หนึ่งโรงเรียนหนึงนวัตกรรม

BEST MODEL ส่กู ารพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวดั ดงโคกขาม สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑

คำนำ นวัตกรรม “BEST MODEL สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียน วัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑” เป็นนวัตกรรม ที่คิดค้นและพัฒนาขึ้น เพื่อให้โรงเรียนใช้ในการแก้ปัญหาการบริหารจัดการโดยใช้งานระบบ การประกันคุณภาพการศึกษาที่ดำเนินการบริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากข้ึน ซึ่งจากการดำเนินการอยา่ งต่อเน่ือง ตั้งแตป่ ีการศึกษา ๒๕๖๑ – ๒๕๖๒ สามารถแกป้ ัญหาได้ เป็นอยา่ งดี เปน็ ท่นี ่าพอใจ เกิดผลงานเปน็ ท่ีประจักษ์ จนเป็นท่ียอมรับจากหนว่ ยงานต้นสังกัด ภาคีเครือข่าย ซึ่งการจัดทำรายงานนวัตกรรมเล่มนี้ รายงานตามรูปแบบของสำนักงาน เลขาธกิ ารคุรสุ ภา(หน่งึ โรงเรียนหนง่ึ นวัตกรรม) ขอขอบคณุ คณะครูและนักเรียนโรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา ประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑ ที่ให้ความร่วมมือ ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมจนประสบ ผลสำเร็จ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นวัตกรรม “BEST MODEL สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑” จะเป็นประโยชน์กับสถานศึกษาอื่นๆ ในการนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาการบริหาร จัดการโดยใช้งานระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ในโอกาสตอ่ ไป โรงเรยี นวัดดงโคกขาม BEST MODEL สู่การพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑

สารบญั หนา้ คำนำ ๑ สารบญั ๓ แบบนร ๑ ๕ ๖ บทสรปุ ๖ ความเป็นมาและความสำคญั ๖ วตั ถปุ ระสงค์ ๗ กระบวนการพฒั นาผลงานหนึ่งโรงเรียน หนง่ึ นวัตกรรม ๑๐ สภาพปัญหาก่อนการพฒั นา ๑๓ การออกแบบนวัตกรรมเพ่อื การพัฒนา ๒๒ ขน้ั ตอนการดำเนินงานพัฒนา ๒๒ ผลงานท่เี กดิ ข้นึ จากการดำเนินงาน ๒๓ สรปุ สิ่งทีเ่ รยี นรูแ้ ละการปรบั ปรุงใหด้ ขี ้นึ ๒๓ การขยายผลและเผยแพร่การพฒั นา ข้อเสนอแนะและแนวทางการพฒั นาอย่างต่อเน่ือง จดุ เด่น หรอื ลักษณพิเศษของผลงานนวตั กรรม บรรณานุกรม BEST MODEL สกู่ ารพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ที่ ๑ การนำเสนอผลงาน “หนง่ึ โรงเรียน หน่งึ นวัตกรรม” ประจำปี ๒๕๖๓ ๑) ชอื่ ผลงานหนึ่งโรงเรียน หนงึ่ นวัตกรรม BEST MODEL ส่กู ารพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑ ๒) การส่งผลงานหนง่ึ โรงเรียน หนง่ึ นวตั กรรม (กรณุ าระบุ  ลงใน  ทีต่ รงกบั ผลงาน)  เปน็ ผลงานทไ่ี ม่เคยส่งเข้ารบั การคัดสรรกบั ครุ สุ ภา  เปน็ ผลงานที่เคยส่งเข้ารับการคดั สรรกับคุรุสภา ปี........เรอ่ื ง....แต่ไมไ่ ดร้ บั รางวลั ของครุ ุสภา  เปน็ ผลงานทเ่ี คยได้รบั รางวลั ของคุรุสภาและมกี ารนำมาพัฒนาเพ่ิมเติม หรอื ต่อยอดนวตั กรรม ๓) ประเภทผลงานหนง่ึ โรงเรียน หน่งึ นวัตกรรม (กรณุ าระบุ  ลงใน  ที่ตรงกับผลงาน)  การจัดการเรียนรู้ (A)  ส่อื และเทคโนโลยีเพอื่ การเรียนรู้ (B)  การบริหารและการจดั การการสถานศกึ ษา (C)  การส่งเสรมิ และพัฒนาผเู้ รียนใหเ้ ตม็ ศักยภาพ (D)  การวดั และประเมนิ ผล (E)  อ่นื ๆ โปรดระบุ (I)……………………………….. ๔) ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ชอื่ ผบู้ ริหารสถานศึกษา นายวาณชิ คล้ายผา เลขบัตรประชาชน ๓๖๗๐๓๐๐๐๗๖๘๕๑ ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวัดดงโคกขาม วิทยะฐานะชำนาญการพเิ ศษ โทรศัพทเ์ คลอ่ื นที่ ๐๘๐ – ๕๑๕๖๑๔๑ E – mail : [email protected] ๕) คณะผ้รู ่วมพัฒนาผลงานนวัตกรรม (ครู / นกั เรยี น /ผมู้ ีส่วนเกีย่ วขอ้ ง จำนวนตามจริง) - นางสุพรรษา เสอื น้อย เลขบัตรประชาชน ๓๖๕๐๑๐๑๐๕๘๕๘๕ ตำแหน่ง ครูโรงเรียนวัดดงโคกขาม วทิ ยะฐานะชำนาญการ โทรศัพทเ์ คลอื่ นที่ ๐๘๖ – ๙๓๒๙๐๗๔ E – mail : [email protected] - นางสาวสรุ ีรัตน์ ทองพานเหลก็ เลขบัตรประชาชน ๑๖๕๐๘๐๐๐๘๓๗๕๒ ตำแหนง่ ครโู รงเรียน วดั ดงโคกขาม วิทยะฐานะ - โทรศพั ท์เคล่ือนที่ ๐๙๖ - ๘๖๕๗๔๗๔ E – mail : [email protected] - นางสาวหนึ่งฤทยั ปล้ืมสุข เลขบตั รประชาชน ๑๖๕๐๗๐๐๐๔๕๙๔๘ ตำแหนง่ ครโู รงเรียนวดั ดงโคกขาม วิทยะฐานะ - โทรศพั ท์เคลอ่ื นท่ี ๐๘๗ - ๘๔๐๑๔๑๒ E – mail : [email protected] - นางรมณี พนัสขาว เลขบัตรประชาชน ๑๖๔๐๓๐๐๐๐๔๑๑๐ ตำแหนง่ ครโู รงเรียนวดั ดงโคกขาม วทิ ยะฐานะ - โทรศพั ท์เคล่ือนท่ี ๐๘๑ - ๘๘๘๗๔๕๕ E – mail : [email protected] - นางสาวศิวลกั ษณ์ เอกอฬุ ารพนั ธ์ เลขบัตรประชาชน ๓๖๕๐๗๐๐๐๙๖๖๓๘ ตำแหนง่ ครโู รงเรยี นวดั ดงโคกขาม วทิ ยะฐานะ - โทรศพั ทเ์ คลื่อนที่ ๐๙๙ - ๑๔๑๕๒๕๕ E – mail :[email protected] - นางสาววัชรี รอดเกตุ เลขบัตรประชาชน ๑๖๕๙๙๐๐๘๐๕๔๗๒ ตำแหน่ง ครูอตั ราจ้างโรงเรียน วัดดงโคกขาม โทรศัพท์เคล่ือนที่ ๐๘๘ - ๑๖๕๑๓๖๑ E – mail : [email protected] - นางสาวยมลพร ราชขวัญ เลขบัตรประชาชน ๑๖๕๙๙๐๐๕๔๗๔๑๔ ตำแหน่ง ครูอตั ราจ้าง โรงเรยี นวัดดงโคกขาม โทรศัพทเ์ คล่อื นที่ ๐๖๔ - ๗๕๖๘๖๕๙ E – mail : [email protected] BEST MODEL สกู่ ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หน้าท่ี ๒ ๖) นกั เรยี นโรงเรียนวัดดงโคกขามชั้นอนบุ าลปีท่ี ๑ ถึงชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ จำนวน ๑๐๑ คน ๗) ขอ้ มลู สถานศกึ ษา ชื่อสถานศกึ ษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม หมูท่ ่ี ๒ ตำบลปลกั แรด อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ๖๕๑๔๐ ๘) สงั กดั  ๑.สพป.พิษณโุ ลก เขต ๑  ๒.สพม.เขต........ จังหวดั .......  ๓.สอศ.  ๔.สช.  ๕.กทม.  ๖.อปท. ..........  ๗.กศน.  ๘.การศกึ ษาพเิ ศษ  ๙.อน่ื ๆ (โปรดระบ)ุ ........... BEST MODEL สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑

หน้าท่ี ๓ ๒. บทสรุป เรือ่ ง BEST MODEL สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต ๑ โรงเรยี นวัดดงโคกขาม จัดการเรยี นการสอนระดบั ชนั้ ปฐมวัยปีท่ี ๑ – ๓ และระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ – ๖ มีผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนการสอนค่อนขา้ งต่ำ (อา้ งองิ จากรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา Self Assessment Report: SAR : ปกี ารศึกษา ๒๕๖๐) และมีคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงคข์ องผูเ้ รียนขาดความ รับผดิ ชอบ ทำให้ประสิทธผิ ลต่อการบริหารกระบวนการจัดการเรยี นการสอนของครูและคุณภาพผู้เรยี นไมเ่ กดิ ประสทิ ธภิ าพเทา่ ที่ควร จากปญั หาท่ีพบทำให้โรงเรยี นวัดดงโคกขาม มีการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนท่ีต้องปรับเปลี่ยนให้ ผู้เรยี นได้ลงมอื ปฏิบตั จิ ริง ทางคณะครจู งึ ได้ดำเนนิ การ PLC (Professional Learning Community) จากน้ันได้ แนวทางสร้างนวตั กรรมตามกล่มุ สาระการเรียนรู้ท้ังระดับชั้นปฐมวยั ปที ่ี ๑ - ๓ จนถงึ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ โดยใช้การสรา้ งนวัตกรรม/วิธีปฏบิ ัติท่เี ป็นเลิศ (Best Practice) เพือ่ ส่งเสรมิ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น และ โครงงานคณุ ธรรม (Best Practices) เพื่อส่งเสริมคุณลกั ษณะอันพึ่งประสงค์ ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน เพื่อใหเ้ กดิ การเรยี นร้ทู ่ีมีความเหมาะสมกบั วัย ความสามารถ และท่ีสำคัญสามารถแก้ไขปัญหาท่คี รูผสู้ อนไดค้ ้นพบ จากการประเมนิ นอกจากนก้ี ารสรา้ งนวัตกรรม Best Practice ยงั เป็นการส่งเสริมอตั ลักษณ์ของโรงเรียนให้กับผเู้ รยี น เพราะนอกจากท่ีครูผสู้ อนไดส้ รา้ งนวตั กรรมเพ่ือแกป้ ัญหาเกี่ยวกับคุณภาพด้านวชิ าการให้กบั ผเู้ รยี นแล้วยงั ได้แทรก คณุ ธรรมใหก้ บั ผ้เู รยี น โดยจัดทำโครงงานคุณธรรมควบคู่ไปกบั การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนทำใหผ้ เู้ รียนไดท้ ั้ง วิชาการ และคณุ ธรรม อันจะสง่ ผลให้ระบบประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนวัดดงโคกขามมคี ุณภาพทส่ี งู ขน้ึ จึง เปน็ หลกั ประกนั ได้ว่าแนวทางการจดั ทำนวัตกรรม Best Practice ของครูผูส้ อนทกุ คน ทกุ กลุ่มสาระส่งผลใหก้ าร ประกนั คุณภาพภายในของโรงเรยี นวดั ดงโคกขามมปี ระสิทธิภาพ และเกิดประสิทธผิ ลต่อการบรหิ ารกระบวนการ จัดการเรยี นการสอนของครแู ละคณุ ภาพผเู้ รียนให้สงู ยิง่ ๆข้ึนไป ด้วยเหตุผลดังกล่าว โรงเรียนวัดดงโคกขามซึ่งเป็นสถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับก่อน ประถมศึกษาและระดับประถมศึกษา จะต้องมีการประกันคุณภาพการศึกษา โดยดำเนินการผสมผสานอยู่ใน กระบวนการบริหารและการจัดการเรียนการสอนตามปกติของสถานศึกษา สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา และเพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ดังนั้นโรงเรียนวัดดงโคกขามจึงพัฒนารูปแบบ Best Model สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษา ประถมศึกษาพิษณโุ ลกเขต ๑ สูร่ ะบบประกนั คุณภาพภายในทเี่ ข้มแข็งและมีประสิทธิภาพต่อไป วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อพัฒนารูปแบบ BEST MODEL สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวัดดงโคก ขามสำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑ ๒. เพ่อื ศึกษาผลการใช้รปู แบบ BEST MODEL สูก่ ารพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี น วัดดงโคกขามสำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑ BEST MODEL สูก่ ารพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หน้าท่ี ๔ จากการศึกษาทฤษฎแี ละหลกั การทเ่ี กย่ี วข้องรวมถงึ การถอดประสบการณ์การบริหารและการจดั การ เรยี นรขู้ องครู ขอ้ มลู สารสนเทศเกย่ี วกับการรายงานผลคุณภาพการจัดการศกึ ษา (SAR) ในรอบปที ี่ผ่านมา การสนทนากลมุ่ ของคณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ได้นำมาสรา้ งรูปแบบการบรหิ ารทเ่ี หมาะสม ในการสร้างความเข้มแขง็ ให้กับระบบประกันคุณภาพภายในโรงเรยี น ภายใตช้ ื่อ BEST MODEL สูก่ ารพฒั นา คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑ ดงั แผนภาพ รปู แบบ BEST MODEL สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาพษิ ณุโลก เขต ๑ จากรูปแบบการบริหาร BEST MODET สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา มุ่งสู่การพัฒนาท่ี เป็นรูปแบบใช้ในการบริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา (ผู้เรียน) กระบวนการจัดการเรียนรู้ของ ครูผู้สอน และผลที่เกิดกับนักเรียนตามมาตรฐานการศึกษา และมาตรฐานการประเมินในกรอบของการประกัน คุณภาพภายในนั้นจากการที่ใช้กระบวนการบริหารตามรูปแบบ ค้นพบว่าเป็นการทำงานที่มีระบบกฎเกณฑ์ เป็น วฒั นธรรมองคก์ รทผ่ี บู้ ริหาร ครู นกั เรยี น และการมีส่วนรว่ มของผปู้ กครอง เป็นกลไกลทท่ี ำงานรว่ มกัน มีเป้าหมาย ร่วมกัน โดยเฉพาะครูผู้สอนที่ได้สร้างสรรค์ผลงาน นวัตกรรม Best Practice ทั้งเพื่อพัฒนา แก้ไขปัญหาด้าน วิชาการได้ตรงประเด็นของปัญหา เพราะได้นำนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการเรียนรู้ เป็นการช่วยให้กระบวนการ เรียนการสอน อีกทั้งครูผู้สอนยังได้สร้างนวัตกรรม “โครงงานคุณธรรม ตามอัตลักษณ์คุณธรรมของโรงเรียน คือ รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ พอเพียง เพื่อเป็น Best คุณธรรมที่จะส่งเสริมและสอดแทรกคุณธรรมควบคู่กับคุณภาพ ทางด้านวิขาการจนทำใหก้ ารเรยี นรมู้ ีความสมบูรณ์ยงิ่ ข้ึน และเปน็ ไปตามมาตรฐานการศึกษาและบรรลเุ ป้าหมายที่ สถานศึกษาตั้งไว้ดังนั้น BEST MODET สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาจึงเป็นนวัตกรรมการบริหาร สถานศกึ ษาของโรงเรียนวัดดงโคกขามในการจัดการการเรียนรู้ กระบวนการเรียนการสอนและคณุ ภาพผู้เรียน และ เป็นสิ่งที่ยืนยันระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผลได้อย่าง แท้จริง BEST MODEL สูก่ ารพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๕ ๓. ความเปน็ มาและความสำคญั พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ีแกไ้ ขเพิม่ เติม (ฉบับท๒ี่ ) พ.ศ. ๒๕๔๕ กำหนดความ ม่งุ หมายและหลกั การไว้ในหมวด ๑ มาตรา ๖ เก่ยี วกบั หลักการจดั การศกึ ษาว่า การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อ พฒั นาคนไทยให้เป็นมนุษยท์ ่ีสมบรู ณท์ ง้ั ทางรา่ งกายและจิตใจ สตปิ ัญญาความรแู้ ละคุณธรรม มจี ริยธรรมและ วฒั นธรรมในการดำรงชีวติ สามารถอยู่รว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้อยา่ งมีความสขุ สำหรบั มาตรา ๙ (ขอ้ ๑ - ๓) ได้กำหนดหลัก ในการจัดระบบโครงสรา้ ง กระบวนการจัดการศึกษาทีเ่ กี่ยวกับหนว่ ยงานการจดั การศึกษา และมาตรฐานการศึกษา ว่า ตอ้ งมีเอกภาพดา้ นนโยบาย และมีความหลากหลายในการปฏิบตั ิ มีการกระจายอำนาจไปสู่เขตพนื้ ท่ีการศึกษา สถานศกึ ษา และองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบการประกนั คณุ ภาพ การศกึ ษาทุกระดับ ทุกประเภทการศกึ ษา ซ่งึ ได้กำหนดรายละเอียดที่ต้องดำเนินการไว้ในหมวด ๖ คือ ให้มี มาตรฐานและการประกนั คุณภาพการศึกษาไว้ ๒ ระบบ คือ ระบบการประกนั คุณภาพภายใน และระบบการ ประกันคุณภาพภายนอก การประกันคุณภาพการศึกษาจะทําให้สถานศึกษามีระบบบริหารจัดการที่ มีประสิทธิภาพมีการทํางาน ที่มีเป้าหมายและมีแผนการดําเนินงานที่ชัดเจน โดยการดําเนินงานที่มีเป้าหมายนั้นจะต้องมีการประเมินคุณภาพ ภายในหรือการประเมินตนเอง เพื่อตรวจสอบและพัฒนาปรับปรุงให้เป็นไปตามเป้าหมายอยู่ตลอดเวลา การ ประกนั คณุ ภาพการศึกษาจงึ เป็นกลไกหน่งึ ท่ีมีความสาํ คัญในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา ในการสร้าง ความ มั่นใจว่าสถานศึกษาจะดําเนินการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน สถานศึกษาจึงต้องดําเนินการประกัน คณุ ภาพภายในสถานศึกษาให้ได้มาตรฐานการศึกษาถึงผลการดาํ เนนิ งานประกนั คุณภาพการศึกษาและ ปัจจัยการ ดําเนนิ การประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ที่สง่ ผลตอ่ การดําเนินงานประกันคุณภาพภายใน จะทําให้ได้ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาการดําเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาให้มีมาตรฐานการศึกษา เพื่อรองรับ การประเมินคุณภาพภายนอกต่อไปการประกันคุณภาพการศึกษา เป็นกระบวนการที่บุคลากรทุ กส่วนใน สถานศึกษาต้องร่วมมอื กัน วางแผน (Plan) กําหนดเป้าหมายและวิธีการ ลงมือทํา (Do) ตามแผนในทุกขั้นตอน มี การบันทึกข้อมูลเพื่อ ร่วมกัน ตรวจสอบ (Check) ผลงาน หาจุดเด่น จุดที่ต้องปรับปรุงแล้วร่วมกันปรุงปรับ แผนงานนั้นๆ (Action) โดย มุ่งหวังให้มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสถานศึกษาที่เน้นคุณภาพของผู้เรียน เป็นสําคัญ……….……………………………………………………………………………………………………………………………….……….. ด้วยเหตุผลดังกล่าว โรงเรียนวัดดงโคกขามซึ่งเป็นสถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับก่อน ประถมศึกษาและระดับประถมศึกษา จะต้องมีการประกันคุณภาพการศึกษา โดยดําเนินการผสมผสานอยู่ ใน กระบวนการบริหารและการจัดการเรียนการสอนตามปกติของสถานศึกษา สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา และเพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ดังนั้นโรงเรียนวัดดงโคกขามจึงพัฒนารูปแบบ BEST MODEL สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑ สูร่ ะบบประกันคุณภาพภายในทเ่ี ขม้ แขง็ และ มีประสิทธภิ าพต่อไป BEST MODEL สูก่ ารพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๖ ๔. วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือพฒั นารูปแบบ BEST MODEL สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรยี นวัดดง โคกขามสำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษาพษิ ณโุ ลก เขต ๑ ๒. เพอื่ ศกึ ษาผลการใชร้ ูปแบบ BEST MODEL ส่กู ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี น วัดดงโคกขามสำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑ ๕.กระบวนการพัฒนาผลงานหน่งึ โรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม ๑) สภาพปญั หากอ่ นการพัฒนา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม จัดการเรียนการสอนระดบั ชั้นปฐมวยั ปีที่ ๑ – ๓ และระดับชั้นประถมศึกษา ปีท่ี ๑ – ๖ มผี ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนการสอนค่อนข้างต่ำ (อา้ งองิ จากรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา Self Assessment Report: SAR : ปีการศึกษา ๒๕๖๐) และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียนขาดความ รับผิดชอบ ทำให้ประสิทธิผลต่อการบริหารกระบวนการจัดการเรียนการสอนของครูและคุณภาพผู้เรียนไม่เกิด ประสิทธภิ าพเท่าที่ควร จากปญั หาที่พบทำให้โรงเรยี นวดั ดงโคกขาม มีการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนท่ีต้องปรับเปลี่ยนให้ ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ทางคณะครูจึงได้ดำเนินการ PLC (Professional Learning Community) จากนั้นได้ แนวทางสร้างนวัตกรรมตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้งระดับชั้นปฐมวัยปีที่ ๑ - ๓ จนถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ โดยใช้การสร้างนวตั กรรม/วิธปี ฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เพื่อส่งเสรมิ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน และ โครงงานคุณธรรม (Best Practices) เพือ่ ส่งเสริมคณุ ลกั ษณะอันพง่ึ ประสงค์ ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพอื่ ให้เกิดการเรียนรู้ทม่ี ีความเหมาะสมกับวยั ความสามารถ และที่สำคัญสามารถแก้ไขปัญหาท่ีครูผู้สอนได้ค้นพบ จากการประเมิน นอกจากนี้การสร้างนวัตกรรม Best Practice ยังเป็นการส่งเสริมอัตลักษณ์ของโรงเรียนให้กับ ผูเ้ รียน เพราะนอกจากท่ีครูผ้สู อนได้สรา้ งนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาเก่ยี วกับคุณภาพด้านวิชาการให้กับผู้เรียนแล้วยัง ได้แทรกคุณธรรมให้กับผู้เรียน โดยจัดทำโครงงานคุณธรรมควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทำให้ ผ้เู รียนไดท้ ้งั วชิ าการ และคณุ ธรรม อันจะสง่ ผลใหร้ ะบบประกนั คณุ ภาพภายในของโรงเรียนวัดดงโคกขามมีคุณภาพ ที่สูงขึ้น จึงเป็นหลักประกันได้ว่าแนวทางการจัดทำนวัตกรรม Best Practice ของครูผู้สอนทุกคน ทุกกลุ่มสาระ ส่งผลให้การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนวัดดงโคกขามมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลต่อการบริหาร กระบวนการจดั การเรยี นการสอนของครูและคุณภาพผู้เรียนใหส้ งู ย่ิงๆขนึ้ ไป ด้วยเหตุผลดังกล่าว โรงเรียนวัดดงโคกขามซึ่งเป็นสถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับก่อน ประถมศึกษาและระดับประถมศึกษา จะต้องมีการประกันคุณภาพการศึกษา โดยดำเนินการผสมผสานอยู่ใน กระบวนการบริหารและการจัดการเรียนการสอนตามปกติของสถานศึกษา สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา และเพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ดังนั้นโรงเรียนวัดดงโคกขามจึงพัฒนารูปแบบ Best Model สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพิษณุโลกเขต ๑ สู่ระบบประกันคุณภาพภายในที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพต่อไป BEST MODEL สูก่ ารพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๗ ๒) การออกแบบนวัตกรรมเพ่ือการพัฒนา - วิธีปฏิบตั ิท่ดี ี (Best Practice) Best Model ผลการใช้รูปแบบ - ทฤษฎเี ชิงระบบ (System สกู่ ารพัฒนามาตรฐาน Best Model theory) การศกึ ษา โรงเรยี นวัดดง - วงจรบริหารงานคุณภาพ โคกขาม สังกดั สพป.พล.๑ PDCA (Deming Cycle) - ชมุ ชนการเรยี นรู้ ทางวิชาชพี PLC (Professional Learning Commwnity) (กรอบแนวคิดในการพัฒนา Best Model) ๑. แนวปฏบิ ตั ทิ ีด่ ี (Best Practice) หมายถึง วิธปี ฏิบตั ิ หรือขั้นตอนการปฏบิ ตั ิท่ที ำให้องค์การประสบ ความสำเร็จหรือนำไปสูค่ วามเปน็ เลศิ ตามเป้าหมาย เปน็ ท่ียอมรับในวงวิชาการหรือวิชาชพี นัน้ ๆ และมหี ลักฐานของ ความสำเรจ็ ปรากฏชดั เจน โดยมกี ารสรปุ วธิ ีปฏิบัติ หรอื ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิ ตลอดจนความรู้และประสบการณ์ ทไ่ี ด้ บนั ทกึ เปน็ เอกสาร และเผยแพรใ่ ห้หนว่ ยงานภายในหรือภายนอกสามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ Best Practice เกดิ จากตัวบคุ คล เน่ืองมาจากในการทำงาน ทุกคนจะเกิดการเรยี นร้ไู ปสู่เป้าหมายของ หนว่ ยงาน ซ่งึ ผู้ปฏิบัตจิ ะเรยี นรู้ Good Practice หรอื Best Practice ความริเร่ิมสรา้ งสรรคท์ ่ดี ี การแกป้ ญั หาท่ีดี หรอื เกิดจากการได้รบั รู้ข้อเสนอแนะผู้บรหิ าร เพ่ือนร่วมงาน หรือจะเปน็ หน่วยงานอนื่ ๆ ซึง่ ก่อใหเ้ กิดการสรา้ งสรรค์ วิธีการใหมๆ่ ขึ้น หรือวิธกี ารท่ีดีกวา่ เดิม Best Practice เกดิ จากอุปสรรค การทำงานตา่ งๆย่อมมอี ุปสรรคตา่ งๆ ท่เี ปน็ ตวั ขดั ขวางไมใ่ ห้งานเปน็ ไป ตามเปา้ หมายที่มุ่งหวงั เอาไว้ เกดิ ความกดดัน ทมี่ าจากผู้บรหิ ารหรือการแข่งขนั จากคู่แขง่ สงิ่ ตา่ งๆเหลา่ นี้จะเป็น ตัวกระตนุ้ ใหเ้ ราเกดิ การแสวงหาแนวทาง กระบวนการในการแก้ปญั หา และผ่านอุปสรรคไปให้ได้ ก่อใหเ้ กิด Best Practice Best Practice ทเ่ี กดิ จากแรงบนั ดาลใจท่ีอยากจะพฒั นา หรอื คน้ หาวธิ ีการใหม่ๆ เพ่ือความพึงพอใจของ หนว่ ยงาน หรอื ของตนเอง เพื่อสรา้ งประสทิ ธภิ าพทดี่ กี วา่ เดิม การจัดการความรู้ให้บรรลเุ ป้าหมายน้ันจะต้องทำให้ Best Practice ที่เปน็ ความรใู้ นตัวบุคคล กลายเป็น ความรทู้ ปี่ รากฏแจ้งให้ได้ เพอ่ื เปน็ ประโยชน์ตอ่ หน่วยงานหากบุคลากรมกี ารโยกย้าย เกษียณ หรอื ลาออกจากงาน แลว้ จะไมเ่ กดิ ปัญหาตามหลงั มา ตัวอย่างเชน่ เอกสารรายงาน คูม่ อื การปฏบิ ัติงานต่างๆ เพอื่ ใหค้ นอ่นื ๆ ในหน่วยงานสามารถทจี่ ะเขา้ ถึง และความรไู้ ปใช้แก้ปัญหา หรือตอ่ ยอดได้ เพ่ือทวี่ ่าคนใหมๆ่ ท่เี ข้ามาจะไม่ต้องเรม่ิ จากศนู ย์ เปล่ียนมาเปน็ การเร่ิมต้นจากการจัดการความรู้ ท่ีองค์กรไดจ้ ัดไวใ้ หแ้ ลว้ ดังนน้ั จึงเป็นสง่ิ สำคญั ที่ผ้บู ริหาร ระดับสูง ในองคก์ รต่างๆ ไดใ้ ห้ความสำคัญกับ Best Practice ในด้านของการจัดการสอนงานหรือวธิ ใี นการ BEST MODEL สู่การพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวดั ดงโคกขาม สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๘ ทำงานให้ดีกว่าเดมิ ยงิ่ ๆขนึ้ ไปกลายเป็นวงจรในการพฒั นาองค์กรให้กา้ วหน้าอยา่ งไม่มีทส่ี ้ินสดุ (อา้ งอิงจาก : http://ks.rmutsv.ac.th/th/bestpractice) ๒. ทฤษฎรี ะบบพนื้ ฐาน (Basic Systems Theory) ขององค์การซ่งึ มี ๕ ส่วน คือ ปจั จัยป้อน กระบวนการแปรรูป ผลผลิต ขอ้ มูลย้อนกลบั และสภาพแวดล้อม ๑) ปจั จัยปอ้ น (Inputs) คอื ทรัพยากรท่เี ปน็ บุคคล วสั ดอุ ุปกรณ์ เงิน หรือขอ้ มูลท่ีใช้ในการผลิตหรือ การบริการ ๒) กระบวนการแปรรูป (Transformation Process) จากการใชเ้ ทคโนโลยีและหน้าทใ่ี นทางการ บรหิ ารตวั ป้อนนำไปสู่กระบวนการแปรรูป ในโรงเรยี นปฏสิ ัมพันธ์ระหวา่ งนักเรยี นกับครูเปน็ สว่ นหน่งึ ของการแปร รูปหรอื กระบวนการเรยี นรซู้ ึ่งทำใหน้ กั เรยี นกลายเปน็ พลเมืองทม่ี ีการศึกษา ซ่ึงสามารถทำประโยชน์ใหแ้ กส่ ังคม ต่อไป ๓) ผลผลิต (Output) ไดแ้ ก่ ผลิตภัณฑ์และการบริการขององค์การ องค์การทางการศึกษาผลติ และ แจกจา่ ยความรู้ ๔) ขอ้ มลู ย้อนกลับ (Feedback) คือ สารสนเทศเก่ียวกับผลผลติ หรอื กระบวนการของ องค์การซง่ึ มีอิทธิพลต่อการคัดเลอื กตัวป้อนระหวา่ งวงจรต่อไป ข้อสารสนเทศเช่นน้ีอาจนำไปสู่การเปลย่ี นแปลงทัง้ ในกระบวนการแปรรปู และผลผลิตในอนาคต ๕) สภาพแวดลอ้ ม (Environment) สภาพแวดล้อมท่อี ยลู่ อ้ มรอบองค์การ ไดแ้ ก่ แรงผลักดนั (Forces) ทง้ั ดา้ นสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ ท่มี าปะทะกับองค์การ ดงั น้ันการสรา้ งกรอบแนวคดิ ใหอ้ งค์การเป็นระบบเปดิ (Open System) จงึ เป็นแนวคดิ รวบยอดทสี่ ำคญั ทส่ี ุดประการหน่งึ ของทฤษฏรี ะบบ องค์การทีเ่ ป็นโรงเรียนหรอื สถานศึกษาทั้งหมดเป็นระบบเปิด (อ้างองิ จาก: https://www.slideshare.net › mintkwanmaneekul สรุปทฤษฎรี ะบบพืน้ ฐานมี ๕ ส่วน คือ ปจั จัยปอ้ น (Inputs) กระบวนการ (Process) ผลผลิต (Output) ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) และสภาพแวดล้อม (Environment) ผศู้ ึกษานำเอาผลท่ไี ด้จากการ สงั เคราะหเ์ อกสารมาสร้างเป็นรูปแบบสำหรบั การบริหารสถานศึกษาระบบการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียน ๓. วงจรเดมม่งิ PDCA (Deming Cycle) PDCA คอื วงจรทีพ่ ัฒนามาจากวงจรทีค่ ิดค้นโดยวอล์ทเตอร์ ซวิ ฮาร์ท(Walter Shewhart )ผู้ บกุ เบิกการใช้สถิติสำหรบั วงการอตุ สาหกรรมและต่อมาวงจรน้ีเริ่มเป็นทร่ี จู้ ักกันมากขึน้ เม่ือ เอดวารด์ เดมมิ่ง (W.Edwards Deming) ปรมาจารย์ดา้ นการบริหารคุณภาพเผยแพร่ใหเ้ ปน็ เครื่องมือสำหรบั การปรับปรงุ กระบวนการทำงานของพนักงานภายในโรงงานให้ดยี ิ่งข้นึ และชว่ ยค้นหาปัญหาอุปสรรคในแตล่ ะข้ันตอนการผลติ โดยพนักงานเอง จนวงจรนเ้ี ป็นท่ีร้จู กั กนั ในอกี ชื่อวา่ “วงจรเดม็ ม่ิง” ต่อมาพบว่า แนวคดิ ในการใช้วงจร PDCA น้นั สามารถนำมาใชไ้ ด้กับทุกกจิ กรรมจึงทำให้เป็นท่ีร้จู กั กนั อย่างแพรห่ ลายมากข้นึ ทวั่ โลก PDCA เป็นอักษรนำของ ศัพทภ์ าษาอังกฤษ ๔ คำ คือ ๑) PLAN เป็นการวางแผนงาน ข้นั ตอนนีเ้ ราตอ้ งนำงานทัง้ หมดที่เรารับผิดชอบอยู่ มาจดั เรยี งลำดบั ความสำคัญ กำหนดวตั ถุประสงคข์ องงาน และเปา้ หมายในการทำงาน ซึ่งควรจะจัดเตรยี มเป็นเอกสารไว้ มีวธิ ีการ และขั้นตอนการทำงาน ซ่งึ อาจจะจัดทำเปน็ เอกสารขั้นตอนและวิธกี ารทำงานเอาไว้ อาจจะมีระยะเวลาทีใ่ ช้ในการ ทำงาน ผรู้ ับผดิ ชอบ ผูต้ รวจสอบ ถา้ การทำงานน้นั มผี ูร้ ว่ มทำงานหลายคนแตใ่ นกรณีท่เี ราเตรยี มแผนงานของ BEST MODEL ส่กู ารพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวดั ดงโคกขาม สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หน้าท่ี ๙ ตนเองส่วนตวั ไว้สำหรับการทำงานและพฒั นางานของตนเองก็จำเป็นต้องมีการวางแผนด้วย ซ่งึ ควรจะมเี อกสาร กำกับ หรืออาจจะใชส้ มุดบันทกึ ไดอาร่ี ฯลฯ ทจี่ ำเปน็ ในการวางแผนการทำงาน มกี ารจัดลำดับความสำคัญของ งาน งานไหนทำก่อน งานไหนทำทีหลงั และควรมีแผนสำรองสำหรบั งานท่ีเข้ามาแทรกตามทีไ่ ดว้ างแผนไว้ว่าจะ จัดการอยา่ งไร เพื่อให้การทำงานไม่ติดขัด และทนั ต่อเวลา รวมไปถึงงานท่ีได้มีคุณภาพตามเวลาท่ีกำหนดดว้ ย ๒) DO เปน็ การทำงานตามแผนงานทไี่ ด้วางไว้ ขัน้ ตอน วธิ กี าร ลำดับงานท่เี รากำหนดไว้ใน PLAN ก็นำมาปฏิบัติ โดยทำการศึกษาถึงวิธีการที่ดีที่สุดในการทำงานนั้นๆ เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ และทำงาน ได้ผลดีที่สุด หรืออาจจะมีการอบรมงานเหล่านั้นเพื่อความเข้าใจในการปฏิบัติแล้วลงมือปฏิบัติตามขั้นตอนและ วิธกี ารทำงานท่ไี ดว้ างแผนไว้ ในระหวา่ งการทำงานควรจะมเี กบ็ ข้อมูลท่จี ำเป็น ท่สี ำคญั ต่างๆ เอาไว้ เพื่อประโยชน์ ในการทำงานครงั้ ต่อไปด้วย หรือเพื่อจดบนั ทึกทเ่ี ปน็ ข้อบกพร่องของงานเอาไว้ เพ่อื นำไปแก้ไข ปรบั ปรงุ การทำงาน ในคร้ังตอ่ ไป ๓) CHECK ตรวจสอบการทำงานท่ีไดท้ ำไปแลว้ (จาก DO) ว่าเป็นไปตามทีเ่ ราตอ้ งการหรอื ไม่ หรือ ตามมาตรฐานที่เราได้กำหนดไว้ อาจจะใช้เครื่องมือช่วยในการตรวจสอบ เช่น เครื่องมือต่างๆ ผลการทำงานเมื่อ เทยี บกบั งานครัง้ ก่อน เปน็ ต้น ในการตรวจสอบโดยทั่วไปไดแ้ ก่ ระยะเวลาตามเปา้ หมาย คณุ ภาพของงานที่ออกมา วิธีการหรือขั้นตอนการทำงาน ซึ่งการตรวจสอบการทำงานควรจะมีการจดบันทึกในรูปแบบต่างๆ ไว้ เช่น สมุด บันทกึ เอกสารการตรวจสอบ คอมพิวเตอร์ เปน็ ตน้ เพือ่ ใหง้ ่ายในการปรับปรุง และแกไ้ ขในการทำงานครง้ั ตอ่ ไป ๔) ACTION หากมขี ้อบกพร่องทีเ่ กิดขึ้นจากการตรวจสอบ CHECK กค็ วรจะหาวธิ ีการและข้ันตอน ในการแก้ไขทันที หรือตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยทำการค้นหาสาเหตุที่เกิดขึ้น และใช้วิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดใน การทำการแก้ไข เพื่อไม่ให้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก และควรมีวิธีการพัฒนาปรบั ปรุงงาน หรือระบบงานนัน้ ถึงแม้ว่าการตรวจสอบจะไม่เกิดข้อบกพร่องเราก็ควรจะมีวิธีการพัฒนาปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อให้งานนั้นเกิด ประสิทธิภาพทด่ี กี ว่าเดิมเม่อื มีข้อบกพร่อง หรือตอ้ งการจะพฒั นาปรบั ปรุงการทำงานใหด้ ขี ึ้นกว่าเดมิ เราก็ควรจะมี การวางแผนใหม่ (PLAN) โดยอาจจะปรับปรุงจากแผนการทำงานเดิม เพื่อให้ได้งานที่ดีขึ้น และมีการพัฒนา ต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นไปตามหลักการของวงจรเดมิ่ง คือ มีการวางแผนงาน PLAN ปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ DO ตรวจสอบการทำงานที่ปฏิบัติ CHECK ทำการแกไ้ ขขอ้ บกพร่องหรือพัฒนาให้ดีข้ึน ACTION กจ็ ะมาทำการวางแผน ใหม่ นำไปปฏบิ ตั ิ ตรวจสอบ เป็นอยา่ งนต้ี ่อเนือ่ งกันไปไม่มีท่สี ้นิ สุด กจ็ ะทำให้งาน หรอื ระบบงานนน้ั ดขี น้ึ ซง่ึ จะทำ ให้ช่วยลดต้นทุน ลดเวลาการทำงาน คุณภาพงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และยังช่วยให้พนักงานมีขวัญกำลังใจที่ดีในการ ทำงานอกี ด้วย (อา้ งอิงจาก : http://www.cgpcenter.com/generalknowledges/pdca/pdca.html) ๔. ชมุ ชนการเรยี นรทู้ างวิชาชพี (Professional Learning Community : PLC) ๑) ชมุ ชนการเรยี นรู้ทางวชิ าชพี เป็นการรวมกลุม่ บุคคลที่มเี ป้าหมายเดยี วกนั และมีการ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ในประเด็นที่แต่ละคนให้ความสนใจเกีย่ วกับ การพัฒนาทางการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกดิ การ สืบเสาะแสวงหาความรู้ และพัฒนาการท างานอย่างตอ่ เน่อื ง DuFour (๒๐๑๐ : ๙ – ๑๔) ๒) ชุมชนการเรียนรูท้ างวิชาชพี ของโรงเรียนเปน็ ลกั ษณะของปฏิสมั พันธท์ ดี ่ี ตอ่ เนอ่ื ง ระหว่าง ครูผู้สูอนเกี่ยวกับการปฏิบัติงานการเรียนการสอน รวมทั้งการเรียนรู้ของครูผู้สอนและนักเรียน Bulkley และ Hick (๒๐๐๕ : ๒๑) BEST MODEL สู่การพัฒนาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑

หน้าท่ี ๑๐ ๓) การรวมตัวกันของครูในโรงเรียนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการจัดการเรียนรู้ให้ศิษย์ได้ทักษะ เพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษท่ี ๒๑ โดยที่ผู้บริหารโรงเรียน คณะกรรมการโรงเรียน ผู้บริหาร เขตพื้นที่ การศึกษา และผู้บริหารการศึกษา ระดับประเทศ เข้ารวมจัดระบบสนับสนนุ ให้เกิดการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ต่อเนื่อง เป็นการ พัฒนาวิธีการเรียนรู้ของศิษย์อย่างต่อเนื่อง เป็นวงจรไม่รู้จบ นั่นคือการ “พัฒนาคุณภาพต่อเนื่อง” (CQI – Continuous quality improvement) กระบวนการต่อเนื่องที่ครูและนักการศึกษาทำงานร่วมกนั ในวงจรของการ ร่วมกัน ตั้งคำถามและการทำวิจัยเชิงปฏิบัติการ เพื่อบรรลุผลการเรียนรู้ที่ ดีขึ้นของนักเรียน โดยมีความเชื่อว่า หัวใจของการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนใหด้ ีขึ้น อยู่ที่การเรียนรู้ท่ี ฝังอยู่ในการทำงานของครูและนักการศึกษา วจิ ารณ์ พานชิ (๒๕๕๕ : 153-165) รศ.นราพร จันทร์โอชา กล่าวไว้ว่า “เมื่อผู้บริหารการศึกษา ครู และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้าใจเรือง PLC นี้ อย่างชัดเจน PLC ก็จะ กลายเป็นวัฒนธรรมองค์กร เป็นเครื่องมือในการพัฒนา ครู และบุคลากรทุกฝ่าย อย่างยั่งยืน แต่ต้อง เข้าใจว่า PLC ไม่ใช่หัวข้อการอบรม แต่เป็น กระบวนการ ครูสามารถนำกระบวนการ PLC นี้ มาใช้เพื่อ ศึกษาเรื่องที่ตนเองสนใจหรือเพื่อศึกษาหาทางแก้ปัญหา การจัดการเรียนการส อนที่ตนพบ หรือเพ่ือ สร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม กับบริบทของตน ได้ตลอดไปอย่างยั่งยืน คือใช้ กระบวนการ PLC แต่ปรบั เปล่ยี นหัวข้อ หรือปญั หาทตี่ ้องการศึกษาได้ตามความเหมาะสมของแตล่ ะ โรงเรยี น แต่ละพนื้ ท่ี” กล่าวโดยสรปุ PLC หมายถึง การรวมตัว ร่วมใจร่วมพลัง ร่วมทำ และร่วมเรียนรู้ร่วมกันของครู ผ้บู รหิ าร และนกั การศึกษา บนพืน้ ฐานวัฒนธรรมความสมั พนั ธแ์ บบกลั ยาณมิตร มวี ิสยั ทศั น์ คณุ ค่า เป้าหมาย และ ภารกิจร่วมกัน โดยทำงานร่วมกันแบบทีม เรียนรู้ที่ครูเป็นผู้นำร่วมกัน และผู้บริหารแบบผู้ดู แลสนับสนุน สู่การ เรียนรแู้ ละพฒั นาวชิ าชพี เปลี่ยนแปลงคุณภาพตนเอง สู่คณุ ภาพการจัดการเรยี นรูท้ ่ีเนน้ ความสำเร็จหรอื ประสิทธิผล ของผ้เู รยี นเปน็ สำคญั และความสขุ ของการทำงานรว่ มกนั ของสมาชิกในชุมชนการเรยี นรู้ ๓) ขั้นตอนการดำเนนิ งานพัฒนา การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาหรือเชิงบรรยาย(Descriptive Research) เรื่อง BEST MODEL สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พษิ ณโุ ลก เขต ๑ ซึ่งผ้วู ิจยั ได้ดำเนินการพฒั นานวตั กรรม ดังน้ี ข้นั ท่ี ๑. ศึกษาองคค์ วามรู้ท่ีเก่ียวข้องเพื่อกำหนดกรอบแนวคดิ ในการวิจยั ขนั้ ที่ ๒. การสรา้ งและพฒั นา BEST MODEL สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑ ขน้ั ท่ี ๓. ทดลองใชร้ ูปแบบ ขั้นที่ ๔. ประเมินผลการใช้ BEST MODEL สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวัดดง โคกขาม สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑ มีรายละเอยี ดดังน้ี รายละเอียดดำเนินงานในแต่ละขัน้ มดี งั นี้ ข้นั ที่ ๑. ศึกษาองคค์ วามรทู้ เี่ กย่ี วขอ้ งเพื่อกำหนดกรอบแนวคดิ ในการวิจยั ผู้วิจัยได้ศึกษาองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดกรอบแนวคิดในการวิจัย โดยมีขั้นตอนดังนี้ ๑. ศึกษาจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยการศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและ พฒั นารปู แบบ BEST MODEL สกู่ ารพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรยี นวดั ดงโคกขาม สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๑๑ ๒. กำหนดกรอบแนวคิดในการศึกษาดงั น้ี๒.๑ แนวคิดเกี่ยวกับการสร้างและพัฒนารูปแบบ ประกอบด้วย ๑) ส่วนประกอบของรูปแบบ ประกอบด้วย ส่วนที่ ๑ หลักการและวัตถุประสงค์ ของรูปแบบ ส่วนที่ ๒ รูปแบบการบริหารจัดการโดยใช้ระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาเป็นฐาน ส่วนที่ ๓ การนำ รูปแบบไปใช้ ๒) ลักษณะของรปู แบบ ๒.๒ แนวคดิ เก่ยี วกบั การพฒั นารปู แบบ ประกอบด้วย ขัน้ ตอนการพฒั นารปู แบบ ๔ ขน้ั ตอน คอื ๑) ศึกษา องคค์ วามร้ทู ี่เกย่ี วข้องเพอื่ กำหนดกรอบแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรม ๒) การสร้างและพัฒนา BEST MODEL สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑ ๓) ทดลองใชร้ ูปแบบ ๔) ประเมนิ ผลการใช้ BEST MODEL สกู่ ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม สำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑ ๒.๓ แนวคดิ เก่ียวกับการบริหารจัดการโดยใชร้ ะบบประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษาเป็นฐาน มีดงั นี้ ๑) วธิ ีปฏิบตั ิทด่ี ี (Best Practice) ๒) ทฤษฎีเชิงระบบ (System theory) ๓) วงจรบริหารงานคณุ ภาพ PDCA (Deming Cycle) ๔) ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC (Professional Learning Commwnity) ขนั้ ที่ ๒ การสร้างและพฒั นา BEST MODEL สกู่ ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวัดดงโคก ขาม สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต ๑ ขน้ั ตอนน้เี ปน็ ขน้ั ตอนการสรา้ งรูปแบบทเ่ี น้นผลการดำเนนิ งาน ตามกรอบแนวคิดในการศกึ ษา ดงั น้ี ๑.นำผลจากการสังเคราะห์เอกสาร ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนที่ ๑ มาทำการสังเคราะห์ สาระสำคญั เพ่ือกำหนดกรอบการร่างรปู แบบ สรปุ ไดด้ งั นี้ ๑) แนวคิดในการพฒั นารปู แบบ ประกอบด้วย ๓ แนวคิด คอื ๑.๑) แนวคิดเกี่ยวกับส่วนประกอบและลักษณะของรูปแบบที่ได้จากการสังเคราะห์ แนวคิดของ พรพิมล หรรษาภิรมย์โชค (๒๕๕๐), สะอาดจิต เพ็ชรมีศรี (๒๕๕๑), กัลยา คำมณี (๒๕๕๓) มี ๓ ส่วน คอื ส่วนที่ ๑ หลกั การและวัตถปุ ระสงคข์ องรูปแบบ ส่วนท่ี ๒ รูปแบบการดำเนนิ งาน ส่วนท่ี ๓ การนำรูปแบบไปใช้ ๒) ลกั ษณะของรูปแบบ ส่วนที่ ๑ องค์ประกอบของระบบดแู ล ๑.๒) แนวคิดเก่ียวกับการพฒั นารปู แบบ ทไี่ ดจ้ ากการสังเคราะหแ์ นวคิดของ ศวิ ากร นัน โท, (๒๕๕๐), แก้วเวียง นำนาผล (๒๕๕๑), ทิมแก้ว ธรรมรักษ์สกุล และมานิตย์ ไชยกิจ (๒๕๕๑), กัลยา คำมณี (๒๕๕๓), และสุมณฑา ศรีสวัสดิ์ (๒๕๕๔) ประกอบด้วยการพัฒนารูปแบบ ๓ ขั้นตอน คือ ๑) การศึกษาองค์ ความรู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดกรอบแนวคดิ ในการวิจัย ๒) การสร้างและพัฒนารูปแบบ ๓) การทดลองใช้ รูปแบบ ๓) หลักการของรูปแบบประกอบด้วย ๒ หลกั การคือ ๑.กำหนดส่วนประกอบและสาระสำคญั ของรูปแบบการดำเนนิ งาน ๒.จดั ทำรา่ งรูปแบบการดำเนนิ งาน BEST MODEL สกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๑๒ สว่ นท่ี ๑ หลกั การและวัตถุประสงค์ของรปู แบบประกอบด้วย ส่วนที่ ๒ รปู แบบ สว่ นท่ี ๓ การนำรปู แบบไปใช้ ๔. ตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบที่สร้างขึ้นว่ามีความเหมาะสมที่จะนำไปใช้ โดยการจัดขึ้นเวที นำเสนอเพื่อใหผ้ ้เู ช่ยี วชาญได้แสดงความคิดเห็นปรบั แกร้ ูปแบบ BEST MODEL สู่การพัฒนาคณุ ภาพตามมาตรฐาน การศึกษาโรงเรยี นวดั ดงโคกขาม สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑ ซึ่งได้กำหนดคำตอบ ไวใ้ หเ้ ลอื กตอบ คือ เห็นดว้ ย ไม่เห็น ด้วย และขอ้ เสนอแนะ เพื่อให้ได้ข้อมูลเก่ยี วกับรูปแบบและใช้เป็นแนวทางใน การพัฒนารปู แบบ ๕. วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบโดยพิจารณาจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ๔ ท่าน รศ.ดร. ปกรณ์ ประจัญบาน หัวหน้าภาควิชาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ดร.เกรียงศกั ดิ์ เจรญิ วงศศ์ ักด์ิ ผู้อำนวยการกลมุ่ นเิ ทศติดตามและประเมนิ ผลสำนกั งานศึกษาธิการจังหวัดพิษณุโลก นายประยุทธ สุรเดชไพบูลย์ รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑ ดร.เบญจวรรณ อินต๊ะวงศ์ ศึกษานิเทศก์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑ โดยหาก ผู้เชี่ยวชาญเห็นด้วยร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ถือว่ารูปแบบที่พัฒนาขึ้นนี้ใช้ได้ ซึ่งผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้เชี่ยวชาญเห็นด้วยร้อยละ ๑๐๐ และมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้รายงานนำมาปรับปรุงแก้ไข ๖.นำข้อเสนอแนะที่ได้จากการประชุมสนทนากลุ่มของผู้เชี่ยวชาญมาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนา รปู แบบทีเ่ นน้ ผลการดำเนนิ งาน ข้ันตอนที่ ๓ การทดลงใช้รูปแบบ ทำการทดลองใช้รูปแบบการยกระดับผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรยี น ตามรปู แบบ BCC Model โดย เรม่ิ ทดลองใชใ้ นปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑ ข้นั ตอนท่ี ๔ ประเมินผลการใช้ BEST MODEL สกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑ โดยใช้มาตรฐานตัวบง่ ชี้กับเป้าประสงค์ของการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา การประเมิน ตนเองของสถานศึกษา Self Assessment Report: SAR ปีการศึกษา ๒๕๖๑ มาเปน็ เกณฑ์ในการประเมิน BEST MODEL สูก่ ารพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๑๓ ๔) ผลงานทเี่ กดิ ข้ึนจากการดำเนนิ งาน ผลงานท่เี ปน็ ชิ้นงานนวตั กรรม จากการศึกษาทฤษฎแี ละหลักการท่ีเกยี่ วข้องรวมถึงการถอดประสบการณ์การบริหารและการจดั การ เรยี นรขู้ องครู ข้อมูลสารสนเทศเก่ียวกบั การรายงานผลคุณภาพการจัดการศึกษา (SAR) ในรอบปีทผ่ี ่านมา การ สนทนากลุ่มของคณะครู คณะกรรมการสถานศกึ ษา ผู้ปกครอง ได้นำมาสรา้ งรูปแบบการบริหารทีเ่ หมาะสมในการ สรา้ งความเขม้ แข็งใหก้ บั ระบบประกันคณุ ภาพภายในโรงเรียน ภายใต้ช่อื BEST MODEL ส่กู ารพฒั นาคุณภาพตาม มาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวดั ดงโคกขาม สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑ ดังแผนภาพ รปู แบบ BEST MODEL ส่กู ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑ จากแผนภาพ อธิบายรายละเอยี ดของรูปแบบได้ ดงั นี้ การขับเคล่ือนระบบประกันคุณภาพภายในโรงเรยี นของโรงเรยี นวดั ดงโคกขาม โดย BEST MODEL สกู่ ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษา พิษณุโลก เขต ๑ กรอบรายละเอยี ดในระบบ แตล่ ะด้าน ดังนี้ ๑. ดา้ นปัจจัยนำเข้า (Input) ประกอบดว้ ยนโยบาย , จุดเน้น ผ้บู ริหาร ครู คณะกรรมการ สถานศึกษา ผปู้ กครองนักเรยี น นักเรียน งบประมาณ สื่อ และวสั ดุอปุ กรณ์ นวัตกรรม ของโรงเรียนวัดดง โคกขาม ดงั ต่อไปน้ี BEST MODEL สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑

หน้าท่ี ๑๔ ตารางแสดงรายชอื่ โครงการระดบั ปฐมวัยและระดับประถมศกึ ษาของโรงเรียนวดั ดงโคกขาม ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ท่ี ชอื่ โครงการระดับปฐมวัยและระดับประถมศกึ ษาของโรงเรียนวดั ดงโคกขาม ระดบั ช้นั ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ ปฐมวยั ๑ โครงการสง่ เสรมิ ใหเ้ ด็กมีพฒั นาการทางด้านรา่ งกาย ปฐมวัย ปฐมวัย ๒ โครงการสง่ เสริมให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์และจิตใจ ปฐมวัย ประถมศกึ ษา ๓ โครงการส่งเสรมิ ใหเ้ ด็กมีพฒั นาการทางด้านสงั คม ประถมศกึ ษา ปฐมวยั , ประถมศึกษา ๔ โครงการสง่ เสรมิ ให้เด็กมีพฒั นาการทางด้านสตปิ ัญญา ปฐมวัย , ประถมศกึ ษา ปฐมวยั , ประถมศกึ ษา ๕ โครงการส่งเสริมการยกระดบั คณุ ภาพทางวิชาการของผู้เรยี น ปฐมวัย , ประถมศึกษา ๖ โครงการสง่ เสรมิ สรา้ งคุณลกั ษณะนิสัย และคา่ นิยมอันพงึ ประสงค์ ปฐมวยั , ประถมศึกษา ปฐมวยั , ประถมศกึ ษา ๗ โครงการสรา้ งเดก็ ดี มีวนิ ัย รักไทย ใจอาสา ปฐมวัย , ประถมศกึ ษา ๘ โครงการพฒั นาการจดั การเรียนการสอนที่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั ๙ โครงการพัฒนาทกั ษะชวี ติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศูนย์การเรียนรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง) ๑๐ โครงการพฒั นาระบบการประกนั คณุ ภาพภายใน ๑๑ โครงการอาหารมื้อเชา้ – อาหารกลางวัน และอาหารเสรมิ (นม) ๑๒ โครงการพฒั นากระบวนการบรหิ ารงานและการจัดการอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ๑๓ โครงการจัดหาครใู ห้เพยี งพอและพฒั นาให้สามารถจัดการเรยี นการสอนโดยเน้นผ้เู รยี น เปน็ สำคัญอย่างมีประสิทธิภาพ ตารางแสดง รายชอื่ Best Practices เพอ่ื ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนวัดดงโคกขาม สังกัด สพป.พล.๑ ที่ Best Practices ผรู้ บั ผิดชอบ ๑ เรอ่ื งหนูนอ้ ยรักการอ่านเพอ่ื ส่งเสริมพฤติกรรมรักการอ่านของเด็กปฐมวยั นางสาวยมลพร ราชขวัญ ๒ เร่อื งการจัดกิจกรรมการทดลองวทิ ยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวยั นางสาวศวิ ลกั ษณ์ เอกอฬุ ารพนั ธ์ ๓ เรื่องลูกช้ินหรรษา พัฒนาการอ่านการเขยี น นางสาวหนึง่ ฤทยั ปลม้ื สขุ ๔ เรอ่ื งบอกเลา่ คุณธรรม นางสาววชั รี รอดเกตุ ๕ เรอื่ งกจิ กรรมการเขียนโปรแกรมผ่านเวบ็ แอพพลเิ คชนั่ Scratch เพื่อพฒั นา นางสาวสรุ ีรตั น์ ทักษะดา้ นโคด้ ดิ้ง ทองพานเหลก็ ๖ เรื่องกจิ กรรมการพฒั นาทักษะภาษาองั กฤษเพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ นางรมณี พนัสขาว ทางการเรยี น (O - Net) “คำศพั ท์แสนสนกุ ” ๗ เรอื่ งกจิ กรรมกระบวนการจัดการเรียนการรู้แบบ STEM Educution นางสุพรรษา เสอื น้อย Model BEST MODEL สกู่ ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑

หน้าที่ ๑๕ ตารางแสดงรายชอื่ โครงงานคุณธรรม (Best Practices) เพ่อื สง่ เสรมิ คุณลักษณะอันพึง่ ประสงค์ โรงเรยี นวดั ดงโคกขาม สังกดั สพป.พล.๑ ที่ โครงงานคุณธรรม เพอื่ สง่ เสริมสรา้ งคุณลกั ษณะนสิ ัย ระดบั ชัน้ ครผู ู้รบั ผดิ ชอบ และค่านิยมอนั พึงประสงค์ ๑ ตาวิเศษเหน็ นะ (ความรบั ผิดชอบ) อนุบาลปีท่ี ๑ นางสาวยมลพร ราชขวัญ ๒ ยม้ิ ง่าย ไหว้สวย (ความมีวนิ ัย) อนุบาลปที ่ี นางสาวศิวลกั ษณ์ ๒ – ๓ เอกอฬุ ารพนั ธ์ ๓ ห้องเรยี นสะอาดดี เพราะเรามีความรบั ผิดชอบ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ นางสาวหนึง่ ฤทัย ปลืม้ สขุ (ความรบั ผิดชอบ) ๔ รองเท้าเขา้ แถว (ความมวี นิ ยั ) ประถมศึกษาปที ี่ ๒ รมณี พนัสขาว ๕ ขยะลงถัง ปลูกฝังคุณธรรม (ความรบั ผิดชอบ) ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ นางสาวสุรีรตั น์ ทองพานเหลก็ ๖ เด็กดี มวี นิ ยั (ความมีวนิ ัย) ประถมศึกษาปีท่ี ๔ นางสาววัชรี รอดเกตุ ๗ เดก็ ดีมเี งินออม (ความพอเพียง) ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ -๖ นางสุพรรษา เสือน้อย ๒. ด้านกระบวนการ (Process) ประกอบด้วย การบรหิ ารโดยใช้ Best Model มอี งค์ประกอบ ท่สี ำคัญ คือ B : Bring Out คือ กระต้นุ ใหก้ ลา้ คิด กล้าทำ E : Excellence คอื การมุ่งสู่ความเปน็ เลศิ S : Supervision คอื การนเิ ทศโดยใช้รปู แบบการนเิ ทศแบบ (๔P) ประกอบด้วย P : (Plan) คือ การวางแผน P : (Prepare) คือ การสร้างความพร้อม P : (Positive) คือ การเสริมแรง P : (Product) คอื ผลผลติ T : Team work คือ การทำงานเป็นทมี B: Bring out คอื การกระตุ้นให้กลา้ คิด กลา้ ทำ หมายถึง การกระตุ้นครใู ห้กลา้ คดิ และกล้าท่ี จะลงมือปฏบิ ัติในการแก้ไขปัญหา การพฒั นา สง่ เสรมิ การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนใหก้ บั นกั เรยี นด้วยวธิ ีการ ทห่ี ลากหลายและเป็นวิธีการท่ีดที ีส่ ุด โดยมเี ป้าหมาย คือ แนวปฏิบตั ิในการกระต้นุ ให้กล้าคิดกล้าทำ ได้แก่ คณุ ภาพผู้เรียน การดำเนนิ การเพือ่ ใหเ้ กิดการกระต้นุ ให้กลา้ คดิ ไดแ้ ก่ การศึกษาดูงาน การศึกษาปัญหา การศึกษาตวั อยา่ ง การอบรม การมเี ป้าหมายรว่ มกัน นอกจากน้แี รงกระตุ้นอาจสรา้ งไดเ้ อง ซง่ึ เกิดจากความไม่ ประสบผลสำเร็จ การทำงานไม่บรรลุเป้าหมาย เชน่ ผลสัมฤทธิ์ตำ่ มผี ลต่อการเกดิ แรงกระตุน้ ให้ครูกลา้ คดิ กล้า ทำที่จะยกระดับผลสัมฤทธส์ิ ูงข้ึน E: Excellent คือ การมุ่งสู่ความเปน็ เลศิ หมายถึง วิธีการปฏบิ ตั ทิ ี่ดีของการบริหารและการทำงาน ของครทู ่ีจะนำไปสู่การแก้ไข การพฒั นา สง่ เสรมิ ในกระบวนการเรยี นการสอน ซึ่งเป้าหมาย คอื คุณภาพผู้เรยี น ท้ังในด้านวชิ าการ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คุณธรรมจรยิ ธรรม การมจี ติ อาสา และการตอบสนองตอ่ นโยบาย การจัดกิจกรรมเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ เพื่อการไปสเู่ ป้าหมายสูงสดุ เสาหลกั ในการจดั การความเปน็ เลศิ BEST MODEL สูก่ ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๑๖ (Management Excellence) มีดงั นี้ ๑. SMART (รู้ก่อนใคร) องคก์ ารทจี่ ะเปน็ เลิศมกั จะมองเห็นอะไรก่อนใครอื่น ทั้งสภาพปัญหา และโอกาส เพราะจริงๆ ทกุ สิ่งอยา่ งที่เกิดขน้ึ ในโลก ทุกคนเห็น รับรู้ และมขี ้อมลู แตใ่ ครจะเข้าใจ ตระหนกั รู้ และ เหน็ โอกาสก่อนกัน นน่ั คือความแตกตา่ งระหว่างองค์การทวั่ ไป กบั องค์การเป็นเลศิ ๒. AGILE (ฉับไว) ความฉับไว้ในการตระหนักรู้ และการเห็นโอกาสจะเพ่ิมอัตราของโอกาส ใหแ้ ก่ องค์การ และยิง่ ปรับตวั ไดเ้ ร็ว และลงมอื ทาํ ได้ไวเท่าใด โอกาสท่ีจะชนะและเหนือคแู่ ข่งย่อมมีมากขนึ้ ๓. ALIGNED (เปน็ หน่ึงเดียว) การนวัตกรรมและการทําสิ่งทเ่ี หนือความคาดหมายของคนอื่น องค์การจาํ เป็นต้องเข้าใจในค่านยิ มใหมแ่ ละการร่วมมอื ร่วมใจเป็นหนง่ึ เดียวกันของบุคลากรในองคก์ ารทกุ คน จงึ จะเกิดพลงั การขบั เคลื่อนองค์การไปสู่เปา้ หมาย การสรา้ งองคก์ รให้มีความเปน็ เลิศ (Excellence) โดยใชก้ ระบวนการ หรือ หนา้ ทท่ี างการ บริหารท่สี ำคญั ประกอบด้วย ๔ ด้าน คอื ๑).การวางแผน (Planning) เปน็ ข้ัน ตอนของการกำหนดเป้าหมาย และจุดมุง่ หมาย พฒั นาแผนปฏบิ ตั กิ าร และกลยุทธใ์ นการน ไปปฏบิ ตั ิ เพอ่ื ให้บรรลเุ ปา้ หมาย ๒) การจดั องคก์ าร (Organizing) เป็นขน้ั ตอนในการกำหนดกิจกรรมทต่ี อ้ งดำเนินการจัดบคุ คล และ ทรัพยากร เพ่อื ทำงานให้บรรลุ เป้าหมาย ได้แก่ การมอบหมายงาน ความรับผิดชอบ อำนาจหนา้ ท่ี ๓).การนำ (Leading) เป็นหน้าท่ีเกย่ี วกบั การ นำ ทางการนิเทศตดิ ตามของครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาในโรงเรยี น เพอ่ื นำแผนของโรงเรยี นไปปฏบิ ัติ เป็นการ ทจ่ี ะกระตุ้นให้ครมู ีศักยภาพใน การทำงานสงู การนำ จะช่วยใหง้ านบรรลุความสำเรจ็ เสริมสรา้ งขวัญ และกำลังใจ ในการทำงาน ๔). การควบคุม (Controlling) เก่ียวกับหน้าท่กี ารประเมินตดิ ตามผลการดำเนินงาน การ ปรบั ปรุง แก้ไข เพ่ือใหบ้ รรลเุ ป้าหมายที่ต้องการ ไดแ้ กก่ ารกำหนดมาตรฐาน การเปรยี บเทยี บผล การดำเนินงานกบั มาตรฐาน การแก้ไขความบกพร่อง การทบทวนและปรบั วิธกี ารควบคุมเม่ือ สถานการณ์เปลยี่ นแปลงหรือผลลัพธ์ ไมเ่ ปน็ ไปตามเปา้ หมาย S: Supervision คือ การนเิ ทศโดยการให้ความชว่ ยเหลือ แนะนำ ปรกึ ษา ชแ้ี นะ ทางการจัด กจิ กรรมการเรยี นการสอนให้กบั คณะครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาในโรงเรยี น เพอื่ ให้สามารถดำเนินงานของครู ไปได้ด้วยดี และพฒั นางานไดอ้ ยา่ งดีมีประสิทธิภาพ โดยใชห้ ลัก ๔P ดงั นี้ P : (Plan) การวางแผน คือ การวางแผนเพ่ือการนิเทศ มีการจัดเตรยี มคูม่ ือ แผนการนิเทศ เพอื่ เป็นแนวทางในการปฏบิ ตั ิงานนิเทศ ใชแ้ สดงรายละเอียดและเค้าโครงของส่ิงท่ีจะต้องปฏบิ ัติ บอกใหร้ ถู้ ึง จดุ มงุ่ หมาย สิง่ ท่คี าดหวงั และการมงุ่ สู่เป้าหมายเดียวกัน คือ คณุ ภาพผเู้ รยี น ด้านวชิ าการ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คุณธรรมจรยิ ธรรม P : (Prepare) การสร้างความพร้อม คือ การเตรียมความพร้อมก่อนการนิเทศเปน็ ข้นั ตอนการ ทำงานระหวา่ งครูกบั ผนู้ เิ ทศในการร่วมกันวิเคราะหข์ ้อมลู เกี่ยวกบั ผ้เู รยี นและผลการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น ครูและผู้ นเิ ทศจะร่วมกนั กำหนดวตั ถุประสงค์ของการปรับปรงุ และพัฒนารวมท้ังการวางแผนการพัฒนาวิธกี ารปฏบิ ัติงานที่ เปน็ เลิศ โดยมแี นวปฏิบตั ดิ งั น้ี ๑. มีความรตู้ อ้ ง ๒. มเี ปา้ หมายร่วมกนั ๓. มกี ารฝึกฝน P : (Positive) การเสริมแรง คือ การเสริมแรงทางบวกจากผู้นเิ ทศ ไดแ้ ก่ การใช้ถ้อยคำแบบ BEST MODEL สูก่ ารพัฒนาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๑๗ กลั ยาณมติ ร เชน่ การให้คำชม และการแสดงถ้อยคำอน่ื ที่แสดงความรูส้ ึกที่สามารถสรา้ งบรรยากาศกระตนุ้ ให้ เกดิ ความพึงพอในระหวา่ งผู้นิเทศกับผรู้ ับการนิเทศ มแี นวปฏบิ ัตดิ งั น้ี ๑. การเสริมแรงตอ้ งใหส้ ม่ำเสมอ ๒. ใหก้ ารเสรมิ แรงทันทีที่มีการนเิ ทศ ๓. ถ้าหากมกี ารตอบสนองทีต่ ้องการซ้ำหลายๆ ครงั้ กค็ วรเลือกให้มีการเสรมิ แรงเป็นบาง คราวแทนทจี่ ะเสรมิ แรงทกุ ครั้งไป ๔. การให้ข้อมูลป้อนกลบั เป็นแนวทางหน่ึงในการเสรมิ แรงเพอื่ กระตนุ้ การจัดกิจกรรม การเรยี นการสอนอาจทำได้โดยใชค้ ำพดู หรือเขียนคำ หรอื ประโยคทีเ่ ป็นการชน่ื ชม P : (Product) ผลผลติ คอื มีการประเมนิ ผล(Evaluation)จากการนเิ ทศ ตามวัตถุประสงค์ของ นวตั กรรม (Best Practices) โครงการ/กจิ กรรม และทรัพยากรที่เปน็ ปัจจัยปอ้ น เพ่ือให้ทราบผลตาม วตั ถปุ ระสงค์และเปา้ หมายท่ไี ด้กำหนดไว้ และนำผลทไ่ี ด้มาใชเ้ ป็นข้อมูลในการที่จะแก้ไข พฒั นา สง่ เสริมการจัด การศกึ ษาของโรงเรียนใหม้ ีประสทิ ธิภาพมากย่งิ ขึ้น T : Team work คือ (การทำงานเป็นทมี ) หมายถึง การทำงานร่วมกันเพ่ือใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย เดียวกนั มกี ารยอมรับร่วมกัน มกี ารวางแผนร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสทิ ธิภาพและประสิทธิผลการบรหิ ารงานทจี่ ะ นำไปสคู่ วามสำเร็จของการทำงานซ่งึ จะต้องอาศยั ความร่วมมอื จากคณะครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน เปน็ อยา่ งดีมอี งค์ประกอบ ๓ ประการ (๓P) ดังนี้ P: (Purpose) มวี ตั ถปุ ระสงคช์ ัดเจน ได้แก่ ๑. มสี ่วนรว่ มในการกำหนดวัตถุประสงค์ทแ่ี ละหนา้ ท่ีความรับผิดชอบ กำหนดจุดมุ่งหมายไว้ ให้ชดั เจนทผ่ี ลงานมากกวา่ การกระทำ ๒. กำหนดวัตถปุ ระสงค์ เพ่ือใชเ้ ป็นแนวทางในการปฏบิ ัติ ใหเ้ ปน็ เครื่องมอื ในการทำงานเปน็ ทมี และใชเ้ ป็นเคร่อื งมอื วดั ความสำเรจ็ ในงาน P: (Priority) มีการจดั ลำดับความสำคญั ในการทำงาน ได้แก่ จดั ลำดบั งานที่สำคญั มากกว่า และมคี วามจำเป็นอย่างยิง่ ทีจ่ ะตอ้ งรีบแก้ไข ต้องดำเนินการกอ่ น P: (Performance) มผี ลการทำงาน ได้แก่ มกี ารดำเนินงานตามมาตรฐาน ตลอดจนการสร้าง นวัตกรรมเพื่อพฒั นากระบวนการเรยี นการสอนและการทำงานทดี่ ี มีประสทิ ธภิ าพ กลยทุ ธก์ ารทำงานเปน็ ทีม ร่วมใจ (Heart) หมายถงึ ความรูส้ กึ ของสมาชิกทีร่ ักและศรัทธาในหัวหนา้ ทมี งานที่ทำ และ เพือ่ น ๆ รว่ มทีมวา่ เปน็ พวกเดียวกนั หรือที่เรียกวา่ Feel like a team มคี วามเอื้อเฟ้ือหว่ งใยซ่ึงกันและกัน มคี วาม เคารพใหเ้ กียรติซ่งึ กันและกนั และเกดิ ความไว้วางใจต่อกนั รว่ มคดิ (Head) หมายถงึ การใช้ความคิด เหตผุ ลให้เพ่ือนร่วมงานเชอ่ื ม่นั วา่ ทำแลว้ ดี มี ประโยชนต์ ่อตวั เขาเอง ตอ่ องค์กร โดยช่วยกันระดมสมอง กำหนดเปา้ หมาย วางแผน แบง่ งาน แบง่ หน้าที่ หรือที่ เรียกวา่ Think like a team การทำงานจะราบร่ืน ถ้าสมาชกิ ในทีมมีความรู้สึกท่ดี ตี ่อกนั รว่ มทำ (Hand) หมายถึง การร่วมมือ ลงมือทำงานซ่ึงได้มีการวางแผนไว้ หนา้ ที่ใครกร็ ับไปทำ หรือที่เรยี กว่า Work like a team ซง่ึ ทกุ คนมพี ันธะสัญญาทจ่ี ะต้องทำแผนทุกคน เน่ืองจากได้มีส่วนรว่ มในการคิด รว่ มกนั BEST MODEL สู่การพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หน้าท่ี ๑๘ ๓. Out put คือ ผลผลติ ประกอบด้วย คณุ ภาพผู้เรียน ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน คณุ ลักษณะท่พี ึง ประสงคก์ ารบรหิ ารจดั การที่มีประสิทธภิ าพ กระบวนการจัดการเรียนการสอนทเี่ น้นผูเ้ รียนเปน็ สำคญั ๔. Feedback คือ ข้อมูลย้อนกลบั เป็นขอ้ มลู สารสนเทศทเ่ี กย่ี วกับผลผลิต หรือกระบวนการของ สถานศกึ ษาท่ีเปน็ ตวั กำหนดปัจจัยนำเขา้ ในการดำเนนิ งานในคร้งั ตอ่ ไป ข้อมลู สารสนเทศนอี้ าจนำไปสู่การ เปลี่ยนแปลงทง้ั ในกระบวนการ (Process) และผลผลิต(Output) ในการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาในรอบปี การศึกษาต่อ ๆ ไป ๕. สง่ิ แวดลอ้ ม คือ สภาพแวดลอ้ มรอบสถานศึกษา ซึ่งไดแ้ ก่ นโยบายดา้ นการจัดการศึกษาจากหน่วยงาน ตน้ สังกดั แรงผลักดันทางสังคม ชุมชน สภาพความเปน็ อยู่ ระบบเศรษฐกจิ ค่านยิ ม ทมี่ ีผลกระทบตอ่ โครงสร้าง และกจิ กรรมของสถานศกึ ษา การใชก้ ระบวนการบริหารวงจรเดมม่ิง PDCA (Deming cycle) ใช้เพอื่ ควบคุมคุณภาพของการใชร้ ปู แบบ BEST MODEL จะเป็นประโยชน์อย่างยิง่ สำหรบั การปรับปรุงกระบวนการบริหารอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินงานเป็น ขน้ั ตอน เริ่มต้ังแต่ แนวคดิ แนวปฏิบตั ิ P : PLAN จัดประชมุ เพื่อการวางแผนงานในการท่จี ะเรม่ิ ต้น การ การวางแผน ดำเนินการตามรูปแบบ BEST มีการกำหนดสิ่งทีจ่ ะต้องทำ วิธกี าร เป้าหมาย D: DO ลงมอื ปฏบิ ตั ติ ามแผนและวธิ กี ารที่ได้กำหนดไว้ มงุ่ สู่เปา้ หมายคอื ลงมือทำตามแผน คณุ ภาพผ้เู รียน C: CHECK ตรวจสอบผลที่เกดิ ขนึ้ จากการใชร้ ปู แบบ Best โดยมขี ั้นตอน ตรวจสอบผลลัพธ์กับแผนท่ีได้กำหนด ใดบ้างท่ีดหี รือเป็นปญั หาหรือความบกพรอ่ งเรื่องใด แล้วสรปุ หรือวางไว้ เพื่อเปน็ ขอ้ มูล A : ACT/ACTION • ถา้ ตรวจสอบพบข้อมลู ทมี่ ีข้อผิดพลาดบกพร่องกใ็ ห้ • หากมีปัญหา ข้อผิดพลาดและไม่ แกไ้ ขปรับปรุงและป้อนขอ้ มลู กลบั ไปยงั กระบวนการ บรรลุผลตามแผน หาสาเหตแุ ละวางแผนใหม่ เดมิ คอื การวางแผนใหม่ • หากบรรลุตามวตั ถุประสงค์ และ • ถา้ เป็นไปตามแผน ตามวัตถปุ ระสงค์ ตามเป้าหมายก็ เปา้ หมายให้กำหนดเป็นแนวทางปฏบิ ัติและ ใหย้ ึดถือเปน็ มาตรฐานหรอื แนวปฏิบัตทิ ด่ี ีต่อไป มาตรฐาน BEST MODEL สูก่ ารพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๑๙ ผลการใช้นวัตกรรมท่ีเกดิ ขน้ึ กับผู้เรียน ครู ผบู้ ริหารสถานศึกษา ชมุ ชน หรอื ผู้มีส่วนเก่ียวขอ้ งใน ดา้ นพฤติกรรม พัฒนาการหรือการเรยี นรู้ ผลความสำเร็จท่เี กิดจากการดำเนนิ งานนำรปู แบบ BEST MODEL สู่การพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑ ดังนี้ ตารางแสดงผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นตามหลักสตู รสถานศึกษา ร้อยละผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นระดับสถานศึกษา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ กลุ่มสาระฯ ระดบั ชั้น ภาษาไทย ค ิณตศาสต ์ร วิทยาศาสต ์ร ัสงคม ึศกษา ประวัติศาสต ์ร สุขศึกษา การงานฯ ิศลปะ ภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ เพื่อการ ่ืสอสาร ป.๑ ๗๙.๒๑ ๘๓.๓๔ ๗๕.๐๐ ๘๒.๗๙ ๗๘.๒๑ ๘๗.๒๑ ๗๘.๐๗ ๗๘.๗๙ ๗๒.๙๓ ๗๑.๙๓ ป.๒ ๗๘.๗๒ ๗๔.๐๖ ๗๔.๙๔ ๗๘.๒๘ ๗๖.๗๘ ๘๔.๗๒ ๘๕.๕๐ ๘๔.๑๗ ๗๑.๐๐ ๗๔.๓๙ ป.๓ ๗๒.๓๖ ๗๖.๒๘ ๗๔.๖๙ ๗๗.๗๓ ๗๙.๑๙ ๘๒.๐๙ ๘๑.๒๒ ๗๗.๙๒ ๗๗.๑๘ ๗๒.๘๙ ป.๔ ๗๙.๘๖ ๗๖.๑๔ ๗๗.๑๗ ๗๗.๘๖ ๖๕.๒๙ ๗๘.๘๖ ๗๙.๒๙ ๘๗.๗๖ ๗๒.๒๙ ๗๕.๐๐ ป.๕ ๗๙.๐๙ ๗๙.๐๐ ๘๓.๐๐ ๗๗.๙๑ ๘๐.๔๕ ๘๑.๕๕ ๘๐.๕๔ ๗๗.๒๗ ๗๔.๐๐ ๗๕.๓๖ ป.๖ ๘๒.๓๖ ๗๗.๐๙ ๗๗.๙๒ ๗๕.๓๖ ๗๔.๑๘ ๗๘.๘๑ ๗๘.๓๖ ๘๐.๕๔ ๗๓.๗๒ ๗๕.๑๘ - ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน ๘ กลุ่มสาระ ฯ แสดงจำนวนนักเรยี นท่ไี ดร้ ะดบั ๓ ขึน้ ไป ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ จำนวนนักเรียน รอ้ ยละ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ รวม ร้อยละ ๑๒๓๔๕๖ ภาษาไทย ๖๑ ๘๔.๗๒ คณติ ศาสตร์ ๑๐ ๑๘ ๖ ๗ ๑๐ ๑๐ ๖๐ ๘๓.๓๓ วิทยาศาสตร์ ๑๑ ๑๖ ๗ ๖ ๑๑ ๙ ๖๒ ๘๖.๑๑ สังคมศึกษา ๑๐ ๑๗ ๗ ๖ ๑๑ ๑๑ ๖๔ ๘๘.๘๙ ประวัติศาสตร์ ๑๔ ๑๘ ๘ ๖ ๙ ๙ ๖๔ ๘๘.๘๙ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๑๓ ๑๘ ๘ ๕ ๑๑ ๙ ๗๐ ๙๗.๒๒ ศลิ ปะ ๑๔ ๑๘ ๑๑ ๗ ๑๑ ๙ ๖๙ ๙๕.๘๓ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๑๔ ๑๘ ๑๑ ๗ ๑๐ ๙ ๖๙ ๙๕.๘๓ ภาษาอังกฤษ ๑๔ ๑๘ ๑๑ ๗ ๑๐ ๙ ๕๐ ๖๙.๔๔ ภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ๑๐ ๑๒ ๑๑ ๔ ๗ ๖ ๕๐ ๖๙.๔๔ ๘ ๑๔ ๖ ๖ ๘ ๘ BEST MODEL สู่การพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๒๐ - ตารางแสดงผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับช้ัน จำนวน จำนวนนักเรียนตามระดับคุณภาพ จำนวน ร้อยละของ นักเรียน (คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค)์ นกั เรียนระดบั นักเรยี นระดบั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ทงั้ หมด ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ ดเี ยี่ยม ดี ผา่ น ไม่ผา่ น ดขี น้ึ ไป ดีข้ึนไป ประถมศึกษาปีที่ ๓ ๑๕ ๑๔ - - ๑ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ๑๘ ๑๘ - - - ๑๔ ๙๓.๓๓ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ ๑๑ ๑๑ - - - ๑๘ ๑๐๐ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ๗ ๗ -- - ๑๑ ๑๐๐ รวม ๑๑ ๑๑ - - - ๗ ๑๐๐ เฉลย่ี ร้อยละ ๑๑ ๑๑ - - - ๑๑ ๑๐๐ ๗๓ ๗๒ - - ๑ ๑๑ ๑๐๐ ๑๐๐ ๙๘.๖๓ - - ๑.๓๗ ๗๒ ๕๙๓.๓๓ ๙๘.๖๓ ๙๘.๖๓ ผลความสำเรจ็ ตามมาตรฐานระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา ของโรงเรยี นวัดดงโคกขาม มาตรฐานที่ ๑ คณุ ภาพของผ้เู รยี น ๑.๑ ผลสมั ฤทธิท์ างวิชาการของผเู้ รียน - นกั เรยี นมคี วามสามารถในการอา่ นคิด วิเคราะห์และเขียนอยู่ในระดับดีคิดเป็นรอ้ ยละ ๙๔.๕๒ นักเรียนไดร้ ับผลการเรยี นเฉลี่ยในกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ระดบั ๓ ข้นึ ไป ร้อยละ ๘๓.๓๓ นักเรียน มี ความสามารถในการอ่าน – เขียนภาษาไทยอยู่ในระดบั ๓ ขนึ้ ไป รอ้ ยละ ๘๔.๗๒ และนกั เรียนมีความสามารถ ในการสนทนา นำเสนองาน ผลงาน ไดต้ ามเกณฑ์สถานศึกษากำหนด รอ้ ยละ ๘๐ - นักเรยี นมคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความ คดิ เห็น และแก้ไขปญั หาอยใู่ นระดับดขี ึ้นไปร้อยละ ๙๔.๒๕ - นกั เรยี นมีผลงานในการทำชน้ิ งานกลุ่มหรือเดีย่ วสามารถอธิบายขัน้ ตอนการทำงานไดใ้ นระดบั ดี ขึ้นไปร้อยละ ๗๕ - นักเรียนมีระดบั ผลการเรยี นใน ๘ กลุม่ สาระอยู่ในระดบั ๓ ขนึ้ ไปคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๘๕.๙๗ - นกั เรียนผ่านกจิ กรมพฒั นาผู้เรียน รอ้ ยละ ๑๐๐ - นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔-๖ มคี วามรแู้ ละทกั ษะพ้นื ฐานต่องานอาชพี อยา่ งน้อย ๑ อยา่ ง รอ้ ยละ ๑๐๐ ๑.๒ คุณลักษณะทพ่ี ่ึงประสงค์ของผ้เู รยี น - นักเรียนได้ระดบั ผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงคใ์ นระดับดีร้อยละ ๙๘.๖๓ - นักเรยี นมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมประเพณีของท้องถนิ่ และวันสำคัญทางพระพทุ ธศาสนา ร้อยละ ๑๐๐ - นักเรยี นสามารถทำงานและร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆต่างโรงเรียนไดร้ ้อยละ ๑๐๐ - นกั เรยี นรอ้ ยละ ๘๑.๙๐ มีนำ้ หนกั ส่วนสูง ตามเกณฑ์กรมอนามยั BEST MODEL สูก่ ารพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวัดดงโคกขาม สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หน้าท่ี ๒๑ - นักเรียนทกุ คนมีสขุ ภาพรา่ งกายแขง็ แรง ไมเ่ กีย่ วข้องกบั สงิ่ เสพติด และแกป้ ัญหาโดยไม่ใช้ ความรนุ แรง นกั เรยี นร้อยละ ๑๐๐ ไดร้ ับการเย่ียมบ้านทุกคน และโรงเรียนนำมาใชใ้ นระบบการดูแลช่วยเหลอื ได้แก่ ขอ้ มูลวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นรายบคุ คล มาตรฐานท่ี ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ - วิสัยทศั นข์ องโรงเรยี นวดั ดงโคกขาม คือมีคณุ ภาพตามเกณฑม์ าตรฐานการศึกษาชาติ กา้ วหนา้ ดา้ น เทคโนโลยี สิง่ แวดลอ้ มดี ผเู้ รยี นมีคณุ ธรรม นอ้ มนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง - โรงเรียนใช้กระบวนการบรหิ ารแบบBEST MODET ส่กู ารพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑ - โรงเรียนมแี ผนพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาทีค่ ำนึงถึงคณุ ภาพผูเ้ รียนรอบด้านดีเลศิ รอ้ ยละ ๘๐ - ครแู ละบคุ ลากรร้อยละ ๘๗.๕๐ ได้รบั การอบรมพฒั นาความรู้ทต่ี รงกับความต้องการ และความสนใจ ของครู ได้แก่ โครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร (คูปองคร)ู - ข้าราชการครโู รงเรียนวัดดงโคกขาม จำนวน ๕ คน ไดเ้ ข้ารับการอบรมโครงการพฒั นาครูรปู แบบครบ วงจร รวมหลักสูตรท่ีครเู ขา้ รบั การอบรมท้งั หมด ๘ หลักสตู ร จากหน่วยงานต้นสงั กัดและผ่านการอบรมจาก หนว่ ยงานอ่นื ๆ สามารถนำความรู้ และทกั ษะท่ีได้จากการพัฒนาตนเองมาใชใ้ นการพฒั นา ปรบั ปรุงการเรียนการ สอนในห้องเรยี น รวมถึงใชก้ ระบวนการPLC ในการแลกเปล่ียนเรยี นรู้และแก้ปัญหาของนกั เรียนในหอ้ งเรยี น - โรงเรยี นร้อยละ ๙๕ มีสภาพแวดลอ้ มที่รม่ ร่นื ปลอดภัย มีแหล่งพักผอ่ นที่เพยี งพอสำหรับนักเรียน และมีแหลง่ สบื ค้นข้อมลู ทางอินเทอรเ์ น็ตที่เข้าถึงได้งา่ ย - โรงเรยี นรอ้ ยละ มหี ้องสมุด อาคารศนู ย์เรยี นตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องวิทยาศาสตร์ และจัดเวทีทางวชิ าการให้นกั เรียนทกุ คนไดแ้ ลกเปลีย่ นเรียนรู้รว่ มกนั อยา่ งน้อย ๑ คร้งั ต่อ ๑ ปีการศกึ ษา - โรงเรยี นร้อยละ ๘๐ มรี ะบบเทคโนโลยสี ารสนเทศทีส่ นับสนุนการบริหารจัดการและการเรยี นรอู้ ยา่ ง เพียงพอและใชป้ ระโยชนไ์ ด้อย่างมีประสทิ ธิภาพคอมพิวเตอร์จำนวน ๑๐ เครอื่ ง ,คอมพิวเตอรโ์ น๊ตบุคจำนวน ๘ เครื่อง ใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน จำนวน ๕ เครอ่ื ง ใช้ในงานธรุ การโรงเรียน จำนวน ๓ เครื่อง มีระบบ อนิ เทอรเ์ น็ตความเร็วสูง จำนวน ๒ วงจร มาตรฐานที่ ๓ ดา้ นกระบวนการจดั การเรียนการสอนทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ - ครูมีการจดั การเรียนรู้ใหน้ ักเรียนเกิดกระบวนการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และคิดสรา้ งสรรค์ โดยการปฏบิ ตั ิจริงผ่านการทำโครงงาน กิจกรรม(STEM , การเขยี นโค้ดด่งิ ) และการฝึกปฏบิ ตั ใิ นสถานการณจ์ รงิ (การทดลองวทิ ยาศาสตร์) และนกั เรยี นขยายความคิดนำไปใชใ้ นชีวิตได้ - ครูประจำชนั้ ป.๑ – ป.๖ จดั การเรยี นรโู้ ดยใช้กระบวนการวิธกี ารท่ีปฏิบตั ิงานเปน็ เลศิ (Best Practices) - ครทู ุกคนพัฒนาและใชส้ อ่ื การสอน และแหล่งเรยี นรใู้ นโรงเรยี น ไดแ้ ก่ หอ้ งสมุด อาคารศนู ย์เรยี น ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ห้องคอมพวิ เตอร์ หอ้ งวทิ ยาศาสตร์ และบริเวณนอกโรงเรียน ไดแ้ ก่ ชมุ ชนหมูท่ ่ี ๒ ,๑๐ บา้ นดงโคกขาม โดยส่ือการสอนสอดคลอ้ งกับสาระทีส่ อน สรา้ งแรงจูงใจให้นักเรียนสนกุ ใน การเรยี นรู้ BEST MODEL สูก่ ารพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรยี นวัดดงโคกขาม สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๒๒ - ครแู ละนกั เรียนทุกคนร่วมกันกำหนดแนวทางการเรียนร้แู ละการปฏิบัตติ นในห้องเรยี น - ครทู ุกคนมขี ้อมูลนักเรยี นรายบคุ คล และนำมาสรุปผลการสังเคราะห์ไปวางแผนพัฒนาการเรียนและ แนวทางการเรียนรู้ของนักเรียน - ครูทุกคนมีการแผนงานการวัดและประเมนิ นกั เรียนชดั เจนตลอดปกี ารศึกษา มีการกำหนดสัดสว่ น คะแนน จำนวนชน้ิ งาน และพฤติกรรมนกั เรียนชัดเจน มีการวเิ คราะหผ์ ลการเรียนรู้ของนักเรียน และนำผลมา พัฒนาใหน้ กั เรียนบรรลผุ ลตามตัวชี้วัดของหลกั สูตร - ครูประจำชั้นทุกชน้ั จัดให้มกี ารอภปิ ราย แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ แสดงความคดิ เหน็ ของนักเรยี น อย่าง น้อยเดือนละ ๒ ครง้ั - ครูทุกคนมีการอภปิ รายและแลกเปลี่ยนวิธกี ารสอนละแก้ปัญหานักเรียนเป็นประจำทุกสัปดาห์ (PLC) ๕) สรปุ ส่ิงท่เี รยี นรแู้ ละการปรบั ปรงุ ใหด้ ีข้นึ รปู แบบการบริหาร BEST MODET สกู่ ารพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา มุ่งสู่การพัฒนา ที่เปน็ รูปแบบใช้ในการบริหารสถานศึกษาเพ่ือพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา (ผูเ้ รียน) กระบวนการจดั การเรียนรู้ของ ครูผู้สอน และผลทเี่ กิดกับนักเรยี นตามมาตรฐานการศึกษา และมาตรฐานการประเมินในกรอบของการประกัน คุณภาพภายในนน้ั จากการท่ีใชก้ ระบวนการบริหารตามรปู แบบ ค้นพบว่าเปน็ การทำงานท่มี ีระบบกฎเกณฑ์ เปน็ วฒั นธรรมองค์กรทีผ่ บู้ ริหาร ครู นกั เรยี น และการมสี ่วนร่วมของผ้ปู กครอง เปน็ กลไกลที่ทำงานรว่ มกัน มีเป้าหมาย รว่ มกนั โดยเฉพาะครูผสู้ อนท่ีได้สรา้ งสรรค์ผลงาน นวัตกรรม Best Practice ทง้ั เพื่อพัฒนา แก้ไขปัญหาด้าน วชิ าการไดต้ รงประเดน็ ของปัญหา เพราะได้นำนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการเรียนรู้ เปน็ การชว่ ยใหก้ ระบวนการ เรียนการสอน อกี ท้งั ครูผู้สอนยงั ได้สร้างนวตั กรรม “โครงงานคุณธรรม ตามอัตลักษณ์ คุณธรรมของโรงเรยี น คือ รบั ผิดชอบ ซ่ือสตั ย์ พอเพยี ง เพ่อื เปน็ Best คณุ ธรรมทจ่ี ะสง่ เสริมและสอดแทรกคณุ ธรรมควบคู่กับคุณภาพทางดา้ น วิขาการจนทำให้การเรยี นรมู้ ีความสมบรู ณย์ งิ่ ขึน้ และเปน็ ไปตามมาตรฐานการศึกษาและบรรลุเปา้ หมายที่ สถานศกึ ษาตง้ั ไวด้ งั นนั้ BEST MODET สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา จึงเป็นนวัตกรรมการบริหาร สถานศกึ ษาของโรงเรยี นวัดดงโคกขามในการจดั การการเรยี นรู้ กระบวนการเรียนการสอนและคณุ ภาพผู้เรยี น และ เป็นส่ิงท่ียนื ยันระบบประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ เกิดประสทิ ธผิ ลไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ ๖) การขยายผลและเผยแพรผ่ ลการพฒั นา เสนอผลการดำเนนิ งานรปู แบบ BEST MODEL สกู่ ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนวดั ดงโคกขามสำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพษิ ณโุ ลก เขต ๑ ดังนี้ - เมอ่ื วันท่ี ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๒ งานประชุมเชิงปฏิบตั ิการจดั ทำแผนพัฒนาประสิทธิภาพ การบริหาร จัดการโรงเรียนขนาดเล็ก ของสำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑ - เมื่อวันที่ ๒๘ สงิ หาคม ๒๕๖๒ งานประชมุ ผูบ้ รหิ ารการนำเสนอรปู แบบการบรหิ ารงานจดั การโดยใช้ ระบบการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาเป็นฐาน Internal Quality Assurance based Management : IQABMของสำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาพษิ ณุโลก เขต ๑ - เมือ่ วนั ท่ี ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๒ เปน็ สถานทศ่ี ึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรูเ้ รอื่ งระบบประกนั คุณภาพ ภายในสถานศึกษาของโรงเรยี นบ้านไร่ สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาเชียงใหม่ เขต ๔ BEST MODEL สกู่ ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวดั ดงโคกขาม สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑

หนา้ ท่ี ๒๓ ๖. ข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาอยา่ งต่อเนื่อง ๑. ครตู อ้ งมีการประเมินในการนำนวัตกรรมไปใช้อยา่ งต่อเนอื่ ง ถา้ พบปญั หาใหมต่ อ้ งรีบ ดำเนนิ การปรับปรงุ พัฒนา นวัตกรรมใหม่ให้ทันกับการเปล่ียนแปลง และความสามารถของผเู้ รียน ๒. มกี ารแลกเปล่ยี นเรียนรู้ซึ่งกนั และกนั ระหวา่ ง ผูบ้ ริหาร ครู นกั เรียน และผปู้ กครอง อย่างต่อเน่ือง ๓. นวัตกรรม BEST MODET สู่การพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา สามารถที่จะ พัฒนา/สรา้ ง ให้มีความหลากหลายวิธีการ และนำไปใชก้ ับนักเรยี นในระดับชน้ั อื่นๆ เพ่ือให้ผูเ้ รยี นไดเ้ รียนรู้อยา่ ง หลากหลาย ๔. นำนวัตกรรมแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ หรอื ขยายผลสสู่ ถานศึกษาใกล้เคียง กลมุ่ เครอื ขา่ ยและระดับ เขตพน้ื ที่ ๗ จุดเด่น หรือลักษณะพิเศษของผลงานนวัตกรรม ๑. ครูทุกคนมีนวตั กรรม Best Practice ทส่ี ามารถนำไปแก้ไขปญั หาในการจดั การเรียนรู้และตรง ตามปัญหา ตรงประเดน็ และมีความเหมาะสมกบั เน้ือหากลมุ่ สาระ ๒. BEST MODET สกู่ ารพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา สามารถตอบสนองการเรยี นรู้ ทใ่ี หน้ กั เรียนได้ลงมือปฏิบตั ิจริง Active Learning ๓. ครูทุกระดับชน้ั มีนวตั กรรม BEST MODET สกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา ควบคูก่ ันคือ ดา้ นวชิ าการและคณุ ธรรมเพ่ือพัฒนาคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ ๔. BEST MODET สกู่ ารพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา เปน็ นวตั กรรมทสี่ ามารถ ตอบสนองตวั ชวี้ ัดตามมาตรฐานได้ครบถ้วนเป็นรูปธรรม ๕. ส่งเสริมใหบ้ คุ ลากรในสถานศึกษาได้มีการ PLC (Professional Learning Community) ซง่ึ เปน็ ชมุ ชนแห่งการเรยี นรแู้ บบมืออาชพี ซ่ึงการพฒั นา BEST MODEL สกู่ ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวดั ดงโคกขาม สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑ ในการขับเคลื่อนระบบประกนั คณุ ภาพภายใน ทำให้ ไดร้ ับรางวัลโรงเรยี นที่มกี ารบริหารจัดการโดยใช้ระบบการประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษาเป็นฐาน (IQABM) รางวลั IQA AWARD ระดับดีเลิศ ของสำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต ๑ ประจำปี การศกึ ษา ๒๕๖๒ BEST MODEL สกู่ ารพฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑

บรรณานกุ รม ชนาธิป ลนี ิน. (25๖๑). รู้จกั แนวปฏิบัติทดี่ ี Best Practice. มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ศรีวิชัย. สืบค้น 1๑ สงิ หาคม 25๖๑, จาก http://ks.rmutsv.ac.th/th/bestpractice รัฐวชั ร์ พัฒนจิระรจุ น์. (25๕๗). ทฤษฎรี ะบบ (System Thinking). สืบค้น 1๑ สงิ หาคม 25๖๑, จาก http://poundtv5.blogspot.com/2014/10/system-theory.html วจิ ารณ์ พาณิช. (256๐). การพัฒนาการจดั การเรียนรสู้ ำหรับโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใช้กระบวนการสรา้ ง ชมุ ชนแห่งการเรียนรทู้ างวชิ าชพี : กรณีศกึ ษาโรงเรยี นแม่ตะไคร้ อำเภอแมอ่ อน จังหวัดเชียงใหม่. วารสารคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม,่ 153-165. DuFour,Richard and others.(2010). Learning by Doing : A Handbook for Professional Learning Communities at WorkTM. U.S.A. : Solution Tree Press. BEST MODEL ส่กู ารพัฒนาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา โรงเรียนวดั ดงโคกขาม สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑

BEST MODEL ส่กู ารพฒั นาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา โรงเรยี นวดั ดงโคกขาม สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต ๑