Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนบริหารความเสี่ยงกศนอำเภอจะแนะ

แผนบริหารความเสี่ยงกศนอำเภอจะแนะ

Published by nfe_chanae, 2021-09-20 18:11:56

Description: แผนบริหารความเสี่ยงกศนอำเภอจะแนะ

Search

Read the Text Version

1 บทท่ี 1 บทนำ ความเปน็ มา จากการที่กระทรวงศึกษาธิการ ไดป้ ระกาศใหใ้ ช้มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย 3 ดา้ น จำนวน 3 มาตรฐาน เม่ือวันที่ 6 ธันวาคม 2562 ให้สถานศึกษาใชเ้ ปน็ เปา้ หมายในการจัด การศึกษานอกระบบและประกันคณุ ภาพภายใน ซึง่ ในมาตรฐานที่ 3 คุณภาพการบรหิ ารจดั การศึกษา ได้ระบุ ในเกณฑพ์ ิจารณาให้สถานศกึ ษาตอ้ งมีระบบควบคุมภายในของสถานศกึ ษา มีการวเิ คราะห์และระบุความเส่ียง และปจั จัยทกี่ ่อใหเ้ กิดความเส่ยี งตามบริบท/บทบาทหน้าทีข่ องสถานศึกษา มกี ารจัดทำแผนบรหิ ารความเส่ียง และดำเนนิ การตามแผน กำหนดตัวช้ีวดั ความสำเร็จ มีการติดตาม ประเมนิ ผล นำผลการประเมนิ ไปใชใ้ นการ ปรบั ปรงุ แผนบริหารความเสยี่ งตามแผน และรายงานต่อคณะกรรมการสถานศกึ ษา และมีผลความสำเรจ็ ใน การบริหารความเสี่ยงระดับดีขึ้นไป ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอจะแนะ อำเภอจะแนะ จงั หวดั นราธวิ าส จึงไดม้ ีการประชุม วางแผน เพอื่ ดำเนินการจัดทำแผนบริหารความเสย่ี งข้ึนในปีงบประมาณ 2564 เพื่อใชใ้ น การบริหารจดั การความเสี่ยงของหน่วยงาน ควบคุมการทำงาน และเป็นการเตรียมความพร้อมในการทำงาน ตา่ ง ๆ เพื่อใหบ้ รรลุเป้าหมายตามโครงการที่วางไวท้ ุกประการ ทศิ ทางการดำเนนิ งานของสถานศกึ ษา ปรัชญา สร้างโอกาส เสริมคุณธรรม นอ้ มนำ เศรษฐกจิ พอเพยี ง วสิ ยั ทศั น์ ประชาชนไดร้ บั โอกาสในการเรยี นรู้ตลอดชวี ิต อย่างมีคณุ ภาพ โดยท่วั ถงึ และเทา่ เทยี มกัน เพ่ือเสริมอาชีพ และการมีงานทำ พนั ธกจิ 1. จัดและสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยใหม้ คี ุณภาพและบรกิ าร ประชาชนไดอ้ ย่างท่วั ถึง 2. จัดและส่งเสริมการศกึ ษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำเพ่ือพฒั นาสมรรถนะของ ประชาชนและชมุ ชนใหส้ ามารถสร้างรายได้ สรา้ งสรรค์และแขง่ ขันด้านอาชพี ไดอ้ ย่างยงั่ ยนื 3. สง่ เสริมการมสี ว่ นรว่ มของภาคีเครอื ขา่ ยทัง้ ในและต่างประเทศในการดำเนินงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั เพื่อสง่ เสริมการศึกษาตลอดชวี ติ และการศึกษา อาชพี เพ่ือการมงี านทำ 4. พัฒนาและสง่ เสริมการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยเี พื่อการศึกษา และเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร มาใช้ใหเ้ กิดประสทิ ธภิ าพต่อการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อธั ยาศัย และการศึกษาอาชพี เพอื่ การมงี านทำ

2 5. พฒั นาบคุ ลากรและระบบการบรหิ ารจัดการให้สามารถดำเนนิ งานการศกึ ษานอก ระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศยั เพื่อส่งเสรมิ การศึกษาตลอดชวี ิตและการศกึ ษาอาชพี เพื่อการมีงานทำ ของประชาชนได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ วัตถุประสงค์ในการบรหิ ารความเสี่ยง 1. เพื่อใหเ้ กิดความตระหนกั และเขา้ ใจถึงความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ทอี่ าจเกิดขน้ึ ในสถานศึกษา และมี วธิ ีจัดการท่เี หมาะสมในการลดความเสยี่ งให้อยู่ในระดบั ที่สามารถยอมรบั ได้ 2. เพอ่ื มีแนวทางการบรหิ ารจดั การความเส่ยี งอย่างเป็นระบบและมีประสทิ ธิภาพ 3. เพอ่ื ใหม้ ีระบบในการตดิ ตามตรวจสอบผลการดำเนินงานบรหิ ารความเสีย่ ง นิยามความเสี่ยง 1. ความเส่ียง หมายถงึ เหตุการณ์/การกระทำใด ๆ ท่ีอาจเกิดขนึ้ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แนน่ อนและ จะสง่ ผลกระทบหรอื สร้างความเสยี หาย (ทง้ั ที่เปน็ ตวั เงินและไม่เป็นตัวเงิน) หรือก่อให้เกดิ ความลม้ เหลวหรือลด โอกาสทจี่ ะบรรลเุ ปา้ หมายของแผนงาน/โครงการท่สี ำคญั ในแต่ละประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ตามทรี่ ะบุในแผนปฏบิ ตั ิ ราชการประจำปขี องส่วนราชการ 2. การบริหารความเสี่ยง หมายถึง กระบวนการท่เี ป็นระบบในการบรหิ ารปจั จยั และควบคมุ กิจกรรม รวมท้ังกระบวนการดำเนนิ งานตา่ ง ๆ เพ่ือลดมลู เหตแุ ตล่ ะโอกาสท่ีจะทำใหเ้ กดิ ความเสียหายจากการ ดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามแผน เพอื่ ให้ระดับของความเสยี่ งและผลกระทบที่จะเกดิ ข้นึ ในอนาคตอยใู่ นระดับที่ สามารถรับได้ ประเมนิ ได้ ควบคุมได้ และตรวจสอบได้อย่างมรี ะบบ โดยในการดำเนินการบริหารความเสีย่ งนนั้ มงุ่ เนน้ แผนงาน/โครงการทส่ี ำคัญซึ่งผลสำเรจ็ ของแผนงาน/โครงการมีผลกระทบสูงต่อการบรรลุความสำเร็จ ตามประเดน็ ยุทธศาสตร์ 3. ปจั จัยเสี่ยง หมายถงึ ต้นเหตุ หรือสาเหตทุ ่ีมาของความเสีย่ งท่ีจะทำให้ไมส่ ามารถบรรลุ วตั ถปุ ระสงค์ทีก่ ำหนดไว้ 4. การประเมินความเสย่ี ง หมายถงึ การคาดคะเนหรือคำนวณโอกาสท่จี ะเกิดมลู เหตทุ ี่นำไปสูค่ วาม เสียหาย เพอื่ ให้ทราบถงึ ความสำคัญของความเสย่ี งท่ีแตกต่างกนั และใชใ้ นการพจิ ารณากำหนดจดุ ควบคุม ความเส่ยี งทมี่ นี ยั สำคัญ 5. กิจกรรมควบคุม หมายถึง กระบวนการปฏบิ ตั ทิ ่ีทกุ คนในองค์กรร่วมกนั พิจารณากำหนดขนึ้

3 บทที่ 2 แนวทางการบรหิ ารความเสย่ี ง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอจะแนะ ไดน้ ำแนวทางการบริหารความ เส่ียงโดยมีการศึกษาวธิ กี ารดำเนินการจากแนวทางการดำเนินการบรหิ ารความเสยี่ ง ของสำนกั งาน กศน. โดย มีเน้อื หาดังน้ี 1. แนวทางการบรหิ ารความเสย่ี ง ของ สำนกั งาน กศน. 2. แนวทางการบริหารความเส่ยี ง ของสถานศึกษา 3. ยุทธศาสตร์สำนกั งาน กศน. ประจำปีงบประมาณ 2564 แนวทางการบรหิ ารความเสี่ยงของ สานักงาน กศน. การจดั ทำระบบบริหารความเสี่ยงของ สานักงาน กศน. มีแนวทางการดำเนนิ งานตามขัน้ ตอนต่าง ๆ สรุปเป็นแผนภมู ิการดำเนินงาน ดงั น้ี

4 แนวทางการดำเนนิ งานบรหิ ารความเสยี่ งของสถานศกึ ษา มีข้ันตอนในการดำเนนิ งาน มีดังนี้ 1. แตง่ ตง้ั คณะกรรมการหรือคณะทำงานบริหารความเสย่ี ง โดยมผี ู้อำนวยการสถานศึกษา เป็น ประธานกรรมการ ผ้ทู มี่ คี วามรู้ความเชี่ยวชาญในภารกจิ หลักของสถานศึกษาท่รี บั ผิดชอบงานตามโครงสร้าง การบริหารงาน ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา รว่ มเป็นคณะทำงาน ซ่ึงบคุ คลเหล่านี้ เปน็ ผมู้ ี ประสบการณ์และความเชยี่ วชาญในการทำงาน สามารถมองเห็นความเสย่ี งทแี่ ท้จริงของสถานศึกษา ครอบคลุมในทุกด้าน และสามารถขับเคลอ่ื นแผนบริหารความเสีย่ งให้บรรลเุ ปา้ หมายได้ 2. คณะกรรมการท่ีแต่งตั้ง ซึง่ เป็นผ้ทู ม่ี คี วามรู้ความสามารถ และมอี ำนาจทางการบริหารร่วมกนั ระดม สมองในการระบุความเส่ียง หรือ ปจั จัยเส่ยี ง ทเ่ี ป็นความเสี่ยงที่แท้จริงของสถานศึกษา และเป็นความเสยี่ ง ระดับสถานศึกษา โดยดจู าก 2.1 ความลม้ เหลว ความเสียหาย ทสี่ ่งผลใหส้ ถานศกึ ษาไม่บรรลตุ ามเปา้ หมาย ตามบรบิ ท/

5 บทบาทหนา้ ที่ของสถานศึกษา 2.2 เหตกุ ารณท์ ีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ ความสำเรจ็ ตามเปา้ หมายของแผนปฏิบัตงิ าน ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยดวู า่ ในปีงบประมาณ 2564 สถานศกึ ษามีแผนการดำเนินงานหรือโครงการ อะไรบา้ ง และมีโครงการใด ท่ีอาจไมส่ ำเร็จตามวตั ถุประสงคข์ องโครงการ 2.3 เหตกุ ารณ์ทส่ี ่งผลกระทบตอ่ การดำเนนิ งาน หรือ นโยบาย เราเรียกมนั ว่า เหตกุ ารณ์เสี่ยง 3. เมอื่ สถานศึกษาระบคุ วามเส่ยี งไดแ้ ลว้ ตอ้ งทำการประเมินความเสี่ยงโดยประเมินจาก 1) โอกาส(ความถ่ีของการเกดิ เหตุการณ์) x ผลกระทบ(ความรนุ แรง/ความเสียหายท้ังที่เปน็ ตวั เงินและไม่เป็นตวั เงิน) 2) เพื่อหาความสำคญั ของความเส่ยี งวา่ อยใู่ นระดบั ใด (สงู มาก สูง ปานกลาง ตำ่ ) และ ให้นำ ความเสยี่ งทมี่ รี ะดบั ความสำคัญมาก (สูงมาก สงู ปานกลาง ) มาดำเนินการบริหารความเสยี่ งตามลำดบั ความ เสยี่ ง 4. นำปัจจยั เสยี่ ง (สาเหตุ) ทีไ่ ด้มาวเิ คราะห์วา่ เปน็ ปจั จยั เส่ยี งดา้ นใดและสง่ ผลกระทบด้านใดบา้ ง โดยใช้ตารางที่ 1 ใบรายงานระบุความเสยี่ งและผลกระทบด้านตา่ ง ๆ เชน่ 1) ปจั จยั เสย่ี งด้านการดำเนนิ งาน หมายถงึ ความเสย่ี งตอ่ เรื่องประสิทธภิ าพและความโปรง่ ใส การขาดการกำกับ ควบคุม ดูแลทด่ี ี ขาดธรรมาภบิ าลในองคก์ ร (หลกั การจดั การบริหารท่ีมจี รยิ ธรรม คุณธรรม คุณภาพ ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม) หรือ เกี่ยวข้องกับคน ระบบงาน เป็นตน้ 2) ปจั จยั เสี่ยงดา้ นงบประมาณ หมายถงึ ความเสีย่ งเกย่ี วกับการบริหารงบประมาณและ การเงินการบริหารการเงินไม่ถกู ต้อง ไม่เหมาะสม งบประมาณไมเ่ พียงพอต่อการดำเนนิ งาน 3) ปจั จยั เสีย่ งดา้ นกลยุทธ์ หมายถงึ เกิดจากการกำหนดแผนกลยทุ ธ์ แผนการดำเนนิ งาน และนำไปปฏบิ ัติไม่เหมาะสม/ไมส่ อดคลอ้ ง อนั ส่งผลกระทบต่อการดำรงอยู่ขององค์กรว่ามปี ัจจัยเสีย่ งท้งั 3 ดา้ น ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ การเงิน ผรู้ บั บรกิ าร บคุ ลากร เวลา และผลสำเร็จของงาน ยกตัวอยา่ งเช่น - ด้านการเงิน เป็นผลทำใหส้ ิ้นเปลืองงบประมาณ เสยี่ งต่อเรอื่ งนิตธิ รรม - ดา้ นผูร้ บั บรกิ าร นกั ศึกษา ผู้รับบริการได้รบั ความเดือดรอ้ น - ดา้ นบคุ ลากร ครขู าดทกั ษะในการจดั การเรยี นรู้ - ด้านเวลา ระยะเวลาในการดำเนินการมีไม่เพียงพอ - ด้านความสำเรจ็ ความไม่ชัดเจนในเนอื้ หลกั สูตร แผนการเรยี นรู้ทใ่ี หก้ ารอบรม 5. กำหนดหลกั เกณฑใ์ นการประเมินความเสย่ี ง ตามตารางที่ 2 ใบประเมินความเสี่ยง โดยนำปัจจัย เสีย่ งท่ไี ด้ตาม ข้อ 4 โดยหารายละเอยี ดของความสญู เสีย ความถ่ี (โอกาสที่จะเกดิ ) ความรนุ แรง (ผลกระทบท่ี เปน็ ตวั เงินและไมเ่ ปน็ ตวั เงนิ ) เพ่ือหาความสำคัญของปัจจยั เสย่ี ง (สาเหตุของความเสย่ี ง)แต่ละตวั 6. จัดทำรายงานสรปุ ผลการวิเคราะหแ์ ละประเมนิ ความเสี่ยง (ตามตารางท่ี 3 ใบสรุปทางเลือกท่ี เหมาะสมในการจัดการความเสี่ยง) โดยจำแนกระหวา่ ง ปจั จยั เส่ยี งท่ีสามารถควบคมุ /บริหารจดั การ และ ปจั จยั เสย่ี งทไ่ี ม่สามารถควบคุม/บรหิ ารจดั การให้อยูใ่ นระดับทยี่ อมรับได้ โดยมวี ธิ จี ดั การกบั ความเสยี่ ง ดงั นี้ 1) หลกี เลย่ี ง หมายถึง การหยุด / ยกเลกิ

6 2) ยอมรับ หมายถงึ ยอมรับความเสย่ี งให้เกดิ ข้ึน โดย สถานศกึ ษามีระบบการควบคมุ ภายใน ที่มีประสทิ ธภิ าพ มีต้นทุนเพียงพอท่ีจะยอมรับความเสย่ี งที่เกดิ ข้ึน ความเส่ียงท่ีเหลืออยู่ในระดบั ยอมรับได้ 3) ควบคุม หมายถึง ควบคุม โดย ปรับกระบวนงานใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ หรอื มีการติดตามจาก ผูบ้ รหิ าร เพือ่ ลดโอกาสที่จะเกิดผลกระทบ 4) ถ่ายโอน หมายถงึ การทำสัญญารว่ มกับผู้อืน่ เพ่ือร่วมรบั ความเสย่ี ง เช่น การประกันภัย จากนัน้ คณะทำงานการบรหิ ารความเสยี่ งท่ีได้รับการแต่งต้ัง รว่ มกนั พิจารณาทางเลือกที่เหมาะสม โดย คำนึงถึง ตน้ ทุน และผลประโยชน์ทีจ่ ะได้รบั 7. นำผลจากการวิเคราะห์มาใชท้ ำแผนบริหารความเสย่ี ง โดยมีแนวทางการควบคุม และกิจกรรมการ ควบคมุ (โดยบอกวธิ ีการ) พรอ้ มการกำหนดชว่ งเวลาดำเนินการ ตามตารางท่ี 4 ใบสรุปการจดั การความเสย่ี ง และตารางท่ี 5 ใบรายการกจิ กรรมในการจัดการความเส่ยี ง โดยไดร้ ับความเห็นชอบจากผอู้ ำนวยการ สถานศกึ ษา 8. มีการสื่อสาร/ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ แผนบริหารความเส่ยี ง ให้กับคณะทำงานทุกคน ได้รบั ทราบ เพื่อใหส้ ามารถนำแผนฯ ไปปฏิบตั ไิ ด้ 9. มกี ารตดิ ตามความก้าวหนา้ ของการดำเนนิ งานตามแผนบรหิ ารความเสย่ี ง อย่างสม่ำเสมอ โดย 1) ติดตามความคบื หนา้ ระยะเวลาดำเนินการเปน็ ไปตามท่ีกำหนดไว้หรอื ไม่ 2) มีปัญหาอุปสรรคในการดำเนนิ การพร้อมแนวทางการแก้ไข 3) มกี ารสรุปผลการดำเนินงานเสนอต่อคณะกรรมการสถานศกึ ษาอยา่ งน้อย ปลี ะ 2 ครงั้ คอื วนั ท่ี 30 มนี าคม 2564 และ 30 กนั ยายน 2564 แต่ในคร้งั นี้ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั อำเภอจะแนะ จะดำเนนิ การสรปุ ผลการดำเนินงานเพียงครัง้ เดียวคือ 30 กันยายน 2564 เนือ่ งจาก คณะกรรมการบรหิ ารความเสี่ยงได้เริ่มดำเนินการทำแผนบรหิ ารความเสี่ยงเสรจ็ ภายในเดอื นเมษายนนี้ ตาม ตารางท่ี 6 การติดตามผลการจัดการความเสยี่ ง 10. สถานศึกษาสรปุ ผลการดำเนินงานตามแผนบรหิ ารความเสีย่ ง โดยการระบุผลการประเมินความ เส่ยี งหลงั จากทไี่ ด้ดำเนนิ การตามแผน ตามตารางที่ 7 การประเมินผลการจดั การความเสี่ยง โดยดโู อกาส และ ผลกระทบ(ระดับความเสียหาย) เพือ่ ดรู ะดับความเส่ียงคงเหลือ 11. สรุปผลการประเมนิ ความเสย่ี ง โดยการจำแนก ระหวา่ ง 1) ความเส่ยี งทส่ี ามารถควบคุม หรือ บริหารจดั การได้ และ 2) ปจั จยั เสยี่ งท่ีไมส่ ามารถควบคุม หรือ ไมส่ ามารบรหิ ารจัดการใหอ้ ยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ได้ อย่างชัดเจน ตามตารางท่ี 8 สรปุ ผลการดำเนินงานจากการบรหิ ารความเสีย่ ง 3) กำหนดข้อเสนอแนะในการปรับปรงุ แผนบริหารความเสยี่ งสำหรบั ความเส่ยี งทย่ี ัง หลงเหลืออยูเ่ พอ่ื ดำเนินการในปีต่อไป (ในชอ่ งหมายเหต)ุ แลว้ นำเสนอผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา และ คณะกรรมการสถานศึกษา หลักเกณฑก์ ารพจิ ารณาคัดเลอื กโครงการเพอื่ นำมาพิจารณาบรหิ ารจดั การความเสย่ี ง

7 ตารางที่ 1 หลกั เกณฑ์ในการพิจารณาคดั เลอื กโครงการเพื่อนำมาพิจารณาบรหิ ารจดั การความเสีย่ ง ปจั จยั ท่พี จิ ารณา เกณฑ์การพิจารณา 123 1.สอดคล้องกับประเด็น ไมส่ อดคล้องกับ สอดคลอ้ งกับบาง สอดคล้องกบั ทุก ยุทธศาสตร์ กลยุทธใ์ นประเด็น กลยุทธ์ในประเดน็ กลยทุ ธใ์ นประเด็น ยุทธศาสตร์ ยทุ ธศาสตร์ ยุทธศาสตร์ 2.งบประมาณท่ีได้รับใน ได้รบั งบประมาณ ได้รบั งบประมาณ ไดร้ ับงบประมาณ ปีงบประมาณ 2564 สงู เปน็ ลำดับ 3 สงู เปน็ ลำดบั ที่ 2 สงู เปน็ ลำดบั ท่ี 1 และตำ่ กวา่ การพจิ ารณาคดั เลือกโครงการและจดั ลำดับความสำคญั ของโครงการตามหลักเกณฑ์ ทกี่ ำหนด โดยจะคัดเลือกโครงการที่ไดค้ ่าคะแนนความสำคัญของโครงการสงู สดุ ในแต่ละจดุ เน้นมาเปน็ ตวั แทน ในการบริหารจัดการความเสี่ยง จดุ เน้นการดำเนนิ งานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 1. นอ้ มนำพระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาสู่การปฏบิ ตั ิ 1.1 สืบสานศาสตรพ์ ระราชา โดยการสรา้ งและพฒั นาศูนย์สาธิตและเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อเปน็ แนวทางในการจัดการบริหารทรพั ยากรรูปแบบตา่ ง ๆ ทั้งดิน น้ำ ลม แดด รวมถงึ พชื พนั ธุ์ต่าง ๆ และส่งเสรมิ การใชพ้ ลังงานทดแทนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 1.2 จดั ให้มี “หนง่ึ ชมุ ชน หนง่ึ นวตั กรรม การพฒั นาชุมชน” เพ่อื ความกินดี อยู่ดี มีงานทำ 1.3 การสร้างกลมุ่ จิตอาสาพัฒนาชมุ ชน รวมทง้ั ปลกู ฝงั ผู้เรียนให้มหี ลักคดิ ท่ีถูกต้องด้านคุณธรรม จริยธรรม มี ทัศนคติทด่ี ตี ่อบา้ นเมือง และเป็นผมู้ คี วามพอเพยี ง ระเบยี บวินยั สจุ ริต จติ อาสา ผ่านกจิ กรรมการพัฒนา ผ้เู รยี นโดยการใชก้ ระบวนการลกู เสือและยวุ กาชาด 2. ส่งเสริมการจัดการศกึ ษาและการเรยี นร้ตู ลอดชีวิตสำหรับประชาชนท่เี หมาะสมกับทุกช่วงวยั 2.1 สง่ เสริมการจดั การศกึ ษาอาชพี เพอื่ การมีงานทำ ในรปู แบบ Re-Skill& Up-Skill และการสรา้ ง นวัตกรรม และผลติ ภัณฑท์ ี่มคี ุณภาพ มีความหลากหลาย ทนั สมยั และตอบสนองความต้องการของประชาชน ผรู้ ับบริการ และสามารถออกใบรับรองความรูค้ วามสามารถเพื่อนำไปใชใ้ นการพฒั นาอาชพี ได้ 2.2 สง่ เสรมิ และยกระดับทักษะภาษาอังกฤษให้กับประชาชน (English for All) 2.3 สง่ เสรมิ การเรยี นการสอนทเี่ หมาะสมสำหรับผทู้ ี่เข้าส่สู งั คมสูงวยั อาทิ การฝึกอบรมอาชีพ ท่เี หมาะสม รองรบั สงั คมสูงวัย หลกั สตู รการพฒั นาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมสมรรถนะผสู้ งู วยั และหลักสูตร การดูแลผูส้ งู วยั โดยเนน้ การมสี ่วนร่วมกับภาคีเครอื ข่ายทุกภาคสว่ นในการเตรียมความพรอ้ มเข้าสสู่ ังคมสงู วัย

8 3. พัฒนาหลกั สตู ร สอ่ื เทคโนโลยแี ละนวัตกรรมทางการศึกษา แหล่งเรยี นรู้ และรูปแบบ การจดั การศกึ ษา และการเรยี นรู้ ในทกุ ระดบั ทกุ ประเภท เพื่อประโยชน์ต่อการจดั การศกึ ษาที่เหมาะสม กับทุกกลมุ่ เป้าหมาย มีความทันสมัย สอดคล้องและพร้อมรองรับกับบริบทสภาวะสงั คมปัจจบุ ัน ความตอ้ งการ ของผู้เรียน และ สภาวะการเรียนรู้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท่จี ะเกดิ ข้นึ ในอนาคต 3.1 พฒั นาระบบการเรียนรู้ ONIE Digital Learning Platform ทร่ี องรับ DEEPของกระทรวงศึกษาธิการ และ ช่องทางเรยี นรู้รูปแบบอ่นื ๆ ทัง้ Online On-site และ On-air 3.2 พฒั นาแหลง่ เรยี นรปู้ ระเภทตา่ ง ๆ อาทิ Digital Science Museum/ Digital Science Center/ Digital Library ศนู ย์การเรยี นรูท้ ุกช่วงวยั และศนู ย์การเรียนรตู้ ้นแบบ กศน. (Co-Learning Space) เพือ่ ให้ สามารถ “เรยี นรไู้ ด้อย่างทวั่ ถงึ ทกุ ที่ ทกุ เวลา” 3.3 พัฒนาระบบรับสมัครนกั ศกึ ษาและสมัครฝกึ อบรมแบบออนไลน์ มรี ะบบการเทียบโอนความรู้ ระบบ สะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank System) และพฒั นา/ขยายการให้บริการระบบทดสอบ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (E-exam) 4. บูรณาการความรว่ มมือในการสง่ เสริม สนบั สนนุ และจดั การศกึ ษาและการเรียนรู้ใหก้ บั ประชาชนอย่าง มีคณุ ภาพ 4.1 รว่ มมอื กบั ภาคีเครือขา่ ยทั้งภาครฐั เอกชน ประชาสงั คม และองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมท้ัง ส่งเสริม และสนบั สนุนการมีส่วนร่วมของชมุ ชน อาทิ การสง่ เสริมการฝกึ อาชีพทเี่ ป็นอัตลักษณ์และบรบิ ทของ ชุมชน ส่งเสรมิ การตลาดและขยายชอ่ งทางการจำหน่ายเพ่ือยกระดบั ผลิตภณั ฑ์/สินคา้ กศน. 4.2 บรู ณาการความรว่ มมือกับหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ในสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ทง้ั ในสว่ นกลาง และภมู ิภาค 5. พฒั นาศกั ยภาพและประสิทธภิ าพในการทำงานของบคุ ลากร กศน. 5.1 พฒั นาศกั ยภาพและทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยดี ิจิทัล (Digital Literacy & Digital Skills) ใหก้ บั บุคลากรทุกประเภททกุ ระดบั รองรบั ความเป็นรฐั บาลดิจิทัลอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รวมทง้ั พฒั นาครูให้มี ทกั ษะ ความรู้ และความชำนาญในการใชภ้ าษาองั กฤษ การผลติ ส่อื การเรยี นรแู้ ละการจดั การเรียนการสอน เพอื่ ฝึกทักษะ การคิดวเิ คราะหอ์ ยา่ งเป็นระบบและมเี หตผุ ล เป็นข้นั ตอน 5.2 จดั กจิ กรรมเสริมสร้างความสัมพนั ธ์ของบุคลากร กศน.และกจิ กรรมเพิ่มประสิทธภิ าพ ในการทำงาน ร่วมกนั ในรปู แบบตา่ ง ๆ อาทิ การแขง่ ขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารพัฒนาประสทิ ธิภาพ ในการทำงาน 6. ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างและระบบบริหารจดั การองคก์ ร ปัจจัยพน้ื ฐานในการจัดการศกึ ษา และ การประชาสมั พนั ธ์สร้างการรับรตู้ อ่ สาธารณะชน 6.1 เรง่ ผลกั ดันรา่ งพระราชบัญญัติส่งเสรมิ การเรยี นรู้ พ.ศ. .... ให้สำเรจ็ และปรับโครงสร้าง การบรหิ ารและ อตั รากำลังให้สอดคล้องกับบริบทการเปลยี่ นแปลง เรง่ การสรรหา บรรจุ แต่งต้ังที่มีประสทิ ธิภาพ 6.2 นำนวตั กรรมและเทคโนโลยดี จิ ิทลั มาใช้ในการบริหารจัดการ พัฒนาระบบการทำงานและข้อมลู สารสนเทศด้านการศกึ ษาท่ที ันสมยั รวดเร็ว และสามารถใชง้ านทนั ที โดยจดั ตั้งศนู ยข์ ้อมูลกลาง กศน. เพ่ือ จัดทำ ข้อมลู กศน. ทัง้ ระบบ (ONE ONIE)

9 6.3 พฒั นา ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟ้ืนฟูอาคารสถานท่ี และสภาพแวดล้อมโดยรอบของหน่วยงาน สถานศกึ ษา และแหล่งเรียนร้ทู ุกแหง่ ให้สะอาด ปลอดภยั พร้อมให้บริการ 6.4 ประชาสัมพันธ์/สรา้ งการรับรใู้ ห้กบั ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกบั การบริการทางวชิ าการ/กจิ กรรม ด้าน การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย และสร้างช่องทางการแลกเปลีย่ นเรียนรู้ดา้ นวชิ าการ ของ หน่วยงานและสถานศึกษาในสงั กดั อาทิ ข่าวประชาสัมพันธ์ ผา่ นสือ่ รูปแบบต่าง ๆ การจัดนทิ รรศการ/ มหกรรม วชิ าการ กศน. การจัดการศึกษาและการเรียนรใู้ นสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ของสำนักงาน กศน. จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID -19) เม่อื เดอื นธนั วาคม 2562 ส่งผลกระทบตอ่ ระบบการจดั การเรียนการสอนของไทยในทกุ ระดับชัน้ ซึง่ รัฐบาลและ กระทรวงศกึ ษาธิการ ได้ออกประกาศและมมี าตรการเฝา้ ระวังเพ่ือป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรสั ดงั กลา่ ว อาทิ กำหนดใหม้ ี การเวน้ ระยะหา่ งทางสงั คม (Social Distancing) หา้ มการใช้อาคารสถานทีข่ อง โรงเรียนและสถาบันการศึกษา ทุกประเภท เพอื่ จัดการเรยี นการสอน การสอบ ฝกึ อบรม หรือการทำกิจกรรม ใด ๆ ที่มผี เู้ ข้าร่วมเป็นจำนวนมาก การปดิ สถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษ การกำหนดให้ใชว้ ธิ กี ารจัดการเรียนการ สอนรูปแบบใหม่ อาทิ การจัดการเรียนรู้ แบบออนไลน์ การจัดการเรยี นร้ผู ่านระบบการออกอากาศทาง โทรทศั น์ วิทยุ และโซเซียลมเี ดยี ต่าง ๆ รวมถงึ การส่ือสารแบบทางไกลหรอื ดว้ ยวิธีอิเล็กทรอนกิ ส์ ในสว่ นของสำนกั งาน กศน. ไดม้ ีการพฒั นา ปรับรูปแบบ กระบวนการ และวิธีการดำเนนิ งานในภารกจิ ตอ่ เน่ืองต่าง ๆ ในสถานการณ์การใช้ชีวิตประจำวัน และการจดั การเรียนรูเ้ พ่ือรองรบั การชีวติ แบบปกติวถิ ี ใหม่ (New Normal) ซึง่ กจิ กรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามมาตรการการ ปอ้ งกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID -19) อาทิ การจดั กจิ กรรมการเรยี นร้ทู ุก ประเภท หากมีความจำเป็นตอ้ งมาพบกลุ่ม หรอื อบรมสมั มนา ทางสถานศกึ ษาตอ้ งมมี าตรการป้องกันท่ี เข้มงวด มีเจล แอลกอฮอลลา้ งมือ ผรู้ บั บรกิ ารต้องใส่หนา้ กากอนามัยหรอื หน้ากากผ้า ต้องมีการเวน้ ระยะห่าง ระหวา่ งบุคคล เน้นการใชส้ อ่ื ดจิ ทิ ัลและเทคโนโลยีออนไลน์ในการจดั การเรียนการสอน ภารกจิ ตอ่ เนือ่ ง 1. ดา้ นการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 1.1การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน

10 1) สนับสนุนการจดั การศกึ ษานอกระบบตง้ั แต่ปฐมวัยจนจบการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐานโดยดำเนินการ ให้ผูเ้ รียน ได้รบั การสนับสนนุ คา่ จัดซื้อหนงั สือเรยี น ค่าจัดกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าจดั การเรียน การสอน อย่างทวั่ ถึงและเพยี งพอเพ่ือเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบรกิ ารทางการศกึ ษาทีม่ ีคณุ ภาพโดยไมเ่ สียคา่ ใช้จ่าย 2) จดั การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พืน้ ฐานให้กับกล่มุ เป้าหมายผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทาง การศกึ ษา ผ่านการเรยี นแบบเรยี นร้ดู ้วยตนเอง การพบกลมุ่ การเรยี นแบบชน้ั เรียน และการจดั การศกึ ษา ทางไกล 3) พฒั นาประสทิ ธภิ าพ คุณภาพ และมาตรฐานการจดั การศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษา ข้นั พนื้ ฐาน ท้ัง ด้านหลักสูตรรปู แบบ/กระบวนการเรียนการสอน สอื่ และนวัตกรรม ระบบการวดั และประเมินผล การเรียน และระบบการให้บริการนกั ศึกษาในรูปแบบอ่นื ๆ 4) จดั ให้มีการประเมินเพื่อเทียบระดบั การศกึ ษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ท่มี คี วามโปร่งใส ยตุ ธิ รรม ตรวจสอบได้ มมี าตรฐานตามทกี่ ำหนด และสามารถตอบสนองความตอ้ งการ ของกลมุ่ เป้าหมายได้ อย่างมีประสิทธภิ าพ 5) จดั ใหม้ ีกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี นทมี่ ีคุณภาพทผ่ี ู้เรียนต้องเรียนรูแ้ ละเข้ารว่ มปฏบิ ัติ กิจกรรม เพ่ือเปน็ สว่ นหนง่ึ ของการจบหลักสตู ร อาทิ กิจกรรมเสรมิ สร้างความสามคั คี กจิ กรรมเกี่ยวกับการป้องกนั และแก้ไข ปัญหายาเสพตดิ การแข่งขันกีฬา การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างตอ่ เนื่อง การส่งเสรมิ การปกครอง ใน ระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยวุ กาชาด กจิ กรรม จิตอาสา และการจัดต้ังชมรม/ชุมนุม พร้อมท้ังเปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นนำกิจกรรมการบำเพ็ญประโยชน์อื่น ๆ นอก หลกั สตู รมาใชเ้ พ่ิมช่ัวโมงกิจกรรมให้ผู้เรยี นจบตามหลกั สตู รได้ 1.2 การส่งเสริมการร้หู นังสือ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมลู ผู้ไม่ร้หู นังสือ ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมยั และเป็นระบบเดยี วกัน ท้งั สว่ นกลางและสว่ นภมู ภิ าค 2) พัฒนาและปรบั ปรุงหลกั สูตร ส่ือ แบบเรยี นเคร่ืองมือวดั ผลและเคร่อื งมือการดำเนนิ งานการ ส่งเสริมการรู้ หนงั สือที่สอดคล้องกับสภาพและบรบิ ทของแต่ละกล่มุ เป้าหมาย 3) พัฒนาครู กศน.และภาคเี ครือขา่ ยทีร่ ่วมจดั การศึกษา ให้มีความรู้ ความสามารถ และทกั ษะการ จดั กระบวนการเรยี นรู้ให้กับผู้ไม่รู้หนงั สืออยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ และอาจจดั ใหม้ ีอาสาสมคั รส่งเสรมิ การรู้หนงั สือใน พืน้ ทีท่ ี่มีความต้องการจำเป็นเปน็ พเิ ศษ 4) ส่งเสรมิ สนบั สนุนให้สถานศกึ ษาจดั กิจกรรมส่งเสรมิ การรหู้ นงั สือ การคงสภาพการรู้หนังสือ การพฒั นา ทักษะการรหู้ นงั สือให้กบั ประชาชนเพือ่ เป็นเคร่ืองมือในการศกึ ษาและเรยี นรู้อย่างต่อเนอ่ื งตลอดชีวติ ของ ประชาชน 1.3 การศกึ ษาตอ่ เนอื่ ง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมงี านทำอย่างย่งั ยนื โดยให้ความสำคญั กับการจดั การศึกษาอาชพี เพื่อการมีงาน ทำในกลมุ่ อาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชพี เฉพาะทางหรอื การ บรกิ าร รวมถงึ การเน้นอาชีพชา่ งพ้นื ฐาน ทส่ี อดคลอ้ งกบั ศักยภาพของผเู้ รียน ความต้องการและศักยภาพของ

11 แต่ละพนื้ ท่ี มีคุณภาพไดม้ าตรฐานเป็นทย่ี อมรับ สอดรับกบั ความต้องการของตลาดแรงงาน และการพฒั นา ประเทศ ตลอดจน สรา้ งความเข้มแข็งใหก้ ับศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชน โดยจดั ใหม้ ีการส่งเสริมการรวมกล่มุ วิสาหกิจ ชมุ ชน การพัฒนา หนึง่ ตำบลหนง่ึ อาชีพเด่น การประกวดสนิ คา้ ดพี รีเมยี่ ม การสร้างแบรนดข์ อง กศน. รวมถึง การส่งเสรมิ และจัดหาช่องทางการจำหน่ายสินคา้ และผลติ ภัณฑ์ และให้มีการกำกบั ตดิ ตาม และรายงานผล การจัดการศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานทำอย่างเปน็ ระบบและตอ่ เน่ือง 2) จดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาทักษะชวี ติ ให้กับทุกกลุ่มเปา้ หมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สงู อายุ ทส่ี อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการจำเป็นของแตล่ ะบุคคล และมงุ่ เนน้ ให้ทกุ กลุ่มเป้าหมายมีทักษะการดำรงชวี ิตตลอดจน สามารถ ประกอบอาชีพพ่ึงพาตนเองได้มคี วามรคู้ วามสามารถในการบรหิ ารจดั การชวี ิตของตนเองใหอ้ ยู่ในสงั คม ได้ อย่างมีความสุขสามารถเผชญิ สถานการณ์ต่างๆ ที่เกดิ ข้นึ ในชีวิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ และ เตรียมพร้อมสำหรับการปรับตวั ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของขา่ วสารข้อมูลและเทคโนโลยสี มัยใหมใ่ นอนาคต โดยจดั กิจกรรมที่มีเน้อื หาสำคัญต่าง ๆ เชน่ การอบรมจติ อาสา การให้ความรู้เพอื่ การป้องการการแพร่ระบาด ของเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19) การอบรมพัฒนาสขุ ภาพกายและสุขภาพจิต การอบรมคุณธรรม และจรยิ ธรรม การป้องกนั ภัยยาเสพตดิ เพศศึกษา การปลูกฝ่ังและการสร้างคา่ นิยมทีพ่ ึงประสงคค์ วาม ปลอดภัย ในชีวิตและทรพั ย์สิน ผา่ นการอบรมเรียนร้ใู นรปู แบบต่าง ๆ อาทิ คา่ ยพัฒนาทักษะชวี ิต การจดั ตั้ง ชมรม/ชุมนุมการอบรมส่งเสริมความสามารถพเิ ศษต่างๆ เป็นต้น 3) จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชมุ ชน โดยใช้หลักสตู รและการจัดกระบวนการเรยี นรู้ แบบบูรณาการใน รปู แบบของการฝึกอบรมการประชมุ สัมมนา การจัดเวทแี ลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ ารจัดกจิ กรรม จิตอาสา การสรา้ ง ชุมชนนกั ปฏบิ ัติ และรปู แบบอืน่ ๆ ทเ่ี หมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบรบิ ทของชุมชน แต่ละพืน้ ที่ เคารพ ความคดิ ของผู้อื่น ยอมรบั ความแตกต่างและหลากหลายทางความคิดและอดุ มการณ์ รวมทง้ั สงั คม พหุ วัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการให้บุคคลรวมกลมุ่ เพื่อแลกเปล่ยี นเรียนร้รู ว่ มกนั สร้างกระบวนการจติ สาธารณะ การสร้างจติ สำนึกความเป็นประชาธิปไตยการเคารพในสทิ ธแิ ละเสรภี าพ และรบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ี ความเปน็ พลเมือง ที่ดีภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์เป็นประมุข การสง่ เสริม คณุ ธรรม จริยธรรม การเปน็ จิตอาสา การบำเพ็ญประโยชน์ในชมุ ชนการ บรหิ ารจดั การน้ำ การรบั มือกบั สา ธารณภยั การอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม การช่วยเหลือซง่ึ กันและกันในการพฒั นา สงั คมและชุมชนอยา่ งย่งั ยนื 4) การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกระบวนการเรียนรู้ตลอดชวี ิต ในรปู แบบ ตา่ งๆ ให้กับประชาชน เพอ่ื เสรมิ สร้างภูมคิ มุ้ กนั สามารถยืนหยดั อยไู่ ด้อยา่ งมนั่ คง และมีการบริหารจดั การ ความเสยี่ งอย่างเหมาะสม ตามทศิ ทางการพฒั นาประเทศสู่ความสมดุลและย่ังยืน 1.4 การศึกษาตามอัธยาศยั 1) พัฒนาแหล่งการเรยี นรทู้ ม่ี ีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมท่เี อ้ือต่อการอา่ นและพัฒนาศกั ยภาพ การเรยี นรู้ ให้เกิดขนึ้ ในสังคมไทย ใหเ้ กดิ ข้ึนอยา่ งกว้างขวางและทว่ั ถึง เช่น การพัฒนา กศน. ตำบล หอ้ งสมุด ประชาชน ทกุ แหง่ ให้มกี ารบริการที่ทันสมยั สง่ เสริมและสนบั สนุนอาสาสมคั รสง่ เสริมการอา่ น การสรา้ งเครือขา่ ย ส่งเสริม การอา่ น จัดหนว่ ยบริการห้องสมดุ เคลือ่ นที่ ห้องสมุดชาวตลาด พรอ้ มหนงั สือและอปุ กรณเ์ พื่อจดั กจิ กรรม

12 ส่งเสริมการอา่ นและการเรียนรทู้ ่หี ลากหลายให้บรกิ ารกบั ประชาชนในพนื้ ที่ต่างๆ อยา่ งท่ัวถงึ สมำ่ เสมอ รวมทั้ง เสรมิ สรา้ งความพรอ้ มในด้านบุคลากร สื่ออุปกรณเ์ พอ่ื สนับสนนุ การอา่ น และการจัดกิจกรรมเพอ่ื สง่ เสริมการอ่าน อยา่ งหลากหลายรปู แบบ 2) จัดสร้างและพัฒนาศนู ยว์ ทิ ยาศาสตรเ์ พื่อการศกึ ษา ใหเ้ ป็นแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตรต์ ลอดชีวิต ของ ประชาชน เปน็ แหล่งสร้างนวัตกรรมฐานวทิ ยาศาสตร์และเป็นแหลง่ ท่องเทย่ี วเชงิ ศลิ ปะวิทยาการประจำ ทอ้ งถิน่ โดยจัดทำและพฒั นานิทรรศการส่ือและกิจกรรมการศึกษาท่ีเนน้ การเสริมสร้างความรูแ้ ละสร้างแรง บันดาลใจ ดา้ นวิทยาศาสตรส์ อดแทรกวิธกี ารคดิ เชงิ วเิ คราะห์ การคดิ เชงิ สร้างสรรค์ และปลกู ฝงั เจตคติทาง วิทยาศาสตร์ ผา่ นการกระบวนการเรียนรูท้ ่บี ูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ควบคู่กบั เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์ รวมท้ังสอดคล้องกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง บรบิ ทของชุมชน และประเทศ รวมทัง้ ระดับภูมิภาค และระดบั โลกเพ่ือใหป้ ระชาชนมคี วามรู้และสามารถนำความรแู้ ละทักษะไป ประยุกตใ์ ชใ้ นการดำเนินชีวิต การพฒั นา อาชีพ การรักษาส่ิงแวดลอ้ ม การบรรเทาและป้องกนั ภยั พิบัติทาง ธรรมชาติ รวมท้งั มีความสามารถในการปรับตัว รองรบั ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลกท่ีเป็นไปอยา่ ง รวดเร็วและรุนแรง (Disruptive Changes) ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 3) ประสานความร่วมมอื หน่วยงาน องค์กร หรอื ภาคส่วนต่างๆ ท่ีมแี หลง่ เรียนรู้อื่น ๆ เพื่อส่งเสรมิ การจดั การ ศึกษาตามอัธยาศยั ใหม้ รี ปู แบบท่ีหลากหลาย และตอบสนองความต้องการของประชาชน เช่น พพิ ิธภณั ฑ์ ศนู ย์ เรียนรู้ แหล่งโบราณคดี วัด ศาสนาสถาน ห้องสมุดรวมถึงภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน เปน็ ต้น 2. ด้านหลักสูตร ส่ือรปู แบบการจัดกระบวนการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผลงานบริการ ทางวชิ าการ และการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา 2.1 ส่งเสริมการพฒั นาหลักสตู ร รปู แบบการจัดกระบวนการเรียนรูแ้ ละกิจกรรมเพื่อสง่ เสริม การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยที่หลากหลาย ทนั สมัย รวมถึงการพฒั นาหลกั สตู รฐานสมรรถนะ และ หลักสูตรท้องถนิ่ ที่สอดคลอ้ งกับสภาพบรบิ ทของพน้ื ที่และความต้องการของกลุม่ เป้าหมายและชมุ ชน 2.2 สง่ เสริมการพฒั นาส่ือแบบเรยี น สื่ออเิ ล็กทรอนิกส์และสอื่ อน่ื ๆ ทเี่ ออ้ื ต่อการเรยี นรขู้ องผูเ้ รยี น กล่มุ เป้าหมายทวั่ ไปและกลมุ่ เปา้ หมายพิเศษ เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นสามารถเรยี นรไู้ ด้ทุกที ทกุ เวลา 2.3 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกลใหม้ ีความทันสมัย หลากหลายชอ่ งทางการเรียนรู้ ด้วยระบบ ห้องเรยี นและการควบคุมการสอบรปู แบบออนไลน์ 2.4 พัฒนาระบบการประเมินเพ่อื เทยี บระดบั การศึกษา และการเทยี บโอนความรู้และประสบการณ์ เพ่อื ใหม้ ี คณุ ภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุม่ เปา้ หมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทงั้ มี การประชาสมั พนั ธใ์ ห้สาธารณชนได้รับรแู้ ละสามารถเข้าถึงระบบการประเมินได้ 2.5 พัฒนาระบบการวดั และประเมนิ ผลการศึกษานอกระบบทกุ หลักสตู ร โดยเฉพาะหลกั สูตร ในระดับ การศึกษาขน้ั พน้ื ฐานให้ไดม้ าตรฐานโดยการนำแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอิเลก็ ทรอนิกส์ (e- Exam) มาใชอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนนุ การศึกษาวจิ ยั เพอ่ื พัฒนาหลกั สูตร รูปแบบการจดั กระบวนการเรยี นรู้ การ วัดและ ประเมนิ ผล และเผยแพรร่ ปู แบบการจัด ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตาม

13 อธั ยาศยั รวมทงั้ ให้มีการนำไปส่กู ารปฏบิ ัติอยา่ งกวา้ งขวางและมีการพัฒนาให้เหมาะสมกบั บรบิ ทอย่าง ต่อเนอ่ื ง 2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน มกี ารพฒั นาระบบการประกัน คุณภาพ ภายในทสี่ อดคล้องกับบริบทและภารกิจของ กศน. มากขึน้ เพ่ือพร้อมรบั การประเมนิ คุณภาพภายนอก โดย พฒั นาบุคลากรใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสำคญั ของระบบการประกันคุณภาพ และสามารถ ดำเนินการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้การประเมนิ ภายในด้วยตนเอง และ จดั ให้มี ระบบสถานศึกษาพ่ีเล้ียงเขา้ ไปสนับสนุนอย่างใกล้ชดิ สำหรบั สถานศกึ ษาท่ยี งั ไม่ได้เข้ารับการประเมนิ คุณภาพ ภายนอก ให้พัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษาใหไ้ ด้คณุ ภาพตามมาตรฐานทก่ี ำหนด 3. ด้านเทคโนโลยเี พ่ือการศกึ ษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทศั น์เพ่ือการศกึ ษาเพ่ือใหเ้ ชื่อมโยงและตอบสนอง ต่อการจัด กิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศกึ ษาเพ่ือกระจายโอกาสทางการศึกษา สำหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ใหม้ ที างเลือกในการเรียนรูท้ ี่หลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพฒั นาตนเองให้ รู้เทา่ ทัน สอื่ และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร เช่น รายการพัฒนาอาชีพเพื่อการมงี านทำ รายการติว เขม้ เตมิ เตม็ ความรู้ รายการ รายการทำกินก็ได้ ทำขายก็ดี ฯลฯ เผยแพรท่ างสถานวี ทิ ยศุ ึกษา สถานีวิทยุ โทรทัศนเ์ พื่อการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทางอนิ เทอรเ์ น็ต 3.2 พัฒนาการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยโดยผ่านระบบ เทคโนโลยดี จิ ิทัล และชอ่ งทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Youtube Facebook หรอื Application อน่ื ๆ เพื่อส่งเสรมิ ให้ครู กศน. นำ เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั มาใช้ในการสรา้ งกระบวนการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พัฒนาสถานีวทิ ยุศึกษาและสถานีโทรทศั น์เพ่ือการศึกษาเพ่ือเพิ่มประสิทธภิ าพการผลติ และการ ออกอากาศใหก้ ลุ่มเป้าหมายสามารถใชเ้ ป็นช่องทางการเรียนรทู้ ่ีมคี ุณภาพไดอ้ ย่างตอ่ เน่ืองตลอดชีวติ โดย ขยายเครือข่ายการรบั ฟังให้สามารถรับฟงั ได้ทกุ ที่ ทุกเวลา ครอบคลุมพน้ื ท่ีทั่วประเทศและเพ่ิมชอ่ งทาง ให้ สามารถรบั ชมรายการโทรทศั นไ์ ดท้ ั้งระบบ Ku -Band C -Band Digital TV และทางอนิ เทอร์เนต็ พร้อมท่ีจะ รองรบั การพฒั นาเปน็ สถานวี ิทยโุ ทรทัศนเ์ พือ่ การศึกษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พฒั นาระบบการให้บริการสอ่ื เทคโนโลยเี พ่ือการศึกษาเพ่อื ให้ได้หลายชอ่ งทางทั้งทาง อินเทอร์เน็ต และ รปู แบบอน่ื ๆอาทAิ pplication บนโทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ี และ Tablet รวมทง้ั สื่อ Offline ในรูปแบบ ต่างๆเพ่อื ให้ กล่มุ เป้าหมายสามารถเลือกใชบ้ ริการเพอ่ื เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ไดต้ ามความต้องการ 3.5 สำรวจ วจิ ยั ติดตามประเมินผลด้านการใช้สื่อเทคโนโลยเี พื่อการศึกษาอยา่ งต่อเน่ืองเพ่อื นำผล มาใชใ้ นการ พัฒนางานให้มคี วามถูกต้อง ทนั สมยั และสามารถส่งเสรมิ การศึกษาและการเรียนรตู้ ลอดชีวติ ของประชาชนได้ อย่างแท้จริง 4. ดา้ นโครงการอันเน่อื งมาจากพระราชดำริ หรอื โครงการอนั เกยี่ วเน่ืองจากราชวงศ์

14 4.1 ส่งเสริมและสนับสนนุ การดำเนนิ งานโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดำริหรอื โครงการ อนั เก่ียวเนื่องจากราชวงศ์ 4.2 จดั ทำฐานขอ้ มูลโครงการและกิจกรรมของ กศน.ทีส่ นองงานโครงการอนั เน่ืองมาจาก พระราชดำรหิ รอื โครงการอันเก่ียวเน่ืองจากราชวงศเ์ พอ่ื นำไปใชใ้ นการวางแผน การติดตามประเมนิ ผลและการ พฒั นางานได้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 4.3 สง่ เสรมิ การสรา้ งเครือขา่ ยการดำเนินงานเพื่อสนบั สนนุ โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดำริ เพือ่ ให้เกดิ ความเขม้ แข็งในการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 4.4 พฒั นาศูนย์การเรียนชมุ ชนชาวไทยภเู ขา “แม่ฟ้าหลวง”เพื่อใหม้ ีความพร้อมในการจัดการศึกษา นอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ตามบทบาทหน้าทีท่ ่กี ำหนดไวอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ 4.5 จดั และส่งเสริมการเรยี นรู้ตลอดชวี ิตให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนบนพน้ื ทสี่ ูง ถนิ่ ทุรกนั ดารและ พ้นื ท่ชี ายขอบ 5. ด้านการศกึ ษาในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ พืน้ ทีเ่ ขตเศรษฐกจิ พเิ ศษและพน้ื ท่ีบริเวณชายแดน 5.1 พัฒนาการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1) จดั และพัฒนาหลักสตู ร และกิจกรรมส่งเสรมิ การศกึ ษาและการเรียนรู้ที่ตอบสนองปญั หา และความต้องการ ของกลุ่มเปา้ หมายรวมทั้งอัตลักษณ์และความเป็นพหวุ ัฒนธรรมของพื้นที่ 2) พัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐานอยา่ งเข้มขน้ และต่อเนือ่ งเพื่อให้ ผเู้ รียน สามารถนำความรู้ทีไ่ ดร้ บั ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดจ้ รงิ 3) ให้หนว่ ยงานและสถานศึกษาจดั ใหม้ ีมาตรการดูแลรกั ษาความปลอดภัยแกบ่ ุคลากรและ นักศึกษา กศน. ตลอดจนผมู้ าใชบ้ ริการอย่างท่ัวถึง 5.2 พฒั นาการจดั การศึกษาแบบบูรณาการในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ 1) ประสานความรว่ มมอื กับหน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้องในการจดั ทำแผนการศึกษาตามยุทธศาสตร์ และบริบทของ แตล่ ะจังหวดั ในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ 2) จดั ทำหลกั สูตรการศกึ ษาตามบริบทของพน้ื ที่ โดยเน้นสาขาที่เปน็ ความตอ้ งการของตลาด ใหเ้ กิดการ พัฒนาอาชีพได้ตรงตามความต้องการของพื้นท่ี 5.3 จดั การศึกษาเพ่อื ความมั่นคงของศูนยฝ์ กึ และพฒั นาอาชพี ราษฎรไทยบรเิ วณชายแดน(ศฝช.) 1) พัฒนาศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน เพอ่ื ให้เป็นศูนย์ฝกึ และสาธติ การประกอบ อาชพี ด้านเกษตรกรรม และศูนย์การเรียนรูต้ น้ แบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดำรปิ รชั ญา เศรษฐกิจ พอเพยี ง สำหรับประชาชนตามแนวชายแดนดว้ ยวิธีการเรยี นรทู้ ีห่ ลากหลาย 2) มุ่งจัดและพฒั นาการศึกษาอาชีพโดยใชว้ ิธีการหลากหลายใชร้ ูปแบบเชงิ รกุ เพื่อการเข้าถงึ กลมุ่ เปา้ หมาย เช่น การจัดมหกรรมอาชีพ การประสานความรว่ มมือกับเครือข่าย การจัดอบรมแกนนำด้านอาชีพ ท่เี น้นเรื่อง เกษตรธรรมชาตทิ ี่สอดคล้องกับบริบทของชุมชนชายแดน ใหแ้ ก่ประชาชนตามแนวชายแดน 6. ด้านบคุ ลากรระบบการบริหารจัดการ และการมสี ว่ นร่วมของทกุ ภาคสว่ น 6.1 การพฒั นาบคุ ลากร

15 1) พฒั นาบุคลากรทุกระดบั ทุกประเภทให้มสี มรรถนะสงู ขนึ้ อย่างต่อเน่ือง ทั้งก่อนและระหวา่ ง การดำรง ตำแหน่งเพื่อใหม้ ีเจตคติท่ีดใี นการปฏบิ ัตงิ านให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตำแหน่ง ใหต้ รงกับสาย งาน ความชำนาญ และความต้องการของบุคลากรสามารถปฏิบตั ิงานและบรหิ ารจดั การการดำเนินงานของ หน่วยงานและ สถานศึกษาได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพรวมท้ังส่งเสริมให้ข้าราชการในสังกดั พัฒนาตนเองเพือ่ เล่ือน ตำแหนง่ หรือเลอ่ื นวิทยฐานะโดยเน้นการประเมนิ วทิ ยฐานะเชิงประจักษ์ 2) พฒั นาศึกษานเิ ทศก์ กศน. ให้มีสมรรถนะทจ่ี ำเปน็ ครบถว้ น มีความเปน็ มืออาชีพ สามารถ ปฏบิ ตั ิการนเิ ทศ ไดอ้ ย่างมีศักยภาพ เพอื่ รว่ มยกระดบั คณุ ภาพการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั ใน สถานศึกษา 3) พัฒนาหัวหน้า กศน.ตำบล/แขวงใหม้ ีสมรรถนะสงู ข้ึน เพ่ือการบริหารจัดการ กศน.ตำบล/แขวง และการ ปฏิบัตงิ านตามบทบาทภารกิจอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยเน้นการเปน็ นกั จดั การความรู้และผูอ้ ำนวย ความ สะดวกในการเรียนรเู้ พ่ือให้ผ้เู รียนเกดิ การเรียนรู้ท่ีมีประสิทธภิ าพอย่างแท้จรงิ 4) พฒั นาครู กศน. และบุคลากรท่เี กยี่ วข้องกบั การจัดการศึกษาให้สามารถจดั รูปแบบการเรยี นรู้ ได้อย่างมี คณุ ภาพโดยสง่ เสริมให้มีความรคู้ วามสามารถในการจดั ทำแผนการสอน การจัดกระบวนการเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล และการวิจยั เบือ้ งตน้ 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากร ทร่ี ับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรยี นรู้ ให้มคี วามรู้ ความสามารถและมี ความเป็นมืออาชีพในการจดั บรกิ ารส่งเสรมิ การเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ ของประชาชน 6) สง่ เสรมิ ให้คณะกรรมการ กศน. ทกุ ระดบั และคณะกรรมการสถานศกึ ษา มสี ่วนร่วมในการ บริหารการ ดำเนนิ งานตามบทบาทภารกิจของ กศน.อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 7) พฒั นาอาสาสมัคร กศน. ให้สามารถทำหนา้ ที่สนับสนุนการจดั การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตาม อัธยาศัยได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 8) พัฒนาสมรรถนะและเสรมิ สร้างความสัมพันธร์ ะหว่างบคุ ลากรรวมท้งั ภาคีเครือข่ายทง้ั ใน และต่างประเทศ ในทกุ ระดับ โดยจัดให้มีกจิ กรรมเพื่อเสริมสรา้ งสัมพันธภาพและเพิ่มประสทิ ธภิ าพในการทำงาน รว่ มกันใน รูปแบบท่ีหลากหลายอยา่ งต่อเน่ืองอาทิ การแข่งขนั กีฬา การอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารพัฒนาประสิทธิภาพ ในการ ทำงาน 6.2 การพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐานและอตั รากำลงั 1) จดั ทำแผนการพฒั นาโครงสร้างพื้นฐานและดำเนินการปรบั ปรุงสถานท่ีและวัสดุอุปกรณใ์ หม้ ี ความพรอ้ มใน การจดั การศกึ ษาและการเรียนรู้ 2) สรรหา บรรจุ แต่งต้ัง และบรหิ ารอตั รากำลังทมี่ ีอยทู่ ง้ั ในส่วนที่เปน็ ข้าราชการ พนักงานราชการ และ ลกู จ้าง ใหเ้ ปน็ ไปตามโครงสร้างการบริหารและกรอบอัตรากำลงั รวมท้งั รองรบั กับบทบาทภารกจิ ตามท่ีกำหนด ไว้ ใหเ้ กิดประสิทธิภาพสูงสดุ ในการปฏิบัตงิ าน

16 3) แสวงหาความรว่ มมือจากภาคเี ครือขา่ ยทุกภาคสว่ นในการระดมทรัพยากรเพื่อนำมาใช้ ในการปรบั ปรงุ โครงสร้างพนื้ ฐานใหม้ ีความพร้อมสำหรบั ดำเนินกจิ กรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย และ การสง่ เสรมิ การเรียนรู้สำหรบั ประชาชน 6.3 การพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมลู ให้มคี วามครบถ้วน ถกู ต้อง ทันสมยั และเช่ือมโยงกนั ท่ัวประเทศ อยา่ งเป็นระบบ เพือ่ ให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนำไปใชเ้ ปน็ เคร่อื งมอื สำคัญในการบริหาร การวางแผน การ ปฏบิ ัติงาน การติดตามประเมินผล รวมทัง้ จัดบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อย่างมี ประสิทธิภาพ 2) เพิ่มประสิทธภิ าพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกำกบั ควบคุม และเร่งรัด การ เบิกจ่ายงบประมาณใหเ้ ปน็ ตามเป้าหมายท่ีกำหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมลู รวมของนักศึกษา กศน. ใหม้ คี วามครบถ้วน ถูกตอ้ ง ทันสมยั และ เชือ่ มโยงกันทั่ว ประเทศ สามารถสืบค้นและสอบทานได้ทันความตอ้ งการเพ่ือประโยชนใ์ นการจดั การศึกษาให้กับ ผู้เรยี นและ การบรหิ ารจดั การอย่างมีประสทิ ธภิ าพ 4) สง่ เสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทกุ ระดบั รวมท้งั การศึกษาวิจัย เพ่ือสามารถ นำมาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนนิ งานทีส่ อดคลอ้ งกบั ความต้องการของประชาชน และชุมชน พรอ้ มทงั้ พฒั นาขีดความสามารถเชิงการแข่งขนั ของหน่วยงานและสถานศึกษา 5) สร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทกุ ภาคส่วน ท้ังภาครฐั เอกชน ประชาสงั คมท้งั ในประเทศ และ ต่างประเทศ รวมทัง้ สง่ เสริมและสนบั สนนุ การมีส่วนรว่ มของชมุ ชนเพ่ือสรา้ งความเขา้ ใจ และให้เกิดความ รว่ มมอื ในการส่งเสรมิ สนบั สนนุ และจดั การศกึ ษาและการเรียนร้ใู หก้ บั ประชาชนอย่างมีคุณภาพ 6) สง่ เสรมิ การใชร้ ะบบสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ (e -office) ในการบริหารจัดการ เชน่ ระบบการ ลา ระบบ สารบรรณอิเลก็ ทรอนิกส์ ระบบการขอใชร้ ถราชการ ระบบการขอใช้หอ้ งประชุม เป็นตน้ 7) พฒั นาและปรับระบบวิธกี ารปฏิบัตริ าชการให้ทนั สมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริต และประพฤติมชิ อบ บรหิ ารจดั การบนข้อมูลและหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ มงุ่ ผลสัมฤทธ์มิ คี วามโปร่งใส 6.4การกำกบั นเิ ทศตดิ ตามประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกำกับ นิเทศ ติดตาม ประเมนิ และรายงานผลการดำเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบ และ การศกึ ษาตามอัธยาศยั ให้เชอ่ื มโยงกบั หน่วยงาน สถานศึกษา และภาคเี ครือข่ายทัง้ ระบบ 2) ให้หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาทเ่ี กีย่ วข้องทกุ ระดับ พฒั นาระบบกลไกการกำกบั ตดิ ตามและ รายงานผลการ นำนโยบายสู่การปฏบิ ตั ิ ให้สามารถตอบสนองการดำเนินงานตามนโยบายในแตล่ ะเร่อื งไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ 3) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสือ่ อน่ื ๆ ที่เหมาะสม เพื่อการกำกับ นเิ ทศ ติดตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลอย่างมีประสิทธิภาพ

17 4) พัฒนากลไกการตดิ ตามประเมนิ ผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏบิ ตั ริ าชการประจำปี ของ หนว่ ยงาน สถานศกึ ษา เพื่อการรายงานผลตามตัวชว้ี ัดในคำรบั รองการปฏิบัติราชการประจำปี ของ สำนักงาน กศน.ให้ดำเนนิ ไปอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ เป็นไปตามเกณฑ์ วิธกี าร และระยะเวลาที่กำหนด 5) ใหม้ กี ารเชอื่ มโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ทัง้ หน่วยงานภายในและภายนอกองคก์ ร ต้งั แต่ ส่วนกลาง ภมู ภิ าค กลุ่มจงั หวดั จงั หวดั อำเภอ/เขต และตำบล/แขวง เพื่อความเปน็ เอกภาพในการใชข้ ้อมลู และการ พัฒนางานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั บทท่ี 3 แผนการบรหิ ารความเส่ยี ง การพิจารณาในการจดั ทำแผนบริหารความเส่ยี ง มกี ารวเิ คราะห์และระบุความเสี่ยงและปจั จัยท่ี กอ่ ใหเ้ กิดความเสี่ยงตามบรบิ ท/บทบาทหนา้ ทข่ี องสถานศกึ ษา ว่าสถานศกึ ษามีแผนการดำเนนิ งานหรือ โครงการ อะไรบา้ ง และมโี ครงการใด ท่ีอาจไมส่ ำเร็จตามวัตถุประสงคข์ องโครงการ มีความเสย่ี งเป็นทีย่ อมรบั ไดห้ รอื ต้องมีการดำเนินการบริหารความเส่ยี ง โครงการตามแผนปฏิบัตงิ านประจำปงี บประมาณ 2564 ประกอบดว้ ย 14 โครงการ คือ 1. โครงการสนับสนุนค่าใชจ้ ่ายในการจดั การศึกษาตั้งแตร่ ะดับอนบุ าลจนจบการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน 2. โครงการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในสถาบันศกึ ษาปอเนาะ 3. โครงการลกู เสอื กศน.ชายแดนใต้ 4. โครงการฝกึ ประสบการณ์การใชภ้ าษาในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ 5. โครงการกฬี า กศน.ชายแดนใต้เกมส์ 6. โครงการการเรียนรู้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 7. โครงการภาษาตา่ งประเทศเพอ่ื การศึกษาด้านอาชีพ

18 8. โครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน 9. โครงการศูนย์ดิจทิ ัลชมุ ชน 10. โครงการการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน 11. โครงการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาทกั ษะชีวิต 12. โครงการการศึกษาตามอัธยาศยั 13. โครงการสง่ เสริมการรู้หนังสือ 14. โครงการการจัดและส่งเสรมิ การจัดการศกึ ษาตลอดชีวิตเพ่ือคงพัฒนาการทางกาย จิตและสมองของ ผ้สู งู อายุ จากโครงการทงั้ 14 โครงการ คณะกรรมการบริหารความเสย่ี งของศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอจะแนะได้ดำเนนิ การพิจารณาคัดเลอื กโครงการที่เป็นโครงการทมี่ คี วามสำคญั มี ความเส่ยี งเกดิ ข้นึ จากการบริหารงาน การดำเนนิ การอาจไม่บรรลุผล ก่อใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ การดำเนนิ การ ตามยุทธศาสตรแ์ ละงบประมาณทวี่ างไว้ ตามหลักเกณฑใ์ นการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพือ่ นำมาพิจารณา บรหิ ารจัดการความเส่ียง โดยมปี จั จยั การพิจารณา 2 ปจั จัย คอื สอดคล้องกับจุดเน้นการดำเนนิ งานและ งบประมาณท่ีได้รับในปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 โดยแบง่ เกณฑ์การพิจารณาในแตล่ ะปจั จัยเป็น 3 ระดบั คือ 1 23 แผนบริหารความเส่ยี ง เพื่อให้มีการวางแผนการบริหารความเสี่ยงไว้ล่วงหน้า ให้เกิดประโยชน์สูงสดุ กบั ทางราชการ และ เปน็ ไปตามวตั ถุประสงค์ทว่ี างไว้ของโครงการ ดังตารางต่อไปน้ี ตารางท่ี 1วิเคราะหค์ วามสอดคล้องกบั ยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละภารกจิ สำนกั งาน กศน.ประจำปงี บประมาณ 2564

19 ตารางที่ 2 การพิจารณาคัดเลือกโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โครงการ งบประมาณทไี่ ด้รับ(บาท) ความสำคัญของโครงการ ที่ โครงการ ยทุ ธ ยทุ ธ ประเด็นที่ ภารกิจ กศน. การศึกษ งานทีเ่ กยี่ งข้อง นโยบาย ศาสตร์ ศาสตร์ เกยี่ วขอ้ งกบั อำเภอ าขัน้ การศกึ ษ การศกึ ษ เรง่ ด่วน หลัก ย่อย สำนักงาน กศน. จะแนะ พื้นฐาน า าตาม ตอ่ เนอื่ ง อธั ยาศัย 1 โครงการจัดและสนับสนุนการ 1 1 1 1✓ ศึกษานอกระบบตั้งแต่อนุบาล 3 1,2,3 (1.1,1.2,1.3,1.4) (1.1,1.2,1.3,1.4) จนจบการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน 3 (3.3,3.5,3.7) 3 (3.3,3.5,3.7) 4 (4.3) 4 (4.3) 2 โครงการจดั การศกึ ษาตลอด 1 2 1 (1.4) 1 (1.4) ✓ ชวี ติ ในสถาบันศึกษาปอเนาะ 3 โครงการลกู เสือ กศน.ชายแดน 1 2 1 (1.4) 1 (1.4) ✓ ใต้ 4 โครงการฝึกประสบการณ์การ 3 4 3 (3.8) 3 (3.8) ✓ ใชภ้ าษาจงั หวดั ชายแดนใต้ 5 โครงการกีฬา กศน.ชายแดน 3 7 3 (3.10) 3 (3.10) ✓ ใตเ้ กมส์ 6 โค รงการก ารเรีย น รู้ห ลั ก 1 1 1 (1.1) 1 (1.1) ✓ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 21 7 โครงการภาษาต่างประเทศเพื่อ 1 2 3 (3.8) 3 (3.8) ✓ การส่ือสารดา้ นอาชพี 8 โครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน 3 2,4 2 (2.1) 2 (2.1) ✓ 3 (3.2) 3 (3.2) 9 โครงการศูนยด์ ิจิทลั ชมุ ชน 42 2 (2.3) 2 (2.3) ✓ 3 (3.1,3.5,3.6) 3 (3.1,3.5,3.6) 10 โครงการการศึกษาเพื่อพัฒนา 3 1,2,5,6 1 (1.3,1.4) 1 (1.3,1.4) ✓ สังคมและชุมชน 3 (3.4) 3 (3.4) 11 โครงการการศึกษาเพื่อพัฒนา 3 1,2,5,6 1 (1.4) 1 (1.4) ✓ ทกั ษะชวี ติ 3 (3.4) 3 (3.4) 12 โครงการจัดการศึกษาตาม 3 2,3 3 (3.5) 3 (3.5) ✓ อัธยาศัย 44 13 โครงการส่งเสรมิ การรูห้ นังสอื 1 1,2 1 (1.2,1.4) 1 (1.2,1.4) ✓ 14 โครงการการจัดและส่งเสริม 3 3.2 4 3(3.2) ✓ การจัดการศึกษาตลอดชีวิต 4 4.3 1 4(4.3) เพื่อคงพัฒนาการทางกาย จิต และสมองของผ้สู ูงอายุ

20 1โครงการจัดและสนับสนนุ การ ศึกษานอกระบบ 1,452,900 มีผลกระทบสงู ตัง้ แต่อนุบาลจนจบการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน 2.โครงการจดั การศกึ ษาตลอดชวี ติ ในสถาบัน 65,410 มีผลกระทบน้อย ศึกษาปอเนาะ 3.โครงการลกู เสอื กศน.ชายแดนใต้ 73,040 มีผลกระทบน้อย มีผลกระทบปานกลาง 4.โครงการฝึกประสบการณ์การใชภ้ าษาจงั หวัด 100,560 ชายแดนใต้ 5โครงการกีฬา กศน.ชายแดนใต้เกมส์ 20,000 มผี ลกระทบน้อย มผี ลกระทบน้อย 6โครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจ 13,600 พอเพยี ง 7.โครงการภาษาต่างประเทศเพอื่ การสอ่ื สารดา้ น 28,800 มผี ลกระทบน้อย อาชพี 161,100 มผี ลกระทบปานกลาง 8.โครงการศูนย์ฝึกอาชพี ชุมชน มผี ลกระทบน้อย มผี ลกระทบน้อย 9.โครงการศนู ยด์ ิจทิ ัลชมุ ชน 26,400 10.โครงการการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและ 36,800 ชุมชน 11.โครงการการศกึ ษาเพ่ือพฒั นาทักษะชวี ติ 16,675 มีผลกระทบน้อย มผี ลกระทบน้อย 12.โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศยั มีผลกระทบน้อย มผี ลกระทบน้อย 13.โครงการส่งเสรมิ การร้หู นงั สือ 89,650 14.โครงการการจัดและส่งเสริมการจดั การศึกษา 4,200

21 ตลอดชีวิตเพื่อคงพัฒนาการทางกาย จิตและ สมองของผ้สู ูงอายุ เกณฑ์การพจิ ารณา 0 – 3 คะแนน มผี ลกระทบต่ำ 4 – 5 คะแนน มผี ลกระทบปานกลาง 6 – 9 คะแนน มผี ลกระทบสงู โครงการท่ีคัดเลือกมาบรหิ ารความเสี่ยง คอื โครงการสนบั สนนุ ค่าใชจ้ า่ ยในการจดั การศึกษาตง้ั แต่ ระดบั อนบุ าลจนจบการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน ตารางท่ี 3 การระบุความเสี่ยง ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ การเร่งปฏิรูปการดำเนนิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โครงการ สนับสนุนคา่ ใช้จ่ายในการจดั การศึกษาต้ังแต่ระดบั อนบุ าลจน จบการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน กจิ กรรม ประสิทธิผล ประสิทธิภา มติ ิธรรมาภิบาลท่ีเกี่ยวข้อง กระจาย นติ ิ เสมอ พ ตอบสนอง รับผิดชอบ โปร่งใส มสี ว่ น อำนาจ ธรรม ภาค ประชุม วางแผน ร่วม มกี าร หากการทำ การ กระจาย การ ไมบ่ รรลุตาม หน้าที่มี ทบทวน การ พัฒนา วตั ถปุ ระสงค์ ภาระงาน ปรบั พัฒนา บุคลากร ท่ีวางไว้ได้ มากการ บทบาท ตอบสนอง หนา้ ท่ีต้อง อยา่ งแทจ้ รงิ ในการ รบั ภาระ ทำงานย่อม มากเพราะ มนี อ้ ย คนน้อย อาจเป็นการ พฒั นาท่ีไม่ เอ้อื กบั ปัญหาที่

22 บุคลากร ประสบได้ อยา่ งแทจ้ ริง ตารางท่ี 4 การระบคุ วามเสี่ยง ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ การเรง่ รดั การกระจายโอกาสทางการศกึ ษา ใหส้ ามารถเขา้ ถึงประชาชนท่ี อยูน่ อกระบบโรงเรียนอย่างทั่วถงึ โครงการ สนบั สนนุ ค่าใชจ้ ่ายในการจัดการศกึ ษาต้งั แต่ระดับอนุบาลจน จบการศึกษาข้นั พื้นฐาน มติ ธิ รรมาภิบาลทีเ่ กี่ยวข้อง ประสทิ ธผิ ล ประสทิ ธิภา ตอบสนอ รับผิดชอ โปรง่ ใ มี กระจา นติ ิ เสม กิจกรรม พ ง บ ส สว่ ย ธรร อ น อำนาจ ม ภาค รว่ ม จัดซื้อ ไมส่ ามารถ หนงั สอื จัดซือ้ ไดใ้ ห้ เรยี น ครบจำนวน ผู้เรียน พฒั นา อาจไม่ คุณภาพ ตอบสนอ ผูเ้ รยี น งตาม ความ ต้องการ ของ ผเู้ รยี น ค่าจัดการ สิ่งของที่ เรียนการ จัดซอ้ื ไม่ สอน บรรลผุ ล สำเร็จตาม

23 วตั ถุประสง คท์ ่วี างไว้ นิเทศ ไม่ ตดิ ตาม สามารถ ประเมนิ ผ ติดตามได้ ล ครบทุก โครงการ ตารางท่ี 5 หลกั เกณฑ์การให้คะแนนความรุนแรงของผลกระทบและโอกาสท่ีจะเกดิ ความเสยี หาย ประเด็น/องค์ประกอบท่ี ระดับคะแนน พิจารณา 1=น้อยมาก 2=น้อย 3=ปานกลาง 4=สูง 5=สงู มาก ความรนุ แรงของผลกระทบ c มลู ค่าความเสียหาย c1 10,000บาท 1-5หม่ืน 5หม่ืน-2.5 2.5แสน-10 10ลา้ น บาท แสนบาท ล้านบาท บาท อันตรายต่อชวี ิต c2 รำคาญ บาดเจ็บ บาดเจ็บต้อง บาดเจ็บ อนั ตรายถงึ เลก็ น้อย รักษา สาหสั ชีวติ หรอื ระดบั ความปลอดภัย นอ้ ยมาก น้อย ปานกลาง สูง สงู มาก ผลกระทบต่อภาพลกั ษณ์ นอ้ ยมาก นอ้ ย ปานกลาง สูง สูงมาก หนว่ ยงาน c3.1 ผลสำหรับความพงึ พอใจc3.2 80 60- 40-60 20-40 ≤20 80 ขา่ วสารจากในเชงิ ลบ c3.3 1ขา่ ว/เดอื น 2ข่าว/ 3ข่าว/เดอื น 4ขา่ ว/เดือน ≥4ขา่ ว/ เดือน เดอื น ผูไ้ ด้รบั ผลกระทบ c4 กระทบ กระทบ กระทบ กระทบ กระทบ ผู้เก่ียวข้อง ผู้เก่ียวข้อง ผู้เก่ียวขอ้ ง ทง้ั หมดและ ทัง้ หมดและ บางราย สว่ นใหญ่ ท้งั หมด ผูอ้ ่นื ผอู้ ่ืนมาก บางสว่ น

24 จำนวนผรู้ ้องเรียน(ตอ่ เดือน) c5 1ราย 1-2 ราย 3-5 ราย 5-6 ราย 7รายข้ึนไป โอกาสทจี่ ะเกิดความเสยี หาย l มอี ยา่ งหนึง่ ไมม่ ีและไม่ ไมป่ ฏบิ ตั ิ ปฏิบตั ิ ระเบยี บและค่มู ือปฏิบัติ l1 มี 2 อย่าง มีอยา่ งหนึ่ง มี 2 อยา่ ง ทุก 3 เดอื น ทกุ 6 เดอื น ปฏิบัตติ าม ปฏบิ ัติตาม แต่ไมป่ ฏบิ ตั ิ ทกุ 1 ปี มากกว่า 1ปี 1-6เดอื น 1เดอื น การควบคมุ ติดตาม l2 ทุกสปั ดาห์ ทกุ 2 ทกุ 1 เดือน สงู เกิดแน่นอน 2ป/ี ครงั้ 1ป/ี ครง้ั สปั ดาห์ การอบรม/สอนงาน/ทบทวน l3 ทกุ เดือน ทุก 3 เดอื น ทุก 6 เดอื น ความถี่เกิดข้อผิดพลาด/ครั้ง l4 5ป/ี คร้ัง 2-3 ปี/ครั้ง 1ปี/คร้ัง โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ l5 น้อยทส่ี ดุ นอ้ ย ปานกลาง ความถีใ่ นการเปล่ียนแปลง l6 5ปี/ครง้ั 4ปี/ครง้ั 3ปี/ครัง้ หมายเหตุ คา่ c1 และ l4 ปรับตามเกณฑข์ อง สตง.แลว้ ตารางท่ี 6 การจัดการความเสี่ยง โครงการ สนับสนนุ คา่ ใชจ้ ่ายในการจดั การศกึ ษาตงั้ แต่ระดบั อนุบาลจน จบการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน ประเภท ระดบั กลยทุ ธ์ทใี่ ช้ แนวทาง จดั การ ของความ กิจกรรม ปจั จัยเสีย่ ง โอกาส ผลกระทบ ความ จดั การความ ความเส่ยี ง เส่ียง เสย่ี ง เส่ยี ง ด้านการ 1.ประชุม ภาระงานของ 5 2 10 ยอมรบั ความ นำไปใช้ วางแผน แต่ละคนมาก เสย่ี ง และกฏ เกินไป ระเบยี บ 2.การ ไม่สามารถนำ 4 3 12 ยอมรับความ พฒั นา กลบั มา เสยี่ ง บคุ ลากร ประยกุ ตใ์ ช้ให้

3.จัดซื้อ เกิดคณุ ภาพได้ 5 4 25 หนงั สอื ซือ้ ไมค่ รบ 3 3 เรียน จำนวนผู้เรยี น 5 4 20 ลดความ ศึกษา และอาจผิด เสีย่ ง ระเบยี บ/ 4.พฒั นา ระเบยี บ คู่มอื ปฏิบตั ิ คุณภาพ จัดไมต่ รงต่อ ใหช้ ัดเจน ผเู้ รยี น ความต้องการ 5.ค่า ของผเู้ รยี น 9 ยอมรบั ความ จดั การ วสั ดุที่ซือ้ ใช้ ไม่ เส่ียง เรียนการ คุ้มคา่ กบั ความ สอน ต้องการ 20 ลดความ สำรวจ เสีย่ ง ความ 6.การ ไม่ได้ตดิ ตาม 3 2 ต้องการ นเิ ทศ ตอ่ เน่อื ง และศึกษา ติดตามผล ระเบยี บ วธิ ีการ 6 ยอมรับความ เสี่ยง กลยทุ ธ์ในการจดั การความเส่ียง 1. Take (การยอมรบั ) หมายถึง ยอมรบั ความเสย่ี งที่เกดิ จากการปฏบิ ตั งิ านและภายใตร้ ะดับความเส่ยี งที่ องค์กรสามารถยอมรบั ได้ 2. Treat (การลด) หมายถงึ การดำเนินการเพ่ิมเตมิ เพื่อลดโอกาสเกดิ หรือผลกระทบของความเสี่ยงใหอ้ ยู่ใน ระดับทีย่ อมรับได้ 3. Terminate (การหลกี เลีย่ ง) หมายถงึ การดำเนินการเพื่อยกเลกิ หรือหลกี เลย่ี งกิจกรรมที่ก่อใหเ้ กิดความ เสย่ี ง ทั้งน้ีหากทำการใชก้ ลยุทธ์นี้ อาจตอ้ งทาการพิจารณาวตั ถุประสงค์วา่ สามารถบรรลุไดห้ รอื ไม่เพอื่ ทำการ ปรับเปลีย่ นตอ่ ไป 4. Transfer (การร่วมจดั การ) หมายถงึ การรว่ มจดั การโดยแบง่ ความเสี่ยงบางส่วนกบั บคุ คลหรอื องค์กรอื่น เกณฑ์การแบ่งความเสีย่ ง มีดังนี้ 1. ระดบั ความเสีย่ งต่ำ (Low) คะแนนระดับความเส่ยี ง < หรอื = 3 คะแนน หมายถึง ระดับท่ียอมรับไดโ้ ดยไม่ ต้องควบคุมความเสีย่ ง ไม่ต้องมีการจดั การเพ่มิ เติม 2. ระดับความเสย่ี งปานกลาง (Medium) คะแนนระดับความเสี่ยง 4 – 9 คะแนน หมายถึง ระดับท่ีพอยอมรบั ได้ แต่ต้องมีการควบคุมเพื่อป้องกนั ไมใ่ ห้ความเส่ยี งเคลื่อนย้ายไปยงั ระดบั ที่รบั ไมไ่ ด้

26 3. ระดับความเส่ียงสูง (High) คะแนนระดับความเสีย่ ง 10 – 16 คะแนน หมายถงึ ระดบั ท่ีไมส่ ามารถยอมรบั ได้ โดยต้องจดั การความเสย่ี งเพอ่ื ให้อยใู่ นระดบั ท่รี บั ได้ 4. ระดบั ความเสย่ี งสูงมาก (Extreme) คะแนนระดบั ความเสีย่ ง 17 – 25 คะแนน หมายถงึ ระดบั ท่ีไม่สามารถ ยอมรับได้ จำเป็นตอ้ งเร่งจดั การความเสีย่ งให้อยรู่ ะดบั ทย่ี อมรับได้ทนั ที สำนักงาน กศน. จะพจิ ารณาคดั เลือกความเส่ียงท่ีอยูใ่ นระดับสงู – สงู มาก (คะแนนระดับความเสี่ยง ตง้ั แต่ 16 คะแนนขึ้นไป) เพ่ือนามาจดั ทำแผนบริหารความเส่ยี ง โดยความเสย่ี งท่มี ีระดบั ความเสยี่ งตำ่ กว่า 16 ถอื ว่ามีความเส่ยี งค่อนขา้ งตำ่ ไมน่ ำมาดำเนนิ การจัดการความเสยี่ งในแผนบริหารความเส่ียง ในทีน่ ี้ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอจะแนะ ไดค้ ัดเลือกความเสีย่ งที่อยู่ ในระดบั สูงมาก คือ การจดั ซื้อหนงั สอื เรยี นและค่าจัดการเรียนการสอน ตารางที่ 7 การจดั ทำแผนบริหารความเส่ียงของโครงการ สนับสนุนค่าใชจ้ ่ายในการจดั การศกึ ษาตงั้ แต่ระดับ อนุบาลจนจบการศึกษาขนั้ พื้นฐาน เปา้ หมาย/ผลสำเรจ็ กจิ กรรมตามแนว ของการดำเนนิ การ ประเดน็ ความเส่ียง ทางการจัดการ กจิ กรรมตามแนว ระยะเวลา ผรู้ บั ผดิ ชอบ ความเส่ยี ง ทางการจดั การ ความเสย่ี ง ซือ้ หนงั สอื ไม่ครบ ศกึ ษาระเบียบ/คูม่ ือ การจดั ซอื้ เปน็ ไป เดือนเมษายน – เจา้ หน้าทงี่ าน จำนวนผ้เู รียนและ ปฏิบตั ใิ ห้ชัดเจน ตามการสำรวจ เดือนพฤษภาคม การศกึ ษาข้นั อาจผดิ ระเบียบ รายการหนงั สือ 2564 พ้ืนฐาน เรียน เจา้ หนา้ ท่พี ัสดุ วสั ดุท่ซี ือ้ ไม่คุ้มค่า สำรวจความ มกี ารติดตามการใช้ เดอื นเมษายน- เจ้าหน้าท่ีพสั ดุและ กับการจัดซ้ือ ต้องการอย่าง วัสดุ เดือนกันยายน เจา้ ของโครงการ แท้จริง พร้อมทงั้ 2564 ศกึ ษาระเบยี บ วธิ ีการ ตารางที่ 8 ข้อมลู และการสื่อสารด้านการบรหิ ารความเสี่ยง ข้อมูลที่ต้องการ ชอ่ งทางการส่อื สาร กลมุ่ เป้าหมาย 1. แผนบรหิ ารความเสีย่ ง 1. ประชมุ ช้แี จง 1. เจา้ หน้าทพี่ สั ดุ

27 2. บันทึกข้อความรายงานผล 2. ประชาสัมพนั ธใ์ ห้ทุกคน 2. บคุ ลากรทุกคน การดำเนินการ ทราบวธิ ีการปฏิบตั ิ 3. รายงานสรุปผลการ ดำเนนิ งานตามแผน บริหารความเสี่ยง ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอจะแนะ จะปฏิบตั ิตามแผนบรหิ ารความ เส่ียงดังตารางที่ 7 พรอ้ มทัง้ จะมีการรายงานผลต่อผู้อำนวยการศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั อำเภอจะแนะ ให้ทราบอย่างต่อเน่ือง และถูกต้องตามระเบียบวิธกี าร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook