-๓๙๑- นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายณฏั ฐช์ นน ศรกี อ่ เก้ือ นางสาวละออง ติยะไพรัช นายไพจติ ศรีวรขาน นายเอกชัย ทรงอานาจเจรญิ นางสาวทศั นีย์ บรู ณปุ กรณ์ ศาสตราจารยก์ นก วงษ์ตระหง่าน นางสาวพิมพ์รพี พนั ธ์วุ ชิ าตกิ ลุ นายจาตรุ งค์ เพง็ นรพฒั น์ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวฒุ ิ นายวรภพ วริ ยิ ะโรจน์ นางมนพร เจริญศรี นายชูวิทย์ พทิ ักษ์พรพลั ลภ นายอนนั ต์ ศรีพนั ธ์ุ นายเทา่ พิภพ ลม้ิ จติ รกร นายนติ พิ ล ผวิ เหมาะ นายธรี ัจชยั พนั ธุมาศ นางสาวณธีภสั ร์ กลุ เศรษฐสิทธ์ิ นายสมศกั ด์ิ คุณเงิน นางสาวสรสั นันท์ อรรณนพพร นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ นายสมเกยี รติ ถนอมสินธ์ุ นายนรศิ ขานุรกั ษ์ นางสาวเบญจา แสงจันทร์ นายจริ ัฏฐ์ ทองสวุ รรณ์ ผู้แปรญัตติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรบั ลดงบประมาณที่ต้ังไว้ในรายการ ดงั ต่อไปนี้ รายการท่ีขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๓๘ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั แผนงานบุคลากร ภาครฐั ใหต้ ัง้ เปน็ งบประมาณรายจา่ ยของหนว่ ยรับงบประมาณ ๗๗๐,๑๕๙,๙๗๕,๐๐๐ ๑๐ นายสมคดิ เช้ือคง นายวสิ าร เตชะธรี าวัฒน์ นายไตรรงค์ ตธิ รรม ผู้แปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญัตติโดยขอปรับลดงบประมาณที่ตง้ั ไวใ้ นรายการ ดังต่อไปน้ี รายการท่ีขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๘ งบประมาณรายจ่ายสาหรับแผนงานบคุ ลากร ภาครฐั ใหต้ ้ังเปน็ งบประมาณรายจา่ ยของหนว่ ยรบั งบประมาณ ๗๗๐,๑๕๙,๙๗๕,๐๐๐ ๑๕ นางสาวสกุณา สาระนันท์ นายชลนา่ น ศรีแก้ว นายฉลาด ขามช่วง นายอัครเดช วงษ์พิทกั ษ์โรจน์ นายกูเฮง ยาวอหะซัน ผ้แู ปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญัตติโดยขอปรับลดงบประมาณที่ตง้ั ไวใ้ นรายการ ดังต่อไปน้ี รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๓๘ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั แผนงานบุคลากร ภาครัฐ ใหต้ ั้งเป็นงบประมาณรายจา่ ยของหนว่ ยรับงบประมาณ ๗๗๐,๑๕๙,๙๗๕,๐๐๐ ๒๐ นายขจติ ร ชยั นคิ ม ผแู้ ปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรับลดงบประมาณทต่ี ง้ั ไวใ้ นรายการ ดังต่อไปนี้ รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๘ งบประมาณรายจา่ ยสาหรับแผนงานบุคลากร ภาครัฐ ใหต้ ัง้ เปน็ งบประมาณรายจา่ ยของหนว่ ยรับงบประมาณ ๗๗๐,๑๕๙,๙๗๕,๐๐๐ ๒๒
-๓๙๒- นายรังสรรค์ มณรี ัตน์ ผ้แู ปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญัตติโดยขอปรบั ลดงบประมาณทต่ี งั้ ไว้ในรายการ ดังต่อไปน้ี รายการท่ีขอสงวนคาแปรญัตติ เปน็ จานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๓๘ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั แผนงานบคุ ลากร ๗๗๐,๑๕๙,๙๗๕,๐๐๐ ๓๐ ภาครัฐ ใหต้ ั้งเปน็ งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรบั งบประมาณ ผูแ้ ปรญัตติขอสงวน คณะกรรมาธิการไมเ่ หน็ ด้วย
-๓๙๓- ช่ือหมวด ๖ งบประมาณรายจ่ายสาหรับทุนหมนุ เวียน ไมม่ ีการแก้ไข ไม่มกี รรมาธิการขอสงวนความเห็น ไมม่ ีผแู้ ปรญตั ติขอสงวนคาแปรญัตติ มาตรา ๓๙ มกี ารแก้ไข มีกรรมาธิการขอสงวนความเหน็ มผี แู้ ปรญัตติขอสงวนคาแปรญตั ติ ดังนี้ กรรมาธกิ ารขอสงวนความเห็น นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผสู้ งวนความเหน็ ขอสงวนความเห็นโดยขอปรับลดงบประมาณที่ต้ังไวใ้ นรายการ ดงั ต่อไปน้ี รายการทขี่ อแปรญตั ติ ให้ตง้ั เป็นจานวน ปรับลดลง รวมท้ังส้นิ (บาท) (บาท) มาตรา ๓๙ ทนุ หมนุ เวียน ๒. ทนุ หมนุ เวยี นท่ีไม่มีฐานะเปน็ นติ ิบคุ คล (๒๓) สานักงานคณะกรรมการการเลือกต้ัง สาหรับกองทนุ เพื่อพฒั นา ๙๐,๐๐๐,๐๐๐ พรรคการเมอื ง งบรายจา่ ยอนื่ ๑. กองทนุ เพ่ือการพฒั นาพรรคการเมือง ๘๐,๐๐๐,๐๐๐ (๒๔) สานักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ งบรายจ่ายอนื่ ๑. กองทุนป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ภารกิจพ้นื ฐาน) ๙๕,๐๐๐,๐๐๐ พันตารวจเอก ทวี สอดส่อง ผสู้ งวนความเหน็ ขอสงวนความเห็นโดยขอปรับลดงบประมาณท่ตี ั้งไว้ในรายการ ดังต่อไปน้ี รายการทข่ี อสงวนความเหน็ เปน็ จานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจา่ ยสาหรบั ทนุ หมุนเวียน ให้ตั้งเปน็ งบประมาณรายจ่ายของหนว่ ยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๐.๑ นายพิธา ล้มิ เจริญรัตน์ นายปกรณว์ ฒุ ิ อดุ มพิพฒั นส์ กุล นายวาโย อศั วรงุ่ เรือง นางสาวศิริกัญญา ตนั สกลุ นางสาววรรณวรี ตะลอ่ มสิน นางสาววรรณวิภา ไม้สน ผ้สู งวนความเห็น ขอสงวนความเหน็ โดยขอปรับลดงบประมาณที่ต้ังไวใ้ นรายการ ดังต่อไปน้ี รายการทข่ี อสงวนความเหน็ เปน็ จานวน (บาท) ปรบั ลดลงคงเหลือ (บาท) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั ทนุ หมุนเวยี น ใหต้ ้งั เป็นงบประมาณรายจา่ ยของหน่วยรบั งบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ 189,535,913,918
-๓๙๔- นายพสิ ิฐ ล้ีอาธรรม นายประเสรฐิ จนั ทรรวงทอง นายไชยา พรหมา นางสาวธีรรัตน์ สาเร็จวาณชิ ย์ นายบญุ แก้ว สมวงศ์ นางพรเพญ็ บญุ ศิรวิ ัฒนกลุ นายคมเดช ไชยศวิ ามงคล นายเกรียง กลั ป์ตนิ ันท์ นางพวงเพช็ ร ชนุ ละเอียด นายอภิชาติ ตีรสวัสดชิ ัย นางสาวรงั สิมา รอดรัศมี ผสู้ งวนความเห็น ขอสงวนความเหน็ โดยขอปรบั ลดงบประมาณทตี่ ั้งไวใ้ นรายการ ดังตอ่ ไปน้ี รายการท่ขี อสงวนความเหน็ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจา่ ยสาหรับทุนหมุนเวยี น ให้ต้งั เป็นงบประมาณรายจา่ ยของหน่วยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๕ นายพิเชษฐ์ เชือ้ เมืองพาน ผสู้ งวนความเหน็ ขอสงวนความเห็นโดยขอปรบั ลดงบประมาณที่ต้ังไวใ้ นรายการ ดงั ตอ่ ไปน้ี รายการทข่ี อสงวนความเห็น เปน็ จานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจา่ ยสาหรบั ทุนหมุนเวียน ใหต้ ั้งเปน็ งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๗ นายวรวัจน์ เออ้ื อภญิ ญกลุ นายจริ ายุ ห่วงทรัพย์ ผูส้ งวนความเหน็ ขอสงวนความเห็นโดยขอปรบั ลดงบประมาณท่ตี ั้งไวใ้ นรายการ ดังตอ่ ไปน้ี รายการที่ขอสงวนความเห็น เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจา่ ยสาหรบั ทนุ หมุนเวียน ให้ตง้ั เป็นงบประมาณรายจา่ ยของหนว่ ยรบั งบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๑๐ นายศรณั ยว์ ฒุ ิ ศรณั ยเ์ กตุ นายยทุ ธพงศ์ จรัสเสถียร ผ้สู งวนความเห็น ขอสงวนความเห็นโดยขอปรับลดงบประมาณที่ตั้งไว้ในรายการ ดงั ตอ่ ไปนี้ รายการทข่ี อสงวนความเหน็ เปน็ จานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจา่ ยสาหรบั ทุนหมนุ เวียน ให้ตัง้ เปน็ งบประมาณรายจ่ายของหนว่ ยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๒๐ นายอบุ ลศกั ด์ิ บัวหลวงงาม ผู้สงวนความเหน็ ขอสงวนความเหน็ โดยขอปรับลดงบประมาณทีต่ ั้งไว้ในรายการ ดังต่อไปน้ี รายการท่ขี อสงวนความเห็น เป็นจานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจา่ ยสาหรบั ทนุ หมนุ เวียน ใหต้ ง้ั เป็นงบประมาณรายจา่ ยของหน่วยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๒๓
-๓๙๕- ผู้แปรญตั ตขิ อสงวนคาแปรญตั ติ นายสงวน พงษม์ ณี ผู้แปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรบั ลดงบประมาณทีต่ ั้งไว้ในรายการ ดังต่อไปน้ี รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจา่ ยสาหรับทุนหมุนเวยี น ให้ตง้ั เป็นงบประมาณรายจา่ ยของหนว่ ยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๐.๕ นายมณเฑียร สงฆ์ประชา นายอนนั ต์ ผลอานวย นายจตุพร เจริญเช้ือ นายกติ ตศิ ักด์ิ คณาสวัสดิ์ นายปรญิ ญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ผู้แปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญัตติโดยขอปรับลดงบประมาณทีต่ ้งั ไวใ้ นรายการ ดังต่อไปน้ี รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั ทนุ หมนุ เวียน ให้ตัง้ เป็นงบประมาณรายจ่ายของหนว่ ยรบั งบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๑ นายสุรวทิ ย์ คนสมบรู ณ์ นายเกรียงศักด์ิ ฝา้ ยสีงาม นายกรวรี ์ ปริศนานันทกุล นางสริ ินทร รามสูต นายโกศล ปทั มะ นายนิยม ช่างพินิจ นายบัญญตั ิ เจตนจันทร์ ผู้แปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรับลดงบประมาณทต่ี ัง้ ไวใ้ นรายการ ดงั ต่อไปนี้ รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั ทุนหมุนเวียน ใหต้ ้ังเปน็ งบประมาณรายจา่ ยของหน่วยรบั งบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๒ นางสาวกลุ วลี นพอมรบดี นายมนตรี ปาน้อยนนท์ นายสรชดั สจุ ิตต์ นายสยาม หตั ถสงเคราะห์ นายนพดล แกว้ สุพัฒน์ นายปรญิ ญา ฤกษ์หรา่ ย ผูแ้ ปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรับลดงบประมาณที่ตั้งไวใ้ นรายการ ดังต่อไปน้ี รายการท่ีขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจ่ายสาหรับทุนหมุนเวียน ใหต้ ั้งเปน็ งบประมาณรายจา่ ยของหนว่ ยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๓ นายสมเกยี รติ วอนเพียร นายครมู านติ ย์ สังข์พุ่ม นายสมคดิ เช้อื คง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นายสมบัติ ศรีสรุ ินทร์ นายนยิ ม เวชกามา นายณฐั วุฒิ ประเสริฐสวุ รรณ นายภณณัฏฐ์ ศรอี นิ ทร์สทุ ธ์ิ นางสภุ าภรณ์ คงวุฒปิ ญั ญา นางสาวชนก จันทาทอง
-๓๙๖- นายประเดมิ ชัย บญุ ชว่ ยเหลอื นายวโิ รจน์ ลกั ขณาอดศิ ร นายทองแดง เบญ็ จะปัก นายธารา ปิตุเตชะ นายสราวธุ อ่อนละมยั นายประมวล พงศ์ถาวราเดช นายสิรพิ งศ์ อังคสกุลเกียรติ นายประสงค์ บรู ณ์พงศ์ นางสาวจริ าพร สนิ ธไุ พร นายสมศักด์ิ คณุ เงิน นายซูการโ์ น มะทา นายพฒั นา สพั โส นายสมมุติ เบ็ญจลกั ษณ์ นางสาวแนน บณุ ยธ์ ิดา สมชยั นางสาวพมิ พภ์ ัทรา วิชยั กลุ นางศรสี มร รศั มีฤกษเ์ ศรษฐ์ นายเกยี รติ สิทธอี มร นายองอาจ คล้ามไพบลู ย์ นายพิจารณ์ เชาวพฒั นวงศ์ ผแู้ ปรญัตติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรับลดงบประมาณทต่ี ั้งไวใ้ นรายการ ดังต่อไปน้ี รายการท่ีขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั ทนุ หมุนเวยี น ให้ตัง้ เปน็ งบประมาณรายจา่ ยของหน่วยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๕ นายสรุ เชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้แปรญัตติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรับลดงบประมาณที่ตง้ั ไว้ในรายการ ดังต่อไปน้ี รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เปน็ จานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั ทุนหมนุ เวยี น ใหต้ ั้งเปน็ งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๕.๕๕ นายอบั ดุลอายี สาแม็ง ผู้แปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรบั ลดงบประมาณท่ีต้ังไว้ในรายการ ดังต่อไปนี้ รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจ่ายสาหรับทุนหมนุ เวียน ให้ตง้ั เป็นงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๗ นายเรวัต วิศรตุ เวช ผู้แปรญัตติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรับลดงบประมาณทตี่ ัง้ ไว้ในรายการ ดังต่อไปน้ี รายการท่ีขอสงวนคาแปรญัตติ ปรับลดลง (บาท) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจา่ ยสาหรับทุนหมนุ เวียน ๑. ทุนหมนุ เวียนทมี่ ีฐานะเปน็ นติ ิบคุ คล (๑) กองทุนการออมแห่งชาติ ๑๕,๐๐๐,๐๐๐ (๒) กองทนุ จัดรปู ที่ดนิ เพอ่ื พฒั นาพื้นท่ี ๒,๐๐๐,๐๐๐ (๓) กองทนุ เพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา ๒๘๒,๖๒๗,๔๐๐ (๔) กองทุนยุติธรรม ๑,๕๐๐,๐๐๐ (๕) กองทุนหมู่บา้ นและชุมชนเมืองแห่งชาติ ๖,๒๗๕,๑๐๐
-๓๙๗- ๒๘,๙๙๐,๑๐๐ ๒. ทนุ หมนุ เวียนทีไ่ ม่มฐี านะเป็นนติ ิบุคคล ๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ (๑) สานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สาหรบั กองทนุ สง่ เสรมิ วสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ๑,๒๕๐,๐๐๐ (๒) สานกั งานปลัดกระทรวงการคลงั ๑,๕๐๐,๐๐๐ สาหรับกองทุนประชารฐั สวัสดิการเพอื่ เศรษฐกจิ ฐานรากและสังคม ๓,๑๕๐,๐๐๐ (๓) สานักงานปลดั กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนษุ ย์ สาหรบั กองทนุ เพ่ือการป้องกันและปราบปรามการค้ามนษุ ย์ ๒๕๐,๐๐๐ (๔) กรมกจิ การเดก็ และเยาวชน สาหรบั กองทนุ คุม้ ครองเด็ก (๕) กรมกจิ การผสู้ งู อายุ สาหรับกองทุนผสู้ ูงอายุ ๔,๒๕๐,๐๐๐ (๖) กรมกจิ การสตรแี ละสถาบนั ครอบครวั สาหรบั กองทุนส่งเสรมิ ความเทา่ เทยี มระหวา่ งเพศ ๑,๔๑๗,๖๐๓,๘๐๐ (๗) กรมพฒั นาสังคมและสวสั ดกิ าร ๙๓,๕๐๐,๐๐๐ สาหรับกองทนุ ส่งเสรมิ การจดั สวสั ดิการสงั คม (๘) สานกั งานคณะกรรมการส่งเสรมิ วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม ๓,๕๐๐,๐๐๐ สาหรับกองทนุ สง่ เสริมวทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ (๙) กรมชลประทาน สาหรบั กองทุนจัดรปู ท่ดี นิ ๖,๒๓๕,๒๐๐ (๑๐) สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร สาหรับกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร ๑,๐๒๓,๒๐๐ เพ่ือเพิ่มขดี ความสามารถการแข่งขนั ของประเทศ ๑,๕๖๘,๒๐๐ (๑๑) กรมการคา้ ภายใน สาหรบั กองทนุ รวมเพ่ือช่วยเหลือเกษตรกร (๑๒) กรมการพัฒนาชุมชน สาหรบั กองทนุ พัฒนาบทบาทสตรี ๗,๖๙๕,๘๐๐ (๑๓) กรมการศาสนา สาหรบั กองทนุ ส่งเสรมิ การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ๖๙๖,๖๐๐ เฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษา (๑๔) กรมศิลปากร สาหรบั กองทุนสง่ เสรมิ งานจดหมายเหตุ ๔๐๐,๐๐๐ (๑๕) กรมสง่ เสริมวฒั นธรรม สาหรบั กองทนุ สง่ เสรมิ งานวฒั นธรรม ๕,๙๕๐,๐๐๐ (๑๖) สานกั งานศลิ ปวฒั นธรรมร่วมสมัย สาหรับกองทุนสง่ เสริมศิลปะรว่ มสมยั ๗,๐๒๗,๑๙๔,๐๐๐ (๑๗) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก สาหรับกองทุนภมู ิปัญญาการแพทย์แผนไทย ๕๐,๕๐๐,๐๐๐ (๑๘) สถาบนั การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สาหรับกองทุนการแพทย์ฉุกเฉนิ ๕,๐๐๐,๐๐๐ (๑๙) สานักงานหลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ สาหรบั กองทุนหลกั ประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ (๒๐) สานักงานตารวจแห่งชาติ สาหรับกองทนุ เพ่ือการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา (๒๑) สานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพฒั นาพเิ ศษภาคตะวันออก สาหรับกองทุนพัฒนาเขตพฒั นาพิเศษภาคตะวันออก
-๓๙๘- ๘,๐๐๐,๐๐๐ ๙,๐๐๐,๐๐๐ (๒๒) สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ สาหรบั กองทนุ เพ่ือผู้เคยเปน็ สมาชิกรฐั สภา (๒๓) สานักงานคณะกรรมการการเลือกตงั้ สาหรบั กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง (๒๔) สานักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ สาหรบั กองทนุ ป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายณฏั ฐ์ชนน ศรกี อ่ เก้ือ นางสาวละออง ติยะไพรัช นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ นางสาวสกณุ า สาระนันท์ นายไพจติ ศรวี รขาน นายฉลาด ขามช่วง นายเอกชัย ทรงอานาจเจรญิ นางสาวทัศนยี ์ บรู ณุปกรณ์ นายจาตุรงค์ เพง็ นรพฒั น์ นายณัฐพงษ์ เรอื งปัญญาวุฒิ นายวรภพ วริ ิยะโรจน์ นางมนพร เจรญิ ศรี นายชวู ิทย์ พทิ ักษ์พรพัลลภ นายอนรุ กั ษ์ ตัง้ ปณิธานนท์ รองศาสตราจารย์สรุ วาท ทองบุ นายคาพอง เทพาคา นายรงั สรรค์ มณีรัตน์ นายอนันต์ ศรีพันธ์ุ นายเทา่ พิภพ ลิม้ จติ รกร นายนิตพิ ล ผิวเหมาะ นายธรี ัจชัย พนั ธุมาศ นายมานพ ครี ภี ูวดล นางสาวณธภี ัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ นายณัฐวุฒิ บวั ประทุม นายชนิ วรณ์ บณุ ยเกยี รติ นายนริศ ขานุรกั ษ์ นางสาวเบญจา แสงจันทร์ นายจริ ัฏฐ์ ทองสวุ รรณ์ ผแู้ ปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญัตติโดยขอปรบั ลดงบประมาณทีต่ ัง้ ไวใ้ นรายการ ดงั ต่อไปน้ี รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจ่ายสาหรับทนุ หมนุ เวยี น ให้ตั้งเปน็ งบประมาณรายจ่ายของหนว่ ยรบั งบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๑๐ ศาสตราจารย์กนก วงษต์ ระหง่าน นางสาวพิมพร์ พี พันธวุ์ ิชาติกลุ นายไตรรงค์ ตธิ รรม ผแู้ ปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญัตติโดยขอปรบั ลดงบประมาณท่ีตั้งไว้ในรายการ ดงั ต่อไปนี้ รายการทข่ี อสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจา่ ยสาหรบั ทนุ หมนุ เวยี น ใหต้ ง้ั เป็นงบประมาณรายจา่ ยของหน่วยรบั งบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๑๕
-๓๙๙- นายชลน่าน ศรีแกว้ นายอคั รเดช วงษพ์ ิทกั ษโ์ รจน์ นายกเู ฮง ยาวอหะซัน นายสมเกยี รติ ถนอมสนิ ธ์ุ ผ้แู ปรญัตติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรับลดงบประมาณทตี่ ้ังไว้ในรายการ ดงั ต่อไปนี้ รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เปน็ จานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั ทุนหมุนเวยี น ใหต้ งั้ เป็นงบประมาณรายจ่ายของหนว่ ยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๒๐ นายขจติ ร ชยั นคิ ม ผ้แู ปรญัตติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรบั ลดงบประมาณท่ีตั้งไว้ในรายการ ดงั ต่อไปนี้ รายการท่ีขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๓๙ งบประมาณรายจ่ายสาหรับทุนหมนุ เวียน ให้ตง้ั เปน็ งบประมาณรายจ่ายของหนว่ ยรับงบประมาณ ๑๙๕,๓๗๐,๔๐๒,๙๐๐ ๒๒ คณะกรรมาธกิ ารไมเ่ หน็ ดว้ ย ผ้แู ปรญัตตขิ อสงวน
-๔๐๐- ชอื่ หมวด ๗ งบประมาณรายจา่ ยเพื่อการชาระหนี้ภาครัฐ ไมม่ ีการแก้ไข ไม่มกี รรมาธกิ ารขอสงวนความเหน็ ไม่มแี ปรญตั ตขิ อสงวนคาแปรญตั ติ มาตรา ๔๐ ไม่มกี ารแก้ไข มกี รรมาธกิ ารขอสงวนความเห็น มผี ู้แปรญัตติขอสงวนคาแปรญัตติ ดังนี้ กรรมาธกิ ารขอสงวนความเหน็ นายเรอื งไกร ลีกจิ วัฒนะ ผ้สู งวนความเห็น ขอสงวนความเห็นโดยขอปรบั ลดงบประมาณที่ต้ังไวใ้ นรายการ ดังตอ่ ไปน้ี รายการท่ขี อแปรญัตติ ให้ต้ังเป็นจานวน ปรับลดลง รวมท้ังสิ้น (บาท) (บาท) มาตรา ๔๐ แผนงานบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ๒ รัฐวสิ าหกิจ (๔) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ๒๗,๗๘๖,๕๓๕,๘๐๐ - ชดเชยภาระตน้ เงินและดอกเบ้ยี โครงการรับจานาผลผลติ การเกษตร ปี ๒๕๕๔/๕๕ และปี ๒๕๕๕ (แหลง่ เงินก้กู ระทรวงการคลงั จดั หา) ๑,๗๐๐,๔๓๒,๐๐๐ - ชดเชยภาระตน้ เงินและดอกเบ้ยี โครงการรับจานาผลผลติ การเกษตร ปี ๒๕๕๕/๕๖ (แหลง่ เงนิ กู้กระทรวงการคลงั จัดหา) ๘,๓๓๙,๑๓๔,๒๐๐ - ชดเชยภาระตน้ เงินและดอกเบี้ยโครงการรับจานาผลผลติ การเกษตร ปี ๒๕๕๖/๕๗ (แหล่งเงนิ กู้กระทรวงการคลังจัดหา) ๕,๗๐๐,๔๑๑,๗๐๐ - ชดเชยภาระตน้ เงินและดอกเบีย้ โครงการรับจานาผลผลิตการเกษตร ปี ๒๕๕๑/๕๒ (แหลง่ เงินกกู้ ระทรวงการคลงั จัดหา) ๑๒,๐๔๖,๕๕๗,๙๐๐ นายจริ ายุ ห่วงทรพั ย์ นายประเสรฐิ จนั ทรรวงทอง นายไชยา พรหมา นางสาวธรี รัตน์ สาเร็จวาณิชย์ นายบุญแก้ว สมวงศ์ นางพรเพ็ญ บุญศิริวัฒนกุล นายคมเดช ไชยศวิ ามงคล นายเกรยี ง กลั ปต์ นิ ันท์ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด นายอภิชาติ ตีรสวสั ดชิ ัย นางสาวรงั สมิ า รอดรศั มี ผสู้ งวนความเห็น ขอสงวนความเห็นโดยขอปรับลดงบประมาณที่ต้ังไวใ้ นรายการ ดังต่อไปนี้ รายการที่ขอสงวนความเห็น เปน็ จานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๔๐ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั แผนงานบริหาร จดั การหนภี้ าครฐั ใหต้ ง้ั เป็นงบประมาณรายจา่ ยของหนว่ ยรบั งบประมาณ ๒๙๗,๖๓๑,๔๓๘,๙๐๐ ๑๐
-๔๐๑- นายศรณั ย์วฒุ ิ ศรณั ยเ์ กตุ นายยทุ ธพงศ์ จรัสเสถยี ร ผสู้ งวนความเห็น ขอสงวนความเห็นโดยขอปรับลดงบประมาณทต่ี ้ังไว้ในรายการ ดังตอ่ ไปนี้ รายการทีข่ อสงวนความเหน็ เป็นจานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๔๐ งบประมาณรายจา่ ยสาหรบั แผนงานบรหิ าร จัดการหน้ีภาครัฐ ให้ตัง้ เป็นงบประมาณรายจ่ายของหนว่ ยรับ งบประมาณ ๒๙๗,๖๓๑,๔๓๘,๙๐๐ ๒๐ ผูแ้ ปรญัตตขิ อสงวนคาแปรญัตติ นายกิตติศักด์ิ คณาสวสั ดิ์ ผู้แปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญัตติโดยขอปรับลดงบประมาณทต่ี ้งั ไวใ้ นรายการ ดงั ต่อไปนี้ รายการท่ีขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๔๐ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั แผนงานบริหาร จดั การหนีภ้ าครัฐ ใหต้ ัง้ เป็นงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับ งบประมาณ ๒๙๗,๖๓๑,๔๓๘,๙๐๐ ๑ นายเกรยี งศักดิ์ ฝ้ายสงี าม ผแู้ ปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรบั ลดงบประมาณท่ีต้ังไวใ้ นรายการ ดงั ต่อไปน้ี รายการท่ีขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๔๐ งบประมาณรายจ่ายสาหรับแผนงานบรหิ าร จดั การหน้ีภาครฐั ให้ต้ังเป็นงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับ งบประมาณ ๒๙๗,๖๓๑,๔๓๘,๙๐๐ ๒ นางสาวกุลวลี นพอมรบดี นายมนตรี ปาน้อยนนท์ นายครูมานติ ย์ สังข์พุ่ม นายสมคดิ เชือ้ คง นางสาวละออง ตยิ ะไพรัช นายสมบัติ ศรสี ุรนิ ทร์ นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสวุ รรณ นายไตรรงค์ ตธิ รรม นายทองแดง เบญ็ จะปัก นายสมมุติ เบญ็ จลกั ษณ์ ผู้แปรญตั ติ ขอสงวนคาแปรญัตติโดยขอปรบั ลดงบประมาณที่ตงั้ ไวใ้ นรายการ ดังต่อไปนี้ รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๔๐ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั แผนงานบรหิ าร จัดการหน้ภี าครัฐ ให้ตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับ งบประมาณ ๒๙๗,๖๓๑,๔๓๘,๙๐๐ ๕
-๔๐๒- นายเรวัต วศิ รุตเวช ผู้แปรญัตติ ขอสงวนคาแปรญัตติโดยขอปรบั ลดงบประมาณทต่ี ั้งไว้ในรายการ ดงั ต่อไปน้ี รายการท่ีขอสงวนคาแปรญัตติ ปรับลดลง (บาท) มาตรา ๔๐ งบประมาณรายจา่ ยสาหรบั แผนงานบริหารจัดการหนภี้ าครัฐ ๒. รัฐวิสาหกจิ (๑) การเคหะแหง่ ชาติ ๓,๑๖๕,๖๐๐ (๒) การรถไฟฟา้ ขนส่งมวลชนแหง่ ประเทศไทย ๓๙๔,๖๑๘,๗๐๐ (๓) การรถไฟแหง่ ประเทศไทย ๕๑๒,๙๔๗,๕๐๐ (๔) ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร ๑,๓๘๙,๕๓๕,๘๐๐ (๕) องค์การขนสง่ มวลชนกรุงเทพ ๑๐๙,๗๒๒,๙๐๐ นายอบั ดลุ อายี สาแม็ง ผ้แู ปรญัตติ ขอสงวนคาแปรญัตติโดยขอปรับลดงบประมาณท่ีตง้ั ไวใ้ นรายการ ดังต่อไปน้ี รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เป็นจานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๔๐ งบประมาณรายจ่ายสาหรบั แผนงานบริหาร จดั การหนภ้ี าครฐั ใหต้ งั้ เปน็ งบประมาณรายจา่ ยของหนว่ ยรับ งบประมาณ ๒๙๗,๖๓๑,๔๓๘,๙๐๐ ๗ นายณัฏฐ์ชนน ศรกี ่อเก้ือ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ นายไพจติ ศรวี รขาน นายฉลาด ขามชว่ ง นายเอกชยั ทรงอานาจเจริญ นางมนพร เจริญศรี นายอนรุ ักษ์ ต้ังปณธิ านนท์ นายคาพอง เทพาคา ผู้แปรญัตติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรับลดงบประมาณทต่ี ัง้ ไวใ้ นรายการ ดังต่อไปน้ี รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เปน็ จานวน (บาท) ปรบั ลดลง (%) มาตรา ๔๐ งบประมาณรายจา่ ยสาหรับแผนงานบริหาร จดั การหนี้ภาครัฐ ให้ตั้งเปน็ งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับ งบประมาณ ๒๙๗,๖๓๑,๔๓๘,๙๐๐ ๑๐ นายอนันต์ ศรพี ันธ์ุ ผู้แปรญัตติ ขอสงวนคาแปรญตั ติโดยขอปรบั ลดงบประมาณที่ตั้งไวใ้ นรายการ ดงั ต่อไปน้ี รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เปน็ จานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๔๐ งบประมาณรายจา่ ยสาหรับแผนงานบรหิ าร จดั การหนภ้ี าครฐั ให้ตงั้ เป็นงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรบั งบประมาณ ๒๙๗,๖๓๑,๔๓๘,๙๐๐ ๑๕
-๔๐๓- นายนิยม เวชกามา ผแู้ ปรญัตติ ขอสงวนคาแปรญัตติโดยขอปรับลดงบประมาณทตี่ งั้ ไว้ในรายการ ดังต่อไปน้ี รายการที่ขอสงวนคาแปรญัตติ เปน็ จานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๔๐ งบประมาณรายจา่ ยสาหรบั แผนงานบริหาร จดั การหนีภ้ าครัฐ ให้ต้งั เปน็ งบประมาณรายจา่ ยของหน่วยรับ งบประมาณ ๒๙๗,๖๓๑,๔๓๘,๙๐๐ ๒๐ คณะกรรมาธิการไม่เห็นด้วย ผู้แปรญตั ตขิ อสงวน ชอ่ื หมวด ๘ งบประมาณรายจา่ ยเพ่ือชดใช้เงินคงคลงั ไมม่ ีการแกไ้ ข ไม่มีกรรมาธกิ ารขอสงวนความเหน็ ไม่มีผ้แู ปรญัตตขิ อสงวนคาแปรญัตติ มาตรา ๔๑ ไม่มกี ารแกไ้ ข มีกรรมาธิการขอสงวนความเหน็ ไมม่ ผี ู้แปรญัตติขอสงวนคาแปรญัตติ นายประเสริฐ จนั ทรรวงทอง ผู้สงวนความเห็น ขอสงวนความเหน็ โดยขอปรบั ลดงบประมาณท่ตี ้ังไวใ้ นรายการ ดงั ตอ่ ไปนี้ รายการที่ขอสงวนความเห็น เปน็ จานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๔๑ งบประมาณรายจา่ ยเพอ่ื ชดใชเ้ งินคงคลัง ๕๙๖,๖๖๖,๗๐๐ ๕ ช่ือหมวด ๙ งบประมาณรายจา่ ยเพื่อชดใช้เงินทุนสารองจ่าย ไม่มกี ารแกไ้ ข ไม่มีกรรมาธกิ ารขอสงวนความเห็น ไมม่ ีผู้แปรญัตตขิ อสงวนคาแปรญตั ติ มาตรา ๔๒ ไม่มกี ารแก้ไข มกี รรมาธิการขอสงวนความเหน็ ไม่มผี ้แู ปรญัตติขอสงวนคาแปรญตั ติ นายประเสริฐ จนั ทรรวงทอง ผสู้ งวนความเหน็ ขอสงวนความเหน็ โดยขอปรบั ลดงบประมาณทตี่ ้ังไว้ในรายการ ดงั ตอ่ ไปนี้ รายการที่ขอสงวนความเห็น เปน็ จานวน (บาท) ปรับลดลง (%) มาตรา ๔๒ งบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินทุนสารองจ่าย ๒๔,๙๗๘,๕๖๐,๐๐๐ ๕
-๔๐๔- ๑๒. ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ๑. ภาพรวมข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามญั ฯ ๑.๑ “งบประมาณแผ่นดินลดลง ในปีท่ีประเทศ เจอวิกฤตโควิดต่อเน่ือง” รัฐบาลเสนอกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ จำนวน ๓,๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ลดลงจากวงเงินงบประมาณรายจา่ ยประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๓,๒๘๕,๙๖๒ ล้านบาท คดิ เปน็ ร้อยละ ๕.๖๖ เป็นการตั้งงบประมาณแบบขาดดุล และมีการกู้ชดเชยการขาดดุลสูงถึง ๗๐๐,๐๐๐ ล้านบาท สูงสุดที่สามารถขาดดุลได้ตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ เนื่องมาจากการจัดเก็บ รายได้ของรัฐบาลที่ลดลงมาก ตามสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ ทั้งนี้ แทบทุกหน่วยงานถูกปรับลดงบประมาณลง ทั้งที่ประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจ ไม่เว้นแม้แต่กระทรวงสาธารณสุขที่ทำหน้าที่หลักในการแก้ปัญหาและควบคุมการแพร่ ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ไดถ้ ูกปรบั ลดงบประมาณลงเชน่ เดียวกัน นอกจากน้ี รายจ่ายประจำ ถูกปรับลดลงร้อยละ ๗.๐ จนส่งผลกระทบต่องบประมาณด้านสวัสดิการบางส่วน เช่น กองทุนประชารัฐ เพื่อสวัสดิการถูกปรับลดลง ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท ทำให้อาจมีงบประมาณไม่เพียงพอจ่ายให้กับผู้ถือบัตร สวัสดิการแห่งรัฐตงั้ แตไ่ ตรมาส ๓ ของปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นตน้ ไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ออกพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจและสังคมจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ วงเงินกู้ ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีแผนที่จะเบิกจ่ายภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ราว ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งน่าจะบรรเทาผลกระทบจากการปรบั ลดงบประมาณไดบ้ างส่วน
-๔๐๕- ๑.๒ “รายจ่ายลงทุนท่ีจาเป็นคือรายจ่ายลงทุน ที่ก่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง” พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้กำหนดสัดส่วนให้รายจ่ายลงทุนต้อง ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เป็นสาเหตุให้ในปีท่ีงบประมาณถูกปรับลดลงอย่างปีนี้ รายจา่ ยลงทุนถูกปรบั ลดลงจากปที ่ผี า่ นมา เพยี งรอ้ ยละ ๓.๘ ในขณะทีร่ ายจ่ายประจำลดลงถึงรอ้ ยละ ๗.๐ แม้ว่ากรรมาธิการจะให้ความสำคัญกับรายจ่ายลงทุน เพราะมีความกังวลเรื่องสัดส่วนของรายจ่าย บุคลากรและงบดำเนินงานอื่น ๆ ที่สูงขึ้นทุกปี แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดพบว่า นิยามของรายจ่ายลงทุน นั้นครอบคลุมการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ซื้ออุปกรณ์สำนักงาน การก่อสร้างอาคารสำนักงาน และการก่อสร้าง ถนน เป็นต้น ซึ่งบางรายการอาจจะเป็นรายจ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ ในขณะที่การลงทุนในทุนมนุษย์อย่างงบประมาณด้านการศึกษาหรือการวิจัยและพัฒนา กลับไม่ถูกนับเป็น รายจ่ายลงทุน เปน็ เหตใุ หง้ บประมาณด้านการศึกษาและด้านวจิ ยั ถูกปรบั ลดลงอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ จึงต้องมีการทบทวนนิยามของคำว่า “รายจ่ายลงทุน” ให้การลงทุนในการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่ก่อให้เกิดรายได้ การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก การสร้างงานสร้างอาชีพ รวมถึงการลงทุนในมนุษย์ด้านการศึกษาหรือวิจัยและพัฒนาหรือด้านสาธาณสุข เป็น “รายจ่ายลงทุน” ด้วย เพ่อื ให้เกดิ การกระตนุ้ เศรษฐกิจของประเทศ และทำใหภ้ าครัฐสามารถจัดเกบ็ ภาษไี ดม้ ากขน้ึ
-๔๐๖- ๑.๓ “นอกจากหน้ีสาธารณะ ยังมภี าระหน้ีที่รัฐ ต้องชดใชใ้ ห้หน่วยงานภาครัฐ อีกเกือบ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ล้านบาท” ปัจจุบันประเทศไทยมีหนี้สาธารณะรวมทั้งสิ้น ๘,๕๙๙,๐๐๐ ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (GDP) คิดเป็นร้อยละ ๕๔.๙๑ แต่รัฐบาลมีแผนกู้เงินในระยะใกล้นี้ทั้งการกู้ ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ทีไ่ ด้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ และการกู้เพอ่ื ชดเชยขาดดุล งบประมาณ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องทบทวนกรอบวินัยการเงินการคลังที่มีการกำหนดเพดานหนี้สาธารณะไว้ ท่ีร้อยละ ๖๐ ในอกี ไมช่ า้ ทั้งนี้ นอกจากหนี้สาธารณะที่หลายฝ่ายมีความกังวลแล้ว รัฐบาลยังได้ก่อหนี้ที่ไม่ถูกนับรวมเป็นหน้ี สาธารณะด้วย เช่น ภาระหนี้ที่รัฐต้องรับชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานที่รัฐบาล มอบหมายให้ดําเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการจำนำผลิตผลทางการเกษตร โครงการประกันรายได้ที่มอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือโครงการสินเช่ือ ดอกเบี้ยต่ำของธนาคารออมสินที่รัฐต้องชดเชยส่วนต่างดอกเบี้ยให้ซึ่ง ณ เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๔ ยอดรวม ของภาระหนี้ส่วนนี้สูงถงึ ๙๗๓,๙๖๒.๓๔ ลา้ นบาท คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๒๙.๖๔ ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ด้วยข้อกำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๒๘ กำหนด สาระสำคัญว่า ภาระที่รัฐต้องรับชดเชยค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าว ต้องมียอดคงค้างทั้งหมดรวมกัน ไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยขณะนี้จำนวนหน้ีคงค้างมียอดวงเงินจนเกือบเต็ม เพดานแล้ว หากต้องการก่อหนี้เพิ่ม รัฐบาลต้องทยอยชำระหนี้ส่วนน้ีในงบประมาณแผ่นดิน วิธีการใช้จ่าย งบประมาณประเภทน้ีเรียกว่า “นโยบายกึ่งการคลัง” กระบวนการอนุมัติใช้เพียงมติคณะรัฐมนตรีเท่าน้ัน และไม่ได้ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภา ซึ่งทำให้ไม่สามารถตรวจสอบทราบได้ว่ารัฐบาลใช้จ่ายงบประมาณ ทั้งที่มาจากงบประมาณแผ่นดินและนโยบายกึ่งการคลังเป็นเงินจำนวนเท่าใด และที่สำคัญการใช้จ่าย งบประมาณจากหน่วยงานรัฐ ต้องพึงระวังว่าจะต้องไม่กระทบต่อสถานะการเงิน รวมไปถึงสภาพคล่อง ของหน่วยงานด้วย และที่ผ่านมารัฐบาลค้างชำระหนี้กับหน่วยงานต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เช่น หนี้ค้างจ่าย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรกว่า ๖๘๑,๕๙๒ ล้านบาท หน้ีค้างจ่ายกองทุนประกันสังคม ๗๖,๓๙๑ ล้านบาท ณ สิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังนั้น จึงควรมีการแยกหนี้ประเภทนี้ออกมาให้ชัดเจน และนิยามให้เป็นอีกหนึ่งประเภทของ หนี้สาธารณะ นอกจากนี้ การตั้งงบประมาณเพ่ือชำระหนี้ควรอยู่ภายใตแ้ ผนงานชำระหนภี้ าครฐั ไม่ใช่แผนงาน พื้นฐาน หรือแผนงานยุทธศาสตร์ ซึ่งควรดำเนินการตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเครง่ ครดั
-๔๐๗- ๑.๔ “กฎหมายหนี้สาธารณะจะทาให้ไมส่ ามารถ ใชน้ โยบายการคลังแบบขยายตัวได้เต็มที่ ในปงี บประมาณต่อ ๆ ไป” ตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ มาตรา ๒๑ ได้ระบุถึงเพดานในการกู้ เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณว่าต้องไม่เกิน “(๑) ร้อยละยี่สิบของงบประมาณรายจ่ายประจําปีที่ใช้บังคับ อย่ใู นขณะน้ันและงบประมาณรายจ่ายเพม่ิ เติม และ (๒) รอ้ ยละแปดสบิ ของงบประมาณรายจ่ายที่ต้ังไว้สําหรับ ชําระคืนเงินต้น” ด้วยเหตุน้ี ในปีงบประมาณที่ประเทศเกิดวิกฤตเศรษฐกิจและรัฐบาลจัดเก็บรายได้ได้น้อยลง ตามสภาวะเศรษฐกิจ หรือมีการลดหย่อนภาษีเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน ในปีนั้น ๆ อาจจะไมส่ ามารถใชน้ โยบายการคลังแบบขยายตวั โดยการต้ังงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพิ่มขน้ึ ได้ นอกจากนี้ เมื่อมีเพดานการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลนี้ ส่งผลให้รัฐบาลจำเป็นต้องใช้เงิน คงคลัง เพิ่มเติมเพื่อให้มีเงินสดพอสำหรับการใช้จ่ายในปีงบประมาณ ตัวอย่างเช่น ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า จะจัดเก็บรายได้ได้เพียง ๒,๓๒๐,๐๐๐ ล้านบาท ต่ำกว่าท่ีประมาณการ ๓๕๐,๐๐๐ ลา้ นบาท ทำใหร้ ัฐบาลขาดเงนิ สดท่จี ะตอ้ งนำมาใชจ้ า่ ยในปีงบประมาณน้ี รวมทั้งสิ้น ๙๘๐,๐๐๐ ลา้ นบาท แมจ้ ะกู้เงินเพ่ือชดเชยขาดดลุ จนเตม็ เพดานแลว้ แตย่ งั จำเปน็ ต้องใช้เงินคงคลังสำหรับปนี รี้ าว ๑๗๐,๐๐๐ ลา้ นบาท เป็นเหตุให้คาดว่าจำเป็นต้องตั้งงบประมาณชดใช้เงินคงคลังในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๖๗ โดยตั้งไว้ ที่ ๓,๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาท และ ๓,๓๑๐,๐๐๐ ล้านบาท๑ ซึ่งเมื่อต้องกันงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อชดใช้เงิน คงคลัง จะเหลอื งบประมาณที่จะนำไปใช้ได้จรงิ นอ้ ยลงไปอีก ทั้งนี้ ถึงแม้ว่ารฐั บาลไดอ้ อกพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพือ่ แก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ถึง ๒ ครั้ง ในวงเงินสูงถึง ๑,๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท แต่กลับพบว่า ในพระราชกำหนดไม่ได้มีการระบุรายละเอียดโครงการ ใหส้ ภาผู้แทนราษฎรและประชาชนไดต้ รวจสอบกอ่ น ด้วยเหตุนี้ จึงควรเร่งรัดหาทางออกจากวังวนปัญหาการคลังนี้โดยเร็วและหลีกเลี่ยงการกู้เงินโดยการ ออกพระราชกำหนดที่ควรให้ออกเฉพาะกรณีจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น หากมีการให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพิ่ม ในส่วนของการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนนี้ ควรตราเป็นพระราชบัญญัติงบประมาณเพิ่มเติมที่ชี้แจง รายละเอียดโครงการท่ีชัดเจนตรวจสอบได้ ๑ อ้างตามแผนการคลังระยะปานกลาง (พ.ศ ๒๕๖๕-๒๕๖๘)
-๔๐๘- ๑.๕ “โครงการท่ีใชง้ บประมาณแผน่ ดินกับโครงการ ที่ใชเ้ งนิ นอกงบประมาณอาจทับซอ้ นกัน” ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ รัฐบาลคาดว่าจะมีเงินนอกงบประมาณ สูงถึง ๔,๓๗๕,๑๔๗ ล้านบาท และสำนักงบประมาณได้รับรายงานจากหน่วยรับงบประมาณว่ามีการใช้เงินนอกงบประมาณเพื่อมาสมทบ ในโครงการต่าง ๆ สูงถึง ๑,๔๘๓,๑๓๓ ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากเมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณ แผ่นดินที่ได้รับจัดสรรในแต่ละปี แต่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ กลับไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า มีโครงการใด ที่หน่วยงานใชเ้ งนิ นอกงบประมาณจดั ทำโครงการท่ีอาจซ้ำซอ้ นกันกับโครงการท่ีใช้งบประมาณแผ่นดิน ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานต่าง ๆ จึงต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการท่ีใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณซึ่งจัดเป็น เงินแผ่นดินประเภทหนึ่งและงบประมาณแผ่นดินที่ได้รับจัดสรรเปรียบเทียบกันให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาด้วยทุกปี ทั้งนี้ หากมีการใช้จ่ายงบประมาณไปหลังจากการพิจารณางบประมาณแล้ว หน่วยงานต่าง ๆ ต้องจัดส่งขอ้ มลู และรายงานในปงี บประมาณต่อไปดว้ ย นอกจากนี้ ยังมีรายได้ของหน่วยงานรัฐอีกหลายส่วน เช่น มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ รายได้จาก เงินทุนหมุนเวียน และกองทุนสวัสดิการของหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมท่ีมีเงินทุนหมุนเวียน และสวสั ดิการเชงิ ธุรกิจมากกวา่ หนว่ ยงานอน่ื ซ่งึ เป็นเงินนอกงบประมาณท่ีไมส่ ามารถตรวจสอบได้
-๔๐๙- ๑.๖ “งบประมาณตามแผนยุทธศาสตร์ไม่ได้ระบุ ผลลัพธท์ ่ีจะเกิดข้ึน และไม่มีบรรทัดฐานท่ีชดั เจน” การระบุงบประมาณในแผนยุทธศาสตร์ภาพรวมมีลักษณะเป็นเพียงการรวมงบประมาณ ในหมวด เดียวกันไว้ด้วยกัน มากกวา่ จะเป็นการระบุเปา้ หมายทจี่ ะบรรลุร่วมกันไว้อยา่ งชดั เจน ตัวอย่างเช่น การรวมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของข้าราชการไว้ในหมวดการสร้างหลักประกัน ทางสังคมสำหรับประชาชน ส่วนสวัสดิการของประชาชนกลับกระจายอยู่ในหลายแผนงานยุทธศาสตร์ อาทิ เบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ท่ีถูกนำไปอยู่ในหมวดของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น แทนที่จะเป็นการ สร้างหลักประกันทางสังคม เพียงเพราะรัฐบาลจะใช้งบประมาณดังกล่าวนั้นผ่านการอุดหนุนไปยังองค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ยิ่งไปกว่านั้น การรวบรวมงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ เข้าไว้ในแผนงานยังไม่มีบรรทัดฐาน ที่ชัดเจนอีกด้วย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ แผนยุทธศาสตร์เกษตรสร้างมูลค่า ซึ่งมุ่งเน้นในการสร้างมูลค่าเพ่ิม ของสินค้าเกษตร ที่ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ มีการนำงบประมาณในโครงการตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการ สูงถึง ๔๑,๓๓๓ ล้านบาท เช่น นโยบาย รับจำนำผลผลิต นโยบายชดเชยดอกเบ้ยี ให้เกษตรกร เปน็ ตน้ เขา้ มาจัดไวใ้ นยทุ ธศาสตร์ดังกล่าว แม้วา่ จะไม่ได้ เกี่ยวข้องกับการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าทางการเกษตรเลยก็ตาม หรือโครงการจัดหาเครื่องมือตรวจวัด อากาศอัตโนมัติ ของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งใช้สำหรับตรวจอากาศให้ท่าอากาศยานต่าง ๆ ตามระเบียบ ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) กลับถูกบรรจุไว้ในแผนงานยุทธศาสตร์จัดการผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมอิ ากาศ ทั้งนี้ นอกจากจะจัดสรรแผนยทุ ธศาสตร์อย่างไมม่ บี รรทัดฐานแลว้ การจัดสรรงบประมาณตามภารกิจ ของหน่วยงานยังไม่มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ตัวอย่างเช่น โครงการจัดหาเรือ ตรวจการณ์ในการป้องกันปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายทางทะเลที่ผู้ใช้งาน คือ ตำรวจน้ำ แต่มีการตั้ง งบประมาณไว้ทั้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมสรรพสามิต หรือกรณีของงบประมาณเพื่อภารกิจ การกำจัดผักตบชวาในแหล่งน้ำ มีหลายหน่วยงานที่อาจมีการซ้ำซ้อนกัน เช่น กรมเจ้าท่า กรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทรัพยากรน้ำ กรมการทหารช่าง รวมถึงงบประมาณขององค์กรปกครอง สว่ นท้องถ่ิน ดังนั้น การจัดหมวดงบประมาณตามแผนยุทธศาสตร์ จึงควรระบุผลลัพธ์เป้าหมายในภาพรวม ทจ่ี ะเกิดขึน้ ในแตล่ ะแผนยุทธศาสตร์ และสร้างบรรทัดฐานท่ีชัดเจนในการจดั หมวดหมู่ของแผนงาน การจัดสรร งบประมาณโดยหน่วยรับงบประมาณกับผู้ใช้งานควรเป็นหน่วยงานเดียวกันเพื่อลดความซ้ำซ้อนของภารกิจ แตล่ ะหน่วยงาน
-๔๑๐- ๑.๗ “เอกสารงบประมาณควรอธบิ ายเหตผุ ล และความจาเป็นในการจดั สรรงบประมาณ ในมติ ิต่าง ๆ” รัฐบาลต้องแสดงเหตุผล ความจำเป็น และแนวทางในการจัดสรรงบประมาณในมิติต่าง ๆ ให้ชัดเจน และเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ประเทศจำเป็นต้องมีการจัดลำดบั ความสำคัญในการ จัดสรรงบประมาณใหม่ อย่างเช่น ในยามท่ีประเทศเกิดวิกฤตทั้งด้านสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจอันส่งผล กระทบอย่างมากต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ประกอบกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีซึ่งจำเป็น ตอ้ งปรบั ลดลง ทั้งนี้ เอกสารงบประมาณไม่ได้ระบุถึงยุทธศาสตร์หรือแนวทางการจัดสรรงบประมาณประจำปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ว่าจะเป็นอย่างไร ไม่มีการระบุการคาดการณ์แนวโน้มด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ว่าจะเริ่มคลี่คลายในไตรมาสใด เพื่อให้สอดคล้อง กับการจัดสรรงบประมาณประเภทที่ต้องมีการรวมกลุ่มของบุคคล เช่น การจัดอบรมสัมมนาหรืองบประมาณ สำหรับการเดนิ ทางไปต่างประเทศ นอกจากนี้ ในส่วนของการปรับลดงบประมาณด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมลงอย่างมาก กลับไม่มี คำอธิบายถึงเหตุผลในการปรับลดในเอกสารงบประมาณไม่มีคำอธิบายที่จะยืนยันว่าการลงงบประมาณ ด้านสวัสดิการของประชาชนและงบประมาณด้านสิ่งแวดล้อมลงจะไม่ทำให้คุณภาพชีวิตหรือคุณภาพ สิ่งแวดล้อมแย่ลง หรือจะมีผลกระทบต่อการบรรลุตามตัวชี้วัดเป้าหมายของการพัฒนาตามกรอบเวลาที่ได้ กำหนดไวใ้ นแผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศหรือไม่ ด้วยเหตุนี้ จึงควรระบุยุทธศาสตร์ หรือแนวทางการจัดสรรงบประมาณประจำปีให้ชัดเจน และเพ่ิม คำอธบิ ายเหตผุ ลความจำเปน็ ในการจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณในมิติต่าง ๆ รวมท้งั ระบสุ ถานการณ์ แนวโน้มในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม ไว้ในเอกสารงบประมาณฉบับที่ ๕ และเอกสารงบประมาณ โดยสังเขป ซึ่งเดิมระบุเพียงแนวโน้มด้านเศรษฐกิจและการคลังเท่านั้น และเป็นเพียงคำอธิบายสำหรับ การจัดเกบ็ รายได้ แม้ว่าการจัดสรรงบประมาณจะต้องเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี แผนแม่บท แผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ แต่แผนเหล่านั้นเป็นแผนระยะยาว ซึ่งอาจจะ ไม่สนองตอบต่อสถานการณ์และแนวโน้มในปัจจุบัน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการระบุยุทธศาสตร์ รายปี พร้อมทั้งเหตุผลและความจำเป็นให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนและกรรมาธิการที่ทำหน้าที่พิจารณา งบประมาณไดม้ หี ลักยึด และมคี วามเข้าใจทตี่ รงกัน รวมท้ังการตรวจสอบเปน็ ไปได้งา่ ยขึ้น
-๔๑๑- ๑.๘ “พบว่า ๑ ใน ๓ ของงบการเงินของหนว่ ยรบั งบประมาณ จดั ทารายงานไม่ถูกต้อง ผู้ตรวจสอบบญั ชไี ม่ให้ความเห็น หรอื ใหค้ วามเหน็ แบบมเี ง่ือนไข” ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรายงานการเงินของหน่วยงาน ราชการ องคก์ ารมหาชน และหน่วยงานอืน่ ของรฐั จำนวนทงั้ ส้นิ ๕๔๖ รายงาน ผลการตรวจสอบเปน็ ดงั นี้ ๑. ผู้ตรวจสอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างไม่มีเงื่อนไข (รายงานถูกต้อง) จำนวน ๓๖๙ รายงาน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๖๗.๕๘ ๒. ผู้ตรวจสอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข (ข้อมูลบางส่วนไม่สามารถตรวจสอบได้) จำนวน ๑๒๙ รายงานคิดเปน็ ร้อยละ ๒๓.๖๓ ๓. ผู้ตรวจสอบบัญชีแสดงความเห็นว่ารายงานการเงินไม่ถูกต้อง (ข้อมูลส่วนใหญ่ไม่ถูกต้อง) จำนวน ๑๖ รายงาน คดิ เปน็ ร้อยละ ๒.๙๓ ๔. ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่แสดงความเห็น (ข้อมูลส่วนใหญ่ไม่สามารถตรวจสอบได้) จำนวน ๓๒ รายงาน คดิ เป็นร้อยละ ๕.๘๖ จะเห็นได้ว่ามีรายงานท่ีผู้ตรวจสอบบัญชีพบว่า ข้อมูลข้อเท็จจริงไม่ถูกต้องบางส่วนหรือทั้งหมด สูงถึงร้อยละ ๓๒.๔๒ อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในภาพรวมท่ีรวมรายงานการเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และกองทุน จำนวนทั้งสิ้น ๘,๔๙๐ หน่วยงาน จะเห็นได้ว่าสัดส่วนของรายงานการเงินท่ีไม่ถูกต้องกลับลดลง เหลือร้อยละ ๑๕.๑๒ เนื่องจากการจัดทำรายงานการเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการจัดทำบัญชี และรายงานการเงินตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด ซึ่งแตกต่างจากมาตรฐานการบัญชีภาครัฐ และนโยบายการบัญชีภาครัฐที่หน่วยงานรัฐอื่น ๆ ใช้ จึงคาดการณ์ได้ว่า หากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นได้ ปรับมาใช้มาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐ จะทำให้สัดส่วนรายงานการเงินที่ไม่ถูกต้อง สงู ขนึ้ จากเดมิ ดังนั้น หน่วยงานรัฐ จึงควรเร่งปรับปรุงรายงานการเงินให้มีความถูกต้องโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ว่างบประมาณที่ได้รับจัดสรรจะถูกใช้อย่างถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ แม้ว่าหน่วยงานจำเป็นต้องใช้ ระยะเวลาในการปรบั ตวั ในการบังคบั ใช้มาตรฐานการบัญชภี าครฐั และนโยบายการเงนิ ภาครัฐ แตเ่ นือ่ งจากปีนี้ เป็นปีที่ ๓ หลังจากท่ีมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติวนิ ัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ จึงสมควรแก่เวลา ที่จะต้องปรับปรุงรายงานการเงินให้มีความถูกต้อง นอกจากน้ี หน่วยงานควรส่งรายงานการเงินที่มีรายงาน การตรวจสอบของผู้สอบบัญชใี หแ้ ก่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จึงจะถือวา่ เปน็ การสง่ เอกสารที่ครบถว้ นสมบูรณ์
-๔๑๒- ๑.๙ “กระทรวงการคลังควรแสดงสถานะทางการเงิน และแหล่งท่ีมาของงบประมาณเพ่ื อความโปร่งใส และเป็นไปตามกฎหมาย” ในการจัดทำงบประมาณประจำปี “กระทรวงการคลัง” จะต้องแสดงฐานะการคลังและแหล่งที่มา ของรายรับ โดยเฉพาะการชดเชยการขาดดุลงบประมาณ รวมทั้งการก่อหนี้เพิ่มเติมให้สมบูรณ์ครบถ้วน ตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสทางการคลังและน่าเชื่อถือเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีการ งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑๒ นอกจากนี้ ต้องระบุแหล่งที่มาของเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ เพราะแหล่งที่มาท่ีต่างกันส่งผล กระทบต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศที่แตกต่างกัน เช่น การออกพันธบัตรจำหน่ายให้ประชาชน หรือออกตั๋วสัญญาใช้เงินกับสถาบันการเงินจะไม่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ แต่หากมาจากแหล่งเงินอื่น เช่น การจำหน่ายพันธบัตรให้ธนาคารแห่งประเทศไทย อาจทำให้เกิดผลกระทบในอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งส่งผลโดยรวม ต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงต้องแสดงฐานะทางการเงินของระบบการเงินว่ามีสภาพคล่อง หรือมีเงินออมจำนวนเท่าใดที่สามารถให้รัฐบาลกู้ได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งการบริหารการคลัง รฐั บาลจะสง่ ผลตอ่ การขยายตัวของปริมาณเงนิ (Money Supply) เพยี งใด ในปีงบประมาณน้ัน ๆ ทั้งนี้ สภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน รัฐบาลมีการจัดเก็บรายได้ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ต่ำกว่าประมาณการเกือบ ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท และในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ คาดว่าจะต่ำกว่าประมาณการอีกไม่ต่ำกว่า ๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท การขาดดุลที่แท้จริงจึงสงู กว่า ๑,๐๐๐,๐๐๐ ลา้ นบาท ทงั้ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ พ.ศ. ๒๕๖๔ และ พ.ศ. ๒๕๖๕ อีกประการหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันนอกเหนือจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณแล้ว ยังมีการกู้เงินโดยการออกพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ วงเงินไม่เกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ และยังจะ มีการกู้เงินอกี ๕๐๐,๐๐๐ ลา้ นบาท ในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ด้วย ซ่ึงจะทำใหก้ ารขาดดุลและการก่อหน้ีเพมิ่ สูงขึน้ กวา่ ท่ีกำหนด ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้การพิจารณางบประมาณเป็นไปอย่างรอบคอบจึงต้องทราบถึงสภาพคล่องทางการเงิน ภายในประเทศวา่ มเี พียงพอให้รฐั บาลกเู้ งินหรอื ไม่ จำนวนเทา่ ใด และการขาดดลุ ทำให้เกิดหน้ีสาธารณะตอ่ ผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สูงขึ้นกว่าที่กำหนดไว้เป็นตัวชี้วัดตามความในพระราชบัญญัติวินัยการเงิน การคลงั ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ หรอื ไม่ ดังนั้น กระทรวงการคลัง จึงควรที่จะต้องแสดงแหล่งที่มาของงบประมาณ ฐานะการคลัง และภาระหนี้สิน ของประเทศ ทัง้ ในระยะสน้ั และระยะยาว ให้คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั ฯ พจิ ารณาด้วย ๒ มาตรา ๑๐, ๒๓, ๒๔ ตามพระราชบญั ญตั วิ ธิ กี ารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
-๔๑๓- ๑.๑๐ “ถึงเวลาทบทวนการจดั ทางบประมาณ แผนบูรณาการอยา่ งจรงิ จงั ” การจัดทำงบประมาณตามแผนงานบูรณาการซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ ๓ ยังคงพบว่า มีปัญหา และอุปสรรคที่สำคัญ ทั้งในมิติของการวางแผนงาน การจัดสรรงบประมาณ และในกระบวนการนำนโยบาย ไปปฏิบัติ ท่ีผา่ นมายังพบว่า หลายโครงการภายใตแ้ ผนบรู ณาการไมไ่ ดเ้ กดิ กระบวนการบูรณาการจริงเป็นเพยี ง การรวมโครงการจากหลายหน่วยงานไว้ในแผนงานเดียวกันเท่านั้น ทั้งที่แผนบูรณาการควรทำเป็นการเฉพาะกิจ เน้นประเด็นที่เกิดผลกระทบสงู และไม่สามารถทำสำเร็จได้ดว้ ยหน่วยงานใดหนว่ ยงานหนึ่ง ดังนั้น จึงควรทบทวนวิธีการจัดสรรงบประมาณตามแผนงานบูรณาการ และกระบวนการทำงานว่า ยังคงเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายวิธีการงบประมาณหรือไม่ และยังคงมีความจำเป็นที่จะต้อง ดำเนินการอยหู่ รือไม่ ทั้งน้ี หากยังคงดำเนินการต่อ ควรจัดทำแผนแม่บท (Master Plan) ของแต่ละแผนงานให้มีเป้าหมาย ตัวชี้วัดที่ชัดเจนและวัดผลได้จริง โดยมีเงื่อนเวลาท่ีกำหนดว่า จะต้องมีระยะเวลาดำเนินโครงการนานเท่าใด โดยมีแผนแต่ละปี จะมีแผนการดำเนินงานอย่างไรให้สอดคล้องกับเป้าหมายหลัก เพื่อให้การบูรณาการเกิดขึ้น จรงิ ในระดับกระบวนการ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนว่าแผนงานบูรณาการใดจะถูกบรรจุในแผนงบประมาณประจำปีทำให้ หน่วยงานเจ้าภาพไมส่ ามารถจดั ทำแผนงบประมาณทีถ่ ูกตอ้ งตามกระบวนการได้ทันเวลา หากมกี ารประเมนิ ผล ระหว่างดำเนินโครงการ และมีข้อตกลงร่วมกันในการยุติแผนงานบูรณาการ กรณีที่โครงการไม่เกิดผลสัมฤทธ์ิ ตามเป้าหมายหรือแจ้งกำหนดแผนบรู ณาการแต่เนิ่น ๆ จะทำให้หนว่ ยงานเจ้าภาพสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ ดีย่งิ ขึ้น และสามารถปรับปรงุ กระบวนการบูรณาการระหว่างหนว่ ยงานให้เกิดขน้ึ จริง การใช้จ่ายงบประมาณในส่วนของแผนงานบูรณาการ ถึงแม้จะได้กำหนดหน่วยงานเจ้าภาพของแต่ละ แผนงานไว้ มีการมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนบูรณาการให้กับรองนายกรัฐมนตรี แต่ในทางปฏิบัติการ ขับเคลื่อนแผนงานบูรณาการให้บรรลุเป้าหมายหรือผลสัมฤทธิ์และการใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพ สูงสุดยังเป็นไปได้ยาก เนื่องจากหากการดำเนินงานตามแผนงานบูรณาการแล้วไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ หรือเกิดผลสัมฤทธิ์ต่ำกว่าที่คาดจะไม่มีหน่วยงานใดที่ต้องรับผิดชอบ รวมถึงรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับ มอบหมายใหก้ ำกับดแู ลจะไมม่ คี วามผิดเชน่ กนั ดังนั้น จึงต้องกำหนดกระบวนการในการจัดทำแผนบูรณาการโดยคำนึงถึงเป้าหมายร่วมที่เป็นพื้นท่ี กลุ่มบุคคล หรือโครงการเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่จะต้องดำเนินการให้ชัดเจนขึน้ ถึงจะดำเนินการตามแผน บรู ณาการได้ ทั้งนี้ หากไม่สามารถปรับปรุงกระบวนการได้ เห็นควรให้ปรับลดงบประมาณของแผนงานบูรณาการ ให้ลดลง โดยให้นำงบประมาณของแผนงานบูรณาการไปกำหนดเป็นงบประมาณของแต่ละหน่วยงานแทน ซึ่งจะทำใหก้ ารดำเนนิ งานของแต่ละหนว่ ยงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-๔๑๔- ๑.๑๑ “ความคืบหนา้ ในการกระจายอานาจสู่ท้องถ่ิน เป็นไปอยา่ งล่าชา้ ท้ังการถ่ายโอนภารกิจ และปัญหารายได้” การถ่ายโอนภารกิจให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องสอดคล้องกับการจัดสรรเงินอุดหนุน ที่เพียงพอ “คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ควรกำหนดกรอบหรือ แนวทางในการถา่ ยโอนภารกิจที่ชดั เจน โดยเฉพาะด้านการเงิน การเตรียมความพร้อมบุคลากร และการเตรยี ม ความพร้อมด้านเครื่องมือครุภัณฑ์ในการบำรุงรักษา เพื่อลดปัญหากรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับ จัดสรรงบประมาณไมเ่ พียงพอต่อการดำเนนิ งานตามภารกจิ ถา่ ยโอน นอกจากนี้ คณะกรรมการการกระจายอำนาจฯ ควรผ่อนคลายหลักเกณฑ์ หรือมอบหมายภารกิจ การบำรุงรักษาทรัพย์สินแม้ว่าจะยังไม่ถูกถ่ายโอน เช่น กรณีระบบชลประทานประเภทประตูระบายน้ำ ฝาย ทำนบดิน ที่ชำรุดเสียหายแต่ประชาชนจำเป็นต้องใช้งาน และควรอำนวยความสะดวกในเรื่องการขอ อนุญาต ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินโครงการในพื้นที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น การจัด สาธารณปู โภคให้ชุมชนในพืน้ ทรี่ ับผิดชอบของหนว่ ยราชการทหาร หรอื พืน้ ที่เขตอุทยานแห่งชาติ ส่วน “รัฐบาล” ควรจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปให้เพียงพอต่อการดำเนินงานด้านการจัดสวัสดิการ ที่ถกู มอบหมายมาจากสว่ นกลาง เชน่ เบีย้ ยงั ชีพผู้สงู อายุ เบี้ยยงั ชีพผู้พิการ เงินอดุ หนนุ โครงการอาหารกลางวัน และนมโรงเรียนสำหรับเด็กนักเรียน สำหรับการจัดสรรเงินอุดหนุนเฉพาะกิจให้แต่ละองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ควรคำนึงถึงหลักเกณฑ์และเป้าหมายในการลดความเหลื่อมล้ำ โดยนำปัจจัยด้านรายได้ครัวเรือน ของประชากร สัดส่วนคนจนในแต่ละพื้นท่ีมาพิจารณาเพื่อกำหนดสัดส่วนการจัดสรรในภาพรวมให้มีความ เป็นธรรมมากข้ึน สำหรับ “เทศบาลนครและเทศบาลเมือง” ที่เพง่ิ เข้ามาเป็นหนว่ ยรบั งบประมาณโดยตรงจากสำนกั งบประมาณ เป็นปีท่ีสอง ซงึ่ ถือวา่ เป็นเรือ่ งใหม่สำหรบั เทศบาล ทำใหเ้ ทศบาลบางแห่งขาดความเข้าใจ และไมไ่ ดเ้ สนอขอรับ การจัดสรรงบประมาณ โดยเฉพาะประเภทเงนิ อุดหนนุ เฉพาะกจิ ส่งผลใหไ้ ด้รับผลกระทบตอ่ การบริหารจัดการ งบประมาณเปน็ อยา่ งมาก ส่วน “สำนักงบประมาณ” ควรชี้แจงหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนในรายละเอียดของเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ นอกจากนี้ ควรจัดอบรมเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในเรื่องกระบวนการแปรญัตติเพื่อจะได้ขอรับการจัดสรร งบประมาณเพ่ิมเตมิ ทัง้ น้ี เพ่ือไมใ่ หห้ นว่ ยรับงบประมาณเสียสิทธิในการขอรับการจดั สรรงบประมาณในปีตอ่ ไป
-๔๑๕- นอกจากนั้น ตามท่ีพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๒ ในส่วนของการจัดเก็บ ภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๓ แต่ได้มีการเลื่อนการจัดเก็บ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไปจนถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ ตลอดจนสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ทำให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลงร้อยละ ๙๐ จึงส่งผลให้รายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลดลงเป็นจำนวนมาก และทำให้ไม่สามารถดำเนินงาน ตามแผนงานและโครงการท่กี ำหนดได้ ดังนั้น เมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ แล้ว เพื่อเป็นการชดเชยรายได้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐบาลจึงควรจัดสรรรงบประมาณเงินอุดหนุน ทั่วไปตามจำนวนที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอขอเพิ่มงบประมาณ ผ่านรัฐบาลเข้ามา เพื่อชดเชยรายได้จากการปรับลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ไดร้ ับผลกระทบโดยเรง่ ดว่ น
-๔๑๖- ๑.๑๒ “เร่งปรับปรุงกระบวนการพิจารณา และแนวทางจดั สรรงบประมาณ ให้มปี ระสิทธภิ าพ” เนื่องจากปริมาณงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี มีจำนวนเพิ่มขึ้นในแต่ละปี อันเนื่องมาจากงบประมาณที่เพ่ิมขึ้น จำนวนคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และจำนวนคณะอนุกรรมาธิการได้เพิ่มขึ้น รวมถึงจำนวนหน่วยรับงบประมาณที่เพิ่มขึ้น โดยในที่สุดเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล อีกกว่า ๗,๐๐๐ แห่ง กำลังจะกลายเป็นหน่วยรับงบประมาณตรง ซึ่งทั้งหมด จะต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ด้วยเช่นเดียวกัน ในขณะที่ปริมาณงานมากขึ้น กรอบเวลาในการพิจารณากลับถูกจำกัดด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญให้ใช้เวลาได้ไม่เกิน ๑๐๕ วัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการทบทวน ปรับปรุง และแก้ไขกระบวนการการทำงานในชั้นกรรมาธิการเพื่อให้ การพจิ ารณางบประมาณเปน็ ไปอยา่ งมีประสิทธภิ าพมากข้ึน อย่างไรก็ตาม การศึกษาเพื่อทบทวน ปรับปรุงกระบวนการพิจารณางบประมาณควรทำการศึกษา วิจัยอย่างรอบคอบ โดยถอดบทเรียนจากการพิจารณาที่ผ่านมาซึ่งจะขอสรุปข้อสังเกตจากการพิจารณา งบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ไว้ ดังน้ี • คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ชุดต่อไป ควรมีข้อสรปุ ร่วมกันเรือ่ งขอบเขต แนวทาง และข้ันตอน การพิจารณางบประมาณตั้งแต่ในการประชุมครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรทำข้อตกลง ร่วมกันเรื่องกำหนดเวลาที่ใช้ในการพิจารณานอกเหนือไปจากการตกลงเรื่องลำดับการเข้า ชี้แจงของหนว่ ยงาน • นอกเหนือจาก ๔ หน่วยงานหลัก (สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานสภา พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย) ที่เข้ามาชี้แจง ในภาพรวมก่อนการพิจารณางบประมาณรายหน่วยงานควรให้คณะกรรมาธิการศึกษาการ จัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงบประมาณ ของรัฐสภา (PBO) ร่วมนำเสนอข้อสังเกต หรือรายงานการติดตามงบประมาณปีที่ผ่านมา กับคณะกรรมาธิการวสิ ามญั ฯ ด้วย • หน่วยงานต่าง ๆ ควรทบทวนการจัดทำเอกสารชี้แจง เนื่องจากมีการใช้รูปแบบเดิมมา เป็นระยะเวลานาน โดยไม่มีการปรับปรุงแก้ไข จึงอาจมีเนื้อหาบางส่วนท่ีไม่มีความจำเป็น อกี ตอ่ ไป ในขณะเดียวกนั อาจมีเนื้อหาอื่น ๆ ท่ีกรรมาธิการเห็นวา่ ควรเพมิ่ เติม จึงจำเป็นต้อง มีการทบทวน เพื่อไม่ให้เอกสารมีปริมาณมากจนไม่สามารถจัดระเบียบได้ และเป็นภาระ ต่อหนว่ ยงานในการผลติ เอกสาร ทง้ั คา่ ใช้จา่ ยและทรพั ยากร
-๔๑๗- • หน่วยงานต่าง ๆ ควรส่งเอกสารล่วงหน้าก่อนการพิจารณา และจัดเตรียมเอกสารเป็นไฟล์ ดจิ ิทลั เพอ่ื อำนวยความสะดวกในการรวบรวม สบื คน้ และจดั ระเบยี บ • หน่วยงานต่าง ๆ ควรจัดทำเอกสารแสดงรายการขอจัดสรรงบประมาณทีแ่ ยกเป็นรายจังหวดั เพื่อให้กรรมาธิการสามารถพิจารณาเปรียบเทียบได้สะดวกยิ่งขึ้นว่ามีการจัดสรรโครงการ อยา่ งเป็นธรรมหรอื ไม่ • สำนักงบประมาณ ควรให้ความสำคัญในการตรวจสอบหน่วยรับงบประมาณให้ต้องปฏิบัติ ตามแนวทางและหลักการสำคัญในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี อย่างเคร่งครัด เช่น ตรวจสอบระยะเวลาการตั้งโครงการจ้างที่ปรึกษาและอัตราเงินเดือนที่ปรึกษา การตรวจสอบราคาท่ีสูงกว่าท้องตลาด หรือตรวจสอบความถูกต้องของใบเสนอราคาซึ่งจะ ชว่ ยให้คณะกรรมาธิการวสิ ามัญฯ ประหยดั เวลาในการพิจารณางบประมาณ ไดอ้ ย่างมาก • หน่วยงานต่าง ๆ ควรเปิดเผยข้อมูล โดยการตีตราเอกสารลับ หรือลับมากเท่าที่จำเป็น รวมทั้งไม่ควร เรียกคืนเอกสารประกอบการชี้แจง (เพิ่มเติม) ต่อกรรมาธิการหรืออนุกรรมาธิการ เช่น รายการ ครุภัณฑ์อาวุธยุทโธปกรณ์ เนื่องจากในที่สุดรายการในเอกสารที่ตีตราลับเหล่านี้จำเป็นต้อง แสดงในประกาศจัดซื้อจัดจ้างในหน้าเว็บไซต์ ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานที่ขอจัดสรรงบประมาณ จัดหาครุภณั ฑ์อาวุธยทุ โธปกรณ์เหมอื นกนั ได้แสดงข้อมลู โดยไมต่ ีตราลบั หรือเรยี กเอกสารคืน และมีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทุกหน่วยงานจึงควร ปฏบิ ัตใิ นแนวทางเดยี วกัน • สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ควรถ่ายทอดการพิจารณางบประมาณของคณะกรรมาธิการ วสิ ามญั ฯ และคณะอนกุ รรมาธกิ าร ต่อสื่อมวลชนและสาธารณะ เพอ่ื ใหป้ ระชาชนได้รับทราบและ ตดิ ตามการพิจารณางบประมาณ ซึง่ จะทำเกดิ ความโปรง่ ใสมากขนึ้ • สำหรับแนวทางการจดั สรรงบประมาณของรัฐบาลนัน้ เดิมการพจิ ารณาจัดสรรงบประมาณใช้ วิธีการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามร้อยละยอดวงเงินงบประมาณรายรับทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นหรือ ลดลงในแตล่ ะปี โดยไมไ่ ดพ้ จิ ารณาถงึ ความจำเปน็ ตามภารกิจของหนว่ ยงาน ทำให้หนว่ ยงาน ที่มีศักยภาพในการเพ่ิมมูลค่าทางเศรษฐกิจ และมีภารกิจในการหารายได้หรือสร้างรายได้ให้ ประเทศ เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ ถูกจำกัดความสามารถในการใช้ นวัตกรรมขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยเหตุน้ี สำนักงบประมาณ จึงควร ทบทวนหลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณโดยให้หน่วยรับงบประมาณจัดสรรงบประมา ณ ตามความจำเป็นอย่างเหมาะสม เพื่อนำไปใช้ในแผนงานโครงการที่จะก่อให้เกิดรายได้ ในประเทศต่อไป ท้ังน้ี หนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้อง ควรมกี ารออกกฎหมายลำดบั รองของมาตรา ๑๔๔ รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ท่ีกำหนดบรรทัดฐานหรือหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในเรื่องของการพิจารณางบประมาณ เพื่อแสดง ให้ชัดเจนว่า กรณีใดกระทำได้ กรณีใดห้ามมิให้กระทำ เพื่อลดการตีความและให้การบังคับใช้กฎหมายตรง ตามเจตนารมณ์ไม่เปน็ ข้ออ้างหรือเคร่ืองมือในการพิจารณาจดั สรรงบประมาณ
-๔๑๘- ๑.๑๓ “งบรายจา่ ยอ่ืนควรมีให้น้อยท่ีสุด” ในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณขอรับงบประมาณภายใต้งบรายจ่ายอื่น ควรจัดทำข้อมูลให้มีรายละเอียด ที่สมบูรณ์ครบถ้วนเพื่อให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาและตรวจสอบ รวมทั้งเพื่อให้ทราบว่า โครงการ ที่อยู่ภายใต้งบรายจ่ายอื่นนำงบประมาณไปใช้ในลักษณะใด เช่น เงินราชการลับ เงินค่าปรับที่จ่ายคืนให้แก่ ผู้ขายหรือผ้รู บั จา้ ง หรอื ค่าจา้ งที่ปรึกษาเพอ่ื ศกึ ษา วจิ ยั ประเมินผล เป็นตน้ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายที่สำนักงบประมาณกำหนด และเพื่อแสดงความโปร่งใส ความคุ้มค่า ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการใช้จ่ายงบประมาณ เนื่องจากบางหน่วยงานตั้ง “งบรายจ่ายอื่น” สูงผิดปกติอย่างต่อเนื่องทุกปี เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้ขอรับงบประมาณภายใต้งบรายจ่ายอื่นถึงร้อยละ ๙๓.๗๘ โดยเมื่อตรวจสอบกับรายงานการเงิน แล้วกลับเป็นเงินราชการลับจำนวนมาก เมื่อพิจารณารายละเอียดของโครงการพบเพียงชื่อโครงการ และยอดเงินที่ขอมาเท่านั้น แต่ไม่ได้ระบุค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดว่า โครงการดังกล่าวนำงบประมาณไปใช้ ในลักษณะใด ทำให้เกดิ ข้อสงสัยและอปุ สรรคในการตรวจสอบการใชจ้ ่าย นอกจากนี้ ในเรื่องของการจ้างที่ปรึกษา ทุกหน่วยงานควรขอรับจัดสรรงบประมาณรายการค่าที่ปรึกษา เท่าที่จำเป็น โดยควรพิจารณาขอคำปรึกษากับบุคลากรในหน่วยงานที่มีความสามารถอยู่แล้วก่อน เพราะการจ้าง ที่ปรึกษาคนนอกมีค่าตอบแทนสูงและเป็นการทำงานเพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่เป็นภาระงบประมาณของแผ่นดิน จำนวนมาก
-๔๑๙- ๑.๑๔ “งบกลางต้องใชใ้ ห้ตรงกับวัตถุประสงค์” การใช้จ่ายงบประมาณในส่วนของงบกลางรายการ “ค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙” ซึ่งได้รับมาจากการแปรญัตติปรับลด งบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ ต้องนำไปใช้ในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เท่านั้น โดยต้องไม่นำ ไปใชใ้ นเร่อื งอืน่ ๆ ทั้งนี้ งบประมาณรายจ่ายงบกลาง ไม่ปรากฏว่ามีรายงานตรวจการเงินของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ที่แสดงถึงการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินงบกลางของหน่วยงาน ดังนั้นจึงควรให้มีการ ตรวจสอบซึ่งเป็นหน้าที่และอำนาจการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยต้องเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ รวมทั้งเผยแพร่ ผ่านทางส่อื อิเล็กทรอนิกส์ด้วย นอกจากนี้ หลังจากที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ประกาศใช้บังคับ แล้ว ขอให้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ปรับปรุงระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการ ค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยขอให้ตัดความใน ข้อ ๔ (๑) ออกทั้งหมด และให้ยึดถือหลักการตามข้อ ๙ เป็นแนวปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ในกระบวนการอนุมัติ ควรระบุรายละเอียดโครงการให้ชัดเจน เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณ มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ เพื่อให้การใช้งบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด แก่ประชาชน โดยให้คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการตดิ ตาม ตรวจสอบ และรายงานให้สภาผู้แทนราษฎรทราบ
-๔๒๐- ๒. ข้อสังเกตการจดั สรร - ควรให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจ งบประมาณรายจา่ ย ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปรับปรุงการประเมิน ประจาปงี บประมาณ “รางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหาร พ.ศ. ๒๕๖๕ จัดการที่ดี” โดยให้ประชาชนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการ ของกระทรวง ประเมิน และหน่วยงานของรฐั นอกจากนี้ ยังควรติดตามผลงานของหน่วยงาน ๒.๑ สำนักนำยกรฐั มนตรี ที่ได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นรักษาคุณภาพ พร้อมทั้งถอดบทเรียน ๒.๑.๑ สำนกั นายกรัฐมนตรี และปัจจัยความสำเร็จให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน - ควรปรับโครงสร้างหน่วยงานในกำกับสำนัก อ่ืน ๆ ได้ศกึ ษาเป็นตัวอย่าง นายกรัฐมนตรี ให้เป็นหน่วยงานด้านกำหนดนโยบาย ส่วนหน่วยงานด้านปฏิบัติการให้ไปสังกัดกระทรวง - ควรให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ ที่รับผิดชอบหรอื มหี น้าท่ีแทน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหาแนวทางผ่อนปรน - ไมค่ วรเพิม่ หนว่ ยงานซึง่ มภี ารกจิ ท่ีซ้ำซ้อน กฎระเบียบเพื่อให้จังหวัดซึ่งเป็นหน่วยรับงบประมาณ กนั กบั ส่วนราชการอ่นื เพราะจะต้องเพ่ิมงบประมาณ สามารถขอรับจดั สรรงบประมาณเพื่อแกไ้ ขปญั หาให้กบั และเพิ่มบุคลากรจำนวนมากขึ้นซึ่งเป็นภาระ ท้องถิ่นได้ หรือให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือท้องถิ่น ด้านงบประมาณของประเทศ เช่น ศูนย์อำนวยการ ในภารกิจที่ได้มีการถ่ายโอนให้ท้องถิ่นแล้วแต่อาจจะ รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ซึ่งมี เกินศกั ยภาพของทอ้ งถ่นิ หรอื งบประมาณไม่เพยี งพอ ภารกิจและบุคลากรทับซ้อนกันกับกองทัพเรือ และกรมทรัพยากรชายฝ่งั - ควรให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พิจารณาแนวทาง เ พ ื ่ อ จ ั ด ส ร ร ง บ ป ร ะ ม า ณ ส ำ ห ร ั บ ก า ร ซ ่ อ ม บ ำ รุ ง ทางลาดยางที่มีการถ่ายโอน รวมไปถึงเร่งถ่ายทอด องค์ความรู้ในการบำรุงรักษาถนน เพื่อให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นมีศักยภาพอย่างเต็มท่ีในการ ดูแลเส้นทางที่ได้รบั ถา่ ยโอน - ควรทบทวนกฎหมายในการตั้งสำนักงาน คณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ แห่งชาติ เนื่องจากอาจจะหมดความจำเป็นแล้ว ในปจั จุบนั เพราะมีหน่วยงานอื่นทม่ี ีภารกิจใกล้เคียงกัน เช่น สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล สำนักงาน คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ เพื่อลดความซ้ำซ้อนและความสิ้นเปลือง งบประมาณ
-๔๒๑- ๒.๑.๒ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี - ควรศกึ ษาวเิ คราะห์และรวบรวมปญั หาอุปสรรค ต่าง ๆ ในกระบวนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ - ควรบรรจุระเบียบวาระจรในการประชุม งบประมาณรายจ่ายประจำปีของสภาผู้แทนราษฎรว่า คณะรัฐมนตรีเฉพาะที่เป็นวาระเร่งด่วนและสำคัญ มีปัญหาอุปสรรคในเรื่องใด ทั้งในชั้นคณะกรรมาธิการ เท่านน้ั และอนกุ รรมาธิการ เพ่อื หาแนวทางแก้ไขปัญหาซึ่งจะทำ ให้การพิจารณางบประมาณมปี ระสทิ ธิภาพมากข้ึน - ควรเปิดเผยเอกสารและมติคณะรัฐมนตรี เป็นการทั่วไป โดยปกปิดเป็นวาระลับเฉพาะเรื่องที่ - ควรมีการตรวจสอบเอกสารประกอบการ จำเปน็ เพอื่ ให้ประชาชนเขา้ ถงึ ได้ง่ายขึ้น ชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการ ต่าง ๆ ให้มีความครบถ้วน เพื่อให้คณะกรรมาธิการ ๒.๑.๓ สำนักเลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรี วิสามัญฯ มีข้อมูลประกอบการพิจารณารายละเอียด ของงบประมาณ เน่ืองจากในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ - ควรกำหนดตัวชี้วัดเชิงการแก้ไขปัญหา พบว่ามีส่วนราชการจำนวนหนึ่งขาดการนำส่งผล ของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (๑๑๑๑) มากกว่า รายงานการตรวจสอบรายงานการเงินของสำนักงาน จำนวนเร่ืองท่เี ขา้ ส่รู ะบบ การตรวจเงินแผน่ ดนิ (สตง.) - ควรแสดงเอกสารงบประมาณที่มีรายละเอียด - ควรพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้ ครบถ้วนตามที่กำหนด สอดคล้องกบั กฎหมายวา่ ด้วยการพิจารณาแผนและ ขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง ๒.๑.๔ สำนักงบประมาณ ส่วนท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด โดยจัดสรรงบประมาณ เป็นงบเงินอุดหนุนทั่วไปให้แก่องค์กรปกครอง - ควรให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วน ส่วนท้องถิ่น (อปท.) สำหรับดำเนินการตามภารกิจ ร่วมในกระบวนการงบประมาณให้มากกว่าปัจจุบัน ถ่ายโอนรายการปรับปรุงซ่อมแซมถนน ให้เพียงพอ เพ่ือสร้างความโปรง่ ใสและลดปัญหาการทุจริตได้ ตามปริมาณถนนที่ถ่ายโอน - ควรจัดทำเอกสารงบประมาณ โดยให้ - ควรกำหนดตัวชี้วัดในการจัดฝึกอบรม จำแนกงบประมาณตามรายจังหวัด เพื่อจะได้ทราบ สัมมนานอกเหนือจากการวัดด้วยจำนวนผู้เข้ารับ ว่าแต่ละจังหวัดได้รับการจัดสรรงบประมาณของ การอบรมสัมมนา โดยเพิ่มผลลัพธ์ที่ได้ เช่น ความรู้ หนว่ ยงานต่าง ๆ อยา่ งเทา่ เทยี มเป็นธรรมหรือไม่ ความเข้าใจที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ทราบถึงผลสัมฤทธ์ิ ของการฝึกอบรมอยา่ งแทจ้ รงิ - ควรปรับปรุงเอกสารงบประมาณที่ส่งให้ รัฐสภาพิจารณาในแต่ละปีที่มีจำนวนมากและเข้าใจ - ควรสนับสนุนงบประมาณในงานวิจัยของ ยาก ให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยสรุปรายละเอียดที่สำคัญ หน่วยงานเพื่อให้สามารถนำงานวิจัยไปพัฒนา และรวบรวมปัญหาอุปสรรค เกี่ยวข้อง และอาจ และเพมิ่ ขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ ร่วมดำเนินการกับสถาบันพระปกเกล้า หรือสำนัก เพราะงานวจิ ยั สามารถนำไปเพ่มิ มลู คา่ ทางเศรษฐกจิ ได้ งบประมาณของรัฐสภา เพื่อเผยแพร่ให้สมาชิก รฐั สภา กรรมาธิการ และประชาชนทสี่ นใจ - ควรมีการเผยแพร่เอกสารงบประมาณ ในรูปแบบไฟล์ข้อมูลที่มีความพร้อมในการใช้งาน ในรปู แบบทีส่ ามารถประมวลผลได้
-๔๒๒- - ควรให้ความสำคัญในการพจิ ารณาจัดสรร ๒.๑.๖ กองอำนวยการรกั ษาความม่นั คง งบประมาณตามภารกิจและความจำเป็น ศักยภาพ ภายในราชอาณาจักร และฐานะเงินนอกงบประมาณที่มีอยู่ หรือสามารถ นำมาใช้จ่ายได้ของแต่ละมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะ - ควรทบทวนแผนงานเพื่อบูรณาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในท้องถิ่น ในการพัฒนาระบบข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ BIG DATA เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษา และเพ่ิม ด้านความมั่นคง ที่ซ้ำซ้อนกับโครงการระบบฐานข้อมูล ประสทิ ธิภาพของบุคลากรทางศกึ ษาอย่างเทา่ เทยี ม ขนาดใหญ่ของหลายหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้แก่ สำนกั งานปลัดกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจ - ควรพิจารณากลั่นกรองคำของบประมาณ แหง่ ชาติ เปน็ ต้น ของหน่วยงานต่าง ๆ ให้ตรงตามวัตถุประสงค์และ เป้าหมายของหน่วยงานอย่างแท้จริง ก่อนนำร่าง อีกทั้ง ยังเป็นการใช้งบประมาณที่สูง พ ร ะ ร า ช บ ั ญ ญ ั ต ิ ง บ ป ร ะ ม า ณ ร า ย จ ่ า ย ป ร ะ จ ำ ปี ถึง ๓๖๐ ล้านบาท และผูกพัน ๔ ปีงบประมาณ งบประมาณ พ.ศ. .... เข้าสู่การพิจารณาของ ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและการคลัง สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ของประเทศ ในการจดั สรรงบประมาณให้กบั หนว่ ยงานน้ัน ๆ - ควรใชว้ ธิ กี ารเจรจาเพื่อสนั ตภิ าพมากกว่าการ ๒.๑.๕ กรมประชาสมั พนั ธ์ ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ เพราะท่ี ผ่านมาได้นำไปสู่ความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน - ควรทบทวนโครงการพัฒนาการใหบ้ ริการ ของทหารและพลเรือนเป็นจำนวนมาก สื่อวิทยุโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียงผ่าน เทคโนโลยีสื่อผสม เนื่องจากหน่วยงานหวังผลลัพธ์ - ควรนำงบบูรณาการของหน่วยงานไปช่วยเหลือ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึน้ หากแต่ ประชาชนให้ได้รับการศึกษา มีกิน และมีอาชีพ แทน การสร้าง “PRD Application” ภายใต้พฤติกรรม การจดั ซ้ือยุทโธปกรณห์ รือการดำเนินการดา้ นการข่าว ของผู้ชมสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ที่เปลี่ยนไป อาจจะเป็น การใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า เพราะนอกจาก ๒.๑.๗ สำนักข่าวกรองแหง่ ชาติ งบประมาณเพื่อผลิตแอปพลิเคชันดังกล่าวแล้ว หน่วยงานยังต้องใช้งบประมาณเพื่อประชาสัมพันธ์ - ควรกำหนดนิยามของ คำวา่ ภัยคกุ คามของ ให้ประชาชนรับรูถ้ งึ “PRD App” ในขณะที่ปจั จบุ ัน ชาติให้ครอบคลุมถึงภัยทุกประเภท เพื่อกำหนดแผน มีโซเชียลมีเดียมากมาย ที่หน่วยงานสามารถใช้เป็น และแนวทางการรองรบั สถานการณ์อย่างทนั ท่วงที ส่อื กลางได้ เชน่ Facebook และ YouTube เป็นต้น ๒.๑.๘ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา - ควรทำหน้าที่หลักในการประชาสัมพันธ์ ระบบราชการ นโยบายของรัฐบาล และทำหน้าที่สื่อสร้างสรรค์ มีความเป็นกลางทางการเมืองและใช้งบประมาณ - ควรบูรณาการงานด้านการตรวจสอบ อยา่ งคมุ้ ค่ามีประสทิ ธภิ าพ และประเมินผลกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อความมีประสิทธิภาพ และลดปริมาณงานในการจัดทำตัวชี้วัดของหน่วย ราชการต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของส่วนราชการ มากเกนิ ไป
-๔๒๓- ๒.๑.๙ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ๒.๑.๑๒ สำนักงานคณะกรรมการ ผู้บริโภค ขา้ ราชการพลเรอื น - ควรปรับปรุงกระบวนการทำงาน การรับเรื่อง - ควรจัดสรรงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับ ร้องเรียนผ่านสายด่วน การเร่งรัดแก้ไขข้อร้องเรียน ทุนการศึกษาของนักเรียนทุนให้เพียงพอ และหา อยา่ งรวดเร็ว และกำหนดตัวชี้วดั เชิงปริมาณที่ชดั เจน แนวทางส่งเสริมให้นักเรียนทุนของหน่วยงานรับ ราชการต่อไปหลงั จากชดใช้ทุนครบตามระยะเวลาท่ี - ควรดูแลผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรม กำหนด และตรวจสอบสินคา้ ทีน่ ำเขา้ จากต่างประเทศอยา่ งรัดกุม - ควรบูรณาการการจัดการด้านกำลังคน - ควรส่งเสริมความรูเ้ พื่อให้ผู้บริโภครับทราบ ภาครัฐกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ดูแลข้าราชการ สิทธิของผู้บริโภค ที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดของหน่วยงาน เช่น คณะกรรมการ ข้าราชการตำรวจ คณะกรรมการข้าราชการทหาร - ควรเร่งรัดการออกประกาศควบคุมอัตรา คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ค่าทวงถามหนี้ของบริษัทเช่าซื้อรถยนต์ที่เป็นธรรม ศึกษา ให้มาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงาน กบั ทั้งเจา้ หนี้และลูกหนี้โดยเรว็ ทสี่ ดุ เพื่อให้การขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการกำลังคน ตามแนวทางของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมาย ๒.๑.๑๐ สำนักงานสภาความมนั่ คงแห่งชาติ และนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) บรรลุเป้าหมายได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ - ควรบูรณาการแผนต่าง ๆ โดยจัดทำ Road Map เกี่ยวกับหน่วยงานด้านความมั่นคงใน - ควรตรวจสอบการจ้างกำลังคนในรปู แบบ ประเทศ เพือ่ ขับเคลอื่ นปัญหาตา่ ง ๆ เป็นองคาพยพ การจ้างเหมาบริการเพื่อช่วยปฏิบัติราชการที่เพิ่ม เดียวกนั มากขึ้นทุกปี โดยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ บุคลากร แทนการใช้วิธีการจ้างเหมาบุคลากรเพิ่ม - ควรมีการเผยแพร่แผนงานเกี่ยวกับ ซง่ึ เปน็ ลกั ษณะการจ้างงานท่ีไม่มีความมั่นคงในอาชีพ การแกไ้ ขปัญหาด้านความม่ันคงต่าง ๆ ใหห้ น่วยงาน และไดค้ ่าตอบแทนท่ตี ำ่ กวา่ ปกติ ทเ่ี กี่ยวข้อง เพอื่ ให้ดำเนินการไปในทิศทางเดยี วกนั ๒.๑.๑๓ สำนกั งานคณะกรรมการสง่ เสริม ๒.๑.๑๑ สำนกั งานทรัพยากรน้ำแหง่ ชาติ การลงทุน - ควรดำเนินการในฐานะหน่วยงานกำกับ - ควรกำหนดมาตรการอื่น ๆ เพิ่มเติม นโยบายในการกำกับและตรวจสอบการดำเนินงาน นอกเหนือจากการกำหนดเงือ่ นไขการลงทุนในปัจจุบัน ของหนว่ ยปฏิบัติให้มากขึน้ ของหน่วยงานเพือ่ ส่งเสรมิ การลงทนุ เพราะอาจไม่จูง ใจนักลงทุนมากพอเมื่อเทียบกับเงื่อนไขการลงทุน - ควรมีความร่วมมอื กบั หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ของประเทศเพ่ือนบ้าน เพื่อไม่ให้มีภารกิจซ้ำซ้อน โดยอาจยุบหรือรวม หน่วยงานท่ีมคี วามซ้ำซ้อน - ควรกระจายพื้นที่ในการส่งเสริมลงทุน และกระจายความเจริญไปทุกภมู ภิ าค ไมจ่ ำกัดเพยี ง - ควรเผยแพร่ผังน้ำและแนวทางการ โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวนั ออก ดำเนินงานให้ประชาชนรับทราบ และมีส่วนร่วม ในการพฒั นาแต่ละลมุ่ นำ้
-๔๒๔- - ควรบูรณาการข้อมูลการลดหย่อนภาษี ๒.๑.๑๖ สถาบันบริหารจัดการธนาคาร เงินได้นิติบุคคลกับกรมสรรพากรเพื่อให้ทราบอย่าง ที่ดนิ (องค์การมหาชน) ชัดเจนว่าในแต่ละปีรัฐสูญเสียรายได้จากการให้สิทธิ ประโยชน์ทางภาษีกับบริษัทเอกชนเป็นจำนวนเงิน - ควรประสานงานกับองค์กรปกครอง เท่าใด และสามารถประเมินความคุ้มค่าของการให้ ส่วนท้องถิ่นเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงพื้นที่มาสนับสนุนการ สิทธิประโยชน์เหล่าน้ไี ด้ถูกต้องแมน่ ยำยิง่ ขึน้ บริหารจดั การไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๒.๑.๑๔ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูป - ควรพิจารณาอำนาจหน้าที่ บทบาท ประเทศ ยทุ ธศาสตร์ชาติ และการสรา้ งความปรองดอง และภารกิจของหน่วยงานให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ โดยไม่ควรซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น เชน่ สำนกั งานการ - ควรมีการปรับแผนการปฏิรูปให้เหมาะสม ปฏิรูปท่ดี นิ เพอื่ เกษตรกรรม กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของประเทศ และเร่งรัด กระบวนการให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดในปี - ควรมีการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ พ.ศ. ๒๕๖๕ อำนาจหน้าที่ พันธกิจ และผลงานของหน่วยงาน ให้ประชาชนรับทราบอยา่ งกวา้ งขวาง - ควรพิจารณาอำนาจหน้าที่ บทบาท และ ภารกิจของหน่วยงานให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ โดยไม่ ๒.๑.๑๗ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ควรซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อน (องคก์ ารมหาชน) ยุทธศาสตร์ชาติ เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสงั คมแห่งชาติ - ควรปรับปรุงข้อมูลที่เผยแพร่ผ่าน ศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open Government ๒.๑.๑๕ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์กร Data) ผ่านเว็บไซต์ www.data.go.th ให้มีความ มหาชน) ทันสมัย สืบค้นง่าย และเป็นประโยชน์ในการ ใชง้ าน - ควรพิจารณาย้ายสังกัดไปอยู่ในกระทรวง แรงงาน มากกว่าสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพราะ - ควรพิจารณาอำนาจหน้าที่ บทบาท หน่วยงานภายใต้สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีควรเป็น และภารกิจของหน่วยงานให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ งานดา้ นการกำกับดแู ลและการกำหนดนโยบาย โดยไม่ควรซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น เช่น กระทรวง ดจิ ทิ ัลเพอื่ เศรษฐกิจและสังคม - ควรขอความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ในการหาผู้ที่มีความรู้ - ควรประสานให้มีการบูรณาการระหว่าง ความสามารถ หรือคุณวุฒวิ ิชาชพี เฉพาะหลาย ๆ ด้าน โครงการ National Digital Identity (NDID) ซึ่งเป็น ที่ยังมีความจำเป็นกับการพัฒนาประเทศ และให้การ ของบริษัทเอกชนกับ Digital ID ซึ่งเป็นโครงการ รบั รองมาตรฐานวิชาชีพเหลา่ นัน้ ภาครัฐ และควรวางแผนในระยะยาวในการให้ข้อมูล Digital ID เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่กับภาครัฐ - ควรมีการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ มากกวา่ ใหอ้ ยกู่ บั บริษทั เอกชน อำนาจหน้าที่ พันธกิจ และผลงานของหน่วยงาน ให้ประชาชนอย่างกว้างขวาง
-๔๒๕- - ควรมีการประสานกับหน่วยงานอื่น เพื่อวาง ๒.๑.๒๐ สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจ แผนการสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และพัฒนาระบบ และสังคมแหง่ ชาติ ตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้บรกิ ารภาครฐั ของทุกหนว่ ยงาน สามารถ ใชร้ ่วมกบั ระบบ Digital ID ของหนว่ ยงานให้ประชาชน - ควรมีการปรับแผนต่าง ๆ เช่น แผนแม่บท สามารถเข ้ าถ ึ งบร ิ การภาคร ั ฐได ้ สะดวกและเกิ ด ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ ประโยชน์ในการพัฒนารัฐบาลดจิ ทิ ัล สังคมแห่งชาติ แผนการปฏิรูปประเทศให้สอดคล้อง กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป แทนที่จะเพิ่มแผน ๒.๑.๑๘ สำนักงานส่งเสริมการจดั ประชมุ แม่บทเฉพาะกิจขึ้นอีก ๑ แผนให้หน่วยราชการต้อง และนิทรรศการ (องคก์ ารมหาชน) ปฏบิ ัตติ าม - ควรพิจารณาอำนาจหน้าที่ บทบาท และ ทั้งนี้ หน่วยงานควรกำหนดทิศทางการ ภารกิจของหน่วยงานให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ดำเนินการตามแผนต่าง ๆ ให้ชัดเจน เพื่อให้ส่วนราชการ โดยไม่ควรซำ้ ซ้อนกับหนว่ ยงานอ่ืน สามารถดำเนนิ การไดอ้ ยา่ งเป็นรปู ธรรม - ควรมีการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ - ควรมีการติดตาม ประเมินผลสัมฤทธิ์ อำนาจหน้าที่ พันธกิจ และผลงานของหน่วยงาน จ า ก ก า ร ด ำ เ น ิ น ก า ร ต า ม แ ผ น พ ั ฒ น า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ให้ประชาชนอยา่ งกว้างขวาง และสังคมแห่งชาติอย่างเป็นรูปธรรม และควรมี บทบาทหลักในการชี้นำเศรษฐกิจและสังคมของ ๒.๑.๑๙ สำนกั งานสง่ เสรมิ เศรษฐกิจ ประเทศ สร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ๒.๑.๒๑ กองทุนหมบู่ า้ นและชมุ ชนเมือง - ควรกระจายการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของ หน่วยงานไปยังพื้นที่ชนบท เนื่องจากการจัดงาน - ควรศึกษารูปแบบกองทุนอื่นที่ประสบ ส่วนใหญย่ ังกระจุกอยใู่ นเขตเมืองเปน็ หลกั ความสำเร็จมาเป็นตัวอย่างการดำเนินงาน และควร ดำเนินการกองทุนอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ - ควรพิจารณาอำนาจหน้าที่ บทบาท และ และดำเนินการสอบสวนและลงโทษผู้กระทำทุจริต ภารกิจของหน่วยงานให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ โดยไม่ ในการใชจ้ ่ายกองทุนหมู่บ้านทผ่ี ่านมา ควรซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น เช่น สำนักงานนวัตกรรม แหง่ ชาติ - ควรมีการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ อำนาจหน้าที่ พันธกิจ และผลงานของหน่วยงาน ให้ประชาชนอยา่ งกวา้ งขวาง
-๔๒๖- ขอ้ สงั เกตที่เกยี่ วกบั การแก้ไขปญั หาการระบาด นอกจากนี้ หน่วยงานควรพิจารณาจัดสรร ของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ งบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานด้านอื่นเพิ่มเติม ดังนี้ - สำนักนายกรัฐมนตรี ควรปรับแผนการ ใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ๑. ชดเชยรายได้สำหรับผู้ประกันตนมาตรา หากยังมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ๓๓ กรณีที่นายจ้างสั่งหยุดงานชั่วคราว โดยไม่ใช่เหตุ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงบประมาณด้านการตรวจ สดุ วิสยั ราชการ ๒. ชดเชยเงนิ สมทบสำหรบั ผู้ประกันตนมาตรา - กรมประชาสัมพันธ์ ควรเร่งรัดดำเนินการ ๓๙ และ ๔๐ โดยรัฐจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคม ประชาสัมพันธ์มาตรการของรัฐต่าง ๆ และป้องกัน แทนผู้ประกันตนทั้งหมด เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิของ การสร้างข่าวปลอมต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสน ผปู้ ระกนั ตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ ๓. ชดเชยรายได้บุคคลทที่ ำงานภาคการเกษตร บุคคลท่ีทำงานอสิ ระ และบุคคลทีท่ ำงานกลางคนื - กรมประชาสัมพันธ์ ควรชี้แจงทำความ เข้าใจกับสื่อมวลชนก่อนเผยแพร่ข้อมูลหรือข่าวสาร ๔. ชดเชยรายได้ให้กับแรงงานธุรกิจกลุ่มส่ง ต่าง ๆ ไปสู่ประชาชน เพื่อลดความสับสนและสร้าง อาหารส่งพัสดุ พนักงานทำความสะอาด และพนักงาน ความเข้าใจให้กับประชาชน โดยเฉพาะข้อมูล รา้ นนวด ข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการของรัฐที่เกี่ยวข้อง กับ การระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ๕. ชดเชยค่าใช้จ่ายในการขอใบอนุญาต หรือ ดำเนินการต่ออายุใบอนุญาต วีซา่ และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ - สำนักงบประมาณ ควรสนับสนนุ งบประมาณ ให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องขับเคลื่อนในการแก้ไข ๖. ชดเชยการพักหนี้ด้านการศึกษาของ ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน หลังจากภัยพิบัติ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้กับนักเรียน ที่เกิดจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา นักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษา และแรงงานที่ยังเป็น ๒๐๑๙ คลี่คลาย หนก้ี บั กยศ. อยู่ - สำนักงบประมาณ ควรพิจารณาจัดสรร ๗. ชดเชยการพักหน้ีสถาบันการเงินให้กับ งบประมาณให้กับกระทรวงสาธารณสุขให้เหมาะสม ประชาชน อยา่ งนอ้ ย ๑ ปี กับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ ๘. ชดเชยค่าใชจ้ ่ายในการเลยี้ งดูเด็กการศกึ ษา ของเด็กอย่างทั่วหน้า มีมาตรการพิเศษสำหรับบิดา - สำนักงบประมาณ ควรจัดสรรงบประมาณ มารดาที่ต้องเลี้ยงดูบุตร และสำหรับบุตรที่เลี้ยงดูบิดา สำหรับช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการ มารดาผู้สงู อายุด้วย ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เช่น จากการปิดกิจการของผู้ประกอบการ การขาดรายได้ ๙. ชดเชยและควบคุมราคาสินค้าที่กระทบ จากการเลิกจ้าง และการหยุดงานเนื่องจากคำสั่งของรฐั กับชีวิตประจำวันของประชาชน เช่น สินค้า อุปโภค เปน็ ต้น และบรโิ ภคตา่ ง ๆ เปน็ ต้น
-๔๒๗- - สำนักงบประมาณ ควรจดั สรรงบประมาณให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อชดเชยรายได้ที่ได้รับ ผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ให้เพยี งพอ - ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ควรพิจารณาการนำ วัคซีนชนิดอื่น ๆ เข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีน ชนิด mRNA และควรใหห้ นว่ ยงานพิจารณานำเข้าวคั ซีน ป้องกันโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ทีม่ ีประสิทธิภาพ ชนิดอื่นและมีหลักเกณฑ์การจัดสรรที่ชัดเจนและ เปน็ ธรรม - สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ควรปรับแผนการดำเนินงานและงบประมาณให้ สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ - สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ควรส่งเสริมให้วิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจาก สถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ สามารถเข้าถงึ แหลง่ ทนุ ได้
-๔๒๘- ๒.๒ กระทรวงกลำโหม - ควรลดงบประมาณจัดหายุทโธปกรณ์ใหม่ ที่ยังไม่จำเป็นในภาวะที่ประเทศกำลังประสบปัญหา ๒.๒.๑ กระทรวงกลาโหม ทางการคลัง โดยเฉพาะโครงการที่เป็นที่ก่อหนี้ผูกพนั - ควรให้ความสำคัญและจัดสรรงบประมาณ ข้ามปี เพราะสถานการณ์ทางการคลังในปีงบประมาณ ให้กับองค์การทหารผ่านศึกให้เหมาะสมกบั การดำเนิน พ.ศ. ๒๕๖๖ จะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเป็น กิจกรรมและสวัสดิการของทหารผ่านศึก เช่น เพื่อใช้ ผลสืบเนื่องจากการเก็บรายได้ที่ลดลงจากสภาพ สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความ เศรษฐกิจที่ถดถอย สะดวกให้หมู่บ้านทหารผ่านศึกในภูมิภาคต่าง ๆ ใหท้ ัว่ ถึงในทุกพ้นื ท่ี - ควรพิจารณาการขอรับจัดสรรงบประมาณ - ควรศึกษาและพัฒนางานวิจัยของหน่วยงาน อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่อาจ รายละเอียดของโครงการ เพราะอาจมีผลต่อเป้าหมาย เกิดขึ้นในอนาคต เพราะอาวุธยุทโธปกรณ์รูปแบบ ผลลัพธ์ที่เคยตั้งเอาไว้ รวมทั้งที่เคยเสนอเอาไว้ต่อ ปัจจบุ นั ไมส่ ามารถรับมอื ได้ คณะกรรมาธกิ ารวิสามัญฯ ของสภาผ้แู ทนราษฎร ทั้งนี้ ควรให้ความสำคัญกับการรบสมัยใหม่ เช่นการใช้ระบบดาวเทียมและทางอากาศ แทนการใช้ - ควรส่งเสริมให้ทหารเกณฑ์ได้รับการศึกษา อาวุธบนพืน้ ราบเหมือนในอดีต ในระดับท่ีสูงขึ้นในระหว่างประจำการเพื่อให้สามารถ - ควรส่งเสริมผู้ประกอบการไทยหรือผู้ผลิต นำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ หลังจากปลด อาวุธยุทโธปกรณ์ในประเทศให้มากขึ้น เพื่อเป็นการ ประจำการ พัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และเพิ่มขีด ความสามารถในการแขง่ ขนั ผูป้ ระกอบการไทย - ควรพิจารณาภารกิจ และหน้าที่ของสำนักงาน นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม ปลัดกระทรวงกลาโหมและกองบัญชาการกองทัพไทย จึงควรยกเว้นอากรนำเข้าสำหรับวัสดุอุปกรณ์ที่เป็น ว่ามีภารกิจท่ีซ้ำซอ้ นกันหรือไม่ ส่วนประกอบในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ เหมือนกับ อาวุธยุทโธปกรณ์สำเร็จรูปที่หน่วยงานนำเข้าจาก ทั้งนี้ หากมคี วามซ้ำซ้อนควรหาแนวทางเพื่อแบง่ ต่างประเทศ ซ่งึ ไดร้ ับการยกเว้นภาษนี ำเข้า การดำเนินงานของสองหนว่ ยงานให้ชดั เจน - ควรมีแผนปรับลดจำนวนบุคลากรของ หน่วยงานตามแผนปฏิรูปกองทัพที่เกิดผลสัมฤทธ์ิ เร็วขึ้น เพราะแผนในปัจจุบันจะปรับขนาดกองทัพได้ ช้าเกินไปจนทำให้โครงสร้างกำลังพลไม่ตอบรับ สถานการณ์ภัยคุกคาม และไม่สามารถแก้ปญั หาภาระ งบประมาณของประเทศไดท้ นั การณ์ - ควรขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน หากมี การโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณโครงการขนาดใหญ่ เพ่อื จัดซื้ออาวธุ ยุทโธปกรณ์เพม่ิ เตมิ ของหน่วยงาน
-๔๒๙- - ควรให้ความสำคัญกับการจัดสรรงบประมาณ ทั้งนี้ มีประชาชนร้องเรียนว่ากระแสไฟฟ้า เพื่ออุดหนุนโรงพยาบาลของหน่วยงานอย่างเพียงพอ ในพื้นท่ีไม่มีความเสถียรไฟตกและดับบ่อยครั้ง และมีคุณภาพ มากกว่างานสนับสนุนประเภทอื่น ๆ รวมทั้งมีราคาสูงซึ่งกระทบกับคุณภาพชีวิตและความ ท่ีไม่ได้ถูกปรับลดงบประมาณ ในขณะที่งบอุดหนุน ปลอดภัยของประชาชน โรงพยาบาลในสังกัดกลับถูกปรับลด ทั้ง ๆ ที่ประเทศ กำลังเผชิญกับวิกฤตสาธารณสุข และต้องใช้เครื่องมือ ๒.๒.๔ กองทัพอากาศ อปุ กรณ์ทางการแพทย์เพอื่ ชว่ ยชวี ิตประชาชน - ควรจัดทำเอกสารรายละเอียดให้ครบถ้วน ๒.๒.๒ กองทพั บก สมบูรณ์ ถึงหลักการความจำเป็นเร่งด่วนในการ ขอรับการจัดสรรงบประมาณดงั กลา่ ว และเม่อื ไดร้ ับ - ควรจัดสรรงบประมาณอย่างโปร่งใสตรวจสอบ การจัดสรรงบประมาณแล้วควรใช้งบประมาณ ได้และสามารถเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับทราบเพื่อ จำนวนดังกล่าวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงาน รวมทั้ง ประสิทธิผล และเกิดความคมุ้ คา่ ให้มากที่สดุ เมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณควรจัดทำเอกสารให้ ครบถ้วนตามกระบวนการระเบียบวิธีการจัดทำ - ควรเปิดพื้นที่บริเวณหน้าสนามกีฬา งบประมาณของประเทศ ธูปะเตมีย์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพอากาศ เป็นเส้นทางสัญจรให้กับประชาชนเพื่อช่วยแก้ไข - ควรยินยอมให้สำนักงบประมาณ ลดยอด ปญั หาการจราจรตดิ ขัด เงินงวดงานของโครงการผูกพันข้ามปีงบประมาณ ที่ได้รับจัดสรรตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ หรือ พ.ศ. ๒๕๖๔ - ควรจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนา ส่งเสริม ที่ไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ทันภายในเดือน และเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ให้กับ กนั ยายน ๒๕๖๔ โรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) - ควรอนุญาตให้ประชาชนได้เข้าใช้ที่ดินของ - ควรใช้ยุทโธปกรณ์ของกองทัพเพื่อช่วยเหลือ หน่วยงานที่ไม่ได้ใช้งานฝึกตลอดปี เพื่อทำการเกษตร ประชาชนท้งั ในเรือ่ งไฟปา่ และฝุน่ PM ๒.๕ ซึ่งจะเปน็ การช่วยเหลือประชาชนท่ีไม่มีทดี่ นิ ทำกนิ ๒.๒.๕ กองบญั ชาการกองทพั ไทย ทั้งนี้ หากหน่วยงานต้องการใช้พื้นที่ดังกล่าว เพื่อการซ้อมรบสามารถขอความร่วมมือกับประชาชน - ไม่ควรดำเนินโครงการบางประเภท เช่น เพือ่ เข้าพืน้ ท่ีเปน็ ครั้งคราวได้ การก่อสร้างถนนหรือการจัดหาแหล่งน้ำ ซึ่งเป็น การดำเนินงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นทั้งในสังกัด ๒.๒.๓ กองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพไทยและหน่วยงานอื่น เช่น กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมทรัพยากรน้ำ - ควรตรวจสอบการให้บริการกระแสไฟฟ้า และกรมชลประทาน เป็นตน้ ของหน่วยงานในพื้นท่ีฐานทัพเรือสัตหีบซ่ึงเป็น อำเภอเดียวของประเทศไทยท่ีประชาชนต้องใช้ ทั้งนี้ ควรมีการประสานงานก่อนการดำเนิน ไฟฟ้าที่ผลิตจากกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทาน โครงการ และหากเป็นไปได้ควรโอนภารกิจไปยัง กองทัพเรือ หน่วยงานท่ีรบั ผดิ ชอบโดยตรง
-๔๓๐- - ควรเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนให้เข้าไป ข้อสงั เกตท่เี กยี่ วกับการแก้ไขปญั หาการระบาด มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงาน ของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพ่ือให้เกดิ การแข่งขัน ซ่งึ จะทำใหภ้ าคธุรกจิ สามารถ มีสว่ นในการพฒั นาพน้ื ท่ี - กระทรวงกลาโหม ควรพิจารณาทบทวน โครงการที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนที่เกี่ยวกับการเพ่ิม ทั้งน้ี หน่วยงานควรกำหนดหลักเกณฑ์ ศักยภาพการรบ แต่ควรให้ความสำคัญกับการ และวิธีการให้มีความชัดเจน รวมถึงวิธีปฏิบัติ ช่วยเหลือประชาชนในทุกด้านในช่วงวิกฤตโรคระบาด ตามขั้นตอนการการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเมื่อดำเนินการ ขณะนี้ แล้วเสร็จควรมีการติดตามและตรวจสอบคุณภาพ ของงานด้วย ทั้งนี้ ควรพิจารณาถึงแนวคิดเกี่ยวกับความ มั่นคงของรัฐที่ว่า “ความมั่นคงของรัฐจะเกิดขึ้นได้ หนว่ ยงานตอ้ งให้ความสำคัญกบั ประชาชน” - กระทรวงกลาโหม ควรให้บุคลากรของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ รวมไปถึง ทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการ แก้ปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ - กระทรวงกลาโหม ควรใช้พื้นที่ของ หน่วยงานในการทำโรงพยาบาลสนามในช่วง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับ ความเดือดร้อน และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กบั กระทรวง - กระทรวงกลาโหม ควรชะลอการประจำการ ของทหารเกณฑ์ผลัดต่อไปออกไปก่อนเพราะ ปัจจุบันมีทหารเกณฑ์จำนวนมากติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ ในค่ายทหารของหน่วยงาน - กระทรวงกลาโหม ควรประชาสัมพันธ์ การดำเนินงานของหน่วยงานโดยเฉพาะอย่างย่ิง ในเรื่องของการช่วยเหลือประชาชนและการป้องกัน การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ให้ มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนทราบถึงการดำเนินงาน ของหน่วยงาน ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดี ขึ้นต่อหน่วยงาน
-๔๓๑- - กองทัพบก ควรจัดกำลังพล ยานพาหนะ พร้อมงบประมาณเพื่อช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยท่ี ติดเชื้อจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ กลับ ไปรักษาพยาบาลในภูมิลำเนาหรือจังหวัดที่มี เตียงผู้ป่วยว่างในโรงพยาบาลต่าง ๆ พร้อมให้ทหาร เสนารกั ษ์เข้ามาดแู ลอำนวยความสะดวกทุกดา้ น
-๔๓๒- ๒.๓ กระทรวงกำรคลงั - ควรผลักดันและออกมาตรการทางภาษี ตา่ ง ๆ เพอ่ื รองรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศ ๒.๓.๑ กระทรวงการคลงั ในอนาคต - ควรขอความร่วมมือให้สถาบันการเงิน ในสังกัดติดตั้งตู้ถอนเงินอัตโนมัติในหมู่บ้าน เพื่อให้ - ควรสนบั สนนุ ให้ประชาชนทกุ คนไม่ว่าจะ ประชาชนสามารถรับเงินช่วยเหลือตามโครงการ มีรายได้มากหรือน้อยเข้าสู่ระบบฐานภาษี เพื่อให้ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้โดยตรง และลดภาระ สามารถทราบข้อมูลรายได้ของประชาชนซึ่งจะ การเดินทางเขา้ เมืองเพื่อถอนเงนิ ดงั กล่าว สามารถเยียวยาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้ตรง - ควรทบทวนหลักเกณฑ์หรือตรวจสอบจำนวน กลุ่มเป้าหมายและยังทำให้เกิดความเป็นธรรม ประชาชนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์จากกองทุนประชารัฐ กบั ประชาชนทกุ กลมุ่ อย่างแท้จรงิ สวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ตามความ เปน็ จริงในแต่ละปี - ควรให้กลุ่มชุมชนที่มีรายได้น้อย สามารถ - ควรหาแนวทางการป้องกันและแก้ปัญหา กู้เงินเสริมสภาพคล่อง เพื่อให้ผู้ท่ีมีรายได้น้อย รายชื่อของประชาชนผู้มีสิทธิในกองทุนประชารัฐ สามารถหมุนเงินในการใช้จ่าย ซึ่งจะส่งผลดีต่อ สวัสดิการที่มีการตกหล่นหรือซ้ำซ้อน และแก้ไข เศรษฐกิจฐานราก ปัญหากรณีที่ประชาชนไม่สามารถเข้าใช้สิทธิบัตร สวัสดิการได้เพราะมีผู้สวมสิทธิ์ หรือกรณีที่ประชาชน นอกจากนี้ กระทรวงการคลังควรส่งเสริมการ บางคนไม่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑข์ ดี ความยากจนที่ ให้สินเชื่อรายย่อยแก่ผู้ประกอบการ โดยผ่านระบบที่ ควรจะได้สิทธิในบัตรสวัสดิการแต่กลับได้รับสิทธิ เช่น เรียกว่า “Nano Finance” และให้ธนาคารพาณิชย์ ผ้ทู ม่ี รี ายไดม้ ากกว่า ๓๐,๐๐๐ บาท ตอ่ ปี ปล่อยกู้รายวนั ในอัตราดอกเบ้ยี ทีต่ ่ำ ทั้งนี้ หน่วยงานควรให้ความสำคัญกับความ ถูกต้องของฐานข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูลของผู้มี - ควรมีแนวทางในการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงิน รายได้น้อย ฐานข้อมูลของครัวเรือน และฐานข้อมูล จากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ได้รับผลกระทบ ของกลุ่มต่าง ๆ เป็นต้น จากเศรษฐกจิ - ควรทำความเข้าใจหลักการ และความ แ ต ก ต ่ า ง ร ะ ห ว ่ า ง โ ค ร ง ก า ร ท่ี จ ั ด ท ำ ฐ า น ข ้ อ มู ล - ควรใช้ “เงินนอกงบประมาณ” มาบรรเทา กับโครงการจัดทำ Big Data ให้ถูกต้อง เพื่อให้ ความเดือดร้อนของประชาชน เพราะในแต่ละปี โครงการดังกล่าวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง หน่วยงานต่าง ๆ มีเงินนอกงบประมาณรวมกัน ไม่เกิดความซำ้ ซ้อนของงบประมาณ ประมาณเกือบ ๔.๔ ล้านล้านบาท ซึ่งหากนำ งบประมาณในส่วนนี้มาใช้จะทำให้เกิดการหมุนเวียน ทางเศรษฐกิจและบรรเทาความเดือดร้อนของ ประชาชน
-๔๓๓- - ควรประสานงานกับสำนักงบประมาณ - ควรร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ในการจำแนกงบประมาณรายจ่าย ที่จัดสรรให้กับ ในการนำที่ราชพัสดุไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อชดเชยผลการดำเนินงาน ประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่มีปัญหาในเรื่อง โครงการตามนโยบายรัฐในอดีต ให้อยู่ภายใต้แผนงาน ของที่อยู่อาศยั และทด่ี นิ ทำกนิ งบประมาณใหม่ ที่เกี่ยวกับกิจกรรมกึ่งการคลังเป็น การเฉพาะ คล้ายกับแผนงานบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ - ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงานที่มี เนื่องจากการจัดสรรงบประมาณให้แก่สถาบันการเงิน ท่ีราชพัสดุแต่ถูกบุกรุกว่า มีจำนวนเท่าใด หรือข้อมูล เฉพาะกิจดังกล่าว ไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์และผลสัมฤทธิ์ ของหน่วยงานที่ครอบครองที่ราชพัสดุซึ่งหน่วยงาน ในปงี บประมาณทจ่ี ะมาถงึ บางแห่งนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ท่ีไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ ของหนว่ ยงาน ๒.๓.๒ กรมธนารกั ษ์ - ควรบรหิ ารจัดการที่ราชพสั ดุให้สอดคลอ้ ง - ควรมีแนวทางในการบริหารจัดการการใช้ กับภาวะเศรษฐกิจ โดยอัตราค่าเช่าที่ราชพัสดุอาจ ที่ดินราชพัสดุ โดยต้องมีตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพ ปรับลดลงไดใ้ นช่วงภาวะเศรษฐกิจตกตำ่ เพอื่ ลดภาระ มากกว่าเพียงตัวเลขรายได้ โดยกำหนดตัวชี้วัดแยก ทางการเงินแกป่ ระชาชนในขณะเดียวกนั ตามวัตถุประสงค์การใช้ทีด่ ินให้ชัดเจนเพื่อช่วยเหลือ ประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยให้สามารถใช้ที่ดินที่มี - ควรปรับแผนการผลิตเหรียญกษาปณ์ วัตถปุ ระสงค์ในเชงิ ธุรกจิ ได้ ให้สอดคลอ้ งกบั การเกดิ ภาวะสงั คมไร้เงนิ สดในอนาคต - ควรนำที่ดินของหน่วยงานที่อยู่ใกล้เขต ๒.๓.๓ กรมบัญชีกลาง เมืองจัดเป็นสวัสดิการแก่ข้าราชการ เนื่องจาก ข ้ าราชการบางส ่วนอาจม ีป ัญหาเรื ่องรายได้ ที่ไม่ - ควรศึกษาและปรับปรุงข้อมูลและวิธีการ สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ โดยเมื่อข้าราชการพ้น คำนวณราคากลางของงานก่อสร้างให้เป็นปัจจุบัน จากตำแหน่ง เกษียณอายุหรือเสียชีวิตแล้วให้นำมา เนื่องจากราคากลางดังกล่าวมีแนวโน้มปรับลด จัดสรรใหแ้ ก่บคุ คลอืน่ ต่อไป ลงหากดำเนินการได้จะสามารถช่วยประหยัด งบประมาณในการจดั ซือ้ จัดจา้ งงานกอ่ สรา้ ง - ควรจัดทำแผนแม่บทการจัดการทรัพย์สิน โดยกระจายการจัดสรรที่ดินให้ครอบคลุมทั่วถึง - ควรดำเนินการปรับปรุงระเบียบการ และเรียกคืนที่ดินจากหน่วยงานที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เบิกจ่ายพัสดุครุภัณฑ์ ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น หรือใชป้ ระโยชนไ์ ม่เหมาะสม เพราะปัจจุบันระเบียบการเบิกจ่ายพัสดุครุภัณฑ์ มีปัญหาต่อการปฏิบัติ ทำให้เกิดความยุ่งยากต่อ ทั้งนี้ ควรจัดทำราคาที่ดินให้สอดคล้องกบั ผู้ปฏิบัติงาน เสี่ยงต่อการผิดระเบียบ และทำให้การ ราคาตลาดและสภาพเศรษฐกจิ เป็นสำคญั ดำเนินโครงการมคี วามลา่ ชา้ ต่อการเบกิ จ่าย - ควรเร่งรัดการตรวจสอบกรรมสิทธิ์ทับซ้อน - ควรมีมาตรการในการป้องกันและการ และเร่งแก้ไขปัญหาในกรณีที่หน่วยงานมีข้อพิพาท ตรวจสอบ กรณีการยื่นซองประกวดราคาของ กับประชาชนในพื้นที่ ด้วยเหตุที่ประชาชนอ้างว่าได้ ผู้ประกอบการที่มีลักษณะเป็นการฮั้วประมูลซึ่งเป็น อยู่อาศัยมาก่อนการประกาศของภาครัฐที่ให้พื้นท่ี ความผิดทเี่ ก่ียวกบั การเสนอราคาต่อหนว่ ยงานรัฐ ดังกลา่ วเป็นท่รี กร้างวา่ งเปลา่
-๔๓๔- - ควรจัดทำหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียน (๑) กรณรี วมรายการทีเ่ กยี่ วข้องทกุ รายการ ผู้ประกอบการงานก่อสร้าง เพื่อกลั่นกรองคุณสมบัติ ของผู้ประกอบการก่อนการยื่นเสนอราคาซึ่งจะ (๒) กรณีรวมเฉพาะรายการรายได้ รายจ่าย สามารถคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและมี และหนี้สิน ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินภารกิจของ ความพร้อมในการเข้ามาเป็นคู่สัญญากับหน่วยงาน กรมบัญชีกลางอย่างแท้จริง โดยไม่รวมรายการ ของรฐั ใหเ้ หมาะสมกับงานก่อสร้างแต่ละประเภทได้ การบริหารการคลังภาพรวมที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน อื่น อาทิ เงินงบกลาง เงินคงคลัง และเงินกู้ของรัฐบาล - ควรแจ้งทุกหน่วยงานให้เร่งรัดการเบิกจ่าย เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถใช้ข้อมูลรายงานการเงินของ และจำกัดการกันเงินเหลื่อมปีให้น้อยที่สุด โดยมี กรมไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพมากขึน้ มาตรการและแจง้ ไปยงั หนว่ ยรับงบประมาณต่าง ๆ กรณี การเบิกจ่ายงบประมาณจะต้องดำเนินการตาม ๒.๓.๔ กรมศุลกากร พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๓ โดยให้การเบิกเงินคงคลังในปีงบประมาณ - ควรส่งเสริมการค้าชายแดนของชุมชน ใด ให้กระทำได้แต่เฉพาะภายในปงี บประมาณนนั้ ใกลเ้ คยี งบรเิ วณทมี่ ีดา่ นศลุ กากรตามชายแดนด้วย - ควรมีการตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดซื้อ - ควรมีแนวทางในการปรับปรุงการให้บริการ จัดจ้างคอมพิวเตอร์ของหน่วยรับงบประมาณ สำหรับประชาชนท่ีซื้อสินค้าจากต่างประเทศมากขึ้น แ ล ะ ไ ม ่ ค ว ร ใ ห ้ ก า ร จ ั ด ซ ื ้ อ จ ั ด จ ้ า ง ค อ ม พ ิ ว เ ต อ ร์ ตามแนวโน้มธุรกิจ e-Commerce ที่ขยายตัวอย่าง รวมค่าบำรุงรักษาระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะทำให้การ รวดเร็วในขณะน้ี โดยหลักเกณฑ์การกำหนดพิกัด และ จัดซื้อจัดจ้างคอมพิวเตอร์ต่อหนึ่งหน่วยมีราคาที่สูง การตรวจสอบที่ชัดเจนตรงไปตรงมา ที่สำคัญคือลดการ กว่าความเป็นจริง และยังเป็นการผูกขาดการใช้จ่าย ใชด้ ุลพินจิ ของเจา้ หน้าที่ให้นอ้ ยท่สี ุด งบประมาณการซอ่ มบำรุงกับผูป้ ระกอบการบางรายด้วย - ควรแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัยเกี่ยวกับการขอ - ควรให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน อนุญาตตั้งเขตปลอดอากร (Free Zone) ที่ใช้เงื่อนไข ดำเนินการจัดทำรายงานของผู้สอบบัญชีเฉพาะ ขนาดของพ้ืนท่ีเปน็ ตวั กำหนด ในส่วนที่เกี่ยวกับกรมบัญชีกลางเท่านั้นไม่รวม หน่วยงานอ่นื เพือ่ ให้การจัดทำรายงานของผู้สอบบัญชี ทั้งน้ี ควรเปลี่ยนเป็นเงื่อนไขการวางเงิน ของกรมบัญชกี ลางมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ประกัน หรือทุนจดทะเบียนบริษัทแทนหรือใช้มาตรการ ที่ป้องกนั การหลกี เลี่ยงภาษีอืน่ ๆ - ควรหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการ ผูกขาดการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของผู้ประกอบการ ๒.๓.๕ กรมสรรพสามิต บางราย และแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของข้อมูล ผู้ประกอบการทจี่ ะทำการประมูลงานผ่าน e – Bidding - ควรแก้ไขกฎหมายที่ทำให้เกิดการแข่งขันที่ ไม่เป็นธรรมของอุตสาหกรรมสุรา โดยให้คำนึงถึงการ - ควรบันทึกข้อมูลลงในรายงานงบการเงินใน ส่งเสริมการผลิตสุราพื้นบ้าน เพื่อเปิดโอกาสในการ ระบบรายงานข้อมูลภาครัฐที่เกี่ยวข้องโดยแยกข้อมูล ประกอบอาชพี และการจา้ งงานแก่ประชาชน ออกเป็น ๒ กรณี ได้แก่ - ควรมีมาตรการชดเชยและเยียวยาเกษตรกร ผู้ปลูกยาสูบและเกษตรผู้ผลิตยาเส้น ที่ได้รับผลกระทบ จากการจดั เกบ็ ภาษียาสูบรปู แบบใหม่
-๔๓๕- - ควรจัดทำโครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูล - ควรให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐาน ขนาดใหญ่ (Big Data) เป็นโปรแกรมศูนย์กลางของ ของระบบสารสนเทศหรือ ICT และควรปรับปรุง ข้อมูลเพื่อรวบรวมข้อมูลของทุกหน่วยงานในกำกับของ ระบบการจัดเก็บภาษีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และ กระทรวงการคลังให้มีการเชื่อมโยงกัน และสามารถ อำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน เช่น เชื่อมกับฐานข้อมูลของประชาชนทั้งประเทศได้ ไม่ใช่ ประชาชนควรจะสามารถตรวจสอบรายการภาษี เพียงการนำขอ้ มลู ท้งั หมดมารวมกันเทา่ นัน้ เงินได้ที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายในแต่ละปีได้ทางออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องเก็บเป็นเอกสาร เนื่องจากเป็น - ควรให้หน่วยรับงบประมาณที่ใช้ประโยชน์ ข้อมลู ที่กรมสรรพากรมีอยใู่ นระบบอยูแ่ ล้ว จากเรือตรวจการณ์ซึ่งคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็น ผู้จัดทำคำของบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณ - ควรพิจารณาจำนวนเงินเป็นเกณฑ์ เนือ่ งจากเปน็ ผู้ใช้งาน ในการเรียกเก็บภาษธี รุ กิจเฉพาะในรปู แบบข้นั บนั ได ๒.๓.๖ กรมสรรพากร - ควรมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาการเก็บภาษีที่สืบเนื่องมาจาก - ควรหาแนวทางจัดเก็บภาษีรายได้ พระราชกําหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จากผู้ให้บริการแพลตฟอร์มทางอินเทอร์เน็ต เช่น พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง และไม่ Lazada Netflix Shopee และช่องทางจำหน่าย เป็นธรรมกับผู้เสียภาษี เพราะถูกจัดอยู่ในหมวด สินค้าออนไลน์อื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งในอนาคตจะมีผู้ให้ รายได้ที่ไม่สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ ทั้ง ๆ ที่รายได้ บริการทางอินเตอร์เนต็ ในลกั ษณะน้เี พ่มิ มากข้ึน ส่วนนี้อาจมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะทำให้ ประชาชนหลีกเลี่ยงในการยื่นรายได้ส่วนนี้ แทนท่ี - ควรปฏิบัติหน้าที่ในการจัดเก็บภาษี จะสามารถนำภาษเี ข้าสู่ระบบได้ โดยยดึ หลกั ความเปน็ ธรรมมากกวา่ การต้ังเป้าหมาย การจัดเก็บรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อสร้างความเป็น - ควรมุ่งเน้นตรวจสอบเส้นทางการเงิน อิสระในการจัดเก็บและลดแรงกดดันในการจัดเก็บ สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมายและ ของเจา้ หนา้ ที่ ผ้ปู ระกอบการรายย่อยที่ละเลยการจา่ ยภาษี - ควรมีการจัดตั้งองค์กรเพื่อบูรณาการระบบ ๒.๓.๗ สำนักงานความร่วมมือพัฒนา การจัดเก็บภาษีอย่างเป็นระบบ โดยองค์กรดังกล่าวต้อง เศรษฐกจิ กับประเทศเพอื่ นบ้าน (องค์การมหาชน) มีความอสิ ระไม่อยู่ภายใต้สงั กดั กระทรวง - ควรให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนความรู้ - ควรดำเนินมาตรการสร้างแรงจูงใจในการ เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน ออกใบกำกับภาษีของร้านขายของชำต่าง ๆ เพื่อให้ โดยจัดหลักสูตรทางวิชาการให้กับประเทศเพื่อนบ้าน การจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างครอบคลุม สอดคล้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการโครงการต่าง ๆ ตามกฎหมาย ของหนว่ ยงาน - ควรพิจารณาไม่สนับสนุนการลงทุน ในประเทศทม่ี ีการละเมิดสทิ ธิมนษุ ยชนและมีการใช้ ความรุนแรงกับประชาชนเพราะไม่สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์และพันธกิจของหน่วยงาน และยังมีผลต่อ ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในประชาคมโลกดว้ ย
-๔๓๖- - ควรจัดหาแหล่งเงินกู้เงินให้มีต้นทุนการ - ไม่ควรมุ่งเน้นหาผลกำไรของหน่วยงาน กู้ยืมท่ีต่ำที่สุด เพื่อลดภาระงบประมาณในการ มากจนเกนิ ไป ชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบ้ีย ที่หน่วยงานจะนำเงิน ไปให้กู้ต่อแก่ประเทศเพื่อนบ้านตามโครงการความ ทั้งนี้ ควรพิจารณาปรับลดส่วนต่างอัตรา ช่วยเหลือทางการเงนิ ในอัตราต่ำกวา่ ปกติ ดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้กู้ และผู้ฝากเงิน ๒.๓.๘ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร ๒.๓.๙ ธนาคารออมสิน - ควรปรับปรุงผลประโยชน์ และวงเงิน - ควรมีแนวทางให้กลุ่มธุรกิจภาคบริการด้าน คุ้มครองของโครงการประกันภัยพิบัติที่เกิดกับพืชผล ความบันเทิงและกลุม่ ธุรกิจท่องเที่ยวเข้าถึงแหล่งเงนิ กู้ ทางการเกษตรให้มากขึ้นเพื่อจูงใจให้เกษตรกรเข้าร่วม ดอกเบี้ยตำ่ (Soft Loan) ได้ โครงการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นการลดภาระโดยตรงของรัฐ ในการให้ความชว่ ยเหลอื เกษตรกรเมอื่ เกดิ ภยั พิบัติ - ควรมีบทบาทนำในแก้ปัญหาเงินกู้นอกระบบ ทีป่ จั จุบันมีหลายหน่วยงานรับผิดชอบ แต่การแก้ปญั หา - ควรสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ไมป่ ระสบความสำเรจ็ ในชุมชน โดยให้ความรู้ การทำบัญชีครัวเรือน และ เงินทุน โดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ควรพิจารณาการให้สินเชื่อแบบไม่มี สังคม และสิ่งแวดล้อม และ วิสัยทัศน์ของหน่วยงาน หลักทรัพย์ค้ำประกัน และผ่อนชำระเป็นรายวันให้มี ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อพัฒนาชนบทให้มีความยั่งยืน สัดส่วนเพ่มิ ขนึ้ มุ่งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และเพื่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชนบท -ควรปรบั ปรุง“ApplicationMyMo”ใหร้ องรบั การทำธุรกรรมที่หลากหลายและเกิดผลสัมฤทธิ์ - ควรมีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ แก่ประชาชนมากข้นึ เกษตรกรที่มีหนี้สินกับหน่วยงาน โดยเฉพาะ กระบวนการไกล่เกลี่ยประนีประนอมหนี้ และปรับ ๒.๓.๑๐ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรม โครงสร้างหนี้ ควรผ่อนคลายให้มีการปรับลดยอดหน้ี ขนาดยอ่ ม (Haircut) รวมไปถึงแนวทางแก้ปัญหาการกู้แบบกลุ่ม ในอนาคตทีเ่ กษตรกรจะมอี ายมุ ากข้ึนและเสยี ชีวิต - ควรมีการบูรณาการร่วมกับธนาคารพัฒนา วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย - ควรมีแนวทางในการขยายฐานลูกค้าให้ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการของไทยมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและ มากกวา่ นี้ ขนาดย่อม (SMEs) ผ่านช่องทางออนไลน์ตา่ ง ๆ - ควรม ี แนวทางในการเตร ี ยมความพร ้ อม เพื่อช่วยเหลือประชาชนในฤดูแล้งและฤดูฝน ผ่านโครงการ ต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับผู้ที่ได้รับความ เดือดรอ้ น
-๔๓๗- ๒.๓.๑๑ สำนักงานเศรษฐกิจการคลงั - ควรจัดประเภทรัฐวิสาหกิจ โดยแบ่งตาม ลักษณะการดำเนนิ การ เป็น ๒ กลุม่ คือ กลุม่ รฐั วิสาหกจิ - ควรมีบทบาทในการติดตามประเมิน ที่จัดทำบริการสาธารณะที่จำเป็น และกลุ่มรัฐวิสาหกิจ สถานะทางการคลังของประเทศอย่างใกล้ชิด และ ที่มีศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ เพื่อให้มีการ ตอ้ งมีการเผยแพร่ขอ้ มลู สสู่ าธารณะเพอ่ื ความโปร่งใส จัดประเภทรัฐวิสาหกิจอย่างชัดเจน แทนการแบ่ง และตรวจสอบได้ ประเภทตามนิยามที่ระบุไว้ในกฎหมายหลายฉบับ ก่อนหน้านี้ - ควรมีการทบทวนนิยามของคำว่า สิ่งปลูก สร้างและการกำหนดมูลค่าฐานภาษี ให้เหมาะสม นอกจากนี้ ควรทบทวนสถานะของรัฐวิสาหกิจ ตามความใน “พระราชบัญญัติที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่มีอยู่ที่ไม่สามารถหารายได้ได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย พ.ศ. ๒๕๖๒” เพราะในอดีต เสาสัญญาณโทรศัพท์ ในการดำเนินงาน และจำเป็นต้องขอสนับสนุน เคยต้องเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน เพราะมีตู้ควบคุม งบประมาณจากรัฐบาลเป็นหลักให้เปลี่ยนประเภท สัญญาณ จึงถือว่าเป็นการใช้เพื่อการอุตสาหกรรม องคก์ รเปน็ ประเภทอ่นื เชน่ องค์การมหาชน แต่ในปจั จบุ นั ตามความในกฎหมายท่ดี นิ และสิ่งปลกู สร้างใหม่ เสาสัญญาณโทรศัพท์กลับไม่ถือเป็นส่ิง - ควรปรับปรุงการกำหนดตัวชี้วัด เพื่อให้ ปลูกสรา้ ง เพราะคนไม่สามารถเขา้ ไปใชส้ อยได้โดยตรง สอดคล้องกับทิศทางของรัฐวิสาหกิจแต่ละประเภท เพราะบางตัวชี้วัดไม่ใช่ตัวชี้วัดที่เพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งน้ี การตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นท่ี แต่เป็นตวั ชี้วัดในแง่กระบวนการ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้ผู้ประกอบการ มี รายได ้ จากประชาชนในพ ื ้ นที่ จำนวนมาก จาก ๒.๓.๑๓ สำนักงานบรหิ ารหนส้ี าธารณะ ค่าโทรศัพท์ที่ประชาชนใช้แต่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นกลับไม่สามารถจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูก - ไม่ควรกำหนดให้สัดส่วนหนี้สาธารณะ สร้างเพื่อเป็นรายได้ในการนำไปใช้เป็นประโยชน์ ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เป็น ต่อประชาชนในพืน้ ท่ีได้ ตัวชี้วัดการดำเนินการ เนื่องจากสัดส่วนหนี้สาธารณะ ต่อ GDP ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะเศรษฐกิจ ๒.๓.๑๒ สำนักงานคณะกรรมการนโยบาย และนโยบายการกู้เงินของรัฐบาล และไม่สะท้อนถึง รฐั วสิ าหกจิ ศักยภาพการบริหารหนี้สาธารณะของหน่วยงาน อยา่ งแทจ้ ริง - ควรมีแนวทางในการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ กับประชาชน จากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ทั้งนี้ ควรใช้ตัวชี้วัดเกี่ยวกับประสิทธิภาพ และให้สามารถชำระดอกเบี้ยเป็นรายเดือนหรือรายปี ในการบริหารสภาพคลอ่ ง การบริหารจดั การความเส่ียง ได้เพอ่ื ชว่ ยเหลอื ประชาชน ไมใ่ ห้ไปกูเ้ งินกบั แหล่งเงนิ กู้ ต้นทุนการกู้ยืมเฉลี่ยเมือ่ เทียบกบั อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง นอกระบบ ซ่งึ จะสะทอ้ นถึงศักยภาพของหน่วยงานได้มากกว่า
-๔๓๘- ๒.๓.๑๔ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาด - ควรให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์ กลางและขนาดย่อมแหง่ ประเทศไทย เพื่อจูงใจให้ประชาชนเข้ามาเป็นสมาชิกของกองทุน การออมแห่งชาติใหม้ ากกวา่ น้ี แตค่ วรหลกี เลีย่ งการให้ - ควรมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการ ค่าตอบแทนต่อหัวกับผู้ที่จัดหาสมาชิกใหม่ให้กับ ส่งเสริมอาชีพและสามารถวิเคราะห์และประเมินผล กองทนุ การประกอบกิจการต่าง ๆ ได้เพื่อให้มาเป็นพี่เลี้ยง และสนับสนุนธุรกิจให้ผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) - ควรพิจารณาใช้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร ของประเทศไทย รัฐบาลระยะยาวเป็นอัตราอ้างอิง (Benchmark) ในการ - ควรมีการบูรณาการร่วมกันกับบรรษัท ประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เพื่อส่งเสริม เปรียบเทียบกับอัตราผลตอบแทนของกองทุน เพื่อใช้ ให้ผู้ประกอบการของประเทศไทยมีศักยภาพในการ แข่งขนั มากกวา่ น้ี วัดประสิทธิภาพในการดำเนนิ งาน - ควรเร่งประชาสัมพันธ์ให้วิสาหกิจเอกชนที่ ประสบปัญหาสภาพคล่องเข้าร่วมโครงการตาม นโยบายรัฐของธนาคาร เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีจำนวน เปน็ ไปตามตัวช้ีวัดโครงการทไ่ี ด้กำหนดไว้ - ควรนำประวัติการชำระค่าสาธารณูปโภค ของวิสาหกิจเอกชน มาประกอบการพิจารณาให้ สนิ เช่อื ด้วย ๒.๓.๑๕ กองทนุ การออมแหง่ ชาติ - ควรปรับเพิ่มค่าเป้าหมายของจำนวนสมาชิก กองทุนการออม เนื่องจากมีค่าต่ำมากเมื่อเทียบกับ จำนวนแรงงานนอกระบบท้ังประเทศ - ควรขับเคลื่อนการออมผ่านกองทุนหมู่บ้าน หากดำเนินการผ่านกองทุนดังกล่าวจะทำให้ประชาชน ทั่วประเทศมีความรู้ความเข้าใจและมีการออม ที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีสมาชิกอยู่ ทวั่ ประเทศ - ควรส่งเสริมและสนับสนุนการออมให้กับ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้ มากขึ้นผ่านโครงการส่งเสริมวินัยการออมกับกองทุน การออมแหง่ ชาติ
-๔๓๙- ข้อสังเกตทเี่ กยี่ วกบั การแก้ไขปญั หาการระบาด - ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ควรมีบทบาท ในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก - กระทรวงการคลัง ควรหาแนวทางและ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ มาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ชัดเจน โดยการกำหนดแผนระยะยาวเพื่อให้ประชาชน เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมาช้านาน และผู้ประกอบการรายย่อยที่ไดร้ ับผลกระทบเข้าถึง และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ แหล่งทุน โดยเฉพาะผ้ปู ระกอบการรา้ นอาหาร ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ทำให้ประชาชนต้องประสบ ปัญหาทางการเงินจนต้องกู้เงินนอกระบบ ทำให้ธุรกิจ - สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เงินนอกระบบ เติบโตขึ้นกว่าหมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งถือ ควรกำหนดนโยบายให้รัฐวิสาหกิจด้านสาธารณูปโภค วา่ เป็นการบ่นั ทอนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ปรับลดอัตราค่าน้ำประปาและไฟฟ้า เพื่อช่วยลด ภาระค่าครองชีพของประชาชนภายใต้สถานการณ์ - ธนาคารออมสิน ควรหาแนวทางให้สินเช่ือ การระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ ซื้อบ้านกับประชาชนในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการจะขาย ที่อยู่อาศัย ให้สามารถขายได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นการ แบ่งเบาภาระของประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤตทาง เศรษฐกิจอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรค ตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ - ธนาคารออมสิน ควรมีโครงการปล่อย สินเชื่อรายวัน และสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันเพื่อ ช่วยเหลือประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤตทางเศรษฐกิจ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ - ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ควรหาแนวทาง ชะลอการยึดทรัพย์ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้ ประชาชนต้องเสียบ้านไป เนื่องจากสถานการณ์การ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ทำให้ ประชาชนไม่สามารถหารายได้ได้ตามปกติ นำมาสู่การ ผิดนัดชำระกับหนว่ ยงาน - ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ควรหาแนวทาง ให้สินเชื่อซื้อบ้านกับประชาชนในอัตราดอกเบี้ย ที่เหมาะสมซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือประชาชน ที่ต้องการจะขายที่อยู่อาศัย ให้สามารถขายได้ง่ายข้ึน ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระของประชาชนให้ผ่านพ้น วิกฤตทางเศรษฐกิจอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของ โรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙
-๔๔๐- ๒.๔ กระทรวง - ควรเร่งดำเนินงาน One Roof Policy ซึ่งเป็น การจัดระบบโครงสร้างสำนักงานให้เป็นเอกภาพ กำรต่ำงประเทศ (Unified Structure) เพื่อให้ส่วนราชการของไทย ในต่างประเทศสามารถทำงานร่วมกันในด้านนโยบาย ๒.๔.๑ กระทรวงการต่างประเทศ และการใช้จ่ายทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด - ควรมีจัดทำฐานข้อมูลในประเด็นเศรษฐกิจ อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มาติดต่อ ตลอดจน และการค้า เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจในประเทศ สามารถประหยัดงบประมาณในการดำเนินการจัดซื้อ ไทยและการลงทุนของนกั ธรุ กจิ ไทยในต่างประเทศ และเช่าสถานทอ่ี ยู่ในทำเลท่ีเหมาะสม - ควรช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านด้วยการ สนับสนุนทุนการศึกษาแก่บุคลากรของประเทศ - ควรทบทวนการกำหนดตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ เพื่อนบ้าน เนื่องจากการลงทุนทางด้านการศึกษา และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับของหน่วยงาน กบั ทรัพยากรมนษุ ยเ์ ปน็ การลงทนุ ทคี่ มุ้ ค่าที่สดุ ให้สามารถวัดได้ถึงผลลัพธ์จากการใช้จ่ายงบประมาณ ทั้งนี้ เมื่อบุคลากรของประเทศเพื่อนบ้านมี แทนผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน การศึกษาที่ดี จะเป็นผลดีต่อประเทศไทยในอนาคต โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการ ดา้ นเศรษฐกจิ พัฒนาประเทศร่วมกัน - ควรสนับสนุนการขับเคลื่อนความร่วมมือ - ควรจัดลำดับความสำคัญของการใช้ ภูมิภาค ทั้งเอเชียใต้และเอเชีย-แปซิฟิกเพื่อให้ งบประมาณเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ด้วยการปรับปรุง เป็นไปตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจแบบ BCG หรือ อาคาร และจัดหาวัสดุครุภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งในสำนักงาน เศรษฐกิจชวี ภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจ และทำเนียบทูต และควรมุ่งใช้งบประมาณเพื่อ สีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเป็น พัฒนาการบริการให้กับประชาชนไทยที่อาศัยอยู่ ร ู ป แ บ บ ก า ร พ ั ฒ น า เ ศ ร ษ ฐ ก ิ จ ท ี ่ ม ุ ่ ง ส ร ้ า ง ส ม ดุ ล ในต่างแดน รวมไปถึงชาวต่างชาติที่ต้องการติดต่อ ระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับความยั่งยืน ขอรับบรกิ ารใหไ้ ดร้ บั บรกิ ารทรี่ วดเร็วและมคี ุณภาพ ของฐานทรัพยากรธรรมชาติ โดยนำองค์ความรู้มา ยกระดบั ความเข้มแข็งภายในของประเทศ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 532
Pages: