วันสนุ ทรภู่ ๒๖ มถิ นุ ายน ๒๕๖๓ จุลสารภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรยี นดอนเมอื งจาตรุ จนิ ดา เขตดอนเมอื ง กรงุ เทพมหานคร
-ก- สดุด.ี ........กวีแก้ว ยีส่ ิบหกมถิ นุ าในครานี้ คอื วนั ดที ี่ก่อนเกดิ กำเนดิ ศลิ ป์ สนุ ทรภู่ครูกวสี ี่แผ่นดนิ รัตนโกสินทรแ์ ผ่นดินไทย ท่านสร้างสรรค์กานท์กลอนแสนเลิศล้ำ ลูกหลานนำสบื สานผา่ นสมยั คือเรื่องพระอภัยมณตี ดิ ตรึงใจ นริ าศรักดำรงไว้ใหย้ นิ ยล งามโดดเด่นเป็นกวีศรีของชาติ คือนักปราชญ์ชนแซซ่ ้องทกุ แหง่ หน โลกรบั รคู้ รกู วีแหง่ สากล ไทยทุกคนลว้ นยินดเี ปรมปรดี า ขอเชิญชวนทกุ วฒุ ิวยั ชาวไทยนี้ สดุดีรำลึกคุณร่วมรักษา ศรีแผ่นดนิ ถน่ิ สยามเน่นิ นานมา เกียรตกิ ้องหล้า...สุนทรภู่...ครกู วี ....................กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย....................
-ข- จลุ สารภาษาไทย จัดทำโดยกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพือ่ ปลกู ฝงั เยาวชนใหม้ ีนสิ ัยรกั การอ่านและแสวงหาความรูด้ ้วยตนเอง ๒. เพอ่ื แลกเปล่ยี นความรคู้ วามคิดจากขอ้ มูลข่าวสารและนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้ ๓. เพ่ือเผยแพรป่ ระชาสมั พันธ์กจิ กรรมของกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย คณะผูจ้ ัดทำ ๑. กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ๒. คณะกรรมการสมชั ชานกั เรียน ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓
-๑- ประวตั สิ นุ ทรภู่ สุนทรภู่ มีนามเดิมว่า ภู่ เป็นบุตรขุนศรีสังหาร (พลับ) และแม่ช้อย เกิดในรัชกาลที่ ๑ กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันจันทร์ เดือนแปด ขึ้นหนึ่งค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช ๑๑๔๘ เวลาสองโมงเช้า ตรงกับ วันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๓๒๙ ที่บ้านใกล้กําแพง วังหลัง คลองบางกอกน้อย สุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าจากกันฝ่ายบิดากลบั ไปบวชทบี่ ้านกรำ่ เมอื งแกลง ส่วนมารดาคงเปน็ นางนมพระธิดาในกรม พระราชวังหลังได้แต่งงานมีสามีใหม่และมีบุตรกับสามีใหม่ ๒ คน เป็นหญิง ชื่อฉิมและนิ่ม ตัวสุนทรภู่เองได้ ถวายตวั เป็นขา้ ในกรมพระราชวังหลงั ตั้งแต่ยังเดก็ สุนทรภู่เป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนสันทัดทั้งสักวาและเพลงยาว เมื่อรุ่นหนุ่มเกิดรักใคร่ชอบพอกับนาง ข้าหลวงในวังหลังช่ือแมจ่ ัน ครั้นความทราบถึงกรมพระราชวงั หลังพระองค์ก็กริ้วรับสั่งให้นำสุนทรภู่และจันไป จองจำทนั ทแี ต่ท้ังสองถูกจองจำได้ไมน่ าน สุนทรภู่ได้เป็นมหาดเล็กของพระองค์เจ้าปฐมวงศ์พระโอรสองค์เล็กของกรมพระราชวังหลัง ซึ่งทรง ผนวชอยู่ที่วัดดระฆังในช่วงนี้ สุนทรภู่ก็สมหวังในรักได้แม่จันเป็นภรรยา สุนทรภู่มีบุตรชายสามคน คือพ่อพัด เกิดจากภรรยาคนแรก คือ “แม่จัน” พ่อตาบเกิดจากภรรยาคนทีส่ องคือแม่น่ิม และพ่อนิลเกิดจากภรรยาที่ชอื่ แมม่ ่วง นอกจากนี้ปรากฏช่อื บตุ รบุญธรรมอกี สองคน ชอ่ื พอ่ กล่นั และ พ่อชุบ พ่อพัดนี้เป็นลูกรักได้ติดสอยห้อยตามสุนทรภู่อยู่เสมอเมื่อครั้งสุนทรภู่ออกบวชพ่อพัดก็ ออกบวชด้วย เมอ่ื สนุ ทรภไู่ ด้มารบั ราชการกบั เจ้าฟา้ น้อยพ่อพัดก็มาพำนักอยู่ดว้ ย สว่ นพ่อตาบน้ันปรากฏว่าได้เป็นกวีมีชื่ออยู่ พอสมควร เมื่อถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตราพระราชบญั ญัตินามสกุลขึ้นตระกูล ของสนุ ทรภู่ไดใ้ ชน้ ามสกลุ ต่อมาว่า ภเู รอื หงส์ สุนทรภู่รับราชการในปี พ.ศ. ๒๓๕๙ ในรัชกาลที่ ๒ ในกรมพระอาลักษณ์และเป็นที่โปรดปรานของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลยั จนแตง่ ต้งั ให้เป็นกวีท่ีปรึกษาและคอยรบั ใชใ้ กล้ชิด เน่อื งจากเม่ือคร้ังท่ี พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงแต่งกลอนบทละครในเรื่อง \"รามเกียรติ์\" ติดขัดไม่มีผู้ใดต่อกลอน ได้ต้องพระราชหฤทัยจึงโปรดให้สุนทรภู่ทดลองแต่ง ปรากฏว่าแต่งได้ดีเป็นที่พอพระทัย จึงทรงพระกรุณา ฯ เลอื่ นใหเ้ ปน็ \"ขุนสุนทรโวหาร\"
-๒- ในสมัยรัชกาลที่ ๔ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ครองราชย์ ทรงสถาปนาเจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรคเ์ ปน็ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจา้ อยู่หัวประทับอยู่ วังหน้า (พระบวรราชวัง) สุนทรภู่จึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น \"พระสุนทรโวหาร\" ตําแหน่งเจ้ากรมพระอาลักษณ์ฝ่ายบวรราชวังในปี พ.ศ. ๒๓๙๔ และรับราชการต่อมาได้ ๔ ปี กถ็ ึงแกม่ รณกรรมใน พ.ศ. ๒๓๙๔ รวมอายไุ ด้ ๖๙ ปี ผลงานของสนุ ทรภู่ นิราศ ๑. นริ าศเมอื งแกลง แตง่ ในราว พ.ศ. ๒๓๕๐ ตอนตน้ ปี ๒. นิราศพระบาท แต่งในราว พ.ศ. ๒๓๕๐ ตอนปลายปี ๓. นริ าศภเู ขาทอง แต่งในราว พ.ศ. ๒๓๗๑ ๔. นริ าศเมืองสุพรรณ (โคลง) แต่งในราว พ.ศ. ๒๓๘๔ ๕. นิราศวดั เจ้าฟา้ ฯ แต่งในราว พ.ศ. ๒๓๗๕ ๖. นิราศอเิ หนา ๗. นริ าศพระแท่นดงรัง ๘. นริ าศพระประธม ๙. นิราศเมืองเพชร แต่งในราว พ.ศ. ๒๓๘๘-๒๓๕๙๒ นิทาน ๑. เร่ืองโคบตุ ร แตง่ ในราวรชั กาลที่ ๑ ๒. เรื่องพระอภยั มณี แต่งในราวรัชกาลที่ ๒ - ๓ ๓. เรื่องพระไชยสุรยิ า แตง่ ในราวรชั กาลท่ี ๓ ๔. เรอ่ื งลักษณวงศ์ (มีสาํ นวนผอู้ ่นื แต่งต่อ และไม่ทราบเวลาแตง่ ) ๕. เรือ่ งสิงหไตรภพ แต่งในราวรัชกาลที่ ๒
-๓- สุภาษติ ๑. สวสั ดริ กั ษา แต่งระหวา่ ง พ.ศ. ๒๓๖๔-๗ ๒. เพลงยาวถวายโอวาท แต่งระหว่าง พ.ศ. ๒๓๗๓ ๓. สุภาษติ สอนหญงิ แตง่ ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๐-๒๓๘๓ บทละคร ๑. เร่อื งอภัยณุราช บทเสภา ๑. เรอื่ งขนุ ชา้ งขนุ แผนตอนกําเนดิ พลายงาม แตง่ ในรัชกาลที่ ๒ ๒. เร่ืองพระราชพงศาวดาร แต่งในรัชกาลที่ ๔ บทเห่กล่อม ๑. เห่เร่ืองจบั ระบาํ ๒. เห่เรอื่ งกากี ๓. เหเ่ รอื่ งพระอภยั มณี ๔. เหเ่ ร่ืองโคบตุ ร รวมวรรณกรรมของสุนทรภู่ ท้ังหมด ๒๔ เรอื่ ง ************************************************* หากจะพูดถึงเรื่องนักกวีเอกท่มี ชี ื่อเสียงมั่นใจได้เลยว่าเราในฐานะคนไทย จะต้องนึกถึง“สุนทรภู่”ผู้ซึ่งเป็นนักกวีเอกชาวไทยที่เป็นผู้สร้างสรรค์บทความ วรรณกรรม กลอนตา่ ง ๆ ทมี่ ีความไพเราะ ยกตัวอยา่ งเช่น“พระอภัยมณี”ที่ได้รับ ยกย่องจากองค์การยูเนสโกว่าเป็นบุคคลสําคัญของโลกด้านงานวรรณกรรม โดยยกย่องคำว่า “มหากวีแห่งรัตนโกสินทร์ หรือ “เชกสเปียร์แห่งประเทศไทย” เลยทเี ดียว ซง่ึ วันที่ ๒๖ มถิ นุ ายน ของทุกปี ถอื เป็นวนั สุนทรภู่
-๔- ภาษติ คำคม คารม สนุ ทรภู่ “แลว้ สอนว่าอยา่ ไว้ใจมนุษย์ มนั แสนสดุ ลกึ ล้ำเหลอื กำหนด ถึงเถาวัลย์พนั เกีย่ วทเ่ี ลีย้ วลด กไ็ ม่คดเหมือนหนง่ึ ในนำ้ ใจคน” “พระอภยั มณี” ************** “เป็นสาวแซแ่ รร่ วยสวยสะอาด กห็ มายหมาดเหมือนมณีอนั มีค่า แมแ้ ตกรา้ วรานร่อยถอยราคา จะพลอยพาหอมหายจากกายนาง” “สภุ าษติ สอนหญงิ ” ************** “มีสลึงพงึ บรรจบใหค้ รบบาท อยา่ ให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ มนี อ้ ยใชน้ ้อยค่อยบรรจง อยา่ จ่ายลงให้มากจะยากนาน” “สุภาษิตสอนหญงิ ”
-๕- พระอภัยมณี...ได้ป่ีมาจากไหน ? สุจิตต์ วงษ์เทศ ปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์พระราชพงศาวดารและ อื่น ๆ โดยเฉพาะงานนิพนธ์ ซึ่งนิยมชมชื่นบทกวีรวมถึงบทเสภาเคยเขียนถึง \"สุนทรภู่ไว้ใน หนังสือหลายเล่มหลายวาระและหลายโอกาสในวันนี้กรณีของสุนทรภู่ถูกหยิบยกมา เป็น หัวข้อคยลั่นดงั ไปท้ังเมืองเม่ือ\"ปี่ของพระอภัยมณี\"ทต่ี ้ังอยูก่ ลางสวนสาธารณะในเมืองจังหวัด ระยองถูกมือดีฉกไปชนิดที่คาดไม่ถึง ปี่ของพระอภัยมณีทําจากโลหะสําริดทั้งที่เอาไปแล้วก็ ขายไม่ได้ราคาจะเอาไปเป็นของสะสมก็ช่างกระไรอยู่ ดังนั้นเพื่อสร้างความเข้าใจมากยิ่งขึ้น สุจิตต์ วงษ์เทศ มีเรื่องเล่าของสุนทรภู่ว่า เหตุใดพระอภัยมณีถึงต้องมีปี่และปี่นั้นสําคัญไฉน สจุ ติ ต์ เขยี นไวใ้ นหนังสอื ชื่อ สนุ ทรภู่ ครเู สภา และทะเลอันดามนั ว่า ..... ตอนนัน้ พระอภัยมณีอายุ ๑๕ ปี สว่ นศรีสุวรรณอายุ ๑๓ ปี ถกู พระบดิ าส่งั ว่า “พระลูกรกั จักสืบวงศ์กษตั รยิ ์ จงรีบรัดเสาะแสวงแหง่ สถาน หาทิศาปาโมกข์ชาํ นาญชาญ เปน็ อาจารย์พากเพยี รเรยี นวิชา” พระอภยั มณรี ักวชิ าดนตรเี พราะ\"หมายวา่ เพลงดนตรนี ี้ดจี ริง\" และเช่อื ว่า \"ถึงการเล่นเป็นทป่ี ระโลมโลก\" ก็ช่วยให้ไดด้ บั โศกสญู หายท้ังชายหญิง
-๖- แต่คา่ เรียนดนตรแี พงมาก พราหมณ์ผ้สู อนปิดประกาศวา่ “ถ้ามีทองแสนตาํ ลงึ มาถึงใจ จงึ จะได้ศึกษาวิชาการ\" พระอภัยมณีไม่มที องจงึ \"เอาธำมรงค์ทรงน้ิวดัชนี ให้พราหมณด์ ีคา่ แสนตำลึงทอง\" แลว้ ก็ไดเ้ รียนวชิ าเปา่ ป่ีกบั อาจารย์ช่ือ พนิ ทพราหมณร์ ามราช แล้วพาไปยอดเขาให้เปา่ ปี่ ทอี่ ยา่ งดสี ิ่งใดก็ได้สิน้ แต่เสอื ช้างกลางไพรถ้าได้ยนิ ก็ลืมกินน้ำหญ้าเข้ามาฟงั ประมาณเสร็จเจ็ดเดือนโดยวิตถาร พระกุมารไดส้ มอารมณห์ วัง สิ้นความร้คู รปู ระสิทธ์ิไมป่ ิดบัง จึงสอนส่ังอุปเทห่ ์เป็นเล่หก์ ล ถา้ แม้นว่าข้าศึกมันโจมจบั จะรบรับสารพัดให้ขดั สน เอาป่เี ปา่ เลา้ โลมนำ้ ใจคน ด้วยเล่หก์ ลโลกาห้าประการ คอื รปู รสกล่นิ เสยี งเคยี งสัมผสั เกดิ กำหนัดลุม่ หลงในสงสาร ใหใ้ จอ่อนนอนหลับดังวายปราณ จงึ คดิ อา่ นเอาชยั เหมือนจงใจ เมอื่ สอนวชิ าเปา่ ปส่ี ำเรจ็ แล้วพินทพราหมณ์รามราชมอบป่ีให้พระอภยั วา่ “แลว้ ใหป้ ท่ี ีเ่ พราะเสนาะเสียง ยนิ สำเนยี กถึงไหนก็ใหลหลง” พร้อมกบั คืนค่าสอนวิชาดนตรี คอื “อวยพรพลางทางหยิบธำมรงค์ คืนให้องค์กมุ าราแลว้ ว่าพลนั ” แลว้ อธบิ ายวา่ ซงึ่ ดนตรตี ีค่าไว้ถึงแสน เพราะหวงแหนกำชับไว้ขับขัน ใชป่ ระสงคต์ รงทรพั ย์สง่ิ สวุ รรณ จะป้องกนั มใิ ห้ไพร่ไดว้ ิชา ต่อกษัตริยเ์ ศรษฐีที่มีทรัพย์ มาคํานบั จงึ ไดด้ ังปรารถนา จงึ คนื เขา้ บุรีรักษน์ ครา ให้ชน่ื จติ พระบิดาและมารดร ฝา่ ยศรีสุวรรณเม่อื เรียนวิชากระบ่ีกระบองสาํ เร็จกไ็ ดส้ ิง่ ของคนื เช่นเดยี วกัน แลว้ พากัน กลับบ้านเมือง เมื่อกราบทูลพระบิดาให้ทรงทราบจึงถูกกริ้วว่า “จะให้อยู่เวียงวังก็จังไร ซอมแต่ไสคอสง่ เสยี จากวัง \"
-๗- ทัศนคติ ....สนุ ทรภใู่ ห้ความสำคญั กบั การศกึ ษา…. สุนทรภ่ใู หค้ วามสำคญั กับการศกึ ษาอย่างมาก และตอกยำ้ เรื่องการศกึ ษาในวรรณคดีหลาย ๆ เรื่อง เชน่ ขนุ แผนสอน พลายงาม ว่า \"ลกู ผูช้ ายลายมือนั้นคือยศ เจ้าจงอตส่าห์ทาํ สมำ่ เสมียน\" หรือ พระฤาษีสอนสุดสาคร ว่า \" มคี วามรอู้ ยูก่ ับตวั กลัวอะไร ชีวติ ไมป่ ลดปลงคงไดด้ ี ” \"รสู้ งิ่ ไรไมส่ รู้ ู้วชิ า รรู้ กั ษาตวั รอดเปน็ ยอดดี \" เรื่อง เพลงยาวถวายโอวาท “ อันความคคิ วทิ ยาเหมอื นอาวุธ ประเสรฐิ สุดซ่อนใส่ไวใ้ นฝกึ สงวนคมสมนกึ ใครอีกสัก จงึ คอ่ ยชักเชือดฟนั ใหบ้ รรลยั ” เรื่อง ขนุ ช้างขนุ แผน ตอนกำเนดิ พลายงาม “รู้สิ่งไรก็ไม่สรู้ ู้วิชา ไปเบื้องหน้าเติบใหญ่จะให้คณุ \"
-๘- คำสั่ง ใหห้ าคำตอบจากเน้อื หาสาระในเลม่ แล้วตอบคำถาม (ส่งท่ีครูประจำวิชา หรือครูทกุ ทา่ นในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย) ๑. จากข้อความ “สนุ ทรภู่ครูของฉนั เกดิ วนั จันทรใ์ นปีมา้ ย่ีสิบหกมิถนุ า เม่ือเวลาสองโมงเชา้ ” เป็นบทประพันธ์ของ............................................................................................. ๒. สุนทรภู่มนี ามเดิมว่า...............................นามสกุล........................................... ๓. สนุ ทรภเู่ กดิ วนั ................ท.่ี ................เดือน.............................พ.ศ. ............... ตรงกบั .................คำ่ เดือน.....................ปี..............................เวลา..................... ๔. สุนทรภู่เรยี นหนงั สอื ท่ีวัด.............................ปัจจุบนั คอื วดั ........................... ๕. สนุ ทรภู่ได้รบั บรรดาศักดิ์เป็น “ขุนสนุ ทรโวหาร” ในสมัยรชั กาลที่................. ๖. สนุ ทรภ่ไู ด้รบั บรรดาศักดเ์ิ ป็น “พระสนุ ทรโวหาร” ในสมยั รัชกาลท่.ี .............. ๗.สนุ ทรภู่ถงึ แกอ่ นิจกรรม ป.ี .....................รวมอายุได.้ .....................................ปี ๘. บดิ าของสนุ ทรภู่ ช่อื ...........................มารดาของสนุ ทรภู่ ช่ือ........................ ๙. ภรรยาของสุนทรภู่ ท่ีมีประวตั กิ ลา่ วถงึ ชัดเจน ๓ คน ได้แก่ ๑. นาง...................... มลี ูก คอื ........................................ ๒. นาง...................... มีลกู คอื ........................................ ๓. นาง...................... มีลูก คอื ......................................... ๑๐. สนุ ทรภมู่ พี ีน่ ้องร่วมบิดา ๒ คน คือ...........................และ...........................
“สุนทรภคู่ รขู องฉนั เกดิ วนั จนั ทรใ์ นปมี า้ ยสี่ บิ หกมิถนุ า เมอื่ เวลาสองโมงเชา้ ” ...อ.เสรี หวงั ในธรรม... ตวั ละครเดน่ เรอ่ื ง พระอภยั มณี
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: