Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 8 ภาคสัญญาณซิงค์ และดีเฟลคชั่น

หน่วยที่ 8 ภาคสัญญาณซิงค์ และดีเฟลคชั่น

Published by bum555bbb, 2022-08-02 15:29:30

Description: หน่วยที่ 8 ภาคสัญญาณซิงค์ และดีเฟลคชั่น
รายวิชา เครื่องรับโทรทัศน์ รหัสวิชา 2105-2011 ครูผู้สอน นายจรินทร์ เมืองหนู สาขาวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์

Search

Read the Text Version

295 แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รหสั วชิ า 2105-2011 สอนครง้ั ที่ 12 หน่วยที่ 8 ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั รวม 10 ชว่ั โมง ชอื่ เรอ่ื ง ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั จานวน 5 ชว่ั โมง หวั ขอ้ เรอื่ ง/งาน ทฤษฎี 1. หนา้ ทขี่ องภาคซงิ ค ์ 2. การแยกสญั ญาณซงิ ค ์ 3. วงจรภาคซงิ คแ์ ละเวอรต์ คิ อล ปฏบิ ตั ิ ใบงานที่ 8.1 วงจรซงิ โครนัสและวงจรภาคเวอรต์ คิ อล สาระสาคญั สญั ญาณซงิ ค ์ คอื สญั ญาณทที่ าหนา้ ทคี่ วบคมุ ตาแหน่งของการสแกนทางดา้ นแนวนอนและทางด ้ านแนวตงั้ ทถี่ กู แยกออกมาจากสญั ญาณภาพรวมโดยวงจรแยกสญั ญาณซงิ ค ์ สญั ญาณซงิ ค ์ ประกอบดว้ ย 1. สญั ญาณซงิ คท์ างแนวตง้ั มคี วามถเี่ ทา่ กบั 50 เฮริ ตซ ์ 2. สญั ญาณซงิ คท์ างแนวนอน มคี วามถเี่ ทา่ กบั 15,625 เฮริ ตซ ์ วงจรภาคเวอรต์ คิ อล คอื วงจรทที่ าหนา้ ทสี่ รา้ งสญั ญาณรปู ฟันเลอื่ ยทมี่ คี วามถี่ 50 เฮริ ตซ ์ เพอื่ ใชใ้ นการเบยี่ งเบนลาอเิ ล็กตรอนทางดา้ นแนวตงั้ วงจรภาคเวอรต์ คิ อล ประกอบดว้ ย วงจรเวอรต์ คิ อล ออสซลิ เลเตอร ์ วงจรเวอรต์ คิ อล ไดรฟ์ และวงจรเวอรต์ คิ อล เอาตพ์ ตุ แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

296 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู ้ จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป เพอื่ ใหน้ ักเรยี นมคี วามรคู ้ วามเขา้ ใจการทางานวงจรภาคสญั ญาณ ซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เมอื่ นักเรยี นเรยี นจบแลว้ สามารถ ดา้ นพุทธพิ สิ ยั 1. บอกหนา้ ทขี่ องภาคซงิ คไ์ ด ้ 2. บอกการแยกสญั ญาณซงิ คไ์ ด ้ 3. อธบิ ายการทางานวงจรซงิ โครนัส และเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั ได ้ ดา้ นทกั ษะพสิ ยั 1. เขยี นวงจรและตาแหน่งการวางอปุ กรณว์ งจรภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั ไ ด้ 2. วดั แรงดนั วงจรภาคซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั ได ้ 3. วดั รูปรา่ งและขนาดของสญั ญาณวงจรภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั ได ้ ดา้ นจติ พสิ ยั มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ์ 1. มมี นุษยสมั พนั ธท์ างานรว่ มกบั ผอู ้ นื่ ไดแ้ ละรบั ฟังความคดิ เห็นของค นอนื่ 2. ความมวี นิ ัยปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บตรงตอ่ เวลา 3.ความรบั ผดิ ชอบปฏบิ ตั งิ านเสรจ็ ตามกาหนดดว้ ยความตงั้ ใจ 4. ความซอื่ สตั ยส์ จุ รติ ไม่ปฏบิ ตั มิ ชิ อบดว้ ยประการทง้ั ปวง แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

297 5. ความเชอื่ มน่ั ในตนเอง กลา้ แสดงออกในสงิ่ ทถี่ กู ตอ้ งมเี หตผุ ล เนือ้ หาสาระ ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั ภาคทฤษฏี 1. หนา้ ทขี่ องภาคซงิ ค ์ 2. การแยกสญั ญาณซงิ ค ์ 3. วงจรซงิ โครนัส และภาคเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั ภาคปฏบิ ตั ิ ใบงานที่ 8.1 วงจรซงิ โครนัสและวงจรภาคเวอรต์ คิ อล กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู ้ กจิ กรรมผูเ้ รยี น กจิ กรรมผูส้ อน ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น 1. 1. ครูแจกแบบประเมนิ ผลกอ่ นเรยี น นักเรยี นทาแบบประเมนิ ผลกอ่ นเรยี น ประจาหน่วยที่ 8 เรอื่ ง หน่วยที่ 8 เรอื่ ง ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั 2. 2. นักเรยี นศกึ ษาแนวคดิ ครูชแี้ จงพรอ้ มกบั ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาแน สาระการเรยี นรแู ้ ละจดุ ประสงคก์ ารเรี วคดิ ยนรู ้ หน่วยการเรยี นที่ 8 เรอื่ งภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคช่ั สาระการเรยี นรแู ้ ละจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู ้ หน่วยที่ 8 เรอื่ ง น จากเอกสารประกอบการเรยี น ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั ( ใชเ้ วลาประมาณ 10 นาที ) แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

298 ขนั้ สอน 1. ครูอธบิ ายและถาม – 1. ตอบเกยี่ วกบั รายละเอยี ดและความสาคั นักเรยี นฟังครอู ธบิ ายและตอบคาถาม ญของเครอื่ งส่งโทรทศั น์ ประกอบดว้ ย เกยี่ วกบั สญั ญาณและความสาคญั ข 1.1 สญั ญาณทสี่ ่งมาจากเครอื่ งส่ง องสญั ญาณทสี่ ่งมาจากเครอื่ งส่งโทร โทรทศั น์ ขาว-ดา ทศั น์ ประกอบดว้ ย ประกอบดว้ ย 1.1 สญั ญาณอะไรบา้ ง สญั ญาณทสี่ ่งมาจากเครอื่ งสง่ โทรทศั นข์ าวดา ประกอบดว้ ย 1. สญั ญาณเสยี ง 2. สญั ญาณภาพ 3. สญั ญาณซงิ ค ์ 4. สญั ญาณแบลงกงิ 5. สญั ญาณอคี วอไลซงิ่ แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

299 กจิ กรรมผูส้ อน กจิ กรรมผูเ้ รยี น 1.2 1.2 สญั ญาณทสี่ ง่ มาจากเครอื่ งส่งโทรทศั สญั ญาณทสี่ งมาจากเครอื่ งส่งโทรทศั นส์ ี ประกอบดว้ ยสญั ญาณอะไรบา้ ง นส์ ี ประกอบ ดว้ ย 1. สญั ญาณเสยี ง 2. สญั ญาณภาพ 3. สญั ญาณควบคมุ ตาแหน่งภาพ 2. ครถู าม – 4. สญั ญาณเบสิ ท ์ ตอบนักเรยี นเกยี่ วกบั หนา้ ทแี่ ละความ 5. สญั ญาณสี สาคญั ของสญั ญาณซงิ ค ์ 2. นักเรยี นตอบคาถามเกยี่ วกบั ความสาคญั ของสญั ญาณซงิ ค ์ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ควบคมุ ตาแหน่งการสแกนภาพทางด ้ 3. าน แนวตง้ั และแนวนอน ครอู ธบิ ายหนา้ ทกี่ ารทางานของภาคซิ งค ์ 2. 4. ครใู หน้ ักเรยี นทากจิ กรรมที่ 8.1 ควบคมุ ภาพทางดา้ นเครอื่ งรบั และเครื่ เรอื่ งหนา้ ทขี่ องภาคซงิ ค ์ องส่ง 5. มกี ารทางานเหมอื นกนั ครูใหน้ ักเรยี นศกึ ษาการทางานวงจรแย 3. กสญั ญาณซงิ คจ์ ากเอกสารประกอบก นักเรยี นฟังครอู ธบิ ายพรอ้ มกบั ศกึ ษา ารเรยี น เอกสารประกอบการเรยี นและแผน่ ใส 6. 4. ครสู รปุ การทางานวงจรแยกสญั ญาณ นักเรยี นทบทวนเนือ้ หาและทากจิ กรร ซงิ ค ์ โดยใชแ้ ผ่นใส แผน่ ที่ 6 – มที่ 8.1 เรอื่ งหนา้ ทภี่ าคซงิ ค ์ 15ประกอบการอธบิ าย จานวน 3 ขอ้ 7. ครใู หน้ ักเรยี นทากจิ กรรมที่ 8.2 5. แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

300 เรอื่ งการแยกสญั ญาณซงิ ค ์ นักเรยี นศกึ ษาการทางานวงจรแยกสั 8. ญญาณซงิ คจ์ ากเอกสารประกอบกา ครูอธบิ ายการทางานวงจรซงิ โครนัสแล รเรยี นดว้ ยตนเอง ะวงจรเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั 6. นักเรยี นฟังครูอธบิ ายการทางานวงจ รแยกสญั ญาณซงิ ค ์ 7. นักเรยี นทากจิ กรรมที่ 8.2 เรอื่ งการแยก สญั ญาณซงิ ค ์ จานวน 1 ขอ้ 8. นักเรยี นฟังครูอธบิ ายการทางานวงจ รซงิ โครนัสและวงจรเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั ประกอบกบั การศกึ ษาจากแผ่นใสและ เอกสารประกอบ การเรยี น แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

301 กจิ กรรมผูส้ อน กจิ กรรมผูเ้ รยี น 9. 9. นักเรยี นทากจิ กรรมที่ 8.3 เรอื่ งวงจรซงิ โครนัสและวงจรเวอรต์ คิ หลงั จากศกึ ษาการทางานวงจรดงั กลา่ ว อล ดเี ฟลคชน่ั จานวน 1 ขอ้ แลว้ ใหน้ ักเรยี นทากจิ กรรมที่ 8.3 เรอื่ งวงจรซงิ โครนัส และวงจรเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั ( ใชเ้ วลาประมาณ 20 นาที ) ขนั้ ทากจิ กรรมปฏบิ ตั ิ 1. 1. ครจู ดั นักเรยี นออกเป็ นกลุ่ม คนละ นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ตามทคี่ รผู สู ้ อนกาห 3 คน 2. นด ครใู หน้ ักเรยี นศกึ ษาจดุ ประสงคแ์ ละขน้ั ตอนในการปฏบิ ตั งิ านของใบงาน 2. 3. ครทู บทวน นักเรยี นศกึ ษาจดุ ประสงคแ์ ละขนั้ ตอ สอบถามและตอบคาถามขอ้ สงสยั ในรา ยละเอยี ดการปฏบิ ตั งิ าน ใบงานที่ 8.1 นในการปฏบิ ตั งิ าน วงจรซงิ คแ์ ละวงจรภาคเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั 3. 4. นักเรยี นสอบถามขอ้ สงสยั ขน้ั ตอนกา ครคู วบคมุ การเบกิ จา่ ยเครอื่ งมอื และอปุ รปฏบิ ตั ิ ใบงานที่ 8.1 กรณ์ 5. วงจรซงิ คแ์ ละวงจรภาคเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั จากครผู สู ้ อน ครูเดนิ ตรวจการปฏบิ ตั งิ านของแตล่ ะก ลุม่ พรอ้ มกบั ใหค้ าแนะนาและกาลงั ใจใ 4. นการการปฏบิ ตั งิ าน นักเรยี นสง่ ตวั แทนเบกิ จา่ ยเครอื่ งมอื แ ละอปุ กรณ์ 5. นักเรยี นปฏบิ ตั งิ านตามขน้ั ตอน ใบงานที่ 8.1 และบนั ทกึ ผลการทดลองลงใบงาน ( ใชเ้ วลาประมาณ 250 นาที ) แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

302 ขน้ั สรุปผลและประเมนิ ผล 1. 1. นักเรยี นระดมสมองแต่ละกลุม่ เพอื่ เตรี ครใู หน้ ักเรยี นแตจ่ ะกลุม่ ออกมานาเสน ยมขอ้ มูลนาเสนอผลงานการปฏบิ ตั ใิ บงานที่ 8.1 วงจร อผลงานของกลมุ่ ตนเอง เกยี่ วกบั ผลการปฏบิ ตั งิ าน ใบงานที่ ภาคซงิ คแ์ ละวงจรภาคเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั 8.1 วงจรภาคซงิ ค ์ และวงจรภาคเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั 2. 2. นักศกึ ษาฟังครูสรุปและศกึ ษารายระเ ครสู รุปเกยี่ วกบั รายระเอยี ดรปู สญั ญาณ อยี ดรปู รา่ งสญั ญาณซงิ คร์ วมสญั ญ ซงิ คร์ วม สญั ญาณซงิ คท์ างแนวตง้ั ณซงิ คท์ างแนวตง้ั จากชดุ สาธติ เครอื่ โดยใชเ้ ครอื่ งมอื วดั รปู รา่ งสญั ญาณจา งรบั โทรทศั น์ กชดุ สาธติ เครอื่ งรบั โทรทศั น์ ( ใชเ้ วลาประมาน 20 นาที ) สอื่ การเรยี นการสอน สอ่ื สง่ิ พมิ พ ์ แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

303 เจน สงสมพนั ธ ์ และ นิคม อนันตท์ พิ ย ์ . เทคโนโลยโี ทรทศั น์ . กรงุ เทพฯ : เอดสิ นั เพรส, 2538. ชเู กยี รติ จนั ทรานี . ทฤษฎตี รวจซอ่ มโทรทศั น์ ขาว ดา ทรานซสิ เตอร ์ - ไอซ.ี กรุงเทพฯ : ฝ่ ายวชิ าการ โรงเรยี นฝึ กหดั การชา่ งวทิ ยโุ ทรทศั นเ์ ฉลมิ กรุง (RTTS.), 2528. ชเู กยี รติ จนั ทรานี . ทฤษฎตี รวจซอ่ มโทรทศั นส์ ี . กรุงเทพฯ : ฝ่ ายวชิ าการ โรงเรยี นชา่ งเทคนิค เทพนิมติ , 2533. ไพโรจน์ พอใจ. ทฤษฎโี ทรทศั น์ 1. กรงุ เทพฯ : สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ ์ จากดั , 2544. ฝ่ ายบรกิ าร บรษิ ทั ซวิ – เนชน่ั แนล จากดั . คูม่ อื ประกอบการอบรมโทรทศั นส์ เี นชน่ั แนลแท่น M15. กรุงเทพฯ : บรษิ ทั ซวิ – เนชน่ั แนล จากดั , ม.ป.ป. (อดั สาเนา) อดุ ม คาม่วง . โทรทศั น์ เล่ม 2 . วทิ ยาลยั ครูอาชวี ศกึ ษา , ม.ป.ท , ม.ป.ป. (อดั สาเนา) แบบประเมนิ ผลกอ่ นเรยี น หน่วยที่ 8 เรอื่ ง ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั ใบมอบงานที่ 8.1 เรอื่ ง วงจรอนิ ตเิ กรเตอรแ์ ละวงจรดฟิ เฟอเรนเชยี ล ใบงานที่ 8.1 วงจรภาคซงิ คแ์ ละวงจรภาคเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั สอ่ื โสตทศั น์ 1. กระดาน – ชอลก์ 2. เครอื่ งฉายภาพขา้ มศรี ษะ 3. ใบความรูห้ น่วยที่ 8 เรอื่ ง ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั ประกอบดว้ ย รายละเอยี ดดงั ต่อไปนี้ 3.1 เรอื่ ง หนา้ ทขี่ องภาคซงิ ค ์ 3.2 เรอื่ ง วงจรแยกสญั ญาณซงิ ค ์ 3.3 เรอื่ ง วงจรซงิ โครนัส และภาควงจรเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

304 4.ลงิ คแ์ บบทดสอบhttps://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQ LSdLSbAHipvjnB488WK2FRe0tBGxzusKh0Qa6Rk- oWeyOwPW_w/viewform หนุ่ จาลองหรอื ของจรงิ ชดุ สาธติ เครอื่ งรบั โทรทศั นส์ ี เครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ 1 เครอื่ ง 1. ชดุ ฝึ กเครอื่ งรบั โทรทศั นส์ ี 1 เครอื่ ง 2. แพทเทอรน์ เยนเนอเรเตอร ์ 1 เครอื่ ง 3. ออสซลิ โลสโคป 4. มลั ตมิ เิ ตอร ์ 1 ตวั 5. สายนาสญั ญาณ ขนาด 75 โอหม์ 1 เสน้ งานทมี่ อบหมาย หรอื กจิ กรรม ก่อนเรยี น 1. ใหน้ ักเรยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี น หน่วยที่ 8 เรอื่ ง ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั 2. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาแนวคดิ สาระการเรยี นรแู ้ ละจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู ้ เรอื่ งภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั ขณะเรยี น 1. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษารายละเอยี ดเนือ้ หาการเรยี น จากเอกสารประกอบการเรยี นหน่วยที่ 8 เรอื่ ง ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั 2. ใหน้ ักเรยี นทากจิ กรรมทา้ ยเรอื่ งการเรยี น ดงั รายละเอยี ดดงั ต่อไปนี้ คอื กจิ กรรมที่ 8.1 เรอื่ งหนา้ ทขี่ องภาคซงิ ค ์ กจิ กรรมที่ 8.2 เรอื่ งการแยกสญั ญาณซงิ ค ์ กจิ กรรมที่ 8.3 เรอื่ งวงจรซงิ โครนัส และวงจรเวอรต์ คิ อล แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

305 3. ศกึ ษาและปฏบิ ตั งิ าน ใบงานที่ 8.1 วงจรภาคซงิ คแ์ ละวงจรภาคเวอรต์ คิ อล หลงั เรยี น 1. ใหน้ ักเรยี นตรวจปรบั กจิ กรรมที่ 8.1, 8.2 และ 8.3 จากแนวการตอบกจิ กรรมของครูผสู ้ อน 2. ตรวจและประกาศคะแนนจากการประเมนิ ผลกอ่ นเรยี นใหน้ ักเรยี นทรา บ 3. ใหน้ ักเรยี นตรวจปรบั ใบงานที่ 8.1 ตามแบบเฉลยของครูผสู ้ อน 4. ใหน้ ักเรยี นคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ ตามใบมอบงานที่ 8.1 เรอื่ งวงจรอนิ ตเิ กรเตอรแ์ ละ วงจรดฟิ เฟอเรนเชยี ล การวดั ผลและประเมนิ ผล ก่อนเรยี น 1. ตรวจแบบประเมนิ ผลกอ่ นเรยี น หน่วยที่ 8 เรอื่ ง ภาคสญั ญาณซงิ ค ์ และดเี ฟลคชน่ั จานวน 15 ขอ้ (คะแนนเต็ม 15 คะแนน) บนั ทกึ คะแนนลงในแบบฟอรม์ ใบสรปุ การประเมนิ ผลชอ่ งกอ่ นเรยี น 2. สงั เกตพฤตกิ รรมความสนใจของนักเรยี น ในการศกึ ษาแนวคดิ สาระการเรยี นรแู ้ ละสาระ การเรยี นรู ้ จากเอกสารประกอบการเรยี น ขณะเรยี น ภาคทฤษฎี 1. สงั เกตความสนใจของนักเรยี นระหวา่ งทมี่ กี จิ กรรมการเรยี นรู ้ 2. สงั เกตความสนใจของนักเรยี น การทากจิ กรรมในทา้ ยเรอื่ งของการเรยี น กจิ กรรมที่ 8.1 , 8.2 และ 8.3 ภาคปฏบิ ตั ิ 1. สงั เกตความสนใจของนักเรยี นในการศกึ ษารายละเอยี ดการปฏบิ ตั งิ าน ใบงานที่ 8.1 แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

306 2. สั ง เ ก ต ก า ร เ ต รี ย ม ง า น ก่ อ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น เ ช่ น ชุ ด ฝึ ก ป ฏิ บั ติ เ ค รื่ อ ง ร ั บ โ ท ร ทั ศ น์ เ ค รื่ อ ง มื อ แ ล ะ อุ ป ก ร ณ์ คูม่ อื ปฏบิ ตั งิ านใหพ้ รอ้ มทจี่ ะปฏบิ ตั งิ าน 3. สังเกตความสนใจของการด าเนิ นงาน การเลือกใช เ้ ครื่องมื อ แ ล ะ ก า ร ร ัก ษ า เค รื่อ ง มื อ ต ล อ ด จ น ลั ก ษ ณ ะ นิ สั ย ก า ร ท า ง า น พรอ้ มกบั บนั ทกึ คะแนนลงในแบบประเมนิ ผลแต่ละใบงาน หลงั เรยี น ภาคทฤษฎี 1. ตรวจผลการตอบกจิ กรรมทา้ ยเนือ้ หาประจาหน่วยการเรยี นที่ 8 กจิ กรรมที่ 8.1 , 8.2 และ 8.3 2. สงั เกตความสนใจของนักเรยี นทตี่ รวจปรบั กจิ กรรมที่ 8.1 , 8.2 และ 8.3 จากแนวตอบ กจิ กรรม ของครผู สู ้ อน 3. ตรวจรายงานใบมอบงานที่ 8.1 ชอื่ งาน วงจรอนิ ตเิ กรเตอร ์ และวงจรดฟิ เฟอเรนเชยี ล พรอ้ มกบั บนั ทกึ ในแบบฟอรม์ การประเมนิ ผล ใบมอบงานที่ 8.1 โดยมรี ายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปนี้ 3.1 รายละเอยี ดเนือ้ หาครบและตรงตามจดุ ตามจดุ ประสงคก์ ารมอบงาน ( 5 คะแนน) 3.1.1 เนือ้ หารครบและตรงตามจดุ ประสงค ์ ได ้ 5 คะแนน 3.1.2 เนือ้ หาไม่ครบและไม่ตรงตามจดุ ประสงค ์ ได ้ 3 คะแนน 3.2 การทางานมคี วามเป็ นระเบยี บเรยี บรอ้ ย สะอาด ถกู หลกั การของรายงาน (3 คะแนน) 3.2.1 มคี วามเป็ นระเบยี บเรยี บรอ้ ย สะอาด ถกู หลกั การ ได ้ 3 คะแนน 3.2.2 ขาดความเป็ นระเบยี บเรยี บรอ้ ย สะอาด ถกู หลกั การ ได ้ 1 คะแนน คะแนน) 3.3 เอกสารอา้ งองิ หรอื บรรณานุกรมตามหลกั การทารายงาน (1 3.3.1 มเี อกสารอา้ งองิ หรอื บรรณานุกรม ได ้ 1 คะแนน 3.3.2 ไม่มเี อกสารอา้ งองิ หรอื บรรณานุกรม ได ้ 0 คะแนน แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

307 3.4 สง่ งานตรงตามเวลาทกี่ าหนด (1 คะแนน) 3.4.1 ตามเวลาทกี่ าหนด ได ้ 1 คะแนน 3.4.2 เลยเวลาทกี่ าหนด ได ้ 0 คะแนน ภาคปฏบิ ตั ิ 1. ตรวจผลการทดลองการปฏบิ ตั งิ านของนักเรยี น บนั ทกึ ผลการประเมนิ ลงในแบบฟอรม์ การประเมนิ ผลที่ 8.1 และ 8.2 ซงึ่ ประกอบดว้ ย 1.1 การเตรยี มงาน 1.2 การดาเนินการปฏบิ ตั งิ าน 1.3 การใชแ้ ละบารงุ รกั ษาเครอื่ งมอื 1.4 คณุ ภาพของงาน 2. เกณฑก์ ารประเมนิ ผลประกอบดว้ ยเกณฑม์ าตรฐาน ดงั ต่อไปนี้ 2.1 คะแนนตง้ั แต่ 16 คะแนนขนึ้ ไป แสดงวา่ นักเรยี นมผี ลการประเมนิ การปฏบิ ตั งิ าน “ผ่าน” ระดบั ดมี าก 2.2 คะแนนระหวา่ ง 14 - 15 คะแนน แสดงวา่ นักเรยี นมผี ลการประเมนิ การปฏบิ ตั งิ าน “ผ่าน” ระดบั ดี 2.3 คะแนนระหวา่ ง 12 - 13 คะแนน แสดงวา่ นักเรยี นมผี ลการประเมนิ การปฏบิ ตั งิ าน “ผ่าน” ระดบั ปานกลาง 2.4 คะแนนต่ากวา่ 12 คะแนน แสดงวา่ นักเรยี นมผี ลการประเมนิ การปฏบิ ตั งิ าน “ไม่ผา่ น” ไม่ผ่านตอ้ งปรบั ปรุงแกไ้ ข หมายเหตุ ในกรณีทนี่ ักเรยี นไดค้ ะแนนต่ากวา่ 12 คะแนน หรอื มผี ลการประเมนิ ตา่ กวา่ เกณฑ ์ ใหน้ ักเรยี นปรบั ปรงุ แกไ้ ขการปฏบิ ตั งิ านใหส้ มบรู ณ์ ในระยะเวลา 1 สปั ดาห ์ พรอ้ มกบั ขอรบั การประเมนิ การปฏบิ ตั งิ านต่อครผู สู ้ อนอกี ครง้ั แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

308 สาหรบั นักเรยี นทมี่ กี ารซอ่ มเสรมิ การปฏบิ ตั งิ าน จะไดร้ บั คะแนนเทา่ กบั 12 คะแนน หรอื มผี ลการประเมนิ ในระดบั ปานกลาง 3. สังเกตความสนใจของนั กเรยี นที่ตรวจปรบั ใบงานที่ 8.1 ของครูผสู ้ อน แบบประเมนิ ผลก่อนเรยี น หน่วยที่ 8 เรอ่ื ง ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั จุดประสงค ์ เพอ่ื ประเมนิ ความกา้ วหนา้ ในการเรยี นรูข้ องนกั เรยี นเกยี่ ว กบั เรอ่ื ง “ภาคสญั ญาณ ซงิ คแ์ ละ ดเี ฟลคชน่ั คาแนะนา 1. อา่ นคาถามตอ่ ไปนี้แลว้ ทาเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ขอ้ ทถี่ ูกทส่ี ดุ ในกระดาษคาตอบ 2. เวลาสาหรบั ทาแบบประเมนิ 20 นาที 1. สญั ญาณซงิ ค ์ มหี นา้ ทตี่ รงกบั คาตอบขอ้ ใด ก. รกั ษาระดบั สญั ญาณภาพ ข. ทาใหเ้ สยี งและภาพตรงกนั ค. แยกสญั ญาณเสยี งและสญั ญาณภาพ ง. ควบคุมตาแหน่งของภาพทางดา้ นเครอื่ งสง่ และเครอื่ งรบั ใหเ้ หมอื นกนั 2. สญั ญาณซงิ คร์ วม ประกอบดว้ ยสญั ญาณใดบา้ ง ก. เวอรต์ คิ อล และฮอรซิ อนตอล ข. เวอรต์ คิ อล และอคี วอไลซงิ ค. ฮอรซิ อนตอล และอคี วอไลซงิ ง. เวอรต์ คิ อล ฮอรซิ อนตอล และอคี วอไลซงิ 3. ขอ้ ใดบา้ งเป็ นวธิ กี ารแยกสญั ญาณซงิ ค ์ ก. WAVEFORM SEP. และ FREQUENCY SEP. แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

309 ข. AMPLITUDE SEP. และ WAVEFORM SEP. ค. AMPLITUDE SEP.,WAVEFORM SEP. และ FREQUENCY SEP. ง. AMPLITUDE SEP.,WAVEFORM SEP. และ BANDWIDTH SEP. 4. ขอ้ ใดเป็ นความหมายของภาคเวอรต์ คิ อล ก. สรา้ งความถี่ 50 เฮริ ตซ ์ และขยายใหม้ คี วามแรงสงู ข. สรา้ งความถี่ 15,625 เฮริ ตซ ์ แลว้ ขยายใหม้ คี วามแรงสงู ขนึ้ ค. สรา้ งสญั ญาณและแนวตงั้ ใหเ้ วอรโ์ ยก๊ ง. สรา้ งสญั ญาณแนวนอนใหฮ้ อรโ์ ยก๊ 5. คาบเวลาสญั ญาณเวอรต์ คิ อลมขี นาดเทา่ ใด ก. 64 usec. ข. 63.5 usec. ค. 20 msec. ง. 16.66 msec. 6. สญั ญาณความถี่ 15,625 เฮริ ตซ ์ จะผา่ นวงจรอะไร ก. อนิ ตเิ กรเตอร ์ ข. ออสซลิ เลเตอร ์ ค. ดฟิ เฟอเรนเชยี ล ง. จนู ด ์ 7. วงจร AFC มหี นา้ ทตี่ รงกบั ขอ้ ใด ก. ควบคุมการสรา้ งความถี่ 50 เฮริ ตซ ์ ข. ควบคุมการสรา้ งความถี่ 60 เฮริ ตซ ์ ค. ควบคุมการสรา้ งความถี่ 15,625 เฮริ ตซ ์ ง. ควบคุมการสรา้ งความถี่ 15,750 เฮริ ตซ ์ 8. ความถี่ เวอรต์ คิ อลจะผ่านวงจรใด แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

ก. 310 ข. ค. ง. 9. ความถที่ างภาคฮอรซิ อนตอล จะผา่ นวงจรใด ก. ข. ค. ง. 10. ควบเวลาของสญั ญาณฮอรซิ อนตอลมขี นาดเท่าใด ก. 63.5 usec. ข. 64 usec. ค. 16.66 usec. ง. 20 usec. 11. ขอ้ ใดเป็ นความหมายของภาคฮอรซิ อนตอล ก. การสรา้ งสญั ญาณความถี่ 50 เฮริ ตซ ์ ข. การสรา้ งสญั ญาณแนวนอนความถี่ 15,625 เฮริ ตซ ์ ค. สรา้ งและขยายสญั ญาณความถี่ 50 เฮริ ตซ ์ ง. สรา้ งและขยายสญั ญาณความถี่ 15,625 เฮริ ตซ ์ แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

311 วงจรซงิ โครนสั และเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั จากรูปจงตอบคาถาม ขอ้ 12-15 12. คาบเวลาและวงจรภาคเวอรต์ คิ อลหาไดจ้ าก ก. T = R.307 x C.402 ข. T = R.417 x C.416 แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

312 ค. T = R.501 x C.501 ง. T = R.401 x C.414 13. ขา 34 ของ IC.801 มรี ปู สญั ญาณและคาบเวลาตรงกบั คาตอบขอ้ ใด ก. T = 20 msec. ข. T = 16.66 msec. ค. T = 20 msec. ง. T = 16.66 msec. 14. ถา้ เลอื่ นตาแหน่ง S.401 มาทตี่ าแหน่ง “UP” ผลจะเป็ นอยา่ งไร ก. ภาพหดทางดา้ นแนวนอน ข. ภาพเป็ นเสน้ เดยี วกลางจอทางแนวนอน ค. ภาพเป็ นเสน้ เดยี วกลางจอทางแนวตงั้ ง. ภาพหดทางดา้ นแนวตง้ั 15. วงจร SYNC. SEPARATOR ทาหนา้ ทตี่ รงกบั คาตอบขอ้ ใด ก. แยกสญั ญาณซงิ คอ์ อกจากสญั ญาณไอเอฟ ข. แยกสญั ญาณซงิ คอ์ อกจากสญั ญาณภาพ ค. แยกสญั ญาณซงิ คอ์ อกจากสญั ญาณรบกวน ง. แยกสญั ญาณซงิ คท์ างดา้ นแนวนอน แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

313 กจิ กรรมที่ 8.1 เรอ่ื ง หนา้ ทข่ี องภาคซงิ ค ์ คาสง่ั จงตอบคาถามใหส้ มบรู ณ์ 1. จงบอกส่วนประกอบของสญั ญาณซงิ คร์ วม …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………… 2. สญั ญาณซงิ คท์ างแนวตง้ั มคี วามถแี่ ละคาบเวลาเทา่ ไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………… 3. สญั ญาณซงิ คท์ างแนวนอน มคี วามถแี่ ละคาบเวลาเท่าไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

314 …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ……………………………………...…………… กจิ กรรมที่ 8.2 เรอื่ ง การแยกสญั ญาณซงิ ค ์ คาสง่ั จงตอบคาถามใหส้ มบรณู ์ 1. การแยกสญั ญาณซงิ ค ์ มกี วี่ ธิ ี อะไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

315 …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………… กจิ กรรมท่ี 8.3 เรอื่ ง วงจรซงิ โครนสั และเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั คาสง่ั จงตอบคาถามใหส้ มบรู ณ์ 1. จงบอกหนา้ ทกี่ ารทางานของบล็อกไดอะแกรม ต่อไปนี้ 1.1 SEPARATOR ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………… 1.2 VERTICAL OSC. ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

316 ………………………………………………………………………………………………… ……………………………..………….. 1.3 VERTICAL DRIVE ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ……………………………… 1.4 VERTICAL OUTPUT ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………… 1.5 VERTICAL YOKE ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………… แนวคาตอบ กจิ กรรมท่ี 8.1 เรอื่ ง หน้าทขี่ องภาคซงิ ค ์ 1. จงบอกสว่ นประกอบของสญั ญาณซงิ คร์ วม ซิ ง ค์ ต อ บ สั ญ ญ า ณ ซิ ง ค์ ร ว ม ห รื อ ค อ ม โ พ ซิ ท ประกอบดว้ ยสญั ญาณเวอรต์ คิ อล ซงิ ค ์ พลั ส ์ สญั ญาณ ฮอรซิ อนตอล ซงิ ค ์ พลั ส ์ และสญั ญาณอคี วอไลซงิ่ ค ์ พลั ส ์ 2. สญั ญาณซงิ คท์ างแนวตงั้ มคี วามถแี่ ละคาบเวลาเทา่ ไร แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

317 ตอบ สญั ญาณซงิ คท์ างแนวตงั้ มคี วามถี่ เทา่ กบั 50 เฮริ ตซ ์และมคี าบเวลา เท่ากบั 20 มลิ ลเิ ซคคนั่ 3. สญั ญาณซงิ คท์ างแนวนอนมคี วามถแี่ ละคาบเวลาเทา่ ไหร่ ตอบ สัญ ญาณ ซิงคท์ างแนวนอนมีความถี่ เท่ากับ 15,625 เฮิรตซ ์ และมคี าบเวลา เท่ากบั 64 ไมโคร เซคคนั่ แนวคาตอบ กจิ กรรมที่ 8.2 เรอ่ื ง วงจรแยกสญั ญาณซงิ ค ์ 1. การแยกสญั ญาณซงิ ค ์ มกี วี่ ธิ อี ะไรบา้ ง ตอบ การแยกสญั ญาณซงิ ค ์ ออกจากสญั ญาณภาพ มี 2 วธิ ี คอื 1. การแยกสญั ญาณซงิ ค ์ ออกจากสญั ญาณภาพ แบบ แอมพลิจูด หรอื ขนาดของสญั ญาณ (AMPLITUDE SEPARATOR) แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

318 2. การแยกสญั ญาณซงิ ค ์ แบบแยกความถี่ (WAVEFORM SEPARATOR) แนวคาตอบกจิ กรรมท่ี 8.3 เรอ่ื ง วงจรซงิ โครนสั และเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั 1. บอกหนา้ ทกี่ ารทางานของบล็อกไดอะแกรมตอ่ ไปนี้ 1.1 SYNC.SEPARATOR ต อ บ ท า ห น้ า ที่ แ ย ก สั ญ ญ า ณ ซิ ง ค ์ ท า ง แ น ว ตั้ ง ออกจากสญั ญาณซงิ คท์ างแนวนอน 1.2 VERTICAL OSC. แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

319 ต อ บ VERTICAL OSCILLATOR ท าห น้ าที่ส ร า้ งค วาม ถี่ 50 เ ฮิ ร ต ซ ์ ที่ มี ค า บ เ ว ล า เ ท่ า กั บ 20 มิ ล ลิ เ ซ ค คั่ น เพอื่ เปรยี บเทยี บกบั สญั ญาณซงิ คแ์ นวตงั้ ทสี่ ง่ มาจากเครอื่ งส่ง 1.3 VERTICAL DRIVE ตอบ VERTICAL DRIVE ทาหนา้ ทขี่ ยายสญั ญาณรูปฟันเลอื่ ย ความถี่ 50 เฮริ ตซ ์ขยายใหม้ คี วามแรงของสญั ญาณสูงขนึ ้ 1.4 VERTICAL OUTPUT ต อบ VERTICAL OUTPUT ทาหนา้ ทขี่ ยายสญั ญาณฟันเลอื่ ยใหม้ คี วามถสี่ ูงทสี่ ุดเพอื่ ส่งไปยงั โ ย็กคอยล ์ 1.5 VERTICAL YOKE ต อบ VERTICAL YOKE COIL คื อ ขดลวดทาหนา้ ทเี่ บยี่ งเบนลาอเิ ล็กตรอนทางดา้ นแนวตงั้ ทเี่ บยี่ งเบน แบบแมกเนตกิ ดเี ฟลคชนั่ ใบมอบงานที่ 8.1 แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

320 ชอ่ื วชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ สอนครงั้ ที่ 12-13 หน่วยท่ี 8 ชอ่ื หน่วย ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั รวม 10 ชว่ั โมง ชอ่ื งาน วงจรอนิ ตเิ กรเตอรแ์ ละวงจรดฟิ เฟอเรนเชยี ล จุดประสงคก์ ารมอบงาน 1. เพอื่ ใหน้ ักเรยี น มคี วามรคู ้ วามเขา้ ใจการทางานวงจรอนิ ตเิ กเตอรแ์ ละวงจรดฟิ เฟอเรนเ ชยี ล 2. เพอื่ ใหน้ ักเรยี นมคี วามรคู ้ วามเขา้ ใจการทางานวงจร Long And Short Time Constant 3. เพอื่ ใหน้ ักเรยี นมคี วามรคู ้ วามเขา้ ใจการทางานวงจร Long Time Constant on Charge and Discharge Time 4. เพอื่ ใหน้ ักเรยี นสามารถนาหลกั การของวงจรตา่ งๆ ประยกุ ตใ์ ชง้ านในชวี ติ ประจาวนั 5. เพอื่ ใหน้ ักเรยี นมกี จิ นิสยั ในการคน้ ควา้ หาความรูเ้ พมิ่ เตมิ ตลอดจนมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ์ แนวการปฏบิ ตั งิ าน ใหน้ ักเรยี นคน้ ควา้ ทารายงานในหวั ขอ้ ต่อไปนี้ คอื 1. วงจรอนิ ตเิ กรเตอร ์ และวงจรดฟิ เฟอเรนเชยี ล 1.1 ชนิด 1.2 การทางาน 2. Long and Short Time Constant 3. Long Time Constant on Charge and Discharge Time แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

321 แหล่งคน้ ควา้ เจน สงสมพนั ธ ์ และนิคม อนันตท์ พิ ย.์ เทคโนโลยโี ทรทศั น.์ กรุงเทพฯ : เอดสิ นั เพรส. 2538. เจน สงสมพนั ธ ์ และถาวร กามะณีจนั ทร.์ ปฎบิ ตั กิ ารโทรทศั นส์ .ี กรงุ เทพฯ: สถาบนั อเิ ล็กทรอนิกสก์ รงุ เทพ ฯ , 2534. ชเู กยี รติ จนั ทรานี. ทฤษฎตี รวจซอ่ มโทรทศั น์ ขาว ดา ทรานซสิ เตอร ์ - ไอซ.ี กรุงเทพ ฯ ฝ่ ายวชิ าการ โรงเรยี นฝึ กหดั การชา่ งวทิ ยุโทรทศั นเ์ ฉลมิ กรงุ (RTTS.), 2528. ชเู กยี รติ จนั ทรานี. ทฤษฏตี รวจซอ่ มโทรทศั นส์ .ี กรุงเทพ ฯ : ฝ่ ายวชิ าการ โรงเรยี นชา่ งเทคนิค เทพนิมติ , 2533. โทรทศั น์ ขาว – ดา. กรุงเทพ ฯ : เนชน่ั แนล, ม.ป.ป. (อดั สาเนา) ธวชั เมฆสวรรค ์ และ ฟมุ โิ อะ มคิ มุ ะ. เทคนิคการตรวจซอ่ มโทรทศั น.์ กรุงเทพ ฯ : โรงพมิ พค์ รุ ุ สภาลาดพรา้ ว, 2520. บุญถงึ แน่นหนา. ตาราโทรทศั น์ ภาคทฤษฏแี ละปฏบิ ตั .ิ กรงุ เทพ ฯ : โอเดยี่ นสโตร,์ 2520. วชิ ยั สรุ พฒั น.์ วศิ วกรรมโทรทศั น์ เล่ม 1. กรุงเทพ ฯ สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ลาดกระบงั . 2525. โรงเรยี นฝึ กหดั การชา่ งวทิ ยุ โทรทศั นเ์ ฉลมิ กรงุ (RTTS) หลกั การทางานและเทคนิคการซอ่ มสวติ ช ์ โหมดเพาเวอรซ์ พั พลาย. กรงุ เทพ ฯ : โรงเรยี นฝึ กหดั การวทิ ยุ โทรทศั นเ์ ฉลมิ กรงุ (RTTS) , ม.ป.ป. อดุ ม คาม่วง. โทรทศั น์ เล่ม 2. วทิ ยาลยั ครอู าชวี ศกึ ษา, ม.ป.ป., ม.ป.ป. (อดั สาเนา) เอกสารเกยี่ วกบั ระบบภาพและเสยี งทว่ั ๆไป แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

322 แบบประเมนิ ผลก่อนเรยี น หน่วยท่ี 8 เรอื่ ง ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั จดุ ประสงค ์ เพอ่ื ประเมนิ ความกา้ วหน้าในการเรยี นรูข้ องนกั เรยี นเกย่ี ว กบั เรอื่ ง “ภาคสญั ญาณ ซงิ คแ์ ละ ดเี ฟลคชน่ั คาแนะนา 1. อา่ นคาถามต่อไปนี้แลว้ ทาเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ขอ้ ทถี่ ูกทส่ี ดุ ในกระดาษคาตอบ 2. เวลาสาหรบั ทาแบบประเมนิ 20 นาที 1. สญั ญาณซงิ ค ์ มหี นา้ ทตี่ รงกบั คาตอบขอ้ ใด ก. รกั ษาระดบั สญั ญาณภาพ ข. ทาใหเ้ สยี งและภาพตรงกนั ค. แยกสญั ญาณเสยี งและสญั ญาณภาพ แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

323 ง. ควบคุมตาแหน่งของภาพทางดา้ นเครอื่ งส่งและเครอื่ งรบั ใหเ้ หมอื นกนั 2. สญั ญาณซงิ คร์ วม ประกอบดว้ ยสญั ญาณใดบา้ ง ก. เวอรต์ คิ อล และฮอรซิ อนตอล ข. เวอรต์ คิ อล และอคี วอไลซงิ ค. ฮอรซิ อนตอล และอคี วอไลซงิ ง. เวอรต์ คิ อล ฮอรซิ อนตอล และอคี วอไลซงิ 3. ขอ้ ใดบา้ งเป็ นวธิ กี ารแยกสญั ญาณซงิ ค ์ ก. WAVEFORM SEP. และ FREQUENCY SEP. ข. AMPLITUDE SEP. และ WAVEFORM SEP. ค. AMPLITUDE SEP.,WAVEFORM SEP. และ FREQUENCY SEP. ง. AMPLITUDE SEP.,WAVEFORM SEP. และ BANDWIDTH SEP. 4. ขอ้ ใดเป็ นความหมายของภาคเวอรต์ คิ อล ก. สรา้ งความถี่ 50 เฮริ ตซ ์ และขยายใหม้ คี วามแรงสงู ข. สรา้ งความถี่ 15,625 เฮริ ตซ ์ แลว้ ขยายใหม้ คี วามแรงสงู ขนึ้ ค. สรา้ งสญั ญาณและแนวตงั้ ใหเ้ วอรโ์ ยก๊ ง. สรา้ งสญั ญาณแนวนอนใหฮ้ อรโ์ ยก๊ 5. คาบเวลาสญั ญาณเวอรต์ คิ อลมขี นาดเทา่ ใด ก. 64 usec. ข. 63.5 usec. ค. 20 msec. ง. 16.66 msec. 6. สญั ญาณความถี่ 15,625 เฮริ ตซ ์ จะผา่ นวงจรอะไร ก. อนิ ตเิ กรเตอร ์ ข. ออสซลิ เลเตอร ์ ค. ดฟิ เฟอเรนเชยี ล ง. จนู ด ์ แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

324 7. วงจร AFC มหี นา้ ทตี่ รงกบั ขอ้ ใด ก. ควบคมุ การสรา้ งความถี่ 50 เฮริ ตซ ์ ข. ควบคุมการสรา้ งความถี่ 60 เฮริ ตซ ์ ค. ควบคุมการสรา้ งความถี่ 15,625 เฮริ ตซ ์ ง. ควบคมุ การสรา้ งความถี่ 15,750 เฮริ ตซ ์ 8. ความถี่ เวอรต์ คิ อลจะผา่ นวงจรใด ก. ข. ค. ง. 9. ความถที่ างภาคฮอรซิ อนตอล จะผา่ นวงจรใด ก. ข. ค. ง. 10. ควบเวลาของสญั ญาณฮอรซิ อนตอลมขี นาดเท่าใด แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

325 ก. 63.5 usec. ข. 64 usec. ค. 16.66 usec. ง. 20 usec. 11. ขอ้ ใดเป็ นความหมายของภาคฮอรซิ อนตอล ก. การสรา้ งสญั ญาณความถี่ 50 เฮริ ตซ ์ ข. การสรา้ งสญั ญาณแนวนอนความถี่ 15,625 เฮริ ตซ ์ ค. สรา้ งและขยายสญั ญาณความถี่ 50 เฮริ ตซ ์ ง. สรา้ งและขยายสญั ญาณความถี่ 15,625 เฮริ ตซ ์ แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

326 วงจรซงิ โครนสั และเวอรต์ คิ อล ดเี ฟลคชน่ั จากรูปจงตอบคาถาม ขอ้ 12-15 12. คาบเวลาและวงจรภาคเวอรต์ คิ อลหาไดจ้ าก ก. T = R.307 x C.402 ข. T = R.417 x C.416 ค. T = R.501 x C.501 ง. T = R.401 x C.414 13. ขา 34 ของ IC.801 มรี ปู สญั ญาณและคาบเวลาตรงกบั คาตอบขอ้ ใด ก. T = 20 msec. ข. T = 16.66 msec. ค. T = 20 msec. ง. T = 16.66 msec. 14. ถา้ เลอื่ นตาแหน่ง S.401 มาทตี่ าแหน่ง “UP” ผลจะเป็ นอย่างไร ก. ภาพหดทางดา้ นแนวนอน ข. ภาพเป็ นเสน้ เดยี วกลางจอทางแนวนอน ค. ภาพเป็ นเสน้ เดยี วกลางจอทางแนวตงั้ ง. ภาพหดทางดา้ นแนวตงั้ 15. วงจร SYNC. SEPARATOR ทาหนา้ ทตี่ รงกบั คาตอบขอ้ ใด ก. แยกสญั ญาณซงิ คอ์ อกจากสญั ญาณไอเอฟ ข. แยกสญั ญาณซงิ คอ์ อกจากสญั ญาณภาพ ค. แยกสญั ญาณซงิ คอ์ อกจากสญั ญาณรบกวน ง. แยกสญั ญาณซงิ คท์ างดา้ นแนวนอน แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

327 เฉลยแบบประเมนิ ผล หน่วยที่ 8 เรอื่ ง ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั หลงั เรยี น กอ่ นเรยี น 1. ค 1. ข 2. ข 2. ค 3. ข 3. ก แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

4. ง 4. ง 328 5. ก 5. ค 6. ข 6. ข 11 7. ค 7. ค 15 8. ก 8. ข 9. ง 9. ก 10. ก 10. ค ข 11. ก 12. ง 12 ง 13. ก 13 ค 14. ข 14 ข ข 15. ก แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

329 แบบประเมนิ ผล ใบมอบงานที่ 8.1 ชอื่ วงจรอนิ ตเิ กรเตอร ์และวงจรดฟิ เฟอเรนเชยี ล เล ชอื่ - สกุล รายละเอียดเ ืน้อหา หมายเหตุ การทางาน ข เอกสารอ ้างอิง ที่ การส่งงาน รวม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

330 แบบประเมนิ ผล ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ์ หน่วยท่ี 8 ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั ( สอนครงั้ ท่ี 12 ) ความรบั ผดิ ชอบ การตรงต่อเวลา หมายเหตุ เบิก - เก็บชุด ึฝกฯ เล ชอื่ - สกลุ ความต ั้งใจการทางา น ข การ ูดแล / ที่ บา ุรงร ักษา การส่งงาน ความคิดร ิเร ิ่ม มีม ุนษยส ัมพ ันธ ์ การแต่งกาย รวม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

331 สรุปการประเมนิ ผล หน่วยที่ 8 ภาคสญั ญาณซงิ คแ์ ละดเี ฟลคชน่ั แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

332 เลข ชอื่ - สกลุ สอบก่อนเร ียน ที่ สอบหล ังเร ียน ใบมอบงานที่ 8.1 1 ใบงานที่ 8.1 2 จิตพิส ัย 3 รวม 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 บั น ทึ กหลงั การสอน หน่วยท.ี่ ........วนั ท.ี่ ........./................./.......... แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

333 รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รหสั วชิ า 2105-2011 ภาคเรยี นที่ ….. ปี การศกึ ษา ………….. แผนการจดั การเรยี นรู ้ หวั ขอ้ เรอื่ ง/เนือ้ หาสาระ …………………………………………………………………………………………………… ………… ภาคทฤษฏี …………………………………………………………………………………………………… ………… ภาคปฏบิ ตั ิ …………………………………………………………………………………………………… …………กจิ กรรม/วธิ กี ารสอน ………………………………………………….……………………………………สอื่ การเรยี นร/ู ้ แหล่งเรยี นรู ้ …………………………………………………………………………………. การวดั และประเมนิ ผล .………………………………………………………………………….. ………… ปัญหาและอปุ สรรค ……………………………………………………………………………….………… ผลการเรยี นรูข้ องผูเ้ รยี น นักเรยี น/นักศกึ ษา ระดบั ชน้ั …..........................................................................................................…… …… ผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี น.......................................................................................... ...........................………… การมอบหมายหนา้ ทแี่ ละความรบั ผดิ ชอบ.............................................................. ...........................………… บรรยากาศในชน้ั เรยี น............................................................................................. ..........................…………. ปัญหาและอปุ สรรค.................................................................................................. ........................…………. แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอื่ งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู

334 ผลการสอนของผูส้ อน ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นร.ู ้............................................................................ ...........................………….. ปัญหาและอปุ สรรคทเี่ กดิ ขนึ้ ในระหวา่ งการจดั การเรยี นการสอน …………………………………………………………………………………………………… …………... แนวทางการแกป้ ัญหาของครูผสู ้ อนส่กู ารทาวจิ ยั …………………………………………………………………………………………………… …………... ลงชอื่ .............................................. (................................................) ครผู สู ้ อน แผนการจดั การเรยี นรู ้ รายวชิ า เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ รายวชิ า 2105-2011 นายจรนิ ทร ์ เมอื งหนู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook