Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ดาราศาสตร์ เอกภพ

ดาราศาสตร์ เอกภพ

Published by Benz Camshar, 2021-02-03 02:49:49

Description: ดาราศาสตร์ เอกภพ

Search

Read the Text Version

ดาราศาสตร์ เอกภพ ª¹éÑ Á¸Ñ ÂÁÈÖ¡ÉÒ»·‚ èÕ 4

´ÒÃÒÈÒʵÏ ดาราศาสตร์ คือวชิ าวทิ ยาศาสตรท์ ีศึกษาวตั ถใุ นท้องฟา (อาทิ ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ ดาวหาง และดาราจกั ร) รวมทังปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่าง ๆ ทีเกิดขนึ นอกชนั บรรยากาศของโลก โดยศึกษาเกียวกับววิ ฒั นาการ ลักษณะทางกายภาพ ทางเคมี ทางอุตนุ ิยมวทิ ยา และการเคลือนทีของวตั ถทุ ้องฟา ตลอดจนถึงการกําเนิดและ ววิ ฒั นาการของเอกภพ

àÍ¡À¾ เอกภพหรอื จกั รวาล (อังกฤษ: Universe) โดยทัวไปนิยามวา่ เปนผลรวมของการ ดาํ รงอยู่ รวมทังดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ ดาราจกั ร สงิ ทีบรรจุอยูใ่ นอวกาศระหวา่ งดารา จกั ร และสสารและพลังงานทังหมด การสงั เกตเอกภพทางวทิ ยาศาสตร์ ซงึ เชอื กันวา่ มเี สน้ ผ่านศูนยก์ ลาง 93,000 ล้าน ปแสง นาํ ไปสอู่ นุมานขนั แรกเรมิ ของเอกภพ การสงั เกตเหล่านีแนะวา่ เอกภพถกู ควบคมุ ด้วยกฎทางฟสกิ สแ์ ละค่าคงทีเดียวกันตลอดขนาดและประวตั ิ ศาสตรส์ ว่ น ใหญ่ ทฤษฎีบกิ แบงเปน แบบจาํ ลองจกั รวาลวทิ ยาทัวไปซงึ อธบิ ายพฒั นาการแรกเรมิ ของเอกภพ ซงึ ในจกั รวาลวทิ ยากายภาพเชอื วา่ เกิดขนึ เมอื ราว 13,700 ล้านปก่อน

ºÔ¡áº§ บกิ แบงเปนทฤษฎีทีอธบิ ายถึงการระเบดิ ใหญ่ทีทําให้ พลังงานสว่ นหนึงเปลียนเปนเนือสาร มวี วิ ฒั นาการ ต่อเนืองจนเกิดเปนกาแล็กซี เนบวิ ลา ดาวฤกษ์ ระบบ สรุ ยิ ะ โลก ดวงจนั ทร์ มนุษย์ และสงิ มชี วี ติ ต่างๆ

¡ÒáÅç¡«èÕ กาแล็กซี คืออาณาจกั รหรอื ระบบของดาวฤกษ์ จาํ นวนนับแสนล้านดวง อยูร่ วมกัน ด้วยแรงโน้มถ่วง ระหวา่ งดวงดาวกับหลมุ ดาํ ทีมมี วลมหาศาล ซงึ อยู่ ณ ศูนยก์ ลางของกาแล็กซี โดยมเี นบวิ ลาเปนกล่มุ แก๊ส และฝุนละออง ทีเกาะกล่มุ อยูใ่ นทีวา่ งบางแหง่ ระหวา่ ง ดาวฤกษ์ ระบบสรุ ยิ ะสงั กัดอยู่ กาแล็กซที างชา้ งเผือก

GALAXY นักวทิ ยาศาสตร์ ได้จาํ แนกกาแล็กซอี อกเปน 2 ประเภทใหญ่ ดังนี 1. กาแล็กซปี กติ (regular galaxy) เปนกาแล็กซที ีมรี ูปแบบ แบง่ ออกเปน 3 กล่มุ ได้แก่ 1.1 กาแล็กซรี ี (elliptical galaxy) มรี ูปรา่ งแบบกลมรี ซงึ บางกาแล็กซอี าจกลมมาก บางกาแล็กซอี าจรมี าก นักดาราศาสตรใ์ ห้ ความเหน็ วา่ กาแล็กซปี ระเภทนีจะมรี ูปแบบกลมรมี ากน้อยเพยี งใดนันขนึ อยูก่ ับอัตราการหมุนของกาแล็กซี ถ้าหมุนเรว็ กาแล็กซจี ะ มรี ูปแบบยาวรมี าก 1.2 กาแล็กซกี ังหนั (spiral galaxy) มรี ูปรา่ งคล้ายกังหนั อัตราการหมุนของกาแล็กซกี ังหนั นีจะเรว็ กวา่ อัตราการหมุนของ กาแล็กซรี ี บางกาแล็กซจี ะมคี าน เรยี กวา่ กาแล็กซกี ังหนั มคี าน (barred spiral galaxy) เชน่ กาแล็กซที างชา้ งเผือก 1.3 กาแล็กซลี กู สะบา้ (lenticular galaxy) มรี ูปรา่ งคล้ายเลนสน์ ูน 2. กาแล็กซไี รร้ ูปทรง (Irregular galaxy ) เปนกาแล็กซที ีไมม่ รี ูปรา่ งทีแน่นอน หรอื เรยี กวา่ กาแล็กซอี สณั ฐาน มกั จะเปน กาแล็กซขี นาดเล็ก

๺ÔÇÅÒ หลากหลายความสวยงามทีปรากฏอยูบ่ นท้องฟาทีไกลสดุ ลกู หลู กู ตาอยา่ ง อวกาศ “เนบวิ ลา” (Nebula) เปนอีกหนึงวตั ถทุ ีเรยี กได้วา่ มคี วามสวยงาม ไมแ่ พว้ ตั ถอุ ืน ๆ ในอวกาศ เนบวิ ลาหรอื กล่มุ ฝุน แก๊ส และพลาสมาในอวกาศ ทีอยูร่ วมตัวกันจะมลี ักษณะเปนก้อนหมอกเมฆขนาดใหญ่ ปะปนอยูใ่ นกล่มุ ดวงดาวทีเปรง่ แสงสสี วยงาม มชี อื เรยี กอีกอยา่ งหนึงวา่ “หมอกเพลิง”

๺ÇÔ ÅÒÊÇҋ § มี 2 ชนิดคือ เนบวิ ลาสะท้อนแสง (Reflection nebula) หรอื เรยี กอีกอยา่ งวา่ ซงึ เกิดจากการก ระเจงิ ของแสงจากดาวฤกษ์ใกล้เคียง แสงจะมลี ักษณะสฟี าหรอื สนี าํ เงิน สว่ นอีกชนิดคือ เนบวิ ลา เปล่งแสง (Emission nebula) ซงึ เกิดจากการกระต้นุ ด้วยรงั สอี ัลตราไวโอเลตจากดาวขา้ ง เคียง โดยจะเปล่งแสงในชว่ งคลืนทีเฉพาะตัวตามธาตอุ งค์ประกอบของเนบวิ ลา ทําใหม้ สี ตี ่าง ๆ กัน ตัวอยา่ งเชน่ เนบวิ ลาเรอื งแสงออกมาเปนสแี ดงจากแก๊สไฮโดรเจน หรอื บางครงั เปนสเี ขยี ว จากแก๊สออกซเิ จน บางครงั อาจมสี อี ืนซงึ เกิดจากอะตอม หรอื โมเลกลุ อืน ๆ ก็ได้

๺ÇÔ ÅÒÁ×´ เปนแก๊สและฝุน ทีจบั ตัวบดบงั และดดู กลืนแสงของดาวฤกษ์ จงึ ทําใหม้ องเหน็ เปนบรเิ วณสดี าํ เราจะสามารถสงั เกตเหน็ เนบวิ ลามดื ได้เมอื มเี นบวิ ลาสวา่ ง หรอื ดาวฤกษ์จาํ นวนมากเปนฉากหลัง ตัวอยา่ งเนบวิ ลามดื ได้แก่ เนบวิ ลามดื รูปหวั มา้ ในกล่มุ ดาวนายพราน และ เนบวิ ลารูปถงุ ถ่านหนิ ในกล่มุ ดาวกางเขนใต้ และในความเปนจรงิ แล้ว เนบวิ ลาสวา่ ง เนบวิ ลาสะท้อนแสง และ เนบวิ ลามดื ก็เปนเพยี งมุมมองทีเปนปรากฎการณ์จากโลกเท่านัน

ระบบสรุ ยิ ะ คือ ระบบดาวทีมดี าวฤกษ์เปนศูนยก์ ลาง และมดี าวเคราะห์ (Planet) เปนบรวิ ารโคจรอยูโ่ ดยรอบ เมอื สภาพแวดล้อมเอืออํานวยต่อการดาํ รงชวี ติ สงิ มี ชวี ติ ก็จะเกิดขนึ บนดาวเคราะหเ์ หล่านัน

´Ç§ÍÒ·µÔ  ดวงอาทิตย์ (The Sun) เปนดาวฤกษ์ซงึ มมี วลรอ้ ยละ 99 ของ ระบบสรุ ยิ ะ จงึ ทําใหอ้ วกาศ โค้งเกิดเปนศูนยก์ ลางของแรงโน้มถ่วง โดยมดี าวเคราะหแ์ ละบรวิ ารทังหลายโคจรล้อมรอบ ดวงอาทิตยม์ อี งค์ประกอบหลักเปนไฮโดรเจนซงึ เปนก๊าซอยูใ่ นสถานะพลาสมา ( ก๊าซทีมี อุณหภมู สิ งู มาก จนประจุหลดุ ออกมา )

´ÒǾظ ดาวพุธ เปนดาวเคราะหท์ ีอยูใ่ กล้ดวงอาทิตยม์ ากทีสดุ ไมม่ ดี าวบรวิ าร และเปนดาวเคราะหท์ ี เล็กทีสดุ ในระบบสรุ ยิ ะ และด้วยความทีมนั เปนดาวทีมขี นาดเล็ก (เสน้ ผ่านศูนยก์ ลางประมาณ 4,878 กิโลเมตร) จงึ ทําใหม้ นั ไมส่ ามารถสรา้ งสนามโน้มถ่วงทีมพี ลังมากพอทีจะดึงดดู และ กักเก็บ บรรยากาศได้ ดาวพุธจงึ มแี รงโน้มถ่วงน้อยมาก และไมม่ บี รรยากาศ ทําใหว้ ตั ถุ อวกาศพุง่ ชนได้ง่าย พนื ผิวดาวจงึ ขรุขระจากการพุง่ ชนเหล่านัน

´ÒÇÈØ¡Ã ดาวศุกร์ เปนดาวเคราะหเ์ พอื นบา้ นทีอยูใ่ กล้โลกมากทีสดุ ไมม่ ดี วงจนั ทรเ์ ปนดาวบรวิ าร มี ขนาดเล็กกวา่ แต่ก็ใกล้เคียงกับโลกมาก จนได้ชอื วา่ เปนฝาแฝดกับโลก เราสามารถสงั เกต เหน็ ดาวศุกรไ์ ด้ด้วยตาเปล่า โดยสามารถมองเหน็ ได้ทางขอบฟาด้านทิศตะวนั ตกในเวลาใกล้ คํา เราเรยี กวา่ ดาวประจาํ เมอื ง (Evening Star) สว่ นชว่ งเชา้ มดื ปรากฏใหเ้ หน็ ทางขอบฟา ด้านทิศตะวนั ออกเรยี กวา่ ดาวรุง่ (Morning Star) เรามกั สงั เกตเหน็ ดาวศุกรม์ แี สงสอ่ ง สวา่ งมากเนืองจาก ดาวศุกรม์ ชี นั บรรยากาศทีประกอบไปด้วยก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ มผี ล ทําใหอ้ ุณหภมู พิ นื ผิวสงู ขนึ

´ÒÇâÅ¡ โลก เปนดาวเคราะหด์ วงเดียวทีมสี งิ มชี วี ติ อาศัยอยู่ เนืองจากมชี นั บรรยากาศและมรี ะยะหา่ ง จากดวงอาทิตยท์ ีเหมาะสมต่อการเจรญิ เติบโตและการดาํ รงชวี ติ ของสงิ มชี วี ติ นัก ดาราศาสตรอ์ ธบิ ายเกียวกับการเกิดโลกวา่ โลกเกิดจากการรวมตัวของกล่มุ ก๊าซ และมกี าร เคลือนทีสลับซบั ซอ้ นมาก แต่มพี นื ผิวเปนหนิ เชน่ เดียวกับ ดาวเคราะหช์ นั ในดวงอืน ๆ ทังนี โลกมดี วงจนั ทรเ์ ปนบรวิ าร โคจรอยูร่ อบโลกเพยี งดวงเดียว มขี นาดเสน้ ผ่าศูนยก์ ลาง 3,476 กิโลเมตร หรอื ประมาณ 1 ใน 4 ของเสน้ ผ่าศูนยก์ ลางโลก และโคจรอยูห่ า่ งจากโลก โดยเฉลียประมาณ 384,400 กิโลเมตร และโคจรรอบโลกในระยะเวลาประมาณ 29.5 วนั เปนดวงจนั ทรเ์ ปนดาวดวงเดียวทีมนุษยเ์ ดินทางไปสาํ รวจ โดยการนาํ ตัวอยา่ งดินและหนิ จากดวงจนั ทรก์ ลับมาตรวจวเิ คราะหบ์ นโลก

´ÒÇ꤄ ¤Òà ดาวอังคาร มขี นาดเล็กกวา่ โลก เสน้ ผ่านศูนยก์ ลางราว 6,794 กิโลเมตร พนื ผิวดาวอังคาร มปี รากฏการณ์เมฆและพายุฝุนเสมอ เปนทีน่าสนใจในการศึกษาของนักวทิ ยาศาสตรเ์ ปน อยา่ งมากเนืองจากมลี ักษณะและองค์ประกอบ ทีใกล้เคียงกับโลก เชน่ มรี ะยะเวลาในการ หมุนรอบตัวเอง 1 วนั เท่ากับ 24.6 ชวั โมง และระยะเวลาใน 1 ป เมอื เทียบกับโลกเท่ากับ 1.9 มกี ารเอียงของแกน 25 องศา ดาวอังคารมดี วงจนั ทรเ์ ปนบรวิ าร 2 ดวง และมอี ุณหภมู ิ พนื ผิวค่อนขา้ งเยน็ อยูท่ ีประมาณ -65 องศาเซลเซยี ส

´ÒǾÄËÊÑ º´Õ ดาวพฤหสั บดี เปนดาวเคราะหท์ ีใหญ่ทีสดุ ในระบบสรุ ยิ ะจกั รวาล มขี นาดเสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง ยาวกวา่ โลก 11 เท่า หมุนรอบตัวเอง 1 รอบใชเ้ วลา 9.8 ชวั โมง ซงึ เรว็ ทีสดุ ในบรรดาดาว เคราะหท์ ังหลาย และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใชเ้ วลา 12 ป นักดาราศาสตรอ์ ธบิ ายวา่ ดาวพฤหสั เปนกล่มุ ก้อนก๊าซหรอื ของเหลวขนาดใหญ่ ทีไมม่ สี ว่ นทีเปนของแขง็ เหมอื นโลก และเปนดาวเคราะหท์ ีมดี าวบรวิ ารมากถึง 67 ดวง

´ÒÇàÊÒÏ ดาวเสาร์ เปนดาวเคราะหท์ ีเราสามารถมองเหน็ ได้ด้วยตาเปล่า เปนดาวทีประกอบไปด้วยก๊าซ และ ของเหลวสคี ่อนขา้ งเหลือง หมุนรอบตัวเอง 1 รอบใชเ้ วลา 10.2 ชวั โมง และโคจรรอบ ดวงอาทิตย์ 1 รอบใชเ้ วลา 29 ป ลักษณะเด่นของดาวเสาร์ คือ มวี งแหวนล้อมรอบ ซงึ วงแหวนดังกล่าวเปนอนุภาคเล็ก ๆ หลายชนิดรวมกัน และดาวเสารม์ วี งแหวนถึง 3 ชนั นอกจากนี ดาวเสารย์ งั มดี าวบรวิ าร 62 ดวง หนึงในนันคือดวงจนั ทรไ์ ททัน (Titan) ซงึ ถือวา่ เปนดวงจนั ทรท์ ีแปลกทีสดุ ในระบบสรุ ยิ ะจกั รวาล เพราะเปนดวงจนั ทรด์ วงเดียวใน ระบบสรุ ยิ ะทีมบี รรยากาศ และนักวทิ ยาศาสตรว์ เิ คราะหด์ วงจนั ทรด์ วงนีมสี ภาพเหมอื นโลก ยุคแรก ๆ หากดวงอาทิตยร์ อ้ นขนึ เมอื ไร นาํ แขง็ บนดวงจนั ทรจ์ ะละลาย และมวี วิ ฒั นาการ คล้ายกันกับโลกเลยทีเดียว

´ÒÇÂÙàùÊÑ ดาวยูเรนัส หรอื ดาวมฤตยู เปนดาวเคราะหแ์ ก๊สขนาดใหญ่ มดี วงจนั ทรบ์ รวิ าร 27 ดวง หมุน รอบตัวเอง 1 รอบ ใชเ้ วลา 16.8 ชวั โมง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใชเ้ วลานานถึง 84 ป ดาวยูเรนัสประกอบด้วยก๊าซและของเหลว เชน่ เดียวกับดาวพฤหสั บดี และดาวเสาร์ ทังนี ดาวยูเรนัสเปนดาวเคราะหใ์ หญ่เปน ที 3 รองจากดาวพฤหสั บดี และดาวเสาร์ โคจรหา่ ง จากดวงอาทิตยโ์ ดยเฉลีย 2,871 ล้านกิโลเมตร ทําใหม้ องเหน็ ด้วยตาเปล่าได้ยาก แต่เมอื ใช้ กล้องโทรทัศน์ และรูต้ ําแหน่งแน่ชดั ก็จะสามารถเหน็ ได้ในคืนฟาใสกระจา่ ง

´ÒÇ๻¨Ù¹ ดาวเนปจูน หรอื ดาวเกตุ เปนดาวเคราะหข์ นาดใหญ่เปนที 4 ในระบบสรุ ยิ ะ มเี สน้ ผ่าน ศูนยก์ ลางราว 50,000 กิโลเมตร จุโลกได้ถึง 60 ดวง ระยะหา่ งเฉลียจากดวงอาทิตย์ 4,504 ล้านกิโลเมตร หมุนรอบตัวเองครบรอบในเวลา 16 ชวั โมงอยูไ่ กลจากโลกมากจนไม่ สามารถมองเหน็ ได้ด้วยตาเปล่า ต้องใชก้ ล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่เท่านันจงึ จะเหน็ เปนจุด รบิ หรไี ด้ สงิ ทีมนุษยร์ ูเ้ กียวกับดาวเนปจูน ในทกุ วนั นี จงึ เปนขอ้ มูลทีได้มาจากยาน วอยเอ เจอร์ 2 ซงึ โคจรสาํ รวจดาวเนปจูน ระยะใกล้ เมอื พ.ศ. 2532

THANK YOU

¹Òí àÊ¹Í ÍÒ¨ÒÏ Ê¨Ø ÔµµÃÒ ¨Ñ¹·Ãŏ Í ¨´Ñ ·Òí â´Â ¹Ò» о§É ⤹ҺÒÅ ¿Ê¡Ô ʏ 624147002 ã¹ÃÒÂÇªÔ Ò PC62506 ¹Çѵ¡ÃÃÁáÅÐà·¤â¹âÅÂÊÕ ÒÃʹà·Èà¾×èÍ¡ÒÃÊèÍ× ÊÒÃ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook