แผนอังกฤษตามแนวคิด STEAM EDUCATION

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด STEAM Education เรือ่ ง Natural Disasters รหัสวชิ า อ21102 รายวิขาภาษาอังกฤษ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 โรงเรยี นบา้ นตามูล(รฐั ประชาสงเคราะห)์ ครูผู้สอน นางจุติพร สุขสิงห์ สาระสำคญั ทักษะการสร้างชิน้ งาน เปน็ การฝึกความชำนาญในการสร้างชิ้นงานต่าง ๆ ให้สำเร็จลลุ ว่ งอยา่ งรวดเรว็ และมคี ณุ ภาพ โดยใช้ทกั ษะหรอื ความชำนาญหลายอยา่ งร่วมกนั ไดแ้ ก่ ทกั ษะการวดั ทักษะการตัด ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์ ทักษะการส่อื สาร มีการใช้ความรู้ทางดา้ นวิทยาศาสตร์ในการเลือกเนื้อหาที่เก่ียวกับเรอ่ื งที่ศกึ ษาโดยใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การใช้ความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ในการวัดและการแก้ปัญหาตามสถานการณ์ท่ีกำหนด การใช้ความความรู้ในด้านเทคโนโลยใี นการสบื คน้ ขอ้ มูล การใชค้ วามร้ใู นดา้ นวิศวกรรมในการออกแบบ รวมถงึ การใช้ความรูท้ างด้านศิลปะในการตกแต่งช้ินงาน ใหม้ คี วามสวยงาม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วศิ วกรรม/ภาษา ศลิ ปะ คณติ ศาสตร์ (S) (T) (E2) (A) (M) 1. ใชค้ วามรเู้ รื่องสี 1. ใชค้ วามรู้ทกั ษะ 1. ใช้เทคโนโลยี 1. การนำกระบวน ในการตกแตง่ 1. การใชค้ วามรู้ กระบวนการทาง ในการค้นหาข้อมลู การทางดา้ น ชน้ิ งานใหส้ วยงาม ทางดา้ นคณิตศาสต วทิ ยาศาสตร์ 2. ใช้เทคโนโลยี วศิ วกรรมมาใช้ รใ์ นการวดั ขนาด ในการเลือก ในการผลิตผลงาน ในการออกแบบ ของชิ้นงาน ผลติ ชนิ้ งานตาม ในรปู แบบใหม่ ชิ้นงานที่จะผลติ 2. ใช้ความรู้เร่อื งรูป เน้ือหาท่ีศึกษา 2.นำทกั ษะทาง ทรงในการสร้างชน้ิ ภาษามาใช้ในการ งาน สอ่ื สาร

หนา้ 2 สาระสำคญั การฝกึ ฟงั และพูดถาม-ตอบเก่ียวกบั คำแนะนำเม่อื เกิดภยั ทางธรรมชาตโิ ดยใช้ศพั ท์ สำนวน โครงสรา้ งภาษาที่ ถกู ต้อง เหมาะสมจะชว่ ยพฒั นาทกั ษะการฟังและการพูดของนกั เรียน และทำให้นกั เรียนส่อื สารได้อย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม ตวั ชวี้ ดั ม. 2/2 อา่ นออกเสยี งข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสนั้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน ม. 2/1 สนทนาแลกเปลยี่ นขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง เรอ่ื งต่าง ๆ ใกลต้ ัวและสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันอยา่ งเหมาะสม ม. 2/3 พูดและเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับกิจกรรม เรือ่ งต่าง ๆ ใกลต้ วั และประสบการณ์ พร้อมทง้ั ให้เหตุผลสนั้ ๆ ประกอบ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - การแก้ปัญหาจำเปน็ ต้องสืบค้น รวบรวมขอ้ มูลความร้จู ากศาสตร์ตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เพื่อนำไปสู่การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา คณติ ศาสตร์ - รูปทรงเรขาคณิต “การวัดขนาดของรปู ทรง 5 เหล่ียม” ภาษาตา่ งประเทศ -การเขียนคำศพั ท์ชนดิ ของภยั พบิ ัติทางธรรมชาติ สังคมศกึ ษาศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม -ลักษณะของภูมิประเทศ ศิลปะ - การสร้างสรรค์ช้ินงานด้วยการระบายสี

หนา้ 3 ผงั มโนทัศน์ M : คณิตศาสตร์ S : วิทยาศาสตร์ T : เทคโนโลยี - การวัด -ศึกษาปรากฎการณ์ - การสืบคน้ - รปู ทรง ภยั พบิ ัติทาง ธรรมชาติ ชนิ้ งานที่ ออกแบบ E : วศิ วกรรม A : ศลิ ปะ - การระบายสี - ออกแบบช้นิ งาน - ทดลองใช้ - ปรบั ปรงุ แก้ไข E: ภาษาองั กฤษ -การสื่อสาร จดุ ประสงค์ 1. ออกเสยี งและบอกความหมายคำศพั ทเ์ ก่ยี วกับภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติตา่ ง ๆ ได้ 2. พูดถาม—ตอบให้คำแนะนำเมอื่ เกิดภัยพิบตั ิทางธรรมชาติโดยใช้ โครงสรา้ ง Conjunction ‘when’ได้ วัสดอุ ุปกรณ์ 1. กระดาษขาว-เทา 2. ไมบ้ รรทัด 3. ดินสอ 4.ยางลบ 5. สีไม้ 6. กาว 7. กรรไกร

หนา้ 4 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. กจิ กรรมนำเข้าสูบ่ ทเรยี น - ครใู ห้นักเรียนดูวดิ โี อภัยพิบัตทิ างธรรมชาติต่าง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ - ครถู ามนกั เรียว่าภยั พิบัตติ ่าง ๆ ที่เกิดข้ึนมสี าเหตมุ าจากสิง่ ใดบ้าง ให้นกั เรียนช่วยกันตอบ (นกั เรียนตอบ ว่ามนุษย์ ครจู ึงพูดเสริมไปว่า มนุษยก์ ม็ ีส่วนท่ที ำให้เกดิ การเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติ เชน่ การต้งั โรงงานอตุ สาหกรรม ได้ปลอ่ ยก๊าซเรอื นกระจก ทำให้อุณหภมู ิโลกเพม่ิ ข้ึนเรยี กอกี อย่างหนง่ึ วา่ ภาวะโลกร้อน และก็ยังมีอกี หลายๆ สาเหตุ ที่ ทำให้สภาพภูมิอากาศเปลย่ี นแปลง บางครง้ั มนษุ ย์ทำลายป่า ชดุ ดินบรเิ วณไหล่เขา น้ำปา่ มาไมม่ ตี ้นไม้คอยกกั เก็บนำ้ เม่ือดินอุ้มน้ำไวม้ ากๆ เมื่อมฝี นตกชกุ ต่อเนอ่ื งยาวนานมากกวา่ 24 ชว่ั โมง มักจะเกดิ แผ่นดนิ ถลม่ 2. กิจกรรมพัฒนานักเรยี น - ครจู ัดกิจกรรมเพ่อื ให้นกั เรียนเกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะปฏิบัติ ในข้ันตอนของกระบวนการ ทางวิศวกรรม ดงั นี้ ชั่วโมงท่ี 1 ข้ันท่ี 1 กำหนดปญั หาหรอื ความต้องการ ครใู ห้นกั เรยี นรว่ มกันระดมความคิด ออกแบบส่อื เรยี นการเรียนรู้เกยี่ วกบั ชนิดของภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติเปน็ ภาษาองั กฤษและบอกความหมาย ขน้ั ท่ี 2 รวบรวมข้อมูล ครูให้นักเรียนช่วยกนั รวบรวมข้อมลู ความรูเ้ กย่ี วกับชนิดของปรากฎการณ์ภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติ จากการระดมความคดิ และเสนอความคิดของนักเรียนเองและบันทึกข้อมลู ข ขั้นที่ 3 เลอื กวธิ ีการ ครใู หน้ ักเรยี นรว่ มกันสรุป และนำข้อมูลทไ่ี ด้มาออกแบบช้ินงาน โดยใชข้ อ้ มูลจากการระดมความคดิ เสนอความคิดเหน็ ทรี่ วบรวมมาใชใ้ นการตัดสินใจเลอื ก ข้ันที่ 4 ออกแบบและปฏบิ ตั กิ าร ครูให้นกั เรียนร่วมกนั ออกแบบสือ่ การเรียนรู้ “หา้ เหล่ยี มแปลงร่าง”โดยใชค้ วามรู้ทางดา้ นวิศวกรรม ชว่ ยในการออกแบบ ใช้ความรู้ทางด้านวทิ ยาศาสตร์ชว่ ยในการเลอื กขอ้ มลู เกยี่ วกบั ภยั พบิ ัติทางธรรมชาตอิ ย่าง

หนา้ 5 หลากหลาย ใช้ความรูท้ างด้านคณติ ศาสตรช์ ว่ ยในการวัดขนาด และการประกอบรูปทรง 5 เหลีย่ ม ใชค้ วามรู้ทางดา้ นศิลปะในการระบายสีตกแตง่ ชนิ้ งานใหส้ วยงาม ขั้นท่ี 5 ทดสอบ ครใู ห้นักเรยี นนำช้ินงานทสี่ ร้างข้นึ “หา้ เหลย่ี มแปลงร่าง” ตามกระบวนการและข้นั ตอนต่างๆ ไปใชเ้ ป็นสอ่ื การ เรียนรชู้ นดิ ของภยั พิบตั ิ ในพูดถาม-ตอบ ขอและให้ข้อมูล เกีย่ วกับภยั พบิ ัติทางธรรมชาติท่ีเกดิ ขนึ้ ได้ ชั่วโมงที่ 2 ขนั้ ท่ี 6 ปรบั ปรงุ แก้ไข ครูใหน้ กั เรยี นนำสือ่ การเรียนรู้ชนดิ ของภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาติรปู ทรง 5 เหลย่ี ม มาตรวจสอบความถูกตอ้ งของ คำศัพท์ และความหมายของคำศัพท์ใหม้ ีความถูกต้อง ชดั เจน ข้ันท่ี 7 ประเมินผล ครปู ระเมนิ ทักษะการสอื่ สารโดยใช้ “ห้าเหลยี่ มแปลงรา่ ง” เป็นส่อื การเรยี นรู้ชนดิ ของภยั พิบัติทางธรรมชาติ โดยใชแ้ บบประเมินการสร้างชนิ้ งาน การอา่ นออกเสียง การพูดโต้ตอบตามสถานการณ์ 3. กิจกรรมรวบยอด จากการสรา้ งสือ่ การเรียนรู้ “ห้าเหล่ียมแปลงรา่ ง” ช่วยให้นกั เรียนมสี ือ่ การเรยี นรู้เกย่ี วกบั ชนดิ ของภัยพบิ ัติทาง ธรรมชาติที่ดี นกั เรียนได้นำทักษะทางด้านวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วศิ วกรรม/ภาษา เทคโนโลยีและศลิ ปะมาใช้ใน การสรา้ งชิน้ งาน อยา่ งสรา้ งสรรค์ นอกจากน้ียงั ชว่ ยปลูกจิตสำนกึ ทด่ี ีและให้นกั เรียนเกิดความตระหนักเกีย่ วกับสาเหตุ ของภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาติ การวัดผลประเมนิ ผล 1. ประเด็นการประเมิน 1.1 พฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ 1.2 ประเมินชน้ิ งาน 1.3 ประเมินการอ่านออกเสยี ง 1.4 ประเมนิ การพูดโต้ตอบตามสถานการณ์

หนา้ 6 2. เครอ่ื งมือการประเมนิ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 คำชี้แจง ครผู สู้ อนสังเกตการทำงานกลมุ่ ของนักเรยี นและใสค่ ะแนนในชอ่ งรายการประเมิน เลขท่ี ประเด็น/ระดบั คะแนน ความ การแสดง ความ คะแนน ระดบั รว่ มมอื ความ รับผดิ ชอบ รวม คุณภาพ คิดเหน็ กลุ่ม (ช่อื – สกลุ ) 4 4 4 12 1. 2. 3. 4. 5. เกณฑ์การประเมนิ /ระดบั คณุ ภาพ ลงชอื่ …………………………………………. ผปู้ ระเมิน 11 - 12 คะแนน ระดับคณุ ภาพ ดีมาก วนั ท่ี ............................................ 9 - 10 คะแนน ระดับคณุ ภาพ ดี 6 - 8 คะแนน ระดบั คุณภาพ พอใช้ 0 - 5 คะแนน ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการทำงานกลุ่ม ความร่วมมอื 4 หมายถงึ สมาชิกทกุ คนรว่ มมอื ทำงานมปี ฏสิ ัมพันธ์ท่ีดีภายในกล่มุ 3 หมายถึง สมาชิกส่วนใหญร่ ่วมมอื ทำงานมีปฏสิ มั พันธ์ภายในกลุ่ม 2 หมายถึง สมาชิกทกุ คนทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย ไม่คอ่ ยมปี ฏสิ ัมพันธใ์ นกลมุ่ 1 หมายถึง สมาชกิ บางคนไม่ทำงาน ไม่มีปฏิสัมพนั ธ์ภายในกลมุ่ การแสดงความคดิ เหน็ 4 หมายถงึ สมาชกิ ทกุ คนร่วมแสดงความคดิ เหน็ 3 หมายถงึ สมาชกิ ส่วนใหญ่ร่วมแสดงความคดิ เหน็ 2 หมายถงึ สมาชกิ มากกวา่ ครึง่ ร่วมแสดงความคิดเหน็ 1 หมายถงึ สมาชิกไม่ให้ความรว่ มมือในการแสดงความคดิ เหน็

หนา้ 7 ความรับผดิ ชอบ 4 หมายถึง สมาชิกทุกคนทำงานที่ไดร้ บั มอบหมายเสร็จทนั เวลา 3 หมายถึง สมาชกิ ส่วนใหญ่ทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมายจนเสรจ็ สน้ิ สมบรู ณ์ 2 หมายถงึ สมาชิกบางคนเลยี่ งงาน ไม่ทำงานตามที่ไดร้ บั มอบหมาย งานเสร็จแตไ่ มค่ อ่ ยสมบรู ณ์ 1 หมายถึง สมาชกิ ไมม่ ีความรับผิดชอบ ทำงานไมบ่ รรลเุ ป้าหมาย

หนา้ 8 แบบประเมนิ การสรา้ งชนิ้ งาน ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2 คำชี้แจง ครูผสู้ อนประเมนิ การสร้างชน้ิ งานของนกั เรยี นและใสค่ ะแนนในช่องรายการประเมิน ประเด็น/ระดับคะแนน การใช้ ความ ความ คะแนน ระดับ ถกู ต้อง รวม คุณภาพ วสั ดุ สวยงาม ของ เลขที่ อปุ กรณ์ ของรูปทรง คำศพั ท์ 12 ประดษิ ฐ์ 5 เหล่ียม 4 รปู ทรง 5 เหล่ยี ม กล่มุ (ช่อื – สกุล) 44 1. 2. 3. 4. 5. เกณฑ์การประเมนิ /ระดบั คณุ ภาพ ลงชอ่ื …………………………………………. ผูป้ ระเมนิ 11 - 12 คะแนน ระดับคุณภาพ ดมี าก วันที่ ............................................ 9 - 10 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี 6 - 8 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ 0 - 5 คะแนน ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง เกณฑ์การใหค้ ะแนนการสรา้ งชน้ิ งาน การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ ในการประดษิ ฐร์ ูปทรง 5 เหลี่ยม 4 หมายถงึ ใช้วัสดุ อุปกรณ์ ในการประดิษฐร์ ปู ทรง 5 เหลีย่ มอย่างคมุ้ ค่า 3 หมายถึง ใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ ในการประดิษฐร์ ปู ทรง 5 เหล่ยี มคมุ้ ค่าปานกลาง 2 หมายถึง ใช้วัสดุ อปุ กรณ์ ในการประดิษฐ์รูปทรง 5 เหลย่ี มคุ้มคา่ เล็กนอ้ ง 1 หมายถงึ ใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ ในการประดษิ ฐร์ ปู ทรง 5 เหล่ยี มไมค่ ุ้มค่า

หนา้ 9 ความสวยงามของรปู ทรง 5 เหลี่ยม 4 หมายถงึ รูปทรง 5 เหลีย่ มมีความสมบูรณ์ทกุ ด้าน 3 หมายถึง รูปทรง 5 เหลยี่ มสมบรู ณ์ 4 ด้าน 2 หมายถึง รูปทรง 5 เหลย่ี มสมบูรณ์ 3 ด้าน 1 หมายถึง รปู ทรง 5 เหลยี่ มสมบรู ณน์ ้อยกวา่ 3 ดา้ น ความถูกต้องของคำศัพท์ 4 หมายถงึ เขยี นถูกตอ้ งทกุ คำ 3 หมายถงึ เขยี นผิด 1 คำ 2 หมายถงึ เขยี นผดิ 2 คำ 1 หมายถงึ เขยี นผิด 3 คำขึน้ ไป

หนา้ 10 แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 คำชแี้ จง ครผู ู้สอนประเมินการอา่ นออกเสยี งของนกั เรียนและใส่คะแนนในชอ่ งรายการประเมนิ เลขที่ ประเด็น/ระดับคะแนน ความ น้ำเสียง คะแนน ระดบั ถกู ตอ้ ง การเวน้ รวม คณุ ภาพ ชอ่ื – สกลุ วรรคตอน 1. 448 2. 3. 4. 5. เกณฑก์ ารประเมนิ /ระดบั คุณภาพ ลงชื่อ …………………………………………. ผ้ปู ระเมิน 8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก วันท่ี ............................................ 6 - 7 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี 4 - 5 คะแนน ระดบั คุณภาพ พอใช้ 0 - 3 คะแนน ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรุง เกณฑ์การใหค้ ะแนนการอา่ นออกเสียง ความถูกตอ้ งในการอ่าน 4 หมายถงึ อา่ นได้ถกู ต้องท้ังหมด 3 หมายถึง อ่านได้ถกู ตอ้ งเกอื บท้ังหมด 2 หมายถึง อา่ นได้ผดิ ไมเ่ กิน 10 คำ 1 หมายถงึ พยายามอ่านได้บา้ ง ผิดมากกว่า 10 คำ น้ำเสียง การเวน้ วรรคตอน 4 หมายถงึ อ่านได้ชัดเจน ออกเสยี งสูงต่ำในระดับประโยคได้ 3 หมายถึง อ่านไดช้ ัดเจน ออกเสยี งสงู ตำ่ ในระดบั ประโยคไดเ้ ปน็ ส่วนใหญ่ 2 หมายถึง อ่านได้ค่อนขา้ งชัดเจน ออกเสยี งสงู ตำ่ ในประโยคไดน้ ้อย 1 หมายถึง อ่านไดบ้ ้าง น้ำเสียงเบาไมช่ ดั เจน ออกเสียงสงู ต่ำในระดบั ประโยคไมถ่ ูกต้อง

หนา้ 11 แบบประเมินการพูดโตต้ อบตามสถานการณท์ กี่ ำหนดให้ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 คำช้ีแจง ครผู สู้ อนประเมนิ การพดู โต้ตอบตามสถานการณ์ทก่ี ำหนดให้ของนักเรียนและใส่คะแนนในชอ่ งรายการประเมิน เลขท่ี ประเดน็ /ระดับคะแนน ความ ความ การแสดง คะแนน ระดับ ถกู ต้อง คล่องแคล่ว ทา่ ทาง/ รวม คณุ ภาพ ช่ือ – สกลุ นำ้ เสยี ง 1. 4 4 4 12 2. 3. 4. 5. เกณฑ์การประเมิน/ระดบั คุณภาพ ลงชือ่ …………………………………………. ผ้ปู ระเมนิ 11 - 12 คะแนน ระดบั คุณภาพ ดมี าก วันที่ ............................................ 9 - 10 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี 6 - 8 คะแนน ระดบั คุณภาพ พอใช้ 0 - 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง เกณฑ์การให้คะแนนการพูดโตต้ อบตามสถานการณท์ กี่ ำหนดให้ ความถูกต้อง 4 หมายถึง พูดโตต้ อบถกู ต้องชัดเจนเหมาะสมกับสถานการณ์ 3 หมายถึง พดู โตต้ อบถูกตอ้ งชัดเจนบางประโยคได้เหมาะสมกบั สถานการณ์ 2 หมายถึง พูดโต้ตอบบางประโยคไม่ถูกตอ้ งแต่ยงั ส่อื สารได้ 1 หมายถึง ไม่พูดโตต้ อบ ทำให้ไม่เกิดการส่ือสาร ความคลอ่ งแคล่ว 4 หมายถงึ พูดโตต้ อบได้คล่องแคล่ว ชดั เจน ไม่ติดขดั 3 หมายถงึ พูดโต้ตอบได้ชัดเจน 2 หมายถงึ พดู โตต้ อบไดเ้ ปน็ คำ ๆ 1 หมายถงึ พดู โตต้ อบไมช่ ดั เจน สื่อความหมายไมไ่ ด้ การแสดงท่าทาง/นำ้ เสยี งประกอบการพูด 4 แสดทา่ ทางและนำ้ เสียงเหมาะสมกบั โครงสรา้ งประโยค 3 น้ำเสียงเหมาะสมกบั โครงสร้างประโยค ไมแ่ สดงทา่ ทางประกอบ 2 น้ำเสยี งการพดู เหมอื นอา่ น ไมแ่ สดงทา่ ทางประกอบ 1 ไมแ่ สดงท่าทาง น้ำเสยี งไม่เหมาะสมกับโครงสร้างภาษา

หนา้ 12 สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. วดิ ีโอภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ 2. ภาพรูปทรง 5 เหล่ียม

หนา้ 13 ใบกจิ กรรมท่ี 1 สถานการณป์ ัญหา ระหวา่ งเดนิ ทางมาโรงเรยี นนกั เรยี นได้ยิน กรมอุตุนยิ มวทิ ยาประกาศว่า ภาคตะวนั ออกจะมี ฝนฟา้ คะนอง-ลมแรง-ฝนตกหนัก เตือนให้ ประชาชนระวังอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก แนะ ใหห้ ลีกเล่ียงทโี่ ลง-ใตต้ ้นไมใ้ หญ่-ปา้ ยโฆษณา -ส่ิง ปลกู สร้างไมแ่ ข็งแรง จากสถานการณ์ดังกล่าวนักเรยี นจะมวี ิธี ปฏบิ ัตติ นอย่างไรและจะทราบได้อยา่ งไรว่าจะเกดิ ภยั พิบตั ิทางธรรมชาติอะไรขน้ึ กบั พ้นื ท่ีที่นักเรยี น อาศยั อยู่

หนา้ 14 ใบกจิ กรรมที่ 2 วิธกี ารหรอื เครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการแกป้ ัญหา วธิ ที ี่ 1 ใหค้ วามรูเ้ รอื่ ง “ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาต”ิ วธิ ที ี่ 2 สรา้ งความตระหนักใหน้ ักเรยี นรถู ้ งึ สาเหตขุ องภยั พบิ ตั ทิ าง ธรรมชาติ วธิ ที ี่ 3 ใหน้ ักเรยี นออกแบบ/นาเสนอขอ้ มลู ชนิดของภยั พบิ ตั ิ ทางธรรมชาติ วธิ ที ี่ 4 จดั ทา”หา้ เหลยี่ มแปลงรา่ ง”สอื่ การเรยี นรูภ้ ยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ

หนา้ 15 ตารางสรุปวิธกี ารทใ่ี ชใ้ นการแกป้ ญั หา และขอ้ ดแี ละข้อเสียของแต่ละวธิ ี วิธกี ารแก้ปัญหา ขอ้ ดี ข้อเสยี วิธกี ารท่ี 1 วธิ กี ารที่ 2 - นกั เรยี นไดร้ ับความรเู้ รอ่ื งภัยพิบัติ - นักเรียนรจู้ ักแตภ่ ยั พิบตั ิท่เี กิดขน้ึ วิธกี ารท่ี 3 ทางธรรมชาติ ภายในประเทศเท่าน้นั วธิ ีการที่ 4 - นักเรียนมคี วามตระหนกั ถึง - สาเหตุของภัยพิบตั ิทางธรรมชาติ สาเหตุของการเกิดภัยพบิ ัตทิ าง เกิดจากเผาปา่ เพ่ือทำการเกษตร ธรรมชาติ - นกั เรียนได้ใช้กระบวนการกลุม่ - การสบื คน้ ข้อมูล นกั เรยี นต้องใช้ ในการรว่ มกนั ออกแบบและ คอมพิวเตอรห์ รอื โทรศพั ทม์ อื ถือท่ี นำเสนอขอ้ มูลของภยั พิบตั ทิ าง มสี ัญญาณอนิ เตอรเ์ น็ตอาจทำให้ ธรรมชาติท่เี กิดข้ึนทวั่ โลก เพิ่มคา่ ใช้จา่ ยสำหรับนกั เรยี น - นกั เรียนได้ทำงานเป็นกลุม่ - นกั เรยี นอาจตอ้ งใชเ้ วลา ใชก้ ระบวนการทางเทคโนโลยใี น ในการศกึ ษา ออกแบบ การสืบคน้ ข้อมลู สรา้ งชน้ิ งาน ทดลองใช้ ใช้วิทยาศาสตรใ์ นการศึกษาสาเหตุ ปรบั ปรงุ แก้ไข ของปรากฎการณ์ภยั พิบัตทิ าง และพฒั นาชนิ้ งานให้ดีขนึ้ ธรรมชาติ ใชค้ ณติ ศาสตร์ในการวัดขนาด รปู ทรง 5 เหลย่ี ม และใช้ศิลปะในการระบาย สตี กแต่งชิน้ งาน จากตารางวิเคราะหว์ ธิ กี ารแกป้ ัญหา และแนวทางการแกป้ ัญหาทต่ี ัดสนิ ใจเลือกคอื จัดทำรปู ทรง 5 เหลี่ยม เพราะ นกั เรยี นไดท้ ำงานเปน็ กลุ่มใช้กระบวนการทางเทคโนโลยใี นการสืบค้นข้อมูล ใชว้ ิทยาศาสตร์ในการเลือกใชว้ สั ดุท่ีเหมาะสม ใช้วิศวกรรมในการออกแบบ ใชค้ ณิตศาสตร์ในการวัด และใชศ้ ิลปะในการตกแตง่ ชิ้นงานท่ีจะสรา้ งขน้ึ มา

หนา้ 16 ใบกจิ กรรมท่ี 3 การออกแบบชน้ิ งาน วัสดุอปุ กรณ์ 1. กระดาษขาว-เทา 2. ไมบ้ รรทดั 3. ดินสอ 4.ยางลบ 5. สไี ม้ 6. กาว 7. กรรไกร ขน้ั ตอนการสร้างชิน้ งาน 1. สบื ค้นข้อมูลเรอ่ื งภัยพิบัตทิ างธรรมชาติ โดยใชเ้ ทคโนโลยีในการสบื ค้นขอ้ มลู 2. รว่ มกันออกแบบ ประดิษฐ์ส่ือการเรยี นรู้ “ห้าเหลยี่ มแปลงร่าง” โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรม 3. ลงมอื ประดิษฐ์สอื่ “ห้าเหลยี่ มแปลงร่าง” ทไี่ ดอ้ อกแบบไวโ้ ดยใช้ความรทู้ างดา้ นคณิตศาสตรใ์ นการวัดขนาด และตกแตง่ ให้สวยงามดว้ ยทักษะทางด้านศลิ ปะ 4. นำสื่อการเรยี นรู้ “ห้าเหลี่ยมแปลงรา่ ง” ที่ประดษิ ฐ์ขน้ึ ไปทดลองใช้ในห้องเรยี นของนักเรียน 5. นำสื่อการเรยี นรู้ “หา้ เหลย่ี มแปลงรา่ ง”ทไ่ี ด้ทดลองใชม้ าปรับปรุงแก้เนอ้ื หาให้มีความชัดเจน ถกู ต้องและ แข็งแรงทนทานมากยงิ่ ขึ้น

หนา้ 17 บนั ทึกองค์ความรู้ การประดิษฐ์สือ่ การเรียนรู้ “ห้าเหลีย่ มแปลงรา่ ง” ทำให้นักเรยี นมีองคค์ วามรู้เรอ่ื งภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาติ มาใชใ้ นการสรา้ งช้ินงาน ไดแ้ ก่ นำทักษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์มาใช้ในการศึกษาสาเหตุของปรากฎการณท์ างธรรมชาติ นำทกั ษะทางด้านคณติ ศาสตรม์ าใชใ้ นการวัดขนาด นำทักษะทางดา้ นวศิ วกรรมมาใชใ้ นการออกแบบชน้ิ งาน นำทักษะทางด้านเทคโนโลยีมาใช้ในการสบื คน้ ขอ้ มลู และนำทกั ษะทางด้านศิลปะมาใช้ในการตกแต่งชนิ้ งาน

หนา้ 18 ภาพผลงานนกั เรียน