Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โปรแกรมภาษาไพทอน python_1

โปรแกรมภาษาไพทอน python_1

Published by darika, 2019-10-25 03:12:32

Description: ดาริกา เรืองภักดี
โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี

Search

Read the Text Version

การเขยี นโปรแกรมดว้ ยภาษาไพทอน

บทท่ี 3 การเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน

การเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน ทบทวนความรกู้ ่อนเรยี น ❏ การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอยี ดของปญั หาตอ้ งดาเนินการกอ่ นวางแผนการแก้ปัญหา ❏ การออกแบบวิธีการแกป้ ัญหาโดยใชร้ หสั ลาลองหรอื ผังงานเพ่ือทาใหเ้ ขา้ ใจไดง้ า่ ยในการนาไปปฏบิ ตั ิ ❏ การดาเนินการแกป้ ัญหา เป็นการนาวธิ แี กป้ ญั หาทไ่ี ดอ้ อกแบบไว้มาดาเนนิ การ โดยอาจพัฒนาเปน็ โปรแกรมเพือ่ แกป้ ัญหา

การเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาไพทอน ลองทาดู ออกแบบรหสั ลาลองหรือผังงานในการคานวณหาพ้ืนทร่ี ปู สี่เหล่ยี มคางหมู

ร้จู ักไพทอน ไพทอนเป็นภาษาท่งี า่ ยต่อการเรม่ิ ตน้ เรยี นรูก้ ารเขียนโปรแกรม มีโครงสรา้ งคาสงั่ ท่ไี ม่ ซบั ซอ้ น มีชดุ คาสงั่ ท่ที างานทางดา้ นกราฟิ กใหเ้ ลอื กใชง้ านไดส้ ะดวก สามารถทดสอบการ ทางานตามคาสงั่ และตรวจสอบผลลพั ธไ์ ดท้ นั ที นกั เรยี นสามารถนาภาษาไพทอนไปใชใ้ น การเขียนโปรแกรมท่ซี บั ซอ้ นเพอ่ื การทางานจรงิ ได้

เคร่อื งมือพฒั นาโปรแกรม การเขยี นโปรแกรมไพทอนจะใชเ้ครอ่ื งมอื ช่วยในการพฒั นาโปรแกรมทเ่ี รยี กวา่ ไอดอี ี (Integrated Development Environment: IDE) ซง่ึ ประกอบดว้ ยเครอ่ื งมอื แกไ้ ขโปรแกรมตน้ ฉบบั (source code editor) เครอ่ื งมอื แกไ้ ขจดุ บกพร่องของโปรแกรม (debugger) และเครอ่ื งมอื ช่วย ใหโ้ ปรแกรมทางาน หรอื รนั โปรแกรม (run) ไพทอนไอดอี โี ดยทวั่ ไปจะทางานตามคาสงั่ ไดใ้ น 2 โหมด คอื 1. โหมดโตต้ อบหรอื โหมดอมิ มเี ดียท (immediate mode) 2. โหมดสครปิ ต์ (script mode)

เคร่อื งมือพฒั นาโปรแกรม 2. โหมดสครปิ ต์ (script mode) 1.หมวดโต้ตอบหรอื โหมดอิมมเี ดยี ท 21.หมโวหดมโดตส้ตคอรบิปหตร์ อื (โsหcมriดpอtมิ มmเี oดdยี eท) (immediate mode) ผู้ใช้ตจะ้อพงมิพพมิ ์คพำค์ สำงั่สภ่ังำไษพำทไอพนทหอลนำลยงคใำนสส่งั ่วนที่ เปรรียะกกวอำ่ บกเชันลใลห์ ้เป(sน็ hโeปllร)แกหรมือทคส่ีอนมบโซรู ลณ์ แล้ว (บcนั onทsึกoเlปe)็นไทฟีละไ์ ควก้ำสอ่ ง่ัน แเพละอ่ื ตทัวี่จแะปสลัง่ ภใหำษ้ตำัวไแพปล ภทำอษนำไพ(pทyอthนoทnำงiำnนteตrำpมreคtำeสr)ง่ั ทจงั้ ะหแมปดลใคนำสั่ง หโปำรกแไกมม่รีขมอ้ตผงั้ ดิ แพตลค่ ำดสจง่ั ะแทรำกงำจนนคถำสงึ ค่งั ดำสัง่ังกลำ่ ว พสรุดอ้ทม้ำแยสตด่องเนผื่อลงลกพั ันธไ์ทปนั ที ถแำ้ ตห่หำำกกตคอ้ ำงสกง่ั ำมรี ขตอ้ รผวิดจสพลอบำดคกวจ็ำมะแถสกู ดตงอ้ ขง้อขผอิดงคพำลสำดั่งสำมำรถใช้ (โeหrมrดorอมิ mมีเeดsยีsaทgใeน)กำรทดสอบได้

เครอ่ื งมือพฒั นาโปรแกรม เกร็ดน่ารู้ กำรเขยี นโปรแกรมไพทอนออนไลน์ หำก คอมพวิ เตอรท์ ใ่ี ชง้ ำนอยู่ เชอื่ มตอ่ อินเทอร์เน็ต นักเรยี นสำมำรถฝึกฝนกำรเขียนโปรแกรมภำษำไพ ทอนแบบออนไลน์ได้จำกเว็บไซตท์ ี่ให้บรกิ ำรตวั แปล ภำษำไพทอน ซ่งึ มอี ยหู่ ลำยเวบ็ ไซต์ โดยไมต่ ้อง ตดิ ต้ังตัวแปลภำษำไพทอน หรือไพทอนไอดีอี เช่น hthtptst:p//sr:e//prl.eitp/lla.intg/ulaagnegsu/paygtehosn/3python3

เร่มิ ตน้ เขียนโปรแกรมภาษาไพทอน ตวั อยา่ งท่ี 3.1 คาสงั่ แสดงผลในโปรแกรมภาษาไพทอน print() เป็นคาส่งั ชนิดฟงั ก์ชัน (function) ทา หน้าที่แสดงสิ่งท่อี ยู่ภายในเคร่ืองหมายวงเล็บ ( ) ออก ทางจอภาพ ใหส้ ังเกตผลลพั ธท์ ีไ่ ด้วา่ ไม่มีเคร่อื งหมาย \"\"

กจิ กรรมท่ี 3.1 ให้นักเรียนพมิ พ์คาสั่งต่อไปนีล้ งในคอนโซลแล้วสังเกตผลลพั ธ์ทไี่ ด้ว่าเหมือนหรือแตกต่างกนั อย่างไร และเพราะเหตุใด print(\"3+5\") print(3+5)

ตวั อย่างที่ 3.2 คาส่ังรับข้อมูลเข้า ทดลองพมิ พ์คาสั่งต่อไปนีใ้ นคอนโซล แล้วกดแป้น Enter name = \"Ying\" กาหนดให้ตวั แปร name มคี ่าเป็น \"Ying print(name) แสดงค่าในตัวแปร name ออกมาทาง จะไดผ้ ลลพั ธ์คอื จอภาพ ซึ่งกค็ อื คาวา่ Ying Ying

ชวนคดิ 1. Ying เป็นขอ้ มูลชนดิ ใด เพรำะเหตใุ ด 2. ถำ้ เปลี่ยนบรรทดั แรกเปน็ name = 2 ผลจำกกำร ใชค้ ำสั่ง print(name) เปน็ อยำ่ งไร

ใบกิจกรรมท่ี 4.1 เคร่อื งมอื พฒั นำโปรแกรม 1. ใหเ้ ปิดโปรแกรม PyCharm Edu แลว้ สร้างโปรเจคและไฟลเ์ พื่อใชเ้ ขยี นโปรแกรมภาษาไพทอน 2. ทดสอบการเขยี นโปรแกรมดว้ ยคาสัง่ ตอ่ ไปน้ีท้ังในโหมดอิมมเิ ดียทและโหมดสครปิ ต์ แลว้ รนั โปรแกรม สังเกตผลลพั ธ์ทีไ่ ด้ 3. ใชโ้ หมดอิมมิเดียทหาผลลพั ธ์ของคาส่งั ตอ่ ไปนี้ แลว้ คาถาม 4. สร้างไฟลไ์ พทอนใหม่แล้วเขียนคาส่งั แสดงชื่อตนเอง และอายทุ ค่ี านวณจากปเี กดิ

ตวั แปร ถา้ ตอ้ งการนาช่ือ-นามสกุลมาแสดงผลหลายคร้ัง และบางคร้งั รปู แบบเหมอื นกนั ควรทาอย่างไร ตวั อย่างการแสดงผล เชน่ ➢ ช่อื อรุณ สามารถ ➢ ช่ือ อรุณ นำมสกลุ สามารถ ➢ คณุ อรณุ สามารถ และถา้ มกี ารแก้ไขหรือเปล่ียนชอ่ื จะมีปญั หาอะไรบ้าง

ตวั แปร (variable) ตวั แปร (variable) ใชใ้ นการอา้ งองิ ค่าขอ้ มูล โดยตวั แปรจะถกู กาหนดคา่ ดว้ ยเคร่อื งหมาย = เช่น c = 16 name = \"somchai\" ตัวแปร ชอ่ื c ชีไ้ ปยังจำนวนเตม็ 16 ตวั แปรชอ่ื name ชีไ้ ปยงั สตริง somchai

ชวนคิด 1. ถ้าต้องการใชค้ าส่ังเพอ่ื แสดงคา่ c และ name ท่ีหน้าจอภาพ จะ พมิ พค์ าส่ังอย่างไร 2. ถา้ ต้องการกาหนดให้ตวั แปร price มีค่าเทา่ กับ 10 จะพิมพ์คาสั่ง อย่างไร

กจิ กรรมท่ี 3.2 ใหน้ กั เรยี นพมิ พค์ าสงั่ ต่อไปน้ี แลว้ สงั เกตผลลพั ธท์ ไ่ี ด้ และอธบิ ายว่าเพราะเหตใุ ดจงึ เป็นเช่นนน้ั year = Age _name = 123 totalPrice =_name 1stname = 10 nickName = \"Aor\" age = 13

ใบกจิ กรรมท่ี 4.2 เร่อื งตวั แปร 1. สรา้ งโปรเจคและไฟลไ์ พทอนขึน้ มาใหมพ่ มิ พ์คาสงั่ ตอ่ ไปนแี้ ลว้ ส่งั รันโปรแกรม name = \"อรณุ สามารถ\" #1 #print(name) #2 print(\"คณุ \",name) #3 #----------------------------- # 4 name = \"อรสิ า\" #5 name = name+\" \"+\"มนั ตรา\"# 6 print(\"คณุ \",name) #7

c = 16 ตวั อย่างท่ี 3.3 การเปลย่ี นคา่ ของตวั แปร print(c) พมิ พค์ าสงั่ ตอ่ ไปน้ีในคอนโซล d=c print(d) คาสัง่ กาหนดให้ตวั แปร c ชีไ้ ปที่จานวนเต็ม 16 เมอ่ื แสดงผลดว้ ยคาสัง่ print(c) d = 15 จึงเหน็ ผลลพั ธ์เปน็ 16 print(d) คาสง่ั สรา้ งตวั แปร d แลว้ ช้ไี ปทเ่ี ดียวกับทตี่ ัวแปร c ช้อี ยู่ จงึ ทาใหต้ ัวแปร d ช้ี >>> c = 16 ไปยงั จานวนเต็ม 16 เม่ือพมิ พ์ด้วยคาสัง่ print(d) จึงได้ผลลพั ธ์เปน็ 16 >>> print(c) คาสงั่ กาหนดใหต้ วั แปร d ชไี้ ปที่จานวนเตม็ 15 เม่ือแสดงผลดว้ ยคาสง่ั 16 print(d) จงึ เหน็ ผลลัพธ์เป็นค่า 15 >>> d = c >>> print(d) 16 >>> d = 15 >>> print(d) 15

การเปลย่ี นแปลงค่าของตวั แปร c และ d ท่เี กดิ ข้ึนตามคาสงั่ ในตวั อย่างท่ี 3.3

ชวนคิด จากตวั อย่างท่ี 3.3 นักเรยี นสามารถใชค้ าสงั่ d = \"Ying\" ตอ่ จากคาสง่ั สุดทา้ ยไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใด

ชนิดขอ้ มูลพ้นื ฐาน โปรแกรมภาษาไพทอนมกี ารแบง่ ประเภทของขอ้ มลู ออกเป็นหลายประเภท โดยมี ประเภทขอ้ มลู พ้นื ฐาน คอื •ขอ้ มลู ประเภทข้อความ (string data type) •ข้อมลู ประเภทจานวน (numerical data type)

ขอ้ มูลประเภทขอ้ ความ หรือสตรงิ การกาหนดข้อมลู ท่ีเปน็ ขอ้ ความหรือสตริงใหใ้ ชเ้ ครอื่ งหมายอญั ประกาศครอบขอ้ ความที่ตอ้ งการกาหนด โดยเลือกใชไ้ ดท้ ัง้ อญั ประกาศเดย่ี ว (') หรือคู่ (\") ตามความเหมาะสม หรอื กรณีท่่ีมขี อ้ ความยาวหลายบรรทัด ตอ้ งใช้เคร่อื งหมาย \" หรอื ' ติดตอ่ กนั 3 ตวั ครอบหน้าและหลงั ขอ้ ความ ดงั ตวั อยา่ งต่อไปนี้

ตวั อยา่ งท่ี 3.4 การกาหนดข้อมูลชนิดข้อความ พิมพ์คาส่งั ต่อไปน้ใี นคอนโซล >>> organization = '\"สสวท\"' #บรรทดั ท่ี 1 >>> address = \"924 ถนนสุขมุ วทิ เขตคลองเตย กรงุ เทพฯ 10110\" >>>print(organization) #บรรทดั ท่ี 2 >>>print(address) #บรรทดั ท่ี 3 #บรรทดั ท่ี 4

ผลลพั ธด์ งั น้ี #บรรทดั ท่ี 1 #บรรทดั ท่ี 2 >>> organization = '\"สสวท\"' >>> address = \"924 ถนนสุขมุ วทิ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110\" #บรรทดั ท่ี 3 >>>print(organization) #บรรทดั ท่ี 4 \"สสวท\" >>>print(address) 921 ถนนสุขุมวทิ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110

2) ข้อมูลจานวน ภาษาไพทอนมีขอ้ มูลจานวนท่สี ามารถนาไปคานวณทางคณิตศาสตรไ์ ด้ หลายชนิดในท่นี ้ีจะแนะนา 2 ชนิด คอื • จานวนเตม็ แบบมีเคร่อื งหมาย (signed integer) หรอื เรยี กวา่ จานวนเตม็ (integer หรอื int) สามารถเกบ็ ค่าจานวนเตม็ บวกและจานวนเตม็ ลบ • จานวนจรงิ (floating point number หรอื float) สามารถเกบ็ ค่าทง้ั จานวนจรงิ บวกและ จานวนจรงิ ลบ ท่อี ยู่ในรูปทศนิยมได้

ตวั อย่างที่ 3.5 การกาหนดขอ้ มลู จานวนและการ คานวณพ้นื ฐาน พิมพ์คาสง่ั ต่อไปนใ้ี น คอนโซล base = 10 #บรรทดั ท่ี 1 height = 15 #บรรทดั ท่ี 2 area = (1/2)* base * height #บรรทดั ท่ี 3 print (\"base =\", base) #บรรทดั ท่ี 4 print (\"height =\", height) #บรรทดั ท่ี 5 print (\"area =\", area) #บรรทดั ท่ี 6

ผลลพั ธท์ ่ไี ดค้ ือ >>> base = 10 >>> height = 15 >>> area = (1/2)* base * height >>> print (\"base =\", base) base = 10 >>> print (\"height =\", height) height = 15 >>> print (\"area =\", area) area = 75.0

ชวนคดิ ➢ หลังจากจบคาส่งั ในบรรทัดที่ 6 หากต้องการตรวจสอบชนดิ ข้อมูล ของตวั แปรทงั้ สามตัว จะทาได้อยา่ งไร และไดผ้ ลเปน็ อย่างไร ➢ 1 และ 2 เปน็ ข้อมลู ชนดิ จานวนเตม็ แล้ว 1 / 2 เป็น ข้อมลู ชนดิ ใด

เกรด็ น่ารู้ ตวั ดาเนินการทางคณิตศาสตร์ ตวั ดาเนินการสาหรบั การบวก ลบ คูณ หาร ในไพทอน จะใชเ้ คร่อื งหมาย +, -, * และ / ตามลาดบั นอกจากน้ียงั มีเคร่อื งหมายเพ่มิ เตมิ ** หมายถงึ ยกกาลงั ตวั อยา่ งคอื 4**3 หมายถงึ 43 // หมายถงึ หารปดั เศษท้งิ ตวั อย่างคอื 7 // 3 ไดผ้ ลลพั ธเ์ ป็นจานวนเตม็ 2 % หมายถงึ เศษท่ไี ดจ้ ากการหาร ตวั อย่างคอื 7 % 3 ไดผ้ ลลพั ธเ์ ป็นจานวนเตม็ 1 โดยท่สี ามารถใชเ้ คร่อื งหมาย ( ) ลอ้ มรอบนิพจน์ท่ตี อ้ งการใหด้ าเนินการกอ่ น เช่นเดยี วกบั การเขยี นนิพจน์ทาง คณิตศาสตร์

ตัวอย่างท่ี 3.6 ทอนเทา่ ไร นกั เรยี นซอ้ื แฟลชไ์ ดรฟ์ ขนาด 32 GB ราคา 117 บาท ท่รี ้านสะดวกซื้อ โดยจ่ายเงนิ ดว้ ยธนบตั รหนงึ่ รอ้ ยบาท 2 ใบ ในล้ินชกั เกบ็ เงนิ ของร้าน มีแต่ธนบตั ร 20 บาท และเหรยี ญ หนึ่งบาท พนกั งานจะต้องทอนเงินเป็นธนบตั ร 20 บาทจานวนก่ใี บ และเหรียญหนง่ึ บาท จานวนกีเ่ หรียญ ให้ใชค้ าส่งั ไพทอนแสดงวิธีหาคาตอบทลี ะลาดบั แนวคดิ การแก้ปญั หา 1.คานวณจานวนเงนิ ทอน 2.คานวณจานวนธนบัตรยสี่ ิบบาททไี่ ด้รบั จากจานวนเงนิ ทอน หารด้วย 20 โดยปดั เศษทง้ิ 3.คานวณจานวนเหรยี ญบาทท่ไี ดร้ บั จากจานวนเงนิ ทอน หารดว้ ย 20 แบบเอาเศษ

ตวั อยา่ งท่ี 3.6 ทอนเทา่ ไร พมิ พ์คำส่งั ตอ่ ไปนี้ในคอนโซล change = 200 - 117 note20 = change // 20 coin1 = change % 20 print(\"เงนิ ทอนทง้ั หมด\", change ,\"บาท\") print(\" เป็นธนบตั รย่สี บิ บาท จานวน\", note20, \"ใบ\") print(\" เป็นเหรยี ญหน่งึ บาท จานวน\", coin1, \"เหรยี ญ\")

ตัวอยา่ งที่ 3.6 ทอนเทา่ ไร จะไดผ้ ลลพั ธด์ งั นี้ >>> change = 200 - 117 >>> note20 = change // 20 >>> coin1 = change % 20 >>> print(\"เงนิ ทอนทง้ั หมด\", change ,\"บาท\") เงนิ ทอนทง้ั หมด 83 บาท >>> print(\" เป็นธนบตั รยส่ี บิ บาท จานวน\", note20, \"ใบ\") เป็นธนบตั รย่สี บิ บาท 4 ใบ >>> print(\" เป็นเหรยี ญหน่ึงบาท จานวน\", coin1, \"เหรยี ญ\") เป็นเหรยี ญหน่ึงบาท 3 เหรยี ญ

การแปลงชนิดขอ้ มูล ฟงั กช์ นั input() จะรบั ขอ้ มลู เขา้ จากผูใ้ ชผ้ ่านทางคยี บ์ อรด์ และจะเป็ นขอ้ มูลชนิด สตรงิ เทา่ น้นั ซ่ึงไม่สามารถนาไปคานวณทางคณิตศาสตรไ์ ด้ นกั เรียนคิดวา่ คาส่งั ตอ่ ไปน้ี ทางานได้หรือไม่ width = input(\"ปอ้ นควำมกว้ำงของส่ีเหลีย่ ม \") length = input(\"ป้อนควำมยำวของส่ีเหลยี่ ม \") area = width * length print(\"พืน้ ทสี่ เ่ี หลี่ยม คอื \", area, \"ตำรำงหน่วย\")

ตวั อย่างท่ี 3.7 การแปลงขอ้ มูลสตรงิ ใหเ้ ป็นขอ้ มลู ชนิดจานวน พมิ พค์ าสั่งตอ่ ไปนใ้ี นคอนโซล val = input(\"ป้อนค่าจานวนเตม็ ค่าหน่ึง \") #บรรทดั ท่ี 1 type(val) #บรรทดั ท่ี 2 #บรรทดั ท่ี 3 intVal = int(val) #บรรทดั ท่ี 4 type(intVal)

ตัวอย่างท่ี 3.7 การแปลงขอ้ มลู สตริงให้เป็นข้อมูลชนดิ จานวน จะไดผ้ ลลพั ธด์ งั น้ี >>> val = input(\"ป้อนค่าจานวนเตม็ ค่าหน่ึง \") ป้ อนคา่ จานวนเตม็ คา่ หน่ึง >? 4 >>> type(val) str >>> intVal = int(val) >>> type(intVal) int

กจิ กรรมท่ี 3.3 ➢ทาตามลาดบั คาสงั่ ในตวั อย่างท่ี 3.7 อกี ครง้ั หน่ึง แต่เปล่ยี นใหแ้ ปลงคา่ สตรงิ ท่รี บั จากผูใ้ ช้ ใหเ้ ป็นจานวนจรงิ ➢ดปว้ รยบั ฟปงั รกงุ ช์ชนัดุ คfาlสoงั่ ทa่ใี tช(ห้ )าพแ้ทนื นทก่สี เา่ี หรใลช่ยี ฟ้มงัขกา้ ชง์ ตนั น้ inใหtท้ (า)งานไดถ้ กู ตอ้ ง

เรมิ่ ตน้ เขียนโปรแกรมภาษาไพทอน input()เป็นคาสงั่ ชนิดฟงั กช์ นั (function) ทาหนา้ ท่รี บั ขอ้ มูลเขา้ ท่ีผูใ้ ชป้ ้ อนผ่านคียบ์ อรด์ แลว้ สง่ คืนสง่ิ ท่ผี ูใ้ ช้ ป้ อนเขา้ มาเป็นขอ้ มูลชนิดสตรงิ ใหก้ บั ตวั แปรท่ีกาหนดไวห้ นา้ เคร่อื งหมาย = ในท่ีน้ี คอื ตวั แปร name หลงั จากน้นั บรรทดั ท่ี 2จะแสดงค่าในตวั แปร name ออกมาทางจอภาพ ซ่งึ กค็ ือคาวา่ Prayut name = input(\"Please enter your name:\") # บรรทดั ท่ี 1 print(name) # บรรทดั ท่ี 2

ตัวอย่างที่ 3.2 คาส่ังรับข้อมูลเข้า ทดลองพมิ พ์คาสั่งต่อไปนีใ้ นคอนโซล แล้วกดแป้น Enter พิมพค์ าสั่งต่อไปนี้ แล้วกดแป้น Enter name = input(\"Please enter your name:\") # บรรทดั ผลลพั ธ์คือ ท่ี 1 # บรรทดั ท่ี 2 print(name) Please enter your name: >?_ # เครื่องหมำย >? เปน็ เคร่อื งหมำยแสดงกำร รอให้ผู้ใชป้ อ้ นขอ้ มลู ของ PyCharm Edu

ตัวอย่างท่ี 3.2 คาสงั่ รบั ขอ้ มูลเข้า ทดลองพมิ พค์ าสัง่ ตอ่ ไปนีใ้ นคอนโซล แลว้ กดแป้น Enter จากนนั้ ใหผ้ ูใ้ ชป้ ้อนชอ่ื ตนเอง เช่น ป้อนชอ่ื วา่ Prayut ดงั ขอ้ ความทข่ี ดี เสน้ ใต้ ต่อไปน้ี Please enter your name: >? Prayut ข้อมลู ทผ่ี ูใ้ ช้ปอ้ นให้กับโปรแกรม >>> print (name) Prayut

โปรแกรมท่มี กี ารใช้ตัวแปรเกบ็ ข้อมูลและแสดงผล snack = 20 drink = 33 price = snack+drink print(\"ราคารวม = \",price) snack = input() snack = int(snack) price = snack+drink print(\"ราคารวม = \",price)

การตง้ั ชอื่ ตวั แปรในไพทอน ชอื่ ตวั แปรจะประกอบดว้ ยตัวอกั ษร ตัวเลข หรือเครอื่ งหมายขีดเส้นใต้เทา่ นั้น โดยต้องขึน้ ตน้ ดว้ ยตวั อักษรหรอื เครือ่ งหมายขีดเส้นใต้ นอกจากนีต้ วั อกั ษร ภาษาอังกฤษตวั พมิ พ์เลก็ และตวั พิมพ์ใหญ่จะถือวา่ แตกตา่ งกัน ดงั น้ัน ตวั แปรชอ่ื count และ Count จึงเป็นตัวแปรคนละตัวกัน

ชอื่ ตัวแปรทต่ี ง้ั ขึน้ จะตอ้ งไม่ซา้ กับคาหลกั (keyword) ที่ไพทอนใช้เป็นคาสงั่ โดยคาหลักมดี งั ต่อไปน้ี

ทำใบกจิ กรรมที่ 4.2 ข้อท่ี 3-4

ทำใบกจิ กรรมที่ 4.3 กำรเขยี นโปรแกรมทม่ี ีตัวแปรและตวั ดำเนนิ กำร

ตวั อยา่ งท่ี 3.8 ร่วมดว้ ยชว่ ยแชร์ ถำ้ นกั เรยี นไปรบั ประทำนอำหำรฉลองวันปดิ เทอมกบั เพือ่ น และตกลงกันวำ่ จะจำ่ ย ค่ำอำหำรคนละเท่ำ ๆ กนั นกั เรยี นแตล่ ะคนจะตอ้ งจำ่ ยค่ำอำหำรคนละเท่ำใด ใหใ้ ช้คำส่ัง ไพทอนแสดงวธิ ีหำคำตอบทีละลำดับ แนวคิดการแกป้ ญั หา 1.totalPrice รบั ค่ำอำหำทง้ั หมด 2.number รับจำนวนผู้รบั ประทำนอำหำร 3.avg คำ่ อำหำรท้งั หมด/จำนวนผรู้ ับประทำนอำหำร 4.แสดงผล avg

ตวั อย่างที่ 3.8 รว่ มด้วยช่วยแชร์ พมิ พค์ าสงั่ ตอ่ ไปน้ีลงในคอนโซล totalPrice = int(input('ค่าอาหารทง้ั หมด ')) number = int(input('จานวนผูร้ บั ประทานอาหาร ')) avg = totalPrice/number print ('จ่ายค่าอาหารคนละ', avg, 'บาท')

ตัวอยา่ งที่ 3.8 ร่วมด้วยช่วยแชร์ หำกทดลองปอ้ นรำคำอำหำร และจำนวนผรู้ บั ประทำนอำหำร เปน็ 1,289 บำท และ 15 คน ตำมลำดบั จะไดผ้ ลลัพธ์ดงั น้ี >>> totalPrice = int(input('ค่าอาหารทง้ั หมด ')) ราคาอาหารทง้ั หมด >? 1289 >>> number = int(input('จานวนผูร้ บั ประทานอาหาร ')) จานวนผูร้ บั ประทานอาหาร >? 15 >>> avg = totalPrice/number >>> print ('จ่ายค่าอาหารคนละ', avg, 'บาท') จา่ ยค่าอาหารคนละ 85.93333333333334 บาท

การเขียนโปรแกรมไพทอนในโหมดสครปิ ต์ ในโหมดสคริปต์ นักเรยี นต้องเขยี นชดุ คาสง่ั ไพทอนทตี่ ้องการทางานใหค้ รบถว้ นทัง้ หมดก่อน ซึ่งเรียกวา่ โปรแกรม โดยจะตอ้ งบนั ทึกไวเ้ ป็นไฟล์ แลว้ จงึ สัง่ โปรแกรมทางานตามคาสั่งท้งั หมดตามลาดับ เรียกวา่ การรนั โปรแกรม ขอ้ ดขี องการการทางานโดยใช้โหมดสคริปต์ คอื ผใู้ ชส้ ามารถบนั ทึกเกบ็ ไว้เป็นไฟลไ์ ด้ เพ่อื จะได้นามาแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ได้ในภายหลัง และยงั สามารถส่ังรันโปรแกรมท่บี นั ทึกไว้ไดห้ ลายครั้ง

ตัวอย่างท่ี 3.9 ร่วมด้วยช่วยแชร์ 2 Re-run ใหน้ กั เรียนสรา้ งโปรเจคและไฟลโ์ ปรแกรมไพทอน แลว้ ต้งั ชอ่ื หลังจากน้ันปอ้ นคาสง่ั ไพทอนตามลาดบั เหมือนในตวั อยา่ งท่ี 3.8 พรอ้ มกับทดลองรันด้วยการคลกิ ปมุ่ Execute แลว้ ปอ้ นราคาอาหาร และ จานวนผรู้ ับประทานอาหารที่แตกต่างกัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook