Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บล๊อกโคลี่

บล๊อกโคลี่

Published by pongsanooklib, 2020-05-05 05:00:05

Description: บร็อคโคลี่ (Broccoli) เป็นผักในตระกูลกะหล่ำหรือคะน้าที่นิยมนำดอกอ่อน และก้านดอกมารับประทาน นอกจากนั้น ยังพบสารต้านอนุมูลอิสระ ซัลโฟราเฟน (sulforaphane) ที่สามารถออกฤทธิ์ต้านการเกิดโรคมะเร็งได้หลายชนิด ซึ่งปัจจุบัน บร็อคโคลี่ที่รับประทานส่วนมากในไทยจะนำเข้ามาจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น เพราะการปลูกในประเทศยังมีน้อย ไม่เพียงพอต่อการบริโภค

Keywords: บล๊อกโคลี่

Search

Read the Text Version

บลอคโคลี่ BROCCOLI รศ.นิพนธ ไชยมงคล **ปรับปรงุ 7 กุมภาพันธ 2546 บลอ คโคล่ี (Broccoli ; Brassica oleracea var. italica Plenck. ) เปนพืชเมืองหนาว อยู ในตระกลู Brassicaceae (Cruciferae) ซึ่งรวมทั้ง กะหลํ่าปลี กะหล่ําดอก คะนา และผกั กาด มีจาํ นวนโครโมโซม n = 9 ในประเทศอังกฤษและแถบประเทศกลุมยโุ รป เรียก Calabrese มีคุณภาพสูงสาํ หรบั การประกอบอาหารและการแปร รูป เชน แชแข็ง เปนพืชที่ความตองการของตลาดคอนขางสูง เน่ืองจากมี คุณคาทางอาหารสูง สมาคมโรคมะเร็งแหงสหรัฐ อเมริกา ยอมรบั วา เปน พชื ทต่ี อ ตา นโรคมะเรง็ ประกอบดว ย วติ ามนิ เอ แคลเซี่ยม ไรโบฟลาวิน หรอื วติ ามนิ บี2 สารประกอบ glycosinolate เม่ือถูกยอ ยโดยเอน็ ไซม mirosinase จะใหสารที่มี รสชาตขิ ม และสารประกอบ goitrogenic เชน isothiocyanates, thiocyanates, nitriles และ goitrin สารประกอบเหลานี้ใหรสชาติและกล่ิน มีรายงานวาสารเหลานี้จะจํากัดการสราง thyroxine ทําใหเกดิ โรคคอพอกหรอื ตอ ม thyroid บวม ในปจ จบุ นั สายพนั ธทุ ป่ี ลกู เปน การคา จะมี glycosinolate ในระดับตา่ํ เมลด็ บลอคโคลท่ี เ่ี รม่ิ งอก (broccoli sprout) ประกอบดวยสาร Sulforaphanes เชอ่ื วา สามารถปองกันโรคมะเร็งได โดยการบรโิ ภคประมาณ 1 กโิ ลกรมั ตอ อาทติ ย สามารถลดอตั ราการ เส่ียงทเ่ี กดิ โรคมะเรง็ ได 50 % การใหส ตั วท ดลองไดร บั สาร Sulforaphanes ซ่ึงสกดั จากบลอ คโคล่ี สามารถปอ งกันการเกดิ โรคมะเร็งได 60-80 % บลอคโคลี่สายพันธุท่ีเก็บเกี่ยวเร็วเปนพืชฤดูเดียว สวนสายพันธุท่ีเก็บเก่ียวชา เปนพืช สองฤดู ระบบรากคอ นขา งตน้ื รากแกว ขนาดเลก็ รากพิเศษสวนใหญจะเจริญในระดับ 30-35 เซนติเมตร ใบสีเทาหรือนํ้าเงนิ ปนเขยี ว ผวิ ใบเรยี บ เนอ้ื ใบหนา เจริญสลับกัน ชอ ดอกประกอบดว ย ดอกสมบูรณเพศจํานวนมาก ดอกประกอบดว ยกลบี ดอกสเี หลอื ง 4 กลบี เกสรตวั ผู 6 อนั รังไขมี 2 เซลล ฝกหุมเมล็ด (silique) กวาง 3-5 มลิ ลิเมตร ยาว 50-100 มิลลิเมตร ฝกจะแกภายในเวลา 50-90 วันหลังจากผสมเกสร สวนท่ีนํามาบรโิ ภคคอื สว นของกง่ิ หรอื ลาํ ตน ออ น และกลมุ ดอกตมู (curd/head) ดอกอาจ จะมีสีเขียว มว ง มวงเขม สีเทา สีมวงปนนาํ้ ตาล

เมล็ดมีลักษณะกลม ขนาดเลก็ สีนาํ้ ตาลเขม การเลือกพันธุปลูก Green comet (45-50 วัน) Green Valiant (83 วนั ) Pack man (45-50 วัน) Baccus (50-65 วัน) สายพนั ธทุ ใ่ี ชใ นการแชแ ขง็ Acadia, Emerald City, Excelsior, Pakman (heat tolerant) Patriot, Pirate, Regal สายพนั ธทุ ใ่ี ชส ําหรับตลาดทั่วไป Acadia, Buccaneer, Emerald City, Emperor, Everest, Excelsior, Green Belt, Green Comet, Green Valiant, Laguna, Legend, Liberty, Major, Marathon, Pakman (heat tolerant), Patriot, Pennacle, Pirate, Premium Crop, Regal, Shogun, Samurai, Triathlon, Windsor. สายพันธุตานทาน โรครานา้ํ คาง(Downy mildew)/โรคเนา ดาํ (Black rot) Everest, Premium Crop, Green Comet, Idol, Shogun, Crusader, Citation, Hi-Caliber and Futura. โรคดอกเนาจากเชื้อแบคทีเรีย (Pseudomonas sp.) Pirate, Shogun, Green Defender and Green Valiant โรครากบวม (Club root) Pirate and Oregon CR-1 อาการดอกเหลืองหลังการเก็บเกี่ยว Green belt, Emperor, Emerald City and Sprinter (เก็บรกั ษา 1.0 oซ เปน เวลา 20 วนั ) ลักษณะพันธุบลอคโคลี่บางสายพันธุ สีของ ขนาด ความ พนั ธุ อายุเก็บ ขนาดตน จาํ นวน ดอก ดอก ตานทาน เดี่ยว เกี่ยว หนอขาง ปานกลาง เลก็ Green Comet 40 เล็ก ไมมี เขียวเขม เล็ก Southern Comet 55 กลาง นอ ย เขยี วเขม เล็ก รานํ้าคา ง Premium Crop 58 กลาง ไมมี เขียวเขม เล็กมาก Montecristo 67 กลาง ไมมี เขียวเขม เล็ก ทนรอน Pinnacle 68 กลาง ไมมี เขียวเขม เลก็ มาก ทนรอ น Centauro 72 ใหญ ไมมี เขียว Endeavour 105 ใหญ มาก เขยี ว 2

สายพันธุลูกผสม Broccoflower (Floccoli) ลูกผสมขามระหวาง บลอคโคลแ่ี ละ กะหลํา่ ดอก (Broccoli x Cauliflower) เชน พันธุ Alverde, Macerta และ Green Harmony Broccolini (Chinese broccoli) ลูกผสมระหวางบลอคโคลี่และคะนา (broccoli; Brassica oleracea var. italica x Chinese kale; Brassica oleracea var. alboglabra) เรยี กคะนา ฮอ งกง สายพันธุกลุมน้ี จะมีลําตน ขนาดเลก็ สูง หนอ ขา งดอกเจรญิ เรว็ รสชาตคิ ลา ย บลอคโคลี่ แตจ ะมรี สหวานกวา และกลิ่นไมแรง คลา ยกบั หนอ ไมฝ รง่ั Green Sprouting Broccoli พันธุ De Cicco, Calabrese, Italian Green Sprouting, Waltham 29 Kailaan type (Chinese kale or Chinese broccoli ; Brassica oleracea var. alboglabra) พันธุ Green Lance Hybrid, Gai Lohn Romanesco type ( ดอกจะมีลกั ษณะคลา ยหวั แหวน สเี หลอื งปนเขยี ว) พันธุ Minaret สภาพแวดลอม อุณหภูมิที่เหมาะสมสาํ หรบั การเจรญิ อยรู ะหวา ง 15-20 oซ อุณหภูมิเฉลี่ย 24 oซ อุณหภมู ิสงู กวา 30 oซ และตา่ํ กวา 10 oซ อัตราการเจริญจะตํ่าหรอื ชะงักการเจรญิ ไมท นทานตอ น้ําคา งแขง็ โดยเฉพาะชว งใกลเ กบ็ เกย่ี ว อุณหภูมิสูงจะกระตุนใหเกิดการเจริญทางลําตน ใบ ชะลอการเจริญของดอก สวน อุณหภูมิต่ําจะชักนําใหเ กดิ การเจรญิ ของดอก การเจรญิ ของดอกในระยะทต่ี น มขี นาดเลก็ จะทาํ ให มีดอกขนาดเล็ก ผลผลิตและคุณภาพตํ่า อุณหภูมิท่ีเหมาะสําหรบั การเจรญิ ของดอกอยรู ะหวา ง 13-20 oซ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงกวา 25 oซ คุณภาพจะตา่ํ ดอกจะบานเรว็ มีใบแซมดอก ทาํ ใหก ลมุ ดอก (หัว) ไมแ นน นอกจากสายพนั ธทุ นรอ นทด่ี อกอาจจะเจรญิ ไดใ นอณุ หภมู ิ 30 oซ สภาพดิน ดินที่เหมาะสําหรบั การปลกู บลอคโคล่ี เปน ดนิ ทร่ี ว นซยุ มคี วามอดุ มสมบรู ณส งู ระบายนา้ํ ไดด ี pH 6.0-6.5 ดนิ ทม่ี ี pH ต่ํากวา 6 ควรใสป นู ขาว การเพาะเมล็ด บลอคโคลี่ปลูกโดยการเพาะเมล็ดและยายกลาปลูก เมลด็ หนกั 10 กรมั มีจาํ นวน 3,500 เมล็ด อุณหภูมิที่เหมาะสมสําหรบั การงอกของเมลด็ อุณหภูมิกลางวัน 20-30 oซ และอุณหภูมิ กลางคืน 20 oซ เมล็ดจะงอกภายในเวลา 5-10 วนั 3

กอนเพาะควรแชเมล็ดในเคปเทน ผสมเบนเลท ชนดิ ละ 6 กรมั ตอ นา้ํ 1 ลติ ร เปน เวลา 1 ชั่วโมง เพื่อกําจดั โรคทต่ี ดิ มากบั เมลด็ หลังจากนั้นนาํ ออกมาลางและแชในโพแทสเซียมไนเตรท เขมขน 0.2 % เปนเวลา 30 นาที และใชผา เปยกหมาด ๆ หุมเก็บไวในอุณหภูมิ 5 oซ เปน เวลา 3-5 วัน เพื่อชวยใหงอกเร็วและสมาํ่ เสมอ เมื่อรากเริ่มงอก นาํ มาผึ่งในรมใหแหง เพอ่ื ความสะดวกใน การหยอดเมล็ด ควรเพาะเมล็ดในถาดเพาะเมล็ด เพอ่ื ปอ งการชะงกั การเจรญิ ในระยะยา ยปลกู ยายปลูกเมื่อมีใบจริง 3-5 ใบ ระยะปลูก 30-50 x 50-60 ซม. ขน้ึ อยกู บั ขนาดและสายพนั ธุ การปลูกเพื่อโรงงานแปรรูป ใชจํานวนตน 8,000-12,000 ตน ตอ ไร เนอ่ื งจากตอ งการดอกขนาด ใหญ พืชสามารถเจริญไดดีในสภาพอุณหภูมิต่ํา ความชื้นสัมพัทธสูง อุณหภูมิท่ีเหมาะสม สําหรับการเจรญิ เตบิ โตอยรู ะหวา ง 15.5-18.0 oซ และอุณหภมู เิ ฉลย่ี ตลอดฤดปู ลกู 24 oซ การใสปุย คุณภาพของบลอคโคล่ีขึ้นอยูกับการเจริญเติบโต ตอเน่ืองและสมํ่าเสมอ ในกรณีท่ีพืช ชะงักการเจริญในชวงใดชวงหนึ่ง เน่ืองจากอุณหภูมสิ งู หรอื ตา่ํ มากเกินไป ใหน า้ํ หรอื ปยุ มากเกนิ ไป หรือขาดนา้ํ ขาดปยุ จะทําใหผลผลิตและคุณภาพตาํ่ ตนบลอคโคลี่ที่สมบูรณจะมีระยะหางระหวางใบประมาณ ½- 1 นว้ิ ควรวิเคราะหดิน เพอ่ื เปน แนวทางการจดั การปยุ อยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ บลอคโคลเ่ี ปน พชื ท่ี ตองการธาตุอาหารในปริมาณท่ีสูง เน่ืองจากมีระบบรากต้ืน ควรใสปุยคอกหรือปุยหมักกอน เตรยี มดิน ไนโตรเจน (N) การใสปุยไนโตรเจนในอัตราทส่ี งู เกนิ ไป ทาํ ใหอ ตั ราการเจรญิ ทางลาํ ตน ใบ สูง ชะลอ การเจริญของดอก ดอกมขี นาดเลก็ อาจจะทําใหภายในลาํ ตน แตก (hollow stem) อาการคลา ยกบั การขาดธาตุโบรอน แตก ารขาดโบรอนแผลจะมสี นี ้ําตาล งา ยตอ การเขา ทาํ ลายของเชอ้ื แบคทเี รยี ท่ี เปนสาเหตุของโรคเนา การใสป ยุ ไนโตรเจนหลาย ๆ ครง้ั จะสามารถปอ งกนั การแตกของลาํ ตน ได ดีกวา การใสเ พยี งครง้ั เดยี ว บลอคโคลี่ตองการไนโตรเจน 27.3-36.4 กโิ ลกรมั ตอ ไร ใสไ นโตรเจนรอ ยละ 50 ของ จํานวนท่ีตองการใสก อ นปลกู หลังจากนั้นใสหลังปลูก 1-2 ครง้ั โดยใสห ลงั ปลกู ครง้ั แรกเมอ่ื สงู 6-8 น้ิว และใสคร้งั ท่ี 2 หลังจากนั้น 2 อาทติ ย เพื่อใหมีดอกขนาดใหญควรใสปุย 15-0-0 หรอื 21-0-0 จํานวน 10 กโิ ลกรมั /ไร เมื่อเริ่ม ออกดอก และใสหลงั เก็บเกย่ี วครง้ั แรก 4

ฟอสฟอรัส (P) อตั รา P2O5 ท่ีแนะนาํ (กก./ไร) จําเปน สาํ หรบั การเจรญิ ของรากและดอก 27-36 ผลการวิเคราะหดิน (ppm) 18-27 0-30 30-50 14-18 >50 โพแทสเซยี ม(K) การหวานโพแทสเซียมระหวางแถวหลังปลูก เม่ือรวมกับไนโตรเจนจะตองไมเกิน 16.4 กก./ไร ผลการวิเคราะหดิน (ppm) อตั รา K2O ท่ีแนะนาํ (กก./ไร) 0-150 27-36 150-200 16-27 200-250 11-16 >250 ไมตองใส ซัลเฟอร (S) ปรกติ ซัลเฟอรจะประกอบอยใู นแมป ยุ ทม่ี ี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม เชน แอมโมเนี่ยมซัลเฟต หรอื โพแทสเซียมซัลเฟต เปน ตน แตจะไมพอเพียงสาํ หรบั ความตอ งการของ บลอคโคลี่ ควรใสเพิ่ม 4.5-7.3 กโิ ลกรมั S ตอไร พืชดูด S ในรูปของซัลเฟต เมอ่ื ใสป ยุ ในรปู ซัลเฟอร จะเปลย่ี นรปู เปน ซัลเฟตในดนิ ซัลเฟอร ในรูปผงละเอยี ดจะเปลย่ี นรปู ไดเ รว็ โดยเฉพาะในสภาพดินที่มีอุณหภูมิ และความชื้นสูง การใหป ยุ ในรปู แอมโมเนี่ยมซัลเฟตจะทาํ ใหด นิ เปน กรด การใสป ยุ S ในรปู ซัลเฟต ควรใสกอ นปลูก อตั รา 4.5-7.3 กโิ ลกรมั S ตอไร สว นการใสใ น รูปผงละเอยี ด ควรใสอ ตั รา 7.3-9.0 กโิ ลกรมั S ตอไร กอ นปลกู 1 ฤดู โมลิบดีนั่ม (Mo) เมอ่ื ขาด Mo พืชจะมีใบขนาดเล็ก เรยี วยาว(whip tail) เกิดข้ึนมากในดนิ ทเ่ี ปน กรด ควรใส ปูนขาวกอ นปลูก เมอ่ื พชื แสดงอาการควรฉดี พน sodium molybdate เขมขน 1 กรมั ตอ นา้ํ 1 ลติ ร แมก็ นเี ซี่ยม (Mg) บลอคโคลท่ี ข่ี นาด Mg ใบลางจะมสี เี หลอื งหรอื แดง หรอื เมอ่ื ผลการวเิ คราะหด นิ พบวามี ปรมิ าณ Mg ต่ํากวา 2 meq/100 g ควรเพิ่ม MG อัตรา 2.7-3.6 กิโลกรมั Mg ตอไร กอนปลูก หรอื เมื่อพืชแสดงอาการขาดธาตอุ าหาร ควรฉดี พน ดว ย MgSO4 เขมขน 4-5 % (4-5 กรัมตอน้ํา 1 ลติ ร) 5

การใสโดโลไมทสามารถเพิ่ม Mg ในดิน และลดความเปน กรดของดนิ ควรใสก อ นปลกู 3-4 อาทิตย หรอื ใสก อ นปลกู 1 ฤดู โบรอน(B) การขาดโบรอน เกิดข้ึนในดินท่ีเปนดา ง ดอกจะมขี นาดเลก็ ลําตน แสดงอาการไสก ลวง สีนาํ้ ตาล ( brown heart) ทําใหเช้ือแบคทเี รยี ทเ่ี ปน สาเหตขุ องโรคเนา เขา ทําลายไดง า ย ผลผลิต และคุณภาพตา่ํ ควรใสโ บรอน อตั รา 400 กรมั B ตอไร หรอื ฉดี พน ดว ย Borax (11.4% B) อัตรา 2 กรัมตอนาํ้ 1 ลติ ร การใสป ยุ บลอ คโคล่ี กิโลกรัม/ไร ธาตุอาหาร 15.5-21.8 ไนโตรเจน * 5.-5 *1 กอ นปลกู 18.2 *2 หลังปลกู 3-5 อาทติ ย * 3 แคลเซี่ยมไนเตรท ระยะดอกเรม่ิ เจริญ 31.0—43.6 31.0-43.6 ฟอสฟอรัส P2O5 4.5-7.5 โพแทสเซยี ม K2O 2.7-3.6 ซัลเฟอร(S) โบแรก็ (B) การใสปุย แคลเซียมไนเตรท จํานวน 18 กโิ ลกรมั ตอ ไร ในระยะดอกเรม่ิ เจรญิ สามารถลด ขนาดของลําตน ลดการเขา ทาํ ลายของเชอ้ื สาเหตทุ ําใหด อกเนา การใหน ้าํ ใหน า้ํ 1-1 ½ น้ิวตอ อาทติ ย ข้ึนอยูก บั สภาพดนิ และฤดกู าล ลักษณะผิดปกติของบลอคโคลี่ Blindness: แมลงหรือโรคเขาทําลายตาดอก ทาํ ใหด อกไมเ จรญิ ทําใหห นอ ขา งเจริญมาก Leafy head: ใบเจริญข้ึนมาแซมดอก เน่ืองจากอุณหภูมิสูงและไดรับนํ้าตลอดจน ไนโตรเจนสูง 6

Large, Coarse buds: ตาดอกมีขนาดใหญ ขน้ึ อยกู บั สายพนั ธุ นอกจากนข้ี นาดของดอก ยอยจะเพ่ิมข้ึนตามอายขุ องดอก อณุ หภมู ิและการเกบ็ เกย่ี วลา ชา จะทําใหด อกยอ ยมขี นาดใหญ Hollow stem อาการลําตนกลวง เกดิ จากการใสป ยุ ไนโตรเจนสงู เกนิ ไป ทาํ ใหอ ตั ราการ เจริญของพืชสูง ลําตน กลวงสขี าว สวนลาํ ตน กลวงสนี ้ําตาลเกดิ จากการขาดโบรอน Floret(bread) yellowing ดอกเหลือง มีสาเหตเุ นอ่ื งมาจาก การเปด ของกลบี ดอกทแ่ี กเ กนิ ไป อุณหภูมใิ นทเ่ี กบ็ รกั ษาสงู หรอื ไดร บั เอทธลี นี สงู Brown floret ดอกมีแผลสีน้ําตาล เนอ่ื งจากดอกยอ ยไมส ามารถพฒั นาได ทาํ ใหเซลลหรือ เนื้อเยื่อสวนนั้นตาย และเปลยี่ นเปนสีนาํ้ ตาล เนอ่ื งจากขาดธาตอุ าหาร การเก็บเกี่ยว บลอคโคลี่สามารถเก็บเกี่ยวตั้งแต 45-60 วนั หลงั ยา ยปลกู ขน้ึ อยกู บั สายพนั ธแุ ละฤดกู าล ควรเก็บเก่ียวในตอนเชา กอ นดวงอาทติ ยข น้ึ เนอ่ื งจากเมอ่ื ไดร บั แสงอาทติ ยพ ชื จะเหย่ี วเรว็ หลังจาก เก็บเกย่ี วนาํ เขาทีร่ มใหเ ร็วทส่ี ดุ คุณภาพของบลอคโคลี่ข้ึนอยูกับขนาดท่ีเหมาะสม ตรงตามสายพันธุ สีเขียวเขม หรอื เขยี วสด กลบี ดอกปด ดอกแนน ระยะที่เหมาะสําหรับการเก็บเก่ียว คือระยะกอน ดอกบาน ระยะหลงั จากดอกบานจะทาํ ใหด อกเปลย่ี นเปน สี เหลือง ดอกไมแนน เนอ่ื งจากการเปด ของกลบี ดอก ดอกจะ แก คณุ ภาพตา่ํ ไมสามารถขายได เก็บเก่ียวดอกท่ีมีขนาดเสนผาศูนยกลาง 7-14 ซม. ตัดโคนกา นดอก ดอกแขนงจะมขี นาดเลก็ เสนผาศนู ยก ลางประมาณ 3-7 ซม. สามารถนํา ไปประกอบอาหารและแชแ ขง็ ควรเกบ็ เกย่ี วทกุ 2-3 วัน เพอื่ ใหไดด อกทมี่ ีคณุ ภาพสงู 7

อัตราการหายใจของบลอคโคล่ีหลังจากเก็บเกี่ยวคอนขางสูง เม่ือเปรียบเทียบกับ หนอไมฝรั่ง ปวยเหล็ง หรือขา วโพดหวาน ดอกจะเปลย่ี นเปน สเี หลอื งเรว็ ดงั นน้ั หลงั เกบ็ เกย่ี วควร ทําความสะอาด คดั ขนาด ตดั แตง และลดอณุ หภมู ใิ นดอกอยา งเฉยี บพลนั ใหอ ยใู นระดบั 0 oซ โดยใชน ํ้าเยน็ จดั ( liquid – icing) หรือ นา้ํ แข็งเกล็ด (crush ice) อาจจะใช hydrocooling หรอื force- air cooling แตคอนขา งยากในการท่ีจะลดอุณหภมู ใิ หสมํ่าเสมอ การเก็บรักษาในอุณหภูมิตํ่า อุณหภูมิ ( oซ) ความชื้นสัมพัทธ ( 95 %) อายุการเก็บรักษา (วัน) 0 >95 21-28 5 >95 14 10 >95 5 การเก็บรักษาในหองควบคุมสภาพแวดลอม ! Optimum product temperature = 0.0-1.0 oซ Temperature Set points = 0.0-1.0 oซ ! Air delivery control ! Return air control = 1.0-2.0 oซ Ventilation (Air exchange) setting ! 6 meter containers = 60 m3/h = 35 cfm ! 12 meter containers = 120 m3/h = 70 cfm ! Fresh air exchange = 200 %/h Acceptable product temperature at loading into container = -0.5-5.0oซ • Freezing point –0.6 oซ อัตราการหายใจบลอ คโคลี่หลังการเก็บเกี่ยว อุณหภูมิ (oซ) 0 5 10 15 20 ml CO2/kg/hr 10-11 16-18 38-43 80-90 140-160 ml CO2/kg/hr x 440 = Btu/ton/day หรอื x 122 = kcal/metricton/day • เปนพืชที่สรางเอทธีลีนตาํ่ ( 4 nM/kg/h at 20 oC) แตจะตอบสนองตอ เอทธลี นี สงู โดยจะทําใหด อกเหลอื งเรว็ การเกบ็ รกั ษาในอณุ หภมู 1ิ 0 oซ และเพิ่มเอทธีลีน 2 ppm จะเกบ็ รกั ษาได 2 วนั การเก็บรักษาโดยการควบคุมบรรยากาศ Oxygen(%) Carbon Dioxide(%) Temperature (oซ) Storage (day) 1-3 5-10 1.0 +21 8

ถึงแมจะเก็บรักษาโดยการควบคมุ บรรยากาศ แตในกรณีที่อุณหภูมิไมสมํ่าเสมอ ดอกจะ สรางนํ้ามนั หอมระเหยทม่ี ีซัลเฟอรเ ปน สารประกอบ ไมควรเกบ็ รกั ษานาน เพื่อใหมีคุณภาพสูง ทง้ั รสชาติ สี และปรมิ าณวติ ามนิ ซี ควรเกบ็ รักษาในอุณหภมู ิต่ํา มกี ารถา ยเทอากาศดี ระยะหางระหวางภาชนะบรรจุเหมาะสม เพอ่ื ปอ งกนั การสะสมความรอ นในภาชนะบรรจุ การเก็บรักษานานและสภาพแวดลอมไมเหมาะสม จะทําใหสี ของใบ ตาดอกเหลอื ง รว ง เนอ้ื เยอ่ื นม่ิ อายุการเก็บรกั ษาขน้ึ อยกู บั สายพนั ธุ จากการทดลองเกบ็ รกั ษาบลอคโคล่ี สายพนั ธตุ า ง ๆ ในอุณหภูมิ 5 o ซ ความชื้นสัมพัทธ 95 % ปรากฏผลดงั นค้ี อื อายุเก็บรักษา < 20 วัน 20-25 วัน > 25 วัน Baccus, Brigadier, Cruiser, C a s c a d e , E m b a s s y , Citation, Galaxy, Glacier, Mariner, Symphony, Zeus Emperor, Esquire, Galaxy, Greenbelt, Marathon, Gem, Green Lady, Green M e r c e d es , P ack m an, Valiant, Hi Caliber, Pirate, Premium Crop, M i d o r i # 8 , P i n n a c l e , Shogun, Skiff Sakata#12, Schooner, Southern Comet, Vantage โรคที่เขาทําลายดอก เนาเละ (Bacterial rot) ท่ีเกิดจากเชอ้ื แบคทเี รยี (Erwinia, Pseudomonas) ระบาดรนุ แรง ในบลอคโคลท่ี ่เี กิดแผลจากขบวนการเก็บเกยี่ ว โรคเนาที่เกิดจากเชื้อรา เชน gray mold rot (Botrytis cinerea), black mold (Alternaria spp.) ระบาดมากในกรณที ด่ี อกไดร บั ความชน้ื สงู และอณุ หภมู คิ อ นขา งตา่ํ แมลงทส่ี ําคัญ หนอนใย หนอนคบื ปองกนั และกําจัด โดยเชอ้ื แบคทเี รยี (BT) โดยฉีดพนในตอนเยน็ หามใชรว มกับถังฉีดพน สารเคมชี นดิ อน่ื ๆ การปอ งกนั กําจดั โรค แมลง สารเคมี ฉดี พน กอ นเกบ็ เกย่ี ว หมายเหตุ Maneb 80WP 10 หามผสม Cu โรค Manex 4F 10 รานํา้ คาง (Downy mildew) Aliete 80WDG 3 Maneb75DF 10 รานํา้ คาง (Downy mildew) 9

ใบจุด alternaria ใบไหมตนกลา(Pythium seedling blight) Ridomil Gold 4EC ฉดี พนระยะตนกลา ใบไหม(Pythium blight) Ridomil Gold EC 10 3 ครั้งตอฤดู 3 ครั้งตอฤดู สเคอโรเทยี ม (Sclerotinia drop) Rovral 4F 14 หมายเหตุ ไรซอกโตเนยี (Rhizoctonia) Rovral 50WP, 50WG 14 คลุกลงไปในดนิ โคนเนา (Bottom rot) แมลงและการปองกันกาํ จัด แมลง สารเคมี ฉีดพนกอนเก็บเกี่ยว แมลงหวี่ขาว Admire 2E (imidacloprid) 21 หนอนชอนใบ Agri-Mek 0.15EC 7 Zabamectin เพลย้ี ออ น/หนอนกระทูผัก/หนอน Ambush 2EC 1 คบื /หนอนเจาะฝกขาวโพด/หนอน (permethrin) ชอนใบ/เพล้ยี ไฟ/ Neemix4.5 0 Ammo 2.5 EC 5 (cypermethrin) Pounce 3.2 EC 1 (permethrin) หนอนกระทูผัก หนอนคืบ B.T. (Bacillus 0 thurigiensis) เพลย้ี ออ น หนอนคืบ เพลย้ี ไฟ Lannate 2.4 L. 7-10 หนอนกระทู (methomyl) เพลย้ี ออ น ไรแดง เพล้ียไฟ แมลงหวี่ M-Pede 49% 0 ขาว Soap,insecticidal Sun Spray 98.8% 0 Oil, insecticidal มด เพลย้ี ออ น หนอนกระทู หนอน Py-Rin 60-66 EC 0 คบื หนอนเจาะฝกขาวโพด เตาแตง (pyrethrin+piperonyl หมัดกระโดด เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาว butoxide) เพลย้ี ออ น หนอนคืบ เตาแตง หมัด Pyrellin EC (pyrethrin + 0 กระโดด หนอนชอนใบ ไรแดง เพล้ยี rotenone) ไฟ แมลงหวี่ขาว 10

เอกสารอางอิง Broccoli. http;//www.ctahr.hawaii.edu/-experts/vegetables/broccoli.htm Broccoli (Brassica oleracea(italica group) http;//www.osu.orst.edu/NWREC/broc-pr.html Broccoli Production Guide for Western North Carolina. http;//www.ces.ncsu.edu/depts/ hort/hil/hil-5-b.html Growing Broccoli and Cauliflower in the Home Garden North Carolina http;//www.ag. ohio state. edu/ -ohioline/hyg-fact/1000/1605.html Rubatzky,E.V. and Yamaguchi, M. 1997. Sprouting Broccoli. World Vegetables, Principles, Production, and Nutritive Values, Second Edition, International Thomson Publishing, 380-382 Sanders,C.D.2000. Broccoli Production. Leaflet NO.5. Horticultural Science, North Carolina Cooperative Extension Service, North Carolina State University,p1-4. Sulforaphanes discovered in Broccoli sprouts. http;//www.aeroponics.com /aer095.htm 11


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook