรก็ตาม การพัฒนา ในช่วงที่ผ่านมามีความล่าช้ากว่าเป้าหมายท่ีก�ำหนดไว้ทั้งในส่วนของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและ ส่ิงอ�ำนวยความสะดวกรองรับการขนส่งต่อเน่ืองหลายรูปแบบ (Multi-modal Transport) และความพร้อม ของจ�ำนวนรถจักรและล้อเลื่อนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงระบบบริหาร จัดการด้านโลจิสติกส์และสภาพแวดล้อมท่ีสนับสนุนการพัฒนาประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ในภาพรวม ท�ำให้ยังไม่สามารถจูงใจให้ผู้ประกอบการเปล่ียนรูปแบบการขนส่งสินค้าจากถนนสู่งระบบรางได้ตามเป้าหมาย ที่ก�ำหนดไว้ สถานการณ์การบรรลุเป้าหมาย ในปี 2563 มีปริมาณการขนส่งสินค้าทางรางเพิ่มขึ้นจาก 10.44 ล้านตันต่อปี ในปี 2562 เป็น 11.01 ล้านตันต่อปี แต่เม่ือพิจารณาสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรางต่อปริมาณการขนส่งสินค้า ภายในประเทศพบว่า ในปี 2563 มีสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรางลดลงจากร้อยละ 1.66 เป็นร้อยละ 1.40 ซึ่งยังต�่ำกว่าค่าเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้ที่ร้อยละ 4 ในปี 2565 ค่อนข้างมาก แสดงให้เห็นว่าปริมาณการขนส่งสินค้า ทางรางที่เพ่ิมข้ึนเป็นการเพ่ิมข้ึนตามแนวโน้มของปริมาณการขนส่งสินค้าภายในประเทศ ในขณะท่ียังไม่สามารถ แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากการขนส่งสินค้าในรูปแบบอื่น ๆ ได้ ซ่ึงเป็นผลจากความล่าช้าในก่อสร้างโครงการ รถไฟทางคู่ ระยะท่ี 1 จ�ำนวน 5 เส้นทาง และเส้นทางรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง การสรรหาเอกชนเพ่ือเข้า ด�ำเนินการในสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง และศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (SRTO) ท่ีท่าเรือแหลมฉบัง ซ่ึงเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟของประเทศ ท้ังนี้ ปัจจุบัน รฟท. และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้จ้างเหมาผู้ประกอบการเอกชนให้บริการเคลื่อนย้ายตู้สินค้า การบริหาร จัดการตู้สินค้า รวมถึงกิจกรรมอื่นท่ีเก่ียวข้องเพ่ือรองรับการให้บริการขนส่งสินค้าแล้ว และ รฟท. อยู่ระหว่าง การเสนอแผนการจัดหารถจักร และล้อเล่ือนตามข้ันตอน 304
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจสิ ติกส์ และดิจทิ ัล 070103 32 การดาํ เนนิ งานท่ผี า นมา ก า ร ด� ำ เ นิ น3343ง า นภโคทาร่ีคผงสร่ัรฐาาไนงดพใม้นืหฐาคาวนาแมภลสะาําสคคิ่งอัญรําักฐนับวไยกดคา้วรใาลหมงส้ทคะุนดวพวากัฒมเพน่ือา ส�ำคัญกับก3า5รลงรทอุนงรพับักฒารนเปาลโ่ียคนรแงปสลงรรู้ปาแงบพบื้นกาฐราขนสแงลสินะคา ส่ิงอ�ำนวยคว36ามสทะาดงวรากงเพโดื่อยรปอจจงุบรันับไกดเาปรดเใปหลบี่รยิกนาแรเปสนลทงาง 3รเปูปิดเแสใบห้นบ้บทกราิกางรา3433ร9870ขไดเนส้แส้นกชรถช่งทถนวว่ สงไงนามฟชชิจนงาุทม่ิรวรบคทาะงกถง–า้าะชคไขงเูทรฟฉุอบมะะนาาททยเ–แชงะชากาิงทรุมงนงเ่ีททาคฉ1แารงู่รลงะาจถะะ–ําเนโอคชนยนดยลวิะงูรจอนยเทะิรงทะหป3ส่ี วิบรแ1ัเจาสเลางกจนะก–จาชุทาบ–ค�ำวราแันนงกลงกชอวไองมุไสดคดนทงรแอาา้ กยงง สิ บ เ ก ้ า – แ4ก1่ ง ครอถยไฟทาชง่ควูแงลมะทาาบงคกูสาะยเใบหมาร–วมชุ7มเทสนาทงาง ถนนจิระ แ4ล2ะช่วคงาชดุมวทาจาะงกถอนสนราจงิรแะล–วขเสอร็นจแแลกะ่นทยแอยลเะปด สอแาลยยูะ่รใทะหยหมอ่รววย่ามเ4444งป6543ก7ิดาเใรสหจคดใก้หนังําว้บบห่เาอทนรวมรินาสิกัดคิกกางรรเราปาอใ้รคาบนนรดางปคังใ5ดรกลน42ลุมวถ5ปาจพ่า6ไวัง้ืีนจ5จฟหทะะ2วเทป่ีทใัดก5หนําา่อนบ6ใตหงอสนร5โกิคกไรคปจาู้ร่าแารเงงกเปขซลพแนา่ึง็ิ่มนะ้ีภยลหขทาทต้วนึ้นยาเว้าหนจงสยราลงไรงถกังคาปไ็จกนฟ4ูา่ ทม7รี่ี ซ่ึ ง ภ า ย ห ล4ั ง7ก า รเกดี่ย� ำวขเอนงิไนดกมีกาารพดัฒั งนการละ่ บาบวสจ่ิงอะําทน�วำยใคหวา้ ม นโใหคอ้บกรรจงิกขาาก่ รานเยพี้ 4545ท่ิม9180หขานึ้นง่วรจกดสพยาะูแฒัาถรดลงกนขวไกานากิจฟจนส4เกุดพง าม7ทจส่ือรอีินรี่รคเดอจคะกพงวาบังี่รยเักบหชาับรวขียกถวมนงขาบัดขสรคร้ออขงรงทรนเทงปาสจุกอไงังงข็นดรตหบอาอว้งมงัดเกค5นีแกเร4ช่ือลมลาียงทะุ มหงรจสารลงถพังพาหาายหยั้ืลฒบนรแววันปู งลนทัดวแะิจป่ีาบศัยรบูรนแะยะลก(กMอะบาพบuรบักฒlขtับiนนส-ขmสาิ่งณเงoทอชะdคา�นำaยโ้ีไlนนแทดโดTีม่มลวrนาีกยa:ยาnีรกจรคะsรังจpมบหวัดกoบวตาาrัดรtร้ัง)มานขกงนคอรสสมรเาง่พะพทกทือ่นิาดากขรงมราวัขบารนขเกงพคอสกัเฒลงงรพ่ืกอทะนรนทา่ืาอมรงกศวรกรานูงาารคอยงรพมเเขงพปนัฒนา่ือรลนสคทัยี่บามงนําอทกหถุตานาางสยาบารรทหกูปขก่ีกแํานกรบกราัสบบมร ่ง ต่อเน่ืองหล5า2ยรูปรแะบบบบราง(ขMอuงปlรtะi-เทmศoซd่ึงaจะlเปTนrปaจnจsัยpสนoับrสtน)ุนอใหาเกทิดิ กการาพรัฒพนัฒาปนรัาบศปรูนุงรยะ์เเปบียลบ่ียแนละถก่าฎยหมราูปยแที่เบก่ียบวกขอางรในขกนาสร ่ง สินค้าเชียงข5อ3ง จยังกหระวดัดบั เมชาตียรงฐรานากยารใแหลบ ระิกศารูนขยนส์กงาทรางขรานงสแ่งละชสางยเสแริมดใหนเ กดิจกังาหรใวชัดป รนะคโยรชนพจนากมกาขรพอฒั งนการโคมรงกสารารงขพน้นื ฐสา่นงททาางรงาบงก การพัฒนาจ5ุ4ดจอทด่ีรัฐพไดักลรงทถุนบแลรว รใหทเกุกิดขปรอะโงยกชนรส มูงสทดุ างหลวง ประกอบกับขณะนี้ได้มีการจัดตั้งกรมการขนส่ง ทางรางเพื่อ55ท�ำหปนระ้าเดทน็ ี่กทา�ำทกาัยบทดีส่ งูแผลลตกอิจกากราบรรรรละเุ ปบาหบมขายนส่งทางราง และสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ระบบราง เ5พ6่ือขับต้ังเแคตแลผื่อนนพัฒกนาารฯพฉัฒบับนทา่ี 1อ0ุตภสาาคหรัฐกไดรใหรคมวรามะสบําคบัญรกาับงกขารอเพง่ิมปสรัดสะวเนทลศงทุนพซัฒึ่งนจา/ะปเรปับ็ปนรปุงโัคจรจงัสยรสางนพับื้นฐสานนแุนลใะห้ เ กิ ด ก า ร พั ฒ5น7า ป รสั บ่ิงอปํานรวุ งยรคะวาเมบสี ยะดบวแกเลพะื่อรกอฎงรหับมกาารยเปทลี่่ียเ กน่ีแยปวลขงร้ อูปงแใบนบกกาารขรนยสกงสรินะคดาั บทามงราาตงอรยฐาางตนอกเนาื่อรง ใ หโด้ บยปรจิ กจุาบันร ขรฟนทส. ่ ง ทางราง แล5ะ8ส่งเไสดดรําิมเนใินหก้เากรกิดอกสารารงใรชถไ้ปฟทราะงโคยูแลชวนเส์จร็จาจกํากนวานร3พัเฒสนนทาางโคแตรกง็ยสังรไม้าสงาพมาื้นรถฐการนะตทุนาใหงเรกิาดกงาทรี่ขรนัฐสไงดส้ินลคงาททุานงแราลง้ว ให้เกิดประโย6509ชน์สแเูงพลส่มิ ะุดขร้นึะเไบดียเทบาทท่ีเ่ีคกวี่ยรวขซอง่ึ สงวทนําใใหหญไมเปสนามผลารจถาใกชกปารระทโี่ ยรฟชนทจ. าขกาเดสคนวทามางพรรถอไมฟทท้ังาใงนคสูแวลนะบลุคาลนากกอรงเรกถ็บจตักูสรินแคละาล(อCเYล)่ือทน่ีไดกกฎอหสมราา ยง 61 แลวเสรจ็ อีกทั้งยังประสบปญหาความลาชาในการกอสรางรถไฟทางคู ระยะท่ี 1 ท่ีเหลืออีกจํานวน 5 เสนทางและรถไฟ 62 สายใหม จํานวน 2 เสนทาง ทําให รฟท. ยังไมสามารถควบคุมและรักษาระดับการใหบริการการขนสงสินคาไดอยางมี 63 ประสทิ ธิภาพโดยเฉพาะในมิติทางดานเวลา สง ผลใหผ ูประกอบการขนสงสว นใหญยังคงพง่ึ พาขนสงทางถนนเปนหลกั 64 305
โครงสร้างพ้ื นฐาน 07ระบบโลจิสตกิ ส์ และดิจทิ ลั 070103 ประเด็นท้าทายที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย ต้ังแต่แผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 10 ภาครัฐได้ให้ความส�ำคัญ กับการเพ่ิมสัดส่วนลงทุนพัฒนา/ปรับปรุงโครงสร้างพ้ืนฐานและสิ่งอ�ำนวยความสะดวกเพ่ือรองรับ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขนส่งสินค้าทางรางอย่างต่อเน่ือง โดยปัจจุบัน รฟท. ได้ด�ำเนินการก่อสร้าง รถไฟทางคู่แล้วเสร็จจ�ำนวน 3 เส้นทาง แต่ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นให้เกิดการขนส่งสินค้าทางรางเพิ่มข้ึน ได้เท่าท่ีควร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการที่ รฟท. ขาดความพร้อมท้ังในส่วนบุคลากร รถจักรและ ล้อเล่ือน กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ท�ำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเส้นทางรถไฟทางคู่และลานกอง เก็บตู้สินค้า (CY) ที่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ อีกท้ังยังประสบปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะท่ี 1 ท่ีเหลืออีกจ�ำนวน 5 เส้นทาง และรถไฟสายใหม่ จ�ำนวน 2 เส้นทาง ท�ำให้ รฟท. ยังไม่สามารถ ควบคุมและรักษาระดับการให้บริการการขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในมิติ ทางด้านเวลา ส่งผลให้ผู้ประกอบการขนส่งส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาขนส่งทางถนนเป็นหลัก ข้อเสนอแนะเพ่ือการบรรลุเป้าหมาย ภาครัฐควรเร่งก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 และสายใหม่ให้แล้วเสร็จ ตามเป้าหมาย จัดหารถจักรและล้อเล่ือน รวมถึงการฟื้นฟูกิจการของ รฟท. โดยเฉพาะในประเด็นความพร้อม ของบุคลากรเพ่ือให้สามารถจัดท�ำแผนกลยุทธ์ด้านตลาดเชิงรุกให้สามารถแข่งขันได้กับการขนส่งรูปแบบอ่ืน ๆ รวมถึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทางคู่และสิ่งอ�ำนวย ความสะดวก อาทิ ลานกองเก็บตู้สินค้า (CY) จุดพักรถบรรทุก เพ่ือให้เกิดการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้า ต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multi-modal Transport) อย่างเป็นระบบ ควบคู่กับการเร่งพัฒนาปรับปรุงกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนในการให้บริการในกิจการขนส่งทางราง การก�ำหนดระดับการให้บริการและอัตราค่าบริการที่สามารถแข่งขันกับการขนส่งรูปแบบอื่น ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรางต่อปริมาณการขนส่งสินค้าภายในประเทศตามเป้าหมาย ท่ีก�ำหนดไว้ 306
โครงสร้างพื้ นฐาน 07ระบบโลจิสตกิ ส์ และดิจทิ ลั 070104 จ.3 แผนแมบ่ ทยอ่ ย โครงสร้างพ้ื นฐานด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ เป้าหมายระดับแผนแม่บทย่อย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในเขตเมืองเพ่ิ มขึ้น ค่าเป้าหมายทตี่ อ้ งบรรลภุ ายในปี 2565 สัดสว่ นการเดินทางดว้ ยระบบขนสง่ สาธารณะในเขตกรงุ เทพฯ และปรมิ ณฑล ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 30 และไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 5 ในเมอื งหลักในภูมภิ าค การเพิ่มสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึง เมืองหลักในภูมิภาคจะช่วยบรรเทาปัญหาจราจรติดขัด เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคขนส่ง และลดมลพิษทางอากาศในเขตเมืองที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นตามระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของเมือง อย่างไรก็ดี การส่งเสริมให้ประชาชนหันมาเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น จ�ำเป็นต้องให้ความส�ำคัญ กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอ�ำนวยความสะดวกท่ีสามารถรองรับการเดินทางเช่ือมต่อต้ังแต่ จุดเริ่มต้นไปยังจุดส้ินสุดของการเดินทางให้มีมาตรฐาน ระดับการให้บริการ และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ท่ีสามารถแข่งขันได้กับการเดินทางด้วยระบบขนส่งส่วนบุคคล นอกจากนี้ ยังจ�ำเป็นต้องมีการก�ำหนดมาตรการ ระเบียบและกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของเมืองให้เหมาะสมกับการเดินทางด้วยระบบขนส่ง สาธารณะอีกด้วย 307
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจสิ ตกิ ส์ และดิจิทัล 0701043 สถานการณ์การบรรลุเป้าหมาย ปี 2564 มีสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ร้อยละ 15.62 ลดลงจากร้อยละ 19.42 ในปี 2563 ซ่ึงส่วนหนึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ท่ีท�ำให้ประชาชนท่ียังจ�ำเป็นต้องเดินทางหันมาเดินทางด้วยระบบขนส่ง ส่วนบุคคล (รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะส่วนบุคคล) เพ่ิมขึ้น อย่างไรก็ดี การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ท่ีลดลงส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของปริมาณการเดินทางด้วยระบบรถโดยสารและรถตู้สาธารณะ ในขณะที่การเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 13.38 เป็นร้อยละ 16.78 ของการเดินทาง ด้วยระบบขนส่งสาธารณะในภาพรวม เน่ืองจากการปฏิรูประบบรถโดยสารประจ�ำทางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลไม่เป็นตามแผน ท�ำให้ปัญหาของรถโดยสารที่มีสภาพทรุดโทรมจากการอายุการใช้งานมานาน และเส้นทางเดินรถท่ีมีความซ้�ำซ้อนและไม่สามารถรองรับการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้า และระบบ เรือโดยสาร ซึ่งเป็นโครงข่ายหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะท่ีปัจจุบันภาคเอกชนได้มีการน�ำเอาเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ในการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะส่วนบุคคล ท�ำให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทาง ท่ีสามารถตอบสนองต่อความต้องการและความสามารถในการจ่ายของแต่ละบุคคล ส่งผลให้ประชาชน หันมาเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะส่วนบุคคลมากขึ้น ส�ำหรับสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่ง สาธารณะในเมืองหลักในภูมิภาค ปัจจุบันยังไม่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวอย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ดี หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทั้งจากส่วนกลางและท้องถิ่นได้ให้ความส�ำคัญกับการพัฒนา/ปรับปรุงระบบขนส่ง สาธารณะ แต่ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นการศึกษาความเหมาะสม ท�ำให้เป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนการเดินทาง ด้วยระบบขนส่งสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเมืองหลักในภูมิภาคยังคงมีความท้าทายสูง 33 การดําเนนิ งานที่ผา นมา การด� ำเนินงานที่ผ่าน34มาที่ผาทนี่ผมา่ภาานครมัฐไาดภใหคาวคามรสัฐําคไัญดกับ้ การ ให้ความส�ำคั ญแลกะับสกิ่งาอรพ�ำ333ันฒ675 วนยาพคแครลวัฒาะะนวมสาบเ่ิางรหอะบมมําบานขสบะวขนสะยนมคสดสกวง่ับงวาสขสมากนสธาาาตะธรดดณ่เาาวศะกรงรใตษณนาฐเงขๆะกติจๆเแมทลือี่มะงี ใ น เ ข ต เ มื อ ง ท่ี มี ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม กั บ3ข8 น าสดัง คเ ศมขรอษงเมฐื อกงิ จแ ตแ กลา ระพสั ฒั งนคา ดมั งก ล า ว ข อ ง เ มื อ ง แต่ การ พั กฒ434ร190นุ งาเ ดทยใแนัลงั งสคพะวงปกกนฯรรลขมิ ะอณ่จางฑุกกแวลตารลัวยแกอลัะอยงะสูเมคปฉรคีพางรวงาาแิะกมมลใกนระณาเเะขปวตหดฑจกนใหุรากลุงบเฉเรทพิกพาาฯะร ตั ว อ ยู ่ เ ฉ พ าะใ นเข ต แ ลละะมเปีคิดวใาหม้กบ้ารวิกหานรร้าถเฉไฟพ444324ฟาะ้าใรคเนปถร1นอสไ0บฟ4่วคฟ6ลนเ4ามุ สขพก1้้ืมนนอ0ท.ทงแีใ่เหสกลาบนะางรกทิกราาารกเรงพพจ่อัฒาเื่พอกนสื่อ1าเรเร9พพะ้3าิ่ิ่บม.มง7บค2แวกอามบม. แ ความครอบคลุมพ้ืนท่ีใ4ห5้บริพกลาิเครชจั่นเาพกอื่ รอง1รบั9ก3าร.เ7ดิน2ทากงดมวย.ระบบ เ ป็น 464 กม ร. เแดลินะทกาาง444รด768พ้วัฒยเกขสรนานนระาสทจบงรัดาสหงะบาเาดบธขรินาถบนรรโถดณแสโยะดอส่งยาใปสสรนาใาพขหรณปธมลรเาะพิเะทร่ืคอจี่กํทาณชทาดรั่นาะแปงทฏแนิรลรูปถะ เ พ่ือร องรับกา ใ น ข ณ ะ ที่ ก า ร ป ฏิ รู ป4เ9ส ้ นโทดยาสางรเเดดิมิทน่ีมีรสภถาพโทดรุดยโทสราม รรวมถึง รปถระโดจ�ำยทสาางรแเลดะิมกทาี่รมจีสัดภห555าา012พรถทโโสกรดคาารุธดรยงาพสสโรัรฒณทาานงะรอราใัตในรมรหะเาขบคมตบา รก่เโบดพรวัุตยง่ือเสมรทาโทพรดถรฯยดึวงสมแแกามลรทีคาะรวปนวรารมมพิมลแณาลัฒชะฑา ลกนวในาาเภปราา ะพหมรบวายมบทมกี่ีแบาํนัหตวนโรดนไมโวลดค ดอยลนงขสอา งยามารางกตรอท่วเาํนใม่ือหงปแรสิมลําาหณะรกโับาคกราเรดรินพงทัฒสานงรใาน้ราระะงบบบอบขขัตนนสสรงงา ค่าโดยสารร่วมมีความ5ล3่าช้าสากธาวรณ่าะเใปนเ้ามือหงหมลาักใยนทภมู ี่กภิ �าำคหอานทดิ จังไหวว้ัดคภ่อูเก็ตนจขังห้าวงัดเมชยีางกใหมทจัง�ำหวใัดหขอ้ปนแรกิมนาจณังหวกัดนาครรเราดชินสีมทา จาังงหใวัดนพริษะณุโบลกบ ขกานรสพ่งัฒสนาธาราะรบณบะขในนสเข่งสต555465ากธราุง2พจรเ5ังัฒณห7ทน1วพาัดะเรปสใะฯนงบนขตบลนเขามไแนปแือสลลงะงะสจหาัปงธหาลรวรัักดณิมอะใุดณในนรธพภฑา้ืนนูมทลี สี่ิภคใวานานดใควหภาญจอาอะาพยสูใาทนมรขิาวจร้ันถมกังเารหมร่ิมศวกีแึกอัดษสนภารคาวูเวงกโไาดมน็ตตเหง้ั้มแจมตาัลงะปหสด 2มว5ลข6ัดอง7งเโอแชคลรียยะงสกง่าาาใมรงหนาตรํามถร่อเอ่ ปจงเดภังนใาหหยื่อบใวตรงิกัแดาผขรนไสแอดม�ภำนบาหยทแใกกรนาปัรบ่น จังหวัด นครราชสีมา งจโั55งค87หรวงัดกปในพราชะิวษเรดง็นทนณท่ีผ� ำาุาโทนลรามก่ยอาทปง่สีรจงะภผัชงลาาหตชยอนวกใใัดนาตรเสขบ้ตแรงกรขผลรุงุเลปนเทาาแพหมฯมแาแยล่บละะทปจรกัิมงณหาฑรวลัพดไัอดฒมุดีกนารราธปรารับนะพีบฤสตบิก่วรขรนมนใกหาสรญด่งําสร่องชายีวธู่ิใตจนาารขกกณ้ันารกะอาาใศรนัยศอพยึกูตื้นษามทา่ี ความเ หมาะสมขอ ซ่ึงคาดว่าจะสามารถเร่ิม5ก9่อสแรน้าวงราไบดเป้ตนั้งแแนตวด่ปิ่งเีพ2่ิมข5้ึน6โด7ยเแฉพลาะะบสราิเวมณาตรามถแเนปวเิดสนใทหา้บงรรถไิกฟาฟราจไําดน้ภวนา1ย0ใเนสนปที า2งต5า7มน1โยเบปาย็นรัฐตบ้นาลไปซึ่งเปน 60 ปจจัยสนับสนุนที่จะทําใหมีปริมาณการเดินทางในระบบรถไฟฟาเพ่ิมมากข้ึนอยางตอเนื่อง แตการดําเนินการดังกลาว 61 จําเปน ตองอาศัยระยะเวลาคอนขางนานจึงจะทําใหมปี ริมาณเดินทางใกลเ คียงกับขีดความสามารถของระบบรถไฟฟาท่ี 308 62 ภาครัฐไดลงทุนไปแลว ในขณะท่ีปจจุบันประชาชนในเขตเมืองโดยเฉพาะในสวนภูมิภาคนิยมเดินดว ยรถจักรยานยนตท่ี
โครงสร้างพื้ นฐาน 07ระบบโลจิสตกิ ส์ และดิจิทัล 070104 ประเด็นท้าทายที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย ในช่วงท่ีผ่านมา ประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้มีการปรับพฤติกรรมการด�ำรงชีวิตจากการอาศัยอยู่ตามแนวราบเป็นแนวด่ิงเพ่ิมข้ึนโดยเฉพาะบริเวณ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าจ�ำนวน 10 เส้นทาง ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนที่จะท�ำให้ มีปริมาณการเดินทางในระบบรถไฟฟ้าเพ่ิมมากขึ้นอย่างต่อเน่ือง แต่การด�ำเนินการดังกล่าวจ�ำเป็น ต้องอาศัยระยะเวลาค่อนข้างนานจึงจะท�ำให้มีปริมาณเดินทางใกล้เคียงกับขีดความสามารถของระบบ รถไฟฟ้าที่ภาครัฐได้ลงทุนไปแล้ว ในขณะที่ปัจจุบันประชาชนในเขตเมืองโดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค นิยมเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ท่ีสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและมีค่าใช้จ่ายท่ีค่อนข้างต�่ำ ดังน้ัน การจูงใจประชาชนหันมาเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มข้ึนตามเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้ นอกจาก จ�ำเป็นต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและส่ิงอ�ำนวยความสะดวกต่าง ๆ แล้ว ยังจ�ำเป็นต้องพิจารณา ถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมในแต่ละพื้นที่ท้ังในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงการพิจารณาก�ำหนดมาตรการ ระเบียบและกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง ข้อเสนอแนะเพ่ือการบรรลุเป้าหมาย ภาครัฐควรเร่งพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะทางรางและส่ิงอ�ำนวย ความสะดวกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบรถโดยสารประจ�ำทางตามแผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถ เพ่ือลดความทับซ้อน ข อ ง เ ส ้ น ท า ง เ ดิ น ร ถ แ ล ะ ป รั บ บ ท บ า ท ข อ ง ร ถ โ ด ย ส า ร ป ร ะ จ� ำ ท า ง ใ ห ้ เ ป ็ น ร ะ บ บ ข น ส ่ ง ม ว ล ช น ข น า ด ร อ ง (Feeder System) เพื่อท�ำหน้าท่ีป้อนผู้โดยสารเข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะทางรางท่ีเป็นระบบหลัก การจัดหารถโดยสารใหม่ทดแทนรถโดยสารเดิมที่มีสภาพทรุดโทรมจากการใช้งานมานาน ตลอดจน การพัฒนาระบบบริหารจัดการบัตรโดยสารและอัตราค่าโดยสารร่วมในระบบขนส่งสาธารณะ เพื่ออ�ำนวย ความสะดวกในการเดินทางเช่ือมต่อระหว่างระบบขนส่งสาธารณะประเภทต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ การพัฒนาแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะทุกรูปแบบ รวมถึงการด�ำเนินมาตรการส่งเสริมให้เกิดการบริหารจัดการความต้องการเดินทาง (Transport Demand Management) ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ถนนในเขตชุมชน (Road Pricing) การบังคับใช้กฎหมายที่เก่ียวกับการจราจรอย่างจริงจัง ซ่ึงจะช่วยให้ประชาชนหันมาเดินทางด้วยระบบ ขนส่งสาธารณะมากย่ิงขึ้น ส�ำหรับในเมืองหลักในภูมิภาค หน่วยงานรับผิดชอบควรให้ความส�ำคัญ กับการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นและประชาชในพื้นท่ีมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ เพ่ือสร้าง การยอมรับของประชาชนในพื้นท่ีซึ่งจะช่วยให้การพัฒนาเป็นไปตามแผนการด�ำเนินงานและเป้าหมาย ท่ีก�ำหนดไว้ รวมทั้งปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะท่ีมีอยู่ในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพ รองรับความต้องการ เดินทางของประชาชนในช่วงระหว่างการพัฒนาโครงการน�ำร่องดังกล่าวไปพร้อมกันด้วย 309
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจิสตกิ ส์ และดิจทิ ลั 070105 จ.3 แผนแมบ่ ทยอ่ ย โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและระบบโลจสิ ติกส์ 070105 070105 070105 ป 62 สีแดง เป้าหมายระดบั แผนแม่บทยอ่ ย ป 63 สีแดง ป 64 สีแดง ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ผู้เสียช12ีวิตแแจผผนนาแแกมมบบ อททยฯุบอปยัตระ(0เิเด7ห)น็ โตคโครรงุทงสสรารา างงพงพ้ืนถน้ื ฐฐานานนดนารนะลคบมบดนโลาลคจิสมงตแลกิ สะร แะลบะบดโิจลิทจสิัลติกส จ.3 : คา่ เปา้ หมา3ยทเต่ี ปา้อหงมบายรรระดลับภุ แผานยแใมนบปทีย2อ ย56(0570105) ผเู สียชีวติ จากอบุ ัตเิ หตทุ างถนนลดลง 4 คาเปาหมายที่ตองบรรลุในป พ.ศ. 2565 อัตราผูเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนใหเปน 12 คนตอประชากร 1 อตั 5ราผแเู้ สสนียคชนีวิตจากอุบตั ิเหตทุ างถนนใหเ้ ป็น 12 คนต่อประชากร 1 แสนคน 6 เปาหมายการลดอัตราผูเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศ ถือเปนวาระแหงชาติของทุกประเทศรวมถึง 7 ประเทศไทย ซ่ึงการขับเคล่ือนความปลอดภัยทางถนนและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนจะตองให เป8้าหมคาวยากมาสรําคลัญดกอับัตปรจาจผัยู้ตเสาีงยๆชีไวดิตแจกา กกาอรุเบพัต่ิมิเคหวาตมุทราู ทงักถษนะนแขละอปงรปะรสะบเกทารศณขถอืองเคปน็นอวงาครกะรแแลหะ่หงชนาวยตงิ าน ความ ของทุกประ9เทศรพวรมอถมึงขปอรงะถเนทนศแไลทะยมาซต่ึงรกฐารนขขับอเงคยลานื่อพนาคหวนาะมปกลารอสดงภเสัยรทิมาแงลถะนปนลแูกลฝะงใลหดผคูใชวารถมใสชูญถนเสนียมจีวาินกัยอใุบนกัตาิเหรขตับุ ขี่ รวมทั้ง ทางถนนจ1ะ0ต้องใสหภ้คาวพาแมวสด�ำลคอ ัมญทก่ีชับวปยัลจดจผัยูเตส่าียงชีวๆิตจไาดก้แอกุบ่ ัตกเิ าหรตเุทพาิ่มงคถวนานมในรู้ภทาพักษรวะมแลตะลอปดรจะนสกบากราบรังณคบั์ขใอชงกคฎนหมอางยคเพ์ก่ือรเสริมสราง และหน่วย1ง1าน ความปพลรอ้อดมภขัยอในงกถานรนเดแินลทะามงาตรฐานของยานพาหนะ การส่งเสริมและปลูกฝังให้ผู้ใช้รถใช้ถนน มกาีวรินบัยังใคนับก1ใชา2ร้กขฎับหสขมถ่ีาารยนวเกพมาื่อรทณเั้งสกสราิมภรสบารรพร้าแลงเุวคปดวาาลหม้มอปามยลทอ่ีชด่วภยัยลในดกผาู้เรสเีดยินชีทวิตางจากอุบัติเหตุทางถนนในภาพรวม ตลอดจน 13 ใน ป 25 63 ป ร ะเ ทศไทยมี อัต ร า อตั ราผ้เู สียชีวติ จากอุบตั เิ หตทุ างถนน สถานกา1ร4ณ์กาผรูเสบยี รชรีวลิตุจเปาก้าอหุบมัติเาหยตุทใานงถปนี น22576.307 ป ร ะ เ ท ศ1ไ5ท ย มคี อนั ตตรอาปผระู ้ เชสาี ยกรชี ว1ิ ตแจสานกคนอุ บลัดตลิ เงหจตากุ ทางถนน1627.0370.5ค3นคตน่อตปอรปะระชชาากกรร 1 แแสสนนคนคนใน ลดลงจาก1730.5ป3 2ค5น62ต่อแปลระะจชาากกขรอม1ูล แณสนเดคือนน ในปี 256128 แลธะันจวาาคกมข้อ25ม6ูล4 ณมีอัตเดราือผนูเสธียันชวีวาิตคจมาก 2ทพจถ2ทเภเกปึา55่ีงาบกาิด้ากยแ6�งำวจหคอใถ่ห4นาานมุบนนกนวาปผมัตตผโนดยู้เีีินอู้เขส่22212222222ไอทท2หััวบีต87543926091ย้มปี่ี่5กลต้ทชขร6�ำขรดุขี่ีวมี่าห5ะอลิอต1ผีมนทลอจแแกท(อ1ชงสงงIู2ีรจ้เDลํุตัาบสาดาาดาอรแแ่สะวึงกยงะCหรนัตลกัถสนตดคีเถตยาอผอCทเินปงนรจันผบหในรูเภยุช่บ)ยแั้งสดห็คันูกเนาตแาีาัตวันสตยีงข1ไนงญคสรุยทอตผิิีเยตวช้ีคมอยวหยใวูาล่่แชก้ทอเวีัเางจงแนงนงมาาตกิตสสีวกกวี่คปสาถปใสมน่ืุอทิต1กดอรีใ่าหยงกูนรงนนทะจ2พวยางรฮสญ2ชะนกอกใทาาง้อ้คนอาิูจง5หีเชครถวากุวบรยทกกล2า6นตอเริอนนวาต่ัหดิาลต5ร์ว5เาลย์งอุบกนกจจ็ณคนะิายดสลเแตคัตยรจินใาหคาถออาะ่าหอาสนเิึูกง่7ใกธึงกาัหตตยขเเป1เน6ตผดแา0วเปปรปตุอ่าท้0อูอขปรรนชง่าานุทนงุ้แณบับมปะาเาผวาปใ่จวมกคาไชสหูัหโขงลรหูเสาตรงปงิานสดวะ่ีมถกานสุิขมถิม้อมเเตกีายมจชกอีมหนนหถคาาามชาาใขพาาุบรีรณิน็ยตนยนนมนทตีวยกกอบะัติททุจิตเ1ุกรางทอดวิเป1่ีาี่หาับุี่บากาก5รตแฎัตหผรล-ุขอิหเเูท1มะดอหสลท่ีมมา9บงียอกตม่ีายารบาชัอตุจท::ถยปีวฮขIราInจ่ีกกnิีตอ้กาjอักujํ�าำซสuลผrรมรหหyrวึ่งเูถ้yยเูลกDนนนสสาจaDินดใดีายนtัก3aหaกเชยtรทญCวหaกีนวฐoยา้ังกาตClิตตาปาlนรaวoุกนอนจbรี้ขาloเยาิมlายรaับมrูรใ(าaกอbน่ืIนอรtณเDoiยอoตถกพชrลnุCทบa์เิวดิจะรtCกี่Cแัตงiาอe็oวอฎล)ิ7เรnุnเบหาtห0ะณกeขยัตCตมrผินาเอุe(ิเุกูาท้1เIกขDnหงสยิด5Cาอ�tำกียกตeCจ-งหมร1)rําชุาทถูนละ9ห(กีวIนาDสทดนอิตปงCนถรุบดกถCิแตใวซัตว)นหกิลจง่ึงิเ่าาหสสน้าะเรรปกาตาพส้อขเ็รธุนจหฤ่วยับะาาไตตนลรบกรปุกิถกะใรณบตาเหรถรขรสาร6จญ็วเอมมุข0ักกเมก่ ริดูินลยอกาุบ3นําัตหยฐิเนนหานดตตุ เสี่ยงต่อกา3ร0เสียชแีวลิตะพอฤาตทิกิ รกรามรเไสมี่ย่สงวตมอหกามรวเสกยีแชลีวะิตไมอ่คาาทดิ กเขาร็มไขมัดสนวมิรหภมัยวกและไมค าดเขม็ ขัดนริ ภัย 31 310 32
โครงสร้างพื้ นฐาน 07ระบบโลจิสตกิ ส์ และดจิ ิทัล 070105 การด�ำเนินงานท่ีผ่านมา ที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐได้ด�ำเนินการตามแผนปฏิบัติการตามแผนแม่บท ความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2561 - 2564 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการด�ำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงาน รับผิดชอบ ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหาจุดเส่ียงและจุดอันตรายทางถนน การจัดหาอุปกรณ์ เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามพฤติกรรมการขับข่ีท่ีเส่ียงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การสร้างเสริมจิตส�ำนึกในการใช้รถใช้ถนนแก่ผู้ขับข่ี และการพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้สามารถ รองรับความต้องการเดินทางของประชาชน รวมท้ังการก�ำหนดให้หน่วยงานส่วนท้องถ่ินเข้ามามีบทบาท ในการขับเคล่ือนความปลอดภัยทางถนนในชุมชนและหมู่บ้าน ตลอดจนการจัดต้ังศูนย์อ�ำนวยการ ความปลอดภัยทางถนน ในช่วงเทศกาลท่ีส�ำคัญ อาทิ สงกรานต์ และปีใหม่ ท่ีมีปริมาณความต้องการเดินทาง ทางถนนอยู่ในระดับสูง เพื่อบูรณาการการอ�ำนวยความสะดวกและบริการประชาชนในระหว่างการเดินทาง ของหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ซ่ึงมีส่วนช่วยลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศได้ในระดับหนึ่ง ประเด็นท้าทายที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย ข้อเสนอแนะเพื่อการบรรลุเป้าหมาย การขับเคลื่อน ที่ผ่านมาภาครัฐได้ให้ความส�ำคัญกับการขับเคลื่อน เ ป ้ า ห ม า ย ก า ร ล ด อั ต ร า ผู ้ เ สี ย ชี วิ ต จ า ก อุ บั ติ เ ห ตุ ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ท า ง ถ น น ซ่ึ ง เ ป ็ น ว า ร ะ แ ห ่ ง ช า ติ ทางถนนให้บรรลุผลอยู่ในอัตราไม่เกิน 12 คน จนท�ำให้มีแนวโน้มอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ต่อประชากร 1 แสนคน ภายในปี 2565 น้ัน ทางถนนลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถ เป็นเรื่องที่มีความท้าทายมาก ดังนั้น ภาครัฐจ�ำเป็น ล ด อั ต ร า ก า ร เ สี ย ชี วิ ต จ า ก อุ บั ติ เ ห ตุ ท า ง ถ น น ไ ด ้ ต้องให้ความส�ำคัญกับการบังคับใช้ระเบียบและ ตามเป้าหมายท่ีก�ำหนด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจาก กฎหมายที่เก่ียวข้องอย่างเข้มงวด โดยเริ่มต้นจาก การที่การเดินทางและขนส่งสินค้าภายในประเทศ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และรถบรรทุก ซ่ึงเป็น ยั ง ค ง พึ่ ง พ า ร ะ บ บ ข น ส ่ ง ท า ง ถ น น เ ป ็ น ห ลั ก สาเหตุหลักของการเกิดอัตราเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ประกอบกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนยังไม่ปฏิบัติ ทางถนน การเพ่ิมสัดส่วนการเดินทางด้วยระบบ ตามวินัยจราจรอย่างเคร่งครัด อาทิ การขับขี่ ข น ส ่ ง ส า ธ า ร ณ ะ แ ล ะ ก า ร ข น ส ่ ง สิ น ค ้ า ท า ง ร า ง โ ด ย ใ ช ้ ค ว า ม เ ร็ ว สู ง ก ว ่ า ที่ ก ฎ ห ม า ย ก� ำ ห น ด ควบคู่กับการเร่งด�ำเนินการปลูกฝังวินัยและสร้าง การด่ืมแอลกอฮอล์แล้วขับขี่ และพฤติกรรม จิตส�ำนึก การสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย การไม่สวมหมวกนิรภัยในขณะขับขี่จักรยานยนต์ ทางถนนในสังคมไทย รวมถึงการสร้างความ จ�ำนวนชั่วโมงการขับขี่ติดต่อกันสูงกว่าท่ีกฎหมาย ตระหนักถึงความปลอดภัยทางถนนให้แก่เด็กรุ่นใหม่ ก�ำหนด โ ด ย ก า ร ป รั บ ป รุ ง ห ลั ก สู ต ร แ ก น ก ล า ง ก า ร ศึ ก ษ า ข้ันพ้ืนฐานพร้อมทั้งส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามา มีส่วนร่วมในการขับเคล่ือนความปลอดภัยทางถนน 311
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจิสติกส์ และดจิ ทิ ลั 070201 จ.3 แผนแมบ่ ทย่อย โครงสรา้ งพื้นฐานดา้ นพลงั งาน เปา้ หมายระดบั แผนแม่บทย่อย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 การใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟปฟ06720า้ ส2ลีเ0ข1ดยี วลง 070201 070201 ป 63 สีเขยี ว ป 64 สีเขยี ว 1 คา่แเผปน้าแหมบมทาฯยปทร่ตีะเอ้ด็นง(บ0ร70ร2ล0ภุ1)ายโคใรนงสปรีา2งพ5้นื 6ฐา5น ระบบโลจสิ ติกส และดจิ ทิ ัล ขแเอปผงานหแแมมหาสบ ลยทัดรง่ ะยสเดอชว่บัย้ือแนเผโขพคนอรแลงงมสงิ บกรทาทางีใ่ ยรพชอใ้ืน้ใชยนฐ้กา(กน0๊าา7ดซร0า ธนผ2ร0พลร1ลติ)มังงกไชาฟานารฟตใชิใา้กนใานกซภธารรารผพมชลราติวตใิมไนฟขกฟอารงา้ผปลไติ มรไะเ่ฟเกฟทินา ศลรด้อลยง ละ 60 จ.3 : 2 3 4 คาเปาหมายที่ตองบรรลุในป พ.ศ. 2565 สัดสวนของการใชกาซธรรมชาติในการผลิตไฟฟา ไมเกินรอยละ 60 ทนสคจทคตปแคขปึัดวงีี่่โเคกยลอววารรจาส่ อง่ียาะาะงบะม� ำ่วปแมมนเโวเามเทนคภหรเตขปขยส่ันศรขะลทอ้อทป้ ็าี่ยงนไเอคง เเงสททงางรนเชงตงชรแสงยศคะื่อ้ืกอขา้อ้ืเอลมู งวเงลาเงอโเะทกีพงใาพพรดืองนคซาสมลศใย้ืนลรกรวกึ่ชงพริงปิงไะฐกพาาอ้กท้ทาารบจมาเ่ึงราน๊า้อ่ีใพงจพยรขไบชจซทคมมัใย่ือับมาใไชทธม่เีทสแวนลฟีเกกร้เค�่ันำํหาากาดชยี่ฟารคลใงคมลาควื้อมรห้เาื่ญัอรงงขสวทเพชผขเตน้ เพอทาชมคกลาึ่อองนมงลอ้ื่ีจโตดิติพดกงโเนเิงะคิุไใยพปสลาคาอสฟโนวรบ่ียลดรลแว่ืนงาฟใกางงิะผยมาห้หวาาจแยเลีแมพๆบยใลราททลนใลรเกรผก่หะงศาสใภอะิกกลงาเเนส่ี มยนาาสาชเิตรแัดกลพรทซงวรื้ อไกลสดืาอแรธัาติมฟเรวราวะงรกลกสพฟนเผนมระลกทระรมลลขพข้าจาดราคคชิอิอเงตรลมางกโปวาใงจงไนคังยาชตปา็ฟกนรงาโวรปเใิ มารวลาไฟกชานนะนรมรปยไมื้อก้กา�เใำมขะแีถตทเมชทา๊เาพอลึเง่ มาขรศั่กนี่เซภกงะลผมห่ั น้าาคปนธาิทงลซเมจคงรรอปรวติ ธเาาขะยงัตื่นรช้พาระกอเตอกมรหื้ ทอลสตๆงมร่มอชงัมศเมร่รารชงพกใาะามกงาับนจายาตบลปนับตึงขกรริ ิใบงไจรทิใวอาไใฟนนําไะมรดรหงฟฟเเกกผเถปัพ้ปแพ้ทบาาฟางึลรกยน ใื่ รกอศรริตาะนา่ตผาิ กผขลไชสกครอลฟโอาลดาดัยรวดงิตฟรชงิ ตทสอสคาไยปดานวมมฟรี่พมวปทรน้าารตฟีอาละังี่จเบัทน่อมหยาัคงเจขี่คพเทูเ่มแเวงัปยอนอสศาลาลางนสน่ือ่ีมะยนัะงป�ไำขแงสสงงโปไรคาใลคมมาแฟะนตงัญะรดกนชสลฟากลงับลุ าทูงขมะสา้ดชาดที่อเจเรซรปนใกวสระขงง่ึ้านยาาัพอรปัสงบรกหสิยาพม่รงเนาัมจดาคผื้นสะรําทากสลกลเฐรเยรําทข่ื่อรวาใ้ าใทาะหไนหนนศงี่มดจจ้เีแอกาากยดิกยู 5 6 7 8 9 10 11 12 สถานการณการบรรลุเปาหมาย สดั ส่วนการใช้กา๊ ซธรรมชาตใิ นการผลติ ไฟฟ้า 13 สใถนาปน 2ก5า63รณปร์กะาเทรศบไทรยรมลีสุเดัปส้าวหนกมาารยใชกใานซปธีรร2ม5ช6า3ติ สดั สว นการใชกา ซธรรมชาติในการผลิตไฟฟา 14 ปใรนะกเาทรศผไลทิตยไมฟีสฟัดาสร่วอนยลกะาร5ใ5ช.้ก2๊า6ซลธดรลรมงจชาากตปิใน 2ก5า6ร1 15 ผทลี่มิตีสไัดฟสฟว้านรก้อายรใลชะกา5ซ5ธ.ร2ร6มชลาดตลิในงจการกผปลี ิต2ไ5ฟ6ฟ1า ทีม่ า : สํานกั งานนโยบายและแผนพลงั งาน 16 ทร่ีมอ ีสยลัดะส5่ว6น.8ก7าซรึ่งใเชป้นกไ๊าปซตาธมรครามเปชา าหตมิาใยนทกีก่ าํารหผนลดิไตว 17 ไฟทฟี่ไม้าเรก้อินยรลอะยล5ะ66.807 ซใน่ึงเปป ็น25ไป65ตาทมั้งคน่าี้ ใเนปป้าห2ม5า6ย4 ทีม่ า: ส�ำนักงานนโยบายและแผนพลงั งาน 18 ท(่ีกขอ�ำมหูลนปดจ จไุวบ้ันท่ีไณม่สเก้ินินเดรือ้อนสยิงลหะาค6ม025ใ6น4ป) มี ีส2ัด5ส6ว5น 19 ทก้ังานร้ี ใใชนกปาซี ธ2ร5ร6ม4ชา(ขติใ้อนมกูลาปรผัจลจิตุบไันฟฟณารสอิ้ยนลเดะือ5น4 สปสลกในปภไอจิัดดางรฟากยรหาระลสกฟะาายใเาง่วกเทชงราใอคทนาไมผน้ศกยรศมรกีแลปแ๊ากเ่เาาพนิพตซล็รดง2รม่ิวอื่ไตะะธี 5ผฟโสสนเกร่อน6ลทัดัฟดบราเม4ิตสสนศาม้ราล)วไนวร่ืจแอชฟดนนต้อัดมลงาลกฟากยีหะตสงามส้าาลัิกอใาดรนร่จวนะผพายสใโนาลรกายชล่วก5หติจงบากังนต4พัไดรนงาาฟกอยาผลหซึ่งฟเานรัเลงธนาอปัฐรางไริพต่ือยจบใฟา็รนไงลช่าาานมฟฟผกังลง้กสชสลไ้พาฟงว๊าาระจาจลน้าตกซอนาาังมหิใ็ดธากงกไนีแนาีรดฟปกกนสน่ึงรภฟราาเสัดมวประาราะสชโเยเนผจอนพท่วาใลผาา้น่ินมตมศิดตลกิ 20 21 22 23 24 25 เพก่ือารนดบํา้าเนนนิตงาามนนทโย่ีผบานายมราัฐบาล 26 ภาครัฐไดใหความสําคัญกับการลดสัดสวนการใชกาซธรรมชาติในการผลิตไฟฟา เพื่อเสริมสรางความม่ันคง 27 ทางดานพลังงานไฟฟาตามเปาหมายท่ีกําหนดไวในแผนกําลังการผลิตไฟฟา (แผน PDP) ของประเทศ ควบคู 32182 กบั การสนบั สนนุ การพฒั นาพลังงานทดแทนเพ่ือเพ่ิมสดั สวนการใชเช้ือเพลิงประเภทอื่น ๆ ท่สี ามารถผลิตภายในประเทศ
โครงสร้างพ้ื นฐาน 07ระบบโลจิสตกิ ส์ และดิจิทัล 070201 การด�ำเนินงานท่ีผ่านมา ภาครัฐได้ให้ความส�ำคัญกับการลดสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าตามเป้าหมายท่ีก�ำหนดไว้ในแผนก�ำลังการผลิตไฟฟ้า (แผน PDP) ของประเทศ ควบคู่กับการสนับสนุนการพัฒนาพลังงานทดแทนเพ่ือเพิ่มสัดส่วนการใช้ เชื้อเพลิงประเภทอื่น ๆ ท่ีสามารถผลิตภายในประเทศนอกจากก๊าซธรรมชาติ อาทิ โครงการเสริมสร้าง ความม่ันคงทางพลังงาน เพ่ือส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทนที่เป็นพลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม ทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติ และมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน โดยการก�ำหนด ราคารับซื้อไฟฟ้าท่ีจูงใจให้มีการปรับเปลี่ยนมาผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้น ซ่ึงการด�ำเนินการดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายในการลดสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง ประเด็นท้าทายที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย แม้ว่าสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า จะยังคงอยู่ในค่าเป้าหมายท่ีก�ำหนดไว้ แต่เน่ืองจากปัจจุบันได้เกิดการเปล่ียนแปลงบริบททางเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และการขับเคลื่อนมาตรการท่ีมิใช่ภาษี อาทิ มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism : CBAM) ของสหภาพยุโรป ส่งผลให้ไทยจ�ำเป็นต้องเร่งปรับโครงสร้างพื้นฐาน ด้านพลังงานให้มีความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง (Resilience of Energy Infrastructure) ซึ่งปัจจัย ดั ง ก ล ่ า ว จ ะ ก ่ อ ใ ห ้ เ กิ ด ค ว า ม เ สี่ ย ง ต ่ อ ก า ร ขั บ เ ค ลื่ อ น เ ป ้ า ห ม า ย ก า ร ล ด สั ด ส ่ ว น ก า ร ใ ช ้ ก ๊ า ซ ธ ร ร ม ช า ติ ในการผลิตไฟฟ้าให้เป็นไปอย่างย่ังยืนโดยเฉพาะกรณีท่ีมีปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในอนาคต ในขณะเดียวกัน ต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติในภาคการผลิตไฟฟ้าคาดว่าจะมีแนวโน้มลดลง และสะท้อนถึงต้นทุนการผลิต ซ่ึงเป็นผลจากนโยบายเปิดเสรีด้านพลังงานของภาครัฐท่ีจะส่งเสริมให้เกิด การแข่งขันในตลาดก๊าซธรรมชาติเพ่ิมข้ึน ประกอบกับก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงที่ปลดปล่อย ก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลชนิดอื่น ท�ำให้ก๊าซธรรมชาติมีข้อได้เปรียบในการน�ำมาใช้ เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าโดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด โดยท่ียังคงสามารถรักษา ความมั่นคงของระบบผลิตไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศได้ 313
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจิสติกส์ และดจิ ิทลั 070201 ข้อเสนอแนะเพื่อการบรรลุเป้าหมาย ภาครัฐต้องให้ความส�ำคัญกับการพิจารณาการก�ำหนดสัดส่วน ก า ร ใ ช ้ ก ๊ า ซ ธ ร ร ม ช า ติ เ ป ็ น เ ช้ื อ เ พ ลิ ง ใ น ก า ร ผ ลิ ต ไ ฟ ฟ ้ า ท่ี มี ก า ร ก ร ะ จ า ย ป ร ะ เ ภ ท เ ชื้ อ เ พ ลิ ง ที่ เ ห ม า ะ ส ม เพื่อลดความเสี่ยงและส่งเสริมความม่ันคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ และลดการน�ำเข้าจากต่างประเทศ ควบคู่กับการเพ่ิมสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าใหม่ที่ใช้เช้ือเพลิงสะอาดจากพลังงานหมุนเวียน ในรูปแบบต่าง ๆ ตามศักยภาพของแต่ละพ้ืนท่ี เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 นอกจากนี้ ยังจ�ำเป็นต้องให้ความส�ำคัญ กับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Energy Efficiency) และการปรับโครงสร้างกิจการพลังงาน ให้รองรับแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านพลังงานตามแนวทาง 4D1E ได้แก่ การลดการปลดปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคพลังงาน (Decarbonization) การน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหาร จัดการระบบพลังงาน (Digitalization) โดยเฉพาะการเร่งรัดการปรับโครงสร้างกิจการไฟฟ้า และก๊าซธรรมชาติเพ่ือเพิ่มการแข่งขันและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าสมัยใหม่ (Grid Modernization of Transmission and Distribution) ให้รองรับการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ที่มีความยืดหยุ่น สามารถท�ำงานร่วมกับการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนนอกระบบที่จะเพ่ิมข้ึนในอนาคตได้ การกระจาย ศูนย์การผลิตพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน (Decentralization) การปรับปรุงกฎระเบียบรองรับนโยบาย พลังงานสมัยใหม่ (Deregulation) และการเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงานมาเป็นพลังงานไฟฟ้า (Electrification) 314
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจสิ ติกส์ และดจิ ทิ ลั 070202 จ.3 แผนแมบ่ ทยอ่ ย โครงสร้างพ้ื นฐานด้านพลังงาน เป้าหมายระดบั แผนแมบ่ ทย่อย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 การใช้พลังงานทดแทนท่ีผลิตภายในประเทศเพ่ิ มมากขึ้น คา่ เปา้ หมายท่ีตอ้ งบรรลุภายในปี 2565 070202 070202 070202 ป 62 สเี ขียว ป 63 สเี ขียว ป 64 สีเขียว สดั สว่ นการใช้พลังงานทดแทนที่ผลติ ได้ภายในประเทศในการผลิตไฟฟา้ ความรอ้ น และเชื้อเพล1งิ ชแีวผภนาแพมบ เทปฯน็ ปรระอ้ เดยน็ ล(0ะ7105202-) โ1ค8รงสขรอางงพน้ืพฐาลนงั ระงบาบนโลขจสิัน้ ตสิกสุด แทล้าะดยิจทิ ัล จ.3 : 2 แผนแมบทยอย โครงสรางพืน้ ฐานดานพลงั งาน 3 เปา หมายระดับแผนแมบทยอย (070202) การใชพ ลงั งานทดแทนที่ผลิตไดภายในประเทศ การเ54พ่ิมสคชัดวีาสภเ่วปานพาหกเปมาน ารรยใอ ทชย่ีต้พลอะลงัง1บง5ราร-นล1ทุใ8นดขปแอ งพทพ.นศลใ.งั นง2าก5น6าข5รั้นผสลุดสทิตัดาสไยฟวนฟก้าารคใชวพาลมังรง้อานนทดแแลทะนเชในื้อกเาพรลผลิงิชตไีวฟภฟาาพควอาามทรอิ พน ลแังลงะาเชน้ือเพลิง ลใแหดส้เกงกอาิดรากปทาิลตร่อยนย์ �867ำแกเลท๊าซะคเซกเเชโา่ึงรชน้ือรเือื้อปเเโพพนนเล่ิมลพกหยิสงลนรีชแัด่ึิงีะวงสลใภชจวนะานีวกสนพกภาาวเซมารหัตีว่ึใงพตชัตกเุหพปถรมลลุป็นรักังีรวมงหขะัตากสอนนถงงาทึ่งุคกปรดใเารบพนแระ่ืทอเสรกลนสิหาิดดใงเานปกหครกญาต์เาจรหพรุปหัดาผ่ืลอลภกลอลัิกตาายวไดขรกฟะพกาอฟโซลางลาคกกรังคารปางรวอบราาลนมเอน่อกรนโสอดิยดไมนดยกปอกัยแ๊าัญอาใลซรกหะหสคไเมซงาชาเด้ือภ่ทสรเาร(่ีพ์ชบCิมวล่Oวอใะิงหย2นชโ)เเวีลกไพภดิกดแา่ิมกอรลพาปะ้ออรอลรนกนาดะทําไกสเซโิาทพดิทรดคลปยธ์ัโงลกนงิ(ภอาCโาานยลรOพกแยสสาี2แก่)ซงงลาอเเะรแสารนือทลรในวิตชิมะัตกย้ กร แะรจลรมะก พลังงานและ9การจกัดารทบ�ำรมิหารตจรัดกาารรพลรังะงาเนบสียมบัยใหแมลทะี่ชกวยฎเพห่ิมมปารยะสทิเพธิภ่ือาสพ่งกเาสรใรชิมพ ใลหงั ง้เากนิดแกละากราใรชจ้แัดทลําะมผาลตริตกพารลัรงะงเาบนียทบดแและทกนฎหมาย เพ่ิมขึ้น โดย1จ0ะเป็นเพปื่อัจสจงัเยสสรมิ�ำใคหัญเ กใดิ นกการาใรชขแลับะเผคลลติ ื่อพนลงัเปงา้านหทมดแาทยนกเาพริ่มพขน้ึัฒจนะเาปดนังปกจจลัย่าสวําคญั ในการขับเคลอื่ นเปาหมายการพฒั นาดงั กลาว 11 สถานการณก ารบรรลุเปาหมาย สขพถอลาังงนปงากรนาะรทเณทด1111ศ์กแ2354มาทรีแนบนมเปทตดรี่ีผรสวือ่อระาัดนโนลมกนมสมาุเากวปณา้มรรกน้ราาเใากอคหพรชมยาใม่ิ้ชมพลร-พาะใขลกลชยึ้1ันรงังพก6งงอท.ฎาล4านยี่าัผ1งนคทง่่าามดขานงแั้นนขพมตทอท.สศนา่งอดุ.กตดกเ2แอาาทน5กรทร6ื่้ใาาอในช4รชยงใช้ พลังงานขกั้นารสใุดชทพ้ าลยงั งขาอนงทปดรแะทเทนตใศอ่ นมกกแีาารนรใผวชลโพ้ นติ ลมไังฟเงพฟาิ่มนา้ ขขคน้ัึ้นวสอาุดมยทรา้อ้างยนตอแเลนะื่อเชง้อื โเดพยลใิงนชรีวะภหาพวาง โดยในระห1ว6 ่างเพดลืงัองานนมขนั้กสรุดาทาคยมเม่ือ-เปกรียรบกเทฎียบากคับม พ.ศ. 256417มีสัดชวสง่เววลนากเดาียรวใกชันใ้พนปล ังพง.ศา.น25ท6ด3 แอยทูทน่ี ประมาณร้1อ8ยละรอ1ย6ล.ะ4116.ข2อ2 งกซ่ึางเรปในชก้พารลบังรงราลนุ คกใขกนั้นาาวปรรสาใีบุดมชพทรร้ พ.ร้า้ อศลลย.นั งุ ค221222งมเ2่ 120394ามา5านเ่ือ6ปกทเ3ปท้ าใพเรดคดชชรี่อหีาสเลอแื้อีซยเยพัุงปมดเยทลลบลพงาะูา่า)ทันงลหเนยคงท5ิงี่มครจาคช3ิทิาีดดย้ อะนี.ววย8่ีเบกเอยภาททป6ป�มากำยลี่กด นรพรําั็ูหบ่แะนใรออหนทอ(ชงนนรนเล1ยนอร่วมด้ดงอูทลป6จงไมาไวายะะเ.กาขวแ2นวอคทลอล2้อล2แือย่ีสวะ7งลูาใลุดไ.พแนทเฟ8้ วลดรซ5ั้งคล2ฟะูนีปยิึ่ดงั3างไี้แทขวแเเบกง.ปปลลอ้ัก8าโงานอะะรง็ันนนน6ี้ ร อ ง ล ง ม า ค2ื5อ ไ 1ฟ8ฟ.31้ าตาแมลลําะดับเ ช้ื อ เ พ ลิ ง ชี ว ภ า พ ทีม่ า : กรมพฒั นาพลงั งาทน่ีมทาด: แกทรมนพแลฒั ะนอานพรุ ลกั ังษงพ าลนังทงดานแท(EนGแAลTะอMนุรEกัAษพ์PลEAังงาEนRC DEDE DOEB) (เอทานอลแ2ล6ะไบกโอารดดีเําซเนลนิ )งาคนิดทเ่ีผปา ็นนมรา้อยละ 27.82 (EGAT MEA PEA ERC DEDE DOEB) และ 18.31 2ต7ามล�ำปดจจับบุ ันเทคโนโลยีและนวัตกรรมดานพลงั งานมีการพฒั นาอยางตอ เนื่อง ทาํ ใหแนวโนม ตนทุนพลังงานหมนุ เวียนและระบบ 28 กักเก็บพลังงานมีราคาถูกลง ประกอบกับการดําเนินมาตรการสงเสริมการขับเคล่ือนพลังงานทดแทนผานนโยบายและ 29 แผนพัฒนาเพื่อสงเสริมการจัดหาพลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทน อาทิ ยุทธศาสตรมันสําปะหลัง พ.ศ. 2558 - 30 2569 ยุทธศาสตรการปฏิรูปปาลมน้ํามันและนํ้ามันปาลมทั้งระบบ พ.ศ. 2560 -2579 และนโยบายการรับซ้ือไฟฟา 31 จากพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก สงผลใหมีการใชพลังงานไฟฟาจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มข้ึนทั้งในระ3ดับ15
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจิสติกส์ และดิจิทลั 070202 การด�ำเนินงานท่ีผ่านมา ปัจจุบันเทคโนโลยี ประเด็นท้าทายที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม ด ้ า น พ ลั ง ง า น มี ก า ร พั ฒ น า ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการเพ่ิมสัดส่วน อย่างต่อเน่ืองท�ำให้แนวโน้มต้นทุนพลังงานหมุนเวียน การใช้พลังงานทดแทนต่อการใช้พลังงานข้ันสุดท้าย และระบบกักเก็บพลังงานมีราคาถูกลง ประกอบกับ ตามที่ก�ำหนดไว้ อย่างไรก็ดี เพ่ือให้การพัฒนา ก า ร ด� ำ เ นิ น ม า ต ร ก า ร ส ่ ง เ ส ริ ม ก า ร ขั บ เ ค ล่ื อ น ในประเด็นดังกล่าวเป็นไปอย่างย่ังยืน ภาครัฐ พ ลั ง ง า น ท ด แ ท น ผ ่ า น น โ ย บ า ย แ ล ะ แ ผ น พั ฒ น า ควรให้ความส�ำคัญกับการขับเคล่ือนการส่งเสริม เ พ่ื อ ส ่ ง เ ส ริ ม ก า ร จั ด ห า พ ลั ง ง า น ท า ง เ ลื อ ก ใ ห ้ มี ก า ร ใ ช ้ พ ลั ง ง า น ท ด แ ท น อ ย ่ า ง ต ่ อ เ น่ื อ ง และพลังงานทดแทน อาทิ ยุทธศาสตร์มันส�ำปะหลัง โ ด ย ค� ำ นึ ง ถึ ง ภั ย คุ ก ค า ม ที่ อ า จ เ กิ ด ข้ึ น จ า ก พ.ศ. 2558 - 2569 ยุทธศาสตร์การปฏิรูป ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ที่ เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ไ ป ต า ม ภ า ว ะ ปาล์มน�้ำมันและน้�ำมันปาล์มท้ังระบบ พ.ศ. 2560 โลกร้อนหรือฤดูกาล เพ่ือลดความเส่ียงจาก -2579 และนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงาน ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากเพิ่มข้ึนหรือลดลง ทดแทนและพลังงานทางเลือก ส่งผลให้มีการใช้ ข อ ง ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ ท่ี ใ ช ้ ใ น ก า ร น� ำ ม า พ ลั ง ง า น ไ ฟ ฟ ้ า จ า ก พ ลั ง ง า น ห มุ น เ วี ย น เ พ่ิ ม ข้ึ น ผลิตพลังงานทดแทนในแต่ละช่วงเวลา รวมถึง ท้ังในระดับครัวเรือน ภาคธุรกิจ และภาคราชการ ค ว า ม ก ้ า ว ห น ้ า ท า ง เ ท ค โ น โ ล ยี แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม น อ ก จ า ก นี้ เ มื่ อ วั น ท่ี 4 สิ ง ห า ค ม 2 5 6 4 ที่อาจจะมีผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ มีมติ ท้ังในระดับปัจเจกบุคคลและธุรกิจเปลี่ยนแปลง เ ห็ น ช อ บ ก ร อ บ แ ผ น พ ลั ง ง า น ช า ติ ที่ ก� ำ ห น ด ใ ห ้ ไปจากเดิม เ พิ่ ม สั ด ส ่ ว น ก� ำ ลั ง ผ ลิ ต ไ ฟ ฟ ้ า ใ ห ม ่ จ า ก พ ลั ง ง า น ห มุ น เ วี ย น ( R e n e w a b l e E n e r g y : R E ) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทย มุ่งสู่พลังงาน สะอาดและลดกา รปลด ปล่อย C O สุทธิเป็นศูนย์ ภายในช่วงปี พ.ศ. 2608 – 2613 2 316
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจสิ ตกิ ส์ และดจิ ทิ ลั 070202 ข้อเสนอแนะเพ่ือการบรรลุเป้าหมาย ภาครัฐควรพิจารณาแนวทางในการเพ่ิมศักยภาพในการผลิต พลังงานทดแทนโดยเฉพาะพลังงานสะอาด เพ่ือสนับสนุนการเพิ่มสัดส่วนก�ำลังผลิตไฟฟ้าใหม่จาก พลังงานหมุนเวียน (RE) และเป้าหมายการลดการปลดปล่อย าCรOเป2ลสี่ยุทนธแิเปปล็นงศสูนภยา์ตพาภมูมเจิอตาจก�ำานศงขสอมงัยรทัฐบ่ี 2า1ล ในการประชุมรัฐภ าคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยก โดยให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาแพลตฟอร์มและพัฒนาศูนย์ข้อมูลในการควบคุมพลังงานหมุนเวียน ด้วยระบบดิจิทัล เพ่ือให้การบริหารจัดการพลังงานหมุนเวียนและการผลิตไฟฟ้าของประเทศมีประสิทธิภาพ และเกิดความมั่นคง การปรับปรุง/พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานระบบส่งและจ�ำหน่ายไฟฟ้าให้มีความยืดหยุ่น และครอบคลุมพ้ืนที่ศักยภาพของพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อรองรับแนวโน้มการผลิตพลังงาน ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงสนับสนุนให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ประหยัดพลังงานภายในประเทศอย่างต่อเน่ืองเพ่ือน�ำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวเนื่องภายในประเทศ เพ่ือให้ประชาชนทุกภาคส่วนสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแบบพ่ึงพาตนเอง ซึ่งจะช่วย ลดภาระการลงทุนจัดหาพลังงานไฟฟ้าส�ำรองเพ่ือเสริมความม่ันคงของระบบไฟฟ้าของประเทศในภาพรวม 317
โครงสร้างพ้ื นฐาน 07ระบบโลจสิ ติกส์ และดจิ ิทลั 070203 จ.3 แผนแม่บทย่อย โครงสรา้ งพื้นฐานด้านพลังงาน เปา้ หมายระดับแผนแมบ่ ทยอ่ ย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ประสิทธิภาพการใช้พลังงานของประเทศ 070203 070203 070203 คา่ เป้าหมายท่ตี อ้ งบรรลภุ ายในปี 2565 ป 62 สเี หลอื ง ป 63 สเี หลือง ป 64 สเี ขยี ว เทีย12บเทคแแ่า่าผผนคนน้�ำแแวมมมาบบันมททดเยฯขบิอป้มย/รขะโพคเน้ดรัน็นงกสล(รา0้าาร7งนพใ0ชบ2ืน้ 0้พฐา3าทน)ลดโังคารนงงพสาลรนงัางงาพ(นEนื้ ฐnาeนrรgะบyบโIลnจtสิ eติกnสs แiลtyะดิจ:ทิ Eลั I) ไม่เกนิ 7.4 พั นตนั จ.3 : 3 เปา หมายระดับแผนแมบทยอ ย (070203) ประสิทธภิ าพการใชพลงั งานของประเทศ 4 คาเปาหมายที่ตองบรรลุในป พ.ศ. 2565 คาความเขมขนการใชพลังงาน (Energy Intensity: EI) ไมเ กิน 7.4 พันตัน 5 กเทายีรบเพเทิ่มานปํา้ รมะันสดิทบ/ธพิภันาลพานกบาารทใช้พลังงานของประเทศจะช่วยลดภาระการลงทุนในการจัดหาพลังงาน กลแขลดอาะปงร9786ปปเรดริมริะนะายเณทแโทกทุดกลารากยตศรัพะงปาเ์กใใยพแจรชนาา่ิมจใร้ลใกภชัยปนสระทา้งทรกธขเี่สพะริจรสําสรนรัพรกคมิทิมวสรญั ยชธใมร่ าาตหงิภมตกอสเาโกติ กพริ นดิดา่าธกยรกแคงราขลาป้รราบัๆระใัมจใพเลชคเนจชัฒดพพลัยาผภลนอ่ื ื่อตลทันงาาเิกงเเพ่ีสคทปาแร�่ิำมนาะขคลคหปทขโนะนมัอญบรลสโางะดลตยดป่ งสายด่อผรนิทีนังะลกสแกวธเิ่งกาทัลตลิภแรากรศะาววขระจพดกรัะบทไลกมดาชบเอแแารวคมดลรกยสลทใะ้ลาก่ช่ือี่เงปดนกา้พเนรภริดสสะลเเาจ่ิงปยรปรังาแุลกิ มะงก้าี่ยวตากกใหนดในารหชมรรละใใูป้ลนเาบน้อแกงยทวกมทบิ ดนิดจุกทุนบกกักงภกใี่เรากนกาาารรลรกิรคดมผเา่พลาตสดจริวติาน่วาั ฒจงพทนกัดไนลาๆกหดงังาราแเง้แพพะเาลกทื่นอบละ่ เัขงขควพกงนอนโิ่มางสานนกปปงรสราโรเละลินปะรดสเผคยลทปิทาลี ่ีนยศรใธิตนิมในิภวนภพาัารตภณาพลูปกคากกังพแขราางนรบรรราวสใใบมนมชชง 10 พลงั งานในทกุ ภาคสวน สค่าถ1าE1นI กขาอสรงถณปารน์กะกาเาทรรณศบมกราีแรรนลบวรุเโรปนล้าุเ้มปหลามดหมลาางยยจาตก้ัง แต่ปี 2553 ความเข้มขน้ การใชพ้ ลังงานในประเทศ 8.54 พันตัน เทีย12บเท่าตน้ัง้�ำแมตปัน ด2ิ5บ5/3พคันาลE้าIนบขอางทปรเะปเท็นศม7ีแ.5น3วโนพมันลตดลันง เที1ย3บเทจ่าานก้�ำ8ม.5ัน4ดพิบัน/ตพันเันทียลบ้าเนทาบนา้ําทมันดใิบน/พปันี ล2าน5บ6า3ท โดย14ในปี เ2ป5น674.53คพ่านั EตันI เอทียบู่ทเที่ 7า น.0ํ้าม5นั ดพิบัน/ตพันลเทานียบบาเททใ่าน น�้ำม15ันดิบ/ปพ 2ัน5ล63้านโบดายทในปซ่ึง2บ5ร6ร4ลุคา่าเEปI ้าอหยมูทาี่ ย7.ท05ี่ก�ำพหันนตดัน ไว้แ1ล6้ว แเสทดียงบใเหท้เาหน็น้ําวม่าันปดริบะ/สพิทันธลิภาานพบกาาทรใซชึ่ง้พบลรังรงลาุคนา ขอ1ง7ประเปเทาศหมมีาแยนทวี่กโํ านห้มนทด่ีดไวีข แ้ึนล ว โแดสยดสง่ใวหน เใหห็ นญว า่ ผลประหยัดพลงั งานจากการดำ� เนินงาน ขเภปพพพปั้นาล.รรศ็22222211นคสัะะง49213850.ุดองผรสาุทตาลิท2นช้สาจ5ธขยมใปขปพดภาบาิ3ชภั้น้ัีนหาขรารลกัญรพ5ะตะคึ้สนังาสก้อกสลเงุดรอญพทุดรายิทังกโาุทตทศดนรงัทธลาตกรสา าั้ผยมงภิรยะิาด้กนพาาาสสนารกห�ยนขำร.าพองว3ศี้กา้ันเพเใรใยนก7.สรรนในสชลราสใร2รผนุิดะหระนภม5้ิม่พงลใรทปญ3กชก3ปาเาิตาล5าพ7สีเชครายปรังละบรทรข2ใผมนงัสงนัิญมั้ตงลน5งีสผิทานภาญิตกา6สลัดธี้นนามัตใาจิ3ภ่คมงสขนขิการมขีาสอ่วปากอพอนรัดงามนรกป้สกส2องนตสีสการ5งวาปงยุรรรัะดา6นรเรัดลสกกเรใ3รกสทอชําระะาใษายศมิม่เพวชรรนเลม์กีสพลนใ้3ทพสินะีแชาัดังล9กร่นกลศพงสง3อังาาวาเวังล9ผนสนโแรงนรงังน่ตุรแาขางารลกใมกัาลาอินนชนามะทษนมะรง้ ี่ ตามแผนอนรุ กั ษ์พลังงานของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 26 ท่ีมา: รายงานท่มี กาา:รกรอรามยนพงรุาฒั นักนกษาาพร์พอลลนังงุรังาักงนษาทพนดลแขังทงอานงนแปขลอะรงอะปนเรุรทะกั เศษทไพศทไลทังยยงาปปน ี22556363 27 กรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนรุ ักษ์พลงั งาน 318 28 การดําเนินงานทีผ่ า นมา
โครงสร้างพ้ื นฐาน 07ระบบโลจิสตกิ ส์ และดจิ ิทัล 070203 การด�ำเนินงานที่ผ่านมา ภาครัฐได้ให้ความส�ำคัญกับการขับเคลื่อนแผนอนุรักษ์พลังงาน ปี 2558 – 2579 ระยะท่ี 1 (พ.ศ. 2558 – 2564) ท่ีมีเป้าหมายในการประหยัดการใช้พลังงานรวม 14,449 พันตันเทียบเท่า น�้ำมันดิบ/ปี โดยส่วนใหญ่จะเป็นการด�ำเนินการโดยหน่วยงานภาครัฐและส่วนท้องถ่ินผ่านการสนับสนุน จากเงินกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในการศึกษาวิจัย นวัตกรรม และสาธิตต้นแบบ การพัฒนาบุคลากร รวมถึงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมขนาดเล็ก อาคารบ้านอยู่อาศัย ภาคขนส่ง ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ SMEs และพื้นที่ พิเศษเศรษฐกิจฐานราก นอกจากนี้ กฎกระทรวงก�ำหนดประเภทหรือขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2563 (Building Energy Code) ได้มีผลบังคับใช้แล้วเม่ือวันที่ 13 มีนาคม 2564 ซ่ึงจะช่วยให้ประหยัดการใช้พลังงานในอาคาร เพ่ิมขึ้น อย่างไรก็ดี การส่งเสริมให้ประชาชนเปล่ียนแปลงรูปแบบการเดินทางและขนส่งส่วนบุคคล เป็นการขนส่งสาธารณะ (Mass Transit) ยังมีความก้าวหน้าค่อนข้างต่�ำ เน่ืองจากหน่วยงานรับผิดชอบ อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและสิ่งอ�ำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการเดินทางและขนส่งต่อเนื่อง หลายรูปแบบ ประเด็นท้าทายท่ีส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย การด�ำเนินการแผนอนุรักษ์พลังงานท�ำให้ประสิทธิภาพ การใช้พลังงานของประเทศในช่วงท่ีผ่านมามีแนวโน้มดีขึ้นมาโดยตลอด แต่เน่ืองจากภาวะเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ภัยคุกคาม จากสภาพอากาศท่ีเปลี่ยนแปลง รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่อาจจะมีผล ใ ห ้ กิ จ ก ร ร ม ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ สั ง ค ม ท้ั ง ใ น ร ะ ดั บ ป ั จ เ จ ก บุ ค ค ล แ ล ะ ธุ ร กิ จ เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ไ ป จ า ก เ ดิ ม ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อความย่ังยืนของความส�ำเร็จตามเป้าหมายดังกล่าว ข้อเสนอแนะเพื่อการบรรลุเป้าหมาย ภาครัฐจ�ำเป็นต้องให้ความส�ำคัญกับการขับเคล่ือนมาตรการ ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานท่ีสอดรับกับบริบททางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมที่เปล่ียนแปลงไป ควบคู่กับการส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในการด�ำเนินกิจกรรมในทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนให้เกิดการติดต้ังเครื่องจักร และอุปกรณ์ท่ีจะช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการส่งเสริมให้เกิดการด�ำเนินธุรกิจและ ด�ำเนินชีวิตตามแนวคิดของเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Sharing Economy) รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีประหยัดพลังงานภายในประเทศอย่างต่อเน่ือง เพื่อน�ำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรม ท่ีเกี่ยวเน่ืองภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนในภาคครัวเรือนสามารถจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานภายในครัวเรือน นอกจากน้ี ยังจ�ำเป็นต้องด�ำเนินการส่งเสริม ใ ห ้ ป ร ะ ช า ช น เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง รู ป แ บ บ ก า ร เ ดิ น ท า ง จ า ก ก า ร ข น ส ่ ง ส ่ ว น บุ ค ค ล เ ป ็ น ก า ร ข น ส ่ ง ส า ธ า ร ณ ะ (Mass Transit) ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพ่ือให้การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเป็นไปอย่างย่ังยืน 319
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจิสตกิ ส์ และดจิ ทิ ัล 070204 จ.3 แผนแม่บทยอ่ ย โครงสร้างพ้ื นฐานด้านพลังงาน เป้าหมายระดับแผนแม่บทย่อย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 การปรับปรุงและพั ฒนาระบบไฟฟา้ ของประเทศให้มี ประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีระบบโครงข่ายสมาร์ทกริด ค่าเปา้ หมายท่ตี อ้ งบรรลภุ ายในปี 2565 จำ� นวนแผนงาน และ/หรอื โครงการที่ก�ำลังพัฒนา/โครงการนำ� รอ่ ง/โครงการทม่ี ี การใชง้ านท่เี กี่ยวข้องกบั การเพิ่มประสทิ ธภิ าพระบบไฟฟา้ อยา่ งน้อย 8 โครงการ การเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของประชาชนจากผู้ใช้ไฟฟ้า (Consumer) เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าใช้เอง (Prosumer) ท�ำให้การพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะหรือโครงข่ายสมาร์ทกริดเข้ามามีบทบาทในการพัฒนา โครงสร้างพ้ืนฐานด้านพลังงาน ผ่านการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี อย่างไรก็ดี การวางแผนการขับเคลื่อน การพัฒนาระบบไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีโครงข่ายสมาร์ทกริดที่ได้ค�ำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานของระบบไฟฟ้า ต้ังแต่การผลิตไฟฟ้า การส่งไฟฟ้า การจ�ำหน่ายไฟฟ้า ไปจนถึง การบริโภคไฟฟ้า รวมถึงการก�ำหนดให้มีระบบติดตามและประเมินผลการด�ำเนินงานอย่างเป็นระบบ จะเป็นปัจจัยส�ำคัญที่จะขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาดังกล่าว สถานการณ์การบรรลุเป้าหมาย ในปี 2564 มีการด�ำเนินโครงการด้านการเพ่ิมประสิทธิภาพระบบไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยีระบบโครงข่ายสมาร์ทกริด เพ่ิมข้ึน 3 โครงการ จากปี 2563 ท�ำให้มีจ�ำนวนโครงการฯ เพิ่มขึ้นเป็น 21 โครงการ ซ่ึงบรรลุเป้าหมายของปี 2565 ที่ต้ังไว้จ�ำนวน 8 โครงการแล้ว อย่างไรก็ดี การด�ำเนิน โครงการดังกล่าวเป็นการด�ำเนินการในรูปแบบน�ำร่องเท่าน้ัน ซ่ึงแต่ละโครงการจะเป็นการด�ำเนินการ เพื่อตอบสนองต่อกรอบการพัฒนาและขับเคลื่อนเทคโนโลยีในแต่ละมิติ ได้แก่ การตอบสนองด้านความต้องการ ไฟฟ้าและระบบบริหารจัดการพลังงาน ระบบพยากรณ์ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานหมุนเวียน และระบบ โครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กและระบบกักเก็บพลังงาน เท่านั้น 320
โครงสร้างพื้ นฐาน 07ระบบโลจสิ ตกิ ส์ และดิจทิ ลั 070204 การด�ำเนินงานท่ีผ่านมา ภาครัฐได้ริเริ่มด�ำเนินการตามมาตรการขับเคล่ือนการด�ำเนินงานด้านสมาร์ทกริด ของประเทศไทยในระยะสั้น (พ.ศ. 2560 – 2564) ซ่ึงเป็นระยะของการพัฒนาโครงการน�ำร่องเพ่ือทดสอบ ความเหมาะสมทางเทคนิคและความคุ้มค่าของการลงทุนในแต่ละเทคโนโลยี อาทิ โครงการพัฒนา โครงข่ายอัจฉริยะในพื้นท่ีเมืองพัทยา โดยเป็นการเปล่ียนมิเตอร์เก่าให้เป็นสมาร์ทมิเตอร์ทั้งหมด 116,308 เครื่อง ซึ่งได้ด�ำเนินการแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2564 โครงการศึกษาวิจัย Power Pack ซ่ึงเป็นการ พัฒนาระบบกักเก็บพลังงานซึ่งจะติดต้ังในบ้าน เพ่ือรองรับการติดต้ังโซลาร์รูฟท็อปของประชาชน โครงการ น�ำร่องระบบบริหารจัดการพลังงานในอาคารท่ีท�ำการของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อ กับระบบสมาร์ทกริด โครงการน�ำร่องการตอบสนองด้านโหลดและกลไกราคาในพื้นที่ เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้า มีส่วนร่วมต่อการบริหารจัดการระบบพลังงานของประเทศ การพัฒนาระบบไมโครกริด (Microgrid) และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System : ESS) ที่ได้ด�ำเนินโครงการน�ำร่องในพื้นท่ี อ�ำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอ�ำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมทั้งการพัฒนาระบบไมโครกริด บนพ้ืนที่ห่างไกลในพื้นท่ีเกาะพะลวย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยการด�ำเนินโครงการจะท�ำให้ทราบถึง วิธีการท�ำงานของระบบไมโครกริด ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคในการท�ำงานของระบบ ซึ่งจะน�ำมาวิเคราะห์ และขยายผลการพัฒนาระบบไมโครกริดในพื้นที่ที่เหมาะสมทั่วประเทศต่อไป ประเด็นท้าทายท่ีส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย แม้ว่าประเทศไทยจะสามารถบรรลุเป้าหมาย การปรับปรุงและพัฒนาระบบไฟฟ้าของประเทศให้มีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีระบบโครงข่ายสมาร์ทกริด ะเด็นทาทายท่ีสงผผทล่�ตำาในอหกก้ภาารารบคดรร�ำรัฐเลนจเุ�ำินปเโาปคห็นรมตงา้อกยงาดร�ำตเ่านงินกๆารแจลัด้วทก�ำ็ตแาผมนกแาตร่กขาับรเดค�ำลเ่ือนนินกกาารรดด�ำังเนกินลง่าาวนยดัง้มานีลสักมษาณร์ทะเกปร็นิดขโคอรงงปกราะรเทน�ศำรไท่อยง วาประเทศไทยจะเสพาื่อมใาหรถ้สบารมราลรุเปถาปหรมะายยุกกตาร์ใปชร้งับาปนรเุทงแคลโะนพโัฒลยนีใานระกบาบรพไฟัฒฟนาขาอโคงปรงรสะเรท้าศงใพห้ืนมีปฐาระนสดิท้าธนิภพาพลังดงวายนท่ีเหมาะสม คโนโลยรี ะบบโครงขกาับยบสมริบารททขกอรงิดปผราะนเกทาศรดในําเแนติน่ลโคะรชง่วกงาเรวตลา างไดๆ้อแยล่าวงกเต็หามมาะแสตกมารทด้ังํานเน้ี กินากราดร�ดำเังนกินลากวายรังดมังีลกักลษ่าณวยะัเงปจน�ำเป็นต้องค�ำนึง งการนํารอ ง ทาํ ใหคภวาาคมรพัฐจร้ํอาเมปขนอตงอกงาดรําปเนรับินโกคารรงจสัดรท้าาํ งแกผิจนกกาารรไขฟับฟเ้าคทล่ีส่ือานมกาารรถดรําอเนงินรับงากนาดราแนขส่งมขาันรแทลกะรกิดาขรอพงัฒปรนะาเโทคศรงสร้างพ้ืนฐาน ยะางเสมเทพรยศา่ือื ดใงในกหหแิจสยตกุานลามระาแไชรฟลวถฟงะปเาโรไหสวรคฟทวมละารมี่สฟุ นายงมาถไ้ขุากเมาดึ งว่สาตราอรี ยยมใรถอยนชสถั ยางงมนรใงราอาหอเั บนหรงกมกรเ์ทมทร่ับแากาะครกบะรบโเาสิดบนปบรมใกโแลนทลรขี่ทยสี่ จยะงน้ังังะีใขจนคนรเันาี้มพู ปกกแยไ่ิ มแาาลทศรขบระูยนพดึ้ นกบไยัฒําาดใกเ์นรท้อนนาพ่ีอมยารินัฒนี่โาใคกคชงนาวาเร้ พคาราปงโดตมล็สนคังัไงยรรรกดงืาูดปงลา้ งสหธานพกรรวยาา้ืมนรยุ ่งนรมาฐังพปเาจ้ืปนแนรําัฐ็บนลดเปาปะาพนนนสรลไตุพงาฟั งอกมลงฟงฎาัางาคนงรรสําาถะไมนนฟเทัยึงบทฟ�ใำคีหี่ยเง้วาหมบาามแนรมเาพบอพระ่ื อบง่ รวสรใกอมมัหบรมกกะ้นเขั ับบกจโอิบกาดยงยรากบกศิบราาานู ผทรรยยปปลขพทิรตรอลับี่มะไงั งีฟยงุ กฟา นต้ าส์ ใพชมล้ รั ยั งะใงหบามบน่ งานรวมกับการผลิตไฟฟา แนวโนม้ /ทิศทางนโยบายภาพรวมของประเทศไทย งงานหมุนเวียนนอกระบบท่ี เ พ่ิ ม ข้ึ น ใ น อ น า ค ต ไ ด รปรับปรุงกฎระเบียบรองรับ ย บ า ยพ ลั ง ง า น ส มั ย ใ ห ม มถงึ รองรบั การเปลยี่ นรปู แบบ รใชพลังงานมาเปนพลังงาน ฟา เพอ่ื ใหเ กิดการประยุกตใช บบโครงขายสมารทกริดใน คมไทยไดอยางเปนรูปธรรม ที่มา : สํานกั งานนโยบายและแผนทพม่ี ลางั:งสา�ำนนักงานนโยบายและแผนพลังงาน 321
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจสิ ติกส์ และดจิ ิทัล 070204 ข้อเสนอแนะเพื่อการบรรลุเป้าหมาย ภาครัฐควรเร่งติดตามประเมินผลของการด�ำเนินโครงการ ด้านการเพ่ิมประสิทธิภาพระบบไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีระบบโครงข่ายสมาร์ทกริด เพ่ือใช้เป็นข้อมูล ประกอบการจัดท�ำแผนการขับเคล่ือนการด�ำเนินงานด้านสมาร์ทกริดของประเทศไทย ท้ังน้ี การขับเคล่ือน การพัฒนาดังกล่าว ควรให้ความส�ำคัญกับการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจากภาคเอกชน โดยภาครัฐ ควรเร่งก�ำหนดหลักเกณฑ์การก�ำกับการเปิดให้ใช้และเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าเพ่ือรองรับการส่งเสริม การแข่งขันในกิจการไฟฟ้า การจัดท�ำระเบียบและกฎเกณฑ์อนุญาตให้บุคคลที่สาม (Third Party Access : TPA) ให้สามารถใช้โครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้า ระบบส่งและระบบจ�ำหน่าย และส่งเสริมกิจการจ�ำหน่าย (Retail) การปรับปรุง Grid code และจัดท�ำระเบียบส่งเสริมกิจการไฟฟ้าเพ่ือเพ่ิมการแข่งขันที่สนับสนุน การใช้พลังงานทดแทนในชุมชนและครัวเรือนตามศักยภาพของพื้นท่ีภายใต้เง่ือนไขและรูปแบบท่ีเหมาะสม ร ว ม ถึ ง ก า ร พั ฒ น า ร ะ บ บ ก า ร พ ย า ก ร ณ ์ แ ล ะ ร ะ บ บ ค ว บ คุ ม ไ ฟ ฟ ้ า ใ ห ้ ทั น ส มั ย แ ล ะ ส า ม า ร ถ ร อ ง รั บ การเปล่ียนผ่านเทคโนโลยี นอกจากน้ี การด�ำเนินการดังกล่าวยังจ�ำเป็นต้องพิจารณาควบคู่ไปกับแนวทาง การปรับโครงสร้างกิจการไฟฟ้าท่ีสามารถรองรับการแข่งขันและการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานไฟฟ้าสมัยใหม่ แบบกระจายศูนย์ท่ีมีความยืดหยุ่นและสามารถท�ำงานร่วมกับการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนนอกระบบ ที่จะเพ่ิมขึ้นในอนาคตด้วย 322
โครงสรา้ งพ้ื นฐาน 07ระบบโลจิสติกส์ และดิจทิ ัล 070301 จ.3 แผนแม่บทย่อย โครงสร้างพ้ื นฐานดิจิทัล เปา้ หมายระดบั แผนแมบ่ ทย่อย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ประชาชนมีความสามารถในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากข้ึน ค่าเปา้ หมายท่ตี อ้ งบรรลุภายในปี 2565 อตั ราส่วนของครวั เรอื นที่มีการใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตร้อยละ 70 การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานด้านดิจิทัลที่มีคุณภาพทั้งทางด้านความเร็ว ความจุ และความครอบคลุม พ้ืนท่ี รวมถึงการแข่งขันของผู้ให้บริการ เป็นปัจจัยส�ำคัญในการสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ได้อย่างท่ัวถึง นอกจากน้ี การพัฒนาเน้ือหาบนอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพ การสร้างความรู้ด้านทักษะดิจิทัล ให้แก่ประชาชนและการพัฒนากลไกก�ำกับดูแลจะช่วยสนับสนุนให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ จากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากข้ึน ซ่ึงจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และลดความเหลื่อมล้�ำ ของประชาชนในมิติต่าง ๆ อาทิ ด้านเศรษฐกิจ ด้านในสังคม ด้านการศึกษา และด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างย่ังยืน สถานการณ์การบรรลุเป้าหมาย ในปี 2563 มีครัวเรือนท่ีสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตคิดเป็นร้อยละ 85.2 ของจ�ำนวนครัวเรือนท้ังหมด (22.316 ล้านครัวเรือน) เพิ่มข้ึนจากปี 2562 ท่ีมีอัตราส่วนของครัวเรือน ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเท่ากับ 74.6 ซ่ึงบรรลุค่าเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้ที่ร้อยละ 70 ของครัวเรือน ทั้งประเทศในปี 2565 แล้ว อย่างไรก็ดี การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ยังเป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แบบไร้สายเคลื่อนที่ (Mobile Broadband) ร้อยละ 68.8 และอินเทอร์บรอดแบนด์ประจ�ำที่ (Fixed Broadband) ร้อยละ 26.1 ส่วนท่ีเหลือประมาณร้อยละ 4 เป็นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านรูปแบบ Narrowband ซ่ึงมีความเร็วที่ต่�ำกว่า 256 Kbps ท�ำให้ครัวเรือนอาจจะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเข้าถึง อินเทอร์เน็ตอยู่ในระดับสูงและก่อให้เกิดข้อจ�ำกัดในการใช้ประโยชน์ 323
านครัวเรือน) เพิ่มขึ้นจากป 2562 ที่มีอัตราสวนของครัวเรือนที่ที่สามารถเขาถึงอินเทอรเน็ตเทากับ 74.6 ซึ่งบรรลุ 07ารเเะปปจานําหกทมา่ี าร(Fยเชiทxื่อeีก่ มdาํ ตหอนBอดrินไoวเaททdรี่อbอรaยเnนลd็ตะ)แ7รบ0อบยขไลอรสะงคา2รยร6วัเะคเ.1รบลอื ื่อสบนโนวทคโนท้งั ลท่ีรป(ี่เMรจงหะoลิสเสทbือตศiรปleใรา้นิกะงปมสB พา2ro์ณ5แ้ืa6นรd5ลอฐbยแaะลาลnดวะนdจิ)อ4ยทิ เารปงอัลนไยรกลกาะ็ดรี เ6กข8าา.รถ8เขึงแอา ลถินะงึ เอทอินินอเรเททเอนอร็ตรเ ผบนาร็ตนอสดรวูปแนแบใหบนญบด aดrrับoสwูงbแaลnะdกอ ซใหึ่งมเกีคิดวขาอมจเ0รําว็ก7ทัด0ี่ตในา่ํ3กก0าวรา1ใช2ป56ระKโยbชpนs ทําใหครัวเรือนอาจจะมตี น ทุนคาใชจ ายในการเขาถึงอินเทอรเ น็ตอยูใน ารดาํ เนินงานกไดาท้รมีผ่ ดีกา�ำานเรนมลิานงงทาุนนพทัี่ฒผ่านนามโคา รใงนขช่า่วยงอทินี่ผเ่าทนอมรา์ภเนา็ตคใรนัฐ รปู แรูปสแดสงดตงาํ ตแ�ำหแนหงนจ่งุดจปุดปลลอ ่อยยสสัญญั ญญาาณณใในนโโคครรงงกกาารรBBigigRoRcokck ผ า น ม า ภ า คพรื้นั ฐทไ่ีหด่า มงี กไกาลรแลลงะทพุ นื้นพทั ฒี่ชานยาขโอคบร ง(โขซ านย อCิ นแเลทะอรC เ+น) ็ ต นพ้ืนที่หางไผก่าลนแโลคะรพงกื้นาทรี่ชเนา็ยตขปอรบะช(าโรซัฐน โCคแรงลกะารขยาCย+) ท่ีมา: กระทรวงดิจทิ ลั เพ่ือการเศรษฐกิจและสงั คม ทางนเรพคโคื่อมรพนงัฒกาาคนรมาเอแรพนคพิวน้ืลน็ตุณื้นมเะปฐทฐภถโารอาคึานงะนรพรมชโ์เงีดโชากนดกรยีวา็ตยัฐาิทตรครท่ัเวโวกปคั่วถาาึริถงดมแรงแึงโเลกจลแรคัะาด็วะลรรโใสบงะคขหูงขรบยรเ้ิมก่งพาารีบกาย่ืิยกอราอรพาเิริกนรัพฒOกาเเ่ือทนาพpรสรอาโื่eอัจงทครnสคัดเุณรนังมใคคภต็หAมมาคมc(นพUวีcบ(าาชSeUรมคีวOิsกSิเมตsOรา) ว็ร) มถึงมีการเปNดeโtคwรoงขr kายภOา pย eใ ตn้ โ คAรcงcกeาsรsเ นN็ ตeปtรwะoชrาkรั ฐภแาลยะใต ทมี่ า: กระทรวงดิจทิ ัลเพอ่ื การเศรษฐกจิ และสงั คม รงการเนต็ ปโรคะรชงากราฐัรขแยลาะยโอคินรเงทกอารร์เขนย็ตาคยวอาินมเทร็วอสรูงเนเพ็ต่ือคพวัฒามนเาร็ว งนนเเพทท่ือ่ี หอพ ารัฒงเ นไนก็ตาคทใบลทคนุี่ณเรแุ่ีณมหพิ กลภี ื้คมนภาะาุาทณารพะพ่ีพหอภสชื้ิ่านนชมาี วงีวเทพิไไตทิตดก่ี ชใอล้ อนทาทรแยรย�ําำ์ลเ่ าะใในขะงหหด็พตคอปั ้บปื้นรทบรอรรที่ มะบาะ่ีชี สคชคชคาุ ณาายาลามชขุทภชมนาอนี่แาเรโบหพลโดถดมะใยสยเทนาเาข่ัเวะฉรมฉาถะสพาพึถงดรมาึางัถบะไระบเดทรวขทราอมี่อ้า่ี อิ คกถถยยยึึางงูาใาู ่ นรง รอบคลมุ และสทา่ัวมถางึ รรถวรมอถงงึ รสับามการรถบรรอิกงราบั รกดาิจริทบัลริกขาอรงดภจิ าิทคัลรขัฐอง าครัฐในดานในตดา้งานๆต่าองาทๆิ eอ-าHทeิ ael-tHhealแthละแลeะ-leea-rlneainrgniทngั้งน้ี นามปา ร2ถ5เ6ขา3ถมึงไทแดอีห้ัลง้ินระนมวเพีู้ทบมื้นใอาน4ทรน1่ีปเชใน,8าีน็ตย02พไ4ขด5ื้นอร6หทบว3มม่ีทหู่บ่ีสาม4้าางนี1หมไ,ม8กาห0ู่รลบร4ถือแ้าเคลนขหิดะ้ใมาเนถพปูบ ึพง็ื้นานอ้ืนนรทิน้อท่ีชหเยี่หทารล่อือายะรงคข์ไ1เิดอนก0เบ็ปตล0ทนี่ ของเป้าหมายแล้ว นอกจากนี้ หน่วยงานที่เก่ียวข้อง ไ ด ้ ด� ำ เ นิ น ก า ร แ ผ น ง า น / โ ค ร ง ก า ร เ พื่ อ ส นั บ ส นุ น ให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สามารถ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพ่ิมขึ้น อาทิ การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบ ที่เก่ียวข้อง การฝึกอบรมทักษะดิจิทัล ประเด็นท้าทายท่ีส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย แม้ว่าภาครัฐจะเร่งด�ำเนินการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน ดิจิทัล ท�ำให้บรรลุเป้าหมายในปี 2565 (อัตราส่วนของครัวเรือนที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตร้อยละ 70) แล้ว และได้ด�ำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สามารถใช้ประโยชน์ จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพ่ิมขึ้นแล้ว แต่การใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนไทย ส่วนใหญ่ยังคงเป็นการใช้ประโยชน์เพื่อความบันเทิงและการส่ือสารผ่านแพลตฟอร์มของต่างประเทศ ท� ำ ใ ห ้ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย สู ญ เ สี ย โ อ ก า ส ใ น ก า ร ส ร ้ า ง มู ล ค ่ า เ พิ่ ม ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ที่ เ กิ ด ข้ึ น จ า ก ค ว า ม ก ้ า ว ห น ้ า ทางเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการท�ำธุรกรรม ทางดิจิทัลของคนไทยเพ่ือพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการหรือพฤติกรรม ของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ประชาชนบางส่วนยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ส่งผลให้ภาครัฐจ�ำเป็นต้องด�ำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อเพ่ิมความปลอดภัย ทางด้านไซเบอร์อย่างเข้มงวด 324
โครงสร้างพื้ นฐาน 07ระบบโลจิสติกส์ และดจิ ิทลั 070301 ข้อเสนอแนะเพื่อการบรรลุเป้าหมาย ภาครัฐควรส่งเสริมให้ผู้ประกอบการลงทุนพัฒนาในอุตสาหกรรม ดิจิทัลในประเทศท่ีสามารถตอบสนองต่อความต้องการใช้งานภายในประเทศเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางดิจิทัล โดยเริ่มต้นจากสาขาเกษตร การแพทย์และ สุขภาพ การท่องเท่ียว และการบริหารจัดการภาครัฐในระดับท้องถ่ิน ซ่ึงจะช่วยเพ่ิมศักยภาพในการแข่งขัน ของผู้ประกอบการ รวมถึงเร่งส่งเสริมให้เกิดพัฒนาทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) และภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้แก่ภาคประชาชน โดยเฉพาะในพ้ืนที่ห่างไกลให้สามารถ ใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในการสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับเศรษฐกิจชุมชนและปัจเจกบุคคลได้ 325
08 แผนแมบ่ ทภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ชาติ ประเดน็ ที่ 08 ผปู้ ระกอบการ และวสิ าหกจิ ขนาดกลาง และขนาดยอ่ มยคุ ใหม่ ฿ ยุ ทธ ศา ส ต ร ช า ติ ด า น ยุ ท ธ ศ า ส ต ร ช า ติ ด า น ยุ ท ธ ศ า ส ต ร ช า ติ ด า น ยุ ท ธ ศ า ส ต ร ช า ติ ด า น การพฒั นา การสรางโอกาส การปรับสมดลุ และ และเสริมสรางศักยภาพ และความเสมอภาค พัฒนา กาใรนสกราางรคแวขามงสขามันารถ ทรพั ยากรมนุษย ทางสังคม ระบบการบริหาร จัดการภาครัฐ “สร้างและพั ฒนาผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดยอ่ มยุคใหม่ของไทยใหก้ ้าวทนั ต่อสถานการณ์ การเปลยี่ นแปลงระดบั ประเทศและโลก การใชป้ ระโยชน์ จากเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมในการขบั เคล่ือนธรุ กจิ มงุ่ สกู่ ารเป็นประเทศทีพ่ ัฒนาแลว้ เศรษฐกจิ เตบิ โต อยา่ งมีเสถยี รภาพ ยั่งยืน และมขี ีดความสามารถในการแข่งขนั ท่สี งู ข้ึน”
ผปู้ ระกอบการและวสิ าหกิจขนาดกลาง 08และขนาดย่อมยคุ ใหม่ จ.1 แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น (08) ผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมยุคใหม่ มีวัตถุประสงค์เพ่ือสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เป็น “ผู้ประกอบการ ยุคใหม่” ที่ก้าวทันและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการขับเคล่ือนธุรกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมเน่ืองจากการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการมีบทบาทส�ำคัญต่อการกระตุ้น ให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตและความเข้มแข็งของผู้ประกอบการจะช่วยให้ประเทศสามารถแข่งขันในระดับเวที การค้าโลกได้โดยผู้ประกอบการยุคใหม่จะต้องมีทักษะแห่งอนาคตท่ีมีความพร้อมทางด้านทัศนคติ ทักษะ ความสามารถและความรู้ส�ำหรับการรับมือกับการแข่งขันท่ีจะรุนแรงข้ึนจากการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ของเทคโนโลยีได้ โดยมีเป้าหมายระดับประเด็น คือ ผู้ประกอบการในทุกระดับเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ ท่ีมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจเพ่ิมมากข้ึน ซึ่งมีส่วนสนับสนุนโดยตรงต่อยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้าง ขีดความสามารถในการแข่งขันให้สามารถบรรลุผลสัมฤทธิ์ได้ตามที่ก�ำหนด เพ่ือน�ำไปสู่การท่ีประเทศไทย เป็นประเทศท่ีพัฒนาแล้ว เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน ตลอดจนมีขีดความสามารถ ในการแข่งขันท่ีสูงขึ้น การประเมนิ ผลลพั ธ์การดำ� เนินการที่ส่งผลตอ่ การบรรลเุ ป้าหมาย 080001 ผู้ประกอบการในทุกระดับเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ จ.2 ท่ีมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากข้ึน ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ค่าเป้าหมายทีต่ อ้ งบรรลุภายในปี 2565 สัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศเพ่ิมข้ึน ก�ำหนดให้มีสัดส่วนเป็นร้อยละ 45 ในปี 2565 เม่ือพิจารณาข้อมูลสถิติผลิตภัณฑ์มวลรวมของ SME มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นับต้ังแต่ปี 2559 ถึงปี 2562 ก่อนที่จะหดตัวอย่างรุนแรงตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 โดยสัดส่วนต้ังแต่ ปี 2562 ถึงไตรมาสท่ี 2 ของปี 2564 อยู่ท่ีร้อยละ 43.1 42.2 และ 41.7 ตามล�ำดับ ซึ่งมูลค่าการเติบโต ของสัดส่วนดังกล่าวระหว่างปี 2561 - 2563 มีอัตราการหดตัวอยู่ท่ีร้อยละ 5.3 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสัดส่วน ผลิตภัณฑ์มวลรวมของ SME ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 จะเพิ่มข้ึนร้อยละ 17.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีก่อนหน้า แต่เม่ือเปรียบเทียบกับค่าเป้าหมายท่ีต้องบรรลุในปี 2565 ตัวเลขดังกล่าวยังคงอยู่ห่างจาก ค่าที่ก�ำหนดไว้ร้อยละ 3.3 ท้ังนี้ เป็นผลมาจากมาตรการลดระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการระงับการเดิน ทางระหว่างจังหวัดและระหว่างประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเช้ือโควิด-19 ระลอกท่ี 3 ที่ส่งผลกระทบ ต่อการประกอบกิจการและรายได้ของภาคธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจท่องเท่ียวและบริการอย่างรุนแรง น�ำไปสู่ การบรรลุเป้าหมายท่ีมีความท้าทายเพ่ิมมากข้ึนจากปีก่อน ดังนั้น ภาครัฐจ�ำเป็นที่จะต้องมีมาตรการแก้ไข 327
ผูป้ ระกอบการและวสิ าหกจิ ขนาดกลาง 08 และขนาดยอ่ มยุคใหม่ ปัญหาและให้ความช่วยเหลือเยียวยาท่ีตรงตามความต้องการผู้ประกอบการ SME อย่างเร่งด่วน รวมถึง ช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการ SME ท่ีขาดสภาพคล่องสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการด�ำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ภาครัฐต้องมีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาระบบนิเวศให้เอ้ืออ�ำนวยต่อการประกอบธุรกิจและยกระดับ ความสามารถในการแข่งขันของ SME เร่งให้มีการปรับเปล่ียนโมเดลธุรกิจและการตลาดไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 งหน่วยงานแตลลผะอู้รหดับนจ่วผนยสิดงนาชนับอสสนบนับุหนสกลนาุนักรใทหแ�ำ้สลงาามะนาหแรถนบดบ่ว�ำบยเนูรงินณากานากรสาขนรับรเับคะลสห่ือวนน่าุนศงักหใยหนภ่ว้สายพางขมาอนางภรSาถMคดรEาัฐเไดนท้อ้ัินงยหก่านงาต่วร่อยขเงนาับ่ือนเงผคูแ้รลัลบื่อะผเนิดปช็นศอรักูปบยธหรภลรักามพของ SME ด้อย่างต่อเเนพื่อื่อใงห้สแอลดะคเลป้อ็นงกรับูปสถธารนรกมารณเพ์ทื่อี่เปใลห่ีย้สนอไปดแคละลพ้อรง้อกมับรับสมถือากันบทกุกาครวณาม์ทเส่ีเี่ยปงลท่ีอี่ยานจเไกปิดแขึ้นลใะนพอนรา้อคมตรนับ�ำมไปือสกู่ ับทุกความ ยงทอี่ าจเกกิดารขบ้นึรรใลนุเปอ้านหามคายตที่กน�ำหานไปดสู่การบรรลเุ ป้าหมายท่กี าหนด GDP SME ของปี 2559 - คร่งึ ปีแรกของปี 2564 หมายเหต:ุ ใช้นิยาม SME เดิม ตามกฎกระทรวงกำ�หนดจำ�นวนการจ้างงานและมลู คา่ สนิ ทรัพยถ์ าวรของวิสาหกจิ ขนาดกลาง และขนาดยอ่ ม พ.ศ.2545 เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกบั นิยามท่ีใช้ในการกำ�หนดเปา้ หมายของแผนแมบ่ ทภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ชาติ อย่าง ไรก็ตามอยถ่างึงไแรมก็ต้วา่ามสัดถึงสแ่วมน้ว่เาปสัด้าสห่วมนาเปย้าขหอมงากยาขรอกงก่อาตรก้ัง่อขตอั้งงขวอิสงวาิสหากหิจกขิจขนนาาดดกลลาางงแแลละขะนขานดายด่อยม่อ(SมM(ES)ME) จะใกล้ ารตรลรกุเปา้ารหใหม้คโจจาดะาวยยใกาใกเมกฉนลาพช้ปบรา่วรีแะยร2พมลเ5หารุเ6ปต่รลร้5าะือกหบเามยายราดีใยังยหขวมใ้คนอยีปวปงาารเีแชมะ2ล้ืชอ5เะ่วดโ6คยฟ5็นวเ้ืนหทิดยลฟัง-้าือม1ทูผเี9ปยู้ปารียยคะรวเะทวยดบกี่าต็นคแอท้อูล่บไ้างปะทกดฟกาาาืั้นบยรเฟทมนอ่ีูตผายินู้ต้ปอ่ากงรรงดาะกเ�ำรกราเ่งอเรนพดสบิน่าวื่อกกธนาาใารหรออรเ้ับนพณย่ื่อาเรสนงใรุขเห่ือลรใ้บ่งงนุเดรมปกร่วา้าาลนจหรุเอปาคมันก้าวาเหผบนยมลคื่อขาุกงมยอมรกขางะาอจแทรงาแผแกบพผนผจนรลแาแ่รกกมมะรก่บ่บะบทาททาบรดฯฯแพโดรย่รเะฉบพาาดะ คอซงีนเชใื้อหโ้ทคั่ววถขกแิดึงอาลอ-รงะ1ยพเพ9ช่าัฒัื้ฒองคนโรนควาวาวผบดธิดู้ปุครเ-รร1กู่ไะ็ว9ิปจกแกแอSลับลบMะะกมมEกาาsีปารตรใรไกนรปะรทกสสะุกาู่ิจทอรราุตะธสยสดิภาวัาบัธาคหผพาซก่าีรนนรณรใรหกวมสา้ทมรุข่ัวท4อถใ�.ำ้ังนึง0นคอกวยวซาย่ร่ึางรคงเเครนรวว่งาว้นดมผบกเสลรคาะ็ักวรุมดแใดวกชลันกาะ้รใกมระนีาแปบกรพรบาพะรอรสทัฒั่รติท�ำะโนธธนบิภุรามากาผัตพดิจู้ปิ ขโรรแดอวะลยงมกะกโทมอคา้ังาบรวคตนิดกวร�ำรกา-เเ1รารท9รใ่งคนสผโ่งลทนแเักสุกโลดลรรัะนิมยะกี ดาับรผก่ารนะจกาายร านวยความมสาะเดพว่ิมกปใรนะกสิาทรธทิภาพธุรแกลจิะผแลลิตะผมลาเตพร่ือกสา่งรเสรง่ ิมเสกรามิรพแัฒละนพาใัฒหน้เกาิดธผรุ ู้ปกรจิ ะกSอMบEกsารไแปลสะ่อู วุติสสาหาหกิจกขรนรามด4ก.ล0างซง่ึ เน้นการใช้ ะละบวบิสอาัตหโกนิจมแบขลรนัตระาิลขโดุเนดปกา้ยาลดหกายมาง่อาแรมยนลยในุคะาปใเขหที น2มค5า่ 6โสดน5ายมโไ่อลดาร้ตมยถาียมเมพุคาทิ่มเใ่ีกพบห�ำท่ิหมมบนป่สดาราทอะมยตสา่า่องริทรเถะปธบเ็นิภพบราูปเ่ิมศพธบรรแษทรลฐมบกะิาจผแทลลติตะ่อดผร�ำลเะนบเินพบธ่ือุรเกศสิจ่รงไเษดส้เฐพรกิม่ิมิจมกแาากลรขะพึ้นดัฒาเพนเน่ือาใินใหหธ้สุ้รเากกมิดาิจรผไถดู้ป้เรพะิ่มกมอาบกกขาึ้นร อใหส้ ามารถบรรลุเป้าหมายในปี 2565 ได้ตามที่กาหนดอยา่ งเปน็ รปู ธรรม แผนแม่บทฯ ประเด็น (08) ผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ ระกอบดว้ ย 8 เปา้ หมายแผนแม่บทย่อย ซงึ่ มีสถานการณ์การบรรลุเป้าหมาย ดงั นี้ 328
ผปู้ ระกอบการและวสิ าหกจิ ขนาดกลาง 08และขนาดยอ่ มยคุ ใหม่ แผนแมบ่ ทฯ ประเดน็ (08) ผปู้ ระกอบการและวสิ าหกิจขนาดกลาง และขนาดยอ่ มยุคใหม่ ประกอบดว้ ย 8 เป้าหมายระดบั แผนแมบ่ ทย่อย โดยมสี ถานะการบรรลุเป้าหมาย ดังน้ี ความเช่อื มโยงระหว่างเป้าหมายระดับแผนแมบ่ ทยอ่ ย (Y1) กับเป้าหมายระดบั ประเด็น (Y2) Y2 080001 เป้าหมาย ระดบั ประเดน็ Y1 080101 080102 080201 080202 080301 080302 080303 080401 เป้าหมายระดับ แผนแม่บทย่อย *สถานะการบรรลุเป้าหมายประจ�ำปี 2564 080101 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 การขยายตัวของวิสาหกิจเร่ิมต้นในประเทศไทยเพ่ิมข้ึน ก�ำหนดค่าเป้าหมายท่ีต้องบรรลุในปี 2565 ขยายตัวเฉล่ียร้อยละ 10 โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม - กรกฎาคม 2564) จ�ำนวนการก่อต้ังวิสาหกิจเริ่มต้นมีจ�ำนวนรวม 46,483 ราย เพ่ิมขึ้นจากในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ร้อยละ 27.83 อย่างไรก็ดี ตัวเลขยังต่�ำกว่าค่าฐานของปี 2560 ที่ 73,157 ราย ซ่ึงมีสถานะการบรรลุเป้าหมายอยู่ในระดับ ต่�ำกว่าค่าเป้าหมายขั้นวิกฤต 080102 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ความสามารถในการแข่งขันด้านการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีดิจิทัลดีข้ึน ก�ำหนดค่าเป้าหมายที่ต้อง บรรลุในปี 2565 โดยอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านการใช้เคร่ืองมือและเทคโนโลยีของประเทศไทยอยู่ใน 36 อันดับแรก จากการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีของประเทศไทย โดยสถาบัน IMD จากทั้งหมด 64 ประเทศในปี 2564 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 38 ปรับตัวดีข้ึนจากปีก่อน 1 อันดับ ซ่ึงมีสถานะการบรรลุเป้าหมายอยู่ในระดับต่�ำกว่าค่าเป้าหมายระดับเสี่ยง 329
ผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลาง 08 และขนาดยอ่ มยุคใหม่ 080201 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 อัตราการขยายตัวสินเชื่อธุรกิจรายใหม่ที่ไม่ใช่รายใหญ่ขยายตัวเฉล่ียต่อปีเพ่ิมขึ้น ก�ำหนดค่าเป้าหมายท่ีต้อง บรรลุในปี 2565 สินเชื่อธุรกิจรายใหม่ที่ไม่ใช่รายใหญ่ขยายตัวร้อยละ 10 โดยเมื่อพิจารณาจากข้อมูลอัตราการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจ SME ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2564 พบว่าอัตรา การเติบโตของสินเช่ือเพื่อประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หดตัวเพิ่มข้ึนอย่างต่อเนื่องที่ ร้อยละ 0.8 0.7 และ 2.3 ตามล�ำดับ แต่ยังห่างไกลจากการบรรลุเป้าหมายในปี 2565 ในขณะท่ีสินเช่ือธุรกิจของ ผู้ประกอบการรายใหญ่ขยายตัวต่อเน่ืองตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ในปี 2564 ส่งผลให้ในไตรมาสท่ี 3 ของปี 2564 สินเชื่อ เพื่อประกอบธุรกิจรวม ขยายตัวอยู่ท่ีร้อยละ 6.3 ซึ่งมีสถานะการบรรลุเป้าหมายอยู่ในระดับต่�ำกว่าค่าเป้าหมายระดับเสี่ยง 080202 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 มูลค่าการระดมทุนผ่านตลาดทุนของกิจการท่ีเริ่มต้ังต้นและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้น ก�ำหนดค่าเป้าหมายที่ต้องบรรลุในปี 2565 อัตรามูลค่าการระดมทุนผ่านตลาดทุนของกิจการที่เร่ิมต้ังต้น และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมขยายตัวร้อยละ 10 โดยมูลค่าการระดมทุนผ่านตลาดทุนของกิจการที่เริ่มตั้งต้นและSME ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม - พฤศจิกายน 2564) มีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) จ�ำนวน 109 บริษัท โดยมีมูลค่าการระดมทุนรวม 2,911.37 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 2.9 ซ่ึงมีสถานะการบรรลุเป้าหมาย อยู่ในระดับต่�ำกว่าค่าเป้าหมายระดับขั้นวิกฤต 080301 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศเพิ่มข้ึน ก�ำหนดค่าเป้าหมายท่ีต้องบรรลุในปี 2565 มูลค่าพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศ เพ่ิมข้ึน 1 เท่าตัว โดยมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศภายหลังการปรับปรุงตัวเลขของส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ ลดลงจาก 3,431,378 ล้านบาท ในปี 2562 มาอยู่ท่ี 3,007,795 ล้านบาท หรือหดตัวลงถึงร้อยละ 12 ในปี 2563 เป็นผลจากผู้ประกอบการปรับรูปแบบธุรกิจไปสู่ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่หันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากย่ิงข้ึน ท้ังนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จ�ำแนกตามขนาดของธุรกิจ จะพบว่า มูลค่าการค้าออนไลน์ของ SME เติบโตจาก 1,391,932 ล้านบาท ในปี 2562 มาอยู่ที่ 1,585,956 ล้านบาท หรือขยายตัวมากถึงร้อยละ 14 ในปี 2563 ซ่ึงขยายตัวมากกว่า 1 เท่าตัวจากฐานปี 2560 และมีสถานะการบรรลุ เป้าหมายอยู่ในระดับบรรลุค่าเป้าหมาย 330
ผ้ปู ระกอบการและวิสาหกจิ ขนาดกลาง 08และขนาดยอ่ มยคุ ใหม่ 080302 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 อันดับความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศของประเทศไทยดีข้ึน ก�ำหนดค่าเป้าหมาย ท่ีต้องบรรลุในปี 2565 อันดับความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศของไทยอยู่ในอันดับท่ี 1 ใน 5 เม่ือพิจารณาอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียนในปี 2564 พบว่า สิงคโปร์ ได้รับการจัดอันดับอยู่ในล�ำดับท่ี 1 ในส่วนของประเทศไทยอยู่ในล�ำดับที่ 21 ซึ่งมีสถานะการบรรลุเป้าหมาย อยู่ในระดับต�่ำกว่าค่าเป้าหมายข้ันวิกฤต 080303 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 การขยายตัวการส่งออกของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มข้ึน ก�ำหนดค่าเป้าหมายที่ต้องบรรลุ ในปี 2565 สัดส่วนการส่งออกของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่อการส่งออกรวมของประเทศเพิ่มข้ึน ไม่ต�่ำกว่าร้อยละ 25 เน่ืองจากมีการทบทวนตัวเลขการส่งออกของ SME ในเดือนกันยายน 2563 จึงจ�ำเป็นต้องเปรียบเทียบกับค่าร้อยละ ของปี 2563 เป็นหลัก พบว่าสัดส่วนการส่งออกของ SME ต่อการส่งออกรวมของประเทศ อยู่ท่ี 32.3 ปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 5.2 ในปี 2561 และร้อยละ 27.0 ในปี 2562 และอยู่ในระดับท่ีสูงกว่าค่าเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้ไม่ต�่ำกว่าร้อยละ 25 มาโดยตลอด ซ่ึงมีสถานะการบรรลุเป้าหมายอยู่ในระดับบรรลุค่าเป้าหมาย 080401 ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 อันดับนโยบายของภาครัฐที่มีต่อวิสาหกิจและผู้ประกอบการด้านการสนับสนุนและความสอดคล้อง ของนโยบายดีข้ึน ก�ำหนดค่าเป้าหมายที่ต้องบรรลุในปี 2565 อันดับประสิทธิภาพภาครัฐดีขึ้นได้อันดับที่ 15 จากรายงานของ IMD ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับอยู่ในล�ำดับต�่ำลงจากอันดับท่ี 20 ในปี 2562 มาอยู่อันดับท่ี 23 ในปี 2563 และกลับมาอยู่ที่อันดับที่ 20 ในปี 2564 ซ่ึงยังห่างจากค่าเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้ให้อยู่ในอันดับที่ 15 ภายในปี 2565 ถึง 5 อันดับ และหากเทียบกับประเทศสิงคโปร์ ซ่ึงเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่มีการจัดเก็บข้อมูล IMD อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับประเทศไทย จะพบว่าในปี 2564 ไทยมีอันดับประสิทธิภาพภาครัฐต�่ำกว่าสิงคโปร์ถึง 15 อันดับ (สิงคโปร์อยู่อันดับท่ี 5) ซ่ึงมีสถานะการบรรลุเป้าหมายอยู่ในระดับต่�ำกว่าค่าเป้าหมายระดับเสี่ยง 331
ผู้ประกอบการและวสิ าหกิจขนาดกลาง 08 และขนาดย่อมยุคใหม่ 080101 จ.3 แผนแมบ่ ทยอ่ ย การสรา้ งความเข้มแข็งผ้ปู ระกอบการอจั ฉรยิ ะ เปา้ หมายระดับแผนแมบ่ ทยอ่ ย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 การขยายตัวของวิสาหกิจเร่ิมต้นในประเทศไทยเพ่ิ มข้ึน ค่าเป้าหมายท่ตี อ้ งบรรลุภายในปี 2565 ขยายตัวเฉล่ยี ร้อยละ 10 ผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นกลไกส�ำคัญในการพัฒนาและขับเคล่ือน เศรษฐกิจของประเทศ การเร่ิมต้นจัดต้ังวิสาหกิจเป็นหมุดหมายส�ำคัญ ส�ำหรับการสร้างโอกาสในการเติบโต ของธุรกิจต่อไป การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายใต้บริบทของโลกยุคใหม่เป็นปัจจัยส�ำคัญที่บังคับให้ ผู้ประกอบการทุกระดับจ�ำเป็นต้องปรับตัวทั้งด้านทักษะความรู้ในการประกอบธุรกิจ จิตวิญญาณความเป็น ผู้ประกอบการ การสร้างเครือข่ายธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สามารถประกอบธุรกิจและต่อยอด ธุรกิจให้เติบโต สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคท่ีเปลี่ยนแปลงไป และรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ ๆ ในสังคม ท่ีเทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทอย่างย่ิง นับเป็นโอกาสและความท้าทายส�ำหรับผู้ประกอบการ ที่จะเปลี่ยนโฉมรูปแบบการท�ำธุรกิจ การได้รับการสนับสนุนด้านแหล่งเงินทุนและช่องทางตลาดใหม่ ๆ ท่ีมีความหลากหลาย การมีสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศท่ีเอ้ือต่อการประกอบธุรกิจ ตลอดจนการปรับปรุง กฎหมายและกฎระเบียบท่ีเกี่ยวข้องกับการเร่ิมต้นธุรกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบการยุคใหม่มีความพร้อม และสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 332
14 การเปลยี่ นแปลงได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 15 0816 เสรถ่ิมาตน้นกมาีจราณนว์กนารรวบมรร4ล6ุเ,4ป8ผ้า3หปู้รมาายรยซะใึง่กนจชาอ่วนงแวบน7ลกกเาดะราือขกรน่อนแตแร้งั กาวลขิสดอาะหงวยปกสิีจิ่อ2เ5รามิ่ม6ห4ตย้นก(เเคุ ฉดจิ ลือใ่ียนขหตม่อนกมเรดาา่ ือคดนมขก–องลกปรีาก2ฎง5า6ค4มสูง2ก5ว6่า4ค) ่ากเาฉรลก่ีย่อขตอั้งงวปิสี า2ห5ก6ิจ3 ลคดิดเลปงน็เหร้อลยือล6ะ22,373.853รซาย่ึงเป็นใสนัญปีญ2า5ณ63ที่ดโดีขยอมงกีคา่ารเฉฟล้ืน่ียตลัวดจลากงรก้อารยลลดะลงอ5ย.2่า0งตท่อั้งเนนี้่ือใงนตปั้งี แ2ต5่ป63ี 20ซ56ึ่ง8ไ0ด0ซ้ร่ึงับ1มผ0ีจลา1กนรวะนทบ73อ,ย15่า7งหรนาักย 17 18 19 อจกายาก่ารงปกไัญรวสข่อกิสอถหตต็างาาั้ปาหงนกมีวกาก2ิริจสภา5แเราา6รพณพห่ิม4รรต์กก่รว(ะ้นิามมจบรกมแเบารีจนรดาริ่�ำวมคขรนโตนอมลว้งนมุ้เนปโ–กหคร้าาววกดหรมิดรปตม-กร1ั4าวฎับ9ย6สาเ,คพู4งทใม่ิม8นส่ัว3ขุชโด2ล้ึน่ว5ถรกขง6ึางอ4ย7รทง)้จอาซเกใาดยึ่งหานือจลร้จว�นำกาะนนแ่นอกวรตว1านกน้ัง1ร (ราย) จาจนำ� นวนวนกการารกกอ่ อ่ ตตั้ง้ังววสิ สิ าาหหกกจิ ิจเเรรมิ่ ม่ิ ตตน้ น้ และ 20 ออตั ัตรราากกาารรขขยยาายยตตวััวรระะหหววา่า่ งง ปปีี 22556600--22556644 21 (ร้อยละ) 22 ก่อต้ังวกิสาารหกก่อิจตเั้งรวิ่มิสตา้นหใกนิจปเี ร2ิ่ม5ต64้นเฉมลี่ปยตัจ่จอัยเดสือนนับขสอนงุนปจี า2ก5ก6า4ร 23 ฟื้นตัวสขูงอกงวส่าภคา่พาเเฉศลรี่ยษขฐอกิงจปกี า2ร5ข6ย3ายคติดัวเขปอ็นงรภ้อาคยกลาะรส2่ง7อ.8อ3ก 24 อย่างตซ่อ่ึงเเนป่ือ็นงสตัญลญอาดณจนทมี่ดาีขตอรงกกาารรกฟระื้นตตุ้นัวเจศารกษกฐากริจลขดอลงงภอายค่ารงัฐ ม.ค.-ก.ค. 64 25 ซึ่งเป็นตป่อัเจนจ่ือัยงสต้ังาแคตัญ่ปที 2ี่ส5่ง6ผ0ลตซ่ึองมคีจว�ำานมวเนชื่อ7ม3่ั,น1ท57างรเาศยรษลฐดกลิจง กทภาาารคงเขธศยรุ ทลอเรกาหษดยั่วจิยฐลล่าโธลกแืงงอุรหรจิกลก้อใะน6ิจนยทผักอ2ภล้ปู�ำจอ,าะใรา3คกหะก53กไก้จปป.า5อ2�ำรัญบ0นททรหกวั้ง่อทาาานนง้ังยรกเก้ีนใททานา้ี รใ่ีย่ีใผรกนแนวก่าาพปปนร่อกรีจมีาต2่รัดราั้2ง5ะบตกว56บ้ังริาส36ธาิกราุ3รดหาซหกรขึ่ดงกิจโอไตแิจดใดงัลหวเ้รเยรขะชมับ่ิมมอก้ือ่ผหีตาคงโลรกคร้น่ากคือิจวหเร้าชิดกฉะดปะร-ทลต1ลลรี่บยั9วมีกอ 26 27 28 29 รอวอ้ิสยย่าาลหงะรใตสกกนุนลูิง8าจปแสร0อขีุปรดดนย2งถรจงัา5ับึงสนซด6รเ่ง่ึงม4กพ้อผเาลิ่ปยลมมตาใล็ขนีปหรงะ้ึนกัจแก้มขลจลาีค1อุ่ัยมระว1งสกาธขจนมุรรอน�ำะกกับยานติังจส่าดววุ้หนงนยลนไุนลเ่อตรกศัจกกม่อาราข็ตสรษกโอถกาดฐกมงา่อกายผนตริจคู้ภปก้ัฟงขิดาารวื้นอรพเะิสปณตงกราภ็ัวนว์หกอขามสาบกอครัแดิจกงแรนสเสาัพฐร่ววรภิ่มรโแนซา่รนตลพถึ่ะง้้มนะึบเงเปศาร็นดษขปฐทอัจมี่กงจาิจโ:คัยสวกสสทิดา�วี่มำ.รา–ค:ข1ัสญย�ำ9นทากัทย่ีงสาี่ยตน่งังสัวผไง่ ขเมลสอร่มติมงีแว่อภิสนคาาหวควกโจิากนขมาน้มราเวดชส่าก่ือ่งลจอามะงอแั่นสลกิ้นะทขอสานยาุดงด่าเใยงศน่อตมรร่อษะเยฐนะก่ือเิจวงลา 30 31 32 อันใกลภ้าทคาธใุรหก้มิจีคแวลามะผเปู้ป็นรไะปกไอดบ้ทกี่จาะรไใมน่สกาารมจาัดรถต้ัดงธาุรเนกิจินใกหามร่เหพรื่อือใหชะ้บลรอรกลาุเปรข้ายหามยาธยุรกกาิจรอขอยกาไยปตัวทเ้ังฉนลี้ ี่ยทร่ีผ้อ่ายนลมะาก1า0รหในดชต่วัวงปี 33 2561-ข2อ56งก5ิจไกดร้ตรามท่ีกางาเหศนรดษฐโดกยิจสใถนาภนากคากรณาร์บทร่อรงลเุ ทป่ียา้ หวมกายารอบยใู่รนิกราะรดับแตล่าะกวาา่รค่า้าเปปลา้ ีกหอมยาย่าสงรูงุนมาแกรง ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจ หลักของผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 80 ยังส่งผลให้ มีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือโควิด–19 ที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสิ้นสุดในระยะเวลาอันใกล้ ท�ำให้มีความเป็นไปได้ที่จะไม่สามารถด�ำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 10 ในช่วง ปี 2561 - 2565 ได้ตามที่ก�ำหนด โดยสถานะการบรรลุเป้าหมายอยู่ในระดับต�่ำกว่าค่าเป้าหมายข้ันวิกฤต การด�ำเนินงานท่ีผ่านมา การขับเคล่ือนโครงการต่าง ๆ ในช่วงปี 2564 ได้มีการมุ่งเน้นบ่มเพาะ และเพ่ิมศักยภาพด้านอื่น ๆ ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่และวิสาหกิจเร่ิมต้น อาทิ การพัฒนา กระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรมให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชน เพื่อน�ำไปใช้ในการพัฒนา ธุรกิจ การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้าและบริการ การรวมกลุ่มสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง ผู้ประกอบการกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรต่าง ๆ ท้ังในประเทศและต่างประเทศ โดยอาจจะแตกต่างกับช่วงที่ผ่านมา ซ่ึงเน้นการเสริมสร้างความรู้และทักษะในการด�ำเนินธุรกิจ ให้แก่ผู้ประกอบการรายใหม่ ทั้งนี้ โครงการท่ีสนับสนุนเพ่ือให้ผู้ประกอบการใหม่สามารถเริ่มต้นด�ำเนิน ธุรกิจได้จริง การพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) ที่ผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการใหม่ ยังคงด�ำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จะส่งผลกระทบ ต่อการด�ำเนินโครงการต่าง ๆ ท�ำให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบมีความจ�ำเป็นต้องปรับรูปแบบการด�ำเนินงาน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้น ซ่ึงเป็นอุปสรรคส�ำคัญที่ท�ำให้การขับเคล่ือนโครงการยังไม่เต็มศักยภาพ เท่าท่ีควร อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการจัดต้ังวิสาหกิจเร่ิมต้นมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น และยังคงมีโอกาส ท่ีจะบรรลุตามเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้ 333
ผ้ปู ระกอบการและวสิ าหกิจขนาดกลาง 08 และขนาดยอ่ มยคุ ใหม่ 080101 ประเด็นท้าทายที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจโลกและทิศทางของเศรษฐกิจไทย ต้ังแต่ต้นปี 2564 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างช้า ๆ ในขณะที่ภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการผ่อนคลายการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 การเร่งระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชน อย่างต่อเน่ือง พร้อมท้ังนโยบายการเปิดประเทศเพ่ือฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจ ภาคบริการและการค้าปลีก ซ่ึงเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 80 ของผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมท้ังหมด ยังคงมีความอ่อนแอจากผลกระทบในช่วงท่ีผ่านมาค่อนข้างมาก ประกอบกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ของไทยยังไม่มีแนวโน้มว่าจะส้ินสุดในระยะเวลาอันใกล้ ท�ำให้ การขับเคล่ือนโครงการต่าง ๆ ที่จะสนับสนุนให้เกิดการขยายตัววิสาหกิจเร่ิมต้นยังท�ำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ประกอบกับรูปแบบโครงการยังไม่สามารถกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของวิสาหกิจเร่ิมต้นได้อย่างมีนัยส�ำคัญ อันเน่ืองมาจากการจัดต้ังธุรกิจใหม่ต้องอาศัยปัจจัยและความพร้อมหลายด้าน อาทิ ผู้ประกอบการ สินค้า และผลิตภัณฑ์ เงินทุน ตลอดจนผู้ประกอบการแต่ละรายที่มาจากภาคธุรกิจที่แตกต่างกัน จึงมีความต้องการ ช่วยเหลือหรือพัฒนาในแต่ละด้านที่แตกต่างกัน ท�ำให้การขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายในช่วงที่ผ่านมา ยังต�่ำกว่าค่าเป้าหมายท่ีก�ำหนดไว้ ข้อเสนอแนะเพ่ือการบรรลุเป้าหมาย ภาครัฐควรมุ่งเน้นการพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการและวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมให้ตรงกับความต้องการของแต่ละภาคธุรกิจตามระดับความสามารถและ ศักยภาพที่แตกต่างกัน เพื่อให้การเริ่มต้นหรือต่อยอดธุรกิจ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ และสามารถยกระดับศักยภาพท้ังด้านทักษะ ความรู้ การสร้างคุณค่าและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ การพัฒนาช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ การสนับสนุนโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนท่ีเหมาะสม ตลอดจนการได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพ่ือเป็นกุญแจส�ำคัญในการมุ่งเป้าสู่ความส�ำเร็จของการประกอบธุรกิจ ภายใต้บริบทการเปล่ียนแปลงของโลกยุคใหม่ท่ีเป็นทั้งโอกาสและความท้ายของผู้ประกอบการอัจฉริยะ 334
ผู้ประกอบการและวิสาหกจิ ขนาดกลาง 08และขนาดย่อมยุคใหม่ 008800110021 จ.3 แผนแมบ่ ทยอ่ ย การสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการอัจฉริยะ เป้าหมายระดบั แผนแมบ่ ทยอ่ ย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 ความสามารถในการแข่งขันด้านการใช้เคร่ืองมือ และเทคโนโลยีดิจิทัลดีข้ึน ค่าเปา้ หมายทต่ี อ้ งบรรลภุ ายในปี 2565 อนั ดบั ความสามารถในการแขง่ ขันดา้ นการใชเ้ ครื่องมือและเทคโนโลยขี องประเทศไทย (IMD WORLD DIGITAL COMPETITIVENESS RANKING) อยใู่ น 36 อนั ดับแรก การขับเคล่ือนเศรษฐกิจและสังคมภายใต้บริบทโลกยุคใหม่ท่ีปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วด้วย ก า ร ขั บ เ ค ลื่ อ น ข อ ง เ ท ค โ น โ ล ยี ดิ จิ ทั ล ท่ี มี ค ว า ม ก ้ า ว ล�้ ำ ไ ด ้ ส ่ ง ผ ล ใ ห ้ ก า ร ด� ำ เ นิ น กิ จ ก ร ร ม ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ของหลายประเทศท่ัวโลกมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีประสิทธิภาพสูงข้ึน ในขณะท่ีเทคโนโลยี ยังส่งผลและมีบทบาทต่อมิติด้านสังคมอย่างมีนัยส�ำคัญ กล่าวคือท�ำให้พฤติกรรมและวิถีการใช้ชีวิต ของประชากรโลกเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสการเปล่ียนแปลงท่ีส�ำคัญของโลก (Global Megatrend) ซ่ึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลท่ีเกิดข้ึนดังกล่าว ได้ส่งผลให้ภาคส่วนท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนจ�ำเป็นต้องปรับเปล่ียนและเรียนรู้ เพ่ือเตรียมพร้อมรับมือกับการเปล่ียนแปลงเพ่ือความอยู่รอด โดยทุกภาคส่วนจ�ำเป็นท่ีจะต้องเสริมสร้างความสามารถด้านการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีดิจิทัลให้เป็นไป เพ่ือการสร้างสรรประโยชน์ต่อองค์กรและปัจเจกให้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการและวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งเป็นก�ำลังส�ำคัญในการท่ีจะมีส่วนช่วยพัฒนาและขับเคล่ือนเศรษฐกิจของประเทศ ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ให้บรรลุเป้าหมาย ท้ังนี้ ทักษะด้านเทคโนโลยีท่ีสูงข้ึนและการน�ำเทคโนโลยี ท่ีเหมาะสมกับศักยภาพขององค์กรเข้ามาใช้งานจะเป็นปัจจัยแห่งความส�ำเร็จที่ส�ำคัญซ่ึงจะช่วยสนับสนุน และยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการทุกระดับอย่างรอบด้าน ตลอดจนการปรับปรุงกฎหมาย ปรับบทบาท ของภาครัฐให้เป็นผู้อ�ำนวยความสะดวก และส่งเสริมนโยบายท่ีเอ้ือต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ท่ีจะช่วยเสริมสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการยุคใหม่มีโอกาสเติบโตได้มากข้ึนจะเป็นการเสริมสร้างสภาพแวดล้อม ที่ดีซึ่งจะช่วยเอื้อให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาและด�ำเนินกิจกรรมบนพื้นฐานที่มีความเท่าเทียมกันได้ อย่างคล่องตัวเป็นรูปธรรม ซึ่งในช่วงท่ีผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้รับผลกระทบอย่างรอบด้าน ทั้งจากปัญหาการแพร่ระบาดของเช้ือโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกพลัน ของเทคโนโลยี (Disruptive Technology) ตลอดจนการแข่งขันทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่ และรายเล็กท่ีมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากย่ิงข้ึน จึงมีความจ�ำเป็นท่ีภาครัฐจะต้องให้ความส�ำคัญ กับการพัฒนาและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพ่ือเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตลอดจนเพ่ือให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรม 335
0824 แข่งขนั ของประเทศ ตลอดจนเพอ่ื ให้สามาแรถลบระรขลุเปนา้ หามดายยได่อ้อยม่างยเปคุน็ รใูปหธรมรม่ 22 ภแขา่คงขรันัฐจทะาตงธ้อุรงกใหิจ้คระวหามวส่าง้าผคผู้ปัญรปู้กะับกรกอาะบรกกพาัฒอรรนบาายแกใลหะาญสร่แ่งลเแสะรลริมากยะาเวลร็กิสใชท้เา่ีมทหีแคนโกนวโโจิลนย้มขีดทิจนวิทีคาัลวาดเมพรก่ือุนเแลสรรงาิมมสงารก้ายงข่ิงขีดึนควจาึงมมสีคาวมาามรจถ้าใเนปก็นาทรี่ 23 25 สถานการณ์การ0บร8รล0ุเป1้0าห2มาย ในปี 2564 ผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านการใช้เครื่องมือและ 26 เทคโนโลยีโดยสถาบัน IMD พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับท่ี 38 จากทังหมด 64 ประเทศ ปรับตัวดีขึน 1 อันดับ จากปีที่ 27 ผ่ า นสมถาานซกึ่ งาเรปณ็ น์ผกาลรมบารจราลกุเอปั น้าดหั บมยา่ ยอ ยใดน้ าปนี ค2ว5า6ม4รู้ IMD WอันOดRบั LขDดี DคIวGาITมAสLามาCรOถMในPกEาTรITแขIV่งEขNนั ESS 28 (Knoผwลleกdาgรeจ)ัดอัแนลดะับดค้านวคามวาสมาพมรา้อรมถในในอนกาครตแข(F่งuขtuันre ด้านการใช้เคร่ืองมือและเทคโนโลยี 29 Readดi้าnนeกssา)รใชป้เครับร่ือตงัวมดือีขแึนละ1เทอันคดโนับโทลังยสีโดอยงดส้าถนาบโันดยIอMยDู่ใน 30 อันดพับบทวี่ 4่า2ปรแะลเะทอศันไดทับยทอ่ี ย4ู่ใ4นตอาันมดลับ้าทด่ีับ38 ใจนาขกณท้ังะหทม่ีด้ดาน เไใเชททนน่ยทคเจทซป6แวโดา้นีึ่ล4งปี่รยี เเะัป4บโวเปอปลดก2น็ต็นเร้ยับาตัชวผนะีแปอ้ดียล(เคลีทงีขTทมเวไะ่ีผึ้eรนาศดาอง่่าcจม้แพนhัาน1ปพกกnมฒั ดร่รอoาอัับมนบ้อันlันแาาoตทมดคเลดgัวใ่ีลับวyะนับด4เา)ยเอซีขทม4ม่อนียึ้นอื่้ังสยาตสเาดสปค1มอา้าิงรตมางนยคยี อรดลัคบโง(ถัน้F�ปาำควเแดทuนดรางลับtียม์ับอะuแโบรยยrดลูจ้กeใกู่ใ(ยะานับKรนอกฮRะnปขอ่อปยeดoรณันูงa่ใัีบะทwกนะdดเศี่ผทlงทอiัeบักn่าศัี่นdดพยนeทอgดภ้าsบม่ี่ืนesันบา2าว))พๆ2่า 31 เทคโนโลยี (Technology) ยังคงอยู่ในอันดับที่ 22 32 33 34 ทท่ีมี่มาา:: IIMMDD เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา และเม่ือเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในทวีปเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง พบว่า ไทยจ�ำเป็นต้องเร่งพัฒนาความสามารถ และยกระดับศักยภาพในการแข่งขันด้านการใช้ เครื่องมือและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง นับเป็นความท้าทายส�ำคัญท่ีทุกภาคส่วนจ�ำเป็นต้องบูรณาการร่วมกัน ในการเร่งปรับปรุงความสามารถและยกระดับศักยภาพด้านการใช้เคร่ืองมือ และเทคโนโลยีของไทยให้สามารถ บรรลุเป้าหมายท่ี 36 อันดับแรก ภายในปี 2565 ท้ังนี้ แม้ว่าท่ีผ่านมาไทยจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง แต่ผลการจัดอันดับได้ชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยด้านองค์ความรู้ ซ่ึงพิจารณา จากผลการพัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การฝึกอบรม ความเข้มข้นในการลงทุนวิจัยและพัฒนา ด้านวิทยาศาสตร์ และการเตรียมความพร้อมรับมือการเปล่ียนแปลงในอนาคต การแพร่กระจายของเทคโนโลยี และนวัตกรรมในประเทศของประเทศไทยยังขับเคลื่อนได้ไม่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นปัจจัยฉุดรั้งส�ำคัญท่ีท�ำให้ ไทยไม่สามารถบรรลุเป้าหมายท่ีก�ำหนดไว้ 336
ผ้ปู ระกอบการและวิสาหกจิ ขนาดกลาง 08และขนาดย่อมยคุ ใหม่ 080102 การด�ำเนินงานที่ผ่านมา การเร่งรัดลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลในช่วงหลายปี ที่ ผ ่ า น ม า เ ป ็ น จุ ด เ ร่ิ ม ต ้ น ส� ำ คั ญ ท่ี ท� ำ ใ ห ้ ภ า ค รั ฐ แ ล ะ ภ า ค เ อ ก ช น ข อ ง ไ ท ย ตื่ น ตั ว เ กี่ ย ว กั บ ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด โดยในช่วงปี 2564 หน่วยงานต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง ได้เร่งขับเคล่ือนโครงการ เพ่ือส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมในภาคธุรกิจต่าง ๆ ซ่ึงมีข้อจ�ำกัดหรือปัญหาด้านการน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้กับ การประกอบธุรกิจ อาทิ ผู้ประกอบการด้านการเกษตรอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการสินค้าชุมชนในภูมิภาค ต่าง ๆ ผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม วิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) กลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเคร่ืองประดับ กลุ่มธุรกิจอาหารริมทาง (Street Food) ในการสร้างโอกาสเรียนรู้และใช้งานเครื่องมือและเทคโนโลยี ดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจ พัฒนากระบวนการและปรับปรุงศักยภาพการผลิต ตลอดจนเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการอย่างสร้างสรรค์และมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งข้ึน อย่างไรก็ตาม การยกระดับความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของผู้ประกอบการและวิสาหกิจรายย่อยให้สามารถ แข่งขันและสร้างผลประโยชน์ในการประกอบธุรกิจต้องใช้ระยะเวลาในการส่ังสมและเรียนรู้องค์ความรู้ สมัยใหม่ เพ่ือน�ำมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมกับบริบทของธุรกิจแต่ละประเภท และแต่ละขนาด อีกท้ัง ความพร้อมในการเปิดรับและความสามารถในการปรับตัวของผู้ประกอบการ ยังมีความแตกต่างกันท้ังในมิติของประเภท ขนาดและพื้นท่ี นอกจากนี้ รูปแบบโครงการที่ด�ำเนินการ ในช่วงท่ีผ่านมามีการมุ่งเป้าหมายเฉพาะกลุ่มมากยิ่งข้ึน อีกท้ังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือโควิด-19 ยังไม่ส้ินสุด ท�ำให้การด�ำเนินงานอาจจะยังไม่ครอบคลุมและท�ำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ประกอบกับ ประเด็นการสร้างสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่เอ้ือต่อการแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน และโอกาส ในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลท่ีมีคุณภาพด้วยต้นทุนที่เหมาะสม ถือได้ว่าเป็นปัจจัยส�ำคัญท่ีส่งผลต่อ การตัดสินใจของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในการน�ำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ด�ำเนินธุรกิจ ซ่ึงเป็นส่วนหนึ่ง ท่ีส่งผลให้การขับเคลื่อนยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ประเด็นท้าทายที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมาย การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมให้มีความเชี่ยวชาญและสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการประกอบธุรกิจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จ�ำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาในเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะ พร้อมท้ังมีการน�ำไปปฏิบัติ เพ่ือให้เกิดผลสัมฤทธ์ิได้อย่างเป็นรูปธรรม ในขณะท่ีความก้าวหน้าและการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล ยังคงด�ำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การเรียนรู้และใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลจ�ำเป็นต้องอาศัยกลไก ในการขับเคล่ือนอย่างมืออาชีพ ทั้งการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือน�ำไปต่อยอด สู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่มีความเช่ียวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้เกิดผล ส�ำเร็จได้อย่างต่อเน่ืองทั้งในระยะส้ันและระยะยาว ตลอดจนการให้ความส�ำคัญของภาครัฐท่ีจะกระตุ้น และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ของไทยได้รับโอกาส ในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะน�ำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนที่เหมาะสม ซึ่งสามารถ ด�ำเนินการผลักดันและส่งเสริมผ่านการปรับปรุงกฎระเบียบ ข้อบังคับให้มีความทันสมัย หรือมาตรการ เชิงนโยบายต่าง ๆ ซ่ึงจะเป็นการสร้างแต้มต่อส�ำคัญให้ผู้ประกอบการไทยมีความเข้มแข็งมากยิ่งข้ึน 337
ผู้ประกอบการและวสิ าหกจิ ขนาดกลาง 08 และขนาดย่อมยุคใหม่ 080102 ข้อเสนอแนะเพ่ือการบรรลุเป้าหมาย ภาครัฐควรเร่งเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ให้มีความรู้และทักษะการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างรอบด้าน ร่วมกับเร่งกระจายการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างทั่วถึงด้วยต้นทุนท่ีเหมาะสม พร้อมกับด�ำเนินการกระตุ้น และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนปรับตัวสู่รูปแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น และเร่งปรับปรุงแก้ไขลดข้อ จ�ำกัดและอุปสรรคด้านกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับที่แตกต่างกันเพื่ออ�ำนวยความสะดวกและสร้าง สภาพแวดล้อมในการด�ำเนินธุรกิจที่เป็นธรรมระหว่างการค้าแบบออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งถือเป็น กลไกส�ำคัญที่จะช่วยขับเคล่ือนให้ผู้ประกอบการยุคใหม่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากข้ึน ท้ังนี้ ผู้ประกอบการของไทยทุกระดับจะต้องมีความเข้าใจและพร้อมท่ีจะปรับตัวในการรองรับความก้าวหน้า ของเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปล่ียนแปลงไปอย่างพลิกผันด้วยการต่อยอดจากพ้ืนฐานทางเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ เพื่อใช้ข้อมูล ตลอดจนการปรับตัวเพื่อด�ำเนินกิจกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน รวมถึงระบบธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ ซ่ึงเป็นรูปแบบการด�ำเนินธุรกิจท่ีเป็นกระแสหลักของโลก ผ่านการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยี ที่นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการด�ำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการแล้ว ยังมีส่วนในการยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศเพ่ิมสูงขึ้นไปพร้อมกัน 338
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301