นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั สอน ๔. ดินและปุ๋ย 2. นกั เรยี นแตล ะกลมุ ออกมานาํ เสนอผลงานของ ดินและป๋ยุ มหี ลายประเภท ซ่ึงในการปลูกพชื ให้ได้ผลดี ตอ้ งรู้จัก กลุม โดยครูคอยใหคําแนะนําและใหความรู คณุ สมบตั ิของดนิ และปยุ๋ ชนดิ ต่าง ๆ เพ่อื การเลือกดินและป๋ยุ ให้เหมาะสม เพิ่มเตมิ กับพชื ที่จะปลูก 3. ครูถามคาํ ถามกระตนุ ความคิด ๑) ประเภทของดิน ดินประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ หิน ทราย • นักเรียนคดิ วา ถาเลือกวธิ ีขยายพนั ธุพ ชื ซากพชื และซากสตั ว์ ทต่ี ายทบั ถมกนั มานาน ทา� ใหเ้ กดิ เปน็ ดนิ ทมี่ ลี กั ษณะ ไมเหมาะสมกับชนิดของพืชจะมีผลอยางไร แตกตา่ งกนั ไป ดงั นี้ (แนวตอบ : พชื อาจจะไมเ จรญิ เตบิ โตหรอื เจรญิ เติบโตไดไ มด ี ไมไดผลผลิตตามที่ตองการ) ดนิ เหนียว ดนิ รวน 4. นักเรียนทํากิจกรรมเรียนรูปูพื้นฐาน ขอ 1 หนวยการเรียนรูที่ 3 จากแบบวัดฯ การงาน อาชพี ป.6 เป็นดินที่มีช่องว่างระหว่างเน้ือดินเล็ก เป็นดินท่ีมีช่องว่างระหว่างเน้ือดินก�าลัง และละเอียด อุ้มน้�าได้ดีกว่าดินชนิดอื่น ๆ พท่ีพอดืชี ตไ้อมง่ใกหาญร1่เกเินกไ็บปน�้าโแปลระ่งระมบีธาายตนุอ้�าาไหดา้ดรี เพราะเนื้อดินจับตัวกันแน่น แต่จะระบาย ท�าให้ดินมีความชุ่มช้ืน จึงเหมาะกับการ น้า� ไดไ้ มด่ ี เมือ่ ดินแหง้ จะมคี วามแขง็ มาก ปลูกพชื มากทสี่ ดุ ดินทราย ดนิ รว นปนทราย เป็นดินที่มีทรายปนอยู่จ�านวนมาก จึงมี เป็นดินที่มีลักษณะของดินร่วนและดิน เนื้อหยาบร่วน มีช่องว่างระหว่างเนื้อดิน ทรายผสมกนั เกบ็ นา้� ไดพ้ อสมควร ระบาย ใหญ่ ระบายน�้าได้ง่าย เก็บน�้าไมไ่ ด้ จงึ ไม่ นา้� ไดด้ ี สามารถใชป้ ลกู พชื ไดโ้ ดยใสป่ ยุ๋ เพอ่ื เหมาะตอ่ การปลกู พชื ทีต่ ้องการน้า� เพมิ่ ธาตอุ าหารใหก้ บั ดนิ แลว้ จงึ นา� ไปใชไ้ ด้ 3๐ นักเรียนควรรู กิจกรรม ทา ทาย 1 ธาตุอาหารทีพ่ ชื ตองการ เพ่อื ใชในการเจรญิ เติบโต มีอยู 16 ธาตุ ดังนี้ ครใู หน กั เรยี นสบื คน ขอ มลู เกยี่ วกบั ดนิ ในทอ งถนิ่ คนละ 1 ชนดิ 1. กลมุ ธาตุในนํา้ และอากาศ จํานวน 3 ธาตุ ไดแก คารบ อน ไฮโดรเจน แลว ออกมานาํ เสนอหนา ชนั้ เรยี น ตามหัวขอ ดงั นี้ และออกซิเจน 2. กลุมธาตุในดิน ซึ่งพืชตองการในปริมาณมาก จํานวน 6 ธาตุ ไดแก • ชนดิ ของดิน ไนโตรเจน ฟอสฟอรสั โพแทสเซยี ม แมกนเี ซยี ม กาํ มะถนั และแคลเซยี ม • คุณลักษณะของดนิ 3. กลุมธาตุอาหารเสริม ซ่ึงพืชใชในปริมาณนอยแตขาดธาตุเหลาน้ีไมได • ประโยชนข องดนิ จาํ นวน 7 ธาตุ ไดแ ก เหลก็ แมงกานสี สงั กะสี ทองแดง โบรอน โมลบิ ดนี มั • พืชทเี่ หมาะสาํ หรบั ปลูกกับดนิ และคลอรนี T40
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๒) ประเภทของปุ๋ย ปุ๋ยเป็นสารอินทรีย์ที่ใช้เป็นอาหารของพืช ขนั้ สรปุ เพอื่ บ�ารุงพืชให้เจริญงอกงาม ปุ๋ยแบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท ดงั นี้ 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู กย่ี วกบั การ ๑ ปยุ๋ อินทรีย์ เปน็ ปยุ๋ ท่ีไดจ้ ากซากพชื ปลูกพชื และซากสตั ว์ หรอื มูลของสิง่ มชี ีวติ ตา่ ง ๆ แบ่งออกเปน็ ๔ ชนดิ ไดแ้ ก่ 2. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสัยหรือ ๑. ปยุ๋ คอก ไดจ้ ากมลู สตั ว์ เชน่ มลู ววั ความรเู พ่มิ เตมิ มูลไก่ ๒. ปยุ๋ พชื สด ไดจ้ ากการไถกลบพชื ลง 3. นักเรียนทําใบงานท่ี 3.1 เรื่อง ประเภทและ ไปในดนิ เช่น การปลกู พืชตระกลู ประโยชนของพันธุพชื ใบงานที่ 3.2 เร่อื ง การ ถัว่ แลว้ ไถกลบใหเ้ ปน็ ป๋ยุ ขยายพนั ธพุ ชื และใบงานที่ 3.3 เรือ่ ง ดินและ ปยุ จากแผนการจดั การเรยี นรู ขนั้ ประเมนิ ครูวัดและประเมินผลนักเรียนจากใบงานท่ี 3.1-3.3 จากแผนการจัดการเรียนรู ๓. ปนยุ๋้�ำหหมมักกั ชไีวดภ้จำาพกกาไดรห้จามกกั กซาารกหพมชื ักรซวามกกพบั ืชมผลู สสมัตกว์ับแกลาว้ กทนงิ้ ้�าไตวร้าะลย1ะแหลน้วง่ึ ทจิ้งงึไวน้รา� ะไยปะใหชน้ไดึ่ง้ ๔. จงึ นา� ไปใช้ได้ ๒ ปุ๋ยอนินทรยี ์ เป็นปุ๋ยท่ีได้จากการ สังเคราะห์แร่หินหรือสารเคมีออกมาใน รปู ของของเหลว เกล็ด หรือเม็ด เพอ่ื ให้ ต้นพืชสามารถน�าไปใช้เป็นอาหารได้ง่าย แบ่งออกเปน็ ๒ ชนดิ ได้แก่ ๑. ปุ๋ยเด่ียว เป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหาร หลักเป็นองค์ประกอบเพียงธาตุ เดยี ว คือ ไนโตรเจน (N) บ�ารุงใบ ฟอสฟอรัส (P) บา� รงุ ดอกและผล หรอื โพแทสเซยี ม (K) บา� รงุ หวั และรากพืช ๒. ปุ๋ยผสม เป็นปุ๋ยท่ีมธี าตุอาหารหลักเป็นองคป์ ระกอบตั้งแต่ ๒ ธาตขุ น้ึ ไป หากมี ธาตุอาหารครบท้ัง ๓ ธาตุ จะเรยี กวา่ ปุ๋ยสมบรู ณ์ 31 ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขอ ใดจัดเปนปยุ อนินทรีย 1 กากน้าํ ตาล เปนผลพลอยไดจ ากการผลติ นาํ้ ตาลทรายจากออ ย ไดมาจาก 1. การไถกลบพชื ลงไปในดิน สวนของของเหลวท่ีเหลือหลังจากการแยกเอาผลึกของนํ้าตาลออก มีลักษณะ 2. การใสมลู ววั มูลไกล งในดนิ เหนยี วขน สนี าํ้ ตาลเขม องคป ระกอบสว นใหญเ ปน นาํ้ ตาลซโู ครสทไ่ี มต กผลกึ ใน 3. การหมักซากพืชผสมกบั กากน้ําตาล การผลติ นา้ํ ตาลทราย ซงึ่ เปน ผลพลอยไดท เ่ี กดิ ขน้ึ 4-6 % ของปรมิ าณออ ยทใ่ี ชใ น 4. การสังเคราะหแรห นิ ออกมาในรปู ของเมลด็ การผลิต ภายในกากนํ้าตาลประกอบดวยนาํ้ ตาลประมาณ 50-60 % และแรธาตุ ตางๆ ประโยชนข องกากนํา้ ตาล มดี ังนี้ (วเิ คราะหค าํ ตอบ : ปยุ อนนิ ทรยี เปน ปยุ ทไี่ ดจ ากการสงั เคราะหแ ร หนิ หรอื สารเคมอี อกมาในรปู ของของเหลว เกลด็ หรอื เมลด็ เพอ่ื ให 1. เปน อาหารของพชื และสัตว เนือ่ งจากในกากนาํ้ ตาลมไี นโตรเจน ตนพชื สามารถนําไปใชเปนอาหารไดง า ย สว นปยุ ที่ไดจ ากซากพชื ฟอสฟอรสั และโพแทสเซียม และซากสัตว หรือมลู ของสิง่ มีชวี ิตตา งๆ นนั้ คอื ปุยอินทรีย ดงั นั้น ขอ 4. จึงเปนคาํ ตอบท่ถี กู ตอง) 2. ใชในอุตสาหกรรมหมักหลายชนิด เชน อุตสาหกรรมหมักแอลกอฮอล สุรา กรดมะนาว กรดน้าํ สม กรดแล็กตกิ ผงชูรส ยสี ตข นมปง T41
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขนั้ นาํ ๓) กำรเตรยี มดนิ และปุย๋ การเตรยี มดนิ ส�าหรับปลูกพชื มีวธิ ีการ ดงั น้ี 1. นักเรยี นแบง กลุมตามความสมัครใจ 2. ครถู ามคําถามนกั เรยี น ๑ ก�าจดั วชั พืชออกจากดนิ ๒ ขุดดินแล้วพลิกดนิ ด้านล่างข้ึน ตากดินไว้ประมาณ ๑ สปั ดาห์ เพ่ือให้ • ถานักเรียนจะปลูกไมดอกหรือไมประดับ นักเรียนจะเลือกปลูกไมดอกหรือไมประดับ แสงแดดช่วยฆา่ เชือ้ โรค ชนดิ ใด เพราะอะไร ๓ ย่อยดนิ ใหเ้ ป็นกอ้ นเล็ก ๆ แล้วผสมปยุ๋ คอกลงในดิน อาจใส่เศษฟาง (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน) หรือเปลือกถั่วแหง้ ๆ ลงไปด้วย เพือ่ ช่วยเพ่มิ ธาตอุ าหารในดนิ ขน้ั สอน ๕. ตวั อยำงกำรปลกู ไม้ดอก ไมป้ ระดบั และผักสวนครวั เตรยี มการสาธิต การปลกู ไมด้ อกไมป้ ระดบั เพอ่ื ขยายพนั ธ์ุ และการปลกู ผกั สวนครวั เพอื่ รบั ประทานหรอื เปน็ สมนุ ไพรรกั ษาโรค มวี ธิ กี ารแตกตา่ งกนั ออกไป เรา 1. ครูจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ เคร่ืองมือ และ จงึ ควรศกึ ษาวธิ กี ารปลกู ทถ่ี กู ตอ้ งเพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลผลติ ตามความตอ้ งการ ดงั น้ี แปลงเกษตรท่ีใชใ นการปลกู ไมด อกไมประดับ µÇÑ ÍÂÒ‹ § การปลกู โกสน 2. ครูถามคําถามกระตุนความคิด • นักเรยี นเคยปลกู ไมด อกไมประดับดว ย โกสน จัดเป็นไม้ประดับ ลักษณะเป็นไม้ ตนเองหรอื ไม จงอธบิ าย ยืนต้นประเภทไม้พุ่ม ล�าต้นสูงประมาณ ๓๕ (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น เซนติเมตร ใบมีสีสันและลวดลายที่สวยงาม โดยใหอ ยใู นดุลยพินจิ ของครูผูสอน) แตกตา่ งกนั ขน้ึ อยกู่ บั ชนดิ ของแตล่ ะพนั ธ์ุ นยิ ม ขยายพนั ธุ์โดยการปกั ชา� สาธติ การเตรยี มดนิ 1. ครสู าธติ วธิ กี ารปลกู ไมด อกไมป ระดบั ใหน กั เรยี น ดูเปนตัวอยาง เพ่ือใหนักเรียนเกิดการเรียนรู ดนิ ท่จี ะปลูกโกสน ควรเปน็ ดนิ ผสมกบั วสั ดอุ ินทรีย์ โดยใช้อัตราส่วน จากประสบการณจริง ดินรว่ น : ขี้เถ้าแกลบหรอื แกลบด�า : ขุยมะพร้าว : ปุ๋ยคอก ท่ี ๑ : ๑ : ๒ : ๑ 3๒ 2. ครอู ธบิ ายประกอบทลี ะขนั้ ตอน เพอ่ื ใหน กั เรยี น สงั เกตและจดจําไดอยางถูกตอ ง 3. นกั เรยี นกลมุ เดมิ รว มกนั ปลกู ไมด อกไมป ระดบั ตามที่ครูสาธิต โดยบันทึกลงในใบงานท่ี 3.4 เรอ่ื ง การปลูกไมดอกไมป ระดับ จากแผนการ จดั การเรยี นรู สรุปการสาธิต นักเรยี นรว มกนั สรุปวธิ กี ารปลกู ไมดอกไม ประดับ เกร็ดแนะครู กิจกรรม เสรมิ สรางคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค ครูจัดกระบวนการเรียนรู โดยการใหน ักเรียนปฏิบัติ ดังน้ี ครูใหนักเรียนรวมกันทํากิจกรรม “ปุยหมักจากเศษขยะใน • สืบคนขอมูลเกี่ยวกับการเตรียมขยายพันธุพืช เชน วัสดุอุปกรณ พื้นที่ โรงเรยี น” ดงั นี้ การเตรยี มดิน 1. ใหนักเรียนเก็บกวาดใบไมที่รวงบริเวณโรงเรียนและนําเศษ • อภปิ รายรายละเอียดเกย่ี วกบั การเตรยี มการขยายพนั ธพุ ืช อาหารมาท้ิงในถังที่เตรียมไว เพ่ือเปนการทําความสะอาด • ฝก ขยายพนั ธพุ ชื จนเกดิ เปน ความรคู วามเขา ใจวา การขยายพนั ธพุ ชื ใหม ี รอบๆ โรงเรยี น และเพื่อเปนสว นประกอบของปยุ หมัก คณุ ภาพ ควรศกึ ษาวิธกี ารและขั้นตอนตางๆ กอนเสมอ 2. นักเรียนรวมกันทําปุยหมัก โดยนําเศษใบไม เศษอาหาร และจลุ นิ ทรยี ซ ง่ึ หาไดจ ากมลู สตั ว เชน มลู ววั มลู ไก มาคลกุ ใหเ ขากนั วันละ 1-2 คร้งั แลว พรมนํ้าสปั ดาหละ 1 ครัง้ 3. ปดฝาถังทิ้งไว 1-2 เดือน หากปุยยังมีความชื้นอยูควรงด พรมนา้ํ และปลอ ยใหแ หง สนทิ จะไดป ยุ ทย่ี อ ยสลายสมบรู ณ สามารถนาํ ไปใชกับพืชชนิดตา งๆ ที่ปลูกไว T42
นาํ สอน สรุป ประเมิน การปลกู ขน้ั สอน ๑ ใส่ดินท่ผี สมแลว้ ในอตั ราส่วนที่กลา่ วขา้ งตน้ ลงในกระถางปลกู วัดผลประเมินผล ๒ เตรียมก่งิ พันธ์ยุ าว ๔-๖ นว้ิ ปลดิ ใบออกท้งั หมดหรอื เหลือไวเ้ ฉพาะสว่ นยอด ๓ ปักกงิ่ พนั ธุ์ในกระถาง ปลกู ใหล้ ึกประมาณ ๒-๓ นิ้ว ในแนวเอียง ๔๕ องศา ครูวัดและประเมินผลนักเรียนจากการปฏิบัติ ตามวิธีการปลูกไมดอกไมประดับ และจากการ การดแู ลบา� รงุ รกั ษา บนั ทกึ วธิ กี ารปลกู ไมด อกไมป ระดบั ในใบงานท่ี 3.4 ๑ รดนา�้ วนั ละ ๑ คร้งั และเมื่อต้นแตกยอดและใบแล้ว ควรรดน้า� วนั ละ ๑-๒ ครัง้ ขน้ั สรปุ ๒ ตดั กิ่งท่ีแกอ่ อก เพ่อื ให้มีกงิ่ แขนงแตกเปน็ หน่อขนึ้ มาใหม่ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปขั้นตอนการปลูก ไมด อกไมประดับและประโยชนที่ไดรับ ขนั้ ประเมนิ ครวู ดั และประเมนิ ผลนกั เรยี นจากใบงานที่ 3.4 การเกบ็ เกย่ี ว ๑ ตดั แตง่ กง่ิ ใหเ้ ปน็ รปู ทรงทง่ี ดงามตามความตอ้ งการ อาจตดั ยอดหรอื ตอนยอดลงเพอื่ ให้แตกเปน็ พุ่ม ๒ ใช้ปลกู เป็นไมก้ ระถางหรือประดับสวนภายนอกอาคาร µÇÑ ÍÂÒ‹ § การปลูกถั่วฝกยาว ต้นมถีลว่ัักฝษก ณยำะวเปเ็ปนน็เถพาชื1ลผม้ ลลเกุปต็นรฝะักกลูยถาวว่ั สีเขียว ผิวขรุขระ สามารถรับประทาน สด ๆ หรอื นา� ไปประกอบอาหารต่าง ๆ ตามความตอ้ งการ 33 ขอสอบเนน การคิด นักเรียนควรรู เม่ือเก็บเก่ียวผักชนิดใดแลว ไมจําเปนตองลางกอนนําไป 1 เถา หรอื ไมเถาเล้ือย หมายถงึ พรรณไมทีม่ ลี ักษณะเปน ไมพ ุมทต่ี อ งอาศัย จาํ หนาย การยดึ เหนยี่ ว พาดพิงตามพนื้ ดนิ ตน ไม หรอื วตั ถุอืน่ เพอ่ื ใหลําตนเจริญเตบิ โต อยไู ด ไมเล้อื ยมีลักษณะการเลอื้ ยและการยึดเกาะทต่ี างกัน เชน 1. หวั กระเทยี ม 2. ผักกระเฉด 1. ไมเ ถายนื ตน มลี าํ เถาแขง็ แรง ลาํ ตน มกั มหี นามแขง็ ใชเ ปน เครอ่ื งยดึ เกาะ 3. แตงกวา ลาํ ตน เมอื่ มอี ายนุ านปจ ะมเี นอ้ื ไม บางชนดิ ถา ตดั แตง ทรงพมุ จะสามารถ 4. ผักบงุ ยืนตน อยไู ดเหมอื นไมพ มุ เชน เฟอ งฟา การเวก เถาเทพี (วิเคราะหคําตอบ : ผักกระเฉด แตงกวา และผักบุง ควรลาง 2. ไมเ ถาลม ลกุ มกั มอี ายสุ น้ั เลอ้ื ยตามรว้ั หรอื ตามตน ไมอ น่ื ๆ โดยใชล าํ เถา ทําความสะอาดกอนนํามาประกอบอาหาร เพราะอาจมีสารเคมี เกยี่ วพนั รอบวตั ถุ ยดึ เหนยี่ วเพอื่ ความเจรญิ เตบิ โตตามความยาวมากกวา หรือส่ิงสกปรกตกคาง แตหัวกระเทียมไมจําเปนตองลางกอน การเจริญเติบโตออกดานขาง มักจะมีมือเกาะหรือเถามวนพันรอบๆ เพราะมีเปลือกหอหุม และการลางอาจทําใหหัวกระเทียมเนาได สิง่ ท่ียดึ เหนีย่ ว เชน อญั ชนั พวงชมพู ดงั นัน้ ขอ 1. จงึ เปนคําตอบทถ่ี กู ตอง) T43
นํา นาํ สอน สรุป ประเมิน ขนั้ นาํ การปลกู 1. นกั เรียนแบงกลุมตามความสมคั รใจ ๑ เตรียมแปลงปลกู ขนาด ๑ × ๔ เมตร 2. ครถู ามคําถาม ๒ ถอนหรอื ถางวชั พชื ออกดว้ ยมดี ดายหญา้ หรอื จอบ แลว้ ขดุ ดนิ ดว้ ยจอบใหล้ กึ ๑๕-๒๐ ๓ เเมซอน่ื ดตนิเิ มแตหรง้ แจลาว้กในหั้นโ้ รตยาปกนูดขนิ าใวห1พแ้ รหอ้ ้งมปทระง้ั มปายุ๋ ณคอ๕กห-๗รอื วปันยุ๋ หมกั ใหท้ ว่ั แปลง เพอื่ ลดความ • ถานักเรียนจะปลูกผักสวนครัว นักเรียนจะ เลอื กผักสวนครัวชนดิ ใด เพราะอะไร เป็นกรดของดิน แลว้ ใช้จอบยอ่ ยดินกอ้ นใหญ่ให้เล็กลง และเก็บเศษวัชพชื ออก (แนวตอบ : ผกั คะนา เพราะชอบรับประทาน) ๔ ตากดนิ ไว้ ๒-๓ วนั แล้วรดนา�้ ใหช้ มุ่ ใชเ้ สียมขดุ หลมุ ให้ลกึ ๕-๖ เซนติเมตร ระยะ ขน้ั สอน ห่างระหว่างหลุม ๓๐ เซนติเมตร ระยะห่างระหวา่ งแถว ๗๐ เซนตเิ มตร ๕ คดั เลอื กเมลด็ พนั ธด์ุ ว้ ยการแชน่ า้� และเกบ็ เมลด็ ทลี่ อยนา�้ หรอื ไมส่ มบรู ณอ์ อก แชเ่ มลด็ เตรยี มการสาธติ ทิง้ ไว้ ๑ ช่ัวโมง แลว้ น�าไปหยอดในหลุมทข่ี ุดไว้ หลุมละ ๓-๔ เมลด็ กลบดินให้แนน่ นกั เรยี นแตล ะกลมุ ศกึ ษาความรู เรอื่ ง การปลกู แลว้ รดน�้าดว้ ยบัวรดน้า� ให้ชุ่ม จากนนั้ นา� ฟางแห้งมาคลมุ ใหท้ ั่วแปลง ถ่ัวฝกยาว จากหนงั สือเรยี น การงานอาชพี ป.6 การดแู ลบา� รงุ รกั ษา สาธิต ๑ รดนา�้ ทกุ วนั วนั ละ ๒ คร้งั เชา้ และเยน็ โดยรดใหช้ มุ่ 1. ครูสาธิตการปลูกถั่วฝกยาวใหนักเรียนดูเปน ๒ ประมาณ ๑ สปั ดาห์ ให้ถอนต้นอ่อนท่ีไม่แข็งแรงออกเหลอื หลมุ ละ ๒-๓ ตน้ ตัวอยาง พรอ มอธิบายประกอบ ๓ เม่อื ยอดถวั่ มีเถายาวประมาณ ๒๐ เซนตเิ มตร ให้น�าไมร้ วกหรือก่งิ ไม้ยาวประมาณ 2. นักเรียนแตละกลุมฝกปฏิบัติตาม แลวบันทึก ๒ เมตร ปกั ในหลมุ โดยใหไ้ มแ้ ตล่ ะแถวโคง้ ปลายเขา้ หากนั แลว้ นา� ไมม้ าพาดตรงกลาง ลงในใบงานท่ี 3.5 จากแผนการจัดการเรยี นรู จากน้ันมัดด้วยเชือกหรือลวดให้แนน่ ถ่วั จะเลอ้ื ยไปตามไม้ เรยี กว่า คำ้ งถัว่ ๔ เมอ่ื ถวั่ ฝกั ยาวอายไุ ด้ ๒-๓ สปั ดาห์ ใหก้ า� จดั วชั พชื พรวนดนิ รอบๆ ตน้ ใสป่ ยุ๋ และรดนา้� สรปุ การสาธติ การเกบ็ เกย่ี ว ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกับ ขนั้ ตอนการปลกู ถัว่ ฝกยาว จากนัน้ ครูสมุ นกั เรียน ๑ เมื่อถ่ัวฝักยาวอายุ ๕๐-๖๐ วัน สามารถเก็บไปรับประทานได้ โดยสังเกตที่ฝักถ่ัว ออกมาสาธิตขั้นตอนการปลกู ถวั่ ฝกยาว หากฝักเล็กและลบี แสดงวา่ ยังเจรญิ เติบโตไดไ้ มด่ ี ควรรอให้ฝักอวบจึงจะเก็บได้ วดั ผลประเมินผล ๒ การเก็บถวั่ ฝักยาวควรใช้มีดท่บี างและคมเฉอื นตรงก้านฝกั ระวังอยา่ ใหโ้ ดนฝกั และ เถา แล้วน�ามาเรยี งให้ขว้ั ฝกั อย่ทู างเดยี วกัน 1. ครูวัดและประเมินผลนักเรียนจากการปฏิบัติ ตามวิธีการปลูกโกสนและถวั่ ฝก ยาว ปลอดภัยไว้กอ่ น 2. นกั เรยี นทาํ กจิ กรรมตามตวั ชว้ี ดั กจิ กรรมที่ 3.1 หากมีแมลง โรคพืช หนอนหรือเพล้ียมารบกวนต้นถัว่ ฝกั ยาว ควรก�าจดั ด้วยสมุนไพร ขอ 1 หนว ยการเรยี นรทู ่ี 3 จากแบบวดั ฯ การงาน หรือน้�าส้มควันไม้ และไม่ควรใช้สารเคมี เพราะจะทา� ให้สารพิษตกค้างในถั่วและเป็น อาชพี ป.6 34 อันตรายต่อผบู้ ริโภค ขน้ั สรปุ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปข้ันตอนการปลูก ถว่ั ฝกยาวและประโยชนทีไ่ ดรบั ขนั้ ประเมนิ ครตู รวจใบงานที่ 3.5 จากแผนการจดั การเรยี นรู และกิจกรรมท่ี 3.1 ขอ 1 จากแบบวัดฯ การงาน อาชีพ ป.6 นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 ปนู ขาว เปน ผลติ ภณั ฑท ไี่ ดจ ากกระบวนการเผาหนิ ปนู จนเหลอื แตแ คลเซยี ม ขอใดเปน วิธกี าํ จดั แมลงศตั รพู ืชท่ีไมป ลอดภยั ตอผบู ริโภค ออกไซด มีลักษณะเปนกอนหรือผงสีขาว เม่ือละลายน้ําจะใหสภาพเปนดาง 1. การใชสารเคมีฆาแมลง นยิ มใชม ากในการเกษตร ประโยชนข องปูนขาว มดี ังนี้ 2. การใชแ สงไฟเปน กบั ดัก 3. การใชส ารสกดั จากเมลด็ สะเดา 1. ปรับปรุงดิน โดยปรับสภาพความเปนกรด-ดาง เปลี่ยนดินใหรวนซุย 4. การใชสัตวชนดิ อ่ืนๆ มากําจดั แมลงศตั รพู ชื ฆาเชื้อโรคและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรียตางๆ ในดิน (วิเคราะหคําตอบ : การใชสารเคมีฆาแมลงศัตรูพืช จะทําใหมี เพือ่ ใหดนิ มีคณุ ภาพเหมาะแกการเพาะปลูก สารอันตรายตกคางอยูในพืช ซ่ึงเปนอันตรายตอผูบริโภค ดังนั้น 2. ปรับสภาพนํ้าในบอเก็บน้ํา แหลงน้ําขัง หรือระบบบําบัดน้ําเสียใน ขอ 1. จงึ เปน คําตอบที่ถูกตอง) การเกษตร โดยเฉพาะแหลงน้ําท่ีมีลักษณะเปนกรดจากภาวะการ เนา เสยี ของสารอนิ ทรยี ห รอื แหลงน้าํ ทมี่ กี รดกํามะถันมาก T44
นํา สสออนน สรุป ประเมิน ó ¡ÒÃàÅÂéÕ §ÊµÑ Ç ขนั้ นาํ สตั วเ์ ลย้ี งทค่ี นเรานา� มาเลยี้ งมหี ลายประเภท เพอ่ื ประโยชนท์ แ่ี ตกตา่ ง นําเขา้ สบู ทเรยี น กนั เช่น เล้ยี งไว้ดูเล่น เลี้ยงไว้เปน็ อาหาร เลยี้ งไวใ้ ชง้ าน 1. ครถู ามคําถามกระตนุ ความคดิ ๑. ประเภทของสตั ว์เล้ยี ง • นักเรียนอยากเล้ียงสัตวชนิดใดมากท่ีสุด เพราะอะไร สตั วเ์ ลย้ี งทเี่ รานา� มาเลยี้ งมหี ลายประเภท เราสามารถแบง่ ได้ ดงั นี้ (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยใู นดลุ ยพินจิ ของครูผสู อน) ๑ เล้ยี งไวดเู ลน 2. ครแู จกกระดาษแขง็ ขนาด 3 x 4 นว้ิ ใหน กั เรยี น กระตาย วาดภาพสัตวท่ีบานของนักเรียนเล้ียงไวหรือ สัตวทอี่ ยากเล้ียง แมว นก 3. ครูสอบถามนักเรียนวา สัตวเลี้ยงท่ีนักเรียน ๒ เล้ียงไวเปนอาหาร ววั หมู วาดภาพลงในกระดาษแขง็ นน้ั เลยี้ งไวเ พอื่ อะไร และมปี ระโยชนอยา งไร ไก เปด ขนั้ สอน ๓ เลยี้ งไวใชง าน ชา ง การจัดการเรียนรู้ มา 1 ควาย 1. นักเรียนกลุมเดิมรวมกันจําแนกประเภทของ สัตวเลี้ยงของสมาชิกกลุม โดยศึกษาความรู เร่ือง ประเภทของสตั วเล้ียง จากหนงั สือเรยี น การงานอาชพี ป.6 2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันพิจารณาภาพวาด ของสมาชิก จากน้ันจําแนกตามประเภทของ สัตวเ ลย้ี งตามทีก่ าํ หนด 3. นักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาความรู เร่ือง การคัดเลือกพันธุสัตว การขยายพันธุสัตว จากหนงั สือเรยี น การงานอาชพี ป.6 àกÃçดกÒ÷íÒ§Òน นอกจากเราจะเลย้ี งสตั ว์ไวเ้ พอื่ ไวด้ เู ลน่ ใชง้ าน หรอื เปน็ อาหารแลว้ มลู ของสตั ว์ เชน่ เปด็ ไก่ ววั ยงั สามารถทา� เปน็ ปยุ๋ คอกหรอื ปยุ๋ หมกั ไดอ้ กี ดว้ ย 3๕ กิจกรรม เสริมสรา งคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค นักเรียนควรรู ครูตดิ บัตรภาพสัตว 5-6 ชนดิ บนกระดาน เชน ววั ควาย แพะ 1 มา ในอดีตมนุษยใชมาเปนพาหนะในการขับข่ีและขนสัมภาระ เน่ืองจาก แลวใหนักเรียนชวยกันตอบวา หากนักเรียนพบสัตวเหลานี้อยู มาเปนสัตวท่ีรวดเร็วปราดเปรียว มียานพาหนะที่เรียกวา รถมา ใชงานกัน รมิ ทาง นกั เรยี นจะมวี ธิ ปี ฏบิ ตั ติ อ สตั วเ หลา นอ้ี ยา งไร จากนน้ั ครแู ละ อยางแพรหลาย ในปจ จบุ ันมกี ารเล้ียงมาตามหนว ยงานตา งๆ ภาคเอกชนนยิ ม นักเรยี นรวมกนั อภิปรายผล เลย้ี งไวใ ชในการกฬี า เชน กฬี าแขง มา กฬี าโปโล กีฬาขีม่ า ขา มเคร่ืองกีดขวาง และเลย้ี งเพ่อื ขยายพนั ธมุ าไวจ ําหนา ยเปนสินคา สําหรบั ภาครฐั มกี ารเลย้ี งมา เพอื่ ใชในราชการ เชน เลี้ยงไวฝ กใชใ นกจิ การ ทหารมา ตํารวจมา และเลี้ยงมา ไวใชใ นการผลติ วคั ซนี เซรุม สถานทีเ่ ล้ียงมา สวนใหญจะมีบริเวณกวางขวาง อากาศดีมีทุงหญาที่เหมาะกับการปลูกหญา ไวเปนอาหารมา ประเทศไทยมีการเล้ียงมาที่แพรหลายในจังหวัดกาญจนบุรี สระบุรี นครราชสมี า T45
นํา สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั สอน ๒. กำรคดั เลือกพนั ธุส์ ัตว์ สรปุ และนาํ หลกั การไปประยุกต์ใช้ การนา� สตั วม์ าเลย้ี งควรคดั เลอื กพนั ธ์ุใหเ้ หมาะสมกบั ความตอ้ งการ ซ่งึ การคดั เลอื กพันธุส์ ตั วเ์ ล้ียงมหี ลักการ ดงั นี้ 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเก่ียวกับ ประเภทของสัตวเลี้ยง การคัดเลือกพันธุสัตว ๑ เลือกพันธท์ุ ่ตี รงกบั จุดประสงคข์ องความตอ้ งการ และการขยายพนั ธสุ ัตว ๒ สงั เกตจากลกั ษณะภายนอกของสตั ว์ ซงึ่ แสดงถงึ ความสมบรู ณข์ องสตั ว์ เชน่ ลกั ษณะรูปร่าง ลักษณะการเคลื่อนไหว 2. ครถู ามคําถามกระตุน ความคดิ ๓ สังเกตจากผลผลติ ของสัตว์ เชน่ หากตอ้ งการเลย้ี งไก่เพ่ือนา� ไข่ไปขาย • การขยายพันธสุ ตั วม ปี ระโยชนอ ยางไร ควรเลือกไก่พันธุ์ไขด่ กท่มี ีลกั ษณะดี (แนวตอบ : ชวยเพิ่มจํานวนสัตว รักษาพันธุ ๔ ศกึ ษาประวตั ิความเปน็ มาของสายพนั ธ์สุ ตั วเ์ ลีย้ ง สัตว ปรับปรงุ พันธุสตั วใหด ยี ่ิงข้นึ ) ๕ เเลลืืออกกพพนันั ธธุุท์์ให่ีม้เีคหวมาามะตสา้มนกทบั าสนภโารพค1สขูงอแงลทะอ้ ทงนถติ่นอ่ สภาพภมู ิอากาศ ๖ 3. นกั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั ทาํ ใบงานที่ 3. 6 เรอ่ื ง การเล้ียงสัตว จากแผนการจดั การเรยี นรู ๓. กำรขยำยพันธ์ุสัตว์ 4. นักเรียนทํากิจกรรมเรียนรูปูพื้นฐาน ขอ 2 การขยายพนั ธส์ุ ตั ว์ เปน็ การเพมิ่ จา� นวนของสตั ว์ใหม้ ปี รมิ าณมาก หนวยการเรียนรูท่ี 3 จากแบบวัดฯ การงาน เพียงพอตอ่ ความตอ้ งการ ซึ่งสามารถแบ่งไดเ้ ปน็ ๒ ประเภท ดังน้ี อาชีพ ป.6 การผสมพันธุ์โดยวธิ ธี รรมชาติ วดั ผลประเมนิ ผล เปน็ การนา� สตั วต์ วั ผแู้ ละสตั วต์ วั เมยี มาผสมพนั ธก์ุ นั โดยสตั วท์ นี่ า� มา ครูวัดและประเมินความรูความเขาใจของ ผสมพันธกุ์ ันจะเป็นสัตวพ์ ันธ์เุ ดียวกันหรอื ตา่ งสายพนั ธกุ์ ็ได้ นกั เรยี นจากการทาํ ใบงานและการสรปุ ความรู การผสมพนั ธ์ุโดยวิธีผสมเทยี ม ขนั้ สรปุ เป็นการน�าน้�าเช้ือของสัตว์ตัวผู้มาฉีดเข้าไปในร่างกาย ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู กย่ี วกบั การ ของสัตว์ตัวเมียในระยะที่พร้อมผสมพันธุ์ จะท�าให้สัตว์ เล้ียงสัตว และเนนยํ้าใหนักเรียนนําความรูที่ได ตวั เมยี ตงั้ ทอ้ งไดเ้ หมอื นกบั การผสมพนั ธ์ุโดยวธิ ธี รรมชาติ จากการศึกษาไปใชใ หเ กดิ ประโยชนก บั สัตวเ ล้ยี ง 3๖ ขน้ั ประเมนิ ครวู ดั และประเมนิ ผลนกั เรยี นจากใบงานท่ี 3.6 นักเรียนควรรู กจิ กรรม ทาทาย 1 ความตา นทานโรค หมายถงึ ภูมิตา นทานในรางกายของสตั ว ซ่งึ สงั เกตได ครใู หนักเรยี นแบงกลุม กลมุ ละ 3-5 คน เลือกสตั วท ่ีชน่ื ชอบ จากสุขภาพของสัตว การสรา งภมู ติ านทานใหสัตวน้ันมหี ลายปจ จยั ดังน้ี มากลุม ละ 1 ชนิด แลวหาขอ มูลเก่ียวกบั วิธกี ารคดั เลือกพนั ธุสตั ว ดังนี้ 1. ดา นสภาพแวดลอ มทเ่ี หมาะสม มอี ากาศทถ่ี า ยเทไดด ี มอี ากาศทบี่ รสิ ทุ ธิ์ มีอุณหภูมิที่เหมาะสมสําหรับสัตว ไมอยูใกลแหลงที่มลภาวะเปนพิษ • จุดประสงคการในใชง านของสตั ว เชน เลี้ยงไวด เู ลน เล้ียง มีขนาดของพ้ืนที่เหมาะสมกับจํานวนของสัตว สัตวสามารถอยูอาศัย ไวใ ชง าน เล้ียงไวเปน อาหาร ไดอยา งสบาย ไมเครยี ด • ลกั ษณะรปู รางท่ดี ีของสัตว 2. ดานอาหารสัตว ตองมีคุณคาทางโภชนาการและปริมาณอาหารท่ี • ผลผลิตท่ดี ีของสตั ว เหมาะสมกบั อายุ ขนาด และจาํ นวนของสตั วเ ล้ยี ง • ประวัติความเปนมาของสายพันธุส ัตว • สภาพทอ งถ่ินหรอื ท่อี ยูที่เหมาะสมกบั สัตว 3. ดานภูมิตานทานจากแม โดยเฉพาะสัตวท่ีเล้ียงลูกดวยน้ํานม สัตวที่ • โรคท่คี วรระวงั ของสัตว เกดิ ใหมต อ งไดร บั นาํ้ นมจากแมใ นชว งระยะเวลาการใหน มอยา งเหมาะสม เพราะในนํา้ นมจะประกอบดวยภมู ิคุมกนั โรคตางๆ 4. ดานภูมคิ มุ กันจากคน คือ การใหว ัคซนี ปอ งกนั โรคแกสตั ว โดยมกี ารให ต้งั แตแ รกเกิด จนถงึ ชว งโรคระบาดในสตั ว T46
นาํ สสออนน สรุป ประเมนิ การเลย้ี งสตั ว ผเู ลย้ี งตอ งมคี วามรคู วามเขา ใจในการเลย้ี ง พรอ มทงั้ ขนั้ นาํ ดแู ลสัตวเ ลีย้ งใหเจรญิ เติบโตและแข็งแรง 1. ครถู ามคําถาม “นกั เรียนรูจกั ปลาชนดิ ใดบา ง” µÇÑ ÍÂÒ‹ § การเล้ยี งปลากดั โดยใหน ักเรยี นตอบ แลว ครูเขยี นบนกระดาน ปลากัด เปนสตั วน าํ้ ประจาํ ชาติไทย นิยม 2. ครูใหนักเรียนสังเกตชื่อปลาบนกระดาน เลยี้ งเพอื่ ความสวยงาม และเพื่อการตอ สู ซึ่ง แลวบอกวา ปลาชนิดใดสามารถรับประทาน เปน กฬี าพนื้ บา นของไทย เรยี กวา กดั ปลา สาย เปนอาหารได และปลาชนิดใดเล้ียงไวดูเลน พนั ธปุ ลากดั ทค่ี นไทยนยิ มเลย้ี ง ไดแ ก ปลากดั โดยครใู ชชอลกตา งสีวงชือ่ ปลาไว หมอ ปลากดั หชู า ง ปลากดั จีน ขนั้ สอน การคดั เลอื กพนั ธุ สังเกต ตระหนกั ๑ ดจู ากสขี องลาํ ตัว สีของครบี รปู รา งของปลา และลักษณะการเคลือ่ นไหวทมี่ ีความ ปราดเปรียว เมื่อเห็นคตู อ สูหรอื เพศตรงขา มตองพองสู 1. ครูนําบัตรภาพปลากัดมาแสดงใหนักเรียนดู แลว ใหน กั เรยี นชว ยกนั บอกวธิ กี ารคดั เลอื กพนั ธุ ๒ ปากของปลากัดตองไมปูดโปน ตาใสแวววาว ริมฝปากบนและลางมีขอบสมบูรณ หรือวิธีการเล้ียงปลากัดตามความเขาใจของ เหงือกปด สนิทและกางไดส มบรู ณท้งั ๒ ขา ง เมอ่ื วา ยนา้ํ หหู รอื ครีบตองสมบรู ณท ้ัง นกั เรยี น ๒ ขาง กระโดงกางตั้งได ไมบิด 2. นักเรียนกลุมเดิมศึกษาการเลี้ยงปลากัด จาก วธิ เี ลย้ี ง หนงั สือเรียน การงานอาชพี ป.6 ๑ เตรียมภาชนะสําหรบั ใชเ ล้ยี งปลากัด อาจเปน ขวดโหลรูปทรงตา ง ๆ หรือตกู ระจก 3. ครูใหความรูในแตละข้ันตอนของการเล้ียง ๒ เมอื่ อายปุ ระมาณ ๑ เดอื นครง่ึ ถงึ ๒ เดอื น แยกปลาใสข วดแบนขนาด ๑๕๐ มลิ ลลิ ติ ร ปลากดั เพ่ิมเตมิ เพอื่ ใหน กั เรียนมคี วามรคู วาม เขา ใจมากยงิ่ ขนึ้ ครใู หน กั เรยี นแตล ะกลมุ เลอื ก ใสน า้ํ ทีส่ ะอาดปราศจากคลอรนี บรรจนุ ํา้ ประมาณ ๓ ใน ๔ ของภาชนะท่ีใชเ ล้ียง ชนดิ ของปลาสวยงามกลุม ละ 1 ชนิด ซ่ึงสามารถวางเรียงกันไดโดยไมส้ินเปลืองเน้ือท่ี อีกท้ังปากขวดแคบเล็กสามารถ ปอ งกนั ปลากระโดดและศตั รูปลาได เนอ่ื งจากปลากัดเปน ปลาท่ีมนี ิสยั ชอบตอ สู จึง 4. ครูถามคําถามกระตนุ ความคิด ควรแยกออกมาเลี้ยงเดยี่ ว • นกั เรียนคิดวา ผทู ต่ี องการเลี้ยงสตั วจ ะตอ ง ๓ วางขวดในบรเิ วณทมี่ อี ากาศถา ยเทไดดี ไมรอนจนเกินไป เพราะหากนํ้ามีอุณหภมู ิ มลี กั ษณะนสิ ัยอยา งไร สงู เกนิ ๓๐ องศาเซลเซียส อาจทําใหป ลาตายได เชนเดยี วกบั อุณหภูมิทีต่ า่ํ เกนิ ไป (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น จะทําใหปลากนิ อาหารไดนอยและเปน สาเหตใุ หต ายไดเชน กนั โดยใหอ ยใู นดุลยพินจิ ของครผู สู อน) ๓๗ กิจกรรม เสรมิ สรางคณุ ลักษณะอันพึงประสงค เกร็ดแนะครู ครูใหนักเรียนเลือกเลี้ยงปลาสวยงามที่หางายคนละ 1 ชนิด ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมใหน กั เรยี นทราบวา การเลย้ี งปลามีประโยชนหลายดาน เชน ปลาสอด ปลากัด ปลาหางนกยูง จากน้ันจัดทําตารางการ ดังน้ี ใหอาหารปลา การเปล่ียนน้ําในตูปลาการทําความสะอาดตูปลา เพ่ือฝกความรับผิดชอบในการดูแลสัตวเล้ียง จากน้ันออกมา 1. ทาํ ใหเ กดิ ความเพลิดเพลนิ และชว ยผอ นคลายความเครียด นําเสนอหนาชนั้ เรียน 2. เปนงานอดเิ รกของสมาชิกในครอบครัว 3. ทาํ ใหมีจิตใจท่อี อนโยน มคี วามเอือ้ อาทรตอสง่ิ มชี ีวติ ตางๆ 4. ฝก ความรบั ผดิ ชอบ เพราะตอ งมหี นา ทใ่ี นการใหอ าหาร ถา ยนา้ํ และการ ดแู ลอ่นื ๆ 5. ชว ยกาํ จดั แมลง โดยเฉพาะลกู น้ํา 6. ใชป ระดบั บา น โดยการจดั ตูปลา อา งปลา หรือบอ ปลาใหส วยงาม 7. สามารถสรา งรายไดเ ปน อาชพี เสรมิ ได 8. การเลย้ี งปลาสวยงามไมส ง เสยี งและกลน่ิ รบกวน ไมเ หมอื นการเลย้ี งสตั ว อ่นื ๆ T47
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั สอน ๔ ถ่ายน�้าสปั ดาหล์ ะ ๑-๒ ครั้ง โดยอาจ เปลี่ยนน้�าท้ังหมดหรือดูดตะกอนและ วางแผนปฏบิ ตั ิ นา�้ ออกบางส่วน แล้วเติมน้�าใหมล่ งไป 1. นกั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั วางแผนศกึ ษาความรู ๕ เปชลน่ ากไดัรกสนิีนส้า� ตตั าวลน์ า�้ ไขรนแาดดงเ1ลลก็ูกเนปา้�น็ อหานหอานร และสบื คน ความรู เรอื่ ง การเลย้ี งปลาสวยงาม แดง และสามารถฝก ให้กินอาหารเม็ด (ตามชนดิ ทเี่ ลอื ก) จากหอ งสมดุ และแหลง ขอ มลู และเนอื้ สตั วท์ ห่ี น่ั เปน็ ชน้ิ เลก็ ได้ การให้ สารสนเทศ อาหารควรใหว้ ันละ ๑ ครั้ง ในปรมิ าณ ท่ีปลากินอม่ิ 2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาความรูและ สบื คน ความรู เรอื่ ง การเลย้ี งปลาสวยงาม (ตาม àกÃçดกÒ÷íÒ§Òน ชนิดที่เลือก) จากหองสมุดและแหลงขอมูล สารสนเทศตามทไี่ ดว างแผนรว มกนั โดยบนั ทกึ การเพาะเลย้ี งปลากดั แตล่ ะชนดิ มจี ดุ ประสงคท์ แี่ ตกตา่ งกนั ออกไป เชน่ ปลากดั จนี ลงในกจิ กรรมตามตวั ชว้ี ดั กจิ กรรมที่ 3.1 ขอ 2 จะเพาะเลย้ี งเพอ่ื เปน็ ปลาสวยงาม ปลากดั หมอ้ จะเพาะเลยี้ งเพอื่ นา� มาตอ่ สแู้ ละการกฬี า หนวยการเรียนรูท่ี 3 จากแบบวัดฯ การงาน อาชีพ ป.6 ปลอดภัยไวก้ ่อน ลงมอื ปฏบิ ตั ิ อาหารปลาท่ีช้อนจากแหล่งน้�าธรรมชาติค่อนข้างเน่าเสียง่าย อาจมีโรคและปรสิตของปลา ติดมาด้วย จึงควรท�าความสะอาดโดยล้างในน�้าสะอาดและแช่ในด่างทับทิมเข้มข้น ๐.๕-๑.๐ นักเรียนแตละกลุมรวมกันเล้ียงปลาสวยงาม กรัม/ลติ ร ประมาณ ๑๐-๒๐ วนิ าที แล้วลา้ งดว้ ยน�า้ สะอาดอกี ครัง้ ก่อนน�ามาใหเ้ ป็นอาหารปลา ตามทไ่ี ดว างแผนไว ËนÙ·Òí ได้ พฒั นาความรคู้ วามเขา้ ใจ เล้ยี งสัตวช์ นิดตา่ ง ๆ ทา� ไดด้ ี พอท�าได้ ท�าอีกครงั้ นักเรียนแตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้ันตอนและวิธีการปลาสวยงาม 3๘ เทคนคิ การเลย้ี งปลาสวยงาม และออกมานําเสนอขั้นตอนและวิธีการเลี้ยงปลา สวยงามตามชนดิ ทเี่ ลอื ก สรปุ นกั เรยี นแตล ะกลมุ สรปุ ผลการเลยี้ งปลาสวยงาม ของกลุมตนเอง นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 ไรแดง เปนสัตวไมมีกระดูกสันหลังท่ีนิยมนํามาเปนอาหารสัตวน้ําวัยออน หากพบวาสัตวเ ลย้ี งเปน โรคควรทําอยางไรเปนอนั ดบั แรก ประโยชนของไรแดง มดี งั น้ี 1. ตมสมุนไพรใหส ตั วกิน 2. แยกสตั วเลีย้ งทเี่ ปน โรคออกจากทอี่ ยขู องสตั ว • เปนอาหารสําหรบั อนุบาลลูกสตั วนํา้ จดื และน้ําเคม็ 3. นําสัตวเลยี้ งที่เปน โรคมาทาํ ลายโดยการเผาหรือฝง • ใชท ดลองทางวทิ ยาศาสตร เชน ศกึ ษาการเปลย่ี นแปลงรปู รา งตามสภาพ 4. นาํ ยาทีค่ นใชรบั ประทานมาใหสัตวก นิ กอนจะนาํ ไปพบ สตั วแพทย แวดลอม ศึกษาการเปลี่ยนแปลงวิธีการสืบพันธุจากไมอาศัยเพศเปน (วเิ คราะหค าํ ตอบ : หากพบวา สตั วเ ลย้ี งเปน โรคควรแยกสตั วเ ลยี้ ง อาศยั เพศ ศึกษาการเคลอื่ นที่จากอิทธพิ ลของแสง • ใชบาํ บดั นา้ํ เสียและบง บอกคุณภาพนา้ํ ออกจากทอ่ี ยขู องสตั วเปนอันดบั แรก เพ่ือปอ งกนั การแพรกระจาย ของโรคสูสัตวตัวอ่ืน จากนั้นนําสัตวไปพบสัตวแพทยเพ่ือวินิจฉัย ส่ือ Digital อาการและทําการรักษา ไมควรนํายาที่คนใชรับประทานหรือยา อ่นื ๆ ใหส ตั วกินเอง ดงั น้นั ขอ 2. จงึ เปนคาํ ตอบทีถ่ กู ตอ ง) นักเรียนสแกน QR Code เร่ือง เทคนิคการเลย้ี งปลาสวยงาม เพ่อื ศกึ ษา เทคนคิ การเลี้ยงปลาสวยงาม T48
นํา สอน สรุป ประเมิน กÔ¨กÃÃÁ¾²ั นÒกÒ÷Òí §Òน ขน้ั สรปุ ถำมมำหนูตอบได้ 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปข้ันตอนการเลี้ยง ปลาสวยงาม ๑. พชื แตล่ ะชนดิ สามารถขยายพนั ธุ์ได้ทุกวธิ ีหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ๒. ดินและปุย๋ แตล่ ะชนดิ มีคณุ สมบัตอิ ย่างไรบา้ ง จงยกตวั อย่าง 2. นักเรียนทําแบบทดสอบหนวยการเรียนรูที่ 3 ๓. ปจั จยั ในการเลย้ี งสตั ว์คอื อะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง จากแบบวัดฯ การงานอาชีพ ป.6 3. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวยการ เรียนรทู ่ี 3 จากแผนการจัดการเรียนรู เรยี นรูก้ ิจกรรมทกั ษะกำรท�ำงำน C21 erCorLiefeSuSabkinllds CareLearning aSnkdillIsnnovation TIencform jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd SCPtaruonrfrdeicasusridlousnmaalnaDdnedAvIesnslesotsprsummcteeionnntts Learning Environments แบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๓-๕ คน รว่ มกนั เลอื กปลกู ไมด้ อกไมป้ ระดบั ผกั สวนครวั หรอื เลยี้ งสตั วเ์ ลย้ี งกลมุ่ ละ ๑ ชนดิ แลว้ เขยี นบนั ทกึ ผลตามหวั ขอ้ ทก่ี า� หนด ลงในสมุด จากนน้ั ออกมานา� เสนอหน้าชนั้ เรียน • พืชหรือสัตวท์ ่ีกลุ่มฉนั เลือก • ลักษณะของพชื หรอื สตั วท์ ี่เลอื ก • สถานท่ปี ลูกพชื หรอื เลยี้ งสตั ว์ • วิธีการปลกู พชื หรอื เลย้ี งสตั ว์ • วัสดุและอปุ กรณ์ท่ีใช้ • ปญั หาท่พี บในการท�ากิจกรรมนแี้ ละวิธกี ารแก้ไขปัญหา หนรู ูส้ กึ อยำ งไร ๑. การเรยี นรเู้ รอื่ งการปลกู พชื และเลยี้ งสตั วส์ ามารถนา� ไปใชป้ ระโยชน์ใน ชีวติ ประจ�าวนั ไดอ้ ยา่ งไรบ้าง ๒. การเก็บสัตวเ์ ลี้ยงจากขา้ งถนนมาเลีย้ ง มขี อ้ ดแี ละข้อเสียอยา่ งไร และ ควรดูแลอยา่ งไรจึงจะเหมาะสม 3๙ ขอ สอบเนน การคดิ บูรณาการอาเซียน ขอใดไมใ ชปจจัยทม่ี ผี ลตอ สขุ ภาพของสตั วเ ลย้ี ง ประเทศตางๆ ในกลุมอาเซียนมีสัตวประจําชาติเชนเดียวกับประเทศไทย 1. อาหาร สตั วป ระจําชาตกิ ลุม ประเทศอาเซยี นทั้ง 10 ประเทศ มดี ังน้ี 2. ท่อี ยอู าศัย 3. สขี องสัตวเลยี้ ง • ประเทศไทย คือ ชา ง 4. สายพันธุข องสัตวเลีย้ ง • ประเทศลาว คือ ชาง • ประเทศฟลิปปน ส คือ ควาย (วิเคราะหคําตอบ : อาหารและท่ีอยูอาศัยมีผลตอสุขอนามัยของ • ประเทศเวยี ดนาม คอื ควาย สัตวเล้ียง สายพันธุมีผลตอความแข็งแรงทางกายภาพและภูมิ • ประเทศเมียนมา คือ เสอื โครง ตา นทานตา งๆ ของสตั วเ ลย้ี ง สว นสไี มม ผี ลตอ สขุ ภาพของสตั วเ ลย้ี ง • ประเทศบรูไนดารสุ ซาลาม คือ เสือโครง ไมวาสัตวเล้ียงจะมีสีใด หากรางกายแข็งแรงก็จะมีสุขภาพที่ดี • ประเทศมาเลเซีย คือ เสอื โครงมลายู ดังนน้ั ขอ 3. จึงเปนคาํ ตอบทถี่ ูกตอง) • ประเทศกมั พูชา คือ กูปรี • ประเทศอนิ โดนีเซยี คือ มังกรโคโมโด • ประเทศสงิ คโปร คอื สงิ โต T49
นาํ สอน สรุป ประเมิน ขนั้ ประเมนิ Ẻ»ÃÐàÁ¹Ô ¡Ò÷Òí §Ò¹ ส�าห ครวู ดั และประเมนิ ผลนักเรยี น ดังนี้ คำ� ชแ้ี จง : ใ หน้ กั เรียนประเมินการทา� งานของตนเองตามรายการ รับนักเรียน • ตรวจกิจกรรมท่ี 3.1 ขอ 2 จากแบบวัดฯ ที่ก�าหนด แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทตี่ รงกับระดบั คะแนน รำยกำร การงานอาชพี ป.6 ทา� ได้ดี พอทา� ได้ ปรับปรงุ • ตรวจแบบทดสอบหนว ยการเรยี นรทู ี่ 3 จาก ๑. ขยายพันธ์พุ ืชดว้ ยวธิ ตี า่ ง ๆ แบบวัดฯ การงานอาชพี ป.6 • ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว ยการเรยี นรู ที่ 3 จากแผนการจดั การเรียนรู ๒. ปลกู ไม้ดอกไม้ประดับ ตัวอยางตารางบันทึกผล ๓. ปลูกผกั สวนครวั ๔. เล้ียงสตั ว์ รวมทา� ไดดี = ๓ พอทา� ได = ๒ ปรับปรุง = ๑ Ẻ»ÃÐàÁ¹Ô ·¡Ñ ÉСÒ÷Òí §Ò¹ C21 erLife Sakinllds CareLearning aSnkdillIsnnovation TIencform Core Sub jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd SCPtaruoLnrefrdeiacasrusnridlouinsnmgaalEnanDdnvediArvoIesnnslesomtsprsuemmcnteetisonnntts ค�ำชี้แจง : ใ ห้ผสู้ อนประเมินทักษะการทา� งาน C21 ตามรายการ สา� หรับครู ที่กา� หนด แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดับคะแนน รำยกำร ท�าไดด้ ี พอท�าได้ ปรับปรงุ ๑. แบ่งหนา้ ทีอ่ ยา่ งเหมาะสม ๒. ร่วมมอื กันทา� งานจนส�าเรจ็ ตัวอยางตารางบันทึกผล ๓. แสดงความคดิ เหน็ อย่างเหมาะสม ๔. รับฟังความคดิ เห็นของคนในกลมุ่ ๕. น�าเสนอหน้าช้นั เรยี น รวมท�าไดด ี = ๓ พอท�าได = ๒ ปรับปรงุ = ๑ 4๐ แนวทางการวัดและประเมินผล ครศู กึ ษาแนวทางการวดั และประเมนิ ผล เพอื่ ประเมนิ ชน้ิ งานของนกั เรยี นจากแบบประเมนิ ชน้ิ งานทแ่ี นบทา ยแผนการจดั การเรียนรู การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมนิ บนั ทึกการเลีย้ งสตั ว์ คาช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องที่ คาชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในชอ่ งท่ี คาชีแ้ จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน ระดบั คะแนน ตรงกับระดับคะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 321 ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน การแสดง การทางาน การมี คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน 32 1 ความ การยอมรับ ตามท่ีได้รับ ความมี ส่วนรว่ มใน รวม อันพงึ ประสงคด์ า้ น 321 1 การคดั เลือกพันธ์ุสัตว์ ชอ่ื – สกลุ คิดเห็น ฟงั คนอื่น มอบหมาย น้าใจ การปรบั ปรุง 15 2 การดูแลและการป้องกันโรค 1 การแสดงความคิดเหน็ ลาดบั ที่ ของนกั เรยี น ผลงานกลุ่ม คะแนน 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 3 การแกป้ ัญหาทเี่ กิดขึ้น 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผอู้ ่นื 321 321 321 321 4 ประโยชนท์ ีไ่ ด้รับ จากการเลี้ยงสตั ว์ 3 การทางานตามหน้าท่ีทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 32 1 กษัตรยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ตอ่ โรงเรยี น ตวั อยา งแบบประเมนิลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา ............../.................../................ 4 ความมนี า้ ใจ 1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมทเ่ี กีย่ วกบั สถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามท่โี รงเรยี นจัดขึ้น 5 การตรงต่อเวลา รวม 2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต 2.1 ใหข้ ้อมลู ทีถ่ ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ รวม จากแผนการจดั การเรียนรูเกณฑก์ารให้คะแนน 2.2 ปฏบิ ัติในสง่ิ ท่ถี ูกต้อง ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครวั ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวัน ............../.................../................ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 รจู้ ักใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัติได้ 4.2 รูจ้ ักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชือ่ ฟงั คาส่งั สอนของบิดา - มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ และส่งิ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คุณค่า ให้ 3 คะแนน ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเก็บออมเงิน ให้ 2 คะแนน ............../.................../............... เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ให้ 1 คะแนน 6. มุ่งม่ันในการทางาน 6.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ ับมอบหมาย ดี = 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพื่อใหง้ านสาเรจ็ พอใช้ = 2 คะแนน 10-12 ดี 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจิตสานกึ ในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย ปรับปรุง = 1 คะแนน 6-9 พอใช้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ต่ำกว่ำ 6 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ให้ 3 คะแนน 8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รู้จกั ชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ให้ 1 คะแนน 8.2 รู้จกั การดแู ลรักษาทรัพยส์ มบัติและส่ิงแวดล้อมของหอ้ งเรียนและ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง 12 - 15 ดี โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรุง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารให้คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบัตชิ ดั เจนและสมา่ เสมอ 12 - 15 ดี ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน 8 - 11 พอใช้ ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิบางครั้ง ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ T50
Chapter Overview แผนการจดั สือ่ ท่ีใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมนิ ทกั ษะที่ได้ คุณลกั ษณะ การเรยี นรู้ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 - หนังสือเรยี น บอกหลักปฏิบตั แิ ละ วิธสี อนโดยเน้น - ตรวจแบบทดสอบ 1. ทักษะการ 1. มวี นิ ัย การงานอาชพี ป.6 การป้องกันอบุ ัตเิ หตุ กระบวนการ ก่อนเรียน หนว่ ยการ รวบรวมขอ้ มูล 2. ประหยัด ความร้พู ืน้ ฐาน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ในการท�ำงานชา่ งได้ สร้างเจตคติ เรียนรู้ท่ี 4 2. ทกั ษะการ 3. ใฝเ่ รยี นรู้ งานช่าง - ตรวจใบงานท่ี 4.1 เชอ่ื มโยง 4. อยู่อย่าง - ใบงานที่ 4.1 เร่อื ง - สังเกตพฤติกรรม 3. ทักษะการ พอเพียง 1 ความปลอดภยั ใน การทำ� งานรายบคุ คล เรยี งล�ำดับ 5. มคี วาม การทำ� งานชา่ ง - สังเกตพฤตกิ รรม รับผดิ ชอบ ช่ัวโมง - บัตรภาพงานช่าง การทำ� งานกลุม่ - สังเกตความมวี นิ ัย ประหยดั ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง และมคี วามรบั ผดิ ชอบ แผนฯ ที่ 2 - หนังสือเรยี น บอกอปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการ วธิ สี อนโดยเนน้ - ตรวจใบงานท่ี 4.2 1. ทักษะการ 1. มีวินยั อุปกรณท์ ี่ใช้ การงานอาชพี ป.6 ตดิ ตง้ั และประกอบของใช้ กระบวนการ - สังเกตพฤตกิ รรม รวบรวมขอ้ มลู 2. ประหยัด ตดิ ตง้ั และประกอบ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 ภายในบา้ นได้ เรยี นความรู้ การทำ� งานรายบคุ คล 2. ทักษะการ 3. ใฝ่เรยี นรู้ ของใชภ้ ายในบา้ น - แบบวดั ฯ ความเข้าใจ - สงั เกตพฤติกรรม เปรยี บเทียบ 4. อยูอ่ ยา่ ง การงานอาชพี ป.6 การทำ� งานกลุ่ม 3. ทกั ษะการ พอเพยี ง 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 - สงั เกตความมวี ินยั เรียงลำ� ดบั 5. มีความ - ใบงานที่ 4.2 เรอื่ ง ช่วั โมง อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการ ประหยัด ใฝเ่ รยี นรู้ รบั ผิดชอบ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ตดิ ตง้ั และประกอบ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ ของใช้ - บัตรภาพอปุ กรณท์ ่ี ใช้ในการตดิ ต้งั และ ประกอบของใช้ T51
Chapter Overview แผนการจดั ส่ือท่ีใช้ จุดประสงค์ วิธีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คณุ ลักษณะ การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ท่ี 3 - หนงั สือเรียน 1. อธิบายวธิ กี าร วธิ ีสอนโดยเน้น - ตรวจใบงานที่ 4.1 1. ทักษะการ 1. มีวนิ ยั การงานอาชีพ ป.6 ติดตั้งและประกอบ กระบวนการ จากแบบวัดฯ รวบรวมข้อมูล 2. ประหยัด การตดิ ตงั้ และ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 ของใชไ้ ด้ ปฏิบัติ การงานอาชีพ ป.6 2. ทกั ษะการ 3. มคี วาม ประกอบของใช้ - ตรวจแบบทดสอบ เชือ่ มโยง รับผิดชอบ ภายในบ้าน - แบบวดั ฯ 2. ตดิ ตง้ั และประกอบ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 3. ทักษะการ การงานอาชพี ป.6 ของใชไ้ ด้อยา่ ง จากแบบวดั ฯ เรยี งลำ� ดบั 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เปน็ ข้ันตอน การงานอาชพี ป.6 - สงั เกตพฤติกรรม ชัว่ โมง - พัดลม 3. ปฏบิ ตั ิตนอย่าง - โคมไฟ มีมารยาทใน - อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการ การทำ� งานกบั ผอู้ ่ืน การทำ� งานรายบุคคล - สังเกตพฤตกิ รรม ติดต้ังและประกอบ การทำ� งานกลุ่ม ของใช้ - สงั เกตความมวี ินัย ประหยัด และมี ความรับผดิ ชอบ - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 - ตรวจแบบประเมิน การตดิ ตงั้ และประกอบ ของใชภ้ ายในบ้าน T52
นํา สสออนน สรุป ประเมิน ô §Ò¹ªÒ‹ §Ë¹Ç‹ ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ Õè ขน้ั นาํ กจิ กรรมน�าÊก่Ù ารàรÕยน เพอื่ นๆ สามารถตดิ ตงั้ หรอื 1. นักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน หนวยการ ซอ่ มแซมของใชภ ายในบา น เรยี นรทู ี่ 4 งานชาง จากแผนการจัดการเรียนรู ชนดิ ใดไดด ว ยตนเองบา ง 2. ครใู หน กั เรยี นดบู ตั รภาพการทาํ งานชา ง แลว ให นกั เรยี นรว มกนั แสดงความคดิ เหน็ วา ทงั้ 2 ภาพ มคี วามแตกตา งกนั อยา งไร และความแตกตา ง นี้สงผลอยางไร จากน้ันครูอธิบายเพิ่มเติมวา ทั้ง 2 ภาพ มีความแตกตางกันในเร่ืองการ แตงกายขณะทํางานชาง ซ่ึงผูทํางานชางใน ภาพที่ 1 แตง กายไมเ หมาะสมเพราะแตง กาย ไมรัดกุม สวนภาพท่ี 2 แตงกายรัดกุมและ เหมาะสมกบั การทาํ งานชา ง เพราะใสเ สอื้ แขนยาว ถงุ มอื แวน ตา ซง่ึ การแตง กายทรี่ ดั กมุ นจ้ี ะชว ย ปอ งกันอนั ตรายในขณะทํางานชางได ÊาระÊาí ¤ัÞ à»Ò‡ ËÁÒ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã»ŒÙ ÃШÒí ˹Nj ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ èÕ ô ขนั้ สอน งานช่าง เปน็ งานที่เกี่ยวกบั การดแู ลรักษา ๑. อภิปรายแนวทางในการดูแลรักษาสมบัติภายในบ้านและปรับปรุง สงั เกต ซ่อมแซม สร้าง ประกอบของใช้ ท�าให้ของใช้ การท�างานแต่ละขน้ั ตอน (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๑) มอี ายุการใช้งานท่ยี าวนานย่ิงขึ้น 1. ครูใหนักเรียนดูบัตรภาพการทํางานชางท่ีไม ๒. ใชท้ กั ษะการจัดในการติดตัง้ ประกอบของใช้ในบา้ น และมีทักษะ ถูกตองตามข้ันตอน นักเรียนรวมกันอภิปราย การท�างานรว่ มกนั (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๒) และแสดงความคดิ เห็น ๓. ปฏิบัติตนอย่างมีมารยาทในการท�างานกบั ครอบครวั และผ้อู น่ื 2. ครสู งั เกตผลการอภปิ รายและแสดงความคดิ เหน็ (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๓) ของนักเรียน แลวใหความรูเพิ่มเติมเพ่ือให นักเรียนเขาใจและตระหนักถึงความปลอดภัย ในการทาํ งานชา ง 3. ครถู ามคาํ ถามกระตนุ ความคิด • นกั เรยี นสามารถทาํ งานชา งหรอื งานซอ มแซม สงิ่ ของเครอ่ื งใชภ ายในบา นไดห รอื ไม อยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยใู นดุลยพนิ จิ ของครูผูสอน) กจิ กรรม ทา ทาย เกร็ดแนะครู ครูใหนักเรียนแตละคนบอกชื่อของใชในบานคนละ 1 ชนิด ครอู ธบิ ายนกั เรยี นเพม่ิ เตมิ วา ผทู าํ งานชา งควรแตง กายใหเ หมาะสมกบั การ แลวอธิบายวา หากของใชชนิดนั้นชํารุดหรือเสียหายจะเกิดผล ทาํ งาน ดงั นี้ อยา งไร และนกั เรยี นจะมวี ธิ ปี อ งกนั ไมใ หเ กดิ การชาํ รดุ หรอื เสยี หาย ไดอยา งไร 1. แตงกายรัดกุม โดยใสเส้ือผาพอดีตัว กางเกงขายาว รองเทาหุมสน เพ่ือ ปอ งกันไมใหเ กดิ อันตรายจากการทํางาน เชน เส้อื ผาตดิ เขาไปในสว นท่ี มีการหมุนของเคร่ืองจักร 2. มีอุปกรณปองกันภัยท่ีเหมาะสมกับการทํางาน เชน สวมหมวกนิรภัย เมื่อตองทํางานในสถานท่ีท่ีวัสดุอาจตกใสศีรษะ สวมแวนตาเมื่อตอง ทํางานที่วัสดุอาจกระเด็นเขาตา T53
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ñ ¤ÇาÁร้Ù¾น×้ °านงานชา‹ ง วิเคราะห์ งานชา่ ง เปน็ งานเก่ยี วกับการดแู ลรักษา ซ่อมแซม สร้าง ประกอบ ของใชด้ ้วยตนเอง หรือสรา้ งสงิ่ ของเครอ่ื งใช้ใหม่ ๆ ขึน้ โดยใชเ้ ครอื่ งมอื 1. นักเรียนศึกษาความรู เรื่อง ความรูพ้ืนฐาน ได้ถูกต้อง พร้อมทง้ั ดูแลรกั ษาไดอ้ ย่างถกู วธิ ี ซง่ึ จะท�าใหข้ องใช้มอี ายกุ าร งานชา ง จากหนังสอื เรียน การงานอาชพี ป.6 ใช้งานท่ยี าวนานยงิ่ ขึ้น และมีของใช้ชนิ้ ใหม่ท่ตี รงตามความต้องการ จากนน้ั ใหน กั เรยี นรว มกนั จาํ แนกและวเิ คราะห สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในงานชางตาม หลกั ปฏิบตั ิและการปอ งกันอุบัติเหตใุ นการท�างานช่าง ประเดน็ เชน สาเหตจุ ากบคุ คล จากเครือ่ งมอื และวสั ดอุ ปุ กรณ จากระบบการทํางาน การท�างานช่างควรท�าด้วยความระวัง เพราะหากท�าด้วย ความไม่รู้หรือความประมาท อาจท�าให้เกิดอุบัติเหตุได้ หลักปฏิบัติ 2. ครูสุมนกั เรียน 3 คน ใหวเิ คราะหและอธิบาย และการป้องกันอบุ ตั เิ หตุในการทา� งานชา่ ง มดี ังนี้ สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในการทํางานชาง แตล ะประเดน็ โดยมีครเู ปน ผตู รวจสอบความ บุคคล • แต่งกายใหร้ ัดกมุ ถกู ตอ ง • ใชเ้ คร่ืองปอ้ งกันอันตราย • มีสภาพร่างกายท่ีพร้อมทา� งาน 3. นักเรียนแตละคนทําใบงานท่ี 4.1 เร่ือง • ปฏบิ ตั ิตามกฎของความปลอดภยั ความปลอดภยั ในการทาํ งานชา ง จากแผนการ • ทา� งานตามแผนทก่ี �าหนด จัดการเรียนรู จากนั้นครูและนักเรียนรวมกัน เฉลยคําตอบในใบงาน เคร่อื งมอื • ใช้เครื่องมอื ที่ไมช่ า� รุด และวัสดุ • ใชเ้ ครอ่ื งมอื ถูกประเภท สรุป อปุ กรณ์ • จัดเก็บเคร่ืองมือและวัสดุอุปกรณ์ เปน็ ระเบยี บและถกู วธิ ี ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู เรอื่ ง ความรู พ้นื ฐานงานชา ง ระบบ • วางแผนการทา� งานไว้เป็นอย่างดี การ • ทา� งานดว้ ยความรอบคอบ ขน้ั สรปุ ท�างาน • ทา� งานตามขั้นตอน • พ้นื ท่ีท�างานเหมาะสมกบั งาน ครูและนักเรียนรวมกันบอกประโยชนที่ไดจาก การเรียนรู เรอ่ื ง ความรพู น้ื ฐานงานชาง ขน้ั ประเมนิ ครูวัดและประเมินผลนักเรียนจากการตรวจ แบบทดสอบกอนเรียน หนว ยการเรยี นรทู ่ี 4 และ ใบงานที่ 4.1 จากแผนการจัดการเรียนรู ËนทÙ �าได้ 4๒ ป้องกนั อุบัติเหตุในการท�างานช่าง ท�าไดด้ ี พอทา� ได้ ทา� อีกคร้ัง บรู ณาการอาเซียน กจิ กรรม สรางเสรมิ งานชาง เปนงานท่ีมีความสําคัญ ในกลุมประเทศอาเซียนมีการจัดการ ครูใหนักเรียนแตละคนหาภาพการแตงกายของชางประเภท แขงขันฝม อื แรงงานอาเซียนในทุก 2 ป เพ่ือเปนการเชือ่ มความสมั พนั ธภ ายใน ตางๆ หรือเครื่องมือปองกันอันตรายในการทํางานชางมาคนละ กลุมประเทศอาเซียน และพัฒนาฝมือแรงงานในระดับภูมิภาคใหทัดเทียมกับ 1 ภาพ แลวติดลงสมุด พรอมอธิบายลักษณะและประโยชนของ ระดับนานาชาติ โดยการแขงขันจะสะทอนใหเห็นถึงเทคโนโลยีลาสุดและ ชุดหรือเคร่อื งมอื ปองกันอันตรายนัน้ ๆ ความตองการทักษะแรงงานของตลาดโลก ซึ่งผูที่สามารถทําการแขงขันได ยอ มสามารถทาํ งานในสถานประกอบการไดอ ยา งดเี ชน กนั ในการแขง ขนั นน้ั จะมี การปรับปรุงแกไขผลงานกอนที่จะแขงขันใหมทุกครั้ง เปนวิธีการที่ดีอยางหนึ่ง ท่ีชวยใหเยาวชนในกลมุ ประเทศอาเซยี นไดฝ กฝนใหก าวทนั กระแสโลกอยูเสมอ T54
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๒ การตดิ ตงั้ และประกอบของใชภ้ ายในบา้ น ขนั้ นาํ สิ่งของเครื่องใชภ้ ายในบา้ นบางชนิ้ เชน่ ช้ันวางของ ตู้ เตยี ง เมอ่ื 1. ครูแจกบัตรภาพอุปกรณที่ใชในการติดตั้งและ ประกอบเสร็จแลว้ อาจมีขนาดใหญ่ ท�าใหไ้ ม่สะดวกในการขนยา้ ย หากนา� ประกอบของใชใหนักเรียนแตละคน แลวให มาประกอบหรอื ตดิ ตัง้ เองทบ่ี า้ น ผปู้ ระกอบจะตอ้ งมคี วามร้เู ก่ยี วกบั เคร่ือง นักเรียนติดภาพอุปกรณลงในกระดาษ แลว มอื และวัสดุอปุ กรณ์ในการทา� งาน และมีทกั ษะในการท�างานช่าง เช่น เขียนช่ืออปุ กรณแ ละวิธีการใชอปุ กรณน ้นั ทกั ษะในการทา� งานชา่ ง 2. ครูรวบรวมกระดาษท่ีนักเรียนเขียนแลวแยก เปน 2 สว น คอื สวนทเ่ี ขยี นถูกตองและสวนที่ • ทักษะการตัด เป็นความช�านาญในการใช้เครื่องมือในการตัด เขียนไมถูกตอง และแจงนักเรียนวาจะตองใช วัสดุต่าง ๆ ให้ขาดออกจากกัน เช่น ใช้เล่ือยเลื่อยไม้ ใช้คีม ในทายช่ัวโมง ตัดลวด • ทักษะการเจาะ เป็นความช�านาญในการใช้เครื่องมือที่มีความ ขนั้ สอน แหลมคมเจาะวัสดตุ า่ ง ๆ ใหเ้ ป็นชอ่ งหรอื เป็นรู เชน่ ใชท้ ่เี จาะ กระดาษเจาะกระดาษ ใชส้ ว่านเจาะไมห้ รอื พลาสตกิ สงั เกต ตระหนัก หลักในการติดตัง้ และประกอบอุปกรณ์ ของใชภ้ ายในบา้ น มดี งั น้ี 1. ครูนําตัวอยางอุปกรณที่ใชในการติดตั้งและ ประกอบของใชป ระเภทตา งๆ มาใหน กั เรยี นดู ๑ ศกึ ษาวิธกี ารติดตัง้ และประกอบจากค่มู ือทีผ่ ู้ผลิตใหม้ าพร้อมกับของใช้ ๒ จดั เตรียมเครอ่ื งมอื สา� หรบั ตดิ ตั้งและประกอบให้เหมาะสมกบั ของใชแ้ ละสภาพพ้นื ท่ีที่ติดต้งั 2. นกั เรียนกลมุ เดมิ รว มกนั สังเกต อภปิ ราย และ ๓ วางแผนการปฏบิ ัตงิ านและด�าเนินการตดิ ตั้งด้วยความรอบคอบ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวอยางอุปกรณ ๔ เขคณรอื่ะปงใฏชบิ ไ้ ฟตั ิงฟา้านบตาอ้ งงปรระะมเภัดรทะตว้อังงแตลอ่ะสแาตย่งดกินาย1เใชหน่้เหเมคาระ่ือสงมทแ�าลนะ้า� รเัดยกน็ ุมเครื่องท�านา�้ อุ่น ท่ีใชในการติดต้ังและประกอบของใชที่ครู ๕ นาํ มาใหดู ๖ ทดสอบการท�างานของอุปกรณก์ ่อนน�าไปใชจ้ ริง ๗ หากเกดิ ข้อบกพร่องตอ้ งรีบแก้ไข หากมีปัญหาจากการผลิตตอ้ งรบี สง่ ซอ่ มกบั ผูผ้ ลิตหรือ ลงมอื ปฏบิ ัติ ตวั แทนจา� หนา่ ยตามเงอื่ นไขในการรบั ประกัน ๘ หมั่นดแู ลและบา� รุงรักษาเคร่อื งมือตามคู่มืออย่างเคร่งครดั เพอื่ ให้ใช้งานไดย้ าวนาน 1. นักเรียนแตละกลุมรวมกันรวบรวมขอมูลและ ศึกษาความรูเพ่ือหาคําตอบตามประเด็นที่ กําหนด โดยปฏิบัติตามแผนที่วางไว จากน้ัน เรยี บเรยี งขอ มลู ความรู แลว อภปิ รายและสรปุ คาํ ตอบท่ีเปนมติของกลมุ 2. ตวั แทนแตล ะกลมุ นาํ เสนอคาํ ตอบหนา ชนั้ เรยี น และมีประสิทธภิ าพ ปลอดภัยไว้ก่อน ไมค่ วรวางหรอื ตดิ ตง้ั เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ในสถานทที่ มี่ คี วามชน้ื หรอื ความรอ้ นมาก เพราะอาจทา� ให้ เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าเสอ่ื มสภาพหรอื ไฟฟา้ ลดั วงจรได้ 43 ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู ใครปฏิบตั ติ นอยางปลอดภัยทส่ี ดุ เมอื่ ติดตง้ั และประกอบ 1 สายดิน หมายถึง สายท่ีตอจากตัวนําไฟฟาของเคร่ืองใชไฟฟา เพื่อ เครอื่ งใชไ ฟฟา เปนเสนทางนํากระแสไฟฟาใหไหลลงดินในกรณีท่ีมีไฟฟาร่ัว ในขณะเดียวกัน เปนเสนทางใหกระแสไฟฟาที่รั่วไหลยอนกลับไปยังหมอแปลงไฟฟาไดสะดวก 1. ต๊กิ ไมเสียบปลัก๊ เคร่ืองใชไฟฟา ขณะติดตั้งและประกอบ เพื่อใหเครื่องตัดไฟอัตโนมัติทํางานและตัดไฟออกทันที ประโยชนของสายดิน เคร่อื งใชไฟฟา คือ ปอ งกันไมใหม ผี ูถกู ไฟฟาดูดหากมกี ระแสไฟฟา รัว่ จากเคร่อื งใชไ ฟฟา และ เคร่ืองใชไฟฟาบางประเภทอาจทํางานไดไมสมบูรณหรือชํารุดไดงายหากไมมี 2. ตเ๋ี สยี บปลก๊ั ไวเ พอ่ื ดกู ารทาํ งานของเครอ่ื งใชไ ฟฟา ในขณะ สายดนิ เชน คอมพิวเตอร อุปกรณอิเล็กทรอนิกส อปุ กรณสอื่ สาร ติดต้ังและประกอบ T55 3. ตูเ สียบปลก๊ั แลว ใชไ ขควงตรวจดูวา มีกระแสไฟ ในขณะ ติดต้ังและประกอบเคร่อื งใชไฟฟาหรือไม 4. เมอื่ ตอ มตดิ ตงั้ และประกอบเครอื่ งใชไ ฟฟา เสรจ็ แลว จงึ ถอด ปลก๊ั เคร่ืองใชไ ฟฟาออกจากเตาเสยี บทนั ที (วิเคราะหคําตอบ : เราไมควรเสียบปลั๊กในขณะท่ียังติดต้ังและ ประกอบไมเ สรจ็ และไมค วรใชไ ขควงตรวจสอบวงจรไฟฟา ดว ยตนเอง เพราะอาจเกดิ ไฟฟา ลดั วงจรได ดงั นน้ั ขอ 1. จงึ เปน คาํ ตอบทถ่ี กู ตอ ง)
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ó Í»Ø ¡Ã³· Õè㪌µ´Ô µéѧáÅлÃСͺ¢Í§ãªÀŒ ÒÂ㹺Ҍ ¹ พัฒนาความรูความเขา ใจ เครื่องมือและวัสดุอุปกรณต่าง ๆ ท่ีใช้ในงานช่าง มีลักษณะรูปร่างท่ี แตกต่างกันไปตามการใช้งาน เราควรศึกษาวิธีใช้ให้เข้าใจ เพื่อจะได้ใช้ 1. ครตู งั้ คาํ ถามเกยี่ วกบั อปุ กรณท ่ีใชใ นการตดิ ตง้ั เคร่ืองมอื และวสั ดอุ ุปกรณต์ ่าง ๆ ไดถ้ กู ต้องและปลอดภัย และประกอบของใช 4 ชนดิ และอธบิ ายความรู ใหนักเรียนเพ่ิมเติม แลวใหนักเรียนทําใบงาน µÇÑ ÍÂÒ‹ § เครื่องมือทใ่ี ชตดิ ตง้ั และประกอบอุปกรณข องใชภ ายในบา น ท่ี 4.2 จากแผนการจัดการเรียนรู เครื่องมอื สําหรบั วดั เคร่ืองมือสําหรบั ไขและขัน 2. สมาชิกในแตละกลุมชวยกันวิเคราะหตาม ประเดน็ ทตี่ นเองไดร บั มอบหมาย ครสู มุ ตวั แทน เหล็กฉาก ใไชขข้คันวงสปการ1กทู แ่ีมบหี นัวเปน แตละกลุมนําเสนอผลการวิเคราะห วิจารณ ใช้วัดขนาดหรอื รอยแนวยาว หรือ หนาชั้นเรยี น สรา้ งมมุ เจาะรูขนาดเล็ก ตนื้ ตลับเมตร ประแจเลอ่ื น 3. นักเรียนทํากิจกรรมเรียนรูปูพ้ืนฐาน หนวย ใช้วัดหาระยะหรอื ใชข้ นั นอต โดยสามารถ การเรยี นรทู ่ี 4 จากแบบวดั ฯ การงานอาชพี ป.6 ขนาดของวัสดุ ปรับความกวา้ งตาม ขนาดของหัวนอตที่ สรุป เครือ่ งมือสาํ หรับตอก ตอ้ งการขนั ได้ ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู เรอ่ื ง อปุ กรณ ค้อนหงอน เคร่ืองมือสําหรับตดั และผา ที่ใชในการติดต้ังและประกอบของใช และนํา ใชต้ อก ทบุ งดั หรอื กระดาษท่ีนักเรียนไดเขียนไวตนช่ัวโมงมาเขียน ถอนตะปู เล่อื ยตดั เหลก็ ใหถ กู ตอ ง ใช้ตดั เหล็ก ไม้ เครอื่ งมอื สาํ หรบั เจาะ หรือพลาสตกิ ขน้ั สรปุ สว่าน เครอ่ื งมอื สาํ หรับจับยึด นกั เรยี นและครรู ว มกนั สรปุ ความรู เรอื่ ง อปุ กรณ ใชเ้ จาะไมห้ รือปูน ทใ่ี ชใ นการตดิ ตง้ั และประกอบของใช คีมตดั สายไฟ »ÅÍ´ÀÂั äÇกŒ ‹Íน ใชจ้ ับสายไฟฟา ตัด ขน้ั ประเมนิ สายไฟฟา และขันนอต ครูวัดและประเมินผลนักเรียนจากการตรวจ เม่ือใช้อุปกรณ์ในการท�างานช่างแล้ว ควรจัดเก็บให้เปนที่ตามประเภทการใช้งาน เพอื่ ความ ใบงานที่ 4.2 และกจิ กรรมเรยี นรปู พู น้ื ฐาน หนว ย เรยี บรอ้ ย ปลอดภยั สะดวกตอ่ การคน้ หา และยดื อายกุ ารใชง้ านของอปุ กรณ์ การเรยี นรทู ่ี 4 จากแบบวดั ฯ การงานอาชพี ป.6 ËนÙทา� ä´Œ 44 ใชเ้ ครื่องมือและอุปกรณ์งานช่าง ท�าไดด้ ี พอทา� ได้ ท�าอกี คร้ัง นักเรียนควรรู กจิ กรรม ทาทาย 1 สกรู หมายถึง นอตตัวผู หัวสกรูมีหลายประเภท เชน หัวหกเหล่ียม ครูจดั กจิ กรรม “เครื่องมอื ชางหรรษา” ดังนี้ หัวแฉก หัวผา มีลักษณะเปนเกลียวรอบทรงกระบอกยาว สกรูแบงออกเปน 1. ครแู จกบตั รภาพเครอ่ื งมอื ชา งตา งๆ เชน เหลก็ ฉาก ตลบั เมตร 4 ประเภท ดงั นี้ สวา น ไขควง ประแจเล่อื น เลอื่ ย คมี ใหนกั เรยี นแตละคน 1. สกรูเกลยี วไม เปน สกรูทม่ี ีปลายแหลม ใชย ึดชนิ้ งาน 2. ใหนักเรียนจัดกลุมตามประเภทเครื่องมือชางของตนเอง ทเี่ ปน ไมห รอื พลาสตกิ ใชข นั เขา ไปในไมห รอื พลาสตกิ ไดโ ดยตรง เชน กลุมเคร่ืองมือสาํ หรับวดั ประกอบดว ยเหลก็ ฉากและ ตลับเมตร กลุมเครื่องมือสําหรับตัด ประกอบดวยเลื่อย 2. สกรูเกลียว เปนสกรูท่ีใชรวมกับหัวนอตตัวเมีย และคมี มีหัวสกรหู ลายแบบ เชน หวั หนา หวั หกเหล่ียม 3. เมื่อนักเรียนจัดกลุมแลว ใหแตละกลุมหาขอมูลเกี่ยวกับ การใชงานของเครื่องมือชางที่ตนเองได แลวออกมา 3. สกรูปลายสวาน เปนสกรูท่ีมีปลายคลายหัวสวาน นาํ เสนอเครอ่ื งมือตา งๆ อยา งสรา งสรรคห นา ชน้ั เรียน สามารถขนั เขา ไปในเนอื้ เหลก็ โดยตรงไมต อ งเจาะนาํ 4. สกรหู วั จมหกเหลย่ี ม มลี กั ษณะหวั เปน รปู ทรงหกเหลย่ี ม ใชกุญแจหัวหกเหลีย่ มขัน T56
นาํ สสออนน สรุป ประเมนิ ตÇั อยา‹ ง การตดิ ตง้ั และประกอบของใชภายในบาน ขน้ั นาํ การประกอบพัดลม 1. ครูนําพัดลมที่ยังไมไดประกอบมาแสดงที่ หนาช้ันเรียน จากนั้นสุมเรียกนักเรียนออกมา พดั ลม เปน็ อุปกรณ์ไฟฟ้าทีม่ ีใช้ในทกุ ครัวเรือน ปจั จุบันผทู้ ่ีซ้ือพัดลม ประกอบพัดลมตามความเขา ใจของนักเรียน จากห้างร้านจะต้องน�าพดั ลมมาตดิ ตั้งและประกอบเอง โดยผู้ผลิต จะบรรจุพดั ลมใส่กลอ่ งเพือ่ ความสะดวกในการขนสง่ ในกล่องจะมี 2. นกั เรยี นสงั เกตการประกอบพดั ลมของตวั แทน ค่มู อื การประกอบพดั ลมเพอื่ ใหผ้ ซู้ ื้อสามารถประกอบตามขัน้ ตอน นักเรียน แลวชวยกันพิจารณาวา พัดลมมี ได้อย่างถูกตอ้ ง ขั้นตอนและวิธีการประกอบอยางไร โดยมีครู คอยแนะนํา สว่ นประกอบพดั ลม ชิน้ สว่ นต่าง ๆ ของพดั ลม มดี ังน้ี 3. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปวิธีการประกอบ ขอบตะแกรง ตะแกรงหน้า ใบพัด ตะแกรงหลัง ปุม ดงึ สา่ ย พดั ลมทถ่ี ูกตอง ขอบตะแกรง กะโหลกหนา้ ขนั้ สอน นักเรียนแบงกลุมตามความสมัครใจ จากนั้น ใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาความรู เร่ือง การประกอบและติดตั้งของใช จากหนังสือเรียน การงานอาชพี ป.6 กะโหลกหลงั คอพดั ลม หน้าปดั ฝาครอบใบพดั ขาเสาพดั ลม เสาปรับระดบั คขลอปิบลตอ็ะแกกรง ตตัวะแลกอ็ รกงหลงั สวติ ช์ปรับแรงลม ฐานพัดลม สายไฟฟา้ พร้อมปลัก๊ การติดต้ังและประกอบของใชภายในบา นดวยตนเอง 4๕ ขอ สอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู เครอ่ื งมือชางในขอ ใดใชส าํ หรบั ขนั หรอื คลายสกรแู ละนอต ครูอธิบายเพ่ิมเติมใหนกั เรียนฟง วา พัดลมทใ่ี ชง านในบานมหี ลายประเภท เพ่ือประกอบและตดิ ตงั้ อปุ กรณไฟฟา เชน พัดลมต้ังโตะ พัดลมตั้งพ้ืน พัดลมติดผนัง พัดลมเพดาน โดยพัดลม ชนดิ ตา งๆ มหี ลกั การทาํ งานทคี่ ลา ยคลงึ กนั แตอ าจมวี ธิ กี ารประกอบและตดิ ตง้ั 1. คอน แตกตางกันออกไป อยา งไรก็ตาม นกั เรยี นควรศกึ ษาขอ มลู วิธกี ารประกอบและ 2. สวา น ตดิ ตง้ั พัดลมจากคมู ืออยางละเอยี ดกอ นติดต้ังและใชงาน 3. ไขควง 4. คมี ปากจ้งิ จก สื่อ Digital (วิเคราะหคําตอบ : ขอ 1. คอนใชสําหรับตอก ขอ 2. สวานใช นักเรยี นสแกน QR Code เรอ่ื ง การติดตัง้ และประกอบของใชภ ายในบาน สําหรับเจาะ ขอ 3. ไขควงใชสําหรับขันหรือคลายสกรู ขอ 4. ดว ยตนเอง เพอ่ื ดูตัวอยางการตดิ ตงั้ และประกอบของใชในบาน คีมปากจิ้งจกใชสําหรับจับยึดวัตถุ ดังน้ัน ขอ 3. จึงเปนคําตอบ ที่ถูกตอ ง) T57
นาํ สอน สรุป ประเมิน ขนั้ สอน ขน้ั ตอนการประกอบพดั ลม สงั เกต รบั รู ๑ เตรียมสว นประกอบพัดลม และประกอบฐานพัดลม แลว้ เนตา� รตยี ะมแฐการนงพหลดั งัลมมาทตม่ี ดิ มี ตอง้ั เกตบั อขรวั้์ พมรออ้ เมตอขรา1ต์ตรงั้ งทกมี่ ะสีโหวติลชกเ์หพนอ่ื า้ เพตรดั ยี ลมมปจราะกกนอบน้ั 1. ครูนําตัวอยางโคมไฟท่ีประกอบเสร็จแลวมา น�าตัวล็อกตะแกรงหลังมาหมุนยึดตะแกรงหลังให้แน่น โดยหมุนตัวยึดไป แสดงท่ีหนาชั้นเรียน แลวใหนักเรียนชวยกัน ทางขวาหรือตามเข็มนาฬก า สงั เกตวา โคมไฟดงั กลา ว ประกอบดว ยวสั ดแุ ละ อปุ กรณใ ดบาง ๒ ประกอบใบพัดลม น�าใบพัดมาใส่ตรงแกนมอเตอร์ โดยให้รอยบากหลังใบพัดลมตรงกับ 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมสํารวจอุปกรณที่ใช สลัก และชิดกับสลักแกนพัดลม จากนั้นน�าฝาครอบใบพัดมาขันเข้ากับ ในการประกอบโคมไฟเพ่ือเตรียมความพรอม ใบพดั ใหแ้ นน่ โดยหมุนไปทางซา้ ยหรอื ทวนเขม็ นาฬกา ในการปฏิบตั ิกิจกรรม ๓ ประกอบตะแกรงพัดลม ทาํ ตามแบบ น�าตะแกรงหน้ามาประกบกับตะแกรงหลัง โดยให้รอยบากตรงร่อง ตะแกรงหน้าอยู่ด้านบนและเก่ียวกับลวดตะแกรงหลัง สังเกตโลโกของ 1. ครูนําอุปกรณในการประกอบโคมไฟมาแสดง พดั ลมต้องตั้งอยู่ในแนวท่ถี ูกตอ้ ง จากน้นั กดล็อกให้เข้าที่แล้วใสค่ ลปิ ลอ็ ก ใหนักเรียนดู แลวครูประกอบเปนตัวอยางให ขอบตะแกรง นกั เรียนดูทีละขั้นตอน พรอ มอธิบายประกอบ ในแตล ะขนั้ ตอน เพอื่ ใหน กั เรยี นสงั เกตขน้ั ตอน ๔ ตรวจสอบกอ นนําไปใช ตรวจสอบความเรียบร้อยของพัดลมที่ประกอบ แล้วจึงน�าปล๊ักพัดลมเสียบกับเต้าเสียบ 2. นักเรียนแตละกลุมประกอบโคมไฟตามแบบ ไฟฟาและกดสวิตช์เพื่อให้พัดลมท�างาน จากนั้นทดสอบความเร็วโดยการกดสวิตช์ตาม ท่ีครูสอนตามลําดับขั้นตอน โดยครูเนนยํ้า หมายเลข พร้อมทง้ั ทดสอบปมุ ดงึ ส่ายพัดลมว่าทา� งานปกติหรอื ไม่ เม่อื พัดลมทา� งานปกติจึง ใหนักเรียนตระหนักถึงความปลอดภัยใน นา� ไปใช้งานต่อไป การทาํ งาน àกรç´การท�างาน หากพบว่าเกดิ ข้อบกพรอ่ งของเครือ่ งใชไ้ ฟฟา จากการผลติ ควรน�าเครือ่ งใช้ไฟฟาสง่ 3. ครูสังเกตการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียนเปน คืนตัวแทนจ�าหน่ายเพ่ือด�าเนินการแก้ไขต่อไป และหลีกเลี่ยงการแก้ไขด้วยตนเอง รายกลุม หากมีพฤติกรรมในการทํางานท่ี เพราะอาจผดิ เงอ่ื นไขในการรบั ประกันได้ ไมปลอดภัย ใหเสนอแนะใหนักเรียนปรับปรุง แกไขใหถ ูกตอ งและปลอดภัย ËนÙทา� ä´Œ 4๖ ตดิ ตงั้ และประกอบของใชภ้ ายในบา้ น ทา� ได้ดี พอทา� ได้ ท�าอกี คร้งั นักเรียนควรรู กิจกรรม เสรมิ สรางคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค 1 มอเตอร คือ อุปกรณท่ีใชสําหรับแปลงพลังงานไฟฟาใหเปนพลังงานกล ครูใหนักเรียนทํากิจกรรม “เช็ดถูดูแลพัดลม” โดยใหนักเรียน ทําหนาที่ระบายลม โดยกระเเสไฟฟาที่เขาสูมอเตอรจะทําใหใบพัดหมุน ศึกษาวิธกี ารประกอบและติดตงั้ พดั ลมจนเกิดความเขา ใจ จากนัน้ มอเตอรพ ดั ลมมอี ายกุ ารใชง านแตกตา งกนั ออกไป ขนึ้ อยกู บั คณุ ภาพของการผลติ นําไปปฏิบัตจิ ริงท่ีบา น ดังน้ี และการใชง านของผูใช อาการท่สี ังเกตไดเม่อื มอเตอรพ ัดลมเส่อื มสภาพ มดี ังนี้ 1. ถอดปลก๊ั พดั ลมทน่ี กั เรียนตอ งการทาํ ความสะอาด 1. พดั ลมทาํ งานไดท คี่ วามเรว็ สงู เทา นน้ั เเตจ ะไมท าํ งานเมอื่ ตง้ั คา สวติ ชเ ปน 2. ถอดตะแกรงและใบพัดออกมาทําความสะอาด โดยใชวิธี ความเร็วต่ํา อาการเชนน้ีมีสาเหตุมาจากการกัดกรอนของตัวตานทาน เเละอณุ หภูมิทส่ี งู เกินไป ฉดี นา้ํ หรือใชแปรงขัดซ่ีตะแกรงหากยังมีฝุนติดอยู จากนั้น นาํ ชน้ิ สวนท่ลี างเสรจ็ แลว ไปเช็ดดว ยผา ข้ีรวิ้ ใหแ หงสนทิ 2. มอเตอรส ง เสยี งดงั ขณะใชง าน สาเหตอุ าจเกดิ จากวตั ถขุ นาดเลก็ หลน ลง 3. นําช้ินสวนมาประกอบตามเดิม โดยเร่ิมจากตะแกรงหลัง ในชองระบายอากาศ สัตวขนาดเล็กเขาไปในกลองทําความรอน หรือ ตวั ล็อกตะแกรงหลงั ใบพัด ตัวล็อกใบพัด โดยจะตองหมนุ ตะเเกรงพัดลมมีฝุนท่ีหนาเกินไป ซ่ึงแกไขไดโดยการทําความสะอาดที่ เกลียวทุกสวนประกอบใหแนนกอนนําตะแกรงหนามาใส ตะเเกรงพดั ลม แลวกดตัวล็อกใหแ นน 4. เสยี บปลก๊ั และทดลองใชง าน จะไดพ ดั ลมทสี่ ะอาด และนกั เรยี น 3. อายุการใชงานท่ียาวนานเกินไป ทําใหกระเเสไฟท่ีเขาสูมอเตอรพัดลม เกดิ ความเขา ใจในการประกอบของใชใ นบา นดว ยตนเอง ถูกตัดออกจากวงจรจนมอเตอรไ มท าํ งาน T58
นาํ สอน สรุป ประเมิน กจิ กรรมพัฒนาการทา� งาน ขนั้ สอน ถามมาหนตู อบได้ ทาํ เองโดยไมม แี บบ ๑. เหพารกาตะ้อเหงตกใุาดรทเา�รไามจก้ึงคระวดรเารนยี 1ในหรเ้ รู้วียิธบีใชเ้นคกั รเือ่ รงียมนอื คชวา่รงใชกเ้่อคนรน่อื �างไมปือใชชน้งาิดนใด 1. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันประกอบ ๒. เพราะอะไร โคมไฟโดยไมมแี บบ จากนน้ั นําสงครู ๓. นกั เรยี นมหี ลักในการประกอบและตดิ ต้งั อปุ กรณห์ รือของใชใ้ นบา้ น 2. นกั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั สรปุ และเรยี งลาํ ดบั อยา่ งไร วธิ ีการ ข้นั ตอนในการประกอบโคมไฟ เรยี นรกู้ จิ กรรมทักษะการทา� งาน C21 erCorLiefeSuSabkinllds CareLearning aSnkdillIsnnovation TIencform 3. นักเรียนแตละกลุมตรวจสอบความเรียบรอย jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd ของผลงาน หากมีขอบกพรองใหแกไขให เรียบรอ ย SCPtaruonrfrdeicasusridlousnmaalnaDdnedAvIesnslesotsprsummcteeionnntts Learning Environments ฝก ทําใหช าํ นาญ ๑. ตดิ ภาพการทา� งานชา่ งลงในสมดุ จากนนั้ วเิ คราะหแ์ ลว้ เขยี นบอกชอ่ื งาน 1. ครกู าํ หนดใหนักเรียนแตล ะกลมุ ติดตง้ั และ ชา่ ง ลกั ษณะของงาน เคร่ืองมือ วสั ดแุ ละอุปกรณท์ ่ีใชใ้ นงานน้ี ประกอบของใชภ ายในบา น ๒. แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๕ คน ฝึกประกอบของใช้ ๑ อย่าง โดยครูหรอื 2. นักเรียนแตละกลุมติดต้ัและประกอบของใช ผปู้ กครองให้คา� แนะน�า จากน้นั ออกมานา� เสนอผลงานทห่ี นา้ ชั้นเรยี น ในบา นโดยใชก ระบวนการจดั การ แลว บนั ทกึ ลง ในกจิ กรรมตามตวั ชวี้ ัด กิจกรรมท่ี 4.1 หนวย หนูรสู้ กึ อย่างไร การเรยี นรทู ี่ 4 จากแบบวดั ฯ การงานอาชพี ป.6 ๑. การฝึกประกอบหรอื ติดต้ังอปุ กรณ์มปี ระโยชน์ตอ่ นักเรียนหรอื ไม่ 3. ครูคอยใหขอเสนอแนะ และนักเรียนแกไข อยา่ งไร ผลงานการติดตั้งและประกอบของใชในบาน เพื่อใหเกิดความชํานาญ แลวรวบรวมผลงาน ๒. ถา้ นกั เรยี นไมส่ ามารถประกอบหรอื ตดิ ตงั้ ของใชด้ ว้ ยตนเองได้ นกั เรยี น สง ครตู รวจ จะปฏิบตั อิ ย่างไร 4. นักเรียนทําแบบทดสอบหนวยการเรียนรูท่ี 4 จากแบบวัดฯ การงานอาชพี ป.6 47 ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู เมื่อนักเรียนจะประกอบและติดตั้งของใชในบานแลวพบวา 1 ไมก ระดาน เปน ไมท รงสเี่ หลย่ี มผนื ผา แบนและยาว มกั ใชใ นการสรา งบา น มสี ว นประกอบชาํ รดุ เสยี หายซงึ่ มาจากโรงงาน นกั เรยี นควรปฏบิ ตั ิ ทําชั้นวางของหรือโตะ ไมกระดานสามารถทําใหเรียบไดดวยการใชกบไสไม อยางไร และขดั ดว ยกระดาษทราย ปจ จบุ นั นยิ มใชก บไฟฟา เพราะใชง านงา ย ขดั ผวิ หนา ไม ไดเรยี บ และไดรปู ทรงตามทีต่ องการ 1. ถายภาพลงสอื่ โซเชยี ลตา งๆ เพ่ือใหผ อู นื่ ทราบ 2. ประกอบและตดิ ตัง้ ใหเ สร็จแลวใชง านตามปกติ T59 3. แจง ตวั แทนจาํ หนา ยเพื่อขอเปล่ียนหรอื คนื สนิ คา 4. นาํ ไปใหเ พอ่ื นชวยประกอบหรือซอมแซมสว นท่ีชํารดุ ให (วิเคราะหคําตอบ : เม่ือประกอบและติดต้ังของใชในบาน แลวพบวามีสวนประกอบท่ีชํารุดเสียหายซึ่งมาจากโรงงาน ควร แจง ตัวแทนจําหนายเพ่ือขอเปลย่ี นหรอื คืนสนิ คา ไมค วรซอ มแซม ดวยตนเองหรือใชงานโดยที่สวนประกอบไมสมบูรณ เพราะอาจ เกดิ อนั ตรายได ดงั นัน้ ขอ 3. จึงเปนคําตอบท่ีถกู ตอ ง)
นาํ สอน สรุป ประเมิน ขน้ั สรปุ แบบประàÁินการ·าí งาน ส�าห 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู เรอ่ื ง อปุ กรณ ค�าชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนประเมนิ การทา� งานของตนเองตามรายการ รับนักเรียน ท่ใี ชในการติดตง้ั ทก่ี า� หนด แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนแตละคนติดต้ังและ รายการ ทา� ได้ดี พอทา� ได้ ปรับปรุง ประกอบของใชภายในบา นคนละ 1 ชนิด ๑. ปอ้ งกนั อุบตั ิเหตุในการท�างานชา่ ง 3. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวย การเรียนรูที่ 4 เรื่อง งานชาง จากแผนการ ๒. มีทกั ษะในการใช้เครอ่ื งมือและอุปกรณง์ านช่าง ตัวอยางตารางบันทึกผล จดั การเรียนรู ๓. ตดิ ต้งั และประกอบของใชใ้ นบ้าน ขน้ั ประเมนิ รวมทา� ไดดี = ๓ พอท�าได = ๒ ปรับปรุง = ๑ ครูวัดและประเมนิ ผลนักเรยี น ดังน้ี แบบประàÁนิ ·ักÉะการ·íางาน C21 Life Sakinllds CareerLearning aSnkdillIsnnovation TIencform • จากการตดิ ตง้ั และประกอบของใชภ ายในบา น Core Sub jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd • จากกิจกรรมท่ี 4.1 หนวยการเรียนรูที่ 4 SCPtaruonrfrdeicasusridlousnmaalnaDdnedAvIesnslesotsprsummcteeionnntts และแบบทดสอบหนว ยการเรยี นรทู ่ี 4 จาก Learning Environments แบบวดั ฯ การงานอาชีพ ป.6 • จากแบบทดสอบหลงั เรียน หนว ยการเรียนรู ค�าชแ้ี จง : ใหผ้ ูส้ อนประเมินทักษะการทา� งาน C21 ตามรายการ สา� หรับครู ท่ี 4 เรื่อง งานชาง จากแผนการจัดการ ท่กี า� หนด แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกับระดบั คะแนน เรียนรู รายการ ท�าได้ดี พอท�าได้ ปรบั ปรงุ ๑. แบง่ หน้าท่กี นั อยา่ งเหมาะสม ๒. รว่ มมอื กันท�างานจนส�าเร็จ ตัวอยางตารางบันทึกผล ๓. แสดงความคดิ เห็นอยา่ งเหมาะสม ๔. รับฟังความคดิ เหน็ ของคนในกลมุ่ ๕. นา� เสนอหน้าช้นั เรียน รวมทา� ไดด ี = ๓ พอท�าได = ๒ ปรบั ปรงุ = ๑ 4๘ แนวทางการวัดและประเมินผล ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมนิ ผล เพ่อื ประเมินชน้ิ งานของนกั เรียนจากแบบประเมินชิน้ งานทแี่ นบทายแผนการจัดการเรยี นรู หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 งานช่าง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 งานชา่ ง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 งานช่าง หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 งานชา่ ง แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด ) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบประเมนิ การตดิ ตง้ั /ประกอบของใชภ้ ายในบ้าน คาชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องที่ คาช้แี จง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องท่ี คาช้ีแจง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน ระดับคะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน 32 ลาดับท่ี รายการประเมิน 1 ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน การแสดง การทางาน การมี คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน รวม 1 การแสดงความคดิ เหน็ 32 ความ ตามทีไ่ ด้รับ ส่วนร่วมใน รวม อันพึงประสงค์ดา้ น 321 1 การวางแผนการติดต้ัง/ประกอบ คิดเหน็ การยอมรับ มอบหมาย ความมี การปรบั ปรงุ 15 2 การเลอื กใช้เครอื่ งมือและอปุ กรณ์ 1 ลาดับท่ี ช่อื – สกุล ฟงั คนอ่ืน นา้ ใจ ผลงานกลุม่ คะแนน 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 3 ขน้ั ตอนการติดต้งั /ประกอบ ของนกั เรยี น 4 ผลงานการติดตง้ั /ประกอบ กษัตริย์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมท่ีสร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน ตอ่ โรงเรยี น 32132132132132 1 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถอื ปฏิบัติตามหลกั ศาสนา 3 การทางานตามหน้าที่ที่ได้รบั มอบหมาย 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมที่เกีย่ วกบั สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ตามท่โี รงเรยี นจัดขึ้น 4 ความมนี า้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา ตัวอยางแบบประเมินลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน 2. ซือ่ สัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถกู ตอ้ ง และเป็นจริง รวม จากแผนการจดั การเรยี นรู............../.................../................ 2.2 ปฏบิ ัติในสงิ่ ท่ีถูกต้อง 3. มีวินยั รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครวั ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจาวัน ............../.................../................ 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รจู้ ักใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบัติได้ 4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชือ่ ฟังคาสัง่ สอนของบิดา - มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง 4.4 ตง้ั ใจเรียน 5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด 5.2 ใช้อปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คณุ คา่ 5.3 ใช้จา่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออมเงนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน 6. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ด้รับมอบหมาย ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ให้ 3 คะแนน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออุปสรรคเพ่ือใหง้ านสาเร็จ ดี = 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ............../.................../............... ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย พอใช้ = 2 คะแนน 10-12 ดี 7.2 เห็นคุณค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย ปรบั ปรุง = 1 คะแนน 6-9 พอใช้ 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน ต่ำกวำ่ 6 ปรบั ปรงุ เกณฑ์การให้คะแนน 8.2 รจู้ ักการดแู ลรกั ษาทรัพยส์ มบัติและสิง่ แวดล้อมของหอ้ งเรียนและ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน โรงเรยี น ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ให้ 1 คะแนน ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ............../.................../................ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนและสม่าเสมอ 8 - 11 พอใช้ เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ พฤติกรรมท่ีปฏิบัติชดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี 22 การงานอาชีพ ป.6 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง 19 การงานอาชีพ ป.6 21 การงานอาชีพ ป.6 20 การงานอาชพี ป.6 T60
Chapter Overview แผนการจดั สอ่ื ท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทกั ษะท่ีได้ คุณลักษณะ การเรียนรู้ อนั พึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 - หนงั สอื เรียน 1. บอกประเภทของ วิธีสอนโดยเน้น - ตรวจแบบทดสอบ 1. ทกั ษะการ 1. มีวนิ ยั รจู้ ักงานประดิษฐ์ การงานอาชีพ ป.6 งานประดิษฐไ์ ด้ กระบวนการ กอ่ นเรยี น รวบรวมขอ้ มูล 2. ประหยัด หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5 2. จำ� แนกประเภทของ สรา้ งความคิด หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 2. ทกั ษะการ 3. ใฝเ่ รียนรู้ 1 - แบบวัดฯ งานประดษิ ฐ์ได้ รวบยอด - ตรวจใบงานที่ 5.1 เชือ่ มโยง 4. อยู่อย่าง การงานอาชพี ป.6 3. ปฏบิ ตั ิตนอย่าง - สงั เกตพฤตกิ รรม 3. ทกั ษะการ พอเพียง ช่วั โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 มีมารยาทใน การทำ� งานรายบคุ คล เรียงลำ� ดับ 5. มคี วาม - ใบงานที่ 5.1 เร่ือง การท�ำงานกบั ผอู้ น่ื - สังเกตพฤติกรรม 4. ทกั ษะการ รับผิดชอบ ประเภทของ การทำ� งานกลุ่ม ประเมนิ งานประดิษฐ์ - สงั เกตความมีวนิ ัย - บัตรภาพงานประดษิ ฐ์ ประหยัด ใฝ่เรียนรู้ - PowerPoint อยอู่ ยา่ งพอเพียง และมคี วามรบั ผดิ ชอบ แผนฯ ท่ี 2 - หนงั สือเรียน 1. บอกอปุ กรณ์ทใี่ ช้ใน วิธสี อนโดยเน้น - ตรวจใบงานที่ 5.2 1. ทักษะการ 1. มวี ินัย การงานอาชีพ ป.6 งานประดษิ ฐ์ได้ กระบวนการ - สงั เกตพฤติกรรม รวบรวมขอ้ มูล 2. ประหยดั อปุ กรณท์ ่ีใช้ใน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 เรยี นความรู้ การทำ� งานรายบุคคล 2. ทักษะการ 3. ใฝเ่ รียนรู้ งานประดษิ ฐ์ 2. ปฏบิ ัติตนอยา่ ง ความเขา้ ใจ - สงั เกตพฤติกรรม เชอ่ื มโยง 4. อยอู่ ยา่ ง - ใบงานท่ี 5.2 เรอื่ ง มมี ารยาทใน การทำ� งานกลมุ่ 3. ทักษะการ พอเพียง 1 อปุ กรณ์ที่ใชใ้ น การท�ำงานกบั ผอู้ น่ื - สังเกตความมวี ินยั เรยี งล�ำดบั 5. มีความ งานประดิษฐ์ ช่ัวโมง ประหยัด ใฝ่เรียนรู้ 4. ทกั ษะการ รบั ผิดชอบ - อุปกรณท์ ่ีใชใ้ น งานประดษิ ฐ์ อยู่อย่างพอเพยี ง ประเมนิ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ - PowerPoint T61
Chapter Overview แผนการจดั สอ่ื ท่ีใช้ จุดประสงค์ วธิ สี อน ประเมนิ ทกั ษะท่ีได้ คุณลกั ษณะ การเรียนรู้ อันพงึ ประสงค์ - หนังสือเรยี น แผนฯ ท่ี 3 การงานอาชพี ป.6 1. บอกแนวทางในการ วิธสี อนโดยเนน้ - ตรวจผลงาน 1. ทักษะการ 1. มีวนิ ยั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ทำ� งานและปรับปรงุ กระบวนการ การประดิษฐ์ รวบรวมขอ้ มลู 2. ประหยดั การประดิษฐ์ การท�ำงานประดษิ ฐ์ ปฏบิ ตั ิ - ตรวจกจิ กรรม 5.1 2. ทกั ษะการ 3. ใฝ่เรียนรู้ ของใช้ - แบบวัดฯ แตล่ ะขน้ั ตอนได้ ขอ้ 1-2 จากแบบวัดฯ เชื่อมโยง 4. อยอู่ ย่าง ของตกแตง่ การงานอาชีพ ป.6 2. มีทกั ษะการจัดการ การงานอาชีพ ป.6 3. ทกั ษะการ พอเพยี ง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 ในการทำ� งานและ - ตรวจแบบทดสอบ เรยี งลำ� ดับ 5. มคี วาม 4 ทำ� งานประดษิ ฐต์ าม หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 4. ทกั ษะการ รบั ผดิ ชอบ - อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นงาน ขัน้ ตอนอย่างถกู ตอ้ ง จากแบบวัดฯ ประเมนิ ชั่วโมง ประดิษฐ์ - PowerPoint 3. ปฏิบตั ิตนอย่าง การงานอาชพี ป.6 มมี ารยาทใน - สังเกตพฤติกรรม การทำ� งานกับผูอ้ ื่น การทำ� งานรายบุคคล - สังเกตความมวี นิ ยั ประหยัด ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง และ มคี วามรบั ผดิ ชอบ - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน หนว่ ย การเรียนรูท้ ี่ 5 T62
นาํ สสออนน สรปุ ประเมนิ õ §Ò¹»ÃдÉÔ °Ë¹Ç‹ ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ Õè ขนั้ นาํ กิจกรรมนา� Ê‹ÙการàรÂÕ น เราสามารถนาํ วสั ดุ ครูใหนักเรียนสังเกตสิ่งรอบตัว แลวบอกวา เหลือใชม าใชประโยชน สิ่งใดเปนงานประดิษฐบาง ไดอ ยางไร ขน้ั สอน ขนั้ สอน ครูนําภาพงานประดิษฐมาใหนักเรียนดู แลว ใหนกั เรยี นชวยกันสังเกตวา งานประดษิ ฐใ นภาพ ประดษิ ฐจ ากวสั ดหุ รอื เศษวสั ดอุ ะไรบา ง และจดั อยู ในงานประดษิ ฐป ระเภทใด จําแนกความแตกตา ง 1. นกั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละเทา ๆ กนั แตล ะกลมุ รวมกันศึกษาความรู เร่ือง รูจักงานประดิษฐ จากหนงั สอื เรยี น การงานอาชพี ป.6 2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันอภิปรายถึงความ แตกตา งของงานประดษิ ฐต ามประเดน็ ทก่ี าํ หนด ไดแก งานประดษิ ฐทเ่ี ปน เอกลกั ษณไทย งาน ประดษิ ฐท ว่ั ไป และคน หาภาพงานประดษิ ฐม า ใหไดม ากท่สี ดุ ÊÒÃÐÊÒí ¤ÑÞ à»Ò‡ ËÁÒ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã»ŒÙ ÃШÒí ˹Nj ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ Õè õ งานประดิษฐ์เป็นสิ่งที่คนเราคิดออกแบบ ๑. อ ธบิ ายแนวทางในการทา� งานและปรบั ปรงุ การทา� งานแตล่ ะขนั้ ตอน และสรา้ งขนึ้ มา โดยอาจสรา้ งใหเ้ หมอื นของจรงิ ของการประดิษฐ์ของใช้ของตกแตง่ (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๑) ตามธรรมชาติหรือมีรูปแบบที่แปลกใหม่ เพื่อ ประโยชน์ในการนา� ไปใชง้ าน ๒. ทา� งานประดษิ ฐอ์ ยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนตามลา� ดบั ทวี่ างแผนไวแ้ ละประเมนิ ทกุ ข้นั ตอนเพอ่ื การแก้ไขและปรับปรุงผลงาน (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๑) ๓. ใชท้ กั ษะการจดั การในการทา� งานและมที กั ษะการทา� งานรว่ มกนั ใน การท�างานประดิษฐ ์ (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๒) ๔. ปฏบิ ตั ติ นอยา่ งมมี ารยาทในการทา� งานรว่ มกบั ครอบครวั และผอู้ น่ื (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๓) ๕. ม ีจิตส�านึกในการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างประหยัดและ คุม้ ค่า (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๓) ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู ขอ ใดเปน วสั ดหุ รอื เศษวสั ดจุ ากธรรมชาตทิ นี่ าํ มาทาํ งานประดษิ ฐ ครจู ดั กระบวนการเรียนรโู ดยการใหนักเรยี นปฏิบัติ ดังนี้ ไดท ั้งหมด • รว มกนั อภปิ รายและตอบคําถามเกย่ี วกบั งานประดิษฐป ระเภทตางๆ • รวมกนั ทํางานประดิษฐจ ากวัสดุตา งๆ 1. เศษผา เศษไม จนเกดิ เปน ความรคู วามเขา ใจวา การทาํ งานประดษิ ฐเ ปน การออกแบบและ 2. เปลอื กหอย เปลอื กไข สรา งสรรคผ ลงาน ซง่ึ อาจคดิ ขนึ้ ใหมห รอื เลยี นแบบสงิ่ เดมิ ดว ยวสั ดทุ ห่ี ลากหลาย 3. ฝาขวดนํ้าอัดลม เกล็ดปลา เพอ่ื การใชง านทแ่ี ตกตา งกนั ออกไป ซง่ึ ผปู ระดษิ ฐท ม่ี คี วามตงั้ ใจและหมน่ั ฝก ฝน 4. กระดาษหนงั สอื พิมพ แกนกระดาษชําระ จะทําใหผลงานออกมาดี (วิเคราะหคําตอบ : วัสดุหรือเศษวัสดุจากธรรมชาติ หมายถึง สวนตา งๆ ของพชื หรอื สัตว ดังนน้ั เศษไม เกล็ดปลา เปลือกหอย เปลือกไข จึงเปนวัสดุหรือเศษวัสดุจากธรรมชาติ สวนเศษผา ฝาขวดนํ้าอัดลม กระดาษหนังสือพิมพ แกนกระดาษชําระ คือ วสั ดหุ รอื เศษวสั ดสุ งั เคราะห ดงั นนั้ ขอ 2. จงึ เปน คาํ ตอบทถ่ี กู ตอ ง) T63
นํา สอน สรปุ ประเมิน ขนั้ สอน ñ èŒÙ Ñ¡§Ò¹»ÃдÉÔ ° หาลักษณะรว ม งานประดิษฐ หมายถึง สิ่งทคี่ นเราคดิ ออกแบบสร้างขน้ึ อาจสร้างให้ เหมือนของจรงิ ตามธรรมชาติหรอื มรี ูปแบบทีแ่ ปลกใหม่ ซ่งึ ผู้ประดษิ ฐ์จะ 1. นกั เรยี นแตล ะกลมุ นาํ ภาพงานประดษิ ฐท สี่ บื คน ต้องมีจนิ ตนาการ ความอดทน ความต้งั ใจ รกั ในงานทีท่ �า และหมัน่ ฝก ฝน มาจาํ แนกประเภท แลวตดิ ลงในกระดาษ โดย จนเกิดความช�านาญในงานนั้น ๆ ผลงานจงึ จะออกมาดี ทาํ เปน แผนผงั ความคดิ ๑. ประเภทของงานประดษิ ฐ 2. ตัวแทนนักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอ ผลการพจิ ารณาและจาํ แนกความแตกตา งของ งานประดษิ ฐ์แบ่งเปน็ ๒ ประเภท ดังน้ี งานประดิษฐท ห่ี นาชัน้ เรียน ๑ งานประดิษฐทเี่ ปนเอกลกั ษณไ ทย ระบุชอ่ื ความคดิ รวบยอด เป็นงานประดิษฐ์ท่ีสืบทอดมา จากบรรพบุรุษ ช้ินงานที่สร้าง 1. นักเรียนรวมกันสรุปลักษณะประเภทของ ขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม งานประดษิ ฐ ประเพณี และวิถีชีวิตแบบไทย ทมี่ ีความประณีต งดงาม และมี 2. ครถู ามคําถามกระตุน ความคิด คณุ คา่ ทางศลิ ปะ แสดงถงึ ความ • นกั เรยี นคดิ วา งานประดษิ ฐท เี่ ปน เอกลกั ษณ เป็นเอกลักษณ์ไทย เพื่อน�าไป ไทย มคี วามสวยงามและโดดเดน อยา งไร เป็นของใช้ ของเล่น หรือของ (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ประดบั ตกแตง่ โดยใหอยูในดุลยพินิจของครผู ูสอน) ๒ งานประดษิ ฐทั่วไป 3. ครอู ธบิ ายความรเู พมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั งานประดษิ ฐ เป็นงานประดิษฐ์ท่ีเกิดจาก 4. นักเรียนทํากิจกรรมเรียนรูปูพ้ืนฐาน ขอ 1-2 ค ว า ม คิ ด ส ร ้ า ง ส ร ร ค ์ ข อ ง ผปู้ ระดษิ ฐ ์ เพอ่ื นา� ไปเปน็ ของใช ้ หนว ยการเรยี นรทู ี่ 5 จากแบบวดั ฯ การงานอาชพี ของเล่น หรือของประดับ ป.6 ตกแต่ง 5. ครูถามคําถามกระตนุ ความคดิ • นักเรียนคิดวา การทํางานประดิษฐจาก วัสดุเหลือใช จัดเปนการใชทรัพยากรอยาง คุมคา หรอื ไม เพราะอะไร (แนวตอบ : เปน เพราะเปน การนาํ สง่ิ ทอ่ี าจจะ ตอ งนาํ ไปทงิ้ ไปใชใ หเ กดิ ประโยชน และชว ย รกั ษาสงิ่ แวดลอ มดว ยการลดปรมิ าณขยะได) 5๐ บรู ณาการอาเซียน ขอ สอบเนน การคิด ครใู หน กั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละ 3-5 คน สบื คน งานประดษิ ฐท เ่ี ปน เอกลกั ษณ ขอ ใดหมายถงึ งานประดิษฐท่เี ปน เอกลักษณไทย ประจาํ ชาติในประเทศอาเซียน กลมุ ละ 1 ชนดิ โดยแตล ะกลุมไมซ าํ้ กัน จากนั้น 1. ส่งิ ท่ีประดษิ ฐจากความคิดของคนไทย ออกมานําเสนอหนาชัน้ เรียนอยางสรางสรรค ตามหัวขอ ตอ ไปน้ี 2. สง่ิ ทป่ี ระดิษฐเพือ่ นําไปเปน ของเลนในวิถชี วี ติ คนไทย 3. สง่ิ ทปี่ ระดษิ ฐจ ากวสั ดเุ หลอื ใช รวมถงึ วสั ดอุ น่ื จากธรรมชาติ 1. งานประดิษฐจ ากประเทศใด ทอี่ ยูในประเทศไทย 2. ช่ืองานประดษิ ฐ 4. สิง่ ท่ปี ระดิษฐข ้นึ มาเพ่ือประโยชนใ ชสอยในชีวติ ประจําวนั 3. เอกลกั ษณท ่แี สดงถงึ ประเทศนน้ั ๆ อาจมีการสบื ทอดมาตงั้ แตสมยั โบราณ ซึ่งสะทอนใหเห็น 4. วสั ดทุ ใี่ ชในการประดษิ ฐ วัฒนธรรมประเพณี ศาสนา และวถิ ชี ีวิตของไทย 5. ประโยชนของงานประดษิ ฐ (วิเคราะหคําตอบ : งานประดิษฐ หมายถึง ส่ิงที่ประดิษฐเพ่ือนํา T64 ไปเปนของใช ของเลน ของตกแตงท่ัวไป แตงานประดิษฐที่เปน เอกลักษณไทย มักเปนสิ่งประดิษฐท่ีสะทอนใหเห็นวัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา และวิถีชีวิตของไทย ดังนั้น ขอ 4. จึงเปน คําตอบที่ถกู ตอ ง)
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๒. กระบวนการจดั การในงานประดิษฐ ขนั้ สอน การทา� งานประดษิ ฐ ์ ควรทา� ตามขนั้ ตอนเพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลงานทม่ี คี ณุ ภาพ ทดสอบและนําไปใช้ สวยงาม และสามารถนา� ไปใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามความตอ้ งการ กระบวนการจดั การในงานประดิษฐ ์ มีดงั นี้ นกั เรยี นแตล ะคนทาํ ใบงานที่ 5.1 เรอื่ ง ประเภท งานประดิษฐ จากแผนการจัดการเรียนรู แลว ๑ วางแผนการทาํ งาน รวมกันเฉลยคําตอบใบงาน จากน้ันครูอธิบาย เปน็ การกา� หนดวตั ถปุ ระสงคแ์ ละรปู แบบเพอ่ื เปน็ แนวทางในการทา� งาน เชน่ ชอื่ ผลงาน ความรูเพ่ิมเติมเก่ียวกับการนําวัสดุและเศษวัสดุ วตั ถปุ ระสงค์ในการทา� งาน สถานทที่ า� งาน วธิ กี ารทา� งาน ระยะเวลาทา� งาน งบประมาณ มาใชใ นงานประดษิ ฐ เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลงานตามทตี่ อ้ งการ และเปน็ การใชท้ รพั ยากรอยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่ ๒ ปฏบิ ตั ิตามแผนการทาํ งาน ขน้ั สรปุ เป็นการปฏิบัติตามแผนการที่ก�าหนดไว้ โดยเร่ิมจากการเตรียมวัสดุและอุปกรณ ์ สถานท่ปี ฏบิ ตั ิงาน จากน้นั ลงมอื ปฏบิ ัติงานตามแผนทกี่ า� หนดไว้ ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเกี่ยวกับ ๓ ประเมินผล ประเภทของงานประดิษฐ เป็นการตรวจสอบผลงาน โดยรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติงานตามที่วางแผน ไว ้ เพอื่ หาขอ้ บกพร่องของการปฏบิ ัตงิ านในขั้นตอนต่าง ๆ เพือ่ ใช้เปน็ แนวทางในการ ขน้ั ประเมนิ แก้ไขและปรบั ปรุงผลงาน ครวู ดั และประเมนิ ผลนกั เรยี นจากแบบทดสอบ ๓. ขอ้ ควรค�านงึ ในการทา� งานประดษิ ฐ กอ นเรยี น หนว ยการเรยี นรทู ี่ 5 เรอื่ ง งานประดษิ ฐ และใบงานท่ี 5.1 จากแผนการจดั การเรยี นรู ในการท�างานประดษิ ฐ ์ ควรค�านงึ ถงึ สิง่ ตา่ ง ๆ ดังน้ี ๑ เลอื กใชว้ ัสดุหรือเศษวสั ดุท่หี าไดง้ า่ ยในท้องถน่ิ 1 ๒ ค�านงึ ถึงความประหยดั ไม่ควรซ้ือวสั ดุทมี่ รี าคาแพงมาใชใ้ นงานประดษิ ฐ์ ๓ พจิ ารณาและเลอื กประดิษฐส์ ่ิงทน่ี �าไปใชป้ ระโยชน์ได้ ๔ เลือกใช้อุปกรณ์และเครื่องมอื ใหเ้ หมาะกบั งานประดิษฐแ์ ละใชด้ ว้ ยความระมดั ระวงั ËนÙทา� ä´Œ ประดษิ ฐ์ของใชข้ องตกแตง่ ตามกระบวนการจัดการ ท�าไดด้ ี พอท�าได้ ท�าอกี ครงั้ 5๑ กิจกรรม ทา ทาย นักเรียนควรรู ครใู หน กั เรยี นแตล ะคนเลอื กประดษิ ฐข องใชข องตกแตง ทช่ี อบ 1 วัสดทุ ีห่ าไดงายในทองถิ่น หมายถงึ วสั ดทุ ีม่ ีมากในทองถ่ินหรือเขตชมุ ชน 1 ชนิด แลวนํากระบวนการจัดการทํางานมาใชในการประดิษฐ ของตน เชน ของใชข องตกแตง ดงั นี้ 1. วสั ดธุ รรมชาตจิ ากสตั ว เชน เปลอื กหอย เปลอื กไข ขนนก ขนไก เกลด็ ปลา 1. วางแผนการทํางาน 2. วัสดธุ รรมชาติจากพชื เชน ไมไ ผ มะพราว ตน กลวย ปาน ปอ ท้ังนี้ 2. ปฏิบัตติ ามแผนการทาํ งาน 3. ประเมนิ ผล การใชว ัสดธุ รรมชาติจะตอ งไมทาํ ลายสง่ิ แวดลอม จากนน้ั บนั ทกึ ขนั้ ตอนการทาํ งานลงในสมดุ และนาํ เสนอผลงาน 3. วัสดุสงั เคราะห เชน เสน ใยของพืชและสัตว ผา กระดาษ พลาสติก ลวด หนาชน้ั เรียน กระปอง ซง่ึ แตล ะทอ งถน่ิ จะมวี สั ดหุ รอื เศษวสั ดทุ แ่ี ตกตา งกนั เชน ทอ งถน่ิ ทอ่ี ยตู ดิ ทะเล จะมีเปลือกหอยและใบมะพราวมาก ทองถิ่นท่ีมีปาไมจะมีไมมาก ทองถิ่นท่ี อยูติดแมนํ้าลําคลองจะมีผักตบชวามาก การนําวัสดุที่หาไดงายในทองถิ่นมา สรางสรรคเปนงานประดิษฐ จะทําใหไดผลงานท่ีใหประโยชนใชสอยตรงตาม ความตองการของคนในทองถ่ิน T65
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน ขน้ั นาํ ๔. ประโยชนท ไ่ี ดร้ บั จากการทา� งานประดษิ ฐ ครูถามคําถามนักเรียนวา “นักเรียนรูจัก เกิดความคิด ประโยชน น�าไปประกอบ อุปกรณทใ่ี ชในงานประดิษฐอะไรบาง” สร้างสรรค์ ที่ไดร ับจากการ อาชพี ได้ น�าชนิ้ งานมาใช้ ทาํ งานประดษิ ฐ ฝก นิสัยในการทา� งาน ขน้ั สอน ประโยชน์ได้ เชน่ เชน่ ความอดทน จ�าหน่าย ใช้ใน ช่วยประหยดั ทรพั ยากรจาก ความละเอียดรอบคอบ สังเกต ตระหนกั ครอบครัว การนา� วสั ดเุ หลือใช้มาดัดแปลง ใชเ้ วลาวา่ ง ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ 1. ครูนําตัวอยางอุปกรณท่ีใชในงานประดิษฐ ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสดุ ประเภทตา งๆ มาใหนักเรียนดู ò Í»Ø ¡Ã³·Õãè ªãŒ ¹¡ÒûÃдÉÔ ° 2. นกั เรียนกลมุ เดมิ รวมกนั สงั เกต อภิปราย และ แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับตัวอยางอุปกรณ อุปกรณท่ีใช้ในการประดิษฐ หมายถึง ส่ิงที่น�ามาใช้เพ่ือช่วยอ�านวย ท่ีใชในงานประดิษฐทค่ี รูนํามาใหดู ความสะดวกในการท�างาน สามารถแบง่ ตามลกั ษณะการใชง้ านได ้ ดงั น้ี 3. ครูใหความรูเพิ่มเติมเก่ียวกับความสําคัญใน ใชวดั ใชต ัด การศกึ ษา เรื่อง อปุ กรณท ใี่ ชใ นการประดษิ ฐ ไมบ้ รรทดั วงเวยี น ไม้ครงึ่ วงกลม กรรไกร คมี คัตเตอร์ วางแผนปฏิบตั ิ ใชต ดิ 1. นักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาความรู เร่ือง อุปกรณท ีใ่ ชในการประดิษฐ จากหนงั สอื เรยี น การงานอาชพี ป.6 2. นักเรียนแตละกลุมรวมกันวางแผนรวบรวม ขอมูลและศึกษาความรูเพ่ือหาคําตอบตาม ประเดน็ ทีก่ าํ หนด ใชต กแตง ใชเ จาะ สีเทยี น ดนิ สอ กาวน�้า กาวแทง่ สไี ม้ ตะปู เหลก็ แหลม1 สีสเปรย์ ปน กาว เทปใส »ÅÍ´ÀัÂäÇŒกÍ‹ น ควรศึกษาวธิ ีใชเ้ ครือ่ งมอื ก่อนน�าไปใช้ และไมค่ วรใช้เครือ่ งมอื ท่ชี า� รดุ เพราะอาจทา� ให้ เกิดอุบตั ิเหตุได้ 5๒ นักเรียนควรรู กจิ กรรม สรา งเสรมิ 1 เหล็กแหลม เปนอุปกรณที่ใชเจาะ ซึ่งมีอุปกรณอีกชนิดหน่ึงที่มีลักษณะ ครูนําอุปกรณท่ีใชในการประดิษฐชนิดตางๆ มาจัดประเภท คลายกัน เรียกวา เหล็กหมาด เปนเหล็กปลายแหลมคลายเข็ม ยาวประมาณ แลววางไวหนาช้ันเรียน จากนั้นใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3 นว้ิ ดา มจบั เปน แทง มลี กั ษณะกลมมนทาํ จากไม สาํ หรบั ใชเ จาะ งดั ไช ตอก 3-5 คน ใหแตละกลุมเลือกอุปกรณใดก็ไดกลุมละ 5 อยาง แยง หรือแงะตามรู สําหรับรอยหวาย การถักขอบ หรือผูกโครงสรางของ แลวคิดงานประดิษฐข้ึนมากลุมละ 1 ชนิด โดยท่ีตองใชอุปกรณ เครื่องจกั สาน ทนี่ ักเรยี นเลอื กมาทาํ งานประดิษฐเ ทานั้น จากนน้ั ออกมานาํ เสนอ ผลงานอยางสรา งสรรคใ นชั่วโมงถัดไป T66
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๑µÇÑ ÍÂÒ‹ §·Õè ตะกราจากแผงไข ขนั้ สอน ๑. ÇแÊÑผง´ไáØขÅ่ 1ÐÍ»Ø ¡๒ó. ล วดกา� มะหย ี่ ๓. พู่กัน ลงมือปฏิบตั ิ ๔. กระดาษย่น ๕. เหล็กแหลม ๖. กรรไกร ๗. สนี �า้ ๘. กาวลาเทก็ ซ์ 1. นักเรียนแตละกลุมรวมกันรวบรวมขอมูลและ ศึกษาความรูเพ่ือหาคําตอบตามประเด็นที่ ขนั้ ตอนการประดษิ ฐ กําหนด โดยปฏิบัติตามแผนท่ีวางไว จากน้ัน เรียบเรียงขอมูล ความรู แลวอภิปราย และ ๑ ตัดแผงไข่ขนาดประมาณ ๖ หลมุ ๒ ใชส้ ีนา้� ระบายบริเวณดา้ นบนของแผงไข่ สรุปคําตอบท่ีเปนมตขิ องกลุม 2. ตวั แทนแตล ะกลมุ นาํ เสนอคาํ ตอบหนา ชน้ั เรยี น พฒั นาความรู้ความเขา้ ใจ นักเรียนทําใบงานที่ 5.2 เรื่อง อุปกรณท่ีใช ในงานประดษิ ฐ จากแผนการจดั การเรยี นรู ขนั้ สรปุ ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู เรอื่ ง อปุ กรณ ท่ใี ชใ นงานประดิษฐ ขนั้ ประเมนิ ครวู ดั และประเมนิ ผลนกั เรยี นจากใบงานท่ี 5.2 จากแผนการจัดการเรยี นรู ๓ ใชเ้ หล็กแหลมเจาะรดู า้ นซา้ ยและขวา ๔ รอ้ ยลวดกา� มะหยเ่ี ขา้ กับแผงไข่ใหเ้ ป็น ของแผงไข ่ ด้านละ ๑ ร ู ส�าหรับรอ้ ยลวด หหู ้ิวของตะกร้า แล้วผูกปมลวดที่ดา้ นล่าง กา� มะหยี่ ของรู เพ่ือให้ลวดไมห่ ลุดออกจากรู 5๓ ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู หากตองการนํากลองกระดาษลูกฟูกมาประดิษฐเปนหุนยนต 1 แผงไข เปนเย่ือกระดาษขึ้นรูปสีน้ําตาล นํ้าหนักเบา ใชสําหรับรองไขเพ่ือ เราควรใชอปุ กรณใดในการยึดกลอ งกระดาษ 2 กลอง ใหติดกนั ปองกันไมใหไขแตกจากแรงกระแทกหรือแรงสั่นสะเทือนจากการจําหนายหรือ ขนยายไข ทําใหผูซ้ือและผูขายไมตองกังวลวา ไขจะแตกหรือชํารุดกอนนําไป 1. ดา ย ประกอบอาหารหรือแปรรูป แผงไขสามารถใชซ้ําหรือนําไปใชประโยชนได 2. นอต หลากหลาย เชน ใชบ ผุ นังหองทาํ เปนหอ งซอ มดนตรหี รือหอ งเก็บเสียง ใชเ ปน 3. ตะปู ที่เกบ็ ของขนาดเลก็ ใชท าํ ดอกไมป ระดับตกแตง ใชเ พาะตนกลา 4. กาว (วิเคราะหค าํ ตอบ : ขอ 1. ดา ย มกั ใชสําหรบั เยบ็ ผา ขอ 2. นอต กับขอ 3. ตะปู มักใชสําหรับยึดติดไมหรือวัสดุที่มีความแข็ง ขอ 4. กาว มักใชติดกระดาษ สามารถใชไดกับทั้งกระดาษบาง และหนา ข้ึนอยูกับชนิดของกาว ดังนั้น ขอ 4. จึงเปนคําตอบ ท่ถี กู ตอ ง) T67
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขนั้ นาํ ๕ วดั ขนาด ๖ ตัดกระดาษย่น กระดาษยน่ ใหเ้ ป็นแฉก ครูถามคําถามนักเรียนวา “ถานักเรียนจะนํา ใหเ้ ทา่ กบั วัสดุหรือเศษวัสดุมาประดิษฐของใช ของตกแตง รอบแผงไข่ ๑ ดา้ น นักเรียนจะนาํ อะไรมาประดิษฐ” แล้วพับครึ่ง ขนั้ สอน ๗ ตดั กระดาษยน่ ใหม้ ขี นาดกวา้ งกวา่ ฐานของแผง ไขป่ ระมาณ ๒ นว้ิ แลว้ หอ่ จากฐานขน้ึ มารอบ สงั เกต รับรู้ แผงไข่ ครูนําตัวอยางตะกราจากแผงไขมาแสดง ๘ นา� กระดาษยน่ ๙ จะได้ตะกร้า หนาชน้ั เรียน จากนัน้ ใหนักเรยี นรว มกันพิจารณา ทมี่ ีรอยแฉก จากแผงไข่ วา ตะกราจากแผงไขประดิษฐแ ละตกแตง มาจาก ทีเ่ สร็จ เศษวสั ดุใด ท่ีตัดไว้ สมบูรณ์ มาตดิ รอบ ทาํ ตามแบบ แผงไข่ 1. นกั เรยี นกลมุ เดมิ ศกึ ษาความรู เรอื่ ง กระบวนการ ประโยชน ใชสอย จัดการในงานประดิษฐ และตัวอยางการ ประดิษฐตะกราจากแผงไข จากหนังสือเรียน สา� หรบั ใส่ของใช้ขนาดเลก็ ท่มี นี ้�าหนกั เบาและประดบั ตกแตง่ บา้ น การงานอาชีพ ป.6 2. ครูนําวัสดุและอุปกรณที่ใชในการประดิษฐ ตะกรา จากแผงไขม าแสดงหนา ชนั้ เรยี น จากนนั้ ครูประดิษฐตะกราจากแผงไขใหนักเรียนดู เปนแบบตามลําดับขั้นตอน 3. ครูแจกวัสดุและอุปกรณท่ีใชในการประดิษฐ ตะกราจากแผงไข แลวใหนักเรียนฝกทําตาม ขั้นตอนท่คี รทู าํ ใหด ู ËนทÙ �าä´Œ ทา� ได้ดี พอท�าได้ ทา� อีกครง้ั ประดษิ ฐ์ตะกร้าจากแผงไข่ 5๔ การประดษิ ฐข องใชข องตกแตง จากขวดพลาสตกิ สื่อ Digital ขอ สอบเนน การคดิ นักเรียนสแกน QR Code เร่ือง การประดิษฐของใชของตกแตงจาก ใบมะพรา วเปนวัสดจุ ากธรรมชาติท่ีเหมาะสําหรบั นํามาใช ขวดพลาสตกิ เพ่อื ดูตัวอยางการประดิษฐข องใชข องตกแตงจากวัสดุเหลือใช ในงานประดษิ ฐ ยกเวนขอ ใด T68 1. หมวก 2. มุงหลงั คา 3. ทําของเลน 4. ทาํ โตะ เกา อี้ (วิเคราะหคําตอบ : ใบมะพราวมีขนาดใหญ ยาว แตเบา จึงรับ นํ้าหนักไดนอย ไมเหมาะกับการทําเคร่ืองเรือน เชน โตะ เกาอ้ี ซง่ึ ตอ งรบั นา้ํ หนกั มาก แตเ หมาะสาํ หรบั ทาํ ของทไี่ มต อ งรบั นา้ํ หนกั มาก เชน หมวก ของเลน นอกจากน้ี ยังมีการนําใบมะพราว มาสานเพื่อมุงหลังคาบานหรอื หลงั คาเลาไกอ ีกดวย ดงั นนั้ ขอ 4. จงึ เปน คําตอบที่ถกู ตอ ง)
นาํ สอน สรุป ประเมิน กจิ กรรมพฒั นาการทา� งาน ขนั้ สอน ถามมาหนตู อบได้ ทําเองโดยไมมแี บบ ๑. หากนกั เรยี นไมอ่ อกแบบภาพรา่ งกอ่ นทา� งานประดษิ ฐจ์ ะเกดิ ผลอยา่ งไร 1. ครถู ามนกั เรยี นเกยี่ วกบั ปญ หาและอปุ สรรคใน ๒. เ มื่อประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งเสร็จแล้ว พบว่า มีข้อบกพร่องท่ีไม่ การทํางานประดิษฐ เพ่อื ใหน กั เรียนรวมกนั หา ทางแกไข ไดร้ บั การแก้ไข นกั เรียนคดิ ว่าจะเกดิ ผลอยา่ งไร 2. นักเรยี นแตล ะคนลงมือประดษิ ฐตะกรา แผงไข เรยี นรู้กิจกรรมทักษะการทา� งาน C21 erCorLiefeSuSabkinllds CareLearning aSnkdillIsnnovation TIencform ในแบบของตนเอง jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd 3. นักเรียนนําผลงานของตนเองออกมาวาง SCPtaruonrfrdeicasusridlousnmaalnaDdnedAvIesnslesotsprsummcteeionnntts รวมกันหนาช้ันเรียน แลวใหคะแนนผลงาน Learning Environments โดยครูคอยเสนอแนะเพิ่มเติมและชมเชย ผลงานทีท่ ําไดเรยี บรอยสวยงาม แบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ ๓-๕ คน ออกแบบและสร้างงานประดิษฐ ์ ๑ ช้นิ โดยปฏบิ ัต ิ ดงั น้ี ฝก ทาํ ให้ชํานาญ • ออกแบบชน้ิ งานเปน็ ภาพร่างลงในสมดุ 1. ครูกําหนดใหนักเรียนประดิษฐของใชของ • วางแผนการทา� งาน โดยเขียนเป็นแผนผังความคดิ ลงในสมดุ ตกแตง เพอื่ นําไปใหสมาชิกในครอบครัวหรอื • ลงมือประดิษฐ์ตามแผนที่วางไว้ ใหเพ่ือนๆ โดยนักเรียนกําหนดโอกาสท่ีจะ • ประเมินผลงาน แล้วนา� เสนอผลงานหน้าชัน้ เรยี น มอบส่งิ ประดษิ ฐใ หดว ยตนเอง หนูร้สู ึกอย่างไร 2. นักเรียนแตละคนประดิษฐของใชของตกแตง โดยใชกระบวนการจัดการในงานประดิษฐ ๑. นกั เรยี นรู้สกึ อย่างไรท่ีไดส้ ร้างผลงานประดิษฐด์ ว้ ยตนเอง แลวบันทึกการประดิษฐลงในกิจกรรมตาม ๒. นักเรียนคิดว่า การประดิษฐ์ของจากวัสดุเหลือใช้มปี ระโยชน์อยา่ งไร ตัวช้ีวัด กิจกรรมที่ 5.1 ขอ 1-2 หนวย การเรยี นรทู ี่ 5 จากแบบวดั ฯ การงานอาชพี ป.6 3. ครูคอยใหขอเสนอแนะ และนักเรียนแกไข ผลงานการประดิษฐของตนเอง เพ่ือใหเกิด ความชาํ นาญ แลว รวบรวมผลงานสง ครูตรวจ 4. นักเรียนทําแบบทดสอบหนวยการเรียนรูท่ี 5 จากแบบวดั ฯ การงานอาชีพ ป.6 กิจกรรม ทา ทาย 55 ครูเชิญวิทยากรในทองถ่ินมาใหความรูเก่ียวกับการประดิษฐ บูรณาการเชื่อมสาระ ของใชของตกแตงในทองถ่ินหรืองานประดิษฐท่ีนักเรียนสนใจ ครูบูรณาการเช่ือมสาระวิชาการงานอาชีพกับวิชาสังคมศึกษา เรื่อง เชน การทํารม จากกระดาษสา การทาํ กระเปา จากผกั ตบชวา การ การดแู ลรักษาส่งิ แวดลอม ดงั น้ี ทอผาไหม การทาํ ผาบาติก จากนนั้ ใหน ักเรียนแตล ะคนประดิษฐ ตามท่ีวิทยากรไดนําเสนอ โดยสรางสรรคผลงานใหมีเอกลักษณ 1. ครูอธิบายความรูเก่ียวกับการคัดแยกขยะและความสําคัญของการ เฉพาะตัว แลว จัดนิทรรศการงานประดิษฐภายในโรงเรยี น ทิง้ ขยะใหถูกที่ ซ่ึงจะสง ผลดีตอ ส่งิ แวดลอม 2. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 3-5 คน ออกแบบชน้ิ งานจากขยะภายใน โรงเรยี น 3. ครชู วนนักเรียนคัดแยกขยะภายในโรงเรียน จากนนั้ ทําความสะอาด ขยะที่นกั เรยี นคัดเลอื กไวเ พอ่ื นําไปใชในงานประดษิ ฐ 4. ใหนักเรียนประดิษฐผลงานจากขยะภายในโรงเรียนตามแผนท่ีได วางไว แลว ออกมานําเสนอหนา ชั้นเรยี น พรอ มบอกประโยชนท ไ่ี ดร บั จากการทํางานครง้ั นี้ T69
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขนั้ สรปุ Ẻ»ÃÐàÁ¹Ô ¡Ò÷Òí §Ò¹ ส�าห 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเก่ียวกับ คา� ชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนประเมินการทา� งานของตนเองตามรายการ รับนักเรียน การประดิษฐของใชของตกแตงใหสมาชิก ท่ีก�าหนด แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องทตี่ รงกับระดับคะแนน ในครอบครัวหรือใหเ พอ่ื นในโอกาสตางๆ รายการ ท�าไดด้ ี พอท�าได้ ปรบั ปรุง 2. ครมู อบหมายใหน กั เรยี นแตล ะคนออกแบบและ ประดิษฐของใชจากวัสดุและเศษวัสดุเหลือใช ๑. วางแผนและออกแบบช้ินงานได้ ตัวอยางตารางบันทึกผล ภายในบานคนละ 1 ชิ้น โดยใหครอบคลุม ๒. เลือกใชว้ ัสดแุ ละอุปกรณ์ในการประดิษฐ์ได้ ตามประเดน็ ทก่ี าํ หนด ๓. ลงมือปฏบิ ัติตามขน้ั ตอนได้ ๔. นา� ผลงานไปใช้ประโยชน์ได้ 3. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวย การเรยี นรทู ่ี 5 เรอื่ ง งานประดษิ ฐ จากแผนการ รวมทาํ ไดดี = ๓ พอทาํ ได = ๒ ปรับปรงุ = ๑ จดั การเรยี นรู Ẻ»ÃÐàÁÔ¹ ·Ñ¡ÉСÒ÷íÒ§Ò¹ C21 Life Sakinllds CareerLearning aSnkdillIsnnovation TIencform ขน้ั ประเมนิ Core Sub jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd ครวู ดั และประเมินผลนักเรยี น ดงั น้ี SCPtaruoLnrefrdeiacasrusnridlouinsnmgaalEnanDdnvediArvoIesnnslesomtsprsuemmcnteetisonnntts • จากกิจกรรมท่ี 5.1 ขอ 1-2 จากแบบวัดฯ ค�าชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมนิ ทกั ษะการทา� งาน C21 ตามรายการ สา� หรับครู การงานอาชีพ ป.6 ทก่ี �าหนด แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดบั คะแนน • จากแบบทดสอบหนวยการเรียนรูท่ี 5 จาก รายการ ท�าไดด้ ี พอท�าได้ ปรบั ปรงุ แบบวดั ฯ การงานอาชีพ ป.6 • จากการประดิษฐของใชจากวัสดุและ ๑. แบง่ หนา้ ทกี่ นั อย่างเหมาะสม เศษวสั ดเุ หลอื ใชภายในบาน ๒. ร่วมมอื กันทา� งานจนส�าเรจ็ • จากแบบทดสอบหลงั เรียน หนว ยการเรยี นรู ๓. แสดงความคดิ เห็นอย่างเหมาะสม ๔. รับฟงความคดิ เหน็ ของคนในกลุ่ม ท่ี 5 เรื่อง งานประดิษฐ จากแผนการ ๕. นา� เสนอหนา้ ช้ันเรียน จดั การเรยี นรู ตัวอยางตารางบันทึกผล รวมทาํ ไดดี = ๓ พอทาํ ได = ๒ ปรบั ปรงุ = ๑ 5๖ แนวทางการวัดและประเมินผล ครูศึกษาแนวทางการวดั และประเมินผล เพอ่ื ประเมนิ ชิ้นงานของนกั เรยี นจากแบบประเมนิ ชิน้ งานท่แี นบทา ยแผนการจัดการเรียนรู หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 งานประดษิ ฐ์ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 งานประดิษฐ์ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 งานประดิษฐ์ แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 งานประดษิ ฐ์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) คาช้ีแจง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในช่องท่ี แบบประเมินผลงานการประดิษฐข์ องใชจ้ ากวสั ดุและเศษวสั ดุเหลือใช้ภายในบา้ น คาชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน คาชี้แจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะ ระดับคะแนน ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน การแสดง การทางาน การมี อันพึงประสงคด์ า้ น รายการประเมิน 321 321 ความ ตามทีไ่ ด้รบั สว่ นร่วมใน รวม 1 การวางแผนการทางาน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดับที่ ช่อื – สกุล คิดเห็น การยอมรบั มอบหมาย ความมี การปรับปรุง 15 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 2 การเลือกใช้วัสดแุ ละเศษวัสดุ รวม 32 ของนกั เรียน ฟงั คนอื่น นา้ ใจ ผลงานกลมุ่ คะแนน 3 การใชเ้ คร่อื งมือในการทางานประดิษฐ์ 1 การแสดงความคิดเหน็ 1 กษัตรยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 2 การยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผู้อน่ื 3 การทางานตามหนา้ ที่ท่ไี ด้รับมอบหมาย ต่อโรงเรียน 4 ความมีน้าใจ 5 การตรงต่อเวลา 32132132132132 1 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา รวม 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมท่ีเก่ียวกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามท่โี รงเรยี นจัดขึน้ จาตกัวแอผยนางกแาบรบจดัปกระาเรมเรนิ ยี นรูลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ 2. ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ 2.1 ให้ขอ้ มลู ทถี่ ูกตอ้ ง และเป็นจริง ............../.................../................ 2.2 ปฏบิ ัติในสง่ิ ที่ถูกต้อง 3. มวี นิ ัย รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวัน ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมิน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ิได้ ............../.................../................ 4.2 รู้จกั จัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เชอื่ ฟงั คาส่งั สอนของบิดา - มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง 4.4 ต้ังใจเรยี น 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ และสงิ่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอย่างประหยดั และร้คู ุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ 6. มงุ่ ม่ันในการทางาน 6.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพ่อื ให้งานสาเร็จ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ............../.................../............... เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน 7. รักความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย ดี = 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน พอใช้ = 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน 7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน 8-9 ดี เกณฑ์การใหค้ ะแนน 8.2 รจู้ กั การดูแลรกั ษาทรัพย์สมบัตแิ ละสิง่ แวดล้อมของห้องเรยี นและ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ 5-7 พอใช้ ให้ 3 คะแนน โรงเรียน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน ต่ำกวำ่ 5 ปรบั ปรุง เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ให้ 1 คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ............../.................../................ 12 - 15 ดี เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิชดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน 8 - 11 พอใช้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ 12 - 15 ดี พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั บิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน 8 - 11 พอใช้ 22 การงานอาชีพ ป.6 ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรุง 21 การงานอาชพี ป.6 20 การงานอาชีพ ป.6 19 การงานอาชพี ป.6 T70
Chapter Overview แผนการจดั สอ่ื ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วิธสี อน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ แผนฯ ที่ 1 - หนังสอื เรยี น 1. บอกวัตถปุ ระสงค์ วธิ สี อนโดยการ - ตรวจแบบทดสอบ 1. ทักษะการ 1. มวี นิ ัย การงานอาชพี ป.6 ในการประกอบธรุ กจิ จัดการเรียนรู้ ก่อนเรยี น รวบรวมขอ้ มูล 2. ตรงตอ่ เวลา การท�ำธรุ กิจ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 ประเภทของธุรกิจ แบบร่วมมอื : หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 2. ทักษะการ 3. มีความ - แบบวดั ฯ และคณุ ธรรมของ เทคนิคคู่คิด - ตรวจใบงานที่ 6.1 เชอื่ มโยง รบั ผดิ ชอบ 2 การงานอาชีพ ป.6 ผ้ปู ระกอบธุรกิจได้ สีส่ หาย - ตรวจกิจกรรมที่ 6.1 3. ทกั ษะการ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 2. ใช้ทักษะการจัดการ ข้อ 1 จากแบบวดั ฯ เรียงลำ� ดับ ชว่ั โมง - ใบงานที่ 6.1 เร่ือง ในการทำ� งานและมี การงานอาชีพ ป.6 4. ทักษะการ การท�ำธรุ กจิ ทกั ษะการทำ� งาน - ตรวจใบงานที่ 6.2 ประเมนิ - ใบงานที่ 6.2 เรื่อง รว่ มกนั - สังเกตพฤติกรรม สำ� รวจธุรกจิ ในชุมชน 3. ปฏิบตั ติ นอย่าง การทำ� งานรายบุคคล - บตั รภาพธรุ กจิ ประเภท มมี ารยาทในการ - สังเกตพฤตกิ รรม ตา่ ง ๆ ทำ� งานกบั ครอบครัว การทำ� งานกลมุ่ - PowerPoint และผอู้ ่นื - สังเกตความมีวินัย ตรงต่อเวลา และ ความรบั ผิดชอบ แผนฯ ที่ 2 - หนงั สือเรยี น 1. บอกขั้นตอนการ วธิ ีสอนโดยใช้ - ตรวจกจิ กรรมท่ี 6.1 1. ทกั ษะการ 1. มวี นิ ยั การงานอาชีพ ป.6 บนั ทกึ รายรบั - การสาธิต ข้อ 2 จากแบบวัดฯ รวบรวมขอ้ มูล 2. ตรงตอ่ เวลา การบนั ทกึ รายจ่ายได้ รายรบั – รายจา่ ย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 การงานอาชพี ป.6 2. ทักษะการ 3. มคี วาม - แบบวดั ฯ 2. บันทึกรายรับ- - สงั เกตพฤติกรรม เช่อื มโยง รับผิดชอบ 1 การงานอาชีพ ป.6 รายจ่ายได้ การทำ� งานรายบุคคล 3. ทักษะการ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 - สงั เกตความมีวนิ ัย เรยี งลำ� ดับ ชัว่ โมง - PowerPoint 3. ปฏบิ ัตติ นอยา่ ง ตรงตอ่ เวลา และ 4. ทกั ษะการ มมี ารยาทในการ ทำ� งานกบั ครอบครัว ความรับผดิ ชอบ ประเมิน และผู้อื่น T71
Chapter Overview แผนการจดั สอื่ ที่ใช้ จุดประสงค์ วธิ ีสอน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลกั ษณะ การเรยี นรู้ อันพึงประสงค์ - หนงั สือเรยี น แผนฯ ท่ี 3 การงานอาชพี ป.6 1. บอกวธิ กี ารจัดเกบ็ วธิ สี อนโดยเน้น - ตรวจกจิ กรรมที่ 6.1 1. ทักษะการ 1. มวี นิ ยั หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 เอกสารทางธรุ กจิ กระบวนการ ขอ้ 3 จากแบบวัดฯ รวบรวมขอ้ มลู 2. ตรงตอ่ เวลา การจดั เก็บ และกระบวนการ ปฏิบัติ การงานอาชพี ป.6 2. ทักษะการ 3. มีความ เอกสาร - แบบวดั ฯ ทำ� ธรุ กิจได้ - ตรวจแบบทดสอบ เช่อื มโยง รบั ผดิ ชอบ ทางธรุ กจิ การงานอาชีพ ป.6 2. ใช้ทกั ษะการจัดการ หลังเรยี น หนว่ ย 3. ทกั ษะการ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 ในการทำ� งานธรุ กจิ การเรียนรทู้ ่ี 6 เรียงลำ� ดับ 1 และมที กั ษะการทำ� งาน - สังเกตพฤตกิ รรม 4. ทักษะการ - PowerPoint ร่วมกนั การทำ� งานรายบคุ คล ประเมนิ ช่วั โมง 3. ปฏิบัติตนอยา่ ง - สงั เกตความมวี นิ ัย มีมารยาทในการ ตรงตอ่ เวลา และ ทำ� งานกบั ครอบครวั ความรับผดิ ชอบ และผอู้ ืน่ - ตรวจแบบบนั ทึก รายรบั -รายจา่ ยของ ตนเอง T72
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมิน ö §Ò¹¸ÃØ ¡¨Ô˹Nj ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ èÕ ขนั้ นาํ ¡Ô¨¡ÃÃÁ¹íÒÊÙ¡‹ ÒÃàÃÕ¹ ผูป้ ระกอบธุรกิจบริการ ครนู าํ ภาพธรุ กจิ ประเภทตา งๆ มาใหน กั เรยี นดู ควรมคี ุณลักษณะ เชน ธุรกิจรานสะดวกซ้ือ ธุรกิจดานการเกษตร อยา่ งไร ธรุ กจิ ดา นอตุ สาหกรรม ธรุ กจิ การใหบ รกิ าร จากนนั้ ครูสอบถามนักเรียนวา ในชีวิตประจําวันของ นักเรียนเกี่ยวของกับธุรกิจอะไรบาง และธุรกิจ ดงั กลา วมีประโยชนตอ นักเรียนอยา งไร ÊÒÃÐÊíÒ¤ÞÑ à»Ò‡ ËÁÒ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã»ŒÙ ÃШÒí ˹Nj ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ Õè ö งานธุรกิจเป็นกิจกรรมที่เก่ียวกับการผลิต ๑. อภิปรายกระบวนการด�าเนินงานธุรกิจไดอ้ ยา่ งเปน็ ขน้ั ตอน การจา� หนา่ ย การแลกเปลย่ี นสนิ คา้ และใหบ้ รกิ าร (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๑) ในดา้ นตา่ ง ๆ โดยมงุ่ หวงั ผลกา� ไรตอบแทน เพอ่ื ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ให้มีความ ๒. ท �าบัญชีธุรกิจและจัดเก็บเอกสารอย่างเป็นขั้นตอนตามล�าดับท่ี สะดวกสบายและมีความสขุ ในการดา� รงชีวิต วางแผนไว้และประเมินทุกข้ันตอนเพื่อการแก้ไขและปรับปรุง ผลงาน (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๑) ๓. ใชท้ กั ษะการจดั การในการทา� งานและมที กั ษะการทา� งานรว่ มกนั ใน การท�าบัญชีธุรกิจและจดั เก็บเอกสาร (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๒) ๔. ป ฏบิ ตั ติ นอยา่ งมมี ารยาทในการทา� งานรว่ มกบั ครอบครวั และผอู้ น่ื (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๓) ๕. มจี ติ สา� นกึ ในการใชพ้ ลงั งานและทรพั ยากรอยา่ งประหยดั และคมุ้ คา่ (มฐ. ง ๑.๑ ป.๖/๓) ขอ สอบเนน การคิด บรู ณาการเชอ่ื มสาระ ครูบูรณาการเช่ือมสาระวิชาการงานอาชีพกับวิชาภาษาตางประเทศ แกวเปด รา นเสรมิ สวย ตดั ผม ออกแบบทรงผมใหล กู คาการทํา โดยการติดบัตรภาพพรอมคําศัพทเก่ียวกับธุรกิจตางๆ เปนภาษาอังกฤษ ธุรกจิ ประเภทใด จัดเปน ธรุ กิจประเภทเดยี วกบั แกว ภาษาจนี หรอื ภาษาอนื่ ๆ ทใ่ี ชใ นโรงเรยี น เพอ่ื ใหน กั เรยี นใชภ าษาอน่ื ๆ ในการ สอื่ สารเรอื่ งธรุ กิจไดถกู ตอ ง 1. สวนสม 2. ประมง 3. รา นอาหาร 4. กอนสรา งบาน (วิเคราะหคําตอบ : รานเสริมสวยเปนธุรกิจการใหบริการ ซ่ึงจัด เปน ประเภทเดยี วกับ ขอ 3. รานอาหาร สวนขอ 1. และขอ 2. เปน ธรุ กจิ ดานการเกษตร ขอ 4. เปน ธรุ กจิ ดานการกอ สรา ง ดงั นัน้ ขอ 3. จึงเปน คําตอบท่ีถกู ตอ ง) T73
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั สอน ñ ¡Ò÷íÒ§Ò¹¸ÃØ ¡¨Ô 1. นักเรียนจับคูกัน แลวใหแตละคูชวยกันศึกษา งานธุรกจิ เปน็ งานเกยี่ วกับการผลิต จ�าหน่าย แลกเปล่ยี นสินค้า และ ความรู เรอื่ ง การทาํ งานธรุ กจิ จากหนงั สอื เรยี น ให้บริการในดา้ นต่าง ๆ โดยมุง่ หวงั ผลก�าไรตอบแทน ซง่ึ งานธรุ กจิ เหล่านี้ การงานอาชีพ ป.6 แตละคูนําความรูท่ีไดมา เกดิ ขนึ้ เพอื่ สนองความตอ้ งการของคนในการดา� รงชวี ติ ใหม้ คี วามสะดวกสบาย ทําใบงานที่ 6.1 เรื่อง การทํางานธุรกิจ จาก แผนการจัดการเรยี นรู ๑. ปจ จัยในการประกอบธรุ กจิ การประกอบธรุ กิจจะต้องอาศัยปจจัยต่าง ๆ เพ่อื ชว่ ยใหง้ านธุรกจิ 2. ครูถามคาํ ถามกระตนุ ความคิด ด�าเนนิ ไปได ้ ดงั นี้ • เพราะอะไรการประกอบธุรกิจตางๆ จึงมี ๒ ที่ดนิ ความสาํ คญั ตอ คนในชุมชน ๑ ทุน (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น หมายถึง ทรัพย์สินหรือเงินท่ีมีส่วนใน โดยใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน) การสร้างก�าลงั การผลติ ไดแ้ ก่ เงนิ ทุน หมายถึง สถานท่ีท่ีใชป้ ระกอบธรุ กจิ 3. ครูอธิบายความรูใหนักเรียนเก่ียวกับการ เครอื่ งมอื เครอื่ งจกั ร ทํางานธุรกิจและคุณธรรมที่ใชในการทํางาน ครูใหนักเรียนชวยกันบอกประโยชนของ งานธุรกิจตามความเขา ใจของนกั เรียน อปุ กรณต์ ่าง ๆ และอาคารท่ีใช้ B ประกอบธรุ กจิ ๓ แรงงาน ๔ ผ้ปู ระกอบการ หมายถึง แรงงานคน ทั้งดา้ นความคิด หมายถึง ผู้ที่ท�าหน้าที่วางแผนการ และก�าลังกายในการท�างานธุรกิจ ซ่ึง กจัดารกทาา�รธ รุ กกาจิ ร1ดูแล และการประเมินผล การเลอื กแรงงานควรเลอื กใหเ้ หมาะกบั งาน เพอื่ ใหง้ านธรุ กจิ ประสบความสา� เรจ็ เช่น การขายสินค้า ต้องการแรงงาน ท่ีมีทักษะในการพูดโน้มน้าวเชิญชวน มปี ฏภิ าณไหวพรบิ มีใจรกั การบรกิ าร 5๘ นักเรียนควรรู ขอสอบเนน การคดิ 1 การประเมนิ ผลการทาํ ธรุ กจิ เปน ตวั ชวี้ ดั ความสาํ เรจ็ ทางธรุ กจิ ทผ่ี ปู ระกอบการ พลอยชอบทําเคกและทาํ ไดอ รอ ย จงึ อยากเปดรา นขายเคก ส่งิ ทกุ คนควรเรยี นรู เพราะการประเมนิ ผลไมเ พยี งแตป ระเมนิ ในดา นการเงนิ เทา นนั้ ท่พี ลอยควรทําเปน อันดับแรกคอื สิง่ ใด แตยังตองคํานึงถึงสิ่งตางๆ ที่จะสงผลตอความสําเร็จขององคกรท้ังในอดีต ปจ จบุ นั และอนาคต โดยการประเมนิ ผลตอ งเชอื่ มโยงกบั วสิ ยั ทศั น พนั ธกจิ และ 1. ลงมือทาํ เคก แลว นาํ ไปขาย เปาหมาย ซ่ึงบุคลากรทุกฝายสามารถนําขอมูลดานการประเมินผลไปพัฒนา 2. ประกาศหาผชู ว ยในการทาํ เคก ตนเองและองคกรได การประเมินผลการทําธุรกิจมีหลายดาน เชน ดานการ 3. เลือกสถานทท่ี ี่จะเปดรานขายเคก บริหารจัดการ ดานการตลาด ดานการเงินดานการบริการลกู คา 4. สาํ รวจวาเคก แบบใดกําลังเปน ท่ีนิยมและลูกคาช่นื ชอบ (วเิ คราะหค าํ ตอบ : ในการทาํ ธรุ กจิ ตา งๆ ควรสาํ รวจตลาดกอ นวา T74 ธุรกิจที่ทําจะมีความนาสนใจมากนอยอยางไร หรือสํารวจความ ชอบเก่ียวกับธุรกิจที่จะทํากอน จากน้ันจึงคนหาขอมูลเกี่ยวกับ ธุรกิจนั้นๆ เม่ือนําขอมูลมาศึกษาจนเกิดเปนความรูความเขาใจ ในธุรกิจท่ีจะทําแลว จึงลงมือทําธุรกิจนั้นและตรวจสอบหาขอ บกพรอ งของธรุ กิจอยูเสมอ ดงั น้นั ขอ 4. จงึ เปนคําตอบทีถ่ ูกตอง)
นาํ สอน สรุป ประเมิน ๒. คุณลกั ษณะและคณุ ธรรมของผปู้ ระกอบธรุ กิจ ขนั้ สอน ผปู้ ระกอบธรุ กจิ ควรมคี ณุ ลกั ษณะและคณุ ธรรมในการทา� งาน ดงั น้ี 4. นักเรียนทํากิจกรรมเรียนรูปูพ้ืนฐาน ขอ 1-2 หนวยการเรียนรูท่ี 6 จากแบบวัดฯ การงาน ๑ มีความรคู้ วามสามารถในธรุ กจิ ทที่ �า อาชพี ป.6 ๒ มีความรับผิดชอบและความต้งั ใจในการทา� งาน ๓ มคี วามคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 5. ครอู ธบิ ายความรเู พมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั การทาํ ธรุ กจิ ๔ มคี วามตรงต่อเวลา ความซือ่ สตั ย์ และความเสยี สละ นักเรียนแตละคูจับคูกับเพื่อนอีกคู ใหได ๕ มมี นษุ ยสัมพนั ธ์ท่ดี ีต่อเพ่ือนร่วมงาน กลมุ ละ 4 คน จากนน้ั ทาํ ใบงานที่ 6.2 เรอ่ื ง ๖ มจี ติ สา� นกึ ในการใชพ้ ลงั งานและทรพั ยากรในการทา� งานอยา่ งประหยดั สํารวจธุรกิจในชุมชน จากแผนการจัดการ เรยี นรโู ดยทํานอกช่วั โมงเรยี น และคมุ้ ค่า 6. ครูแจงใหนักเรียนทราบวา ครูจะกําหนด ๓. วตั ถุประสงคในการท�างานธรุ กจิ ธุรกิจจําหนายอาหาร ธุรกิจงานซักรีด ธุรกิจ นวดแผนไทย ธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจท่ีกลุม งานธรุ กิจมีวตั ถปุ ระสงค์ในการทา� งาน ดงั นี้ ของนักเรียนสนใจ ใหนักเรียนแตละกลุม วางแผนการประกอบธรุ กจิ และออกมานาํ เสนอ ๑ เพือ่ ผลติ สนิ คา้ หรอื ให้บรกิ ารตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ในชั่วโมงถดั ไป ๒ เพ่ือให้เกดิ ความเจริญกา้ วหน้าและความมนั่ คงในกิจการ ๓ เพื่อไดร้ บั ผลตอบแทนสงู สุด ๔ เพ่อื ความภาคภมู ิใจของผู้ประกอบธุรกจิ เมื่อประกอบธรุ กิจได้ส�าเร็จ ๔. ประโยชนของงานธรุ กิจ งานธรุ กจิ มีประโยชนห์ ลายประการ ดงั น้ี ๑ ผู้รบั บรกิ ารไดร้ บั ความสะดวกสบาย ๒ เกิดการจา้ งงาน ทา� ใหค้ นมงี านทา� และมีรายได้ ๓ เ กดิ การหมนุ เวยี นของเศรษฐกจิ โดยกระจายสนิ คา้ จากผผู้ ลติ ไปสผู่ บู้ รโิ ภค ๔ พัฒนาเศรษฐกจิ ของประเทศ เช่น สง่ สินค้าไปยังตา่ งประเทศท�าใหม้ ี รายได้เข้าสู่ประเทศเพ่ิมขึ้น ธรุ กิจยุคใหมทนี่ าสนใจ 5๙ ขอ สอบเนน การคิด สื่อ Digital ใครไมมคี ณุ ธรรมในการทาํ งานธุรกิจ นกั เรยี นสแกน QR Code เรอื่ ง ธุรกจิ ยุคใหมทน่ี า สนใจ เพือ่ ศึกษาเกี่ยวกับ 1. นุนทาํ งานดว ยความตั้งใจ ธรุ กจิ ยุคใหมที่เปนที่นยิ มในปจจุบนั และอนาคต 2. แนนเปดคอมพิวเตอรไ วท ้งั วันแมใ นเวลาเลกิ งาน 3. นดิ มีขอสงสัยและประเดน็ คาํ ถามในที่ประชุมเสมอ 4. นันทเปน คนย้มิ แยมแจมใส มปี ฏสิ มั พันธที่ดกี บั เพอ่ื น รว มงาน (วเิ คราะหค าํ ตอบ : ผทู มี่ คี ณุ ธรรมในการทาํ งานควรเปน ผทู ที่ าํ งาน ดวยความตั้งใจ มีความคิดสรางสรรค มีปฏิสัมพันธที่ดี และใช ทรพั ยากรอยางประหยัดและคุมคา เชน ปด เคร่อื งใชไ ฟฟา ตา งๆ เม่อื ไมใชงานแลว ดังนนั้ ขอ 2. จึงเปน คาํ ตอบท่ถี ูกตอง) T75
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขนั้ สอน ๕. กระบวนการทําธรุ กจิ 7. นักเรียนและครูทบทวนความรูที่ไดเรียนมา การท�างานธุรกิจให้ประสบความส�าเร็จจ�าเป็นต้องมีกระบวนการ ในชวั่ โมงทีผ่ า นมา ท�างานท่ดี ี ซึง่ กระบวนการท�างานธุรกจิ มดี ังนี้ 8. นักเรยี นแตล ะกลุมนาํ เสนอแผนการประกอบ ๑ ศกึ ษาขอ้ มูล ๒ พิจารณา ธุรกจิ ของกลมุ ตนเอง ศกึ ษาคน้ ควา้ เกย่ี วกบั การทา� งานธรุ กจิ ตัดสินใจเลือกประกอบธุรกิจตาม ประเภทต่าง ๆ จากแหล่งความรู้ ข้อมูลท่ีได้ศึกษาค้นคว้ามา และ 9. นกั เรยี นและครรู ว มกนั สงั เกตการนาํ เสนอของ เช่น การเรียน การสัมภาษณ์ผู้รู ้ เลอื กทา� งานธรุ กจิ ทตี่ นเองเชย่ี วชาญ แตล ะกลมุ โดยครูคอยใหคําแนะนาํ การอา่ นหนงั สอื การทดลองปฏิบตั ิ มากทส่ี ดุ 10. ครูถามคําถามกระตนุ ความคดิ ๓ วางแผน ๔ หาผู้ร่วมลงทนุ • นกั เรยี นคดิ วา ถา ขาดปจ จยั ในการประกอบ ก�าหนดงานและปฏิบัติงานต่าง ๆ หาผู้ร่วมลงทุนทั้งด้านแรงงานและ ธรุ กจิ อยา งใดอยา งหนงึ่ การประกอบธรุ กจิ ตามความเหมาะสมกับบคุ คล เงินทุน โดยพิจารณาจากประวัติ จะประสบความสาํ เรจ็ หรอื ไม เพราะเหตใุ ด ความเป็นมา พฤติกรรม และ (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ๕ ด�าเนินงานธุรกิจ สถานภาพทางการเงิน โดยวาง โดยใหอ ยใู นดุลยพนิ จิ ของครผู สู อน) ทา� งานธรุ กจิ ตามแผนทว่ี างไว้ เงื่อนไขตา่ ง ๆ ใหช้ ดั เจน 11. นักเรียนทํากิจกรรมตามตัวช้ีวัด กิจกรรม ที่ 6.1 ขอ 1 หนว ยการเรยี นรทู ี่ 6 จากแบบวดั ฯ การงานอาชพี ป.6 ๖ ประเมินผลงาน และปรบั ปรุงแก้ไข ตรวจสอบหาข้อบกพร่องและแก้ไข ส่วนท่ีผิดพลาดให้ดียิ่งข้ึน เพื่อ ให้การท�างานธุรกิจประสบความ สา� เร็จ 6๐ เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ ครูใหนักเรียนแตละคนเขียนกระบวนการทําธุรกิจที่สนใจ 1 ธุรกิจ แลว หากคนในชมุ ชนของนกั เรยี นประกอบอาชพี การเกษตรเปน หลกั ออกมานําเสนอหนาชั้นเรียน จากน้ันครูและเพ่ือนในชั้นเรียนรวมกันอภิปราย นักเรียนควรทาํ ธุรกจิ ใดในชุมชน เพือ่ ใหตรงกบั ความตอ งการของ ถึงกระบวนการทําธุรกิจ ผบู รโิ ภคทสี่ ดุ ตวั อยาง 1. รานซอมคอมพวิ เตอร กระบวนการทาํ ธรุ กิจ รา นขายขนมไทย 2. รา นขายอปุ กรณท าํ ขนม 1. ศึกษาวธิ กี ารทาํ ขนมจากแหลงเรยี นรูต า งๆ 3. รา นขายเครื่องมอื การเกษตร 2. เลอื กทาํ ขนมไทยขายเพราะทาํ ออกมาไดอ รอ ยและมเี อกลกั ษณเ ฉพาะตวั 4. รานขายเสื้อผาและเคร่ืองแตงกาย 3. วางแผนการทาํ ขนมและแผนการขาย เชน สาํ รวจความตอ งการของลกู คา (วิเคราะหคําตอบ : หากคนในชุมชนประกอบอาชีพการเกษตร เปนหลัก ความตองการซื้อของคนในชุมชนมักจะเก่ียวของกับ กําหนดพน้ื ทสี่ าํ หรับขาย สินคาทใ่ี ชใ นการทําการเกษตร เชน รา นขายเครือ่ งมือการเกษตร 4. หาผูร วมลงทุนหรือผชู ว ยในการขายขนม ดงั น้ัน ขอ 3. จงึ เปน คาํ ตอบที่ถูกตอ ง) 5. ลงมอื ทําขนมตามทีล่ กู คา ตองการ 6. สอบถามลกู คา วา รสชาติเปน อยา งไร เพื่อนาํ ไปปรับปรงุ T76
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๖. ประเภทของงานธุรกจิ ขน้ั สรปุ งานธรุ กจิ มหี ลายประเภท แตล่ ะประเภทมคี วามสา� คญั แตกตา่ งกนั ไป ครูและนกั เรยี นรวมกันสรุปความรู เรอื่ ง การ แตม่ จี ดุ มงุ่ หมายทเ่ี หมอื นกนั คอื เพอ่ื ผลติ สนิ คา้ หรอื ใหบ้ รกิ าร เพอ่ื ตอบสนอง ทาํ งานธรุ กจิ ความต้องการของผู้บริโภค งานธุรกิจสามารถแบ่งตามลักษณะของงาน ท่ีท�าได้ ดงั น้ี ขน้ั ประเมนิ ๑ ธุรกิจด้านการเกษตร ครูวัดและประเมินผลนักเรียนจากกิจกรรม การทา� งานดา้ นการเกษตร เชน่ การทา� นา การเลย้ี งสตั ว์ ท่ี 6.1 ขอ 1 จากแบบวัดฯ การงานอาชีพ ป.6 เพือ่ น�าผลผลิตที่ไดม้ าจ�าหน่ายหรือแลกเปลยี่ นสินค้า ตรวจใบงานท่ี 6.2 และตรวจแบบทดสอบกอ นเรยี น จากแผนการจดั การเรยี นรู ๒ ธรุ กิจด้านอตุ สาหกรรม การท�างานด้านอุตสาหกรรม เพ่ือน�าผลิตภัณฑ์ มาจ�าหน่ายและผลิตสินค้ามาใช้ในการด�ารงชีวิต เช่น ๓ การผลติ ของใชใ้ นบ้าน การผลติ อาหารส�าเรจ็ รปู ธุรกจิ ด้านการเงิน กกาารรทใหา� ก้งเู้างนินดา้กนากรลารงเทงุนนิ ทตา่างงกๆารเเชงนิ่น1การฝาก-ถอนเงิน ๔ ธุรกิจด้านการกอ่ สร้าง การทา� งานดา้ นการกอ่ สรา้ ง เชน่ สรา้ งบา้ นเรอื น อาคาร ถนน ๕ ธรุ กิจด้านการใหบ้ ริการ การท�างานเพ่ือให้บริการในด้านต่าง ๆ เช่น ธุรกิจ ร้านอาหาร ธรุ กิจการทอ่ งเทย่ี ว ๖ ธรุ กิจดา้ นการจดั จา� หนา่ ย 61 การทา� งานด้านการจ�าหน่ายสนิ ค้าประเภทตา่ ง ๆ หรอื เป็นตัวแทนจ�าหน่ายสินค้าเพื่อความสะดวกของผู้ซ้ือ เช่น ขนม เส้อื ผา้ เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู ถา นกั เรยี นตอ งการทาํ ธรุ กจิ การใหบ รกิ าร นกั เรยี นควรเลอื กทาํ 1 การลงทุนทางการเงิน หมายถึง การนําเงินที่เก็บสะสมอยูไปสราง ธุรกจิ แบบใคร ผลตอบแทนท่ีสูงกวา การออม โดยใชการลงทนุ ตางๆ เชน การลงทุนพนั ธบตั ร รัฐบาล การลงทุนในหุนหรือหลักทรัพยตางๆ ซึ่งจะมีความเสี่ยงท่ีสูงมากขึ้น 1. ออยเลย้ี งวัวนม และนาํ นมไปขาย กวาการออม การลงทุนทางการเงินจะเปนไปตามเงื่อนไขของหลักทรัพยท่ีเรา 2. อว๋ิ ปลกู ผกั สวนครัว แลว นาํ ไปขาย เลือกท่จี ะลงทนุ ซ่งึ ผลตอบแทนท่ไี ดมานัน้ ขึ้นอยูกับสภาวะของหลกั ทรัพยท ีเ่ รา 3. ปุยรับจา งตดั เยบ็ เสื้อผา สําเรจ็ รปู ในโรงงาน ลงทุน แตละหลักทรพั ยจ ะมีความเสี่ยงมากนอ ยแตกตางกันไป และผูลงทุนจะ 4. ปลาจัดโปรแกรมทองเที่ยว และพาลูกคาไปตามสถานท่ี ไดรับผลตอบแทนของการลงทนุ น้นั ๆ ในรปู แบบของดอกเบี้ย เงนิ ปนผล กาํ ไร จากการซอ้ื ขายหนุ และสิทธพิ เิ ศษอน่ื ๆ เชน การลดหยอ นภาษี ตา งๆ (วเิ คราะหค าํ ตอบ : ขอ 1. และขอ 2. เปน ธรุ กจิ ดา นการเกษตร ขอ 3. เปนธุรกิจดานอุตสาหกรรม ขอ 4. เปนธุรกิจดานการใหบริการ ซึง่ คือธรุ กจิ การทองเทย่ี ว ดังน้นั ขอ 4. จงึ เปน คาํ ตอบทีถ่ ูกตอง) T77
นํา นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั นาํ ò การบ¹ั ทÖกราÂรบั -ราÂจา‹  ครถู ามคาํ ถามกระตนุ ความคดิ ใหน กั เรยี นชว ย ข้อมใูลนเกหาลร่าทน�าธี้สุรากมิจา รเถรบาคอวกรสจถัดาทน�าบะทันาทงึกกราารยเรงับิน-1ใรนายอจด่าีตยแทลุกะคปรจ้ังจ ุบเพันรไาดะ้ กันแสดงความคดิ เห็น อีกทั้งช่วยในการวางแผนการใช้เงินในอนาคต เพ่ือให้เลือกใช้จ่ายในส่ิงท่ี จ�าเป็น ตัดรายจ่ายท่ีฟุมเฟอยออก และปลูกฝงการใช้เงินอย่างคุ้มค่า • การบันทึกรายรับ-รายจายมีประโยชนตอ ซงึ่ ชว่ ยใหท้ �างานธรุ กจิ ไดป้ ระสบความส�าเร็จ การทําธุรกจิ อยา งไร (แนวตอบ : ทาํ ใหผ ทู าํ ธรุ กจิ ทราบถงึ รายไดแ ละ ๑. ประโยชนข องการท�าบญั ชีรายรบั -รายจ่าย รายจา ยของธรุ กจิ รวมถงึ ผลกาํ ไรในแตล ะวนั เพอ่ื จะปรบั ปรงุ และพฒั นาธรุ กจิ ตอ ไป) การทา� บัญชรี ายรับ-รายจา่ ยมปี ระโยชน์ ดงั นี้ ขนั้ สอน ๑ ท�าให้ทราบจา� นวนรายรบั -รายจ่ายของตนเองและสว่ นรวม ๒ สามารถควบคมุ รายจ่ายและมีความรบั ผดิ ชอบในการใชจ้ า่ ย เตรยี มการสาธิต ๓ ส ามารถตดั ทอนรายจ่ายท่ีไมจ่ �าเปน็ ออกได้ ๔ รู้จกั วางแผนการใช้เงินใหส้ อดคลอ้ งกบั รายรับ 123 1. ครตู ้ังคําถามเก่ียวกับการใชเ งินใน 1 สปั ดาห นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวา การ ๕ มคี วามละเอยี ดรอบคอบในการใช้จา่ ยและฝกนสิ ยั ประหยัด ใชเ งนิ ของนกั เรยี นถา มกี ารจดบนั ทกึ ไวจ ะเปน ประโยชนแกน กั เรียนอยา งไร ๒. วธิ ีการบันทึกรายรับ-รายจ่าย 2. ครูเตรียมการสาธิตและเตรียมตารางการ การบันทึกรายรับ-รายจ่ายเป็นการบันทึกรายละเอียดเก่ียวกับ บันทกึ รายรบั -รายจายใหนกั เรยี นดู การใชจ้ ่ายเงินหรือการไดร้ ับเงนิ จากแหลง่ ตา่ ง ๆ เป็นรายวนั รายสปั ดาห์ รายเดอื น หรอื รายป โดยการบนั ทกึ รายรบั - รายจา่ ยตอ้ งบนั ทกึ รายละเอยี ด สาธิต ดงั น้ี 1. ครูเขียนตารางการจดบันทึกรายรับ-รายจาย µÇั อÂา‹ ง การบันทึกรายรบั -รายจา่ ย บนกระดานหนาช้ันเรียน ครูสาธิตการบันทึก รายรบั -รายจา ยใหน กั เรยี นดเู ปน ตวั อยา ง พรอ ม นักเรียนชั้น ป.๖/๒ จ�านวน ๔๐ คน ตกลงจะท�าธุรกิจร่วมกันโดยการจ�าหน่าย อธิบายประกอบทีละข้ันตอนอยางละเอียด ขนมทองมว้ นในสหกรณ์ร้านค้า นกั เรียนรว่ มลงทุนโดยเกบ็ เงนิ คนละ ๔๐ บาท จากน้นั เพ่ือใหนักเรียนสังเกตวิธีการ ข้ันตอนในการ ไปซ้ือขนมทองม้วน ๕๐๐ ช้นิ นา� มาบรรจใุ นกล่อง แลว้ ผกู ริบบ้นิ ให้สวยงาม นา� ไปขาย บันทึกรายละเอียดตางๆ ในตาราง ในราคากล่องละ ๔๐ บาท ซงึ่ นักเรยี นแบง่ ขนมทองมว้ นได้ ๕๐ กล่อง โดยในระหว่าง การท�างานมกี ารบนั ทกึ รายรับ-รายจ่ายทัง้ หมด ดังน้ี 2. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนสอบถามขอสงสัย 6๒ เพอ่ื อธบิ ายความรเู พมิ่ เตมิ ใหน กั เรยี นมคี วามรู ความเขา ใจที่ถกู ตองและนําไปปฏบิ ัตไิ ด 3. นักเรียนแตละคนบันทึกรายรับ-รายจายตาม วธิ กี าร ขน้ั ตอนการสาธติ โดยครเู ปน ผตู รวจสอบ ความถูกตอง นักเรียนควรรู กิจกรรม เสริมสรางคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค 1 สถานะทางการเงิน เปนส่ิงสําคัญที่ผูทําธุรกิจควรตรวจสอบอยูเสมอ เพ่ือ ครใู หน กั เรียนทาํ กิจกรรม “อยอู ยา งพอเพยี ง” โดยใหน กั เรยี น ใหมั่นใจวามีเงินหมุนเวียนในธุรกิจอยางเหมาะสม การตรวจสอบสถานะทาง ฝก ใชเ งนิ อยา งประหยดั และคาํ นงึ ถงึ ความจาํ เปน ในการออม จากนน้ั การเงนิ ท่ีสําคัญทัง้ 10 ดาน มีดังน้ี ใหนกั เรียนแตละคนบันทึกรายรับ-รายจา ยใน 1 สัปดาห และเขยี น สรุปผลวา การใชเงินของนักเรียนเปนอยางไร และมีวิธีการใชเงิน 1. สินทรัพย เชน อุปกรณ ทดี่ ิน การถือหุน อยา งพอเพยี งอยางไรบาง 2. หนีส้ ิน เชน คาเชาทด่ี ิน การชาํ ระเงนิ กู 3. คาใชจา ยในการผลิต เชน คา แรงทต่ี อ งใชใ นการผลติ สินคา 4. คาใชจ ายในการจาํ หนาย เชน คา โฆษณา คา ทาํ การตลาด 5. อตั ราสว นหนสี้ นิ ตอ ทรพั ยส นิ ซงึ่ หากมเี พมิ่ สงู ขนึ้ เรอ่ื ยๆ อาจหมายความวา ธรุ กจิ กาํ ลงั อยใู นสถานะลาํ บาก 6. มลู คาบญั ชลี ูกหน้ี คือ จํานวนเงนิ ท่ีผอู ่นื เปน หนี้ 7. มลู คา บัญชีเจาหนี้ คอื จํานวนเงินทีธ่ รุ กจิ เปน หนี้ 8. สินคาคงคลัง เพ่ือทราบความตองการเพ่ิมหรือลดสินคา เพ่ือทราบ คณุ ภาพของสนิ คา T78
นาํ สอน สรปุ ประเมิน บนั ทกึ รายรบั -รายจา่ ยการทา� ธรุ กจิ “จา� หนา่ ยขนมทองมว้ น1” ขน้ั สอน ของนกั เรยี นชนั้ ป.๖/๒ สรุปการสาธติ วนั /เดอื น/ปี รายการ ร(บายาทรบั ) ร(าบยาจทา่ )ย ค(งบเาหทล)ือ นักเรียนรวมกันสรุปวิธีการและขั้นตอนในการ บันทึกรายรบั -รายจาย ๒๐ ธ.ค. ๖๒ - ๔(เนก๐บ็กั เเบรงายีินทนคมนีล๔ะ๐ คน) ๑,๖๐๐ - ๑,๖๐๐ รา=ยเรงับนิ ค- งรเาหยลจอื่าย ๒๑ ธ.ค. ๖๒ - ช๕ซน้ิอ้ื๐ขล๐ะนชม๒ิน้ ทอบงามท้วน - ๑,๐๐๐ ๖๐๐ ๑,๖๐๐ - ๑,๐๐๐ วัดผลประเมินผล ๒๒ ธ.ค. ๖๒ - - กซซลือ้้ือ่อรกบิงลลบอ่ ะงิน้ ๓๕๐บากทลอ่ ง ๒๓ ธ.ค. ๖๒ - ไ๔ขดา๐้ย๑ขบ๐นาทมกกลล่ออ่งงละ เงินคงเหลอื (ก่อนหน้า) - รายจ่าย นักเรียนทํากิจกรรมตามตัวช้ีวัด กิจกรรม ๒๔ ธ.ค. ๖๒ - ๔ไขดา๐้ย๒ขบ๐นาทมกกลล่ออ่งงละ ที่ 6.1 ขอ 2 หนว ยการเรยี นรูท ี่ 6 จากแบบวดั ฯ ๒๕ ธ.ค. ๖๒ - ๔ไขดา๐้ย๒ขบ๐นาทมกกลลอ่ อ่งงละ - ๑๕๐ ๔๕๐ ๖๐๐ - ๑๕๐ การงานอาชีพ ป.6 - ๑๐๐ ๓๕๐ ๔๕๐ - ๑๐๐ รวม ๔๐๐ - ๗๕๐ ๓๕๐ + ๔๐๐ ขนั้ สรปุ เงนิ คงเหลอื (กอ่ นหนา้ ) + รายรับ นักเรียนรวมกันสรุปวิธีการและข้ันตอนในการ บันทกึ รายรบั -รายจาย ๘๐๐ - ๑,๕๕๐ ๗๕๐ + ๘๐๐ ขน้ั ประเมนิ ๘๐๐ ๒,๓๕๐ ๑,๕๕๐ + ๘๐๐ ครูวัดและประเมินผลนักเรียนจากกิจกรรม ๓,๖๐๐ ๑,๒๕๐ ๒,๓๕๐ ที่ 6.1 ขอ 2 จากแบบวัดฯ การงานอาชีพ ป.6 ๑,๖๐๐ + ๔๐๐ + ๘๐๐ + ๘๐๐ ๑,๐๐๐ + ๑๕๐ + ๑๐๐ ๓,๖๐๐ - ๑,๒๕๐ รายรบั ท้ังหมดรวมกนั รายจ่ายทัง้ หมดรวมกัน รราาเยงยจินรา่คับยงททเัง้ห้งั หลหมอืมดด 63 ขอ สอบเนน การคิด นักเรียนควรรู ใครปฏิบตั ิตนเหมาะสมหากมรี ายจายเกินรายรบั 1 ทองมวน เปนขนมไทยชนิดหน่ึง มีลักษณะเปนแผนมวนกลม บางกรอบ 1. ไกใชจ า ยมากข้นึ ทองมว นมสี ว นผสมหลกั คอื แปง มะพรา ว นา้ํ ตาลปบ ไขไ ก นาํ้ มนั พชื และงาดาํ 2. แกม ขอเงนิ ผปู กครองเพิม่ ทองมว นมตี น กาํ เนดิ มาจากการรบั วฒั นธรรมของประเทศโปรตเุ กส มาดดั แปลง 3. กกิ๊ ยมื เงนิ เพอ่ื นท่ีโรงเรยี น ใหเหมาะสมกับวัฒนธรรมและวัตถุดิบของคนไทย โดยคนไทยมักใหทองมวน 4. กกุ ตัดรายจายทีไ่ มจ ําเปนออก เปนของขวัญเนอ่ื งจากชือ่ สือ่ ถึงการมัง่ มี (วิเคราะหคําตอบ : เม่ือนักเรียนมีรายจายเกินจากรายรับ ควร ประหยัดคา ใชจ ายตางๆ และตัดรายจายทีไ่ มจ ําเปนออก ไมควร ยืมเงนิ เพ่อื นหรอื ขอเงินผปู กครองเพ่ิมหากไมจ าํ เปน ดงั น้ัน ขอ 4. จึงเปน คาํ ตอบทถี่ ูกตอ ง) T79
นํา นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ ๓ การจดั เก็บเอกสารทางธรุ กิจ ครูถามคําถามกระตุนความคิด ใหนักเรียน เอกสารที่ใช้ในการท�างานธุรกิจหรือได้รับมาในขณะท�างานธุรกิจน้ัน ชวยกันแสดงความคิดเห็น มคี วามส�าคญั ควรจัดเกบ็ เอกสารเหลา่ นี้ให้เป็นระเบียบ เพ่อื ให้ค้นหาและ หยบิ ใชไ้ ดส้ ะดวก • นกั เรยี นรจู กั เอกสารสาํ คญั อะไรบาง (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ๑. รู้จักเอกสารทางธรุ กิจ โดยใหอ ยใู นดลุ ยพินจิ ของครผู ูส อน) เอกสารทางธรุ กจิ หมายถงึ เอกสารตา่ ง ๆ ทท่ี า� ขน้ึ เปน็ ลายลกั ษณ์ ขน้ั สอน อกั ษร เพอื่ ใชเ้ ปน็ หลกั ฐานในการดา� เนนิ งานทางธรุ กจิ หรอื ใชใ้ นการอา้ งองิ ซึ่งเอกสารทางธรุ กิจแบง่ เป็น ๓ ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้ สังเกต รบั รู้ ๑ เอกสารทางการเงิน เชน่ สมดุ เงนิ ฝาก เชค็ 1ต๋ัวแลกเงิน 1. ครูนําตัวอยางเอกสารทางธุรกิจมาแสดง ๒ เอกสารทางการคา้ เชน่ ใบเสร็จรบั เงนิ ใบสัง่ ซ้ือสินคา้ ใหนักเรียนดูที่หนาชั้นเรียน นักเรียนสังเกต ๓ เอกสารประกนั ภัย เช่น กรมธรรม์ประกนั ภยั เอกสาร เชน สมุดเงินฝาก ใบเสร็จรับเงิน ใบรบั ประกันสนิ คา ๒. การจัดเก็บเอกสารทางธุรกจิ 2. นักเรียนบอกความสําคัญของเอกสารดังกลาว เอกสารทางธรุ กิจมีวิธกี ารจัดเก็บ ดงั น้ี ตามความเขาใจของนักเรยี น ๑ แยกประเภทของเอกสารใหเ้ ป็นหมวดหมู่ 3. ครถู ามคําถามกระตุนความคิด ๒ เกบ็ เอกสารไวใ้ นซองหรือแฟม้ ให้เรียบร้อย • นักเรียนมีวิธีการจัดเก็บเอกสารทางธุรกิจ ๓ เขียนชื่อเอกสารบนซองหรือแฟ้ม เพื่อให้ทราบว่าเป็นเอกสาร อยางไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ประเภทใด แล้วน�าไปจัดเก็บไวใ้ นต้หู รอื วางไว้ทีช่ ั้น โดยใหอยใู นดุลยพนิ ิจของครูผสู อน) ๔ ในกรณีที่มีเอกสารจ�านวนมาก ควรจัดท�าสมุดบันทึกสถานที่ใน 4. ครูใหความรูเก่ียวกับความสําคัญของเอกสาร การเก็บเอกสาร เพือ่ ใหส้ ะดวกในการค้นหาเอกสาร ทางธุรกิจแตละประเภทและวิธีการจัดเก็บ เอกสารทางธุรกิจใหถูกตองและเปนระเบียบ ปลอดภยั ไว้ก่อน เรยี บรอ ย เอกสารสา� คญั เชน่ สมดุ บญั ชี สญั ญาทางธรุ กจิ ควรเกบ็ ไวใ้ นทท่ี ป่ี ลอดภยั เพอ่ื ปอ้ งกนั ผอู้ นื่ ปลอมแปลงเอกสารหรอื นา� เอกสารไปใช้ในทางทผ่ี ดิ กฎหมาย 64 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคิด 1 เช็ค คือ ส่ิงที่เราสามารถใชจายเงินหรือชําระหนี้แทนการยื่นเงินสดให “กรมธรรมประกันภัยเปนเอกสารแสดงขอตกลงเก่ียวกับชีวิต เจาหนี้ และอาจมีการกําหนดระยะเวลาในการมารับเงินของเจาหนี้ไดดวย และทรัพยสินของผูทํากรมธรรมประกันภัย” นักเรียนควรจัดเก็บ ซึ่งเจาหน้ีจะตองเปนผูนําเช็คไปขึ้นเงินดวยตนเองท่ีธนาคารเดียวกันกับบนเช็ค เอกสารนอี้ ยา งไรจึงจะเหมาะท่ีสุด หรือนําเขาบัญชีธนาคารของตนเอง ในปจจุบันเช็คแบงเปน 2 ประเภทตาม กฎหมาย ไดแ ก 1. ใสซองและเกบ็ ในกระเปา นักเรียน 2. ใสซอง พรอมเขยี นระบุช่อื บนซอง และจดั เก็บไวใ ตหมอน 1. เช็คระบุชื่อ คือ เช็คท่ีจะตองประกอบไปดวยช่ือผูรับเงินหรือช่ือตาม 3. ใสแฟมเอกสาร และจัดเก็บในแฟมสะสมผลงานนกั เรยี น คําสั่งของบคุ คลทนี่ ําเชค็ มายน่ื เทาน้นั 4. ใสแฟม เอกสาร พรอ มเขียนระบชุ ่อื บนแฟม และจดั เก็บใน 2. เชค็ ผูถือ คือ เช็คท่ธี นาคารสามารถจา ยเงนิ ใหแกผูถอื เชค็ หรอื จา ยตาม ตเู อกสาร คาํ สง่ั ของผถู ือเช็คได โดยไมต องคํานงึ วาผรู ับเงนิ น้นั จะเปน ใคร (วเิ คราะหค าํ ตอบ : กรมธรรมป ระกนั ภยั เปน เอกสารแสดงขอ ตกลง เกี่ยวกับชีวิตและทรัพยสินของผูทํากรมธรรม ไมจําเปนตองนํา T80 เอกสารน้ีติดตัว ควรจัดเก็บใสแฟมและเก็บในตูเอกสาร เพื่อให สะดวกในการหยบิ ใชง าน และปอ งกนั การสญู หายหรอื ชาํ รดุ ดงั นนั้ ขอ 4. จงึ เปนคาํ ตอบท่ีถูกตอ ง)
นํา สอน สรปุ ประเมิน กิจกรรมพัฒนาการท�างาน ขน้ั สอน ถามมาหนตู อบได้ ทาํ ตามแบบ ๑. เพราะเหตใุ ด เราจงึ ควรจดั เก็บเอกสารทางธุรกิจโดยแยกประเภท 1. นกั เรยี นศกึ ษาความรู เรอื่ ง การจดั เกบ็ เอกสาร หรอื หมวดหมู่ ทางธุรกิจ จากหนังสือเรียน การงานอาชีพ ๒. น กั เรยี นคดิ วา่ คณุ ลกั ษณะและคณุ ธรรมในการประกอบธรุ กจิ มอี ะไรบา้ ง ป.6 จากนั้นครูนําเอกสารทางธุรกิจแตละ ประเภทมาจัดเก็บใหนักเรียนดูเปนตัวอยาง เรยี นรู้กิจกรรมทักษะการท�างาน C21 CorLiefeSuSabkinllds CareerLearning aSnkdillIsnnovation TIencform ทีละขั้นตอน พรอมอธิบายประกอบในแตละ jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd ขั้นตอน เพ่อื ใหนกั เรียนเขาใจ SCPtaruoLnrefrdeiacasrusnridlouinsnmgaalEnanDdnvediArvoIesnnslesomtsprsuemmcnteetisonnntts 2. ครูเนนย้ําใหนักเรียนตระหนักถึงความสําคัญ ของการจัดเก็บเอกสารทางใหเหมาะสม และ แบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๓-๕ คน รว่ มกนั วเิ คราะหว์ า่ ถา้ นกั เรยี นไดร้ บั มอบหมาย แยกเปนประเภทอยางชัดเจน เพื่องายตอการ ใหท้ า� งานธรุ กิจ ๑ อยา่ ง นักเรยี นจะมีวิธีการทา� งานอย่างไร จากน้ันเขียน นําไปใชงาน บันทึกผลการท�างานลงในสมุดตามหัวข้อที่ก�าหนด แล้วออกมาน�าเสนอ หนา้ ชนั้ เรยี น 3. นกั เรยี นแตล ะกลมุ ฝก จดั เกบ็ เอกสารทางธรุ กจิ • งานธุรกจิ ที่ไดร้ บั มอบหมาย • เอกสารทใ่ี ชใ้ นการทา� งานธรุ กจิ ตามแบบท่คี รูสอนตามลําดบั ขั้นตอน • ขน้ั ตอนการท�างานธรุ กจิ • วธิ จี ดั เก็บเอกสารทางธรุ กจิ • ประโยชนข์ องการทา� งานธรุ กจิ 4. ครูสังเกตการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน หากมีขอบกพรองใหเสนอแนะ นักเรียน หนูรู้สกึ อย่างไร ปรับปรงุ แกไ ขใหถกู ตอ ง ๑. ก ารจัดเก็บเอกสารทางธุรกิจอย่างถูกต้องและเหมาะสมมีประโยชน์ ทําเองโดยไมม แี บบ อยา่ งไร นักเรียนแตละคนฝกจัดเก็บเอกสารทางธุรกิจ ๒. ถา้ นกั เรยี นไมจ่ ดั ทา� บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ยในงานธรุ กจิ จะสง่ ผลตอ่ ธรุ กจิ โดยท่ีไมมีแบบ แลวตรวจสอบความถูกตองและ อย่างไร ความเปนระเบียบเรียบรอยของผลงาน หากมี ขอ บกพรอ งใหแ กไขใหเ รียบรอ ย ฝก ทาํ ให้ชํานาญ 1. นักเรียนแตละกลุมผลัดเปลี่ยนกันจัดเก็บ เอกสารทางธุรกิจใหมีความชํานาญ นักเรียน แตละคนออกมาสาธิตการจัดเก็บเอกสารทาง ธุรกจิ โดยใหค รอบคลุมตามประเด็นทก่ี ําหนด 65 ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู ถา ผขู ายมคี แู ขง ทางธรุ กจิ จะทาํ อยา งไรเพอ่ื ใหส นิ คา และบรกิ าร ครูอธิบายเพ่ิมเติมใหนักเรียนเขาใจวา นักเรียนสามารถนําความสามารถ ของตนเองเปน ท่ตี อ งการของผบู รโิ ภคมากกวา เฉพาะตัวท่ีนักเรียนถนัดหรือสนใจ มาเปนแนวทางในการประกอบอาชีพ หรือ ทดลองประกอบอาชพี ได เชน 1. แจกของทรี่ ะลกึ ใหแกผ ูบ ริโภคมากกวา คแู ขง 2. โจมตคี ูแ ขง โดยใชสื่อโฆษณาเปรยี บเทยี บสินคา และบรกิ าร • นักเรียนท่ีมคี วามสามารถในการทาํ ขนม สามารถทําขนมเพื่อจําหนาย 3. ตงั้ รา นคา ทมี่ ขี นาดใหญก วา คแู ขง และอยใู นบรเิ วณเดยี วกนั • นกั เรยี นทมี่ คี วามสามารถในการวาดภาพ สามารถรบั จา งวาดภาพการต นู 4. ปรบั ปรงุ สินคาและบรกิ ารใหดกี วา คแู ขง ทง้ั ในดานคุณภาพ หรือทํางานศิลปะ งานประดิษฐตางๆ เพื่อเปนการฝกฝนการประกอบอาชีพและเปนการหารายไดอกี ดวย และราคา (วิเคราะหคําตอบ : การท่ีจะใหสินคาและบริการของตนเอง T81 เปนท่ีตองการของผูบริโภคมากกวาคูแขงน้ัน ควรปรับปรุงสินคา และบรกิ ารใหด กี วา คแู ขง ทงั้ ในดา นคณุ ภาพและราคา เพราะจะได รบั การยอมรบั และความไวว างใจจากผบู รโิ ภคในการซอื้ สนิ คา และ บริการอยางตอ เน่ือง และไมควรใชว ธิ ที ่ไี มมคี ณุ ธรรมในการโจมตี คแู ขง ดังนน้ั ขอ 4. จงึ เปนคําตอบทถ่ี ูกตอง)
นํา สอน สรุป ประเมนิ ขนั้ สอน Ẻ»ÃÐàÁÔ¹¡Ò÷íÒ§Ò¹ ส�าห ฝก ทําใหช้ ํานาญ คา� ชี้แจง : ใ หน้ กั เรยี นประเมนิ การท�างานของตนเองตามรายการ รับนักเรียน ที่ก�าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน 2. นักเรียนรวมกันสรุปประโยชนที่ไดรับจากการ รายการ ท�าไดด้ ี พอท�าได้ ปรบั ปรงุ จัดเกบ็ เอกสารทางธรุ กิจ ๑. วางแผนการทา� ธรุ กจิ ไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. ครถู ามคําถามกระตนุ ความคดิ • นักเรียนสามารถนําความรูเร่ืองการจัดเก็บ ๒. ทา� ธรุ กิจทตี่ นเองสนใจได้ ตัวอยางตารางบันทึกผล เอกสารทางธุรกิจไปประยุกตใชในชีวิตของ ๓. บันทกึ รายรบั -รายจ่ายได้ นกั เรียนไดอยา งไร ๔. จดั เกบ็ เอกสารทางธุรกิจได้อย่างเหมาะสม (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูใ นดุลยพินิจของครผู สู อน) รวมทา� ได้ดี = ๓ พอทา� ได้ = ๒ ปรบั ปรุง = ๑ 4. นกั เรยี นทาํ กจิ กรรมตามตวั ชว้ี ดั กจิ กรรมที่ 6.1 Ẻ»ÃÐàÁ¹Ô ทักÉÐการทาí งา¹ C21 Life Sakinllds CareerLearning aSnkdillIsnnovation TIencform ขอ 3 หนวยการเรียนรูท่ี 6 จาก แบบวัดฯ Core Sub jects and 21st Centur atihonno,MloyegdyThiaeSk,mailelnssd การงานอาชีพ ป.6 SCPtaruoLnrefrdeiacasrusnridlouinsnmgaalEnanDdnvediArvoIesnnslesomtsprsuemmcnteetisonnntts 5. นกั เรยี นทาํ แบบทดสอบ หนว ยการเรยี นรูท ี่ 6 จากแบบวดั ฯ การงานอาชพี ป.6 ค�าชแ้ี จง : ใ ห้ผู้สอนประเมนิ ทักษะการท�างาน C21 ตามรายการ สา� หรับครู ทีก่ า� หนด แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดับคะแนน ขนั้ สรปุ รายการ ท�าไดด้ ี พอทา� ได้ ปรบั ปรงุ 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู กยี่ วกบั การ จัดเกบ็ เอกสารทางธุรกิจ ๑. แบ่งหน้าท่ีกนั อยา่ งเหมาะสม 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนแตละคนจดบันทึก ๒. รว่ มมอื กันทา� งานจนสา� เร็จ ตัวอยางตารางบันทึกผล รายรบั -รายจา ยของตนเองเปน เวลา 1 สปั ดาห ๓. แสดงความคิดเหน็ อย่างเหมาะสม แลวเขียนวิเคราะหการใชจายเงินของตนเอง ๔. รบั ฟง ความคดิ เหน็ ของคนในกล่มุ โดยใหครอบคลุมตามประเดน็ ทกี่ ําหนด ๕. การน�าเสนอผลงาน 3. นักเรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน หนวย รวมท�าได้ดี = ๓ พอท�าได้ = ๒ ปรับปรงุ = ๑ การเรียนรทู ี่ 6 เรือ่ ง งานธุรกจิ จากแผนการ จดั การเรียนรู 66 ขนั้ ประเมนิ ครูวดั และประเมนิ ผลนกั เรียน ดังน้ี • ตรวจกิจกรรมท่ี 6.1 ขอ 3 จากแบบวัดฯ การงานอาชีพ ป.6 • ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว ยการเรยี นรู ที่ 6 เร่ือง งานธุรกิจ จากแผนการจัดการ เรยี นรู แนวทางการวัดและประเมินผล ครูศกึ ษาแนวทางการวดั และประเมนิ ผล เพอื่ ประเมินชิ้นงานของนกั เรยี นจากแบบประเมนิ ช้ินงานท่แี นบทายแผนการจดั การเรยี นรู หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 งานธุรกิจ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 งานธุรกจิ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 6 งานธุรกิจ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 6 งานธุรกิจ การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมินบนั ทึกรายรับ – รายจ่ายของตนเอง คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ คาชแ้ี จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องที่ คาชี้แจง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในชอ่ งท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน การแสดง การทางาน การมี คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน 321 1 การแสดงความคดิ เหน็ 32 ความ ตามท่ไี ด้รบั ส่วนร่วมใน รวม อันพึงประสงคด์ า้ น 321 1 การบนั ทกึ ข้อมูลรายรับ-รายจา่ ย คดิ เหน็ การยอมรบั มอบหมาย ความมี การปรบั ปรงุ 15 2 ความถูกต้องของการบนั ทกึ ข้อมูลรายรับ-รายจ่าย 1 ลาดับที่ ชอื่ – สกลุ ฟงั คนอื่น นา้ ใจ ผลงานกล่มุ คะแนน 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 3 การวิเคราะห์การใชจ้ ่ายเงนิ ของตนเอง ของนักเรยี น 4 ประโยชนท์ ่ีได้รบั จากการบันทึกรายรับ-รายจ่าย กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกจิ กรรมท่สี ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ รวม 2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื ตอ่ โรงเรยี น 32132132132132 1 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา 3 การทางานตามหนา้ ที่ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทเ่ี กีย่ วกับสถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามทโ่ี รงเรียนจดั ขนึ้ 4 ความมนี า้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา ตวั อยางแบบประเมนิลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ 2. ซื่อสตั ย์ สจุ รติ 2.1 ให้ข้อมลู ที่ถูกตอ้ ง และเป็นจรงิ รวม จากแผนการจดั การเรียนรู............../.................../................ 2.2 ปฏิบัตใิ นสงิ่ ทถี่ ูกตอ้ ง 3. มีวนิ ยั รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวัน 4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 รจู้ ักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ิได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน 4.3 เชอ่ื ฟังคาสง่ั สอนของบิดา - มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง ............../.................../................ 4.4 ตั้งใจเรยี น 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5.1 ใชท้ รัพย์สินและส่ิงของของโรงเรยี นอย่างประหยัด 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ ค่า 5.3 ใช้จา่ ยอยา่ งประหยัดและมีการเก็บออมเงิน เกณฑก์ ารให้คะแนน 6. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทางานท่ไี ด้รับมอบหมาย ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสาเรจ็ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ............../.................../............... ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน 7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 มจี ิตสานึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รู้จกั ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน ดี = 3 คะแนน พอใช้ = 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 8.2 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรัพยส์ มบัติและสง่ิ แวดล้อมของห้องเรียนและ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ปรับปรุง = 1 คะแนน 10-12 ดี ให้ 3 คะแนน โรงเรยี น ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 6-9 พอใช้ เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ให้ 1 คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ............../.................../................ ต่ำกวำ่ 6 ปรบั ปรุง ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 12 - 15 ดี เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ 8 - 11 พอใช้ เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ให้ 1 คะแนน 12 - 15 ดี 23 การงานอาชพี ป.6 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ 22 การงานอาชพี ป.6 21 การงานอาชีพ ป.6 20 การงานอาชีพ ป.6 T82
Search