Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore unit 2

unit 2

Published by sanskrit2, 2017-09-21 05:33:08

Description: unit 2

Search

Read the Text Version

วทิ ยาลยั เทคนิคคูเมืองใบความรู้ เคร่ืองเจียระไนลบั คมตดั สนั สกฤต ศรีกลบั แผนกวชิ าช่างกลโรงงาน วทิ ยาลยั เทคนิคคเู มือง

ใบความรู้ หนว่ ยที่ 2 คร้งั ท่ี 2 หนว่ ยท่ี 2 เคร่อื งเจยี ระไนลบั คมตดั และงานลับคมตดั คาบ 1 - 42. ชนดิ และส่วนประกอบของเครือ่ ง 2.1 ชนิดและส่วนประกอบของเครอื่ งเจียระไนลบั คมตดั เครือ่ งเจียระไนลับคมตดั หรอื ล้อหินลับมีดกลึง ทนี ิยมใชก้ นั มากในงานเครื่องมือกลทว่ั ไปสามารถจาแนกชนิดได้ 2 ชนิด ได้แก่ 2.1.1 เคร่ืองเจยี ระไนลับคมตัดแบบต้ังโต๊ะ เครื่องเจียระไนหรือลอ้ หนิ เจยี ระไนแบบต้งั โต๊ะ เป็นเคร่ืองเจยี ระไนท่ีมขี นาดเล็ก ตัวเคร่ืองจะถูกยึดติดอยูก่ ับพน้ื โต๊ะงานเพ่ือเพิ่มความสงู ของล้อหินเจยี ระไนใหม้ ีความสงู เหมาะสมกบั ผปู้ ฏบิ ัติงาน และยังเปน็ การยึดเพื่อไม่ใหล้ อ้ หนิ เจยี ระไนเกิดการสั่นสะเทือนหรือเกดิ การแกว่งมากอาจจะก่อใหเ้ กดิ อันตรายต่อผู้ปฏบิ ัติงานได้ 2.1.2 เครื่องเจียระไนลับคมตดั แบบตั้งพ้นื

เครื่องเจียระไนลบั คมตัดแบบตง้ั พน้ื นน้ั จะมีรปู รา่ งลกั ษณะที่คล้ายกันกบั เครื่องเจียระไนแบบต้งั โตะ๊แตจ่ ะแตกต่างกนั กต็ รงที่ เคร่ืองเจียระไนแบบต้ังพ้ืนน้ัน ในการตดิ ตัง้ จะยึดอยู่กับพืน้ ราบของโรงงานหรือสถานท่ีทางาน โดยมีฐานหรือเสาเคร่ืองเพ่ิมขน้ึ มาจากเครื่องเจยี ระไนลับคมตัดแบบต้ังพื้น 2.1.3 ส่วนประกอบของเคร่ืองเจยี ระไนลับคมตดั 2.1.3.1 มอเตอร์ ( Motor ) มอเตอร์เปน็ สว่ นทีท่ าหน้าทีส่ ง่ กาลังขบั ล้อหนิ เจียระไนใหห้ มุนเพื่อตัดเฉือนเครื่องมือตัดต่างๆ ลกั ษณะของมอเตอรเ์ ครอ่ื งเจียระไนลบั คมตัดจะมเี พลา 2 เพลา ย่ืนออกมาทางด้านข้าง เพ่อื ใช้ในการจับยึดล้อหนิ เจยี ระไน โดยที่ปลายแกนเพลาแต่ละข้างของมอเตอรจ์ ะทาเกลียวไวเ้ พื่อจบั ยึดล้อหิน ซึ่งแตล่ ะข้างจะเปน็ เกลียวไมเ่ หมือนกนั ขา้ งหนึ่งเป็นเกลยี วซา้ ยสว่ นอีกขา้ งหนง่ึ เปน็ เกลียวขวา เหตุทเี่ ป็นเชน่ น้ีเน่อื งจากล้อหนิ จะตอ้ งหมนุ ไปในทิศทางเดยี วกันเพ่ือป้องกนั ไมใ่ หล้ ้อหินออกเนือ่ งจากการคลายตวั ของเกลยี วทีใ่ ชใ้ นการจบัยึด 2.1.3.2 ล้อหนิ เจียระไน ล้อหินเจยี ระไนโดยทวั่ ไปที่ใชใ้ นการลับคมตดั จะมีอยู่สองชนดิ คอื ลอ้ หินเจยี ระไนแบบหยาบ และลอ้ หินเจียระไนแบบละเอยี ด ซง่ึ ทงั้ สองแบบจะถูกยดึ ติดกับแกนมอเตอรท์ ่ยี ื่นออกมาทั้งสองขา้ งส่วนประกอบที่นามาประกอบกนั เป็นล้อหนิ เจียระไน ได้แก่ สารเชิงทราย เช่น หนิ ควอตซ์ เมลด็ ทราย คอรันดมั หรอื จะจะใช้เปน็ สารเชิงทรายสังเคราะห์ อย่างเชน่ อะลูมิเนยี มออกไซด์ ซิลคิ อนคารไ์ บด์ หรอื เพชร

ล้อหนิ เจียระไนสว่ นใหญจ่ ะมีกระดาษบอกรายละเอยี ดของล้อหนิ ตดิ มาดว้ ย ซง่ึ ในกระดาษจะเขียนบอกลายละเอยี ดต่าง ๆ คือ 1. ขนาดเส้นผา่ นศูนยก์ ลางของลอ้ หนิ 2. ความกว้างของหนา้ ลอ้ หิน 3. ขนาดรจู ะของลอ้ หนิ 4. ค่าความแข็งของลอ้ หิน 5. ระบบมาตรฐานของล้อหิน 2.1.3.3 ฝาครอบล้อหินเจยี ระไน ฝาครอบล้อหินเจียระไนจะใชเ้ พื่อป้องกนั การหลดุ กระเด็นของของล้อหินเจยี ระไนในกรณีทล่ี อ้ หินเกิดหลดุ จากแกนมอเตอร์ หรอื ล้อหินเกดิ การแตก จะกระเด็นหลุดมาโดนผู้ปฏิบัติงานทาใหเ้ กดิ อันรายได้ 2.1.3.4 กระจกนริ ภยั กระจกนภิ ัยจะถูกตดิ ต้ังอยู่กับฝาครอบล้อหินดา้ นบนของลอ้ หินเจยี ระไน สามารถพบั ข้ึน– ลงได้ ตามความถนัดของผใู้ ช้งาน กระจกนิรภยั ทามาจากพลาสตกิ ใส เพ่ือป้องกันการกระเด็นของเศษโลหะหรือเศษวัสดุที่นามาเจยี ระไนกระเด็นเขา้ ตาผปู้ ฏบิ ัติงาน

2.1.3.5 แทน่ รองรบั งาน แทง่ รองรับงานจะมลี กั ษณะเปน็ แผน่ เหลก็ ถูกติดต้ังอยู่บรเิ วณด้านหนา้ ของลอ้ หนิเจยี ระไน เพื่อใช้ในการรองรับช้ินงานในการเจียระไน ในการตดิ ต้งั ของแผน่ รองชิน้ งานในงานเจียระไนลบั คมตดั นั้นผูป้ ฏิบตั ิงานจะต้องทาการติดต้งั ปรบัระยะความห่างของแผ่นรองช้ินงานกับหนา้ ล้อหนิ เจียระไนใหม้ คี วามหา่ งไม่เกนิ 3 – 5 มม. เน่ืองจากถา้ แผน่ รองชิ้นงานมคี วามหา่ งจากหนา้ ลอ้ หินเจยี ระไนมากเกินจะทาใหช้ ิ้นงานทม่ี ีขนาดเล็กหลดุ เข้าไปในล้อหินเจยี ระไน และอาจเกิดอนั ตรายแก่ผู้ปฏิบตั ิงานได้ 2.1.3.6 สวิตช์ เปิด – ปิดเครอ่ื ง สวติ ช์ เปิด – ปิดเครอื่ งเจียระไนลบั คมตดั อาจจะเปน็ แบบโยกเพ่อื เปิด-ปดิ หรืออาจจะเป็นแบบปุ่มกด แตไ่ ม่ว่าจะเปน็ ลกั ษณะใดหนา้ ท่ีการทางานจะเหมอื นกนั คือ ใช้เพ่อื เปดิ -ปิดเคร่อื งเท่านัน้ 2.1.3.7 ถังใช้นา้ มนั หล่อเย็น ถงั ใชน้ า้ มันหล่อเย็นของเครื่องเจยี ระไนจะติดตง้ั อย่กู ับเสาของเครอื่ ง บริเวณด้านล่างของเครอื่ งเจียระไนใช้สาหรบั ใสน่ ้าหล่อเย็นเพ่ือเปน็ การระบายความร้อยของเคร่ืองมอื ตัดที่เกดิ ขึ้นจากการลบั ไม่ว่าจะเป็นเพราะวา่ ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านออกแรงกดมากเกนิ ไป หรือลับเคร่ืองมือตัดเปน็ เวลานาน ๆ

2.2 หลกั การใช้เคร่อื งเจยี ระไนลับคมตัด 2.2.1 การตรวจสอบสภาพเครื่องเจยี ระไน ในการลับเคร่ืองมือตัดดว้ ยเครอ่ื งเจียระไนลับคมตดั ทุกครง้ั กอ่ นปฏบิ ตั งิ าน ผู้ปฏบิ ตั ิงาจะตอ้ งทาการตรวจสอบสภาพความพร้อมของเครื่องก่อนเพ่อื ใหแ้ นใ่ จวา่ จะไม่เกดิ อนั ตรายแก่ผปู้ ฏิบัตงิ าน ข้นั ตอนการตรวจสอบเคร่ืองเจยี ระไนมขี ้นั ตอนท่ีควรปฏิบตั ดิ งั น้ี 2.2.1.1 ตรวจสอบล้อหนิ เจยี ระไนทั้งสองขา้ งว่าจบั ยึดแนน่ หรอื เปล่า นอตท่ใี ชใ้ น การจับยึดเกิดการคลายตวั หรือไม่ 2.2.1.2 ตรวจสอบลอ้ หนิ เจยี ระไนวา่ มีรอยแตกหรือไม่ 2.2.1.3 หนา้ ล้อหินเจยี ระไนเวา้ นนู หรอื เปลา่ หากเป็นเช่นนนั้ ให้ทาการแตง่ หน้าล้อ หนิ ใหม่ 2.2.1.4 ลอ้ หนิ เจียระไนหมนุ ถกู ทิศทางหรือไม่ 2.2.1.5 วิธีการใชเ้ คร่ืองเจียระไนลับคมตดัวธิ กี ารใชง้ านเครอ่ื งเจียระไนลับคมตดั มีขัน้ ตอนดังนี้ 2.2.1.6 ตรวจสอบสภาพความพรอ้ มของเครื่องเจียระไนว่ามสี ภาพพร้อมใชง้ าน หรือไม่ เช่น ลอ้ หนิ แตกหรือไม่ ลอ้ หินทง้ั สองข้างถกู จบั ยึดแน่นหรอื เปลา่ เคร่อื งมีการสนั่ สะเทือนเนื่องจากแรงเหว่ียงของการหมนุ ของลอ้ หินหรือ เปล่า 2.2.1.7 ตรวจสอบหนา้ ล้อหินว่ายังคงมีความเรยี บอยหู่ รือเปลา่ ถา้ หน้าล้อหนิ เว้า นูน ให้ทาการแต่งหน้าล้อหนิ ให้เรียบโดยใช้ตวั แตง่ หนา้ ล้อหนิ 2.2.1.8 ปรบั กระจกนริ ภัยให้มีความเหมาะสมกับระดับสายตาของผปู้ ฏบิ ัตงิ าน เพ่ือให้

ผู้ปฏบิ ตั ิงานสามารถมองเหน็ ได้อยา่ งชัดเจน 2.2.1.9 ทาการปรบั แท่นรองชิ้นงานใหม้ ีระยะความห่างจากหนา้ ลอ้ หนิ โดยประมาณท่ี 3 – 5 มม. 2.2..1.10 ให้ผปู้ ฏิบัติงานสวมใสแ่ วน่ ตานิรภัย แล้วยื่นตรงกลางระหว่างล้อหินท้ังสอง ข้าง ของเคร่ืองเจียระไน เพือ่ เป็นการปอ้ งกันการกระเด็นของเศษโลหะท่ีคาอยู่ ทีล่ อ้ หินซ่งึ อาจจะเป็นอนั ตรายแกผ่ ู้ปฏิบัตงิ านได้ จากนน้ั ให้ทาการเปดิ สวติ ช์ ได้ 2.2..1.11 การลับชิ้นงาน ในการลับช้ินงานให้ผปู้ ฏิบัติงานคานึงถึงขนาดของชิน้ งานท่ีนามาลับด้วยว่ามขี นาดเลก็ ใหญเ่ พียงใด ถ้าเปน็ ชนิ้ งานที่มีขนาดเล็กให้ผู้ปฏิบัติงานวางมือลงบนท่ีรองช้นิ งาน แต่ถา้ หากเป็นช้ินงายทีม่ ขี นาดใหญ่ให้ผู้ปฏบิ ัติงานวางชิน้ งานลงบนที่รองรับชิ้นงาน ในการใช้งานเคร่อื งเจียระไนลับคมตัดไมว่ ่าจะเปน็ การลบั มีดกลงึ และการลบั คมดอกสวา่ น จาเป็นจะตอ้ งมอี ปุ กรณ์อื่นเข้ามาชว่ ยเพือ่ ให้สามารถปฏิบตั งิ านได้อย่างถูกต้องและสามารถลับคมตดั ให้ได้ค่ามุมต่าง ๆตามทีต่ ้องได้ เครอื่ งมืออุปกรณท์ ี่ใช้กบั งานลบั เคร่อื งมือตัด ไดแก่ 1 ) ล้อแตง่ หน้าหินเจียระไน ลอ้ แต่งหน้าลอ้ หนิ เจยี ระไน เป็นเครอ่ื งมอื ท่ใี ชส้ าหรับแตง่ หนา้ ลอ้ หนิ ให้เรยี บ เพราะเมื่อไดม้ กี ารใช้งานลอ้ หนิ เป็นเวลานาน ๆ หรอื บางครัง้ อาจใชง้ านล้อหนิ ไมถ่ ูกลักษณะ เช่น การลบั ชิ้นงานอยู่ทเี่ ดยี วของหน้าลอ้หนิ จะทาใหล้ ้อหินสว่ นนน้ั เว้าลงไป ถา้ ล้อหนิ ไมเ่ รยี บชน้ิ งานทน่ี ามาลบั กจ็ ะเกิดการเว้าแหว่งไปตามหนา้ ล้อหิน

2.) เกจหางปลา เกจหางปลาเป็นเครื่องมือวัดตรวจสอบที่เก่ยี วขอ้ งกับการลบั คมตัด ซง่ึ เกจหางปลาจะใช้ในการวัดตรวจสอบค่ามุมของมีดกลึงเกลียวสามเหล่ียม โดยมีมุมรวมปลายมีด 60 องศา และยังใชใ้ นการต้งัมดี กบั เคร่ืองกลงึ ก่อนการกลงึ เกลยี วทุกครง้ั 3.) เกจวัดมมุ ดอกสวา่ น เจกวดั มุมดอกสว่านจะใชส้ ากรบั ตรวจสอบคา่ มุมต่าง ๆ ของดอกสวา่ น ซง่ึ สามารถเลือ่ นปรับเปลยี่ นตาแหนง่ ได้ตามต้องการ 4.)ใบวัดมุม ใบวัดมุมเป็นเครือ่ งมือท่ีใช้ในการวัดค่ามุมต่าง ๆ ของมดี กลงึ สามารถใช้งานไดส้ ะดวกและนิยมใช้กนั มาก ใบวัดมมุ จะใช้สาหรับวัดคา่ มมุ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเปน็ มมุ มีดกลงึ มดี ไส และดอกสวา่ นสามารถวา่ คา่ มุมได้ต้งั แต่ 0 องศา ถงึ 180 องศา

2.2.3 ความปลอดภยั ในการใช้เคร่ืองเจยี ระไนลับคมตัด ในใช้งานเคร่อื งเจยี ระไนลับคมตัด เพื่อให้ผปู้ ฏบิ ัตงิ านสามารถทางานได้อย่างปลอดภยั และมีประสิทธิภาพ จึงมีขอ้ ควรระวังดงั ตอ่ ไปนี้ 2.2.3.1 ตรวจสอบสภาพเคร่ืองเจียระไนลับคมตัดก่อนใชง้ านทุกคร้งั 2.2.3.2 ผปู้ ฏบิ ตั งิ านต้องสวมแว่นตานริ ภัยเพ่ือป้องกนั การกระเดน็ ของเศษชน้ิ งาน 2.2.3.3 ผปู้ ฏบิ ตั งิ านตอ้ งแต่งกายใหร้ ัดกุม 2.2.3.4 ห้ามผู้ปฏบิ ัติงานใส่สายรัดข้อมอื ทีย่ าว หรอื รงุ รังเกินไปเพราะอาจถูกล้อหิน เจียระไนดูดได้ 2.2.3.5 ขณะเปิดเคร่ืองเจยี ระไน ผปู้ ฏบิ ัติงานควรยื่นอยูต่ รงกลาง ไม่ควรย่ืนอยบู่ รเิ วณ หน้าล้อ หินเนอื่ งจากล้อหินมีการเหว่ียงตัวอาจมเี ศษของโลหะหรือชนิ้ งาo กระเด็นมาถูก ผู้ปฏิบัตงิ านจนไดร้ บั อนั ตรายได้ 2.2.3.6 ทาการปรับแทน่ รองรับงานให้มรี ะยะที่ประมาณ 3 – 5 มม. ไมค่ วรหา่ งเกินไป เพราะชิน้ งานอาจหลุดเข้าไปในล้อหนิ ได้ 2.2.3.7 ในขณะปฏติ งิ านใหผ้ ูป้ ฏิบตั งิ านจบั ช้ินงานให้แน่นขณะเจยี ระไน 2.2.3.8 ควรจมุ่ น้าหล่อเยน็ บอ่ ย ๆ เพ่ือเปน็ การระบายความร้อนของชน้ิ งาน 2.2.3.9 ห้ามผปู้ ฏบิ ตั งิ านสวมถุงมือในขณะปฏิบตั ิงาน 2.2.3.10 ไมค่ วรหยอกลอ้ กนั เล่นขณะปฏิบัติงาน 2.2.3.11 ห้ามผปู้ ฏบิ ตั ิงานใช้มอื จบั ล้อหนิ เจียระไนขณะลอ้ หนิ ยงั หมนุ อยู่ 2.2.3.12 ใหผ้ ปู้ ฏบิ ัตงิ านปฏบิ ตั ติ ามกฎความปลอดภยั ในการใช้เครือ่ งเจยี ระไนอย่าง เครง่ ครัด 2.2.4 การบารงุ รักษาเคร่ืองเจยี ระไนลับคมตัด เคร่ืองเจยี ระไนลบั คมตัดทใ่ี ช้ในโรงงานสว่ นใหญจ่ ะเป็นเคร่ืองจักรทถ่ี ูกใช้งานอยบู่ อ่ ย ๆเพราะฉะนัน้ อาจจะเกิดการชารุดได้มากซ่ึงหลักในการบารุงรักษาเครือ่ งเจยี ระไนลบั คมตัดมขี อ้ ควรปฏิบัตดิ ังนี้ 2.2.4.1 ทาการตรวจสอบความเรยี บของหน้าล้อหินเจยี ระไนทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน 2.2.4.2 ทาการตรวจสอบาสวติ ช์ เปดิ – ปดิ เครอื่ งว่าตาแหน่งทางานยังคงปกตหิ รือไม่ 2.2.4.3 ในการลบั เครอ่ื งมือตัดไม่ควรกดช้นิ งานแรงเพราะอาจทาใหล้ อ้ หินแตกได้ 2.2.4.4 ในการลบั เครอ่ื งมือตดั ไมค่ วรลบั ช้ินงานอยู่ทีเ่ ดยี วของหน้าล้อหินเพราะจะทา ให้ล้อหนิ เว้า หรอื นนู ได้ 2.2.4.5 ทาความสะอาดเครอ่ื งทกุ ครัง้ หลงั เลิกใช้งานทกุ คร้ัง

2.3 การลับคมตดั ชนิดต่าง ๆ ดว้ ยเครื่องเจยี ระไนลับคมตัด 2.3.1 การลับมดี กลึงปาดหน้า มีดกลึงปาดหน้าที่ใชใ้ นงานกลึงทว่ั ไปสามารถลับไดห้ ลายแบบแล้วแตก่ ารนามาใช้งานของผู้ปฏบิ ตั งิ านโดยหลกั การท่วั ๆ ไปของมดี กลึงปาดหน้าจะต้องมมี ุมต่าง ๆ ทน่ี ามาประกอบกันข้ึนเป็นมีดกลึงตามหลกั ทฤษฎี จะต้องมีทั้ง มมุ ตั้งมดี มมุ หลบ มมุ คาย และมมุ รวมปลายมดี โดยจะมีคา่ มมุ ต่าง ๆ ในการใช้งานกาหนดเปน็ องศาลักษณะของมดี กลึงปาดหน้า คา่ มมุ ตา่ ง ๆ ของมีดกลงึ ปาดหน้า 1.) มุมเอียงคมตัด 12 องศา 2.) มมุ หลบด้านข้าง 8 องศา 3.) มุมรวมปลายมดี 55 องศา 4.) มมุ หลบด้านหนา้ 8 องศา 5.) มุมคาย 14 องศา 2.3.1.1. ขัน้ ตอนการลับมีดกลึงปาดหนา้ 1 ) ลบั มุเอียงคมตัด 12 องศา พร้อมท้ัง มุมหลบดา้ นข้าง 8 องศา

วธิ ีการลบั ใหผ้ ู้ปฏิบัติงานเอยี งชิน้ งานทามุมประมาณ 12 องศา ดงั รปู แล้วใหเ้ งยหนา้ มดี ขน้ึ เล็กนอ้ ย เพอื่ ท่จี ะทามมุ หลบดา้ นหนา้ 8 องศา ท้งั น้ผี ปู้ ฏบิ ัติงานจะต้องหมนั่ ตรวจเชค็ คา่ มุมต่าง ๆ เพื่อไม่ใหค้ ่ามมุ ทีล่ บั เกินคา่ มมุทีต่ ้องการเพราะจะเสียเวลาในการแก้ไข 2 ) ลับมุมรวมปลายมดี 55 องศา และมมุ หลบด้านหน้า 8 องศาวิธีการลบั ใหผ้ ูป้ ฏบิ ัตงิ านเอียงมุมหนา้ มีดกลบั ลอ้ หนิ ดังรูปทามมุ ประมาณ 55 องศา แล้วทาการเงยหนา้ มีดขน้ึเลก็ นอ้ ยใหล้ น้ หินไล่กนิ ชิน้ งานจากดา้ นลา่ งข้ึนสู่ดา้ นบน ชนิ้ งานทาทามุมหลบดา้ นหนา้ ซึง่ ผูป้ ฏบิ ัติงานจะต้องหมัน่ ตรวจสอบค่ามุมบอ่ ย ๆ เพ่อื ไมใ่ ห้ค่ามมุ เกนิ ตามทต่ี ้องการ 3 ) มุมคาย 14 องศาวธิ กี ารลับ ให้ผ้ปู ฏบิ ัติงานเอียงมดี กลงึ ดงั รูป จากนัน้ ใหเ้ งยหนา้ มีดเล็กน้อยประมาณ 14 องศา ใหล้ ้อหนิ ไล่กนิช้ินงานจากดา้ นลา่ งของช้ินงานมายังดา้ นบนแล้วทาการวัดตรวจสอบคา่ มุมบ่อย ๆ 2.3.1.2 ขอ้ ควรระวังในการลับมดี กลงึ ปาดหน้า 1 ) ไมค่ วรออกแรงกดมากจนเกินไปเพราะอาจทาใหล้ อ้ หนิ แตกได้

2 ) ในขณะลบั มดี กลงึ ควรจุ่มน้าหลอ่ เยน็ บอ่ ย ๆ เพ่ือเป็นการระบายความร้อนของ ช้ินงาน 3 ) ผู้ปฏิบตั งิ านจะต้องสวมใส่แว่นตานิรภัยทุกครั้งเพอื่ ป้องกันเศษโลหะกระเด็น เข้าตา 1.3.2 การลบั มดี กลึงปอกผวิ มดี กลึงปลอกผิวเป็นมดี กลึงใชใ้ นในงานปลอกลดขนาดช้ินงานใหม้ ีขนาดทเ่ี ล็กลงกวา่ ชิ้นงานปกติสาหรบั มดี กลึงปลอกผิวเป็นฟอรม์ มดี ทใี่ ชก้ ันมากในงานเคร่ืองมือกล เพราะสามารถใชง้ านได้หลากหลายและจะต้องใช้สาหรับงานกลงึ ท่วั ๆ ไป เชน่ เดยี วกันกับมีดกลงึ ปาดหนา้ มดี กลึงปลอกผวิ น้นั กจ็ ะมีคา่ มุมต่าง ๆเชน่ กนั แตกตา่ งกันที่รูปร่างของมีด การใชง้ านของมีด และวิธกี ารลบั มีดกลงึ 2.3.2.1 ลกั ษณะของมีดกลึงปลอกผวิค่ามมุ ตา่ ง ๆ ของมีดกลงึ ปลอกผิว  มุม ต้งั มีด 60 องศา  มุมรวมปลายมดี 90 องศา  มุมคาย 14 องศา  มุมฟรีด้านขา้ ง 8 องศา n มมุ ฟรดี า้ นหนา้ 8 องศา

2.3.2.2 ข้นั ตอนการลับมดี กลึงปลอกผวิ 1 ) ลบั มมุ เอยี ง 30 องศา พร้อมท้ัง มุมหลบดา้ นข้าง 8 องศาวิธกี ารลบั มีดกลงึ ปลอกผวิ ใหผ้ ู้ปฏบิ ัตเิ อียงชน้ิ งานเข้าหาล้อหนิ เจยี ระไนดังรปู ทามมุ ประมาณ 30 องศา แล้วให้เงยหน้ามดี ข้ึนใหล้ อ้ หินกินงานจากดา้ นล่างขนึ้ มาด้านบน เพ่อื ทาให้เกิดมมุ หลบดา้ นขา้ ง 8 องศา ทงั้ นี้ผ้ปู ฏิบัติงานจะต้องตรวจสอบคา่ มุมบ่อย ๆ 2 ) ลบั มุมรวมปลายมีด 90 องศา และมุมหลบหน้ามีด 8 องศาวธิ กี ารลับมมุ รวมปลายมดี ใหผ้ ้ปู ฏิบัตงิ านต้งั หน้ามีดกบั ล้อหนิ เจยี ระไนดังรูป แลว้ ใหเ้ งยหน้ามีดขึ้นเล็กน้อยเพ่อื ให้ลอ้ หนิ กนิ งานจากดา้ นลา่ งข้นึ มาดา้ นหน้า ทามุมประมาณ 8 องศา 3 ) ลับมมุ คาย 14 องศา

วิธกี ารลบั มุมคาย 14 องศา ใหผ้ ู้ปฏบิ ัตงิ านเอยี งงานชิ้นงานดงั รูป แล้วทาการเงยหน้ามีดเล็กนอ้ ย เพื่อใหล้ ้อหินกนิ ชน้ิ งานจากดา้ นลา่ งขน้ึ มายงั ด้านบนทามุมประมาณ 14 องศา เพ่ือให้ไดม้ ุมคายตามทีต่ ้องการ 1.3.2.3 ขอ้ ควรระวงั ในการลบั มีดกลึงปลอกผิว 1.) ไม่ควรออกแรงกดมากจนเกนิ ไปเพราะอาจทาใหล้ ้อหินแตกได้ 2. )ในขณะลบั มีดกลงึ ควรจุ่มน้าหลอ่ เยน็ บอ่ ย ๆ เพอื่ เปน็ การระบายความร้อนของ ชน้ิ งาน 3. ) ผปู้ ฏบิ ัตงิ านจะตอ้ งสวมใส่แว่นตานริ ภัยทกุ ครั้งเพือ่ ป้องกันเศษโลหะกระเด็น เขา้ ตา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook