Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้ 1

ใบความรู้ 1

Published by sirinyanarach2521, 2016-10-13 02:56:58

Description: ใบความรู้ 1

Search

Read the Text Version

วชิ า การประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมส่อื ประสม (Multimedia Package )รหัส 3204-2103 ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพช้ันสูง(ปวส.) ปที ี่ 2สาขา คอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง ความรเู้ ก่ยี วกบั ส่ือประสม หรอื มลั ติมเิ ดยี----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------1.1 ความรู้เบือ้ งตน้ เกี่ยวกับมัลติมีเดีย ( Multimedia ) มัลติมเี ดียเปน็ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทม่ี ีการพฒั นาต่อเนอื่ งมาโดยตลอดทั้งดา้ นฮาร์ดแวร์และซอฟตแ์ วร์ ต้นทุนในการผลิตและจดั หามลั ตมิ เี ดียถกู ลงอยา่ งมากเมื่อเทียบกบั ในอดีต ในขณะที่ประสิทธภิ าพการแสดงผลท้ังภาพและเสียงถูกพฒั นาใหม้ ีคุณภาพสงู ข้ึน ผ้ใู ชก้ ็สามารถเขา้ ถึงไดง้ า่ ยจากสถานท่ตี ่างๆ หรอื แม้แต่ทบี่ ้านซง่ึ มเี คร่อื งคอมพวิ เตอร์ระบบมลั ติมีเดียอยแู่ ทบจะทุกบา้ น อีกทง้ัในดา้ นของซอฟต์แวรก์ ็สามารถทางานได้งา่ ยและสะดวกขึ้น ความก้าวหนา้ ของเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ในปจั จุบนั ทาให้มัลตมิ เี ดียจะถูกนาไปใช้ประโยชน์ในงานด้านต่างๆ ในแทบจะทุกแขนง ไม่วา่ จะเปน็ ด้านวิทยาศาสตร์ ดา้ นการแพทย์และสาธารณสขุด้านวิศวกรรม สถาปตั ยกรรม ดา้ นธุรกิจการคา้ ดา้ นสอ่ื สารมวลชน และโดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ดา้ นการศึกษาที่มกี ารพัฒนานาไปใช้ในการเรยี นการสอนอยา่ งต่อเนอื่ ง1.2 ทาความรู้จักกบั มลั ติมเี ดีย มลั ติมเี ดีย (Multimedia) มาจากคาว่า “Multus” ซึง่ เปน็ ภาษาลาติน หมายถงึ มากหลากหลาย และมเี ดยี (Media) มคี วามหมายเดียวกับ “Middle” หรอื “Center” หมายถึงการสื่อสารข้อมูลผา่ นตวั กลาง ดังนนั้ คาวา่ “มัลตมิ ีเดยี ” (Multimedia) จงึ หมายถึง การนาองคป์ ระกอบของสื่อชนิดต่างๆ มารวมเขา้ ดว้ ยกัน (Multiple Intermediary) หรือ เรยี กวา่“สอื่ ประสม” (Multiple media)1.3 ความหมายของส่ือมลั ติมเี ดีย ( Multimedia ) ราชบัณฑิตยสถาน (2542, หน้า 66) ไดบ้ ัญญัตศิ ัพทค์ าว่า “multimedia” เปน็ ศพั ทบ์ ัญญตั ิเทคโนโลยีสารสนเทศไวว้ ่า 1. สอื่ ประสม 2.สอื่ หลายแบบ ส่ือประสม (Multimedia) (กดิ านันท์ มลทิ อง : 2544 หนา้ 6-7 ) หมายถึง การนาส่ือหลายๆประเภทมาใชร้ ่วมกันทง้ั วัสดุ อุปกรณ์และวธิ กี ารเพื่อให้เกิดประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลสูงสดุ ในการเรยี นการสอน โดยการใชส้ ่ือแต่ละอย่างตามลาดับขนั้ ตอนของเนือ้ หา และในปัจจบุ นั มีการนาคอมพวิ เตอร์มาใช้ร่วมดว้ ยเพอ่ื การผลิตหรอื การควบคมุ การทางานของอุปกรณ์ต่างๆ ในการเสนอข้อมลู ท้งั ตัวอกั ษร ภาพกราฟิก ภาพถ่าย ภาพเคลอื่ นไหวแบบวีดทิ ศั น์และเสียง มลั ติมเี ดีย (สกุ รี รอดโพธ์ิทอง : 2544 หนา้ 2) หมายถงึ การใชส้ ื่อมากกวา่ 1 สื่อร่วมกันนาเสนอข้อมูลข่าวสาร โดยมีจดุ มงุ่ หมายใหผ้ ู้รบั สอ่ื สามารถรับขอ้ มูลข่าวสารได้มากกว่า 1 ชอ่ งทางและหลากหลายรูปแบบ คาจากดั ความน้ีคลอบคลุมชุดการสอนท่ีรวมสอื่ ต่างๆ ไวด้ ้วยกันเป็นชดุ เพื่อ

การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง และการนาอุปกรณ์ตา่ งๆ เชน่ เคร่ืองฉายสไลด์ เครอื่ งเล่นวดี ทิ ัศน์ เครอ่ื งบนั ทกึ เสียง ฯลฯ มาต่อพว่ งโดยมีระบบคอมพวิ เตอรเ์ ป็นตัวควบคมุ รวมถงึ ระบบสอื่ สมบรู ณ์แบบท่ีนาสอื่ หลากหลายเข้ามาบูรณาการผา่ นการควบคมุ การใช้และการโต้ตอบด้วยระบบคอมพวิ เตอรส์ ว่ นบุคคลหรือเครือขา่ ย มลั ตมิ ีเดยี (Multimedia) ทวศี กั ดิ์ กาญจนสุวรรณ (2546: 2-3 อา้ งถึงใน ชาญยุทธ ผลาพฤกษ.์2547:45) หมายถึง การนาองคป์ ระกอบของสื่อชนิดต่างๆมาผสมผสาน เข้าดว้ ยกนั ซง่ึ ประกอบดว้ ยข้อความ (Text) ภาพนิง่ (Image) ภาพเคล่ือนไหวหรอื แอนเิ มชน่ั (Animation) เสียง (Sound) และวดี ิทัศน์ (Video) โดยผ่านกระบวนการทางคอมพวิ เตอรเ์ พื่อสื่อความหมายกับผ้ใู ช้อย่างมปี ฏสิ ัมพนั ธ์(Interactive Multimedia) และไดบ้ รรลุผลตามวัตถุประสงคก์ ารใช้งาน สอ่ื ประสม (multimedia) สมสิทธ์ิ จิตรสถาพร (2547:18 อา้ งถึงใน ชาญยุทธ ผลาพฤกษ์.2547:46) หมายถงึ การใชส้ ่อื หลายอยา่ งประกอบกัน อย่างเป็นระบบในอดีตใชส้ อื่ ทห่ี ลากหลายดว้ ยกนั แต่ปัจจุบนั ใช้คอมพวิ เตอรท์ าหนา้ ท่ีนาเสนอส่ือ ได้หลากหลายเหมอื นกบั ในอดตี นอกจากน้ียงั มผี ้นู ิยมเรียกสื่อประสม ในแบบทบั ศัพทว์ ่ามลั ติมีเดีย สืบเนอื่ งจากในยคุ ปัจจบุ นั ความกา้ วหนา้ของเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ เอ้ือใหน้ ักออกแบบสื่อมัลติมเี ดียสามารถประยุกต์ ส่อื ประเภทต่างๆ มาใช้รว่ มกันไดบ้ นระบบ คอมพิวเตอร์ ตัวอยา่ งสื่อเหล่านี้ได้แก่ เสยี ง วดี ทิ ศั น์ กราฟิก ภาพนงิ่ และภาพเคลอ่ื นไหวต่างๆ การนาส่อื เหล่าน้มี าใชร้ ่วมกนั อย่างมี ประสทิ ธิภาพ เรารวมเรยี กส่ือประเภท(Multimedia) เม่ือกลา่ วถึงคาว่า “มัลติมีเดีย”(Multimedia) มักจะมีความหมายท่ีค่อนข้างกว้างไกล ทั้งน้ีขนึ้ อยู่กับมมุ มองของผู้ทีจ่ ะนามัลตมิ เี ดียไปใช้งานตามความต้องการ ในมุมมองของนักการศกึ ษาอาจหมายถึง การนาสื่อหลากหลายประเภทมาใชจ้ ดั ทาเปน็ สอื่ การเรยี นการสอน มมุ มองของผ้เู ยยี่ มชมอาจหมายถึงการนาเสนอสิ่งท่นี า่ สนใจท่ีทาใหเ้ ขา้ ใจไดง้ ่ายขน้ึ แตใ่ นมุมมองของคนทางานดา้ นผลิตสือ่ อาจหมายถึง การโตต้ อบและการปฎสิ มั พนั ธ์กนั ระหว่างคนกับคอมพวิ เตอร์ เป็นต้น อยา่ งไรกต็ าม ความหมายที่กล่าวว่ามาท้ังหมดนั้นเปน็ เพียงแค่แนวความคดิ ในแต่ละมุมมองเทา่ น้นั สาหรับคาว่า “มลั ติ” (Multi) หมายถึง หลายๆ อย่างผสมรวมกัน (ซ่งึ มีศพั ท์ทใ่ี กลเ้ คยี งกันเชน่ Many , Much และ Multiple) ส่วนคาว่า “มเี ดีย” (Media) หมายถึง ส่ือ ขา่ วสาร ชอ่ งทางการตดิ ตอ่ สื่อสาร เมอ่ื นามารวมกันเปน็ คาว่า “มัลตมิ ีเดีย” จึงหมายถึง “การนาองค์ประกอบของส่ือชนิดต่างๆ มาผสมผสานเขา้ ด้วยกัน ซึง่ ประกอบดว้ ย ตัวอักษร (Text) ภาพนิ่ง (Still Image)ภาพเคล่อื นไหวหรืออนิเมชัน่ (Animation) เสยี ง (Sound) และวดิ โี อ (Video) โดยผ่านกระบวนการทางระบบคอมพวิ เตอรเ์ พ่ือสอื่ ความหมายกบั ผู้ใช้อยา่ งมปี ฏิสมั พันธ์ (Interactive Multimedia)และได้บรรลผุ ลตามวัตถุประสงคก์ ารใช้งาน ส่ือประสม มาจากภาษาองั กฤษว่า มัลตมิ เี ดยี (multimedia) คาว่า มัลติ (multi) หมายถึงหลายๆ อยา่ งผสมรวมกัน ซ่ึงมีศัพทท์ ี่ใกล้เคยี งกัน เช่น many, much และ multiple 2 เปน็ ตน้ส่วนคาวา่ มเี ดยี (media) หมายถงึ สอ่ื ข่าวสาร ช่องทางการติดต่อสื่อสาร เมื่อนามารวมกนั เปน็ คาว่ามัลติมเี ดยี หรอื ส่ือประสม จึงหมายถึงการนาองคป์ ระกอบของส่ือชนดิ ต่างๆ มาผสมผสานเขา้ดว้ ยกนั ซ่ึงประกอบด้วยตัวอักษร ภาพนง่ิ ภาพเคล่อื นไหว เสียง และวดี ิทัศน์ โดยผา่ นกระบวนการ

ทางระบบคอมพิวเตอร์เพ่ือส่ือความหมายกับผู้ใช้อยา่ งมีการโตต้ อบและบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ความหมายของ “มลั ติมเี ดยี ” หรือ “สื่อประสม” มีใชก้ ันใน 2 ลักษณะ คือ 1) ใชใ้ นความหมายตามคาแปล หมายถึง สอ่ื ทเ่ี กิดจากการแสดงผลของข้อความ ภาพ และเสียง พรอ้ มๆ กนั ในลักษณะใด ลกั ษณะหนง่ึ โดยใชอ้ ปุ กรณต์ ่างๆ ได้แก่ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ สไลด์ประกอบเสียงหรือการใชว้ สั ดุอปุ กรณ์ตา่ งๆ ในการสาธติ หรอื การสอน หรอื หมายถึง การใช้สอื่มากกวา่ 1 สอ่ื ร่วมกนั นาเสนอข้อมูลข่าวสาร โดยมจี ดุ มุ่งหมายใหผ้ รู้ บั สื่อสามารถรบั ข้อมูลขา่ วสารได้มากกว่า 1 ช่องทาง และหลากหลายรูปแบบ 2) ใช้ในความหมายปจั จบุ นั หมายถึง การใช้คอมพวิ เตอร์เพ่ือนาเอาข้อความ ภาพ และเสียงในรูปแบบตา่ งๆ ซ่ึงถูกบนั ทึกไวใ้ นรปู ข้อมลู มาแสดงผลแปลงกลับเปน็ ข้อความ ภาพ และเสียง ทางจอภาพและลาโพง ผสมผสานกัน รวมทงั้ ควบคุมการแสดงผลของสอื่ เหลา่ นัน้ โดยโปรแกรม(Program) สงั่ งานคอมพวิ เตอร์1.4 ประโยชน์ของมัลตมิ เิ ดยี ประโยชนข์ องมัลติมเี ดยี มัลตมิ เี ดยี สามารถนามาประยุกตใ์ ช้งานในด้านตา่ งๆ ไดห้ ลายรูปแบบขึน้ อย่กู ับวัตถปุ ระสงค์ในการนาไปใช้งาน เชน่ การนามัลตมิ ีเดียมาใช้สื่อการเรียนการสอน หรอื สื่อโฆษณา เป็นตน้ โดยมลั ติมเี ดียจะช่วยใหง้ านมีความหลากหลาย และนา่ สนใจมากข้ึน สามารถอธิบายประโยชนต์ า่ งๆ ของมัลติมเี ดยี ได้ดงั น ้ี 1) งา่ ยต่อการใชง้ าน องคป์ ระกอบของมลั ตมิ ีเดียสว่ นใหญม่ ีพื้นฐานมาจาก ตวั อักษร รูปภาพเสยี ง และสือ่ ชนดิ อ่ืนๆ ซ่ึง เปน็ ส่ื อท ี่ใช้กันอยู่ทวั่ ไปในชีวิตประจาวนั ทาให้สามารถนามัลตมิ เี ดยี มาประยุกต์ใช้กบั สิ่ งพมิ พ์ โทรทัศน์ และระบบ คอมพวิ เตอร์ไดง้ า่ ย 2) สร้างความรูส้ กึ สื่อมัลติมเี ดียสามารถสร้างความรู้สึกให้กบั ผ้ชู มได้ เช่น การใชเ้ สยี งเพลงเพ่อื่ สร้างความรู้สกึ เป็นต้น 3) สรา้ งเสรมิ ประสบการณ์การออกแบบและพฒั นาโปรกรมคอมพวิ เตอรด์ ้านมัลตมิ ีเดยี แม้จะมีคุณลักษณะท่ีแตกต่างกนั ตามแต่ละวิธกี าร แต่สงิ่ หน ่ึ งที่ผใู้ ชจ้ ะได้รับ คือ การส่งั สมประสบการณ์จากการใช้ส่ือเหล่าน ใี้ นแง่มุมท ี่ แตกตา่ งกัน ทาให้ ทราบหรือคาดเดาถงึ การใช้งานโปรแกรมมลั ติมเี ดยี อนื่ ๆ ได้ 4) เพ่มี่ ความสามารถในการเรียนรู้ ผ้ใู ชแ้ ตล่ ะคนอาจมีความสามารถในการเรยี นรู้ และประสบการณ์ท่แี ตกต่างกนั การนาสอื่ มัลติมีเดยี มาประยุกตใ์ ช่เพ ื่ อนาเสนอเน้ื อหาตา่ งๆ จะชว่ ยเพมิ่ ทักษะในการเรียนรดู้ ว้ ยตัวเองไดด้ ีขึน้ 5) คุม้ คา้ ต่อการลงทนุ การใช้โปรแกรมดา้ นมลั ติมีเดียจะชว่ ยลดระยะเวลาและประหยัดคา่ ใช้จ่ายต่างๆ ในการจ้างผู้เชี่ยวชาญมา เผยแพร่ความรู้ เช่น การจดั หาวิทยากร การเดินทาง การจดั หาสถานที่ และการจดั หาช่องทางการนาเสนอผา่ นส่ือ เป็นตน้ ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ท่ีนามาใช้กับมัลตมิ เี ดยี

โดยทั่วไปมกั จะกล่าวถึงความหมายของคาวา่ ส่อื ประสม โดยมุ่งเน้นไปทส่ี ือ่ ที่ใช้งานบนเคร่อื งคอมพิวเตอร์เพยี งอยา่ งเดยี ว แตใ่ นความเป็นจรงิ แลว้ ส่อื ประเภทอน่ื ๆ เชน่ โทรทศั น์และวิทยุกจ็ ัดได้ว่าเป็นส่อื ประสมเช่นกนั อยา่ งไรก็ตามคอมพวิ เตอร์กย็ งั จัดเป็นอุปกรณ์ท่ไี ด้รับความนยิ มที่ใชส้ าหรบัการผลิตส่ือ การนาเสนอและติดต่อส่อื สารมากทสี่ ุด เนือ่ งจากมีขดี ความสามารถและรองรับการทางานไดห้ ลากหลาย จึงทาให้คาจากัดความของสอ่ื ประสมมกั จะมุง่ เน้นไปท่ีคอมพิวเตอรเ์ ป็นส่วนใหญ่ (Hofstetter, 2001, 2) สรุปความหมายของส่อื ประสมไดว้ า่ สือ่ ประสมคือการใชค้ อมพิวเตอรร์ ่วมกับโปรแกรมประยุกตใ์ นการสอื่ ความหมายโดยการผสมผสานสอ่ื หลายชนดิ เชน่ ข้อความกราฟิก ภาพเคล่ือนไหวเสียง และวดี ทิ ศั น์ เป็นต้น และถ้าผูใ้ ช้สามารถควบคุมส่อื ให้นาเสนอออกมาตามตอ้ งการได้จะเรียกว่าส่ือประสมเชงิ โต้ตอบ การโต้ตอบของผ้ใู ช้สามารถจะกระทาได้โดยผา่ นทางแผงแปน้ อักขระ เมาส์หรอื ตวั ช้ี เปน็ ตน้ การใชส้ ื่อประสมในลกั ษณะเชิงโต้ตอบกเ็ พ่ือช่วยใหผ้ ู้ใช้สามารถเรียนรู้หรือทากิจกรรม รวมถงึ ดสู ื่อต่างๆ ดว้ ยตวั เองได้ ส่ือตา่ งๆ ทีน่ ามารวมไวใ้ นส่อื ประสม เชน่ ภาพ เสยี ง วดี ิทศั น์ จะชว่ ยให้เกิดความหลากหลายในการใชค้ อมพวิ เตอรอ์ นั เป็นเทคโนโลยีในแนวทางใหมท่ ที่ าให้การใช้คอมพิวเตอร์นา่ สนใจ และเรา้ ความสนใจ เพมิ่ ความสนกุ สนานในการเรยี นรู้มากยง่ิ ข้นึ ภาพที่1.5 การพัฒนาฮารด์ แวรแ์ ละซอฟต์แวร์สาหรับมลั ติมีเดยี การพัฒนาฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟต์แวร์ถูกกาหนดมาตรฐานโดย Multimedia Marketing Council(MMC) ซงึ่ เป็นคณะกรรมการทที่ าหนา้ ท่ีกาหนดมาตรฐานให้กับเทคโนโลยมี ลั ติมเี ดยี บนเคร่ืองคอมพิวเตอร์ (Multimedia Personal Computer : MPC) ทาให้การพฒั นามัลติมเี ดยี ของผผู้ ลิตตา่ งๆ มีความเปน็ มาตรฐานสากล รายละเอียดเกี่ยวกบั ฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟต์แวรท์ ใี่ ชส้ าหรับพฒั นาและแสดงผลมลั ติมีเดยี บนเคร่ืองคอมพิวเตอรโ์ ดย แบ่งรายละเอียดดงั กล่าวออกเปน็ 2 กลุม่ ไดแ้ ก่Multimedia Playback และ Multimedia Production Multimedia Playback 7 ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟต์แวรท์ ่ีนามาใช้ในการแสดงผลมัลติมเี ดีย ประกอบด้วย 1) ซพี ียู (CPU) และ แรม (RAM) ทม่ี ีประสทิ ธภิ าพสงู ใชส้ าหรับการประมวลผลข้อมูล 2) ฮารด์ ดสิ ก์ (Hard Disk) สาหรบั จดั เกบ็ ข้อมลู ท่ีมขี นาดใหญ่ เนื่องจากการผลิตส่ือมัลติมเี ดยี จาเป็นต้องใช้พนื้ ท ี่ ขนาด ใหญ่ในการจัดเก็บไฟล์ 3) จอภาพ (Monitor) เปน็ อุปกรณ์ในการแสดงผลการสร้างมลั ติมีเดีย โดยรับสญั ญาณภาพจาก Video Display Adapter ท่สี ามารถรองรับมาตรฐาน SVGA และสามารถแสดงผลมลั ตมิ เี ดียดว้ ยโหมด True Color ได้ 4) CD-Writer ซ่งึ สามารถอา่ นและเขยี นแผน่ CD ได้ เปน็ อุปกรณส์ าหรบั อา่ นข้อมลู บนแผ่นซดี ีหรอื าจใช้ DVD Writer ซึ่งสามารถอ่านและเขยี นแผ่นได้เกือบทกุ ประเภท 5) การ์ดเสยี ง (Sound Card) ทาหน้าท ่เี ช่ื อมต่อลาโพงและไมโครโฟน เพ่ือเลน่ หรือบนั ทกึ เสียง 6) อุปกรณ์รับข้อมูล (Input Device) ประกอบด้วยคยี ์บอร์ด (Keyboard) สาหรับป้อนขอความหรือตวั อักษรและเมาส์ (Mouse) ทาหนา้ ท ่ี ควบคุมการใชง้ านผ่านทางหนา้ จอ โดยสามารถเพ่ิมอุปกรณร์ ับข้อมลู ในรูปแบบอ่นื ได้ เชน่ สแกนเนอร์ (Scanner) จะแปลงรูปภาพบนกระดาษใหอ้ ยู่ใน

รูปแบบอิเลก็ ทรอนิกส์ และการด์ วดิ โี อ (Video Capture Card) ทาหนา้ ทแี่ ปลงสัญญาณจากอนาล็อก (Analog) ใหเ้ ปน็ ดจิ ิตอล (Digital) เพอื่ จัดเก็บข้อมลู บนเครอื่ งคอมพิวเตอรไ์ ด้ 7) ซอฟต์แวร์ (Software) สาหรับผลติ ส่ื อมลั ติมีเดีย ไดแ้ ก่ “Editing Software” ใช้สาหรบัแก้ไข และจดั การ องคป์ ระกอบของสื่อ เชน่ โปรแกรมสาหรับแกไ้ ขรูปภาพ ไดแ้ ก่ โปรแกรม AdobePhotoshop และ CorelDraw โปรแกรมสาหรับแกไ้ ขไฟล์เสียง ไดแ้ ก่ โปรแกรม Cool Edit และSound Forge โปรแกรมสาหรับแกไ้ ขไฟล์วดิ โี อ ไดแ้ ก่ โปรแกรม Adobe Premiere และ AdobeAfter Effect และโปรแกรมสาหรับสรา้ งหนังแอนิเมช่นั ได้แก่ โปรแกรม Macromedia Flash และKinetix 3D Studio Max เปน็ ต้น สว่ นโปรแกรมประเภท “Authoring Software” จะใช้สาหรบัสร้างมัลตมิ เี ดยี ในรปู แบบไฟล์ .exe เช่น โปรแกรม Multimedia Autherware และ Captivateเปน็ ตน้ 8) เวบ็ บราวเซอร์ (Web Browser) เชน่ Internet Explorer เป็นตน้ จะเชื่อมต่อกับโปรแกรมMedia Player เช่น QuickTime Movie Player หรอื Real Media Player เปน็ ตน้ เพ อ่ื แสดงผลมัลตมิ ีเดยี บนเครือขา่ ยอินเตอร์เน็ตรวมทั้ง โปรแกรมสาหรับอ่านเอกสารต่างๆ เชน่ Power PointViewer หรือ Adobe Reader การสรา้ งเว็บแอปพลิเคชน่ั สามารถสรา้ งไดจ้ ากโปรแกรมตา่ งๆ เชน่Microsoft FrontPage และ Dreamweaver ซงึ่ สามารถสร้างการเชือ่ มโยงกบั มลั ตมิ ีเดียดว้ ยภาษาHTML และ JavaScript เป็นต้น1.6 เทคโนโลยีมัลติมีเดยี เทคโนโลยีมัลติมเี ดยี พิจารณาจากการพัฒนาคอมพวิ เตอร์ทั้งประสิทธิภาพของอุปกรณ์ฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟต์แวร์ตวั อย่าง เชน่ 1) ความสามารถของโปรเซสเซอรท์ สี่ ามารถประมวลผลข้อมลู อย่างรวดเรว็ เพ่ือรองรับการคานวณดา้ นคอมพิวเตอร์กราฟกิ ที่มี ความซบั ซอ้ นมากขนึ้ 2) หนว่ ยความจาในเคร่ืองที่มีความเรว็ สงู ขนึ้ และเพ่ิมขยายได้มากขึ้น 3) การด์ แสดงผลทชี่ ว่ ยให้แสดงภาพได้อย่างรวดเรว็ และมีประสทิ ธิภาพในการแสดงผลสงู 4) จอภาพขนาดใหญ่ 5) การด์ เสียงและลาโพงที่สมบูรณแ์ บบเทียบไดก้ ับเคร ่อื งเสยี งราคาแพง ๆ 6) อุปกรณ์จัดเกบ็ ข้อมูลท่ีมีความจุมากข้ึน เชน่ ฮารด์ ดสิ ก์เปน็ ตน้ 7) เทคโนโลยไี มโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer Technology) ทาใหก้ ารจัดการข้อมูลในลักษณะ ข้อความ ภาพ เสียง และการโต้ตอบ เป็นไปด้วยความรวดเรว็ และต่อเนอ่ื งโดยไม่เกดิ อาการสะดดุ ่ท้ังภาพและเสียง 8) เทคโนโลยีจอภาพ (Screen Technology) การนาเสนอระบบงานมัลตมิ เี ดีย แทบทุกระบบงาน เปน็ การนาเสนอผ่านจอภาพทั้งสนิ้ ดงั นั้นจอภาพจึงเป็นสว่ นประกอบท่ี สาคัญทสี่ ุดสว่ นหนึ้งของระบบมัลติมีเดยี ประเภทของจอภาพ

1.7 ประเภทของส่อื ประสม 1.7.1 คอมพวิ เตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI) คอมพิวเตอรช์ ่วยสอน(Computer Assisted Instruction: CAI) เป็นกระบวนการเรยี นการสอน โดยใชส้ ่ือคอมพิวเตอร์ใน การนาเสนอเน้ือหาเร่ืองราวต่างๆ มีลกั ษณะเป็นการเรยี นโดยตรง และเป็นการเรียนแบบมีปฎิสมั พนั ธ์คอื สามารถโตต้ อบ ระหว่างผู้เรยี นกบั คอมพวิ เตอร์ไดซ้ ง่ึ การใชส้ ื่อมัลติมเี ดียกยี่ วข้องโดยตรงกับการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ช่วยสอน คอมพิวเตอรช์ ่วยสอนจะต้องมีลกั ษณะสาคญั 4 ประการ ซึ่งเรียกวา่ 4-I ดงั น ้ีคือ 1. Information – ต้องมเี นื้อหาสาระสาคัญ 2. Individualize – ต้องตอบสนองความแตกต่างระหวา่ งบุคคล 3. Interactive – ตอ้ งมกี ารโตต้ อบระหว่างผู้ใช้กับบทเรยี นได้ 4. Immediate Feedback – ตอ้ งให้ผลยอ้ นกลับโดยทันที 1.7.2 ประเภทของโปรแกรมคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนได้ดงั น้ี คอื 1) คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนประเภทเพ่อื การสอน (Tutorial Instruction) วตั ถุประสงคเ์ พ่ือการสอนเน้ือหาใหม่แก่ผเู้ รียน มกี ารแบ่งเน้ือหาออกเป็นหน่วยย่อย มคี าถามในตอนทา้ ย ถา้ ตอบถูกและผา่ น ก็ จะสามารถเรียนหนว่ ยถดั ไป โปรแกรมประเภท Tutorial นม้ี ผี ูส้ ร้างโปรแกรมเปน็จานวนมาก เพราะสามารถสรา้ งเพ ื่อสอนได้ ทุกวิชา 2) คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนประเภทการฝกึ หัด (Drill and Practice) คอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนประเภทน้ี จะ ฝกึ ความแม่นยาหลังจากท ีไ่ ด้เรียนเน ้อื หาในห้องเรียนมาแล้ว โปรแกรมคอมพวิ เตอร์จะไม่ เสนอเน้ื อหาอีก แต่จะเป็นการใชว้ ิธีสุ่มคาถามทีน่ ามาจากคลังข้อสอบ มีการนาเสนอคาถาม่ซา้ ๆ เพ่ือวดั ความรู้จริงๆ ไมใ่ ชก่ าร เดา จากนั้นก็ทาการประเมนิ ผล 3) คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอนประเภทสถานการณ์จาลอง (Stimulation) คอมพิวเตอรช์ ่วยสอนประเภทน้ี จะทาใหผ้ ู้เรียนได้ทดลองปฏิบัตกิ ับสถานการณจ์ าลอง ท่ีมีความใกลเ้ คียงกบัเหตุการณ์จรงิ เพ่ือ ฝกึ ทกั ษะและเรยี นร้โู ดยไมต่ ้องเส่ียงหรือเสียค่าใชจ้ า่ ยมาก โปรแกรมประเภทนี้มักเป็นโปรแกรมสาธติ (Demonstration) เพ ่อื ใหผ้ ู้เรยี นทราบถึงทักษะที่จาเป็น 4) คอมพวิ เตอร์ช่วยสอนประเภทเกมการสอน (Instructional Games) หรอื เกมการศึกษา (Educational Games) คอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนประเภทนม้ี ีวัตถุประสงค์เพ ่ื อกระต้นุ ความสนใจของผเู้ รียน มีการแข่งขัน เนื้อหาท่ีใหแ้ ก่ผู้เรียนเปน็ ไปในแง่ ของกระบวนการ ทศั นคติตลอดจนทกั ษะตา่ งๆ ทชี่ ่วยเพ ่ิมบรรยากาศในการเรยี นให้น่าเรยี นมากยิ่งขึ้น 5) คอมพิวเตอรช์ ่วยสอนประเภทเพื่อการสอบ (Test) คอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนประเภทน้ีไม่ไดม้ วี ตั ถุประสงคเ์ พ ่ือการสอน แตเ่ พ ือ่ ใช้ประเมินการสอนของครแู ละการเรยี นของนักเรียนคอมพวิ เตอรจ์ ะประเมินผลในทนั ทีว่านักเรียนสอบได้หรือสอบตก อยูใ่ นลาดับท ่ี เทา่ ไหร่ และได้ผลการสอนที่ก่ีเปอร์เซน็ ต์ 6) คอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนประเภทการค้นพบ (Discovery) ทาให้ผู้เรียนไดม้ โี อกาสทดลองกระทาส่ิ งต่างๆก่อน จนกระท ง่ั สามารถหาข้อสรปุ ได้ด้วยตนเอง คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนประเภทนี้จะเสนอปัญหาใหแ้ กผ่ ู้เรียนได้ลองผิดลองถกู และให้ข้อมลู แกผ่ เู้ รียน เพ ่อื ช่วยผเู้ รยี นในการคน้ พบนั้น จนกว่าจะหาข้อสรุปทด่ี ี ท่สี ุดได้

7) คอมพิวเตอร์ชว่ ยสอนประเภทการแกป้ ัญหา (Problem-Solving) คอมพิวเตอร์ช่วยสอนประเภทมีวตั ถปุ ระสงค์เพ ือ่ ให้นักผู้เรยี นไดร้ ูจ้ ัการคดิ การตดั สินใจ โดยจะมเี กณฑ์ที่กาหนดไว้ให้แล้ว ผ้เู รียนจะพจารณาตามเกณฑ ์นัน้ ๆ 1.7.3 E-learning E-learning Electronic Learning คือ การเรียนการสอนผ่านระบบอิเลก็ ทรอนิกสซ์ ึ่งในปัจจุบันสถานศึกษาหลายๆ แหง่ ไดม้ ี การใช้ E-learning ประกอบการเรยี น การสอน มากย่ิงขน้ึ ผู้เรียนสามารถเขา้ สบู่ ทเรียนจากบ้านผา่ นเครือขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ โดย ผา่ นการลงทะเบียน และสามารถทาแบบฝึกหดั และทราบคะแนนไดท้ ันทนี อกจากน ้ี จะมีภาพวดี ิโอการสอนของอาจารย์ให้ นกั ศกึ ษาได้ชมผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ดว้ ย ส่วนประกอบหลัก ๆ ของ E-learning 1. มกี ารลงทะเบยี นเรียนของนักศึกษา 2. บทเรียนตา่ งๆ ทใ่ี ชส้ อน 3. แบบทดสอบออนไลน์ 4. กระดานข่าว เพื่อแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสาร ระหวา่ งผ้เู รียนดว้ ยกนั หรอื ผู้เรยี นกับอาจารย์ เวบ็ ไซต์ที่ให้บรกิ าร E-learning เช่น www.thai2learn.com www.thaicai.com,www.thaicyberclass.com ตัวอยา่ งเวบ็ ไซต์ทเ่ี ปน็ E-learning การประยุกตใ์ ช้งานมัลติมีเดยี ในด้านต่างๆ1.8 การพัฒนามลั ติมเี ดียด้านอน่ื ๆ มัลติมีเดียได้ถูกพัฒนามาเพื่อให้สามารถประยุกตใ์ ช้งานร่วมกับแอปพลเิ คชนั่ ในด้านต่างๆ ตามความต้องการของผ้ใู ช้ได้ หลากหลาย ดงั นี้ 1) ด้านความบันเทิง (Entertainment) เทคโนโลยีมัลตมิ ีเดยี ไดเ้ ขา้ มามีบทบาทตอ่ ความบนั เทงิ ภายในบา้ นในรปู แบบต่างๆ ไม่ วา่ จะเป็นเกมส์คอมพิวเตอร์ เพลง ภาพยนตร์ สารานกุ รมสาหรับการส่อื สาร และการต์ ูน โดยผู้ใช้สามารถโตต้ อบกบั แอปพลเิ คช่ันของมลั ตมิ ีเดยี เพื่อควบคุมการทางานต่างๆ ไดเ้ ช่น สงั่ ให้เล่นหรือหยุดเพลง เป็นต้น 2) ด้านการศึกษา (Education) สามารถนามัลติมีเดยี มาประยุกต์ใชใ้ นด้านการศึกษาเพอื่ สรา้ งส่ือการเรยี นรู้ในรปู แบบ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ที่เรยี กว่า “E-Learning” (Electronic Learning)เช่น สื่อมัลตมิ เี ดยี ที่จาลองการทดลองในห้องปฏบิ ตั ิการ ทางเคมเี ป็นต้น โดยสามารถนาส่ื อมลั ติมีเดียนี้มาเผยแพร่ผ่านทางเครือขา่ ยคอมพวิ เตอรเ์ พ ื่ อถา่ ยทอดความรู้ นอกจากนย้ี ัง สามารถนาเสนอมลั ตมิ เี ดยี ในรปู แบบวิดีโอ (Video) แอนเิ มชั่น (Animation) และเสียง (Audio) เพอ่ื เพมิ่ความเข้าใจและ การจดจาได้ดยี ิง่ ขน้ึ 3) ด้านการฝึกอบรม (Training) Computer Based Training (CBT) เป็นการฝกึ อบรมและพฒั นาพนักงานในองค์กร ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพ่ือเพ่ิมศักยภาพและขดี ความสามารถในการปฏิบัติงาน เช่น การฝึกอบรมพนกั งานเพื่อควบคุม เครื่องจักร การฝึกอบรมดา้ นการเงนิ และการบัญชี และการฝกึ อบรมด้านคอมพวิ เตอร์ เป็นตน้ การอบรมด้วยวิธีนสี้ ามารถ เรียนในเวลาทวี่ ่างได้ไมเ่ สยี เวลาในการทางานและสามารถเรียนรู้ได้เองโดยไม่จาเป็นต้องเรยี นร้จู ากอาจารย์ผู้สอนโดยตรงทาให้พนักงานแตล่ ะหน่วยงานมคี วามรู้ท่เี ปน็ มาตรฐานเดียวกนั

4) ดา้ นการนาเสนอขอ้ มลู (Presentation)สามารถนามัลติมเี ดยี มาประยุกตใ์ ชเ้ พ่ืออนาเสนอขอ้ มลู ในรปู แบบข้อความ (Text) แผนภมู ิ (Chart) โลโก้ (Logo) หรือ วดิ โี อ (Video) เพอ่ื ช่วยในการอธิบายและสอื่ สารข้อมูลให้ผู้เข้าชมเขา้ ใจยิ่ งข้ึน ตัวอย่างเช่น การนาเสนอข้อมูลภายในองค์กรจะแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ลักษณะเด่น กิจกรรมของบริษทั ผลติ ภณั ฑ์ และหน่วยงาน ทางธุรกิจ ซ่งึ เปน็ วธิ ีที่ชว่ ยเพ่ิมความนา่ เชื่อถือและเพ ิ่มศักยภาพให้กับองค์กร เป็นต้น 5) ด้านการบริการขอ้ มลู (Information) การให้บรกิ ารขอ้ มูลจะนาแอปพลิเคชั่นมัลตมิ ีเดยี มาประยกุ ต์ใช้กบั Information Kiosk ซง่ึ เป็นระบบให้บรกิ ารขอ้ มลู แบบอตั โนมัติประกอบดว้ ยเคร่ือคอมพิวเตอร์แบบหนา้ จอสัมผสั (Touch Screen) ทมี่ ี การเชื่ อมต่อกับเครอื ข่ายคอมพิวเตอรเ์ พ่ือดงึ ข้อมูลต่างๆ เช่น การนาเสนอข้อมลู สนิ คา้ ข้อมลู ทางการเงิน หรอื บริการของเว็บไซต์ เปน็ ตน้ โดยผใู้ ช้สามารถเข้าถึงข้อมลู ไดด้ ว้ ยตนเองผา่ นทางสานักงานหรือศูนย์การค้าท ่ีใหบ้ รกิ าร 6) ด้านธุรกิจ (Business) มัลติมเี ดยี ช่วยอานวยความสะดวกในด้านธรุ กิจได้เปน็ อย่างมากใชส้ าหรับแสดงรายละเอยี ดสินคา้ หรอื การบริการตา่ งๆ เป็นต้น การนาเสนอด้วยมัลติมีเดียสามารถอธบิ ายขอ้ มลู ได้อยา่ งชดั เจนและเชา้ ใจง่าย นอกจากน้ียังการ พฒั นาเทคโนโลยกี ารตดิ ต่อส่ือสารท่ีเป็นไอยา่ รวดเรว็ และเช่ือมโยงกันอยา่ งท ั่ วถึง ทาให้สามารถใช้มัลตมิ เี ดียเพ ่ื อการ ตดิ ตอ่ สือ่ สารกนั ในระยะไกลได้ด้วย เช่น การประชุมทางไกล (Video Conference) โดยจะส่อื สารกันผ่านกล้องและ ไมโครโฟน ทาให้ประหยัดคา่ ใช้จา่ ยด้านสถานท่ี การเดินทาง และเวลา 7) ด้านการท่องเที่ยว (Travel) บรษิ ัทท่องเท ี่ยวสามารถนามัลติมเี ดยี มาประยุกต์ใช้เพื่อนาเสนอแพ็กเกจการท่องเท่ียวผา่ นทาง เว็บไซต์ หรอื ส่ือโฆษณาอื่นๆ ได้โดยนาเสนอข้อมูลต่างๆเช่น สถานท่ี ห้องพัก อาหาร ราคา และกจิ กรรมต่างๆ เปน็ ตน้ เพ่อื ดึงดดู ความสนใจจากลกู ค้านอกจากนี้ระบบมัลตมิ ีเดียท ่ใี ชค้ วรจะมเี คร ่ื องมอื ในการค้นหาและสบื คน้ ข้อมลู ที่ลูกค้าตอ้ งการได้ 8) ดา้ นการซ้ือขายสนิ ค้า (Electronic Shopping) ปจั จบุ ันการซ้ือขายสนิ ค้าผ่านทางเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ จะนาส่ื อมัลติมีเดยี มาประยุกต์ใช้ในการนาเสนอสนิ ค้าและบริการแกล่ กู ค้าเชน่ ราคา ขนาด สีสัน และคุณสมบัติพิเศษของสินคา้ หรือบรกิ าร เป็น ตน้ เพ อื่ สรา้ งความน่าสนใจใหก้ ับสินค้าหรือบรกิ าร เม่ือลูกคา้ ต้องการก็สามารถสง่ั ซ้ือผา่ นเว็บไซตไ์ ด้อยา่ งสะดวกและรวดเรว็โดยระบบควรจะแสดงขั้นตอนการสง่ั ซือ้ และวธิ ีการใชง้ านให้กับลูกคา้ ทราบดว้ ย 9) ดา้ นการซื้อขายสนิ ค้า (Communication) แอปพลิเคชนั่ สาหรับเทคโนโลยีมลั ติมเี ดียสามารถรองรับการส่อื สารแบบ Real Time ระหว่างผูใ้ ช้งานกับแอปพลเิ คช่ั นด้วย Real TransportProtocol (RTTP) และใช้เทคโนโลยแี บบสตรีมมิง่ (Streaming) เพ ื่อให้บริการในรปู แบบต่างๆ ผา่ นทางเครือข่ายอินเทอร์เนต็ ได้ เชน่ บริการ Voice Mail และ Tele Conference โดย Voice Mailเป็นบริการบันทึกข้อมลู เสียงไวบ้ น Voice Mail Server เพ ่อื ใหผ้ ู้ใชส้ ามารถเปิดฟังได้ใน ภายหลงัส่วน Tele Conference จะเปน็ การสอื่ สารภาพ และ เสียงแบบ Real Time โดยจาเป็นตอ้ งเช่ื อมต่อเขา้ เซิร์ฟเวอรส์ ่วนกลางเพ่ือติดต่อส่อื สารกบั หนว่ ยงานต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องไดร้ วมถึงบริการ AudioConference สาหรบั สือ่ สาร ด้วยเสยี ง และ Video Conference ทสี่ ามารถส่ือสารได้ท้ังภาพและเสยี งผ่านทางเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตแบบ Real Time ทชี่ ่วยลดค่าใช้จ่ายและสามารถรองรับผใู้ ช้งานได้เปน็ จานวนมาก

10) ดา้ นการแพทย์ (Medicine) เทคโนโลยีมลั ติมีเดยี สามารถนามาประยุกตใ์ ชใ้ นด้านการแพทย์ได้ เชน่ ภาพเอ็กซ์เรยท์ ี่ได้ จาก CT Scan ซึ่งจะใช้คล ่ื นแมเ่ หล็กตรวจสอบรา่ งกายมนุษย์และแสดงผลลพั ธก์ ารสแกนในรูปแบบ 3 มติ ิ เปน็ ต้น นอกจากนยี้ งั สามารถใช้เทคโนโลยี TeleMedicine หรอื ระบบแพทยท์ างไกลผ่านดาวเทียมช่วยในการวนิ ิจฉยั เพ ่ือหาสาเหตุ ของโรคและวิธกี ารรกั ษาไดโ้ ดยสามารถทาการรกั ษาหรือผ่าตดั ผา่ นระบบทางไกลได้อยา่ งแม่นยา 11) ดา้ นการออกแบบทางด้านวิศวกรรม (Engineering Application) เทคโนโลยีมัลตมิ ีเดยีช่วยในการออกแบบเครื่ องจักร ไฟฟา้ วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ และอาคาร โดยใชค้ อมพวิ เตอร์Computer Aided Design (CAD) และ Computer Aided Manufacturing (CAM) วศิ วกรจะใช้ซอฟตแ์ วร์สาหรบั การออกแบบในการพฒั นาผลิตภัณฑ์ ที่แสดงส่วนประกอบ ตา่ งๆ ได้อย่างละเอยี ดเหมือนจริง และเคล อ่ื นไหวได้ กอ่ นท ่ี จะทาการผลติ 12) ดา้ นการจดั เกบ็ และสบื ค้นข้อมูล (Content Base Storage and Retrieval : CBSR)ในปัจจบุ ันระบบการค้นหาและ สบื คน้ ข้อมลู (Content Base Storage And Retrieval : CBSR)นยิ มนาไปใช้ในทางการค้าบนเครอื ข่ายทางอินเทอรเ์ นต็ ทมี่ กี ารจัดเก็บข้อมูลในฐานข้อมูล เช่นรูปภาพ เสียง และวดิ โี อ เป็นต้น โดยจะนาข้อมลู ที่ผู้ใชต้ ้องการสืบค้นมาแม็ตช่งิ1.9 ปัจจยั ท่ีมีผลกระทบต่อการนาเสนอมลั ติมเี ดีย การนาเสนอมลั ติมเี ดยี จะมีประสทิ ธภิ าพและไดร้ ับความนิยมหรอื ไม่ ข้ึนอยู่กับปจั จยั ตา่ งๆ ดังนี้ 1) ความต้องการของผู้ใชง้ าน (Demand from Customer)การนาเสนอมัลตมิ ีเดียควรคานึงถงึ ความต้องการและวัตถุประสงค์ ของผูใ้ ช้งานเป็นหลัก เนื่องจากผู้ใชแ้ ตล่ ะคนมีความต้องการทแ่ี ตกตา่ งกนั เชน่ เม่ือผูใ้ ช้ต้องการชมภาพยนตรต์ วั อยา่ งผา่ นทาง เวบ็ ไซต์ นอกจากจะนาเสนอภาพและเสยี งแล้วยงั ต้องสามารถตอบสนองการใช้งานต่างๆ ได้เช่น สามารถสั่งให้เลน่ หรอื หยุด เลน่ภาพยนตร์ได้ 2) การบีบอดั ข้อมูล (Compression) การบบี อดั ข้อมูล คือ วิธกี ารจดั เกบ็ ขอ้ มลู ใหม้ ีขนาดเลก็ ลง โดยทัว่ ไปการบนั ทึก มลั ติมีเดียจาเป็นต้องใช้การบบี อัดข้อมูลเนื่องจากไฟล์มลั ติมีเดียเป็นไฟล์ทีม่ ขี นาดใหญใ่ ชพ้ ้ืนท ใ่ี นการจัดเก็บมาก ทาให้การสง่ และแสดงผลข้อมูลชา้ ดังนั้นการบีบอดั ให้ข้อมูลมีขนาดเล็กลงจะทาใหส้ ามารถแสดงผลและส่งข้อมูลมัลตมิ ีเดียได้รวดเรว็ ย่ิงขึ้น 3) ประสทิ ธภิ าพในการประมวลผล (Processing Power) โดยท่ัวไปการนาเสนอมลั ติมีเดียจะอยใู่ นรปู แบบของรปู ภาพ เสยี ง วดิ โี อ และแอนิเมชน่ั ซึง่ จาเปน็ ต้องใชห้ น่วยประมวลผลที่มีประสิทธภิ าพ เพ อ่ื ประมวลผลข้อมูลท่ีมีขนาดใหญด่ ้วยเวลา ท่เี หมาะสม สว่ นการประมวลแอนเิ มชั่ นแบบ 3 มติ ิ (3D Animation) จาเป็นตอ้ งใช้หนว่ ยประมวลผลและหนว่ ยความจาทมี่ ีประสิทธิภาพมากกว่าการประมวลผลมัลตมิ ีเดียในรปู แบบ 2 มติ ินอกจากน้ียังต้องมรระบบการแสดงผลท่มี ีประสิทธภิ าพสงู ดว้ ย 4) มาตรฐาน (Standard) มาตรฐานสาหรับนาเสนอมัลตมิ ีเดยี ไม่มีการระบุไว้อยา่ งชดั เจนแตโ่ ดยทว่ั ไปจะประกอบดว้ ย องคป์ ระกอบทางด้านฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ องคป์ ระกอบดา้ นฮาร์ดแวร์ เชน่ สาย และพอร์ตสาหรบั เชอื่ มต่อ เป็นตน้ ส่วนองคป์ ระกอบดา้ นซอฟตแ์ วร์ เช่น

รปู แบบไฟล์ โปรโตคอลสาหรบั รับส่งขอ้ มูล และมาตรฐานการบบี อดั ข้อมูล เปน็ ตน้ โดยองคป์ ระกอบเหล่าน้ีตอ้ งสามารถรองรบั การนาเสนอมัลตมิ เี ดียได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 5) แบนด์วิธ (Bandwidth) ประสิทธภิ าพในการนาเสนอมลั ติมเี ดยี บนอนิ เทอรเ์ น็ตจะขึ้นอยู่กบั ขนาดของแบนด์วิธและความเร็ว ในการสง่ ข้อมลู ระหว่างอุปกรณ์ภายในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ไปยงัเครือข่ายอินเทอร์เนต็ เช่น การรบั ส่งขอ้ มูลภาพระหว่างจอภาพ (Monitor) การด์ วดี ีโอ (VideoAdapter) และหนว่ ยประมวลผล (Processor) หรือการรับส่งขอ้ มลู เสียง (Audio) ระหว่างลาโพง(Speaker) การ์ดเสียง (Sound Card) และหนว่ ยประมวลผล (Processor) เปน็ ต้น รวมถึงความเร็วบสั ของ Interface ที่ใชเ้ ช่ื อมตอ่ กับอปุ กรณ์เชน่ AGP , USB และ FireWire เป็นต้น โดยข้อมูลมลั ติมีเดยี จะใช้ โปรโตคอลเพื่ อกาหนดกฎเกณฑใ์ นการรบั ส่งขอ้ มลู บนเครอื ข่ายอินเทอร์เนต็ เช่นโปรโตคอล Real Time Transport Protocol (RTTP) เป็นตน้ โดยอาจใช้การรบั สง่ ข้อมลู แบบสตรีมมิง่ (Streaming) ทีส่ ามารถรบั สง่ ขอ้ มลู มัลติมเี ดียได้ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 6) การเผยแพร่ (Distribute Mechanism) นอกจากการนาเสนอมลั ตมิ เี ดยี ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เนต็ วิธที ่นี ยิ มใช้ในการ นาเสนอมลั ตมิ ีเดยี อกี วธิ ีหน่งึ คอื การนาเสนอผา่ นอุปกรณ์สาหรบั จัดเก็บข้อมลู แบบพกพาชนิดต่างๆ เช่น ซดี ี (CD) ดวี ดี ี (DVD) และการด์ บันทึกข้อมลู ประเภทต่างๆ (Memory Card) เป็นตน้ ซ่งึ สามารถนาไปใช้งานและเผยแพร่มลั ตมิ เี ดียได้อย่าง สะดวกรวดเร็ว 15 สรุป ในบทนี้ อธิบายถึงความหมาย คุณสมบตั ิ การประยกุ ตใ์ ชง้ าน และข ั้นตอนการสร้างมัลตมิ ีเดีย โดยใช้ส่อื ชนดิ ต่างๆ เช่น ตวั อกั ษร (Text) ภาพนิ่ง (Image) กราฟิก (Graphic) เสยี ง(Audio) วดี ีโอ (Video) และแอนิเมชั่น (Animation) เปน็ ตน้ โดยผู้ใช้สามารถควบคมุ และโต้ตอบกบัมัลตมิ ีเดียผ่านแอปพลิเคช่ันได้ มลั ตมิ เี ดยี สามารถนามาใช้ประโยชนใ์ นดา้ นตา่ งๆ เช่น การศึกษา การฝึกอบรม การท่องเท่ียว การซ้ือขายสนิ ค้าและบริการ ธรุ กจิ การแพทย์ และด้านความบนั เทิง เป็นตน้ นอกจากนี้ มัลติมเี ดยี ยงั มีประโยชน์กับผ้ใู ชห้ ลายประการ เชน่ ง่ายต่อการใช้งาน สรา้ งความรู้สกึสร้างเสริมประสบการณ์ เพมิ่ ความสามารถในการเรยี นรู้ และคมุ้ คา่ ตอ่ การลงทนุ เปน็ ตน้ การสรา้ งมลั ติมเี ดียจาเปน็ ต้องคานงึ ถึงวัตถุประสงค์ในการนาไปใช้ และกลมุ่ เป้าหมายเปน็ หลัก โดยจะต้องอาศยั ฮารด์ แวร์ และซอฟต์แวรท์ ี่ทางานรว่ มกับมัลตมิ ีเดียได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ แบ่งออกเปน็ 2ประเภท คอื 1) แบบ Multimedia Playback สาหรับการแสดงผลมัลติมเี ดีย 2) Multimedia Production สาหรบั ผลิตมัลตมิ เี ดียเอกสารอ้างองิ ทวศี ักด ์กิ าญจนสวุ รรณ (2552).เทคโนโลยีมลั ติมีเดยี (Multimedia Technology).กรุงเทพ:หจก. ไทย เจริญการพมิ พ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook