xiii
สั ต ว์ ม หั ศ จ ร ร ย์ แ ล ะ ถิ่ น ที่ อ ยู่ เก่ียวกับหนังสือเล่มนี้ สั ตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ นำ�เสนอผลจากการเดินทางและ ทำ�วิจัยยาวนานหลายปี ผมมองย้อนกลับไปสมัยท่ียังเป็น พอ่ มดนอ้ ยวยั เจด็ ขวบ ใชเ้ วลาเปน็ ชวั่ โมงๆ ในหอ้ งนอนเฝา้ ช�ำ แหละ ฮอร์กลัมป์ แล้วผมก็รู้สึกอิจฉาการเดินทางที่เด็กคนน้ันจะได้พบ ต่อไป จากป่ามืดมิดท่ีสุดไปสู่ทะเลทรายสว่างจ้า จากยอดเขาสูง สู่ปลักโคลนเฉอะแฉะ เม่ือเขาเติบโตขึ้น เด็กชายผู้มีฮอร์กลัมป์ เกาะเต็มตัวผู้นั้นจะได้สะกดรอยตามสัตว์ท้ังหลายท่ีบรรยายไว้ใน หน้าถัดไป ผมได้ไปเยือนถ้ำ� โพรง และรังต่างๆ ท่ัวทั้งห้าทวีป ได้ สำ�รวจพฤติกรรมประหลาดๆ ของสัตว์วิเศษในร่วมร้อยประเทศ ได้ เหน็ พลงั ของพวกมนั ท�ำ ความคนุ้ เคยกบั พวกมนั และบางครง้ั กต็ อ้ ง ควา้ กานำ�้ สนามมาต่อสู้กบั พวกมนั ดว้ ย หนังสือสัตว์มหัศจรรย์ฯ ถือกำ�เนิดขึ้นเม่ือปี ค.ศ. 1918 โดยคุณออกัสตัส เวิร์ม แห่งสำ�นักพิมพ์อ็อบสกูรัสบุ๊กส์ได้กรุณา สอบถามว่าผมสนใจจะเขียนเรื่องสรุปย่อที่เชื่อถือได้เก่ียวกับ สัตว์วิเศษให้สำ�นักพิมพ์ของเขาบ้างไหม ผมซ่ึงตอนนั้นเป็นเพียง ข้าราชการช้ันผู้น้อยในกระทรวงเวทมนตร์รีบตะครุบโอกาสท่ีท้ัง จะช่วยเสริมรายได้อันน่าสงสารของตัวเองที่มีเพียงสัปดาห์ละสอง ซิกเกิ้ล และจะได้ใช้วันหยุดท่องเที่ยวไปในโลกกว้างเพ่ือค้นหา สัตว์วิเศษสายพันธุ์ใหม่ๆ นี้โดยไม่ลังเล หลังจากนั้นหนังสือเล่มนี้ กไ็ ดร้ ับการตีพิมพเ์ ร่อื ยมา บทนำ�นี้มีข้ึนเพื่อตอบคำ�ถามบางข้อที่ถูกถามมามากท่ีสุด xiv
บ ท น�ำ ทางถุงไปรษณีย์ของผมนับตั้งแต่หนังสือเล่มน้ีตีพิมพ์คร้ังแรกเมื่อปี ค.ศ. 1927 คำ�ถามแรกเป็นค�ำ ถามพ้นื ๆ ทสี่ ุด -- “สตั ว”์ คืออะไร สัตว์คืออะไร นิ ยามคำ�ว่า “สัตว์” ได้ทำ�ให้เกิดความขัดแย้งมานับศตวรรษ นักศึกษาสัตว์วิเศษวิทยามือใหม่บางคนอาจแปลกใจที่พูด เช่นนี้ ปัญหาที่ว่าอาจเห็นได้ชัดเจนข้ึนเม่ือลองพิจารณาสัตว์วิเศษ สามประเภทนี้ มนุษย์หมาป่าอยู่ในร่างมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ (เป็นได้ทั้ง พอ่ มดแมม่ ดและมกั เกล้ิ ) อยา่ งไรกต็ าม เดอื นละครง้ั กต็ อ้ งกลายรา่ ง เป็นสัตว์สี่เทา้ ทปี่ ่าเถ่ือนดรุ า้ ยและไมม่ สี �ำ นกึ ความเป็นคน เซ็นทอร์มีนิสัยผิดแผกจากมนุษย์ พวกมันอาศัยอยู่ใน ปา่ เขา ไม่ยอมสวมเสอ้ื ผ้า ชอบแยกตัวจากพอ่ มดแมม่ ดและมกั เกล้ิ แต่กระนัน้ กม็ คี วามเฉลียวฉลาดไมแ่ พม้ นษุ ย์ โทรลล์มรี ปู รา่ งแบบมนุษย ์ เดนิ ตัวตรง เรียนรคู้ �ำ ศพั ทง์ า่ ยๆ ได้บ้าง แต่ก็มีความฉลาดน้อยกว่ายูนิคอร์นท่ีโง่ที่สุดเสียอีก แถมยังไม่มีอำ�นาจวิเศษใดๆ ในตัว เว้นแต่พละกำ�ลังที่มากมาย ผิดธรรมชาตเิ ทา่ น้นั ตอนน้ีก็ลองถามตัวเองดูว่า สิ่งมีชีวิตที่กล่าวมาแล้วน้ี ประเภทไหนที่ควรเรียกว่า “สิ่งมีชีวิตช้ันสูง” ซึ่งหมายถึงส่ิงมีชีวิต ที่ควรได้รับสิทธิทางกฎหมายและมีสิทธิ์มีเสียงในรัฐบาลของ โลกเวทมนตร์ แล้วประเภทไหนท่คี วรเรยี กวา่ “สตั ว”์ เฉยๆ xv
สั ต ว์ ม หั ศ จ ร ร ย์ แ ล ะ ถ่ิ น ที่ อ ยู่ ในระยะแรก เกณฑ์การตัดสินว่าส่ิงมีชีวิตวิเศษประเภทใด ควรจดั ใหเ้ ปน็ “สัตว์” ยังหยาบมาก เบอร์ด็อก มัลดูน ประธานสภาพ่อมด1 ในศตวรรษท่ีสิบสี่ ประกาศว่า สมาชิกชุมชนเวทมนตร์ตัวใดที่เดินสองเท้าจะได้รับ สถานะเป็น “ส่ิงมีชีวิตช้ันสูง” ที่เหลือต้องเป็น “สัตว์” ต่อไป และ เพื่อมิตรภาพที่ดีระหว่างกัน เขาจึงได้เรียก “สิ่งมีชีวิตชั้นสูง” ทั้งหมดมาประชุมร่วมกับพ่อมดแม่มดในการประชุมสุดยอดเพ่ือ อภิปรายกฎหมายเวทมนตร์ใหม่ๆ แต่แล้วเขาก็ได้ค้นพบอย่างไม่ สบอารมณ์นักว่าตนเองคำ�นวณพลาดไปเสียแล้ว ในห้องประชุม อัดแน่นไปด้วยก็อบลินท่ีพาสัตว์สองเท้าทั้งหมดท่ีมันเจอมาด้วย บาธิลดา แบ็กช็อตได้บรรยายถึงเหตุการณ์ครั้งน้ันไว้ในหนังสือ ประวัติศาสตร์เวทมนตร์ ว่า แทบไม่ได้ยินเสียงอ่ืนใดนอกจากเสียงกรีดร้อง ของดริ คิ อวล์ เสยี งคร�่ำ ครวญของออเกอรยี ์ และเสยี งเพลง แหลมสูงที่ดังไม่หยุดหย่อนของพวกฟวูปเปอร์ ในขณะที่ พ่อมดและแม่มดพยายามอ่านเอกสารตรงหน้า พิกซี และแฟรีจำ�นวนมากก็บินวนรอบศีรษะพลางหัวเราะ คิกคักและส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวตลอดเวลา โทรลล์จำ�นวน หน่ึงโหลหรือประมาณน้ันเริ่มใช้กระบองทุบทำ�ลายห้อง ประชุม ในขณะที่แม่มดเฒ่าบินร่อนไปทั่วบริเวณเพื่อหา 1 สภาพ่อมดมมี ากอ่ นกระทรวงเวทมนตร์ xvi
บ ท นำ� เด็กกิน ประธานสภาฯ ลุกขึ้นเปิดประชุมแต่กลับเหยียบ โดนกองมูลของตัวพอร์ล็อกเข้า เลยว่ิงพลางด่าพลางออก จากห้องไป จะเห็นได้ว่าการเดินสองขาไม่อาจรับประกันว่าสิ่งมีชีวิต วิเศษน้ันๆ จะสามารถเข้าร่วมหรือจะสนใจในกิจการของรัฐบาล พ่อมด ด้วยความขมข่ืนสุดทน เบอร์ด็อก มัลดูนถึงกับสาบาน ว่าจะไม่พยายามรวบรวมสมาชิกชุมชนผู้วิเศษท่ีไม่ใช่พ่อมดแม่มด เขา้ มาอยู่ในสภาพ่อมดอกี ต่อไป ผู้รับตำ�แหน่งต่อจากมัลดูน คือมาดามเอลฟริดา แคลกก์ ได้พยายามให้นิยามของคำ�ว่า “ส่ิงมีชีวิตชั้นสูง” อีกครั้ง ด้วยหวัง ว่าจะสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับสัตว์วิเศษทั้งหลาย เธอ แถลงว่า “ส่ิงมีชีวิตชั้นสูง” คือพวกท่ีพูดภาษามนุษย์ได้ สัตว์ท่ี ส่ือสารกับสมาชิกสภาฯ ได้เข้าใจก็ได้รับเชิญมาเข้าร่วมประชุม คร้ังต่อมา แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นอีกครั้ง โทรลล์ท่ีก็อบลินสอนให้ พูดประโยคง่ายๆ ได้สองสามประโยคก็เข้ามาทำ�ลายห้องประชุม อีก ตัวจาร์วีย์พากันว่ิงแข่งรอบขาเก้าอี้ในสภาฯ และกัดข้อเท้า ทุกคนที่มันพบ ในขณะเดียวกัน ผีกลุ่มใหญ่ (ผู้ไม่ผ่านเง่ือนไข ของมัลดูน เพราะผีไม่ได้เดินสองเท้า แต่ร่อนไปมา) ได้เข้าร่วม ประชุมด้วย แต่ก็ต้องจากไปอย่างโกรธเกรี้ยวเพราะส่ิงที่พวกมัน เรียกว่า “ความหน้าไม่อายของสภาฯ ท่ีให้ความสำ�คัญเป็นพิเศษ กับความต้องการของสิ่งมีชีวิต โดยไม่คำ�นึงถึงความปรารถนา ของผู้ท่ีตายไปแล้ว” เซ็นทอร์ซึ่งตามนิยามของมัลดูนได้รับการ xvii
สั ต ว์ ม หั ศ จ ร ร ย์ แ ล ะ ถิ่ น ท่ี อ ยู่ จัดประเภทเป็น “สัตว์” และตอนนี้ตามนิยามของมาดามแคลกก์ เป็น “สิ่งมีชีวิตชั้นสูง” ได้ปฏิเสธท่ีจะเข้าร่วมประชุม เพ่ือประท้วงที่ สภาฯ ไม่นับชาวเงือกเป็น “ส่ิงมีชีวิตชั้นสูง” เพราะพวกมันสื่อสาร ไดแ้ ตภ่ าษาเงือกเท่านน้ั เม่ืออยูพ่ น้ น�้ำ จนกระทั่ง ค.ศ. 1811 จึงมีนิยามท่ีได้รับการยอมรับมาก ที่สุดในชุมชนเวทมนตร์ โกรแกน สตัมป์ รัฐมนตรีกระทรวง เวทมนตร์ท่ีเพ่ิงเข้ารับตำ�แหน่งได้บัญญัติว่า “สิ่งมีชีวิตชั้นสูง” คือ “ส่ิงมีชีวิตใดๆ ที่มีความเฉลียวฉลาดเพียงพอจะเข้าใจกฎหมายของ โลกเวทมนตร์ และมีส่วนรับผิดชอบในการกำ�หนดตัวบทกฎหมาย เหล่าน้นั ได้”2 ตัวแทนโทรลล์ถูกต้งั คำ�ถามโดยไม่มีก็อบลินคอยสอน และได้รับการตัดสินว่าพวกมันไม่เข้าใจอะไรท่ีพูดด้วยเลย โทรลล์ จึงถูกจัดอยู่ในประเภท “สัตว์” แม้ว่าจะเดินสองขาก็ตาม ชาวเงือก ได้รับเชิญผ่านล่ามให้เป็น “สิ่งมีชีวิตช้ันสูง” เป็นครั้งแรก ส่วนแฟรี พิกซี และโนม แม้ว่าจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ แต่ก็ถูกจัดประเภท เปน็ “สตั ว์” อยา่ งชดั เจน เป็นธรรมดาที่เร่ืองน้ีไม่ได้ยุติลงง่ายๆ ดังที่เราก็ทราบกันดี ว่ายังมีกลุ่มหัวรุนแรงท่ีรณรงค์ให้จัดประเภทมักเก้ิลเป็น “สัตว์” ส่วนเซ็นทอร์ก็ยังปฏิเสธท่ีจะรับสถานะ “สิ่งมีชีวิตช้ันสูง” และ 2 มีข้อยกเว้นสำ�หรับพวกผี ซ่ึงแย้งว่าไม่สมควรจะจัดให้พวกมันเป็น “สิ่งมีชีวิต ชั้นสูง” เพราะเห็นได้ชัดว่าพวกมัน “ไม่มีชีวิต” ดังน้ันสตัมป์จึงแบ่งออกเป็น สามแผนกภายใต้สังกัดกองออกระเบียบและควบคุมสัตว์วิเศษ ได้แก่ แผนก สัตว์ แผนกส่ิงมีชีวิตช้ันสูง และแผนกวิญญาณ ซ่ึงท้ังสามแผนกก็ยังมีอยู่จนถึง ปจั จุบนั xx
บ ท น�ำ เ รี ย ก ร้ อ ง ท่ี จ ะ เ ป็ น แ ค่ “ สั ต ว์ ” อ ย่ า ง เ ดิ ม 3 ใ น ข ณ ะ เ ดี ย ว กั น มนุษย์หมาป่าก็ถูกเก่ียงไปมาอยู่หลายปีระหว่างแผนกสัตว์กับ แผนกส่ิงมีชีวิตช้ันสูง ขณะเขียนหนังสือเล่มนี้มีสำ�นักงานบริการ ช่วยเหลือมนุษย์หมาป่าอยู่ที่แผนกส่ิงมีชีวิตชั้นสูง แต่ขณะเดียวกัน ก็มีหน่วยทะเบียนและจับกุมมนุษย์หมาป่าอยู่ในแผนกสัตว์ด้วย นอกจากนั้น ส่ิงมีชีวิตท่ีมีความฉลาดสูงจำ�นวนมากก็ถูกจัด ประเภทให้เป็น “สัตว์” เพราะพวกมันเอาชนะสันดานดิบในตัวไม่ได้ เช่น อะโครแมนทูลาและมันติคอร์ท่ีพูดจาได้เรื่องได้ราวแต่ก็จะ เขมือบมนุษย์ไม่ว่าหน้าไหนท่ีเข้าใกล้ หรือสฟิงซ์ท่ีพูดเป็นแต่ ปริศนาและค�ำ ทาย พอตอบผิดก็จะโหดรา้ ยอยา่ งมาก สำ�หรับสัตว์ท่ียังมีความไม่แน่นอนในการจัดประเภท ผมจะ ระบไุ ว้ในเชิงอรรถของหัวข้อสตั วน์ ั้นๆ ด้วย ตอนน้ีเราลองหันไปดูปัญหาอีกข้อหน่ึงที่พ่อมดแม่มดถาม กันมากท่ีสุดเวลาสนทนาเกี่ยวกับสัตว์วิเศษวิทยากันบ้าง นั่นคือ ทำ�ไมมักเก้ลิ จงึ ไมส่ ังเกตเหน็ สิ่งมชี ีวติ เหล่าน้ีเลย 3 เซ็นทอร์ไม่ชอบใจส่ิงมีชีวิตบางพวกที่อยู่ในสถานะ “สิ่งมีชีวิตช้ันสูง” ร่วมกับ พวกมัน อย่างเช่นแม่มดเฒ่าและผีดิบดูดเลือด และได้ประกาศว่าพวกมันจะ จัดการธุระของตัวเองเป็นเอกเทศจากพ่อมด ปีต่อมาชาวเงือกก็เรียกร้อง แบบเดียวกัน กระทรวงเวทมนตร์ยอมรับข้อเรียกร้องเหล่าน้ีอย่างไม่เต็มใจนัก แม้ว่าจะมีสำ�นักงานเซ็นทอร์สัมพันธ์อยู่ในแผนกสัตว์ของกองออกระเบียบและ ควบคุมสัตว์วิเศษ แต่ก็ไม่เคยมีเซ็นทอร์มาใช้บริการเลย จริงๆ แล้วการ “ถูกส่ง ไปอยู่สำ�นักงานเซ็นทอร์ฯ” ได้กลายเป็นตลกภายในกองไป โดยมีความหมาย ว่าบุคคลที่วา่ ใกลจ้ ะถกู ไล่ออกจากงานแลว้ น่นั เอง xxi
สั ต ว์ ม หั ศ จ ร ร ย์ แ ล ะ ถ่ิ น ท่ี อ ยู่ ประวัติโดยสังเขปของการที่มักเกิ้ล รู้ว่ามีสัตว์มหัศจรรย์อยู่จริง เ ร่ืองนี้อาจจะน่าอัศจรรย์ใจอยู่บ้างสำ�หรับพ่อมดหลายๆ คน มักเก้ิลไม่ได้เพิกเฉยต่อสิ่งมีชีวิตวิเศษและผิดธรรมชาติท่ีเรา พยายามปกปิดกันอย่างหนักมาเป็นเวลานานนี้เสียทีเดียว เมื่อ ลองพิจารณางานศิลปะและวรรณคดีของมักเกิ้ลในยุคกลาง จะเห็น ว่าสิ่งมีชีวิตจำ�นวนมากท่ีปัจจุบันเชื่อว่าเป็นเพียงจินตนาการนั้น ในสมัยก่อนมีอยู่จริง ท้ังมังกร กริฟฟิน ยูนิคอร์น ฟีนิกซ์ เซ็นทอร์ และสัตว์อ่ืนๆ ต่างก็ปรากฏอยู่ตามงานสร้างสรรค์ของมักเก้ิลใน ช่วงเวลาดังกล่าว แม้ส่วนใหญ่จะสื่อสารออกมาในแนวเพ้อฝัน อยบู่ ้างก็ตาม อย่างไรก็ดี เม่ือได้พิจารณาละเอียดยิ่งข้ึนจะพบว่า ผลงาน มักเกิ้ลในยุคน้ันยังสะท้อนให้เห็นด้วยว่า สัตว์วิเศษส่วนใหญ่ถ้า ไม่อาจหลุดรอดจากการสังเกตของมักเก้ิลได้ ก็มักจะถูกเข้าใจผิด เป็นอย่างอ่ืนไปเลย ลองดูตัวอย่างจากช้ินส่วนบันทึกท่ีเขียน โดยบาทหลวงเบเนดิกต์ ผู้เป็นนักบวชนิกายฟรานซิสกันจาก วุร์สเตอรเ์ ชยี ร์ วันน้ีขณะเดินเล่นอยู่ในสวนสมุนไพร อาตมา แหวกกอโหระพาออกพบตัวแฟร์เรตท่ขี นาดใหญ่เหลือเกิน มันไม่ได้วิ่งหนีหรือซ่อนตัวอย่างท่ีตัวแฟร์เรตมักทำ� แต่ กลับกระโดดใส่อาตมาจนหงายหลังล้มลงบนพ้ืน และ xxii
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: