Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาล

ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาล

Published by จิรัชญา สังฆเวช, 2020-02-12 23:53:42

Description: ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาล

Search

Read the Text Version

ดาวเคราะห์ ในระบบสุรยิ ะจักรวาล

คำนำ ระบบสรุ ิยะจักรวาล หรอื Solar System ของเรานัน้ ประกอบไปด้วยดาวนอ้ ยใหญห่ ลายดวง นอกจากน้ียังมพี วกก้อนหินขนาดใหญ่หรอื ดาวเคราะห์นอ้ ยอกี นับไม่ถ้วนซึง่ อยใู่ นแถบไคเปอร์ ซงึ่ อยู่เลยวงโครจของดาวเนปจูนออกไปถึงบริเวณขอบของระบบสุริยะจักรวาลและยังมีดวงจันทร์ บริวารของดาวเคราะห์อกี 166 ดวง ในระบบสุรยิ ะจักรวาลของเรานั้น มีดาวฤกษ์ซ่ึงมีแสงสว่างในตัวเองเพียงแค่ดวงอาทิตย์ใน ขณะท่ีมีดาวท่ีถูกจัดช้ันเป็นดาวเคราะห์อยู่ท้ังสิ้น 8 ดวง (แต่เดิมมี 9 ดวง เรียกว่ากลุ่มดาวนพ เคราะห์ – นพ แปลว่า เก้า แต่ดาวพลูโตถูกลดช้ันจากดาวเคราะห์เป็นดาวเคราะห์แคระ) ไม่นับ รวมกบั ดวงจันทรบ์ รวิ าร ซง่ึ ไม่นบั รวมเป็นดาวเคราะห์

สำรบัญ ดาวพธุ ดาวเสาร์ ดาวศกุ ร์ ดาวยูเรนัส โลก ดาวเนปจนู ดาวองั คาร ดาวพฤหสั ผูจ้ ัดทา

ดำวพธุ ดาวพธุ เป็นดาวเคราะห์ท่ีอยูใ่ กลด้ วงอาทิตย์มากที่สุด และเปน็ ดาวเคราะห์ทีเ่ ล็กที่สุดใน ระบบสรุ ิยะ ใชเ้ วลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ 87.969 วนั ดาวพุธมักปรากฏใกล้ หรอื อยูภ่ ายใตแ้ สงจา้ ของดวงอาทิตย์ทาให้สังเกตเหน็ ได้ยากทส่ี ดุ ดาวพุธไมม่ ีดาวบริวาร ยานอวกาศเพียงลาเดยี วที่เคยสารวจดาวพุธในระยะใกล้คอื ยานมาริ เนอร์ 10เม่ือปี พ.ศ. 2517-2518 (ค.ศ. 1974-1975) และสามารถทาแผนท่พี ้ืนผวิ ดาวพธุ ไดเ้ พยี ง 40-45% เทา่ นั้น ดาวพธุ มสี ภาพพนื้ ผิวขรขุ ระเนอ่ื งจากการพุ่งชนของอุกกาบาต ไมม่ ีดวงจนั ทร์เป็นบริวารและไม่มี แรงโน้มถว่ งมากพอที่จะสรา้ งชัน้ บรรยากาศ ดาวพุธมแี กนกลางเป็นเหลก็ ขนาดใหญ่ทาให้เกดิ สนามแม่เหล็กความเขม้ ประมาณ 1 เปอร์เซ็นตข์ องสนามแมเ่ หลก็ โลกล้อมรอบดาวพธุ ไว้ ช่ือละตนิ ของดาวพุธ (Mercury) มาจากคาเต็มวา่ Mercurius เทพนาสารของพระเจ้า สัญลักษณแ์ ทนดาวพธุ คอื ☿ เป็นรูปคทาของเทพเจ้าเมอคิวรี กอ่ นศตวรรษที่ 5 ดาวพุธมีสองชือ่ คือ เฮอรเ์ มส เมือ่ ปรากฏในเวลาหัวค่า และอพอลโล เม่ือปรากฏในเวลาเช้ามดื เชอ่ื ว่าพีทาโกรสั เปน็ คนแรกท่ีระบวุ ่าทั้งสองเป็นดาวเคราะหด์ วงเดยี วกนั

ดำวเสำร์ ดาวเสาร์ (อังกฤษ: Saturn) เป็นดาวเคราะห์ดวงท่ี 6 จากดวงอาทิตย์ ถัดจากดาว พฤหัสบดี เป็นดาวเคราะห์ท่ีมขี นาดใหญ่เป็นอนั ดบั 2 ของระบบสุริยะ รองจาก ดาวพฤหัสบดี ดาว เสาร์เป็นดาวแก๊สยักษ์ท่ีมีรัศมีเฉลี่ยมากกว่าโลกประมาณเก้าเท่า[3][4]แม้ว่าจะมีความหนาแน่นเป็น หนึ่งในแปดของโลก แต่มวลของมันมีมากกว่าโลกถึง 95 เท่า[5][6][7] ดาวเสาร์ต้ังชื่อตามเทพโรมัน แหง่ การเกษตร สญั ลกั ษณ์ทางดาราศาสตรข์ องดาวเสาร์ (♄) แทนเคียวของเทพเจา้ ดาวเสาร์มีรูปร่างป่องออกตามแนวเส้นศูนย์สูตร ที่เรียกว่าทรงกลมแป้น ( oblate spheroid) เสน้ ผ่านศนู ย์กลางตามแนวขวั้ ส้ันกว่าตามแนวเสน้ ศูนยส์ ูตรเกอื บ 10% เป็นผลจากการ หมุนรอบตวั เองอยา่ งรวดเร็ว ดาวเคราะหด์ วงอื่นๆ ก็มีลักษณะเป็นทรงกลมแป้นเช่นกัน แต่ไม่มาก เท่าดาวเสาร์ ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวในระบบสุริยะ ท่ีมีความหนาแน่นเฉล่ียน้อย กว่าน้า (0.70 กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร) อย่างไรก็ตาม บรรยากาศชั้นบนของดาวเสาร์มีความ หนาแน่นน้อยกว่าน้ี ขณะท่ีที่แกนมีความหนาแน่นมากกว่าน้า วงแหวนของดาวเสาร์ประกอบไป ด้วย เศษหินและน้าแข็งขนาดเล็ก เรียงตัวอยู่ในระนาบเดียวกัน และวงแหวนของดาวเสาร์ก็ ประกอบไปด้วย วงแหวนย่อยๆมากมาย ความจริงแล้ววงแหวนดาวเสาร์น้ันบางมาก โดยมีความ หนาเฉลี่ยเพียง 500 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เศษวัตถุในวงแหวนมีความสามารถในการสะท้อนแสงดี และกว้างกว่า 80,000 กโิ ลเมตร จงึ สามารถสงั เกตไดจ้ ากโลกของเราไดไ้ ม่ดนี ัก

ดำวศกุ ร์ ดาวศุกร์ (อังกฤษ: Venus) เป็นดาวเคราะห์ท่อี ยู่ห่างจากดวงอาทติ ย์เป็นลาดับที่ 2 ดาวศุกร์ มเี ส้นผ่านศนู ยก์ ลางเป็น 3 เท่าของดวงจันทร์ และ มีขนาดใหญ่กว่าดาวพธุ และดาวอังคาร 2 เท่าตัว ชื่อละตินของดาวศุกร์ (Venus) มาจากเทพีแห่งความรกั ของโรมัน ดาวศกุ รเ์ ปน็ ดาวเคราะห์ หนิ มขี นาดใกลเ้ คียงกบั โลก บางครั้งเรียกว่า \"ฝาแฝด\" ของโลก แมว้ า่ วงโคจรของดาวเคราะหท์ ุก ดวงจะเปน็ วงรี วงโคจรของดาวศุกรจ์ ัดวา่ เกือบเป็นวงกลม มีความเยือ้ งศูนยก์ ลาง (ความรี) น้อย ที่สดุ สาหรบั วตั ถุในธรรมชาติ ดาวศกุ ร์เป็นวตั ถุทอ้ งฟา้ ที่สว่างที่สุดเป็นลาดับท่ี 3 รองจากดวง อาทติ ย์และดวงจันทร์ เนื่องจากดาวศกุ ร์มีวงโคจรใกล้ดวงอาทิตย์มากกวา่ โลก จงึ มีมมุ หา่ งจากดวง อาทติ ย์ไม่เกิน 47.8° มองเห็นได้เฉพาะในเวลาเช้ามืดหรอื หัวคา่ เทา่ นนั้ ขณะปรากฏในทอ้ งฟา้ เวลา หวั ค่าทางทิศตะวนั ตก เรียกว่า \"ดาวประจาเมือง\" และเมื่อปรากฏในท้องฟา้ เวลาเชา้ มืดทางทิศ ตะวนั ออก เรยี กว่า \"ดาวประกายพรึก\" หรือ \"ดาวรุง่ \" ชาวบาบิโลนโบราณรู้จักดาวศกุ รม์ าตั้งแตร่ าว 1,600 ปีก่อนครสิ ตกาล แต่เช่อื ว่าดว้ ยความสวา่ ง สุกใสของดาวศกุ ร์ น่าจะเปน็ ท่รี ้จู กั มากอ่ นหน้านั้นนานแล้วนับต้งั แต่ยุคก่อนประวตั ศิ าสตร์ สญั ลกั ษณ์แทนดาวศุกร์ คือ ♀

ดำวยูเรนสั ดาวยูเรนัส (ภาษาองั กฤษ:Uranus ยูเรนสั หรือ มฤตยู) เป็นดาวเคราะห์ทอี่ ยหู่ ่างจากดวง อาทิตย์เป็นลาดบั ท่ี 7 ในระบบสรุ ยิ ะ จดั เป็นดาวเคราะหแ์ ก๊ส มเี สน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง 50,724 กโิ ลเมตร นับได้วา่ มขี นาดใหญ่เปน็ อันดับที่3 ในระบบสุรยิ ะของเรา ยูเรนัสถูกต้งั ช่ือตามเทพเจ้า ยูเรนสั (Ouranos) ของกรกี สัญลกั ษณ์แทนดาวยูเรนัส (สว่ นใหญ่ใช้ในดาราศาสตร)์ ชอื่ ไทยของ ยูเรนสั คอื ดาวมฤตยู ผู้ค้นพบดาวยเู รนัส คอื เซอร์วลิ เลียม เฮอรเ์ ชล(Sir William Herschel) พบในปี พ.ศ. 2324 (ค.ศ. 1781) ต่อมาในปี พ.ศ. 2520 (ค.ศ. 1977) นกั ดาราศาสตร์จากหอดดู าวไคเปอร์แอรบ์ อร์น (James L. Elliot, Edward W. Dunham, and Douglas J. Mink using the Kuiper Airborne Observatory) ค้นพบว่า ดาวยเู รนสั มี วงแหวนจางๆโดยรอบ

โลก โลก (อังกฤษ: Earth) เปน็ ดาวเคราะห์ลาดับทสี่ ามจากดวงอาทติ ย์ และเป็นวตั ถทุ างดารา ศาสตรเ์ พยี งหนึ่งเดียวที่ทราบวา่ มีสิ่งมชี ีวติ จากการวัดอายุด้วยกัมมนั ตรังสีและแหล่งหลกั ฐานอืน่ ได้ความว่าโลกกาเนดิ เมื่อประมาณ 4,500 ลา้ นปกี ่อน[24][25][26] โลกมีอันตรกิรยิ ะเชงิ โนม้ ถ่วงกบั วตั ถอุ ่นื ในอวกาศโดยเฉพาะดวงอาทิตยแ์ ละดวงจันทร์ ซงึ่ เป็นดาวบริวารถาวรหนึ่งเดียวของโลก โลกโคจร รอบดวงอาทิตยใ์ ช้เวลา 365.26 วนั เรียกวา่ ปี ซึ่งระหวา่ งนนั้ โลกโคจรรอบแกนตัวเองประมาณ 366.26 รอบ[n 4] แกนหมุนของโลกเอยี งทาใหเ้ กิดฤดกู าลต่าง ๆ บนผิวโลก[27] อนั ตรกิรยิ าความโน้มถ่วง ระหวา่ งโลกกบั ดวงจนั ทร์ก่อให้เกดิ น้าข้ึนลงมหาสมุทร ทาใหก้ ารหมนุ บนแกนของโลกมีเสถียรภาพ และคอ่ ย ๆ ชะลอการหมุนของโลก[28] โลกเป็นดาวเคราะหท์ ่มี ีความหนาแนน่ สงู สดุ ในระบบสรุ ยิ ะ และใหญ่สดุ ในดาวเคราะห์คลา้ ยโลก 4 ดวง

ดำวเนปจนู ดาวเนปจนู (อังกฤษ: Neptune) มชี ่อื ไทยว่า ดาวเกตุ เป็นดาวเคราะห์ในระบบสรุ ิยะลาดบั สุดทา้ ยมีขนาดเสน้ ผ่านศนู ย์กลางใหญ่เปน็ อนั ดบั ท่ี 4 รองจากดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และมีมวลเปน็ ลาดับที่ 3 รองจากดาวพฤหสั และดาวเสาร์ คาว่า \"เนปจูน\" นั้นตง้ั ช่ือตามเทพเจ้า แห่งท้องทะเลของโรมนั เหนือ (กรีก : โพไซดอน) มสี ัญลักษณเ์ ป็น (♆) ดาวเนปจนู มสี นี ้าเงนิ เนอื่ งจากองค์ประกอบหลักของบรรยากาศผวิ นอก เป็น ไฮโดรเจน ฮเี ลยี ม และมีเทน บรรยากาศของดาวเนปจูน มีกระแสลมที่รนุ แรง (2500 กม/ชม.) อุณหภูมพิ ื้นผวิ อยู่ท่ปี ระมาณ -220℃ (-364 °F) ซึ่งหนาวเย็นมาก เนือ่ งจาก ดาวเนปจนู อยู่ไกลดวง อาทติ ย์มาก แต่แกนกลางภายในของดาวเนปจูน ประกอบด้วยหินและก๊าซรอ้ น อุณหภมู ิประมาณ 7,000℃ (12,632 °F) ซ่ึงร้อนกว่าพ้นื ผิวของดวงอาทติ ย์

ดำวอังคำร ดาวองั คาร (องั กฤษ: Mars) เปน็ ดาวเคราะห์ลาดับท่ีส่ีจากดวงอาทิตย์ เป็นดาวเคราะห์เล็ก ท่สี ดุ อันดบั ที่สองในระบบสรุ ิยะรองจากดาวพุธในภาษาองั กฤษไดช้ อื่ ตามเทพเจา้ แหง่ สงครามของ โรมนั มกั ไดร้ ับขนานนาม \"ดาวแดง\" เพราะมีออกไซดข์ องเหล็กดาษดนื่ บนพื้นผวิ ทาให้มีสอี อกแดง เรอ่ื [15] ดาวอังคารเปน็ ดาวเคราะหห์ นิ ที่มบี รรยากาศเบาบาง มลี กั ษณะพ้ืนผวิ คลา้ ยคลงึ กบั ท้ังหลุม อุกกาบาตบนดวงจนั ทร์ และภเู ขาไฟ หบุ เขา ทะเลทราย ตลอดจนพิดน้าแขง็ ข้ัวดาวท่ปี รากฏบน โลก คาบการหมนุ รอบตวั เองและวฏั จกั รฤดกู าลของดาวองั คารก็มคี วามคลา้ ยคลงึ กับโลกซ่ึงความ เอียงก่อให้เกดิ ฤดูกาลตา่ ง ๆ ดาวองั คารเปน็ ท่ตี ัง้ ของโอลิมปัสมอนส์ ภูเขาไฟใหญท่ ี่สดุ บนดาว อังคารและสูงสดุ อันดบั สองในระบบสรุ ิยะเท่าที่มกี ารคน้ พบ และเปน็ ทีต่ ั้งของเวลส์มารเิ นริส แคน ยอนขนาดใหญ่อันดบั ต้น ๆ ในระบบสรุ ิยะ แอ่งบอเรยี ลิสที่ราบเรยี บในซีกเหนือของดาวปกคลุม กวา่ ร้อยละ 40 ของพื้นทที่ ั้งหมดและอาจเปน็ ลกั ษณะการถกู อกุ กาบาตชนครง้ั ใหญ่[16][17] ดาว อังคารมดี าวบริวารสองดวง คอื โฟบอสและดมี อสซง่ึ ตา่ งกม็ ขี นาดเลก็ และมีรปู ร่างบิดเบี้ยว ทัง้ คู่ อาจเป็นดาวเคราะห์นอ้ ยที่ถูกจับไว้[18][19] คลา้ ยกบั ทรอยของดาวองั คาร เช่น 5261 ยูเรกา

ดำวพฤหหสั บดี ดาวพฤหสั บดี เปน็ ดาวเคราะห์ที่อยูห่ ่างจากดวงอาทิตย์เปน็ ลาดบั ที่ 5 และเป็นดาวเคราะห์ ท่ีมขี นาดใหญ่ทสี่ ุดในระบบสุรยิ ะ นอกจากดาวพฤหัสบดี ดาวเคราะหแ์ กส๊ ดวงอ่ืนๆ ในระบบสรุ ิยะ ได้แก่ ดาวเสาร์ ดาวยเู รนัส และดาวเนปจนู ชอื่ ละตินของดาวพฤหัสบดี (Jupiter) มาจากเทพเจ้า โรมนั สญั ลกั ษณ์แทนดาวพฤหสั บดี คือ ♃ เปน็ สายฟา้ ของเทพเจา้ ซสุ ดาวพฤหัสบดมี ีมวลสงู กว่ามวลของดาวเคราะหอ์ ่ืนรวมกนั ราว 2.5 เท่า ทาใหศ้ ูนยร์ ะบบมวล ระหว่างดาวพฤหัสบดกี ับดวงอาทติ ย์ อยเู่ หนอื ผิวดวงอาทติ ย์ (1.068 เท่าของรัศมีดวงอาทิตย์ เมอ่ื วดั จากศูนยก์ ลางดวงอาทิตย)์ ดาวพฤหสั บดหี นักว่าโลก 318 เท่า เสน้ ผา่ นศูนย์กลางยาวกวา่ โลก 11 เทา่ และมีปริมาตรคดิ เป็น 1,300 เท่าของโลก เชื่อกนั ว่าหากดาวพฤหัสบดีมีมวลมากกว่านีส้ ัก 60-70 เท่า อาจเพียงพอท่ีจะให้เกิดปฏกิ ริ ิยานิวเคลียรจ์ นกลายเป็นดาวฤกษ์ได้ ดาวพฤหัสบดีหมนุ รอบตัวเองด้วยอัตราเร็วสงู ท่ีสดุ เม่ือเทียบกับดาวเคราะห์ดวงอน่ื ใน ระบบสุริยะ ทาใหม้ ีรูปรา่ งแปน้ เมื่อดูผา่ นกล้องโทรทรรศน์ นอกจากชัน้ เมฆที่ห่อหมุ้ ดาวพฤหัสบดี รอ่ งรอยทเี่ ด่นชัดท่ีสดุ บนดาวพฤหสั บดี คอื จดุ แดงใหญ่ ซ่ึงเปน็ พายหุ มนุ ทีม่ ีขนาดใหญก่ วา่ โลก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook