วิชางานฝึกฝีมือ (หน่วยที่ 5)

(หน่วยท่ี 5) แผนการจดั การเรียนรมู้ ่งุ เน้นสมรรถนะ วิชา งานฝึ กฝี มอื รหสั วิชา 20100 - 1003 ทฤษฎี - ปฏิบตั ิ 6 หน่วยกิต 2 หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2562 ประเภทวิชาอตุ สาหกรรม ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา 2566 จดั ทาโดย นายวิวฒั น์ สงคป์ ระหยดั ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ แผนกวิชาเทคนิคพืน้ ฐาน วิทยาลยั เทคนิคชมุ พร สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

89 ชื่อวิชา งานฝกึ ฝมี ือ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 ชอื่ หน่วย งานตะไบ งานตะไบ เวลาเรียนรวม 24 ช.ม. ชือ่ เรื่อง สอนครงั้ ท่ี 5-8 จานวน 24 ช.ม. หัวข้อเรอื่ ง 1. ความหมายของงานตะไบ 2. ชนดิ ของตะไบ 3. ส่วนประกอบของตะไบ 4. วธิ ีการปฏิบัตงิ านตะไบ 5. วิธีการบารงุ รักษาตะไบ สาระสาคญั งานตะไบ เป็นงานปรับขนาดแลผวิ ของชิน้ งานพนื้ ฐานที่มคี วามสาคญั ลกั ษณะของงานตะไบเปน็ การ ตัดเฉอื นวัสดงุ านออกจากผวิ หน้าของชน้ิ งาน เพอื่ การตกแต่งและงานปรับผิวงานให้เรยี บ และลดขนาดของ ชิน้ งาน ดงั นน้ั นักเรยี นจาเปน็ ตอ้ งมีความรู้ ความเข้าใจ ความหมาย ชนิดของตะไบ สว่ นประกอบของตะไบ วธิ ีการปฏบิ ตั ิงานตะไบ วิธกี ารบารุงรกั ษาตะไบ วิธีการบารงุ รักษา และวธิ ีการตะไบ ทั้งนเ้ี พ่อื ใหเ้ ลอื กใชต้ ะไบใน การปฏบิ ัตงิ านไดต้ ามลักษณะของวสั ดุท่นี ามาปรบั ขนาดของผิวต่อไป สมรรถนะหลกั (สมรรถนะประจาหนว่ ย) แสดงความรเู้ กย่ี วกบั งานตะไบ สมรรถนะยอ่ ย (สมรรถนะการเรยี นร)ู้ สมรรถนะทัว่ ไป (ทฤษฎ)ี 1. แสดงความรู้เกย่ี วกบั ความหมายของงานตะไบ 2. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับชนดิ ของตะไบ 3. แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั สว่ นประกอบของตะไบ 4. แสดงความเข้าใจเกย่ี วกบั วธิ ีการปฏิบตั งิ านตะไบ 5. แสดงความเขา้ ใจเกย่ี วกบั วธิ กี ารบารงุ รกั ษาตะไบ สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ (ทฤษฎี) เมอื่ ผ้เู รยี นไดศ้ กึ ษาเนือ้ หาในบทนี้แล้ว ผเู้ รยี นสามารถ 1. บอกความหมายของงานตะไบไดถ้ กู ตอ้ ง 2. บอกชนดิ ของตะไบได้ถกู ตอ้ ง 3. บอกส่วนประกอบของตะไบได้ถกู ต้อง 4. อธบิ ายวธิ กี ารปฏบิ ัตงิ านตะไบได้ถกู ตอ้ ง 5. อธบิ ายวิธกี ารบารงุ รกั ษาตะไบไดถ้ กู ตอ้ ง

90 สมรรถนะทัว่ ไป (ปฎบิ ัติ) แสดงทักษะในการตะไบชนิ้ งาน สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ (ปฏบิ ัติ) เม่ือผูเ้ รียนได้ศึกษาเน้ือหาในบทน้แี ล้ว ผ้เู รยี นสามารถ ตะไบช้ินงานได้ถูกต้อง กิจกรรมการเรยี นการสอน ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชางานฝกึ ฝมี อื ไดก้ าหนดกจิ กรรมการเรียนการสอนให้ ผ้เู รยี นเกิด การเรียนรู้โดยใชว้ ิธีการจดั การเรยี นรฐู้ านสมรรถนะเชงิ รุก (Active Learning Competency Based) ด้าน เทคนคิ การ จัดการเรียนการสอนแบบ MAIP โดยมีขนั้ ตอนในการดาเนนิ กจิ กรรมการเรียนการสอน ดงั น้ี กิจกรรมการเรียนการสอน (สอนคร้งั ท่ี 5) เวลา 6 ช่วั โมง/สปั ดาห์ 1. ผู้สอนช้ีแจงรายละเอียดเกยี่ วกับจดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวิชา และคาอธิบายรายวชิ า การวัดและ ประเมินผลการ เรียนรายวชิ าคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคขอ์ งรายวิชา และข้อตกลงใน การจัดการเรียนการสอนในรายวชิ า 2. ผสู้ อนให้ผ้เู รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยที่ 5 เรอื่ งงานตะไบ 3. ผสู้ อนถา่ ยทอดความร้ใู นหนว่ ยที่ 5 เร่ืองงานตะไบชนิ้ งานที่เจาะกระดาษ 4. ผู้สอนแสดงตวั อย่างเกยี่ วกบั งานตะไบฐานของอปุ กรณ์บีบอดั เอนกประสงค์ 5. ผู้สอนแสดงใบงานเร่ืองงานตะไบชิ้นงานท่ีเจาะกระดาษและอธบิ ายขั้นตอนวธิ กี ารในการปฏิบัติงาน ตามใบงาน 6. ผู้สอนใหผเู้ รยี นปฏิบตั งิ านตามใบงานเรื่องงงานตะไบช้ินงานทเี่ จาะกระดาษ 7. ผู้สอนประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านของผู้เรียนและใหผ้ ู้เรยี นสรปุ สาระสาคญั ของเร่อื งท่เี รียนประจา สปั ดาห์ กิจกรรมการเรยี นการสอน (สอนครง้ั ท่ี 6) เวลา 6 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 1. ผู้สอนแจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นประจาสปั ดาห์ และนาเข้าสบู่ ทเรยี น 2. ผสู้ อนถา่ ยทอดความรใู้ นหนว่ ยท่ี 5 เรื่องงานตะไบชน้ิ งานท่ีเจาะกระดาษ 3. ผู้สู้อนแสดงใบงานเรื่องงานตะไบชนิ้ งานที่เจาะกระดาษและอธิบายข้ันตอนวธิ ีการในการปฏบิ ัตงิ าน ตามใบงาน 4. ผสู้ อนใหผเู้ รียนปฏิบัตงิ านตามใบงานเร่ืองงานตะไบชิ้นงานทีเ่ จาะกระดาษ 5. ผสู้ อนประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านของผ้เู รยี นและใหผ้ ู้เรียนสรปุ สาระสาคญั ของเรื่องที่เรยี นประจา สัปดาห์ กจิ กรรมการเรยี นการสอน (สอนครั้งที่ 7) เวลา 6 ชั่วโมง/สปั ดาห์ 1. ผู้สอนแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นประจาสปั ดาห์ และนาเข้าส่บู ทเรยี น 2. ผสู้ อนถา่ ยทอดความรู้ในหนว่ ยท่ี 5 เรอ่ื งงานตะไบช้นิ งานทเ่ี จาะกระดาษ 3. ผู้สู้อนแสดงใบงานเร่ืองงานตะไบช้นิ งานที่เจาะกระดาษและอธบิ ายข้นั ตอนวิธีการในการปฏิบตั ิงาน ตามใบงาน 4. ผู้สอนใหผเู้ รยี นปฏิบัติงานตามใบงานเรื่องงานตะไบชิน้ งานที่เจาะกระดาษ

91 5. ผู้สอนประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานของผเู้ รียนและใหผ้ ูเ้ รียนสรปุ สาระสาคญั ของเร่อื งที่เรยี นประจา สัปดาห์ กจิ กรรมการเรยี นการสอน (สอนครงั้ ท่ี 8) เวลา 6 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ 1. ผู้สอนแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นประจาสปั ดาห์ และนาเขา้ สู่บทเรียน 2. ผสู้ อนถ่ายทอดความรใู้ นหนว่ ยที่ 5 เรือ่ งงานตะไบชน้ิ งานท่ีเจาะกระดาษ 3. ผู้สอู้ นแสดงใบงานเร่อื งงานตะไบช้นิ งานทเ่ี จาะกระดาษและอธิบายขั้นตอนวิธีการในการปฏบิ ัตงิ าน ตามใบงาน 4. ผสู้ อนใหผเู้ รียนปฏิบัติงานตามใบงานเรอ่ื งงานตะไบช้ินงานท่ีเจาะกระดาษท่ีเรยี นประจาสปั ดาห์ 5. ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยที่ 5 เร่ืองงานตะไบ สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวิชางานฝกึ ฝอื 201001- 1003 2. Power Point เร่ือง งานตะไบ 3. ส่อื การสอนออนใลน์ Google Classroom 4. ส่ือการสอนชนิ้ งานจรงิ (ชน้ิ งานทีเ่ จาะกระดาษ) งานทีม่ อบหมาย/กิจกรรม ใหผ้ ้เู รยี นทาใบงานประจาหน่วยที่ 5 การวัดและประเมนิ ผล วัดผล/ประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ - ทาแบบทดสอบกอ่ น 1. สมรรถนะทพี่ ึง เรยี น – หลงั เรยี น - แบบทดสอบกอ่ นเรียน – - ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ประสงค์ (ทฤษฎ)ี - ทาใบงานท้ายหน่วย หลงั เรียน 2. สมรรถนะทพี่ งึ ประสงค์ (ปฏิบตั )ิ - ใบงานท้ายหนว่ ย - ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 80 3. คุณลกั ษณะอันพึง - ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั - แบบประเมินคุณลักษณะ - ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 80 ประสงค์ (Attitude) พึงประสงค์ อันพึงประสงค์

92 แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ (ทฤษฎ)ี คาส่งั จงเลือกคาตอบทถ่ี กู ทสี่ ดุ เพียงคาตอบเดียว และทาเครื่องหมาย ( X ) ลงในกระดาษคาตอบ 1. ข้อใดบอกความหมายของงานตะไบไดถ้ ูกตอ้ ง ก. การใช้คมตะไบขดู ผิวชิ้นงานเพ่ือการปรับขนาดความเรียบผวิ และรูปร่างของชน้ิ งาน ข. การใชค้ มตะไบตัดชิ้นงานใหข้ าดออกจากกนั ค. การใชค้ มตะไบเจาะชน้ิ งานให้เปน็ รู ง. การใชค้ มตะไบถากชิน้ งานใหเ้ ปน็ รอ่ ง 2. ข้อใดไม่ใช้ความหมายของงานตะไบชนิ้ งาน ก. การใชค้ มตะไบขดู ผิวชน้ิ งานใหเ้ รยี บ ข. การใชค้ มตะไบขูดผวิ ชิ้นงานให้ไดฉ้ าก ค. การใช้คมตะไบปรับลดขนาดของช้ินงาน ง. การใช้คมตะไบปรบั เพม่ิ ขนาดของชนิ้ งาน 3. ชนิดของตะไบ เรียกชื่อตามลักษณะส่วนใด ก. คมตดั ของตะไบ ข. ความยาวของตะไบ ค. พน้ื ท่หี น้าตัดของตะไบ ง. ความหยาบละเอยี ดของตะไบ 4. จากรูปทางขวามือ หมายถึงตะไบชนดิ ใด ก. ตะไบกลม ข. ตะไบคมมีด ค. ตะไบสามเหลยี่ ม ง. ตะไบครงึ่ วงกลม 5. จากรูปทางขวามอื สว่ นประกอบของตะไบหมายเลข 1 มชี อ่ื เรยี กว่า ก. กั่นตะไบ 1 ข. โคนตะไบ ค. ขอบตะไบ ง. ผวิ หนา้ ตะไบ 6. จากรูปทางขวามอื สว่ นประกอบของตะไบหมายเลข 2 มีชอ่ื เรียกว่า ก. กัน่ ตะไบ 2 ข. โคนตะไบ ค. ขอบตะไบ ง. ผิวหนา้ ตะไบ

93 7. การจบั ชน้ิ งานตะไบบนปากกาจับงานขอ้ ใดถกู ต้องทส่ี ุด ก. จับช้นิ งานให้สามารถตะไบไดส้ ะดวก ข. จับช้ินงานใหแ้ นน่ ท่สี ุดปอ้ งกนั การหลดุ ค. จับช้ินงานใหส้ ูงจากปากกาประมาณความหนาของสันตะไบ ง. จับชิน้ งานใช้สูงจากปากของปากกาประมาณ 20 มลิ ลิเมตร 8. จากรูปทางขวามอื คอื ท่ายืนในการตะไบในข้อใด ก. ทา่ ยนื ตะไบไขว้ ข. ทา่ ยนื ตะไบหยาบ ค. ท่ายนื ตะไบตามแนวยาวของแนวปากกา ง. ทา่ ยืนตะไบตามแนวขวางของแนวปากกา 9. จากรูปทางขวามอื เปน็ การจับตะไบสาหรบั การตะไบช้ินงานในลกั ษณะใด ก. ตะไบขูด ข. ตะไบเบา ค. ตะไบหนกั ง. ตะไบเอยี งทามมุ 10. จากรปู ทางขวามือ เป็นการจับตะไบสาหรับการตะไบชนิ้ งานในลักษณะใด ก. ตะไบขดู ข. ตะไบเบา ค. ตะไบหนกั ง. ตะไบเอียงทามุม 11. เศษผงเหลก็ ทตี่ ดิ อยใู่ นฟันของตะใบเรามีวิธีการทาความสะอาดไดโ้ ดยวธิ ใี ด ก. ใช้ค้อนเคาะ ข. ใชผ้ า้ ขาวดิบเชด็ ค. ใช้แปรงขนสัตว์ ง. ใชแ้ ปรงลวดเสน้ เล็ก 12. ตะไบควรเก็บรกั ษาตามข้อใดเหมาะสมทีส่ ุด ก. เก็บไว้ในกลอ่ งรวมกนั ข. เกบ็ รวมกับเครื่องมืออนื่ ค. เก็บแยกจากเครอ่ื งมอื อ่นื ง. เกบ็ แยกเปน็ อันๆไมต่ ดิ กัน

94 ข้อที่ คาตอบ 1ก 2ง 3ค 4ง 5ง 6ก 7ค 8ค 9ก 10 ข 11 ง 12 ง

95 รหัสวชิ า 20100 - 1003 ใบความร้หู น่วยที่ 5 หน่วยที่ 5 งานตะไบ ช่อื วิชา งานฝกึ ฝมี ือ ชือ่ หน่วย งานตะไบ หน่วยที่ 5 จานวน 24 ช.ม. หนว่ ยที่ 5 งานตะไบ 5.1 ความหมายของงานตะไบ งานตะไบ หมายถงึ การใชค้ มตะไบขดู ผวิ ของช้นิ งาน โดยมีจุดม่งุ หมายเพอื่ การปรับขนาด ความเรยี บและรูปรา่ งของช้ินงานใหไ้ ด้ตามแบบส่ังงาน 5.2 ชนดิ ของตะไบ ชนิดของตะไบ หมายถงึ รปู รา่ งหนา้ ตัดบรเิ วณส่วนปลายของตะไบ ตะไบที่ใชก้ นั อยทู่ ัว่ ๆไป สามารถแบง่ สามารถแบง่ รูปร่างหน้าตดั ตามลกั ษณะการใช้งานแตกต่างกนั ออกไปดงั นี้ 5.21 รูปรา่ งหนา้ ตดั ของตะไบ ดังแสดงรปู ท่ี 5.1 1. ตะไบแบน 2. ตะไบสีเ่ หลี่ยม 3. ตะไบสามเหลยี่ ม

96 รปู รา่ งหนา้ ตดั ของตะไบ(ตอ่ ) 4. ตะไกลมหรอื ตะไบหางหนู 5. ตะไบท้องปลิง รปู ที่ 5.1 แสดงรูปร่างหนา้ ตัดของตะไบ 5.2.1 ชนิดของคมตดั ตะไบ แบ่งออกตามความเหมาะสมกบั วัสดชุ นิ้ งาน ดงั แสดงรปู ท่ี 5.2 1. ตะไบคมตัดเดยี ว (Single cut file) 2. ตะไบคมตดั คู่ (Double cut file) 3. ตะไบคมบงุ้ (Rasp cut files) 4. ตะไบคมตดั โค้ง (Curved cut files) รปู ที่ 5.2 แสดงชนิดของคมตัดตะไบ

97 5.3 สว่ นประกอบของตะไบ ตะไบทาจากเหล็กกล้าคารบ์ อนสงู ชุบแข็ง ตะไบมสี ว่ นประกอบทส่ี าคญั ดงั แสดงรูปที่ 5.3 12 3 45 6 7 รูปที่ 5.3 แสดงส่วนประกอบของตะไบ ส่วนประกอบต่างๆของตะไบแบน หมายเลข ช่ือ 1 ปลายตะไบ (Tip หรอื Point) เป็นส่วนทอ่ี ยตู่ รงปลายสดุ ของตะไบ 2 ขอบตะไบ (Edge) เป็นส่วนท่ีอยู่ด้านข้างของหน้าตะไบมีท้ังสองด้าน ขอบตะไบอาจจะมีฟัน หรอื เรียบๆ 3 ผวิ หน้าตะไบ (Face) เป็นสว่ นท่มี คี มตัดชองตะไบเรยี งเป็นแถว เปรียบเสมอื นลาตวั ของตะไบ มีสองด้าน 4 โคนตะไบ (Heel) เป็นส่วนทีอ่ ยูป่ ลายด้านลา่ งของหน้าตะไบ 5 กัน่ ตะไบ (Tang) เปน็ ส่วนอยู่ลา่ งสุดของตะไบมลี กั ษณะแบนเรยี ว เพ่ือไวส้ วมกับด้ามตะไบ 6 ความยามตะไบ (Length) จะมีการวัดจากปลายตะไบถึงโคนตะไบ ความยาวตะไบท่ัวไปมี ขนาด 4 น้ิว (100 มม.) , 6 นิ้ว (150 มม.) , 8 นิ้ว (200 มม.), 10 นิ้ว (250 มม.), 12 นิ้ว (300 มม.), 14 น้วิ (350 มม.) 7 ด้ามตะไบ (Handle) เป็นสว่ นทีส่ วมกบั กั่นตะไบเพ่อื ไว้จบั โดยท่ัวไปทาจากไม้ หรือ พลาสติก

98 5.4 วธิ ีการปฏบิ ตั งิ านตะไบ การตะไบผิวราบ มีการตะไบอยู่ 4 ลกั ษณะ คอื 1. การตะไบตามขวางของช้นิ งาน การตะไบจะตะไปตามแนวขวางกบั ช้นิ งานใชต้ ะไบลดขนาดของ ช้ินงานได้รวดเร็วกว่าการตะไบลักษณะอื่น และใช้ตะไบแก้ไขชิ้นงานมีลักษณะโค้งนูนตามแนวยาว ดงั แสดงรูปท่ี 5.4 รูปที่ 5.4 แสดงการตะไบตามแนวขวางของชิน้ งาน 2. การตะไบตามแนวยาวของชิ้นงาน นิยมใช้ตะไบปรับผิวเรียบ หรอื ตะไบชนิ้ งานทแ่ี คบๆไม่นยิ มใช้ ตะไบลดขนาดเนื่องจากพ้ืนท่ผี ิวสัมผสั มาก คมตดั จะเฉือนตดั ช้ินงานได้ช้ากว่าตะไบตามขวาง ดังแสดงรปู ที่ 5.5 รูปที่ 5.5 แสดงการตะไบตามแนวยาวของชิ้นงาน 3. การตะไบไขวห้ รือการตะไบทแยงมุม เปน็ การตะไบทแยงมุมทามมุ กับชิน้ งานประมาณ 45 องศา โดย ขณะตะไบต้องมกี ารตะไบสลบั ทแยงมุม ใชส้ าหรบั ตะไบปรบั ผิวเรียบรอ้ ย ดงั แสดงรปู ท่ี 5.6 รูปที่ 5.6 แสดงการตะไบไขว้

99 4. การไสตะไบหรอื การตะไบขดู เปน็ การตะไบผวิ ละเอียด ตะไบทีใ่ ชจ้ ะเปน็ ตะไบคมตดั เดีย่ ว ใช้สาหรบั ขูดผวิ ทน่ี นู ให้ลดลง การจบั ตะไบขดู จะจับตะไบขวางดบั ช้ินงานทขี่ ดู โดยใช้มอื ทงั้ สองจับทตี่ ะไบใกลก้ ับ ชนิ้ งานในการขดู จะขดู เปน็ ระยะทางสัน้ ๆออกแรงกดเบาๆจะใชก้ ับช้ินงานทีม่ คี วามกวา้ งเพียงเลก็ นอ้ ย ดงั แสดงรปู ที่ 5.7 รปู ที่ 5.7 แสดงการไสตะไบ หรือการตะไบขดู ผิว 5.4.1 การเลอื กความสูงโตะ๊ ปากกาในการปฏบิ ตั ิงานตะไบ ดงั แสดงรปู ท่ี 5.8 ในกรณที ต่ี า่ กว่าอาจแก้ไข โดยการใช้ไมร้ องเทา้ ให้ สูงข้ึน รูปที่ 5.8 แสดงการเลอื กความสงู โต๊ะปากกาในการปฏิบัตงิ านตะไบ

100 5.4.2 ท่ายนื สาหรับงานตะไบ ท่ายนื สาหรับงานตะไบ ดงั แสดงรปู ท่ี 5.9 รูปที่ 5.9 แสดงทา่ ยืนสาหรบั งานตะไบ 5.4.3 ตะไบช้ินงาน การตะไบชิ้นงานมีข้ันตอนการปฏบิ ัตงิ านดงั นี้ 1. ตดั ชน้ิ งานให้ไดข้ นาดใกลเ้ คียงกับขนาดจริงโดยเผื่อขนาดไวต้ ะไบที่เหมาะสม 2. นาชน้ิ งานจบั ด้วยปากกาให้ช้ินงานย่นื จากปากกาน้อยที่สดุ ประมาณ 10 มิลลเิ มตร 3. เลือกตะไบทจ่ี ะตะไบโดยเลือกรปู ทรงของตะไบทใี่ ชเ้ ลือกชนิดของตะไบ เชน่ ตะไบหยาบ ตะไบละเอยี ด 4. เตรยี มอปุ กรณ์ เครอ่ื งมือ เครอ่ื งมือวดั เคร่ืองมือตรวจสอบต่างๆใหพ้ ร้อม 5. ตะไบโดยมีการยืนวางเท้า วิธกี ารจบั ตะไบ การออกแรงเคลือ่ นตัวให้ถูกต้องเหมาะสม 6. การตะไบตามลาดับข้ัน เชน่ ตะไบชิน้ งานท่ีมหี น้าตดั ส่ีเหล่ยี มทงั้ หกด้าน ควรเลอื กตะไบดา้ นแรกท่ีเปน็ ด้านท่มี ีพ้นื ท่ีกวา้ งเปน็ ด้านที่ 1 แล้วตะไบด้านท่ี 2 , 3 , 4 , 5 และด้านท่ี 6 ตามลาดบั ดงั แสดงรูปท่ี 5.10 รูปที่ 5.10 แสดงข้นั ตอนการตะไบงานที่มหี น้าตดั เหลย่ี มทั้งหกดา้ น

101 ตะไบชิ้นงาน(ตอ่ ) 7. การตะไปด้านท่ี 1 เนื่องจากเป็นดา้ นที่มีผิวกวา้ งควรเปน็ ดา้ นหลัก การตะไบควรตะไบให้นอ้ ยที่สดุ เทา่ ทที่ าได้ให้มผี ิวเรยี บ เพื่อเหลือขนาดไวต้ ะไบดา้ นที่ 4 8. การตะไบดา้ นที่ 2 เป็นการตะไบให้ผิวเรยี บและไดฉ้ ากกับด้านท่ี 1 ควรตะไบให้น้อยทีส่ ดุ เพ่อื เหลอื ขนาดไวต้ ะไบด้านท่ี 5 9. การตะไบดา้ นที่ 3 เป็นการตะไบผิวเรยี บและตอ้ งไดฉ้ ากกบั ดา้ นท่ี 1 และดา้ นท่ี 2 เชน่ เดียวกนั ควร ตะไบนอ้ ยท่ีสุดเพือ่ เหลอื ขนาดไวต้ ะไบด้านที่ 6 10. การตะไบดา้ นที่ 4 เปน็ การตะไบผิวราบ และต้องได้ฉากกบั ดา้ นท่ี 2 และด้านท่ี 3 และต้องขนานกบั ด้าน ที่ 1 โดยการวัดขนาดความหนาระหว่างด้าน 1 กับ ดา้ น 4 โดยการวัดตามจุดต่างๆหลายจดุ เพ่ือ ทดสอบวา่ มขี นาดความหนาเทา่ กันทุกจุดหรือไม่ 11. การตะไบดา้ นท่ี 5 เปน็ การตะไบผิวราบและต้องไดฉ้ ากกับดา้ นท่ี 1 ดา้ นท่ี 3 และดา้ นที่ 4 และจะขนาน กบั ด้านที่ 2 โดยการวดั ขนาดตามจดุ ตา่ งๆ 12. การตะไบดา้ นท่ี 6 ให้ผิวเรยี บแล้วแลว้ ยงั ตอ้ งไดฉ้ ากกับด้านท่ี 1 ดา้ นที่ 2 ด้านท่ี 4 และด้านท่ี 5 และ จะตอ้ งขนานกบั ด้านที่ 3 โดยการวัดขนานตามจุดตา่ งๆตอ้ งไดข้ นาดท่ีเท่ากนั 5.5 วิธกี ารบารุงรกั ษาตะไบ 1. ห้ามนาตะไบไปใช้แทนเครื่องมืออนื่ เช่น ใช้ตะไบงดั ตี ตอก เคาะ กระแทก แทนเครื่องมืออน่ื ๆ 2. การวางตะไบ ห้ามวางตะไบทับกนั หรือวางรวมกับเคร่อื งมอื อ่ืน ควรวางบนวัสดทุ ่อี ่อนกวา่ 3. ก่อนตะไบผวิ งานท่แี ข็งควรใชค้ มดา้ นข้างตะไบ (สนั ตะไบ) หรอื ใชป้ ลายตะไบ ตะไบคร้งั แรกก่อน เพ่อื ตะไบผวิ ทีแ่ ขง็ ออกกอ่ น แล้วจึงตะไบด้วยดา้ นแบนเพื่อเป็นการรักษาคมตดั ของตะไบ 4. เมอ่ื ตะไบมีเศษโลหะติด ควรทาความสะอาดดว้ ยแปรงทาความสะอาด โดยแปรงขนานไปกับรอ่ ง ของตะไบจนครบตลอดความยาวของตะไบ โดยสังเกตว่าไมม่ เี ศษโลหะตดิ คา้ งอยู่ 5. กรณีมเี ศษโลหะตดิ อยแู่ นน่ ไมส่ ามารถใช้แปรงปัดเศษโลหะออกได้ ให้ใช้ลวดแหลมแคะเศษโลหะ ออกหรือใช้วสั ดุอ่อน ขูดเศษโลหะออก 6. หา้ มใช้นา้ มันทาทีต่ ะไบ หรือชนิ้ งาน เพราะจะทาใหเ้ กดิ การลืน่ ในขณะตะไบ สรปุ ตะไบเป็นเคร่ืองมือตัดชนิดหนึ่ง คมตัดจะทาในลักษณะการขูดซ่ึงเหมาะสาหรับการปรับผิวให้เรียบ คมตัดมีขนาดเล็กตัดเฉือนเนื้องานน้อยซึ่งเป็นงานที่ต้องกระทาหลังจากการเลื่อยที่มีขนาดใกล้เคียงกับขนาดที่ ต้องการแล้วทาการตะใบชน้ิ งานเพือ่ ปรบั ผวิ เรยี บฉากตอ่ ไป ตะไบมีรูปรา่ งต่างกันตามลกั ษณะการใช้งาน ผู้ปฏิบตั ิงานจาเป็นทีจ่ ะตอ้ งควบคมุ แรงให้สมดุลกันใน ขณะท่ีเคล่ือนที่ไปมา และในการตะไบควรเลือกพนื้ ท่ีผิวหน้าของชิ้นงานท่ีมาก เป็นดา้ นท่ี 1 เพื่อเปน็ ผิวอ้างองิ ในการวัดฉากด้านต่อไป จากน้ันผิวด้านที่ 2 และ 3 ควรเป็นผิวที่สัมพันธ์กับด้านที่ 1 หรือด้านที่มีลักษณะสาม เส้าน้นั เอง

102 บันทกึ หลงั การสอน สปั ดาหท์ ี่ ................ ชือ่ วิชา งานฝึกฝมี อื รหัสวชิ า 20100 - 1003 แผนกวชิ า ……………………......... วันทส่ี อน ............................................................ หนว่ ยท.่ี ............. รายการสอน ………………………………………….. จานวน 6 ชว่ั โมง จานวนผเู้ รียน ชน้ั ........... กลมุ่ .......... จานวน .......... คน เขา้ เรยี น.............คน ขาดเรยี น...............คน ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2566 1. เนื้อหาที่สอน(สาระสาคญั ) ...................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 2. ผลการสอน ........................................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................... 3. ปญั หา อุปสรรค ท่ีเกดิ ขน้ึ ในระหวา่ งการเรยี นการสอน ........................................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................... 4. แนวทางแก้ปัญหาของครผู สู้ อน (แนวทางการทาวจิ ัย) ........................................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................... ลงช่ือ...............................................ผูส้ อน (นายววิ ัฒน์ สงคป์ ระหยดั ) .............../................/............... ลงชอื่ ...............................................หัวหน้าแผนก ลงช่ือ...............................................หัวหน้างานหลักสูตรฯ (นายววิ ัฒน์ สงคป์ ระหยัด) (นายสมศกั ด์ิ หลวงนา) .............../................/............... .............../................/............... ลงชือ่ ...............................................รองผู้อานวยการฝา่ ยวิชาการ (นายประเสริฐ ถึงวิสัย) .............../................/..............

นายวิวฒั น์ สงคป์ ระหยดั ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ แผนกวิชาเทคนิคพืน้ ฐาน วิทยาลยั เทคนิคชมุ พร สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ