Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่องด่วน

เรื่องด่วน

Published by agenda.ebook, 2020-05-20 03:29:55

Description: เรื่องด่วนที่ 1-4 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 1-2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันที่ 27-28 พฤษภาคม 2563

Search

Read the Text Version

เรือ่ งดวน ครงั้ ที่ 1-2 (สมยั สามญั ประจาํ ปค รงั้ ท่หี นง่ึ ) เปน พเิ ศษ วันท่ี 27 - 28 พฤษภาคม 2563 พระราชกําหนด ๔ ฉบับ

FR@fkLR\"mb! n uq2s .M.M p u ~ e s ~ u ~ ~ e ~ n ~ p n b z s ~ sP ~ u n e y ~ ~ u ~ ~ ~ ~ ~ uG29 'M'M MMS2Lpb@Rp ~ g E ~ ~ s ?'~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ n ~ ~ ~ e u z e ~ ~ n ~ ~ s ~ u n n z s ~ e n ~ ~ u s n ~ ~ us-q 'Ld'k P@oqLnL1U~E;L\\@[email protected]~~LLLUULOnM25U~M m n ; y ~ , / ? ' ~ ~ ~ ~ n e u - r p ~ ~ 9 ~ n ~ 9 ~ ~ u b ~ ~ e ~ k b 9 n e '~9~ ~ e u ~ ~ ~ ~ u u n k b ~ p 1 ~ 2 id^spwoq L ~ L ~ U ~ ~ ; L \\ ~ ~ I Y ~ U S ~ ~ ~ R , U L ~ ~ LRL UL U~ U~ LOO~ ~~M~~~~EU R~ LM Y~ ~I ~ n F n ,p, e r r L R L R L~ M ~ ) ~ ~ PR , ~ ~ ~ ~ M ~ ~ ~ ~ ~ ~ U S L U E L S M ~ .S@ U O L ~ L ~ ~ ~ U ~ M L ~ O L Lb; ey~n~rohaFun$@p P RLS URMLYDLS2PM~lMLUZLpLLU~~9,nL~ n

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๑ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกจิ จานุเบกษา พระราชกาหนด ใหอ้ านาจกระทรวงการคลังก้เู งินเพื่อแกไ้ ขปญั หา เยียวยา และฟนื้ ฟูเศรษฐกจิ และสังคม ท่ีได้รบั ผลกระทบจากการระบาด ของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรสี นิ ทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกลา้ เจ้าอยู่หัว ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นปที ่ี ๕ ในรัชกาลปัจจบุ ัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศว่า โดยท่ีเป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการให้อานาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพ่ือแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟ้ืนฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ตราพระราชกาหนดขนึ้ ไว้ ดังตอ่ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชกาหนดนี้เรียกว่า “พระราชกาหนดให้อานาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟ้ืนฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ โรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓” มาตรา ๒ พระราชกาหนดนใี้ ห้ใช้บงั คบั ต้งั แตว่ นั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๒ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๓ เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ให้กระทรวงการคลังโดยอนุมัติ คณะรัฐมนตรีมีอานาจกู้เงินบาทหรือเงินตราต่างประเทศ หรือออกตราสารหนี้ ในนามรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทย มีมูลค่ารวมกันไม่เกินหน่ึงล้านล้านบาทโดยต้องลงนามในสัญญากู้เงิน หรือออกตราสารหนภ้ี ายในวนั ที่ ๓๐ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ มาตรา ๔ ให้การกู้เงินตามพระราชกาหนดนี้เป็นการกู้เงินตามมาตรา ๕๓ แหง่ พระราชบัญญตั วิ นิ ยั การเงนิ การคลงั ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๕ เงินกูต้ ามพระราชกาหนดน้ี จะนาไปใช้เพอ่ื การอ่ืนนอกจากการดังต่อไปนมี้ ไิ ด้ (๑) เพอื่ แกไ้ ขปญั หาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (๒) เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้แก่ภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซ่งึ ไดร้ บั ผลกระทบจากการระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (๓) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเช้ือ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ แผนงานหรือโครงการใช้จ่ายเงินกู้เพื่อการตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ตามบัญชที า้ ยพระราชกาหนดน้ี มาตรา ๖ การกู้เงินตามพระราชกาหนดนี้ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเท่าที่จาเป็น โดยคานึงถึงขีดความสามารถของรัฐในการชาระหนี้คืนประกอบด้วย ท้ังน้ี การกู้เงินเพื่อการ ตามมาตรา ๕ (๑) และ (๒) ให้มีมูลค่ารวมกันไม่เกินหกแสนล้านบาท และเพ่ือการตามมาตรา ๕ (๓) ใหม้ มี ูลคา่ รวมกนั ไม่เกินสแี่ สนล้านบาท ในกรณีจาเป็น คณะรัฐมนตรีจะมีมติให้นาวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา ๕ (๒) มาใช้ เพ่ือการตามมาตรา ๕ (๑) กไ็ ด้ ในกรณีจาเป็นอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ คณะรัฐมนตรีจะมีมติให้นาวงเงินกู้เพ่ือการ ตามมาตรา ๕ (๓) มาใช้เพ่ือการตามมาตรา ๕ (๑) และ (๒) เพ่ิมเติมก็ได้ แต่เมื่อรวมวงเงินกู้ท้ังหมด ต้องไม่เกินหนึ่งล้านล้านบาท มาตรา ๗ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณากล่ันกรองและอนุมัติการใช้จ่ายเงินกู้ ให้เป็นไป ตามมาตรา ๕ และมาตรา ๖ ให้มีคณะกรรมการกล่ันกรองการใช้จ่ายเงินกู้ประกอบด้วย เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้อานวยการสานักงบประมาณ ผู้อานวยการสานักงานบริหารหนี้สาธารณะ

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๓ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแตง่ ตั้งจานวนไม่เกินหา้ คน เป็นกรรมการ ให้รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคนหน่ึงซ่ึงเลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมอบหมาย เป็นเลขานุการ และผู้แทนสานักงบประมาณ และผู้แทนสานักงานบริหารหนี้สาธารณะ เป็นผู้ช่วยเลขานุการร่วม โดยให้สานักงานสภาพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับผิดชอบงานวิชาการและธุรการของคณะกรรมการกล่ันกรองการใช้จ่าย เงนิ กู้ วาระการดารงตาแหน่งและการพ้นจากตาแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้เป็นไป ตามที่นายกรัฐมนตรกี าหนด การดาเนินการตามแผนงานหรือโครงการตามพระราชกาหนดนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบ ท่ีคณะรัฐมนตรกี าหนดโดยขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการกลน่ั กรองการใชจ้ า่ ยเงินกู้ มาตรา ๘ ใหค้ ณะกรรมการกลน่ั กรองการใชจ้ า่ ยเงนิ กูม้ ีหน้าทีแ่ ละอานาจ ดังต่อไปน้ี (๑) พิจารณากล่นั กรองแผนงานหรือโครงการใหเ้ ป็นไปตามแผนงานหรือโครงการใช้จ่ายเงินกู้ ตามพระราชกาหนดนี้ กอ่ นเสนอคณะรัฐมนตรีอนมุ ัติ (๒) กากับดูแลการดาเนินงานตามแผนงานหรือโครงการท่ีใช้เงินกู้ตามพระราชกาหนดน้ี และรายงานความกา้ วหนา้ ตอ่ คณะรัฐมนตรีอยา่ งน้อยทุกสามเดอื น (๓) กาหนดวงเงนิ สาหรบั รายการเงินสารองจา่ ยตามแผนงานหรือโครงการทีก่ าหนดไวใ้ นบญั ชี ท้ายพระราชกาหนดนี้ เพ่ือจัดเตรียมไวเ้ ปน็ คา่ ใช้จ่ายสาหรบั การแก้ไขปัญหาเกยี่ วกบั การบรหิ ารโครงการ ตามความจาเป็นและเหมาะสม เพื่อขออนุมัตติ อ่ คณะรัฐมนตรี (๔) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรเี พ่อื พิจารณามมี ติตามมาตรา ๖ วรรคสอง และวรรคสาม (๕) แตง่ ตง้ั คณะอนกุ รรมการหรอื คณะทางานเพ่อื ปฏบิ ัตงิ านตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย (๖) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อวางระเบียบเก่ียวกับการดาเนินการตามแผนงานหรือ โครงการทใี่ ชเ้ งินกตู้ ามพระราชกาหนดน้ี ระเบยี บดังกล่าวเมอื่ คณะรฐั มนตรเี หน็ ชอบแลว้ ให้ใช้บังคับได้ (๗) ปฏบิ ัติการอื่นตามทค่ี ณะรัฐมนตรีหรือนายกรฐั มนตรมี อบหมาย การพิจารณากลั่นกรองตาม (๑) คณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จไม่ช้ากว่ายี่สิบวัน นับแตว่ ันที่ได้รับเรอ่ื ง มาตรา ๙ ให้สานักงานบริหารหน้ีสาธารณะมีหน้าท่ีและอานาจดาเนินการเกี่ยวกับ การบริหารและจัดการการกู้เงิน การเบิกจ่ายเงินกู้ การชาระหนี้ และการอ่ืนใดท่ีเก่ียวกับการกู้เงิน ตามพระราชกาหนดน้ี และให้นากฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะมาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๔ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกจิ จานเุ บกษา เว้นแต่คาว่าหนว่ ยงานของรัฐ ให้เปน็ ไปตามกฎหมายวา่ ด้วยวินยั การเงินการคลงั ของรัฐ ท้ังน้ี นอกจาก พระราชกาหนดนีจ้ ะบัญญัติไวเ้ ป็นอย่างอ่ืน มาตรา ๑๐ ภายในหกสิบวันนับแต่วันส้ินปีงบประมาณ ให้กระทรวงการคลังรายงาน การกู้เงินตามพระราชกาหนดนี้ที่กระทาในปีงบประมาณท่ีล่วงมาแล้วให้รัฐสภาทราบ โดยรายงาน ดังกล่าวอย่างนอ้ ยต้องระบรุ ายละเอยี ดของการกูเ้ งิน วตั ถปุ ระสงคข์ องการใชจ้ า่ ยเงนิ กู้ รวมถึงผลสัมฤทธ์ิ และประโยชนท์ ไี่ ด้รบั หรอื คาดว่าจะไดร้ ับ มาตรา ๑๑ ให้รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกาหนดน้ี ผ้รู ับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี





เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๕ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานุเบกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกาหนดฉบับนี้ คือ โดยท่ีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ได้ระบาดอย่างรุนแรงข้ึนท่ัวโลกรวมท้ังประเทศไทย และองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้เป็นภาวการณ์ แพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลกประกอบกับโรคติดเชื้อดังกล่าวเป็นโรคอุบัติใหม่ท่ียังไม่มียารักษาและวัคซีนป้องกัน ส่งผลให้จานวนผู้ติดเช้ือทั่วโลกและภายในประเทศเพ่ิมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า การระบาดของโรคดังกล่าวจะสิ้นสุดลงเม่ือใด นอกจากน้ัน การระบาดของโรคร้ายแรงนี้ยังทาให้ระบบเศรษฐกิจ ทั้งของโลกและของประเทศไทยหดตัวลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว กระทบต่อประชาชนทุกสาขาอาชีพ ในวงกว้าง ถือเป็นภัยพิบัติสาธารณะท่ีส่งผลกระทบอย่างรนุ แรงต่อชวี ิตและสุขภาพอนามัยของประชาชนและ ต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยิ่งยวด ท่ีผ่านมารัฐบาลได้ใช้งบประมาณแผ่นดินท่ีมีอยู่ ในการดาเนินมาตรการและวิธีการต่าง ๆ เพ่ือหยุดย้ังและควบคุมการระบาดของโรคและช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับ ผลกระทบ แต่ก็ยังไม่เพียงพอในอันที่จะยุติการระบาดของโรคและช่วยเหลือเยียวยาประชาชนซ่ึงได้รับ ผลกระทบในทุกภาคส่วน แม้จะได้มีการปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณมาเพ่ือใช้จ่ายในการน้ีแล้วก็ตาม โดยในเบื้องต้นรัฐบาลประมาณการว่ามีความจาเป็นรีบด่วนท่ีจะต้องใช้จ่ายเงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟ้ืนฟูเศรษฐกิจและสังคมประมาณหนึ่งล้านล้านบาท ซึ่งไม่อาจดาเนินการให้ได้มาโดยวิธีการงบประมาณ ตามปกติ จึงเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจาเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ เพื่อประโยชน์ในอันท่ีจะรักษา ความปลอดภัยสาธารณะ ความม่ันคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ และป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ จงึ จาเป็นต้องตราพระราชกาหนดนี้

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๖ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา พระราชกาหนด การใหค้ วามช่วยเหลอื ทางการเงนิ แก่ผู้ประกอบวสิ าหกิจ ท่ไี ด้รบั ผลกระทบจากการระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หวั ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นปที ่ี ๕ ในรชั กาลปจั จบุ ัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศวา่ โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายวา่ ดว้ ยการให้ความชว่ ยเหลือทางการเงินแกผ่ ู้ประกอบวิสาหกจิ ทไี่ ด้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ใหต้ ราพระราชกาหนดข้นึ ไว้ ดังตอ่ ไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกาหนดน้เี รียกวา่ “พระราชกาหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน แก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓” มาตรา ๒ พระราชกาหนดนใี้ ห้ใช้บงั คับต้งั แตว่ นั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ในพระราชกาหนดนี้ “ผู้ประกอบวิสาหกิจ” หมายความวา่ ผูป้ ระกอบวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม

เล่ม ๑๓๗ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๗ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา “วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” หมายความว่า วิสาหกิจท่ีมีวงเงินสินเช่ือกับสถาบัน การเงินแต่ละแห่งไม่เกินห้าร้อยล้านบาท และไม่เป็นส่วนหน่ึงของกลุ่มธุรกิจท่ีมีลักษณะตามท่ีธนาคาร แหง่ ประเทศไทยกาหนด “สถาบันการเงิน” หมายความว่า ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน และสถาบนั การเงินเฉพาะกจิ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยธุรกจิ สถาบนั การเงินซ่ึงประกอบธรุ กจิ ให้สนิ เชอื่ “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการกากับการจา่ ยเงนิ ชดเชย “รัฐมนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรผี ูร้ ักษาการตามพระราชกาหนดนี้ มาตรา ๔ เพ่ือบรรเทาผลกระทบอันเกิดจากการระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือจากมาตรการที่รฐั กาหนดให้ประชาชนตอ้ งปฏิบตั ิอนั เปน็ การระงับ ยับย้ัง และแก้ไขปัญหาอันเกิดจาก การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ให้ดาเนินการช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ตามวิธกี ารทบี่ ญั ญัตไิ วใ้ นพระราชกาหนดนี้ ใหเ้ ป็นหนา้ ทแ่ี ละอานาจของกระทรวงการคลังและธนาคารแหง่ ประเทศไทย รว่ มกันดาเนนิ การ ให้เป็นไปตามวรรคหน่ึง มาตรา ๕ ใหร้ ัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการคลงั รักษาการตามพระราชกาหนดน้ี หมวด ๑ มาตรการสนบั สนุนการใหส้ นิ เชื่อเพ่ิมเตมิ มาตรา ๖ นอกเหนือจากการให้กู้ยืมเงินตามที่กาหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยธนาคาร แห่งประเทศไทย ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีอานาจให้กยู้ ืมเงนิ แกส่ ถาบนั การเงินเป็นการเฉพาะคราว ภายในวงเงินไม่เกินห้าแสนล้านบาท เพ่ือให้สถาบันการเงินให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ตามทกี่ าหนดในพระราชกาหนดนี้ อัตราดอกเบี้ยในการให้กู้ยืมเงินแก่สถาบันการเงินตามวรรคหนึ่ง ให้คิดในอัตราร้อยละ ศูนยจ์ ดุ ศนู ย์หนงึ่ ตอ่ ปี การให้กู้ยืมเงินแก่สถาบันการเงินตามวรรคหน่ึง อาจทาโดยวิธีการรับซ้ือต๋ัวสัญญาใช้เงิน ทส่ี ถาบันการเงนิ ผู้กเู้ ปน็ ผอู้ อกก็ได้ มิให้นาบทบัญญัติมาตรา ๙ (๔) แห่งพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พุทธศักราช ๒๔๘๕ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑ มาใช้บังคับแก่การให้กูย้ ืมเงินของธนาคารแหง่ ประเทศไทยตามพระราชกาหนดน้ี

เล่ม ๑๓๗ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๘ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๗ ให้สถาบันการเงินย่ืนคาขอกู้ยืมเงินตอ่ ธนาคารแห่งประเทศไทยตามหลักเกณฑ์ และเง่ือนไขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกาหนด ภายในหกเดือนนับแต่วันท่ีพระราชกาหนดน้ี ใช้บังคับ แต่ในกรณีที่มีความจาเป็นต้องให้ความช่วยเหลือต่อไปและยังมีวงเงินเหลืออยู่ ธนาคาร แห่งประเทศไทยจะขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไปอีกคราวละไม่เกินหกเดือนก็ได้แต่ไม่เกินสองคราว ทัง้ น้ี ตามหลกั เกณฑ์และเงื่อนไขท่ธี นาคารแห่งประเทศไทยประกาศกาหนด ในการให้กู้ยืมเงินตามวรรคหนึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทยจะกาหนดหลักเกณฑ์และเง่ือนไข ใหส้ ถาบนั การเงนิ ผกู้ ตู้ ้องปฏบิ ัตดิ ้วยกไ็ ด้ หลักเกณฑ์หรือเง่ือนไขตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ต้องไม่มีลักษณะเป็นการสร้างภาระ โดยไมจ่ าเปน็ ในการยืน่ คาขอ หรอื กาหนดให้ผูเ้ กีย่ วข้องต้องขออนุญาตใด ๆ มาตรา ๘ เงนิ ท่สี ถาบันการเงินได้รับตามมาตรา ๗ ตอ้ งนาไปใช้ใหก้ ้ยู มื แก่ผ้ปู ระกอบวสิ าหกจิ ที่ไมม่ ลี ักษณะต้องห้ามตามท่ธี นาคารแหง่ ประเทศไทยประกาศกาหนด มาตรา ๙ การให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจตามมาตรา ๘ สถาบันการเงินต้อง ดาเนนิ การตามเงอ่ื นไข ดังต่อไปนี้ (๑) วงเงินทใี่ ห้ก้ยู ืมต้องเป็นการให้สินเช่ือเพ่ิมเติมจากยอดหนีเ้ ดิมไม่เกินร้อยละยี่สิบของยอดหน้ี คงค้าง ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ แต่ไม่รวมถึงยอดหนี้คงคา้ งของวงเงินสินเชอื่ ส่วนบุคคล ภายใต้การกากับ วงเงินสินเชื่อรายย่อยเพ่ือการประกอบอาชีพภายใต้การกากับ และวงเงินสินเช่ือ บัตรเครดิต ทงั้ น้ี วงเงนิ ทใ่ี ห้กู้ยมื ดังกล่าวตอ้ งไมม่ ีผลกระทบต่อวงเงินสินเชื่อทีม่ อี ยเู่ ดมิ (๒) คิดอัตราดอกเบ้ียในส่วนสินเช่ือเพ่ิมเติมตาม (๑) สาหรับระยะเวลาสองปีแรก ในอัตราไม่เกินร้อยละสองต่อปี โดยไม่เรียกเก็บดอกเบ้ียจากผู้กู้เป็นระยะเวลาหกเดือนแรกนับแต่วันที่ ผู้ประกอบวิสาหกจิ ไดร้ ับสินเชือ่ เพ่มิ เตมิ ดอกเบ้ียท่ีไม่เรียกเก็บตาม (๒) ให้สถาบันการเงินได้รับการชดเชยพร้อมกับกาหนดการจ่าย เงินชดเชยความเสียหายตามมาตรา ๑๑ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ีธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศกาหนด ในการให้กู้ยืมเงินตามวรรคหนึ่ง ให้สถาบันการเงินได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การจานองอสังหาริมทรัพย์และอาคารชุด และการจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ อันเน่ืองมาจาก การใหก้ ู้ยืมเงินตามมาตรการในพระราชกาหนดน้ี มาตรา ๑๐ ให้สถาบันการเงินชาระคืนเงินที่ได้กู้ยืมตามพระราชกาหนดนี้พร้อมดอกเบี้ย แก่ธนาคารแหง่ ประเทศไทยภายในสองปนี บั แตว่ ันท่ีไดร้ บั เงนิ กู้

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๙ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๑๑ ในกรณีที่สถาบันการเงินได้รับความเสียหายจากการให้กู้ยืมเงินตามมาตรา ๙ ให้สถาบันการเงินที่ไดร้ ับความเสียหายได้รับชดเชยความเสียหายตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกาหนด โดยความเหน็ ชอบของคณะรฐั มนตรี ซง่ึ ตอ้ งไมน่ ้อยกว่า (๑) ร้อยละเจ็ดสิบของจานวนเงินที่สถาบันการเงินต้องกันสารองเพ่ิมเติมจากยอดหน้ีรวม ของลูกหน้ีคูณด้วยอัตราส่วนของยอดหน้ีใหม่ตามพระราชกาหนดน้ีกับยอดหนี้รวม สาหรับผู้ประกอบ วิสาหกจิ ท่ีมวี งเงินสนิ เชือ่ ไมเ่ กินห้าสิบลา้ นบาท ณ วนั ท่ี ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ (๒) ร้อยละหกสิบของจานวนเงินที่สถาบันการเงินต้องกันสารองเพิ่มเติมจากยอดหนี้รวม ของลูกหนี้คูณด้วยอัตราส่วนของยอดหน้ีใหม่ตามพระราชกาหนดน้ีกับยอดหน้ีรวม สาหรับผู้ประกอบ วสิ าหกจิ ที่มวี งเงินสนิ เช่ือเกนิ ห้าสิบลา้ นบาทขึน้ ไป ณ วนั ที่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ วิธีการคานวณความเสียหายและความเสียหายที่พึงได้รับการชดเชยตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไป ตามหลกั เกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขทธี่ นาคารแห่งประเทศไทยประกาศกาหนด เม่ือครบสองปีหกเดือนนับแต่วันที่พระราชกาหนดนี้ใช้บังคับ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ดาเนินการคานวณเงินชดเชยตามมาตรา ๙ วรรคสองและมาตรานี้ แล้วเสนอต่อคณะกรรมการ เพือ่ ดาเนินการต่อไป มาตรา ๑๒ ให้มีคณะกรรมการกากบั การจ่ายเงินชดเชย ประกอบด้วยปลัดกระทรวงการคลัง เปน็ ประธานกรรมการ เลขาธกิ ารคณะกรรมการกฤษฎกี า รองผู้วา่ การธนาคารแหง่ ประเทศไทยคนหนึ่ง ซ่ึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยมอบหมาย ผู้อานวยการสานักงานบริหารหนี้สาธารณะ และผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นกรรมการ และให้พนักงานท่ีผู้ว่าการธนาคาร แหง่ ประเทศไทยมอบหมาย เป็นเลขานุการ ใหค้ ณะกรรมการสนิ้ สุดลง เมอ่ื ดาเนนิ การตามหน้าท่ีและอานาจของคณะกรรมการเสร็จสิน้ แลว้ มาตรา ๑๓ ให้คณะกรรมการมหี นา้ ทแี่ ละอานาจ ดงั ต่อไปนี้ (๑) กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการจ่ายเงินชดเชยให้แก่สถาบันการเงินตามมาตรา ๙ วรรคสอง และมาตรา ๑๑ (๒) ตรวจสอบการคานวณเงินชดเชยใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงอื่ นไขทธี่ นาคาร แห่งประเทศไทยกาหนดตามมาตรา ๙ วรรคสอง และมาตรา ๑๑ (๓) แจง้ ใหก้ ระทรวงการคลังทราบถึงจานวนเงนิ ชดเชยและสถาบันการเงินทีไ่ ดร้ ับเงินชดเชย

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๑๐ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกจิ จานุเบกษา สถาบันการเงินใดมีข้อโต้แย้งเก่ียวกับความเสียหาย จานวนความเสียหาย หรือค่าชดเชย ให้เสนอข้อโต้แย้งน้ันต่อคณะกรรมการภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการได้รับเงินชดเชย คาวนิ ิจฉยั ของคณะกรรมการให้เปน็ ทส่ี ุด มาตรา ๑๔ เมื่อได้รับแจ้งตามมาตรา ๑๓ (๓) แล้วให้กระทรวงการคลังเสนอต่อ คณะรัฐมนตรีเพ่ือพิจารณา และเม่ือคณะรัฐมนตรีมีมติเป็นประการใด ให้ผู้ท่ีเกี่ยวข้องดาเนินการ ไปตามน้ัน ในกรณีท่ีต้องมีการจ่ายเงินชดเชย ให้กระทรวงการคลังดาเนินการจ่ายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพอ่ื มใิ ห้เป็นภาระแก่สถาบนั การเงินท่ีเกย่ี วข้องเกินสมควร หมวด ๒ การชะลอการชาระหน้ี มาตรา ๑๕ เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบอันเกิดจากการระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ ให้ธนาคารแหง่ ประเทศไทยมีอานาจส่งั ให้สถาบันการเงินชะลอการชาระหนเ้ี งนิ ตน้ และดอกเบย้ี ของผปู้ ระกอบวสิ าหกจิ ที่มีวงเงนิ สินเชอื่ กับสถาบันการเงนิ แตล่ ะแหง่ ไม่เกนิ หนงึ่ รอ้ ยล้านบาท หรอื ลูกหนีอ้ นื่ ได้ การชะลอการชาระหนี้ตามวรรคหนึ่ง มิให้ถือว่าเจ้าหนี้ผ่อนเวลาชาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ หรอื ลูกหนผ้ี ดิ นดั ชาระหน้ี หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขในการชะลอการชาระหนี้ ระยะเวลาการชะลอการชาระหนี้ และวิธีการชาระหนี้เงินต้นและดอกเบ้ียท่ีชะลอไว้ ให้เป็นไปตามท่ีธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศ กาหนด ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๑๑ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกาหนดฉบับนี้ คือ โดยท่ีการระบาดของโรคติดเช้ือ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง และมีแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งข้ึน จึงจาเป็นต้องมี มาตรการในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของประเทศและเปน็ แหล่งจา้ งงานทส่ี าคญั ของระบบเศรษฐกจิ โดยการให้สนิ เชอื่ เพิ่มเตมิ เพือ่ เสริมสภาพคลอ่ ง รวมถึงการชะลอการชาระหน้ีเพ่ือให้สอดคล้องกับความสามารถในการชาระหน้ีของผู้ประกอบวิสาหกิจ ท่ีคาดว่าจะลดลงอย่างรุนแรงจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ซ่ึงมาตรการดังกล่าวต้องมีการดาเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันมิให้ภาคธุรกิจเกิดสภาวะการขาด สภาพคล่องหรือผิดนัดชาระหน้ีและอาจส่งผลกับฐานะทางการเงินและการทาหน้าที่ด้านสินเชื่อ ของสถาบันการเงิน อันอาจกระทบต่อเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจของประเทศซ่ึงจะทาให้ปัญหา ทวีความรุนแรงและยากต่อการแก้ไขในภายหลัง จึงเป็นกรณีฉุกเฉินท่ีมีความจาเป็นรีบด่วนอันมิอาจ จะหลีกเล่ียงได้ที่จะต้องให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความมั่นคง ในทางเศรษฐกิจของประเทศ จงึ จาเป็นต้องตราพระราชกาหนดนี้

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๑๒ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา พระราชกาหนด การรกั ษาเสถียรภาพของระบบการเงนิ และความม่นั คงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๓ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรสี ินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชริ เกลา้ เจ้าอยู่หวั ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นปที ี่ ๕ ในรัชกาลปจั จบุ นั พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยท่ีเป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความม่ันคง ทางเศรษฐกิจของประเทศ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหต้ ราพระราชกาหนดขน้ึ ไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชกาหนดน้ีเรียกว่า “พระราชกาหนดการรักษาเสถียรภาพของระบบ การเงนิ และความมัน่ คงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๓” มาตรา ๒ พระราชกาหนดนีใ้ ห้ใช้บงั คบั ต้งั แต่วนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ในพระราชกาหนดนี้ “กองทุน” หมายความวา่ กองทนุ เพ่ือรกั ษาสภาพคลอ่ งของการระดมทนุ ในตลาดตราสารหนี้ “คณะกรรมการกากับกองทุน” หมายความว่า คณะกรรมการกากับกองทุนเพื่อรักษา สภาพคลอ่ งของการระดมทนุ ในตลาดตราสารหนี้

เล่ม ๑๓๗ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๑๓ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา “รัฐมนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรผี ู้รักษาการตามพระราชกาหนดนี้ มาตรา ๔ เพอื่ บรรเทาผลกระทบอนั เนอื่ งมาจากการระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ และเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจโดยรวม ให้ดาเนินการ เพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหน้ีภาคเอกชนตามวิธีการที่บัญญัติไว้ใน พระราชกาหนดน้ี ให้เป็นหน้าท่ีและอานาจของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกันดาเนินการ ให้เปน็ ไปตามวรรคหนึ่ง พระราชกาหนดนี้ไม่กระทบหน้าท่ีและอานาจในการกากับดูแลการรักษาเสถียรภาพของ ตลาดตราสารหนีภ้ าคเอกชนของคณะกรรมการกากบั หลักทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ย์และคณะกรรมการกากบั ตลาดทุนตามทม่ี ีกฎหมายกาหนด เวน้ แต่ทบ่ี ัญญัตไิ วเ้ ปน็ อย่างอนื่ เปน็ การเฉพาะในพระราชกาหนดน้ี การดาเนินการตามพระราชกาหนดนี้ให้มีระยะเวลาห้าปีนับแต่วันที่พระราชกาหนดน้ีใช้บังคับ เว้นแต่คณะรัฐมนตรีตามข้อเสนอแนะของธนาคารแห่งประเทศไทยจะเห็นว่ามีความจาเป็นเพื่อรักษา ประโยชนข์ องรัฐจะมมี ติให้ขยายระยะเวลาออกไปอีกก็ได้ มาตรา ๕ ในกรณีท่ีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชกาหนดนี้ ให้รัฐมนตรี เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยปัญหาดังกล่าว คาวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้ถือเป็นที่สุด และให้ผู้เกี่ยวข้อง ปฏิบตั ใิ หเ้ ป็นไปตามคาวนิ ิจฉยั น้ัน มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงการคลังรกั ษาการตามพระราชกาหนดน้ี หมวด ๑ กองทนุ มาตรา ๗ ให้จัดต้ังกองทุนรวมขึ้นกองทุนหนึ่ง เรียกว่า “กองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่อง ของการระดมทุนในตลาดตราสารหน้ี” มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพและสภาพคล่อง ของตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน ที่ได้รับผลกระทบอันเน่ืองมาจากการระบาดของโรคติดเช้ือ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ดว้ ยวิธกี ารลงทนุ ในตราสารหนีภ้ าคเอกชนทอ่ี อกใหม่ มาตรา ๘ ให้กองทุนเป็นนิติบุคคล และให้ถือว่าเป็นกองทุนรวมที่จัดต้ังและดาเนินการ ตามกฎหมายวา่ ด้วยหลกั ทรพั ย์และตลาดหลักทรพั ย์ ในระยะเรมิ่ แรกให้กองทุนมีวงเงินไมเ่ กินสี่แสนล้านบาท

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๑๔ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานุเบกษา ภายใต้บังคับมาตรา ๑๗ และมาตรา ๑๘ ในระยะเร่ิมแรกให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เปน็ ผู้ถอื หนว่ ยลงทุนในกองทุนแตผ่ เู้ ดยี ว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีอานาจซ้ือหน่วยลงทุนภายในวงเงินไม่เกินส่ีแสนล้านบาท ภายในระยะเวลาทีค่ ณะกรรมการกากบั กองทนุ กาหนด การดาเนินกิจการกองทุน การบริหารและการจัดการกองทุน ให้ดาเนินการตามกฎหมาย ว่าดว้ ยหลกั ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เว้นแต่ท่ีบัญญตั ิไวเ้ ป็นอยา่ งอ่ืนเปน็ การเฉพาะในพระราชกาหนดนี้ มาตรา ๙ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการกากับกองทุนเพ่ือรักษา สภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหน้ี” ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลงั เป็นประธาน กรรมการ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นรองประธานกรรมการ ผู้อานวยการสานักงานบริหาร หนี้สาธารณะ ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งต้ั ง โดยคาแนะนาของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยจากผู้มีความรู้ความเช่ียวชาญด้านตลาดทุน ด้านตลาดตราสารหน้ี หรือด้านกฎหมาย จานวนไม่เกินสามคน เป็นกรรมการ ให้ผู้ว่าการธนาคาร แห่งประเทศไทยแตง่ ตัง้ พนักงานธนาคารแหง่ ประเทศไทยคนหน่งึ เปน็ เลขานุการ วาระการดารงตาแหน่งและการพ้นจากตาแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และการประชุม ของคณะกรรมการ ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บที่รฐั มนตรปี ระกาศกาหนด มาตรา ๑๐ ใหค้ ณะกรรมการกากบั กองทนุ มีหน้าท่ีและอานาจ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) กาหนดนโยบาย แนวทางการดาเนินงาน และกรอบการลงทุน รวมทั้งการบริหาร ความเสีย่ งของการลงทุนของกองทุนให้เป็นไปตามวตั ถุประสงค์ตามมาตรา ๗ (๒) แต่งต้ังบริษัทหลักทรัพย์เพื่อดาเนินการจัดการกองทุนโดยต้องเป็นบริษัทหลักทรัพย์ ท่ีได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนรวมตามกฎหมายว่าด้วย หลกั ทรพั ยแ์ ละตลาดหลกั ทรพั ย์ (๓) กากับดูแลการดาเนนิ งานของคณะกรรมการลงทุน รวมทั้งการลงทุนและการดาเนนิ การ ของกองทุนใหเ้ ป็นไปตามวตั ถปุ ระสงคต์ ามมาตรา ๗ และตามโครงการจัดการกองทุน (๔) กระทาการอย่างอ่ืนท่ีเกี่ยวกับหรือเก่ียวเน่ืองในการปฏิบัติตามหน้าท่ีและอานาจ ของคณะกรรมการกากับกองทุน ให้คณะกรรมการกากับกองทุนรายงานผลการดาเนินงานตอ่ รัฐมนตรีเปน็ ประจาทุกปี

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๑๕ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๑๑ กรอบการลงทุนตามมาตรา ๑๐ (๑) อย่างน้อยต้องมีสาระสาคัญในเร่ือง ดงั ต่อไปน้ี (๑) ประเภท คุณสมบัติ กรอบการกาหนดราคาหรืออัตราผลตอบแทน และอายุของตราสารหนี้ ทจ่ี ะลงทนุ (๒) วตั ถุประสงค์และข้อจากัดในการนาเงนิ ไปใช้ (๓) สัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ของกองทุนเม่ือเทียบกับแหล่งเงินทุนอ่ืนของผู้ออก ตราสารหน้ีในคราวเดียวกัน ซ่ึงจะต้องไม่เกินร้อยละห้าสิบของยอดตราสารหนี้ท่ีจะครบกาหนด เว้นแต่ไดร้ บั ผ่อนผนั จากคณะกรรมการกากับกองทนุ (๔) หลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขอ่ืน ซ่ึงต้องไม่มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือสร้างขั้นตอน เกินความจาเป็น ในกรณีท่ีผอู้ อกตราสารหนร้ี ะดมทนุ โดยการออกตราสารหน้ีเสนอขายตอ่ ประชาชนหรอื บุคคลใด ๆ และมีการให้หลักประกันแก่ผู้ถือตราสารหน้ี ตราสารหนี้ที่กองทุนซ้ือต้องได้รับหลักประกันไม่ด้อยกว่า หลักประกันที่ผู้ออกตราสารหน้ีให้แก่ผู้ถือตราสารหนี้อื่นในคราวเดียวกัน ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์ ที่คณะกรรมการกากับกองทนุ กาหนด มาตรา ๑๒ ให้มีคณะกรรมการลงทนุ ประกอบด้วย รองผู้วา่ การธนาคารแหง่ ประเทศไทย คนหน่ึงซ่ึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ ผู้แทนสานักงานบริหาร หนี้สาธารณะ ผู้แทนกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ และผู้ทรงคุณวุฒซิ ่งึ ผู้ว่าการธนาคารแหง่ ประเทศไทย แต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความเช่ียวชาญด้านตลาดทุนหรือด้านการเงินการธนาคาร จานวนไม่เกินสองคน เป็นกรรมการ ให้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยแต่งตั้งพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยคนหนึ่ง เปน็ เลขานุการ วาระการดารงตาแหน่งและการพ้นจากตาแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและการประชุม ของคณะกรรมการลงทนุ ให้เป็นไปตามทธ่ี นาคารแหง่ ประเทศไทยกาหนด มาตรา ๑๓ ให้คณะกรรมการลงทุนมีหน้าที่และอานาจคัดเลือกตราสารหนี้ภาคเอกชน ท่ีเป็นไปตามมาตรา ๑๑ และมาตรา ๑๔ รวมถึงปฏิบัติหน้าที่อ่ืนใดตามที่ได้รับมอบหมาย จากคณะกรรมการกากบั กองทนุ ให้คณะกรรมการลงทุนรายงานผลการดาเนินงานต่อคณะกรรมการกากับกองทุนอย่างน้อย ทกุ สามเดือน

เล่ม ๑๓๗ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๑๖ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานุเบกษา ในการดาเนินการตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการลงทุนอาจแต่งต้ังที่ปรึกษาเพื่อให้คาแนะนา แก่คณะกรรมการลงทุนได้ โดยค่าใช้จ่ายและเงินค่าตอบแทนในการจ้างที่ปรึกษา ถือเป็นค่าใช้จ่าย ของกองทุน มาตรา ๑๔ ตราสารหนภ้ี าคเอกชนที่กองทุนจะลงทนุ ได้ ตอ้ งมีลกั ษณะ ดังต่อไปนี้ (๑) เปน็ ตราสารหน้ที ีอ่ อกใหมเ่ พ่อื ไถถ่ อนตราสารหนเ้ี ดิมทีค่ รบกาหนด (๒) ผู้ออกตราสารหนี้นั้นมีแหล่งเงินทุนอ่ืนที่มิใช่กองทุนไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบของ ยอดตราสารหนี้ท่จี ะครบกาหนด เว้นแต่ไดร้ บั ผ่อนผนั จากคณะกรรมการกากบั กองทนุ (๓) เป็นตราสารหนที้ ี่ผ้อู อกมีอันดบั ความน่าเชือ่ ถอื ในระดับลงทุนได้ แต่ไมร่ วมถงึ ตราสารหน้ี ที่ออกเสนอขายให้แก่กองทุน ประชาชน หรือบุคคลใด ๆ ในคราวเดียวกันท่ีได้รับการจัดอันดับ ความน่าเชื่อถือในระดับต่ากว่าลงทุนได้ ท้ังนี้ การจัดอันดับดังกล่าวได้กระทาโดยองค์กรที่ธนาคาร แห่งประเทศไทยกาหนด (๔) ผอู้ อกตราสารหนเี้ ป็นบริษทั ทีจ่ ดทะเบียนและประกอบธุรกิจในประเทศไทย แตไ่ ม่รวมถึง รัฐวสิ าหกิจ สถาบันการเงนิ หรอื บริษทั ทอี่ ยู่ในกลมุ่ ธุรกจิ ของสถาบันการเงิน มาตรา ๑๕ ให้กรรมการในคณะกรรมการกากับกองทุนและคณะกรรมการลงทุนได้รับ ค่าตอบแทนตามทีร่ ฐั มนตรีกาหนดโดยถือเป็นค่าใช้จา่ ยของกองทุน มาตรา ๑๖ การแต่งตัง้ บริษัทหลกั ทรัพย์เพื่อดาเนนิ การจัดการกองทุนตามมาตรา ๑๐ (๒) การแต่งต้ังท่ีปรึกษาตามมาตรา ๑๓ วรรคสาม และการซ้ือหรือขายหน่วยลงทุนหรือตราสารหน้ี ตามพระราชกาหนดน้ี ให้เป็นไปตามระเบียบท่ีคณะกรรมการกากับกองทุนกาหนด โดยไม่ต้องปฏิบัติ ตามกฎหมายวา่ ด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดภุ าครฐั มาตรา ๑๗ ในเวลาใด ๆ เม่ือเห็นเป็นการสมควรเพ่ือประโยชนข์ องรฐั หรือเมื่อหมดความจาเปน็ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนแต่เพียงผู้เดียว คณะกรรมการกากับกองทุน จะมีมติให้ธนาคารแห่งประเทศไทยขายหน่วยลงทุนที่ถืออยู่หรือให้กองทุนขายหน่วยลงทุนให้แก่ บคุ คลอื่นตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงอื่ นไขท่ีคณะกรรมการกากับกองทนุ กาหนดก็ได้ มาตรา ๑๘ ก่อนส้ินสุดระยะเวลาตามมาตรา ๔ วรรคส่ี ให้คณะกรรมการกากับกองทุน พิจารณาเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกาหนดวิธีและข้ันตอนการยุติดาเนินการเมื่อสิ้นสุดระยะเวลา ดังกล่าว โดยจะขายคืนหน่วยลงทุนหรือขายหน่วยลงทุนให้บุคคลอ่ืนเพ่ือดาเนินการกองทุนน้ันต่อไป หรอื ดว้ ยวธิ กี ารอนื่ ก็ได้ และเม่อื คณะรฐั มนตรใี หค้ วามเห็นชอบแลว้ ให้ดาเนนิ การไปตามนั้น

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๑๗ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานุเบกษา ในกรณีที่ยังมีการดาเนินการกองทุนน้ันต่อไปภายหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาตามวรรคหน่ึง ให้กองทุนแจ้งให้สานักงานคณะกรรมการกากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ทราบ และให้ถือว่า ก อ ง ทุ น ไ ด้ รั บ ก า ร จั ด ต้ั ง โ ด ย ช อ บ ต า ม ก ฎ ห ม า ย ว่ า ด้ ว ย ห ลั ก ท รั พ ย์ แ ล ะ ต ล า ด ห ลั ก ท รั พ ย์ แ ล้ ว ส่วนการดาเนินการตอ่ ไปใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายว่าดว้ ยหลักทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ กรณีใดที่ไม่อาจ ดาเนินการได้ ให้ดาเนนิ การตามที่คณะกรรมการกากบั ตลาดทุนกาหนด หมวด ๒ การซือ้ ขายตราสารหน้ีในตลาดรอง มาตรา ๑๙ ในกรณีท่ีตลาดตราสารหน้ีประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างร้ายแรง อันเนื่องมาจากการระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ และมีเหตุจาเป็นเร่งด่วนเพ่ือการรักษา เสถยี รภาพของระบบเศรษฐกจิ และระบบการเงินโดยรวม ให้ธนาคารแหง่ ประเทศไทยโดยความเห็นชอบ ของรัฐมนตรมี อี านาจซื้อขายตราสารหนภ้ี าคเอกชนทม่ี ใิ ชต่ ราสารหนี้ทอ่ี อกใหม่ ในการดาเนินการตามวรรคหน่ึง ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจมอบหมายให้บุคคลใดทาหนา้ ท่ี ในการบริหารจัดการการซื้อขายตราสารหน้ีตามวรรคหนึ่งแทนธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ การมอบหมายดังกล่าวให้ดาเนินการตามระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยไม่ต้องปฏิบัติ ตามกฎหมายวา่ ด้วยการจัดซ้อื จัดจา้ งและการบริหารพสั ดุภาครฐั หมวด ๓ การชดเชยความเสียหายใหแ้ ก่ธนาคารแหง่ ประเทศไทย มาตรา ๒๐ ในการดาเนินการของธนาคารแห่งประเทศไทยตามพระราชกาหนดนี้ ถ้ามีกาไรเกิดขึ้น ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนาส่งกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ถ้าเกิด ความเสียหายขึ้นแก่ธนาคารแห่งประเทศไทย ให้กระทรวงการคลังชดเชยความเสียหายให้แก่ธนาคาร แหง่ ประเทศไทยในวงเงนิ ไมเ่ กินส่หี ม่ืนลา้ นบาท มาตรา ๒๑ ให้มีคณะกรรมการพิจารณาผลดาเนินการ มีหน้าที่กาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการการคานวณกาไร หรือความเสียหาย และวงเงินชดเชย และวินิจฉัยจานวนผลกาไร หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว ประกอบด้วย อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นประธานกรรมการ รองผู้อานวยการสานักงบประมาณคนหนึ่งซ่ึงผู้อานวยการสานักงบประมาณ

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๑๘ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกจิ จานเุ บกษา มอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ รองผู้ว่าการธนาคารแหง่ ประเทศไทยคนหนึ่งซ่ึงผู้ว่าการธนาคาร แห่งประเทศไทยมอบหมาย ผู้อานวยการสานักงานบริหารหน้ีสาธารณะ และผู้อานวยการสานักงาน เศรษฐกิจการคลัง เป็นกรรมการ ให้กรมบัญชีกลางแต่งต้ังข้าราชการในสังกัดคนหน่ึงเป็นเลขานุการ และใหธ้ นาคารแหง่ ประเทศไทยแตง่ ตง้ั พนักงานธนาคารแหง่ ประเทศไทยคนหนง่ึ เป็นผูช้ ่วยเลขานกุ าร เม่ือคณะกรรมการตามวรรคหน่งึ วินจิ ฉยั จานวนผลกาไรหรอื ความเสียหายแล้ว ให้แจ้งให้ธนาคาร แหง่ ประเทศไทยหรอื กระทรวงการคลัง แล้วแต่กรณี เพ่ือดาเนินการตามมาตรา ๒๐ โดยเรว็ ต่อไป ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี

เล่ม ๑๓๗ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๑๙ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกาหนดฉบับนี้ คือ โดยท่ีโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ระบาดอย่างฉับพลันและรุนแรงท่ัวโลกรวมทั้งประเทศไทย จนกระท่ังองค์การอนามัยโลกต้องประกาศ ให้เป็นการระบาดใหญ่ ส่งผลกระทบตอ่ ระบบเศรษฐกจิ ของทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดตราสารหน้ี ที่เปน็ ทั้งช่องทางการระดมทนุ อยา่ งสาคัญในการประกอบธุรกจิ การลงทนุ และการออม ของประชาชน การระบาดนย้ี ังไม่มหี น่วยงานใดคาดการณ์ได้ชัดเจนวา่ จะยุตลิ งเม่อื ใด เป็นผลใหก้ ารดาเนินกิจกรรมทาง เศรษฐกิจของทุกภาคส่วนทั่วโลกเกิดภาวะชะงกั งันอย่างรุนแรงและฉบั พลัน ผู้ประกอบการซึ่งระดมทนุ ในตลาดตราสารหนี้ต้องประสบปัญหาขาดสภาพคล่องกะทันหัน ไม่สามารถไถ่ถอนตราสารหน้ีท่ีครบ กาหนดและที่ใกล้จะครบกาหนดซ่ึงมีมูลค่านับแสนล้านบาทได้ สถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มสูงมาก ท่ีจะทาให้เกิดการผิดนัดชาระหนี้ของผู้ออกตราสารหนี้ท่ีเพ่ิมขึ้นอย่างมีนัยสาคัญ เป็นความเส่ียงเชิงระบบ ที่กระทบต่อเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจและระบบการเงินของประเทศและต่อประชาชนโดยรวม จึงเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจาเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้เพ่ือประโยชน์ในอันท่ีจะรักษา ความมน่ั คงในทางเศรษฐกจิ ของประเทศ จงึ จาเป็นตอ้ งตราพระราชกาหนดนี้

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๒๐ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานุเบกษา พระราชกาหนด วา่ ดว้ ยการประชมุ ผา่ นสื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๖๓ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รสี ินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัว ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นปที ่ี ๕ ในรชั กาลปัจจบุ นั พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มพี ระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยทเี่ ปน็ การสมควรปรบั ปรุงกฎหมายวา่ ด้วยการประชุมผ่านสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกาหนดข้นึ ไว้ ดังตอ่ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชกาหนดนี้เรียกว่า “พระราชกาหนดว่าด้วยการประชุมผ่าน สอื่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ พ.ศ. ๒๕๖๓” มาตรา ๒ พระราชกาหนดนใี้ หใ้ ชบ้ ังคบั ตั้งแตว่ นั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๗๔/๒๕๕๗ เรื่อง การประชมุ ผ่านสอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์ ลงวันท่ี ๒๗ มถิ นุ ายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ มาตรา ๔ ในพระราชกาหนดน้ี

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๒๑ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา “การประชุมผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า การประชุมที่กฎหมายบัญญัติให้ต้อง มีการประชุมท่ีได้กระทาผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ โดยผู้ร่วมประชุมมิได้อยู่ในสถานที่เดียวกันและสามารถ ประชมุ ปรกึ ษาหารอื และแสดงความคดิ เหน็ ระหวา่ งกันไดผ้ ่านสือ่ อิเล็กทรอนิกส์ “ผู้ร่วมประชุม” หมายความว่า ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการ อนุกรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือคณะบุคคลอน่ื ตามท่ีกฎหมายกาหนด และให้หมายความรวมถึงผู้ซ่ึงต้องช้ีแจงแสดงความคิดเห็นต่อคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือคณะบุคคลนั้นด้วย มาตรา ๕ พระราชกาหนดน้ีไมใ่ ช้บังคบั แก่ (๑) การประชมุ ของสภาผู้แทนราษฎร วุฒสิ ภา และรฐั สภา (๒) การประชมุ เพอ่ื จัดทาคาพพิ ากษาหรอื คาสั่งของศาล (๓) การประชุมเพอ่ื ดาเนนิ การตามกระบวนการจดั ซอื้ จดั จา้ งของส่วนราชการ ราชการสว่ นทอ้ งถน่ิ รัฐวิสาหกจิ องค์การมหาชน และหน่วยงานอ่ืนของรัฐ (๔) การประชมุ อนื่ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๖ การประชุมตามท่ีกฎหมายบัญญัติให้ต้องมีการประชุม นอกจากจะดาเนินการ ตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในกฎหมายแต่ละฉบับแล้ว ผู้ทาหน้าท่ีประธานในท่ีประชุมจะกาหนดให้จัด การประชุมผ่านสื่ออเิ ลก็ ทรอนิกสก์ ไ็ ด้ และให้มผี ลเชน่ เดียวกับการประชมุ ตามวธิ กี ารท่ีบัญญัติไวใ้ นกฎหมาย หา้ มมใิ หป้ ระชุมผา่ นสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ นเรื่องตามที่กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๗ การประชมุ ผา่ นส่ืออเิ ล็กทรอนกิ สต์ อ้ งเปน็ ไปตามมาตรฐานการรกั ษาความมน่ั คง ปลอดภัยของการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ท่ีกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมกาหนด โดยประกาศในราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๘ การส่งหนงั สือเชิญประชมุ และเอกสารประกอบการประชุม จะส่งโดยจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ ในการน้ี ผู้มีหน้าที่จัดการประชุมต้องจัดเก็บสาเนาหนังสือเชิญประชุมและเอกสาร ประกอบการประชมุ ไวเ้ ป็นหลกั ฐาน โดยจะจัดเก็บในรปู ขอ้ มลู อเิ ล็กทรอนกิ สก์ ็ได้ มาตรา ๙ ในการประชมุ ผ่านสอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ ผูม้ ีหน้าทจี่ ัดการประชมุ ตอ้ ง (๑) จัดให้ผู้ร่วมประชุมแสดงตนเพื่อร่วมประชมุ ผ่านสอื่ อิเล็กทรอนิกส์ก่อนรว่ มการประชมุ (๒) จัดใหผ้ ู้ร่วมประชมุ สามารถลงคะแนนได้ ท้ังการลงคะแนนโดยเปิดเผยและการลงคะแนนลับ (๓) จัดทารายงานการประชมุ เป็นหนงั สือ

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๒๒ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกจิ จานุเบกษา (๔) จัดให้มีการบันทึกเสียงหรือท้ังเสียงและภาพ แล้วแต่กรณี ของผู้ร่วมประชุมทุกคน ตลอดระยะเวลาทมี่ ีการประชมุ ในรปู ขอ้ มลู อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เว้นแต่เป็นการประชุมลับ (๕) จัดเกบ็ ข้อมูลจราจรอิเล็กทรอนกิ สข์ องผู้ร่วมประชุมทกุ คนไว้เปน็ หลกั ฐาน ขอ้ มลู ตาม (๔) และ (๕) ให้ถือเป็นสว่ นหนึง่ ของรายงานการประชมุ มาตรา ๑๐ ในการประชุมผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ หากมีกรณีท่ีต้องจ่ายเบี้ยประชุม หรือค่าตอบแทนไม่ว่าจะเรียกว่าอย่างใดให้แกผ่ รู้ ่วมประชุม ให้จ่ายเบ้ยี ประชุมหรอื คา่ ตอบแทนน้ันให้แก่ ผู้ร่วมประชุมซงึ่ ได้แสดงตนเขา้ ร่วมประชุมผ่านสอ่ื อิเล็กทรอนกิ สด์ ้วย มาตรา ๑๑ ให้ถือวา่ การประชุมผ่านส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ตามพระราชกาหนดนีเ้ ป็นการประชุม โดยชอบด้วยกฎหมาย และห้ามมิให้ปฏิเสธการรับฟังข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชกาหนดนี้ เป็นพยานหลักฐานในกระบวนการพิจารณาตามกฎหมายท้ังในคดีแพ่ง คดีอาญา หรือคดีอื่นใด เพยี งเพราะเหตวุ ่าเปน็ ขอ้ มูลอเิ ล็กทรอนิกส์ มาตรา ๑๒ ให้มาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการประชุมผ่านส่ืออิเล็กทรอนกิ ส์ ท่ีออกตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๗๔/๒๕๕๗ เร่ือง การประชุมผ่าน ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันท่ี พระราชกาหนดนี้ใช้บังคับ ยังคงใช้บังคับต่อไปได้เพียงเท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชกาหนดน้ีจนกว่า จะมีมาตรฐานการรักษาความม่ันคงปลอดภัยของการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ท่ีออกตาม พระราชกาหนดนใี้ ช้บงั คับ มาตรา ๑๓ บรรดาการประชุมผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ที่ได้ดาเนินการไปแล้วตามประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับท่ี ๗๔/๒๕๕๗ เร่ือง การประชุมผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ ๒๗ มิถนุ ายน พทุ ธศักราช ๒๕๕๗ ให้ถอื วา่ เปน็ การประชมุ ที่ชอบด้วยพระราชกาหนดน้ี มาตรา ๑๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรักษาการ ตามพระราชกาหนดนี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี

เล่ม ๑๓๗ ตอนท่ี ๓๐ ก หน้า ๒๓ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๓ ราชกิจจานเุ บกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกาหนดฉบับนี้ คือ โดยท่ีปัจจุบันได้เกิดสถานการณ์ การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ในหลายประเทศท่ัวโลกรวมท้ังประเทศไทย มีจานวน ผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลและเสียชีวิตจากโรคดงั กล่าวเป็นจานวนมากเนื่องจากติดเชื้อได้ง่าย องค์การอนามัยโลกจึงได้ประกาศให้เป็นภาวะการแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก และขณะน้ียังไม่มีแนวทาง การรักษาท่ีชัดเจน ทาให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นเพื่อควบคุมการระบาดของโรคตามคาแนะนา ขององค์การอนามัยโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) ทาให้การปฏิบัติงานของภาครัฐและการประกอบกิจกรรมในทางเศรษฐกิจของเอกชนเกือบทุกภาคส่วน ซ่ึงต้องมีการประชุมเพื่อปรึกษาหารือกันเป็นปกติต้องดาเนินการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ แม้ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๗๔/๒๕๕๗ เร่ือง การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ ลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ อันเป็นกฎหมายกลางว่าด้วยการประชุมผ่าน ส่ืออิเล็กทรอนิกส์จะได้วางหลักเกณฑ์การปฏิบัติในการประชุมผ่านสือ่ อิเลก็ ทรอนิกสไ์ วแ้ ล้ว แต่ผเู้ ขา้ ร่วม ประชุมอย่างน้อยหนึ่งในสามขององค์ประชุมยังคงต้องอยู่ในสถานที่เดียวกัน ทาให้ผู้ซึ่งต้องเข้าร่วม ประชุมในสถานท่ีเดียวกันดงั กล่าวมคี วามเส่ียงท่ีจะตดิ โรคสูงอนั ไม่สอดคล้องกับการเว้นระยะห่างทางสังคม นอกจากน้ี หลักเกณฑ์เดิมท่ีมีอยู่ยังได้กาหนดให้ผู้เข้าร่วมประชุมท้ังหมดต้องอยู่ในราชอาณาจักร ซ่ึงไม่สอดคล้องกับสภาพการทางานทั้งในภาครัฐและเอกชน รวมทั้งเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป อนั ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและความตอ่ เน่ืองในการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ตลอดจนการประกอบ กิจกรรมทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนอย่างรนุ แรง ดังจะเหน็ ได้จากการที่บรษิ ัทต่าง ๆ ต้องเล่อื นประชมุ ใหญ่ สามญั ผ้ถู อื หนุ้ ออกไปโดยไม่มีกาหนด ในขณะที่จาเป็นอย่างยิ่งที่ภาคเอกชนตอ้ งปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว และฉับพลันเพื่อตอบสนองต่อสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจท่ีชะลอตัวลงอย่างทันทีทันใด สถานการณ์ ดังกล่าวจึงมีผลกระทบต่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง เป็นกรณีฉุกเฉินท่ีมี ความจาเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ในอันที่จะรักษาความม่ันคงทางเศรษฐกิจของประเทศ จงึ จาเป็นตอ้ งตราพระราชกาหนดน้ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook