สุขศกึ ษาและพลศึกษา เร่ืองเกมและกจิ กรรมทางกาย ชัน้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5
คานา ส่ือการเรียนการสอนนี้จัดทาขึน้ เพ่ือเป็ นส่ือการเรียนการสอนในรายวิชาพล ศึกษา เร่ื องเกมและกิจกรรมทางกาย ซึ้งเป็ นส่ วนหน่ึงของรายวิชาฝึ ก ประสบการณ์วชิ าชีพครูนอกสถานที่ 1 ข้ าพเจ้ าผู้จัดทาหวังอย่ างยิ่งว่ าส่ื อของข้ าพเจ้ าน้ันจะสร้ างคุณประโยชน์ แก่ ผู้ เข้ามาศึกษาไม่มากกน็ ้อย นายอนุวัตร ชูกา้ น ผู้จดั ทา
สารบัญ 1. หลักการออกกาลังกาย 2. รูปแบบการออกกาลังกาย 3. สทิ ธิและความแตกตา่ งระหว่าง บุคคลในการเล่นเกมและกฬี า 4. เกม 5. การละเล่นพนื้ เมอื ง
การออกกาลังกาย การออกกาลังกาย หมายถงึ การเคลอื่ นไหวร่างกายหรือการกระตุ้น ให้ส่วน ตา่ งๆ ของร่างกายทางานมากกว่าภาระปกตอิ ยา่ งมแี บบแผน โคยคานึง ถงึ ความเหมาะสมของเพศ วัย และสภาพร่างกายของแตล่ ะบุคคล การออกกาลังกายจะช่วยส่งเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนือ้ และระบบ ไหลเวียนโลหิต รวมทั้งพัฒนาทักษะทางกีฬา การออกกาลังกายอย่าง สม่าเสมอ จะเสริมสร้างระบบภูมคิ ุ้มกัน ช่วยป้องกันโรคต่างๆ และส่งผลให้มี พัฒนาการ ด้านอารมณ์ สังคมและสตปิ ัญญา และเราควรเลือกกิจกรรมการ ออกกาลังกาย หรือกฬี าทตี่ นเองชอบและถนัด
หลักการออกกาลังกาย การออกกาลังกายท่ถี ูกตอ้ งจะทาใหร้ ่างกายแข็งแรง มีประสิทธิภาพทางาน และมี ความปลอดภยั จากการออกกาลงั กายได้ การออกกาลังกายทถี่ กู ตอ้ งมหี ลักดงั นี้ 1. เลือกกิจกรรมใหเ้ หมาะสมกับวัย ตัวอยา่ งเช่น เดก็ ควรเลือก ทเี่ สริมสร้างทกั ษะ การเคล่ือนไหว และการเล่นเป็ นทีม ผู้สูง่อายุ ควรเลือกกิจกรรม ที่ไม่หนัก จนเกนิ ไป เช่น เดนิ ราไทเ้ กก๊ เป็ นตน้ 2. กิจกรรมที่เลือกควรทาให้เกิดความเหน็ดเหน่ือยพอที่จะทาให้หัวใจเต้นเร็วขึน้ เชน่ การวง่ิ การกระโดดตดิ ตอ่ กนั เป็ นตน้ 3. อบอุน่ ร่างกาย (Warm up) กอ่ นออกกาลังกายทกุ ครั้งนาน 5 - 10 นาที 4. เลือกออกกาลังกายเบาๆ ก่อนเพิ่มเป็ นกิจกรรมหนักๆ เช่น การว่ิงระยะทาง 1 กม. แลว้ จงึ เพมิ่ ระยะทาง เป็ นตน้
5. ออกกาลังกายให้ครบทุกส่วนของร่างกายอย่างสมดุล เช่น การว่ายน้า เป็ นต้น 6. เมอ่ื ออกกาลังกายเสร็จแล้ว ควรผ่อนคลายกล้ามเนือ้ (Cool down) 7. ออกกาลังอย่างสม่าเสมออย่างน้อยสัปดาหล์ ะ 3 ครั้ง แต่ละครั้งนาน ให้ ร่างกายกลับสู่ภาวะปกติ อยา่ งน้อย 30 นาที
รูปแบบการออกกาลังกาย การออกกาลังกายแบง่ ออกเป็ น 2 ลักษณะ ดังนี้ 1. การออกกาลังกายแบบแอโรบกิ (Aerobic Exercise) เป็ นการออกกาลังกายทใ่ี ช้แก๊สออกซิเจน (Oxygen) ตลอดเวลาโดยอาศัยการทางานทต่ี ดิ ตอ่ กันของกล้ามเนือ้ อย่างสม่าเสมอ และเป็ นระยะ เวลานานจะทาใหเ้ พม่ิ ประสิทธิภาพการทางานของหวั ใจ ปอด และระบบไหลเวยี นโลหติ โดยหวั ใจ จะเต้นเร็วขึ้นเพ่ือให้ได้ปริมาณอากาศมากที่สุดสูบฉีดเลือดแรงขึ้นเลือดในร่างกายจึงมีการ ไหลเวียนมากขนึ้ แกส๊ ออกซเิ จนจงึ ถกู กระจายไปยังส่วนตา่ งๆ ของร่างกายเพมิ่ ขึน้ กิจกรรมทใี่ ช้ใน การออกกาลังกายแบบแอโรบกิ มหี ลายชนิด เช่น การว่งิ เหยาะๆ การว่ายนา้ การเต้นแอโรบกิ เป็ น ต้น
2.การออกกาลังกายแบบแอนแอโรบกิ (Anaerobic Exercise) เป็ นการออกกาลังกายทใ่ี ช้พลังงาน แบบไม่ใช้แก๊สออกซิเจน เม่ือฝึ กเป็ นประจาจะมีผลต่อการเพ่ิมขนาดกล้ามเนือ้ ทาให้กล้ามเนือ้ มี ความแข็งแรงมากขึ้น แต่มีผลน้อยกว่าในการเพ่ิมสมรรถภาพของระบบหายใจ และระบบ ไหลเวยี นโลหติ สาหรับผู้ทเี่ ป็ นโรคหวั ใจ หรือโรคความดันโลหติ สูงไม่ควรออกกาลังกายในลักษณะ นีเ้ พราะเมอื่ มกี ารเกร็งกล้ามเนือ้ จะทาใหห้ ัวใจทางานเพมิ่ ขึน้ พร้อมๆ กับความดันโลหติ สูงขึน้ อาจ เป็ นอันตรายต่อชีวิตได้การออกกาลังกายลักษณะนี้จึงเหมาะกับนักกีฬา และผู้ที่ไม่เป็ นโรค ดังกล่าวกิจกรรมที่ใช้ในการออกกาลังกายแบบแอนแอโรบิกมีหลายชนิด เช่น การออกแรงดัน กาแพง การออกแรงบบี วัตถุ การว่ิงระยะสั้น การกระโดดไกล การทมุ่ นา้ หนัก เป็ นต้น
สิทธแิ ละความแตกตา่ งระหว่างบุคคลในการเล่นเกมและกฬี า ในการเล่นเกมและกีฬาจะมีกฎ กติกาในการเล่นผู้เล่นต้องปฏิบัติตาม กฎ กติกา การเล่นเกม หรือการเล่นกีฬาในส่วนท่ีตนเองปฏิบัติ และเคารพการ เล่นในส่วนของ ผู้อื่น ไม่ละเมิดหรือทาผิดกฎ กติกา จึงจะทาให้การเล่นเกมหรือ เล่นกีฬาเกิดความ สนุกสนาน และทาให้เกดิ ความรักความสามัคคตี อ่ กนั นอกจากนี้ เราต้องคานึงถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคล มีความสามารถในการเล่น เกมและการเล่นกฬี าทแี่ ตกต่างกันเราควรคานึงถงึ ความแตกต่าง ระหว่างบุคคล ดังนี้
1. อายุ แต่ละวัยจะมคี วามสนใจในการเล่นเกมและเล่นกฬี าทแี่ ตกต่างกัน วัยของนักเรียน จะสนใจการเล่นเป็ นทมี และกจิ กรรมทเ่ี คลอื่ นไหวร่างกายได้มาก 2. เพศ การเล่นเกมและเล่นกฬี า โดยท่วั ไปเพศชายและสามารถเล่นไดเ้ หมอื นกัน 3. ร่างกาย แต่ละคนมรี ่างกายไม่เหมอื นกัน ซง่ึ ขนึ้ อยู่กบั กรรมพนั ธุบ์ างคนอ้วน บางคนผอม ส่งผลตอ่ การเล่นเกมหรือเล่นกฬี าบางชนิด เช่น การเล่นบาสเกตบอล คนสูงจะไดเ้ ปรียบ มากกว่าคนเตยี้ การต่อตัวคนรูปร่างเล็กควรอย่บู นยอด เป็ นต้น 4. ความถนัด แตล่ ะคนย่อมมคี วามถนัดแตกตา่ งกนั บางคนสามารถเล่นกฬี าไดด้ มี าก หรือ เรียกว่า พรสวรรค์ บางคนอาจจะเคล่ือนไหวร่างกายได้ไม่ดแี ตส่ ามารถวางแผนการเล่น ไดด้ ี เป็ นต้น
เมอ่ื เราเข้าใจสทิ ธแิ ละความแตกตา่ งระหว่างบุคคลแล้วสงิ่ สุดทา้ ยทเ่ี ราควรมี ความมนี า้ ใจเป็ นนักกฬี า คอื รู้แพ้ คอื รู้จักยอมรับในความสามารถของตนว่าไม่ได้ทดั เทยี มกับคู่แข่ง รู้ชนะ คอื เมอื่ มคี วามสามารถเหนือคู่แข่ง ไม่ควรแสดงกริ ิยาเย้ยหยนั ดูถูก หรือเหยยี ดหยาม รู้อภัย คอื ยอมรับความผดิ พลาดทอี่ าจเกดิ ขนึ้
เกม เกม เป็ นกจิ กรรมทที่ าใหเ้ กดิ ความสนุกสนาน มกี ฎ กตกิ า ไม่ ซับซอ้ น สามารถใช้เป็ นกจิ กรรมการออกกาลังกายได้ เกมแบง่ ได้ เป็ นหลายประเภท เช่น เกมเบด็ เตลด็ เกมเบด็ เตลด็ เป็ นเกมทม่ี กี ฎ กตกิ าการเล่นงา่ ยๆ กมเบด็ เตลด็ มอี ยู่หลายเกม เช่น เกมกระโดดตามจุด เกมรถด่วน เกมแม่วจับหนู ไม่ยุง่ ยากซับซ้อน เป็ นตน้ ซง่ึ ในชั้นเรียน นีเ้ สนอแนะเกมแข่งต่อแถว ใหน้ ักเรียนไดฝ้ ึ กเล่น ซง่ึ มี รายละเอยี ด ดังนี้
เกมแข่งต่อแถว เกมแข่งต่อแถว มวี ิธีเล่น ดงั นี้ 1. แบง่ กลุ่ม กลุ่มละเทา่ กันโดยใหผ้ ู้เล่นทกุ คนจดจาสมาชิกในกลุ่มของตนใหไ้ ด้ 2. ใหแ้ ต่ละกลุ่มยนื เข้าแถวตอน และใหผ้ ู้เล่นคนแรกของแตล่ ะแถวยนื ถอื ลูกบอล 1 3. เร่ิมเล่นโดยใหผ้ ู้เล่นคนแรกของแถวขว้างลกู บอลไปข้างหน้าใหไ้ กล ทสี่ ุด แล้วให้ ผู้เล่นทุกคนในแต่ละแถววิง่ แย่งบอลของกลุ่มตน 4. เมอ่ื ผู้เล่นคนใดได้บอลแล้วใหห้ ยุดอยู่กับท่ี แล้วใหผ้ ู้เล่นทเี่ หลอื ของกลุ่มวิ่งมาตอ่ แถว 5. ผู้เล่นกลุ่มใดเข้าแถวเสร็จก่อนเป็ นฝ่ ายชนะ
เกมนาไปสู่กฬี า เกมนาไปสู่กฬี า เกมนาไปสู่กฬี า เป็ นเกมทมี่ กี ฎกตกิ ามากขึน้ มุ่งเน้นใหผ้ ู้เล่นฝึ กทกั ษะเบอื้ งตันของกฬี า เพอ่ื จะไดม้ คี วามคล่องตวั และเรียนรู้วธิ ีเล่นกฬี าได้อยา่ งรวดเร็ว เกมเตะบอลวงกลม มวี ิธีเล่น ดงั นี้ 1. ใหผ้ ู้เล่นเข้าแถวเป็ นวงกลม และจบั มอื กันไว้ 2. ใหเ้ ลอื กผู้เล่นคนหนึ่งเป็ นผู้เร่ิมเตะบอลส่งใหเ้ พอ่ื น โดยเตะใหบ้ อลกลิง้ ไปกบั พนื้ และ ไมใ่ หบ้ อลออกนอกวง ถ้ามผี ู้เล่นคนใดทาบอลออกไปนอกวงจะถูกทาโทษตามทเี่ พอ่ื นส่ัง เกมวิ่งข้ามส่ิงกดี ขวาง มวี ิธีเล่น ดงั นี้ 1. แบง่ นักเรียนเป็ นกลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กนั 2. ใหห้ าสิง่ กดี ขวางมา 2 - 3 ชนิด เช่น กรวย ทอ่ นไม้ แล้วใหว้ างสิง่ กดี ขวางใหม้ รี ะยะหา่ งเทา่ ๆ กัน พร้อมกบั กาหนดจุดเร่ิมต้น และจุดกลับตวั 3. ใหค้ นแรกของแต่ละกลุ่มวิง่ ข้ามสงิ่ กดี ขวางแตล่ ะอยา่ งจนมาถงึ จดุ กลับตวั แล้ววิง่ กลับเข้ามาต่อทา้ ย แถวของกลุ่มตนเองกลุ่มใดวงิ่ ข้าม สง่ิ กดี ขวางไดค้ รบหมดทุกคนก่อนถอื ว่าเป็ นฝ่ ายชนะ
กจิ กรรมแบบผัด กจิ กรรมแบบผลัด เป็ นการแข่งขันหรือเล่นเป็ นกลุ่ม โดยตอ้ งเล่นจนครบทกุ คนถา้ กลุ่มใดทา เสร็จกอ่ น หรือไดค้ ะแนนมากกว่าจะเป็ นผู้ชนะ เกมโยนบอล มวี ธิ ีเล่น ดังนี้ 1. ผู้เล่นเข้าแถวเรียงหน้ากระดาน 2 แถว ยนื หนั หน้าเข้าหากนั 2. ผู้เล่นโยนบอลกลับไปกลับมาและไมใ่ หซ้ า้ คน โดยเร่ิมจากคูท่ ี่ ๑ ไส่ไปจนถงึ คสู่ ุดทา้ ย เกมส่งบอลลอดถา้ มวี ธิ ีเล่น ดังนี้ 1. แบง่ ผู้เล่นออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กันแล้วใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเข้าแถวตอนแล้วยนื แยกเทา้ 2. ใหผ้ ู้เล่นทอี่ ยหู่ วั แถวก้มตวั ลงส่งบอลลอดขาของตนเองใหผ้ เู้ ล่นคนถัดไปแล้วใหส้ ่งต่อๆ กัน ไปจนถงึ คนทา้ ยแถวโดยไม่ใหบ้ อลตกพนื้ 3. ผู้เล่นทอี่ ยู่ทา้ ยแถวเมอ่ื ได้รับบอลแล้วใหร้ ีบว่งิ ไปยนื ทห่ี วั แถว แล้วส่งบอลลอดขาเช่นเดมิ ให้ ปฏบิ ตั เิ ช่นนีต้ ่อไปเรื่อย ๆ จนผู้เล่นคนแรกกลับมาอยูท่ ห่ี วั แถวเช่นเดมิ 4. แถวใดทผ่ี ู้เล่นคนแรกกลับมายนื หวั แถวไดก้ อ่ นจะเป็ นผู้ชนะ
การละเล่นพนื้ เมอื ง การละเล่นพืน้ เมือง เป็ นการละเล่นในท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาแต่อดีต ซึ่งมีกฎกติกาไม่มาก สามารถเล่นได้ทั้งในที่ กลางแจง้ และในทร่ี ่ม ทาใหผ้ ู้เล่นเกดิ ความสนุกสนานเพลิดเพลนิ มคี วามสามคั คี และยังช่วยอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทย การละเล่นพืน้ เมืองมีหลายอย่าง เช่น วิ่งเปี้ ยว อีตัก งูกินหาง รีรีข้าวสาร หมากเก็บ เป็ นต้น ในชั้นนี้นักเรียนได้ฝึ กเล่น ว่งิ เปี้ ยว ซง่ึ เป็ นการละเล่นทเ่ี หมาะกับวัยของนักเรียน ว่ิงเปี้ ยว อุปกรณ์ 1 ไม้ 2 ทอ่ น หรือ ผ้า 2 ผืน 2 หลกั 2 หลัก เช่น เสาหลกั ตน้ ไม้ 1. วางหลักแต่ละหลักใหห้ า่ งกันประมาณ 5 เมตร 2. แบง่ ผู้เล่นออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กันใหแ้ ตล่ ะกลุ่มยนื เข้าแถวอยหู่ ลังหลักโดยหนั หน้าเขา้ หากนั และมผี ู้ตดั สนิ 1คน 3. เมอื่ ผู้ตดั สินใหส้ ัญญาณเริ่มเล่น ใหผ้ ู้เล่นคนแรกของแต่ละแถวถอื ไม้ แล้วกลับมาส่งไมห้ รือผ้าใหก้ ับผู้เล่น หรือผ้ารีบว่งิ ไปอ้อมหลักของฝ่ ายตรงข้าม คนตอ่ ไปของกลุ่มเป็ นคนว่งิ ต่อไปใหว้ ่ิงและส่งไม้หรือผ้าตอ่ กันไปเร่ือย ๆ 4. ขณะทวี่ ง่ิ ใหผ้ ู้เล่นของแตล่ ะฝ่ ายพยายามวง่ิ ไล่อกี ฝ่ ายใหท้ นั แล้วใช้ ไม้หรือผ้าในมอื แตะฝ่ ายตรงข้ามใหไ้ ด้ 5. ฝ่ ายใดไล่แตะฝ่ ายตรงข้ามไดก้ ่อน ถอื ว่าเป็ นฝ่ ายชนะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: