ใบความรู้ท่ี 2 มาตรฐานฟาร์มเลยี้ งไก่ ไข่นก้ี าหนดขึ้นเปน็ มาตรฐานเพ่อื ให้ฟาร์มท่ตี ้องการขึ้นทะเบยี นเปน็ฟารม์ ท่ไี ดม้ าตรฐานเปน็ ท่ยี อมรับ ไดย้ ึดถือปฏบิ ัติเพื่ อใหไ้ ด้การรบั รองจากกรมปศสุ ัตว์ ซงึ่ มาตรฐานน้ีเป็นทีย่ อมรบั ได้ยึดถือปฏิบัติเพ่อื ใหไ้ ดก้ ารรับรองจากกรมปศสุ ัตว์ และถอื เป็นเกณฑม์ าตรฐานขัน้พ้นื ฐานสาหรบั ฟาร์มท่จี ะได้รบั การรบั รอง มาตรฐานฟาร์มเลี้ยงไก่ ไข่นี้กาหนดวิธปี ฏิบัติ การจดั การฟารม์ การจัดการด้านสุขภาพสตั ว์และการจดั การด้านสง่ิ แวดล้อม เพ่ือให้ได้ไก่ไขท่ ถ่ี กู สขุ ลักษณะและเหมาะสมแก่ผู้บรโิ ภค ความหมายของคาท่ใี ช้ในมาตรฐานสนิ คาเกษตรน้มี ี ดงั ตอ่ ไปนี้ ไกไข (layer) หมายถึง ไกทม่ี ชี ื่อวทิ ยาศาสตร์ ว่า Gallus gallus domesticus สายพนั ธุท่ีให้ไขสมา่ เสมอ เพอ่ื การบรโิ ภค ครอบคลมุ ทง้ั ไกรนุ และไกระยะไข ไกรุน (pullet) หมายถึง ไกไขสาวที่มอี ายโุ ดยประมาณตั้งแต่ 8 สัปดาห์ จนถึงระยะท่เี ริ่มออกไขได้ ไกระยะไข (laying hen) หมายถงึ ไกไขที่อยู่ในช่วงอายทุ ่ีเหมาะสมในการผลติ ไข โดยทว่ั ไปประมาณ 18 สปั ดาห์ จนถงึ ระยะปลดระวางประมาณ 70-80 สัปดาห์ท้งั น้ีข้นึ กบั สายพนั ธ์ุ ฟาร์มไกไข (layer farm) หมายถึ ง สถานประกอบการทเี่ ล้ียงไก รุ่นหรอื ไก ระยะไข มีวัตถปุ ระสงค์ เพอื่ การผลิตไขทางการค้าซ่งึ ครอบคลมุ ถงึ พื้นทเ่ี ล้ยี งไก สถานทร่ี วบรวมไข สถานทเ่ี ก็บและเตรยี มอาหารสัตว์ พ้นื ทท่ี าลายซาก จุดรวบรวมขยะ อาคารสา นักงาน และบ้านพกั อาศัย เป็นต้น โรงเรือน หมายถึง สิง่ ก่ อสร้ างที่ใช้ เลยี้ งไก ไข ซง่ึ มที ้ังชนดิ ท่คี วบคุมและไม ควบคมุสภาพแวดล้อมตัวไก่1. วตั ถุประสงค์ของการจดั ทามาตรฐานฟาร์ม การจดั ทามาตรฐานฟารม์ การเลีย้ งสัตวป์ ีกชนดิ ต่าง ๆ เชน่ การเลย้ี งไก่เน้อื การเล้ยี งไกไ่ ข่การเลี้ยงเป็ดเนื้อ รวมทั้งผลผลิตจากการเลยี้ งสตั ว์ปีกแต่ละชนิด เพ่ือให้เปน็ ไปตามหลักวชิ าการดา้ นการจดั การฟารม์ ด้านสุขอนามยั และการจดั การดา้ นส่ิงแวดลอ้ มให้เป็นรูปแบบมาตรฐานเดยี วกนัว่าด้วยการขอรับและออกใบรบั รองมาตรฐานฟาร์มเลยี้ งสัตว์ พ .ศ. 2546 โดยมีวตั ถปุ ระสงค์ของการจัดทามาตรฐานฟารม์ ดงั นี้ 1. เพ่อื ปรบั ปรงุ ระบบการเลยี้ งสตั ว์ของประเทศไทยใหเ้ ปน็ รูปแบบ มาตรฐานเดียวกันและมีคุณภาพ 2. เพือ่ ค้มุ ครองผู้บริโภคใหป้ ลอดภัยในการบรโิ ภคเนื้อสัตว์และผลติ ภณั ฑ์สตั ว์จากฟารม์ เลย้ี งสตั ว์ทไี่ ด้รบั การ รบั รองเปน็ ฟารม์ มาตรฐานจากกรมปศสุ ตั ว์ 3. เพื่ออานวยความสะดวกทางการค้าแก่ผู้ประกอบการฟาร์มเลีย้ งสัตว์ส่งออก 4. เพื่อลดมลภาวะจากฟาร์มเล้ยี งสตั วท์ ่ีมีผลกระทบต่อสง่ิ แวดลอ้ มและชุมชน 5. เพ่อื เพิม่ ประสทิ ธิภาพในการควบคมุ ปอู งกนั และกาจัดโรคในฟารม์ เล้ียงสัตว์
2. นิยามคาศพั ทแ์ ละข้อกาหนดทีเ่ กีย่ วข้องกบั มาตรฐาน \"สถานประกอบกจิ การเลย้ี งไก่ \" หมายความวา่ สถานประกอบกิจการเล้ยี งไก่ประเภทไก่เนื้อและไก่ไข่ โดยหมายถึงสถานประกอบกจิ การทุกขนาด \"มาตรฐานฟารม์ เล้ียงสตั ว์ \" หมายความวา่ มาตรฐานฟาร์มเลย้ี งสัตว์ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ \"การตรวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ \" หมายความว่า การตรวจฟาร์มเพ่อื ให้คาแนะนา ประเมนิและตรวจสอบเกย่ี วกับการปฏิบัตติ ามมาตรฐานฟาร์ม \"คณะผูต้ รวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ \" หมายความวา่ คณะเจา้ หนา้ ทก่ี รมปศสุ ตั วท์ ไี่ ดร้ ับการแตง่ ต้ังจากกรมปศสุ ตั ว์ ให้ทาหนา้ ท่ตี รวจรบั รองมาตรฐานฟาร์ม \"ผูเ้ ช่ียวชาญเฉพาะ ดา้ น \" หมายความวา่ บคุ คลซึง่ เป็นบุคลากรจากกรมปศุสัตว์ทบวงมหาวทิ ยาลัย หรอื หนว่ ยงานอืน่ ที่มคี วามรู้ ความชานาญเฉพาะด้านเปน็ พเิ ศษ \"ผ้สู งั เกตการณ\"์ หมายความว่า บุคคลท่ไี ดร้ บั อนญุ าตจากกรมปศุสัตวใ์ ห้เข้ารว่ มสังเกตการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะผตู้ รวจรับรองมาตรฐานฟารม์ \"การตรวจรบั รองมาตรฐาน ฟารม์ \" หมายความวา่ การตรวจฟารม์ เพ่อื ให้คาแนะนา ประเมินและตรวจสอบเก่ียวกับการปฏบิ ัติตามมาตรฐานฟาร์ม \"สตั วแพทย์ผูค้ วบคมุ ฟาร์ม\" หมายความวา่ สัตวแพทย์ที่มใี บอนุญาตเปน็ ผปู้ ระกอบวิชาชีพการสัตวแพทยช์ ้นั หนึง่ ตาม พระราชบญั ญัติ วชิ าชพี การสตั วแพทย์ พ .ศ. 2545 และได้รบั ใบอนุญาตสัตวแพทยผ์ ู้ควบคุมฟาร์มจากกรมปศสุ ตั ว์ \"ผปู้ ระกอบการ\" หมายความว่า เจ้าของหรือผ้จู ัดการฟารม์ ที่ขอรับรองมาตรฐานฟารม์ หรือผู้ไดร้ บั การรับรองมาตรฐานฟาร์มจากกรมปศุสัตว์ \"คณะกรรมการฝกึ อบรมผปู้ ระกอบ การ\" หมายความวา่ คณะกรรมการทีจ่ ัดการฝกึ อบรมผูป้ ระกอบการเพอื่ ให้ผู้ประกอบการมีความรู้เรือ่ งมาตรฐานฟารม์ ตามทก่ี รมปศุสตั วแ์ ตง่ ตั้ง \"การรับรองมาตรฐาน ฟารม์ \" หมายความว่า การรบั รองฟารม์ ทม่ี มี าตรฐานในการจดั การฟารม์ ท่ดี ี ทัง้ ด้านสขุ อนามยั และการจดั การดา้ นสิง่ แวดล้อม ตลอดจนถงึ การควบคมุ และปูองกนั โรคระบาดของสตั วภ์ ายในฟารม์ ตามหลักเกณฑข์ องการตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์มของกรมปศสุ ัตว์
3. หลกั เกณฑ์ของการตรวจรับรองมาตรฐานฟารม์ ของกรมปศสุ ตั ว์ 3.1 หลักเกณฑใ์ นการควบคมุ การประกอบการเลย้ี งไก่ 3.1.1 สถานที่ตั้งกิจการเล้ยี งไก่ ควรอยูห่ า่ งจากชุมชน ศาสน สถาน โบราณสถานสถาบันการศกึ ษา โรงพยาบาล หรอื สถานทีอ่ นื่ ๆ ในระยะทไ่ี มส่ ง่ ผลกระทบตอ่ สุขภาพและไมก่ อ่ เหตุราคาญตอ่ ชมุ ชน โดยการมรี ะยะห่างจากสถานที่ดงั กลา่ วขา้ งต้น ดังตอ่ ไปน้ี (1) สาหรบั สถานประกอบกจิ การเล้ียงไก่ น้อยกวา่ 500 ตวั ควรมรี ะยะห่างไม่น้อยกว่า 30 เมตร (2) สาหรับสถานประกอบกิจการเลยี้ งไก่ ตัง้ แต่ 500-5,000 ตวั ควรมีระยะหา่ งไม่น้อยกวา่ 100 เมตร (3) สาหรบั สถานประกอบกจิ การเลี้ยงไก่ ต้งั แต่ 5,001-10,000 ตวั ควรมรี ะยะห่างไม่น้อยกวา่ 200 เมตร (4) สาหรบั สถานประกอบกิจการเล้ียงไก่ ตัง้ แต่ 10,000 ตวั ขน้ึ ไป ควรมรี ะยะหา่ งไม่น้อยกวา่ 1,000 เมตร 3.1.2 สถานที่ตั้ง ควรต้งั อยบู่ ริเวณทไ่ี มม่ นี ้าทว่ มขัง อยูห่ ่างจากแหล่งน้าสาธารณะไมน่ อ้ ย กวา่30 เมตร และตอ้ งมกี ารปอู งกนั การไหลของนา้ เสยี และสิง่ ปนเปื้อนลงส่แู หลง่ นา้ สาธารณะในกรณที มี่ ีการชะลา้ งของน้าฝน 3.1.3 สถานประกอบกจิ การเลย้ี งไก่ ควรตั้งอยู่หา่ งจากโรงฆ่าสตั ว์ปี ก ตลาดนัดค้าสตั วป์ กีอยา่ งน้อย 5 กิโลเมตร 3.1.4 สถานประกอบกจิ การเลีย้ งไก่ ต้องจัดให้มบี ริเวณเลย้ี งไกเ่ ปน็ สดั ส่วนและให้อย่หู ่างเขตทีด่ ินสาธารณะหรอื ทด่ี ินห่างเจ้ าของและตอ้ งมีท่ีว่างอนั ปราศจากหลงั คาหรอื สงิ่ ใดปกคลมุ โดยรอบบรเิ วณเลยี้ งสัตว์น้นั ไม่นอ้ ยกวา่ 15 เมตรทกุ ดา้ น เว้นแต่ด้านทม่ี แี นวเขตทด่ี นิ ตดิ ตอ่ กับทด่ี นิ ของผู้ประกอบกิจการประเภทเดยี วกัน ให้ใชห้ ลกั เกณฑ์ตาม ขอ้ . (3.1.1) โดยพิจารณาท่ีจานวนการเลยี้ งไก่ท่มี จี านวนมากทส่ี ุดเปน็ เกณฑใ์ นการกาหนดขอบเขตระยะหา่ ง
3.2 หลกั เกณฑ์เกีย่ วกบั สุขลักษณะของโรงเรอื นเลยี้ งไกแ่ ละส่วนประกอบ 3.2.1 โรงเรือนเลี้ยงไก่ ต้องเป็นอาคารเอกเทศ มั่นคงแข็งแรง มีลกั ษณะเหมาะแก่การเลยี้ งไก่ 3.2.2 มโี รงเรอื นเลี้ยงไกเ่ ป็นพนื้ แนน่ หรอื ทาด้วยวสั ดุแข็งแรง ไมเ่ ปยี กชนื้ ไม่มนี ้าขงัทาความสะอาดงา่ ย 3.2.3 หลงั คา หรอื ฝูาเพดานตอ้ งทาดว้ ยวสั ดุท่มี ีความคงทน แขง็ แรง มีความสูงจ ากพื้นถึงมมุ เสาทเี่ ป็นฐาน อยา่ งนอ้ ย 2 เมตรขึ้นไป 3.2.4 โรงเรอื นเลย้ี งไก่ต้องมพี ืน้ ทใ่ี นการเลยี้ งเพียงพอ เพื่อใหไ้ กอ่ ยู่อยา่ งสบายไม่แออัดเปน็ ไปตามมาตรฐานฟาร์มเลย้ี งไก่ของกรมปศุสัตว์ 3.2.5 จัดใหม้ ีแสงสว่างเพยี งพอ 3.2.6 โรงเรอื นระบบเปดิ ต้องมีตาข่ายคลุมเพือ่ ปูองกันสัตวพ์ าหะนาโรค และตอ้ งจัดใหม้ ีการระบายอากาศท่ดี ี แตส่ าหรับโรงเรือนระบบปดิ ต้องจดั ใหม้ กี ารระบายอากาศ ฝุนละอองและก๊าซต่างๆ ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานฟาร์มของกรมปศุสัตว์ หรอื มาตรฐานสินค้าเกษตรแหง่ ชาติ 3.2.7 ถนนภายในสถ านประกอบกิจการตอ้ งใช้วัสดุคงทน ไม่กอ่ ให้เกิดฝุนละอองหรือต้องมวี ธิ กี ารอ่ืนใดทมี่ คี วามเหมาะสมในการควบคุมการฟงุู กระจายของฝนุ ละออง และมีความกวา้ งเหมาะสม สะอาด สะดวกในการขนส่งลาเลยี ง อุปกรณ์ อาหารไก่ รวมทง้ั ผลผลิตเข้าและออกภายในสถานประกอบกจิ การ 3.2.8 สถานทเี่ ก็บอาหารไก่ โรงผสมอาหารไก่ พืน้ ทีเ่ กบ็ วัสดุรองพืน้ พ้ืนที่ทาลายซากไก่ พน้ื ทรี่ วบรวมมูลฝอยและสง่ิ ปฏิกูลต่าง ๆ ตอ้ งจัดเปน็ สดั สว่ นมีความมัน่ คงแข็งแรง และถูกหลักสุขาภิบาล 3.2.9 บริเวณประตทู างเขา้ และออกจากสถานประกอบกิจการ ต้องจดั ใหม้ ีกา รฆ่าเชื้อโรค โดยวิธตี ่าง ๆ เช่น บ่อนา้ ยาฆ่าเช้ือโรค หรือโรงพน่ นา้ ยาฆา่ เชือ้ หรอื เครอ่ื งพ่นน้ายาฆา่ เช้ือโรคหรอื อ่างจุม่ นา้ ยาฆา่ เชอ้ื โรค เปน็ ต้น
3.3 หลกั เกณฑ์เกยี่ วกับสุขลกั ษณะด้านอาหารสตั ว์ 3.3.1 อาหารที่ใช้เลย้ี งไก่ ต้องมคี ุณภาพและมาตรฐานตามกฎหมายว่าด้วยการควบคมุ คณุ ภาพอาหารสตั ว์ 3.3.2 ควรมสี ถานทเี่ กบ็ อาหารแยกเป็นสัดสว่ น จัดให้เปน็ ระเบยี บและมกี ารดูแลรกั ษาความสะอาดอย่างสม่าเสมอ 3.3.3 ภาชนะบรรจอุ าหารไกค่ วรสะอาด ไม่ควรใชบ้ รรจุวตั ถุมพี ิษ ปุย๋ หรอื วัตถอุ น่ืใดทเี่ ป็นอันตรายต่อไก่ 3.3.4 ควรจัดใหม้ ีการตรวจสอบคุณภาพอาหารไก่ เพ่ือตรวจสอบวิเคราะหค์ ณุ ภาพและสารตกค้างตามกฎหมายวา่ ด้วยการควบคุมคณุ ภาพอาหารสัตว์ 3.4 หลกั เกณฑเ์ กีย่ วกบั สขุ ลักษณะเครอื่ งมอื เคร่ืองใช้ อปุ กรณ์ น้าดืม่ นา้ ใช้ 3.4.1 เคร่อื งมอื เครื่องใช้ และอุปกรณ์ รวมถึงสวติ ซ์และสายไฟต่าง ๆ ต้องไดร้ ับการทาความสะอาดและบารุงรักษาให้อยู่ในสภาพดี กรณีใชอ้ ปุ กรณก์ ารเลยี้ งแบบอตั โนมัตติ ้องมีการตรวจสอบการทางานทกุ วัน ถ้าพบวา่ ชารดุ ตอ้ งดาเนนิ การแกไ้ ขทนั ที หรอื มขี ั้นตอนทเี่ หมาะสมและมีอุปกรณ์สารองเมื่อเกิดการชารดุ เสยี หาย เฉพาะโรงเรือนระบบปิดตอ้ งมีสัญญาณเตอื นกรณีระบบขดั ข้อง 3.4.2 นา้ ทใี่ ชใ้ นสถานประกอบกจิ การ ตอ้ งเป็นนา้ ท่ีสะอาดเหมาะสมต่อการนาไปใช้ปราศจากการปนเปื้ อนมูลสัตว์หรือนา้ เสยี จากโรงเรอื น และมปี ริมาณเพยี งพอสาหรับการใชใ้ นแต่ละวัน โดยมรี ะบบสารองน้าไวใ้ ชใ้ นกรณีฉกุ เฉนิ 3.4.3 ต้องจดั ใหม้ ีนา้ ดม่ื ท่ไี ดค้ ุณภาพตามมาตรฐานน้าดืม่ สาหรบั บริการผ้ปู ฏิบัตงิ านอยา่ งเพยี งพอ ตั้งอยู่ในบรเิ วณทแี่ ยกออกจากโรงเรือนเลีย้ งไก่ และลักษณะการจดั บริการนา้ ดื่มตอ้ งไม่กอ่ ใหเ้ กดิ ความสกปรกหรือการปนเปอ้ื น
3.5 หลกั เกณฑ์เกยี่ วกบั สุขอนามยั ของผูป้ ฏิบัติงาน 3.5.1 ผ้ปู ฏิบัตงิ านต้องไดร้ ับการตรวจสุขภาพเป็นประจาทกุ ปี และมีสุขภาพแขง็ แรงไม่เปน็ โรคติดตอ่ หรอื โรคท่สี ังคมรังเกียจ โรคท่ีเกีย่ วข้องกับทางเดนิ อาหาร ทางเดินหายใจและบาดแผลติดเชอ้ื หรือไมเ่ ปน็ โรคตดิ ตอ่ เชน่ วัณโรค อหิวาตกโรค บิด สกุ ใส หัด คางทูม เรอ้ื น ไวรัสตับอกั เสบเอ โรคพยาธิ และโรคผิวหนังท่นี ่ารงั เกยี จ เปน็ ตน้ หากผูป้ ฏบิ ตั งิ านปุวยด้วยโรคดงั กล่าวตอ้ งหยุดพกั รกั ษาให้หาย 3.5.2 สถานประกอบกิจการเล้ยี งไก่ ขนาดตั้งแต่ 10,000 ตัวขนึ้ ไป ต้องมีผดู้ แู ลดา้ นสขุ าภิบาลสงิ่ แวดลอ้ ม 1 คน โดยเป็นผทู้ ีม่ ีความรผู้ ่ านการอบรมการจดั การสขุ าภิบาลสง่ิ แวดล้อมและสขุ วทิ ยาสว่ นบุคคล 3.5.3 ผู้ปฏบิ ตั ิงานต้องได้รบั การอบรมในเร่อื งเกี่ยวกับสุขอนามัย การปูองกันตนจากโรคติดต่อจากสัตวส์ คู่ น และการควบคุมสตั วแ์ มลงพาหะนาโรค 3.5.4 ผู้ปฏิบัตงิ านในโรงเรือนเลยี้ งไก่จะตอ้ งปฏบิ ัตดิ งั น้ี (1) อาบน้า สระผม ชาระลา้ งรา่ งกายให้สะอาดทกุ ครั้งกอ่ นเข้าหรือออกจากฟาร์ม และตอ้ งล้างมือด้วยสบ่ทู กุ ครั้งภายหลงั ออกจากห้องส้วมและจบั ตอ้ งส่ิงปนเปือ้ นต่างๆ )2( จุม่ เทา้ ในอา่ งน้ายาฆา่ เชอ้ื โรค และล้างมอื กอ่ นเขา้ และออกจากฟารม์และโรงเรือน (3) สวมใส่ชุดปฏิบัตงิ านทส่ี ถานประกอบกิจการจดั ไว้ให้ โดยตอ้ งเป็นเครอ่ื งแบบทม่ี คี วามสะอาดและเหมาะสมในแตล่ ะกจิ กรรมท่ปี ฏิบตั ิ (4) ในกรณที ่มี ีบาดแผล ต้องปดิ แผลดว้ ยทปี่ ิดแผล ถา้ มีบาดแผลทีม่ อื ตอ้ งสวมถุงมอื หรือปลอกน้วิ ขณะปฏบิ ตั งิ าน 3.5.5 ผปู้ ฏิบัติงานไมค่ วรพักอาศัยในโรงเรอื น 3.6 หลกั เกณฑ์เกี่ยวกบั การจดั การน้าเสีย มูลฝอย สง่ิ ปฏกิ ลู 3.6.1 ต้องมกี ารบาบัดน้าเสียใหไ้ ดต้ ามเกณฑม์ าตรฐานนา้ ท้งิ ตามกฎหมายท่ีเกย่ี วขอ้ งก่อนปล่อยออกสู่ภายนอกสถานประกอบกิจการและต้องดแู ลทางระบายนา้ ไมใ่ หอ้ ุดตนั 3.6.2 กรณีทไี่ ม่มกี ารระบายน้าท้ิงออกนอกสถานประกอบการ ผ้ปู ระกอบการจะตอ้ งมีการจัดการน้าเสียทเี่ กดิ ข้ึนท้ังหมดโดย จะต้องมีการปูองกนั ไม่ให้มีนา้ เสยี หรอื กลิ่นเหมน็กระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อมภายนอก 3.6.3 ต้องมกี ารจัดการ หรือควบคมุ ปัญหากลิ่นเหมน็ สัตว์ และแมลงพาหะนาโรคไมใ่ ห้สง่ ผลกระทบตอ่ ชุมชนโดยรอบ 3.6.4 ต้องจดั ให้มภี าชนะรองรบั มลู ฝอยที่ถกู หลักสุขาภบิ าล เหมาะสม เพียงพอ โดยมีการคดั แยกตามประเภทของมูลฝอย 3.6.5 ต้องมกี ารรวบรวมมูลฝอยและนาไปกาจดั อยา่ งถูกตอ้ งตามหลักสขุ าภิบาลและปฏบิ ตั ิตามขอ้ กาหนดของทอ้ งถ่นิ ว่าด้วยการนัน้ ห้ามนาไปทิ้งในท่ีสาธารณะหรือแหล่งน้า
สาธารณะ ในกรณที ีม่ ีการนามลู ไกแ่ ละวสั ดุรองพ้ืนอ อกจากสถานประกอบการผู้ประกอบการต้องจดั ให้ผ้ดู าเนินการเคลื่อนย้าย มีมาตรการเพ่อื ปูองกันเหตุเดือดร้อนราคาญ และไมเ่ ป็นแหล่งเพาะพนั ธ์สุ ตั ว์และแมลงพาหะนาโรค 3.6.6 ตอ้ งมกี ารจดั การ กาจัดภาชนะบรรจสุ ารเคมี หรือน้ายาฆ่าเชื้อทใ่ี ชแ้ ลว้ อย่างถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ 3.6.7 ต้องมีหอ้ งนา้ หอ้ งสว้ ม อ่างลา้ งมือ ถกู ตอ้ งตามหลกั สุขาภบิ าล มีการดแู ลรกั ษาความสะอาดเปน็ ประจา มีการบาบดั และกาจัดสง่ิ ปฏิกูลอยา่ งถูกตอ้ งตามหลกั สขุ าภบิ าล 3.7 หลกั เกณฑเ์ ก่ยี วกับการขนส่ง 3.7.1 ยานพาหนะทใ่ี ชใ้ นการขนสง่ ควรอยใู่ นสภาพท่ปี ลอดภยั และสะอาด 3.7.2 ยานพาหนะทุกชนดิ ท่เี ขา้ และออกจากสถานประกอบการ จะต้องแล่นผา่ นระบบการฆ่าเชื้อต่างๆ เช่น บ่อนา้ ยาฆา่ เช้ือโรค หรือโรงพ่นน้ายาฆ่าเชอื้ โรค หรอื เครือ่ งพ่นน้ายาฆ่าเชอื้ โรค กบั ยานพาหนะ ด้วยน้ายาฆา่ เชอื้ โรคทีม่ คี วามเขม้ ขน้ ตามเอกสารกากบั การใช้ 3.7.3 ยานพาหนะที่ใชส้ าหรบั เก็บขนมูลไก่ หรือมูลไกร่ วมวสั ดรุ องพ้ืนออกนอกสถานประกอบการจะตอ้ งทาการปิดคลุมด้วยผา้ ใบหรื อวสั ดอุ ่นื ใด อย่างมิดชดิ ไม่ใหม้ กี ารตกหล่นออกจากยานพาหนะ 3.7.4 อุปกรณ์ และภาชนะทใี่ ชใ้ นการขนสง่ ไก่ควรทาด้วยวสั ดุท่ไี ม่ดดู ซึมนา้ และไดร้ ับการฆ่าเชื้อโรคกอ่ นและหลังการใชท้ กุ ครงั้ 3.8 หลักเกณฑเ์ กย่ี วกับการจดั การแหลง่ แพรเ่ ช้ือโรคหรอื สตั วแ์ ละแมลงนาโรค 3.8.1 ต้องปูองกันโรคติดตอ่ ทเี่ กิดจากสัตว์ ดว้ ยวธิ กี ารทีเ่ หมาะสมและถกู ต้อง กรณีทีม่ กี ารระบาดของโรคตดิ ตอ่ ท่เี กิดจากสตั ว์ สถานประกอบกจิ การต้องมีระบบปูองกัน และควบคุมโรคได้ ซงึ่ รวมถึงการทาลา ยเชอื้ โรคก่อนเข้าสถานประกอบการ และควบคมุ โรคใหส้ งบไม่ใหแ้ พร่ระบาดออกจากสถานประกอบการไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสตั ว์ 3.8.2 ภายในสถานประกอบกจิ การควรมอี ปุ กรณฆ์ า่ เชอ้ื ทีม่ ีประสิทธภิ าพ และอยใู่ นสภาพท่ีพร้อมใชง้ าน 3.8.3 หลงั นาไก่อ อกจากโรงเรอื นตอ้ งทาความสะอาด และฆา่ เชอื้ โรงเรอื นเล้ียงไก่และบรเิ วณโดยรอบ และปิดพักโรงเรอื นในระยะเวลาไมน่ อ้ ยกว่า 7-21 วัน หรือตามขอ้ กาหนดของกรมปศสุ ตั ว์ 3.8.4 เมื่อพบไก่ปวุ ย ควรแยกไก่ปวุ ยออกจากไก่ปกติ หากสงสัยว่าไกป่ วุ ยเปน็ โรคระบาด เช่น นวิ คาสเซิล ไขห้ วดั นก เป็นต้น ต้องแจง้ เจา้ หนา้ ทที่ ่เี ก่ียวข้องโดยเรง่ ด่วน และดาเนนิ การตามทเ่ี จ้าหนา้ ทก่ี าหนดอย่างเคร่งครดั ตามกฎหมายวา่ ด้วยโรคระบาดสัตว์
3.8.5 การทาลายซากไก่เพอื่ ปูองกนั การเปน็ แหล่งเพาะพนั ธุ์ของสตั วแ์ ละแมลงนาโรคสามารถดาเนนิ การไดอ้ ยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ดงั น้ี (1) การทาลายโดยการเผา ต้องมีสถานทีเ่ ผา เตาเผา อยใู่ นบรเิ วณเหมาะสม เผาซากจนหมด การเผาต้องไม่ก่อให้เกิดมลพษิ หรอื เหตรุ าคาญ (2) การทาลายโดยการฝัง ต้องมีเนื้อทเี่ พียงพอ และไม่อยใู่ นบรเิ วณที่มีนา้ ทว่ มถงึ ไม่มีนา้ ขัง ห่างจากแหลง่ นา้ ไมน่ ้อยกวา่ 30 เมตร ใชน้ า้ ยาฆ่าเช้ือโรคที่เหมาะสมทาการราดหรอื โรยปนู ขาว บนสว่ นต่าง ๆ ของซากไกจ่ นทว่ั และใหฝ้ ังซากใตร้ ะดบั ผิวดนิ ไมน่ อ้ ยกวา่50 เซนตเิ มตรหรือหากซากมีจานวนมาก ให้ทาการพูนดนิ กลบหลมุ เหนือระดับผวิ ดิน ไม่น้อยกว่า 50เซนติเมตร ซงึ่ การฝงั กลบนตี้ ้องสามารถปอู งกนั การคยุ้ เขยี่ ของสัตวไ์ ด้ สถานทกี่ าจัดซากไก่ตอ้ งห่างจากบรเิ วณอาคารหรือโรงเรอื นเล้ยี งไก่ อาคารสานักงาน อาคารพกั อาศยั และตอ้ งเปน็ ไปตามคาแนะนาของกรมปศุสัตว์หรือปฏบิ ตั ิตามค่มู ือการปฏิบตั งิ านของกรมปศสุ ตั ว์ 3.8.6 ตอ้ งควบคมุ ปูองกันสตั ว์ และแมลงนาโรคในสถานประกอบกจิ การ เช่น หนูแมลงวัน แมลงสาบ เปน็ ตน้ ทอ่ี าจเปน็ แหลง่ เพาะพนั ธุ์เชื้อโรค หรอื อาจกอ่ ให้เกิดความเสยี่ งในการแพร่กระจายของเชอื้ โรคติดตอ่ หรือก่อเหตุเดอื ดรอ้ นราคาญตอ่ ผ้อู าศยั ในบริเวณใกลเ้ คียง 3.9 หลกั เกณฑ์เก่ยี วกับความปลอดภัยและการปอ้ งกนั เหตรุ าคาญ 3.9.1 จดั ใหม้ ีหอ้ ง หรอื ตเู้ ก็บสารเคมี นา้ ยาฆ่าเช้ือ หรือสง่ิ ของท่ีอาจก่อใหเ้ กดิอนั ตรายหรืออคั คีภัยไดง้ ่ายโดยเฉพาะ โดยตอ้ งจัดใหม้ คี วามเปน็ ระเบียบเรยี บร้อย และแสดงปูายชื่อชนดิ หรอื ประเภทสารเคมี ท่จี ดั เก็บดงั กลา่ วอย่างชดั เจน ท้ังน้ตี อ้ งเป็นไปตามกฎหมายวา่ ด้วยวัตถุอนั ตรายและกฎหมายอน่ื ท่ีเกีย่ วขอ้ ง 3.9.2 ระดบั ความเข้มขน้ ของก๊าซแอมโมเนียบรเิ วณสถานประกอบการ ค่าเฉลย่ี8 ชวั่ โมง การทางานต้องไมเ่ กนิ 50 พพี ีเอม็ 3.9.3 ควรควบคุมปอู งกันกิจกรรมต่างๆ ของสถานประกอบกิจการ มิให้เป็นเหตุราคาญ หรอื เปน็ อันตรายตอ่ สุขภาพของคนงาน และผู้อยอู่ าศยั ใกล้เคยี งหรืออยู่ ในเสน้ ทางการสัญจรของสถานประกอบกิจการ 3.9.4 ควรจดั ใหม้ ีอุปกรณ์ปอู งกันอันตรายสว่ นบุคคลตามความเสยี่ ง ใหก้ บัผูป้ ฏิบตั งิ านในสถานประกอบกจิ การ เช่น แวน่ ตา หน้ากาก ผา้ ปดิ จมกู หมวกคลุมผม รองเท้า ฯลฯ4. การจัดทามาตรฐานฟาร์ม การจัดทามาตรฐานวา่ ด้วยการขอรับและออกใบรบั รองมาตรฐานฟารม์ เล้ยี งสัตว์ ให้เป็นไปตามหลักวิชาการด้านการจดั การฟารม์ ด้านสขุ อนามยั และการจัดการดา้ นสิง่ แวดล้อมให้เป็นรูปแบบมาตรฐานเดียวกนั และให้สอดคล้องกับโครงสรา้ งใหม่ กรมปศุสัตว์จงึ วางระเบียบไว้ ว่าด้วยการขอรับและออกใบรับรองมาตรฐานฟารม์ เลี้ยงสตั ว์ พ.ศ. 2546 ดงั ตอ่ ไปนี้ 4.1 คุณสมบัตขิ องผ้ปู ระกอบการทขี่ อรบั รองมาตรฐานฟารม์
4.1.1 ผูป้ ระกอบการที่มคี วามประสงค์ใหก้ รมปศุสตั วอ์ อกใบรบั รองมาตรฐานฟารม์เล้ียงสตั ว์ต้องผ่านการฝึกอบรมตามหลักสตู ร การฝึกอบรมผปู้ ระกอบการท่กี รมปศสุ ตั ว์กาหนด 4.1.2 ผปู้ ระกอบการตอ้ งเปน็ เจ้าของหรือผู้จัดการฟาร์มทีข่ อรับรองมาตรฐานฟาร์มหรอื ผู้ได้รบั การรบั รองมาตรฐานฟารม์ จากกรมปศสุ ัตว์ 4.1.3 ผูป้ ระกอบการต้องปรบั ปรุงฟารม์ ให้มคี ุณสมบตั ิตามมาตรฐานฟารม์ ที่กรมปศสุ ัตว์กาหนด 4.2 การย่ืนคาขอรับรองมาตรฐานฟารม์ เลีย้ งสตั วแ์ ละการฝกึ อบรมผปู้ ระกอบการ 4.2.1 สานกั สขุ ศาสตร์สัตว์และสุขอนามัย ประกาศรับสมคั รผู้ประกอบการท่ีมีความประสงค์ขอรบั รองมาตรฐานฟาร์มเลีย้ งสัตว์ 4.2.2 ให้ผูป้ ระกอบการยน่ื คาขอรบั รองมาตรฐานฟารม์ พรอ้ มหลกั ฐานท่สี านกั งานปศุสัตวจ์ งั หวัด ณ ทอ้ งท่ที ่ีฟาร์มต้งั อยู่ 4.2.3 เมอื่ สานักงานปศุสตั วจ์ งั หวดั ได้รับคาขอพรอ้ มหลกั ฐานตาม ขอ้ . (4.2.2) แลว้ให้ผ้รู บั คาขอตรวจสอบคาขอ หลักฐานและคุณสมบตั ิ พรอ้ มท้ังแจ้งให้เจ้าหน้าที่สานกั งานปศุสัตว์จงั หวัดในท้องที่นั้นไปตรวจฟารม์ ของผูป้ ระกอบการ ท่ไี ด้ย่ืนคาขอไวใ้ นเบ้อื งต้นวา่ มีองคป์ ระกอบพืน้ ฐานครบ 5 ประการหรือไม่ ดงั นี้ )1( มรี ะบบการทาลายเชื้อโรคกอ่ นเข้า และออกจากฟาร์ม )2( มกี ารจดั การโรงเรือนทถี่ กู ต้องตามหลักสุขาภบิ าล )3( โรงเรือนท่ีใช้เล้ยี งสัตวม์ ีลกั ษณะและขนาดเหมาะสมกบั จานวนสัตว์ )4( การจดั การดา้ นบคุ ลากร สตั วแพทย์ สัตวบาล และผเู้ ลย้ี งสตั วต์ อ้ งมีเพียงพอ และเหมาะสมกับจานวนสตั ว์ )5( การจดั การดา้ นสขุ ภาพสตั ว์ โดยมีโปรแกรมการใหว้ คั ซีนปอู งกนั โรคที่เหมาะสม 4.2.4 ฟารม์ ที่มีองคป์ ระกอบพืน้ ฐานครบ 5 ประการ ตาม ขอ้ . (4.2.3) ให้เจ้าหนา้ ที่สานกั งานปศสุ ัตว์จังหวัดในท้องที่ รายงานส่งไปยังผอู้ านวยการสานกั สุขศาสตร์สตั วแ์ ละสุขอนามัยพร้อมดว้ ยคาขอรบั รองมาตรฐานฟาร์ม และหลกั ฐานตา่ งๆ น้ัน 4.2.5 ให้ผู้อานวยการสานกั สขุ ศาสตร์สตั วแ์ ละสขุ อนามัย รวบรวมรายชือ่ผู้ประกอบการที่มีสทิ ธิอบรม และดาเนนิ การฝกึ อบรมตอ่ ไป 4.2.6 สานกั สุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามยั จดั การฝึกอบรมให้แก่ผู้ประกอบการตามหลกั สตู รทกี่ รมปศุสัตว์กาหนด
4.3 สถานทฝ่ี ึกอบรม การปฏบิ ตั ิเกีย่ วกับการฝกึ อบรม4.3.1ใหค้ ณะกรรมการฝกึ อบรมผปู้ ระกอบการแจ้ง สถานท่ีฝกึ อบรมให้ผปู้ ระกอบการทเี่ ขา้ รับการฝกึ อบรมทราบ4.3.2 สถานที่ฝึกอบรม จดั ข้นึ ในสถานท่ีท่เี หมาะสม4.3.3 ผูป้ ระกอบการทเ่ี ข้ารับการฝกึ อบรมตอ้ งลงทะเบยี นและเขา้ รบั การฝกึ อบรมในหลักสูตรทีก่ รมปศสุ ตั วก์ าหนด ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 ของหลักสูตร 4.4 การรายงานผลการฝกึ อบรม ให้คณะกรรมการฝึกอบรมผู้ประกอบการ นาผลการฝึกอบรมเสนอผอู้ านวยการสานัก สุขศาสตร์สัตวแ์ ละสขุ อนามยั เพอื่ ออกใบประกาศนยี บตั รใหแ้ ก่ผูป้ ระกอบการทผี่ า่ นการฝกึ อบรมและใช้ประกอบการพจิ ารณาออกใบรบั รองมาตรฐานฟารม์ ต่อไป 4.5 การตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์ม 4.5.1 คณะผูต้ รวจรับรองมาตรฐานฟาร์ม ตรวจประเมนิ ฟาร์มตามหลักเกณฑ์มาตรฐานฟาร์มทีก่ รมปศุสัตวก์ าหนด 4.5.2 คณะผ้ตู รวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ ประกอบด้วย หวั หนา้ คณะผตู้ รวจรบั รองมาตรฐานฟาร์ม ผตู้ รวจรับรองมาตรฐานฟารม์ ผเู้ ชี่ยวชาญเฉพาะด้านรวมอยา่ งน้อย 6 คน และอาจมีผู้สังเกตการณร์ ว่ มด้วยก็ได้ ทั้งน้ี ในการตรวจรับรองมาตรฐานฟารม์ จะต้องมีผตู้ รวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ อยา่ งน้อย 3 คน โดยใหม้ ผี ้ตู รวจรบั รองมาตรฐานฟาร์มจากสานักสุขศาสตรส์ ตั วแ์ ละสขุ อนามยัอยา่ งนอ้ ย 1 คน 4.5.3 หวั หนา้ คณะผู้ตรวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ แจ้งกาหนดนัดหมาย การตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์มให้แก่ผู้ประกอบการทราบล่วงหนา้ 15 วนั 4.5.4 ในการตรวจรบั รองมาตรฐานฟาร์ม คณะผ้ตู รวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ แนะนาตวั ต่อผปู้ ระกอบการ และดาเนินการดังน้ี )1( แจง้ วตั ถุประสงค์และขอบเขตของการตรวจรบั รองมาตรฐานฟาร์ม )2( ขอขอ้ มลู รายละเอียดของฟาร์มเพม่ิ เติม ในกรณที มี่ ีข้อมลู ในการตรวจสอบไม่เพียงพอ )3( กาหนดรายละเอยี ดแผนการตรวจรบั รองมาตรฐานฟาร์ม และเวลาทใี่ ช้ในการตรวจ)4( ตรวจสอบการดาเนนิ การแก้ไขข้อบกพร่องจากการตรวจครงั้ ท่ผี ่านมา 4.5.5 ดาเนนิ การตรวจรบั รองมาตรฐานฟาร์ม โดยมเี จ้าหนา้ ที่ของฟารม์ นาตรวจตลอดเวลา 4.5.6 เม่ือพบข้อบกพร่องไมถ่ ูกต้องตามมาตรฐานฟารม์ ใหจ้ ดรายละเอียดในบันทึกเพือ่ เปน็ หลักฐานของผูต้ รวจรับรองมาตรฐานฟาร์ม 4.5.7 คณะผตู้ รวจรับรองมาตรฐานฟารม์ ต้องปรึกษาหารอื กันเกี่ยวกับขอ้ บกพรอ่ งที่พบ 4.5.8 หวั หนา้ คณะผูต้ รวจรับรองมาตรฐานฟารม์ สรปุ ผล การตรวจรบั รองมาตรฐาน
ฟารม์ และขอ้ บกพรอ่ งที่พบใหผ้ ปู้ ระกอบการรวมทง้ั ผ้ทู ่เี ก่ียวข้องไดร้ บั ทราบและเปดิ โอกาสให้ผู้ประกอบการช้ีแจงเพม่ิ เติม ตลอดจนกาหนดระยะเวลาในการแก้ไขขอ้ บกพร่องร่วมกนั 4.5.9 จัดทาบันทกึ สรุปผลการตรวจรบั รองมาตรฐานฟาร์ม และระยะเวลาในการแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งโดยลงลายมือช่อื รว่ มกนั พร้อมทง้ั มอบสาเนาเอกสารใหผ้ ู้ประกอบการ 4.6 รปู แบบการตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์ม รปู แบบการตรวจรบั รองมาตรฐานฟาร์มมี 4 แบบ ดังน้ี 4.6.1 การตรวจชนิดเตม็ รปู แบ บ (Full Auditing) เปน็ การตรวจรับรองมาตรฐานฟารม์ อย่างละเอียดในทกุ ดา้ น ซง่ึ ดาเนินการเมอ่ื มกี ารขอรบั รองมาตรฐานฟารม์ ใหม่ หรือขอต่ออายุใบรบั รองมาตรฐานฟาร์ม หรือเปล่ยี นแปลงแกไ้ ข หรอื กระทาผิดระเบยี บมาตรฐานฟาร์ม 4.6.2 การตรวจติดตา ม (Follow-up Auditing) เป็นการตรวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ เพอื่ ตดิ ตามผลการแก้ไขข้อบกพร่องจากการตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์มครั้งกอ่ น 4.6.3 การตรวจชนิดย่อ (Concise Auditing) เปน็ การตรวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ทีม่ ีประวตั กิ ารปฏบิ ัติตามระเบยี บมาตรฐานฟารม์ อย่างต่อเนือ่ ง เช่น การตรวจทุกๆ 6 เดือน หรอื ทกุ ๆ1 ปี การตรวจชนิดน้ีจะเลอื กขอ้ กาหนดบางหวั ขอ้ ของ มาตรฐานฟารม์ มาเปน็ ตัวบง่ ช้ีถึงภาพรวมของการปฏิบตั ติ ามมาตรฐานของฟารม์ แหง่ นั้น แต่ถา้ มีการตรวจพบว่ามีการฝุาฝนื ระเบยี บมาตรฐานฟารม์คณะผูต้ รวจรับรองมาตรฐานฟารม์ อาจปรับการตรวจเปน็ การตรวจชนดิ เตม็ รปู แบบไดท้ นั ที 4.6.4 การตรวจกรณีพิเศ ษ (Special Auditing) เป็นการตรวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ เม่อื มีปญั หาหรือมกี ารร้องเรียนเก่ยี วกบั คณุ ภาพผลผลิตท่ไี ม่ไดม้ าตรฐาน หรอื เฉพาะด้านเช่นการจดั การดา้ นสงิ่ แวดล้อม เป็นต้น การตรวจชนดิ นีจ้ ะมุ่งเนน้ เกี่ยวกับเร่ืองท่ีเปน็ ปัญหาเทา่ น้ัน38 มาตรฐานฟารม์ ไก่ไข่ 4.7 การจัดทารายงานผลการตรวจรบั รองมาตรฐานฟาร์ม คณะผตู้ รวจรับรองมาตรฐานฟาร์ม จดั ทารายงานผลการตรวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ ซึง่ มีหลักปฏบิ ัติ ดงั นี้ 4.7.1 เนอ้ื หาของรายงานตอ้ งเป็นข้อเท็จจริง มขี ้อความชดั เจน 4.7.2 ใหผ้ ู้ตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์มทุกคน ไดพ้ จิ ารณาร่างรายงานผลการตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์ม เพ่อื เสนอข้อคดิ เหน็ 4.7.3 ใหค้ ณะผตู้ รวจรับรองมาตรฐานฟารม์ ลงลายมอื ช่ือในรายงานผลการตรวจมาตรฐานฟาร์ม การจัดทารายงานผลการตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์ม โดยมีรายละเอยี ดแบ่งเปน็2 สว่ น ดังนี้ (1) รายละเอียดข้อมลู ท่ัวไป - ชอ่ื และท่ีตง้ั ของฟารม์
- วัน เดือน ปี ทที่ าการตรวจครง้ั นีแ้ ละครงั้ ทแ่ี ลว้ - ชื่อคณะผตู้ รวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ - ช่ือ และตาแหน่งของผู้ท่ใี หข้ อ้ มูล - วตั ถุประสงคข์ องการตรวจรบั รองมาตรฐานฟาร์ม - ขอบเขตของการตรวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ - การเกบ็ ตัวอย่าง )ถา้ มี( (2) สรุปผลการตรวจ - ลกั ษณะเดน่ ของการปฏบิ ตั ิตามมาตรฐาน )ถา้ มี( - ข้อบกพร่องทไี่ ดแ้ กไ้ ขจากการตรวจคร้ังทแี่ ล้ว - ข้อบกพร่องทย่ี ังไม่แก้ไขจากการตรวจครงั้ ทแ่ี ลว้ พร้อมกาหนดระยะเวลาท่แี กไ้ ข - ข้อบกพรอ่ งทต่ี รวจพบครง้ั น้ี พรอ้ มกาหนดระยะเวลาทีแ่ กไ้ ข - ในกรณที เ่ี ปน็ การตรวจติดตามตามรูปแบบการตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์มใน ข้อ. 4.6 (4.6.2) ใหร้ ายงานเฉพาะ ข้อ. 4.7.3 (2)มาตรฐานฟาร์มไก่ไข่ 39 4.8 การแจง้ ผลการตรวจรับรองมาตรฐานฟารม์ อยา่ งเป็นทางการ คณะผู้ตรวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ มหี นังสอื ราชการแจง้ ผลการตรวจรับรองมาตรฐานฟารม์ พรอ้ มแนบรายงานผลการตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์มให้ผูป้ ระกอบการทราบภายใน15 วนั ทาการ นบั จากวันท่เี สร็จส้ินการตรวจและใหผ้ ้ปู ระกอบการแจง้ รายละเอียดการ แกไ้ ขขอ้ บกพร่องให้ผู้อานวยการสานักสขุ ศาสตรส์ ตั วแ์ ละสุขอนามัยทราบภายใน 15 วัน นบั จากวันทีไ่ ดร้ ับหนงั สือ ถ้าผปู้ ระกอบการไม่จดั ส่งหนังสอื ตอบรบั เพ่อื แจง้ รายละเอยี ดการแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งภายในกาหนดระยะเวลาขา้ งต้น ให้ถือวา่ ผู้ประกอบการยอมรับท่จี ะแก้ไขข้อบกพร่องตามท่คี ณะผตู้ รวจรบั รองมาตรฐานฟาร์มระบไุ ว้ 4.9 การออกใบรบั รองมาตรฐานฟารม์ 4.9.1 ให้เลขานุการคณะผู้ตรวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ นาผลการตรวจรบั รองมาตรฐานฟาร์มทีผ่ า่ นการรบั รองเสนอผู้อานวยการสานกั สุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามยั เพือ่ พิจารณาออกใบรบั รองมาตรฐานฟารม์ แลว้ สง่ ใบรับรองมาตรฐานฟารม์ นนั้ ให้ปศสุ ตั วจ์ ังหวดั เพอ่ื มอบให้แก่ผูป้ ระกอบการต่อไป 4.9.2 ใบรบั รองมาตรฐานฟาร์มให้ใชไ้ ด้ 2 ปี นบั แต่วันออกใบรับรอง
4.10 การตอ่ อายุใบรับรองมาตรฐานฟาร์ม 4.10.1 ผู้ประกอบการทมี่ คี วามประสงคข์ อต่ออายใุ บรับรองมาตรฐานฟาร์มใหย้ ่นื คาขอรับรองมาตรฐานฟาร์มพร้อมหลักฐาน กอ่ นหมดอายุภายใน 30 วนั ท่สี านกั งานปศสุ ตั วจ์ ังหวัดพรอ้ มกบั ใบรับรองมาตรฐานฟาร์มฉบบั เดมิ 4.10.2 ใหเ้ จ้าหนา้ ท่สี านกั งานปศสุ ตั วจ์ ังหวัดในทอ้ งท่ีน้ันรวบรวมคาขอดาเนินการตรวจสอบเอกสารเบอ้ื งตน้ และนาเสนอเลขานกุ ารคณะผูต้ รวจรับรองมาตรฐานฟารม์ เพือ่ นดั หมายการตรวจรับรองมาตรฐานฟารม์ ตอ่ ไป 4.10.3 คณะผตู้ รวจรับรองมาตรฐานฟารม์ จะดาเนินการนัดหมายและตรวจรับรองมาตรฐานฟารม์ เชน่ เดยี วกบั การตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์ม (ข้อ.(4.5) การตรวจรับรองมาตรฐานฟารม์ ใน ข้อ. (4.5.1) – ข้อ. (4.5.9)40 มาตรฐานฟาร์มไก่ไข่ 4.10.4 การแจ้งผลการตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์มอย่างเปน็ ทางการคณะผู้ตรวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ จะแจง้ ผลอยา่ งเป็นทางการ เช่นเดียวกบั การแสดงผลตาม (ขอ้ . (3.8) การแจง้ผลการตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์มอย่างเปน็ ทางการ 4.10.5 การพจิ ารณาการตอ่ อายุใบรับรองมาตรฐานฟารม์ เม่อื คณะผตู้ รวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ เหน็ ว่า ผู้ประกอบการรายใดเหมาะสมทจี่ ะได้รบั ใบรบั รองมาตรฐานฟารม์ ต่อไปให้เลขานุการคณะผ้ตู รวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ นาผลการตรวจรบั รองมาตรฐานฟาร์มที่ผ่านการรบั รองจากคณะผู้ตรวจรับรองมาตรฐานฟา ร์ม และมคี ณุ สมบตั ิครบถว้ นตามมาตรฐานฟาร์มเสนอผู้อานวยการสานกั สขุ ศาสตรส์ ัตว์และสขุ อนามยั ตอ่ อายใุ บรบั รองมาตรฐานฟารม์ โดยเติมคาว่า ตอ่ \"และลงนามโดยผู้อานวยการสานักสุขศาสตรส์ ตั ว์และ \"อายุสุขอนามัยเป็นสาคญั การอนญุ าตใหต้ ่ออายใุ บรับรองมาตรฐานฟาร์ม ใหน้ ับตอ่ จากวันหมดอายใุ บรบั รองมาตรฐานฟารม์ ฉบบั เดมิ เป็นตน้ ไป 4.11 การจดั ทาและเกบ็ สมุดทะเบยี น เลขานกุ ารคณะผูต้ รวจรบั รองมาตรฐานฟารม์ เปน็ ผจู้ ดั ทาและเกบ็ รักษาสมุดทะเบยี นผู้ประกอบการทไ่ี ดร้ ับการรบั รองมาตรฐานฟาร์ม 4.12 การพิจารณาการเพิกถอนใบรับรองมาตรฐานฟาร์ม 4.12.1 ผูอ้ านวยการสานกั สขุ ศาสตร์สัตวแ์ ละสุขอนามัยจะดาเนนิ การเพิกถอนใบรับรองมาตรฐานฟารม์ พร้อมท้ังขึ้นทะเบยี นประวตั เิ ป็นฟารม์ ท่ีไมไ่ ด้มาตรฐานหากปรากฏว่าคณะผู้ตรวจรบั รองมาตรฐานฟาร์มไดต้ รวจตามรปู แบบการตรวจรับรองมาตรฐานฟารม์ แลว้ ภายหลงั พบวา่เกิดความบกพรอ่ งของงานในความรบั ผดิ ชอบอันเน่ืองมาจากผ้ปู ระกอบการ
4.12.2 ฟาร์มท่อี ยู่ในทะเบยี นประวัตเิ ปน็ ฟารม์ ท่ีไมไ่ ด้มาตรฐานจะไม่ไดร้ บั การพิจารณารบั รองมาตรฐานฟาร์มเป็นเวลา 3 ปี 4.13 องค์ประกอบพนื้ ฐานของฟารม์ เลยี้ งสตั วท์ ่ขี อใบรบั รองมาตรฐาน 4.13.1 มที าเลท่ีตัง้ ฟารม์ ตลอดจนมีการออกแบบส่ิงก่อสร้างและโรงเรือนที่เหมาะสม 4.13.2 มีระบบทาลายเชอ้ื โรคก่อนเขา้ – ออกจากฟาร์มมาตรฐานฟารม์ ไก่ไข่ 41 4.13.3 การจัดการโรงเรอื น สิง่ แวดล้อมและกา รจัดการของเสยี ทถี่ กู ตอ้ งตามหลักสขุ าภบิ าล 4.13.4 โรงเรือนทใ่ี ชเ้ ลยี้ งสตั ว์มีลักษณะและขนาดท่เี หมาะสมกบั จานวนสตั ว์ 4.13.5 มกี ารจัดการดา้ นอาหารสัตวอ์ ย่างถกู ต้องตามหลกั สุขศาสตร์ 4.13.6 มคี ่มู ือการจดั การฟารม์ และมรี ะบบการบนั ทกึ ข้อมลู 4.13.7 การจดั การดา้ นสขุ ภาพสัตว์ มโี ปรแกรมการให้วคั ซีนปอู งกนั โรคและการให้ยาบาบดั โรคเมอ่ื เกิดโรค 4.13.5 การจัดการดา้ นบุคคล สัตวแพทย์ สตั วบาล และผู้เล้ียงสัตวต์ ้องมเี พียงพอและเหมาะสมกับจานวนสตั ว์ พร้อมทงั้ มสี วสั ดิการสงั คมและการตรวจสุขภาพประจาปใี หก้ บั บคุ ลากร 4.14 สทิ ธปิ ระโยชนข์ องฟารม์ เลี้ยงสตั วท์ ี่ได้มาตรฐาน 4.14.1 การเคลือ่ นย้ายสตั ว์ ผปู้ ระกอบการฟาร์มเลี้ยงโคนมและสุกรสามารถขออนญุ าตเคลื่อนยา้ ยสตั วเ์ ข้าในหรอื ผา่ น เขตปลอดโรคระบาดไดจ้ ากปศสุ ตั ว์จังหวดั โดยปฏิบัติตามระเบยี บกรมปศุสัตว์ว่าดว้ ยการนา เขา้ หรอื การ เคล่อื นยา้ ยสตั ว์หรอื ซากสัตว์ภายในราชอาณาจักร 4.14.2 กรมปศสุ ตั ว์จะจดั สรรวคั ซีนปูองกนั โรคปากและเทา้ เปือ่ ย และโรคอหวิ าต์สุกรใหม้ จี าหนา่ ยอย่างเพยี งพอตามปริมาณสกุ รของฟาร์มเลีย้ งสกุ รมาตรฐาน 4.14.3 กรมปศสุ ตั ว์จะใหบ้ ริการการทดสอบโรคแท้งติดตอ่ ในพ่อแม่พันธุ์สุกร รวมทง้ัโรคแท้งตดิ ต่อและวัณโรคในโค นม โดยไม่คดิ มลู ค่าสาหรับฟาร์มทไ่ี ดม้ าตรฐาน 4.14.4 กรมปศุสัตว์จะใหบ้ ริการตรวจวนิ ิจฉัยและชันสตู รโรคสัตว์ โดยไม่คดิ มูลค่าสาหรับตัวอยา่ งทส่ี ่งตรวจจากฟาร์มเลย้ี งสตั ว์มาตรฐาน 4.15 ข้ันตอนการขอรบั รองมาตรฐานฟาร์มเล้ียงสัตว์ 4.15.1 ผ้ปู ระกอบการสมคั รเข้ารับการฝึกอบรม “มาตรฐานฟาร์มเลีย้ งสัตวส์ า หรบัผู้ประกอบการ” ที่สานกั งานปศสุ ตั ว์จงั หวัด
4.15.2 สานกั งานปศุสัตว์จังหวดั รวบรวมรายชอ่ื ผู้ประกอบการส่งใหส้ า นกั งานปศุสัตวเ์ ขต42 มาตรฐานฟาร์มไกไ่ ข่ 4.15.3 ผผู้ ่านการฝึกอบรมมคี วามประสงค์ขอการรับรองมาตรฐานฟารม์ เล้ยี งสตั ว์ยน่ื คา ขอรบั รองมาตรฐานฟาร์มเลีย้ งสัตว์ (ม.ฟ.ฐ.1) หรอื สถานทีฟ่ ักไข่สตั วป์ ีก (ม.ฟ.ฐ. 2)ต่อสานกั งานปศุสตั ว์จงั หวัด 4.15.4 ตรวจสอบเอกสารและคุณสมบตั ิ 4.15.5 ถา้ เอกสารครบและผ่านคณุ สมบัติ สา นกั งานปศุสัตวจ์ งั หวัดโดยคณะผู้ตรวจรับรองตรวจประเมนิ ฟาร์มจะเข้าตรวจฟาร์ม 4.15.6 ถา้ ผา่ นการตรวจประเมนิ ฟารม์ เพอ่ื รบั รองมาตรฐานฟารม์ เลีย้ งสตั ว์จะสง่ ต่อให้คณะกรรมการรับรองมาตรฐานฟาร์มเล้ยี งสัตว์ หากไมผ่ ่านการตรวจประเมนิ จะตอ้ งแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งตามระยะเวลาทก่ี าหนด 4.15.7 คณะกรรมการรบั รองมาตรฐานฟารม์ เลยี้ งสัตวถ์ ้ามีมตใิ ห้การรับรอง 4.15.8 สานักงานปศสุ ตั วจ์ งั หวดั ออกใบรับรองมาตรฐานฟารม์ เล้ียงสัตว์ 4.15.9 รายงานผลสานกั พฒั นาระบบและรับรองมาตรฐานสินคา้ ปศสุ ัตว์5. มาตรฐานฟาร์มไก่ไข่ มาตรฐานฟารม์ เล้ียงไก่ไขน่ ีก้ าหนดข้ึนเปน็ มาตรฐานเพอ่ื ให้ฟาร์มทตี่ อ้ งการข้นึ ทะเบียนเป็นฟาร์มทไี่ ดม้ าตรฐานเป็นทีย่ อมรับ ได้ยดึ ถอื ปฏบิ ตั ิเพ่ือใหไ้ ด้การรับรองจากกรมปศุสตั ว์ ซงึ่ มาตรฐานนี้เป็นทย่ี อมรบั ไดย้ ดึ ถือปฏบิ ัติเพ่อื ใหไ้ ด้การรบั รองจากกรมปศสุ ัตว์ และถือเปน็ เกณฑม์ าตรฐานขนั้พน้ื ฐานสาหรบั ฟารม์ ทจ่ี ะได้รบั การรบั รอง มาตรฐานฟาร์มเลย้ี งไก่ไขน่ ี้กาหนดวิธปี ฏบิ ัติ การจัดการฟาร์ม การจัดการดา้ นสุขภาพสัตว์และการจัดการด้านสิ่งแวดลอ้ ม เพ่อื ใหไ้ ด้ไก่ไข่ทีถ่ กู สขุ ลักษณะและเหมาะสมแก่ผูบ้ ริโภค 5.1 องค์ประกอบของฟารม์ 1) ทาเลท่ีตั้งของฟาร์ม (1) อยใู่ นทาเลทมี่ กี ารคมนาคมสะดวก (2) สามารถปอู งกนั และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ (3) อยู่ห่างจากโรงฆา่ สัตว์ปกี อย่างน้อย 5 กิโลเมตร (4) อยู่ในทาเลทม่ี ีแหลง่ นา้ สะอาด (5) เปน็ บรเิ วณทไ่ี มม่ ีน้าทว่ มขงั (3) เปน็ บริเวณทีโ่ ปร่ง อากาศสามารถถา่ ยเทได้ดี
มาตรฐานฟาร์มไก่ไข่ 43 2) ลกั ษณะของฟารม์ (1) เนอ้ื ท่ขี องฟารม์ ต้องมีเน้ือทเี่ หมาะสมกบั จานวนโรงเรอื นของฟาร์มและไมก่ ่อใหเ้ กดิ ปญั หาสิง่ แวดล้อมและสุขภาพสตั ว์ (2) การจดั แบ่งพ้ืนท่ี ต้องมเี นื้อทก่ี วา้ งขวางเพียงพอต่อการจดั แบง่ พื้นที่อย่างมรี ะเบยี บสอดคล้องกบั การปฏิบัตงิ าน โดยจะตอ้ งมกี ารจดั แบง่ พืน้ ท่ใี หเ้ ปน็ สดั สว่ น แล ะมผี ังแสดงการจดั วางที่แน่นอนของบริเวณพ้ืนทเี่ ลย้ี งสตั ว์ โรงเก็บอาหารสัตว์ พนื้ ทท่ี าลายซากสตั ว์ อาคารสานักงาน และทีพ่ กั อาศัย ฟาร์มจะต้องจัดแบง่ พน้ื ทีฟ่ าร์มเปน็ สัดส่วน โดยมีผงั แสดงการจดั วาง ขนาดระยะห่างทแ่ี น่นอนในหัวขอ้ ดังน้ี - ทางเขา้ -ออก และถนน - พ้นื ท่ีเลี้ยงสตั ว์ และตาแหน่งทตี่ ้งั ของโรงเรือน - โรงเกบ็ อาหารสัตว์ โรงผสมอาหารสตั ว์ - พน้ื ทท่ี าลายซากสัตว์ - พืน้ ท่อี าคารสานกั งาน ท่พี กั อาศยั ที่จอดรถ อาคารโกดงั วสั ดุอปุ กรณ์ ท่ีเก็บไข่พ้นื ทรี่ วบรวมขยะ และสงิ่ ปฏิกลู ตา่ งๆ แหลง่ น้าใช้และสถานทเ่ี กบ็ กัก (3) ถนนภายในฟารม์ ต้องใช้วัสดคุ งทน มสี ภาพและความกว้างเหมาะสมสะดวกในการขนส่งลาเลยี งอปุ กรณ์ อาหารสัตว์ รวมท้ังผลผลิต ท่ีเขา้ -ออกจากฟาร์ม (4) บ้านพักอาศัยและอาคารสานักงาน บ้านพกั และสานกั งานตอ้ งแยกเปน็สัดส่วนออกจากบรเิ วณเลี้ยงสตั ว์ 3) ลักษณะโรงเรอื น โรงเรอื นท่ีใชเ้ ลยี้ งไกไ่ ขค่ วรเป็นโรงเรือนทสี่ รา้ งด้วยวสั ดทุ ี่ถาวรถูกสขุ ลักษณะ และสตั วอ์ ยู่สบาย ระยะห่างระหวา่ งโรงเรือนต้องเหมาะสม และบรเิ วณหน้าประตูของโรงเรอื นต้องมบี ่อน้ายาฆา่ เช้ือโรค สาหรับจมุ่ เทา้ เวลาเขา้ และออกโรงเรือน (1) พ้ืนทใ่ี นการเลย้ี งจะต้องมเี พียงพอ เพอื่ ให้สตั วอ์ ยูอ่ ย่างสบาย มอี สิ ระในการเคลื่อนไหว และไม่มีส่วนทีท่ าให้เกดิ การบาดเจ็บตอ่ ตัวไก่44 มาตรฐานฟารม์ ไก่ไข่ พนื้ ทขี่ องการเล้ียงไก่ไข่ การเลยี้ งแบบปลอ่ ยพ้ืน
โรงเรอื นระบบปิดไก่รนุ่ ไข่ พนื้ ทก่ี ารเลยี้ งไม่มากกวา่14 ตวั ต่อพืน้ ท่ี1 ตารางเมตร ไก่ไข่ พื้นท่ีการเลี้ยงไมม่ ากกว่า7 ตวั ตอ่ พ้นื ท่ี1 ตารางเมตร โรงเรอื นระบบเปดิ ไก่รุ่นไข่ พน้ื ทก่ี ารเลี้ยงไมม่ ากกวา่10 ตัว ตอ่ พนื้ ที่1 ตารางเมตร ไก่ไข่ พื้นทีก่ ารเล้ยี งไมม่ ากกว่า5 ตวั ตอ่ พ้ืนที่1 ตารางเมตร การเล้ยี งในกรงตบั พ้นื ท่กี ารเลย้ี งอย่างน้อย 452 ตารางเซนตเิ มตร ต่อไกไ่ ข่ 1 ตัว ความสูงเหนอื พนื้ ท่ีตา่ สดุ ของกรงไมน่ อ้ ยกวา่ 35 เซนติเมตร (2) วัสดุทีใ่ ชใ้ นการสร้างโรงเรอื น ต้องไมม่ ีสว่ นย่ืนท่ีแหลมคม ซง่ึ ทาใหส้ ตั วไ์ ดร้ ับอนั ตราย และวัสดนุ ้ตี อ้ งสามารถทาความสะอาดและฆา่ เช้ือโรคได้ (3) การระบายอากาศ ฝุนละออง อุณหภมู ิ ความช้ื น และแก๊สต่างๆ ของโรงเรือนระบบปดิ จะตอ้ งไม่เกินกาหนด ซึ่งจะทาอันตรายต่อสัตวไ์ ด้ ก) การระบายอากาศ จะต้องมกี ารระบายอากาศภายในโรงเรอื นออกได้หมดภายในเวลาท่กี าหนด คือ - อากาศหนาว 5 - 8 นาที - อากาศปกติ 45 วนิ าที - 1 นาที 15 วินาที ข) ฝนุ ละออง - ไม่เกิน 15 มลิ ลกิ รัมตอ่ ปรมิ าตร 1 ลกู บาศกเ์ มตร ค) อณุ หภมู ิ - ระยะกก 28 - 35 องศาเซลเซยี ส - ระยะไกร่ ่นุ และไก่ไข่ 20 - 32 องศาเซลเซียส ง) ความช้ืนสมั พทั ธ์ - อยู่ในช่วงรอ้ ยละ 50 - 85มาตรฐานฟารม์ ไกไ่ ข่ 45 จ) ปรมิ าณแก๊ส - แอมโมเนีย ไม่เกิน 20 พพี ีเอม็ - คาร์บอนมอนอ็ กไซด์ ไมเ่ กิน 50 พีพเี อ็ม - คาร์บอนไดออ๊ กไซด์ ไมเ่ กิน 5,000 พีพีเอ็ม ฉ) แสงสว่าง - ไกร่ ุ่นไข่ ความเขม้ ของแสงค่าเฉลย่ี ไม่นอ้ ยกวา่ 10 ลักซ์ (Lux.)
ที่ระดับตัวไก่และตอ้ งไดร้ บั แสงสวา่ งไมน่ ้อยกว่า 8 ชว่ั โมงตอ่ วนั แตไ่ ม่เกนิ 23 ชัว่ โมงต่อวัน - ไกไ่ ข่ ความเข้มของแสงค่าเฉล่ีย 20-60 ลักซ์ ทร่ี ะดับตัวไก่ และต้องไดร้ บั แสงสวา่ ง 8-16 ชวั่ โมงต่อวัน ตามความเหมาะสมของอายไุ ก่ 5.2 การจดั การฟารม์ 1) การจัดการโรงเรอื นและอุปกรณก์ ารเล้ียง (1) มรี ะบบการทาความสะอาด และฆา่ เช้อื โรคโรงเรอื นและอปุ กรณ์ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ (2) มกี ารจัดการโรงเรือนและอปุ กรณเ์ พอื่ เตรยี มความพรอ้ มก่อนนาไก่เข้าเล้ียง (3) ตอ้ งมีการดูแลโรงเรือนและอุปกรณ์ให้ถกู สขุ ลักษณะ (4) ตอ้ งดแู ลซ่อมแซมโรงเรือนและอุปกรณ์ ให้มคี วามปลอดภยั ต่อไก่ และผู้ปฏบิ ัตงิ าน (5) โรงเรอื นและอปุ กรณต์ ้องสะดวกในการปฏบิ ตั ิงาน หลงั จากยา้ ยไก่รนุ่ เก่าออกตอ้ งทาความสะอาดโรงเรอื นและอุปกรณก์ ารเล้ียงพน่ ด้วยน้ายาฆ่าเชื้อโรค ควรพกั โรงเรือน และอปุ กรณก์ ารเลี้ยงไมน่ ้อยกวา่ 7 วัน กอ่ นนาไกช่ ุดใหมเ่ ขา้มาเลย้ี ง46 มาตรฐานฟาร์มไกไ่ ข่ 2) การจดั การด้านเคร่ืองมอื และอปุ กรณ์ เคร่อื งมอื และอปุ กรณ์ ต้องมกี ารตรวจสภาพการทางานของเคร่อื งมอื ตา่ งๆ วนั ละ 1 คร้ัง (1) อปุ กรณ์การเล้ียงแบบอัตโนมัติ ต้องมกี ารตรวจสภาพการทางานทุกวันถา้ พบวา่ ชารุดต้องดาเนินการแก้ไขทนั ที หรอื ตอ้ งมีขนั้ ตอนท่ีเหมาะสมในการปกปูองสุขภาพสัตว์ และต้องมรี ะบบระบายอากาศทดี่ ีเพ่อื ให้สัตวไ์ ด้รบั อากาศอยา่ งเพียงพอ มีอุปกรณ์สารองเมอ่ื เกิดเสยี หายและมรี ะบบสญั ญาณเตอื นกรณขี ัดข้อง โดยจะต้องมีการตรวจสอบระบบสญั ญาณเตอื นอย่างสมา่ เสมอ (2) อุปกรณใ์ หแ้ สงสว่างควรเป็นชนดิ ตดิ ตัง้ ถาวร และต้องจัดให้มีการกระจายตัวท่ดี ี เพอื่ ให้พ้นื เลา้ ไดร้ บั แสงสว่างที่ใกล้เคยี งกนั มากที่สุดตลอดทัว่ ทั้งเลา้ 3) การจัดการด้านบุคลากร ต้องมีจานวนบคุ ลากรอย่างเพียงพอ และเหมาะสมกับจานวนไก่ท่ีเล้ยี ง มีการจดั การแบ่งหน้าทีแ่ ละความรับผิดชอบในแต่ละตาแหน่งอยา่ งชัดเจน มกี าร
ฝกึ อบรมและพฒั นาบุคลากรอยา่ งตอ่ เน่ือง นอกจากน้ีบุคลากรภายในฟาร์มทกุ คนควรไดร้ บั การตรวจสขุ ภาพเป็นประจาทุกปี ผทู้ ดี่ ูแลสตั วเ์ ลยี้ งจะต้องมีความรู้ ความชานาญ ในการดแู ลสัตวเ์ ป็นอย่างดี และตอ้ งมผี ดู้ ูแลสัตว์อยา่ งเพยี งพอเหมาะสมกบั จานวนสตั ว์ ประกอบดว้ ย ผ้เู ลีย้ งไก่ คือ ผู้ดูแลเลี้ยงไก่ไขท่ ่ีได้รบั การฝึกอบรมดา้ นการเลี้ยงไก่ โรงเรือนระบบเปดิ - ผ้เู ลย้ี งไก่ 1 คน ดูแลไม่เกนิ 10,000 ตวั โรงเรือนระบบปิด - ผเู้ ลี้ยงไก่ 1 คน ดแู ลไม่เกนิ 20,000 ตวั สัตวบาล คือ ผู้ท่ีควบคุมดแู ลการเลี้ยงไกไ่ ข่ ซง่ึ จบการศึ กษาทางสัตวบาล หรอื สาขาทเี่ กี่ยวขอ้ งหรอื เปน็ ผทู้ ีม่ ปี ระสบการณใ์ นดา้ นการเลี้ยงไกไ่ ข่ อย่างนอ้ ย 3 ปี สตั วบาล 1 คน ดูแลไก่ไม่เกิน 200,000 ตวัมาตรฐานฟารม์ ไก่ไข่ 47 4) คูม่ ือการจดั การฟารม์ ผ้ปู ระกอบการฟารม์ ตอ้ งมีคู่มือการจดั การฟารม์ แสดงให้เหน็ ระบบการเลีย้ ง การจัดการฟารม์ ระบบการบันทกึ ขอ้ มูล การปูองกนั และควบคุมโรค การจดั การด้านสวสั ดิภาพสตั วป์ ีก การดแู ลสขุ ภาพสัตว์ และสขุ อนามยั ในฟารม์ ประกอบด้วยรายละเอียดดังตอ่ ไปนี้ (1) การเตรยี มโรงเรือน (2) การกกลกู ไก่ (3) การเล้ียงไก่เลก็ (1-6 สปั ดาห์) การเลี้ยงไกร่ ุ่น (7-16 สปั ดาห์) การเล้ียงดไู ก่ไข่ (16 สัปดาห์ - ปลดขาย) (4) การจัดการเกี่ยวกับการใหอ้ าหารและน้า (5) กาหนดการให้แสงสว่าง (6) การจัดการด้านสุขภาพสัตว์ (7) มีแผนการดาเนนิ งานดา้ นการปูองกันและควบคมุ โรค (8) การใช้ยาและวัคซีน (9) การจดั การไก่ปวุ ยและตาย (10) การบาบดั โรค
5) การจัดการเรื่องสขุ าภิบาลและสิ่งแวดลอ้ ม (1) แสงสว่าง (2) อุณหภูมิ (3) ความชน้ื (4) การระบายอากาศ (5) การกาจัดของเสยี 6) การจัดการด้านผลผลติ (1) การเก็บไข่ (2) การเก็บรกั ษาไข่ (3) การฆา่ เชื้อ (4) การทาลายไข่ท่เี สียหาย48 มาตรฐานฟารม์ ไกไ่ ข่ 7) การคมุ้ ครองและดแู ลสวัสดภิ าพสัตวป์ ีก 8) ระบบการบนั ทกึ ขอ้ มูล ฟารม์ จะต้องมรี ะบบการบนั ทึกขอ้ มูล ซ่ึงประกอบดว้ ยขอ้ มลู เกยี่ วกบั การบรหิ ารฟารม์ ได้แก่ บคุ ลากร แรงงาน ข้อมลู เก่ยี วกบั การจดั ก ารด้านการผลติ ได้แก่ ขอ้ มลู ตัวสตั ว์ ข้อมูลสุขภาพสตั ว์ ขอ้ มลู การผลิตโดยเกบ็ รักษาไว้อยา่ งนอ้ ย 3 ปี เพ่ือสามารถตรวจสอบยอ้ นหลงั ได้ 9) การจัดการด้านอาหารสัตวแ์ ละน้า คุณภาพอาหารสตั ว์ต้องให้มคี ุณภาพและมาตรฐานตามกฎหมายวา่ ด้วยการควบคมุคุณภาพอาหารสตั ว์ (1) แหล่งทม่ี าของอาหารสัตว์ ก) ในกรณซี ื้ออาหารสัตว์ ตอ้ งซอ้ื จากผู้ทไ่ี ด้รบั ใบอนญุ าตตามกฎหมายวา่ ด้วยการควบคุมคณุ ภาพอาหารสัตว์ ข) ในกรณีผสมอาหารสตั วใ์ ช้เอง ตอ้ งมีคุณภาพเป็นไปตามทก่ี าหนดตามกฎหมายว่าด้วยการควบคมุ คุณภาพอาหารสตั ว์ (2) ภาชนะบรรจุและการขนส่ง ก) ภาชนะบรรจุอาหารสัตว์ควรสะอาด ไมเ่ คยใชบ้ รรจุวตั ถมุ พี ษิ ปุย๋ หรอืวตั ถุอนื่ ใดที่อาจเปน็ อนั ตรายตอ่ สัตว์ สะอาด แห้ง กนั ความช้นื ได้ ไมม่ ีสารทีจ่ ะปนเปอื้ นกบั อาหารสตั ว์และถ้าถกู เคลอื บด้วยสารอืน่ สารดังกลา่ วตอ้ งไม่เปน็ อนั ตรายตอ่ สัตว์
ข) รถบรรทกุ ทใ่ี ชใ้ นการขนส่งอาหารสัตว์ ตอ้ งทาใหส้ ว่ นท่ีบรรทกุ แห้งและสะอาด ไม่มีการตกค้างของสิ่งหน่งึ สงิ่ ใดในสว่ นที่บรรทกุ (3) การตรวจสอบคุณภาพอาหารสัตว์ ผู้ประกอบการควรมกี ารตรวจสอบคุณภาพอาหารสตั ว์ โดยการสมุ่ ตัวอยา่ งอาหารสัตว์ส่งหอ้ งปฏิบัตกิ ารที่เชอื่ ถอื ได้ เพอื่ ตรวจสอบวิเคราะหค์ ุณภาพและสารตกคา้ งเปน็ ประจาตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมคณุ ภาพอาหารสัตว์ และเกบ็ บันทึกผลการตรวจวิเคราะห์ไว้ให้ตรวจสอบไดอ้ ยา่ งน้อย 2 ปีมาตรฐานฟาร์มไก่ไข่ 49 (4) การเก็บรกั ษาอาหารสัตว์ ควรมีสถานท่ีเกบ็ อาหารสตั ว์แยกตา่ งหาก และหอ้ งเก็บอาหารสัตวต์ อ้ งสามารถรกั ษาสภาพของอาหารสัตว์ไมใ่ หเ้ ปลีย่ นแปลง สะอาด แห้ง ปลอดจากแมลงและสัตว์ตา่ งๆควรมีวัสดรุ องดา้ นล่างของภาชนะบรรจุอาหารสตั ว์ที่เปน็ ถงุ เพ่ือใหอ้ ากาศถ่ายเทได้ ในกรณวี ิตามนิ ท่ีใชผ้ สมอาหารสตั ว์ใหเ้ ก็บไวใ้ นหอ้ งปรบั อากาศ (5) การใหอ้ าหาร อาหารที่ใช้เล้ียงไกไ่ ข่ ตอ้ งเหมาะสมกับอายแุ ละพนั ธใุ์ นปริมาณท่เี พียงพอสาหรบั ยาทีใ่ ช้ผสมในอาหารเพือ่ ปอู งกนั และรักษาโรคต้องอยู่ภายใตก้ ารดูแลรบั ผิดชอบของสตั วแพทย์ การใหอ้ าหารจะต้องใชภ้ าชนะท่มี รี ปู รา่ งเหมาะสมและวางไว้อยา่ งเพยี ง พอในตาแหน่งท่ีเหมาะสม เพอื่ ปอู งกนั การปนเปอื้ นและแย่งกนั กนิ ซ่ึงอาจเป็นอนั ตรายได้การเลยี้ งแบบปลอ่ ยพื้น ไกร่ ่นุ ไข่ ความยาวของภาชนะให้อาหารไมน่ ้อยกว7า่ .5 เซนตเิ มตร ตอ่ ไก่ 1 ตวั ไกไ่ ข่ ความยาวของภาชนะใหอ้ าหารไมน่ อ้ ยกว1่า2.5 เซนตเิ มตร ต่อไก่ 1 ตวัการเล้ยี งในกรงตับ ไก่ไข่ ความยาวของภาชนะใหอ้ าหารไมน่ ้อยกว่า8 เซนติเมตร ตอ่ ไก่ 1 ตวั (6) การจดั การดา้ นทรัพยากรนา้ ก) แหลง่ น้า หนอง บงึ ภายในบริเวณฟารม์ จะต้องไดร้ บั การดูแลจัดการอย่าง ต่อเนื่องและสมา่ เสมอ โดยคานึงถึงสภาวะแวดลอ้ ม การควบคมุ ปอู งกนั โรค และความปลอดภัยต่อสัตวเ์ ลย้ี งมนุษย์ ข) น้าใช้และนา้ ดมื่ ในฟารม์ จะต้องมคี ุณภาพตามทีก่ รมปศุสตั วก์ าหนดที่จะใช้เป็นนา้ ใชแ้ ละน้าดืม่ สาหรบั สัตวท์ ่เี ลี้ยงในฟารม์
ค) การใหน้ ้า แหลง่ น้าท่ใี ชใ้ นฟารม์ ต้องอยูใ่ นบรเิ วณที่สามารถปอู งกนั การปน เป้ือน-มลู สัตวห์ รอื นา้ เสียจากโรงเรือนรวมทั้งบา้ นพักอาศัย นอกจากนแ้ี หลง่ นา้ ควรหา่ งจากโรงฆา่สตั ว์หรือโรงงานอตุ สาหกรรมดว้ ย หากเป็นนา้ ซึมหรือนา้ ซบั ต้องมฝี าปดิ มิดชิด ความสะอาดและคุณภาพน้า มกี ารส่งตัวอย่างน้าตรวจหาปริมาณเชอื้ โรค แร่ธาตุ และสารพษิ เป็นประจา50 มาตรฐานฟาร์มไก่ไข่และให้เป็นไปตามคณุ ภาพน้าด่มื และนา้ ใชใ้ นฟารม์ ไก่ไข่ มปี รมิ าณนา้ กนิ อย่างเพยี งพอและสะอาดปราศจากส่งิ เจือปนที่จะเปน็ อนั ตรายต่อสุขภาพได้ การให้น้าจะตอ้ งใช้ภาชนะท่ีเหมาะสม และวางไว้อยา่ งเพยี งพอในตาแหน่งทเ่ี หมาะสม เพื่อปอู งกนั การปนเปื้อนและการแยง่ กนั กิน ซ่ึงอาจเป็นอนั ตรายได้ การเลีย้ งแบบปล่อยพ้นื ไก่ร่นุ ไขแ่ ละไกไ่ ข่ ความยาวของภาชนะให้นา้ หรือรางนา้ อย่างน้อย 3 เซนตเิ มตรต่อไก่ 1 ตวั นิปเป้ลิ 1 หวั ต่อไก่ 25-30 ตวั การเลีย้ งในกรงตับ ไก่ไข่ ความยาวของภาชนะให้นา้ หรือรางนา้ อยา่ งนอ้ ย 3 เซนติเมตร ตอ่ไก่ 1 ตวั นิปเป้ิล 1 หัว ตอ่ ไก่ 3-8 ตวั 5.3 การจดั การด้านสุขภาพสตั ว์ 1) การป้องกนั และควบคุมโรค ฟารม์ จะตอ้ งมีระบบทีป่ ูองกันและควบคมุ โรคได้ ซ่ึงรวมถงึ การทาลายเชอ้ื โรคกอ่ นเข้าและออกจากฟาร์ม การปูองกนั และควบคมุ โรคใหส้ งบและไม่ใหแ้ พร่ระบาดออกจากฟารม์ (1) บริเวณเขา้ -ออก พน้ื ท่เี ล้ียงสัตวจ์ ะต้องมีประตูเข้า-ออก ของยานพาหนะทุกดา้ นทจี่ ะเขา้ สพู่ นื้ ท่ีเลี้ยงสตั ว์ จะต้องแล่นผา่ นโรงพ่นและบ่อนา้ ยาน้ายาฆา่ เชอื้ โรค และจะตอ้ งได้รบั อนุญาตการเขา้ จากผู้รบั ผดิ ชอบ และต้องบนั ทกึ รายละเอยี ดการเข้า-ออก และเวลาท่ีเข้า-ออกใหเ้ ปน็ ท่ีเรียบรอ้ ย และพาหนะที่ใชใ้ นเขตเลย้ี งสัตว์ และนอกฟาร์มไมค่ วรใช้รว่ มกันต้องมสี มดุบนั ทกึ แสดงให้ตรวจสอบไดต้ ลอดเวลา ก) บอ่ นา้ ยาฆ่าเช้อื โรค ลักษณะบ่อตอ้ งกวา้ งและยาวเพยี งพอสาหรบัยานพาหนะทกุ ชนดิ ที่แลน่ เขา้ ฟาร์มมคี วามลกึ และลาดชนั เหมาะสมท่ยี านพาหนะจะแล่นลงไปโดยสะดวก วัสดทุ ่ีสร้างเปน็ บ่อต้องแขง็ แรง โดยบ่อนา้ ยาฆา่ เชอ้ื โรค อาจจดั สร้างต่างหากหรอื ประกอบอย่กู บั โรงพ่นน้ายาฆ่าเชอ้ื โรคก็ได้ ในบอ่ ต้องใสน่ า้ ยาฆ่าเชือ้ โรคทผ่ี สมนา้ ในอตั ราส่วนตามทร่ี ะบุในเอกสารกากบั อีกท้ังมีการเปล่ียนน้ายาฆา่ เชื้อโรคอยา่ งสมา่ เสมอ เพ่ือรักษาคณุ สมบตั ใิ นการฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะที่จะเขา้ ฟารม์ ตอ้ งแล่นผา่ นบอ่ น้ายาฆา่ เชื้อโรคทุกคนั
มาตรฐานฟารม์ ไกไ่ ข่ 51 ข) โรงพน่ น้ายาฆา่ เชอื้ โรค ยานพาหนะท่ีผ่านเขา้ ฟาร์มต้องผ่านโรงพ่นน้ายาฆ่าเชอ้ื โรค ซึง่ ควรอยู่บริเวณหนา้ ปร ะตทู างเข้าฟาร์ม อุปกรณส์ าหรบั ฉีดพน่ น้ายาฆา่ เชือ้ โรค จะต้องสามารถพน่ เป็นละอองให้ครอบคลุมท้ังยานพาหนะด้วยนา้ ยาฆ่าเชื้อโรคทีม่ ีความเขม้ ข้นเหมาะสมไม่กดั กร่อน บุคคลท่ีจะเขา้ -ออก พ้นื ทเ่ี ลย้ี งสตั วจ์ ะต้องผา่ นหอ้ งอาบน้ายาฆ่าเชอ้ื โรค อาบนา้ สระผมและเปลย่ี นชุดทฟ่ี าร์มจัดเตรยี มไวใ้ ห้ และต้องมกี ารจดบนั ทึกการผา่ นเข้า -ออกในสมุดให้ตรวจสอบได้ตลอดเวลา ค) ห้องอาบนา้ และฆ่าเชอ้ื โรค ประกอบดว้ ย - ห้องเปล่ยี นเครอ่ื งแตง่ กาย - หอ้ งอาบน้า - หอ้ งเปลี่ยนเครือ่ งแต่งกายกอ่ นเข้าโรงเรือน ทัง้ นี้ทุกหอ้ งตอ้ งแบ่งแยกสัดสว่ นชัดเจน อุปกรณ์ทกุ อย่างต้องใชก้ ารได้อย่างดี มกี ารรักษาความสะอาดตลอดเวลาเส้ือผา้ และรองเทา้ ทใ่ี ชใ้ นฟารม์ ต้องซักลา้ งให้สะอาดทุกครง้ั หลังใชง้ าน - หอ้ งหรือตฆู้ า่ เช้ือโรค วัสดุและอุปกรณต์ ่างๆ ทจี่ ะนาไปใชใ้ นพืน้ ท่ีเล้ียงสัตว์ ต้องผา่ นการฆา่ เชือ้ โรค (2) การปูองกันการสะสมของเชอื้ โรคในเขตพน้ื ท่เี ลี้ยงสตั ว์ มรี ะบบการดาเนนิ การ ดงั น้ี ภายในฟารม์ ต้องมเี คร่ืองพ่นนา้ ยาฆ่าเชอื้ โรค และอุปกรณ์ที่สามารถเคลื่อนยา้ ยได้สะดวกเพอ่ื ใช้งานในจดุ ต่างๆ ภายในฟารม์ จานวนเคร่อื งพน่ ท่มี ตี อ้ ง เหมาะสมกับขนาดของฟารม์ และตอ้ งใช้งานได้เป็นอยา่ งดี (3) การสรา้ งภูมคิ มุ้ กนั โรค ไก่ทกุ ตัวในฟาร์มต้องไดร้ ับวคั ซีนปูองกนั โรคตามแผนการใหว้ คั ซีนซงึ่ แนะนาโดยสัตวแพทย์ผคู้ วบคมุ ฟาร์ม (4) การควบคมุ โรค การจดั การไกป่ ุวย การจัดการให้อยภู่ ายใตก้ ารควบคุมดแู ลของสตั วแพทยผ์ ู้ควบคุมฟารม์ หากไก่เป็นโรคระบาด เช่น นวิ คาสเซิล เอเวียน อินฟลูเอนซา ต้องทาลาย เพ่ือปอู งกันการแพร่ระบาดของโรค ต้องปฏิบตั ติ าม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499และฉบบั แก้ไขเพิม่ เติม พ.ศ. 2542 การปอู งกนั ควบ คุมและกาจดั โรคในฟารม์ ควรมแี ผนการดาเนินงานที่ชดั เจนและสอดคลอ้ งกับแผนทกี่ รมปศสุ ตั วก์ าหนดไว้52 มาตรฐานฟารม์ ไก่ไข่
การทาลายซากไก่ ตอ้ งมบี รเิ วณเฉพาะสาหรบั ทาลายซากไก่ทตี่ าย พื้นทีต่ อ้ งหา่ งจากบรเิ วณโรงเรือนอื่น และสามารถควบคุมได้ การทาลายซากมี 2 วธิ ี ดงั น้ี ก) การทาลายโดยการฝัง ต้องมเี นอ้ื ทเี่ พยี งพอ และอย่ใู นบรเิ วณน้าทว่ มไม่ถึง ฝงั ซากใต้ระดบั ผวิ ดนิ ไม่นอ้ ยกว่า 50 เซนติเมตร และในกรณีเปน็ บ่อท้ิงซากตอ้ งมีฝาปิดมดิ ชดิ ไมใ่ ห้สตั วไ์ ปคุย้ เข่ยี ข) การทาลายโดยการเผา มีสถานทเ่ี ผาหรอื เตาเผา อยู่ในบริเวณที่เหมาะสมใชไ้ ฟเผาซากจนหมด 2) การบาบดั โรค สัตวแพทยผ์ ้คู วบคุมฟารม์ ต้องปฏิบัตติ าม พ .ร.บ.วชิ าชีพการสตั วแพทย์ พ.ศ. 2545 และขอ้ กาหนดในมาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม ข้อกาหนดการควบคุมการใช้ยาสาหรับสัตว์ มาตรฐานเลขที่ มอก. 7001 และการควบคมุ การใช้ยาผสมอาหารสัตวต์ ามกฎหมายว่าดว้ ยการควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ 3) การควบคุมสตั วท์ ่เี ปน็ พาหะนาโรค ตอ้ งมีวธิ ีการควบคมุ สัตวพ์ าหะนาโรค เชน่สุนขั แมว นก หนู แมลงสาบ และแมลงวนั อย่างต่อเนือ่ งและสมา่ เสมอ 5.4 การจดั การสิง่ แวดล้อม การกาจดั ของเสีย สิ่งปฏกิ ูลต่างๆ ตอ้ งผ่านการกาจดั อย่างเหมาะสม เพื่อไมใ่ หเ้ กิดผลกระทบต่อสง่ิ แวดล้อม ในกรณีทม่ี นี ้าท้งิ จากฟาร์มออกสูแ่ หลง่ น้าสาธารณะ จะต้องมีการบาบดั ก่อน (1) เก็บซากไกอ่ อกจากเล้าทนั ทที ุกครัง้ ทมี่ ีการตรวจพบ โดยใสถ่ งุ พลาสตกิ กนั นา้และปิดปากถุงให้มดิ ชิด เพ่อื ปูองกันสตั ว์พาหะนาโรคแลว้ นาไปทาลาย โดยการฝงั หรือเผา )2) การทาลายสัตว์พาหะนาโรค ให้ทาลายโดยการฝังหรือเผา )3) วสั ดรุ องพื้นทเ่ี ปียก หรือจับเปน็ ก้อน ให้ตักออกจากโรงเรอื นทันที (4) มูลไก่ควรมีการจดั การอยา่ งเหมาะสม เพ่ือไม่ใหเ้ ป็นแหล่งเพาะพนั ธุข์ องเชื้อโรคและสตั วพ์ าหะนาโรค )5) กรณีปลดไก่ วัสดรุ องพ้นื ควรได้รบั การบาบดั ดว้ ยยาฆา่ เชือ้ โรค เพอ่ื ปอู งกันการฟงูุกระจายก่อนเคล่อื นยา้ ยรถท่ีบรรทกุ ต้องมผี า้ ใบคลมุ ปูองกนั การตกหล่นและห้ามนากลบั มาใชอ้ ีก )6) นา้ ที่ใช้ในการลา้ งโรงเรือนและอุปกรณใ์ นชว่ งเตรียมโรงเรอื น จะตอ้ งมีการบาบัดกอ่ นที่จะปล่อยลงในแหลง่ นา้ สาธารณะ )7) พื้นทีร่ อบโรงเรือนรศั มอี ยา่ งนอ้ ย3 เมตร ควรสะอาดมาตรฐานฟารม์ ไกไ่ ข่ 53 5.5 การจดั การด้านสวสั ดิภาพสตั ว์ปีก ผปู้ ระกอบการฟาร์ม ต้องมีการจัดการด้านสวัสดภิ าพสตั วป์ กี โดยปฏบิ ตั ิตามระเบียบกรมปศุสตั ว์ ว่าด้วยการคุ้มครองและดูแลสวัสดภิ าพสตั วป์ ีก ณ สถานทเ่ี ลยี้ ง พ.ศ. 2542 )1) ผู้เลย้ี งจะตอ้ งมีการตรวจสอบฝูงไกอ่ ย่างน้อยวนั ละ 2 คร้งั ในชว่ งระยะหา่ งกันท่ี
เหมาะสม เพือ่ ใหม้ ่ันใจวา่ ไกม่ ีสขุ ภาพดีตลอดเวลา )2) ต้องมีการดแู ลไกใ่ หไ้ ดร้ ับอาหารอยา่ งท่วั ถงึ และมีการเจรญิ เติบโต ตามลกั ษณะสายพนั ธ์ุ )3) กรณที ี่มคี วามจาเปน็ ตอ้ งตัดปาก เพอ่ื ปูองกันการจิกกันให้ใช้วธิ จี ้ีด้วยความรอ้ นออกได้ไมเ่ กิน 1 ใน 3 ของปาก โดยทาเมื่อไก่อายไุ ม่เกนิ 10 วัน )4) ควรมกี ารจัดการภายในโรง เรือน เพ่ือใหไ้ ก่มีพฤตกิ รรมตามธรรมชาติ ตามความเหมาะสม )5) การจดั การดแู ลไกท่ ่ีได้รบั บาดเจ็บ ปวุ ยหรอื พกิ าร ควรไดร้ บั การรักษาอยา่ งรบี ด่วน ในกรณที ีพ่ ิจารณาแลว้ เหน็ ว่าไมส่ มควรรกั ษาให้รีบทาลายทนั ที เพอ่ื ไมใ่ หเ้ กดิ ความทุกข์ทรมาน54 มาตรฐานฟาร์มไก่ไข่
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: