Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

(4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

Published by agenda.ebook, 2021-01-13 08:12:49

Description: (4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 12 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันที่ 20 มกราคม 2564

Search

Read the Text Version

เรอื่ งทค่ี ณะกรรมาธกิ าร พิจารณาเสร็จแลว้ คร้งั ที่ 12 (สมยั สามญั ประจาปีครัง้ ท่ีสอง) วันท่ี 20 มกราคม 2564





รายงาน ของ คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามัญพจิ ารณา ร่างพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. .... สภาผู้แทนราษฎร กล่มุ งานคณะกรรมาธิการกิจการเดก็ เยาวชน สตรี ผสู้ งู อายุ ผู้พกิ าร กลุ่มชาตพิ นั ธ์ุ และผมู้ คี วามหลากหลายทางเพศ สานกั กรรมาธกิ าร ๓ สานกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร





รายงานคณะกรรมาธกิ ารวสิ ามัญ --------------------------- ตามที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดท่ี ๒๕ ปีที่ ๒ คร้ังที่ ๑๑ (สมัยสามัญประจาปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๓ ได้ลงมติรับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมาย อาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย อาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) และตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ขึ้นคณะหนึง่ เพื่อพิจารณา กาหนดการแปรญัตติภายใน ๗ วัน โดยให้ถือเอารา่ งพระราชบญั ญัตขิ องคณะรัฐมนตรี เป็นหลักในการพจิ ารณา นั้น บดั นี้ คณะกรรมาธิการวิสามญั ไดด้ าเนนิ การแล้ว ปรากฏผลดงั น้ี ๑. คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามัญไดม้ ีมตเิ ลือกต้งั (๑) นายสนั ติ กีระนันทน์ เปน็ ประธานคณะกรรมาธกิ าร (๒) นางมกุ ดา พงษส์ มบัติ เปน็ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง (๓) นางสาวธณกิ านต์ พรพงษาโรจน์ เปน็ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง (๔) นายธญั วจั น์ กมลวงศ์วัฒน์ เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ คนทสี่ าม (๕) นางสาวแนน บณุ ยธ์ ิดา สมชยั เปน็ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนที่ส่ี (๖) นายมณฑล โพธ์คิ าย เปน็ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หา้ (๗) นายอดุ มศักดิ์ ศรีสุทิวา เปน็ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนท่หี ก (๘) รองศาสตราจารย์กฤตยา อาชวนจิ กุล เปน็ ท่ีปรกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร (๙) ศาสตราจารยพ์ เิ ศษจรัญ ภกั ดธี นากุล เป็นที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธิการ (๑๐) ศาสตราจารยค์ ลินกิ เกียรตคิ ุณวบิ ูลพรรณ ฐติ ะดิลก เปน็ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร (๑๑) นายสุวรรณชัย วฒั นาย่ิงเจรญิ ชยั เปน็ ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธิการ (๑๒) นายเขมชาติ กจิ ค้า เปน็ โฆษกคณะกรรมาธกิ าร (๑๓) นายชยั วุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ (๑๔) นางสาวธารารัตน์ ปัญญา เปน็ โฆษกคณะกรรมาธกิ าร (๑๕) นางสาวนพวรรณ หัวใจมัน่ เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ (๑๖) นางอังคณา นีละไพจติ ร เป็นโฆษกคณะกรรมาธกิ าร (๑๗) นางภทั ธมน เพ็งส้ม เป็นเลขานกุ ารคณะกรรมาธกิ าร ๒. คณะกรรมาธิการวิสามัญได้มีมติแต่งตั้ง นายดารง วรรณสอน นิติกรชานาญการพิเศษ กลมุ่ งานคณะกรรมาธกิ ารกจิ การเดก็ เยาวชน สตรี ผสู้ งู อายุ ผู้พกิ าร กลุ่มชาติพนั ธุ์ และผูม้ ีความหลากหลาย ทางเพศ สานักกรรมาธิการ ๓ สานักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร เป็นผูช้ ่วยเลขานุการประจาคณะกรรมาธิการ ตามข้อบงั คบั การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๓ วรรคสี่

(๒) ๓. ผ้ซู ่งึ คณะรัฐมนตรีไดม้ อบหมายให้มาชี้แจงแสดงความคดิ เห็น คอื ๓.๑ กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์ กรมกจิ การเดก็ และเยาวชน นางนนั ทา ไวคกลุ ผูอ้ านวยการกองคุ้มครองเดก็ และเยาวชน ๓.๒ กระทรวงยุติธรรม ทีป่ รกึ ษาด้านกฎหมาย สานักงานปลัดกระทรวงยตุ ิธรรม นติ ิกรชานาญการพิเศษ กองกฎหมาย (๑) นางสาวรวิวรรณ จตุรพธิ พร (๒) นางสาวขวัญชนก เทพวงค์ ๓.๓ กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามยั (๑) นายบัญชา ค้าของ รองอธิบดี (๒) นายประวชิ ชวชลาศยั รองผ้อู านวยการสานกั อนามยั การเจริญพันธุ์ (๓) รอ้ ยโทหญิง ณิชารัศม์ ปญั จจติ ราพฒั น์ นกั วิชาการสาธารณสขุ ชานาญการพิเศษ (๔) นางสาวพชั รวี รรณ เจนสารกิ รณ์ นักวิชาการสาธารณสขุ ชานาญการพิเศษ ๓.๔ สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้อานวยการกองกฎหมาย (๑) นางสาวนรศิ รา แดงไผ่ กระบวนการยุติธรรม (๒) นางสาวศิรพิ ร เอย่ี มธงชัย ผู้อานวยการฝ่ายแปลและให้ความเห็น (๓) นายสุนทร เปลี่ยนสี กองกฎหมายต่างประเทศ นักกฎหมายกฤษฎกี าชานาญการพเิ ศษ กองกฎหมายต่างประเทศ ๓.๕ สานักงานศาลยตุ ธิ รรม ผพู้ พิ ากษาศาลชัน้ ต้น นางสาววรมน รามางกูร ประจาสานกั ประธานศาลฎีกา ๓.๖ สานกั งานอัยการสงู สดุ อยั การจังหวดั ประจาสานกั งานอยั การสงู สดุ (๑) นายวรี ะชัย ตงั้ ตยิ ะพนั ธ์ อยั การจงั หวดั ประจาสานักงานอัยการสูงสุด (๒) นายธานติ วงศาโรจน์ ๓.๗ สานักงานตารวจแหง่ ชาติ นายแพทย์ (สบ ๕) กลมุ่ งานสตู ินรีเวชกรรม โรงพยาบาลตารวจ ผ้กู ากบั กลุ่มงานตรวจสอบสานวน ๔ พันตารวจเอก ดนกุ ฤต กลมั พากร กองคดอี าญา สานักงานกฎหมายและคดี สารวัตรกลุม่ งานตรวจสอบสานวน ๔ (๑) พนั ตารวจเอก เอกชัย แสนสระดี กองคดีอาญา (๒) พันตารวจตรี อุทิศ จนั ทรประพันธ์ ๓.๘ แพทยสภา (๑) ศาสตราจารยค์ ลินกิ เกียรติคณุ วบิ ลู พรรณ ฐติ ะดิลก กรรมการแพทยสภา (๒) นายพชร ศรีปน นิติกร แพทยสภา

(๓) ๔. ผู้ซ่ึงคณะกรรมาธิการวสิ ามญั ไดเ้ ชิญมาช้แี จงแสดงความคิดเหน็ คอื (๑) นางสาวศรีสมยั เช้ือชาติ นายแพทย์เชีย่ วชาญ (๒) นายวรชาติ มวี าสนา นายแพทยช์ านาญการ (๓) ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ปารีณา ศรวี นิชย์ คณบดีคณะนิตศิ าสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั (๔) นางสาวโสมนัส เจอื ศรีกุล ผู้อานวยการสานกั อานวยการพิเศษ สถาบนั เพื่อการยุติธรรมแหง่ ประเทศไทย (องคก์ ารมหาชน) ๕. ผู้เข้าร่วมประชุม คอื ๕.๑ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่นั คงของมนษุ ย์ สานักงานปลดั กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนุษย์ นางสาวจุฬาพร ละครพล นติ กิ รชานาญการ กรมกจิ การเด็กและเยาวชน นางสาวนภัสสร โสมา นิติกร ๕.๒ กระทรวงยตุ ธิ รรม นิตกิ รชานาญการ กองกฎหมาย สานักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม นิตกิ รชานาญการ (๑) นายวรายุภัสร์ พชั รปรียานันท์ (๒) นางสาวปานหทยั ศรสี มทุ ร ๕.๓ กระทรวงสาธารณสขุ นกั วชิ าการสาธารณสขุ ปฏิบัติการ กรมอนามยั นักวิชาการสาธารณสขุ ปฏิบตั ิการ (๑) นางสาววรรณวศิ า อยู่เป็นสุข นกั วิชาการสาธารณสขุ ปฏบิ ัตกิ าร (๒) นายสโรช จินดาวณชิ ย์ (๓) นายณรงค์ฤทธิ์ เลิศอาวธุ ๕.๔ สานกั งานศาลยตุ ธิ รรม นติ ิกร สานักกฎหมายและวิชาการ นายนภัส ลิลิตสัจจะ ๕.๕ สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ รองสารวตั รฝา่ ยกฎหมายและวินัย โรงพยาบาลตารวจ กองบังคบั การอานวยการ ร้อยตารวจเอก พิเชษฐ์ คุม้ บัณฑติ ๕.๖ เครอื ข่ายองค์กรเอกชน นักวิจัย สถาบันวิจยั ประชากรและสังคม (๑) นางสาวกลุ ภา วจนสาระ มหาวิทยาลยั มหดิ ล ผู้แทนเครือข่ายสนับสนุนทางเลือก (๒) นางสาวสุมาลี โตกทอง ของผู้หญิงทีท่ ้องไมพ่ ร้อม ผแู้ ทนเครอื ข่ายสนับสนุนทางเลอื ก (๓) นางสาวสไุ ลพร ชลวไิ ล ของผู้หญงิ ที่ทอ้ งไม่พรอ้ ม

(๔) ๖. รา่ งพระราชบญั ญัติฉบับนมี้ ีผเู้ สนอคาแปรญัตติ จานวน ๓ คน คือ (๑) นางสาวเพชรชมพู กิจบรู ณะ (๒) นายอาดิลนั อาลอี สิ เฮาะ (๓) นายเกยี รติ สิทธีอมร ๗. ผลการดาเนินการตามมาตรา ๗๗ ของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย คณะกรรมาธิการวิสามัญได้นาผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบ ท่ีอาจเกิดขึ้นจากร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ซ่ึงคณะรัฐมนตรี ได้ส่งให้สภาผู้แทนราษฎร ตามหนังสือท่ี นร ๐๕๐๓/๔๐๗๐๐ ลงวันท่ี ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ เร่ือง ร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... มาใช้ประกอบการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ครบถว้ นตามบทบญั ญตั ิรัฐธรรมนญู แลว้ ๘. ผลการพิจารณา ช่ือรา่ งพระราชบัญญตั ิ ไม่มีการแกไ้ ข คาปรารภ ไมม่ กี ารแกไ้ ข มาตรา ๑ ไม่มกี ารแก้ไข มาตรา ๒ ไมม่ ีการแกไ้ ข มกี รรมาธิการขอสงวนความเหน็ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพิ่มเติมความ ในมาตรา ๒ เป็นดังนี้ “มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ใหใ้ ช้บงั คับตง้ั เม่ือพ้นกาหนดสามสบิ วนั นับแต่วนั ถัดจาก วนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป” มาตรา ๓ แกไ้ ขมาตรา ๓๐๑ มกี ารแก้ไข มีกรรมาธิการขอสงวนความเห็น และผู้แปรญัตติขอสงวนคาแปรญตั ติ รองศาสตราจารย์กฤตยา อาชวนิจกุล (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้ตัดมาตรา ๓๐๑ ออกทงั้ มาตรา นางสาวกุฎารัศมิ์ กุลฉัตร นายเขมชาติ กิจค้า นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ นางสาวนริศรา แดงไผ่ นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น นางภัทธมน เพ็งส้ม ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณวิบูลพรรณ ฐิตะดิลก นางสรุ างคณา วายภุ าพ และนายอุดมศักดิ์ ศรีสทุ วิ า (กรรมาธกิ าร) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้คงไว้ตามรา่ งเดิม นายณัฐวุฒิ บัวประทุม (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้เพ่ิมความเป็นมาตรา ๓๐๑ วรรคสอง ดังนี้ “เว้นแต่หญิงใดซึ่งมีอายคุ รรภ์เกินสิบสองสปั ดาห์ แต่ไม่เกนิ ย่สี ิบสี่สปั ดาห์ ยนื ยันท่จี ะยตุ ิการต้ังครรภ์ ที่ไดร้ บั การตรวจและรบั คาปรึกษาทางเลือก และการยุติการตั้งครรภน์ ัน้ เปน็ การกระทาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามหลกั เกณฑ์ของแพทยสภา หญิงน้นั ไม่มีความผิดตามวรรคหน่ึง”

(๕) นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ (กรรมาธกิ าร) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้เพ่ิมความเป็นมาตรา ๓๐๑ วรรคสอง ดงั นี้ “เวน้ แต่หญิงใดยนื ยนั ท่จี ะยุติการต้ังครรภภ์ ายหลงั สบิ สองสัปดาหต์ ้องได้รบั คาแนะนา และการยตุ ิการตั้งครรภจ์ ากการกระทาของผูป้ ระกอบวชิ าชพี เวชกรรมตามหลักเกณฑข์ องแพทยสภา หญงิ น้ันไม่มคี วามผิดตามวรรคหน่งึ ” นางสาวเพชรชมพู กิจบูรณะ ขอแปรญตั ติแกไ้ ขเพมิ่ เติมความในมาตรา ๓๐๑ เป็นดังน้ี “มาตรา ๓๐๑ หญงิ ใดทาให้ตนเองแท้งลกู หรือยอมให้ผู้อ่ืนทาให้ตนเองแท้งลูก ขณะมอี ายุครรภเ์ กินสบิ สองสัปดาห์ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หกเดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กินหนง่ึ หม่นื บาท หรือทัง้ จาทั้งปรับ ถ้าการกระทาความผิดตามวรรคหน่ึง เปน็ การกระทาของหญงิ ทีม่ ีอายคุ รรภ์ไม่เกิน ยสี่ บิ สัปดาหแ์ ละตอ้ งกระทาในกรณีดังต่อไปนี้ ผูก้ ระทาไม่มีความผิด (๑) ประสบปญั หาเศรษฐกจิ ถงึ ขนาดไมส่ ามารถดารงชีพไดต้ ามปกติ (๒) ไดร้ ับอันตรายต่อสุขภาพทางกายหรือจิตใจ” คณะกรรมาธิการไดช้ ้แี จงแลว้ ผู้แปรญตั ติพอใจ นายอาดลิ ัน อาลีอิสเฮาะ ขอแปรญตั ติแก้ไขเพมิ่ เติมความในมาตรา ๓๐๑ เป็นดังนี้ “มาตรา ๓๐๑ หญงิ ใดทาใหต้ นเองแท้งลูกหรอื ยอมใหผ้ อู้ น่ื ทาใหต้ นแท้งลูก ขณะมีอายุครรภ์เกนิ สิบสองสัปดาห์ ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงหมื่นบาท หรอื ท้งั จาทั้งปรบั การกระทาตามวรรคหนงึ่ หากกระทาการขณะมีอายคุ รรภเ์ กินสิบสองสัปดาห์ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หนงึ่ ปี หรือปรบั ไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทงั้ จาท้ังปรบั ” คณะกรรมาธิการไม่เหน็ ด้วย ผู้แปรญตั ติขอสงวน นายเกยี รติ สทิ ธอี มร ขอแปรญัตติแกไ้ ขเพิ่มเติมความในมาตรา ๓๐๑ เป็นดงั นี้ “มาตรา ๓๐๑ หญิงใดทาใหต้ นเองแท้งลูกหรอื ยอมให้ผ้อู ่นื ทาใหต้ นแท้งลกู ขณะมอี ายุครรภเ์ กนิ สบิ สองห้าสปั ดาห์ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรอื ปรับไม่เกนิ หนง่ึ หมน่ื บาท หรอื ทั้งจาท้ังปรบั ถ้าการกระทาความผดิ ตามวรรคหน่ึงเป็นการกระทาของหญงิ ทีม่ ีครรภ์และเป็นการกระทา ของผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรม ซ่ึงกระทาในกรณีดังตอ่ ไปนี้ ผู้กระทาไม่มีความผิด (๑) เป็นอันตรายต่อสุขภาพกายหรือสุขภาพจิต (๒) ประสบปญั หาเศรษฐกจิ หรือปญั หาทางสังคม ซึ่งกระทบตอ่ การดารงชีพตามปกติ” คณะกรรมาธกิ ารไมเ่ หน็ ดว้ ย ผูแ้ ปรญัตตขิ อสงวน มาตรา ๔ แก้ไขมาตรา ๓๐๕ มีการแกไ้ ข มีกรรมาธกิ ารขอสงวนความเห็น และผแู้ ปรญตั ตขิ อสงวนคาแปรญตั ติ รองศาสตราจารย์กฤตยา อาชวนิจกุล (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพ่ิมเติม ความในมาตรา ๓๐๕ เป็นดังนี้ “มาตรา ๓๐๕ ถา้ การกระทาความผดิ ตามมาตรา ๓๐๑ หรือมาตรา ๓๐๒ เปน็ การกระทาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภากระทรวงสาธารณสุข ในกรณดี ังต่อไปนี้ ผกู้ ระทาไม่มีความผิด

(๖) (๑) จาเป็นต้องกระทาเนื่องจากหากหญงิ ต้ังครรภต์ ่อไปจะเส่ียงต่อการได้รับอันตราย ต่อสุขภาพทางกายหรอื จติ ใจของหญิงนัน้ (๒) จาเปน็ ตอ้ งกระทาเน่ืองจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเส่ียงอย่างมาก ทีห่ รอื มเี หตผุ ลทางการแพทย์อนั ควรเชือ่ ไดว้ า่ หากทารกคลอดออกมาจะได้รับผลกระทบจากมคี วามผดิ ปกติ ทางกายหรือจิตใจถงึ ขนาดทพุ พลภาพอย่างร้ายแรง (๓) หญิงมีครรภเ์ น่ืองจากมกี ารกระทาความผิดเก่ียวกบั เพศ ไม่วา่ จะไดม้ กี ารรอ้ งทุกข์ กลา่ วโทษ หรือฟ้องคดีในความผิดน้ันหรอื ไม่ (๔) หญิงซึง่ มีอายุครรภ์ไม่เกนิ สิบสองสัปดาห์ยนื ยันทีจ่ ะยุติการตงั้ ครรภ์ (๕) หญิงซึ่งมีอายุครรภ์เกินสบิ สองสปั ดาห์ แต่ไม่เกินยีส่ ิบสี่สัปดาห์ ยืนยนั ท่ีจะยุติการตั้งครรภ์ หลงั การตรวจและรบั คาปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชพี เวชกรรมหรือผู้ประกอบวิชาชพี อน่ื ” นายเขมชาติ กิจค้า (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพิ่มเติมความ ในมาตรา ๓๐๕ (๓) เป็นดงั นี้ “(๓) หญิงยนื ยนั ต่อผปู้ ระกอบวิชาชพี เวชกรรมหรอื มเี หตุอันควรเช่ือไดว้ า่ ตนมีครรภ์ เนือ่ งจากมกี ารกระทาความผิดเกย่ี วกับเพศ” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพ่ิมเติมความ ในมาตรา ๓๐๕ เป็นดงั น้ี “มาตรา ๓๐๕ ถา้ การกระทาความผิดตามมาตรา ๓๐๑ หรอื มาตรา ๓๐๒ เปน็ การกระทาของผู้ประกอบวชิ าชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดงั ตอ่ ไปนี้ ผูก้ ระทาไมม่ ีความผดิ (๑) จาเป็นต้องกระทาเน่ืองจากหากหญิงต้ังครรภต์ ่อไปจะเสย่ี งต่อการได้รบั อนั ตราย ต่อสขุ ภาพทางกายหรอื จติ ใจของหญิงน้ัน (๒) จาเป็นตอ้ งกระทาเน่ืองจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสี่ยงอยา่ งมาก ทหี่ รอื มเี หตุผลทางการแพทย์อนั ควรเช่อื ไดว้ ่าหากทารกคลอดออกมาจะได้รับผลกระทบจากมคี วามผิดปกติ ทางกายหรือจิตใจถึงขนาดทพุ พลภาพอย่างรา้ ยแรง (๓) หญงิ ยืนยันวา่ ตนมคี รรภ์เน่ืองจากมีการกระทาความผดิ เก่ียวกับเพศ (๔) หญงิ ซ่งึ มีอายุครรภไ์ มเ่ กนิ สบิ สองสัปดาห์ยืนยันทจ่ี ะยุติการตั้งครรภ์” นายณัฐวุฒิ บัวประทุม (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพ่ิมเติมความ ในมาตรา ๓๐๕ เปน็ ดงั นี้ “มาตรา ๓๐๕ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๓๐๑ หรือมาตรา ๓๐๒ เปน็ การกระทาของผปู้ ระกอบวชิ าชพี เวชกรรมและตามหลกั เกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดงั ต่อไปน้ี ผ้กู ระทาไมม่ ีความผดิ (๑) จาเปน็ ต้องกระทาเน่ืองจากหากหญิงต้ังครรภ์ตอ่ ไปจะเส่ียงตอ่ การได้รับอนั ตราย ต่อสุขภาพทางกายหรือสุขภาพทางจิตใจของหญิงน้นั (๒) จาเป็นต้องกระทาเนื่องจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเส่ียงอยา่ งมาก ทีห่ รือมีเหตผุ ลทางการแพทย์อนั ควรเชือ่ ไดว้ ่าหากทารกคลอดออกมาจะได้รบั ผลกระทบจากมคี วามผิดปกติ ทางกายหรือจติ ใจถงึ ขนาดทพุ พลภาพอย่างรา้ ยแรง (๓) หญิงยืนยนั ต่อผู้ประกอบวิชาชพี เวชกรรมว่าตนมีครรภ์หรือมีเหตุอนั ควรเชื่อได้ว่าหญงิ น้ัน มคี รรภ์ เนอ่ื งจากมกี ารถกู กระทาความผดิ เกี่ยวกับเพศ

(๗) (๔) หญงิ ซงึ่ มีอายุครรภ์ไม่เกินสิบสองสัปดาห์ยืนยนั ทจ่ี ะยุติการตัง้ ครรภ์ (๕) หญิงซ่ึงมีอายุครรภ์เกินสบิ สองสปั ดาห์ แต่ไม่เกินยสี่ บิ สี่สัปดาห์ ยืนยันที่จะยตุ ิการต้ังครรภ์ หลังการตรวจและรับคาปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผ้ปู ระกอบวชิ าชีพอ่นื ” นางสาวธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ศาสตราจารย์พิเศษจรัญ ภักดธี นากลุ และนายอุดมศักดิ์ ศรีสทุ ิวา (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แกไ้ ขเพิ่มเติมความในมาตรา ๓๐๕ (๑) เป็นดังน้ี “(๑) จาเป็นต้องกระทาเน่ืองจากหากหญิงตง้ั ครรภต์ ่อไปจะเสี่ยงต่อการได้รบั อนั ตราย ต่อสขุ ภาพทางกายหรือสขุ ภาพทางจติ ใจของหญิงนัน้ ” นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพ่ิมเติมความ ในมาตรา ๓๐๕ เป็นดังนี้ “มาตรา ๓๐๕ ถา้ การกระทาความผดิ ตามมาตรา ๓๐๑ หรือมาตรา ๓๐๒ เปน็ การกระทาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลกั เกณฑ์ของแพทยสภากระทรวงสาธารณสขุ ในกรณดี ังตอ่ ไปนี้ ผกู้ ระทาไม่มคี วามผิด (๑) จาเปน็ ต้องกระทาเนื่องจากหากหญงิ ต้ังครรภต์ อ่ ไปจะเสีย่ งต่อการได้รับอันตราย ต่อสขุ ภาพทางกายหรือจิตใจของหญิงนั้น (๒) จาเปน็ ตอ้ งกระทาเน่ืองจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสี่ยงอยา่ งมาก ทีห่ รอื มีเหตผุ ลทางการแพทย์อันควรเชื่อได้วา่ หากทารกคลอดออกมาจะได้รับผลกระทบจากมคี วามผดิ ปกติ ทางกายหรอื จติ ใจถงึ ขนาดทุพพลภาพอย่างรา้ ยแรง (๓) หญิงยนื ยนั ต่อผปู้ ระกอบวชิ าชพี เวชกรรมวา่ ตนมีครรภ์เนื่องจากมีการกระทาความผิด เกย่ี วกบั ถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศหรอื ตัง้ ครรภก์ ับบุคคลในครอบครัว (๔) หญิงซ่งึ มีอายุครรภไ์ มเ่ กินสิบสองสัปดาหย์ นื ยันทจ่ี ะยุติการตงั้ ครรภ์ (๕) หญิงซ่ึงมีอายุครรภ์เกินสบิ สองสปั ดาห์ แต่ไม่เกินย่ีสิบส่ีสัปดาห์ ยืนยันจะยุติการต้ังครรภ์ ดว้ ยเหตุผลทางเศรษฐกิจหรือสงั คมตอ้ งได้รบั คาปรึกษาทางเลอื กและตอ้ งได้รบั การยตุ ิการตัง้ ครรภ์ จากผู้ประกอบวชิ าชีพเวชกรรมตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภา” นางสาวธารารัตน์ ปัญญา (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพ่ิมเติมความ ในมาตรา ๓๐๕ (๒) เป็นดงั นี้ “(๒) จาเป็นต้องกระทาเน่ืองจากหากทารกคลอดออกมาจะมคี วามเส่ียงอย่างมาก ทวี่ ่าหากทารกคลอดออกมาจะไดร้ ับผลกระทบจากมคี วามผดิ ปกติทางกายหรือจิตใจถงึ ขนาดทพุ พลภาพอย่างร้ายแรง” นางสาวนริศรา แดงไผ่ (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพิ่มเติมความ ในมาตรา ๓๐๕ เปน็ ดังนี้ “มาตรา ๓๐๕ ถ้าการกระทาความผดิ ตามมาตรา ๓๐๑ หรือมาตรา ๓๐๒ เปน็ การกระทาของผปู้ ระกอบวิชาชพี เวชกรรมและตามหลกั เกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดังตอ่ ไปน้ี ผู้กระทาไมม่ ีความผิด (๑) จาเป็นต้องกระทาเน่ืองจากหากหญิงตั้งครรภต์ อ่ ไปจะเส่ียงต่อการไดร้ ับอันตราย ต่อสขุ ภาพทางกายหรอื จิตใจของหญิงนั้น (๒) จาเปน็ ต้องกระทาเนื่องจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสยี่ งอย่างมาก ทหี่ รือมเี หตผุ ลทางการแพทย์อนั ควรเชอื่ ไดว้ ่าหากทารกคลอดออกมาจะได้รบั ผลกระทบจากมคี วามผดิ ปกติ ทางกายหรอื จติ ใจถึงขนาดทพุ พลภาพอย่างรา้ ยแรง

(๘) (๓) หญงิ มีครรภเ์ นื่องจากมกี ารกระทาความผิดเกย่ี วกับเพศ (๔) หญิงซง่ึ มีอายุครรภ์ไมเ่ กินสบิ สองสปั ดาหย์ ืนยนั ทีจ่ ะยุตกิ ารต้ังครรภ์” นางสาวนพวรรณ หัวใจม่ัน (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพิ่มความ ในมาตรา ๓๐๕ เป็นดงั นี้ “มาตรา ๓๐๕ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๓๐๑ หรอื มาตรา ๓๐๒ เปน็ การกระทาของผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลกั เกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดังต่อไปนี้ ผู้กระทาไม่มีความผิด (๑) จาเป็นตอ้ งกระทาเนื่องจากหากหญงิ ต้ังครรภ์ตอ่ ไปจะเสี่ยงตอ่ การไดร้ ับอนั ตราย ต่อสขุ ภาพทางกายหรือจติ ใจของหญิงนัน้ (๒) จาเปน็ ตอ้ งกระทาเน่ืองจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสยี่ งอยา่ งมาก ทีห่ รือมีเหตุผลทางการแพทย์อันควรเช่ือได้วา่ หากทารกคลอดออกมาจะได้รับผลกระทบจากมคี วามผดิ ปกติ ทางกายหรอื จิตใจถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง (๓) หญงิ ยืนยนั ตอ่ ผู้ประกอบวิชาชพี เวชกรรมวา่ ตนมีครรภ์เน่ืองจากมีการกระทาความผิด เกย่ี วกับเพศ (๔) หญงิ ซ่ึงมีอายคุ รรภ์ไม่เกนิ สบิ สองสปั ดาหย์ ืนยันทจ่ี ะยตุ กิ ารต้ังครรภ์” นางสาวประไพ ยั่งยืน (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพิ่มเติมความ ในมาตรา ๓๐๕ เป็นดังนี้ “มาตรา ๓๐๕ ถ้าการกระทาความผดิ ตามมาตรา ๓๐๑ หรอื มาตรา ๓๐๒ เป็นการกระทาของผ้ปู ระกอบวชิ าชีพเวชกรรมและตามหลกั เกณฑ์ของแพทยสภากระทรวงสาธารณสขุ ในกรณดี ังตอ่ ไปนี้ ผกู้ ระทาไม่มีความผิด (๑) จาเป็นตอ้ งกระทาเน่ืองจากหากหญิงต้ังครรภ์ตอ่ ไปจะเสย่ี งต่อการไดร้ ับอนั ตราย ตอ่ สุขภาพทางกายหรือจติ ใจของหญิงนน้ั (๒) จาเปน็ ต้องกระทาเนื่องจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสย่ี งอย่างมาก ทีห่ รอื มีเหตุผลทางการแพทย์อันควรเชือ่ ได้ว่าหากทารกคลอดออกมาจะได้รับผลกระทบจากมคี วามผิดปกติ ทางกายหรือจิตใจถงึ ขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง (๓) หญงิ ยืนยนั ต่อผู้ประกอบวชิ าชีพเวชกรรมว่าตนมีครรภ์เนอ่ื งจากมีการกระทาความผิด เก่ียวกบั เพศ (๔) หญิงซง่ึ มีอายุครรภ์ไมเ่ กนิ สบิ สองสัปดาห์ยืนยนั ท่จี ะยุติการต้ังครรภ์ (๕) หญิงซึ่งมีอายุครรภเ์ กินสิบสองสปั ดาห์ แต่ไม่เกินยส่ี บิ สัปดาห์ ยนื ยันทจ่ี ะยุติการตั้งครรภ์ ภายหลังการตรวจและรับคาปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวชิ าชีพเวชกรรมและผูป้ ระกอบวิชาชีพอื่น ตามหลกั เกณฑ์และวิธีการท่ีรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ ประกาศกาหนดโดยคาแนะนาของแพทยสภา และหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งตามกฎหมายว่าด้วยการปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น” นางภัทธมน เพ็งส้ม (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพ่ิมเติมความ ในมาตรา ๓๐๕ (๓) เป็นดงั นี้ “(๓) หญิงยนื ยนั ว่าตนมีครรภ์เน่ืองจากมีการกระทาความผิดเก่ยี วกบั เพศ”

(๙) ศาสตราจารย์คลนิ ิกเกียรติคุณวบิ ลู พรรณ ฐติ ะดิลก (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเหน็ โดยขอให้แก้ไขเพ่ิมเติมความในมาตรา ๓๐๕ เป็นดงั นี้ “มาตรา ๓๐๕ ถ้าการกระทาความผดิ ตามมาตรา ๓๐๑ หรือมาตรา ๓๐๒ เปน็ การกระทาของผู้ประกอบวิชาชพี เวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดังตอ่ ไปนี้ ผกู้ ระทาไม่มีความผิด (๑) จาเป็นตอ้ งกระทาเนื่องจากหากหญิงตั้งครรภ์ตอ่ ไปจะเส่ียงต่อการไดร้ บั อันตราย ตอ่ สขุ ภาพทางกายหรือจิตใจของหญิงน้ัน (๒) จาเปน็ ตอ้ งกระทาเนื่องจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเส่ยี งอย่างมาก ทหี่ รอื มีเหตผุ ลทางการแพทย์อนั ควรเช่ือได้วา่ หากทารกคลอดออกมาจะได้รบั ผลกระทบจากมีความผิดปกติ ทางกายพันธุกรรมหรือจิตใจถึงขนาดทพุ พลภาพอย่างร้ายแรง (๓) หญงิ มตี ้องการทจ่ี ะยตุ ิการตัง้ ครรภเ์ น่ืองจากมกี ารกระทาความผิดเก่ยี วกับถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ (๔) หญิงซ่ึงมีอายุครรภ์ไม่เกนิ สบิ สองสปั ดาหย์ นื ยนั ท่ีจะยุติการต้งั ครรภ์ (๕) หญงิ ซึ่งมีอายุครรภ์เกินสิบสองสัปดาห์ แต่ไม่เกนิ ยส่ี ิบสัปดาห์ ยนื ยนั ท่จี ะยตุ ิการตัง้ ครรภ์ ภายหลงั การตรวจและรับคาปรึกษาทางเลอื กจากผูป้ ระกอบวิชาชพี เวชกรรมและผ้ปู ระกอบวิชาชพี อ่นื ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการทีร่ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ ประกาศกาหนดโดยคาแนะนาของแพทยสภา และหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ งตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการป้องกันและแก้ไขปญั หาการต้ังครรภใ์ นวัยรุ่น” นางสุรางคณา วายุภาพ (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพิ่มเติมความ ในมาตรา ๓๐๕ เป็นดังน้ี “มาตรา ๓๐๕ ถ้าการกระทาความผดิ ตามมาตรา ๓๐๑ หรอื มาตรา ๓๐๒ เป็นการกระทาของผู้ประกอบวิชาชพี เวชกรรมและตามหลกั เกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดงั ตอ่ ไปนี้ ผู้กระทาไมม่ ีความผิด (๑) จาเปน็ ตอ้ งกระทาเน่ืองจากหากหญงิ ต้ังครรภต์ ่อไปจะเสย่ี งต่อการไดร้ บั อันตราย ต่อสขุ ภาพทางกายหรอื สุขภาพทางจิตใจของหญิงน้นั (๒) จาเปน็ ตอ้ งกระทาเนื่องจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสยี่ งอยา่ งมาก ทหี่ รือมีเหตุผลทางการแพทย์อนั ควรเช่ือได้วา่ หากทารกคลอดออกมาจะได้รบั ผลกระทบจากมคี วามผิดปกติ ทางกายหรือจติ ใจถึงขนาดทพุ พลภาพอย่างรา้ ยแรง (๓) หญงิ มีครรภเ์ นื่องจากมกี ารกระทาความผดิ เก่ียวกับเพศ ไมว่ า่ จะได้มีการรอ้ งทกุ ข์ กลา่ วโทษ หรือฟ้องคดใี นความผิดน้นั หรอื ไม่ (๔) หญิงซ่งึ มีอายุครรภไ์ ม่เกนิ สิบสองสปั ดาหย์ ืนยนั ท่จี ะยุติการตง้ั ครรภ์ (๕) หญงิ ซึ่งมีอายุครรภเ์ กนิ สบิ สองสัปดาห์ แต่ไมเ่ กนิ ยีส่ ิบสัปดาห์ ยนื ยนั ท่ีจะยตุ ิการตงั้ ครรภ์ ภายหลังการตรวจและรับคาปรกึ ษาทางเลือกจากผ้ปู ระกอบวชิ าชีพเวชกรรมและผปู้ ระกอบวชิ าชพี อน่ื ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการทร่ี ัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ ประกาศกาหนดโดยคาแนะนาของแพทยสภา และหน่วยงานท่เี ก่ยี วขอ้ งตามกฎหมายว่าดว้ ยการป้องกนั และแก้ไขปญั หาการตั้งครรภใ์ นวัยรุ่น”

(๑๐) นางอังคณา นีละไพจิตร (กรรมาธิการ) ขอสงวนความเห็น โดยขอให้แก้ไขเพ่ิมเติมความ ในมาตรา ๓๐๕ เปน็ ดงั น้ี “มาตรา ๓๐๕ ถา้ การกระทาความผดิ ตามมาตรา ๓๐๑ หรือมาตรา ๓๐๒ เปน็ การกระทาของผู้ประกอบวชิ าชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภากระทรวงสาธารณสขุ ในกรณีดงั ต่อไปนี้ ผู้กระทาไม่มคี วามผดิ (๑) จาเปน็ ตอ้ งกระทาเนื่องจากหากหญงิ ตั้งครรภต์ อ่ ไปจะเสี่ยงตอ่ การไดร้ ับอันตราย ต่อสขุ ภาพทางกายหรือจิตใจของหญิงนนั้ (๒) จาเป็นตอ้ งกระทาเนื่องจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสย่ี งอย่างมาก ทหี่ รือมีเหตผุ ลทางการแพทย์อนั ควรเช่อื ได้ว่าหากทารกคลอดออกมาจะไดร้ ับผลกระทบจากมคี วามผิดปกติ ทางกายหรือจติ ใจถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง (๓) หญงิ ยนื ยันต่อผปู้ ระกอบวิชาชพี เวชกรรมวา่ ตนมีครรภเ์ น่ืองจากมกี ารกระทาความผิด เกยี่ วกับเพศ (๔) หญิงซง่ึ มีอายุครรภไ์ ม่เกินสิบสองสัปดาห์ยนื ยันทจี่ ะยุติการต้งั ครรภ์ (๕) หญิงซึง่ มีอายุครรภ์เกินสบิ สองสปั ดาห์ แต่ไม่เกนิ ยสี่ บิ สัปดาห์ ยืนยนั ทีจ่ ะยตุ ิการตงั้ ครรภ์ ภายหลังการตรวจและรบั คาปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวชิ าชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวชิ าชพี อืน่ ตามหลกั เกณฑ์และวิธีการทีร่ ัฐมนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ ประกาศกาหนดโดยคาแนะนาของแพทยสภา และหน่วยงานทีเ่ กยี่ วข้องตามกฎหมายวา่ ด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการต้ังครรภ์ในวัยรุ่น” นางสาวเพชรชมพู กิจบรู ณะ ขอแปรญตั ติแกไ้ ขเพิ่มเตมิ ความในมาตรา ๓๐๕ เป็นดงั น้ี “มาตรา ๓๐๕ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๓๐๑ หรอื มาตรา ๓๐๒ เป็นการกระทาของผปู้ ระกอบวชิ าชีพเวชกรรมและหรอื ตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดงั ตอ่ ไปน้ี ผู้กระทาไมม่ ีความผดิ (๑) จาเป็นตอ้ งกระทาเนื่องจากหากหญงิ ตั้งครรภต์ ่อไปจะเส่ยี งตอ่ การไดร้ ับอันตราย ตอ่ สขุ ภาพทางกายหรือจติ ใจของหญิงนน้ั (๒) จาเป็นต้องกระทาเน่ืองจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสย่ี งอย่างมาก ทจี่ ะไดร้ บั ผลกระทบจากความผิดปกติทางกายหรือจิตใจถึงขนาดทุพพลภาพอย่างรา้ ยแรง (๓) หญงิ มคี รรภเ์ นื่องจากมกี ารกระทาความผดิ เกย่ี วกบั เพศ (๔) หญิงซ่งึ มีอายุครรภ์ไมเ่ กนิ สบิ สองสัปดาห์ยืนยนั ท่ีจะยุติการตงั้ ครรภ์ (๕) หญิงซึ่งจาเปน็ ต้องยุติการตง้ั ครรภต์ ามมาตรา ๓๐๑ วรรคสอง” คณะกรรมาธิการได้ชีแ้ จงแลว้ ผแู้ ปรญตั ตพิ อใจ นายอาดลิ นั อาลอี สิ เฮาะ ขอแปรญัตติแกไ้ ขความในมาตรา ๓๐๕ เป็นดงั น้ี “มาตรา ๓๐๕ ถา้ การกระทาความผิดตามมาตรา ๓๐๑ หรอื มาตรา ๓๐๒ เปน็ การกระทาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดังตอ่ ไปน้ี ผกู้ ระทาไมม่ ีความผดิ (๑) จาเปน็ ต้องกระทาเนื่องจากหากหญิงต้ังครรภต์ อ่ ไปจะเสีย่ งตอ่ การไดร้ บั อนั ตราย ต่อสุขภาพทางกายหรือจติ ใจของหญิงน้ัน

(๑๑) (๒) จาเป็นต้องกระทาเนอ่ื งจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสี่ยงอยา่ งมาก ท่ีจะได้รบั ผลกระทบจากความผดิ ปกติทางกายหรือจิตใจถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง (๓) หญิงมีครรภ์เนื่องจากมกี ารกระทาความผดิ เก่ยี วกับเพศ (๔) หญงิ ซง่ึ มีอายุครรภ์ไม่เกนิ สิบสองสัปดาหย์ นื ยนั ท่ีจะยตุ กิ ารต้งั ครรภ์” คณะกรรมาธกิ ารไม่เหน็ ด้วย ผ้แู ปรญัตติขอสงวน นายเกยี รติ สทิ ธีอมร ขอแปรญตั ติเพม่ิ ความเป็นมาตรา ๓๐๕ (๕) ดังน้ี “(๕) หญงิ ซง่ึ จาเปน็ ต้องยตุ ิการตงั้ ครรภต์ ามมาตรา ๓๐๑ วรรคสอง” คณะกรรมาธกิ ารไมเ่ ห็นดว้ ย ผู้แปรญัตตขิ อสงวน ๘. ขอ้ สังเกตของคณะกรรมาธกิ ารวสิ ามัญ คณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เริ่มตั้งแต่ชื่อร่างพระราชบัญญัติ คาปรารภ แล้วพจิ ารณาตามลาดบั มาตราจนจบร่างแล้วเหน็ ว่า มขี ้อสงั เกตท้ายรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพอื่ ให้สภาผแู้ ทนราษฎรได้พิจารณา ดังน้ี ๑. คณะกรรมาธิการเห็นควรเสนอให้มีการปรับถ้อยคาเพื่อให้สอดรับกับคาวินิจฉัย และข้อเสนอแนะของศาลรัฐธรรมนูญ จึงเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับถ้อยคาในส่วนของเหตุผล ประกอบรา่ งพระราชบัญญตั ิในตอนทา้ ยของเหตผุ ล บรรทดั ท่ี ๒ จากลา่ ง ดังนี้ “รวมทง้ั เพ่ิมเหตุยกเวน้ ความผิดฐานทาใหแ้ ท้งลูกตามมาตรา ๓๐๕ ให้สอดคล้องกับคาวินจิ ฉัย และข้อเสนอแนะของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวและสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบันมากย่ิงขึ้น จึงจาเป็นต้อง ตราพระราชบญั ญัตินี้” ๒. ตามที่ข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเก่ียวกับการยุติการตั้งครรภ์ ทางการแพทย์มาตรา ๓๐๕ แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓) สามารถนามาใช้บังคับได้บางส่วน จึงเห็นสมควรให้แพทยสภามีการปรับปรุงข้อบังคับ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเน้ือหาของมาตรา ๓๐๑ และมาตรา ๓๐๕ แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่มีการแก้ไข โดยเร่งด่วน นอกจากน้ี แพทยสภาควรประสานกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อดาเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ของมาตรา ๓๐๕ (๕) ๓. หลักเกณ ฑ์และวิธีการ ตลอดจนการปรึกษาทางเลือก ตามมาตรา ๓๐๕ (๕) ที่ ก ร ะ ท ร ว งส าธ าร ณ สุ ข จ ะ ป ร ะ ก า ศ ก า ห น ด โด ย ค าแ น ะ น า ข อ ง แ พ ท ย ส ภ า แ ล ะ ห น่ ว ย งา น ท่ี เกี่ ย ว ข้ อ ง ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น คือกาหนดมาตรการการบริการ และการสื่อสารที่ชัดเจน โดยให้ศูนย์บริการภาครัฐทุกแห่งจัดให้มีบริการปรึกษาทางเลือกและแก้ไขปัญหา อย่างท่ัวถึง การยุติหรือไม่ยุติการตั้งครรภ์ ระบบการส่งต่อ และการดูแลอย่างต่อเนื่อง เพ่ือช่วยเหลือ ดูแลผู้หญิงท่ีมารับบริการให้สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก ผ่านช่องทางท่ีหลากหลาย มีบริการท่ีเป็นมิตร ผู้จัดบริการต้องมีความละเอียดอ่อนต่อสถานการณ์ชีวิตของผู้หญิงต้ังครรภ์ไม่พร้อม ไม่มีการตีตราและทาให้ ผหู้ ญงิ ทใ่ี ช้บรกิ ารรูส้ กึ ว่าถูกกระทาซา้ ๔. กระทรวงสาธารณสุขควรกาหนดนโยบายและมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนา บริการสุขภ าพ ด้ าน อน ามั ยเจริญ พั น ธุ์ท่ี เก่ียว ข้องกับ การยุติการตั้งค รรภ์ ขอ งผู้ห ญิ ง อย่างป ลอด ภัย ให้ มี ความชัดเจนและรอบด้านตามมาตรา ๓๐๑ และมาตรา ๓๐๕ โดยจัดให้มีศูนย์บริการในโรงพยาบาลของรัฐ อย่างน้อยจังหวัดละหนึ่งแห่ง กาหนดให้มีการประชาสัมพันธ์นโยบายและมาตรการน้ีอย่างกว้างขวาง และจัดให้มีสายด่วนให้บริการข้อมูลเรื่องต้ังครรภ์ไม่พร้อมนี้ โดยมีข้อมูลสถานบริการสาธารณสุขและสังคม ทเี่ ป็นปจั จุบันอยูเ่ สมอ เนน้ การรักษาความลบั อย่างเครง่ ครัด เพอื่ สร้างความไวว้ างใจจากผ้รู บั บรกิ าร



บนั ทกึ หลกั การและเหตผุ ล ประกอบรา่ งพระราชบญั ญัติแกไ้ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. .... หลกั การ แกไ้ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ดังต่อไปน้ี (๑) กาหนดอายุครรภส์ าหรับความผิดฐานหญิงทาใหต้ นเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อ่นื ทาให้ตน แทง้ ลกู (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๓๐๑) (๒) เพิม่ เหตุยกเวน้ ความผิดฐานทาใหแ้ ท้งลกู (แกไ้ ขเพ่ิมเติมมาตรา ๓๐๕) เหตผุ ล โดยที่ศาลรฐั ธรรมนูญมคี าวนิ ิจฉยั ท่ี ๔/๒๕๖๓ ลงวันท่ี ๑๙ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ วนิ จิ ฉัยวา่ บทบัญญัตคิ วามผิดฐานหญิงทาให้ตนเองแท้งลกู หรือยอมใหผ้ ู้อน่ื ทาใหต้ นแท้งลูก ตามมาตรา ๓๐๑ แห่งประมวล กฎหมายอาญา ขดั หรอื แย้งต่อมาตรา ๒๘ ของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย เน่ืองจากการทาแทง้ หรือการยุติการต้งั ครรภ์เปน็ ปัญหาทงั้ ทางสงั คม ทางการแพทย์ และทางกฎหมายที่มคี วามละเอยี ดอ่อน รวมทั้งเป็นประเด็นปัญหาทีเ่ ก่ียวข้องกับจริยธรรมและศลี ธรรม ซ่ึงถือวา่ เป็นความผดิ ทางอาญาและกาหนดโทษ แกห่ ญงิ เพยี งฝา่ ยเดียวท่ที าให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมใหผ้ อู้ ื่นทาใหต้ นแท้งลกู ทัง้ น้ี ความผิดฐานทาใหแ้ ท้งลูก มีเจตนารมณ์และคุณธรรมทางกฎหมายท่ตี ้องการคุม้ ครองชีวติ ของทารกในครรภ์ โดยเห็นถึงความสาคัญ และคุณคา่ ของชีวติ มนุษย์ทก่ี าลังจะเกดิ มา แตเ่ นื่องจากรากฐานของสังคมไม่ไดข้ น้ึ อยกู่ ับการเหน็ คุณค่า ของชีวติ มนษุ ยเ์ พียงเทา่ นนั้ แตย่ งั ตอ้ งมีปจั จัยอืน่ ทส่ี าคัญเป็นรากฐานของสงั คมประกอบดว้ ยเช่นเดียวกับ การค้มุ ครองสิทธใิ นการมีชวี ติ ของทารกในครรภ์ หากมงุ่ คุ้มครองสิทธิของทารกในครรภ์เพยี งอย่างเดียว โดยมิไดพ้ ิจารณาการคุ้มครองสทิ ธิของหญิงผ้ตู ั้งครรภอ์ ันมีมากอ่ นสทิ ธิของทารกในครรภเ์ ปน็ สิง่ ที่ อาจสง่ ผลกระทบให้หญิงไม่ได้รบั ความเปน็ ธรรมและถูกลดิ รอนหรอื จากดั สิทธิในเน้ือตวั ร่างกายของหญิง ซึง่ เป็นสิทธิตามธรรมชาติ อนั เป็นสทิ ธพิ ้ืนฐานของศกั ดศ์ิ รีความเป็นมนษุ ย์ที่บคุ คลย่อมมีสิทธแิ ละเสรภี าพ ท่จี ะกระทาการใดหรือไมก่ ระทาการใดต่อชวี ติ และร่างกายของตนไดต้ ราบเท่าท่ีการกระทานั้นไม่ไปรบกวน หรือลว่ งล้าเขา้ ไปในสิทธิหรอื เสรีภาพของผู้อื่น รวมท้งั ยงั ส่งผลกระทบถึงสิทธิในการกาหนดเจตจานง ของหญิงตั้งครรภ์ท่ีครอบคลมุ ไปถงึ สทิ ธิในการตัดสนิ ใจของหญิงวา่ จะยตุ ิการตงั้ ครรภห์ รือต้งั ครรภ์ต่อไป หรือไม่ การค้มุ ครองสิทธิของทารกในครรภแ์ ละสิทธิของหญิงต้ังครรภ์ต้องให้เกิดความสมดลุ กันโดยอาจต้อง นาชว่ งระยะเวลาการตงั้ ครรภ์มาเปน็ หลกั เกณฑ์ในการพจิ ารณา การปฏเิ สธสิทธขิ องหญิงโดยปราศจาก การกาหนดเง่ือนไขหรือเงอื่ นเวลาท่เี หมาะสมดังเช่นมาตรา ๓๐๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา เปน็ การจากัดสิทธแิ ละเสรภี าพของหญงิ เกนิ ความจาเปน็ ประกอบกบั รัฐมหี นา้ ทีก่ าหนดใหม้ ี มาตรการสง่ เสรมิ ให้บคุ คลใช้สิทธิและเสรีภาพโดยจัดให้มมี าตรการในการยุตกิ ารต้ังครรภ์ท่ีปลอดภัย

๒ ถกู ต้องตามกฎหมาย ไมก่ ระทบต่อการใช้สิทธขิ องหญิง และในขณะเดยี วกันก็ตอ้ งเขา้ ไปดูแลและคมุ้ ครอง ชวี ติ ของทารกในครรภ์มใิ ห้ถกู กระทบสิทธิในการมชี ีวติ ด้วยเชน่ กัน บทบญั ญัติมาตรา ๓๐๑ แห่งประมวล กฎหมายอาญา จงึ กระทบต่อสิทธแิ ละเสรภี าพในชีวติ และร่างกายของหญงิ เกินความจาเปน็ ไม่เปน็ ไปตาม หลักแห่งความไดส้ ัดส่วน และเปน็ การจากัดสทิ ธิและเสรภี าพตามมาตรา ๒๘ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย นอกจากนี้ ศาลรฐั ธรรมนูญยังได้ใหข้ อ้ เสนอแนะดว้ ยว่าประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องเรื่องการทาแท้งสมควรไดร้ ับการปรบั ปรุงแก้ไขเพอ่ื ใหส้ อดคล้องกับสภาพการณ์ ในปจั จบุ นั สมควรแกไ้ ขเพิ่มเตมิ บทบญั ญัติเกยี่ วกับความผิดฐานทาให้แทง้ ลูก โดยกาหนดอายุครรภ์ สาหรบั ความผิดฐานหญิงทาใหต้ นเองแทง้ ลกู หรือยอมให้ผอู้ น่ื ทาให้ตนแท้งลูกตามมาตรา ๓๐๑ รวมทั้งเพม่ิ เหตยุ กเวน้ ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลูกตามมาตรา ๓๐๕ ให้สอดคลอ้ งกับคาวนิ ิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ดงั กลา่ วและสอดคล้องกับสภาพการณใ์ นปัจจบุ นั มากยง่ิ ขึ้น จึงจาเปน็ ต้องตราพระราชบัญญัติน้ี

ร่าง พระราชบญั ญัติ แกไ้ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... .......................................... ........................................... ........................................... ............................................................................................................................. .................... ............................................... โดยทเ่ี ป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ............................................................................................................................. .................... ............................................... มาตรา ๑ พระราชบญั ญตั ินี้เรียกวา่ “พระราชบัญญตั ิแก้ไขเพม่ิ เติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนิ ้ีใหใ้ ชบ้ ังคับตง้ั แตว่ นั ถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ให้ยกเลกิ ความในมาตรา ๓๐๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบญั ญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ และใหใ้ ชค้ วาม ต่อไปน้ีแทน “มาตรา ๓๐๑ หญิงใดทาให้ตนเองแทง้ ลูกหรือยอมใหผ้ ู้อื่นทาใหต้ นแท้งลกู ขณะมีอายุครรภ์เกนิ สิบสองสัปดาห์ ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กินหกสามเดือน หรือปรับไมเ่ กินหนง่ึ หม่นื บาท หรอื ท้ังจาท้ังปรับ”

-๒- มาตรา ๔ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๓๐๕ แห่งประมวลกฎหมายอาญา และให้ใช้ความ ต่อไปนี้แทน “มาตรา ๓๐๕ ถา้ การกระทาความผิดตามมาตรา ๓๐๑ หรอื มาตรา ๓๐๒ เป็นการกระทาของผปู้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดงั ตอ่ ไปนี้ ผูก้ ระทาไม่มีความผดิ (๑) จาเป็นตอ้ งกระทาเนื่องจากหากหญงิ ต้ังครรภต์ ่อไปจะเสีย่ งต่อการได้รับอันตราย ต่อสขุ ภาพทางกายหรอื จิตใจของหญิงนั้น (๒) จาเป็นตอ้ งกระทาเนื่องจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสยี่ งอย่างมาก ทีห่ รือมเี หตผุ ลทางการแพทย์อนั ควรเชอ่ื ได้วา่ หากทารกคลอดออกมาจะได้รับผลกระทบจากมคี วามผดิ ปกติ ทางกายหรอื จิตใจถงึ ขนาดทุพพลภาพอย่างรา้ ยแรง (๓) หญิงยนื ยันต่อผปู้ ระกอบวิชาชพี เวชกรรมว่าตนมคี รรภ์เนื่องจากมีการกระทาความผิด เกี่ยวกับเพศ (๔) หญงิ ซึง่ มีอายุครรภไ์ มเ่ กนิ สบิ สองสปั ดาหย์ นื ยนั ทีจ่ ะยุติการต้ังครรภ์ (๕) หญงิ ซ่ึงมีอายุครรภ์เกินสบิ สองสปั ดาห์ แต่ไมเ่ กินย่ีสิบสัปดาห์ ยืนยันท่ีจะยตุ ิการตัง้ ครรภ์ ภายหลังการตรวจและรับคาปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผปู้ ระกอบวชิ าชีพอื่น ตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารทรี่ ัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนดโดยคาแนะนาของแพทยสภา และหน่วยงานทีเ่ กย่ี วขอ้ งตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น” ............................................... ................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook